ตอนพิเศษ
ประชุมผู้ปกครอง ครึ่งหลัง
UP
“คุณปลายฝันไม่ต้องห่วงเลยค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะดูแลทางธารากับวาโยให้เอง เด็กสองคนนี้ฉลาดเกินวัย ถามอะไรตอบได้หมด”
“ขอบคุณครับครูแก้ว ผมก็ดีใจที่เด็กๆ ไม่ดื้อ”
พูดกับครูประจำชั้นของธารากับวาโย สายตาก็มองไปที่คนรักที่ไม่สนใจจะคุยกับหญิงสาวสองคนนั้นเลยสักนิดอย่างพอใจ แต่ติดจะรำคาญสายตาหน่อยๆ เพราะเธอไม่คิดที่จะยอมแพ้
“ไม่ทราบว่าครูแก้ว รู้จักผู้หญิงสองคนนั้นไหมครับ” ปลายฝันถามพลางชี้ไปยังฝั่งที่คนรักเขายืนอยู่
“รู้จักค่ะ เป็นผู้ปกครองของเด็กชั้นป.2 ถ้าดิฉันจำไม่ผิด ทำไมหรือคะ” ถามอย่างแปลกใจที่ปลายฝันถามถึงคนอื่น
“เปล่าหรอกครับ พอดีเห็นเข้าไปคุยกับแฟนผมน่ะ เผื่อครูแก้วรู้ชื่อ เพราะผมก็จำไม่ค่อยได้ว่าใครรู้จักแฟนผมบ้าง” ปลายฝันบอกออกไปตามตรง
“ดิฉันว่าไม่น่าจะรู้จักนะคะ เพราะทางฐานะของคุณๆ เป็นเพียงเจ้าของธุรกิจส่วนตัวเล็กๆ เท่านั้นน่ะค่ะ”
ร่างบางพยักหน้ายิ้มๆ แบบไม่ใส่ใจ ก่อนจะคุยเรื่องเด็กๆ ต่อไป ไม่รีบไปเพราะมั่นใจว่าคนรักไม่สนใจคนอื่นอยู่แล้ว และแน่นอนว่า ปฐพีกับอัคนีรักเขาเกินกว่าที่จะทำให้ปลายฝันคนนี้เสียใจ
ผมมั่นใจในตัวเอง แต่ก็มั่นใจในตัวของพวกพี่ด้วย
“ถ้างั้นผมคงต้องขอลากลับก่อน ขอบคุณที่ดูแลเด็กๆ มาโดยตลอดนะครับ”
“ด้วยความยินดีค่ะ”
“สวัสดีครับ” ปลายฝันยกมือไหว้คนที่มีอายมากกว่าก่อนจะเดินจากตรงนั้นแล้วตรงไปหาคนรักที่ยืนทำหน้าหงุดหงิด ส่วนสองสาวก็ยังพูดอะไรอยู่ โดยที่เขาไม่ได้ยิน
แต่ในจังหวะที่ก้าวขาเข้าไปใกล้เรื่อยๆ ก็เริ่มได้ยินสิ่งที่เธอสองคนพูด แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องอะไร ส่วนปฐพีกับอัคนีก็มองเห็นเขาที่เดินมาหาแล้วยิ้มเบาๆ จนหญิงสาวอายม้วน คิดว่าถูกยิ้มให้
“เสร็จแล้วหรือ”
“ไปเลยไหม”
ปฐพีถามเสร็จอัคนีก็ตามต่อ หญิงสาวสองคนตอบออกไปก่อนที่ปลายฝันจะพูดเสียอีก ร่างบางจึงได้แต่ส่ายหน้าแล้วก็ยิ้มบางๆ
“ไปไหนคะ” เธอถามเสียงติดสั่น ยังไม่รู้การมาถึงของเจ้าของหัวใจของชายหนุ่มที่เธอกำลังคุยด้วยอยู่
“นั่นสิคะ เห็นเรามาชวนคุยก่อนแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้ง่ายน้า” หญิงสาวอีกคนพูด ทำเอาปฐพีกับอัคนีที่มองผ่านมาด้านหลังมองคนรักของตนถึงกับโฟกัสหญิงสาวสองคนทันที
จู่ๆ เดินเข้ามาทักแล้วแนะนำชื่อตัวเอง ถามนั่นถามนี่ว่ามาทำอะไร มาประชุมให้ใคร แต่ร่างสูงทั้งสองก็ไม่คิดที่จะตอบ ปล่อยให้เธอสองคนพูดและคุยกันอยู่สองคนไป
คิดเองเออเองเก่งจริงๆ
ได้ข่าวว่ายังไม่คุยด้วยสักคำ
“ฉันไม่ได้คุยกับเธอสองคน” ปฐพีพูดบอก
“ช่วยหลีกทางให้คนรักของเราด้วย” อัคนีเองก็เอ่ยต่อ เพียงเท่านั้นแหละ สองสาวก็เบิกตากว้างหันมามองปลายฝันที่ด้านหลังพร้อมกัน จนหน้าแตก หน้าเสียไปเลย
“ขอบคุณครับ” ปลายฝันเดินเข้าไปยืนอยู่ตรงกลางอย่างเป็นธรรมชาติ ยิ้มให้คนรักสลับกันไปมาแล้วหันไปมองหญิงสาวทั้งสองที่ยืนยิ้มแห้งมาให้
“สวัสดีครับ กำลังคุยอะไรกันอยู่หรือฮะ” ประโยคแรกปลายฝันทักทาย ส่วนประโยคคำถามเงยหน้ามองปฐพีกับอัคนีไปมา
“ไม่มีอะไร” ปฐพีตอบ
“งั้นหรือฮะ” ใบหน้าใสยังคงยิ้มหวาน มองหญิงสาวทั้งสองด้วยความอยากรู้จริงๆ แต่ในเมื่อคนรักบอกว่าไม่มีอะไร เรื่องนั้นก็ไม่จำเป็นต้องรู้แล้วล่ะ
“ครับ งั้นเราไปกันเถอะ หิวหรือยัง” อัคนีถามอย่างเป็นห่วง
“ก็เริ่มหิวแล้วล่ะฮะ”
“ว่าแต่ ครูว่าไงบ้าง” ปฐพีถามถึงเรื่องที่ปลายฝันไปคุยกับครูประจำชั้นของลูกสาวลูกชาย
“ก็บอกว่าเด็กๆ ไม่ซน ไม่ดื้อ แล้วก็ฉลากเกินวัย ถามอะไรก็ตอบได้” ร่างบางยิ้มมีความสุขเมื่อได้พูดสิ่งที่ดีแบบนี้ออกจากปากให้คนเป็นพ่อได้รับรู้
เพราะสิ่งที่ทำให้พวกเขามีความสุขและภูมิใจคือการที่เด็กๆ เป็นคนดี
“แน่นอน พ่อเก่ง”
“เอาดีเข้าตัวเลยนะไอ้ดิน กูก็ดีไม่ต่างมึงหรอก” อัคนีขัดพี่ชาย จนปลายฝันหัวเราะเบาๆ ก่อนจะห้ามทัพ
“พอแล้วฮะ ก็เก่งกันทั้งคู่ ทั้งพ่อทั้งป๊านั่นแหละฮะ”
“มัมก็เก่งนะครับ” ทั้งสองมองปลายฝันด้วยสายตาหวานเชื่อม จนร่างบางเสหลตาด้วยความเขินอาย ใครที่มาเจอสายตาแบบนี้ของปฐพีและอัคนีถ้าทนได้ก็ถือว่าสุดยอดมาก
“ฮะ...ก็เค้าเป็นลูกของเรานี่นา” พึมพำเสียงเบา แต่คนเป็นสามีกับหญิงสาวที่ถูกถีบให้ออกจากโลกของพวกเขาก็ยังได้ยิน
ร่างแกร่งจับมือบางนุ่มคนละข้าง ก่อนจะพากันเดินจากตรงนั้น ไม่ได้สนใจว่าก่อนหน้านั้นจะมีหญิงสาวสองคนอยู่ด้วยเลยสักนิด พวกเขาสามคนเดินจากไป ท่ามกลางความเสียหน้าของพวกเธอ
...
...
...
“พี่ไม่ดูหนังไทย!!” สองเสียงประสานกันเมื่อปลายฝันชี้ไปที่หนังเรื่องหนึ่งที่กำลังเป็นข่าวดังไม่ให้ฉาย แต่สุดท้ายก็ได้ฉาย
“ก็ดรีมอยากดูว่าเรื่องมันเป็นยังไง ทำไมเขาถึงไม่ให้ฉาย”
ปลายฝันมองหนังเรื่องนั้นตาละห้อย
“มันเป็นแค่การตลาดน่าดรีม” ปฐพีพูดขึ้น
“ยังไงฮะ”
“ก็ทำหนังให้แรงๆ จนเขาระงับไม่ให้ฉาย ต้องตัดฉากที่ไม่ผ่านออกไป มันก็ดังเพราะเขาสั่งไม่ให้ฉายไง” อัคนีตอบแทน แต่ยิ่งทำให้คนตัวเล็กงงเอาไปกันใหญ่
“ดรีมงง”
“การตลาดของเขา ที่ไม่ต้องโปรโมทเอง ก็มีคนโปรโมทให้ คนเลยยิ่งอยากดูว่าทำไมถึงโดนแบน พอมันฉายได้ คนก็แห่มาดูกันไง” ปฐพีอธิบายต่อ
“พวกพี่นี่คิดเยอะเนอะ อาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้นก็ได้” เถียงไปเบาๆ
“พี่เป็นนักธุรกิจนะครับ” อัคนีบอก ซึ่งทำให้ปลายฝันต้องพยักหน้าอย่างยอมๆ
“โอเคฮะๆ ไม่ดูก็ได้”
“ดรีมอยากดูจริงๆ งั้นหรือ”
“ไม่หรอกฮะพี่เพลิง มันเป็นความอยากรู้มากกว่า” ตอบความจริงออกไป ก่อนจะชี้ไปที่หนังอีกเรื่องที่เป็นหนังต่างประเทศ
“เอาเรื่องนี้ฮะ”
“โอเคครับ เดี๋ยวพี่ไปซื้อตั๋วให้ ไอ้ดินมึงไปซื้อขนมกับน้ำ” อัคนีรับคำสั่ง ก่อนจะหันไปสั่งพี่ชายที่ทำท่าจะไม่ช่วยอะไรเลย
“เออๆ”
“ไม่ต้องเอาเยอะนะพี่ดิน กลัวกินไม่หมด”
“ครับดรีม”
ปลายฝันนั่งลงตรงโซฟาที่มีไว้ให้นั่งรอคนรักทั้งสองที่กำลังแยกกันไปซื้อคนอย่าง มองไปรอบๆ ก็แปลกใจเพราะไม่ค่อยมีใครเท่าไหร่ อาจจะเพราะอยู่ในช่วงเวลาเรียน เลยไม่มีนักศึกษาเยอะเท่าที่ควรทั้งๆ ที่ก็อยู่ใกล้มหาลัยฯ แห่งหนึ่ง
ไม่นานอัคนีก็เดินกลับมา
“ได้รอบไหนฮะ”
“อีก 10 นาที”
“โอเคฮะ นั่งก่อนสิพี่เพลิง อีกนานเลย” ตบแปะๆ ข้างตัวเอง ซึ่งคนรักตัวสูงชื่อแปลว่าไฟก็นั่งลงฝั่งที่ปลายฝันเรียกให้ไปนั่งทันที
“หวังว่าคงไม่ใช่บัตรแพงสุดนะฮะ”
“ถ้าไม่แพงสุดก็นั่งไม่สบายสิ”
นั่งตรงไหน สำหรับปลายฝันก็สบายทั้งนั้นแหละ แต่คนที่ไม่เคยเจอความลำบากนี่สิ อะไรแพงสุดเอา บอกแล้วไม่รู้จักจำสักที
“พี่ก็หัดสิฮะ แค่นั่งไม่กี่ชั่วโมงจะไปลำบากอะไร”
มานั่งสอน นั่งว่าพี่ตรงนี้ ไม่คิดว่าพี่จะหมดมาดบ้างหรือครับ” อัคนีถามทีเล่นทีจริง แต่คนถูกถามดันคิดจริงจังเสียงั้น จนอัคนีมองหน้าที่เสียไปของคนรักอย่างรู้สึกผิด
“ดรีมขอโทษฮะ ไม่พูดแล้ว”
“ด่ะ...”
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมดรีมทำหน้าแบบนั้น” ยังไม่ทันที่อัคนีจะปรับความเข้าใจ ปฐพีที่เดินกลับมาจากการซื้อน้ำกับขนมก็ถามขึ้นมา
ปลายฝันเงยหน้ามองคนถามแบบคนจะร้องไห้ จนคนตัวสูงยัดเยียดของในมือให้กับอัคนีทันที ส่วนตนก็นั่งอีกข้างถามคนรักอย่างร้อนใจ
“มันทำอะไรดรีม”
“เปล่าฮะ” ส่ายหน้าแรงๆ
“แล้วทำไมดรีมจะร้องไห้”
“เปล่าจริงๆ”
“กูแค่แกล้งเล่น” อัคนีโพล่งขึ้นมา
“แกล้ง?”
“เออ...” แล้วก็เล่าทุกอย่างให้ปฐพีฟัง ซึ่งคนที่ดูจะโตที่สุดอย่างปฐพีก็ได้แต่ทำเพียงยกขาเตะที่หน้าแข้งแฝดน้องแรงๆ เป็นการทำโทษที่พูดอะไรไม่รู้จักคิด
ก็รู้ๆ อยู่ว่าเรื่องนี้ปลายฝันค่อนข้างอ่อนไหวง่าย
“พี่ดิน ทำอะไรฮะ เตะพี่เพลิงทำไม”
“ก็มันทำดรีมเสียความรู้สึก”
“ดรีมผิดเองที่ว่าพี่เพลิงแบบไม่ดูสถานที่” ยอมรับความผิดเสียงเบา
“ดรีม พี่บอกว่าพี่แกล้งเล่นไงครับ ไม่ได้รู้สึกอะไรจริงจังเลย ทำไมเป็นคนคิดมากแบบนี้เนี่ย ถ้าแค่นี้พี่ยังเล่นด้วยไม่ได้ ก็อยู่มันแบบนี้แหละ อยู่แบบรับกันและกันไม่ได้เนี่ย” อัคนีดุเสียงเข้ม
บางทีนิสัยแบบนี้ของปลายฝันต้องแก้ไขมันใหม่
“ไอ้เพลิง”
“มึงไม่ต้องมาห้ามกู อย่าตามใจกันมาก ดรีมจะไม่หายคิดมากเรื่องนี้สักที เราก็จะเล่นแบบนี้กับน้องไม่ได้ มึงเข้าใจไหม เราอยู่ด้วยกัน ถ้าต้องมาระแวงว่ากลัวจะพูดแบบนั้นแล้วไม่ดี ว่าแบบนี้แล้วอีกคนจะเสียหาย มันก็ไม่ได้เรียกว่ามีความสุขเต็มร้อยหรอกนะ” ปฐพีปล่อยให้อัคนีที่ฟิวส์ขาดพูดต่อไป
นานๆ ครั้งจะเห็นความมีเหตุมีผลของอัคนี
“ดรีม...ขอโทษ” เสียงใสสั่น กลั้นน้ำตาเอาไว้เต็มที่
“พี่ไม่ได้โกรธดรีม แต่พี่อยากให้ดรีมมั่นใจ กับเราสองคน ดรีมจะทำอะไรก็ได้ พวกเรายอมทั้งนั้น มีความมั่นใจหน่อยดรีม ตอนนี้น่ะ จะลุกขึ้นด่าพี่ก็ได้ พี่ไม่โกรธ พี่ไม่อาย จำไว้”
“ฮะพี่เพลิง ดรีมขอโทษ”
“ครับ งั้นเราเข้าไปในโรงกันเถอะ ทะเลาะกันตรงนี้มันน่าอาย”
“ดรีมช่วยถือนะพี่เพลิง”
“เอาน้ำไป” อัคนียื่นแก้วน้ำหนึ่งแก้วให้ปลายฝัน ส่วนที่เหลือยื่นคืนให้ปฐพี แล้วทั้งสามคนก็เดินเข้าไปในโรงหนังทันทีเมื่อถึงเวลา แต่ก็ต้องรอโฆษณาอยู่ดี
โชคดีหน่อยที่คนไม่เยอะ
“พี่ดินจะนอนแล้วหรือฮะ” ถามคนที่ชอบเงียบและชอบหลับอย่างนึกห่วง
“ยังหรอกครับ หนังยังไม่เล่น”
“ฮะๆ เปลืองเงินจริงๆ”
“ไม่เป็นไร เปลี่ยนบรรยากาศในการนอน”
“มึงนี่ก็จะนอนท่าเดียว”
“ก็มันง่วง มึงไม่เข้าใจหรอก” ปฐพีเถียง ทำเอาปลายฝันหลุดหัวเราะ ส่วนอัคนีก็ส่งเสียงในลำคอแบบคนขัดใจหน่อยๆ
เมื่อหนังเริ่มฉาย ไหล่ฝั่งขวาก็เป็นหมอนให้ปฐพีทันที มีแค่เขากับอัคนีที่ตั้งใจดูหนังเท่านั้น บางครั้งปลายฝันก็ป้อนขนมอัคนี บ้างก็หันไปบีบมือแร่งของปฐพีเล่น
ถามว่าปลายฝันสนใจหนังมากไหม ก็ไม่ ปฐพีนอนหลับ อัคนีดูหนัง ส่วนปลายฝัน...มองปฐพีกับอัคนีสลับกันไปมา ตามองหนังเป็นส่วนน้อย
ชอบช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน...
จะบ้าตายทุกครั้ง เมื่อต้องห่างกันไป
100%

พอจะหายคิดถึงกันไหมคะ ^_^ ฮ่าๆ เหลืออีกตอนหนึ่งที่จะลง แต่ยังไม่ใช่เร็วๆ นี้นะคะ ขอบคุณที่ติดตามกัน แล้วเจอกันภาค 2 ค่ะ