ตอนที่ ๕/๒
“สวัสดีครับ”
“สวัสดีครับ”
“ซวยแล้วไหมล่ะ”แสบกระซิบที่ข้างหูผม ผมเองก็รู้สึกเห็นด้วยว่าความซวยมาเยือน
“นั่งลงได้ เดี๋ยวขอเวลาสักครู่นะ เอ่อ ๒ คนนั้นมาช่วยผู้หมวดหน่อยสิ”ผู้มาอบรมชี้มาที่พวกเรา ๒ คน ผมกับแสบทำหน้าเหวอนิดหน่อย มองหน้าหมวดรินแบบจะขอความช่วยเหลือ แต่หมวดรินก็มองมาแล้วทำหน้างงใส่
“ลุกดิ มองหน้าทำไม”หมวดรินพูด พวกเรา ๒ คนจำใจต้องลุกขึ้น คือโปรเจคเตอร์ก็ต่อเรียบร้อยแล้ว อุปกรณ์อะไรต่างๆเตรียมพร้อมไว้เกือบหมดแล้ว จะเรียกไปทำไม ผู้ช่วยครู่ที่ทำหน้าที่ตรงนี้ก็มี
“ไม่เจอกันนานนะ ไม่คิดว่าจะอยู่ที่นี่ ถามใครก็ไม่มีใครยอมบอก”เขายิ้มให้พวกผม ๒ คน แต่พวกเรารู้สึกว่ามันเฟคมาก
“ครับ”แสบรับคำแล้วยืนนิ่งๆ
“ต่อคอมให้หน่อยดิ”แสบนั่งลงแล้วจัดการต่อ ส่วนเขาก็ทักทายทหาร ผมช่วยแสบอีกแรงหนึ่ง จริงๆมันไม่ยากหรอกแค่เสียบไปนิดเดียวแล้วหมุนๆให้มันยึดเข้าหากันแค่นั้นเอง แต่คือมันหาเรื่องพวกผมไง
“เดี๋ยวขอดูไฟล์หน่อยนะ”ผู้บรรยายไปยืนคร่อมด้านหลัง แสบจะลุกหนีแต่เขาก็เอาแขนอีกข้างขวางเอาไว้ แต่แสบก็เอาหัวมุดออก
“ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย”แสบถามแบบไม่พอใจ ผมก็ไม่พอใจกับการกระทำของเขา มันไม่ใช่ครั้งแรกแต่มันเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้
“ใจเย็นน่า”
“มีอะไรวะแสบ ทำตัวมีมารยาทหน่อย”หมวดรินเตือน
“ผมจะมีมารยาทกับคนที่มีมารยาทกับผมเท่านั้นครับผู้หมวด”แสบมองหน้าผู้หมวด
“พี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”ผู้บรรยายทำหน้าแบบ กูไม่รู้เรื่องนะ
“เราต้องเคลียร์กันนะแสบ”หมวดรินกอดอกมองหน้า
“ครับ”แสบรับคำแบบไม่เกรงกลัว พวกเราไม่เคยกลัว ถ้าเราทำถูกต้องนั่นคือถูกต้อง ถ้าไม่ถูกต้องนั่นคือเราต้องรับผิด ถ้ามันจะผิดก็ผิดครับ ไม่เคยกลัวใคร
“สวัสดีครับน้องๆทหารทุกๆคน ผู้หมวดชื่อพิชญะ ..... ก็ได้รับเชิญจากผู้หมวดนรินทร์ให้มาบรรยายเกี่ยวกับเรื่องทหารของเราในวันนี้....”ผู้บรรยายแนะนำตัว ชื่อพิชญะ ชื่อนี้เราไม่ชอบเลยครับ ไม่ชอบคนนี้นี้ นิสัยไม่ไหวมากๆ
พวกเรานั่งฟังข้อมูลที่บรรยาย ตั้งใจบ้าง เผลอบ้าง เวลาบรรยายหมวดพิชญะ หรือหมวดโน่ชอบส่งสายตามาที่พวกเรา ๒ คน พ่อคุณพยายามมาก ผมเบื่อสายตาแบบนี้มาก คือพี่แกตามอ้อร้อผมกับแสบนานแล้ว ทีแรกเข้าหาแสบก่อน เข้าหาแสบจากน้องสาว คือ แสบอ่ะไปรู้จักกับน้องสาวของหมวดคนนี้ไง แสบมันก็สนิทกับคนอื่นทุกคน ใครๆเข้าหามัน มันก็คุยด้วย เฟรนลี่กับแฟนคลับ เรามีแฟนคลับด้วยนะ เราก็เฟรนลี่ตามปกติ ทีนี้จีน่า น้องสาวหมวดจีโน่ ก็พาแสบไปรู้จักกับกับหมวดจีโน่ ทีแรกก็คุยดี แต่หลังๆ นิสัยไม่ค่อยดีครับ คำพูดก็ไม่ดี การกระทำก็ไม่ดี เราจึงไม่ชอบคนนี้ พยายามเลี่ยงที่จะเจอ นี่ก็มาเจออีกละ น่าเบื่อ
“เป็นไง เข้าใจไหม”หมวดโน่ถามพวกเราและยิ้มให้
“เข้าใจครับ”ผมกับแสบตอบพร้อมกัน
“เข้าใจว่าไง ไหนอธิบายให้ฟังหน่อย”
“เข้าใจว่า”ผมกำลังจะอ้าปากตอบ
“เฮ้ยมึงไอ้แฝด เวลาคุยกับผู้บังคับบัญชาก็ลุกขึ้นยืนตรงสิวะ อย่าทำตัวเหมือนไม่ได้ฝึกมา”หมู่โอมคนเดิมดุพวกเรา โอเค อันนี้เราผิด ผมกับแสบยืนขึ้น
“แก้ไขครับครู ผมขอตอบก่อนครับ ผมเข้าใจว่า ทหารมีสิทธิ...”ผมอธิบายไปคร่าวๆ
“....”และแสบก็อธิบายบ้าง จากนั้นเขาก็ถามจี้ ถามแบบละเอียดมากซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะจำสไลด์ ๑๐๐ กว่าอันได้ภายในเวลาไม่เท่าไหร่ พวกเราตอบผิดบ้างตอบถูกบ้าง หมู่โอมก็ดุพวกผมอยู่นั่นแหละ ผมพยายามจะไม่โวยวายอะไร แต่แสบนี่สิ คงจะหมดความอดทนก่อน
“ถามแบบนี้ถามหาเรื่องกันใช่ไหมครับผู้หมวด ใครจะไปจำรายละเอียดได้ทั้งหมดผมไม่ใช่อัจฉริยะนะครับ ถามจี้เหมือนจะเอาถ้วยโอลิมปิก”
“ใจเย็นสิวะ แค่ถามทดสอบความรู้”
“แล้วคิดว่าผมรู้ทุกอย่างที่ถามไหมครับ บางเรื่องผมไม่รู้ก็ถามจี้อยู่นั่นแหละ เอาให้มันตรงประเด็นบ้าง ถามแบบนี้เจตนาแกล้งกันชัดๆ”
“ใครให้มึงพูดแบบนี้ไอ้แสบ”หมวดรินของขึ้นละครับ
“ผู้หมวดก็ดูสิครับ ถามแบบนี้ใครจะไปตอบได้”
“แต่มึงก็ไม่ควรจะมารยาทเสียแบบนี้”หมวดรินดุอีกรอบ
“แล้วเขามารยาทดีกับผมก่อนไหมล่ะ เจตนาแกล้งกันชัดๆ อย่าให้ผมต้องไม่ชอบขี้หน้ามากไปกว่านี้เลยนะผู้หมวด แค่นี้ผมก็อดทนมากเกินพอแล้ว”แสบมองหน้าหมวดรินแบบไม่พอใจ
“ผู้หมวดหยุดเถอะครับ อย่าก่อกวนพวกผมอีกเลย ถือว่าขอร้อง”ผมพูดเสริมอีกคน
“ทำมึงคิดว่าหมวดแกล้งล่ะ ที่ถามน่ะความรู้ทั้งนั้น เจตนาดีอยากให้ทหารได้ความรู้”
“ใจลึกๆคิดแบบนั้นจริงหรือเปล่าครับ”ผมพูดสำทับอีกรอบ
“พวกมึงไปพุ่งหลังเลยไปไอ้แสบไอ้ซ่า คนละพันยก คืนนี้พวกมึงเจอกูแน่”หมวดรินชี้ไปด้านนอก พวกเราต้องเดินออกไป หึ คงสะใจเขาล่ะสิ
ครู่หนึ่งหมวดโน่เก็บของ เดินมาดูพวกเรา และเดินออกไป ที่เหลือเหรอครับ โดนแดกเหมือนกัน แต่โดนน้อยกว่า พวกผมโดนหนักกว่า ใครที่หมั่นไส้คือมาจัดหนักเลยครับ ทั้งพุ่งหลัง ลุกนั่ง ลุกหมอบนอนหงาย แองกาลู วิดพื้น แดกจนถึงเที่ยงคืนถึงได้เลิก พวกเราได้แค่จดจำกับการกระทำครั้งนี้ มันสอนให้รู้ว่า เมื่อไหร่ที่เราล้ม เมื่อนั้นคนจะรุมเหยียบเราทันที
“ไปอาบน้ำล้างตัว พรุ่งนี้อย่าสำออยนะพวกมึง”หมวดรินมองหน้าพวกผมแล้วเดินไปด้วยอารมณ์ไม่พอใจ ผมกับแสบ ๒ คนขึ้นไปเอาเครื่องอาบน้ำแล้วอาบน้ำอย่างรวดเร็วอีกครั้ง เราไม่พูดอะไร เพราะผู้ช่วยครูคุมอยู่ ถึงเวลานอนเราก็นอนครับ
ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด ปริ๊ด
“อรุณสวัสดิ์ครับสิบเวร อรุณสวัสดิ์ครับครูฝึก อรุณสวัสดิ์ครับผู้ฝึก”เสียงดังลั่นโรงนอนในยามเช้าพร้อมกับไปที่ส่องสว่างไปทั่วโรงนอน ผมลงจากเตียงด้านบนเก็บหมอนมุ้งให้เรียบร้อย รู้สึกปวดเนื้อปวดตัวเพราะเจอแดกหนักเมื่อวาน เราก็กระย่องกระแย่งรีบทำกิจวัตรให้รวดเร็ว
แต่งชุดวิ่งเรียบร้อยลงไปด้านล่างตามเสียงเรียก จัดแถวอย่างว่องไวแล้วเดินแถวไปหน้าลานกองร้อยเพื่อทำการเช็คยอด ปวดเยี่ยวนะครับแต่ต้องอดทนก่อน แล้วอยู่ๆก็มีคนตดในแถว
“ไอ้เหี้ยเอ๊ยยยยยยยยย หมอบเลยมึง”ครูนายสิบสั่งหมอบ พวกเราก็รีบขยายตัวหมอบลงกับพื้น อ่า เย็นดี แต่เราหมอบได้ช้ามากเพราะมันปวดตึงไปทั่วตัว คือแค่สัปดาห์ที่ ๒ เองแต่เรา ๒ คนโดนหนักซะแล้ว
“ใครตด”
“ผมครับ”ดีนะที่คนตดมันกล้ารับ
“เดี๋ยวมึงเดี๋ยวก่อน ทั้งหมดลุก แต่ละหมวดตอนเรียง ๕ จัดแถว”
พรึ่บ “เฮ้” ตบข้างขาเสียงดังแล้วจัดเป็นรูปแถวเหมือนเดิม จากนั้นหัวหน้าหมวดเป็นผู้รายงาน หมวดผมนี่หัวหน้าหมวดชื่อจิ๊บครับ มันอยู่กลางๆแถวอ่ะ พอรายงานเสร็จก็ฟังผู้หมวดพูดคุยก่อนจะปล่อยให้เข้าห้องน้ำ ตอนปล่อยให้เข้าห้องน้ำใครไวก็ได้เข้าไปถ่ายหนักก่อน ใครช้าก็ได้แค่ถ่ายเบา ผมนี่ขายาว อยู่หน้า แต่วันนี้ไม่ทันครับ มันตึงๆไปทั้งตัว ได้แค่ไปยืนต่อแถว เออ ฮาอยู่เรื่องหนึ่งที่พ่อเคยเล่าให้ฟัง คือพ่อเข้าห้องน้ำแล้วไม่ได้ขี้อ่ะ พ่อเล่ากับอาหนู อาตวง “ไอ้ห่า กูรูดซิป กำลังหย่อนตูดเว้ย กูตดเคลียร์พื้นที่ก่อน พอจะเบ่ง เสียงปรี๊ด ไอ้เลวเอ๊ย กูเด้งขึ้นดึงกางเกงรีบรูดซิปวิ่งออกไปเข้าแถว”อันนี้พ่อเล่าให้ฟัง ผมนี่ฮาก๊ากแทบตกเก้าอี้
คนในออกคนนอกเข้า ผมก็รีบจัดการตัวเองให้เรียบร้อย แป๊บเดียวเสียงเรียกรวมดังขึ้น ดีนะที่ไม่มีอะไรค้างคา ฮ่าๆๆ ออกจากห้องน้ำได้ก็วิ่งไปเข้าแถวกับเขา วิ่งไปแบบปวดๆ เราจะแสดงให้คนอื่นรู้ว่าเราเจ็บไม่ได้ ผมมองหน้าแสบก็ยิ้มให้แสบ ก็มีกันอยู่แค่นี้
“เกิดเป็นชาย เชื่อชาติชาญทหารบกไทย เก่งกาจใจฉกรรจ์ องอาจฟาดฟันรุกรันปัญจา หากศัตรู...”เราร้องเพลงมาร์ชกองทัพบกนะครับ การวิ่งก็ต้องมีเพลง เพลงหลายเพลงเลยครับ วันนี้วิ่งกัน ๔ รอบ วิ่งเสร็จมาเล่นพีที ยืดเส้นยืดสาย วันนี้ไม่ค่อยเต็มที่เลยครับ และวันนี้พวกเรา ๒ คนถูกมองแปลกๆ เหมือนะไม่พอใจเรื่องเมื่อคืน คือมันก็มีคำพูดหลุดๆออกมานะครับจากเพื่อนทหารใหม่ช่วงเข้าห้องน้ำหาว่าเราเป็นแฝดนรก หาเรื่องให้พวกเรา ผมกับแสบก็หน้าเจื่อน จริงๆถือว่าเราพลาดที่ไม่รู้จักคุมอารมณ์ เราลืมสถานะของเราว่าไม่ใช่ฐานะที่เราจะไปเถียงใครได้ มันก็ผิดจริงๆครับ วันนี้พวกเราจึงถูกมองแบบไม่เป็นมิตร
เวรเลี้ยงมื้อเช้า หมวด ๑ เราไปจัด เราก็ทำเต็มที่ ช่วยทุกอย่าง มันเจ็บไปทั้งเนื้อทั้งตัวเลยนะครับ แต่มันจะเป็นข้ออ้างของการไม่ทำงานไม่ได้ ไม่มีใครรู้หรอกว่าเราเจ็บตัวแค่ไหน และเราก็เจ็บใจตัวเองเหมือนกันที่ถูกเขาแสดงมารยาทที่ไม่ดีใส่
“ไอ้เหี้ย อะไรของมึงวะ ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะมึง ไม่เห็นเหรอว่ากูจะเดินมา”ผมถือถ้วยแกงเดินตามไป คนที่บ่นเขาวางที่วางข้าววงก่อนหน้า ผมจะเดินไปวางวงถัดไป แล้วเขาเด้งตัวมาพอดี มันก็ชนน่ะสิครับ น้ำแกงกระฉอกโดนเสื้อเขาและโดนมือผม ร้อนๆเลยครับเกือบหลุดมือ
“ขอโทษ”
“เหี้ยจริงๆ”เขาบ่นแล้วทำหน้าไม่พอใจ ผมก็เอาแกงไปวาง คิดแง่บวกเอาไว้ คนเราไม่มีใครไม่เจ็บหรอกเว้ย อย่าเก็บมาเป็นอารมณ์ พ่อบอกเสมอว่าเราเจออะไรเราต้องคุมอารมณ์เราให้ได้ เวลาเจอเรื่องดีใจก็คุมอารมณ์ให้พอดี เวลาเจอเรื่องไม่ดี เราก็ต้องคุมอารมณ์ไม่ให้ความไม่ดีมาเกาะกินใจเรา
“เป็นไรมากป่ะ”แสบเดินมาจับมือผม
“ไม่เป็นไร หนังหนา”
“เหมือนหน้าพวกเราเลยเนอะ”
“ฮ่าๆๆ”ผมกับแสบหัวเราะกันเบาๆแล้วจัดวงข้าวต่อ ทำเต็มที่ ทำทุกอย่างจนเสร็จเรียบร้อยจากนั้นไปนั่งรอด้านนอก ครู่หนึ่งหมวดที่เหลือเดินแถวเข้ามาที่โรงเลี้ยง ก่อนจะกินข้าวเช้าเราโดนลงโทษอีกแล้วครับ โทษฐานไม่มีวินัย
“ทั้งหมด กล่าวคำปฏิญาณ”
“ข้าวทุกจาน อาหารทุกอย่าง...”
“เชิญรับประทาน”
“ขอบคุณครับ”
เช้านี้แกงจืด ไข่เจียวครับ พวกเราต้องกินให้เงียบที่สุด กินให้ไวที่สุด จะขยับทีก็ปวดแขน แต่พยายามฝืน แสบคงไม่ต่างกัน
“ปวดแขนเหรอ”ผมถามแสบ
“อืม ซ่าล่ะ”
“ปวดทั้งตัว”
“มันใช่เวลาคุยไหมไอ้แฝด เวลาแดกก็แดกดิ”
“ไหนใครคุย ออกมานี่”เสียงผู้หมวด ผมกับแสบต้องวางช้อน คนอื่นๆนี่หันไปมองผู้หมวดกันเป็นแถวครับ “ไอ้พวกที่เหลือกินไป ไอ้พวกขี้คุยมานี่”โดนไปอีกดอกครับ
“....”ผมพยักหน้ากับแสบแล้วลุกขึ้น แล้วเราไปยืนตรงหน้าโต๊ะกินข้าวของผู้หมวด
“มันใช่เวลาคุยไหม”
“ไม่ใช่ครับ”เราตอบพร้อมกันกับผม
“แล้วไม่ได้ยินคำสั่งหรือไงว่าห้ามคุยกันเวลากินข้าว”
“ได้ยินครับ”
“ได้ยินแล้วทำไมไม่ทำตามคำสั่ง”
“....”
“ตอบสิ ทำไมไม่ทำตามคำสั่ง”
“คนอื่นก็พูด”ผมตอบ
“ทำไมต้องเอาคนอื่นมาเกี่ยวข้องด้วย”
“พวกเราผิดไปแล้วครับ”
“ก็ใช่ไง ผิดไปแล้ว”
“ไร้มารยาทแบบนี้ไม่ต้องให้กินข้าวหรอกมั้งครับผู้หมวด”หมู่โอมชงขึ้นมาอีกคน
“หึ ไปพุ่งหลังจนกว่าเพื่อนจะกินข้าวเสร็จ ไป๊”เสียงตะคอกไล่หลัง พวกเราต้องเดินไปหน้าโรงเลี้ยง
“๑ ๒ ๓ ๑...... ๑ ๒ ๓ ๑๐”
“พอๆ เข้ามากินข้าว อย่าคุยกันอีกนะ”พวกเรายืนตรงกล่าวขอบคุณแล้วเดินไปนั่งที่เดิม ไข่เจียวโดนขโมยไปแล้วครับ ทำอะไรไม่ได้ บ่นไม่ได้ ได้แต่กินที่เหลือให้มันอิ่มๆไป
พ่อบอกการเอาตัวรอดอีกอย่างหนึ่งเวลาเรากินไม่อิ่มนั่นคือ เวลาล้างถ้วยล้างจานให้กินข้าวที่เหลือ ข้าวเปล่าก็ช่างแต่ต้องหาจังหวะกินให้ได้ ผมกับซ่าจึงอาสาล้างหม้อข้าว หม้อข้าวมันจะมีข้าวเหลืออยู่ก้นหม้อ พวกเราก็โซ้ยกันอย่างเดียว แล้วล้างหม้อ ที่เหลือเขาล้างแก้ว ล้างถ้วยชาม หม้อข้าวหม้อแกงมันใหญ่ไม่ค่อยมีใครอยากจะล้าง
“เสร็จยัง ถ้าเสร็จแล้วเตรียมตัวไปเข้าแถวได้”ผู้ช่วยครูถามพวกเรา ใครที่เสร็จแล้วจึงไปตั้งแถวรอ
“โอ๊ะ”แสบร้องเสียงเบา ผมหันไปมองคนทำ
“เป็นไร”โพธิ์นั่นเองเป็นคนตบไหล่แสบ
“เจ็บอ่ะดิ”
“เหรอ โทษทีไม่รู้อ่ะ เจ็บมากป่ะ”
“พอทนได้”
“แล้วมีเรื่องกันมาก่อนเหรอ ถึงได้กล้าทำแบบนั้น”
“อืม เคยมีเรื่องไม่ดีต่อกันมาก่อนน่ะ อย่าไปรู้เลย มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ และมันก็ไม่ค่อยดีที่เราเอาเรื่องคนอื่นมาเล่า”
“โห นี่กะจะไม่ให้กูเสือกเลยรึไง กูน้อยใจ”
“เขาจะหาว่าข้าเป็นคนไม่ดีต่างหากล่ะ เรื่องมันผ่านไปแล้วช่างมันเถอะ”แสบยิ้มให้โพธิ์
“แต่ผู้หมวดคนนั้นก็กวนประสาทจริงๆนะ ถามเหมือนจะเอาแชมป์โลกงั้นแหละ จงใจแกล้งกันชัดๆ เป็นกูนะ กูจะต่อยเข้าให้”
“เดี๋ยวโดนจับขังหรอก”ผมพูด
“เฮ้อ”
“แถวตอนเรียง ๕ จัดแถว”
พรึ่บ “เฮ้”
“นิ่ง นับตลอด นับ”
“๑ ๒ ๓ .... ๓๙ ๔๐ ๔๐ นายครับ”
“ครบนะ แถวตรง หน้าเดิน”
“ระวังๆ นับ”
ก็ตามวิธีการฝึกครับ เดินนับก้าวไปที่ศาลากลางน้ำ ไปพักผ่อนหลังกินมื้อเช้า ว่างๆแบบนี้ผมก็นั่งนวดให้แสบ สลับๆกันครับ ไม่มียานวดด้วย ไม่อยากขอ ผู้หมวดก็มีมามองๆบ้าง พวกเราก็ไม่ได้คุยอะไรด้วย เพราะประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้เราต้องวางตัวให้ถูกต้อง ผมก็คุยกับแสบเบาๆเรื่อยเปื่อยของพวกเรา จนได้เวลาฝึกเราก็ไปฝึกกัน
วันนี้เราฝึกประกอบกับอาวุธปืนครับ เรื่องปืน ถ้าปืนสั้นนี่ผมพอถนัดบ้าง พี่ภีมชอบชวนไปยิงปืนบ่อยๆ ก็เป็นสมาชิกที่ค่ายนั่นแหละครับ ว่างๆเราก็ไปฝึกยิงปืนกัน ทั้งปืนสั้น ปืนยาว ใครครอบครัวเรายิงปืนกันเป็นทุกคน ที่เราต้องมีปืนเพราะบางเรื่องปืนมันช่วยเราได้ อย่างเช่นมีครั้งหนึ่ง เราขับรถแล้วไปเจอคนขับกวน คือทีแรกเราก็ไม่ได้ตั้งใจจะกวนเขาหรอก เราขับของเราไปไง ทีนี้มันเกิดเรื่องเล็กน้องเราก็ขับแซงเรา พอเราจะวิ่งอีกเลนส์ เขาก็มาปาดหน้าแทบจะชนตูดหลายครั้ง ครั้งนั้นพ่อเลยเปิดกระจกรถ เอาปืนสั้นชูขึ้นฟ้า คราวนี้คันหน้าเหยียบคันเร่งหนีเลยครับ คนมันเถื่อนอ่ะ หมายถึงเขานะ เราไม่อยากจะเถื่อนหรอกมันจำเป็น
อ้าว ออกทะเล หึหึ ก็มาฝึกท่าประกอบอาวุธ ปืนนี้กระบอกนี้เป็นชุดใหม่เข้ามาประจำการได้ไม่กี่ปีครับ ยังใหม่อยู่เลย ปืนชุดที่แล้วนี่ปลดประจำการไปแล้วนะครับ พ่อบอกว่าสมัยพ่อฝึกเอ็ม ๑๖ และปืนทาโว่ อันนี้เป็นอีกรุ่นหนึ่ง คืออาวุธมันต้องพัฒนาขีดความสามารถกันเรื่อยๆจะใช้ปืนแบบเก่าก็ไม่ได้
ฝึกเสร็จคนที่ชอบเล่นปืนก็นั่งโม้เรื่องปืน พวกเราชินแล้วครับไม่ค่อยพูดอะไร คือไม่อยากจะพูดอะไรมากด้วยล่ะครับ ถามว่ารู้ไหม ก็รู้อ่ะเพราะพี่ภูมพี่ภีมมีปืนหลายรุ่นมาก อันไหนดี อันไหนด้อยยังไง
ช่วงพักหมวดรินก็มาดูพวกเราครับ คือมาดูตั้งแต่การฝึกแล้วล่ะครับว่าเป็นยังไงบ้าง จนมาถึงช่วงพักก็มานั่งคุยกับทหาร วันนี้ผมกับแสบไม่ได้เข้าไปคุยด้วย เพราะเราไม่รู้ว่าเข้าไปแล้วอารมณ์ผู้หมวดจะแบบไหน กลัวว่าเราไปคุยแล้วเราจะผิดอีก เราจึงนั่งคุยกัน ๒ คนพี่น้อง คุยเรื่องสิ่งประดิษฐ์ของเรา
“นี่ไม่คิดจะทำความรู้จักใครเลยรึไง ไม่เอาเพื่อนเอาฝูงเลยเหรอพวกมึง”หมวดรินมองหน้าแบบไม่ค่อยพอใจ
“ครับ”ได้แต่ครับไม่อยากพูดอะไร
“หยิ่งเหรอถึงไม่อยากคบใคร”
“เปล่าครับ”
“พวกมึงนี่”แล้วผู้หมวดก็เดินไป จากนั้นหมู่โอมมาเสียบแทนเลยครับ มาแดกเรา ๒ คนโทษฐานทำให้ผู้หมวดไม่พอใจ ช่วงนี้ดวงเราลงป่ะวะ ทำไมถึงโดนทำโทษด้วยเหตุผลแปลกๆ เราก็ไม่บ่นนะ ทำของเราไป เราจะอดทนของเราจนมันถึงที่สุด
ฝึกรอบแรกผ่านไป มาที่รอบ ๒ บ้าง จากนั้นก็รอบสุดท้าย ใกล้ๆเวลากินข้าวเราก็ไปจัดเวรเลี้ยงอีก คือจะสลับหมวดละวันนะครับ วันนี้มื้อเช้า กลางวัน เย็น เป็นหน้าที่ของหมวด ๑ พรุ่งนี้ก็จะเป็นของหมวด ๒ วนกันไปเรื่อยๆแบบนี้
มื้อกลางวันมาถึงกับข้าวอร่อยดี เป็นคะน้าหมูกรอบ เกาเหลา กับไส้กรอกทอด มื้อนี้เรากินกันเงียบๆไม่คุย เพราะโดนเล่นเมื่อเช้าไง คนเรามันเจ็บครั้งหนึ่งมันต้องจำ เวลารับอะไหล่เราก็รายงานเสียงดัง
“เฮ้ย รายงานแบบนี้มึงไม่พอใจรึไง”หมวดรินอีกแล้วครับ
“เปล่าครับ”
“ตั้งแต่เมื่อคืนละนะ”หมวดรินพูด ผมนี่ไม่พอใจเลยครับ แต่ไม่แสดงสีหน้าใดๆ เก็บเอาไว้ ทำไมนะ เรื่องเมื่อคืนคือมันผ่านไปแล้วยังเก็บมาอีก ตกลงคือเราทำอะไรก็ผิดทุกอย่างเลยใช่ไหม หรือว่าที่ใจดีๆที่ผ่านมาผู้หมวดก็ใจดีไปงั้นๆแต่ไม่พอใจตั้งแต่แรกแล้ว ผมคิดอะไรไม่ออกเลยครับ ตอนนี้คือทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง “จะรับก็รับดิ ยืนเซ่อทำไม”
“ครับ”ผมเดินไปรับอะไหล่แล้วรีบเดินกลับวงข้าวอย่างรวดเร็ว แสบมองหน้าผมแบบเห็นใจ เราพยักหน้าให้กัน ยิ้มให้กันแล้วกินข้าวต่อ คิดมากทำไม เราทำดีของเราไป ปัญหามีให้แก้ไม่ได้มีไว้ให้เราแบก คนทั้งโลกอาจจะมีพอใจเราบ้าง อาจจะไม่มีพอใจเราบ้าง เราจะดีไม่ใช่ว่าจะดีเพราะเขาสรรเสริญเยินยอ เราจะเลวไม่ใช่เพราะว่าเขาว่าเราเลว เราจะดีหรือเราจะเลวขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของเราเอง อามหาสอนมาอ่ะครับ แล้วผมก็โล่งใจ เรื่องเล็กน้อยมันไม่เล็กน้อย แต่วางให้เป็น
“ไอ้ชินจัง หลายครั้งแล้วนะมึง ไปเลย ไปปีนต้นไม้แล้วตะโกนว่า ผมจะไม่ทำผิดอีกแล้วครับ ๕ รอบ”เสียงจ่าอ๊อฟดุไอ้ชินจัง ชินจังนี่อยู่ท้ายๆหมวด ฝึกไปลืมไป ไม่ค่อยแม่น โดนบ่นตลอด
“ครับครู”ชินจังเดินคอตกเดินไปปีนต้นไม้แล้วตะโดนว่า “ผมจะไม่ทำผิดอีกแล้วครับ” ๕ ครั้ง คนอื่นก็หัวเราะกันไป ส่วนเราก็แค่ยิ้ม ไม่อยากจะซ้ำเติมเพื่อนนะ แต่มันอดไม่ได้ พยายามจะไม่หัวเราะมากแค่อมยิ้มก็พอ
“อะไรพวกมึง เห็นเพื่อนผิดแทนที่จะช่วยดูช่วยแล กลับหัวเราะเยาะ ทั้งหมดวิดพื้นท่าเตรียม”
“เตรียม”
“๒๐ ครั้ง”
“๒๐ ครั้ง”
“เริ่ม”
“๑ ๒ ๓ ...”สรุปคือคนที่อยู่ในแถวโดนหนักกว่าคนตะโกนบนต้นไม้อีกนะเนี่ย
“จำไว้นะ เวลาเพื่อนผิดอย่าหัวเราะเยาะ คนไทยก็แบบนี้เห็นใครล้มไม่ได้ มีแต่จะเหยียบซ้ำแทนที่ที่จะช่วยเหลือกัน เวลาเห็นคนอื่นได้ดีก็ขัดแข้งขัดขา มันถึงไม่ไปถึงไหนซะทีไง ต่อไปนะ เวลาเห็นใครล้มเราต้องช่วย อย่าไปกระทืบซ้ำ เวลาเห็นคนอื่นดี เราต้องสนับสนุน เข้าใจป่ะ”
“ครับ”
“เออ พยายามปรับๆหน่อยเว้ย คนเรามันสำคัญที่ความคิด คิดดี คิดบวกเข้าไว้ แต่ละคนมีจุดเด่นจุดด้อยเหมือนกัน ไม่มีใครอยากเนจุดด้อยให้คนอื่นหัวเราะเยาะหรอก พวกมึงรู้ป่ะว่าบางทีเขาอาจจะเจ็บมากนะ เวลามึงโดนเรื่องที่มึงด้อยเหมือนกัน มึงจำความรู้สึกเอาไว้เว้ย ไม่มีใครอยากโดนเขาหัวเราะเยาะหรอกนะ ใจเขาใจเรา คิดไว้ให้มากๆ ลงมาได้แล้ว”
“ขอบคุณครับ”ชินจังลงมาด้านล่าง แสบก็เดินไปตบไหล่ปลอบ โพธิ์ชอบว่าแสบขี้อ่อย แต่แสบกับผมก็ประมาณนี้ ชอบกอดคนอื่นนะ หึหึ จึงโดนว่าขี้อ่อยบ่อยๆ เออ แต่เราไม่ได้กอดเรี่ยราดนะครับ คนที่เราสนิทจริงๆอ่ะ หรือคนที่เราวางใจ กอดเรี่ยราดมันก็หมดความหมายอ่ะดิ
“มึงก็อย่าเอาไปคิดเล็กคิดน้อยนะชินจัง พยายามฝึกสติหน่อย ความจำอ่ะ อย่าคิดไปเรื่องอื่น เข้าใจป่ะ”
“ครับครู”
“เอาละ เดี๋ยวให้พักกินน้ำ แล้วมาฝึกกันต่ออีกท่าหนึ่ง”
“ขอบคุณครับ”
เราเข้าแถวกินน้ำ จะมีที่แขวนแก้วน้ำคนละใบนะครับ มันเคลื่อนย้ายได้ และคูลเลอร์น้ำอย่างดี เราก็ต่อแถวกันกดน้ำ ถ้าน้ำแข็งหมดหรือน้ำหมดเราก็ไปเบิกน้ำแข็งกับน้ำมากิน พ่อเล่าว่าแต่ก่อนอ่ะจะเป็นแบบถังน้ำแข็งใหญ่ๆแล้วมีน้ำแข็งมือลอยตุ๊บป่องอยู่ จะเติมน้ำแข็งเต็มถัง แก้วน้ำก็ไม่กี่ใบ คือถ้าเป็นหวัดหรือไม่สบายขึ้นมานี่เสี่ยงต่อโรคติดต่อเป็นอย่างมาก และพ่อก็เล่าอีกว่ามีเป็นหวัดกันทั้งกองร้อย คือคนไม่เป็นนี่ไม่กี่คน ตอนนี้สุขอนามันสำหรับทหารดีขึ้นนะครับ แก้วน้ำแยกเป็นของใครของมัน แล้วเราไม่ได้ตักคือเราจะกดน้ำ เพราะถ้าใครเป็นหวัดมันจะไม่ไปติดต่อโดยตรงไง ตอนนี้ยังไม่มีใครเป็นนะ ทุกคนแข็งแรง
กินน้ำเสร็จแล้ว พักนิดหน่อยจากนั้นเราฝึกกันต่อเป็นท่าใหม่ครับ มีหลายขั้นตอน ผมก็สับสนบ้างอะไรบ้างล่ะครับ ท่าชวนสับสน ก็พยายามจำพยายามฝึก อย่าให้เขาดูถูกได้ คือบางครั้งจะมีนะที่พูดประมาณว่า จบตรีแล้วทำไมเรื่องง่ายๆแค่นี้ทำไม่ได้วะ ผมก็อยากจะตอบเหลือเกินว่าผมเรียนคณะเกษตร ไม่ได้เรียนนายร้อย แต่พูดไม่ได้ ไม่อยากต่อล้อต่อเถียง เขาว่าก็ว่าไป เราไม่รับ ไม่แบกคำพูดของใคร
“เข้าใจแล้วนะ เดี๋ยวต่อไปให้ทำพร้อมกัน ค่อยๆทำทีละขั้นตอนช้าๆ ไม่ต้องรีบ”จ่าอ๊อฟพูดแบบใจดี เราก็ฝึกตามขั้นตอน ไล่ตั้งแต่ช้าๆจนเราจำขั้นตอนได้
“อ่ะพักก่อน ๒๐ นาที จะกินน้ำเข้าห้องน้ำผู้ช่วยครูดูด้วย”
“ใหญ่จัง ขอกินได้ป่ะ”โอโซน มายืนเยี่ยวข้างๆผมแล้วมองน้องชายผม คนนี้คือคนที่ยกมือแล้วบอกว่าจะมาหาผัวที่ค่ายนะ อย่างฮาอ่ะ อาหนูมีลูกสาวแล้วนะเนี่ย ต้องพาไปรู้จักอาหนูซะแล้ว
“กินอะไร แข้งเราเหรอ”ผมพูดขำๆ
“ไอ้นั่นแหละ อย่าไร้เดียงสาเลย เราชอบนะ เราติดตามเพจพวกนาย ๒ คนด้วยแหละไม่คิดว่าจะเจอตัวจริง”
“เจอตัวจริงแล้วเป็นไง”
“วุ้ย หล่อวัวตายหล่อควายล้ม หล่อทั้งตระกูลเลยละมั้ง”
“ชมเกินไป พ่อนายก็หล่อนะ สนใจเราป่าว เราเด้งเก่งนะ จับตูดเราสิ”
“อีดอกคะ แอ๊วผู้ชายตัดหน้ากูเลยนะคะ ซ่าอย่าไปเล่นกับมัน อีนี่มันดอกทอง”คนนี้ชื่อตินติน คือทีแรกก็ถามว่าตินเฉยๆหรือเปล่า แต่เขาบอกว่าชื่อตินตินมาตั้งแต่เกิดแล้ว
“ซ่า อย่าไปฟังมัน กะหรี่แบบมันไม่มีใครเอา”
“แฮะๆ เราไม่เอาทั้ง ๒ คนนะ เรามีแฟนแล้ว กินคนอื่นสิ”
“ว้าย นกค่ะนก ผู้ชายปฏิเสธค่ะ”
“เพราะมึงเขาจึงเทกู”
“กูว่างนะเว้ย เอากูป่ะ”อีกคนเอ่ยขึ้น คนนี้ผอมสูง มีรอยสักด้วย
“อี๋ ผอมเป็นไส้เดือนแบบมึงกูแดกไม่ลงหรอกไอ้แซม ซ่ารอเราด้วย”โอโซนวิ่งมาเกาะแขนผม ไอ้เอาจะสะบัดมันก็เกินไป
“มึงเอาซ่าไป กูเอาแสบ”ตินตินไปเกาะแขนแสบ
“หือ เราไม่ให้ใครเอานะ แต่เราจะไปเอาใครเขาต่างหากล่ะ”
“ว้าย ตูดกระพือเลยค่ะ สั่นริกๆ โอ๊ย อยากโดนเปิดซิง”ตินตินร้องวี้ดว้ายออกมา
“มึงแน่ใจเหรอว่าตูดมึงยังซิง ไม่ใช่เอาลูกปืนใหญ่ยัดไปได้ทั้งลูกแล้วเหรอ อยู่ข้างนอกนี่หากินข้ามเขตเลยนะคะ”โอโซนจิกกัดเพื่อนต่อ
“ทำไม กูหน้าตาดีมีแต่คนอยากได้”ตินตินสะบัดบ๊อบใส่
“แต่เราไม่อยากได้ ฮ่าๆๆๆ”แสบขำออกมา ที่เหลือที่ฮากันเกรียวกราวเลยทีเดียว
“ชิๆ คนบ้า ไม่เล่นด้วยแล้ว”ตินตินทำหน้าน้อยใจ
“เอ้าๆ เข้าแถวดีๆ อย่าเพิ่งแซวผู้ชาย เสียวินัยหมดพวกมึง”
“ครูอ่ะ”
“อะไร ไม่ต้องมาครูอ่ะเลย เข้าแถวดีๆ”
“เชอะ คอยดูคืนนี้จะไม่อมให้เลย งอน”ตินตินหน้างอไปละ ตกลงว่าผู้ช่วยครูคนนี้โดนตินตินกินดุ้นไปแล้วเหรอ โอ้ว ไม่อยากจะคิด
คือหมวดของผมนี่ที่มีออกสาวอยู่ ๒ คนคือโอโซนกับตินติน ทีแรกตินตินไม่อะไรมากหรอกครับ โอโซนต่างหากที่เปิดเผยตัวว่าต้องการแบบนี้นะ แต่อยู่ๆไปตินตินทนไม่ไหวจึงเปิดเผยบ้าง ทั้งคู่ก็จิกกัดกันบ่อย แล้วที่ไม่เปิดเผยก็มีโพธิ์ โพธิ์บอกพวกผมนะว่าเป็นเกย์แต่ไม่ได้ออกสาวไง และน่าจะมีอีกหลายคน ไบบ้างอะไรบ้าง ส่วนผมไอ้ซ่า ชายแท้ มีแฟนแล้ว แสบชายแท้ไม่มีแฟน
“โพธิ์ไม่ซบได้ป่ะ เจ็บอยู่”โพธิ์มานั่งซบกับผม แสบตอนนี้ไปนั่งคุยกับธูปเทียนอยู่ครับ
“กูง่วง”
“อีโพธิ์ หลบเลยมึง จะแดกคนเดียวรึไง”ตินตินมานั่งใกล้ผม
“หืม อย่าเตะเพื่อนสิ กระทืบเลยดีกว่า ฮ่าๆๆ”
“ไอ้ซ่า”
“โอ๊ย โพธิ์ เจ็บอยู่นะ บีบมาได้”
“เฮ้ยๆ ขอโทษ เจ็บมากไหมวะ”
“ทั้งตัวอ่ะ”
“งั้นเรานวดให้ไหมซ่า เรานวดดีนะ แต่นาบอ่ะเอาเหรียญทองเลยละ”ตินตินจับแขนผมไปนวด
“เหรียญทองหรือเหรียญดอทองที่ประดับบนหัวมึงใช่ไหมอีดำโอวัลติน”โอโซนแซะมาเสียงดังเชียว
“มึงหยุดเลยอีคาร์บอร์นมอนอกไซด์ โอโซนดอกทองบ้าบออะไรเขาทำตัวกะหรี่แบบนี้ มึงมันคาร์บอร์นมอนอกไซด์ชัดๆ”
“ตบกันม่ะ”โอโซน
“ตบกันเจ็บมือนะ เอาปืนยิงสิมึง โป้งเดียวจอด”โพธิ์แนะนำ
“หึหึ โอ๊ย เบาๆดิ ไหนว่าจะนวดให้ไง แล้วมาบีบแรงๆทำไม เจ็บนะ”
“ขอโทษๆ ก็หมั่นไส้อีโพธิ์นี่นา แล้วแสบไม่เจ็บเหรอ”
“เจ็บดิ โดนเหมือนกันนี่นา”
“งั้นเราไปนวดให้แสบ อีโพธิ์มึงนวดดีๆ นวดไม่ดีกูเอาหมีครอบหัวมึงแน่”ตินตินชี้สั่งโพธิ์แล้วรี่ไปนวดให้แสบซึ่งนั่งคุยกับแฝดธูปเทียน “อยากนั่งเทียนอ่ะ”นั่นไง เฮ้อ ละเหี่ยใจจริงๆ
“นั่งเทียนไขหรือเทียนพรรษาคะเพื่อนสาว อย่างมึงนี่ต้องเทียนพรรษาใหญ่ที่สุดในโลก ต้องจุไฟด้วยนะ เพราะโพรงมึงนี่พยานาค ๕ ตัวลอดได้สบาย”
“เดี๋ยวกูได้ถีบมึงหน้าคว้ำอีคาร์บอร์น หุบปากไว้กินจวยผู้ช่วยครูเลยมึง อย่าให้กูต้องตบ”สิ้นคำ ผู้ช่วยครูนี่ดูร้อนๆหนาวๆยังไงชอบกล หึหึ