เย็นวันนั้น...
ผมฉลองเบอร์ใหม่ด้วยการโทรหาไอ้คนที่บอกว่า รอคืนนี้ไม่ไหว หลังจากที่ผมเรียนเสร็จ ผมก็มารอพี่เขาอยู่ ณ จุดเดิมที่เขามักจะจอดรถรอรับผม หน้าตึกนั่นแหละครับ ไอ้จุดที่มีคนเดินกันอยู่เยอะๆน่ะ ไม่รู้ว่าทำไมป่านนี้เจ้าตัวยังไม่มา ทั้งๆที่บอกผมแล้วว่าจะมารอ
เอ๊ะ นี่ผมรีบเกินไปอย่างนั้นเหรอ...
ไม่นานนักก็มีรถเข้ามาจอดเทียบท่า คนหล่อมากคนหนึ่งเดินลงมาจากรถตามมาด้วยคนหล่อคนที่สอง เป็นคนที่ผมคาดไม่ถึงเอามากๆเพราะกำลังเดินเข้ามาหาผม ผมทำตัวไม่ถูกเลย
พี่โฟร์ท กับ พี่บีม
“ไง...” พี่โฟร์ทยิ้มทัก...โอ้โห พี่เขาไปทำไรมาวะเนี่ย หน้าตาสดใสขึ้นเป็นกอง แม้จะมีต่างหูสีดำ หนวดรำไร และก็ทรงผมปรกหน้าสีดำขลับ “...ไม่เจอกันนานเลย”
ก่อนที่พี่เขาจะเข้ามาถึงตัวผม พี่บีมเดินเข้ามาแทรกกลางโดยขวางหน้าพี่โฟร์ทไว้ซะก่อน
“หวงแทนไอ้ป่าน่ะ” พี่บีมกระซิบ “มันให้พี่มารับโยไปรอมันที่คณะ...ติดทำงานกลุ่มน่ะครับ” เขาใช้ศอกกระทุ้งท้องพี่โฟร์ทเพราะพี่โฟร์ทพูดใส่หูพี่บีมประมาณว่า หวงให้ไอ้ป่าหรือหวงโฟร์ทกันแน่
“ผมกลับกับเพื่อนก็ได้นะครับ ไม่เป็นไรครับ”
“พี่มาถึงนี่เพราะพี่ต้องมารับโยตามคำสั่งหัวหน้ามันนะ” พี่บีมคว้าไหล่ผม “ไปเถอะ เดี๋ยวมันจะหงุดหงิดเอา มันให้เวลาพี่แค่สิบห้านาที”
“เอ่อ เอางั้นเหรอครับ”
พี่โฟร์ทเดินนำหน้า เปิดประตูหลังรถให้ผม และก็เปิดประตูที่นั่งข้างคนขับให้พี่บีม บรรยากาศแปลกๆนี้มันอะไรกันหว่า พี่บีมก็ดูเหมือนจะกระเง้ากระงอดพี่โฟร์ทอยู่ไม่หยอก เหมือนจะไม่ยอมผ่อนปรนแต่ก็ยอม มันดูน่ารักดีนะครับ
“อยากกินอะไรก่อนป่ะ” พี่โฟร์ทหันมาถามพี่บีมที่อยู่ข้างๆระหว่างขับรถ
“โยอยากกินอะไรก่อนป่ะครับ” พี่บีมถามผม
ผมส่ายหน้า... “ผมถามได้มั้ยครับพี่ๆ”
“เอาสิ” พี่บีมอนุญาต
“พี่สองคนคบกันแล้วเหรอ”
“ไม่!/ใกล้แล้วล่ะ” เป็นคำตอบที่มาพร้อมกันแต่ไปกันคนละทาง และคนที่มีรีแอคชั่นสำหรับเอาไว้อธิบายเพิ่มไวที่สุดก็คือพี่บีม “พี่ไม่คิดจะคบกับมันนะ โยดูสิ ตัวก็ควายๆทั้งคู่ ไม่เหมาะสมเหมือนป่ากับโยนะ”
“เกี่ยวที่ไหน จริงมั้ย พี่โฟร์ท” ผมพูดกวนๆ ไอ้พี่โฟร์ทพยักหน้ายิ้มมุมปาก
“เออ ไอ้น้องนี่มันพูดดีว่ะ สมแล้วที่เคยถูกชะตา”
“โย จะอยู่ทีมใคร ทีมโฟร์ท หรือทีมพี่” พี่บีมถามเสียงโหด
“หืม...ทีมเหรอครับ แล้วทีมอะไรยังไงอ่ะ”
“ถ้าอยู่ทีมบีม ก็คือทีมที่ชอบแล้วแต่ไม่ยอมรับ แต่ถ้าอยู่ทีมพี่...” พี่โฟร์ทไม่ได้มองหน้าผมเลย เอาแต่จ้องคนข้างๆ “...ก็คือทีมที่ชอบแล้ว หลงรักด้วย โยจะเชียร์ทีมไหนล่ะ”
ผมนี่เป็นอากาศเลยครับ...อื้อหือ...รู้สึกเหมือนอยากจะกระโดดออกนอกหน้าต่างไม่กล้าขัดพวกพี่เขาจริงๆ พี่โฟร์ทจีบพี่บีมออกนอกหน้ามากกกกกกก มากจนผมนับถือคำพูดหวานๆที่สวนทางกับท่าทางเถื่อนๆของเขาจริงๆ แล้วเมื่อไหร่ล่ะที่พี่บีมจะใจอ่อน
หรือใจอ่อนไปแล้ว แต่ไม่ยอมรับอย่างที่พี่โฟร์ทว่า
“โยอย่าไปฟังมันมาก แม่ง โคตรมโน” พี่บีมพูดไปเรื่อย ท่าทางจะเขินๆอยู่มากเหมือนกัน
“คิดซะว่าโยไม่อยู่ในนี้ก็ได้นะพี่ๆ ตามสบาย”
“หึ” พี่โฟร์ทหันมายักคิ้วให้ผมทีนึง “อยากแดกไรบอก”
“เลี้ยงใช่ป่ะ”
“เออ...เลี้ยงเดือนนึงไปเลย ถ้ามึงช่วยกูจีบบีม”
“ไม่ต้องจีบแล้วมั้งพี่ ผมว่าติดแล้วล่ะ”
“ไอ้น้องโย!” พี่บีมร้อง “อยู่ทีมพี่สิ อยู่ทีมพี่! ไอ้เชี่ยคิทแม่งก็จะย้ายไปอยู่ทีมไอ้ห่านี่แล้วนะ”
“พี่บีมสู้พี่โฟร์ทไม่ไหวหรอกโยว่า”
“ว่าไงนะ...”
“เวลาใครที่โดนเดือนมาเกี้ยว...มันมักจะใจอ่อนง่ายนะครับ” พี่โฟร์ทเอาแต่หัวเราะ ในขณะที่พี่บีมคล้ายลมออกหู แต่ผมว่าเงินจนออกนอกหน้ามากกว่า คราวนี้ในรถมีแต่เสียงหัวเราะของผมกับพี่โฟร์ทจนกระทั่งมาถึงคณะแพทย์กันนั่นแหละ
พี่บีมนี่แทบถีบผมลงจากรถ...
“ถ้าไม่ใช่แฟนเพื่อนพี่นะ พี่สั่งหมอบไปแล้ว” พี่บีมพูดเบาๆ เปิดประตูกระจก นักศึกษาแพทย์ท่าทางยุ่งๆมองหน้าผู้มาเยือนที่หน้าประตู รวมถึงพี่ป่าด้วย “กูเอาตัวมาส่งแล้ว อย่าลืมเลี้ยงข้าวกูนะป่า”
“โย มาแล้วเหรอ”
“แม่งไม่ฟังกูเลย” พี่บีมผลักผมไปหาพี่ป่าที่โดนพี่ป่าขยี้ผมอย่างแรง
“รอแป๊บนึง ใกล้เสร็จแล้ว ไม่รีบใช่มั้ย” พี่เขาพูดยิ้มๆ
“ไม่เลย ไม่รีบเลย จะทำรายงานอีกเป็นเดืิอนก็ได้นะ ไม่ได้ว่า”
พี่ป่ายิ้มเหมือนเดิม พร้อมกับพูดเสียงเย็น... “ไม่ มี ทาง”
ไม่มีตัวช่วยใดสำหรับผมในคืนนี้...ผมยอมรับชะตากรรมของตัวผมเองแต่โดยดี(แกเป็นคนกำหนดเองมั้ง) พี่ป่าให้ผมนั่งอยู่มุมห้อง ในขณะที่พี่เขากับเพื่อนๆก็พากันยุ่งต่อไป และเป็นอีกครั้งที่ผมอยากจะบอกว่าแม้ว่าผมจะเรียนชีววิทยา แต่ผมก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่พี่เขาพูดสักนิดอยู่ดี
เวลาผ่านไปจนหมอที่อยู่ตรงหน้าร่วมใจกันสั่งพิซซ่ามาทานเป็นเรียบร้อยเพราะเหมือนจะไม่เสร็จง่ายๆ ผมก็พลอยได้อนิสงค์ไปด้วย ได้กินตั้งหลายชิ้น(มื้อนี้พี่ป่าเลี้ยงเพื่อนอีกแล้วครับ) ผมทานพิซซ่าทานไก่ทานเป๊บซี่จนอิ่ม และพอได้มานั่งมุมห้องในที่ๆทั้งเย็นทั้งน่านอนอีกรอบ ตาผมก็เริ่มจะปิด
พี่ป่าคงจะสงสารผมอยู่เหมือนกัน เพราะผมนั่งเฉยๆ เล่นเกมในโทรศัพท์ทั้งของผมและก็ของพี่ป่าจนแบตหมดทั้งคู่(ไม่มีใครพกพาวเวอร์แบงค์มาในวันนี้ด้วย) ผมก็เลยฟุบ ใช้กระเป๋าต่างหมอน ให้พี่ป่าเสร็จเมื่อไหร่ค่อยเดินมาปลุกก็แล้วกัน
และจู่ๆตอนที่ผมกำลังจะผล็อยหลับ พี่ป่าก็เดินมาสะกิด...
“ไปเข้าห้องน้ำเป็นเพื่อนหน่อย”
ผมขยี้ตา...ตอนนี้ข้างนอกคงมืดแล้ว และตึกคณะแพทย์ก็...รู้กันอยู่ใช่มั้ยครับ ผมว่าน่ากลัวทุกที่แหละ คณะที่ขึ้นอยู่กับความเป็นหรือความตายของคนเนี่ย
ผมเดินง่วงๆมาเป็นเพื่อนพี่ป่า ห้องน้าชั้นนี้ก็ไม่ได้มืดอะไร แถมไฟยังเป็นสีส้ม อีกอย่างผมบอกเลยว่าทั้งชั้นนี้คือมีนักศึกษาแพทย์เดินเข้าเดินออกเหมือนตอนกลางวันเด๊ะๆ ไม่เห็นจะน่ากลัวอย่างที่ผมคิด
ผมเดินเข้าไปในห้องน้ำก่อน...และพี่่ป่าก็เดินตามเข้ามา...หลังจากนั้นพี่เขาก็ล็อคประตูห้องน้ำเมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำ
ไอ้ที่น่ากลัวก็ผี...ก็พนา ก้องธานินทร์นี่แหละวะ
“จะทำอะไรเนี่ย...”
ผมถามพี่ป่าอย่างตื่นๆ กลัวแฟนตัวเองก็เดี๋ยวนี้ พี่ป่าหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางของผม เขาเดินไปล้างมือด้วยท่าทีสบายๆ ส่องกระจกดูเงาหล่อๆของตัวเองนิดหน่อย(แม่งเท่ทุกท่วงท่า ทุกเวลา ทุกนาที) และหลังจากนั้นพี่เขาก็หันมามองผม...
“มานี่”
“หืออ” ผมทำเสียงมีคำถาม
“มานี่ มาใกล้ๆ นี่พี่นะ กลัวอะไร”
จริงๆก็ไม่ได้กลัวหรอก อยู่ในที่ๆบรรยากาศเป็นใจ ทั้งอยู่ด้วยกันสองต่อสอง มีความรู้สึกกลัวคนมาเข้าห้องน้ำและก็ลุ้นจนน่าตื่นเต้น ผมยอมรับว่าผมใจเต้นแรงมากและมันก็มากขึ้นเรื่อยๆ
มันเกี่ยวกับคนตรงหน้านี้ และไอ้คนตรงหน้านี้คือเหตุผลที่ใหญ่กว่าเหตุผลอะไรทั้งหมด
“เฮ้...” พี่ป่าเดินเข้ามาหา แล้วก็สวมกอด
“โย...ตัวเหม็น” ผมพูดเสียงสั่น ผมรู้สึกเหมือนเด็กที่กำลังจะทำอะไรไม่ดีและก็กลัวผู้ใหญ่จับได้ ผู้ใหญ่ที่ว่าก็คือนักศึกษาแพทย์ผู้ชายในชั้นนี้ทั้งหลายที่ไม่รู้ว่าจะมาเข้าห้องน้ำเมื่อไหร่
“ไม่เหม็นหรอก” พี่ป่าผละออกจากตัวผม และก็จ้องมองใบหน้า จากนั้นก็ประทับจูบลงมาอย่างแผ่วเบา
ขนลุกไปทั่วทั้งตัว...
“พี่ป่า” ผมค่อยๆเรียก ทำหน้าที่ผมเองก็ไม่รู้ว่าผมอยู่ในอารมณ์ไหน “จะทำอะไรเหรอ”
“กอด และก็จูบ” พูดเสร็จก็ทำตามที่พูดอีกรอบ คราวนี้พี่เขาจูบดูดดื่มด้วยการฉกชิมลิ้นในปากของผมอย่างชำนิชำนาญซะจนผมรู้สึกเหมือนโดนดูดพลังงาน
“พี่ป่า” ผมรีบห้าม ก่อนที่อะไรๆจะเลยเถิด “นี่ห้องน้ำนะ กลับหอไปทำได้มากกว่านี้ตั้งเยอะ” ผมพูดเบาๆ ก้มหน้างุด ในขณะที่อีกฝ่ายก็พยายามรุกล้ำอยู่นั่น
“กว่างานจะเสร็จ รู้มั้ยว่าพี่เริ่มมีความอดทนต่ำเพราะคำพูดโยเมื่อคืนน่ะฮะ”
ไม่รู้ว่าไปชิมยาปลุกเซ็กส์มาจากไหน ไอ้พี่ป่าพยายามที่จะแต๊ะอั๋งผมไปทั่วทั้งตัว ด้วยมือ ด้วยปาก และก็ด้วยจมูกของเขา ผมถูกดันตัวไปชิดผนังและหลังจากนั้นผมก็กลายเป็นเป้านิ่งให้ไอ้พี่ป่าแต๊ะอั๋งได้ตามสบายใจเฉิบ
ผมสั่นไปหมดทั้งตัว เคลิ้มไปเสียทุกอย่างทุกท่วงท่าแห่งการสัมผัส พี่ป่าปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของผมออกสองสามเม็ด และหลังจากนั้นไหล่ กระดูกไหปลาร้า และก็อกของผมก็ไม่มีตรงจุดไหนที่อีกฝ่ายไม่ได้ใช้ปากสัมผัส
“พี่..ป่า” ผมพยายามส่งเสียง ในหัวสมองเริ่มคิดว่าถ้าจะทำตรงนี้มันก็เสี่ยงเกินไปรึเปล่า แต่คนตรงหน้าแม่งก็มีความสามารถมากมายเหลือเกิน ทำให้ผมเคลิ้มตามไปหมดทุกสัดส่วน
เขาเป็นมนุษย์ที่ปฏิเสธได้ยาก ไม่สิ ปฏิเสธไม่ได้เลยต่างหาก “ใจเย็น...ใจเย็นก่อนนะ” ผมจับไหล่เขา และก็บอกเขาด้วยน้ำเสียงสั่นพร่า “ยังไงโยก็เป็นของพี่อยู่แล้ว...ต้องตรงนี้เลยเหรอ”
“อืมมมมมม” พี่ป่าทำท่ามองผมอย่างพินิจพิจารณา ให้ตายเถอะ สายตาของเขามันผิดปกติจนผมรู้สึกสั่นสะท้านไปหมด “พี่จองเราไว้ก่อนได้มั้ยล่ะ”
“อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าก็...”
“โยไม่เข้าใจพี่หรอก” พี่ป่ารุกล้ำเข้ามาอีกรอบ คราวนี้หนักกว่าเดิม เพราะเขารั้งตัวของผมเอาไว้ด้วยแขนของเขาและเขาก็โน้มตัวก้มลงมา “โยไม่เข้าใจ...ว่าโยน่ะน่ารักขนาดไหน”
ผมยอมรับว่าผมเคลิ้ม ผมยอมรับว่าผมอยากให้มีอะไรมากกว่านี้เกิดขึ้น แต่ที่นี่มันคือห้องน้ำ และพี่ป่าเองก็คงไม่อยากให้ครั้งแรกของผมลงเอย ณ ที่แบบนี้
เพราะฉะนั้น...
“เห้ยยย” ผมร้องเสียงหลง...ตอนนี้ผมเปลือยท่อนบนแบบเสื้อเชิ้ตหลุดๆลุ่ยๆ แต่กางเกงผมเนี่ยสิ มันหล่นลงไปกองอยู่บนข้อเท้า เหลือเพียงแค่บ็อกเซอร์ตัวบางและจิ๋วเท่านั้น
พี่ป่านั่งลงข้างหน้าผม...เงยหน้าขึ้นมามองแล้วก็ยิ้มให้ผม จากนั้นก็...ถอดบ็อกเซอร์ผมออกอย่างรวดเร็ว และโยน้อยก็ชี้หน้าพี่ป่าในทันทีทันใด ผมอายจนหน้าแดงก่ำ หลับตาปี๋ พยายามไม่มอง...
“มองพี่สิ” พี่ป่าค่อยๆเอ่ย... “โยครับ มองพี่”
ผมไม่กล้า...ผมยังคงหลับตาปี๋ แต่ก็ไม่นานนัก ผมค่อยๆเผยอดวงตามองดูพี่ป่าที่เงยหน้ามองผมอย่างรอคอย
“พี่ไม่เคยทำแบบนี้ให้ใครเลยนะ...”
“…”
“พี่ยอมเป็นทาสของโย”
“…”
“พร้อมจะให้พี่จองตัวของโยหรือยัง”
มันเเป็นความเสียวซ่านแปลกใหม่ที่ผมเพิ่งเคยสัมผัส ผมไม่สามารถกลั้นความรู้สึกนี้เอาไว้ได้เมื่อคนที่กำลังทำให้ผมคือคนที่ผมรักอย่างสุดหัวใจ ผมทั้งมองการกระทำของเขา หลับตาพริ้มอย่างปิติ ส่งเสียงร้องออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่เมื่ออยู่ในจุดที่ผมเรียกได้ว่ามันเป็นความสุขสุดยอดที่มากกว่ามือตัวเองเป็นไหนๆ
พระเจ้า...ผมหลงใหลในตัวผู้ชายคนนี้เอามากๆ
“อื้อ...” ผมเผลอจับผมของพี่เขา...
“อ๊ะ...”
อาจจะดึงด้วยซ้ำ แต่พี่เขาก็ไม่เห็นจะโกรธ...
“อา...” และเมื่อถึงจุดสูงสุด...ผมก็เพิ่งรู้ว่าผมเป็นฝ่ายบังคับใบหน้าของพี่เขาด้วยมือของตัวเอง
ผมรู้สึกสุขจนเวียนหัว...มองเห็นบรรยากาศโดยรอบหมุนไปพักหนึ่งก่อนที่มันจะเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ พี่ป่ายืนขึ้นโถมเข้ามาจูบปากของผมอีกครั้งโดยที่ปากของเขานั้นยังมี...น้ำ...ของผมอยู่เต็มปาก
ยอมรับว่าคาวไปหมด...แต่ก็ประหลาดดี...เหมือนแชร์ความสุขร่วมกัน
ผมหน้าแดง...ตอนที่พี่ป่ายิ้มให้ผมและก็ล้างมือ...รู้สึกเหมือนตัวเองเพิ่งได้รับเกียรติที่ผู้ชายคนนี้มอบให้ ผู้ชายที่เป็นที่หมายปองของสาวๆเกือบทั้งมหาลัย
เขาเดินมาจัดการติดกระดุมเสื้อให้ผม...สวมเสื้อผ้าให้ผมเรียบร้อย ผมมองเขาอย่างเก้อเขิน มันเขินเอามากๆครับ ผมเองก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่ารู้สึกได้ยังไง
พี่ป่าจูงมือผมไปยังประตูห้องน้ำ ราวกับว่าทำท่าเหมือนจะออกไปประชุมงานกลุ่มตามเดิม
...แต่ผมรั้งพี่เขาเอาไว้
พอจะรู้แล้วว่าการทำอะไรแบบนั้นคนที่โดนทำให้มันรู้สึกเหมือนได้รับการให้เกียรติและความรักมากมายจากคนที่ทำให้จริงๆ
และผมก็อยากให้พี่เขาได้รู้...
“หืม...”
“โย...” ผมพูดจากระท่อนกระแท่น
“ว่าไงครับ”
“โย...”
“…”
“ตอนนี้โยขอจองพี่ป่าเอาไว้บ้าง...ได้มั้ยครับ”TBC*
Talk : ขอรายงานว่ามีนักศึกษาแพทย์ชายปวดฉี่มาก แต่ยอมอดกลั้นเพราะดักฟังผ่านประตู...(?)
แต่งอะไรลงไปเนี่ยยยยยย #กรี๊ด วิ่งหลบคนอ่าน
ปล. แต่ง NC ไม่เก่งนะคะ หากไม่ถูกใจหรือไม่พาเคลิ้มพอต้องขอโทษด้วย