【เรื่องสั้น】: แปลกใจ...#จบ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 【เรื่องสั้น】: แปลกใจ...#จบ  (อ่าน 13789 ครั้ง)

ออฟไลน์ ♥MM...★

  • ไม่ใช่มืออาชีพ แค่ชอบเขียนไปตามที่ใจต้องการ♥
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เรื่องอื่นๆ
【เรื่องสั้น】: แฝด [3P] : จบแล้ว
【เรื่องสั้น】: อสุรกาย : จบแล้ว
【เรื่องสั้น】: ...แปลกใจ... : จบแล้ว
【เรื่องสั้น】: ...บอกได้คำเดียวว่า"เสียใจ"... : จบแล้ว
【เรื่องสั้นตอนเดียวจบ】: …ฝากเอาไปคืนเขาที…☺
【เรื่องสั้นตอนเดียวจบ】: . . . ผี ห ล อ ก . . .
【เรื่องสั้นตอนเดียวจบ】:...แห้ว...!!!
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-07-2016 00:09:07 โดย MyMinTZ♥129 »

ออฟไลน์ ♥MM...★

  • ไม่ใช่มืออาชีพ แค่ชอบเขียนไปตามที่ใจต้องการ♥
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
Re: ((เรื่องสั้น)) แปลกใจ... (RE-UP)#1
«ตอบ #1 เมื่อ28-10-2014 01:41:28 »

ชี้แจงค่ะ จริงๆ เรื่องแปลกใจนี้มายเคยเอาลงเล้าครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 Sep 2013 ค่ะ
ก่อนมันจะโดนลบเพราะจบแล้วลืมแจ้งย้าย เลยเอามาลงให้อ่านกันใหม่ค่ะ
ไม่ต้องกลัวนะคะเรื่องนี้ว่ามายจะดอง เพราะมันจบแล้ว 555 เผื่อใครอยากเข้ามาอ่านกันนะคะ
อยากให้หายเครียดอิอิ (เกี่ยวไหม?)



================





…แปลกใจ…





         
…แปลกใจ…1

ในชีวิตนี้ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าผมจะมีพ่อเลี้ยง…ในเมื่อเราสองแม่ลูกก็มีกันอยู่สองคนมานานแล้วนับตั้งแต่ที่พ่อของผมเสียชีวิตไป…ซึ่งนั่นก็สิบปีมาแล้ว

ผมไม่ได้คิดจะว่าแม่หรอกในเรื่องนี้ ความสุขของแม่ผมไม่ขัดอยู่แล้ว…ผมก็เพียงแค่…แปลกใจ…

“อ้าวคุณสากับลูกชายมาแล้วเหรอครับ เชิญๆ” ชายวัยกลางคนท่าทางภูมิฐานคนหนึ่งเดินออกมาต้อนรับผมกับแม่ที่หน้าบ้านจัดสรรใจกลางเมืองใหญ่

ผมยกมือไหว้เขา…พ่อเลี้ยงของผม

บิล…เขาชื่อบิลครับ ผมไม่เคยถามแม่หรอกว่ารู้จักบิลมานานหรือยัง เดี๋ยวแม่จะคิดมากเปล่าๆ  เดิมทีแม่จะคิดถึงความรู้สึกของผมก่อนเสมอ ถ้าหากผมไปถามอะไรเดี๋ยวแม่ก็คิดว่าผมไม่พอใจกับการตัดสินใจของแม่ จะพาลให้แม่ต้องหนักใจ หรือยุ่งยากใจเข้าไปอีกฉะนั้นผมควรจะเงียบไว้เป็นการดีที่สุด

 

บิลพาผมกับแม่เดินเข้ามาในบ้าน เขาวางกระเป๋าของแม่ลงบนพื้นอย่างแผ่วเบาบอกกับเราว่า “เดินทางกันมาเหนื่อยๆ เดี๋ยวดื่มน้ำเย็นๆ ให้ชื่นใจก่อนแล้วค่อยขึ้นไปดูห้องกันนะครับ” เขาบอก ผมทำเพียงแค่พยักหน้ารับไป…ใช่ว่าผมจะมีอคติอะไรกับเขาหรอกนะเพียงแค่…ผมเป็นคนไม่ค่อยพูดเท่านั้นเอง

บิลบอกพร้อมกับเรียกแม่บ้านให้ยกน้ำออกมาเสิร์ฟ ผมยกมือไหว้ป้าแม่บ้านขอบคุณเขาเบาๆ ป้ายิ้มแล้วก็เดินจากไป

“เป็นไงอาร์ต” แม่ถามผมสีหน้าดูมีความสุข ผมก็ยิ้มให้แม่เพียงเล็กน้อย แต่เราจะรับรู้กันแค่ผมกับแม่ว่าอวัจนภาษาอย่างนี้ของผมหมายความว่าอย่างไร

           

บิลพาเราเดินขึ้นบันไดมา เขาให้แม่พักที่ห้องเขาซึ่งอยู่ฝั่งซ้าย ส่วนห้องของผมอยู่ทางฝั่งขวาต่อจากห้องห้องหนึ่งที่มีคำว่า “หนึ่ง” ติดอยู่

“ลุงให้เราอยู่ห้องข้างๆ กับหนึ่งนะ เป็นผู้ชายเหมือนกันน่าจะเข้ากันได้ง่าย” ผมพยักหน้าเบาๆ ผมไม่รู้ว่าหนึ่งคือใคร อาจจะเป็นลูกชายของบิล หรืออาจจะไม่ใช่ก็ได้…

“เข้าไปจัดของได้เลย ห้องนี้เป็นห้องของอาร์ต ตามสบายนะ” บิลบอกแล้วก็เดินเข้าไปช่วยแม่จัดของที่ห้องของตน

ผมค่อยๆ เปิดประตูห้องอย่างแผ่วเบา มันเป็นห้องที่เรียบๆ ไม่มีอะไรหวือหวา มีทีวี ตู้เย็น คอมพิวเตอร์ โฮมเธียร์เตอร์และเตียงนอนขนาดสามฟุตครึ่งตั้งอยู่กลางห้อง

ทุกอย่างของห้องนี้เป็นโทนสีเบจเหมาะกับผู้ชายอย่างผมดี

            สำรวจห้องได้สักพักผมก็เริ่มลงมือจัดข้าวของ พอจัดเสร็จด้วยความง่วงบวกกับความอ่อนเพลียจากการเดินทางไกลผมก็หลับไปทันที ตื่นขึ้นมาอีกทีก็เกือบหกโมงเย็น

            ก๊อกๆ

            มีเสียเคาะประตูอยู่หน้าห้อง “ครับ” ผมขานรับ “แม่จะเดินมาบอกว่าลงไปกินข้าวได้แล้วนะลูก”

            “ครับ” ผมตอบ

 

            ที่โต๊ะอาหาร…มีบิลนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ ด้านขวาของบิลคือแม่ของผมส่วนด้านซ้ายคือผู้ชายคนหนึ่งดูแล้วน่าจะอายุมากกว่าผม เดาว่าน่าจะเป็นคนชื่อหนึ่ง

            ผมยกมือไหว้อีกฝ่ายทันทีตามมารยาท แล้วเดินเข้าไปนั่งข้างแม่ “เพิ่งตื่นเหรอเรา” บิลถามอย่างสัพยอก

            “ครับ”

            “นี่พี่หนึ่งนะ เป็นหลานชายของลุงเอง เขาอยู่กับลุงที่นี่มานานแล้วแหละ” บิลแนะนำพร้อมกับอธิบายให้ฟัง

            “ครับ” ผมตอบรับได้แค่นี้จริงๆ เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไร พี่หนึ่งมองผมพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ “หวัดดีอาร์ต เรียนอยู่ปีไหนล่ะเรา”เขาถามอย่างต้องการจะชวนผมคุย “ปีสองครับ” ผมตอบ

            “อืม…พี่เรียนอยู่วิศวะปีสี่นะ ม… พี่เราสองปี มีอะไรปรึกษาพี่ได้ยกเว้นเรื่องเงิน” ผมยิ้มนิดๆ “ครับผมเรียนสา’สุข ปีสองครับ มอเดียวกับพี่นั่นแหละครับ”

            “ไม่ยักเคยเห็นหน้าแฮะ เออ เรื่องเมื่อกี้พี่ล้อเล่นนะ เรื่องเงินมีปัญหาก็ยืมพี่ได้เลยพี่ไม่หวง”

            “ครับ” ผมก็ตอบไปแค่นั้น 

            แล้วอาหารค่ำก็ผ่านไปอย่างเชื่องช้า ส่วนมากพี่หนึ่งกับบิลจะเป็นคนครองบทสนทนา ทั้งสองคนถามเกี่ยวกับผมบ้างแม่บ้างว่ารู้สึกชอบบ้านใหม่ไหม แล้วการเรียนมีปัญหาอะไรบ้างหรือเปล่า ผมก็ตอบแค่ว่า “ครับ” “ไม่ครับ” “ไม่มีปัญหาครับ” และ “ก็ดีครับ”

            พี่หนึ่งกับบิลต่างก็ลงความเห็นว่าผมช่างเป็นคนพูดน้อยอะไรอย่างนี้ ผมก็ตอบไปแค่ว่า “ครับ” แล้วทุกคนก็หัวเราะกันยกใหญ่…
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-07-2015 18:46:19 โดย MyMinTZ♥129 »

ออฟไลน์ ekuto

  • ถ้าวันไหนไม่เข้ามาในเล้า วันนั้นเหมือนชีวิตขาดบางอย่าง
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 605
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-5
Re: ((เรื่องสั้น)) แปลกใจ... (RE-UP)#1
«ตอบ #2 เมื่อ28-10-2014 02:48:28 »

อืมมม ต่อด่วน ยังไปเครีย

ออฟไลน์ ♥MM...★

  • ไม่ใช่มืออาชีพ แค่ชอบเขียนไปตามที่ใจต้องการ♥
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
Re: ((เรื่องสั้น)) แปลกใจ... (RE-UP)#1
«ตอบ #3 เมื่อ28-10-2014 07:29:40 »

…แปลกใจ…2


“อาร์ตๆ ไปมอ กับพี่ป่ะ” เสียงพี่หนึ่งตะโกนไล่หลังมา

“ไม่เป็นไรครับ” ผมบอกอย่างเกรงใจ ขณะที่ขายาวๆ ก็ก้าวเดินไปตามทางฟุตบาธ

“มาเหอะ ไปทางเดียวกันยังจะต้องมาเหนื่อยเดินทำไม จริงมั้ย” พี่หนึ่งบอกผมถอนหายใจพยักหน้ารับ กระโดดขึ้นนั่งซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซด์พี่หนึ่งทันที “ขอบคุณครับ” ผมพูดเบาๆ แล้วพี่หนึ่งก็ออกรถ

“อืมไม่เป็นไร ลุงให้พี่ช่วยดูแลอาร์ตด้วย”

“ครับ” ผมไม่มีอะไรจะพูดจริงๆ

“พี่ถามจริงๆ เวลาคุยกับพี่นี่อึดอัดป่ะ” พี่หนึ่งถาม ผมส่ายหน้า

“ไม่ครับ” ผมบอก

“แต่พี่ว่าพี่อึดอัดว่ะ เวลาคุยกับเราน่ะ… เราลองมาพูดเปิดอกคุยกันอย่างลูกผู้ชายมั้ย” ด้วยความที่ผมเป็นคนไม่ช่างพูดจึงทำให้พี่เขาอึดอัดล่ะมั้ง แต่ผมก็เป็นของผมอย่างนี้แหละใครรับได้ก็รับ รับไม่ได้ก็ไม่ต้องรับ ไอ้พวกที่คณะมันก็ว่าผมบ่อยๆ แต่ผมชินแล้วล่ะ

“ครับ”

“เฮ้อ…ช่างจะพูดจริงๆ พี่ถามจริง รู้สึกยังไงกับการที่แม่เรามารักกับลุงของพี่” เขาถาม

“เฉยๆ ครับ” เหมือนพี่หนึ่งจะขัดใจ

“ไม่เอาคำตอบแค่นี้สิ ขอยาวๆ กว่านี้” ผมถอนหายใจเฮือก

“ผมก็ไม่ได้คิดอะไร ความสุขของแม่” ผมบอกไป

“ยังไม่เคลียร์ๆๆๆ” พี่หนึ่งบอก

“,,,ผมก็ไม่ได้มีอคติอะไร ลุงบิลแกก็ดีกับแม่ผม ถ้าแม่รักผมก็ไม่ขัดอะไรอยู่แล้ว”

“โอเค” พี่หนึ่งหัวเราะ

“เราก็พูดยาวๆ ได้นี่นา”

“ครับ” ผมตอบรับไปแกนๆ

“อีกแล้ว สั้นอีกแล้ว”

“ผมไม่รู้จะพูดอะไรครับ” ผมบอก

“เออๆ แต่อย่าแปลกใจล่ะ ถ้านับจากนี้ไปพี่จะทำให้เราพูดมากขึ้นน่ะ” พี่หนึ่งพูดจบก็หัวเราะออกมาเสียงดัง…

“…”

         

          “พี่ส่งให้ลงตรงนี้นะอาร์ต พี่ไม่อยากจะได้ยินเสียงกรี๊ดของพวกผู้หญิงมาก เพราะพี่จะปวดหู ถ้าพี่ไปส่งอาร์ตที่หน้าคณะน่ะ บาย…เดี๋ยวตอนเย็นเจอกัน เลิกเรียนกี่โมง ของพี่บ่ายสามนะวันนี้” พี่หนึ่งบอก

            “ห้าโมงเย็นครับ” ผมบอก

            “อือ เดี๋ยวพี่ไปเตะบอลรอละกัน”

            “ครับ…ขอบคุณครับ” ใจจริงผมก็อยากจะบอกให้เขากลับไปก่อนเถอะไม่ต้องรอ แต่…ผมก็รู้ว่าพูดไปยังไงพี่หนึ่งก็คงไม่ฟังอยู่ดี

            ผมแปลกใจอยู่เหมือนกัน…ที่พี่หนึ่งเหมือนจะรู้ว่าผมเป็นหนุ่มป๊อบอันดับสองของมหา’ลัยจากการประกวด คุณคงสงสัยว่าคนอย่างผมไปทำอะไรถึงคว้าที่สองมาครองได้อย่างน่าแปลกใจ…ผมเดาได้เลยว่ามันคงจะฟลุก ปีนี้ผมอาจจะไม่ได้ตำแหน่งแล้วก็ได้เพราะรู้สึกว่าพวกปีหนึ่งที่เข้ามาหน้าตาดีๆ ก็เยอะ

และด้วยความที่ผมเป็นหนุ่มป๊อบอันดับสองทำให้ เวลาที่ผมไปไหนมาไหนก็มีแต่คนตามกรี๊ด ทีแรกผมก็รำคาญแต่พักหลังก็เริ่มชิน  นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ผมไม่ค่อยพูดด้วยล่ะมั้ง ถ้าผมพูดมาก สาวๆ มักจะคิดว่าให้ความหวังเหมือนพี่โบ๊ทหนุ่มป๊อบอันดับหนึ่ง ผมว่ามันเป็นบาปกรรมเปล่าๆ…

แต่…ไหนพี่หนึ่งเขาว่าไม่เคยเห็นผมมาก่อนไง? แล้วรู้ได้ยังไงกัน…แปลกใจจริงๆ บางทีที่พี่หนึ่งไม่รู้จักผมในตอนแรกเพราะพี่เขาคงไม่ได้สนใจล่ะมั้ง ก็ผู้ชายด้วยกันนี่นะ จะมาสนใจทำไม ออกจะทำให้หมั่นไส้มากกว่า

            เอาเถอะคิดมากทำไม…แล้วผมก็เดินขึ้นตึกไปพร้อมกับเสียงกรีดร้องที่ดังไล่หลังมา…

ออฟไลน์ ♥MM...★

  • ไม่ใช่มืออาชีพ แค่ชอบเขียนไปตามที่ใจต้องการ♥
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
Re: ((เรื่องสั้น)) แปลกใจ... (RE-UP)#3
«ตอบ #4 เมื่อ28-10-2014 07:38:11 »

           
…แปลกใจ…3


          17.15 น.

          ผมเดินไปหาพี่หนึ่งที่สนามบอล มันนานพอดู…กว่าผมจะฝ่าจลาจลขนาดย่อมที่หน้าคณะได้

            พี่หนึ่งกำลังเตะบอลเล่นกับเพื่อนๆ ของเขาอย่างสนุกสนาน ดูแล้วผมก็ชักมันในอารมณ์อยากเข้าไปมีส่วนร่วมบ้าง

            “พี่…ผมเล่นด้วย” ผมตะโกนบอกพวกรุ่นพี่ พร้อมกับวิ่งเข้าไปในสนามโดยไม่รอให้พวกเขาอนุญาตก่อน

            “เออๆ” มีหลายเสียงตอบรับ แล้วผมกับเข้าไปอยู่ในทีมฝั่งตรงข้ามกับพี่หนึ่ง มันนานแค่ไหนแล้วนะ…ที่ผมไม่ได้มาออกกำลังกายเรียกเหงื่อแบบนี้

            พวกเราเตะบอลกันอยู่ชั่วโมงนึงเห็นจะได้ จากนั้นเมื่อหาผู้ชนะได้แล้วพวกเราจึงเลิกเล่น

            ปึก

            พี่แวนเพื่อนพี่หนึ่งที่เล่นอยู่ทีมเดียวกับผม ทุบหลังผมเสียงดัง พร้อมกับกล่าวว่า “เฮ้ย เล่นได้ดีนี่หว่า วันหลังก็มาเล่นกับพวกกูอีกก็ได้”

            “ครับ” ผมตอบรับไปแค่นั้น ถ้าว่างผมจะมา…ผมได้แต่บอกพี่เขาอยู่ในใจ

            “เฮ้ย อะไรวะไอ้หนึ่ง น้องมึงแม่งพูดแค่เนี้ย?” พี่แวนที่ขัดใจกับคำตอบของผม หันไปบ่นกับพี่หนึ่ง

            “หึๆ เรื่องปกติว่ะ” พี่หนึ่งบอก

            “เฮ้ย พรุ่งนี้เจอกันเว้ย ป่ะ อาร์ตกลับบ้านกัน” เขาตะโกนบอกเพื่อนๆ ก่อนจะชวนผมกลับบ้าน

      ก่อนผมกับเขาจะเดินออกจากสนามไปได้ยินเสียงพี่คนหนึ่งที่อยู่ทีมเดียวกับพี่หนึ่งตะโกนไล่หลังมาว่า “เฮ้ยพรุ่งนี้มึงอย่าลืมพาน้องมานะไอ้หนึ่ง กูจะเอาน้องมาอยู่ทีมกูส่วนมึงน่ะ ไปอยู่ทีมไอ้แวนโน่นเลย”

            “อ้าวไอ้เชี่ยยยยไล่กูหน้าด้านๆ ไหนตอนแรกมึงบอกต้องการกูนักหนาไง” พี่หนึ่งตะโกนกลับพร้อมกับวิ่งไปเฮดล็อกพี่คนนั้น “ก็มึงอยากเล่นอ่อนกว่าน้องเขาเอง” พี่หนึ่งล็อกคอเพื่อนแน่นกว่าเดิม “กูก็เก่งนะไอ้สาด”

            “แต่มึงสู้น้องไม่ได้ไง มึงก็ต้องยอมรับเซ่!” พี่คนนั้นที่หลุดออกมาได้แล้ว ตะโกนเสียงดัง พี่หนึ่งเลยชูนิ้วกลางให้เป็นของแถมไป

            “มึงไม่ต้องโชว์ ของกูก็มี” แล้วพี่เขาก็ชูกลับ

            “ไอ้ไวมึงจำไว้” พี่หนึ่งพูดอย่างหมั่นไส้พี่ไว (ผมรู้แล้วว่าเขาชื่ออะไร)

            “เออ เดี๋ยววันไหนน้องไม่มากูจะไปจีบมึงมาอยู่ทีมกูใหม่” พี่ไวยักคิ้วยึกยักส่งให้

            “เชี่ย!” พี่หนึ่งด่าแล้วก็เดินออกมาหาผมที่ยืนรออยู่ข้างสนาม พวกพี่ๆ ที่ยืนฟังทั้งคู่เถียงกันอยู่ก็หัวเราะกันอย่างขบขัน

 





            “ปะ รอนานเปล่า” เขาถาม

            “ไม่ครับ” ผมตอบ เขาได้ฟังก็ทำหน้าขัดใจผมอีกแล้ว

            “พี่ล่ะขัดใจกับคำตอบของเราจริงๆ เอาเหอะๆ ช่างมัน”  แล้วเขาก็เดินนำผมไปที่รถ

 





            “ผมกลับมาแล้วคร้าบบบ” เขาตะโกนบอกคนในบ้านเสียงดัง

            “น่าแปลกใจจริงๆ ที่แกกลับบ้านไวน่ะ เจ้าหนึ่ง” เสียงบิลแซวมาจากในครัว

            “ก็วันนี้ผมพาน้องไปด้วยไงครับ จะเถลไถลได้ไงกัน” พี่หนึ่งบอกพร้อมกับยักคิ้วกวนประสาทให้บิลไปทีหนึ่งเมื่อเห็นเขาเดินออกมาจากห้องครัว

            “ไปๆ กินข้าวกัน วันนี้แม่เราชวนลุงทำกับข้าวด้วย ไม่อยากจะคุย ว่าลุงทำอร่อยมากเหมือนเชฟระดับห้าดาว” บิลบอก

            พี่หนึ่งส่ายหน้า “อย่ามาโกหก อันไหนที่ลุงทำเองมักจะกินไม่ได้ตลอด ไอ้ที่เข้าครัวนี่ไปเป็นลูกมืออย่างเดียวใช่มั้ย” พี่หนึ่งบอกอย่างรู้ทัน

            “บ๊ะ! ไอ้นี่…สมกับเป็นหลานชายลุง รู้ทันทุกเรื่อง”

            “ฮ่าๆๆ ก็งี้แหละ”

 




            “อ่ะ พี่ให้เราพี่รู้ว่าเราชอบ แอบไปซื้อตั้งแต่เลิกเรียนน่ะ แล้วก็กลับไปเล่นบอลต่อ” น่าแปลก…เขารู้ได้ยังไงว่าผมชอบทานเค้กวานิลลา ตอนนี้บิลกับแม่ไปนั่งดูละครกันอยู่ที่ห้องรับแขกแล้วส่วนผมกับพี่หนึ่งก็ช่วยกันเก็บจานไปล้างเนื่องจากวันนี้ป้าจิต ป้าแม่บ้านที่เคยทำงานที่นี่ประจำขอลากลับบ้านสามวัน

            เขายื่นเค้กให้ผมตอนที่ผมกำลังจะล้างจานใบแรก

            “ขอบคุณครับ” ผมบอกพร้อมกับล้างมือที่เปื้อนน้ำยาล้างจานอยู่ออก รับเค้กในมือเขาเอาไปวางไว้บนโต๊ะทานข้าว ก่อนจะกลับมาล้างจานต่อ

            “มาพี่ช่วย” เขาบอกพร้อมกับถกแขนเสื้อขึ้น

            “ไม่เป็นไรครับ” ผมบอกเขา

            “เอาน่า ช่วยๆ กันไปไง จะได้เสร็จเร็วๆ”

            “ขอบคุณครับ”

            “เฮ้อ…” ผมได้ยินเสียงเขาถอนหายใจเบาๆ เดาได้ว่าคงจะกำลังเซ็งกับคำพูดซ้ำๆ เดิมๆ ของผมอยู่ ช่วยไม่ได้…ผมก็เป็นอย่างนี้แหละ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-11-2014 20:54:34 โดย MyMinTZ♥129 »

ออฟไลน์ ♥MM...★

  • ไม่ใช่มืออาชีพ แค่ชอบเขียนไปตามที่ใจต้องการ♥
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
Re: ((เรื่องสั้น)) แปลกใจ... (RE-UP)#4
«ตอบ #5 เมื่อ29-10-2014 18:17:35 »

…แปลกใจ…4

…แปลกใจ…4

 

“อาร์ตมึงมาตีกลองดิ๊ กูเหนื่อยสาด” ไอ้ปีโป้มันบ่น ตอนนี้ปีหนึ่งขึ้นห้องเชียร์อยู่ครับ ช่วงนี้พวกพี่เชียร์กดดันน้องมากเหลือเกิน พวกสันทนาการเลยมีหน้าที่มาผ่อนคลายความตึงเครียดให้น้องๆ อย่างที่คุณคงจะทราบกัน…ผมไม่ได้อยู่ฝ่ายสันทนาการหรอก ผมอยู่ฝ่ายสวัสดิการน่ะ ที่มาตีกลองนี่งานอดิเรก

 

ผมเดินเข้าไปตีกลองทันที หลังจากไอ้ปีโป้มันบ่น “กรี๊ด…ไม่เคยเห็นหน้าพี่คนที่ตีกลองมาก่อนเลย หล่อจัง พี่เค้าชื่ออะไรเนี่ยยย” ถูก…เด็กปีหนึ่งไม่ค่อยมีใครเห็นหน้าผมก็เพราะผมทำแค่แบกข้าวแบกน้ำมาให้พวกผู้หญิงจัดการแล้วก็กลับ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ามันวุ่นวาย…ผมเลยตัดปัญหายกเสร็จกลับเลย

 

“น้องคนนั้น ท่าจะแห้วนะครับไอ้อาร์ตเพื่อนพี่มันหล่อแต่อัธยาศัยไม่ดี ต้องพี่นี่คารมเป็นต่อรูปหล่อเรื่องรองนะคร้าบบบ” ไอ้ปีโป้มันตะโกนบอกน้องคนนั้น…



            ”มึงเงียบเหอะ” ผมบอกมัน “อ้าวไอ้อาร์ตมึงพูดได้แล้วเหรอวะ” มันทำหน้าตายียวนกวนประสาท “เออ” ผมตอบ แล้วผมก็ตีกลองต่อไปโดยไม่สนใจใคร หรืออะไรอีกทั้งนั้น

 

                “แมร่งงง กลองอย่างมัน แต่ไอ้คนตีช่างหน้าตายเสียเหลือเกิน มึงช่วยทำหน้าให้มัน มันๆ หน่อยได้มั้ยไอ้อาร์ต” ไอ้ปีโป้มันคงขัดใจผมอีกเช่นกัน “เรื่องของกู” ผมบอกมัน

 

                “สาด! กูขอโทษที่ยุ่งเรื่องของมึง!” แล้วมันก็เดินหนีไปอย่างงอนๆ …เรื่องปกติ ผมชินละ…

 

 

 

                สามทุ่ม

 

            “ไอ้อาร์ตมึงกลับไง” ไอ้ปีโป้มันถามหลังจากนั่งดูน้องนั่งเบียบเชียร์หลังขดหลังแข็งมาแล้ว 2 ชั่วโมง แล้วมันก็หัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังด้วยความสะใจ

 

 

                “เดิน” ผมตอบ จริงๆ แล้วผมจะขึ้นรถเมล์กลับน่ะ

 

                “กวนตีน! มึงจะช่วยตอบเพื่อนมึงยาวกว่านี้ได้ป่ะครับ กูเซ็ง” มันบ่น

 

                “มึงยังไม่ชิน?” ผมถามมัน

 

                “เชี่ยกูรำคาญมึงเข้าใจป่ะ ถามคำตอบคำ แม่งกลัวดอกพิกุลร่วงหรือไงวะ” มันยังคงบ่น

 

                “เออ” แล้วผมก็ตอบมันไปแค่นั้น

 

 

                “สาด!” มันด่าผมอีก บอกตรงๆ ผมไม่สะท้านหรอก…ชิน

 

                “เอางี้เดี๋ยวกูไปส่งมึงป่ะ” มันเอารถมา ก็เลยจะอาสาไปส่งผม

 

                “มึงกลับไปเหอะ” ผมไล่มัน 



                “ไล่กูทำเชี่ยไร กูหวังดีไม่อยากให้มึงต้องเดินให้มันเมื่อยตุ้มนะเนี่ย”



                “บ้านบิลกับมึงมันคนละโยชน์เลย”ผมบอกมัน



“ขอบคุณที่มึงกรุณาพูดกับกูเยอะขึ้น กูไปล่ะ ในเมื่อมึงไม่ไปกูก็หยิ่งไม่ง้อให้มึงกลับด้วยหรอก ไอ้ควาย” มันด่า




“เออ” ผมก็รับคำด่าของมันไป สักพักมันก็วิ่งหายไปในความมืด สงสัยมันคงไปเอารถนั่นล่ะ



ผมเดินมารอรถเมล์ที่ป้ายหน้ามหา’ลัย ขณะที่ยืนรออยู่เงียบเพียงลำพังนั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น “วันนี้กลับดึกนะอาร์ต” พี่หนึ่ง…



“ครับ” …น่าแปลก พอเป็นพี่หนึ่ง ผมไม่รู้ว่าจะพูดอะไรทุกทีเลย ทั้งๆ ที่ผมก็ไม่ได้อึดอัดเวลาอยู่กับเขานะ แต่มันเพราะอะไรล่ะ แปลกจริงๆ เลย,,,



“กลับ กลับพี่ดิป่ะ พี่เพิ่งเลิกน่ะ โปรเจ็คโหดชะมัดเลย” เขาบอก



“ครับ” ผมเดินไปขึ้นรถแล้วพี่หนึ่งก็ขับออกไป ป่วยการที่จะพูด…เดี๋ยวยังไงเขาก็ต้องหาเหตุผลให้ผมไปกับเขาอยู่ดีนั่นแหละ



“เกาะแน่นๆ ล่ะ” เขาบอก ทำไมต้องเกาะผมงง?



