EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ  (อ่าน 275524 ครั้ง)

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ส...สามน้ำ!? โหดมาก ระวังน้องโกรธเลิกคุยด้วยนะคะ

ออฟไลน์ nsai.ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 412
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
เห็นชื่อเรื่องเลยเข้ามาอ่าน...อ่านปุ๊บติดเลย 555+
โซนร้อน ชื่อแบบอื้ม...เข้ากันกับลมหนาวจัง แบบคนละขั้วงี้คนนึงร้อนคนนึงหนาว เข้ากันแบบต่างกัน...แต่มันดูลงๆตัวไงไม่รู้  :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย
ปันตื่นมา

พี่คิตตี้เจอกระทืบแน่ เหอะๆๆ
 :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
วันที่สามสิบ
(คีตา)

ได้หยุดหลังสอบ 1 อาทิตย์เป็นอะไรที่สุดยอดสำหรับผมแล้วล่ะครับ จะนอนให้เต็มที่เลย อยู่หอนี่แหละ ไม่กลับบ้านหรอก กลับไปก็เจอแต่เสียงทะเลาะกัน

อยู่เงียบ ๆ ในหอแบบนี้ดีกว่ากันไม่รู้เท่าไหร่เลย จริงไหมล่ะฮะ

ครืด ครืด

ใครแม่ง สุนทรีย์โทรมาตั้งแต่หัววันในวันหยุดวันแรกหลังสอบของผมกันวะเนี่ย... อ่อ ไอ้ทะเล เพื่อนสนิทคิดซื่อ ๆ ของผมเอง โทรมาไม?

"ว่าไง"ผมถามคนในสายด้วยน้ำเสียงที่ปนหงุดหงิดหน่อย ๆ วันหยุดทั้งทีใคร ๆ ก็อยากนอนสบาย ๆ บนเตียงคู่ใจของตัวเองจริงไหมล่ะฮะ

"กูกับพวกไอ้ปิ๊กตั้งตี้กันไปแดกเหล้าคืนนี้ ไปไหมมึง"ปิ๊ก เพื่อนคณะนิเทศน์ครับ เกรียน ๆ กวน ๆ อ้อนตีนชาวบ้าน แต่มันก็เป็นคนดี... คนนึงล่ะ

"เออ ๆ เย็น ๆ มาเรียกละกัน"ออกไปเที่ยวสักคืนก่อนก็อาจจะดีก็ได้จริงไหมครับ เผื่อสมองจะปลอดโปร่ง ความรู้บินออกจากสมองไป... แต่ยังไม่ถึงปลายภาคเลยนี่หว่า จะให้สมองโล่งได้ไง...

ช่างเถอะ เที่ยวหนุก ๆ ไปนั่นแหละ

เมื่อก่อนผมมักจะมองว่าคนที่เรียนจบมาทำงานในโรงพยาบาลต้องเป็นพวกเด็กเรียบร้อย เหล้าไม่แตะ เบียร์ไม่ต้อง แอลกอฮอร์ไม่ดื่ม แต่พอได้มารู้จักจริง ๆ มันคนละเรื่องกับที่คิดไว้เลย... เหล้าพร้อมสู้ เบียร์พร้อมรบ ยาแก้แฮงค์พร้อมทาน เรื่องจริงไม่อิงมโน

ผมนอนกลิ้งเกลือกไปมาอยู่บนเตียง แชทไลน์ไปกวนพี่เทคโรงเรียนมัธยมที่หนีเที่ยวไปพัทยากับแก็งค์ของเขาเป็นระยะ น่ะ ส่งรูปอาหารทะเลมายั่วอีก พี่ใครวะ

อยู่นาน ๆ คนเดียวก็เบื่อล่ะครับ เผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เสียบเคาะประตูโครม ๆ จนข้างห้องจะเขวี้ยงทีวีมาใส่กบาลผมนั่นล่ะ ถามได้ ก็ต้องรีบไปเปิเประตูให้พวกมันสิ

"โทรเข้ามาก็ได้นี่หว่า เล"ผมทำหน้าบูดใส่เพื่อน ก่อนจะเดินไปทำธุระส่วนตัว เตรียมออกไปเมาฉลองสอบเสร็จแบบชิว ๆ

ฟ้าเริ่มมืด นักท่องราตรีอย่างเราเริ่มโผบิน กอดคอกันเข้าผับที่อยู่ห่างจากมหาลัยไปพอประมาณ เดี๋ยวนี้ผับใกล้ ๆ มหาลัยมันโดนกวาดหมด ก็ต้องไปกันไกลหน่อยล่ะฮะ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับขี้เมาอย่างเรา ๆ

เด็กหออย่างผมไม่มีรถยนต์หรอกนะครับ มีแต่มอเตอร์ไซต์กุ๊กกิ๊กที่แม่ให้มาใช้ไปก่อน มันโอเคแล้วล่ะครับ เอารถมาขับในเมืองอันศรีวิไลนี่ก็สายเปล่า ๆ กว่าจะฝ่ายรถติดมาถึงบอสใหญ่ได้ ไม่รู้ต้องส่งซ่อม ส่งรักษากี่รอบ ฮีลกันไป

แต่วันนี้ผมนั่งรถยนต์ล่ะ สบายตัวเลย ไม่ได้นั่งรถตู้หรือแท็คซี่ สองแถว รถเมล์นะครับ โน่น รถพี่เกด เขาไปนั่งคุม ไม่กิน รายนี้แอลกอฮอล์ไม่แตะ บุหรี่ไม่สูบ วัน ๆ กินแต่พาย เห็นว่าที่บ้านหนีเที่ยวกับเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ยกบ้าน เขาเลยมาด้วยแก้เหงา เรานี่ได้รถฟรีเลย เฮ~

ในรถคันนี้นอกจากมีผมกับพี่เทคตัวกลมแล้วยังมี ไอ้เล กับพี่ป๊อปด้วย พี่วินัยยังมา เอาสิครับ ฮ่า ๆ ตอนแรกก้มองพี่เขาขรึมนะ แต่พอตบมุกกับพี่เทคผมทุกวันนี่ หมดกันที่ทำมาจริง ๆ

"เออ จริงสิ เดี๋ยวก่อนเปิดจะพาไปเลี้ยงสายนะคี"เสียงหวานเกินบุคลิกของพี่เกดดังขึ้นแทรกเสียงเพลงช่องดัง ลาภปากของผมล่ะครับ เหมือนช่วงนี้จะดวงขึ้น "เดี๋ยวพี่ไปคุยกับพี่หนาวก่อนว่าเลี้ยงไหนแล้วจะมาบอก"

เอ่อะ... คุยกับพี่หนาวเหรอครับ บ่งบอกว่าผมอดเมาแน่ ๆ ถ้ามีพี่หนาวพี่หมอก็ต้องมา พร้อมกับสายตาอาฆาตแอลกอฮอล์ที่ไม่มียี่ห้อ...

นักศึกษาปอน ๆ อย่างเราฮันเด็ดเป๊ปเปอร์นี่ก็หรูแล้วนะครับ แต่ขั้นต่ำของพี่แกเป็นชีวาส ผมหมดปัญญา กินทีต้องกินข้าวแกง 1 อย่างยี่สิบบาทมหาลัยไปอีกนาน ลาภปากตอนปาร์ตี้วันออกไปรับน้องนอกสถานที่ ที่ได้กินเหล้าหรูนั่นมันตราตรึงใจดีจริง ๆ ให้ดิ้นตายสิครับ

"อย่าหวังจะได้เมา พี่ไม่มีปัญญาเลี้ยงหรอกนะ"ทำไมเสียงพี่ฟังดูเย้ยหยันขนาดนั้นล่ะครับ โถ่ "ไปอ้อนพี่หนาวเอาเองแล้วกันนะ พ่อน้องเทคที่รัก"

"ผมยอมกินร้านจิ้มจุ่มข้างทาง ดีกว่า"ยอมแพ้ครับ ให้ไปอ้อนพี่หนาวเนี่ย ถึงปลดวินัยแล้วพี่เขาจะไม่โหดเหมือนเดิม แต่ไอ้สายตาอ่านไม่ออกของพี่เขาเนี่ย ผมขอยกธงขาวครับ

พี่เกดหัวเราะในลำคอเบา ๆ แล้วเงียบไป นั่งฟังเพลงกันไปสักพักก็มาถึงผับระดับกลางที่นัดกันไว้ เท่าที่เหล่ ๆ มองรถ มากันพอดูแล้วเหมือนกันนะครับเนี่ย

"เฮ้ ทางนี้"ไอ้ปิ๊กโบกมือหยอย ๆ อยู่แต่ไกล มันจองที่ข้างในสุดของผับเอ้าไว้ครับ พวกนิเทศมากันเกือบหมดแล้วแหะ "อุ๊ หวัดดีเจ๊ มาไงเนี่ย"

"ขับรถมา เฝ้าพวกเอ็งไง"พี่เกดยืนเท้าเอว แยกเขี้ยวให้เพื่อนนิเทศ ไม่พอมีพี่ป๊อปทำหน้านิ่งเป็นแบ็คด้วย "ถ้าเมาเลื้อยหัวราน้ำจะโทรหาเฮียโจ๊กให้มาเล่นงาน คอยดู"

"โหยยยย เจ๊ ปล่อยกันสักวันเถอะน่า"ไม่ใช่แค่พวกมันล่ะครับที่โอดครวญ เทคนิคเราเองก็ไม่ต่าง อ่อ มีพวกวิศวะด้วย "พรุ่งนี้ไม่มีเรียนสักหน่อยยย"

"ไม่สนเฟร้ย พี่ไม่อยากตามเช็ดตามล้างความเกรียนของพวกเอ็ง"พี่แกเชิดแล้วตบเท้าไปนั่งกับเพื่อนซี้ของเขา จะบอกว่าสมเป็นน้องเทคพี่หนาวดีไหมนะ... "งี่เง่ามากจะโทรหาพี่โอ รู้ไว้"

"..."เงียบกริบครับงานนี้ ฤทธิ์เดชของคนตัวเล็ก ใจใหญ่อย่างพี่ตังโอนี่ ลือชาทั่วมหาลัย ขนาดพี่ระเบียบ พี่ว๊าก พี่วินัย จะเรียกอะไรก็ตามแต่ ยังต้องเงียบให้พี่เขา...

ถึงจะโหดในเรื่องระเบียบวินัย แต่พี่เขาก็เป็นที่รักของทุกคนนะครับ  ได้ยินว่าใครที่ผ่านมือ ผ่านเท่าพี่เขามาจะขึ้นเป็นเฮดด้านต่าง ๆ เกือบทุกคน และพาคณะทำงานได้อย่างดีเยี่ยม เป็นประวัติศาสตร์นึงของมหาลัยเราเลย

"โหย เจ๊ เจ๊เป็นใครถึงโทรเรียนคุณตังโอมาได้ โถ่ววว"ผู้กล้าแห่งยุทธผับถามขึ้นอย่างกวน ๆ เอ่อ... ผมว่าแต่เป็นน้องร่วมคณะพี่เขาก็มาแล้วนะครับ

"พี่เป็นหลานเทคสายตรงติ่งมา คิดว่าปูเทคพี่จะไม่สนหรือไง"หะ? สายตรง ผมเพิ่งรู้เหมือยกันนะครับ โชคดีหรือโชคร้ายวะเนี่ย
นั่งดื่ม นั่งคุย นั่งเฮกันอยู่พักใหญ่ หลายคนกรึ่ม ๆ กันแล้ว ผมยังชิว ๆ อยู่ ไม่ได้ดื่มเป็นน้ำนี่ครับ คืนนี้ยังอีกยาวไกล ส่วนพี่ที่มาคุมทั้งสอง... เล่นเปิดไวน์ราคาแพงมาจิบกันตั้งแต่สิบวินาทีแรกที่มานั่งแล้วครับ

ไม่แบ่งอีกต่างหาก อดลาภปากครับผม งานนี้

นั่งมองเพื่อน ๆ ที่ออกไปยักย้ายส่ายสะโพกกันอย่างเมามันส์ขำ ๆ ท่าไม่ได้ดูดีเลย อย่างกับจิ้งจกโดนน้ำร้อนลวก ไอ้ตัวไหนหน้าตาดีหน่อยด็มีสาวมาเต้นสีล่ะครับ

เรื่องปกติในผับล่ะเนอะ ผมไม่เต้นหรอกครับ เดี๋ยวโดนถ่ายรูปแบล็คเมล์ เดือนมหาลัยจะกลายเป็นเดือนดับ ฮ่า ๆ อายเขา เอวไม่พริ้วสู้

ผับนี้เด็กมอ.เรามาเยอะอยู่เหมือนกันนะครับ เห็นเดินเข้ามาทักผู้อาวุโสทั้งสองของพวกผมกันหลายคนอยู่ มีเอากับแกล้มมาแบ่งให้เป็นระยะ มอง ๆ แล้วคงมีพวกพี่สองปีสามนั่นล่ะครับที่เยอะ ปีหนึ่งอย่างพวกผมยังไม่ถึงหยิบมือเลย

แต่อยู่ ๆ พี่เกดที่หน้ายิ้ม ๆ กับพี่ป๊อปที่สลัดมาดวินัยออกไปตั้งแต่คืนที่ปลดวินัยก็ทำหน้าตึงราวกับวิญญาณพี่ระเบียบเข้าสิง สายตาที่จะบอกว่าเย็นชาก็ไม่ใช่ รังเกียจก็ไม่เชิง ออกแนวขยะแขยงก็พุ่งตรงไปที่ใครคนหนึ่ง

ผมมองตามสายตาพวกพี่เขาไปรอบแรกก็ไม่เห็นใครเตะตา ลองใหม่ ๆ เรด้าห์ผมอาจจะพลาด คราวนี้กะสองตัวล่างตรง ๆ ไม่ใช่ละ กะระยะสายตาแบบตรง ๆ แล้วมองไป... ทำผมผงะ

ไม่มีโต้ดแน่นอนครับ คนที่พี่ทั้งสองของผมมองน่ะ คน ๆ นั้นผมมั่นใจว่ารู้จัก... อาจจะไม่ได้รู้จักดีเท่าไหร่ แต่ผมจำได้ไม่มีลืม...

เธอคือ น้ำฝน คนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนพี่กิต... แต่ตอนนี้เธอนั่งซบอกชายอีกคนอยู่ พร้อมแก้วเหล่าในมือ และเธอ... กำลังหัวเราะคิกคักเมื่อชายร่างใหญ่คนนั้นบีบเคล้นหน้าอกของเธอ...

นี่มันอะไรกันน่ะครับ?!

ผมหันไปมองพี่เทคกับเพื่อนพี่เขาที่น่าจะรู้เบื้องลึกเบื้องหลังด้วยความสงสัย แต่เหมือนว่าพี่เขาจะไม่ได้สนใจผมกัน ตาสองคู่ยังจ้องเขม็งไปที่เธอคนนั้น

“พี่เกด... พี่น้ำฝนเขา...”ผมไม่รู้จะเอ่ยถามยังไงเหมือนกันนะครับ มันตำตาอยู่ขนาดนี้... “ทำไมเขาถึงทำแบบนี้เหรอพี่... เขาเป็นแฟนพี่กิตไม่ใช่เหรอ”

“รู้ด้วยเหรอ?”พี่เกดเลิกคิ้วแล้ว ก่อนจะเหยียดยิ้มเยาะออกมา “กิตมองชีเป็นแฟนน่ะ ใช่ แต่นางมองกิตเป็นแฟนไหมนี่อีกเรื่อง”

“หมายความว่ายังไงพี่”ผมถามกลับอีกรอบอย่างไม่เข้าใจ ตอนผมเห็นพวกเขาไปกินข้าวด้วยกันก็ดูหวานสมเป็นคู่รักกันนี่... แล้วทำไม?

“ยัยนั่นแค่ควงกิตให้ตัวเองเด่นไปงั้น ดาวควงเดือนมันเก๋ ๆ ไง”พี่ตัวกลมของผมยักไหล่ พร้อมกับทำสีหน้าสุดเซ็ง “อวดชาวบ้านได้ว่าฉันมีแฟนหล่อ แต่ลับหลังอย่าให้เซด เหลวแหลกแหกหีสะบัด”

“แล้วพี่กิตไม่รู้เหรอครับ พี่...”ถ้าไม่เห็นจะ ๆ อยู่ตรงหน้า มาพูดแบบนี้ผมอาจจะไม่เชื่อก็ได้นะครับ พี่น้ำฝนเขาดูหวาน ๆ สไตล์ผู้หญิงน่ารัก น่าปกป้องล่ะครับ

“ถ้ารู้มันจะโง่เป็นควายให้แม่นั่นสวมเขาอยู่แบบนี้เรอะ โด่ว”คราวนี้เป็นพี่ป๊อปตอบกลับมา พร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ “คนเดียวใชชั้นปีที่แม่งไม่รู้ล่ะมั้ง”

“อ๊ะ ๆ ทำหน้าแบบนั้น อย่าคิดว่าพวกพี่ไม่บอกมัน บอกจนปากฉีกเลยรูหูแล้ว พ่อคุณเขาเชื่อซะที่ไหน ปกป้องแฟนซะ พ่อเทพบุตรตกสวรรค์”สีหน้าพี่เกดบ่งบอกถึงฟิวอารมณ์มาก “ไม่รู้ตามันทำด้วยอะไร เวลาเอากันไม่สังเกตสังกาแฟนตัวเองมั่งว่าน้องสาวดำจนไฮเตอร์เอาไม่อยู่แล้ว หรือสักแต่จะเสียบก็ไม่รู้”

จริง ๆ ผมไม่เคยคิดว่าพี่เทคผมจะปากจัดนะครับ จนกระทั่งวันนี้ มาจัดเต็มทั้งคำพูด ทั้งท่าทาง ตอนแรกนึกว่าเป็นพวกเฮฮาปกติ ออกไปทางทอม ๆ ซะอีก...

“เป็นเทพบุตรอยู่บนฟ้าอยู่ดี ๆ ลงมาให้เขาเทียมคันไถซะได้”ลูกคู่พี่เขากรอกตาไปมาอย่างหน่าย ๆ “ไม่เห็นกับตา แม่งไม่รู้สึก”

“เหอะ ๆ ขนาดเอารูปไปโยนใส่หน้ายังบอกว่าตัดต่อหรือเปล่า อาจจะเป็นแค่คนที่หน้าคล้ายก็ได้ แฟนมันไม่มีทางทำอย่างโน้น อย่างนี้ ดื้อซะไม่มี”

“แล้วทำไมเขาถึงทำแบบนี้ล่ะพี่... พอจะรู้ไหม”ขออีกสักคำถามเถอะครับ พี่กิตทั้งหล่อ ทั้งอ่อนโยน คอยห่วงใย คอยดูแล พี่เขาไม่ดีตรงไหนกัน...

“สั้น ๆ ง่าย ๆ he hasn’t money”พี่เกดเท้าแขนลงกับพนักโซฟาแล้วแค่นยิ้ม “บ๊ะ ภาษาอังกฤษกูยังอ่อนแอเหมือนเดิมจริง ๆ เฮ้อ... ไอ้กินน่ะ มันหน้าตาก็ดี นิสัยก็ดี แต่นะ มันไม่ได้ตรงสเปคของแม่น้ำฟ้าน้ำฝน น้ำแตกนั่นที่ต้องการเงิน ต้องการเข้าไปอยู่ในสังคมไฮโซนิ ฐานะกิตมันปานกลาง นามสกุลก็ไม่ได้ใหญ่โต ไม่ได้มีหน้ามีตาให้สังคมไฮโซโก้เก๋ นางเลยแค่มาหลอกควงเล่น ๆ อย่างนี้ไง”

“แล้วคนที่เขานั่งตักอยู่นั่น...”มีตระกูลนักเหรอ คำถามที่ผมอยากถามแต่มันควรหรือเปล่า... แล้วอีกอย่าง พี่เกดเขาจะไปรู้ได้ยังไง

“อีผู้ชายที่นางนั่งเกยตักเป็นพยูนเกยตื้นนั่นน่ะนะ ลูกชายนายทหารที่พอจะมียศอยู่บ้างนั่นแหละ อยู่คนละมหาลัยกับเรา แต่กร่างใช่เล่น”เฮ้ย รู้อีก พี่ผมเป็นอับดุล มีตาที่สาม หรืออาจจะมีดวงตายมทูตหรือเปล่าเนี่ย “เอาเป็นว่าถ้ามันมาหาเรื่องคี เรียกพี่นะ เดี๋ยวเคลียร์ให้”

แล้วพี่เป็นใครถึงจะมาเคลียรืให้ผมล่ะคร้าบบบ คำถามที่ไม่มีทางถามออกไปเด็ดขาด เดี๋ยวหัวผมจะขาดแทนเด็ด เอาเป็นว่าผมจะจำเอาไว้ละกันนะครับ พี่

“เกดก็พูดซะ... ไม่บอกให้หมดล่ะ”ยังมีอีกเหรอครับ เนี่ย... ผมหันไปมองหน้าพี่ป๊อปอย่างมึน ๆ มันอาจจะเกินจากที่ผมรับได้ไปหน่อยแล้วมั้งครับ “ก็ไม่ได้มีอะไรนักหรอก เมื่อก่อนน้ำฟ้าเขาเป็นเด็กขายนั่งร้าน ติดอันดับท็อปด้วยนะ แอ๊บเป็นเด็กญี่ปุ่น ขิขุอาโนะเนะ คนเรียกใช้กันสนุกสนาน โชคดีที่ไม่ติดโรคมานะนั่น”

“เอ่อ... แล้วพี่ป๊อปรู้ได้ไงล่ะครับ”เรื่องแบบนี้ไม่น่าใช่พี่ผู้หญิงเลยนะที่จะรู้น่ะ... จริงไหมครับ หรือว่าผมคิดไปเอง?

“พี่สาวพี่รับจ้างทำบัญชีให้ร้านที่นางไปขายเป็นอาชีพเสริม”อ่อ... งั้นคงไม่แปลกแล้วล่ะครับ ที่พี่เขาจะรู้ลึกรู้จริง “นางใช้นามแฝงว่าเลซี่”

“เลยมีฉายาที่เพื่อนอีตัวตั้งให้ว่า เลซี่ ชะนีตูดบาน”เป็นฉายาที่... เหมือนจะใช้ได้นะครับ ฮะ ๆ “นางไปชุบตัวจำแลงกายด้วยมีดหมอมาใหม่ แล้วกลับมายัดเงินเข้ามาลัยนี่ไง ซดน้ำผู้อำนวยการไปกี่ยกไม่รู้”

เน่าขึ้นทุกที... ผมยิ่งฟังยิ่งกลุ้มใจ

พี่กิต... ผมควรไปสวดมนต์วัดไหนให้พี่ตาสว่างเร็ว ๆ ดีครับ คนดี ๆ อย่างพี่ไม่ควรจะมาแปดเปื้อนกับคนแบบนี้เลย...

พี่เกดกับพี่ป๊อปเมาส์กันต่อไปสักพัก ก่อนจะเงียบลง จิบไวน์ต่อ เพื่อนที่ออกไปเต้นเริ่มทยอยกันกลับมานั่งพักแล้ว คงเหนื่อยกันพอดูแหละ

ผมแอบเหลือบมองพี่น้ำฝนเป็นระยะ เดี๋ยวก็ซุก เดี๋ยวก็ไซร้ สักพักก็ดูดปากกัน พี่เขาเป็นอย่างที่พี่ทั้งสองบอกผมจริง ๆ เหรอ หรือเป็นแค่ข่าวลือ

ผมอดคิดไม่ได้ ไม่อยากฟังความแค่ข้างเดียว แต่ครั้นจะเดินเข้าไปถามคงใช่ที...

แต่เหมือนฟ้าจะให้ผมสงสัยได้ไม่นานเท่าไหร่นัก เมื่อเธอคนที่ผมแอบมองเล่นแหกแข่งแหกขาให้ผู้ชายที่เธอนัวเนียอยู่ด้วยนั้นสีน้องของเธอผ่านกางเกงผ้าตัวสั้น ไม่พอยอมให้เขาเลิกเสื้อสายเดี่ยวเอวลอยนั่นขึ้นจนเห็นชั้นในสีแดงเพลิง... ท่าทางที่เจนสนามคงบอกได้ดีกว่าอะไร

จากที่นั่งที่ผมนั่ง กับที่นั่งของเขา เป็นมุมอับของร้าน เรียกว่าส่วนตัวที่สุดเพราะจะมองเห็นกันแค่สองโต๊ะเท่านั้น มันเลยไม่ประจานแก่สายตาคนทั่วไปที่มาเที่ยวนัก

แต่มันเต็มตาผมเลยนี่สิ...

แทนที่จะได้ท่องราตรีอย่างสนุกสนาน ผมกลับมีเรื่องให้คิดมากขึ้นกว่าเก่า บางครั้งการที่เราไม่รู้อะไร มันอาจจะดีกว่าการที่เรารู้ แต่ทำอะไรไม่ได้ก็ได้... จริงไหมครับ

สุดท้ายผมก็กลับมานอนที่หอดดยที่ไม่มีความเมาจากแอลกอฮอร์สักนิด ต่างจากเพื่อน ๆ ที่เมาแทบฟุบกันจนพี่เกดบ่นเป็นหมีกินผึ้ง

Key tA ♫: พี่กิตครับ

☆Kit Kt ♥ : ครับ น้องคี

Key tA ♫: ยังไม่นอนเหรอครับ

☆Kit Kt ♥ : ยังครับ พี่นั่งเล่นเกมกับเพื่อน เพิ่งเลิก

☆Kit Kt ♥ : น้องคีมีอะไรเอ่ย?

Key tA ♫: พี่กิต... รักพี่น้ำฝนมากไหมครับ

☆Kit Kt ♥ : รักสิครับ แฟนพี่ทั้งคน น้องคีไม่รักแฟนคีเหรอครับ

Key tA ♫: ผมยังไม่มีแฟนครับ พี่

☆Kit Kt ♥ : เอ... เชื่อได้เหรอเนี่ย น้องคีเนี่ยนะไม่มีแฟน

Key tA ♫: จริง ๆ นะครับ พี่กิต ผมมีแต่แอบรักเขาข้างเดียว

☆Kit Kt ♥ : แล้วทำไมไม่บอกเขาไปล่ะครับ

Key tA ♫: เขามีแฟนแล้วนี่ครับ... ผมนึกว่าปิดหลายวันพี่กิตจะไปเที่ยวกับพี่น้ำฝนซะอีก

☆Kit Kt ♥ : ฝนเขากลับบ้าน พี่เลยเงกอยู่คนเดียวนี่ล่ะครับ ฮ่า ๆ

Key tA ♫: ฮ่า ๆ ครับ ผมไม่กวนพี่กิตแล้วดีกว่า ฝันดีนะครับ

☆Kit Kt ♥ : ฝันดีครับ น้องคี

กลับบ้าน... บ้านของพ่อทูนหัวสินะครับ

ถึงผมจะชอบพี่กิต... แต่ความชอบของผมไม่ได้หมายถึงการครอบครอง ผมอยากให้พี่กิตมีความสุข ให้พี่เขามีรอยยิ้มแบบนี้ตลอดไป... แต่ทำไมเธอคนนั้นถึงทำร้ายพี่กิจของผมแบบนี้

ทำไม... คนดี ๆ อย่างพี่กิตถึงต้องมาเจอคนของเธอด้วยนะ

ถ้าพี่กิตได้รู้ความจริงทุกอย่าง พี่จะเสียใจแค่ไหนกันนะครับ

ผมไม่อยากเห็นพี่เสียใจเลย... จริง ๆ

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

ตอนที่ 30 มาแล้วค้า ให้บทน้องคีบ้าง ตอนต่อไปเป็นของพี่ว้ากพี่วินัยละค่ะ

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ขอให้ชะนีนี่โดนดักตบข้อหาไปทับเส้นชาวบ้าน สาธุ
คือหมั่นไส้อะ ถ้าจะควงเล่น ยกพี่กิตให้น้องเหอะ

ออฟไลน์ nuttzier

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ fahsida

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
เรื่องแบบนี้เราว่าพูดไปบอกไปก็เท่านั้น ยิ่งรักมากใครเค้าจะมาเชื่อเรา ต้องทำให้เค้ามาเห็นพฤติกรรมเองจะได้รู้ซึ้ง

แต่นางแอ๊บใสได้เนียนมาก ขอให้กิตมาเห็นจริงๆ เร็วๆ เถอะ จะได้เลิกๆ กับนางซะที ชิ

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
อัดคลิปเลยค่ะ  อัดให้ชัดๆ ไม่ก็ไปรับกิตมาที่ผับเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nsai.ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 412
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
คี...ทำให้กิตรู้ให้ได้นะ
คิดถึงพี่ว๊ากกับพี่วินัยแล้ว...จริงๆนะ มากๆด้วย

ออฟไลน์ nuja

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
จะฉงฉานกิตหรือต้องพาไปเปิดหูเปิดตาดี

น้องคีสู้ๆนะ หันมามองพี่แทนก็ได้จ้าาาาาาา

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
แล้วจะยังไงต่อล่ะเนี่ย เง้อๆๆ

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
แม่เอ๊ย....น้ำฝน นางช่างแซบ


ลีลานางคงเด็ด


พี่กฤตถึงได้หลงผิดติดกับดักนาง

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
พามาให้เห็นกับตาค่ะ น้องกิตจะได้ตาสว่าง

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
สงสารพี่กิต ต้องเรียกให้มาเห็นกับตาเลยสิ

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
วันที่สามสิบเอ็ด

วันนี้ผมต้องลากสังขารที่อยากนอนของผมออกจากห้องมาทำงานหาเงินยังชีพครับ เคยไหมครับ ที่อยากนอนทั้งวันยาว ๆ ไม่อยากลุกไปไหนเลย

นั่นคือความรู้สึกของผมหลังจากผ่านมรสุมงานรับน้องและสอบกลางภาคมา แต่งานที่รับไว้ก็คืองาน งานที่ผมต้องไปทำหาเงินมาจ่ายค่าหอ

ไม่ใช่ว่าที่บ้านของผมไม่มีเงินนะครับ มี แต่เราไม่ได้รวยล้นฟ้า ผมไม่ได้อยากเกาะแม่กิน แค่พี่ชายห่วย ๆ ของผมคนเดียวแม่ก็แย่แล้ว เรียนก็ยังไม่จบสักที ทำงานก็ไม่ได้เรื่องได้ราว ไปกินข้าวนอกบ้านยังไม่เคยคิดจะควักเงินมาจ่ายให้แม่เลย ผมจะไปเป็นภาระใหญ่ของท่านอีกก็ใช่ที่ จริงไหมครับ

พี่เขานัดเอาไว้ตอนเที่ยง เดี๋ยวต้องออกแล้วล่ะครับ รถในเมืองกรุงติดได้ไม่เว้นแม้แต่วันหยุด การทำงานไปสายไม่ใช่เรื่องดี ถูกไหมครับ

แต่... ก่อนหน้านั้น ผมต้องโทรหาใครอีกคนที่ต้องพ่วงกันไปด้วยก่อน

ตู๊ด... ตู๊ด...

"ฮัลโหลครับ"พายุรับสายผมอย่างสุภาพ เฮ้อ จะพูดยังไงดีล่ะครับเนี่ย "ฮัลโหล นี่ใครครับ"

"ผะ..."

"ถ้ามาขายประกัน ผมมีครบตั้งแต่เกิดยันตาย ถ้ามาขายตรง ผมยังไม่ต้องการอะไรนอกจากข้าวมื้อเช้า แต่ถ้าโทรมาจะคุย ขอให้โทรมาหลังจากนี้สิบนาที ตอนนี้ผมมีธุระด่วนที่ต้องทำก่อน ขอบคุณครับ ตุ๊ด ๆ"มันพูดจนไม่มีช่องว่างให้ผมได้แทรกเลย... ธุระเหี้ยอะไรของมันกันครับ บ้าฉิบ

ผมกดโทรไปอีกรอบอย่างหงุดหงิด ทำเสียเวลามากเลยนะเนี่ย

"ฮัลโหลครับ คุณคนเดิม ถ้าไม่มีธุระสำคัญระดับชาติ กรุณารอผมขี้เสร็จค่อยโทรมานะครับ สวัสดีครับ"แล้วมันก็กดวางอีกรอบ... เออ ดีครับ ขอให้ขี้ไปถึงสมองเลย บ้าชะมัด จะทำธุระส่วนตัวช่วยดูเวล่ำ เวลาบ้างเถอะ

แล้วเบอร์ผมมันไม่เมมไว้หรือยังไง

ผมมองโทรศัพท์ตัวเองอย่างเซ็ง ๆ แล้วอยู่ ๆ ก็ฉุกใจคิดขึ้นได้... นี่มันเบอร์สำรองที่เอาไว้ฉุกเฉินนี่หว่า ไม่ได้ให้กับหมอนั่นไว้... มันจะไม่รู้ก็คงไม่แปลก

"บ้าจริง ลมหนาว นายเจอข้อสอบจนเบลอไปแล้วหรือไงกัน"ผมเคาะหัวตัวเองสองสามที ก่อนที่จะเอามือถืออีกเครื่องออกมาแทน รอสักพักนึงก่อนแล้วกันค่อยโทรไปใหม่ "ฮัลโหล พายุ"

"ว่าไง ลมหนาว"(อดีต)เฮดว้ากของวิศวะรับสายผมด้วยเสียงที่ฟังดูแล้วคงจะสบายตัวมาเรียบร้อย ไม่มีร้อนรน "คิดถึงผมล่ะสิ ถึงโทรมาน่ะ"

"ผมจะคิดถึงคนที่รับสายแล้วบอกว่าจะขี้ทำไมกันครับ คุณพายุโซนร้อน"ขอกันสักทีแล้วกันนะครับ มีอย่างที่ไหนกัน คนโทรไปแล้วว้ากใส่ว่าจะขี้แบบเต็มปากเต็มคำ

“เอ้า ที่โทรมาคุณเองเหรอ คุณเหมันต์ลมหนาว”เสียงที่มาตามสายเจือแววขบขันอย่างไม่ปิดบัง “คุณ คนเขาปวดท้องข้าศึกบุกประชิดชายแดน จะให้พูดอ้อมโลกแบบโอเปอเรเตอร์เหรอ”

“หึ แล้วคุณเตรียมตัวหรือยัง ผมกำลังจะออกไปแล้ว”ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงเยอะครับ เปลืองแรงเปล่า “ผมไม่นิยมการไปสายหรอกนะ”

“คร้าบ ๆ ผมเตรียมตัวเสร็จแล้ว กำลังจะออกจากห้อง เจอกันที่หน้าหอคุณเลยก็ได้”เสียงปิดประตูที่ดังลอดเข้ามาในโทรศัพท์เป็นเครื่องยืนยัดอย่างดีว่าหมอนั่นกำลังออกมาจากห้องจริง ๆ

“ครับ”ผมกดวางมือถือ แล้วคว้าเป้ใบเก่งขึ้นสะพายหลัง ก่อนจะเดินออกจากห้องลงมารอใครอีกคนที่กำลังมา ยิ่งนึกยิ่งขำนะครับ นอกมหาลัยเรายังต้องร่วมงานกันอีก

ถ้าเป็นเมื่อเดือนก่อน... มันคงเป็นไปไม่ได้ แล้วถ้าใครมาบอกว่าผมต้องร่วมงานกับเฮดวินัยของวิศวะผมคงว้ากกลับไป พร้อมกับส่งสายตาไม่เชื่อแน่ ๆ

“ยืนยิ้มอะไรตรงนี้ครับ คุณลมหนาว”เหม่อ ๆ อยู่ดี ๆ คนที่ผมรออยู่ก็เอ่ยทักขึ้นมา ไม่พอครับ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ซะจนจมูกจะชนกันอยู่แล้ว

“ผมจะทำอะไรมันก็เรื่องของผม แล้วคุณเอาหน้าเข้ามาใกล้ผมทำไมล่ะเนี่ย”ผมใช้สองนิ้วดันหน้าผากพายุมันออกไปห่าง ๆ มันยิ้มยียวนให้ผม แล้วยกมองมือขึ้น “ไปได้แล้ว เดี๋ยวสาย”

“ครับ ๆ คุณวินัยเจ้าระเบียบ”ผมเดินนำพายุไปที่ถนนใหญ่ ก่อนจะพากันกระโดดขึ้นรถเมล์ไปขึ้นรถไฟฟ้าน่ะครับ

ปกติพี่ทิวจะเป็นคนพาไป และรอรับกลับ แต่เห็นว่าวันนี้มีธุระอะไรสักอย่างที่ปลีกตัวไม่ได้ เลยให้ผมพาพายุไป ถ้าทันตอนเย็นจะมารับกลับ มันไม่เป็นปัญหาอะไรหรอกครับ ผายุตั้ง 21 แล้วจะให้คนคอยรับส่งมันใช้ได้ที่ไหน แค่นี้ผมไปเองได้สบายอยู่แล้ว

ส่วนคนที่มาด้วยกัน... ดูท่าทางจะเชี่ยวกว่าผมซะอีกครับ พกเครื่องเกมมาเล่นด้วยซ้ำไป

จริงสิ... ไม่รู้ปันปันที่ไปเที่ยวกับพี่คิสจะเป็นยังไงบ้าง ตอนที่ผมบอกว่าไปด้วยไม่ได้หมอนั่นทำหน้าบูดอย่างกับตูดลิง ให้ข้อเสนอลำบากตัวเองอย่างการนั่งรถไปแทนที่จะนั่งเครื่องให้สบายก้นด้วย โทรไปถามข่าวสักหน่อยดีกว่า

“ฮัลโหล ปันปัน เป็นไงบ้าง”รอสายไม่นานเพื่อนสนิคผมก็รับสาย ยังไม่ทันจะขานมาผมก็พูดกลับไปก่อน “ไปเที่ยวทะเลใต้ สนุกไหม”

“หนุกกับผีน่ะสิ แม่ง”เสียงที่ตอบกลับมาไม่ดังนัก ซ้ำยังแหบอีก ไม่สบายหรือยังไงกันครับ แต่ถึงอย่างนั้นก็แฝงความหงุดหงิดไว้แบบจัดเต็ม “มึงแม่ง มาด้วยกันก็ไม่ได้ เห็นงานดีกว่าเพื่อน”

“นายเป็นไรไป ปันปัน”ผมว่ามันเริ่มพาล ทั้งที่ปกติมันไม่ใช่คนแบบนั้น หงุดหงิดอะไร เจออะไรมาหรือยังไง “พี่คิสเขาทำอะไรนายหรือไง”

“ฮึย... แม่ง หงุดหงิด ไว้ค่อยคุยนะ บ้าฉิบเลยเว้ย!!!”ตู้ด ตู้ด พูดจบมัดกดตัดสายผมไปเลย... มันเกิดอะไรขึ้นที่ใต้เหรอครับ...
ผมได้แต่มองมือถืออย่างมึนงง แล้วหันไปมองคนที่นั่งกดมือถือเล่นเกมยิก ๆ อยู่ข้าง ๆ

ลงรถเมล์ ขึ้นรถไฟฟ้า ลงมาซ้อนมอไซต์ก่อนจะหอบสังขารขึ้นตึกกันไป หน้าพายุนี่บูดสนิทครับ เหงื่อชุ่มมาเต็มหลัง ฉ่ากันไปล่ะนะ

ไม่รู้ว่าปกติวิศวะจะพาลุยเลอะอยู่แล้วหรือว่าอะไรนะครับ ถึงไม่มีเสียงบ่นเลย แม้ว่าจพามันขึ้นรถลงเรือแค่ไหน ก็นับว่าดีอยู่ล่ะนะครับ (เพื่อนผมบางคนลูกคุณหนู เดินนิด ฝุ่นหน่อย บ่นเป็นหมีกินรังแตน)

“ไง มาถึงแล้วเหรอ ก่อนเวลาเหมือนเคยนะ ลมหนาว”พี่ยะ ยกมือทักทายผม พี่โทโตยะเป็นลูกครึ่งไทย ญ่ปุ่นครับ ส่วนใหญ่พี่แกอยู่ไทยนี่แหละ แต่ก็บินไปญี่ปุ่นบ่อยเหมือนกัย พ่อแม่ของพี่เขาอยู่ที่นั่นน่ะครับ “นี่เพื่อนที่ทิวบอกเนอะ ใช้ได้นิ พายุสินะ สวัสดี พี่ชื่อโทโตยะ เรียกยะเหมือนเจ้าหนาวมันนั่นแหละ สั้นกี”

พี่ยะหรี่ตาลงมองพายุ แล้วหันมามองผม สลับไปมา ก่อนจะยิ้มอย่างพอใจ แล้วดีดนิ้วดังเป๊าะ

“ตอนแรกพี่กะว่าจะถ่ายคอนเซปเปลวไฟกับน้ำแข็ง จริง ๆ มันก็ได้อยู่หรอก แต่มองแล้ว พี่ขอเปลี่ยนคอนเซปไปถ่ายอีกอันดีกว่า”พี่ลูกครึ่งคว้าเอามือถือขึ้นมากด ๆ คงจะสั่งอะไรทีมงานของพี่เขาล่ะมั้งครับ “เรามาถ่าย เทวากับซาตาน... มิคาเอลกับลูซิเฟอร์กันดีกว่า”

“... ครับ”รับงานมาแล้ว จะคอนเซปอะไรก็ไม่เป็นปัญหาหรอกครับ เปลี่ยนนิดเปลี่ยนหน่อยคงไม่อะไร

พี่ยะกดโทรศัพท์สั่งงานรัว ๆ เพียงครู่เดียวก็มีพี่ผู้ชาย... หรือเปล่าคนนึงเดินมาพาพวกผมไปที่ห้องแต่งตัว พร้อมกับพี่สาวอีกคนที่หยิบเสื้อผ้าชุดแรกมาให้

“เราจะถ่ายกันสามเซ็ตนะคะคุณน้อง เป็นเซ็ตบนโลก บนสวรรค์ และการรบ  เซ็นแรกนี่เป็นเซ็นสวรรค์ก่อนนะคะ เอานี่ค่ะคุณน้อง เปลี่ยนชุดเร็ว จะได้ไม่เสียเวลาเนอะ”

ผมไปเปลี่ยนชุดตามที่พี่เขาสั่ง ชุดของผมเป็นโทนสีขาวฟ้า ดูไม่มีอะไรนะครับ แต่ช่องคอเสื้อผ้าจะถูกเย็บอย่างมีลูกเล่น ใส่ออกมาแล้วเหมือนมีผ้าคลุมไหล่ ทั้งที่เป็นเสื้อตัวเดียว ส่วนกางเกงก็เป็นเดฟธรรมดา ผมออกไปนั่งให้พี่เขาแต่งหน้าให้ ถึงจะมีพื้นหน้าดียังไง จะถ่ายให้ขึ้นกล้องก็ต้องพึ่งเครื่องสำอางกันบ้างล่ะครับ

พายุออกมาหลังผม ชุดของหมอนั่นจะออกโทนสีเทา แวบแรกผมก็แปลกใจว่าทำไมไม่สีดำ แต่นะครับ ธีมบนสวรรค์ คงดำไม่ไหว

นอกจากชุดของพายุจะดูใส่ยากกว่าผมแล้ว หน้าก็ยังแต่งนานกว่าผมด้วยล่ะครับ เอาเข้าจริง พายุเป็นคนที่รูปหน้าคมอยู่แล้ว แต่งไม่เยอะหรอกครับ แต่มันต้องแต่งให้เข้มขึ้นเลยช้าหน่อย ระหว่างรอพี่ยะก็ไม่ได้ปล่อยให้เวลาเสียเปล่าหรอกครับ พี่เขาให้ผมถ่ายเดี่ยวเซ็ตของผมก่อน เสร็จจะได้ต่อของพายุและเซ็ตคู่เลย

ผมทำงานด้านนี้มาหลายรอบแต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่คล่องเท่าไหร่ ยังมีขัด ๆ เขิน ๆ อยู่พอเล็กน้อยล่ะครับ ไม่เคยชินกับการเป็นเป้าสายตาน่ะครับ แต่สำหรับพายุ ผมคิดว่านี่เป็นครั้งแรกที่หมอนั่นมาทำงานถ่ายแบบ... แต่ดูยังไงก็เหมือนมือโปร

เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ครั้งที่ประกวดดาวเดือนแล้วล่ะครับ พายุเป็นนายแบบที่มีเสน่ห์ดึงดูดสายตาแต่ตอนนั้นหมอนั่นออกท่าไม่เก่ง แล้วก็ยังยิ้มให้สว่างอย่างที่สมกับความเป็นเดือนไม่ได้ ผมเลยได้ขวัญใจช่างภาพมา

แต่ถ้าตัดสินด้วยรอยยิ้มเยาะ หรือรอยยิ้มแบบพวกคาสโนว่า แบดบอย ผมว่ามันกวาดเรียบทุกรางวัล เพราะขนาดพี่ยะที่ถูกใจอะไรยากยังพอใจเลยนี่ครับ

เซ็ตเดี่ยวผ่านไป ตามเรื่องแล้วสองตัวละครนี้ไม่ค่อยพบกันส่วนบนสวรรค์ เซ็ตคู่เลยน้อยมากแค่ไม่กี่รูป ผมกับพายุถูกพาไปเปลี่ยนชุดเป็นเซ็ตบนโลก

ชุดของบนโลกก็เป็นชุดธรรมดา ผมได้เสื้อแขนยาวลายทางตัวหลวมกับกางเกงยีน และใส่ไม้กางเขนเอาไว้กับแว่นไม่มีกรอบ ส่วนพายุเป็นเสื้อแขนสั้นสีดำกับผ้าพันคอสีเทาผืนยาวพร้อมกับแว่นกันแดดอันนึง

การสื่ออารมณ์ของภาคบนโลกจะเป็นการเป็นเพื่อนสนิทที่รักกันมาก แต่ถูกหักหลังในตอนหลัง เป็นการถ่ายภาพคู่ซะส่วนใหญ่

"ใกล้กว่านี้ได้ไหม"พี่ยะส่งเสียงมา พายุมันก็โน้มหน้าเข้ามาอีก ใกล้กันจะจมูกจะชิดกันอยู่แล้วนะครับ พี่ "นิ่งไว้ก่อนนะ หนาว จ้องตาพายุกลับ"

มันเป็นฉากที่ร่างมนุษย์ของลูซิเฟอร์รู้ว่าร่างมนุษย์ของมิคาเอลได้รับความรักจากผู้หญิงที่ตนรักไป และจะแต่งงานกับเธอ ทำให้เขาโกรธหนัก

และความสัมพันธ์ทั้งหมดก็สะบั้นลง ลูซิเฟอร์หันหลังให้กับพระผู้สร้างอย่างไม่หวนกลับ ปีกสีขาวสว่างไสวนั้นกลายเป็นสีดำสนิท ร่างก็เปลี่ยนไป

สิ้นสุดของภาพเซ็ตนี้คือผมต้องล้มลง โดนลูซิเฟอร์ฆ่าตาย...

"โอเค เยี่ยมมาก เหลืออีกเซ็ตเดียวแล้ว"พี่ยะแกพูดขึ้นด้วยเสียงที่พอใจสุดขีด "บ่ายสามแล้วเหรอเนี่ย... กินข้าวกิน กินข้าว พัก ๆ"

"ค้า/ค้าบ"ทีมงานที่ร่วมงานกันมาวิ่งแตกฮือไปหาอาหารใส่ท้องกันทันที หลังจากหิ้วท้องรอคำสั่งนี้มาตั้งหลายชั่วโมงแล้ว

"เอ้า ๆ นี่ ข้าวกล่อง"พี่ยะเอาข้าวกล่องมาส่งให้ผมกับพายุมัน "ไม่ใช่ของกองหรอกนะ อันนี้ทิวมันสั่งมาให้พี่สั่งมาให้เป็นพิเศษ"

"ครับ"ก็ว่าล่ะครับ กองที่ไหนจะมีซูชิไข่ปลาแซลม่อน ข้าวหน้าปลาไหล แล้วก็ซาซิมิให้กินกันขนาดนี้ล่ะครับ "จริง ๆ แค่ข้าวราดแกงสักอย่างก็พอแล้วล่ะครับ พี่ยะ"

"เจ้าทิวได้มองพี่ตาขวางสิ แค่นี้ไม่เป็นไรหรอก พี่ให้แม่บ้านที่บ้านทำให้ รับรองว่าอร่อยกว่าตามร้านแน่นอน"พี่ยะขยิบตาให้พวกเราแล้วคว้าข้าวกล่องส่วนของตัวเองเดินออกไป “เดี๋ยวพี่ไปดูพวกทีมงานก่อนนะ”

ผมกับพายุนั่งกินข้าวกลางวันของตัวเองกันเงียบ ๆ อยากพูดนะครับว่าแปลกที่มันไม่หันมากวนประสาทผม... แต่ก็ไม่เต็มปากเท่าไหร่ หลัง ๆ มานี้คุณชายโซนร้อนก็ไม่ค่อยกวนเบื้องล่างผมเท่าไหร่แล้ว

เอาเข้าจริงเวลาไปคุยกับเพื่อนคนอื่นที่อยู่ต่างคณะกันอย่าพวกศิลปะศาสตร์ ครุ นิเทศ พวกนั้นก็บอกนะครับว่าพายุมันไม่เห็นจะกวนตีนอะไรออกไปทางเฟรนด์ ๆ ยิ้ม ๆ ด้วยซ้ำ อยากจะค้านหัวชนฝาว่าไม่จริง แต่คนอื่นเห็นพ้องเป็นเสียงเดียวกันหมดเลย

“มีอะไร ลมหนาว”คนที่ผมเหลือบมองอยู่ หันหน้ามาหาแล้วเลิกคิ้วให้เชิงถาม พร้อมกับกระตุกยิ้มยั่ว “ไม่เคยเห็นเดือนมหาลัยหรือไงครับ”

“ผมจะถือว่าไม่ได้ยินคำพูดหลงตัวเองพวกนั้นแล้วกัน”พายุมันหัวเราะเบา ๆ แล้วเงียบไป หน้าของมันตอนนี้ดูยังไงก็ไม่กวนประสาทเหมือนเคยหรอกครับ... ตาที่คมอยู่แล้ว พอกรีดอายไลน์เนอร์ไปยิ่งคมใหญ่ แล้วดั้งที่ไล่จนโด่งกว่าเก่านั่นอีก

เอาเถอะครับ ถือว่าคนในมหาลัยผมตาไม่ถั่ว ที่ยกให้มันเป็นเดือนมหาลัยก็แล้วกัน

พอเรากินข้าวกันเสร็จ ก็ไปเปลี่ยนชุดถ่ายเซ็ตสุดท้าย ถามว่าทำไมมันไว ก็พี่ยุแกไม่ได้ทำเป็นโฟโต้บุ๊ค เขาต้องการจริง ๆ แค่รูปสองรูปไว้โชว์เท่านั้ล่ะครับ แต่ละชุดเลยไวหน่อย เป็นสตอรี่สั้น ๆ

แล้วอีกอย่าง การถ่ายมันไม่มีอะไรติดขัด ไหลลื่นไปได้ไวอย่างไม่น่าเชื่อสักเท่าไหร่เลยครับ

การถ่ายรอบนี้เป็นอะไรที่ผมยอมรับว่าแฟนตาซีที่สุดจนถ้าน้องเทคผมเห็นคงต้องลุกขึ้นปรบมือบราโว่แน่ ๆ ของชอบของมันล่ะครับ

ผมหันไปมองคนที่แต่งตัวนานกว่าผมอีกครั้ง คงไม่แปลกที่มันจะแต่งตัวนานมั้งครับ ผมที่ซอยซันละต้นคอที่ผมปลอมช่อหนึ่งมาต่อให้ยาวแล้วมัดรวบเอาไว้ ใบหน้าคมนั่นถูกแต่งเครื่องหน้าให้ดุกว่าเดิม ชุดสีดำสนิท ดูหลายชิ้นใส่ยากอยู่

ว่าไปแล้ว ถ้าคุณชายโซนร้อนเขาเอาหนังหน้าสภาพแบบนี้ไปลงวินัย ถ้าน้องไม่กรี๊ดสลบ ก็หงอจนไม่เงยหน้ามามองล่ะครับ

เซ็ตนี้แต่งตัวนานกว่าเซ็ตอื่นเพราะมันหลายชิ้นเยอะแยะเกินจะพูดบ่นล่ะครับ ทั้งชุด ผ้าคลุม เครื่องประดับนี่นั่น เยอะครับ หนักพอดู

ผมได้ถ่ายก่อนเหมือนเดิม คราวนี้บนพื้นหน้าฉากเต็มไปด้วยขนนก ขนเป็ดสีขาว ดาบซีเปียร์ของทางยุโรปถูกเอามาให้ถือเป็นพร็อบประกอบ ตวัดท่าทางต่าง ๆ

ของพายุก็ไม่ต่างจากของผมเท่าไหร่ แต่เปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีดำ จากแสงที่สว่างไสว เป็นสลัว ดูดาร์กไปเลยล่ะครับ เน้นถ่ายซีนอารมณ์ ซึ่งหมอนั่นทำได้ดี

ดีจนเห็นความเจ็บปวดของลูซิเฟอร์ที่ถ่ายทอดออกมาจากตัวของเฮดวิศวะคนนั้น

หลังจากเซ็ตเดี่ยวของพายุจบ ก็ต่อเซ็ตคู่ ผมคิดว่าจะเป็นฉากแบบยกทัพฆ่าฟัน สงครามสวรรค์ แต่เปล่าครับ เป็นซีนอารมณ์

ในซีนตรงนี้จะต้องถ่ายทอดอารมณ์ออกมาให้มิคาเอล ผู้ภัคดีต่อพระผู้สร้างอ้อนวอนให้ลูซิเฟอร์ผู้เป็นที่โปรดปรานของพระองค์มากที่สุดกลับใจ และฉากที่ลูซิเฟอร์สิ้นใจอยู่ในอ้อมแขนของมิคาเอล

เป็นรูปที่ดูไม่น่าจะถ่ายยากอะไรใช่ไหมครับ แต่อย่าลืมว่ามันคือภาพนิ่ง ไม่ใช่ภาพเคลื่อนไหว ไม่มีบทพูด ไม่มีซับไตเติ้ลให้ดู
ขึ้นอยู่กับนายแบบและตากล้องล้วน ๆ แล้วจะบอกว่าง่ายได้ยังไงครับ

กว่าจะถ่ายเสร็จก็ฟ้ามืดแล้วพี่ยุพาไปกินข้าวแล้วจะไปส่งที่หอ แต่ยังไม่ทันจะกินกันเสร็จงานก็เข้าพี่แกก่อน จนต้องขอตัวกลับไปท่าทางรุกรี้รุกลน

“อา... ฝนตก”พายุมันพึมพำออกมาเบา ๆ ในขณะที่พวกเราสองคนยืนอยู่หน้าร้านอาหาร ละอองน้ำโปรยปรายลงมาจากฟ้าอย่างไม่คิดจะเกรงใจพวกผมบ้าง “ลมหนาว”

“ครับ”ผมขานรับแห้ง ๆ รู้สึกเหมือนพามันมาลำบากยังไงพิกลก็ไม่รู้นะครับ เดินทางก็ไกล ต่อรถก็หลายรอบ นี่มาติดฝนกันอีก

ให้วิ่งฝ่าฝน ลุยน้ำกันไปมันไม่เท่าไหร่หรอกครับ แต่คิดถึงการจราจรของเมืองกรุงยามที่ฝนตกแล้วจะกลับไปถึงที่หอกันกี่โมงก็ไม่รู้

“ไปนอนที่คอนโดผมก่อนไหม”ผมหันไปมองหน้าคนพูดอย่างไม่เข้าใจ พายุมันกระตุกยิ้มบาง ๆ “แถวนี้ไม่ไกลจากคอนโดเท่าไหร่ ยังดีกว่านั่งรถไปเป็นชั่วโมง ๆ ล่ะมั้ง”

“คุณมีคอนโดด้วยเหรอ?”ผมถามกลับไปอีกที ถึงพอจะรู้ว่าเฮดวินัยวิศวะจะค่อนข้างมีฐานะ แต่ไอ้เรื่องคอนโดนี่ไม่เคยแว่วเข้าหูมาก่อน (เข้าใจกันนิดนึงครับ เรื่อซุบซิบของคณะคู่อริมันมีมาตลอดอยู่แล้ว)

“ผมไม่ได้จนนะ”เหมือนมันจะตอบไม่ตรงคำถาม... คุณชายโซนร้อนหัวเราะในลำคอเบา ๆ “ของที่บ้านน่ะ ไปกันเถอะ”

ผมเดินตามหลังหมอนั่นไปต้อย ๆ เป็นอย่างที่มันบอก คอนโดที่ว่านั้นไม่ไกลจากร้านอาหารที่พวกเราไปกินกันเท่าไหร่ แถมยังเป็นห้องสูทอย่างหรูด้วย

“นี่เสื้อผ้า ผมไม่ค่อยได้มาค้างเท่าไหร่ เสื้อผ้าใหม่ ๆ เลยคงไม่มี ใส่ไปก่อนแล้วกันนะ”ผมรับชุดนอนเนื้อดีมาไว้ในมือ ตามด้วยผ้าขนหนู จะหัวแข็งปฏิเสธไปก็ใช่ที่นี่ครับ ถิ่นของเขา

ผมอาบน้ำออกมาก็เห็นเจ้าของห้องจัดที่นอนแบ่งครึ่งเอาไว้ พายุเห็นผมเดินออกมาแล้วเลยไปหยิบเอาเสื้อผ้าตัวเอง เดินเข้าไปอาบน้ำบ้าง ส่วนตัวผมได้แต่ยืนมึนอย่างกลางห้องแบบนี้จนคนที่เข้าไปอาบน้ำเดินออกมา

“อยากนอนฝั่งไหนก็เลือกเลย ผมให้คุณเลือก”

“อะ... อืม”

นี่นับว่าเป็นครั้งแรกเลยครับที่ผมมานอนกับคนที่ไม่สนิทด้วย แล้วก็เป็นครั้งแรกในรอบสามปีที่ออกมาค้างกับคนอื่นโดยไม่มีแผนอะไรมาก่อน

“ไม่ต้องเกร็งหรอกน่า ผมไม่ลุกขึ้นมาปล้ำคุณหรอก เหนื่อย!”

เออ ขอบคุณครับ!!

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

หายไปนานอีกแล้ว ขอโทษด้วยค้า ออดๆแอดๆ มากช่วงนี้ TT มาต่อแล้วนะคะ ^^

ตอนต่อไป พบกันคือพรุ่งนี้ค่ะ

ขอบคุณที่ยังไม่ทิ้งกันนะคะ ^3^

ออฟไลน์ ยอดมนุษย์ขนมปัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
 :a5: มาต่อแย้วววหยอออ


อุ๊ยยย งานนี้อาจมีเฮ  :hao6:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-08-2015 00:52:26 โดย OrangeCaramel »

ออฟไลน์ alt1991

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :z1: ปล้ำ  :hao6: ปล้ำ  :pighaun: ปล้ำ  :haun4: ปล้ำโดดดดดดดดดดดดด  :call:โอมมมม จงปล้ำ ๆ ๆ ๆ

ออฟไลน์ fahsida

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
มาแล้วๆ ลมหนาวกับโซนร้อน คิดถึงๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
อร๊ายยยยย ตอนนี้เขาไม่ทะเลาะกันแหละ
แถมไปนอนด้วยกัน?อีก อิอิ  ヽ( ´¬`)ノ

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
เตียงเดียวกันนนน

ตอนเช้าต้องตื่นมาเจอกอดกันกลมแน่ๆเลย

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
:a5: มาต่อแย้วววหยอออ


อุ๊ยยย งานนี้อาจมีเฮ  :hao6:

ขอโทษที่หายไปนานนะคะ

:z1: ปล้ำ  :hao6: ปล้ำ  :pighaun: ปล้ำ  :haun4: ปล้ำโดดดดดดดดดดดดด  :call:โอมมมม จงปล้ำ ๆ ๆ ๆ

ไม่ปล้ำ ไม่ปล้ำ ไม่ปล้ำ 5555 น้ำยาพายุยังไม่มาค่ะ...

ออฟไลน์ nsai.ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 412
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
โซนร้อน...นายต้องปล้ำดิจริงๆแล้วอ่ะ เรารอให้นายปล้ำลมหนาวนะ กร๊ากกก~!!!

ออฟไลน์ threetanz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
สมกับการรอคอยค่ะ สนุกมากเลย

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
วันที่สามสิบสอง

(ทิวไผ่)

ผมปล่อยให้ลมหนาวไปทำงานกับพายุลำพัง เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ผมหางานพิเศษให้เขาเลยครับ แต่ทำยังไงได้ เด็กน้อยของผมป่วยแบบนี้ จะให้ผมทิ้งเขาไปก็กระไรอยู่ ผิดหลักจรรยาบรรณผมขั้นรุนแรง

ใบหน้าหวานซีดเซียว ร่างเล็กขดนอนจมฟูกบนเตียงนุ่ม มีอาการไอบ้างเป็นระยะ ผมฉีดยาไปแล้วเข็มนึง ถ้าไม่เป็นอะไรมากสักพักคงจะดีขึ้น

ตั้งแต่ช่วงสอบกลางภาค ผมเห็นข้าวทำงานดึกทุกคืน ทั้งที่น่าจะเสร็จตั้งแต่ก่อนสอบแล้ว แต่พอช่วงสอบก็ยังเห็นทำอยู่เหมือนเดิม พอผมเอ่ยถามก็ยิ้มเจื่อน ๆ ให้แล้วบอกกลับมาว่าไม่พอใจกับงานที่ทำก่อนหน้าเลยแก้

แต่ถ้าแค่แก้ ก็ไม่น่าจะรื้อใหม่หมดแบบนี้ อันนี้เล่นทำใหม่หมดเลย เปลี่ยนรูปแบบ เปลี่ยนคอนเซป เปลี่ยนทุกอย่างเหมือนกับเป็นงานคนละชิ้น

เดาว่าคงมีอะไรมากกว่าที่ผมเห็น แต่เจ้าตัวไม่ยอมบอกผมแน่... มันอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ผมควรจะเข้าไปยุ่ง ถ้าไม่ใช่ว่ามันเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กดีของผมต้องมานอนซมแบบนี้

ผมถือวิสาสะหยิบเอามือถือของข้าวขึ้นมาเปิดดู ถึงจะล็อครหัสเอาไว้ใช่ว่าผมจะเปิดดูไม่ได้ จริงไหมครับ รหัสง่าย ๆ ที่เห็นบ่อย ๆ แค่นี้ สบาย

ไล่ดูทั้งข้อความมือถือ ทั้งเฟสบุ๊คดูไม่มีอะไรผิดปกติ ออกไปทางเงียบ ๆ ด้วยซ้ำไป เปิดข้อความไลน์ดูอีกอย่างแล้วกัน ถ้าไม่ได้เรื่อง ผมคงต้องไปที่คณะเอา

Min^_−☆ : ฟาง เป็นไงมั่ง โอเคไหม

Min^_−☆ : วันหลังนายอย่าเอางานมาก่อนเวลาส่งเยอะ ๆ แบบนี้เลย

Min^_−☆ : พวกนั้นมันคิดแต่เรื่องสกปรกแบบนี้แหละ อ.ก็ทำปิดตา

Min^_−☆ : แย่ชะมัด


ข้อความที่ข้าวคงเปิดดูแล้ว แต่ไม่ตอบอะไร ผมมองชื่อไลน?แล้วเก็บไปหาในเบอร์โทร ก่อนจะมาเมมในเครื่องตัวเอง แล้วเอามือถือข้าวไปวางที่เดิม

"เอาล่ะ"ผมเดินออกไปอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ก่อนที่จะกดโทรศัพท์โทรหาเข้าเบอร์ที่เมมเอาไว้ และเบอร์ที่ข้าวโทรหามากที่สุด... มิน
"ฮัลโหลครับ"เสียงที่ฟังดูสดใส ทุ้มหวานเอ่ยขึ้นผ่านสายโทรศัพท์มา "ฮัลโหล สวัสดีครับ"

"ครับ ใช่มิน เพื่อนของฟางข้าวไหมครับ"ผมลองถามเพื่อความแน่ใจเล็ก ๆ ทั้งที่มันคงจะแน่นอนอยู่แล้วว่าต้องเป็นเบอร์ของเขา

"ครับ... นี่คือ?"เสียงที่บอกถึงความสงสัยถูกส่งกลับมา

"ผมเป็น... พี่ชายเขาน่ะครับ"ฐานะผมกับข้าวยังคงเป็นพี่น้อง ถึงผมจะเคยนอนกับน้องคนนี้ก็ตามทีเถอะ... แต่ก็ครั้งเดียวที่เขาขอนั่นล่ะครับ

ผมรู้ว่าข้าวคิดยังไงกับผม แต่มันยากที่จะพูดออกมา และจะดำเนินต่อไป

"อ่อ ฮะ แล้วฟางล่ะฮะ"เพื่อนของข้าวถามกลับมาเสียงใสเหมือนเดิม

"ข้าวไม่สบาย นอนอยู่"

"เอ๋... ไม่สบาย เป็นอะไรมากไหมฮะ"มินถามผมด้วยเสียงร้อนรน "ง่า... ให้เขาพักเยอะ ๆ นะฮะ บอกเขาว่างานคู่ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมทำให้เอง"

"ครับ... มินครับ"ผมเรียกคนในสายเสียงนิ่ง ๆ "เกิดอะไรขึ้นครับ ทำไมช่วงก่อนสอบข้าวถึงเอางานมาทำใหม่ แล้วข้อความในไลน์ที่มินส่งหาข้าวอีก"

"อ่า... มันพูดยากนะฮะ"เสียงที่ฟังชัดนั้นอ่อยลงอย่างเห็นได้ชัด "คือ... มันมีปัญหานิดหน่อย จะบอกยังไงดี มันก็เกือบจะถือว่าเป็นเรื่องปกติของคณะนะฮะ แบบว่า การขโมยงาน..."

"มาที่คอนโดaaa นะครับ พี่อยากรู้เรื่องมากกว่านี้"ผมตัดบท ก่อนที่จะฟังไม่รู้เรื่อง มาคุยต่อหน้ากันเลยจะดีกว่า รู้เรื่องชัด ๆ กันไป

"อา... ผมอยู่ชั้นสี่ ห้อง 406 ฮะ..."มินตอบกลับผมมาด้วยน้ำเสียงที่ลังเล "พี่อยู่คอนโดนี้เหมือนกันเหรอฮะ"

"เดี๋ยวพี่ลงไปหา"โลกกลมดีนะครับ เพื่อนข้าวคนนี้คงมีฐานะพอดู ถึงมาอยู่คอนโดห้องราคาหลักล้านนี่ได้ "เปิดประตูให้ด้วยนะครับ"

"ฮะ"เขาขานรับ ผมวางสายไปแล้วหยิบสารพัดของ เดินออกจากห้องลงไปชั้นสี่ที่ใครบางคนอยู่

ผมกดกริ่งหน้าห้องเรียกให้คนข้างในมาเปิดประตู เด็กน้อยปีสองที่ไม่ระวังตัวเปิดประตูพรวดมาหาผมโดยไม่มองตาแมวสักนิด

"พี่ชายของฟางใช่ไหมฮะ"ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตเหลือบขึ้นมามองผม รอยยิ้มสดใสฉาบทับใบหน้าเหมือนคนที่มีความสุขตลอดเวลา "เข้ามาก่อนสิฮะ"

"นี่เปิดประตูให้ทุกคนที่มาหาแบบนี้ทุกครั้งเหรอ"ผมถามเสียงนิ่ง ๆ มุ่นหัวคิ้วน้อย ๆ เมื่อเด็กมินหันมามองผมตาใสแล้วยิ้มกว้างให้ "เรานี่ ถ้าเจอคนไม่ดีเข้ามาทำไง"

"แหะ ๆ ต่อไปผมจะระวังนะฮะ"คนตรงหน้ายิ้มเจื่อน เกาหัวเล็ก ๆ แก้เก้อ ก่อนจะผลุบหายไปไหนไม่รู้ ทิ้งให้ผมนั่งอยู่หน้าทีวี "น้ำฮะ"

"น้ำองุ่น"ผมเลิกคิ้วมองเด็กผู้ชายหน้าใส ตาใส ปากเล็กแดง แก้มใสมีสีเรื่อสุขภาพดี เส้นผมสีน้ำตาลยาวละเลยคอลงมาเล็กน้อยที่รวบส่ง ๆ ไว้... น่ารัก "พี่มากวนเวลาพักผ่อนใช่ไหม"

"ไม่หรอกฮะ ผมอยู่คนเดียว มีใครมาบ้างก็ไม่เงียบดีฮะ"ดวงตาคู่นั้นฉายแววเหงา ๆ วูบนึง ก่อนที่จะกลัลมาสดใสเหมือนเดิม "พี่อยากรู้เรื่องของฟางข้าวใช่ไหมฮะ"

"อืม"ผมขานรับในลำคอ

"คือ มันก็อาจจะเป็นเรื่องปกติของคณะที่ใช้ผลงานแลกคะแนนนะฮะ ถ้าเอางานไปก่อนวันส่งแล้วอาจารย์ยังไม่รับส่ง ก็มักจะถูกขโมยไอเดียไปตัดหน้าทำส่งก่อน เราส่งที่หลังมันก็ถูกบอกว่าลอกมา ให้แก้ ไม่ให้ผ่าน"ปากแดง ๆ นั่นขยับเล่าเรื่องที่ผมอยากรู้ออกมา "จริง ๆ วันนั้นฟางนัดส่งอาจารย์ แต่อาจารย์ติดธุระ เพื่อนในคณะมาขอดูงาน เสร็จปุ๊ปวันต่อมางานที่เขาเอาไปส่งก็เหมือนของฟางไปซะ 80%แล้ว ฟางเลยต้องตัดใจไม่อยากมีปัญหามาทำใหม่หมดเลย"

"แล้วทำไมไม่บอกอาจารย์"

"พี่ฮะ อาจารย์เขาไม่รู้หรอกฮะว่าใครทำก่อน ใครทำหลัง พูดไปอาจารย์ก็มาสอบสวนไปงั้น ๆ นามสกุลไม่ใหญ่พอจะให้เขาเกรงใจนี่ฮะ"ปากที่ยกยิ้มนั้นตกลงบึ้งตึง "จะโทษอาจารย์ก็ไม่ได้ ในเมื่อคนมันไม่มีจิตสำนึกนี่ฮะ"

สีหน้าของมินเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามอารมณ์ที่พูดออกมา จุดประสงค์ของผมจริง ๆ คือมาคุยเรื่องของข้าว แต่ทำไมผมถึงมานั่งอมยิ้มดูคนตรงหน้าแบบนี้กันนะ

กับข้าว ผมเอ็นดูในฐานะน้องชายคนนึงที่น่าสงสาร ต้องการการปกป้องดูแล แต่กับมิน แวบแรกที่ผมได้เห็น... มันถูกใจ ถูกชะตา

"เอาเถอะ คราวต่อไปพี่จะจัดการเอง ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้อีก มินมาบอกพี่นะครับ"ผมยิ้มให้น้องเขาบาง ๆ "ทั้งของมินและของข้าวเลย"

"ฮะ"หัวทุย ๆ ผงกรับรัว ๆ พร้อมกับรอยยิ้มที่ฉาบทับจนแก้มป่อง ๆ นั่นจะแตกแล้วมั้งครับ "ฟางนี่ น่าอิจฉาจังเลยน้าา เฮ้อออ"

"ทำไมล่ะ"ผมถามคนที่บ่นลอย ๆ ออกมา มินหันมายิ้มเผล่ให้ผม

"ก็มีพี่ชายพี่สาวที่คอยดูแลแบบนี้ ดีออก ผมเคยหวังอยากมีพี่สักคนมาดูแล แต่ลูกหลงอย่างผมได้แต่หวังน่ะฮะ พี่ ๆ ทำงานมีครอบครัวกันไปหมดละ ผมเลยได้แต่ดูแลตัวเองไป"เสียงหัวเราะใส ๆ กลบเกลื่อนความรู้สึกจริง ๆ เอาไว้ แต่มันไม่ได้ช่วยเลยนะครับ ใคร ๆ ก็ดูออก เมื่อเจ้าตัวเล่นแสดงออกทุกอย่างบนใบหน้า ในแววตาแบบนั้น

"เหงาเหรอครับ"

"ก็นิดหน่อยนะฮะ บางทีก็อยากมีใครสักคนมานั่งคุย นั่งฟังน่ะฮะ แต่ช่างเถอะ"รอยยิ้มที่สดใสถูกส่งมา

ผมคิดว่าเขาคงถูกเลี้ยงมาด้วยความรักอย่างล้นเหลือเลยล่ะครับ ถึงยิ้มได้ขนาดนี้ หัวใจที่ขาวสะอาด และบริสุทธิ์ ไม่เสแสร้งที่จะบอกห่วงเพื่อน มองโลกในแง่ดี เป็นเหมือนดวงตะวันที่ให้แสงสว่างกับคนที่เจอ

"มาคุยกับพี่ก็ได้ พี่อยู่ห้องบนสุด ถ้ามีอะไรอยากคุย อยากมาอ้อน ก็มาได้ตลอด"ค่กลม ๆ นั่นเบิกกว้าง ปากเล็ก ๆ อ้าออกอย่างกับปลาทองขาดน้ำ

"พะ พี่ พี่เป็นลูกเจ้าของคอนโดเหรอฮะ"เจ้าตัวถามออกมาอย่างซื่อ ๆ ทำให้ผมอดที่จะหัวเราะในลำคอไม่ได้ "พี่ทิวเหรอฮะเนี่ย"

"พี่ยังไม่ได้บอกชื่อพี่กับเราหรือไง"มินส่ายหัวผมหน้าม้าสะบัด

"ฟางไม่เคยจะบอกกันมั่งเลย"แก้มขาว ๆ ฟองลมอย่างงอน ๆ ก่อนจะถอนหายใจยาว "แต่ฟางก็ไม่ค่อยบอกอะไรกันอยู่แล้วนี่..."

"น่า ก็ได้รู้แล้วนี่"ผมหัวเราะเบา ๆ แล้วลุกขึ้น "เดี๋ยวพี่กลับห้องก่อนนะ ใกล้จะได้เวลาต้องออกไปซื้อข้าวเย็นให้ข้าวละ เดี๋ยวตื่นมาไม่เจอใครจะกลัวเอา"

"ให้ผมทำให้ไหมฮะ"มินยิ้มแฉ่งส่งมาให้ "ผมทำอาหารอร่อยนะ ไม่ได้โม้... เอ้อ จริงสิ พี่เป็นพี่ชายของฟางจริง ๆ เหรอฮะ"

"คิดว่าพี่โกหกเหรอครับ?"

"ก็เปล่าฮะ ผมแค่สงสัย"เด็กน้อยยิ้มแห้ง ๆ ส่งมาให้ผม ก่อนจะหลุบตาลงหนี "ก็ฟางบอกผมว่าฟางอยู่กับคนที่ฟางชอบนี่ฮะ ผมเลยคิดว่าพี่เป็นคนรักของฟาง..."

"พี่ไม่เคยขอข้าวคบ"ผมบอกไปตามความจริง ว่าแต่ผมจะแก้ตัวไปทำไมกันล่ะ...

"แต่พี่นอนกับฟางแล้ว พี่ห้ามทิ้งฟางนะ"ผมหรี่ตามองเด็กรู้มากตรงหน้า ข้าวเอาเรื่องนั้นไปเล่าให้เพื่อนฟังด้วยเหรอเนี่ย "ไม่ต้องมามองแบบนั้นเลยนะฮะ ฟางไม่ได้เล่าให้ผมฟัง ผมสังเกตของผมเอง"

"พี่ไม่ได้รักข้าวแบบนั้น"ผมถอนหายใจเบา ๆ แล้วสบตากับคนตัวเล็ก... ดูแล้วดีไม่ดีเล็กกว่าข้าวซะอีก "พี่ไม่ทิ้งข้าวหรอก เพราะเขาคือน้องชายของพี่"

"แต่..."ตาของมินฉายแววไม่พอใจนักกับสิ่งที่ได้ยิน แต่มันคือความจริง ให้ผมดูแล ผมทำได้ แต่ให้ผมโกหกว่ารักเขา ผมทำไม่ได้

"พี่รู้ว่าข้าวชอบพี่ เพราะเขาไม่เคยได้รับความรักไม่ว่าจะรูปแบบไหน เขาเลยแยกไม่ออกระหว่างความรักในฐานะคนรักและพี่น้อง แต่พี่ไม่ใช่ พี่เอ็นดูเขาในฐานะน้องคนนึง sexกับความรักมันไม่ได้เดินไปด้วยกันตลอด พี่เชื่อว่ามินรู้ ข้าวขอ พี่ให้ได้แต่ความสัมพันธ์ทางกาย แต่ใจของพี่ไม่ใช่ของเขา"ไหล่เล็กตกลงอย่างหงอย ๆ มินแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเป็นห่วงเพื่อนมากแค่ไหน "พี่รู้ว่าข้าวก็รู้เรื่องนี้เหมือนกัน"

ผมยื่นมือไปลูบกลุ่มผมนุ่ม ๆ เบา ๆ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ลอยมาแตะจมูก กลิ่นที่สูดดมแล้วขวนให้สูดดมอีกเรื่อย ๆ

"ไปเถอะ ถ้าจะไปทำอาหารก็ไปพร้อมกัน"ผมผละออกจากร่างของเด็กหนุ่ม มินเดินไปหยิบเอาคีย์การ์ดมาแล้วเดินตามผมเงียบ ๆ

เงียบ... ได้พักเดียว

"พี่ฮะ พี่ว่าฟางจะตกใจไหมฮะ ที่ผมไปที่ห้องอ่ะ"

"คงนิดหน่อยมั้ง"

"จริงสิ พี่รู้จักฟางมานานแล้วเหรอฮะ"

"ไม่ พี่รู้จักข้าวไม่นานมานี้เอง"

"เหรอฮะ ฟางเป็นคนน่ารัก พี่อยู่กับฟางน่าจะรู้ดีกว่าผมล่ะเนอะ"

"ก็อาจจะนะครับ"

"ยิ่งตอนเด็ก ๆ ฟางยิ่งน่ารักนะฮะ ตาโต ๆ แก้มยุ้ย ๆ ขี้แยอีกต่างหาก"เสียงใสพูดเจื้อแจ้วเกี่ยวกับเพื่อนตัวเองไม่หยุด "แต่ฟางก็เป็นคนมุ่งมั่นนะฮะ เขาอยากทำอะไรก็พยายามทำให้ได้ตลอด..."

"ไม่พูดถึงตัวเองบ้างล่ะ"มินอ้าปากค้างไว้เมื่อผมสวนออกไป กระพริบตาปริบ ๆ อย่างงุนงง "พูดแต่เรื่องของข้าว ทำไมไม่พูดถึงตัวเองบ้าง"

"ก็... ก็ผม..."

"อยากให้พี่สนใจข้าว"ผมต่อให้เอง แล้วถอนหายใจ "พี่บอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าพี่ไม่ได้รักเขา"

"แต่ผมอยากให้พี่รักฟาง..."ปากเล็ก ๆ พึมพำออกมาเบา ๆ "ผมอยากให้ฟางได้รับความรักดี ๆ มีคนดี ๆ คอยดูแล คอยให้กำลังใจ ไม่อยากให้ร้องไห้เหมือนเมื่อก่อน ถึงฟางจะเป็นผู้ชายก็เถอะฮะ แต่ฟางโดนทำร้ายมาเยอะแล้ว ผมช่วยอะไรเขาไม่เคยได้เลย"

"มินช่วยข้าวมาตลอดไม่ใช่เหรอ"ผมโอบเอาร่างที่เล็กกว่าตัวเองเยอะเข้ามากอดหลวม ๆ "มินเป็นกำลังใจให้ข้าวมาตลอด นี่ก็ถือว่าช่วยข้าวแล้ว"

"แต่ว่า..."ผมแตะนิ้วไปที่ริมฝีปากนุ่มไม่ให้พูดอะไรต่ออีก

"เชื่อพี่นะครับ ทำอย่างที่มินทำได้ ดีที่สุดแล้วครับ"ผมบอกกับน้องตรงหน้าเสียงนุ่ม มินเม้มปากอย่างไม่แน่ใจนัก คงชั่งใจกับคำของผม "ฝืนไปก็มีแต่เสีย ทำอย่างที่ทำได้ และเป็นอย่างที่เป็นคือสิ่งที่ดีที่สุด จำไว้นะครับ"

"...ฮะ"มินถอนหายใจออกมาเบา แล้วยิ้มให้ผมอย่างสดใส "แต่ยังไงพี่ทิวก็ต้องดูแลฟางดี ๆ นะฮะ อย่าทำให้ฟางต้องร้องไห้นะฮะ"

"ไม่รับปาก แต่จะพยายามนะ"ผมเลื่อนมือไปขยี้ผมนุ่มนิ่มเบา ๆ "อยากรู้อยากเห็น เป็นห่วงนักก็มาที่ห้องพี่บ่อย ๆ สิครับ จะได้รู้ว่าข้าวเป็นยังไงบ้าง"

"อ๊ะ ๆ อย่าท้านะฮะ เดี๋ยวผมจะไปสิงที่ห้องทุกวันจนอดกอดกัน อย่ามาโวยวายนะฮะ"เด็กหนุ่มยิ้มยิงฟันส่งมาให้ ก็ยังคิดว่าผมนอนกับข้าวบ่อย ๆ เหมือนเดิม เด็กบื้อเอ๊ย

"งั้นพี่ก็ไปนอนกอดมินแทนละกันครับ"ผมหยอกกลับเด็กน้อยที่ทำหน้าเหวอใส่ ถูกใจจริง ๆ นะครับ เพื่อนข้าวคนนี้ หลากหลายอารมณ์อยู่แล้วไม่น่าเบื่อ

"พูดอะไรฮะพี่ ผมไม่ได้ชอบผู้ชายสักหน่อย"เด็กมินหัวเราะเสียงใส ดวงตาโตฉายแววขบขัน "ล้อเล่นแบบนี้มันขำนะฮะ ผมยิ่งบ้าจี้อยู่"

"บ้าจี้เหรอ..."ผมลากเสียงยาวแล้วรวมตัวเล็ก ๆ ของเด็กปีสองมา แล้วลงมือทันที

"ฮ่า ๆ ๆ ๆ อย่าครับ โอ้ย พี่ อย่า ฮ่า ๆ"มินดิ้นเร้า ๆ ในอ้อมแขนผม เสียงหัวเราะร่าดังก้อง "โอ้ย พี่ พอ ผมหายใจไม่ทันแล้วฮะ ฮ่า ๆ ๆ"

"เรียกชื่อพี่ก่อน เร็ว"แหย่ไปอีกสักนิด มินหัวเราะเสียงใสไม่หยุด

"ฮะ ๆ ฮ่า ๆ โอ้ย ปล่อยผมเถอะพี่ทิวไผ่ ฮ่า ๆ ๆ"ผมปล่อยน้องตามที่พูด หน้าขาว ๆ ขึ้นสีแดงก่ำหอบแฮก ดวงตาใสค้อนผมมาวงใหญ่

"โอ๋ ๆ"ผมพลิกมือไปมาหยอกคนตัวเล็กแล้วหัวเราะเบา ๆ "ไปกันเถอะ น่าจะใกล้เวลาหมดฤทธิ์ยาแล้ว เดี๋ยวจะทำอาหารไม่ทันเอา"

"ฮะ"หัวทุย ๆ พยักรับ พร้อมกับจะก้าวเดินไปต่อ ผมจะดึงให้น้องเขามายืนข้าง ๆ แต่เจ้าตัวก็หันมาชี้นิ้วใส่ผมก่อน "อย่านะฮะ ผมไม่เล่นด้วยนะ ห้ามแกล้งด้วย"

เป็นการขู่ที่ฟังดูกระเง้ากระงอดดีนะครับ มันเป็นอะไรที่ลมหนาวไม่มีทางทำ ข้าวก็ไม่เคยทำให้เห็นล่ะครับ เหมือนเด็ก ๆ แบบนี้
ผมแกล้งหยอก แกล้งแหย่มินไปถึงห้อง พอมาถึงเขาก็รีบวิ่งผลุบเข้าครัวหนีผมไปเลย โดยไม่ลืมที่จะหันมาทิ้งท้ายเอาไว้ให้ด้วย

"คนขี้แกล้ง"

ผมเดินหัวเราะเข้าไปดูคนป่วยในห้องที่ยังหลับสนิท เอาที่วัดไข้มายิงดูอุณหภูมิร่างการสักหน่อย ยังดีที่ไข้ลดลงแล้ว นอนพักกินยาอีกสักหน่อยก็คงหายดี

ดวงตาเหลือบมองไปทางห้องครัวที่ได้ยินเสียงข้าวของกระทบกันแว่ว ๆ ก่อนจะเข้าไปในห้องทำงาน หยิบเอาเอกสารฉบับนึงขึ้นมา... ยังจำประวัติของข้าวที่ผมให้คนหาเอาไว้ได้ใช่ไหมครับ มันยังมีประวัติของใครอีกคนที่ผมยังไม่ได้อ่าน... ใช่ เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของข้าว มิน...

นาย ภัทรดล อภิศิริสกุล ทายาทคนที่สามของผู้นำเข้าเครื่องอุปโภครายใหญ่ และหุ้นส่วนใหญ่คนนึงของการค้าน้ำมัน เป็นเด็กหัวดี เรียนดี แต่ใจอ่อน เก่งการคำนวนและวิทยาศาสตร์ อ่อนศิลปะ แต่มาเรียนนิเทศน์ เป็นเพื่อนกับข้าวมาตั้งแต่เด็ก แต่ไรมาก็ยอมเอาของดีกว่าให้ข้าวตลอด ถ้ามีรองเท้าสองคู่ คู่นึงของโปโล อีกคู่เป็นของอาดีดาส เจ้าตัวไม่เคยลังเลใจที่จะเลือกของโปโลและให้อีกคู่กับเพื่อนสนิท

แต่ถึงอย่างนั้น... คนเก็บตัวอย่างฟางข้าวก็ไม่เคยที่จะเปิดใจให้เพื่อนคนนี้เข้ามายุ่งเกี่ยวอะไรมากนัก

ประวัติดี สกุลดี หน้าตาก็ดี ไม่แปลกที่ข้าวจะเห็นตัวเองต่ำต้อย...

"ข้าวครับ ตื่นขึ้นมากินอะไรก่อนนะ"ผมกระซิบบอกน้องเบา ๆ แล้วประคองเอาร่างที่อ่อนแรงขึ้นมาพิงหัวเตียง ดวงตาคู่ฉ่ำจากพิษไข้ปรือปรอยขึ้นมอง

"พี่... ทิว"เสียงแหบพร่าเรียกชื่อของผมเบาหวิว

"อ๊ะ ฟาง ตื่นแล้วเหรอ เป็นไงบ้าง"เสียงใส่โผล่มาพร้อมกับถาดใหญ่ในมือ มินเดินซอยเท้าพุ่งเข้ามาหาข้าวอย่างเร็ว "กินข้าสก่อนนะฟาง"

"มิ...น"


(ฟางข้าว)

มินมาได้ยังไง... มินรู้จักกับพี่ทิวแล้วเหรอ ใคร ๆ ก็ชอบมิน พี่ทิวจะชอบมินไหม ถ้าพี่ทิวไปชอบมิน ผมไม่มีอะไรจะสู้มินได้เลยนะ

"เราป้อนนะ ฟาง"ผมกินข้าวอย่างไม่รู้รส กินยาตอนไหนก็ไม่รู้ สิ่งที่ผมรู้มีแต่รอยยิ้มของพี่ทิวที่มองมิน ท่าทางของพี่ทิวที่แกล้งหยอกมิน...

เรื่องพวกนี้มินไม่ทันคนเท่าผม... แต่ผมรู้ว่าพี่ทิวอยากได้มิน พี่ทิวเองก็มีเสน่ห์ มินจะต้องชอบพี่ทิวแน่ ๆ แล้วผมก็ต้องอยู่คนเดียวเหมือนเดิม

"ปวดหัวเหรอ ฟาง"มินปราดเข้ามาหาผม จับหัว จับหางอย่างเป็นห่วง "นอนก่อนนะฟาง ฟางจะได้หายไว ๆ กลับมาแข็งแรงนะฟาง"

"อืม..."นั่นสิ ผมหลับตาลงนอน ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ทุกอย่างอาจจะเป็นแค่ความฝัน พี่ทิวไม่รู้จักมิน และมินไม่รู้จักพี่ทิว
จิตใต้สำนึกผมรู้ดี... ว่ามินไม่มีทางทำร้ายผมได้ลง

ใช่... นับตั้งแต่เรื่องคราวนั้น มินก็ไม่เคยทำร้ายผมอีกเลย ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม

และมันจะต้องเป็นอย่างนั้น... ตลอดไป

ถึงพี่ทิว... จะไม่ได้รักผม แต่ขอแค่พี่เขายังดูแลผม อยู่ข้าง ๆ ผม ไม่ผลักไสผมไปไหน... ก็พอแล้ว

พอ... สำหรับคนที่ไม่เคยได้รับ... ความรักอย่างผม...

พอ... สำหรับคนอย่างผม

################################################

ตัวละครสุดท้ายของเรื่องมาแล้วค้าาา ฮิ้วววววว

มาเกือบท้าย แต่บทนำ ฮิฮิ

// ตอนหน้ากลับไปที่พายุลมหนาวค้า พี่ทิวหลบไปก่อน ฮ่าๆ ใกล้จะถึงจุดพีค(เหรอ)ของเรื่องแล้ววว

ปล. ยังค่ะ พายุยังไม่ได้แอ้มลมหนาวง่ายๆหรอกกกก

ปล.2 ใจเย็น ๆ อย่าเพิ่งตีความเกลียดพี่ทิวกันนะคะ... ให้พี่เขาได้พูดอะไรบ้างก่อนนนน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-08-2015 19:24:34 โดย midnight »

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
อ่านตอนนี้แล้ว รู้สึก อยากถีบพี่ทิวทิ้ง






ข้าวถ้าพี่ทิวเขามั่นใจว่าเขาไม่รักหนูขนาดนั้น






ก็ยอมรับแล้วทำใจ พยายามเรียนให้จบ






แล้วอยู่ด้วยตัวเองให้ได้ ปล่อยพี่ทิวเขาไป







ถ้าไม่รัก ไม่ต้องสงสาร ข้าวคงไม่ต้องการให้ใครมาเห็นใจ







ทนต่อไป อยู่กันไปก็เท่านั้น







พี่ทิว เห็นข้าวเป็นแค่น้องชาย หรือคนร่อนเร่พเนจรที่น่าสงสารเท่านั้น






พอไปเจอใครๆที่น่ารักเข้าตากว่า ข้าวมันก็แค่ คนอาศัยหรือตัวเกะกะเท่านั้นแหละ






เกลียดพี่ทิว :z6: สงสารข้าว

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
 :katai1:  แต่ก่อน ชอบอิตาพี่ทิวมากเลยนะ แต่ทำไมตอนนี้เกลียดหว่าาาาา  :z6:   

แต่ถ้าพี่ทิว เค้ารักมินจริงๆ ก็แอบสงสารนะ เพราะ ฟางจะเอาคำว่าเพื่อนเนี่ยแหละ มาขวางคำว่ารัก ของพี่ทิวกับมิน

สรุปแล้ว พี่ทิวผิดที่ ไม่ได้ชอบแต่ดันไปนอนกับฟาง  :katai1:

การที่นอนกับคนที่รู้จัก แล้วรู้ทั้งรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นคิดอะไรกับตน มันเป็นความสัมพันธ์ ที่มักจะนำปัญหามาให้ทุกคน

แต่สุดท้ายแล้ว ต่อให้ทิวกับมินไม่ได้คู่กัน  ถ้าพี่ทิวออกตัวขนาดนี้ว่าไม่ได้ชอบฟางข้าว สุดท้ายเค้าก็แรดๆไปหาคนอื่นอยู่ดี  :katai1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-08-2015 19:49:51 โดย yymomo »

ออฟไลน์ minnin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
อ้าวตกลงทิวไม่ได้คู่กะข้าวเหรอ ไมตอนเเรกบรรยายเหมือนทิวชอบข้าวเลยงง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด