ดีแล้วทูนหัวมีผัวเป็นทหาร ปีสองของสองคน ๒๐๐๑๒๕๖๓ ตอนที่๑๔/๒ หน้า๑๓๒
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ดีแล้วทูนหัวมีผัวเป็นทหาร ปีสองของสองคน ๒๐๐๑๒๕๖๓ ตอนที่๑๔/๒ หน้า๑๓๒  (อ่าน 1220925 ครั้ง)

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
มุ้งมิ้งกันดีจริงๆผัวเมียคู่นี้

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ AGELA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1109/-0
ตอนที่ ๕๕.๒ ต.เต่าตะลุยกรุง

“หมวดบูมดูโทรมๆไปนะ”

“เหรอวะ เออ กูนอนไม่ค่อยพอ”

“เลี้ยงลูกหนักเหรอครับผู้หมวด”ผมยิ้มกว้างอย่างรู้ดีว่าพี่แกไปโดนอะไรมาบ้าง

“เลี้ยงลูกไม่เท่าไหร่ แต่เลี้ยงแฟนนี่สิไอ้สัส ยันเช้า เออ ได้ลาก็ถนอมๆไอ้เต้ยหน่อยนะ มันเพิ่งฝึกเสร็จให้มันพักผ่อนเยอะๆ”

“ครับๆ อันนั้นก็แล้วแต่หมวดเต้ยเขาต้องการ ผมไม่อะไรมากอยู่แล้ว แล้วไอ้บอมบ์ล่ะผู้หมวด”

“มันบอกว่าจะเข้ากองพัน ๕ โมงมั้ง กูอยากให้มันโดนแดกจริงๆเลย”แล้วผู้หมวดแกก็เดินจากไป พรุ่งนี้เหล่าทหารใหม่จะไปสวนสนามสาบานธงกันแล้ว ในกองพันก็ซ้อมกันทุกวัน บางครั้งก็ซ้อมจนดึกดื่น เพราะจะมีการแข่งขันด้วยครับ การสวนสนามนี่ไม่ใช่สวนสนามแค่กองพันเดียวนะครับ ไปหลายกองพันมากเลย แล้วสถานที่สวนสนามจะเป็นอีกกรม ผมไม่บอกชื่อนะครับ แต่ขอบอกสมญานามสนามนี้ว่าสนามปราบเซียน คือมันจะเป็นลานเฮลิคอปเตอร์ที่ใหญ่มาก สนามกว้างมากด้วย กองพันไหนที่สวนสนามเก่งๆไปเจอสนามนี้บ่นกันทุกคน นี่จึงเป็นที่มาของคำว่าสนามปราบเซียน แต่ผมก็ไม่ได้รู้ลึกเท่าไหร่นะครับ ฟังๆเขามาอีกทีและเลยผ่านแถวนั้นไปไม่กี่ครั้ง ก็พอจะนึกออกบ้างเล็กน้อย

วันประกาศศักดามาถึงเอ๊ย วันสวนสนามครับ ทหารใหม่ตื่นแต่เช้ารีบมาอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อย ส่วนผมเองก็ต้องตื่นเหมือนกันเพราะทหารใหม่จะมาเบิกปืน

“สวัสดีครับ”เดินขึ้นมาบนคลังทหารใหม่ยืนตรงทำแล้ววันทยหัตถ์ความเคารพ ไอ้สัส ทำเหมือนกูเป็นผู้หมวด คือที่จริงพวกทหารใหม่จะไม่มีสิทธิ์ยกมือไหว้ทหารรุ่นพี่เลยนะครับจนกว่าจะขึ้นกองร้อย ตอนผมเป็นทหารใหม่เขาก็สอนมาแบบนี้ครับ เบิกปืนเสร็จแล้วก็หมดหน้าที่ต้องลงไปอาบน้ำอาบท่า เมื่อหลายวันก่อนอากาศยังหนาวๆเย็นๆอยู่เลย พอมาวันนี้อากาศเริ่มจะอบอ้าวซะแล้ว

ทั้งวันก็ไม่มีอะไรมากมาย สายๆจ่ามาทำงานผมก็ช่วยก๊อกๆแก๊กๆตามประสาพลทหารครับ เสร็จงานนี้ก็คงจะได้ลาสมใจอยาก หึหึ อยากหลายอย่างเลยครับ เดี๋ยวไปคลายอยากกับไอ้มหาสักหน่อยนะครับ ฮ่าๆๆ

“นิ่งเลยนะมึง เด็กคลังก็งี้แหละ เวรยามไม่ต้องเข้า”ลงไปกินน้ำเจอรุ่นพี่พูดกระทบกระเทียบ คือผมจะโดนบ่อยากหาว่าอู้งานบ้าง แอบหลับบ้าง เวรยามไม่เข้าบ้าง ไรก็แล้วแต่ที่เขาจะคิดได้ แต่ผมก็ไม่เคยจะตบโต้ ของแบบนี้วัดกันที่ผลงานว่ะ ขี้เกียจใส่ใจ ร้อยคนก็ร้อยปาก เราไม่สามารถทำได้ถูกใจใครทั้งหมดหรอกครับ เราอยู่นิ่งๆดีกว่า ทำของเราไป

“ขยันนะมึง ครั้งที่แล้วขายได้กี่บาทล่ะ”รุ่นพี่ที่อยู่คลังเดียวกับหมู่อาร์ตยิ้มเหยียดระหว่างที่ผมก้มลงเก็บขวดพลาสติก

“ถ้าหมามันไม่ลากไปก็ขายได้หลายบาทอยู่นะพี่”

“มึงว่าใครมหา”รุ่นพี่ชี้หน้าผม ผมไม่ได้ตอบโต้อะไรเก็บขวดของผมต่อไป “เดี๋ยวมึงเจอกู”นี่คือขำขู่ที่ผมถูกขู่มาตั้งแต่ขึ้นกองร้อย จนมาป่านนี้ก็เกือบจะปีผมยังไม่ได้เจอมันเลยครับ เอ๊ะ หรือเพราะว่าเราเจอกันทุกวันมันเลยชินไปเอง ฮ่าๆๆ

“ขยันว่ะ”เดินเก็บตามถังขยะรอบกองร้อยก็มีแต่คนชมว่าขยัน นี่กูทำให้พวกมึงเอาแบบอย่างนะไอ้สัส กูไม่ได้ทำให้แค่พวกมึงชม

“อดอยากถึงขนาดต้องเก็บขยะขายเลยเหรอวะมหา”หมู่อาร์ตพูดแล้วยักคิ้วใส่

“มันก็ดีกว่าไม่มีจะแดกแล้วไปลักกินขโมยกินแหละครับหมู่”ผมตอบแล้วยิ้มให้

“วอนตีนแล้วมึง ระวังไว้นะพวกมึง ๒ ตัว อย่าหาว่ากูไม่เตือน เงาหัวในกองร้อยนี้ของพวกมึงแทบไม่เหลือแล้วนะ จำเอาไว้”

“ขอบคุณที่เตือนครับหมู่ แต่หมู่ก็อย่าลืมระวังตัวเองด้วยล่ะ ครั้งหน้าอาจจะไม่ได้แค่นอนโรงพยาบาล อาจจะได้นอนในโลงเย็นๆไปตลอดกาลเลยก็ได้ คิดจะนักเลงน่ะหาคู่ปรับที่มันสมน้ำสมเนื้อหน่อยนะหมู่”ผมพูดแล้วก็เดินออก เอาดิ มึงนักเลงมาก็ก็นักเลงไปเหมือนกัน คนแบบนี้มันดีแต่ปากครับ ผมก็ไม่แน่ใจว่าผมกับไอ้บอมบ์ไปทำอะไรให้มัน แต่เคยได้ยินว่าหมู่อาร์ตจะจีบหมวดบูม ผมเองก็มองกิริยาท่าทางของมันหลายทีนะครับเวลามันอยู่ใกล้หมวดบูม หรือบางทีก็ชอบอาสาช่วยงานหมวดบูมกับผู้กองบ่อยๆ จะว่าประจบก็ไม่เชิงแต่มันพยายามตีสนิท หรือบางทีหมวดเต้ยมาที่กองร้อย หมู่อาร์ตก็จะทักทายคุยด้วยแบบยิ้มแย้มแจ่มใส ชวนคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ หรือว่ามันคิดจะเคลมทั้ง ๒ หมวดวะ

ทั้งวันผมไม่ได้ทำอะไร อยู่หน้าคลัง ถึงเวลาก็ไปกินข้าว มานั่งโม้กับไอ้บอมบ์ ๒ คน ในกองร้อยน่ะผมคุยกับมันรู้เรื่องที่สุดแล้ว ไม่ใช่ว่าผมรังเกียจคนอื่นนะครับ คือบางทีสไตล์ของการดำเนินชีวิตมันต่างกัน วิธีคิดที่แตกต่างกันผมก็ไม่ใคร่จะสนิทด้วยเท่าไหร่นัก แต่ถ้ามาชวนผมคุยผมก็คุยได้ทุกคนแหละครับ หากแต่ว่าที่สนิทที่สุดก็คือไอ้บอมบ์ บุคลิกมันห่ามๆเถื่อนๆ แล้วความคิดความอ่านของมันผมชอบ มันเป็นคนตรงๆ กล้ากับทุกสถานการณ์ แต่ไอ้นี่มันไม่ค่อยจะเปิดเผยความรู้ในหัวมันเท่าไหร่ ชอบทำตัวเหมือนคนไม่มีอะไรแต่จริงๆน่ะไอ้บอมบ์มันมีอะไรที่น่าค้นหาเยอะ เยอะยังไงก็ต้องไปถามหมวดบูมเอาแล้วกัน ฮ่าๆๆ

๔ ทุ่ม ทหารกลับมึงกองพัน ที่จริงงานสวนสนามน่าจะเสร็จตั้งแต่ช่วงบ่ายแก่ๆแล้วล่ะครับ แต่เพราะว่าหลังจากการสวนสนามของทุกปีก็จะมีดนตรีมีคอนเสิร์ตเลี้ยงฉลองให้กับกำลังพลทุกนายได้มีกำลังใจในการทำงาน และถือว่าเป็นการผ่อนคลายหลังจากการฝึกทหารใหม่เสร็จ เมื่อทหารกับมาที่กองพันหน้าที่ของผมก็จะมารับคืนปืน ช่วยจ่าทำงานครับ พอเรียบร้อยแล้วก็กลับไปนอนต่อ

แป๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด แป๊ด ไม่ใช่เสียงนกหวีดดั่งที่คุ้นเคย แต่เป็นเสียงตดที่คุ้นชิน ไอ้สัสเอ๊ย ทำหน้าที่ได้ดีกว่านกหวีดของสิบเวรอีก เสียงน่ะไม่เท่าไหร่ แต่กลิ่นนี่สิเหมือนหมาไปเน่าตายอยู่ในลำไส้เป็นสิบชาติ ผมต้องเดินหนีไปไกลๆไม่ต้องเผื่อแผ่กูก็ได้

ปู้ดดดดดดดดดดดดด อีกแล้วครับ หนีเสือปะจระเข้จริงๆ ตอนเช้าๆนี่นอกจากควันบุหรี่ที่คนอื่นๆพยายามอัดเข้าปอดแต่เช้าแล้ว เสียงตดคือเสียงที่พวกผมต้องได้ยินกันประจำ บางคนนี่เบ่งกันเต็มที่ ดีน่ะที่ขี้ไม่เล็ดตามมาด้วย

“ถ้ากูมาไม่ทันจำหน่ายกูด้วยนะมหาว่ากูเข้าห้องน้ำ”ไอ้บอมบ์พูดแล้ววิ่งไปที่ห้องน้ำอย่างรวดเร็ว จำหน่ายที่พูดเนี่ยไม่ได้หมายถึงการขายนะครับ แต่หมายถึงการชี้แจงว่าไปไหนด้วยสาเหตุอะไร รอสิบเวรเป่านกหวีดรวมอีกครั้งระหว่างนี้ก็ทักรุ่นพี่ ไหว้ไว้ก่อนครับ ยังไงเขาก็มาก่อนเรา การไหว้ไม่ได้ทำให้ศักดิ์ศรีเราลดน้อยถอยลงหรอกครับ รวงข้าวจะโน้มลงสวยก็ด้วยข้าวเต็มเม็ดเต็มหน่วย คนจะงามก็ด้วยการนอบน้อม บางคนหัวแข็ง กูใหญ่กว่าใคร ศักดิ์ศรีกูเยอะ กูไม่ยอมก้มหัวให้ใคร กูไม่ไหว้ แล้วก็มักจะโดนรุ่นพี่ชี้แจงว่าไม่เคารพ แต่บางคนผมก็ไม่ไหว้นะครับ ทำตัวไม่น่าไหว้ก็ไม่ไหว้ ไหว้คนที่ควรไหว้สบายใจดีครับ

ไปรวมแถวที่ลานรวมพลแล้วก็วิ่งออกกำลังกายกัน ๑ รอบจากนั้นก็มาอาบน้ำ อากาศกำลังดีไม่หนาวและไม่ร้อนอบอ้าว อาบน้ำแต่งตัวมารวมที่หน้ากองร้อยแล้วจ่ายงานกันไปทำความสะอาด หยิบไม้กวาดทางมะพร้าว ลากถังขยะ ถือที่ตักขยะแล้วพากันเดินด็อกๆไปที่จุดที่ได้รับมอบหมาย กวาดไปคุยไป อย่างพวกที่เพิ่งกลับมาจากบ้านก็จะรายงานว่าไปทำอะไรมาบ้าง ส่วนใหญ่ชายไทยจะกินเหล้ากัน บางคนเงินเก็บหลายพันกลับไปถึงบ้าน นี่มึงอาบหรือมึงกิน ล่อกันเป็นลังๆแล้วคุยเรื่องหญิงสาวพราวเสน่ห์ เรื่องตีรันฟันแทง ฟังแล้วก็หน่าย

“วันนี้ผู้กองปล่อยกลับบ้านเหรอมหา”

“น่าจะเป็นอย่างนั้นครับจ่า”

“เออ เสร็จงานแล้วนี่ ต่อไปก็คงไม่มีอะไร เออ เดี๋ยวยังไงกลับมาค่อยว่ากันอีกทีนะเรื่องทำความสะอาดปืน”

“ครับจ่า”


“เฮ้อ กูล่ะหน่ายกับกับข้าวว่ะ”ไอ้บอมบ์มันบ่นออกมา มองไปเบื้องหน้าก็คือแกงจืดผักกาดขาว ผักเต็มถ้วยเลยครับ ก็ทนกินไปทั้งอย่างนั้น จะโวยวายเดี๋ยวก็โดนด่าว่าทำให้แดกแล้วเรื่องมาก

“ทหาร ตรงไหนยังไม่เรียบร้อยก็ไปดูให้เรียบร้อยนะ ตรงไหนเสร็จแล้วก็ดูอีกที อย่ให้เขาด่าหมู่ได้ แล้วไอ้พวกที่ทำบนโรงนอน เอาให้ดี วันนี้เวรหมู่อาร์ต พวกมึงก็รู้ว่าเขาเป็นคนยังไง ทำให้ดีทำทีเดียว อย่าทำหลายเที่ยวมันเหนื่อย เข้าใจป่ะ”

“ครับหมู่”รุ่นพี่ที่สนิทๆหน่อยก็จะพูดแบบกวนๆ แต่หมู่แกไม่ค่อยถือสาเท่าไหร่ถือว่าเป็นพี่น้องกัน ทำความสะอาดกันต่อจนถึงเวลาที่จะต้องไปหน้าคลัง ไปทำหน้าที่ของตัวเอง

วันนี้ทหารใหม่เตรียมตัวกลับบ้านกันครับ พอสายๆเคารพธงชาติเสร็จ เปลี่ยนสิบเวรแล้วพวกทหารใหม่ก็ขนย้ายตู้เตียงที่ยืมมามาจากกองร้อยต่างๆเอามาคืนครับ หมู่อาร์ตเข้าสิบเวรก็โหวกเหวกโวยวาย

“มันเป็นเหี้ยอะไรมากรึเปล่าวะ เอ็งเบื่อไหมมหา”จ่าพูดกับผมขำๆ

“โคตรเบื่อเลยครับจ่า”

“เออดิ”

“เขาเป็นมานานแล้วเหรอครับจ่า”ผมสงสัยจริงๆว่าหมู่อาร์ตนี่เป็นแบบนี้มานานรึยัง

“ใหม่ๆไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่อยู่นานๆไปแล้วก็เสียงดัง ช่างมันเถอะ ขี้เกียจจะพูดว่ะ เออ แล้วผู้กองจะปล่อยกี่โมงไปถามผู้กองยัง”

“ยังเลยครับ แต่หมวดบูมบอกว่าน่าจะปล่อยเย็นนี้”

“อือ จะได้พักผ่อนซะที คนอื่นเขาพักผ่อนกันไปหมดกองร้อยแล้ว แล้วนี่รุ่นน้องขึ้นมากองร้อยก็ช่วยดูให้จ่าหน่อยนะว่าจะเอาใครมาทำงานด้วย เวลาพักจะได้สับเปลี่ยนกันพัก ดูสิ จ่ามีเอ็งช่วยงานยู่คนเดียว เวลาพักก็ไม่ได้พักเหมือนคนอื่นเขา”

“ครับจ่า”

เวลาล่วงเลยมาทั้งวันจนตอนนี้ก็ได้เวลาที่ผมจะไปพักผ่อนเสียที ๖ โมงเย็นหลังจากกินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมไปอาบน้ำแต่งตัวตามคำสั่งของหมวดบูมครับ แต่งชุดอ่อนอย่างเท่ ติดเครื่องหมายเรียบร้อย หยิบเป้ซึ่งมีเสื้อผ้าไม่กี่ชิ้นเดินลงมาด้านล่าง

“เหลี่ยมจัดนะมึง เวลาพักไม่อยากจะพัก”มีพูดเหน็บผมอีก แต่ผมไม่สนใจ ลูกน้องมึงอู้งานไม่เห็นจะมีใครว่าอะไร กูใช้เหลี่ยมนิดๆหน่อยๆยังจะมากวนตีนกูอีก เฮ้อ กูล่ะหน่ายจริงๆ

ได้รับใบลาแล้วก็เดินออกไปหน้ากองพัน สบายใจโว้ย หลังจากที่อดทนรอมานานหลายเดือนมาก ข้ามถนนโบกแท็กซี่แล้วชี้เป้าหมาย เย็นนี้คงไปพักที่เรือนหอเอ๊ย บ้านหมวดเต้ยครับ พี่แกให้กุญแจบ้านมาแต่หัววัน นั่งแท็กซี่ ๒ ชั่วโมง กว่าจะถึงบ้านหมวดเต้ย ระยะทางไม่ได้ไกลเท่าไหร่ แต่รถมันติดน่ะ มาถึงบ้านเกือบ ๓ ทุ่มพอดี ไม่ได้มาหลายหมวดเต้ยหลายเดือนดูเหมือนจะรกๆไปหน่อย พี่แกคงไม่มีเวลามาดูแลบ้านแน่เลย เอาวะ พรุ่งนี้ว่างๆจัดบ้านให้พี่แกหน่อย ทำหน้าที่สามีเอ๊ยแฟนที่ดี

“ครับที่รัก”กวาดบ้านอยู่ดีๆ ผู้หมวดแกก็โทรมา

“หวานสัส เออ คืนนี้กูกลับดึกหน่อยนะ ถ้าหิวก็หาอะไรกินไปก่อนเลยแล้วกัน ไม่ต้องรอ”

“ครับ ได้ครับ”แล้วพี่แกก็วางสายไป มาเร็วไปเร็วจริงครับ ลาครั้งนี้ผมก็ไม่ได้กลับบ้านอีกแล้ว แม่ผมมีอีเวนต์ ไปดูแลลูกสะใภ้ที่ต่างจังหวัด ไปทั้งพ่อทั้งแม่เลยไม่มีใครอยู่บ้าน อยู่แต่พี่ชายผม

“หมอๆ อยู่บ้านป่ะ”จัดข้าวของเล็กๆน้อยๆเสร็จแล้ว ไม่มีอะไรทำ ขอไปป่วนหมอสักหน่อยเห็นไฟบ้านยังเปิดอยู่

“อ้าว พี่ตวง มาเมื่อไหร่ครับ”หมอแกเดินออกมาหน้ายิ้มแย้ม

“เพิ่งมาอ่ะ ทำอะไรอยู่เหรอ กินข้าวยัง”

“กินแล้วครับ เพิ่งอาบน้ำเสร็จอ่ะพี่ ว่าแต่พี่ยังไม่กินข้าวอีกเหรอ ดึกแล้วนะ”

“กินมาแล้วแต่หิวอีก”

“จะไปหาอะไรกินเหรอ ให้ผมไปเป็นเพื่อนไหมครับ”

“แค่เพื่อนเองเหรอ ว้า”ทำหน้าน้อยใจ แหย่ๆหมอแกหน่อยครับ

“จะให้เป็นอะไรล่ะครับ”หมอแกทำหน้าเขินๆ น่าจับมาหอมแก้มสักฟอดจริงเลย

“หึหึ น่ารักจริง ว่าแต่ผมไม่รบกวนหมอแน่นะ”

“ไม่ครับ”ใจดีว่ะ หมอไปปิดบ้านให้เรียบร้อยแล้วก็เดินไปหาอะไรกินกันที่หน้าปากซอยทางเข้าหมู่บ้าน ยังดีนะครับที่พอมีอะไรขายอยู่บ้าง มองซ้ายแลขวาหาอะไรกิน เปรี้ยวปากเลยล่อส้มตำซะเลย ท้องตึงตาก็ชวนหย่อนไปด้วย เดินกลับบ้านด้วยอารมณ์เบิกบาน รอที่รักกลับมา อยากเจอว่ะ

แยกตัวกับหมอแล้วมานั่งรอยู่หมวดอยู่ในบ้าน เปิดทีวีดูพลางๆ ไม่รู้ว่าเพราะเสียงทีวีที่ขับกล่อมหรือเพราะว่าความเหนื่อยเมื่อยล้า หนังตาที่เคยเปิดเป็นปกติก็ต้องหลับลง มารู้สึกตัวอีกทีตอนที่มีอะไรหนักๆมาทับที่ตัว ลืมตาขึ้นมาก็เจอกับใบหน้าหล่อเหลาที่ผมเฝ้าถวิลหามาหลายเดือน เจ้าตัวยิ้มให้ผมหน้าบาน ส่วนผมรู้สึกว่าหนักครับแต่ไม่เป็นไร พี่ตวงทนได้

“เพิ่งกลับมาเหรอครับ”ผมรีบโอบกอดทันที

“อืม เพิ่งเลิกงาน เหนื่อยว่ะ จุ๊บ”ริมฝีปากประกบมาเบาๆ แหม่ มันช่างเหมือนหยดน้ำที่ที่หยดลงมาบนพื้นดินยังความชุ่มชื้นให้กับตนไม้ใบหญ้าเสียจริง หมวดเต้ยยังนอนทับมอยู่ไม่ยอมลงจากตัวผม ถามว่าหนักไหมก็หนักล่ะครับตัวเท่าๆกัน คือตัวพี่แกจะหนา เอวคอดหน่อยๆ มีกล้ามเนื้อหน้าอกมองเห็นเป็นลูกๆ น่ากัดที่สุด แต่กัดไม่ได้ครับพี่แกยังไม่เปลี่ยนชุดนอนทับผมทั้งคอมแบทนี่แหละครับ

“ผมว่าผู้หมวดไปเปลี่ยนชุดแล้วอาบน้ำอาบท่าดีกว่านะครับ จะได้รีบพักผ่อน กี่โมงแล้วเนี่ย โห เที่ยงคืนแล้ว รีบไปอาบน้ำเถอะครับผู้หมวด จะได้ตัวหอมๆ”

“แค่นี้หอมไม่พอรึไง”

“ฮ่าๆๆๆ ไม่เรียกว่าหอมละครับผู้หมวด กลิ่นเปรี้ยวยิ่งกว่าผักกาดดองในซอสมะเขือเทศอีก ฮ่าๆๆ”

“มีด้วยเหรอผักกาดดองในซอสมะเขือเทศ ฮ้าว ง่วงนอน อาบน้ำให้หน่อยสิ”

“แน่ะๆ อย่ามาชวนนะ รู้อยู่ว่านอกจากจะอาบน้ำแล้วผมจะชวนทำอะไร”

“เออนะ กูไม่อดอยากถึงขนาดต้องไปคุ้ยของกินในโถส้วมหรอกมหา เออ อย่าลืม คืนนี้จะฟังเรื่องผี”

“ครับๆ แต่ไปอาบน้ำก่อนเถอะ สงสารห้องน้ำบ้าง มันคงอยากจะให้เจ้าของบ้านเข้าไปอาบเสียเต็มทน”

“เออๆ จุ๊บ”หอมแก้มผมแล้วรีบเด้งตัวถอดชุดพรางกับคมแบทโยนว่อนเต็มบ้าน แล้วใครตามเก็บก็คงไม่พ้นไอ้มหา ช่างเหอะ ช่วยเหลือกันครับ แต่พอมาเก็บถุงเท้ารู้สึกฉุนกึกไปที่โพรงจมูกทันที สงสัยจะใส่รองเท้าทั้งวัน เอ๊ะ หรือนี่มันอาจจะเป็นที่มาของคำศัพท์ว่าเปรี้ยวตีน คือตีนมันเหม็นเปรี้ยวเลยเรียกว่าเปรี้ยวตีน ฮ่าๆๆ เก็บของแล้วลงไปล็อกบ้านปิดไฟปิดประตูด้านล่างให้เรียบร้อย

นอนรอหมวดเต้ยหลับๆตื่นๆ คนที่ผมรอออกมาจากห้องน้ำรีบเช็ดตัวใส่กางเกงขาสั้นกับเสื้อกล้ามเอาผ้าเช็ดตัวไปตากแล้วคลานขึ้นมาบนเตียง คิดถึงว่ะ ผมรีบคว้าที่ต้นคอของพี่แกมาจูบอย่างรวดเร็วให้สมกับการรอคอย จูบกันเหมือนตายอดตายอยากจากไหนก็ไม่รู้ จูบแล้วก็ของขึ้น

“คิดถึงว่ะ”ไม่มีคำพูดอื่นใดที่สามารถอธิบายถึงห้วงความคิดถึงไปได้มากกว่าคำนี้อีกแล้ว เออ ก็มันความหมายตรงตัวนี่หว่า คิดถึงก็คือคิดถึง เรามองหน้าส่งสายตาให้กันก่อนจะจูบเบาๆ อยากลึกซึ้งกว่านี้นะแต่กลัวว่าผู้หมวดแกจะเหนื่อย

“โคตรรักเลยว่ะ”มองหน้าแล้วลูบไปตามเนื้อตัวของหมวดเต้ย ดูแกร่งขึ้นมาก “ผมว่าผู้หมวดผอมลงไปเยอะนะ”

“เออดิ ฝึกคนหนักยิ่งกว่าฝึกควายอีก กว่าจะได้ทหารมาแต่ละคน แต่สุดท้ายก็มึนเหมือนเดิม”

“ฮ่าๆๆ ทำไงได้ละครับผู้หมวด มันก็มึนบ้างอะไรบ้างแหละครับ”

“เออ ก็เข้าใจนะ ฝึกมาได้ขนาดนี้ดีแค่ไหนแล้ว ที่เหลือก็ไปบ่มเพาะเอาที่กองร้อย แต่กับคนบางคนขนาดขึ้นกองร้อยมันน่าจะรู้อะไรทำไมมันยิ่งมึนกว่าเดิมวะ”

“หือ แล้วใครมาพูดว่าเราไม่ได้ฝึกให้ท่านเป็นทหาร แต่ฝึกให้ท่านเป็นควาย คนจะมึนมาโทษกันไม่ได้นะครับ”เคยมีคำพูดนั้นจริงๆนะครับที่บอกว่าจะฝึกให้เป็นควายน่ะ คือโดยเจตนาที่แท้ไม่ได้ต้องการดูถูกพวกผมหรอกครับ แต่การฝึกทหารต้องทำให้ผมอดทนเหมือนควาย ควายมันหนังหนา มันทนแดดทนร้อนได้

“เออ แต่มึนแค่ไหนกูก็รักของกูนะ”ยักคิ้วกวนๆ หมั่นเขี้ยวเลยจับมาจูบซะเลย จูบแลกลิ้นนัวเนียกันจนพอใจจึงหยุด ที่จริงไม่อยากจะห้ามอารมณ์หรอกนะถ้าไม่เห็นใจหมวดเต้ยน่ะ แอร์ในห้องเริ่มเย็นลงเรื่อยๆจนกลายเป็นหนาว อากาศข้าวนอกก็ว่าเย็นแล้วพี่แกมาเปิดแอร์อีก ดึงผ้าห่มมาคลุมกาย

“คืนนี้จะฟังเรื่องผีหรือจะเล่นผีผ้าห่มดีครับ”ถามความสมัครใจก่อนครับ

“ถ้ากูบอกว่าเล่นผีผ้าห่มมึงจะเล่นไหมล่ะ”

“หึหึ เรื่องนี้ไม่ต้องถามหรอกครับ ผมพร้อมสำหรับผู้หมวดเสมอ ว่แต่ผู้หมวดจะพร้อมสำหรับผมไหมล่ะ”

“ไม่พร้อมว่ะ เหนื่อย ขอพักฟื้นสักเดือนได้ป่ะ”

“โห เดือนหนึ่งจวยผมแตกหน่อใหม่แน่ๆ วัน สองวันว่าไปอย่าง ที่จริงวันนี้ของขึ้นนะเนี่ย แต่ผู้หมวดเหนื่อยผมเข้าใจ”

“หึหึ เออๆ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน ว่าแต่คืนนี้เล่าเรื่องผีให้ฟังหน่อยสิ ติดใจจากครั้งที่แล้วว่ะ”น้องขอมาพี่จัดให้ ดับไฟที่หัวเตียงจนทั้งห้องมืดสนิท ลูบตามลำตัวหมวดเต้ยขนลุกซู่ คงเป็นเพราะหนาวหรือเสียวไม่รู้ จากนั้นผมจึงเกริ่นนำเรื่องผี ก็เล่าไปตามที่เคยเจอมาบ้างหรือหลวงพี่หลวงพ่อเล่าให้ฟังบ้าง จนเวลาล่วงเลยมาถึงตี ๒ กว่าๆแล้วความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าทำให้ร่างกายต้องการที่จะพักผ่อน หมวดเต้ยหลับไปก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่นาที ส่วนผมจะลืมตาไปเพื่ออะไรล่ะครับ ไม่มีคนฟังแล้วก็กระชับผ้าห่ม คว้ารีโมทปิดแอร์แล้วลงจากเตียงไปเปิดพัดลมให้มันส่ายไปมา แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอสำหรับนิทราที่ไม่ยาวนาน