“ครับ” แต่ผมก็ได้แต่ตอบไปแล้วเอื้อมมือไปเกาะชายเสื้อเขา…



“หิวยังหาไรกินกันก่อนป่ะ” พี่หนึ่งชวน



“ครับ” ความจริงผมไม่หิวหรอกหลังจากตีกลองเสร็จก็ไปยกข้าวยกน้ำมาให้พวกรุ่นน้อง กล่องที่เหลือก็เสร็จผม…แต่จะให้ผมบอกว่าไม่หิวมันคงจะดูไม่ดีล่ะมั้ง



“งั้นแวะร้านข้าวมันไก่ร้านนี้ละกัน พี่เป็นขาประจำอร่อยเว่อร์ๆ” เขาโฆษณาชวนเชื่อ



“ครับ” แล้วผมก็ไม่ช่างพูดอย่างเดิม



“โห่ อาร์ตไรวะ ตอบพี่แค่เนี้ย เหมือนพี่เป็นไอ้บ้าที่ต้องนั่งพูดคนเดียวเลย ไม่เอาดิคุยกับพี่มั่งก็ได้”




ผมถอนหายใจเฮือก “ครับๆ”




“ยังดีที่เพิ่มมาให้อีกหนึ่งพยางค์” เขาแขวะผมเล็กน้อย



ตอนนี้เรานั่งอยู่ในร้านข้าวมันไก่เจ้าประจำของพี่หนึ่งแล้ว บอกตรงๆ พวกร้านอาหารนอกมหา’ลัยผมไม่รู้จักหรอกปกติจะทานมาจากใน SQUARE เลย (แคนทีนที่มหา’ลัย)




“อาร์ตกินไรพี่เลี้ยงเอง” ดวงตาพี่หนึ่งดูมีความสุขเวลาเขาไล่สายตาดูเมนูอาหาร



“อะไรก็ได้ครับ”ผมบอกเขา



“ถ้าพี่เอาขี้ให้กินจะกินมั้ย” เขาถามกลั้วหัวเราะ



“ถ้าพี่กินได้ผมก็กินได้แหละ” ผมบอก ไม่ได้ตั้งใจย้อนหรือกวนเขานะแต่ผมตอบตามความจริง



“ฮ่าๆๆๆ เดี๋ยวนี้ชักจะย้อนเป็น” ความจริงผมไม่ได้ย้อนนะ...นี่คือสิ่งที่ผมอยากบอก ...แต่ ผมดูเป็นคนยอมใครง่ายๆ ขนาดนั้นเลยเหรอ? ผมแค่ไม่ค่อยจะอยากพูดเท่านั้นเองนะ



                “ครับ” ผมยิ้มให้เขานิดหนึ่ง ป่วยการจะเถียง ผมยอมรับไปเลยแล้วกัน



                “หัดยิ้มบ่อยๆ สิอาร์ต มันจะทำให้เราดูดีนะ” เขาแนะนำ…ล่ะมั้ง



                “ครับ…ผมจะจำไว้” ลืมว่ากับพี่หนึ่งจะต้องพูดยาวๆ (นี่คือยาวแล้ว?)



                “เอาล่ะพี่จะสั่งแล้วนะ อาร์ตก็เอาเหมือนพี่แล้วกัน เพราะถ้าเป็น ‘อะไรก็ได้’ ป้าแกคงเหนื่อยน่าดูเพราะไม่รู้ว่ามันทำยังไง”



                “หึๆ ครับ” ผมหัวเราะเล็กน้อยแล้วตอบรับไป พี่หนึ่งมองผมอย่างอึ้งๆ คงคาดไม่ถึงว่าผมจะหัวเราะออกมา จากนั้นพี่แกก็หัวเราะเสียงดังลั่นร้าน ก่อนจะหันไปสั่งพนักงานรับออร์เดอร์ว่า

                “เอาข้าวมันไก่ทอดสองที่ครับ”










 

                 รอประมาณสิบนาที....

                “ได้แล้วค่ะ” จานสองจานถูกยกมาวางตรงหน้า พี่หนึ่งรีบลงมือทันทีอย่างไม่รอช้า คาดว่าเขาคงจะหิวมาก แล้วผมก็ลงมือทานของตัวเองบ้าง อย่างช้าๆ…



                “พี่ข้าวติดแก้มน่ะ” ผมบอกเขาเมื่อเห็นว่าข้าวสองสามเม็ดกระเด็นมาติดอยู่ตรงแก้มเขา…สงสัยจะหิวจริงๆ




                “ไหนๆ ตรงไหน” พี่หนึ่งถามหน้าตาตื่นงง ผมเห็นว่าเขากำลังทานอย่างเอร็ดอร่อยเลยจัดการเองเลยดีกว่า



                ผมเอื้อมมือไปปัดเสร็จข้าวที่ติดแก้มออกให้เขา อย่างเชื่องช้า…พี่หนึ่งมองผมอย่างตกตะลึง ผมสบตาเขากลับเขามองผมอย่างงุนงง “เอ่อ…ขอบคุณ” พี่หนึ่งบอก พร้อมกับที่ผมเอามือลง




                “ไม่เป็นไรครับ”




                น่าแปลกใจ…ปกติผมไม่เคยทำอะไรอย่างนี้มาก่อน…แม้แต่กับแม่ของผม สงสัย…มันคงจะเป็นเพราะท่าทางที่เอร็ดอร่อยกับอาหารเบื้องหน้ามากมายล่ะมั้ง เลยทำให้ผมต้องแสดงปฏิกิริยาอย่างนี้ออกไป

 

                “ไป…กลับบ้านกันเถอะ” พี่หนึ่งชวนเมื่อเราสองคนทานอาหารเสร็จแล้ว

 

                “ครับ…”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-11-2014 10:04:25 โดย MyMinTZ♥129 »

ออฟไลน์ ♥MM...★

  • ไม่ใช่มืออาชีพ แค่ชอบเขียนไปตามที่ใจต้องการ♥
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
Re: ((เรื่องสั้น)) แปลกใจ... (RE-UP)#5
«ตอบ #6 เมื่อ29-10-2014 18:34:51 »

…แปลกใจ…5

            “พี่คะขอลายเซ็นหน่อยได้มั้ยคะ” รุ่นน้องปีหนึ่งเดินเข้ามาขอลายเซ็นผมระหว่างที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่

            “ร้องเพลง” ผมบอกแค่นั้นเป็นเชิงว่าให้ตะโกนร้องเพลงเพื่อแลกกับลายเซ็นของผม …น้องจะแย่หน่อยตรงที่มาคนเดียว…อายคนเดียว

            ไอ้ปีโป้มันเงยหน้ามองน้องคนนั้นที่ยังทำหน้างงๆ อยู่ มันก็หันมามองหน้าผมแล้วพูดว่า “มึงช่วยออกคำสั่งน้องเขายาวๆ หน่อยได้ป่ะวะ น้องเค้างงหมดแล้วเนี่ย เชี่ยนี่แม่ง บอกแค่ว่าร้องเพลง ร้องเพลงห่าไรของมึงระบุดิ”

            “เสือก” ผมด่ามันสั้นๆ

            “ไอ้หอยกาบเอ๊ยย!!!” มันด่าผมกลับ แล้วผมก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อไปในขณะที่น้องผู้หญิงคนนั้นยังคงมองอย่างงงๆ ไอ้ปีโป้มันถอนหายใจดังเฮือกก่อนจะบอกน้องว่า

            “ร้องเพลง....ให้พี่ฟังได้ป่ะ พวกพี่เชียร์สอนมาแล้วนี่ เอางี้ละกันเพลง...ต่อด้วยมาร์ช.... โอเคนะ” ได้ฟังน้องก็หน้าเสียเล็กน้อย

            “เอ่อ…ค่ะ”

            “ครับ…พร้อมแล้วก็เชิญ” ไอ้ปีโป้มันบอก

            “เอ่อ…พี่คะต้องทำในเบียบเชียร์ด้วยมั้ยคะ?” น้องถามหน้าเสีย ผมส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ แอบคิดว่าจะถามออกมาให้ลำบากตัวเองทำไม ส่วนไอ้ปีโป้มันหัวเราะออกมาเสียงดังลั่นแคนทีน จนคนอื่นๆ หันมามองกันเต็ม

             “อืม ฮ่าๆ ถามได้ดี…นี่ถ้าน้องไม่ถามพี่ก็ลืมนะเนี่ย อิอิ เชิญครับทำในเบียบเชียร์ อย่าลืมนะว่าอยู่ในเบียบเชียร์ทำอะไรต้องขออนุญาต ดังๆ ล่ะ” ไอ้ปีโป้มันคงสะใจที่ได้แกล้งน้อง มันบอก…ตอนปีที่แล้วพวกรุ่นพี่ก็ทำอย่างนี้กับพวกเรา น้องเจอเราทำบ้างก็ไม่เห็นแปลกเลย ‘มาก่อนคือพี่ มาพร้อมคือเพื่อน มาหลังคือน้อง’ มันตามระบบอยู่แล้ว…ไอ้ปีโป้มันบอก

             น้องหน้าเสียนิดหนึ่งคงกำลังนึกเสียใจกับตัวเองอยู่ที่ถามอะไรโดยไม่คิด

            ตอนนี้ผมกินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงเงยหน้าขึ้นมองน้อง

            “เอ่อ…เบียบเชียร์!” น้องตะโกนออกมาเสียงดังจนคนอื่นหันมามอง

            “ดังๆ ครับเสียงมีอยู่แค่นี้เหรอ ถ้าวันสอบชิงแสตนด์แล้วตะโกนได้ดังแค่นี้น้องคงจะไม่ได้รุ่นนะครับ เอาใหม่!” ไอ้ปีโป้ครับ...สงสัยมันคงจะแค้นพี่ปีที่แล้วมาก เลยมาลงกับน้องซะเยอะ…

          “คะ…ค่ะ บะ…เบียบเชียร์!” น้องเสียงสั่งเสียงสั่นหน้าซีด ก็ตอนนี้ไอ้ปีโป้มันทำหน้าอย่างโหด

          “หลุดมั้ยครับ!” ไอ้ปีโป้ถามเสียงดังบอกตรงๆ ผมเริ่มรำคาญมันละ ไม่ได้รำคาญน้องเลย

          “หลุดค่ะ”

          “หลุดแล้วต้องทำยังไง” มันถามน้องเสียงโหด

          “หลุดค่ะ…ขอโทษค่ะ” น้องชูแขนขึ้นมาเอามือประกบกันเหนือศีรษะกันด้านซ้ายแบด้านขวากำ แล้วก็บอกให้อภัยตัวเอง “ไม่เป็นไรค่ะ”

           “ขอบคุณค่ะ”

           “สั่งใหม่ครับ” ปีโป้บอก

           “เบียบเชียร์! เบียบเชียร์! เพลง....ต่อมาร์ช.... สาม…สี่!” น้องตะโกนเสียงดังแล้วก็ร้องเพลงออกมา

           ........
           
            เมื่อเพลงจบ...
 
            “เบียบเชียร์! ตามสบายพักค่ะ! ขอบคุณค่ะ!”

            “โอเคครับทำได้ดี เอาสมุดเชียร์มาเดี๋ยวพี่เซ็นให้ แล้วอย่าลืมไปบอกเพื่อนๆ ให้รีบมาขอรายเซ็นนะ เพราะพี่ฝ่ายอย่างพวกพี่จะได้คะแนนเยอะ พอถึงวันเก็บสมุดเชียร์ถ้าน้องได้คะแนนเยอะน้องจะได้ติ้งคณะฯ แต่ถ้าคะแนนร่อยหรอ อดนะจ๊ะ” แล้วไอ้ปีโป้มันก็ยิ้มหวานส่งให้น้อง…มันเซ็นเสร็จก็ส่งมาให้ผมต่อ เขียนเสร็จผมก็ส่งคืนน้องไป

 




            “กูมีเรียนแล็ปวิชาโทต่อว่ะ มึงอ่ะ” ไอ้ปีโป้มันถามเมื่อเลิกคลาสวิชาเอก

            “ไม่”

            “เออๆ งั้นกูไปก่อน จะกลับบ้านป่ะมึง” มันถาม

            “ไม่” ผมตอบ

            “ไอ้เชี่ยยย กูขอยาวๆ” ผมถอนหายใจเฮือกก่อนจะบอกมัน

            “กูจะไปดูหนัง” มันทำตาโตตกใจ เมื่อได้ฟัง

            “มึงนี่นะดูหนัง? เชี่ยแม่ง หิมะตกที่โกบีแน่แท้ว่ะมึง ไอ้อาร์ตแม่งดูหนังด้วย!?”  มันทำหน้าตกใจสุดขีด

            “กูก็คน” ผมบอกมัน

            “เออๆ กูล่ะอยากรู้จังเลยว่าหนังเรื่องไหนที่คนอย่างมึงจะดู”

            “หนังรัก” ผมบอกมันหน้าตาย แต่ไอ้ปีโป้อึ้งไปแล้วเรียบร้อย มันเอามือใหญ่โตเท่าใบราณของมันมาจับหัวผมแล้วเขย่าแรงๆ ทำท่าเหมือนจะวัดไข้ไปด้วย พลันปากก็พูดว่า

            “ไอ้เชี่ยนี่แม่งไม่ใช่ไอ้อาร์ตเพื่อนกู!! มึงเป็นใคร ??? ไอ้อาร์ตเพื่อนกูไม่มีอารมณ์นี้กับเขาหรอก” ผมดันมันออกไปพร้อมกับบอกว่า

             “กูก็อาร์ตเพื่อนมึงนั่นแหละ”

              “แล้วทำไมมึงแปลกๆ ไป” มันถาม

              “ยุ่ง…”

              “มึงบอกมาดิ กูยอมให้มึงด่าว่าเสือกเรื่องมึงเลยเอ้า! ไอ่ห่าร้อยวันพันปีไม่เคยจะไปดูหนังแล้ววันนี้มึงนึกครึ้มอะไรห๊ะ?”

