ตอนที่๓๑ นมนาง
มาถึงจุดหมายนั่งพักครู่หนึ่งแล้วมากินข้าว ข้าวนี่จะไม่ได้หุงเองนะครับจะมีรถข้าวมาส่ง ส่งข้าวส่งน้ำ ตัวแทนแต่ละหมู่ไปรับมาแล้วก็แบ่งกันไปตามสัดส่วน นั่งกินข้าวหมดถุง ไม่อิ่มครับแต่ทำไงได้ ได้มาแค่นี้ต้องทนเอาเดี๋ยวเย็นๆค่อยต้มมาม่าเอาแล้วกัน
กินอิ่มพักครู่หนึ่งจนถึงตอนบ่ายจะมีจ่ามาบรรยายเกี่ยวกับสถานีนี้ว่าทำอะไร ภารกิจยังไง ฟังบรรยายเสร็จแล้วก็ฝึกจริง ฝึกเสร็จมาฟังสรุปและเดินทางกันต่อไป
“เหนื่อยไหมคนดีมีพี่เป็นแฟน ยอมรับบนความขาดแคลน”ผมร้องเพลงอย่างอารมณ์ดี
“นอกจากจะหล่อแล้วยังคารมดีอีกนะมึงไอ้ยักษ์”จ่าพูดแซวผม
“ครับจ่า หล่อแต่ไม่แซบใครเขาจะสนใจจริงไหมเพื่อนตวง สหายรัก”
“ใช่แล้ว เห็นด้วย หล่อไปวันๆไม่มีคนสนใจจะหล่อไปทำไม ต้องหล่อลากไส้ไข่ลากดิน ฮ่าๆๆๆ”
มาถึงจุดหมายก็กระจายกันออกไปตามที่ต่างๆ ที่ที่เรามาเป็นสถานที่ที่อีกก่อนหนึ่งเข้ามาพักแล้วนะครับ มีร่องรอยของการเข้ามาอยู่อาศัย จ่าไปฟังแผนจากผู้หมวดจากนั้นก็มาบอกพวกผมว่าให้อยู่ตรงไหนอะไรบ้าง การนอน การตั้งฐานจะเป็นแบบวงกลมครับกระจายกันไปตามหมู่ตามหมวด หมู่ปืนกลของผมก็อยู่ใกล้หมู่ปืนเล็กของหมวดเต้ย ไปถึงก็จัดการขุดหลุม คือการฝึกนี่จะเป็นการจำลองบรรยากาศจริงๆนะครับ เวลาเราไปรบจริงเราจะต้องทำอะไรยังไงบ้าง
“ไอ้สัส เยะแม่ ขี้คาหลุมเลยไอ้เหี้ย”ผมขุดหลุมไปก็เจอขี้เลยครับ เหี้ยเอ๊ย
“เหี้ยอะไรของมึงไอ้บอมบ์”
“ไอ้สัส แม่งจังไรว่ะ ขี้ทิ้งไว้คาหลุมเลยเหี้ยเอ๊ย”ผมพูดออมาเสียงดัง ไอ้มหาตวงเดินมาดูพร้อมกับคนอื่นๆ
“จวยเอ๊ย เหี้ยว่ะ มันไม่รู้หรือไงว่าจะมีคนมาพักต่อน่ะ”ไอ้มหาร้องออกมาอย่างเจ็บใจ
“มันแกล้งพวกเราป่าววะ”รุ่นพี่เปรยออกมา
“โคตรเหี้ยเลยว่ะ”
“ขุดหลุมใหม่เลย เดี๋ยวจ่าไปบอกหัวหน้าสถานีเอง แล้วพวกเอ็งทุกคน เวลาจะขี้จะเยี่ยวช่วยไปไกลๆด้วย ห้ามขี้เยี่ยวในหลุมเพราะจะมีหน่วยอื่นเข้ามาพักต่อจากเรา รักษาวินัยด้วย”จ่าบอกพวกผมผมจึงย้ายแล้วไปขุดหลุมใหม่ดีนะที่ดินไม่ค่อยแข็งเท่าไหร่ขุดจนลึกพอสมควร
ขุดหลุมเสร็จกางเต้นด้านบนหาอะไรมาพราง พวกกิ่งไม้ใบไม้เอามาพรางเพื่อไม่ให้ข้าศึกรู้ว่าเราตั้งฐานอยู่ตรงนี้ นั่งพักให้หายเหนื่อยครู่ใหญ่กรรมการก็มา สัญญาณที่บ่งบอกว่ากรรมการคือก็คือคำว่า ลมแรง พอได้ยินคำนี้ปุ๊บทุกคนต้องลงหลุมอยู่ในท่าเตรียมพร้อมจะตรวจสอบ นั่งๆนอนๆอยู่ในหลุมพักใหญ่จนฟ้ามืดแล้วกรรมการจึงออกไป จากนั้นก็รอรถข้าวมาส่ง
กว่ารถข้าวจะมาส่งก็รอแล้วรออีกจนทุ่มกว่าๆจึงมาถึง เราส่งตัวแทนไปรับข้าวรับน้ำ น้ำนี่สำคัญมากนะครับต้องกรอกใส่กระติกเอาไว้ให้เต็มเสมอ นอกจากกระติกน้ำที่อยู่ข้างเอวแล้ว จ่ายังให้พวกผมเอาขวดลิตรมาด้วยเพื่อที่จะสำรองน้ำเอาไว้ ทุกคนจะมาขวดลิตรในเป้คนละขวด ใครใคร่กรอกก็กรอกไว้ ใครไม่อยากกรอกก็เรื่องของมันแต่ถ้าน้ำหมดแล้วมาขอคนอื่นนี่ก็เฮเหมือนกัน
“ตอนนี้ข้าศึกอยู่ทาง ๙ นาฬิกา ใครจะโจมตีก็ให้ทำเวลา”เสียงวิทยุดังขึ้นแจ้งให้แต่ละหมู่ทราบ ข้าศึกที่พูดนี่หมายถึงรถพีเอ็กซ์ที่มาขายของนะครับ การพูดเราต้องพูดเป็นรหัสให้ตีความหมาย
“ใครจะไปซื้อก็ดูลมด้วย ช่วงนี้ปลอดภัย รีบไปรีบกลับ”จ่าพูด
“ไปหาอะไรกินกันไหม”เพื่อนในหมู่เอ่ยขึ้น
“ไปดิ”ผมพยักหน้าจากนั้นปฏิบัติการพิเศษจึงเริ่มขึ้น รุ่นพี่เดินนำไปก่อนเพราะยังไงเขาเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการหลบหลีกเส้นทาง เดินอ้อมลัดเลาะไปจนถึงรถพีเอ็กซ์ ไฟจากหลอดไส้ออกสีส้มสลัว แม่ค้ายืนบนรถและมีทหารคอยมาซื้อกันหลายคน ไปถึงก็หยิบๆ ฮ่าๆ แอบมองนมแม่ค้าด้วย ยังสาวยังสวยอยู่เลยเหมือนที่จ่าบอกนั่นแหละครับว่า ขาว สวย หมวย อึ๋ม ซื้อของเสร็จแล้วก็กลับมาที่ฐานด้วยความรวดเร็ว
“เป็นไงบ้างแม่ค้าสวยไหม”จ่าถามพวกผม
“ยังงี้เลยครับจ่า นมเป็นนม”ผมยกนิ้วหัวแม่โป้งขึ้น แจกของที่เพื่อนๆสั่งซื้อเสร็จถือขวดน้ำอัดลมกับขนมอีกหลายชิ้นเดินไปที่ บก.หมวด
“มีอะไรไอ้ยักษ์”พี่โอ้ซึ่งเป็นเด็ก บก.หมวดถามขึ้นเมื่อเห็นผมเดินด้อมๆมองๆมาทางนี้
“ผู้หมวดไปไหนอ่ะพี่”เรียกพี่ทั้งที่อายุเขาเพิ่งจะ ๒๒ ละมั้ง แต่อย่างว่าเรามาหลังเราเป็นน้อง ผมยอมก็ได้ ฮ่าๆๆๆ หน้าผมยังเด็กเลยไม่เถียงดีกว่า
“อยู่นู้น”พี่เขาชี้ไปที่มืด ผมพยักหน้าแล้วเดินไปหาผู้หมวด ผู้หมวดนั่งบนเปลสบายๆ ไม่มีแสงไฟพอมองเห็นรางๆ
“มีอะไร”ผู้หมวดถามเมื่อผมเดินเข้าไปใกล้
“เอาขนมมาฝากครับ ผู้หมวดกินอะไรยัง”
“อืม ขอบใจว่าจะให้ไอ้โอ้ออกไปซื้อพอดี”
“ไม่นอนพักผ่อนล่ะ มีเวลาก็รีบพักผ่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ต้องฝึกหนักอีก”
“ครับ ก็ผมอยากมาเห็นกำลังใจของผมนี่ครับ งั้นผมไปแล้วนะครับ รักบูมนะ”พูดเบาๆ เสียงดังไม่ได้คนอื่นได้ยินเขาจะมองผู้หมวดแปลกๆ ผู้หมวดพยักหน้าแล้วผมก็เดินกลับที่พักของผม
หาที่ผูกเปลได้จัดการเกี่ยวกับที่หลับที่นอนของตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้วถอดคอมแบทกับถุงเท้าผึ่งลมไว้ด้านล่าง เสื้อผ้าสายเก่งก็แขวนไว้ใกล้ๆหัว เริ่มปวดๆตามน่อง แต่ไม่เป็นไร เราเป็นทหาร ต้องอดทน บ่นได้แต่อย่าให้คนอื่นได้ยิน ฮ่าๆๆๆ
ตี ๔ เราต้องลุกขึ้นมาวันนี้จะมีการฝึกตั้งแต่ ๖ โมงเช้า ตื่นมาเก็บเปลเก็บเต๊นท์เรียบร้อย ใส่คอมแบทเตรียมพร้อม ตี ๕ รถข้าวมาส่งเราต้องกินแต่เช้ามืด ยังไม่หิวแต่ต้องกิน กินเสร็จทำลายหลักฐานจากนั้นก็แบกเป้แบกปืนไปรวมตัวที่ บก. หมวด
เช้านี้เราจะทำการฝึกการเข้าตีนในเวลากลางวันครับ ผู้หมวดได้ชี้แจงให้ผู้หมู่แต่ละหมู่ทราบแล้วว่าจะต้องทำอะไร นั่งอยู่ครู่ใหญ่จนกรรมการมาถึงครับ
“เฮ้ย/เฮ้ย”ผมกับไอ้แบงค์ร้องออกมาเสียงดังด้วยความตกใจ ยังจำคนชื่อแบงค์ได้ไหมครับพี่ชายของหมวดบูมน่ะ ผมไม่คิดว่ามันจะมาด้วย ตอนนี้ทุกคนมองมาที่ผมแบบแปลกๆ
“มึงมาด้วยเหรอไอ้บอมบ์”หมวดแบงค์หรือไอ้เหี้ยแบงค์มันถามผม
“เออ เอ่อ ครับ มาครับ”เกือบหลุดปากพูดอย่างอื่นไปแล้วครับ ดีนะที่ตั้งสติทัน
“ครับเคริบเหี้ยไรล่ะ เหี้ยคนกันเอง”หมวดแบงค์เดินมาใกล้ๆผม ผมก็ลุกขึ้นยืน
“ไอ้เหี้ย ตอนนี้มึงร้อยโท กูแค่พลทหาร มึงจะมากันเองกับกูไม่ได้ แบบนี้คนอื่นเขามองกูไม่ดีดิวะ”ผมกระซิบเบาๆ พูดเสร็จก็วันทยาหัตถ์ ไอ้แบงค์พยักหน้าแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย “มึงแกล้งกู น้องมึงน่วมแน่”ผมพูดเสียงเบาอีกทีจากนั้นจึงนั่งลง
“มีอะไรเหรอแบงค์”ผู้กองที่เป็นหัวหน้าสถานีถามไอ้หมวดแบงค์
“อ๋อ คนรู้จักอ่ะพี่”หมวดแบงค์พูด ผมว่าคนนี้ก็คุ้นๆเหมือนเคยไปกินเหล้าด้วยกัน
“เหี้ยบอมบ์ป่าววะ”ผู้กองคนนั้นเดินมาหาผม “อ้าว ไอ้สัส พรางหน้าซะกูไม่รู้จัก กูว่าแล้วแม่งคุ้นๆ เฮ้ย ไปไงมาไงถึงได้มาเป็นทหารวะ”
“จับได้ใบแดงครับ”ผมยืนตรงพูดรักษาระยะห่างระหว่างคุณวุฒิ เขาร้อยเอก กูแค่พลทหาร
“อ๋อ อืม เพิ่งจะรู้นะเนี่ย โห แล้วนี่มึงไม่คิดจะบอกกูสักคำเลยนะว่ามาเป็นทหาร ไอ้สัส แล้วอยู่หมวดเดียวกับไอ้บูมเหรอ”
“ครับ”
“อืมๆ โอเค ฝึกเสร็จเดี๋ยวเรามาคุยกันนอกรอบ ไม่เจอกันนาน พอเจออีกทีกลายเป็นพลทหารไปซะแล้ว อ่ะ ขอสวัสดีทุกๆคนนะ ผู้กองเป็นหัวสถานีที่จะทำการฝึกในเช้านี้”ผู้กองเดินไปย่านกลางแล้วพูด จากนั้นก็อธิบายถึงการฝึกที่จะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
เช้านี้จะเป็นการฝึกเข้าตีในเวลากลางวัน ก่อนจะทำการเข้าตีจริงๆก็จะเป็นการซ้อมก่อนครับ พื้นที่สำหรับการซ้อมก็จะเป็นพื้นที่ละแวกนั้น เราจะเดินเข้าตีในรูปแบบยังไง จะเข้าซุ่มยังไง พอซ้อมเสร็จแล้วจึงทำการฝึกไปยังสถานที่จริง แบกปืนเดินเป็นแถวตอนตามข้างทาง เดินไปกรรมการก็จะจุดประทัด พวกเราต้องหลบเข้าไปในป่ามันป่าอ้อย
บุกป่าฝ่าดงเข้าไปจนถึงตีนเขา จากแถวตอนเรียง ๑ ก็เริ่มปรับเป็นหน้ากระดานตามหลักยุทธวิธี ข้าศึกที่เราต้องเข้าโจมตีอยู่ด้านหน้าครับ ตอนนี้เราอยู่ห่างจากตีนเขาพอสมควร พอปรับหน้ากระดานได้แล้วจากนั้นแต่ละหมู่ก็ฟังสัญญาณจากผู้หมวด ต้องค่อยๆซุ่มไปแบบเงียบๆไม่ให้ข้าศึกรู้ว่าพวกเราจะมาเข้าตี
เราค่อยๆคืบคลานเข้าไปเรื่อยๆ ปืนกลหนักก็หนัก แล้วยิ่งต้องค่อยๆย่องค่อยๆเดิน ถ้าไม่แข็งแรงจริงๆนี่ปืนทับคอคายห่าแน่เลย พอถึงระยะที่สมควรผู้หมวดเป่านกหวีดดังขึ้นเป็นสัญญาณยาว จากนั้นทุกคนก็สาดกระสุนเข้าหาข้าศึก
“ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”กระสุนเปล่าที่ออกจากปาก ฮ่าๆๆ ไม่มีกระสุนจริงนะครับเพราะว่าบนเขาเนี่ยจะมีคนอยู่ซึ่งเป็นทหารนี่แหละครับ แต่เขาสมมติตนว่าเป็นข้าศึก ยิงจริงไม่ได้เลยต้องยิงปากเปล่า เปิดฉากโจมตีได้เราจึงวิ่งเข้าไปในระยะประชิด สมมติเอาว่าตอนนี้ข้าศึกมันร่นถอยไปด้านหลัง แต่ละหมู่ฟังคำสั่งของผู้หมวดเสร็จแล้วต่างรุกหน้าเข้าไปโอบล้อมเขา
“ปังๆๆๆๆๆๆ”เหนื่อยครับถือปืนกลแล้ววิ่งขึ้นภูเขา
“ไอ้สัส รอกูด้วย”รุ่นพี่พูดพลางวิ่งมาตามด้านหลัง
“ปังๆๆๆๆๆๆ”พวกผมตอนนี้อยู่แถวตีนเขาครับตั้งปืนยิงไปด้านบนเขา ส่วนหมู่อื่นๆตอนนี้วิ่งขึ้นเนินเขาไปเรียบร้อยแล้ว
ยิงด้วยปากเปล่าอยู่พักใหญ่จนตอนนี้มีคนจับข้าศึกได้แล้วอีกครู่หนึ่งสัญญาณหยุดยิงดังขึ้น แต่ละหมู่จึงทำการขุดหลุมทำที่มั่นใหม่ การขุมหลุมก็ไม่ได้ขุดจริงครับ เพราะพื้นที่ตรงนี้เป็นหิน แต่เราหลอกกรรมการด้วยการเอาพลั่วมาเคาะกับหินให้เกิดเสียงว่าตอนนี้เรากำลังขุดอยู่ ขุดครู่หนึ่งกรรมการจึงบอกให้หยุดจากนั้นก็ลงมาด้านล่าง
เขาที่เรามาเข้าตีเนี่ยเป็นเขาชื่อว่า เขานมนาง เห็นเพื่อนมันบอกว่าจะมีจอมปลวกอยู่ด้านบนครับเหมือนกับหัวนม เขาลูกนี้มองไกลๆก็เหมือนนมจริงๆนะครับ เพราะจะมีเขาสองลูกขนาดเท่าๆกันตั้งตระหง่าน
“กูพิชิตเขานมนางได้แล้วเว้ย”เสียงใครบางคนพูด ส่วนพวกผมอยู่ตีนเขาไม่ได้ขึ้นไปเลยไม่รู้ว่านมนางมันเป็นยังไง เออ เย็นนี้ดูนมแม่ค้าก็ได้ครับ ฮ่าๆๆๆๆ บึ้มกว่า อวบกว่า ขาวกว่า
“เหนื่อยสัส กูวิ่งขึ้นไปได้ไงวะ ปืนแม่งตั้ง ๗ โลกว่า”อีกคนพอมันลงมาด้านล่างได้แล้วมันก็บ่น ลงมาที่ตีนเขาเราพักอยู่ประมาณ ๕ นาที จากนั้นก็ย้ายที่ครับเพราะว่าหมวดของหมวดเต้ยจะมาทำการเข้าตีต่อจากพวกผม พวกผมต้องรีบเดินออกไปห่างๆไม่งั้นจะทำลายระบบการฝึกของเขา
“เป็นไง เขานมนาง สวยไหม”จ่าที่เป็นรองหมวดเอ่ยถามพวกผมระหว่างทางเดินกลับ
“สวยครับจ่า แต่สู้นมแม่ค้าไม่ได้หรอก ขาว อวบ คิดแล้วเสียว”ผมพูดขำๆ แต่ผู้หมวดมองหน้าผมขวับทันทีเลยครับ
“ทำอะไรก็คิดถึงหน้าลูกหน้าเมียหน่อยเว้ย”ผู้หมวดพูดขึ้นมาลอยๆ ฮ่าๆๆ เมียจ๋าเขาล้อเล่นนะ อยากเข้าไปจูบใจจะขาดแต่ติดที่ว่าตอนนี้พี่ไม่ได้แปรงฟัน
“ครับผู้หมวด”ผมยิ้มหน้าบาน
เดินจากเขานมนางมายังที่เรานอนพักเมื่อคืนระยะทางไกลมากเหมือนกัน มาถึงก็มานั่งคอยครับ พวกกรรมการยังไม่มานะครับเพราะต้องคอยตรวจสอบหมวดของหมวดเต้ย นั่งพักผ่อนกันพักใหญ่ไปเติมน้ำเก็บข้าวของ ครู่หนึ่งหมวดของหมวดเต้ยก็เดินกลับมาด้วยสีหน้าที่เหนื่อยล้าไม่ต่างจากพวกผมเมื่อครู่ พักกินน้ำกินท่า กรรมการยืนคุยกันอยู่พักหนึ่งจากนั้นกรรมการจึงมายืนหน้าแถวแล้วสรุปการฝึกรวมทั้งชี้แจงข้อผิดพลาดให้ฟัง
สรุปเสร็จแล้ว กรรมการก็เรียกผู้หมวดทั้ง ๒ คนไปชี้แจงอีกครั้งว่าต้องมีรายละเอียดยังไง พอคุยเสร็จ ไอ้แบงค์ก็เดินมาหาผม
“ไงมึง เป็นทหารน่ะเหนื่อยไหมวะ”หน้าระรื่นมาเชียวไอ้สัส
“ผมเหนื่อยก็เหนื่อยแค่ ๒ ปี ไม่ได้เหนื่อยตลอดชีวิตเหมือนผู้หมวดนี่ครับ”
“ไอ้สัส กวนตีน ฮ่าๆๆ”ไอ้แบงค์หัวเราะ
“๑๐ ดิ สัส”ผู้กองโจ้หัวหน้าสถานีสั่งผม ผมทำท่าจะวิดพื้น “เฮ้ยๆ กูล้อเล่น ทนๆหน่อยเว้ย เป็นทหารก็งี้แหละ ไม่ฝึกก็ทำงาน ไม่ทำงานก็ฝึก”
“แบงค์ ไปดูน้องมึงบ้างนะ เห็นหน้าตาไม่ค่อยดีตั้งแต่ลงจากเขาแล้ว”ผมพูดเบาๆกับไอ้แบงค์
“เฮ้ย กูไม่ได้แกล้งมันนะเว้ย กูทำตามแบบฝึกทุกอย่าง เออ เดี๋ยวกูไปดูมันแปบ”ไอ้แบงค์เดินไปหาหมวดบูม ส่วนผมยืนคุยกับผู้กองโจ้อยู่พักหนึ่งจึงมารวมตัวกับคนอื่นๆ
“มึงรู้จักกับผู้กองโจ้ด้วยเหรอ”จ่าซึ่งเป็นรองหมวดถามผมด้วยความสงสัย
“นิดหน่อยครับจ่า”
“แล้วหมวดแบงค์ล่ะ ดูท่ามึงจะสนิทกันกับหมวดแบงค์มากเลยนะ”
“อ๋อ คือยังไงดีอ่ะครับ เอ่อ เราเคยไปกินเหล้าด้วยกันครับจ่า เมื่อนานมาแล้วเลยสนิทกันครับ”จากนั้นผมก็ไม่พูดความยาวสาวความยืด ข้าวมาถึงก็ตั้งวง ลับตากรรมการแล้วก็ออกไปหาของกิน รถพีเอ็กซ์มาจอดไม่ไกลจากที่ผมพักเท่าไหร่ ปลอดกรรมการพวกเราก็ไปโจมตีทันที
“ส้มตำ ยำมาม่ากับน้ำตกครับ”ผมสั่ง ตอนนี้แม่ค้ากำลังตำส้มตำให้ลูกค้ารายอื่นอยู่ ใส่เสื้อกล้ามอวดความขาว แอบมองอยู่นิดหน่อยไม่กล้ามองมากกลัวเสียมารยาท อีกอย่างกลัวผู้หมวดด่าครับ
“หล่อแบบนี้พี่ตำให้ฟรีเอาไหม”แม่ค้าหันมายิ้มให้ผม ผมได้แต่ยิ้มแห้งๆ “ว่าไงคะ”
“เอาเลยไอ้บอมบ์ มีค้าใจดีแบบนี้มึงหาไม่ได้อีกแล้วนะ”เพื่อนร่วมหมวดเอ่ยขึ้น
“เกรงใจอ่ะครับ”
“ไม่เป็นไร พี่ให้ฟรี แค่แลกกับเบอร์โทรของสุดหล่อก็พอ”เอาไงดี ของฟรีก็น่าสนใจนะครับ แต่กลัวที่รักด่า
“ไม่เป็นไรครับ เมียหวงอ่ะ”ผมยิ้มให้แล้วรอแม่ค้าตำส้มตำต่อไป
“พี่แถมให้ค่ะ”นอกจากอาหารที่ผมสั่งไปแล้วแม่ค้ายังแถมแคปหมูให้ผมอีกถุงใหญ่ ไม่รับก็เกรงใจเขาให้กับมือแล้ว ได้แต่ยิ้มขอบคุณแล้วเดินกลับมานั่งตั้งวงกินข้าวร่วมกับคนอื่นๆ
“มาไม่กี่วันแม่ค้าถึงกับจะให้กินของฟรีเลยนะมึง”จ่าพูดแซวผม
“คนมันหล่ออ่ะครับจ่า ฮ่าๆๆๆ”พูดแล้วขำตัวเอง
“แล้วมึงไม่กินฟรีวะ ไอ้นี่ ฟอร์มจัดชิบหาย”รุ่นพี่ถามผม
“เขาแลกเบอร์โทรอ่ะพี่ ผมไม่อยากเสี่ยงกับเมีย เมียผมโหด”
“ถุย ไอ้สัส กลัวเมีย จะกลัวทำไมวะ เมียก็อยู่ส่วนเมียไปดิ ตอนนี้เมียไม่ได้อยู่กับเราก็เท่ากับว่าเราโสด”รุ่นพี่คนนั้นพูดต่อ เอ่อ แต่กูอยากบอกว่า เมียกูก็ออกมาฝึกด้วยนะ และเมียกูก็มีอำนาจสั่งกูขังคุกได้ด้วย ไม่อยากลองดีกับบารมีของเมีย ฮ่าๆๆๆ
“หึหึ ไม่กล้าอ่ะพี่ จริงไหมมหา เกิดกลับเมียเมียก้านคอขึ้นมานี่ตายห่าพอดี”
“แต่กูว่ามันก็น่าลองนะ แบบว่าเล่นๆน่ะ”ไอ้มหาทำท่าคิดวิเคราะห์แยกแยะ จวยเหอะไอ้สัส
“มึงเพิ่งสึกมานะมหา กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณีสิกขา ปะทัง สะมาทิยามิ”เป็นไง มหาบอมบ์ขึ้นเทศน์บ้าง
“เออว่ะ เมียใครใครก็รัก เกิดเมียเราไปสะดุดจวยคนอื่นเราคงไม่ปลื้มเหมือนกัน งั้นเราก็ต้องไม่ให้หอยใครมาสะดุดจวยเรา เราก็จะไม่ไปสะดุดทับเมียคนอื่น กูว่าเรามาตั้งลัทธิบูชาเมียกันดีไหม”
“ประเสริฐมากไอ้สัส เมียนะไม่ใช่เทพเจ้า รักได้แต่อย่าบูชา แค่นี้กูก็คิดว่ามันเป็นพระมารดาอันศักดิ์สิทธิ์จากสรวงสวรรค์แล้วว่ะ”จ่าพูดขึ้นมา
“รักเมียต้องให้เมีย ไม่งั้นเมียจะเสียใจ รักเมียต้องอ่อนไหว เมียว่าไงต้องว่าตาม
รักเมียต้องเคารพ ต้องประจบห้ามลามปาม รักเมียต้องคล้อยตาม ไม่วู่วามเอาแต่ใจ
รักเมียต้องอดทน เมียเป็นคนไม่ง้อใคร รักเมียต้องทำใจ ใช่เมียใครก็เมียเรา
รักเมียต้องรวยรวย เดี๋ยวจะซวยเมียไม่เอา รักเมียต้องคอยเฝ้า เฝ้าเมียเราพียงคนเดียว
รักเมียต้องฝึกฝน เมียเป็นคนชอบของใหม่ รักเมียต้องเอาใจ เมียซื้ออะไรอย่าห้ามปราม
รักเมียต้องแข็งแรงห้ามสาปแช่งให้เมียตาย รักเมียต้องคล้อยตามไม่ซักถามให้กวนใจ
รักเมียต้องกล้าเสีย แค่บอกเมียไม่เป็นไร รักเมียต้องสนใจ เมียเป็นไงต้องคอยดู
รักเมียต้องพูดง่าย ไม่โวยวายไม่ลบหลู่ รักเมียต้องเฝ้าดู เดี๋ยวชายชู้จะเอาไป
รักเมียต้องเชื่อฟัง เมียเสียงดังต้องทนได้ รักเมียต้องรู้ใจ เมียอยากได้ต้องหามา
รักเมียต้องใจเย็น เมียนั้นเป็นเช่นนางฟ้า รักเมียต้องบูชา เมียดีมีค่ากว่าสิ่งใด
รักเมียต้องรักเดียว อย่าไปเที่ยวรักเมียใคร รักเมียต้องมั่นใจ เมียของใครก็ของมัน
รักเมียต้องแน่วแน่ ต้องรักแท้เมียของฉัน รักเมียต้องยึดมั่น ทุกข้อนั้นสำคัญเอย”