วันที่หก
หลานเทคมัวแต่ยุ่งวุ่นวายเรื่องระเบียบ กับเรื่องที่จะลงน้อง และผลที่ได้ในแต่ละครั้ง ผมเลยลืมเรื่องสำคัญเรื่องนึงของทุกปีไปซะสนิทเลย ให้ตายสิ
พรุ่งนี้วันจับซองเทคของน้องปีหนึ่ง ไม่รู้ว่าน้องเทคผมจะทำซองเสร็จหรือยัง ตั้งแต่เปิดมายังไม่ได้คุยกับมันเลยด้วย
"เกด ทำซองเทคยัง"ผมสไกด์ไปหาน้องเทค ชื่อคุ้น ๆ ใช่ไหมครับ ฮ่า ๆ ก็ตากล้องประจำปีสองนั่นล่ะครับ น้องเทคคนเดียวของผมเอง
"ทำเรียบร้อยแล้วค้า"ไอ้เกดตอบกลับมาเสียงใส พร้อมเสียงดนตรีที่ดังลอดเข้ามาแว่ว ๆ "พี่หนาวเตรียมแกล้งน้องได้เลยยย"
"เหมือนที่แกล้งแกอ่ะนะ"ฮ่า นึกแล้วขำ ตอนที่เกดมันโทรมารายงานตัว กับมาขอพี่เทค ตอนนั้นผมลงมันไว้เบา ๆ (เบากว่าวินัยลงน้องนิดนึง) ก่อนจะรับเข้าสาย ถ้าไม่ติดว่ามันต้องเป็นตากล้อง มันคงมาเป็นวินัยด้วยกันแล้ว เด็กหน้านิ่ง ไม่ชอบยิ้มตามธรรมชาติ
"โหยยย เอาให้แรงกว่าตอนเกดจิ พี่หนาว"มันงอแงผ่านสายโทรศัพท์มา นึกหน้าออกเลยล่ะ ว่ามันต้องทำสีหน้ายังไงอยู่
น้องผมไม่ได้หน้าตาสวย น่ารัก หุ่นไม่ได้ดีเด่ แต่ใจเขาเต็มร้อย พร้อมที่จะทุ่มให้กับทุกอย่าง กิจกรรมแค่เรียก เขาก็มาให้เสมอไม่เคยขาด สายเด็กกิจกรรมจริง ๆ สายผม
"ไม่สงสารน้องเหรอ"ผมแหย่ถามน้องอย่างล้อเลียน เกดมันหัวเราะสวนมา ฟังดูสะใจพิกล ๆ "ว่าไง"
"บอกเลยว่า 'ไม่' ค่ะพี่"ชัดเจน แจ่มแจ้ง ไม่รู้ไปโกรธอะไรน้องมากันล่ะนั่น ถึงไม่ยอมให้น้องสบาย ๆ "จะแกล้งให้หนักเลย"
"ทำไม เกิดอะไรขึ้น"ผมถามอย่างสงสัย ปกติเกดเป็นคนเฉย ๆ อาจจะไม่ค่อยยิ้ม เส้นลึก แต่ไม่ค่อยเกลียดใคร "น้องทำอะไรให้เหรอ"
"มันกวนเกด"เอ่อ... แสดงว่าโดนกวนโอ๊ยมาเยอะ ถึงดูหงุดหงิดขนาดนี้... "เกดถ่ายรูปเก็บผลงานของชั้นปีอยู่ดี ๆ มาลากให้ไปถ่ายพอตเทรตให้ เวลาเดินสวนกันก็ทักซะเป็นเพื่อนเลย"
"ถือด้วยเหรอ"เกดมันเคยมีน้องเทคมาก่อน เรื่องแค่นี้ไม่น่าถือนี่น่า หรือโดนเยอะกันวะ "เอาน่า น้องมันแค่อยากสนิทสนมด้วย"
"งื้อออ"ฟังดูก็รู้ว่ามันไม่พอใจสักเท่าไหร่ เดี๋ยวก็คงดีขึ้นเองล่ะมั้ง "เกดไปทำงานก่อนนะ อาจารย์สั่งทำมายแมพส่งพรุ่งนี้"
"อืม ตั้งใจล่ะ เดี๋ยวพาไปเลี้ยงหนม"
เกดมันวางสายไปก่อนแล้ว ท่าจะยุ่งจริง ๆ เอาเถอะผมเองก็ต้องวางแผนงานอื่น ๆ เหมือนกัน ไม่ได้ว่างไปกว่าน้องเทคตัวกลมเลย
หวังว่าจะได้น้องนิสัยดี ๆ นะ
"คุณพายุ วันนี้ไม่รับน้องรวมนะครับ"ผมมาตึกคณะวิศวะเพื่อมาคุยกับคนที่ไม่อยากจะเจอหน้าสักเท่าไหร่ "วันนี้เมดเทคจะจับซองเทค เพราะอย่างนั้นจะไม่รับน้องรวมนะครับ"
"รวมกันก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรไม่ใช่หรือไง"มันโต้กลับมาพร้อมเลิกคิ้วขึ้น มุมปากยิ้ม ๆ แม่ง เข้าใจง่าย ๆ ไม่กวนสักวันจะตายไหมวะ
"แล้วคุณจะไม่เลือกดาวเดือนหรือไงครับ"ผมยกเรื่องที่เฉพาะสำหรับคณะมาพูด คราวนี้มันไม่แค่ยิ้มมุมปากแล้ว แต่ยิ้มมากว้าง ดวงตานี่พราวระยับมาเลย หรืออยากจะให้พวกผมเห็นดาวเดือนของพวกคุณก่อนวันที่จะแข่งจริงล่ะครับ คุณพายุ”
"อ้อ เตรียมจะแพ้แล้วสินะ ลมหนาว"เฮดของวิศวะลุกขึ้นยืดตัวสูง แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผม "ผมพร้อมจะชนะคุณแล้วนะ"
"ผมไม่มีวันแพ้คุณ คุณพายุ"ถึงจะอยู่ในดงของพวกวิศวะ ผมก็ไม่กลัวหรอกนะครับ คนเหมือนกัน มีสองมือ สองเท้าเหมือนกัน ถ้ามันหมาหมู่เล่นพวก ใกล้ ๆ นี้พวกแพทย์อยู่ ยังไงฝ่ายแพทย์ก็วิ่งมาช่วยผมได้... พร้อมสารพัดอุปกรณ์ผ่าตัด “คุณนั่นล่ะ ที่ต้องเตรียมรับความพ่ายแล้วแล้วคลานซมซานมาอยู่แทบเท้าของผม”
ให้มันรู้กันไปข้าง
ปัง!
พี่ยุมันทุบโต๊ะดังลั่นแล้วกระชากคอเสื้อผมให้เข้าไปใกล้ ๆ มัน จนหน้าแทบจะชิดกันอยู่แล้ว ลมหายใจอุ่นร้อนรดรินใบหน้า แต่ดวงตายังคงสบนิ่งอย่างไม่มีใครยอมใคร
“ผมจะทำให้ความมั่นใจพวกนั้นของคุณหายไปให้หมดเลยคอยดู”
“ก็ลองดูสิ”
ผมกับมันจ้องตากันเขม็งอย่างไม่มีใครยอมใคร ถ้าเป็นในการ์ตูนคงเห็นกระแสไฟฟ้ามาบรรจบปับ เปรี๊ยะ ๆ แล้วล่ะครับ
ถ้าไม่ติดว่าสัปดาห์นี้เป็นเวรของพวกวิศวะลงวินัยนะ ผมจะไม่มาเหยียบที่นี่เลย เหอะ
“โอเค วันนี้เราจะไม่รับน้องรวมกันสองคณะ ผมจะบอกกับสันทนาการของวิศวะให้ คุณก็บอกของคุณแล้วกัน”พายุยอมตกลงโดยดี และปล่อยคอเสื้อผมออก แม่ง เสื้อยับหมดแล้ว มันก็คงไม่อยากให้ผมเห็นดาว เดือนของคณะมันก่อนเหมือนกันล่ะครับ “เอาไว้เจอกันใหม่นะครับ คุณวินัย ผมต้องไปเรียนแล้ว”
“ไม่ต้องเจอกันอีก คงจะดีกว่ามั้งครับ คุณพี่ว๊าก”ตัดรอนไม่เหลือเยื่อใย แต่มันก็ยังยิ้มกวน ๆ ให้ผมได้เหมือนเดิม เซ็งชะมัด
“ดวงเรามันคู่กัน ยังไงก็ได้เจอกันไปอีกนานล่ะนะ ที่รัก”หมอนั่นหยอดระเบิดไว้แล้วเดินตัวปลิวไปพร้อมกระเป๋าสะพายข้างใบเก่ง...
ใครเป็นที่รักของแม่ง!!
หนาวชิบ
ตอนนี้ผมและวินัยคนอื่น ๆ นั่งอยู่ในแลปอย่างสุดเซ็ง อยากออกไปดูหน้าหลานที่จะเข้ามาในสายรหัสนะครับ แต่ไม่ได้ ถ้าไปยืนเด่ตรงนั้นคงหมดสนุกกันแน่
ได้แต่รอน้องโทรมาบอก... เฮ้อ
“หนาว มึงอยากได้น้องผู้ชายหรือผู้หญิงวะ”ปันปันที่นั่งอยู่ข้างกันหันมาถาม เป็นการเปิดบทสนทนาที่ดีไม่ยอกเลยนะเนี่ย พวกคนที่เหลือเลยลากเก้าอี้กันมานั่งล้อมวงอย่างไม่ค่อยอยากจะหาเรื่องคุยกันเลย “กูอยากได้ผู้ชายว่ะ จะได้ชวนไปสังสรรค์ เล่นกีฬาได้”
“ผู้ชายก็ได้ ผู้หญิงก็ได้ขอให้อยู่จนจบสายไม่ขาดพอแล้ว”ไม่ครับ ผมไม่เลือกเพศ แต่ผมไม่อยากสายขาด “ผู้หญิงก็ดี เลี้ยงง่ายดี”
“โหยยย พี่ อย่าคิดว่าผู้หญิงทุกคนเลี้ยงง่ายเหมือนเกดมันดิ”ป๊อปส่ายหน้าให้ผม ก่อนจะยิ้มกว้าง “เกดมันแทบจะออกไปทางทอมแล้วพี่ ถ้ามันชอบผู้หญิงนี่จบเลย”
“เออ จริง น้องกูแม่ง ชวนไปเดินตลาดนัดก็ไม่ไปกลัวดำ”พลอยบ่นออกมาเสียงไม่เบาเท่าไหร่ ไม่กลัวน้องได้ยินเลยนะเพื่อน “ชวนกินบุฟเฟ่เค้กก็ไม่กินอีก กลัวอ้วน อะไรนักหนาก็ไม่รู้”
“เอาน่า มายด์เขาเป็นหลีด เขาก็คงอยากรักษาหุ่นนั่นแหละ”นัทปลอบใจเพื่อนด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ ก็จริงล่ะมั้ง คงไม่ค่อยมีน้องที่เลี้ยงง่าย ๆ อย่างเกดมันสักเท่าไหร่หรอก
“พูดถึง ปีนี้เราปลดวินัยช้ากว่าปีอื่น ๆ จะพาน้องไปเลี้ยงกันท่าไหนล่ะเนี่ย”นนท์โพลงขึ้นมากลางวง เรียกความคิดของทุกคนให้ไปจนจ่อกับสิ่งที่เขาพูด
เออ ก็จริง... จะเอาน้องไปเลี้ยงยังไง แต่ถ้ารอไปจนกว่าจะปลดวินัยก็เกือบปลายเทอมแล้ว สอบก็เยอะ ต้องอ่านหนังสืออีก
“ให้เก็กหน้าขรึมไปเลี้ยงสายก็คงไม่ถูกเท่าไหร่มั้ง...”ติม วินัยปีสองที่ชอบมาสายตลอดพูดขึ้นบ้างแต่ถ้าไปแบบสบาย ๆ แล้วน้องมันเอาไปบอกเพื่อนในชั้นปี หรือเอารูปลงอินสตาแกรม เฟสบุ๊ก ไอจี นี่ก็จบเหมือนกันนะ...
“จะทำแบบไหนก็ได้ ที่จะไม่เสียถึงวินัย”ผมพูดได้เท่านี้แหละ ที่เหลือคงต้องไปหาทางกันเอาเอง... มีกันแค่สอบกว่าคนเอง
อ่อ ผมไม่เคยบอกสินะว่าวินัยของเทคนิคการแพทย์ที่ลงน้องจริง ๆ จะมีแค่ชั้นปีที่สองกับปีที่สามครับ ส่วนพี่ปีสี่จะไม่ค่อยลงมายุ่งถ้าไม่หนักหนาจริง ๆ เพราะพวกพี่เขาต้องไปฝึกงานกัน ไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่ ตำแหน่งประธานจึงลงมาเป็นของปีสาม เพื่อที่ว่าจะได้ทำงานได้เต็มที่ที่สุด
เลยเป็นงานที่ค่อยข้างหนักอยู่เอาการเหมือนกันล่ะครับ มีเวลาฝึกจริง ๆ จัง ๆ แต่ปีกว่า ๆ แล้วก็ต้องมาทำทุกอย่างเอง แต่ก็ยังไหวกันอยู่
“เฮ้ หนาว เราได้คนที่จะไปประกวดดาว เดือน ดาวเทียมแล้วนะ”มิ้น เพื่อนปีสามของผมเดินเข้ามาในห้องแลปพร้อมกับไอแพตในมือ “ดูหน่อยว่าโอไหม”
มิ้นเปิดรูปน้องผู้หญิงปีหนึ่งให้ดู สวยนะครับ ตัวเล็ก ๆ ขาว ๆ ผมยาวตรงถึงกลางหลังทำสีน้ำตาลเปลือกไม้ ตากลมโต เสียอย่างเดียวดูส่วนสูงน้อยไปหน่อย แต่ก็ไม่เลว
ส่วนน้องผู้ชาย สูง สูงมาก หุ่นนายแบบมาเลย ใบหน้าคม ตาก็คม ริมฝีปากบาง ยิ้มได้ลุคแบดบอยดี นาน ๆ ทีจะมีหลุดคนหน้าตาดี ๆ ขนาดนี้มาในคณะผมนะครับเนี่ย ฮา
ดูมีหวังทั้งดาวเดือนเลยแหะปีนี้
หึ ผมบอกแล้ว ผมไม่มีวันยอมแพ้พวกวิศวะแน่ ยังไงก็ต้องชนะ ไม่ว่าจะเป็นดาว เดือน หรือจะเป็นแสตนด์และผู้นำเชียร์ก็ตาม
ผมไม่มีวันแพ้การพนันบ้า ๆ นั่นแน่ เหอะ
รู้จักคนอย่างลมหนาวน้อยไปแล้ว ถ้าผมไม่มีดีพอที่จะไปสู้ มีเหรอจะได้รับเลือกให้มาปะทะกับพวกวิศวกรรมศาสตร์ที่มีคนมากกว่าพวกเราไม่รู้กี่เท่า
รับรองว่าพวกเราจะได้เห็นดีกัน
ครืด ครืด
เสียงอะไรสั่น... สั่น สั่น อ่อ มือถือผมเองครับ เกดมันโทรมา เห น่าจะเพิ่งเริ่มจับน้องไปได้แปปเดียวนี่น่า หรือว่าจับเสร็จแล้ว?
“ไงเกด มีไร”ผมกรอกเสียงลงไปในสายถามน้องเทคอย่างงง ๆทุกคนในห้องเงียบกริบ หันมาเผือกเรื่องของผมกันหมดเลย เออดี “จับน้องกันเสร็จแล้วเหรอ”
“ยังพี่... แต่ซองเกดออกแล้ว”ทำไมพูดเสียงอ่อย ๆ จังเลยวะ เป็นไรไปหรือเปล่าเนี่ย “พี่หนาว...”
“เป็นอะไร เสียงอ่อย ๆ เลย หรือว่าได้น้องที่มีปัญหาด้วย”เอ... แต่เกดมันไม่น่ามีปัญหากับน้องคนไหนนี่หว่า เท่าที่ผมรู้มา
“เกดได้น้องผู้ชายอ่ะพี่หนาว”ได้น้องผู้ชาย... อ่อ ถึงว่าทำเสียงอ่อยเชียว มันเคยบอกผมไว้ตอนปีที่แล้วว่าอยากได้น้องผู้หญิง เพราะจะได้เทคง่าย ๆ
“ไม่เป็นไรน่า ก็ยังดีนะ น้องชื่ออะไรน่ะเกด”ผมถามกลับไปพร้อมกับปลอบน้องไปในตัว สายผมผู้ชายแอบเยอะ เดี๋ยวเรียก ๆ มาช่วยน้องมันเทคเอาท่าจะดี
“คีตา... น้องที่จะไปประกวดเดือนมหาลัยอ่ะพี่หนาว”กลมบ๊อกเลยโลกนี้... ผู้ชายคณะผมอาจจะน้อย แต่ก็ไม่ได้น้อยมาก แต่ไม่คิดเลยว่าจะได้น้องคนนี้ “พี่ เกดจะเทคน้องยังไงดีอ่ะ”
“ไม่เป็นไรนะเกด เดี๋ยวพี่ช่วย”ขอไปคิดก่อนว่าจะเทคยังไง ผมยังไม่รู้นิสัยน้องมันสักเท่าไหร่เลยด้วยสิ “น้องนิสัยยังไง เกดรู้ไหม”
“นิสัยเหมือนหน้าตามันอ่ะพี่”เป็นคำจำกัดความที่เหมือนจะดี... เหมือนจะดีจริง ๆ นิสัยเหมือนหน้าตานี่... มันจะดีไหมวะเนี่ย
“... หมายความว่ายังไงน่ะเกด”ผมถามกลับอีกรอบอย่างงง ๆ เผื่อผมอาจจะเข้าใจอะไรผิดไป “นิสัยเหมือนหน้าตานี่คือยังไง”
“หน้าตามันแบดบอยยังไง นิสัยมันก็อย่างนั้นอ่ะพี่”น้องตอบกลับมาด้วยเสียงที่อยากจะร้องไห้ ได้หลายเทคแบบนี้มันโอไหมวะเนี่ย “ล่าสุดเกดเห็นมันควงดาวปีสองของม.yy อยู่อ่ะพี่ ก่อนหน้าก็เด็กมัธยมปลายจากคอนแวนต์”
“...”ไม่รู้จะพูดยังไงดี เหอะ ๆ เจอน้องแบบนี้ซะอย่างนั้น ผมไม่คิดว่าจะมีคนประเภทนี้หลุดเข้ามาในสายอาชีพที่ผมศึกษาอยู่นะเนี่ย “ไม่เป็นไรนะเกด พี่เชื่อว่าเกดเทคน้องได้”
“งื้ออออ”รู้สึกสงสารน้องยังไงก็ไม่รู้ ดวงไม่ค่อยดีเลยนะเกดนะ เฮ้อ “เดี๋ยวเกดไปรวมกับเพื่อนก่อนนะพี่หนาว หายไปนานเดี๋ยวโดนสงสัย”
“อาฮะ ไว้คุยกันใหม่”เกดมันกดวางไปแล้ว ผมหันไปหาเพื่อนที่นั่งล้อมอยู่ คงไม่ต้องบอกใช่ไหมครับว่าทุกคนทำหน้ากันยังไง
ไม่ค่อยอยากรู้กันเลยนะ แม่ง
“เป็นไง เกดมันโทรมาว่าไงมั่ง”คิดว่าใครพุ่งมาคนแรกครับ ไม่ต้องเดาก็น่าจะรู้กัน พลอยพุ่งคำถามเข้ามาทันที ไม่รอให้ผมได้ตั้งตัวเลย “ได้หลานเป็นใคร”
“เดือนคณะ”ผมตอบตอบอย่างเหนื่อย ๆ ทำรู้สึกว่าสังหรณ์ใจแปลก ๆ ว่าจะต้องเกิดเรื่องยุ่ง ๆ แน่เลย เฮ้อ ผมคงคิดมากไปเอง
“ดีนี่หว่า ได้น้องผู้ชาย เทคง่าย ว่าง ๆ ชวนไปเตะบอล”ปันปันตบไหล่ผมแปะ ๆ พร้อมกับยิ้มกว้าง “เวิร์ค ๆ โชคดีชะมัด”
“คิดงั้นเหรอ”ผมว่าเสียงผมมันเนือยกว่าเดิมอีกแหะ ไม่รู้สิ สายผมมีแต่พวกเลี้ยงง่ายนะที่ผ่าน ๆ มา แต่ผมชักหวั่น ๆ หลานคนนี้ยังไงพิลึก
“ไมวะ?”
“เกดมันบอกว่าน้องมันเป็นประเภทนิสัยเหมือนหน้าตา”เหมือนทุกคนจะเข้าใจผมนะ ว่าพวกนิสัยเหมือนหน้าตามันเป็นยังไง “เอาเหอะ คงไม่มีอะไรหรอกน่า”
ครืด ครืด
อ่าว น้องเทคผมมันโทรมาทำไมอีกล่ะเนี่ย มันน่าจะส่องน้องของเพื่อนให้กลุ่มมันอยู่นี่หว่า หรือว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า
“ว่าไง เกด”รอบนี้ผมรับแบบเปิดลำโพง ขี้เกียจยกขึ้นมาแนบหูน่ะครับ ไม่มีอะไร ชาร์ตแบตอยู่ด้วย เดี๋ยวดูดหูไหม้ กลายเป็นคนหูดำทำไง
“พี่หนาว ๆ เกดลืมบอกว่าน้องเป็นไบนะพี่ ไปก่อนนะ เกดต้องไปถ่ายรูปน้องแห่กระติกแล้ว”
กริบ... ไม่ใช่แค่ผมที่พูดไม่ออก แต่เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่มาสุมกันอยู่ในห้องแลปนี้ก็กริบเหมือนกัน ทุกคนมองหน้ากันนิ่ง แล้วก้มหน้าก้มตาไปจิ้มมือถือ ไอแพต แทปเล็ตในมือกันเงียบ ๆ
ความเงียบงันที่ไม่เคยมียามที่ทุกคนอยู่รวมกันได้เข้าปกคลุมห้องแลปเทคนิคการแพทย์แห่งนี้...
ผมไม่ได้รังเกียจนะครับ แค่กำลังอึนนิดหน่อย คือไม่ได้เตียมใจมาว่าจะเจอน้องแบบนี้ ปกติถ้าจะเจอก็เจอแบบไม่ชายชอบชาย ชายชอบหญิง ก็หญิงชอบหญิงไปเลย ไม่คิดว่าจะเจอไบน่ะครับ
“เป็นอะไรน่ะ หนาว ทำหน้าประหลาด ๆ”เสียงนุ่ม ๆ ที่ฟังกี่ครั้งผมก็อดที่จะแอบเคลิ้มนิด ๆ ไม่ได้ ว่าแต่... มาอยู่ข้าง ๆ ผมตอนไหนเนี่ย
“ไม่มีอะไรครับพี่ทิว”ผมยิ้มบางให้พี่ชายคนสนิท เอ... พวกแพทย์เพิ่งเลิกเรียนเหรอเนี่ย “เพิ่งเลิกคลาสเหรอครับ พี่”
“อื้อ พี่เพิ่งลงมาจากวอร์ดน่ะ”พี่ทิวยิ้มกว้าง ก่อนที่จะดึงแขนผมเบา ๆ เชิงให้ลุกขึ้น “พี่มาชวนไปกินข้าวด้วยกัน พรุ่งนี้วันหยุด กลับดึกได้ใช่ไหม”
“ฮะ กลับดึกได้ พี่ทิวอยากไปกินอะไรเหรอ”แน่นอนว่าผมยอมลุกขึ้นอย่างว่าง่าย ไม่บ่อยนักหรอกนะครับที่พี่ทิวไผ่คนนี้จะมีเวลามาชวนผมไปกินข้าว ก็นะ พี่เขาเรียนหนักตลอด
“พี่อยากกินบาบีคิว”ไม่ผิดจากที่คาดเท่าไหร่ พี่ทิวชอบกินบาบีก้อน ถ้ามีเวลาว่างแล้วหิว ๆ พี่แกไม่เคยหลุดจากร้านนี้เลย “ไปกันเถอะ เดี๋ยวมันจะมืดไปมากกว่านี้”
ผมกับพี่ทิวแอบออกจากห้องแลปมาตอนช่วงชุลมุน ดีที่พวกปีสองสรรหาของมาแกล้งน้องกันอย่างสนุกสนานเลยทำให้ไม่มีใครสังเกตเห็นผมกับรุ่นพี่ต่างคณะที่เดินออกมาด้วยกัน
พวกเราไปนั่งกินบาบีคิวที่ห้างใกล้ ๆ มหาลัยนี่แหละครับ ไม่อยากไปไกล ผมกับพี่ทิวเหมือนกันตรงที่ไม่ชอบแขวนท้องรอกิน ขอใกล้ ๆ ไว้ก่อนเวลาท้องร้อง
แต่นะ... ในเมื่อมาใกล้ ก็ต้องเจอคนรู้จัก
คนรู้จักที่ไม่อยากจะเจอซะด้วย
“ไง คุณวินัย ว่างมาทานข้าวข้างนอกนี่ด้วยเหรอ”พายุที่เดินเข้ามาในร้านพร้อมกับสาวสวยคนนึง คุ้น ๆ ว่าเป็นดาวคณะสถาปัตถ์มาทักทายผมถึงโต๊ะ "หาดาวเดือนมาสู้กับคณะผมได้แล้วหรือยังไง อ้อ คงเตรียมรับความพ่ายแพ้ที่จะเกิดขึ้นแล้วสินะ"
“เมดเทคของผมมีคนมากพอที่จะสู้กับพวกคุณ ทั้งรูปร่าง หน้าตา รวมไปถึงสมองและความรู้ที่มีอย่างไร้ขีดจำกัด คุณเถอะ หาคนที่จะส่งมาสู้กับคนของผมได้แล้วหรือยังไง”เรื่องศักดิ์ศรียอมไม่ได้ มาเล่นกันถึงข้างนอกนี่ ยิ่งยอมไม่ได้ “ผมไม่มีวันแพ้คุณแน่”
พวกผมจ้องหน้ากันนิ่ง ฟาดฟันกันด้วยสายตาอย่างไม่มีใครคิดจะยอมใคร
“ไม่เอาน่า พี่ยุ ไปเถอะ พนักงานเขารออยู่นะคะ”เสียงใส ๆ ของสาวน้อยที่อยู่ท่ามกลางสงครามเย็นดังขึ้น พร้อมกับลากเอาร่างสูงของคู่อริผมไป
ถามถึงพี่ทิวเหรอครับ? นั่นไง นั่งยิ้มขำ ๆ อยู่ตรงข้ามผมนั่งไงครับ
“ยังกัดกันเหมือนเดิมนะ เมดเทคกับวิศวะเนี่ย”พี่ทิวส่ายหน้าน้อย ๆ แล้วคีบเอาเนื้อหมูที่ย่างสุกแล้วไปกิน “พี่ล่ะอยากรู้จริง ๆ ว่าจะเลิกกัดกันเมื่อไหร่”
“คงไม่มีวันนั้นหรอกครับ พี่ทิว”
ใช่... ไม่มีวันที่พวกผมจะมาดีกันแน่!
ไม่มีวัน!!!
++++++++++++++++++++++++
มาต่อแล้วค้า มีชื่อตอนด้วย 555 จะเริ่มใส่ชื่อตอนละ
ขอโทษที่เว้นไปนานนะคะ คุณน้าของคนเขียนเสีย เลยวิ่งๆเรื่องงานศพ เพิ่งเผาวันนี้เองค่ะ
ตอนนี้เบา ๆ พบกันตอนหน้านะคะ 555
