ตอนที่ ๓๓ ตรวจสอบ
หลังจากการฝึกยิงปืนด้วยกระสุนจริงจบไปแล้ว ช่วงเย็นเราก็ย้ายฐานที่มั่นออกไปหาที่นอนอีกทีหนึ่งครับ นี่ก็ผ่านมาเป็นวันที่ ๖ แล้วพรุ่งนี้จะเป็นการตรวจสอบครับว่าที่เราฝึกมาเนี่ยมีผลยังไงบ้าง
การตรวจสอบก็จะเข้มงวดหน่อยครับ ตอนเช้ามาถึงก็เป็นการเข้าตีในเวลากลางวัน ไม่ใช่ที่เขานมนางนะครับอีกเขาหนึ่ง ห่างจากเขานมนางมากทีเดียว ช่วงนี้ผู้หมวดขอให้ทุกคนรักษาวินัยอย่างเคร่งครัด พอเข้าตีกลางวันเสร็จแล้วนั่งพักผ่อน ตอนเย็นจะเป็นการเข้าตีกลางคืนครับ การเข้าตีกลางคืนก็ต้องค่อยๆเดิน เขากำหนดเวลาให้เสร็จก่อนเที่ยงคืน ทุกอย่างก็เหมือนจากที่ได้ฝึกมานั่นแหละครับ
พอเข้าตีกลางคืนเสร็จไปเข้าสถานีตั้งรับ ซึ่งสถานีนี้จะสบายหน่อยครับ ทำหลุมบุคคลได้แล้วก็รออย่างเดียว พักใหญ่ตรวจสอบเสร็จจุดสำคัญอยู่ที่การเดินทางตอนกลางคืนซึ่งจะเรียกกิจกรรมนี้ว่าการเดินแผนที่เข็มทิศครับ
หมู่ปืนกลจะออกเดินไปกับ บก.หมวดครับ ส่วนหมู่ปืนเล็กก็จะแยกกันเดินไปตามหมู่ แต่ละคนได้แผนที่แล้วก็ต้องเดินตามแผนที่ที่ได้ครับระหว่างทางจะมีสิ่งสำคัญบอกอยู่
“เดินเบาๆนะ อย่าให้กรรมการจับได้ ทีมไหนกรรมการจับได้นี่โดนหักคะแนน”จ่าเอ่ยเตือนพวกผม แบกเป้ถือปืนได้ก็เดินตามถนนมืดๆไปอย่างนั้นแหละครับ เดินไปผู้หมวดก็ดูแผนที่ไปครับ ผมดูไม่ค่อยเป็นก็ได้แต่เดินตามเขา
“มึงมีคาถาย่นระยะทางไหมมหา”ผมถาม มหามันเคยเดินธุดงค์เผื่อมีของดี
“กูลืมไปแล้วว่ะ แต่หลวงพี่บอกว่าท่องคาถาไม่ได้ผลเท่าไหร่ถ้าสมาธิไม่ดี”
“เหรอวะ”
“เออ ต้องสมาธิดีๆ ตอนนี้ก็ไม่ค่อยมีสมาธิแล้วว่ะ จิตใจจดจ่ออยู่กับเมียตลอด”
“ฮ่าๆๆๆ”
“เฮ้ย นั่นไฟอะไรวะ”เพื่อนคนหนึ่งสะกิดผมชี้ไปที่ไฟแดงๆซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ ๒๐๐ เมตร ไฟอยู่ไม่สูงจากพื้นดินเท่าไหร่นัก ไม่ถึงเมตรด้วยซ้ำ
“เจอของดีแล้วไหมล่ะ”ไอ้มหาพูดเสียงเบาตอนนี้ทุกคนต่างหันไปมองดวงไฟดวงนั้น
“อะไรวะมหา”ผมถามอย่างสนใจ
“ก็อย่างที่มึงคิดนั่นแหละ อย่าไปสนใจมัน”มหาพูดตอนนี้ใครที่เดินนำก็เดินช้าลง ใครที่เดินตามหลังไม่ทันรีบเดินเข้ามาเกาะกลุ่มกัน
“เฮ้ย ไฟมันลอยสูงขึ้นแล้ว มึงดูดิ”เสียงใครบางคนพูดอย่างตื่นเต้น ผมมองไปยังดวงไฟที่ลอยเหนือพื้นไปเกือบเมตรกว่าๆเห็นจะได้ ระยะห่างยังคงเหมือนเดิมนะครับแต่ไฟมันลอยสูงขึ้นกว่าเดิม
“เหี้ย ตัวอะไรวะ”บางคนก็ยังสงสัยต่อไปทั้งๆที่รู้ว่ามันคืออะไร
“เบาๆ เดี๋ยวมันมาเข้ามากินตับมึงหรอก”สักคนเอ่ยปราม
“อย่าไปสนใจมันเลย เรามาเดินให้ถึงจุดหมายก่อนเถอะ”ผู้หมวดพูดซึ่งตอนนี้ขยับมาเดินใกล้ผมกับมหาแล้ว
“ผู้หมวดกลัวเหรอครับ”ผมถามเสียงเบาแต่คงได้ยินกันหลายคน
“ไม่อ่ะ เจอบ่อยจนไม่รู้สึกกลัวแล้ว”ผู้หมวดส่ายหน้า “หรือว่ามึงกลัว”
“ไม่หรอกครับ กลัวอะไร หนักกว่านี้ผมก็เคยเจอแล้ว”ผมพูดพลางระลึกถึงความหลังเมื่อยังเป็นวัยรุ่น โดนผีตายโหงหลอกตรงทางโค้งเข้าหมู่บ้านหมู่บ้านหนึ่ง
“ฮีโร่เนอะ ไม่เคยกลัวอะไรกับเขาสักอย่าง”
“แต่มันกลัวเมียครับผู้หมวด หุ่นควายแบบนี้กลัวเมียอย่างกะอะไรดี”เพื่อนตวงช่วยกูได้มากเลยเพื่อนรัก สัส
“สัส นอกประเด็นไปไกลแล้วมึง ช่วยเครียดกับสถานการณ์ปัจจุบันหน่อยเถอะ”
“เฮ้ย มึงว่ามันใช่ที่พวกเราคิดป่าววะ”
“ทำไมจะไม่ใช่ ผู้เชี่ยวชาญอยู่ตรงหน้ามึงแล้ว ระดับมหา หากินกับผีเป็นร้อยศพ”
“มึงกินศพเหรอมหา”จ่าถาม
“เปล่าครับจ่า ผมหมายถึงผมเคยสวดศพครับ บางบ้านที่คนตายน่ะเฮี้ยนมาก”
“พอๆเลยมึง กูกลัว”ใครบางคนในหมู่เอ่ย เดินไปมองไฟไปเพลินๆ มันน่ากลัวก็จริงแต่มันก็น่าพิสูจน์ครับ
“กูว่ามันเข้ามาใกล้พวกเราแล้วนะเว้ย”จ่าพูดขึ้น
“เฮ้ยๆ มันเข้ามาใกล้เรื่อยๆแล้วเว้ย เหี้ยเอาไงดี”พี่อ้นร้องออกมาอย่างตกใจเพราะตอนนี้ไฟแดงๆดวงนั้นเริ่มมีระยะเข้ามาประชิดมากเกินไปแล้วครับ
“เฮ้ย มันไม่ได้มาตัวเดียวเว้ย นั่นอีก นั่น เฮ้ย เหี้ย ๕ ตัวเลยเว้ย”ไฟดวงแดงๆใกล้เข้ามาและมีเสียงเหมือนไก่ร้องกุ๊กๆ
“แถวนี้เขาเล่นของกันว่ะ ชักจะไม่ค่อยดีแล้ว เดี๋ยวนะ”ไอ้มหาส่งปืนให้เพื่อนแบกส่วนมันวางเป้ลงแล้วเปิดหาของในเป้มัน มันหยิบอะไรมาสักอย่างขึ้นมากำแล้วว่าคาถาของมันก่อนจะโดนวัตถุที่มันกำไว้ไปยังเป้าหมาย ฟึ่บ ดวงไฟขยายใหญ่ขึ้นก่อนที่จะมอดลงแล้วกระจายหายไปในที่สุด
“มึงปราบผีได้ด้วยเหรอ”จ่าที่เป็นรองหมวดถาม
“ถ้ามันเข้ามาใกล้กว่านี้ใครสักคนต้องแหงแก๋แน่เลยครับจ่า มันคิดว่าเรากำลังบุกรุกที่ของมันน่ะ ตามันแดงก่ำมาก”ไอ้มหาอธิบาย
“กูว่ารีบเดินเหอะว่ะ ไม่งั้นเดี๋ยวเจอของดีอีกแน่”
“แล้วมึงคิดว่ามันจะไม่มาอีกเหรอ เผื่อมันไปตามพวกมันมาน่ะ”
“มันไม่มาแล้วครับจ่า”ไอ้มหามันให้การยืนยัน จากนั้นเราจึงเดินต่อไปเรื่อยท่ามกลางความมืดและความวังเวง ระยะทางยาวมากเลยครับและเป็นชายป่า จะมีบ้างที่เดินข้างๆถนนใหญ่แต่เราจะเข้าไปตามป่าตลอด กว่าจะถึงจุดหมายก็ตี ๔ แล้วครับ
มาถึงท่ามกลางอากาศที่เย็นสบายไม่ได้กางเปลเหมือนวันก่อน วางเป้ลงได้ก็เอาเต้นมาปูแล้วนอนหนุนเป้สนามอย่างเหน็ดเหนื่อย หลับๆตื่นๆเพราะจะมีหมู่ที่เดินตามมาสมทบกว่าจะครบก็เกือบตี ๕ แล้ว นอนพักผ่อนได้หน่อยเดียวเท่านั้นตอนเช้าก็ต้องไปทำฐานขุดหลุม พอฟ้าสว่างเริ่มมองเห็นอะไรชัดเจนตนนี้จึงได้รู้ว่า เรามานอนกันที่วัดร้าง
“กูว่าแล้วว่ามันแปลกๆตั้งแต่เมื่อคืน ไม่เห็นมีใครพูดอะไรเลย”ผมพูดออกมาระหว่างที่ขุดหลุมอยู่
“เออ กูแปลกใจตั้งแต่เห็นศาลเจ้าแล้วว่ะ แต่กูไม่คิดว่าจะเป็นวัดร้าง”
“นั่นสิ มิน่าแถวนี้อากาศเย็นแปลกๆ เมื่อคืนกูรู้สึกเหมือนมีใครมานั่งคุยข้างๆกูไงไม่รู้ว่ะ”เอาแล้วไงประสบการณ์ขนหัวลุกมาอีกแล้วไง
“คิดไรมากวะ มาๆหาไรกินก่อน หิวมากแล้ว”รุ่นพี่พูดขึ้น
กินข้าวเสร็จเราก็ไปฝึกกันต่อครับ สถานีนี้จะเป็นการฝึกหน่วยทหารขนาดเล็ก ไม่ได้ฝึกเป็นหมวดใหญ่ๆเหมือนหลายวันก่อน การฝึกใช่เวลาค่อนวันกว่าจะเสร็จ ต้องฝึกแข่งกับหมวดของหมวดเต้ย คู่ซี้นี่เขากินกันไม่ลงจริงๆครับมีความสามารถทั้งคู่ คะแนนออกมาเลยเท่าๆกันครับ ฝึกเสร็จก็เดินทางกันต่อ เดินเท้าล้วนๆครับ แบบนี้แหละครับทหารราบ มีแต่เดินกับเดิน จุดหมายปลายทางครั้งนี้ก็คือไปที่วัดครับ พรุ่งนี้ก็เป็นวันสุดท้ายแล้วที่เราจะฝึกกัน
เดินทางมาถึงวัดประมาณ ๓ โมงกว่าๆ ทุกคนต่างไปจับจองที่หลับที่นอน ศาลาตรงไหนว่าก็จับจองที่หลับที่นอนจากนั้นจึงไปอาบน้ำกันครับ อาบน้ำเสร็จแล้วก็เดินหาของกิน วันนี้เขาปล่อยสบายสุดๆ ผู้หมวดทั้ง ๒ ก็ไปคุยกับผู้กองผู้พันอยู่ที่ศาลาใหญ่ ส่วนผมหาของกินและเดินรอบๆวัด จากนั้นจึงชวนไอ้มหาเดินขึ้นไปบนเขา ด้านหลังวัดจะเป็นภูเขาครับและมีถ้ำอยู่ด้านบน ๒ ถ้ำ ผมเดินไปกับไอ้มหา ๒ คน
“อากาศดีเนอะ ลมเย็นสบาย โคตรโชคดีเลยว่ะที่ฝนไม่ตก เป็นบุญของเรานะเนี่ย”
“เออ กูก็ลุ้นว่ามันจะตกหรือเปล่า เราคงมีบุญมากนะที่ไม่เปียกฝน”ผมพูดพลางมองท้องฟ้า ตอนนี้เรามาถึงด้านบนแล้วครับ บนยอดเขานะครับ มองวิวทิวทัศน์รอบๆ สวยงามมาก เห็นภูเขาหลายลูก เห็นเสาไฟฟ้า โรงงานน้ำตาล
“ที่รักขึ้นมาตามหาเราด้วยว่ะ”ผมสะกิดไอ้มหาตวงเมื่อมองไปด้านล่างเห็นสุดที่รักเดินขึ้นเขากัน ๒ คน ประจวบเหมาะ อยากจูบนานแล้วด้วย งานนี้ไม่ได้จูบไอ้บอมบ์กลิ้งลงเขาแน่ ฮ่าๆๆๆ
“อ้าว มาอยู่กันตรงนี้นี่เอง”หมวดเต้ยพูดขึ้นเมื่อเห็นผมกับไอ้มหานั่งอยู่ที่ขั้นบันไดกำลังชมวิวทิวทัศน์
“ครับ คิดถึงพวกผม ๒ คนละสิ”ไอ้มหาตวงทำเสียงกวนตีน
“สำคัญตัวผิดหรือเปล่าคุณ ใครคิดถึงคุณครับ”หมวดเต้ยทำสีหน้าเรียบเฉย
“เหรอครับ เฮ้อ เราอุตส่าห์คิดถึงเขาทุกลมหายใจ อยากกอดเขา อยากจูบ อยากหอมแก้ม แค่เห็นหน้าเขาเราก็มีแรงฝึกเหมือนเสพยาบ้าเป็นร้อยเม็ด สงสัยความคิดถึงของเราคงเป็นอากาศธาตุ คลื่นความถี่ที่ไร้ความหมาย ส่งไปไม่ถึงเขา หรือเขาคงไม่มีใจให้เราแน่เลย บอมบ์ กูโดดเขาฆ่าตัวตายดีกว่ามั้ง กูไม่มีความหมายแล้ว”ไอ้มหาทำหน้าเศร้าลุกขึ้นทำท่าจะโดดเขา
“วู้ กูไม่คิดถึงมึงกูจะคิดถึงแมวที่ไหน”หมวดเต้ยเดินมาตบไหล่ไอ้มหาเบาๆ “สภาพมึง ๒ คนนี้กูเซงจริง ช่วยหน่อยเหอะครับคุณแฟน กางเกงน่ะขาดแบบนี้ช่วยอายนิดหนึ่ง”หมวดเต้ยชี้มาที่เป้ากางเกงที่ขาดวิ่นของพวกผม ๒ คน
“ฮ่าๆๆ ผมว่าเซ็กซี่ดีนะ”ไอ้มหาขำ
“เหนื่อยไหมครับ”ผู้หมวดมานั่งลงข้างบนโขดหิน
“ถ้าเหนื่อยก็ไม่เรียกว่าทหารสิ”แข็งแรงมากที่รักผม
“อื้ม”ผมพยักหน้า
“พี่บอมบ์ บูมปวดขา นวดให้หน่อยดิ”อ้าว ไหงงั้นล่ะครับที่รัก เมื่อกี้ยังบอกว่าไม่เหนื่อยเลย ผมทำหน้างงแต่ก็ยินดีครับ
“แล้วถ้าพี่ปวดขาบูมจะนวดให้พี่ป่ะล่ะ”
“ก็นวดให้บูมก่อนดิ สลับกัน ได้ลาพักเราไปนวดตัวกันป่ะ”
“อืม นวดเสร็จมานาบต่อ”ผมทำหน้าเจ้าเล่ห์ ตอนนี้ผู้หมวดนั่งเหยียดขากับพื้นแล้วเอาแขนค้ำด้านหลัง ผมเองก็นวดให้ครับ กล้ามเนื้อนี่แข็งเป๊กไปหมด
“คงไม่นาบอ่ะ เหนื่อย ขอพักผ่อน คลายความเครียด”
“อ้าว ไหนบูมว่าเป็นทหารแล้วไม่เหนื่อยไง”
“ตอนฝึกอ่ะไม่เหนื่อย แต่ตอนนั้นบูมเหนื่อยพี่บอมบ์มึงโอเคไหมครับ”
“โอเค กลับบ้านค่อยว่ากันอีกที รู้ตัวป่ะว่าทั้งผอมทั้งดำลงอ่ะ”
“ช่วยดูสภาพตัวเองหน่อยเหอะ ดำไม่ต่างกันหรอก อูย เบาๆ อย่ากดแรง”ผู้หมวดร้องออกมาเมื่อผมกดที่ต้นขา
“ประเสริฐจริงมึงไอ้เหี้ยบอมบ์ ไอ้บูมสั่งอะไรได้ดังใจทุกอย่าง”หมวดเต้ยมานั่งลงข้างๆผม เมื่อกี้ไอ้มหามันกอดครู่หนึ่งแล้วยืนคุยกันเฉยๆนะครับไม่ได้จูบ
“อย่าเอาผมไปเปรียบเทียบกับมันดิครับผู้หมวด มันคนละแนว คนนั้นเขาเทิดทูนบูชา แต่ผมอ่ะวางไว้บนหัวนอนเลยครับ ฮ่าๆๆๆ มาๆ จะให้ผมนวดให้ตรงไหนบอกมาเลย แต่นวดจวยผมนวดไม่เป็นนะ”
“ทะลึ่งตลอด วัดวามึงไม่สนใจเลยสักนิดเดียว บวชมาเสียเวลาเปล่าๆนะมึง”
“อ้าว พูดแบบนี้ก็สวยดิครับผู้หมวด ช่วงนี้ผมมันเงี่ยนจัดไปหน่อย อย่างว่าแหละครับ คนมันอยู่ในวัดในวามานานพอมาเจออะไรแบบนี้ชีพจรมันก็แตกซ่านเป็นธรรมดา”
“กูรู้ แต่ช่วยสำรวมหน่อยดิ”
“โอเค ผมจะสำรวม ผมจะเป็นมหาคนเดิม”
“มึงประชดกูเหรอไอ้ตวง สัส”อ้าว คุยกันดีๆทะเลาะกันซะแล้ว
“เปล่า ก็ผู้หมวดให้ผมสำรวมนี่ครับ นี่ไงผมสำรวมแล้ว”
“มึงนี่ เอาให้มันพอดีหน่อยเหอะ ถ้ามึงสำรวมแบบนั้นกู แม่ง หาแฟนใหม่ก็ได้วะ กูไม่อยากมีแฟนเฉิ่ม มหาโคตรๆ”
“หึหึ จะหาใครได้เหมือนผมไม่มีหรอก โอเค มาๆ หายโกรธผมได้แล้วครับ มาผมจะนวดให้”แล้วการปรนนิบัติพัดวีก็เริ่มต้นขึ้น ผมนวดขา นวดไหล่ นวดหลังผู้หมวดจนตะวันลับขอบฟ้า อากาศดีมากและไม่มีใครทะลึ่งขึ้นมาบนนี้ด้วย
“อยากไปเที่ยวอาบอบนวดอีกว่ะมหา”
“ติดใจเด็กนวดอ่ะดิ ไม่เอา ครั้งที่แล้วผมยังจะอดใจไม่ไหวเลย เดี๋ยวผมไปฝึกนวดให้ งดเที่ยวอาบอบนวดแบบถาวร”
“ไม่ได้ติดใจ แต่ชอบฝีมือการนวด งั้นเราไปนวดร้านปกติก็ได้”
“เห็นมะ พูดให้กูหึงอีกแล้ว....”ไอ้มหาบ่นหมวดเต้ยยาวเหยียดต่อไป ส่วนผมตอนนี้พักเหนื่อยครับนวดเสร็จแล้ว จะให้ผู้หมวดนวดให้บ้างก็เกรงใจ เข้าผู้บังคับบัญชาผม
“บูม พี่มีไรจะบอก”
“จะเปิดเผยความลับใช่ไหม”
“เปล่าครับ แค่อยากบอกว่า พี่รักบูม”