ออฟไลน์ AGELA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1109/-0
เช้าวันหยุดที่สุดแสนจะสดใส นอนดึกก็จริงแต่ผมตื่นเช้าตามปกติที่เคยตื่น ทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้วลงมาเปิดบ้าน เข้าไปในครัว เปิดตู้เย็นเห็นเศษผักเหลืออ๋อยซึ่งไม่รู้ว่ามันถูกแช่ตั้งแต่เมื่อไหร่ นอกนั้นก็ไม่มีอะไร มีขวดน้ำที่หมดแล้วกับถุงอะไรอีกไม่รู้ วันนี้สงสัยต้องปฏิวัติใหม่ล่ะมั้ง หยิบของที่สมควรจะทิ้งออกมาจนหมดแล้วยัดใส่ถุงดำ ล้างจานที่ฝุ่นเกาะ เช็ดถูส่วนที่สกปรกจนเกือบๆ ๘ โมงจึงคิดได้ว่าเราควรจะไปหาอะไรกิน

ยกมือโบกกวักมือเรียก กับข้าวครับกับข้าว เอ๊ย ไม่ใช่ครับ สองมือล้วงกระเป๋าสองเท้ารีบกระโดดถีบขาคู่ เอ๊ย ออกทะเล สองเท้าเดินย่ำก้าวไปที่ปากซอยหน้าหมู่บ้าน มีร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ โจ๊ก ๓ ถุง เต้าหู้ธัญพืช ข้าวมันไก่อีก ๒ กล่อง แล้วเดินกลับ

“ไปด้วยกันไหมครับ หมู่บ้านไหนเหรอ ผมไปส่งเอาไหม”ผู้ชายมีหนวดแต่ดูไม่น่าจะอายุมากกว่าผมจอดรถมอไซด์แล้วทักผมด้วยอารมณ์ยิ้มแย้ม

“อ๋อ ไม่เป็นไรครับ ใกล้ถึงแล้วละครับ”ที่จริงก็ไม่ใช่ว่าใกล้ถึงอะไรหรอกครับ อีกไกลพอสมควรแต่ผมไม่ชอบรบกวนคนอื่น ยิ่งคนไม่รู้จักด้วย

“นะครับ บ้านผมอยู่เยื้องๆคุณนี่แหละครับ”เอาวะ ไม่ขัดศรัทธา เขาขอมาพี่ตวงจัดให้ ซ้อนท้ายเป็นสก๊อย ดีนะที่กูไม่ได้ย้อมหมอยแล้วเปิดกระโปรงโชว์ ฮ่าๆๆ เขามาส่งผมถึงหน้าบ้าน ผมโค้งให้ทีหนึ่งแทนคำขอบคุณจะยกมือไหว้มันก็พะรุงพะรังเกินไป เขายิ้มให้แล้วชี้ไปที่บ้านเขา

“บ้านผมหลังนี้ครับ”บ้านที่อยู่เยื้องไป ๒ หลัง ผมมองไปแล้วก็ยิ้มให้เขา “มีเฟสไหมครับ”เฟสคืออะไร ผมทำหน้างก กูมีแต่หมอยว่ะ เฟสเฟิสกูไม่รู้จัก

“มันคืออะไรเหรอครับ”

“อ้าว ไม่เล่นเหรอครับ งั้นถ้าไม่น่าเกลียดผมขอพินได้ไหมครับ เผื่อไปกินเหล้าด้วยกัน”แหม ไอ้สัส หน้าตากูขี้เหล้าขนาดนั้นเลยเหรอวะ แล้วมาขอพงขอพิน พินอะไรวะ ใช่อะ พิน อะ บิน อะแคท อะแรท หรือเปล่า ชอบถามหาอะไรที่กูไม่ค่อยรู้

“พินอะไรล่ะครับ”

“พินบีบีไงครับ อ้าว ไม่ได้เล่นบีบีเหรอครับ”อ๋อ บีบีที่เขาฮิตๆกันนี่เอง ไม่มีว่ะกูใช้โทรศัพท์ง่ายๆ โทรเข้าโทรออกได้ มีไฟฉายคอยส่องแค่นั้นก็พอ

“ไม่มีครับ”

“งั้นผมขอเบอร์ได้ไหมครับ”เอาจนได้ แล้วถามว่าไอ้มหาให้ไหม ก็ให้ไปครับ

ให้เบอร์เสร็จเรียบร้อยเขาก็กลับบ้านเขาไป ส่วนผมเข้าไปในบ้าน เอาของวางบนโต๊ะแล้วเดินขึ้นไปบนห้องนอน หมวดเต้ยยังหลับสบายอารมณ์อยู่บนเตียง วันนี้พี่แกไม่ได้ไปทำงานครับเพราะถือว่าเป็นวันหยุด ผมคร่อมหมวดเต้ยแล้วทิ้งตัวลงทับ ไม่ได้ทิ้งน้ำหนักไปทั้งหมดแล้วทับพอให้พี่แกรู้ว่ามีคนมารบกวนอยู่ กดจมูกลงบนแก้มดำๆ ฮ่าๆๆ จะดำยังไงก็รักเหมือนเดิมครับ

“อื้อ หนัก”

“ตื่นได้แล้วครับ เช้าแล้ว”ผมพูดที่ข้างแก้มแล้วกดจมูกลงไปแรงๆ จากนั้นก็ไล่จูบให้เต็มหน้าซะเลย กูหมั่นเขี้ยว

“อือ ลงไปได้แล้วมั้ง กูตื่นแล้ว”ผมไถลตัวลงจากหมวดเต้ยพี่แกถีบๆผ้าห่มออกจากตัวแล้วก่ายขามาที่ตัวผม มือกูโดนตรงเป้าพี่แกพอดี เช้าๆแบบนี้แข็งเชียว หึหึ “หือ มึงจะถอกทำเหี้ยอะไรเล่า กูเสียวเป็นนะเว้ย”น้ำเสียงสั่นนิดหน่อย ยั่วสวาทกูเสียจริง

“หึหึ ไปล้างหน้าเถอะครับ ผมซื้อโจ๊กมาให้แล้ว”

“อือ อยากกินฮอทดอกว่ะ ไม่อยากกินโจ๊ก”ไม่พูดเปล่าเอามือมาวางที่เป้าของผมแล้วขยำๆ “หึหึ ขึ้นไวเชียวนะไอ้สัส แกล้งให้อยากแล้วก็จากไป จุ๊บ”จูบที่แก้มผมแล้วรีบกระเด้งตัวเข้าห้องน้ำซะงั้น เอ้า แล้วมาเล่นจวยกูให้แข็งทำไม เดี๋ยวเหอะๆ จะเจอจัดหนัก

เดินเป้าตุงลงไปด้านล่าง เก็บกวาดบางส่วนที่เห็นว่ามันรก รอผู้หมวดอาบน้ำเสร็จจะได้กินข้าวพร้อมกัน กวาดไปโทรศัพท์ก็ดัง รับสายปรากฏว่าเป็นเพื่อนบ้านที่เจอเมื่อเช้าเขาโทรมา ไอ้สัส บ้านอยู่แค่นี้เดินมาเรียกกูไปคุยก็ได้ คุยกันไปถามชื่อแซ่ เขาชื่อมิวครับ เรียนปี ๕ สถาปัตย์ จากนั้นก็ถามอะไรนิดหน่อยจนหมวดเต้ยลงมาด้านล่างผมจึงวางสายแล้วไปจัดแจงข้าวปลาอาหารกินกัน หมวดเต้ยกินโจ๊ก ส่วนผมกินข้าวมันไก่ กูล่อไป ๒ กล่องแล้วตบด้วยโจ๊กอีกถุง ฮ่าๆๆ

กินอิ่มแล้วผมก็เก็บจานไปล้าง หมวดเต้ยเช็ดโต๊ะจากนั้นก็ไปนั่งดูทีวีบนห้อง เก้าอี้มันกว้างนั่งได้หลายคนก็จริงแต่ที่รักผมไม่ยอมนั่งที่อื่น มานั่งแทรกที่หว่างขาแล้วดึงมือผมให้ไปโอบกอด ไม่ได้คุยอะไรนั่งเงียบดูทีวีแต่มือผมก็ลูบไปที่หลังมือของหมวดเต้ยเบาๆ

“อยากไปไหนไหมวันนี้”หมวดเต้ยถาม

“ไปไหนล่ะครับ แล้วแต่ผู้หมวดเลยครับจะชวนผมไปไหน ไปรถลงเรือขึ้นเหนือล่องใต้ ผมพร้อมที่จะไปทุกที่ครับ”

“หึหึ งั้นเดี๋ยวพาทัวร์รอบกรุงเทพแล้วกัน แล้วเย็นนี้ก็ไปดูหนังกันดีไหม”

“ดีครับ”จากนั้นก็นั่งกอดกันกลมดูทีวีไปด้วย

จนถึงเวลาบ่ายโมงกว่าๆเราจึงออกไปทัวร์กรุงเทพกัน สถานที่แรกก็ไปเดินที่สวนรถไฟครับ ทัศนียภาพหลังน้ำท่วมอาจจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก เดินหน่อยเดียวก็ไปตะลุยที่ตลาดนัดสวนจตุจักร เผอิญวันนี้วันเสาร์ การค้าขายก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ครับ เดินดูนั่นดูนี่จนประมาณสัก ๓ โมง หมวดเต้ยจึงพานั่งรถไฟฟ้ามาที่สยาม

ครั้งแรกในชีวิตที่ไอ้มหาได้ขึ้นรถไฟฟ้า มีอะไรผมก็ถามหมวดเต้ยหมดทุกอย่าง เขาซื้อตั๋วยังไง หยอดเหรียญยังไง ถามทุกขั้นตอนเลยครับ หมวดเต้ยก็ใจดีตอบคำถามผมทุกขั้นตอนโยไม่ได้มีสีหน้าที่รำคาญอะไรเลย ยืนรอรถไฟฟ้าที่สถานีหมอชิต และมองทัศนียภาพรอบๆด้วยความใคร่รู้

“นี่ถ้าผู้หมวดไม่พาผมมาผมก็ไม่รู้ว่าจะได้ขึ้นหรือเปล่านะ ไอ้เจ้ารถฟ้าเนี่ย”เข้าไปในขบวนรถแล้ว แอร์เย็นฉ่ำหาที่เหมาะๆยืนแล้วจับราวไว้ให้มั่น มองไปในขบวนรถตอนนี้ทุกคนต่างขะมักเขม้นอยู่กับการเล่นบีบี(เมื่อสมัยนั้นบีบียังฮิตนะครับ) มีความสุขส่วนตัวอยู่กับสังคมออนไลน์ มีบางคนที่หันมายิ้มให้ผม และบางคนที่ใจกล้าขยับๆเข้ามาแล้วกล่าวทักทาย

“สวัสดีครับ”ที่จริงก็อยากให้มีผู้หญิงมาทักบ้างอะไรบ้างนะ แต่ทำไมมีแต่ผู้ชายมาทักกูวะ ผมยิ้มให้แล้วกล่าวตอบเขาอย่างไมตรี

“สวัสดีครับ”

“ผมเพ้นท์ครับ”เออ ก็สมควรเพ้นท์อยู่หรอกครับ ใส่เสื้ออาร์ตซะขนาดนั้น สวมหมวกสีเหลือง ใส่เสื้อสีสดใสกับกางเกงเดฟ มีประเป๋าใบขนาดย่อมสะพายอยู่ด้วย หน้าตี๋ขาว มีเคราและหนวดบางๆ

“ผมตวงครับ”แนะนำมาก็แนะนำกลับไป

“พี่เป็นทหารเหรอครับ”

“ใช่ครับน้อง”

“อืม แฮะๆ ผมชอบคนในเครื่องแบบอ่ะพี่ มันดูเท่ดี พี่มาคนเดียวเหรอครับ”

“อ๋อ เปล่า มากับเพื่อนอ่ะ”ตอนนี้มีคนมายืนแทรกระหว่างผมกับหมวดเต้ย ๒ คน เลยทำให้เรายืนห่างกัน การสนทนายังคงดำเนินไปเรื่อยเปื่อยจนในที่สุดเขาก็ได้เบอร์โทรผมไป โดยข้ออ้างที่ว่า เมษานี้เขาจะเกณฑ์ทหารแล้วอยากได้คำปรึกษาจากผม โอเค การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์คือหน้าที่อย่างหนึ่งที่เราไม่ควรจะละเลย เรามาลงที่สถานีสยามพร้อมกัน ไอ้หนุ่มหน้าตี๋ที่ชื่อเพ้นท์แยกตัวไปหาเพื่อน ส่วนผมเดินตามหมวดเต้ยครับ พี่แกเดินนำหน้าผมไปก่อนจนผมต้องรีบเดินตามให้ทันแล้วคว้าที่ข้อศอกแกไว้

“รอผมด้วยสิครับ”พอเดินทันกันแล้วผมจึงปล่อยมือลง มันไม่เหมาะสมที่เราจะมาเดินจับมือถือแขนในที่สาธารณะแบบนี้

“อ้าว กูนึกว่าจะไปกับไอ้เหี้ยนั่นซะอีก”

“หือ ผมมากับผู้หมวด ผมก็ต้องไปกับผู้หมวดสิครับ อะไร อย่าบอกนะว่าหึงผมอ่ะ”

“เออ ทำไม กูหึงมึงไม่ได้เหรอ”

“หึงได้ครับ เฮ้อ ถ้าอยู่บ้านนะจะจับล่อแม่งซะเลย”

“อยากล่อก็ไปล่อกับไอ้หน้าตี๋นั่นดิ คุยถูกคอจนแลกเบอร์กันแล้วไม่ใช่เหรอ”ดูพี่แกจะอารมณ์เสียจริงๆล่ะครับ

“ใจเย็นๆครับผู้หมวด ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละครับ น้องมันขอเบอร์ผมเพราะอยากจะปรึกษาเรื่องเกณฑ์ทหาร มันจะเกณฑ์เมษานี้แล้ว”

“อ้าว แล้วทำไมต้องเป็นมึงด้วยวะ ทหารคนอื่นในเมืองไทยมีเป็นพันทำไมมันไม่เดินไปถามในค่ายเอา ทำไมมันต้องปรึกษาอะไรกับมึง แม่ง”

“ใจเย็นๆครับผู้หมวด ผมไม่สามารถมีใครได้นอกจากผู้หมวดอีกแล้วล่ะครับ ผมขอโทษนะที่ทำให้ผู้หมวดต้องอารมณ์เสีย ยังไงเดี๋ยวผมลบเบอร์น้องมันเลยดีกว่า ผู้หมวดจะได้สบายใจ”

“ลบไปก็เท่านั้น มันมีเบอร์มึงแล้วนี่  เฮ้อ มึงนี่นะ จะเสน่ห์แรงไปไหนวะ”หมวดเต้ยตบที่ไหล่ผมเบาๆแล้วเดินนำผมไป ผู้คนที่เดินสัญจรไปมาในห้างสรรพสินค้าชั้นนำของเมืองไทย มีแต่คนหน้าตาดีผิวขาวๆเลยว่ะ เห็นแล้วคิดถึงหมวดเต้ยตอนแก้ผ้า ฮ่าๆๆ

เดินผ่านๆ ดูข้าวของแต่ไม่ได้สนใจจะเข้าไปซื้อ หมวดเต้ยถามผมว่าอยากได้อะไรไหม ผมก็ไม่รู้จะซื้ออะไรเพราะข้าวของแต่ละอย่างมันไม่เหมาะกับฐานะทางการเงินของผม คือเข้าไปดูร้านเสื้อผ้าร้านหนึ่ง อยากรู้ว่ามันขายเท่าไหร่เลยพลิกป้ายราคาดู พอเห็นตัวเลขแล้วก็ต้องตกใจ กูใส่แล้วกูจะบินได้ไหมวะ

“หิวแล้วว่ะ ไปหาอะไรกินกันแล้วค่อยไปดูหนัง”หมวดเต้ยตบไหล่ผมแล้วเดินไปหาร้านอาหาร มันมีหลายร้านมากเลยครับผมก็ไม่รู้จะกินอะไรดี ไอ้พวกร้านอาหารแบบนี้ไม่เคยเข้าเลยสักครั้ง หมวดเต้ยเลือกร้านอาหารร้านหนึ่งแล้วพี่แกก็สั่งอาหารไปครับ นั่งมองซ้ายมองขวา

“จะกินอะไรก็สั่งดิ”หมวดเต้ยหันมามองผม

“ครับ”ผมจึงสั่งอาหารไปตามที่ดูในเมนู รออยู่ครู่หนึ่งอาหารจึงทยอยมาเสิร์ฟเป็นส่วนของหมวดเต้ย ผมนั่งกินน้ำแข็งเล่นๆ กรอบดีครับ เคี้ยวแล้วมันแตกกระซ่านในปาก มันไม่แข็งเหมือนน้ำแข็งหลอดทั่วไป อร่อยดีครับ

“น้ำแข็งเขาอร่อยดีนะครับผู้หมวด เอากลับไปกินที่บ้านได้ไหมอ่ะ”

“ไอ้สัส เขาให้ชมกับข้าว มึงมาชมว่าน้ำแข็งอร่อย”

“อ้าว ก็ผมยังไม่ได้กินอะไรเลยนี่ครับ ผมกินน้ำแข็งก็ต้องชมว่าน้ำแข็งอร่อยสิ มันกรุบๆอ่ะ ไม่เหมือนน้ำแข็งที่กองพัน มันต้องออกแรงเคี้ยว แต่นี่กัดไปแล้วมันแตกในปากแบบกรุบๆ”ผมหยิบน้ำแข็ง ๑ ชิ้นมากินต่อ มันอร่อยจริงๆครับ อารมณ์มันคนละอารมณ์กับน้ำแข็งที่แม่ค้าในกองพันขาย อันนั้นแม่งโคตรแข็ง

“หึ มึงนี่นะ”หมวดเต้ยส่ายหน้า ผมเลิกคิ้วมองด้วยความงง อะไรวะ กูชมว่าน้ำแข็งว่าอร่อยก็ไม่ได้ แปบนึก อาหรที่ผมสั่งก็มาเสิร์ฟอยู่ตรงหน้า พนักงานเสิร์ฟร้านนี้น่ารักดีครับ “ไอ้สัส กูนั่งอยู่นี่ ช่วยมองหน้ากูได้ป่ะ”ผมมองเหลียวไปยังพนักงานในร้าน มองคนนั้นทีคนนี้ทีจนหมวดเต้ยแกด่าผมครับ

“มองเฉยๆเหอะครับผู้หมวด กินดีกว่า”

“เออ กูงี่เง่าเองแหละไอ้สัส”หน้าพี่แกเริ่มตึงแล้วครับ กูคิดถูกคิดผิดว่ะมาเดินเที่ยวแบบนี้ เนอะ คนเรามันก็ต้องมีมองคนนั้นทีคนนี้ทีแหละครับ แต่ถามว่าผมคิดอะไรไหม ผมก็ไม่ได้เก็บไปคิดไปเพ้ออะไรหรอกครับ คือผมกำลังมองความหลากหลายของคน กำลังมองพฤติกรรมของคนในเมืองกรุง เฮ้อ แต่ทำไงได้เมียเรายังไม่เข้าใจตรงนี้เลยหึงไปซะ แต่น่ารักดีครับ

นั่งกินเงียบๆไม่ได้หันไปมองคนอื่น สนใจอาหารที่อยู่เบื้องหน้าอย่างเดียว หมวดเต้ยแกไม่ยอมคุยกับผมเลยครับ ผมเลยขอกินก่อนแล้วกัน ไม่ใช่ว่าไม่สนใจจะไม่ง้อ แต่จะมาง้อตรงนี้มันเป็นที่สาธารณะ ไม่สมควรครับ อาหารที่สั่งไป ๓ อย่างหมดเกลี้ยงเลยครับจากนั้นก็เช็คบิล

“อ่ะผู้หมวด คนละครึ่ง”ผมควักแบงค์ออกจากระเป๋าให้ผู้หมวด เมื่อกี้พี่แกเล่นเหมาจ่ายคนเดียวเยครับ ทั้งที่ผมก็กินเยอะกว่า

“เก็บไว้ใช้เองเหอะ”

“ไม่ได้ครับผู้หมวด กินด้วยกันก็ต้องร่วมกันรับผิดชอบ ผู้หมวดทำแบบนี้ผมไม่สบายใจนะครับ”

“เงินกู กูพอใจที่จะจ่าย ทำไมมึงต้องคิดมากด้วยวะ”

“ก็ใช่น่ะสิครับ แต่ผมไม่อยากรู้สึกผิด เงินผู้หมวดหามาด้วยความยากลำบาก ผมไม่สบายใจหรอกนะครับที่ต้องมาใช้เงินคนอื่นแบบนี้อ่ะ”

“มึงมองเห็นกูเป็นคนอื่นไปแล้วเหรอวะ”อ้าว ออกทะเลไปซะแล้วแฟนกู หมวดเต้ยเดินหน้าบึ้งตึงนำไปก่อน งานนี้แทนที่จะได้พักผ่อนกลับต้องมาเครียดเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง ผมไม่สบายใจเท่าไหร่เรื่องเงินทอง คือกินด้วยกันก็จ่ายด้วยกัน หารกันคนละครึ่ง เงินทองผู้หมวดแกหามาด้วยความยากลำบาก กว่าจะได้แต่ละบาทแต่ละสตางค์แล้วมาจ่ายแทนผมแบบเนี่ย ผมไม่สบายใจครับ จริงอยู่ที่เราเป็นแฟนกัน แต่การจ่ายให้กันแบบนี้มันทำให้ผมรู้สึกไม่ภูมิใจตัวเองสักเท่าไหร่ เหมือนมาเกาะเขากินยังไงไม่รู้

ผมเดินตามผู้หมวดไปแล้วรีบลากไปหาที่เงียบๆนั่งคุยกันนั่งเคลียร์กัน ผมว่าพี่แกอารมณ์เสียตั้งแต่ผมถูกขอเบอร์แล้วละมั้งครับ กว่าหมวดเต้ยจะยอมเข้าใจผม ผมก็แทบอยากจะเอาหัวโขกกับเสา พอเข้าใจกันเลยไปนั่งกินไอติม

“กูเอาแต่ใจไปป่ะวะ”

“ไม่หรอกครับ แค่เราไม่เข้าใจความหมายที่เราสื่อสารกันเท่านั้นแหละครับผู้หมวด ผมขอโทษนะ”

“อือ กูกับมึงก็ผิดพอๆกัน”

“พี่ครับ เพื่อนผมมันฝากมาขอเบอร์อ่ะพี่”นั่งกินไอติมอยู่ดีๆก็มีนักศึกษาชายหุ่นอวบๆเดินมาที่โต๊ะ ผมหันไปมองเจ้าหนุ่มนักศึกษาคนนั้นจึงชี้ไปที่โต๊ะ โห น่ารักว่ะ ส่วนใหญ่ทั้งกลุ่มเป็นผู้หญิงครับ มีผู้ชายอยู่ ๒ คน นอกนั้นผู้หญิงอีกหลายคนมาก แล้วเขามาขอเบอร์ใคร กูมีคดีอยู่

“ใครอยากได้ก็ให้เขามาขอสิครับ ทำไมต้องฝากคนอื่นด้วย”หมวดเต้ยยักคิ้วให้กลุ่มนั้น น้องผู้ชายเดินไปที่กลุ่มของตัวเอง สักครูจึงมีน้องผู้หญิงมามาขอเบอร์ครับ สวยมากเลยครับ

“อยากได้เบอร์ใครครับน้อง”หมวดเต้ยถามหน้ายิ้มแย้ม

“เบอร์พี่คนนี้ค่ะ”ชี้มาที่ผม เอาแล้วไง

“แฮะๆ พี่คงให้ไม่ได้อ่ะ มีเมียแล้วครับ เมียหวง”

“เหรอค่ะ งั้นไม่เป็นไร”แล้วน้องเขาก็จากไป สวยนะ แต่มีเมียแล้วครับ รักและเทิดทูนเมีย ฮ่าๆๆ

“มึงเล่นของหรือเปล่าวะมหา กูสังเกตนะเว้ยตั้งแต่พามึงมาเดิน มีแต่คนมองเลยว่ะ”

“แหม พูดเหมือนผมเป็นหมาเลยนะ”

“ฮ่าๆๆ ครั้งหน้าเอาโซ่มาจูงด้วยดีกว่ามั้ง จะเป็นพันธุ์ไหนดีล่ะ โกลเด้นหรือไซบีเรียนฮัสกี้”

“เป็นหมาไทยพันทางนี่แหละครับ เวลามันเลียเจ้าของมันเลียดีกว่าหมาฝรั่ง”ผมยักคิ้วให้หมวดเต้ย ไม่รู้หมาฝรั่งมันจะเลียดีกว่าหมาไทยหรือเปล่านะ ผมพูดไปงั้นแหละ 

“ทะลึ่ง”

จะเรียกว่าอิ่มก็ไม่ใช่ ไอติมถ้วยนิดเดียวเองครับ จ่ายตังค์แล้วจึงไปเดินป่วนห้างกัน ครานี้อารมณ์ดีแล้วครับ เดินดูข้าวของร้านนั้นร้านนี้ไปเรื่อยเปื่อย แต่ไม่ได้ซื้ออะไรสักอย่าง ผมขอแค่ดูเฉยๆครับ ไม่คิดอยากจะได้อะไร ซื้อไปหาเวลาใส่ยาก อยู่ในค่ายใส่แต่เครื่องแบบ นานๆได้ออกมาข้างนอกที ไม่รู้จะซื้อไปทำไม ชุดที่ผมใส่วันนี้ก็เป็นของหมวดเต้ยทั้งนั้นนะครับ ตัวเราใกล้เคียงกันเลยใส่ของกันได้

“ปวดเยี่ยวอ่ะผู้หมวด”

“เออ ห้องน้ำอยู่ตรงนั้น เห็นป่ะ เดี๋ยวกูขอดูนาฬิกาแปบ”หมวดเต้ยชี้ไปที่ส่วนหนึ่งของห้าง ผมจึงเดินไปมองด้านบนเห็นสัญลักษณ์ชายหญิง เดินไปใกล้จะถึงห้องน้ำก็มีผู้ชาย ๒ คน หุ่นล่ำๆ ใส่เสื้อกล้าม เจาะหู สักไหล่ เขายิ้มให้ผม ผมทำหน้างงใส่ น่ากลัวแฮะ ไม่รู้จักแล้วมายิ้มให้ ผมเข้าไปในห้องน้ำ รูดซิปลงยืนตรงโถฉี่ ผู้ชาย ๒ คนเดินตามมาแล้วประกบซ้ายขวา ผมก็เยี่ยวไปแต่มันผิดปกติ ไอ้คนที่ยืนซ้ายขวาของผมมันหันมามองจวยผม แล้วตัวมันเองก็รูดจวยจนแข็ง ไอ้สัส โรคจิตป่ะวะ ผมไม่รู้จะทำไงดี มองไปด้านขวามันก็ชักว่าวโชว์ ด้านซ้ายนี่ไม่ต่างกันเลยครับ โห อันตรายว่ะ ไม่รู้จะทำไง รีบเยี่ยวให้เสร็จ มึงเงี่ยนนักใช่ไหม เดี๋ยวกูสนองให้ เยี่ยวเสร็จสะบัดจวยนิดหน่อย กูปวดตดพอดีเลยว่ะ หึ

แป๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด แป๊ด ผมตดแบบลากเสียงยาวๆ แล้วรีบเก็บจวยรูดซิปเดินออกจากห้องน้ำ รู้จักกูน้อยไปแล้วไอ้สัส คิดว่ากูโรคจิตเหมือนพวกมึงไงวะ ไงล่ะ รีบเดินไปหาหมวดเต้ยแล้วเล่าให้แกฟัง พี่แกขำจนน้ำตาเล็ด

“มึงคิดได้ไงไปตดใส่เขาวะ ฮ่าๆๆๆๆ”

“อ้าว ก็จะได้ให้รู้ไงว่าผมไม่ใช่เพื่อนเล่น ทำไมต้องมาเจอคนโรคจิตแบบนี้ด้วยวะ”

“เออ บางที่มันเข้าไปล่อกันในห้องน้ำเลยก็มี”

“เฮ้อ ขี้เงี่ยนแบบนี้ก็ไม่ไหวนะครับผู้หมวด เขาไม่อายบ้างรึไงนะ ใครมาจากไหนก็ไม่รู้ อยู่ๆมาชักว่าวโชว์ จวยใหญ่ก็ไม่ใช่ คิดอยากโชว์อีก”

“ฮ่าๆๆ ทีหลังมึงก็เอาของมึงมาโชว์เลยดิ”

“แน่ใจว่าจะไม่หึง”

“เออว่ะ เฮ้ย กูไม่หึง แต่กูหวงของของกูว่ะ ห้ามโชว์นะมึง แค่ในค่ายก็พอแล้ว”หมวดเต้ยพูดเสียงเบา

“ครับ”


๒ ทุ่มเราไปดูหนังกันครับ ดูหนังต่างชาติประเภทบู้ล้างผลาญ ในโรงคนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ อากาศเย็นมากเลยครับขนาดว่าผมหนังหนายิ่งกว่าหนังควายยังหนาวเลย น้ำอัดลมกับป๊อบคอร์นอาหารที่เขานิยมซื้อเข้าไปกิน แถวบ้านผมเรียกว่าข้าวโพดคั่ว พอมาอยู่ในโรงหนังดันมาเรียกว่าป๊อบคอร์น แล้วแม่งเสือกแพงซะด้วย ราคาขนาดนี้ไปซื้อกินแถวบ้านผมได้เป็นกระสอบ รสชาติไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่นัก

“ทำไมมาดูหนังต้องกินข้าวโพดคั่วด้วยครับผู้หมวด”ผมกระซิบถามผู้หมวดเบาๆเพราะเกรงใจเพื่อนร่วมโรงหนังที่กำลังตั้งใจดู

“ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ เขาพาทำแบบนี้กูเลยทำตามหรือมึงจะเสนอความคิดใหม่ เอาอะไรดีล่ะ มันต้มดีไหม”

“เอานี่ดีกว่า อร่อยกว่าป๊อบคอร์นเยอะเลย”ยื่นหน้าไปหอมแก้มพี่แกทีหนึ่ง ฮ่าๆ แค่นี้กูก็ดูหนังสนุกแล้วละ




ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ DarkAki

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
พี่มหาเสน่ห์แรงน้าาาาา หึหึหึ

พี่ขาาาเก็บเสน่ห์เข้าไปบ้างเถอะะะะ

หมวดเต้ยหึงจนเหนื่อยแล้ววว 5555

สู้ๆนะหมวดเต้ย มีสามีหล่อต้องทำใจ คึคึ

ออฟไลน์ Sohso

  • You are my precious thing And I will always love you.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
บรรยากาศโรแมนติกจริงๆ คู่มหากับหมวดเต้ย

คู่พี่บอมบ์กับหมวดบูมก็ หื่นได้โล่

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
เสน่ห์แรงตั้งแต่ยังไม่ดังอ่ะพี่ตวง

ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
หมวดเต้ยขี้หึงเหมือนกันน่ะ 555 ก็มหาตวงพี่แกฮ๊อตจริงๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ yokky34

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
Re: (REPOST) ดีแล้วทูนหัวมีผัวเป็นท
«ตอบ #1061 เมื่อ14-11-2014 08:37:42 »

ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ ทิวสนที

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 763
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0

ออฟไลน์ GlassesgirL

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1037
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-2
หมวดเต้ยขี้หึงเหมือนกันนะ แต่มหาเสน่ห์แรงจริงๆ หึหึ
 :mew1: :L2:

ออฟไลน์ Akikojae

  • พี่ยุนรักน้องแจ ★彡
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1137/-17
แปลกเว้ย ครั้งนี้ไม่มีปิดไฟตัดไปหน้าบ้าน (แซวมหา) 555555

ออฟไลน์ kapook_koopak

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
คู่มหาตวงกับหมวดเต้ยก็น่ารักใช่ย่อย :mew1:

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9

ออฟไลน์ pearl9845

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
หมวดเต้ยขี้หึง  มหามีเสน์หมากเลยด้วย

ออฟไลน์ AGELA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1109/-0
ตอนที่ ๕๕.๒ อ้อน

ดูหนังจบแล้วเดินออกจากโรงหนังด้วยความมึน หมวดเต้ยชอบเดินทิ้งระยะห่างอยู่เรื่อย ผมเองไม่เคยมาสถานที่แบบนี้มันก็งงไปบ้าง มองเห็นแผ่นหลังพี่แกไกลๆ เลยรีบเดินตามให้ทัน หมวดเต้ยคุยโทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะวางสาย

“เพื่อนกูโทรมาตามไปกินเหล้า มึงจะให้กูกินป่ะ”คำถามชวนลำบากใจ ถ้าไปก็ต้องกิน ไม่ไปก็เหมือนว่ากำลังปฏิเสธสังคม แล้วเพื่อนผู้หมวด ต้องคบกันมานาน ไอ้เรามันยังไม่ครบปีนี่หว่า

“แล้วแต่ผู้หมวดครับ แต่อย่าเมาจนป่วยไข้ไม่สบายเหมือนตอนนั้นอีก”

“ขี้เกียจจะดูแลกูใช่ป่ะ”

“เปล่าครับ แทนที่เราจะเอาเวลามาพักผ่อน กลับต้องเอาเวลาพักผ่อนไปป่วย มันไม่คุ้มค่าครับ”

“อืม ป่ะ”โบกแท็กซี่ไปที่บ้านเพื่อนหมวดเต้ย ระหว่างทางเพื่อนพี่แกก็โทรมาเป็นระยะๆครับว่าถึงไหนแล้ว คงจะกลัวว่าหมวดเต้ยไม่ไปล่ะมั้ง

และแล้วการเดินทางก็สิ้นสุดลงเมื่อแท็กซี่มาจอดที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง เป็นบ้านเดียวหลังใหญ่พอสมควร ดูก็รู้ว่าเป็นบ้านคนมีฐานะ จ่ายค่าแท็กซี่แล้วกดกริ่งที่หน้าบ้าน มีคนมาเปิดประตูให้ เข้าไปก็มองเห็นสถานที่เลี้ยงฉลองเลยครับ

“กว่าจะมาได้นะไอ้สัส โทรไปก็เสือกปิดเครื่องอีก”เพื่อนผู้หมวดรีบทักหมวดเต้ยทันที

“เออ กูดูหนังอยู่”

“แล้วพาใครมาด้วยนะ นี่อย่าบอกนะว่ามึงหันมาบริโภคถั่ว”เพื่อนพี่แกก็บอกมอมเสียจริง

“เออดิ กูไม่ได้แดกถั่วมันหรอก มันแดกถั่วกู ไอ้สัส”

“พรวด แค่กๆๆๆๆ เฮ้ย จริงอ่ะ”เพื่อนหมวดเต้ยถึงกับสำลักเหล้ากันเลยทีเดียว ฮ่าๆๆ พอพี่แกจะเปิดตัวนี่เปิดแรงไปป่ะวะ ผมมองไปรอบๆก็เจอหมวดบูมมาด้วย เสียดายไอ้บอมบ์ไม่มา ไม่มันส์เลยครับ

“หึหึ”หมวดเต้ยยิ้มแล้วยักคิ้วใส่ จากนั้นพี่แกก็แนะนำเพื่อนแต่ละคนครับ เป็นเพื่อนร่วมรุ่นที่จบมาพร้อมกัน ซึ่งในนี้มีประมาณ ๑๐ กว่าคนครับ

“ไอ้บอมบ์ไม่ว่าเหรอผู้หมวด แอบมากินเหล้าเนี่ย”

“บอกมันแล้ว มันว่าโตแล้วจะทำอะไรก็ทำ แล้วมึงคิดไงให้ไอ้เต้ยแดกเหล้า เพิ่งว่ามันไปปาวๆเมื่อครั้งก่อน”

“ไม่รู้สิครับ ผมบังคับใครไม่ได้หรอก ก็คงจะเหมือนไอ้บอมบ์ โตแล้วคิดเองได้ ขอแค่อย่าเมาจนเละเทะแล้วกัน แล้วอย่ากินบ่อย ไม่มีตองสุขภาพเงินด้วย สุขภาพกายด้วย”

“เอ้า ไอ้น้อง ชนแก้วหน่อยเว้ย”เพื่อนผู้หมวดส่งเหล้ามาให้ผม

“เฮ้ยๆ ไอ้เม่น มันไม่กินเหล้าเว้ย”หมวดเต้ยรีบท้วงหมวดเม่นทันที

“ได้ไงวะ มึงเห็นป่ะว่าเขาแดกเหล้ากัน มาแล้วไม่แดกไม่ให้เกียรติพวกกูนี่หว่า เอ้า หมดแก้วเลย”โห เกียรติพวกมึงที่อดทนมาหลายปีอยู่กับเหล้าแค่แก้วเดียวเนี่ยนะ

“ผมไม่กินเหล้าครับผู้หมวด”

“เออ ไอ้เม่น ไอ้มหามันไม่กินเว้ย อย่าไปคะยั้นคะยอมันเลย”หมวดบูมท้วงเพื่อนอีกคน

“เฮ้ยได้ไง เอาน่า จะเคร่งอะไรมากมายวะ มาหาความสุขกันดีกว่า”ผู้หมวดที่นั่งข้างหมวดเม่นเอ่ยเชียร์ เอาไงดีล่ะกู ผมไม่อยากกินนะครับ มันขม กว่าจะกลืนได้ มันลำบาก ผมเห็นคนแก่ๆแถวบ้านนะ เวลากลืนเหล้าเข้ากระเพาะเนี่ยทำหน้าเหมือนกินหินไปทั้งก้อน

“เอาหน่อยน่า มึงดูทั้งวงเขากินเหล้ากัน มึงจะมานั่งดูพวกกูกินได้ไงวะ เอาหน่อยเหอะ”หมวดอีกคนยื่นแก้วให้

“เฮ้ย กูขอเพื่อน เดี๋ยวกูกินแทนมันเอง”หมวดเต้ยจะมาคว้าแก้วเหล้า เอาไงวะ กูก็ไม่อยากให้เพื่อนๆเขาผิดใจกันเพราะกูเพียงคนเดียว

“เฮ้ย มึงลูกผู้ชายป่าววะ”

“ผู้หมวดผมกินไม่เป็นจริงๆครับ”

“กินไม่เป็นก็กินให้มันเป็นสิวะ ไม่มีใครกินเหล้าเป็นตั้งแต่เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่หรอก เอ้า แดกๆไปเหอะ มึงจะคิดอะไรมาก”

“โบ้ ไอ้มหามันไม่กินจริงๆเพื่อน อย่าให้มันกินเลย”หมวดบูมขอร้องอีกคน ผมก็ทำหน้ากระอักกระอวลใจ เขาจะผิดใจกันเพราะกูหรือเปล่าวะ แต่ผมไม่อยากจะกินเหล้าจริงๆนะครับ นั่งดูเขากินอ่ะนั่งดูได้แต่ถ้าให้ผมกินเองผมขอปฏิเสธครับ หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ขอกินเหล้า

“ผมขอตัวดีกว่านะครับ เดี๋ยวพวกผู้หมวดจะผิดใจกันเปล่าๆ ผมไม่กินนะครับผู้หมวด ขอบคุณที่ชวนครับ ผมขอตัวนะครับ”ผมลุกจากเก้าอี้ปฏิเสธอย่างนอบน้อม เราเหมือนตัวแปลกปลอมอ่ะครับ เดี๋ยวเกิดทะเลาะกันเพราะผมพูดยากนี่ มันไม่ดี ขอไปดีกว่า

“จะไปไหนวะ”ผู้หมวดอีกคนถามผม

“ผมขอโทษนะครับผู้หมวด คือผมไม่กินเหล้าครับ”

“อ้าว ไม่กินก็ไม่กินดิวะ ไม่เห็นจะต้องกลับเลยนี่ เฮ้ย ไอ้เม่น มันไม่กินก็อย่าไปบังคับมันเลย”

“เออ ไม่แดกก็ไม่แดกไอ้สัส”

ผมกลับมานั่งข้างๆหมวดเต้ยอีกครั้ง จากนั้นพวกผู้หมวดเขาก็กินเหล้ากันไป ส่วนผมน่ะเหรอ กินน้ำอัดลมน่ะสิครับ ใครจะว่าผมอ่อนก็ช่าง ผมไม่ขอข้องเกี่ยวกับแอลกอฮอล์ ผมเห็นคนบรรลัยเพราะเหล้าก็เยอะแล้วครับ แถวบ้านนี่เยอะเลย ไหนจะปัญหาผัวเมียทะเลาะกัน ไหนจะไม่มีเงินใช้จ่ายอย่างอื่น ที่สำคัญเรื่องสุขภาพด้วย บางคนโหมกระหน่ำกินเหล้า เอาแม่งเต็มที่ แล้วที่นี้เป็นไง เพิ่งจะอายุ ๔๐ ต้องมาทรมานกับโรคที่เกิดจากเหล้า ตัวอย่างมีให้เห็นถมไป แต่ว่าคนไม่ทำตาม ต้องให้เกิดขึ้นกับตัวเองก่อนจึงจะรู้สึก แล้วสมมติว่าถ้าเกิดขึ้นกับตัวเองแล้วเรากลับไปแก้ไขอดีตได้ไหม กลับไปแก้ไม่ได้หรอกครับ ถ้ามันดีจริงเขาคงจะรณรงค์ให้กินแทนน้ำแล้วล่ะครับ

นั่งฟังพวกผู้หมวดทั้งหลายเขาคุยกัน ก็เป็นเรื่องวงในของพวกเขานี่แหละครับ แต่ละคนนี่เพิ่งจะผ่านการฝึกทหารใหม่มาหยกๆ ที่ไม่ได้ลงฝึกทหารใหม่ก็มีครับ ผมเองไม่รู้จะคุยอะไร นั่งฟังอย่างเดียว

“เบื่อไหมมึง”หมวดเต้ยหันมาถาม มันก็เบื่อแหละครับแต่ไม่รู้จะไปไหน จะให้กลับบ้านเองแล้วใครจะลากหมวดเต้ยกลับด้วย

“เบื่อครับ”ผมกระซิบเบาๆ

“ถามจริงไอ้เต้ย มึงกับไอ้เหี้ยนี่เป็นอะไรกันวะ เอาดีๆนะสัส”หมวดเม่นถามเสียงดัง อ้าว เมื่อกี้ก็บอกไปแล้วว่าเป็นแฟนกันนี่หว่า

“มึงมองปากกูดีๆนะไอ้สัส มัน เป็น แฟน กู ไอ้หน้าเหี้ย ถามเหี้ยอะไรนักหนาวะ”

“มึงพูดจริงดิไอ้เต้ย”หมวดแม็กที่นั่งใกล้ๆผมหันมามองแล้วถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

“เออ ถามเหี้ยอะไรมากมายวะ ทำอย่างกะพวกมึงไม่เคยตุ๋ยตูดไอ้สัส กูรู้นะ โดยเฉพาะมึง ไอ้เม่น ไอ้หน้าหมี”

“อ้าวๆ เกี่ยวอะไรกับกูวะ”หมวดเม่นรีบท้วงทันที

“ถุย อย่าให้กูแฉ ไอ้เหี้ย หน้าต่างมีรูประตูมีช่อง ใช่ไหมไอ้ต้า”หมวดเต้ยยักคิ้วให้หมวดต้า หมวดต้ารีบเด้งตัวทันที

“อะไรของมึงไอ้เต้ย อย่ามามั่วนะมึง”

“หึหึ กูยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะเว้ย พอๆ ขี้เกียจเท้าความ แต่ขอร้องอย่าถามซ้ำซากว่าไอ้เหี้ยนี่เป็นใคร แฟนกูเองว่ะ แล้วไม่ต้องถามว่ากูเป็นเกย์ไหมไอ้สัส ผู้ชายรักผู้ชายไม่มีใครเรียกว่าทอมดี้หรอก เอ้า แดกๆเว้ย”หมวดเต้ยกระแทกแก้วเหล้ากับโต๊ะจากนั้นบรรยากาศก็ครื้นเครงอีกครั้ง

นั่งๆไปแล้วเกิดปวดเยี่ยว ขออนุญาตผู้หมวดเข้าไปเยี่ยวในบ้าน แหม ไอ้เราจะยืนเยี่ยวใกล้ๆคงทำไม่ได้ สนามหญ้าเขาทำมาแพง ดีไม่ดีเยี่ยวทีหญ้าเขาตายทั้งสนามแล้วใครจะรับผิดชอบ เข้าไปในตัวบ้าน กว้างมากครับ เป็นครอบครัวทหาร ผมก็ไม่แน่ใจว่าพ่อเขาเป็นทหารอะไรเพราะใส่ชุดเต็มยศมีหมวดพู่สูงๆ เอาเป็นว่าจะอะไรก็ช่างเขาเถอะ หาห้องน้ำได้ก็ไปยืนเยี่ยวอย่างสบายอารมณ์ ออกมาจากห้องน้ำเจอหมวดเม่นพอดี พี่แกผลักผมเข้าไปในห้องน้ำจนแทบหงายหลังจากนั้นไม่พูดพร่ำทำเพลง ไอ้สัส จูบกูเต็มๆ ผมเองพยายามบ่ายเบี่ยง แต่แรงเขาเยอะกว่า อีกอย่างกูเคลิ้มด้วย เลยแลกลิ้นกันซะ

“เฮ้ย พอแล้วมั้งไอ้สัส มึงนี่แม่ง”ผมผลักอกหมวดเม่นออกหลังจากที่ได้สติ

“อะไรวะ มึงไม่ชอบแบบนี้เหรอ จะเอาแบบไหน กูจัดให้”หมวดเม่นคว้ามือผมไว้ แต่ผมสะบัดอย่างแรง

“อย่าให้กูต้องกระทืบมึงนะไอ้สัส มึงนี่แม่ง เหี้ยว่ะ”ผมผลักอกหมวดเม่นไปอีกครั้งแล้วเดินหน้าไม่สบอารมณ์ไปหาหมวดเต้ย “กลับบ้าน”ผมคว้าแขนหมวดเต้ยดึงขึ้นมา

“อ้าว จะรีบไปไหน”หมวดบูมท้วงออกมาแบบหน้างง

“เออ เป็นไร ไปทำอะไรมา ไปแดกขี้มาไง หน้าเหมือนโดนเขาลากไปยิงงั้นแหละไอ้สัส”หมวดเต้ยมองหน้าผมทำหน้างงๆ

“ผมไม่อยากอยู่แล้ว กลับบ้าน”

“เฮ้ย จะรีบไปไหนวะ”เพื่อนๆหมวดเต้ยถามแบบงงๆ

“เต้ย กลับบ้าน”ผมพูดอีกครั้ง

“เออๆ กูกลับล่ะ เดี๋ยวค่อยว่ากันนะเพื่อน โทษเว้ย”หมวดเต้ยลุกจากเก้าอี้แล้วกอดคอผมเดินไปหน้าบ้าน พี่แกเมานิดหน่อยครับ ยังพอคุยกันรู้เรื่อง “เป็นไรของมึงวะ”

“ไอ้สัสเม่นทำจังไรกับผม”

“อ้าว เหี้ยแล้วไง มันทำอะไรมึง”หมวดเต้ยหันหลังเหมือนจะกลับไปที่วงเหล้า

“ไม่ต้องกลับไป ไม่อยากเจอหน้ามัน”ผมลากหมวดเต้ยออกไปจากนั้นก็ขึ้นแท็กซี่กลับไปที่บ้าน แม่งอารมณ์เสีย ไอ้สัส จังไรเกิน นี่กูแฟนเพื่อนมึงนะเนี่ย มึงยังกล้าขนาดนี้ โห ไอ้สัส ถ้ากูเป็นกิ๊กนี่คงไม่เหลือแน่

“มันทำอะไรมึง”ระหว่างที่นั่งแท็กซี่หมวดเต้ยถามสีหน้าเคร่งเครียด

“มันจูบผม แม่งมั่วชิบหาย รู้งี้ผมไม่ไปเยี่ยวหรอก”

“ไอ้สัสเอ๊ย มันน่ากระทืบมั้ยล่ะ”หมวดเต้ยนั่งจับมือผมไว้ตลอดทาง ผมรู้สึกอารมณ์เสียอย่างมากที่สุด แม่งเอ๊ย ทำไมคนเราไม่ให้เกียรติกันถึงขนาดนี้เลยว่ะ

มาถึงบ้านตี ๓ พอดีเลยครับ รีบเข้าไปอาบน้ำพร้อมกัน อากาศเย็นๆทำให้ขนลุกซู่ หมวดเต้ยแกเมาๆเลยทำอะไรช้ามาก กว่าพี่แกจะคิดออกว่าต้องถอดเสื้อผ้าอาบน้ำ ผมต้องสะกิดแล้วก็ถอดให้ อาบน้ำเย็นๆจนขนลุกซู่ไปทั้งตัว

“สร่างเมาเลยว่ะมหา”หมวดเต้ยกอดอกยืนให้สายน้ำไหลรดไปทั่วตัว

“ผมคิดว่ามันจะไม่หนาวแล้วนะ”รีบขัดถูตามลำตัวอย่างรวดเร็วเพราะอากาศมันเย็น อาบน้ำเสร็จแล้วเช็ดตัว รื้อกระเป๋าหากางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดมาใส่ปิดไฟแล้วนอนซะ คิดว่าผมจะนอนหลับไหม คำตอบคือไม่ครับ หมวดเต้ยแกเล่นล้วงเข้ามาเขี่ยหัวนม เอาแล้วไง

“เราไม่ต้องนอนกันดีกว่าเนอะ”ผมพลิกตัวคร่อมหมวดเต้ยแล้วจูบอย่างหนักหน่วง



“ขาถ่างแน่กู ไอ้สัส พรุ่งนี้กูตายอย่าไปบอกคนอื่นนะว่ากูโดนมึงเอาจนตาย”หมวดเต้ยพูดติดตลก สภาพคนเพิ่งสร่างเมาแล้วโดนชวนเล่นโลดโผน ฮ่าๆๆ ตื่นมาเป็นผีตาโบ๋แน่เลย

“โหย ปากนะปาก เดี๋ยวเอาให้ตายคาอกจริงๆหรอก”ผมนอนหงายผู้หมวดแกพลิกตัวมานอนก่ายพาดขาดมาเต็มที่ เออเถอะ นานทีจะได้นอนกอดกันแบบนี้แล้วสุดท้ายก็หลับลงไปพร้อมกับเสียงนกกระจิบนกกระจาบร้องระงมอยู่ริมขอบหน้าต่าง


ตื่นอีกทีก็เที่ยงวันทันเหตุการณ์พอดี หมวดเต้ยแกไม่ตื่นง่ายหรอกครับ เดินอึนจวยแกว่งเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาแล้วอาบน้ำให้เรียบร้อย ที่จริงบ้านหมวดเต้ยมีมอไซด์อยู่คันหนึ่งกับรถเก๋งอีกคันหนึ่งซึ่งผมขับไม่เป็นสักอย่าง จักรยานอ่ะพอปั่นได้แต่มอไซด์อย่าได้ถามหาความสามารถจากพี่ตวงเลย เดินออกไปซื้อข้าวมากินเจอกับไอ้น้องมิวเด็กสถาปัตย์บ้านเยื้องๆกันพอดีเลย

“ไปไหนพี่ ผมไปส่งไหม”มันยิ้มใจดี หุ่นขาวๆ หน้าตี๋ๆ มีหนวดเครา ใครเห็นใครก็ชอบ แต่พี่ตวงไม่ชอบอ่ะ

“ไปซื้อกับข้าวอ่ะ”

“พอดีเลย ผมว่าจะไปหาอะไรกินพอดีเลย พี่รอผมแปบนะเดี๋ยวผมไปด้วย”เออ อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น รอแปบนึงน้องมันใส่เสื้อกล้ามสีขาวบางๆกับกางเกงสั้นๆ กูรู้ว่ามึงหล่อแต่แต่งตัวแบบนี้มึงแก้ผ้าแล้วเดินโชว์เลยดีไหม ไปถึงปากซอยเดินหาของกินหลายอย่าง ขนมนมเนยกูซื้อหมด บำรุงเมียกูหน่อย เมียกูเพลีย ฮ่าๆๆ

“วันนี้พี่ไม่ออกไปไหนเหรอครับ”มาถึงหน้าบ้านแล้วมันก็ชวนคุย ไอ้ครั้นเราจะเดินหนีไปดื้อๆก็กระไรอยู่

“ไม่ว่ะ  ไม่รู้จะไปไหน แล้วน้องไม่มีเรียนรึไง”

“วันอาทิตย์อ่ะพี่”

“เออ กูลืมว่ะ เดี๋ยวพี่ขอตัวก่อนนะ”เดินออกจากบ้านไปอย่าเร่งรีบ อยู่นานไม่ได้ รู้สึกได้กลิ่นแปลกๆ ฮ่าๆๆ ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ปวดขี้อ่ะ วางของด้านล่างรีบวิ่งเข้าห้องน้ำ สบายใจคลายทุกข์แล้วขึ้นไปดูที่รักเขาตื่นหรือยัง ไม่อยู่บนเตียงแล้วครับ ผมมองไปรอบห้องหมวดเต้ยเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำพอดีเลย

“ไอ้สัส เมื่อคืนมึงรุนแรงกับกู โคตรเจ็บเลยไอ้สัส”หมวดเต้ยเดินมากอดผมจากด้านหลัง

“เจ็บมากไหมครับ”

“อือ ไม่มากหรอก แค่เวลาเดินมันรู้สึกเจ็บว่ะ”

“ก็แบบนี้แหละครับ ไม่โดนนานๆมันก็เจ็บ ดังนั้นต้องหาเวลาเอากันบ่อยๆจะได้ไม่เจ็บ”

“เอาดิ หาเวลาให้ได้แล้วกัน กูไม่กลัวอยู่แล้ว หึหึ ปากดี เวลาจะพักผ่อนยังไม่มีเลยยังจะหาเรื่องเอากันบ่อยๆ”เออ มันก็จริงแหละครับ กว่าพวกผมจะได้ลาพักทีเนี่ยตั้งหลายเดือน งานมันเยอะจริงอะไรจริง

ลงมานั่งกินข้าวด้านล่างเปิดเพลงกล่อมเบาๆ โคตรโรแมนติก รู้สึกดีอย่างหนึ่งที่ผมซื้ออะไรมาหมวดเต้ยแกกินหมดทุกอย่างเลยครับ ไม่ค่อยเลือกกิน ตอนไปซื้อผมก็ไม่รู้จะซื้ออะไรดี คิดอยู่ตั้งนาน เลยซื้อตามที่มีขายแถวนั้น หมวดเต้ยกินข้าวหมดแล้วผมก็เอาพวกนม พวกซุปไก่มาให้พี่แก บำรุงหน่อย

“หาของให้กูแดกแต่ละอย่างนะไอ้สัส ไม่ค่อยส่อเลยว่ากูโดนมึงเอามา ดูดิโยเกิร์ตเอย ซุปไก่เอย มึงไม่ซื้อยาสตรีเพ็ญพากมาให้กูแดกเลยล่ะ บำรุงร่างกายบำรุงโลหิต ไอ้เหี้ย”

“ฮ่าๆๆ เดี๋ยวซื้อยาว่านชักมดลูกมาให้กิน ฮ่าๆๆๆ”

“วันนี้กูไม่พาออกไปไหนนะ กูเพลีย”

“ครับ”รับคำแล้วผู้หมวดเดินขึ้นบนห้องไป ส่วนผมก็ทำความสะอาดบ้านตามที่ได้ตั้งใจไว้ ปัดกวาดเช็ดถู ไล่มาตั้งแต่ห้องครัว ห้องรับแขก แล้วไปปัดกวาดด้านบนซึ่งเป็นห้องว่าง จากนั้นก็มาเช็ดถูบันได เสร็จประมาณ ๕ โมงเย็นแล้ว เก็บอุปกรณ์แล้วไปอาบน้ำแต่งตัว หมวดเต้ยยังนอนหลับอยู่บนเตียงอยู่เลยครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ AGELA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1109/-0
อาบน้ำแต่งตัวไม่ได้ใส่เสื้อใส่แค่กางเกงขาสั้นคลานขึ้นบนเตียงกอดหมวดเต้ย หน้าพี่แกออกจะคล้ำหน่อยครับเพราะช่วงฝึกทหารนี่ตากแดดตากฝนมาก คร่อมตัวเบาๆแล้วไล่ฟัดไล่หอม ฮ่าๆๆ จนพี่แกรำคาญมั้งเลยลืมตาขึ้นมา

“สัส กวนตีน”หมวดเต้ยพลิกตัวผมคร่อมไว้ถนัด หอมแก้มหลายทีพี่แกก็ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด แต่ไม่ปัดป้อง

“ตื่นเหอะ นอนนานๆสมองมันจะอึน”

“อือ กอดกูหน่อยดิ”ผมทิ้งตัวลงนอนข้างๆแล้วโอบกอดเอาขาพาดไปบนลำตัวหมวดเต้ยเต็มที่ หมวดเต้ยจับที่แขนผมแล้วบีบเบาๆพร้อมกับลูบไล้ไปด้วย

“บรรยากาศน่าเอากันเนอะ”

“หือ พูดอะไรนะ”

“เปล่าๆ ผมกอดผู้หมวดทีไรผมหื่นแตกทุกที เฮ้อ กูโคตรหลงเมียเลยว่ะ จุ๊บทีสิครับที่รัก”

“กูว่ามึงจุ๊บกูไปจุ๊บกูมา กูคงได้คลานแน่ เฮ้ยๆ จะล้วงทำเหี้ยอะไร กูยังเจ็บอยู่นะ”ผมเอามือล้วงไปบีบก้นแน่นๆ กูโรคจิตไปป่ะวะ “มึงชอบทำตัวเหมือนไม่เคยผ่านรสพระธรรมมาเลยว่ะมหา ถามจริงบวชมาเป็นสิบปีได้แค่ความหื่นติดตัวมาเหรอวะ สึกจากผ้าเหลืองนี่ทิ้งพระธรรมไปหมดแลยใช่ไหม”

“หือ ก็รักอ่ะ มันก็มีหื่นกับเมียบ้างอะไรบ้างแหละผู้หมวด แฟนนะไม่ใช่เทวดาจะเอาไว้ขึ้นหิ้งบูชาอย่างเดียว แล้วถ้าไม่ให้หื่นกับแฟนจะให้ผมไปเสียตัวที่ไหน ระวังเหอะ ชอบว่าผมหื่นมากๆเดี๋ยวผมไปหากิ๊กใหม่แล้วจะร้องไห้น้ำตาเช็ดหัวเข่า”

“ถ้ากล้าก็ลองดิ”

“แฮะๆ ไม่กล้าหรอก เออ นี่ผมไปถามหมอเมื่อวาน ผมรู้สึกแปลก งงกับอาการของตัวเองมาพักใหญ่เลยไปถามน้องหมอฝิ่น”

“มึงเป็นไร”หมวดเต้ยรีบหันมามองหน้าผมด้วยความห่วงใย

“ผมก็ไม่แน่ใจอาการเหมือนกัน ผมไปปรึกษาน้องหมอข้างบ้าน บอกอาการไป น้องหมอบอกว่าผมเป็นโรคเกรงใจเมียชนิดรุนแรง เนี่ย เขาบอกว่ายาที่ดีที่สุดตอนนี้ในการรักษาอาการกลัวเมียก็คือการฉีดวัคซีนป้องกันเมียหึง เมื่อคืนผมฉีดไปหลายเข็มแล้ว คืนนี้กะจะฉีดอีก”

“เดี๋ยวกูว่าสักวันกูคงได้ฉีดวัคซีนป้องกันหมอวินิจฉัยโรคผิด เสี้ยมกันดีนักไอ้เรื่องแบบนี้”

“แล้วชอบไหมล่ะ”

“ไม่ชอบกูคงไม่ยอมเอาขาพาดบ่ามึงหรอกไอ้สัส เอ้ยๆ มึงจะเอาจริงอ่ะไอ้หมา กูไม่เรียกมึงมหาแล้ว กูจะเรียกมึงไอ้หมา เลียเก่งนะมึง อูย อย่ากัดหัวนมกูดิ”

“ฮ่าๆๆ ไม่แกล้งแล้วครับ”ผมยิ้มแล้วไม่ทำอะไรต่อ ส่วนหมวดเต้ยก็นอนเฉยๆ ไม่ได้พูดอะไร หยอกกันวันละนิดจิตแจ่มใส

“ตวง ถ้าพ่อกูเขาไม่ยอมรับเรื่องนี้มึงจะทำยังไง”อ้าวที่รักกู ชวนดราม่าซะแล้ว

“เรื่องอะไรเหรอครับ ที่เราคบกันอ่ะนะ”

“อือ ถ้าพ่อแม่กูไม่ยอม มึงจะทำยังไง”

“อือ นั่นสิ แต่ผมไม่เลิกกับผู้หมวดหรอก แต่ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็คงจะหาวิธีการอะไรสักอย่างหรือหลายๆอย่างแหละครับผู้หมวด ต่อให้เขาจับแยกผมว่าไม่มีทางที่ผมจะเลิกรักผู้หมวดได้หรอก”

“แล้วถ้าพ่อแม่กูให้กูแต่งงานมีเมียล่ะ”

“ผู้หมวด อะไรยังไม่เกิดอย่าเพิ่งไปคิดถึงมัน มันสำคัญที่ปัจจุบัน ที่จริงเรื่องนี้มันก็ต้องเจออะไรที่ท้าทายหลายอย่าง แต่เมื่อเราก้าวขาที่จะเดินไปพร้อมกันแล้ว มันก็ต้องมีหลุมมีบ่อที่เราจะต้องสะดุดบ้าง ขนาดถนนดีๆยังมีหลุมบ่อ แล้วการเดินทางของคนล่ะครับ มันก็ต้องมีสะดุดบ้าง ตกหลุมตกร่องบ้าง เพียงแต่ถ้าเราใช้สติปัญญาคอยประคับประคองการเดินทางของเรา หลุมเล็กบ่อใหญ่เราก็จะสามารถผ่านมันไปได้”

“อือ กูรักมึงว่ะ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร มึงนี่แปลก เอากู กวนตีนกู แล้วทำให้กูหลงรัก”

“หึหึ เขาเรียกว่าบุพเพอาละวาด”

“แล้วมึงไม่คิดมากเหรอที่มารักผู้ชายด้วยกัน”

“เคยคิดนะครับ แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วเราก็ต้องทำความเข้าใจกับมัน อยู่กับมัน มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องที่สุดหรอกครับถ้าหากว่าเรื่องนี้อยู่ในมุมมองของคนอื่น แต่มันจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องเมื่อสิ่งนี้อยู่ในมุมมองของเรา เรื่องของคน ๒ คนไม่ใช่คนหลายคน”

“อือ มึงอายบ้างไหมวะ”

“มีอะไรจะต้องอายครับ เราทำชั่วที่ไหนล่ะ คนเราหน้าบางกับเรื่องไม่เป็นเรื่องมันก็เกินไป สิ่งที่เราควรจะอายมากกว่าก็คือการที่เราทำอะไรที่เลวทรามต่ำช้า มันพูดยากอ่ะผู้หมวด เฮ้อ อย่าคิดอะไรมากเลยครับ ถ้าผมอายจริงผมไม่ทะลึ่งตึงตังกับผู้หมวดมาจนทุกวันนี้หรอก เรื่องที่ผมจะอายอย่างเดียวก็คืออายชั่วกลัวบาป สิ่งที่เราเป็นอยู่อาจจะไม่ถูกใจคนอื่นบ้าง ก็คิดเสียว่ามันเป็นรสชาติชีวิต ไม่มีอะไรที่จะถูกใจคนทุกคนได้หรอกครับ มีดี มีเลว มีถูก มีผิด รสชาติชีวิตก็แบบนี้ ทุกข์บ้าง สุขบ้าง”

“อือ มึงนี่มองโลกในแง่ดีนะ”

“มันก็เหมือนเราอยากกินกับข้าวดีๆอ่ะ อะไรที่ทำใจหัวใจเรามีความสุข อะไรที่เป็นสิ่งสวยงามเรามองมันให้มากๆ คนเราชอบคิดร้ายไปก่อน เพราะความกลัวที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่ยังเด็ก เลยทำให้ไม่กล้าที่จะก้าวเดิน ไม่กล้าที่จะทำอะไร หากเรามัวแต่กลัว มองโลกในง่ายร้าย เราก็ไม่ต่างจากที่คนที่ถูกขังอยู่ในคุก แต่นี่มันเป็นคุกของจิตใจ เราถูกสิ่งที่เรียกว่าคิดลบครอบงำ ทำให้เรากลัว เรามามองอะไรที่มันสวยๆงามๆ ทำให้จิตใจเราเย็นสบาย สิ่งดีงามก็กลับมาหาเรา เพราะความคิดจึงทำให้คนกระทำ คนเขาคิดดี เขาย่อมทำดี คนคิดไม่ดีเขาก็ทำไม่ดี”

“แล้วตอนนี้มึงกำลังคิดอะไรกับกู แหม ไอ้สัส แข็งเชียวนะ”

“จะไม่แข็งได้ไงอ่ะที่รัก ก็ที่รักเล่นกำทั้งดุ้นแบบนี้มันเจอสัมผัสที่คุ้นเคยมันก็ขึ้นเป็นธรรมดา พร้อมยัง ผมจะฉีดวัคซีนก่อนอาหาร ป้องการโรคหลงผัว ฮ่าๆๆ”กระเซ้าเย้าแหย่กันพอเป็นกระษัยครับ มันแข็งก็จริงแต่คงไม่ทำอะไรที่รักหรอก เมื่อคืนโดนหนัก ฮ่าๆ

ก๊อก เสียงเคาะประตู ๒ ทีพร้อมกับประตูที่ถูกเปิดเข้ามา ผมกับหมวดเต้ยรีบหันไปมอง ไม่ใช่ใครที่ไหนอื่นไกล หมวดบูมนั่นเอง

“กูมาขัดจังหวะพอดีเลย หึหึ ชอบว่ะขัดความสุขของคนอื่น”หมวดบูมยิ้มหน้าระรื่นเดินเข้ามา

“ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อยเหอะครับผู้หมวด”

“จริงเหอะมหา มึงนี่ไม่ต่างจากไอ้บอมบ์หรอก กูรู้นิสัยพวกมึงดี ชอบทำหน้านิ่งๆเหมือนไม่มีอะไร ที่ไหนได้แม่งจ้องจะล่อกูทั้งวัน ถามจริงกูมาขัดจังหวะป่ะวะ”

“เปล่าครับผู้หมวด แค่กอดกันเฉยๆ ผู้หมวดจะมาทำไมไม่บอก่อนครับ ผมจะได้ทำตัวเรียบร้อยกว่านี้”

“ถ้าบอกก็ไม่เห็นของดีสิวะ ซี้ด ตวงแรงๆเลย เต้ยเสียว”หมวดบูมล้อเลียนได้กวนตีนมาก

“กูว่าแม่งโดนไอ้บอมบ์ล่อจนอาหารหื่นขึ้นสมองแน่เลย สัส”

“กวนตีนแล้วมึงไอ้เต้ย เฮ้ยๆ จะทำอะไรกู”หมวดเต้ยรีบกระชากหมวดบูมมากดบนเตียง

“ฮ่าๆๆ จับไอ้บูมข่มขืนเลย”หมวดเต้ยกดตัวหมวดบูมไว้ หมวดบูมก็ดิ้น ผมไม่สู้ดีกว่าครับแรงควายกันทั้งนั้น หมวดบูมงัดวิชาทางการทหารมาต่อสู้หมวดเต้ยเต็มที่ หมวดเต้ยก็ใช่ย่อยไปร่ำเรียนอะไรมาก็จัดหมวดบูมซะเต็มที่ เป็นคู่มวยที่สูสีมากเลยครับ จนทั้งคู่เหนื่อยล้าจึงหยุด

“ฝีมือมีแค่นี้เหรอวะ กระจอก”หมวดเต้ยพูดหยาม

“ถุย ว่าแต่กู หัดดูตัวเองบ้างไอ้น้อง”

“เล่นแรงๆแบบนี้ไม่กลัวเจ็บบ้างเลยเหรอครับผู้หมวด”คือเมื่อกี้แบบว่าต่อสู่กันแทบเป็นแทบตาย

“เจ็บดิ แต่ต้องอดทน กูไปฝึกเจอหนักกว่านี้อีก นี่แค่ขี้เล็บ”หมวดบูมตอบ

“เจ็บตัวกูไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่เจ็บตูดนี่สิไอ้สัส ยังไม่ฟื้นตัวเลยกู หาเรื่องซะแล้ว”

“ไหนๆ เปิดดูหน่อยครับผู้หมวดเผื่อมันเป็นแผลอันตรายจะได้ฉีดยาป้องกันไว้ก่อน”ผมรีบรี่เข้าไปหาผู้หมวดแต่โดนถีบหน้าอกเต็มๆ

“ที่เรื่องนี่เร็วนักนะไอ้สัส กูไม่เป็นไรมากเว้ย ไม่ต้องมาขอกูดู”

“ฮ่าๆๆๆ ไอ้เต้ยขาถ่าง”หมวดบูมขำกลิ้ง

“ถุย ไอ้สัสบูม วันที่มึงเข้ากองพันแม่งสภาพไม่ต่างจากศพ ล้อกู หัดดูตัวเองหน่อยเหอะ”

“ไอ้เหี้ย เอาความจริงมาพูด แต่แม่งพูดแล้วแค้น ไอ้สัส อ้อนกูแม่งทุกวัน กูว่าเลิกคบกับพวกนี้เหอะว่ะ น่ากลัวกว่าไปรบอีก ดูหน้าตาดิ ทำตัวเงียบๆ เป็นคนมีหลักการ พูดดี ไอ้สัส พอแม่งดับไฟเท่านั้นแหละ ไม่ต้องพูดเลย จับแหกแข้งแหกขาอย่างเดียว”

“แล้วยอมไหมครับ”ผมขำกับหมวดบูม สงสัยจะแค้นไอ้บอมบ์จริงๆ

“ไม่ยอมก็ไม่ได้ไอ้สัส หลวมตัวมาเป็นแฟนมันแล้วนี่ จะเอามันคืนบ้างก็ไม่ใช่หน้าที่ วู้ อย่าพูดถึงมันเลย หิวข้าวว่ะ ป่ะ ไปหาอะไรกินกัน”หมวดบูมลุกจากเตียงจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย

“รอกูสักแปบได้ป่ะ กูขออาบน้ำก่อน หรือจะเข้าไปอาบด้วยกันอีกรอบ”

“เออๆ เหงื่อออกเหนียวตัวเลยว่ะ ขออาบน้ำด้วย”หมวดบูมถอดเสื้อ นานๆเห็นหมวดบูมถอดเสื้อที ผิวขาว เนื้อแน่น

“ผมขออาบด้วยสิครับ”

“ลงไปอาบข้างล่างคนเดียวเลยมึง”หมวดเต้ยพูดพลางถอดเสื้อผ้าจนเหลือแค่กางเกงใน หมวดบูมเช่นกัน เห็นแบบนี้กูก็หื่นแตกเหมือนกัน แหม สัสเอ๊ย อยากควบสองเสียจริง นี่ถ้าไม่ติดว่าเมียเพื่อนนะ กูคงเปรม

“หน้าไม่ค่อยส่อเลยนะไอ้สัส จ้องอยู่นั่นแหละ เสียใจว่ะน้อง ไม่ได้แดกพี่หรอก”หมวดบูมตบไหล่ผมดังปั๊ก ทำเอาผมสะดุ้ง แล้วทั้งคู่ก็เข้าห้องน้ำไป ทิ้งให้ผมยืนมองตามหลังตาค้าง อ้าว ทิ้งกันเฉยเลย

ผมต้องลงไปอาบน้ำด้านล่าง เพื่อความรวดเร็ว ขึ้นไปด้านบนอีกทีรีบควานหาเสื้อผ้ามาใส่ หมวดเต้ยกับหมวดบูมยังไม่ออกมาเลยครับ สักพักได้ยินเสียง

“ซี้ดดดดดดดดดดดดด อ่า เสียวว่ะ ซี้ดดดดดด”เสียงหมวดเต้ยคราง “อย่างนั้นแหละบูม อ่า แรงๆ อ่า”

ปึงๆๆ ผมรีบทุบประตูทันที “ไอ้เหี้ย พวกมึงทำอะไรวะ เฮ้ย หมวดบูม มึงทำอะไรเมียกู เปิดประตูเลยพวกมึง”

“อย่าไปสนใจเต้ย เรามาสนุกกันดีกว่า อ่า มึงนี่โคตรฟิตเลยว่ะเต้ย ซี้ด เสียวว่ะ โอ๊ย เต้ย กูใกล้แล้ว”

ปึงๆๆๆ ผมทุบประตูแทบบ้าคลั่ง ไอ้สัส ทำไมต้องเล่นชู้ต่อหน้าต่อตากูด้วยวะ “ไอ้บูม ไอ้หมวดบูม หยุดนะมึง หมวดเต้ย ไอ้สัส มึงยอมมันทำไมวะ ไอ้เหี้ย พวกมึงแม่งกวนตีน ไอ้เต้ย ได้ยินกูป่ะ”ปึงๆๆๆ ผมทุบประตูอีกหลายที

แกร๊ก เสียงประตูถูกปลดล็อกผมแทบจะถีบประตูเข้าไปทันทีถ้าไม่เจอหน้ายิ้มแฉ่งของ ๒ หมวด

“ฮ่าๆๆๆ ไอ้สัส โดนอำแล้วมึง”หมวดเต้ยยิ้มหน้าระรื่นเดินออกมา ส่วนหมวดบูมนี่ขำหน้าดำหน้าแดง

“วู้ สะใจวะ ฮ่าๆๆ”เออ แกล้งกูได้แกล้งไป ไอ้เราก็เสียวๆว่าเขาจะทำกันจริง

“เฮ้ย มึงโกรธกูเหรอ”หมวดเต้ยเห็นผมทำหน้านิ่งเงียบพี่แกเลยรีบสะกิด ไม่หนักไม่เบา ไหล่กูแทบหลุด

“ทีแรกไม่โกรธนะ แต่แม่ง กูเจ็บไหล่ ตบมาได้”มือหนักจริงๆ

“โอ๋ๆ มาๆเดี๋ยวพี่เป่าให้”หมวดเต้ยทำท่าจะเป่าแต่ผมดึงมาจูบซะเลย กว่าจะได้ไปกินข้าวกินปลาก็เกือบจะ ๑ ทุ่ม มัวแต่หยอกกัน เหมือนเด็กๆกันเลยครับ ที่กองร้อยผมนี่พวกรุ่นพี่ชอบหยอก เล่นกันเหมือนเด็กๆ บางคนนะมีลูกมีเมียแล้ว ชอบเล่นกับเพื่อนในกองร้อยแบบเด็กๆ แต่ก็สนุกดีครับ ผมว่าไม่มีใครอยากจะเป็นผู้ใหญ่กันหรอก เพราะเป็นผู้ใหญ่แล้วปัญหามันเยอะ ต้องคิด ต้องตัดสินใจ ต้องรู้จักเลือกอะไรหลายๆอย่าง เห็นแล้วก็ชวนเพลีย

๒ หมวดสุดหล่อตัดสินใจพาผมมากินข้าวที่ร้านอาหารชื่อดังในห้าง ช่วงเย็นแบบนี้คนพลุกพล่านดีจริงๆ ทั้งวัยเรียนวัยทำงาน ที่จริงผมก็อยากจะแย้งนะครับว่าหาร้านที่มันกินง่ายไม่ได้มาไกล แต่ทำไงได้เขาพามานี่แล้วเลยต้องมากินให้มันจบๆไป หมวดบูมกับหมวดเต้ยนั่งข้างกันส่วนผมนั่งคนเดียว นั่งไปแล้วไอ้โต๊ะเยื้องๆกันมันมองมาที่ผมแปลกๆ ผู้ชายทั้งกลุ่ม หน้าขาว หุ่นล่ำ แล้วชอบมองมาที่ผมหลายครั้งมาก บางครั้งก็ยิ้มให้ด้วย

“เป็นอะไรวะ ทำไมไม่ยอมกินซะที รอให้กูปั่นแล้วป้อนผ่านสายยางรึไง”แหม ที่รักกูก็ ประชดซะเหมือนกูนอนห้องไอซียูเลยว่ะ

“เปล่า ไอ้โต๊ะนู้นมันมองมาน่ะ ไม่รู้มันมองอะไร แต่มันหันมายิ้มให้”ผมบุ้ยปากไปที่โต๊ะเยื้องๆ หมวดเตยหันหลังไปมองครู่หนึ่งแล้วยักไหล่

“กูเป็นใคร”หมวดเต้ยชี้หน้าตัวเอง

“เป็นผู้หมวด เป็นแฟนผมด้วย ทำไมอ่ะ”

“เออ งั้นมองหน้ากู แล้วกินข้าวซะ”

“ครับที่รัก”แล้วผมก็มองหน้าหมวดเต้ยไปกินข้าวไป เออ อร่อยดีว่ะ “หมวดบูมครับ ไอ้โรคกลัวเมียเนี่ยมันต้องแก้ยังไงอ่ะ”

“มึงถามได้ถูกคนมากเลยมหา คำตอบของกูคือไม่ต้องแก้ เดี๋ยวเมียเป็นคนจัดการทุกอย่างเอง เข้าใจป่ะ โลกใบนี้เมียเป็นใหญ่ โอเคป่ะ”จบเลยกู กูกับไอ้บอมบ์นี่ไม่ต่างกันเลย มีเมียหน้าแข้งใหญ่ก็แบบนี้แหละครับ ต้องทำตัวดีๆเพราะบารมีของเมียเขาเยอะ เอะอะเสียงดังไม่ได้ เกิดเมียไม่พอใจใครจะดูและผัวตัวน้อยๆอ่ะ

๓ หนุ่มหุ่นควายกินอาหารที่ตั้งอยู่เบื้องหน้าแบบไม่ยั้ง สั่งมาคนละ ๓ อย่าง ตบท้ายด้วยไอติมถ้วยกับของหวาน อยากจะเรอนะ แต่มารยาทสังคมมีเยอะ ถ้าอยู่ที่ค่ายนะกินอิ่มแล้วแข่งกันเรอ ไม่รู้เป็นไร ไอ้บางคนก็เหลือมนุษย์มนาเสียจริง มันกินอิ่มแล้วเรอไม่พอ แถมตดอีกต่างห่าง ทั้งบนทั้งล่างเอาซะให้คุ้ม จ่ายตังค์แบบอเมริกันแชร์แล้วเดินเล่นแถวๆนั้น ผมเดินตาม ๒ หมวด พวกเขาเองก็เข้าร้านนั้นออกร้านนี้ จะซื้อรองเท้าบ้าง กางเกงยีนส์บ้าง บางทีหันมาถามผมว่าดีไหม ผมก็ไม่รู้จะตอบยังไง ไม่เคยสนใจอะไร ผมยืนอึนอยู่นานพอสมควรจนไม่รู้ว่าตอนนี้ ๒ หมวดหายไปไหนแล้ว อ้าว ฉิบหายล่ะกู ไปไหนกันแล้ววะ ผมมองหาซ้ายขวาก็ไม่เห็น เลยเดินดูร้านใกล้ แล้วพากันไปไหนวะเนี่ย ผมเดินตามหาทั้ง ๒ หมวดในบริเวณใกล้เคียงก็ไม่เจอ

“อาตวง อยู่นี่ได้ไง”กำลังชะเง้อคอหาผู้หมวดอยู่ๆก็มีคนมาทัก ไม่ใช่ใครที่ไหน น้องไปป์นี่เองครับ โล่งหน่อยว่ะ

“อามาซื้อของกับหมวดบูมหมวดเต้ยอ่ะ”

“อ๋อ อาได้ลาใช่ป่ะ”

“อือ ใช่แล้ว”

“แล้วพี่หมวดเต้ยกับพี่หมวดบูมไปไหนอ่ะ”

“ไม่รู้เหมือนกันอ่ะ อาเผลอแปบเดียวก็หายไปซะแล้ว ว่าแต่ไปป์ไม่ได้ออกกำลังกายเหรอ”

“ไม่อ่ะ วันนี้อาบอมบ์เข้าเวร ไม่ว่าง ไปป์ไม่มีเพื่อนออกเลยมาเดินเล่นกับเพื่อน เดี๋ยวไปป์ช่วยอาตามหาดีไหม”

“รบกวนเปล่าๆ ไปป์ไปเดินเล่นกับเพื่อนเหอะ เดี๋ยวอาเดินหาแถวๆนี้เองก็ได้”ผมเอามือวางที่ไหล่น้องไปป์ ยังใส่ชุดนักเรียนอย่เลยครับ ผมเห็นแล้วก็อยากจะใส่ชุดนักเรียนแบบนี้กับเขาบ้าง เกิดมาใส่ชุดนักเรียนแค่ถึงป.๖ จากนั้นก็ใส่จีวรยันอายุ ๒๕ จนมาเป็นทหารก็ได้มาใส่เครื่องแบบ อิจฉาพวกเด็กในกรุงเว้ย โอกาสทางการศึกษามีสูง พ่อแม่ก็มีความเพียบพร้อม สถานศึกษาก็มีอยู่เยอะมาก ไม่เหมือนต่างจังหวัด ตอนผมเรียนอยู่ประถมนะ เสื้อขาวกางเกงสีกากีรองเท้าแตะ ไม่ได้ใส่ผ้าใบแบบทุกวันนี้หรอกครับ เสื้อก็เก่าๆ ต้องรอรับแจกบ้าง ยิ่งบ้านผมนี่ ตอนนั้นจนมาก เสื้อก็รับแจกมาจากคนอื่นอีกที แบบว่าใส่จนเสื้อมันบาง โรงเรียนที่เรียนก็พอบังแดดบังฝน บางวันครูก็สอนบ้างไม่สนบ้าง เรียนกันตามมีตามเกิด แต่ก็ถูไถจบป.๖ จนได้ คนที่มีฐานะหน่อยก็ส่งลูกเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมประจำอำเภอซึ่งต้องนั่งรถไปไกลพอสมควร ถนนหนทางก็ไม่ค่อยดี ตอนนั้นผมบวชเณรภาคฤดูร้อนแล้วก็บวชเรียนต่อเลย ได้พระศาสนานี่แหละครับที่ทำให้ผมลืมตามอ้าปากได้จนทุกวันนี้ มองย้อนกลับไปแล้วก็มองมาที่ปัจจุบัน ความเพียบพร้อม โอกาส มีเยอะมาก แต่ทำไมคนไม่เลือกที่จะแสวงหานะ มัวแต่คอยโชคชะตาฟ้าลิขิตหรือบางคนก็เพลิดเพลินในสิ่งยั่วยุต่างๆ ทุกอย่างดูสวนทางกันไปหมด คนไม่มีโอกาสเรียนก็ดิ้นรนแทบตายเพื่อที่จะให้ได้เรียนหนังสือ คนที่มีโอกาสเพียบพร้อมทุกอย่างเอาตำราความรู้มาถึงบ้านก็พากันหนี พากันไม่สนใจ เฮ้อ แต่เราก็ไปว่าอะไรเขาไม่ได้ บางคนเขาก็ดี บางคนเขาก็ไม่ดี ทุกอย่างมันผสมปนเปเป็นรสชาติชีวิต

น้องไปป์พาผมมาเจอเพื่อนๆของเขา มีแต่หล่อขาวตี๋ทั้งนั้นเลยครับ แนะนำชื่อกันไปว่าชื่ออะไรบ้าง ผมก็ไม่ค่อยจำชื่อได้สักเท่าไหร่ พอน้องๆรู้ว่าผมเป็นทหารก็ซักใหญ่เลยครับว่าฝึกทหารยังไง เหนื่อยไหม แก้ผ้าอาบน้ำหรือเปล่า ผมก็ตอบไปเท่าที่ตอบได้ แต่ก็มีกั๊กบ้าง อยากให้เขามาเรียนรู้เอง เป็นทหาร ไม่ได้เป็นยากและก็ไม่ได้เป็นง่ายๆ บางคนอยากเป็นก็ไม่ได้เป็น บางคนไม่อยากเป็นก็ได้เป็น แต่ส่วนใหญ่มีแต่พวกที่ไม่อยากเป็นทั้งนั้น พอมาฝึกจริงๆแล้ว โอเค ยอมรับว่าเหนื่อยมาก ทรมานมากแต่อย่างหนึ่งที่พวกผมได้รับมาก็คือความภาคภูมิใจ แหม พอแต่งชุดทหารออกไปไหนมาไหนมีแต่คนมองนี่ครับ ผมคุยกับน้องๆอยู่พักใหญ่จนมีสายเข้ามาจึงรีบรับโทรศัพท์ น้องๆเห็นโทรศัพท์ผมบางคนก็หลุดขำออกมา คือผมมัดยางไว้กลางตัวเครื่องอะครับ ฝาแบตมันชอบหลุดก็เลยมัดไว้ซะ

หมวดเต้ยโทรมาถามว่าอยู่ไหน อะไรยังไง แล้วพี่แกก็บอกให้ผมรอ จะเดินมาหา พอวางสายไปน้องบางคนกลั้นยิ้ม

“อาไม่อายเหรอ ใช้โทรศัพท์รุ่นนี้อ่ะ”น้องคนหนึ่งชี้มาที่โทรศัพท์ผม ทำไมอ่ะ มันโทรเข้าโทรออกได้ มีไฟฉายกับเอฟเอ็มคอยฟังเพลง แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับผม

“ไม่อายอ่ะ อามีเงินแค่นี้ อาซื้อได้แค่นี้ อาก็พอใจอยู่แค่นี้แหละครับ บ้านอาไม่ใช่บ้านคนรวย เป็นชาวนาจนๆ จะให้อาเอาเงินไปซื้อเครื่องละหลายๆพัน อาทำไม่ได้หรอก”

“อ้าว เงินเดือนทหารก็เพิ่มขึ้นแล้วไม่ใช่เหรออา”

“มันเพิ่มขึ้นก็จริง แต่ว่าจะไปสุรุ่ยสุร่ายไม่ได้ ไม่ใช่มีร้อยเราใช้ร้อย มีพันเราใช้พัน อาก็ไม่รู้สิว่าน้องจะคิดยังไง พื้นฐานของอากับพื้นฐานของน้องมันต่างกัน เราจะเอาแต่สบายคนเดียวไม่ได้หรอก ยังมีคนอื่นที่ลำบากกว่าเรา ยังมีคนอื่นที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าดีๆเหมือนกับเรา ยังมีคนอื่นที่ไม่ได้เดินห้างเหมือนเราอีกเยอะ อามีแค่นี้ พอใจกับมัน ถ้าอาไม่พอใจมัน อาก็ไม่มีอะไรจะใช้ โอเคไหมครับ”

“อาก็หล่อนะ ทำไมอาไม่มีเงิน”ตรรกะแปลกๆ คนหล่อต้องมีเงินทุกคนหรือเปล่าวะ กูไม่ได้ใจ

“อือ อามันกรณียกเว้ย แล้วน้องเคยเห็นคนหน้าตาขี้เหร่มีเงินไหมล่ะ”

“เคย”

“เห็นไหม เรื่องเงินเรื่องทองอ่ะ มันไม่ได้อยู่ที่หน้าตาหรอก มันอยู่ที่ความสามารถ มันอยู่ที่พื้นฐานครอบครัว มันอยู่ที่ปัจจัยอะไรหลายๆอย่าง”

“แล้วอาไม่อยากมีเงินเหรอ อาหล่อแบบนี้ไปเป็นดารา อาก็มีเงินแล้วนี่ ไปเดินแบบก็ได้”มึงชักจูงกูได้เยี่ยมมากเลยไอ้น้อง กูเป็นทหารอยู่ดีๆจะให้ไปเป็นดารา

“เฮ้อ อาขอเก็บความหล่อไว้ให้เมียชมคนเดียวก็พอแล้ว ชีวิตเพื่อชาติ หัวใจเพื่อเธอ”

ออฟไลน์ Akikojae

  • พี่ยุนรักน้องแจ ★彡
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1137/-17
ขำสองหมวดล้อกันไปล้อกันมา
น่ารักกันดีจริงๆเลย
ตอนที่แกล้งมหาพี่แกเกือบหัวใจวายละอีกนิด
 :pig4:

ออฟไลน์ ทิวสนที

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 763
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
สมาคมชื่นชมเมียจริงๆ :katai2-1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 o13 ให้มหา สาระเพียบเหมือนเคย

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
โรคกลัวเมีย ใครๆก็เป็นมหา ถามพี่บอมบ์เลย 55555  :laugh:

ออฟไลน์ DarkAki

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
โอ๊ยยยยยยย เป็นเพื่อนที่ดีเนอะ ดีมากกกก ดีออกกกกกกกกกกกกกกกก

รู้ว่าเป็นแฟนเพื่อนแล้วยังทำแบบนั้นอีก เหอะ

วางถุงกาวเถอะ สติ สามัญสำนึก ผิดชอบชั่วดี(อันน้อยนิด)จะได้มีกะเขาบ้าง อีสลัดเอ๊ยยย

สองหมวดขาาาาา เล่นไรแรงนะนั่น อำซะพี่มหาร้องเสียงหลงเลย 5555

พี่บอมบ์กะพี่มหาก็เป็นโรคเดียว ดีแล้วที่เป็นโรคนี้

เพราะเขาว่า คนรักเมีย บูชาเมียแล้วจะเจริญญญญญญ คึคึ

พี่สองคนโคตรโชคดีเลย 5555


ออฟไลน์ Sohso

  • You are my precious thing And I will always love you.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
กลัวเมียทั้งคู่หูเพื่อนรักเลยนะ

ว่าแต่เพื่อนหมวดเต้ยหมวดบูมนี่นิสัยเสียจริง นั่นแฟนเพื่อนยังทำอีก

ออฟไลน์ yokky34

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
โลกนี้เมียเป็นใหญ่ ถูกต้องค่า ^^

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8

ออฟไลน์ GlassesgirL

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1037
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-2
ทนเอานะมหาโลกนี้เมียใหญ่ แต่ไม่ต้องห่วงมีบอมบ์เป็นเพื่อนนะ 55555
มหามีสาระข้อคิดดีๆมากๆตลอดเลย แต่หื่นตลอดไม่แพ้บอมบ์เลย หึหึ
สองหมวดเขาเล่นกันเหมือนเด็กๆน่ารัก
 :mew1: :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด