ตอนที่ 37ในเช้าที่บนเตียงนอนของผมยังมีคนขี้เกียจซุกตัวเองอยู่ในผ้าห่มทั้งๆที่ตอนนี้ก็ควรจะได้เวลาตื่นได้แล้ว ปิงกำลังนอนคว่ำใบหน้าของมัน สวยแม้กระทั้งยามหลับใหล ยื่นมือไปเขย่าปลุกคนที่กำลังนอนแต่ก็ได้รับสิ่งตอบกลับมาเพียงแค่เสียงครางเบาๆกับการพลิกตัวหนีออกไปให้ไกลจากมือผม
“ ตื่นได้แล้วมั้ง มึงจะนอนให้ถึงพรุ่งนี้เลยรึไง " ผมถาม
“ เออ " มันตอบ ถอนหายใจออกมา ผมมองนาฬิกาของตัวเองบนตู้หัวเตียง จะเก้าโมงอยู่แล้ว แต่กูยังไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย ไม่แม้จะลงมืออ่านหลังสือ สอบปลายภาคใกล้เข้ามาแล้ว สอบก่อนจะปิดเทอมใหญ่ " เป็นอะไร ไม่สบายรึเปล่า " ยื่นมือไปจับที่หน้าผากของมันก็ไม่มีอาการอะไร ไม่ได้ร้อนอย่างที่มันกำลังนอนซึมอยู่อย่างงี้ " เป็นเหี้ยอะไร "
“ กำลัง คิดถึงเรื่องเมื่อวาน "
“ เรื่องเมื่อวาน " ผมทวนเสียง
“ เรื่องเมื่อวาน บนโซฟา ที่มึงเอากู "
“ คิดทำไม " ผมถามมันก็ยังนิ่งไม่หันมาคุยด้วยกันตรงๆ " ปกติก็โดนเอาปกติอยู่แล้ว "
“ ไม่ปกติเว้ย!! " มันพูดขึ้นเสียงดัง ก่อนจะเถียงผมเสียงอ้อมแอ้ม " เมื่อวานมึงไม่ได้ใส่ถุงยาง "
“ เรื่องแค่นั้น "
“ มึงแตกใน "
“ เรื่องแค่นั้นเอง " พูดออกไปแบบนั้น คนที่นอนหันหลังก็หันมามองหน้า
“ ของมึงอาจเรื่องแค่นั้น แต่ของกูไม่ใช่ " สายตาจริงจังที่จ้องมา ผมเองก็มองหน้ามัน " กูไม่เคยให้ใครทำแบบนั้น แต่มึงเสือกเอาไปแบบหน้าด้านๆเลย "
“ แล้วทำไมไม่ดิ้นหนี ตอนกูใส่เห็นมึงครางก็คิดว่าจะชอบ "
“ ก็ชอบ ! " มันเถียง " แต่กูอยากพูดคำพูดหวานๆกับมึงก่อนที่กูจะโดนนี่ ไอ้เชี้ย อยู่ๆมึงแม่งใส่เข้ามาเลย กูยังไม่ทันตั้งตัว "
“ ไร้สาระ "
“ ไร้สาระของมึง แต่มีสาระของกู " ปิงเถียง " คนอย่างกูอาจจะมีอะไรกับใครมาเยอะแล้วก็จริง มึงอาจคิดว่ากูไม่สมควรใส่ใจเรื่องแบบนี้ แต่กูใส่ใจนะ ถ้ากูไม่รักเค้าจริงๆ แล้วเค้าจะหยุดที่กู หรือกูจะหยุดที่เค้า ถุงยางคือสิ่งที่ต้องใส่อย่างน้อยก็เนื้อหุ้มพลาสติกที่ดันเข้ามา ไม่ใช่เนื้อสดๆแบบของมึงเมื่อวาน "
ผมนิ่งฟังมันที่กำลังหัวเสีย สาเหตุที่เงียบไปคงเพราะ กำลังคิดว่า คนอย่างมันใส่ใจกับเรื่องพวกนี้ด้วยเหรอ ผมยิ้ม ปิงก็ยิ่งไม่สบอารมณ์
“ ยิ้มเหี้ยอะไร "
“ เปล่า ตื่นได้ กูหิว นั่งเพ้ออยู่ได้ กูรำคาญ "
“ หาแดกเองสิ กูจะนอน ร่างกายกูยังไม่พร้อมจะทำอะไรตอนนี้ กูกำลังช็อค " มันว่าแบบนั้นผมก็คว้ามือมันให้ลุกขึ้นมา
“ มึงเพิ่งโดนครั้งแรกรึไง ลุกขึ้น "
“ เออ ครั้งแรก " มันเถียงก่อนจะพูดออกมาเสียงเบา " แบบไม่ใส่ถุงยางครั้งแรก "
“ ไหนบอกว่าอยากให้คนที่รักมึงแล้วก็มึงรักเค้า "
“ ก็ใช่ "
“ แล้วจะนี่มึงจะเสียใจทำเหี้ยอะไร กูก็เป็นคนนั้นไม่ใช่รึไง " ผมจ้องหน้ามันที่เงยหน้าขึ้นมามองผม รอยยิ้มที่ค่อยๆยิ้มออกมา
“ พี่เสือ "
“ ยังมีเหี้ยอะไรให้ต้องเสียใจอีกมั้ย "
“ ไม่มีแล้วก็ได้ " ผมลุกขึ้นจากเตียงมายืนที่พื้น ปิงเองก็ด้วย มันลุกขึ้นยืนบนเตียงก่อนจะเดินมากอดผม ความสูงที่ต่างกัน หัวผมอยู่ที่ช่วงอกของมันพอดี ปิงสอดมือเข้าไปในชั้นผมของผม มันยิ้มก่อนจะจูบลงข้างแก้ม " พี่เสือ "
“ มีเหี้ยอะไร "
“ เดี๋ยวนี้พูดจาหวานๆ เก่งจังเลยนะ เพราะมีแฟนน่ารักแบบกูรึเปล่าเอ่ย "
“ เพราะมีแฟนแรดๆ "
“ ถ้าน้องแรดแล้วพี่เสือจะน่ารักขึ้น น้องจะแรดกว่านี้ พี่เสือจะได้ น่ารักกว่านี้ " ผมถอนหายใจ คนที่กอดผมไว้ก็ยิ้ม " นี่ มึง "
“ อะไร "
“ ปิดเทอมนี้ ไปเที่ยวบ้านกูกันมั้ย "
“ ไม่ไป " ตอบแบบไม่คิดผมดึงตัวเองออกจากอ้อมกอดของมัน ไม่อยากจะไปให้เค้าเกลียด ผมรู้ตัว ผมไม่ใช่คนที่เข้ากับคนอื่นได้ดีนัก
" ปิดเทอมนี้กูจะกลับบ้านด้วย กูไปนานนะ ไม่ไปแน่เหรอ " เสียงข้างหลังที่เอ่ยบอก ปิงกำลังล่อผมให้ติดกับดักของมัน " แต่ในฐานะแฟน กูไม่เคยพาใครไปเที่ยวที่บ้านเลยนะ จะไม่ไป จริงๆเหรอ "
ทุกอย่างเงียบ ปิงเดินลงจากเตียงมันที่กำลังเดินไปทางฝั่งห้องน้ำ ผมจับหลังเสื้อของมันไว้ " ไม่เคยพาใครไปจริงๆใช่มั๊ย "
“ อื้ม ก็ไม่เคยนะ แต่มึงก็คงไม่อยากจะ.."
“ ไป กูจะไป ไปบ้านมึง " ปิงยิ้ม มันพยักหน้า ก่อนจะยกมือถือที่ตั้งอยู่ตรงหัวเตียงขึ้นมา
“ ดีจัง เพราะกูจองตั๋วสองใบไปเชียงรายไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วเหละ "
“ หัวหมอ " ผมว่า ปิงก็เดินเข้ามากอดคอ
“ ก็น้องอยากให้พี่เสือไปด้วย " มันยิ้ม " กูอยากพามึงไปแนะนำให้ปู่กับย่ากูรู้จัก เพราะมึงคือคนสำคัญของกู "
“ ไม่คิดว่า ปู่กับย่ามึงจะอกแตกตายรึไง ถ้าเห็นหน้ากู " ผมเป็นผู้ชาย และกำลังจะไปบ้านของมันในฐานะคนรักของหลานชาย เป็นเรื่องตลกร้ายที่ผมไม่คิดว่า ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่จะรับได้เพราะท่านคงไม่ได้มีความคิดเหมือนเด็กๆสมัยนี้
“ เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอก เพราะเค้าเลี้ยงกูมา เค้าย่อมรู้ว่ากูเป็นยังไง ไปกันเถอะนะ "
“ อื้ม ไปก็ไป "
ฤดูแห่งการสอบจบลงไปแล้ว ผมที่กำลังนอนถอนหายใจอยู่กับโซฟา และกำลังจะหลับลงด้วยความเหนื่อยที่ไม่ได้นอนทั้งคืนเพราะต้องอ่านหนังสือ แต่ตอนที่สติกำลังจะหลับใหลอีกเสียงก็ดังขึ้นอย่างไม่เกรงใจจนทำให้สะดุ้ง
“ พี่เสือ!! “ ผมเงียบเสียงฝีเท้าก็เดินเข้ามาใกล้ " กูจัดกระเป๋า แล้วก็ซื้อของฝากแล้วนะ มึงจะจัดรึยังจ๊ะ "
“ ยัง "
“ ทำไมยัง "
“ กูจะนอน " ผมบอก แต่คนที่กำลังดีใจที่จะได้กลับบ้านก็ไม่มีอารมณ์จะมาเข้าใจผม มันยิ้มให้ท่าทางมีความสุขผมมองไปที่ถุงของฝากมากมายที่มันถือเข้ามา " นั่นอะไรเยอะแยะ "
“ ของฝากนะ "
“ อื้ม "
“ พรุ่งนี้บินไฟท์เช้า กูว่ามึงรีบจัดของดีกว่านะ " ยื่นมือมาจับมือผม ปิงส่งสายตามาอ้อน
“ ขี้เกียจ " ขี้เกียจจริงๆ จะลุกยังไม่อยากจะทำเลย ผมลุกขึ้นจากโซฟาเดินเข้าไปในห้อง ล้มตัวลงบนเตียง พลิกตัวหนีแสงที่ส่องเข้ามา ปิงก็เดินตามมานั่งอยู่ขอบเตียง
“ เป็นอะไรวะ ป่วยเหรอ " ยกมือขึ้นจับที่หน้าผาก ผมปัดมือมันออกเบาๆก่อนจะถอนหายใจ
“ ง่วง จะนอน "
“ แต่นอนตอนนี้ เดี๋ยวคืนนี้ก็ไม่หลับหรอก ยังมีของที่ต้องจัดอีกนะมึง "
“ ไว้ก่อนเถอะ กูไม่มีแรงแล้ว กูเหนื่อย "
“ งั้นกูจัดให้ ! “ มันเอียงหน้ามาถาม ผมเองก็บรือตามองมัน ที่แสดงความต้องการแบบนั้น ผมยกยิ้มก่อนจะหันไปทางอื่น ให้มึงจัดมีหวังกูได้เป็นนายแบบในไร่ชาแน่ๆ การแต่งตัวจัดว่าดูดีครับ แต่สำหรับผมบางโอกาสก็ดีเกินไป เป็นคนที่ชอบทำอะไรไม่ต้องเนี๊ยบแต่จะเข้ากับสิ่งที่ทำมากกว่า ไม่ใช่พวกใส่เสื้อสองชั้นกางเกงขายาวเซ็ตผมเท่ๆไปเดินทะเล เป็นพวกชอบใส่กางเกงตัวเดียวมากกว่า " ยิ้มแบบนั้นหมายความว่าไงวะ เสือให้กูจัดให้ รับรองว่าดูดีแบบสไตส์มึง "
“ กูไม่ใช่ควาย เพราะงั้นกูไม่เชื่อ "
“ ไม่จัดเสื้อโค๊ดไปให้หรอกไอ้สัด มึงจะกลัวอะไร ทำไมกูต้องให้แฟนกูดูไม่ดี กูต้องทำให้มึงดูดีสิ ไอ้โง่ ลุกขึ้นมาตกลงกับกูเลย "
“ อยากทำ " มันก็พยักหน้า " เรื่องของมึง "
“ เป็นอันอนุญาติ "
“ จะทำอะไรก็ไปทำไป กูจะนอน " บอกปัดแบบนั้น เสียงเท้ามันก็เดินไปอีกด้านของห้องที่เป็นห้องแต่งตัว ผมตะโกนบอก " เอาเสื้อผ้าแบบสบายนะ แล้วก็เอากางเกงในตัวที่กูใส่บ่อยๆด้วย "
“ รู้แล้วเหละน่า น้องไม่ใช่เพิ่งคบกับพี่เสือวันนี้สักหน่อย " ผมยิ้มกับคำพูดของมันก่อนจะหลับสนิทไปกับความเหนื่อยที่พลังงานสุดท้ายกำลังจะหมดลง
ไฟท์เช้าที่สนามบินผมอ้าปากหาวออกมาแบบไม่เกรงใจคนที่ยืนมีความสุขอยู่ข้างๆเลยสักนิด มองดูกระเป๋าใบใหญ่ข้างกายของมัน ผมเองก็สงสัย " มึงจะแบกบ้านกลับไปที่บ้านมึงรึไง "
“ ใช่ที่ไหน ของฝากทั้งนั้น "
“ ซื้อไปทำไมเยอะแยะ คนที่บ้านมึงไม่เคยมากรุงเทพเหรอ "
“ ไม่ใช่ของปู่กับย่ากูทั้งหมดหรอก เดี๋ยวไปถึงก็รู้เองเหละน่า พูดมาก " เอามือมาบีบปากผม ปิงกระชับกระเป๋าของตัวเองไว้ ของผมเป็นแค่กระเป๋าเป้ครับ ของไม่เยอะเท่าไหร่ เพราะคิดว่าจะไปกันแค่อาทิตย์เดียว
“ ถือให้หน่อย " โยนไปให้มันที่รับเอาไว้แทบไม่ทันด้วยสองมือ ผมตัดสินใจดึงกระเป๋าที่มันถือเอาไว้มาถือไว้เอง เพราะดูท่าทางว่ามันจะหนัก " กูจะถืออันนี้ให้เอง "
“ ขอบใจนะ แฟนใครก็ไม่รู้ น่ารักที่สุดเลย "
“ แฟนของแรดตัวนึง แรดเผือกหน้าแหลม ที่กำลังจะสูญพันธุ์ " ยื่นมือไปจับจมูกของมันส่ายไปมา
“ ว่ากูอีกแล้วนะไอ้แฟนเหี้ย " ผมปัดมือผมออก " ไม่ต้องมายุ่งกับกูเลย "
“ ต้องยุ่ง "
“ อยากจะยุ่งกับน้องเพราะรักน้องสุดหัวใจก็บอก " ทำหน้ายิ้มเขินจนตัวผมเองจนต้องแอบยิ้มตาม
“ ใครว่า " ผมถาม " มึงก็แค่สัตว์สงวนที่กูต้องดูแลเท่านั้นแหละ พวกแรด พวกชะนี "
“ มึง... ไอ้ควายเผือกตัวสุดท้าย มึงคิดว่ามึงเป็นควายเผือกตัวสุดท้ายรึไง ที่มีค่าขนาดที่จะทำอะไรกูก็ได้นะ ห๊ะ! "
“ หึหึ "
“ สักวันกูจะต้องทิ้งมึงไปเอาควายธรรมดา "
“ ระวังแพ้เกมส์นะ " ผมยิ้มให้มัน ปิงหลุดยิ้มออกมาก่อนจะมองไปทางอื่น
“ ชิส์ "
“ ไปเช็คอินได้แล้ว ยืนยิ้มทำเป็นคนบ้าอยู่ได้ "
“ ครับๆ ปากนี่น่าตบแล้วจูบจริงๆเลยน้า เดี๋ยวเถอะ จะเลือดกลบปาก " ผมยกยิ้ม ปิงก็เดินไปเช็คอินตั๋วสองใบของเรา ความตื่นเต้นกำลังย่างเข้ามาใกล้แล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ผมคิดจะไปเที่ยวบ้านของคนที่ได้ชื่อว่า คนรัก แม้จะไม่เคยบอกว่า รักเลยก็ตาม แต่นั่นเพราะปิงเองก็ไม่เคยร้องขอ แต่ถึงจะร้องขอ บางทีก็ยังไม่รู้เลยว่าคนอ่านผม จะพูดมันออกมาเป็นแบบไหน
สายการบินของชาติพาเราลัดฟ้ามาที่สนามบินแม่ฟ้าหลวงของเชียงราย สูดอากาศเข้าไปเต็มปอดสำหรับคนข้างๆที่เท้าเหยียบบ้านเกิดของตัวเอง ผมขยับแว่นกันแดดมองไปรอบๆ ปิงก็เช่นกัน
“ อยู่ไหนกันน้า " มันพูดออกมาเสียงเบาๆก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก " พี่เมฆอยู่ไหนแล้ว "
“ ใกล้ถึงแล้วอีกสิบนาที ยืนรอไปก่อน " ปลายสายที่ผมได้ยินลอดออกมา ปิงพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะวางสาย มันหันมาบอกผม " พี่กูบอกรออีกสิบนาที "
“ มึงมีพี่ด้วย "
“ ก็ลูกพี่ลูกน้องนะ เป็นญาติห่างๆ " มันว่า " ที่นี่อากาศดีนะ ว่ามั้ย "
“ ก็อื้ม " ไม่ขอเถียงอากาศดีจริงๆ อย่างน้อยก็ดีกว่ากรุงเทพที่มีแต่มลพิษ กับรถติด " มึงพูดภาษาเหนือได้มั้ย "
“ ไม่ได้ "
“ เป็นคนเหนือทำไมพูดไม่ได้วะ "
“ ไม่จำเป็นนี่หว่า ไม่ใช่ว่าคนเหนือจะต้องพูดภาษาคำเมืองเป็นทุกคนหรอก นู้น พี่ชายกูมานู้นแล้ว " ชี้ไปที่รถที่กำลังขับเข้ามาใกล้ เป็นรถแลนด์โลเวอร์สีดำที่เหมาะกับพื้นที่
“ พี่เมฆ! สวัสดีครับ" มันยกมือไหว้ ผมเองก็ด้วย
“ เออหวัดดี ขึ้นมาๆ เลย " ลากกระเป๋าไปไว้ท้ายรถ เปิดประตูเข้าไปนั่งด้านใน ส่วนปิงก็นั่งด้านหน้า " แนะนำเพื่อนให้รู้จักหน่อยสิ "
“ อ้อ คนนี้เสือ แฟนปิงเอง ส่วนมึงนี่พี่เมฆพี่ชายกู "
“ สวัสดีครับ " ผมว่า ก่อนจะก้มหน้าให้อีกคนที่มองผมผ่านกระจก เค้ายกยิ้มก่อนจะหันไปขยี้หัวน้องชาย
“ แล้วนี่บอกปู่กับย่ารึยังว่าจะพามาให้รู้จัก "
“ บอกแล้ว " มันว่าเสียงสูง ผมก็มองออกไปนอกหน้าต่างบรรยากาศธรรมชาติสองข้างทาง ต้นไม้ใบเขียวกับถนนลาดยาง ผมได้ยินเสียงของปิงคุยกับพี่ชายไม่ขาดปาก เรื่องราวที่ผมไม่เข้าใจทำให้ได้แต่เงียบ ลอดมองมันผ่านกระจกมองข้าง ปิงก็หันมาหา
“ อีกสิบนาทีก็ถึงแล้ว บ้านกูอยู่บนเขานะ สบายมากๆเลยเเหละ เป็นไร่ชาสวยๆ โน๊ะ พี่เมฆ "
“ ใช่แล้ว มานี่ก็อย่าลืมเก็บชาล่ะ "
“ ครับ " รับคำแบบนั้น จากที่มองพี่เมฆคงอายุคงประมาณเกือบสามสิบแล้ว ผิวคล้ำนิดหน่อยอาจเพราะต้องออกแดดและทำงานหนัก
“ ชาของเรานะ อร่อยที่สุดเลย "
“ แล้วทำไมไม่พาฝนกับไทมาด้วยละ "
“ ไทมันมีแฟนแล้ว มันก็อยู่กับแฟนมันสิ ส่วนปิงมีแฟนแล้ว ก็ต้องพาแฟนมาหา ปู่กับย่าก่อน " มันหัวเราะคิกคัก พี่เมฆก็หัวเราะตาม
“ คบกันได้ไงวะ คนนึงเงียบไม่พูดไม่จา คนนึงพูดมากแถมยังวุ่นวาย "
“ คนที่เหมือนกันมากมาคบกัน มันก็น่าเบื่อแย่สิ ต้องแบบนี้เหละ ไม่เหมือนกันมาคบกัน มันถึงจะเร้าใจ "
“ คำพูดแบบนั้น มันต้องเป็นเสือที่ต้องพูดไม่ใช่เหรอไง "
“ เสือมันไม่พูดหรอก แฟนเค้าเป็นคนเงียบๆ เก็กๆ " มันว่า ก่อนจะหันมายิ้มกว้างกับผม สบสายตามันสักพักผมหันไปมองข้างทางที่กำลังเสี้ยวเข้าสู่พื้นที่กว้าง " กำลังจะถึงแล้วน้า ตื่นเต้นๆ "
สองข้างทางจากทางที่เราต้องเลี้ยวเข้ามาไกลอยู่มาก ก่อนรถจะจอดลงตรงสวนหน้าบ้านที่มีคนสองสามคนมายืนรอรับอยู่ ปิงเด้งตัวลงจากรถ เสียงใสๆของมันตะโกนเรียกคนสองคนที่ยืนยิ้มรอรับมันอยู่
“ คุณปู่! คุณย่า! ปิงกลับมาแล้ว " อ้อมกอดของมันวิ่งเข้าไปกอดท่านทั้งสองที่ยิ้มกว้างออกมา ปู่กับย่าไม่ได้ดูแก่มากมายอย่างที่ผมคิด ผมคิดว่าท่านคงอายุประมาณเจ็ดสิบแล้ว ผมคงขาวและดูท่าทางจะไม่มีแรง แต่ภาพที่เห็นก็ไม่ใช่อายุของท่านน่าจะประมาณ ห้าสิบกว่าๆใกล้จะหกสิบ ผมดำที่มีเยอะกว่าผมขาวบอกผมว่าท่านยังคงแข็งแรง ไม่ได้ถือไม้เท้าอย่างที่คิด
“ นี่ พอแล้ว อะไรจะขนาดนั้นกันเรา " มันหอมแก้มปู่กับย่าซ้ายทีขวาที ดูน่าปวดหัว เสียงหัวเราะมีความสุขของมัน ตอนนี้มันคงลืมผมไปแล้วเเหละครับ
“ ก็คิดถึงนี่่น่า คิดถึงสุดๆเลย พี่ม่อน พี่แจ่ม สวัสดีนะครับ เป็นยังไงบ้างสบายดีนะ "
“ สบายดีค่ะ คุณปิงสบายดีนะ "
“ อื้ม! “ พยักหน้ารับ ปู่มันก็ถาม
“ แล้วนั่นจะไม่แนะนำหนุ่มคนนั้นให้ ปู่กับย่ารู้จักก่อนเหรอ "
“ อ้อ ลืมไปเลย " มันว่าก่อนจะยิ้มเขิน ผมถอนหายใจออกมา ปิงเดินมาหา มันจับมือผมแล้วลากให้เข้าไปหาปู่กับย่าที่ยืนคอยอยู่ " ทุกคนครับ นี่เสือ แฟนปิง ส่วนมึงนี่ ปู่ ย่า พี่ม่อน แล้วก็ พี่แจ่ม "
“ สวัสดีครับ " ยกมือขึ้นไหว้บุคคลทั้งสี่ที่มันแนะนำ สองสาวที่มองผม พวกเธอยิ้มเขิน
“ แฟนคุณปิงนี่ หล่อมากเลยนะคะ "
“ ใช่มั้ยล้าาาา เสือของปิงหล่อมากเลย "
“ ให้มันน้อยๆหน่อย เมื่อก่อนปู่หล่อกว่านี้อีก ไม่เชื่อถามย่าเลย "
“ ย่าว่า เสือน่าจะหล่อกว่านะ " คุณย่ายิ้มหวาน เธอเดินมาหาผมก่อนจะยื่นมือมาจับหน้า " ตามสบายนะ ขาดเหลืออะไรก็บอกปิง หรือว่าบอกม่อนกับแจ่มได้เลยนะ "
“ ครับ คุณย่า "
“ หน้าตาหล่อเหลาดีจริงๆเลยนะ เด็กสมัยนี้ "
“ แล้วนี่คิดไว้รึยัง ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนกัน "
“ ก่อนอื่นขอพักผ่อนก่อนดีกว่า ปิงเหนื่อย ปิงอยากจะนอน " บอกย่าด้วยสีหน้าอ้อนๆ ก่อนจะหันมาจับมือผม " ไปกันมึง " มันว่าแบบนั้น ก่อนจะลากกระเป๋าที่ตัวเองพามาเข้าไปในบ้าน บ้านไม้บรรยากาศร่มรื่น ตอนที่เดินขึ้นมาชั้นสอง ปิงเปิดประตูห้องนอนของมันผมก็เดินตามเข้าไป
ห้องนอนแบบโล่งกว้างแล้วก็ใหญ่ ด้านหน้าเป็นกระจกบานสูงเห็นวิวของไร่ชา " นั่น ไร่ชาเหรอ "
“ อื้ม มันอยู่ด้านหลังของบ้านกูนะ " ปิงเดินมายืนข้างๆ ก่อนจะอธิบาย " นั่นไร่ชา นั่นโรงเก็บชา นั่นก็โรงงาน ก็เป็นไร่ชาเล็กๆที่ส่งออกภายในประเทศเท่านั้นเหละน อ้อ นู่นถัดไปเป็นไร่กาแฟเหละ กาแฟของไร่กูหอมมาก แล้วก็ดังมากด้วยนะ "
“ อวดว่ะ " ผมว่า ก่อนจะผลักหัวมันแล้วกลับมานั่งลงบนเตียง
“ อวดอะไร ไม่ได้อวดเถอะ ถ้ามึงได้กิน มึงจะติดใจ เหมือนที่มึงติดใจกูนั่นแหละ เพราะกูก็คือผลผลิตจากที่นี่ " ปิงนั่งลงข้างๆ มันหันมามองผมที่กำลังล้มตัวลงนอนบนเตียง " เป็นไงบ้าง ปู่กับย่ากูใจดีมั้ย "
“ ตอนนี้ ก็ดี "
“ ท่านนะ น่ารัก ใจดี แล้วก็มีเหตุผล " ปิงว่ายิ้มๆ ก่อนจะเอียงตัวนอนลงตามผม มันที่ดึงตัวเองเข้ามาซุกอยู่ที่อกผม " กูดีใจจังที่ได้พามึงมาที่นี่ มารู้จักกับครอบครัวของกู "
“ มึงอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิดเลยเหรอ "
“ ก็เท่าที่จำความได้ โตขึ้นมาก็อยู่ในบ้านหลังนี้แล้วเหละ กูวิ่งอยู่ในไร่ตั้งแต่เด็กๆ กูเก็บใบชาเป็นด้วยนะ แล้วก็เคยลองปลูกสตอเบอรี่เองด้วย "
“ ก็ว่าทำไมโตขึ้นมา ตอแหลจัง "
“ ส้นตีน ไม่เกี่ยวเถอะ " ปิงว่าแบบนั้นก่อนจะก้มลงกัดหัวนมของผม มันลุกขึ้นนั่ง " จัดเสื้อผ้าให้มึงก่อนแล้วกัน อีกเดี๋ยวคงได้เวลาอาหารเที่ยง กูคิดว่ามื้อนี้ มื้อใหญ่แน่ๆ โดยเฉพาะอาหารพื้นเมือง "
“ ถ้ากูแดกไม่ได้ทำไงดี "
“ ทำใจ แล้วก็ฝืนแดกไป "
“ คิดว่ากูทำได้ "
“ ไม่ได้หรอก " ปิงหันมายิ้มตอนที่กำลังเอาเสื้อผ้าทั้งของผมแล้วก็ของมันไปแขวนในตู้ " เพราะงั้น ถ้ามึงแดกไม่ได้กูจะเข้าครัวไปทำให้เอง "
“ ถ้าแบบนั้น กูคิดว่า กูฝืนแดกของที่บ้านมึงดีกว่า อย่างน้อยก็คงไม่ท้องเสีย "
“ ส้นตีน นิสัยไม่ดีเลยนะ ไม่น่ารัก ไม่น่าจุ๊บๆเลย "
“ ปัญญาอ่อน " ถึงจะบอกแบบนั้น แต่ผมก็เผลอยิ้มออกมาแบบห้ามตัวเองไม่ได้ทุกที
กลิ่นหอมของมื้อเที่ยงพาผมกับปิงเดินลงมาชั้นล่างที่ตอนนี้กำลังจัดเตรียมอาหารเที่ยงกัน คุณปู่นั่งอยู่หัวโต๊ะ ท่านกำลังอ่านหนังสือ ผมกับปิงเดินเข้าไปใกล้ " มึงนั่งตรงนี้ กูจะไปช่วยย่ายกกับข้าว "
“ อื้ม " พยักหน้าให้มัน ผมก็นั่งลงข้างๆท่านที่ลดหนังสือที่อ่าน แล้วส่งยิ้มมาให้
“ เป็นยังไงบ้าง พอนอนได้มั้ย "
“ ได้ครับ สบายมากเลย " ผมตอบตามความจริงอีกคนก็ยิ้ม
“ ดูท่าทางเป็นคนพูดน้อยนะ "
“ ครับ "
“ ส่วนหลานชายฉันก็เป็นคนพูดมาก ดูไม่ค่อยเข้ากันเลยว่ามั้ย "
“ แตกต่างก็ดีนะครับ ถ้าเหมือนกันมากไปก็คงน่าเบื่อ "
“ นั่นคือ เหตุผลที่คบกันเหรอ " ท่านถามก่อนจะยิ้ม
“ ปิงบอกผมแบบนั้นครับ "
“ เด็กคนนั้น เพราะว่าเป็นลูกคนเดียวแล้วก็ไม่มีพ่อแม่ ก็เลยทำตัวร่าเริงมาตลอด เพราะอยากจะให้เป็นที่รักของใครๆ แต่ก็เหมือนว่าเค้าทำถูกแล้ว ปิงเป็นที่รักของทุกคนที่นี่ เค้าใส่ใจคนอื่นอยู่เสมอ "
“ ครับ "
“ แล้วเธอล่ะ เธอใส่ใจคนอื่นมั้ย "
“ ผมใส่ใจเฉพาะคนที่ผมรักครับ "
“ เป็นคนตรงๆนะ แล้วตอนนี้เรียนอะไร "
" เรียนรัฐศาสตร์ครับ "
“ ชอบเหรอ "
“ ก็สนุกดีครับ ผมชอบเรียนอะไรแบบนี้อยู่แล้ว " ปู่พยักหน้า
“ แล้วมาเจอกันได้ยังไง ทำไมถึงเป็นปิงล่ะ "
“ ไม่ใช่แบบที่ชอบตั้งแต่หรอกครับ แต่พอมาอยู่ด้วยกัน แล้วรู้สึกว่าใช่ " ผมเว้นเสียงไปสักครู่ ตอนที่คิดถึงวันที่เจอมันครั้งแรก ตอนที่ด่า หรือแม้ช่วงเวลาในอดีตของเรา " รู้สึกตัวอีกทีผมก็ขาดมันไม่ได้แล้ว "
“ ท่าทางจะไม่เคยบอกเจ้าตัวนะ ประโยคนี้นะ " ผมมองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า ผุดยิ้มออกมาผมพยักหน้า
“ ผู้ชายก็แบบนี้เหละ เก่งเรื่องเดียวก็คือทำให้เค้าอารมณ์เสีย ทั้งๆที่ก็รักขนาดนั้น แต่ก็ทำอะไรหวานๆไม่เป็นไรหรอก ทำได้ดีอย่างเดียวก็แกล้งให้ขัดใจนั่นเหละ "
“ กับข้าววันนี้มาแล้ว " เสียงของปิงดังมาพร้อมกับฝีเท้าที่เข้ามาใกล้ มันตั้งถาดอาหารก่อนจะจัดเรียงถ้วยอาหารพื้นเมืองที่ผมไม่รู้จัดไว้เต็มโต๊ะ " คุยอะไรกันอยู่เหรอ "
“ เรื่องของหนุ่มๆนะ "
“ ปิงก็หนุ่มนะ ขอฟังด้วยได้มั้ย " มันเดินเข้าไปหา ปู่ก้มลงกอดจากด้านหลังก่อนจะยิ้มหวาน " ขอฟังด้วยคนสิครับ "
“ ไปเอากับข้าวมาให้หมดก่อนไป "
“ ไม่ยอมเล่าด้วย ท่าทางจะเป็นความลับ " มันว่าแบบนั้นก่อนจะหันมามองผม " คุยอะไรกันเหรอมึง "
" เสือก " ปิงทำตาโต มันตีแขนผม
" นี่มันต่อหน้าปู่กูนะมึง ว่ากูแบบนี้ได้ไง " ผมยิ้มก่อนจะหันไปก้มหน้าขอโทษกับปู่
" ใจร้าย ปู่เองก็ไม่ด่ามันสักคำ " ปิงนั่งลงข้างๆผม อาหารอีกส่วนที่เหลือ พี่ม่อนกับพี่แจ่มเป็นคนยกออกมา คุณย่านั่งลงตรงหน้าผม
“ ตักข้าวได้เลยแจ่ม "
“ ค่ะ คุณย่า " เสียงรับคำก่อนปิงจะตั้งคำถาม
“ คุณย่าไม่รอ พี่เมฆเหรอ "
“ รายนั้นเค้าไปกินกับแฟนเค้า " ปิงพยักหน้ารับ ก่อนจะยิ้มกว้าง
“ เมื่อไหร่จะมีหลานน้า หลานตัวเล็กๆ หรือว่าย่า พี่เมฆไม่ค่อยทำการบ้าน " ผมหันไปหามันที่ก็หันมาอธิบายผม " พี่เมฆนะ แต่งงานแล้วกับพี่มีนาแต่งมาปีนึงแล้วแต่ยังไม่มีลูกน่ะ "
“ ถ้าเป็นเราป่านนี้คงวิ่งเล่นได้สักโขลงแล้วล่ะ " ปู่พูดแซวมันก็ยิ้มกว้างก่อนจะบิดตัวไปมา
“ ปู่ก็ พูดอะไรก็ไม่รู้ ไม่ได้บ่อยขนาดนั้นสักหน่อย " ก้มหน้าลงกินข้าว ผมมองเมนูอาหารที่ไม่คุ้นตาก่อนจะยิ้มจางๆออกมาเพราะไม่รู้ว่าจะตักอันไหนกินดี
“ อาหารคงไม่คุ้นตาใช่มั้ย เสือ " ย่าถาม
“ ครับ ผมไม่เคยกินอาหารเหนือ " บอกออกไปแบบนั้นอีกคนก็ยิ้มกว้าง
“ รสชาติมันไม่จัดมากหรอกจ้ะ งั้นลองอันนี้ก่อนนะ แกงฮังเล นิดนึงก็พอ ชิมดูว่าเป็นยังไง " หมูชิ้นนึงถูกตักมาใส่จานให้พร้อมกับน้ำแกงของมัน ผมตักกินพร้อมกับข้าว รสชาติดีเลยครับ ดีกว่าที่คิดไว้
“ อร่อยครับ "
“ มาเป็นแฟนคนเหนือ ก็ต้องรู้จักชอบอาหารเหนือสิ ถูกมั้ย " ปู่แซวผม ท่านยิ้มก่อนจะตักผัดวุ้นเส้นใส่ไข่เค็มให้
“ ขอบคุณครับ "
“ เดี๋ยวทานข้าวเสร็จ ย่ามีไอติมกระทิของโปรดปิงด้วยนะ "
“ จริงเหรอ โอ๊ยย ต้องกลิ้งกลับกรุงเทพแน่ๆเลยงานนี้ "
“ กินเข้าไปเยอะๆเถอะน่า เรานะ ผอมเกินไปแล้ว " ปู่ว่า " ไม่เต็มไม้เต็มมือเลย เสือมันจะไปชอบได้ไง "
“ ชอบเถอะ " สะบัดใส่หน้าปู่ตัวเอง มันตักไก่ทอดให้ผม
“ เสือชอบโน๊ะ "
“ คิดไปเองรึเปล่า "
“ เชี้ย " มันสบถ ทุกคนก็หัวเราะ " ทำไมต้องรุมปิงด้วย ใจร้ายกันจัง " มันนั่งหน้ามุ้ยอยู่สักพักก่อนเสียงจากหน้าบ้านจะดังเข้ามาถึงในครัว เสียงที่มาพร้อมกับฝีเท้าเล็กๆที่วิ่งเร็ว
“ พี่ปิงงงงงงงงงงงง พี่ปิงของเก้า พี่ปิงมาแล้ว " คนร่างเล็กที่พุ่งเข้ามากอดคนที่นั่งข้างๆผมจากด้านหนัง แก้มของมันแนบกับแก้มของปิงก่อนจะยิ้มกว้าง " คิดถึงจังเลยครับ คิดถึงจังเลย "
“ เก้า ปล่อย อึดอัด " ปิงว่าก่อนจะหันมาหาผมที่ขมวดคิ้วมองมันอยู่
“ ไม่ปล่อย เก้าคิดถึงพี่ปิง พี่ปิงของเก้า "
“ ปล่อยเว้ย แฟนกูมองอยู่เดี่ยวมันก็กินหัวมึงหรอก " พอบอกออกไปแบบนั้น เด็กตัวเล็กที่เอาแต่กอดก็เงยหน้าขึ้นมองผม
“ แฟน .. อะไรที่บอกว่าแฟน " เก้าถาม พอเห็นหน้ามันชัดๆ ก็จัดว่าเป็นเด็กหน้าตาน่ารักนะครับ แต่ดูกวนตีนชอบกล
“ คนนี้พี่เสือ เป็นแฟนพี่ ส่วนเสือนี่เก้า น้องกูอยู่ป.สอง "
“ ไม่ใช่น้อง!!! “ มันตะโกนออกมา แววตาโกรธที่ส่งไปให้ปิง ปู่กับย่าก็พากันหัวเราะ " ไม่ใช่น้องสักหน่อย คุณปู่คุณย่าไม่ต้องมาหัวเราะเลย เก้าเป็นคู่หมั้นนะ เก้าเป็นคู่หมั้นพี่ปิง!! “
“ ห๊า " ผมว่า " ไอ้เปี๊ยกนี่อะนะ "
“ ใช่ที่ไหนกันเล่า "
“ เก้าเป็นคู่หมั้น เก้าเป็นคู่หมั้นของพี่ปิง!! “ แววตาโกรธของมันที่มองผม สองมือก็ก้มลงกอดปิงเข้าไปแน่น ผมได้แต่หันไปมมองปู่กับย่าที่พากันยิ้ม กับปิงที่เกาหัวแบบเซงๆ
“ นี่มันเรื่องอะไรกันว่ะ "
............................................
ตอนหน้าพบกับ พี่เสือกับเด็ก
เราว่ามันเป็นอะไรที่... มากเลย ถ้าพี่เสือต้องมาเจอกับเด็ก ฮ่าๆ
อยากให้พาสไปเที่ยวบ้านปิงเป็นพาสที่ทำให้ทุกคนยิ้มๆ อบอุ่นๆนะคะ
ฝากด้วยจ้า
ใครมีทวิต หนมฝากแท็ก #เสือปิง ด้วยนะคร่า
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า