ตอนที่ ๓๖ สั้นยาว
“กลับดีๆนะมึง ส่งให้ถึงบ้านละ อย่าพาเพื่อนกูไปเถลไถล แล้วมึงอีหนู อย่าแรด ผู้ชายไปส่งถึงบ้านมึงอย่ามารยาเขาเอาทำผัวล่ะ ระวังอีหนูมันหน่อยนะ ขับรถไปเกิดมันจับมึงโม๊คมึงถีบตกรถได้เลย”กล่าวฝากฝั่งด้วยความไม่มีสาระอะไรสักอย่าง มันส์ปากอย่างเดียวล่ะกู
“บ้าอ่ะพี่บอมบ์ หนูไม่ใช่คนแบบนั้นซะหน่อย”
“เออๆ กลับดีๆแล้วกัน ป่ะมหา หมวดเต้ยทนไม่ไหวแล้วมั้ง”ผมตบบ่าไอ้มหา
“ไอ้สัส อะไรๆก็กูนะมึง มึงไอ้มหา กลับไปมึงนอนหน้าบ้าน”
“อ้าว ทำไมพูดงี้อ่ะครับผู้หมวด นอนหน้าบ้านเกิดยุงมาหามผมไปกลายเป็นไข้เลือดออกแล้วใครจะจองศาลาให้ผมล่ะ แม่ผมก็อยู่ไกล”
“กูว่ามึงไม่ได้ตายเพราะยุงหรอก มึงจะตายเพราะตีนกูนี่แหละไอ้มหา ไปๆ กลับบ้าน ง่วงนอนเว้ย”หมวดเต้ยเดินนำไปก่อน
“มึงง่วงหรือมึงเงี่ยนเต้ย”หมวดบูมถามยิ้มๆ
“ก็เงี่ยนเหมือนที่มึงอยากโดนไอ้เหี้ยบอมบ์เอานั่นแหละ ไอ้สัส ถามมากจริง สวิงกิ้งเลยไหม”
“ก็ดีนะ สนใจป่ะตวง”ผมรีบรับมุกหมวดเต้ยทันที
“ไอ้เหี้ยบอมบ์ มึงได้กูคนเดียวมึงไม่พอใช่ป่ะมึงอยากแดกเพื่อนกูด้วยอ่ะ ห๊ะ”ผู้หมวดกัดฟันพูดแล้วมองหน้าผมแบบดุๆ
“โอ๋ๆ เขาล้อเล่นอ่ะ ไม่กล้าเอาหรอกหมวดเต้ยตูดดำ ฮ่าๆๆๆ”
“เฮ้ยๆ ขาวนะเว้ย ขาวเนียน แน่นด้วย เนื้อเป็นเนื้อ แน่นปึ้กเลย กูโคตรชอบ”ไอ้มหารีบท้วงขึ้นมาทันที เอ่อ มึงพูดแล้วกูก็คิดถึงก้นเนียนๆของหมวดบูมเลย เฮ้อ สงสัยคืนนี้คงจะยันเช้าแน่เลย คิดแล้วอ่อนแรง ฮ่าๆๆๆ
ขับรถไปบ้านหมวดเต้ยกัน คืนนี้คงจะค้างกันที่นี่ไม่อยากขับกลับไปกลับมา หมวดเต้ยนอนในห้องด้านบน ส่วนผมกับหมวดบูมนอนด้านล่าง มาถึงหมวดบูมรีบทิ้งตัวนอนบนโซฟาทันที ส่วนหมวดเต้ยไอ้มหาหิ้วปีกไปด้านบน ต่างคนต่างเมา มีแต่ผมกับไอ้มหาที่ไม่เมา ไอ้มหามันไม่ดื่ม ส่วนผมแค่จิบ แต่ ๒ หมวดกับอีหนูนี่สิ ซัดเอาๆเหมอนอดอยากปากแห้งมาเป็นแรมปี
“อาบน้ำก่อนไหม”ผมถามผู้หมวดก่อนที่จะลงมือหิ้วปีแก้เสื้อผ้าล่อนจ้อน
“อาบให้ด้วยนะ”ผู้หมวดพยักหน้าแล้วพาดแขนมาที่คอผมจากนั้นก็พยุงไปอาบน้ำในห้องน้ำ เนื้อตัวเนียนๆลูบไล้ตรงไหนก็ชวนพิศวาส นี่ขนาดว่ากรำแดดกรำฝนมาพอสมควรนะครับยังขาวเนียนขนาดนี้ ถ้าเป็นพวกหนุ่มออฟฟิศนี่อย่าให้ได้พูดเลยครับ คงจะขาวโบ๊ะหน้าดู เฮ้อ คิดแล้วหื่น
“พรุ่งนี้ก็ต้องไปทำงานแล้วดิ ทำไมเวลาพักผ่อนเราน้อยจังเลย”ผมพูดพลางนวดต้นคอให้ผู้หวดเบาๆเป็นการผ่อนคลาย
“อืม งี้แหละ งานเรามันเป็นงานที่ต้องเสียสละ เราจะมัวเห็นแก่ความสุขส่วนตัวมากเกินไปไม่ได้ เราไม่ทำงาน แล้วประชาชนจะไว้ใจเราได้ยังไง”
“ครับผม สบายไหม”
“อืม”พยักหน้ารับแล้วพิงมาที่อกผม จากนวดตอนนี้กูอยากนาบแล้วว่ะ ล้างเนื้อล้างตัวเสร็จเรียบร้อยเช็ดให้แห้งแล้วไปนอน ห้องนอนนี่เขาทำมาดีครับมีทั้งบนทั้งล่าง ชั้นล่างจะเป็นห้องนอนแขก แต่คนไทยอย่างไอ้บอมบ์ก็เข้ามานอน ฮ่าๆๆๆ
“อย่าเยอะนะมึง พรุ่งนี้กูต้องทำงานแต่เช้า”ผู้หมวดรีบดักทางผมไว้ก่อน หึหึ
“ยันเช้าเลยเลย จะได้ไต้องนอนตื่นสาย”
“ไปชักว่าวหน้าปากซอยเลยไปถ้ามึงจะเอากูยันเช้า ไอ้สัส”
“ให้ผมไปส่งไหม”ตื่นมายามเช้าด้วยอากาศที่สดชื่น หน้าตาผ่องใส ๒ หมวดอาบน้ำเรียบร้อยแต่ไม่ได้แต่งชุดทำงาน เพราะชุดอยู่ที่แฟลตในค่ายไม่ได้เอากลับมาด้วย
“อือ ก็ดี จะได้ไม่ต้องเปลืองค่านำมัน เย็นนี้ก็มารับด้วยละ”
“รับแต่หมวดเต้ย หมวดบูมผมให้เดินกลับบ้านเอง ฮ่าๆๆๆ”ผมพูดหยอกล้อ
“พูดงี้มึงไม่ต้องไปส่งกูเลยดีกว่าบอมบ์ เดี๋ยวกูให้ไอ้อาร์ตมารับ”
“เอาแล้ว เอาตัวเหี้ยมาเกี่ยวข้องอีกแล้ว จวย ทำไมมึงต้องเอ่ยถึงมันด้วยวะ”ได้ยินชื่อนี้แล้วอารมณ์กูปรี๊ด มันยิ่งจ้องจะเคลมมึงอยู่ด้วยไอ้หมวดหน้าหล่อ
“วู้ แค่นี้ก็โมโห ป่ะๆ”ผู้หมวดกระโดดขี่หลังผม เออ เวลากูโมโหก็ชอบทำแบบนี้ตลอด
“หมวดเต้ยตั้งใจทำงานนะ เป็นเด็กดี เชื่อฟังผู้พัน อย่าลืมกินข้าวกลางวัน ฝนตกก็อย่าออกไปเล่นน้ำฝนเข้าใจไหม”ไอ้มหามันพูดกับหมวดเต้ยหน้าทะเล้น
“ไอ้สัส กู ๒๕ แล้ว วุฒิภาวะกูมี หน้าที่กูรับผิดชอบได้ มึงพูดเหมือนกูเล่นเป็นผู้หมวดมือสมัครเล่น กูจบนายร้อยนะไม่ได้จบ รด.ปี ๕”
“ฮ่าๆๆๆ ผมพูดไปงั้นแหละ คิดถึงผู้หมวดอ่ะ ไม่อยากให้ไปทำงานเลย นี่ถ้าคุยกับผู้พันได้นะผมจะขอลาให้ผู้หมวดสักเดือนหนึ่ง เราจะไปสวีทกันที่มัลดีฟ จีบกันที่มะนิลา นั่งดูลมชมฟ้าที่เซี่ยงไฮ้ กอดจูบลูบไล้ที่มาเก๊า แล้วมาเอากันอยู่หลังเมรุวัดบ้านหนองหอย ฮ่าๆๆๆ”
“ฮ่าๆๆๆๆๆ”
“เลิกงานเมื่อไหร่แล้วโทรหาผมนะ จะได้มารับ”มาส่ง ๒ หมวดหน้าหล่อที่หน้าแฟลต ก่อนไปก็ฝากฝังกันสักหน่อย
“เดี๋ยวกลับรถไอ้เต้ยก็ได้ รีบไปนอนพักผ่อนเหอะมึง เวลามีน้อย ต้องรีบตักตวงความสุขให้เต็มที่ พอกลับมากองร้อยเดี๋ยวจะต้องทำงานต่ออีก”
“แค่ได้เห็นหนาผู้หมวดผมก็มีความสุขแล้วครับ หอมแก้มก่อนดิ”
“ไอ้สัส เดี๋ยวคนมาเห็น ตอนเย็นแล้วกัน ไปละ”
“ฝากดูไอ้มหาด้วยนะอย่าให้มันขี้หน้าบ้านคนอื่น อย่าให้มันเยี่ยวใส่เสาไฟฟ้า”เอ่อ นั่นมหาหรือหมากันแน่วะ
“ครับผม จะฝากบอกให้ ไปแล้วครับ”แล้วก็ขับรถออกจากกองพัน กลับบ้านหมวดเต้ย คุยกับไอ้มหานิดหน่อยจากนั้นจึงไปบ้านพี่ชายด้วยเวลาที่ตะวันสายโด่งแล้ว ฮ่าๆๆๆ มัวแต่ร่อนไปร่อนมา เกรงใจแม่จัง
มาถึงบ้านคนอื่นเขาไปทำงานกันหมดแล้วเหลือแต่แม่ผมกับพี่ภาพี่สะใภ้ กับลูกชายตัวเล็กๆ วัย ๓ เดือน ลูกชายแสบซ่านอนหลับปุ๋ยเชียวครับ อาบน้ำกินข้าวกินปลาแล้วมานอนข้างๆลูก
“ไม่ไปนอนบนเตียงล่ะบอมบ์ มานอนบนพื้นทำไม”พี่ภาพูดขึ้นเมื่อเห็นผมนอนอยู่ข้างๆลูก
“ไม่อ่ะพี่ภา นอนข้างลูกแหละอบอุ่นดี”นอนมองลูกเพลินๆครับ
“อื้ม แล้วเป็นไงบ้าง ไปฝึกกันมาเหนื่อยกันมากไหม”
“ก็เหนื่อยนะครับ แต่สนุกมากกว่า ถ้าไม่มีกรรมการมาคุมนะคงฮากว่านี้ พี่เชื่อป่ะว่าพวกผมวิ่งหนีวัวด้วยอ่ะ มีเพื่อนคนหนึ่งมันแบกปืนกลขึ้นต้นไม้ แต่พอลงมันลงไม่ได้”พูดไปขำไปครับ ไม่รู้ว่ามันปีนขึ้นไปได้ยังไง เป้ก็ใช่ว่าจะเบาๆ หนักร่วม ๒๐ โล ไหนจะปืนทั้งกระบอกอีก แบบนี้ล่ะที่เขาว่าเวลาหมามันจนตรอกมันสู้ไม่ยั้ง เหมือนคนเวลากลัวอะไรโอ่งใบใหญ่ยังแบกหนีได้เลย
“อืม คนเราเวลากลัวอะไรสุดๆ อะไรที่ไม่เคยทำก็ทำได้นะ บางคนยังกระโดดข้ามกำแพงสูงๆได้เลย”พี่ภาพี่สะใภ้ผมใจดีครับ ช่วงที่ผมเรียนอยู่ผมก็มาพักบ้านพี่ภาบ่อยๆ ที่จริงเขาจะให้ผมมาด้วยเลยด้วยซ้ำแต่ผมไม่เอาด้วยครับ อยากอยู่คนเดียวแล้วทำงานอะไรบ้าๆบอๆคนเดียว เรื่องเป็นทหารเหมือนกัน ผมจะใช้เส้นพี่ชายผมก็ได้ แต่ผมไม่เอาหรอกครับ ตำแหน่งการงานก็เรื่องของพี่ชายผมไม่ได้ไปรับตำแหน่งด้วยนี่ จะได้มีอภิสิทธิ์เกินกว่าคนอื่นเขา ยศเขาก็ยศของเขา หน้าที่เราก็เป็นของเรา มันยุติธรรมดี
คนอื่นเขาจะคิดยังไงผมก็ไม่รู้ด้วยนะครับ พ่อผมสอนมาแบบนี้ อย่าใช้หน้าที่ของตนในทางที่ไม่ดี ผมเลยเป็นคนแบบนี้ไง ไม่ค่อยบอกว่าพี่ชายผมเป็นใคร เดี๋ยวเขาจะหาว่าไอ้เหี้ยนี่เส้นใหญ่ทำอะไรไม่เป็น คนเราจะเก่งมันต้องเก่งด้วยตัวเอง ต้องเอาตัวเองมาพิสูจน์ ไม่ใช่เอาตำแหน่งหน้าที่การงานของคนอื่นมาให้ใครเขาเกรงขามหรือยกย่อง คนเรานะถ้าเก่งจริงไม่ต้องเอาใครมาเป็นฐานหรอก เอาตัวเองนี่แหละ สองเท้าของเรา สองมือของเรา ใจของเรา
คุยกับพี่ภาได้แปบเดียวผมก็นอนหลับอยู่ข้างๆลูก ไม่กล้านอนใกล้มากหรอกครับกลัวว่าตัวเองจะพลิกตัวไปนอนทับ มันอันตราย ในข่าวมีให้เห็นตั้งเยอะแยะพ่อแม่นอนทับลูกตาย แต่ลูกผมก็นอนบนที่นอนสูงกว่าผมนิดหน่อยนะครับ หลับไปพักหนึ่งลูกตื่น เยี่ยวแตกร้องงอแง ผมเลยต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ ส่วนอีกคนก็ไม่น้อยหน้าครับ เหมือนกันเลย เยี่ยวแตก ผมต้องเรียกแม่มาช่วย พอหยุดร้องไห้ดวงตาใสแจ๋วเลยทีเดียว หึหึ ลูกใครวะหล่อเหมือนพ่อมันเลย
เรื่องลูกนี่ผมก็มั่นใจว่าเป็นลูกของผมนะครับ เพราะผมเองมั่นใจในตัวของแม่ของลูกว่าเขาไม่เคยไปอะไรกับใคร มีแต่ผมคนเดียว คือผมเคยไม้กันกันหมาให้น้องเขาอ่ะ ผมเลยมั่นใจ แล้วจากการคำนวณระยะเวลาคงไม่ใช่ลูกคนอื่นหรอก ยิ่งลูกที่คลอดออกมาหน้าหน้าหล่อเหมือนผม ลูกผมชัวร์ๆ ฮ่าๆๆๆ
“แม่เหนื่อยไหมอ่ะเลี้ยงลูกแฝดเนี่ย”ผมถามแม่ระหว่างที่ป้อนนมลูก
“เหนื่อยสิ แต่ทำไงได้ แม่รักหลานของแม่ มันเหนื่อยแค่ช่วงขวบแรกแหละ พอโตก็ไม่ค่อยเหนื่อยแล้ว”
“ตัวเล็กอย่าดื้อนะ”พูดกับลูกที่อยู่ในอ้อมกอด น่ารักจริงลูกกู ฮ่าๆๆๆ
บ่ายๆพอลูกหลับผมก็มานั่งทำงาน ดูผลการประกอบการของบริษัทที่ผมมีส่วนร่วมอยู่ กำไรขาดทุนเป็นเรื่องธรรมดา ช่วงนี้เศรษฐกิจยังพอไหว การเงินคล่องตัวหน่อย จนถึงตอนเย็นลูกตื่น พาไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะกับแม่ ให้ลูกได้รับอากาศดีๆที่มาจากธรรมชาติ
ช่วงวันหยุดพักผ่อนไม่มีอะไรจะทำหรอกครับ วันๆเลี้ยงลูกอยู่กับครอบครัวอยู่กับงาน เหลืออีกไม่กี่วันก็จะต้องกลับกองพันแล้วครับ หมดเวลาพักผ่อนคนอื่นจะได้พักผ่อนกันบ้าง เย็นวันหนึ่งพอลูกหลับผมก็ขับรถไปหาผู้หมวดที่บ้าน
“เหนื่อยจัง”พอเจอหน้าผมผู้หมวดรีบเข้ามากอดด้านหลังแล้วโดดขึ้นหลัง เอ่อ ที่รักครับช่วยคิดถึงผมหน่อยนะว่าผมหนัก ตัวใช่ว่าเบาๆ
“ผมช่วยนวดให้เอาไหม”แบกผู้หมวดขึ้นไปบนห้อง เอาเหอะ นานๆจะออดอ้อนผมที เราไม่ได้มีเวลามาหวานแบบนี้กันบ่อยๆ เดี๋ยวกลับกองร้อยแทบจะไม่ค่อยได้แตะเนื้อต้องตัวกันแล้ว
“น้องแสบน้องซ่าเป็นไงบ้าง ดื้อไหม”
“ก็น่ารักเหมือนพ่อมันไม่มีเปลี่ยนอ่ะครับ หึหึ ลงได้แล้ว น้ำนักตั้งเกือบ ๘๐ ยังให้ผมแบกอีก”
“๗๔ เหอะครับพี่ชาย เฮ้อ ขี้เกียจอาบน้ำจัง บอมบ์ให้ให้หน่อยดิ เมื่อยทั้งตัว”
“พูดจริงหรือพูดเล่นเนี่ย”ผมมองหน้าผู้หมวดซึ่งกำลังถอดเสื้อออก
“พูดเล่น อาบเองดีกว่าปลอดภัย”
“ปลอดภัยยังไงคืนนี้ก็ต้องโดน เรางดกิจกรรมมา ๒ วันแล้ว”
“เอาไว้วันหลังเหอะครับลูกพี่ สงสารหน่อย เหนื่อยมาก ขับรถไปๆมาๆไม่ได้พักเลย”
“จริงอ่ะ โอเคครับผม ไปอาบน้ำเหอะเดี๋ยวพาไปกินข้าว”
“อื้ม แปบนะ”แก้ผ้าเหลือกางเกงในตัวเดียวไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเข้าห้องน้ำไป เฮ้อ กูจะอดทนได้ไหมนะ เวลาไม่ค่อยมีด้วย จะได้กอดจูบลูบไล้เมียสักทีก็มีเวลาจำกัด จะตักตวงให้มากๆอีกคนก็ต้องทำงาน จะใช้มือมันก็น่าเบื่อเกิน มีใครอาสาจะช่วยผมบ้างครับ ฮ่าๆๆๆ ล้อเล่นนะ
“หมวดเต้ย พอได้แล้วมั้ง เดี๋ยวไอ้ตวงมันตายพอดี”เข้าไปในบ้านหมวดเต้ยเพื่อรับไปกินข้าวด้วยกัน ไปถึงบ้านเงียบสงสัยอยู่ในห้อง
“เหี้ยไรของมึงไอ้บอมบ์ กูอาบน้ำอยู่”หมวดเต้ยตะโกนลงมา
“อ้าว คิดว่าเอากันกับไอ้ตวง ฮ่าๆๆๆ”
“เอากับเหี้ยไรล่ะ แค่กอดยังไม่ให้กูกอดเลย เซ็งสัส กอดหมวดบูมก็ได้”ไอ้ตวงเดินมากอดหมวดบูมหน้ามึนๆ
“เฮ้ยๆ ไอ้สัส ให้มันถูกคนหน่อย คนนี้เมียกู เมียมึงอยู่ด้านบน สัส เดี๋ยวเกิดดีไม่ดีมึงเงี่ยนขึ้นมาหมวดเต้ยไม่ให้เอา มึงมาเอาที่รักกู อุบ ที่รักต่อยเขาทำไง เขาเจ็บ”หมวดบูมต่อยไหล่ผมทีหนึ่ง เจ็บจี๊ดเลยครับ
“ปากหมานะมึง”
“อ้าว ก็คนมันหวงนี่นา”ผมกอดผู้หมวดทำเสียงอ้อนส้นตีน ฮ่าๆๆๆ
“กูเซ็งกับมึงจริง เหี้ยเต้ยเร็วเว้ย กูหิวแล้ว ถ้ามึงไม่รีบลงมาภายใน ๕ นาที กูจะแดกไอ้เหี้ยบอมบ์กับไอ้เหี้ยตวงแน่”
“ไอ้หยา ผู้หมวด ผมไม่ผิดอะไรสักหน่อยจะแดกผมทำไมเนี่ย”ไอ้ตวงทำหน้าหลอน
“ก็ไอ้เต้ยลงมาช้า กูอยากหาอะไรทำระหว่างรอ”
“ไปชักว่าวเล่นหน้าบ้านก่อนก็ได้ครับ หมวดเต้ยกำลังแต่งตัว หมวดเต้ยครับ สุดหล่อ คนอื่นเขารอผู้หมวดคนเดียวนะ ถ้าไม่ลงมา ๕ นาที คืนนี้เราไม่ต้องนอนนะครับที่รัก”
“ไอ้สัส กูเคยได้นอนด้วยเหรอ อยู่กับมึงนี่แม่ง”
“ฮ่าๆๆๆ ก็ได้นอนนะ แต่นอนตี๓ ตี ๔ ทุกคืนเลยอ่ะ ป่ะๆ หิวข้าว กินข้าวแล้วจะได้มีแรงมาสร้างเนื้อสร้างตัว ผัวเมียต้องจู๋จี๋กัน”
“ไปชักว่าวให้ปลวกแดกไปไอ้สัส ช่วยเก็บอาการหน่อยเหอะ กูจะไม่ไหวแล้วนะ”
“ฮ่าๆๆๆ ครับผม ป่ะๆ หิวเมียอยากเลีย อุบ หมวดเต้ยต่อยผมทำไม”หมวดเต้ยต่อยที่ไหล่ไอ้ตวงทีหนึ่ง
“เลียส้นตีนกูไหมตวง ไอ้เหี้ย ไหนว่าหิวข้าว เดี๋ยวเหอะมึง อยู่กับไอ้เหี้ยบอมบ์ที่ไรนี่แม่ง ช่วยคุยเรื่องอื่นได้ไหมครับที่รัก เวลาอื่นตอนอยู่ด้วยกันเห็นเป็นการเป็นงานเสียจริง เวลาไอ้เหี้ยบอมบ์มาที่ไรนี่ มีแต่เรื่องเยะเรื่องล่อ สัส เป็นเหี้ยอะไรของมึงวะ”
“ก็เป็นผัวพวกมึง ๒ คนไง ฮ่าๆๆๆๆ”ผมตอบแล้วหัวเราะเสียงดัง
“บอมบ์ ตวง กูถามพวกมึงจริงเหอะ เป็นทหารนี่พวกมึงคิดว่าเหนื่อยไหมวะ”หมวดเต้ยถามระหว่างที่นั่งรออาหารที่เพิ่งสั่งไปเมื่อครู่
“ก็เหนื่อยเป็นบางช่วง เหนื่อยช่วงโดนแดกอ่ะ”ผมตอบ
“ใช่ๆ เรื่องอื่นผมไม่เหนื่อยนะ มาเหนื่อยช่วงโดนแดกนี่แหละ ให้ฝึกน่ะผมทำได้ทั้งวัน แต่ถ้าแดกแล้วด่าด้วยนี่ผมหมดกำลังใจที่จะทำอะไรแล้วละ”
“อือ แล้วกูถามหน่อยว่าพวกมึงเคยคิดจะหนีไหมวะ”
“เคยสิครับ ผมนี่แหละ ช่วงนั้นช่วงที่ผู้หมวดไม่อยู่อ่ะ โดนนายสิบแดกกระจาย เดี้ยงกันเป็นแถบเป็นแถว คนทำดีทำไมต้องโดนแดกด้วย ผมมั่นใจนะว่าผมไม่ได้ทำผิด ทำไมต้องเหมารวมกันด้วย นี่ผมไม่เข้าใจตรงนี้”
“นั่งก็เพราะจะปรามพวกมึงไง พวกมึงจะได้กดดันเพื่อนที่มันออกนอกลู่นอกทาง ถ้าไม่แดกพวกมึงทั้งหมด พวกมึงจะไม่ตักเตือนกัน แต่ตอนเป็นทหารใหม่กับตอนขึ้นกองร้อยน่ะต่างกัน ทหารใหม่นี่กูแดกรวมเพราะกูอยากให้พวกมึงได้สามัคคีกัน คนดีจะได้ไม่เด่น คนที่เหี้ยมันจะได้ไม่ต้องคิดชั่ว แต่ขึ้นกองร้อยไม่ผิดกูไม่แดก ถ้าแดกก็แดกรายตัว”หมวดบูมอธิบาย
“แต่แบบนี้คนทำดีก็หมดกำลังใจสิครับผู้หมวด อ่ะ คนทำดีแม่งไม่ได้ดี แล้วจะทำไปทำเหี้ยอะไรล่ะ”ไอ้ตวงโต้กลับ
“มึงคิดแบบนั้นมึงไม่มั่นคงต่อความดีที่มึงทำ คนดีจริงไม่ว่าผิดไม่ว่าถูกเขาไม่คิดหรอก เขายังคงทำดีต่อไป กูคิดถึงไอ้เหี้ยนั้นน่ะ ชื่ออะไรวะ เออ ไอ้เด่น ไอ้เด่นแม่งเป็นคนซื่อๆ สมองกลางๆ แต่ขยัน ใครเรียกทำอะไรมันทำหมด เป็นตั้งแต่งานเล็กๆไปจนถึงงานที่พวกกูไม่คิดว่ามันจะเป็น สารพัดช่างเสียจริง มันทำดีตลอด แต่เวลามันโดนแดกมันก็มักจะพูดว่า เดี๋ยวมันก็ผ่านไปเพื่อน ถือว่าเขาเตือนเรา กูชอบที่มันคิดบวก คนดีเขาจะคิดบวกเสมอว่ะ ถ้ามึงคิดลบแสดงว่ามึงไม่ดีจริง”
“ผมก็คนนะผู้หมวด ผมไม่สามารถคิดบวกได้ตลอดเวลาหรอก ว่ากันตามผิดตามถูก คนดีมันไม่อยากทำดีเพราะแบบนี้แหละครับ ทำไปไม่มีความหมายแล้วทำไปทำไม ผมยอมเป็นคนไม่ดีดีกว่า”
“เพราะมึงคิดแบบนี้ไง มันเลยเป็นแบบนี้ บางอย่างกูก็เห็นด้วยนะเว้ย แต่บางอย่างกูก็ไม่เห็นด้วยกับมึง แล้วกูถามหน่อยว่า อะไรที่พวกมึงกดดันมากที่สุด”หมวดเต้ยมองหน้าผมกับไอ้ตวงไปมา
“โดนด่าแบบไม่มีเหตุผลกับโดนแดกโดยที่ไม่รู้ว่าผิดอะไร เออ แล้วอีกอย่างรุ่นพี่แม่งชอบกดดัน ตัวเองไม่ทำชี้นิ้วสั่งน้องอย่างเดียว มันไม่ยุติธรรม”
“อันนั้นเป็นไปตามระบบว่ะ พี่มันมาก่อน มันเหนื่อยมาก่อนมันเลยทำได้”หมวดเต้ยตอบ
“อือ ทหารถือระบบรุ่นพี่รุ่นน้องเป็นเรื่องสำคัญ แต่ถ้าพี่คนไหนไม่ดีมึงบอกกูได้นะบอมบ์ เดี๋ยวกูจัดการเอง”
“ไม่ต้องถึงมือผู้หมวดหรอก ไม่เข้าตาผมผมเอาคืน ผมไม่สน เพราะผมทำตามระเบียบอะไรที่มันเกินที่ผมจะทำได้ ผมไม่ยอม”ผมพูด
“พูดแบบนี้มึงไม่ให้เกียรติรุ่นพี่เลยนี่หว่า”
“ไม่ใช่ไม่ให้เกียรติครับผู้หมวด ผมพูดแบบแฟร์ๆ ใช้อำนาจเกินจำเป็นผมก็เอาคืน เป็นแค่รุ่นพี่มาใช้อำนาจบาตรใหญ่เหมือนตัวเองเป็นผู้พันผมไม่ยอม นี่ผมยังไม่เก็บบัญชีรุ่นพี่คนหนึ่ง ใช้ให้ผมขัดรองเท้าให้”
“แล้วมึงทำป่ะล่ะ”
“ไม่ทำ ผมจะสนใจทำไม รองเท้าผู้หมวดผมยังไม่เคยขัดให้เลย รองเท้ารุ่นพี่มันยศใหญ่มาจากไหน สั่งผมขัดรองเท้า”
“งั้นเย็นนี้ขัดรองเท้าให้กูหน่อย”หมวดบูมเอ่ย
“ได้ครับ ผู้หมวดสั่งอะไรผมทำหมดแหละครับ”
“หึ ปากดีเนอะ เออ แล้วนี่มึงรู้หรือยังว่าไอ้ไอติมมันหนีทหารน่ะ”
“ยังเลยครับ อ้าว มันหนีไปเมื่อไหร่ครับผู้หมวด”
“หนีไปเมื่อวาน กูโคตรงงเลย นี่ยังจับมือใครดมไม่ได้ ไม่รู้ว่าโดนแกล้งหรือเป็นเพราะอย่างอื่น แต่กูได้ข่าวมาว่ามันหนีเที่ยวแล้วรุ่นพี่จับได้ รุ่นพี่เลยแดกมัน มันอยู่ได้เลยหนี กูยังไม่ได้สอบความเลย ปวดหัวกับพวกมึงจริงๆ อยู่ด้วยกันดีๆไม่ได้หรือไงวะ”
“ผู้ชายอ่ะครับผู้หมวด เลือดห้าวเลือดเหี้ยกันทั้งนั้น เออ แต่ไอ้นี่บ้านมันก็ฐานะดีนะครับผู้หมวด ดูจากนามสกุลก็เป็นลูกผู้รากมาดี ทำไมมันหนีไปได้นะ”
“กูว่ารุ่นพี่เตะชัวร์เลย”ไอ้ตวงเสนอความเห็น
“เออ พวกมึง ๒ คนอย่าหนีแล้วกัน ชีวิตพวกมึงทั้งชีวิตเลยนะเว้ย อย่าเอามาทิ้งกับเรื่องขี้ปะติ๋ว อะไรที่แก้ปัญหาไม่ได้ก็มาคุยมาปรึกษากับพวกกู พวกกูจะแก้ปัญหาให้ อย่าว่าแต่ทหารร้อยมึงเลยบูม ทหารร้อยกูก็เหมือนกัน หนีไป ๒ คนแล้ว ทิ้งปืนไว้ที่ป้อมซะด้วย ไอ้สัส ดีนะไม่มีใครขโมยปืนไปหรือมันไม่ได้เอาปืนไปด้วย ไม่งั้นซวยทั้งกองร้อยแน่”
“ทหารหนีเรื่องปกติว่ะ มีทุกรุ่น คอยดูนะถ้าพวกมันไม่จนตรอกมันไม่กลับมาหรอก พวกมึงยังจำได้ไหมที่กูเคยพูดให้ฟังน่ะที่มีทหารคนหนึ่งหนีไป เกือบ ๑๐ กว่าปีมั้ง แล้ววันหนึ่งพ่อมันตายเว้ย คนอื่นเขาได้มรดกกันหมดมีมันคนเดียวที่ไม่สามารถเซ็นรับมรดกได้แล้วีนี้พี่มันก็พามาที่กองร้อย บอกว่าจะมาขอรับราชการ ไอ้สัส เห็นแก่ตัวชิบหาย ถ้าพ่อไม่ตายห่าแล้วตัวเองไม่ได้มรดกก็คงไม่มาให้เห็นหน้า”
“แล้วผู้หมวดทำไงครับ”ผมถาม
“ผู้กองไม่ให้รับราชการอ่ะดิ เอาเปรียบกันเกินไป แล้วที่สำคัญไอ้เหี้ยนั่นเป็นแค่ปีเดียว อีก ๓ เดือนจะปลด มึงคิดดูมันเหี้ยแค่ไหน อีกแปบเดียวจะปลดแล้วมันยังคิดหนี ทีนี้พอเดือดร้อนแม่งขอกลับมา มันสมควรไหมละ คนเหี้ยๆแบบนี้เป็นคนเถื่อนไปได้ก็ดี เห็นแก่ตัว”
“เออ ปัญหาเยอะ บางคนติดเมีย เมียทิ้ง รุ่นพี่แกล้ง สารพัดอย่าง พวกมึงต้องเจออะไรอีกเยอะในกองร้อย แต่อย่าตัดช่องน้อยเอาแต่พอตัว ท้อได้แต่อย่าถอย เหนื่อยเมื่อไหร่คิดถึงหน้าพวกกูไว้”
“คิดถึงแต่ไม่ได้หอมไม่ได้กอดมันก็หมดแรงเหมือนกันนะครับหมวดเต้ย”ไอ้ตวงทำหน้าน่าสงสาร
“หึหึ พี่มหาของกู เอาน่า เดี๋ยวกูหาจังหวะว่างๆ มาๆ กินๆ”
นั่งกินกันเรื่อยๆคุยกับเปื่อยๆ สาระบ้างไม่สาระบ้าง จนอิ่มแปล้ท้องตึงกันจึงพากันกลับบ้าน กลับไปถึงบ้านก็ต้องไปติวหนังสือให้ผู้หมวดครับ ช่วงนี้ใกล้จะสอบปลายภาคแล้วครับ ผู้หมวดกลัวไม่มีเวลา ไหนจะเข้าเวรไหนจะต้องอ่านหนังสือ ไหนจะงานที่กองร้อย เตรียมตัวไว้เนิ่นๆ จะได้ไม่ฉุกละหุกทีหลัง ติวเสร็จก็จัดไปดอกหนึ่ง เพื่อเสริมใยสมอง ฮ่าๆๆๆ คงไม่เกี่ยวหรอกเนอะ จนเกือบเที่ยงคืนจึงได้กลับบ้านไปนอนหลับพักผ่อน
คนเราเวลามีความสุขนี่มันน้อยนะครับ ส่วนใหญ่เสียเวลาไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง อีกไม่กี่วันต้องกลับกองร้อยไปทำการทำงานแล้ว เรากลับคนอื่นได้ลา ผลัดเปลี่ยนกัน ช่วยเหลือกัน แบ่งๆกัน แบบนี้แหละครับทหาร ต้องรักกัน