              “ไม่รู้” ผมตอบมันแค่นั้น

              “อะไรนะ กูขอยาวๆ ดิ มึงจะตอบแค่ไม่รู้ไม่ๆด้นะเว้ย” มันบอก

              “กูไม่รู้ เพราะกูก็ยังแปลกใจตัวเองอยู่เหมือนกัน” ผมบอกมันแล้วก็เดินหนีออกมา มีเสียงมันตะโกนไล่หลังมาว่า

              “ไอ้เชี่ยอาร์ต! หรือมึงจะมีความรัก! มึงต้องไปแอบรักใครเขาเข้าแน่ๆ เลย ไม่งั้นไอ้คนตายด้านอย่างมึงไม่มีเสียหรอก จะทำอะไรแบบนี้!!!”
 
               ความรักเหรอ? ไม่รู้สิ…ผมมีมันเหรอ?

               หรือจริงๆ แล้วผมก็แค่…แปลกใจ…

ออฟไลน์ ♥MM...★

  • ไม่ใช่มืออาชีพ แค่ชอบเขียนไปตามที่ใจต้องการ♥
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
Re: ((เรื่องสั้น)) แปลกใจ... (RE-UP)#6
«ตอบ #7 เมื่อ29-10-2014 18:58:20 »

…แปลกใจ…6

ตอนนี้ผมอยู่หน้าโรงหนังแล้วครับ แปลกใจตัวเองอยู่เหมือนกัน ที่มีอารมณ์อยากมาดูหนังได้…ตอนนี้ผมก็ยังอดคิดถึงคำพูดของไอ้ปีโป้มันไม่ได้

ความรัก…

ผมมีมันเหรอ?  แล้วกับใครกันล่ะ? วันทั้งวันผมก็เจอแค่เพื่อนในคลาส (รวมไอ้ปีโป้มันไปด้วย) อาจารย์ผู้สอน และผู้คนที่เดินผ่านไปมา นั่นผมก็ไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจแต่อย่างใด…ที่บ้านก็มีบิล แม่และ…พี่หนึ่ง!

บ้าน่า…พี่หนึ่งเป็นผู้ชายผมก็เป็นผู้ชาย แล้วผมจะชอบหรือรักเขาได้ยังไง…

ไร้สาระ! บางทีอาจจะเป็นเพราะผมแปลกใจก็ได้ที่พี่เขารู้ว่าผมชอบเค้กวานิลลาเลยซื้อมาฝาก อาจเป็นเพราะเขาคอยเทคแคร์ผมตลอด หรืออาจเป็นเพราะ...รอยยิ้มเจิดจ้าเหมือนพระอาทิตย์นั่นหรือเปล่านะ

แต่ก็นั่นแหละ...มันคงจะเป็นแค่ความประทับใจเล็กๆ ล่ะมั้ง ที่เห็นคนเพิ่งรู้จักกันเอาใจใส่ผมได้ถึงขนาดนี้ คงจะเป็น…อย่างนั้นจริงๆ




“อ้าว อาร์ต! มาดูหนังเหรอ” ขณะที่ผมกำลังจะเดินเข้าไปในโรงหนังเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาเสียก่อน


เป็นพี่…หนึ่ง!

ผมเห็นเขาเดินมากับสาวสวยคนหนึ่ง…นั่นคงจะเป็นแฟนของเขาล่ะมั้ง

แปลกจัง…ทำไมผมต้องรู้สึกอึดอัดด้วย อยากจะเดินไปพ้นๆ จากที่ตรงนี้

“ครับ” แต่ผมก็ยังคงตอบเขาไป

“ดูเรื่องไร” พี่หนึ่งถาม ทำไมผมถึงรู้สึกปวดหน่วงในใจแปลกๆ เหมือนมีอะไรมาทิ่มแทงอยู่ ความรู้สึกนั้นมันอึดอัดคับแน่นอยู่ในอก

มันคืออะไรกันนะความรู้สึกนี้…แปลกจัง สงสัยผมคงต้องไปให้หมอตรวจดูอาการเสียหน่อยแล้ว…หรือบางทีผมอาจจะเป็นโรคหัวใจระยะเริ่มต้นหรือเปล่า?


“เรื่อง…ครับ”  ผมได้แต่กัดฟันตอบพี่หนึ่งไปทั้งที่ในใจก็ยังคงอึดอัดอยู่

“ว้าว…ดูหนังรักเหรอเรา มีอารมณ์นี้กับเขาด้วยหรือเราน่ะ” ไม่รู้ทำไมยิ่งพี่หนึ่งพูดผมก็ยิ่งรู้สึกอารมณ์เสีย

ทำไมเขาไม่ไปๆ สักที ผมได้แต่ถามตัวเองในใจ

“ครับ” ผมตอบ

“พูดน้อยอีกแล้ว” เขาว่า ผมทำเป็นยกนาฬิกาขึ้นมาดู “ได้เวลาหนังเริ่มแล้วครับ” ผมบอกเขาแล้วก็เดินหนีมาทันที รู้สึกไม่อยากมองหน้าเขากับแฟนด้วยอาการที่ร้อนในอกแปลกๆ...

มันคงไม่ใช่หรอกมั้งอาการแปลกๆ ที่เกิดขึ้นกับผมนี้ ใช่รักเหรอ...

ใครจะให้คำตอบที่ดี กับผมได้บ้างล่ะ...

มันจะใช่รักหรือเปล่า...หรือผมจะแค่...แปลกใจ








            น่าเสียดายที่อาร์ตไม่ได้ยินสิ่งที่หนึ่งกำลังจะพูดต่อไปนี้



“อ้าวอาร์ต…ไปซะแล้วยังไม่ทันได้แนะนำให้รู้จักกับแฟนเพื่อนพี่เลย…” ชายหนุ่มพูดอย่างเสียดายเล็กน้อย

“เป็นเพราะแพงไม่ดึงดูดสายตาเขาหรือเปล่า อาร์ตมันเลยไม่อยากจะคุยกับแพงน่ะ” ก่อนจะหันมาแขวะหญิงสาวข้างกาย

“แพงว่าอาร์ตมองแพงแปลกๆ นะ หรือบางทีอาร์ตเขาอาจจะชอบพี่หนึ่งหรือเปล่า เมื่อกี้ดูอึดอัดยังไงก็ไม่รู้” หญิงสาวนามว่าแพงออกความเห็น

“ถ้าอาร์ตมันชอบพี่ก็ดีอ่ะดิ”

“แล้วทำไมพี่ไม่บอกเขาไปเล่า”

“อ้าวก็ไอ้อาร์ตมันเป็นผู้ชาย” ชายหนุ่มบอกหญิงสาวหน้าเคร่ง

“แล้วไงพี่ก็เป็นผู้ชายเหมือนกันนี่” แพงบอกอย่างไม่เห็นจะคิดมาก

“ก็เพราะมันเป็นผู้ชายเหมือนกันไงล่ะ พี่ถึงไม่บอกมัน” หนึ่งหัวเสีย กับประโยคนั้นของสาวสวย

“ไม่เห็นเกี่ยว” สาวน้อยส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย

“เกี่ยวดิ เกิดมันรังเกียจพี่ขึ้นมาทำไงเล่า”

“พี่ก็แค่แห้วไง จะไปยากอะไร” สาวน้อยยักไหล่ประกอบ

“ไอ้แพงเดี๋ยวเหอะ เดี๋ยวยุให้ไอ้แวนมันมีแฟนใหม่เสียเลย” เขาชี้นิ้วคาดโทษ

“คุยกันเรื่องของพี่อยู่ดีๆ ทำไมมาพาลแพงได้เนี่ย”

“เพราะแพงปากเสียไง”

“ค่ะๆ แพงว่าชาตินี้พี่หนึ่งคงจะแห้วแล้วแหละ ถ้ายังมัวแต่ยึกยัก เป็นมดแดงแฝงพวงมะม่วงอยู่อย่างนี้”

“เออ! ซ้ำเติมใหญ่”

“พี่แวนมาแล้ว…" หญิงสาวบอกก่อนจะโบกมือให้ชายหนุ่มตัวสูงใหญ่ที่เดินเข้ามาใหม่ ก่อนจะไล่ใครอีกคนที่อยุ่รอเป็นเพื่อนตั้งแต่แรกไป

"ไป…พี่กลับไปหารักแท้ของพี่เลยไป หมดหน้าที่แล้ว ชิ่วๆ” ชายหนุ่มส่ายหน้าทันทีเมื่อโดนไล่

“แฟนอย่างนี้มึงไปหามาจากที่ไหนวะ ไอ้แวน” เมื่อแวนเดินเข้ามาใกล้คนทั้งสอง หนึ่งจึงแกล้งถามเสียงดัง

“ทำไม? มึงอยากได้แบบนี้บ้าง?”

“กูจะบอกว่ามึงแม่งโคตรโชคร้ายเลยว่ะสัด แหกปากพูดทีหมานี่วิ่งออกมาทั้งฟาร์ม”

“อ้าวไอ้เชี่ยหนึ่ง / ไอ้พี่หนึ่ง”

“พูดงี้ลองกะกูซักตั้งเหอะ ปากร้ายจริงนะมึง” แวนทำท่าเหี้ยมแต่ดูก็รู้ว่าแกล้ง

“มามึงมา” หนึ่งแกล้งถกแขนเสื้อขึ้น แวนเห็นจึงตบหัวหนึ่งไปทีด้วยความหมั่นไส้

“กูว่ามึงเอาเวลาที่มึงกัดกูกับแพง เอาไปคิดหาวิธีบอกไอ้อาร์ตมันไม่ดีกว่าเหรอ”

“เออ…กูก็คิดอยู่ แม่งเมื่อคืนวานกูตกใจแทบแย่...กูต้องนั่งนิ่งทำหน้าตาย ทั้งๆ ที่กูดีใจจะแย่ตอนอาร์ตมันเอื้อมมือมาปัดเศษข้าวที่แก้มให้กู กูต้องนิ่งเฉยทำท่าทางเอ๋อๆ ใส่มันทั้งที่ใจกูโคตรจะดีใจ…แม่ง น่าสมเพชฉิบหายเลยกู” หนึ่งพูดด้วยท่าทางหมดเรี่ยวแรง

“สุดๆ เลยว่ะทำไมเพื่อนกูมันน่าสมเพชและรันทดได้ขนาดนี้ก็ไม่รู้ เนอะแพงเนอะ”

“ค่ะ พี่หนึ่งโคตรน่าสมเพชเลย น่าสงสารสุดๆ”

“นี่พวกมึงจะให้กำลังใจกูหรือจะด่ากูเนี่ย”

“ฮ่าๆ ก็ทั้งสองอย่างแหละ”

“สัด กูไปแล้ว เบื่อพวกมึงสองคน กัดกูอยู่นั่นแหละ” หนึ่งบอก

“ก็มึงมันน่าสมเพชสาดๆ เลย” แวนบอกกลั้วหัวเราะ

“เออ มึงหัวเราะกันไปเถอะถ้าวันไหนกูรักกันหวานชื่นมื่นขึ้นมา วันนั้นมึงคงไม่มีเรื่องบันเทิงให้ทำอีกแน่นอน!”

“เออ มึงหาทางบอกไอ้อาร์ตให้ได้ก่อนเหอะถึงรสนิยมแปลกๆ ของมึงน่ะ"

"ไอ้แวนเดี๋ยวเหอะมึง!"

แวนหัวเราะก่อนจะบอกว่า "กูหวังว่ามึงจะมีวันนั้นนะไอ้หนึ่งผู้น่าสงสาร”

“มีสิฟะ! แล้วก็ไม่ต้องมาสงสารกูด้วย” หนึ่งบอกเคืองๆ ก่อนจะเดินหนีสองคนนั้นออกมาจากทางเข้าโรงหนัง




“แล้วนั่นมึงจะไปไหน หนังกำลังจะฉายแล้วมึงยังจะเดินออกไปทำไมอีก” แวนถามเมื่อเห็นเพื่อนหมุนตัวเดินออกไป

“เรื่องนี้กูไม่อยากดู พวกมึงดูกันไปสองคนเหอะ กูจะไปดูอีกเรื่อง”

“สัดแล้วมึงจะดูเรื่องอะไร” แวนถามเพื่อนอย่างสงสัย แต่แพงกลับหัวเราะออกมาอย่างรู้ทัน

“หัวเราะอะไรแพง”เขาถามแฟนสาวอย่างสงสัย

“ปล่อยพี่หนึ่งแกไปเหอะพี่แวน แกกำลังจะไปตามหาหัวใจของแกน่ะ” หนึ่งได้ฟังก็ยักคิ้วกวนๆ ส่งให้เป็นเชิงยอมรับ

“กูไปล่ะ หลังจากวันนี้ไปพวกมึงจะไม่มีทางได้หัวเราะเยาะกูอีก” หนึ่งบอกอย่างมาดมั่น







ออฟไลน์ ♥MM...★

  • ไม่ใช่มืออาชีพ แค่ชอบเขียนไปตามที่ใจต้องการ♥
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
Re: ((เรื่องสั้น)) แปลกใจ... (RE-UP)#7
«ตอบ #8 เมื่อ29-10-2014 19:27:17 »

…แปลกใจ…7

            ความรู้สึกอึดอัดทั้งหมดค่อยๆ จางหายไปเมื่อผมเดินห่างออกมาจากคนทั้งสอง…นี่เกิดอะไรขึ้นกับผมกันแน่ ความรู้สึกแปลกๆ ทั้งหมดทั้งมวลที่ผมเป็นอยู่…

            ผมควรจะถามใครดี…ว่าความแปลกใจ และความสับสนที่ผมเผชิญอยู่นี้เรียกว่า…สภาวะอะไรกันแน่…หรือบางทีผมอาจจะต้องไปพบจิตแพทย์จริงๆ …บางทีท่านอาจจะช่วยให้คำตอบกับผมได้…

            ผมเดินเข้าไปในโรงภาพยนตร์แต่เพียงลำพัง ผมเลือกแถวหลังสุดริมสุดที่ไม่ค่อยมีคนอยากไปนั่ง ผมนั่งลงเมื่อเดินไปถึงที่นั่งเรียบร้อยแล้ว และสังเกตเห็นวัยรุ่นหลายคนจะมากันเป็นคู่ซะส่วนใหญ่ น้อยคนนักที่จะมาดูหนังรักแต่เพียงลำพัง อาทิผมเป็นต้น...


            นั่งรอประมาณหนึ่งนาทีเพลงสรรเสริญพระบารมีก็ดังขึ้น ผมและคนไทยทุกคนยืนขึ้นเพื่อแสดงความเคารพต่อพระมหากษัตริย์ผู้ทรงยิ่งใหญ่และครองใจคนไทยทั้งแผ่นดิน นาทีนั้นสาบานได้ว่าขนผมลุกชันไปทั้งตัว เกิดความรู้สึกสำนึกในพระคุณ เสื่อมใส ศรัทธาและรักในตัวของพระองค์ท่าน…และผมก็เชื่อว่าคนไทยทุกคนก็คิดเหมือนกันกับผม


            เมื่อเพลงจบลงทุกคนก็ทำความเคารพและนั่งลง ผมเพิ่งสังเกต…ข้างๆ ผมมีคนมานั่งด้วยตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ที่อับและมุมไม่ดีอย่างนี้…มันยังมีคนอยากจะมานั่งอีกเหรอ เพราะดูๆ แล้วแถวกลางก็ยังว่างเยอะตอนผมไปจองตั๋ว หรือจะเต็ม?

            ช่างเถอะ แล้วผมก็หันไปมองเขา…

            ผมมองเขาอย่างเพ่งพินิจด้วยเพราะความมืดในโรงภาพยนตร์ทำให้ทัศนียภาพถูกบดบังไปได้โดยง่าย เหมือนคนข้างๆ จะรู้ว่าผมมองอยู่ เขาจึงหัวเราะหึๆ ในลำคอ แต่เสียงฟังแล้วรู้สึกคุ้นเคย …เหมือนจะเป็นพี่หนึ่งหรือเปล่า

            ไม่น่าใช่หรอกเขามากับแฟนนี่…จะมานั่งอยู่ตรงนี้กับผมได้ยังไง ไร้สาระจริงๆ ผมส่ายหัวให้กับความคิดไร้สาระของตนเองแล้วตั้งใจดูหนังต่อไป

            “หึๆๆ” สักพักผมก็ได้ยินเสียงคนข้างๆ หัวเราะออกมา เขาไม่เข้าใจเหรอว่ามันเสียมารยาท? ผมว่าหนังไม่เห็นจะมีอะไรน่าขำตรงไหนเลย?

            “…” ผมยังคงเงียบในขณะที่เขาหัวเราะออกมาแทบจะตลอดเวลา ผมคิดว่าเขาคงจะมีสำนึกบ้างแต่เปล่าเลย…เขาไม่มี!

            ผมถอนหายใจเฮือก…ผมจะพูดยังไงดี ยิ่งไม่ค่อยจะชอบพูดอยู่ด้วย

            “คุณครับ ในโรงหนังกรุณางดใช้เสียง ขอบคุณครับ” รวบรัดตัดบทเสร็จสรรพไปเลยผม

“หึๆ อาร์ตจำพี่ไม่ได้จริงๆ เหรอ” เขาถาม…เป็นพี่หนึ่งจริงๆ สินะ

“หัวเราะทำไมครับ”  ผมค่อนข้างไม่พอใจนิดหน่อยที่เขาแสดงกิริยาอย่างนี้ออกมา

“ก็พี่ขำเรานั่นแหละ หนังออกจะซึ้งแต่ดูทำหน้าตาเข้าสิอย่างกับดูหนังฆาตกรรม” แสดงว่า…เขามองผมอยู่ตลอดเวลา? นี่เขาเห็นผมด้วยเหรอ? มืดขนาดนี้

แล้ว…เขามาอยู่ที่นี่ ตรงนี้ได้อย่างไร? คำถามนี้ดังขึ้นในใจของผม

“พี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” ผมถามด้วยความแปลกใจ

“อาร์ตมาที่นี่ได้ยังไงพี่ก็มาได้อย่างนั้นแหละ ทำไม…โรงหนังเขาห้ามพี่เข้าเหรอ” เขาถามกวนๆ

“ครับ” ได้ยินเสียงเขาถอนหายใจคาดว่าคงกำลังเซ็งกับผมอีกแล้ว

“อีกแล้วนะเรา” มีเสียงเขาบ่นออกมาเบาๆ งุ้งงิ้งๆ เป็นระยะ แล้วผมก็ไม่ได้สนใจเขาอีก ตั้งหน้าตั้งตาดูหนังต่อไป

น่าแปลก…เพียงเวลาแค่ไม่นาน ทั้งๆ ช่วงนี้หนังก็กำลังดราม่าน้ำตาตก แต่ทำไมผมมีความรู้สึกอยากจะยิ้มวะ…ท่าจะบ้าจริงๆ อารมณ์มันต่างกับตอนที่เข้ามาในโรงหนังใหม่ๆ ลิบลับเลย

สงสัยหนังจบผมคงต้องไปพบจิตแพทย์จริงๆ เสียแล้วแหละ…ไม่รู้ว่าเป็นอะไรเหมือนกัน แต่การกลั้นยิ้มนานๆ นี่มันก็เมื่อยชะมัด…

ผมคงใกล้จะประสาทเต็มที ที่รู้สึกยินดีเพียงเพราะแค่พี่หนึ่งนั่งหัวเราะอยู่ข้างๆ แล้วก็ชวนผมคุยบ้างเป็นครั้งคราว...

ผมคงใกล้จะบ้าแล้วจริงๆ สินะ...ที่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร




เมื่อหนังจบ ผมกับเขาก็เดินออกมาจากโรงหนังด้วยกัน มือเขาเกาะอยู่บนไหล่ผม ก่อนจะกระซิบถามผมเพียงแผ่วเบา

“อาร์ตกลับกับพี่ป่ะ” แล้วแฟนพี่ล่ะ…ผมอยากถาม อยากถามมาตั้งแต่รู้ว่าเขามานั่งข้างๆ ผมแล้วล่ะ

“ไม่เป็นไรครับพี่” ผมบอก

“อย่ามาดื้อดิ บอกให้กลับก็กลับดิ” เขาบอกอย่างคนเอาแต่ใจ

“แล้วแฟนพี่ล่ะ” ว่าจะไม่ถาม…สุดท้ายก็หลุดออกมาจนได้

เขาทำหน้าตามึนงงสุดขีด (ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่านั่นเสแสร้งหรือจริงจัง) ก่อนจะถามออกมาว่า “แฟนไหน”

“…” ผมยังคงเงียบไม่ตอบ เขาคงรู้ว่าผมจะไม่พูดอะไรออกมาแล้วเลยบอกว่า “อ้อ ผู้หญิงที่มากับพี่ทีแรกน่ะเหรอ” เขาเหล่ตามองผม ผมก็ยังคงเงียบแต่ภายในใจ…ใครเล่าจะรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่

“…”

“นั่นแพง…เป็น…” ทำไมต้องรู้สึกว่าใจของผมมันสั่นแปลกๆ ด้วย มันเต้นรัวเหมือนตอนผมลุ้นผลรอบแอดฯ ถ้ากำมือได้ผมคงกำไปแล้ว ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องลุ้นขนาดนี้ด้วยนะ



“แฟนไอ้แวนมันน่ะ” เหมือนยกภูเขาออกจากอก…แปลก…ความโล่งใจทำไมบังเกิดขึ้นกับผม? โล่งใจเพียงเพราะแค่เขาบอกว่าผผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนของเพื่อนเขาน่ะหรือ?

หรือผมจะมีความรัก…อย่างที่ไอ้ปีโป้มันบอกจริงๆ ใช่ไหม?

“ทำไมทำหน้าตาโล่งใจอย่างนั้น หรือเราแอบคิดอะไรกับพี่” …เหมือนมีใครเอาอะไรมาทิ่มกลางอกของผม มันไม่ได้เจ็บปวดแต่มันเป็นความรู้สึกว่ามันปึ้กเข้าที่ใจ ค่อนข้างอธิบายยาก…คุณคงไม่เข้าใจความรู้สึกของผมหรอก เพียงแต่ผมจะบอกว่าคำถามที่เขาถามออกมานั้นมัน…ตรงใจ เหลือเกิน!

หรือนี่จะเป็นความรู้สึกที่เรียกว่า ‘แทงใจดำ’  ผมลอบยิ้มออกมาอย่างเขินๆ ก่อนจะรีบตีสีหน้าเรียบเฉยทันที เมื่อพี่หนึ่งมองอย่างสงสัย

หน้าตา…แม้จะสั่งเก็บความรู้สึกได้ดั่งใจ แต่ใครเล่าจะรู้ว่าภายในใจของผมมันสั่นไหวแปลกๆ เหมือนจะระเบิดออกมาเสียให้ได้…

ถ้าความรู้สึกแปลกๆ นี้เกิดขึ้นเฉพาะกับคนๆ เดียวเท่านั้น ทั้งคนๆ นั้นก็ยังเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดอาการดังกล่าว ไอ้ปีโป้มันบอกว่าผมกำลังมีความรัก…ถ้าหากจะเรียกอาการนี้ว่าอาการรัก…งั้นผมคง…ไม่ต้องไปพบจิตแพทย์แล้วใช่ไหม?

....คนที่ผมต้องพบคนเดียวก็คือพี่หนึ่ง พี่หนึ่งคนที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้สินะ...







“อ้าวเงียบเลย…ชอบพี่ก็สารภาพมาเถอะ” พี่หนึ่งบอกยิ้มๆ พร้อมกับส่งรอยยิ้มสาดใส่ตาผม จนพร่าเบลอไปชั่วขณะ

“เปล่าครับ” ทำไมเสียงผมเบาหวิวอย่างนี้ล่ะ

“อ้าว…ไม่ครับแล้วเหรอ ปกติจะพูดแต่ครับๆๆ คำเดียวนี้” พี่หนึ่งแซว แต่ทำไมต้องมาอะไรกับผมด้วย ยังทำให้ผมแปลกใจไม่พออีกเหรอ กับการที่ผมต้องมา…ชอบผู้ชายด้วยกัน!



“ครับ”

“อ้าวนี่แอบกวนพี่ใช่มั้ย”

“เปล่าครับ”

“เฮ้อ…ถึงอาร์ตจะเป็นอย่างนี้แต่ทำไมพี่ก็ยังชอบอาร์ตวะ” หือ? อะ…อะไรนะ!

เหมือนผมจะฟังอะไรผิดไปหรือเปล่า ทำไมใจมันสั่นแปลกๆ ล่ะ เหมือนจะกระดอนออกมาจากอกให้ได้อย่างนั้นล่ะ ผม…หวั่นไหวกับผู้ชายด้วยกันได้ยังไงเนี่ย! พี่หนึ่งต้องทำของใส่ผมแหงๆ

“ทำตาโตน่ารักเชียว” พี่หนึ่งบอกพร้อมกับเอามือมาขยี้ศีรษะผมเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว แต่ผมอึ้งไปแล้ว ไม่ๆ ไอ้อาร์ตตตตต! แกเป็นผู้ชายนะเว้ย

ทำไมผมรู้สึกว่าตัวเองสติแตกไปทันทีที่รู้ว่าเขาก็ชอบผม ทั้งที่ตอนแรกที่ผมรู้ว่าผมรักเขาข้างเดียวผมยังไม่อาการหนักขนาดนี้เลย นี่มันอะไรกัน!

จากหน้าตาขี้เล่นของพี่หนึ่งแปรเปลี่ยนเป็นขรึมและดูจริงจัง “อาร์ต…อาร์ตรู้มั้ยว่าพี่แอบชอบเรามานานแล้ว” ไม่รู้…

“พี่ชอบเรามาตั้งแต่ตอนที่เราอยู่ปีหนึ่ง” ผมยืนนิ่งเฉยสีหน้าไม่แสดงอารมณ์อะไร และไม่แม้แต่จะพูดอะไรออกมาทั้งนั้น แต่ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายของผมมันกำลังเต้นระรัวอย่างบ้าคลั่ง ยามได้ฟังคำคล้ายจะสารภาพรักนั่น ภายในอกรู้สึกวูบวาบแปลกๆ ก้อนเนื้อก้อนนั้นที่ซ่อนอยู่ภายในมันสั่นระริกด้วยความยินดีเมื่อได้ฟัง

ไม่ใช่ผมคนเดียวใช่มั้ยที่รู้สึกดีๆ กับเขา เพราะเขาก็...บอกว่าคิดเหมือนกันกับผม

น่าแปลกใจ…ทั้งๆ ที่ผมไม่เคยรักใครมาก่อน…แต่ทำไมกันนะ ทำไมผมต้องมาแพ้ให้กับผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วย ทั้งๆ ที่เพิ่งเคยพบเจอเขาแท้ๆ ผมรักเขาเมื่อไหร่ล่ะ? ทั้งๆ ที่เราก็เพิ่งจะพบกัน...น่าแปลกใจจริงๆ กับความรู้สึกที่เรียกกันว่าความรัก

หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะผมหลงรักรอยยิ้มของเขาตั้งแต่วันแรกที่เห็นก็เป็นได้…วันนั้นที่โต๊ะอาหาร…พี่หนึ่งส่งยิ้มมาให้ผม ลักยิ้มทั้งสองข้างแก้มบุ๋มนั้นมันอาจจะทำให้ผมตาลาย และคงจะตกหลุมรักเขา…ตั้งแต่วินาทีนั้นเป็นต้นมา…

“…” ผมยังคงยืนนิ่งเฉยฟังเขาสารภาพรักอยู่อย่างนั้น ด้วยใบหน้าที่ใครหลายคนมองอาจจะเห็นว่ามันเย็นชา…แต่ใครเลยจะรู้…ว่านั่นน่ะ…ผมก็เขินเหมือนกันนะ

“ที่พี่เคยบอกว่าไม่เคยเห็นหน้าเราน่ะ พี่โกหก” พี่หนึ่งจับไหล่ผมแน่นด้วยมือทั้งสองข้างของเขา มองสบสายตากับผมอย่างจริงจัง

“ความจริงเราเคยเจอกันมาก่อน …มันไม่ใช่แค่พี่…แต่เป็นเรา…” ผมว่าพี่หนึ่งเป็นคนที่ดูสะดุดตา แต่ทำไมผมกลับมั่นใจว่าไม่เคยเจอพี่เขามาก่อน?

“น่าน้อยใจชะมัดที่เราจำพี่ไม่ได้” เขาบอกนัยน์ตาสวยนั้นมีแววตัดพ้อแต่เพียงครู่ก่อนมันจะจางหายไป

“ขอโทษครับ” ผมบอกเขา ความจริงผมก็อยากจะพูดให้มากกว่านี้…แต่ก็อย่างที่บอก ผมไม่รู้ว่าจะพูดอะไร

“ไม่เป็นไร จำได้มั้ยวันประกวดหนุ่มป๊อบสาวป๊อบประจำมหา’ลัยปีที่แล้ว…”

 




ออฟไลน์ ♥MM...★

  • ไม่ใช่มืออาชีพ แค่ชอบเขียนไปตามที่ใจต้องการ♥
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
Re: ((เรื่องสั้น)) แปลกใจ... (RE-UP)#8
«ตอบ #9 เมื่อ29-10-2014 19:32:23 »

…แปลกใจ…8

“จำได้มั้ยวันประกวดหนุ่มป๊อบสาวป๊อบประจำมหา’ลัยปีที่แล้วน่ะ” พี่หนึ่งถาม…จำได้สิ…ผมจำได้ไม่เคยลืม! แม้จะอยากลืมแค่ไหนแต่ทว่า…มันลืมไม่ลงหรอก! เรื่องน่าอายพรรค์นั้น!

คุณคงอยากรู้ล่ะสิว่ามันเรื่องอะไร…ก้มหน้าลงมาใกล้ๆ สิ แล้วผมจะเล่าให้ฟัง! เรื่องมีอยู่ว่า…

“เฮ้ย…ไอ้อาร์ตมึงจะไปไหนวะ” ไอ้ปีโป้มันถามขณะที่เห็นผมกำลังจะเดินออกไปจากห้องแต่งตัว

“ขี้” ผมตอบมันสั้นๆ มันทำหน้าเมื่อยรำคาญผม “เออ ไปเร็วๆ นะมึง การประกวดจะเริ่มแล้ว กูล่ะไม่เข้าใจจริงๆ ว่ารุ่นพี่เขาเลือกมึงมาประกวดทำทำห่าอะไร กูไม่เข้าใจ เขาไม่คิดบ้างเหรอว่าเวลาพวกกรรมการถามมึงจะตอบเขาว่าอะไร เชี่ยแมร่ง…ไม่ใช่เงียบนะเว้ย อายเขาตายเลย” มันบอกกับผมตอนแรก แล้วมันก็หันมาบ่นกับตัวมันเอง …จะไปยากอะไรกูก็ตอบสั้นๆ แค่นั้นก็จบ ผมคิดในใจก่อนจะเดินออกมา

ความจริงผมไม่ได้จะไปขี้อย่างที่บอกมันไปหรอกแต่ผมจะออกมาสูดอากาศข้างนอกต่างหาก อยู่ข้างในโคตรร้อนเลย คนก็เยอะบอกตรงๆ ว่าผมรำคาญ

ผมเดินออกมาจากโดม พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นศาลาริมสระน้ำข้างตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่ตรงนั้นดูแล้วบรรยากาศร่มรื่นดี ผมจึงเดินเข้าไปหวังจะไปนั่งผ่อนคลายอารมณ์เสียหน่อย กะว่าพอใกล้เวลาแล้วค่อยกลับเข้าโดมไป

ขายาวๆ ของผมก้าวเข้าไปใกล้ศาลาไม้ดูร่มรื่นนั้นขึ้นเรื่อยๆ ทันใดนั้นเอง

ปึ้ก!!!

สาวน้อยคนหนึ่งหน้าตาดูจิ้มลิ้มน่ารักก็วิ่งเข้ามาชนผมเข้าเต็มเปา เธออยู่ในชุดเมดดูโลลิน่ารักเหมือนในการ์ตูน ท่าทางดูรีบร้อนเหมือนกำลังหนีอะไรบางอย่างมา ทั้งเธอและผมต่างก็ล้มลงไปด้วยกันทั้งคู่ ผมล้มเพราะไม่ได้ตั้งตัว แต่อีกฝ่ายล้มเพราะชนผมเข้าอย่างจังและประเด็นสำคัญเลยคือผมตัวใหญ่กว่าเยอะ

“อ๊ะ…ขอโทษทีนะ ไม่เป็นไรใช่ไหม” เสียงแหบหวานนั้นถามผมขณะที่กำลังลุกขึ้นปัดเนื้อตัวอยู่ก่อนจะยื่นมือมาให้ผมที่นั่งอยู่บนพื้น

ผมปฏิเสธมือคู่นั้นก่อนจะบอกว่า “ไม่เป็นไรครับ”

“แน่ใจนะ” ถามย้ำผมด้วยสีหน้าเป็นห่วง

“ครับ แล้วคุณ?” ผมจะถามเขาว่าเป็นอะไรหรือเปล่าแต่เพราะผมเป็นคนพูดน้อยคำมันก็เลยหรืออยู่แค่นี้ อีกฝ่ายมองหน้าผมอย่างงงๆ “เอ่อ…ถามชื่อเหรอ หรือยังไง?” ฝ่ายนั้นเกาหัวอย่างงงๆ ผมถอนหายใจยาวก่อนจะบอกไปว่า

“เปล่าครับอาการคุณน่ะ”

“อ้อ…ครับไม่ไปไร ฮ่าๆ ว่าแต่คุณนี่พูดน้อยจังนะ” ฝ่ายนั้นหัวเราะเก้อๆ เขาใช้คำว่าครับ? แสดงว่าเป็นผู้ชายเหรอเนี่ย…ผมดูไม่ออกจริงๆ ให้ตายเหอะ!

“ครับ”

“ว้า..พูดน้อยอีกแล้ว” อีกฝ่ายบอกผมพร้อมกับหัวเราะเสียงดังออกมา

“ผมขอตัวครับ” ผมบอกพร้อมกับเดินห่างเขาออกมา หวังจะเข้าไปนั่งพักผ่อนในศาลาตามที่ตั้งใจไว้แต่แรก แต่เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นเสียก่อน

“เดี๋ยวครับ คุณครับ!” เขาตะโกนเรียกผมเสียงดัง ผมหันหน้าไปมองเขาเป็นเชิงถามว่า ‘มีอะไร?’

เขาชี้มือมาที่เป้ากางเกงของผมแล้วบอกว่า “เอ่อ…คือคุณไม่ได้รูดซิปครับ!”

ฉิบหาย!!!!!!

และหลังจากนั้นผมก็ไม่ได้เข้าไปนั่งในศาลาตามที่ได้ตั้งใจไว้ หลังจากที่เขาบอกผม ผมก็ช็อกไปสามวิก่อนจะหันไปบอกกับเขาว่า “ขอบคุณครับ” แล้วค่อยๆ เดินถอยห่างออกมาจากเขาเข้าไปนั่งรออยู่ในห้องแต่งตัวตามเดิม

หลังจากเหตุการณ์นั้นผมก็เงียบยิ่งกว่าเดิมเพราะความช็อกจนไอ้ปีโป้มันสงสัยว่าผมเป็นอะไร แต่ก็อย่างว่า…จะให้บอกมันได้ยังไงครับว่าผมลืมรูดซิปกางเกง…ทั้งยังเดินอล่างฉ่างออกจากโดมไปข้างนอกโดยไม่รู้ตัวอีก มันได้ล้อผมยันปีสี่แน่ เอ๊ะ…หรือมันจะแกล้งไม่บอกผมตั้งแต่ทีแรกเพราะหมั่นไส้…เอาเหอะ ช่างมัน!

ผมบอกเลย…จะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับผมอีก!!!

…นี่แหละคือเหตุการณ์ที่ผมจำได้ไม่ลืม…คุณอาจจะบอกว่านี่มันเรื่องเด็กอนุบาลชัดๆ แต่ผมว่ามันร้ายแรงสำหรับผมมากจริงๆ ให้ตายเหอะ!

ผมมองหน้าพี่หนึ่งนี่อย่าบอกนะว่า…

“พี่คือผู้หญิงคนนั้นที่ใส่ชุดเมดเหรอ!” ผมถามเขาก่อนจะลองเปรียบเทียบภาพในอดีตกับปัจจุบัน มีเค้าในอดีตอยู่พอสมควร แต่รู้สึกว่าเมื่อก่อนจะตัวบางและเตี้ย…เอ่อ เล็กกว่านี้ แล้วหน้าจะหวานกว่านี้มาก

“เออ…คนนั้นแหละพี่น่ะ” พี่หนึ่งบอกยิ้มๆ ผมมองหน้าเขาอย่างเคลือบแคลงสงสัย พี่หนึ่งเบ้หน้าเล็กน้อยก่อนจะบอกว่า

“มันไม่ใช่รสนิยมของพี่นะ! วันนั้นคณะพี่ออกร้านกันแล้วอย่างที่รู้กันว่าพวกผู้หญิงที่คณะพี่มีหนึ่งในล้านนน พี่รหัสตัวดีของพี่นั่นแหละเลยจับพี่ไปแต่งตัว เซ็งชะมัด…ขายของได้ไม่เท่าไรพี่เลยต้องหนีออกมา จนไปชนกับอาร์ตนั่นแหละ” พี่หนึ่งบอก…ผมอยากถาม…มันมีแต่เรื่องที่ผมหน้าแตก แล้วพี่หนึ่งมาชอบผมตอนไหนกัน?

เหมือนพี่หนึ่งจะรู้ว่าผมคิดอะไร เลยพูดออกมาว่า “พี่ไม่ได้จิตขนาดที่ว่าจะชอบอาร์ตเพราะแค่อาร์ตลืมรูดซิปกางเกงหรอก แต่พี่ชอบอาร์ตเพราะพี่คิดว่าอาร์ตดูแล้วน่าปกป้องมากๆ เลย อาร์ตดูเป็นคนเฉื่อยๆ ดูแล้วยอมคนพี่คิดว่านี่แหละ! คือคนที่จะมาเป็นแฟนของพี่! พี่มีความรู้สึกว่าพี่ต้องปกป้องอาร์ต! ตั้งแต่วันนั้นพี่ก็เข้าฟิตเนตทุกวันเพื่อที่ว่าวันใดวันหนึ่งพี่จะได้มีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง และพร้อมที่จะใช้มันปกป้องอาร์ตจากอันตรายได้!” พี่หนึ่งบอกผมด้วยแววตามุ่งมั่น

ผมว่า…คนที่ต้องการการปกป้องน่ะเป็นพี่หนึ่งเสียมากกว่าล่ะมั้ง ตัวแค่นี้จะมาปกป้องอะไรผมได้ แม้เขาจะไม่ได้ตัวบางอย่างแต่ก่อน แต่ว่าก็ยังเล็กกว่าผมอยู่ดี

“แล้วอาร์ตล่ะชอบพี่บ้างหรือเปล่า” เขาถามผมด้วยแววตาคาดหวัง ผมก็ตอบเขากลับด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า

“ไม่รู้สิครับ” พี่หนึ่งเบ้หน้าเมื่อได้ฟังคำตอบของผม

“ทำไมไม่รู้! พี่ยังรู้เลย”

“ไม่รู้สิ เพราะผมก็…แปลกใจ…” ผมก็แกล้งเขาหน้าตายไปอย่างนั้นเอง

“แปลกใจอะไร!?” พี่หนึ่งถามสีหน้าเหมือนใกล้จะผิดหวังเต็มที

“แปลกใจว่าทำไมผมถึงได้…ชอบพี่” ตอนแรกพี่หนึ่งกลั้นหายใจฟังคำตอบของผม แต่พอประโยคต่อมาเขาก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

“งั้นเราเป็นแฟนกันป่ะ” พี่หนึ่งถามออกมาอย่างห้าวทั้งๆ ที่ใบหน้าแดงเถือกไปหมด ไม่ใช่แค่เขาคนถามประโยคนี้ออกมาจะใจเต้นคนเดียว… ใครจะรู้บ้างว่าประโยคนี้ของเขาทำให้ผมปั่นป่วนหัวใจมากแค่ไหน…ข้างในมันรู้สึกอิ่มเอมแปลกๆ เหมือนกัน

“ครับ”

“สั้นจัง ทีพี่ยังพูดอย่างยาว” พี่หนึ่งยิ้มออกมาอย่างน่ารัก ก่อนจะประท้วงในคำตอบของผม

“จะให้ยาวขนาดไหนล่ะครับ” ผมถามเขาเสียงนุ่ม เหมือนพี่หนึ่งจะหน้าแดงเพราะน้ำเสียงที่ผมเพิ่งใช้กับเขาตะกี้

“ชอบพี่มากขนาดไหนเราก็พูดให้ยาวเท่านั้นแหละ” พี่หนึ่งบอกเขินๆ

“ครับ”

“อีกแล้วพี่เซ็งกับอาร์ตว่ะ…พอๆ เลิกๆ ชอบพี่แค่คำว่าครับคำเดียวงั้นเลิกคุยกันเลย” ผมฟันธงได้ไหมนะ…ว่านั่นคืออาการ…งอน

พี่หนึ่งงอน เดินหนีผมออกไปที่ลานจอดรถก่อน ขณะที่เขาทำท่าทางเหม็นเบื่อใส่ผม ผมก็หลุดหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่…เออหนอ…ดูหนังรัก หนังตลก หนังเศร้า จะดราม่าแค่ไหนตลกแค่ไหนผมก็ไม่เคยแสดงอารมณ์ออกมา แต่นี่แค่เรื่องจิ๊บจ๊อยอย่าง ‘แฟน’ งอน ผมกลับหัวเราะออกมาอย่างยั้งไม่อยู่

ความรักนี่หนอ…ช่างน่าแปลกใจ…สามารถเปลี่ยนคนๆ หนึ่งได้มากถึงเพียงนี้…อัศจรรย์ใจจริงๆ ผมยิ้มออกมาอย่างสุขใจ สงสัยจะจริงล่ะมั้งที่พี่หนึ่งบอกว่า…’เออๆ แต่อย่าแปลกใจล่ะ ถ้านับจากนี้ไปพี่จะทำให้เราพูดมากขึ้นน่ะ’ ไม่เพียงแค่จะทำให้ผมพูดมากขึ้นหรอก แต่จากนี้ไปผมคิดว่าแค่เพียงมีเขาอยู่ข้างๆ ผมก็คงจะหัวเราะมากขึ้นกว่าเดิมล่ะมั้ง…ก็เขาน่าแกล้งขนาดนี้…คงมีเรื่องที่ทำให้ผมหัวเราะอีกเยอะเลยล่ะ…ผมว่า

 

หนึ่งปีต่อมา

“อาร์ตไปเที่ยวทะเลกันป่ะ” พี่หนึ่งเดินเข้ามาชวนผมในห้อง ตอนนี้ผมกำลังนั่งเล่นเกมอยู่ครับ ปกติผมจะแข่งกับพี่หนึ่งสองคนบางทีก็มีบิลมาร่วมแจมด้วย แต่วันนี้บิลไปทำงานเลยไม่ว่าง เหลือผม พี่หนึ่งและแม่ที่อยู่บ้านกัน

“อืมครับ” ผมตอบรับเขาไปสั้นๆ ตอนนี้เราปิดเทอมแล้วครับส่วนพี่หนึ่งเพิ่งทำโปรเจ็กต์จบเสร็จเห็นบอกว่าอาจารย์โคตรเหี้ยมกว่าจะให้ผ่านได้ก็แทบลากเลือดทั้งแก้ ทั้งพรีเซ็นต์งานหลายรอบเหลือเกินแต่เรื่องนี้จริงครับเพราะช่วงทำโปรเจ็กต์พี่หนึ่งแทบจะกินนอนอยู่ที่คณะเลยทีเดียว พี่หนึ่งยังบอกอีกว่า เขาคิดว่าเขาจะต้องใช้โควตาของมหา’ลัยเสียแล้วโควตา 8 ปีน่ะแหละ ช่างจะคิดไปได้เขาน่ะ

แม้ช่วงนี้ผมกับพี่หนึ่งจะไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไรเพราะพี่หนึ่งต้องไปฝึกงานด้วย ทั้งยังต้องทำโปรเจ็กต์อีก แต่ความสัมพันธ์ของผมกับพี่หนึ่งก็ยังเหมือนเดิม คือเราเข้าใจกันและกันดี ไม่ว่างไม่เป็นไร ขอแค่ไม่ลืมกันเท่านั้นเป็นพอ…

แต่มีเรื่องหนึ่งที่พี่หนึ่งไม่ยอมให้ผมบอกบิลก็คือเรื่องที่เราคบกัน แต่ผมไม่ซีเรียสอะไรหรอกนะเรื่องนี้ ผมเข้าใจพี่หนึ่งบางทีเขาคงจะอายไม่กล้าพูดหรืออาจจะทำหน้าไม่ถูกไม่รู้จะอธิบายยังไงก็ได้ ที่ลูกชายของป้าสะใภ้ดันมาเป็นแฟนของตัวเองน่ะ

ไม่รู้นะ…แต่เซ้นส์ของผมมันบอกว่าแม่กับบิลรู้เรื่องอยู่แล้ว แม้ทั้งสองจะเงียบไม่พูดอะไรออกมาให้พี่หนึ่งอายแต่ การกระทำมันก็ฟ้องแหละ คงมีแต่พี่หนึ่งคนเดียวล่ะมั้ง ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย

ผมอาจจะอ่อนประสบการณ์ในเรื่องความรักในตอนแรก…เพราะผมไม่เคยรักใครแล้วก็ไม่รู้ว่าความรักคืออะไร แต่เรื่องอื่นน่ะ ผมทันคนนะ จะมีก็แต่พี่หนึ่งนั่นแหละที่ไม่ค่อยจะทันใครเสียจริงๆ ทีแรกเขาดูเหมือนเป็นผู้ใหญ่ ดูจะเจ้าเล่ห์นิดๆ แต่ความจริงน่ะ นิสัยเด็กมากกกกก โดนเพื่อนหลอกเพื่อนแกล้งตลอดจนผมต้องคอยปรามๆ พวกพี่แวนพี่ไวไว้ สองคนนี้จะรู้สึกสนุกทุกครั้งที่ได้แกล้งพี่หนึ่งนะผมว่า

จากที่บอกว่าจะดูแลปกป้องผมน่ะตัดไปได้เลยสำหรับพี่หนึ่ง สรุปแล้วหน้าที่นั้นมันต้องตกเป็นของผมไปโดยปริยาย ก็อย่างว่าแหละครับคนแบบนี้ใครๆ ก็ชอบแกล้ง ใครๆ ก็…รักJ

“อาร์ต…” พี่หนึ่งเรียกผมขณะที่เดินเข้ามาคลอเคลียกอดคอผมที่ด้านหลังอย่างอ้อนๆ สงสัยจะขออะไรอีกหรือเปล่าเนี่ย

“ครับ…” ผมตอบรับเขาเสียงนุ่มเหมือนเดี๋ยวนี้ผมจะพูดมากขึ้นกว่าเดิมและคนที่เข้าใกล้จะรู้สึกว่าผมเป็นมิตรขึ้น จนมีคนมาชอบผม พี่หนึ่งเลยงอนไป บอกต่อแต่นี้ให้ผมพูดมาก และยิ้มให้เขาเพียงคนเดียวก็พอเขาบอก…เขาหวง ผมก็หัวเราะแล้วรับคำไป

“เราคบกันมาปีนึงแล้วนะ อาร์ตจะยอมเป็นของพี่ได้หรือยัง” ผมชะงักกึก…นิสัยที่แก้ไม่หายของพี่หนึ่งคือ เขามักจะคิดว่าตนเองเป็นผู้นำเสมอเปรียบได้กับว่า เขาเป็นสามีส่วนผม…เป็นภรรยา!

สงสัยคงต้องโดนสักทีสินะถึงจะรู้สึก!

“ครับ…ผมยอมเป็นของพี่” ผมแกล้งพูดออกไปด้วยท่าทางเอียงอาย แต่พี่หนึ่งชะงักตัวแข็งทื่อไปทันที หึๆ เดี๋ยวจะรู้สึกว่าไผเป็นไผ

ผมแอบวางแผนในใจอย่างเงียบเชียบ ให้พี่หนึ่งตายใจเมื่อไหร่ก่อนเหอะ…เสร็จผมแน่!

พี่หนึ่งที่ยังคงหน้าแดงค่อยๆ พยุงผมเดินไปนั่งบนเตียงนอน โดยให้ผมนั่งลงบนตักของเขา ผมอยากจะถามเขาจริงๆ ว่าหนักไหมล่ะนั่น ก็ผมตัวใหญ่กว่าเขาตั้งเยอะ หึๆ ยอมๆ ไปก่อนหลังจากนั้นพี่หนึ่งจะรู้สึก!

 

เมื่อเวลาผ่านไป…

“อะ…ไอ้อาร์ต เอาออกไปนะ!” พี่หนึ่งน้ำหูน้ำตาไหลขณะที่ผมสอดใส่เข้าไป สีหน้าเขามีแววปวดเล็กๆ เจือด้วยความเจ็บใจ คงคิดว่าเสียศักดิ์ศรีล่ะมั้ง แต่ไม่ได้หรอกถ้าครั้งนี้ไม่ได้สั่งสอนเดี๋ยวพี่หนึ่งจะเข้าใจไปผิดๆ อีก

“อ๊ะ…” เสียงหวานแหบพร่านั้นครางออกมาเสียงดัง ลำตัวบางของกระตุกไปทั้งตัวตอนที่ผมขยับเสียดสีที่บริเวณหนึ่ง อืม ตรงนี้สินะ…

“อ๊ะ…อาร์ต” ผมก้มลงจูบอย่างแผ่วเบาที่ริมฝีปากบาง “อืม พี่หนึ่งรู้มั้ยว่าพี่หวานมาก” ผมกระซิบบอกชิดใบหูบาง

นัยน์ตาหวานเชื่อมด้วยแรงอารมณ์นั้นเหมือนจะจิกกัดผม มันมีแววค้อนเคืองเล็กๆ ก่อนจะตัดพ้อออกมาว่า “พี่ชอบเราก่อนแท้ๆ! พี่ก็ต้องได้เป็นผู้นำเซ่ ผู้รุกอ่ะ ผู้รุก!”

“เรื่องอย่างนี้มันไม่เกี่ยวกับใครชอบใครก่อนหรอกครับ มันอยู่ที่ว่าผมดูแลปกป้องพี่ได้มากแค่ไหนต่างหาก” ผมบอกเขาเสียงสั่นพร่าขณะเร่งจังหวะเร็วขึ้น

“อ๊ะ…อา ทะ…ทำอย่างกับพี่ดูแลเราไม่ได้อย่างนั้นแหละ!” พี่หนึ่งประท้วง แต่ใบหน้านั้นผมลงความเห็นว่ามันยั่วยุและเร้าอารมณ์ผมแปลกๆ

“งั้นบอกมาซิ ตอนที่เด็กเทคนิกมารุมพี่ใครไปช่วย” ผมแกล้งพูดทวงบุญคุณอย่างหน้าหมั่นไส้ออกไป พี่หนึ่งเบ้หน้าบอกว่า “ไม่เห็นเกี่ยวนี่”

“เกี่ยวสิ ยังไงตอนนี้พี่ก็เป็นเมียผมแล้วนะครับ!” ผมบอกปัดไป

“เอ๊ะ ไอ้อาร์ต!” เมื่อเห็นพี่หนึ่งทำท่าจะพยศอีกแล้วผมก็เร่งจังหวะให้เป็นหนักหน่วงและกระชั้นถี่ยิ่งขึ้น จนเราทั้งคู่ขยับเข้าไปใกล้ดวงดาวยิ่งกว่าเดิม

“ฮะ…อา…”

“อืมมมม”

ผมดึงตัวพี่หนึ่งที่นอนหอบหมดเรี่ยวแรงอยู่ข้างๆ เข้ามากอด “ผมรักพี่นะครับ ให้ผมดูแลพี่ได้มั้ย พี่ไม่ต้องปกป้องดูแลผมมากมาย ขอแค่พี่รักผมให้มากๆ ก็พอ” ผมบอกก่อนจะกดจูบลงไปบนขมับที่ยังชื้นเหงื่อนั้นด้วยความรัก

“อืม…แต่รู้สึกเสียศักดิ์ศรีชะมัดเลยแฮะ…” พี่หนึ่งทำหน้ายุ่งก่อนจะถอนหายใจเฮือกออกมา

“งั้นเอางี้สิ วันหลังผมให้พี่เสียบผมคืนบ้างเลยเอ้า เราจะได้หายกันพี่หนึ่งจะได้ไม่ต้องเสียศักิด์ศรีด้วย” ผมเสนอเขาอย่างจริงจัง แต่พี่หนึ่งด่าผมเสียงดังว่า “ไอ้อาร์ตตตตตตตตตตตตตตตต! พูดห่าอะไรเอากูไปแล้วยังจะให้กูเอามึงอีกเหรอ แปลกพิลึก!” สงสัยเขาจะโกรธจริง ฮ่าๆ พี่หนึ่งก็เป็นอย่างนี้แหละครับ…แต่ให้ตายสิยังไงผมก็มีความสุขว่ะ

 

ตอนเย็น

ผมค่อยๆ พยุงพี่หนึ่งเดินออกมาจากห้องเพื่อจะพาไปหาอะไรกินในครัว ทีแรกผมบอกจะยกไปให้ แต่พี่หนึ่งดื้อบอกกูไม่ใช่ผู้หญิง ไม่อ่อนปวกเปียกเดินไปเองได้ แล้วก็เดินลงมาจากเตียงสุดท้ายก็ล้มตึงลงไปบนพื้น ก้นกระแทกเสียงดังน้ำตาเล็ดเลยทีเดียว แล้วหันมาบอกว่าเพราะผมคนเดียวที่ทำให้เขาเป็นอย่างนี้

จริงๆ เรื่องนี้มันผิดที่พี่หนึ่งเองไม่ใช่เหรอ? ที่มาขอให้ผมเป็นของเขาน่ะ ฮ่าๆๆๆ เหมือนตั้งแต่คบกับพี่หนึ่งมา…ผมจะชั่วยิ่งกว่าเดิมว่ะ

ขณะที่ผมพยุงเขาเดินมาถึงห้องครัวก็เจอกับบิลที่ยืนดื่มน้ำอยู่หน้าตู้เย็น บิลมองพี่หนึ่งยิ้มๆ ก่อนที่จะพูดบางคำออกมาที่ทำให้พี่หนึ่งถึงกับช๊อกไปเลย

“ไง…เสร็จเจ้าอาร์ตมันไปแล้วเหรอเดินท่านี้น่ะ” บิลยิ้มเจ้าเล่ห์แต่พี่หนึ่งหน้าแดงแป๊ดไปแล้ว

“ละ…ลุงเอาอะไรมาพูด! ไร้สาระ” พี่หนึ่งแก้ตัวตะกุกตะกักจนผมแอบหัวเราะออกมาเบาๆ ไม่ได้ จนบิลแอบยกนิ้วให้ผมนั่นแหละ ทีนี้เสียงหัวเราะผมดังลั่นบ้านเลย

พี่หนึ่งหันมาค้อนผมขวับๆ บิลเห็นท่าทางนั้นก็ปล่อยมาอีกหมัด ดอกนี้ทำเอาพี่หนึ่งน็อคไปเลย

“ไร้สาระที่ไหน ก็ลุงได้ยินเสียงหมาตัวไหนก็ไม่รู้ มันร้องครางลั่นบ้านเลย…ไม่เชื่อลองไปถามป้าสาสิ ป้าสายังอัดเทปไว้แบล็กเมล์ เอ๊ยไว้ถามลุงอยู่เลยว่าเสียงอะไร” พี่หนึ่งเงียบกริบทันทีเมื่อได้ฟัง หันมาค้อนผมเป็นเชิงว่า ‘เพราะอาร์ตคนเดียว!’ ผมหัวเราะหึๆ ไม่ได้อายอะไรเหมือนพี่หนึ่งหรอกก็อย่างที่ผมบอก…บิลกับแม่รู้เรื่องนี้อยู่แล้ว คงสงสัยตั้งแต่ผมพูดเยอะขึ้น หัวเราะมากขึ้น  และชอบแหย่ชอบแกล้งพี่หนึ่งสุดๆ ไปเลยล่ะมั้ง

“ผมไปแล้ว ไม่คุยกับลุงแล้วเสียอารมณ์” พี่หนึ่งดันแขนผมเป็นเชิงว่าพาไปส่งที่ห้องหน่อย

“เสียอารมณ์อะไรกันเล่าก็ลุงพูดเรื่องจริง!” บิลยังคงแหย่พี่หนึ่งต่อไป สงสัยก่อนหน้านี้พี่หนึ่งแกล้งบิลไว้มาก บิลเลยได้ทีเอาคืนเสียยกใหญ่เลยล่ะมั้ง

ผมหันไปมองบิล พร้อมกับหัวเราะไปกับเขาไม่ต้องแปลกใจแล้วล่ะครับที่ผมเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้…เพราะคำว่ารักตัวเดียว…

 

 

เย็นแล้ว…แต่ผมกับพี่หนึ่งก็ยังคงพากันเดินเล่นตามชายหาดอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย มือของผมกับพี่หนึ่งต่างก็กุมกันมาตลอดทาง แม้จะมีคนมองด้วยสายตารังเกียจบ้าง ชื่นชมบ้างตกตะลึงบ้าง หรือแม้บางคนจะมองว่าการคบกันระหว่างผู้ชายกับผู้ชายมันเป็นเรื่องที่ผิด แต่ผมกับพี่หนึ่ง (ที่รู้แล้วว่าบิลกับแม่รู้เรื่องที่ผมคบกันนานแล้ว) ไม่ได้เอามันมาเป็นอุปสรรค์ในการคบกันอย่างคู่รักของพวกเราแต่อย่างใด…ในเมื่อ ผมกับพี่หนึ่งเรารักกันและผมก็คิดว่าเราไม่ได้ทำอะไรเสียหาย ดังนั้นเราจะต้องไปแคร์กับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเพียงชั่วครู่และก็เป็นเหมือนลมที่พร้อมจะพัดผ่านไปอย่างรวดเร็วทำไมล่ะครับ สู้เราใช้ชีวิตอย่างมีความสุขด้วยกันต่อไปไม่ดีกว่าเหรอครับ

อยู่ๆ พี่หนึ่งก็หยุดเดินเขาปล่อยมือผมแล้วหันหน้ามองไปยังทะเลอันเวิ้งว้าง ที่ขณะนี้พระอาทิตย์กำลังจะจมลงสู่ก้นทะเลลึก

“พี่คิดอะไรอยู่” ผมถามเขา

พี่หนึ่งหันมามองหน้าผมพร้อมกับบอกว่า “แม้ทะเลจะดูเวิ้งว้างว่างเปล่า ดูแล้วให้ความรู้สึกโดดเดี่ยวแค่ไหน แต่พี่ก็ไม่คิดว่ามันน่าสงสารหรอกนะ…ในเมื่อมันยังคงมีพระอาทิตย์จมลงไปอยู่ด้วยกันกับมันนี่นา” พี่หนึ่งทำหน้าคิดหนัก กับการหาเหตุผลของเขา

“แล้วพี่จะไปคิดมากแทนทะเลกับพระอาทิตย์ทำไมล่ะครับ” ผมสงสัยจริงๆ ปกติคนมักจะเปรียบเทียบพระจันทร์กับพระอาทิตย์เสมอ มีก็แต่สุดที่รักของผมนี่แหละที่คิดไม่เหมือนใคร…

“หืม? เพราะผมกับพี่ไม่ใช่พระอาทิตย์สักหน่อย” พี่หนึ่งหันมามองหน้าผมก่อนจะบอกว่า

“นั่นสินะ พี่ไม่ใช่ทะเลว่างเปล่าที่เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่ดวงอาทิตย์จะตกลงมาอยู่ด้วยกันสักหน่อยนี่นะ ในเมื่ออาร์ตกับพี่ก็อยู่ด้วยกันเสมอ งั้นลืมมันไปเถอะ” เขาบอกแล้วก็เดินหนีผมไป…ผมรีบวิ่งตามพี่หนึ่งไปอย่างรวดเร็ว เข้าไปกอดคอเขาแล้วเราก็พากันเดินหายไปในที่ที่เราสองคนจะใช้เวลาช่วงนี้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข

…แม้ว่าความรักของผมมันจะเริ่มขึ้นจากความแปลกใจของผม แต่ในเมื่อผมรู้แล้วว่านั่นคือรัก ผมก็จะถนอมมันไว้ให้ดีที่สุดครับ แม้ผมจะไม่รู้ว่าในอนาคตเราจะยังมีกันเหมือนเดิมอยู่ไหม แต่ผมกับพี่หนึ่งต่างก็รู้กันดีว่า ณ เวลานี้แค่เรามีกัน จับมือก้าวผ่านกาลเวลาไปด้วยกัน…เท่านั้นก็พอ

 

“THE END”

 

แง้วววว สารภาพตามตรงว่าตอนนั้นที่เขียน เรื่องนี้มันไม่มีพล็อตค่า T T มันก็เลยออกมาแปลกๆ มึนๆ อย่างนี้แหละ ตัวละครอาจจะมีหลุดไป (เยอะ) บ้างก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ค่า อ่านเอาสนุกๆ นะเราอยากเห็นทุกคนยิ้ม (หรือไม่หว่า?)

สุดท้ายนี้ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ (หรือไม่มี) แต่ไม่เป็นไร มายอยากอัพ อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ((เรื่องสั้น)) แปลกใจ... (RE-UP)#8
« ตอบ #9 เมื่อ: 29-10-2014 19:32:23 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
Re: ((เรื่องสั้น)) แปลกใจ... (RE-UP)#จบ
«ตอบ #10 เมื่อ29-10-2014 20:24:04 »

เรื่องดูเป็นธรรมชาติ อ่านแล้วลื่นไหลไปเรื่อยๆ
++ ค่ะ

ออฟไลน์ ekuto

  • ถ้าวันไหนไม่เข้ามาในเล้า วันนั้นเหมือนชีวิตขาดบางอย่าง
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 605
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-5
Re: ((เรื่องสั้น)) แปลกใจ... (RE-UP)#จบ
«ตอบ #11 เมื่อ30-10-2014 05:59:35 »

สนุกครับ ยิ้มได้ตลอดเลย

ออฟไลน์ puchi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 762
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
Re: ((เรื่องสั้น)) แปลกใจ... (RE-UP)#จบ
«ตอบ #12 เมื่อ04-11-2014 13:20:32 »

 o13

ออฟไลน์ nco1236

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-3
Re: ((เรื่องสั้น)) แปลกใจ... (RE-UP)#จบ
«ตอบ #13 เมื่อ11-11-2014 13:10:04 »

ชอบ

benji

  • บุคคลทั่วไป
Re: ((เรื่องสั้น)) แปลกใจ... (RE-UP)#จบ
«ตอบ #14 เมื่อ11-11-2014 20:26:13 »

แปลกใจ ว่าทำไม อาร์ต เตะบอลเก่งกว่า พี่หนึ่ง

แปลกใจ ว่าทำไม ตอนเจอกันครั้งแรก อาร์ต บรรยายลักษณะ พี่หนึ่ง ซะน่ารักเชียว ตัวเล็ก หน้าหวาน

แปลกใจ ว่าทำไม ตัวเราคิดว่า พี่หนึ่งเป็นรุกน้องเป็นรับ ที่แท้ เราเข้าใจผิด  :pigha2:

แปลกใจ ว่าทำไม จบเร็วจัง! สนุกอ้ะ  ชอบๆๆๆ  ขอตอนใส่ไข่สามฟอง(พิเศษ)อีกได้เปล่าคะ คนเขียน :mew1:

ออฟไลน์ heaven13

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 569
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
Re: ((เรื่องสั้น)) แปลกใจ... (RE-UP)#จบ
«ตอบ #15 เมื่อ13-11-2014 13:51:33 »

ชอบตอนจบนะคะ

ออฟไลน์ Cressent

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ((เรื่องสั้น)) แปลกใจ... (RE-UP)#จบ
«ตอบ #16 เมื่อ15-11-2014 12:08:07 »

น่ารักมากๆๆเลยค่าาา

ออฟไลน์ Dark_Evil

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: ((เรื่องสั้น)) แปลกใจ... (RE-UP)#จบ
«ตอบ #17 เมื่อ15-11-2014 13:59:45 »

พี่หนึ่งงงงงงงงงง. น่ารักน่าแกล้งขนาดนี้ทำไมจะไม่รัก. สนุกมาเลยคะ

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
Re: ((เรื่องสั้น)) แปลกใจ... (RE-UP)#จบ
«ตอบ #18 เมื่อ18-11-2014 14:28:47 »

เรื่องนี้น่ารักมากเลย

ชอบบุคลิกของอาร์ตนะ

และชอบในความชัดเจนที่แสดง

ถึงแม้จะพูดน้อยไปหน่อยก็เถอะ  :mew1: o13

ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
Re: 【เรื่องสั้น】: แปลกใจ...#จบ
«ตอบ #19 เมื่อ09-02-2015 16:49:33 »

น่ารักมากครับ ทั้ง พี่หนึ่ง และ อาร์ต แต่อาร์ตแอบร้ายลึกว่ะ

ขอบคุณครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: 【เรื่องสั้น】: แปลกใจ...#จบ
« ตอบ #19 เมื่อ: 09-02-2015 16:49:33 »





ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
Re: 【เรื่องสั้น】: แปลกใจ...#จบ
«ตอบ #20 เมื่อ22-02-2015 11:44:32 »

เรื่องน่ารักดีค่ะ
ตอนแรกก็แปลกใจใครจะรับใครจะรุก 555

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: 【เรื่องสั้น】: แปลกใจ...#จบ
«ตอบ #21 เมื่อ22-02-2015 17:32:42 »

ชอบอ่ะ ใสๆ ไร้มาม่า
พี่หนึ่งน่ารักมาก ฮ่าๆ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: 【เรื่องสั้น】: แปลกใจ...#จบ
«ตอบ #22 เมื่อ22-02-2015 18:47:11 »

แปลกใจตรงที่พี่หนึ่งแต่งชุดเมดโลลิกับตอนท้ายนี่แหละค่ะ  ลงตัวเหมาะสม
ชอบค่ะ  :pig4: 

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
Re: 【เรื่องสั้น】: แปลกใจ...#จบ
«ตอบ #23 เมื่อ24-02-2015 21:26:20 »

 o22 สมกับชื่อเรื่องแปลกใจ พี่หนึ่งชอบน้องก่อนแถมยังโดนน้องรุกอีก เราก็นึกว่าพี่แกจะเป็นรุกซะอีก

ออฟไลน์ miniminiXD

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 313
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-3
Re: 【เรื่องสั้น】: แปลกใจ...#จบ
«ตอบ #24 เมื่อ06-03-2015 22:15:20 »

แปลกจายเจงๆ :katai5:

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
Re: 【เรื่องสั้น】: แปลกใจ...#จบ
«ตอบ #25 เมื่อ11-03-2015 20:19:40 »

พี่หนึ่งน่ารักจังค่ะ :-[ ดีน้าที่ไม่บ้าจี้รับข้อเสนอเสียบคืนจากพระเอกน่ะ หุหุ :laugh: แบบนั้นคงงงแน่เลย~ :mew3:

ออฟไลน์ khwanruen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
Re: 【เรื่องสั้น】: แปลกใจ...#จบ
«ตอบ #26 เมื่อ19-03-2015 15:10:28 »

เรื่องน่ารักดัค่ะ อบอุ่นดีเนาะ  :pig4:  :pig4:  :pig4:

ออฟไลน์ taltal020441

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: 【เรื่องสั้น】: แปลกใจ...#จบ
«ตอบ #27 เมื่อ20-03-2015 11:53:15 »

น่ารักอ่าา

ออฟไลน์ Aumy8059yaoi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: 【เรื่องสั้น】: แปลกใจ...#จบ
«ตอบ #28 เมื่อ03-08-2015 17:52:32 »

กรี๊ดๆๆๆๆๆๆ หลงรักคู่นี้เข้าเต็มเปา :man1: :กอด1:
รู้สึกเป็นธรรมชาติมากกกกกกกก ความรักค่อยๆเติมเต็มกันและกัน o13
แต่พี่หนึ่งนี่โครตจะฮา ไม่ดูตัวเองเล้ยยยยย 5555555 :m20:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: 【เรื่องสั้น】: แปลกใจ...#จบ
«ตอบ #29 เมื่อ06-08-2015 04:06:51 »

ขำตรงที่พี่หนึ่งให้อาร์ตนั่งตักทั้งที่อาร์ตมันตัวใหญ่กว่า  :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด