{CH39 หัวใจดวงเก่าของเด็กอ้วน}
“ผมอิ่มแล้ว พี่ใหญ่ ผมบอกว่า …ฮึ่ม!”
ผมเริ่มบ่นเพราะพี่ใหญ่ทำท่าจะเรียกพนักงานมาสั่งอาหารเพิ่มจนคนตัวใหญ่ชะงัก แต่ก็ดูจะไม่สนใจผม เรียกพนักงานมาสั่งของมาเพิ่มอีกชุดใหญ่ๆ โดยมีผมนั่งย่นหน้ามองเขาอย่างหมั่นไส้ เรื่องแกล้ง เรื่องขุน เรื่องกวนหน้าตาเฉย นี้ขอให้บอกเสือร้ายเถอะรายนี้ถนัดนักแหละ
หลังจากที่เหตุการณ์สงบมาได้สักพักใหญ่ ผมก็กลับไปอยู่บ้านพี่ใหญ่ หนีปัญหาทุกอย่าง ดูแลพ่อช่วยพ่อทำงานสวน หยิบเล็กหยิบน้อยช่วยเท่าที่ช่วยได้ ตัวเล็กเองก็ชอบที่ผมกลับไปอยู่ที่บ้าน ไม่ต่างจากเจ้าวัวและเนียร์ที่มักจะเข้ามาเล่นใกล้ๆผมและทำทุกอย่างรอบตัวพักพินาศ จนเป็นภาระผมต้องคอยเก็บต่างจากโทนี่ที่เป็นแมวรักษามาด ราศีเจ้าป่าอบอวนไปหมดบางทีก็
หมั่นไส้นะ ทำตัวไม่สมกับเป็นแมวเลย แต่ก็เอาเถอะ
ผมได้มีเวลาให้กับคนรอบข้างผมโดยทิ้งเรื่องกลุ้มใจไว้ข้างหลังซะบ้าง เห็นอย่างงี้เวลาอยู่ที่บ้าน ผมกับพี่ใหญ่นอนแยกห้องกันนะครับ ถึงแม้ตัวเล็กจะคัดค้านก็เถอะ แต่ผมแกล้งใจพ่อ แล้วก็คุณแม่พี่ใหญ่ รวมถึงทุกคนในบ้านด้วย เรื่องแบบนี้ถึงเค้าจะบอกว่ารับได้กัน แต่ลึกๆแล้วก็คงทำใจยากนะผมว่า มันต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป รักกันแต่อยู่ในขอบเขตดีกว่า
พี่ใหญ่ก็ไม่คิดมากแต่มีบ้างที่เขาแอบย่องเข้ามาตอนดึก ตื่นขึ้นมาผมตกใจแทบช็อกที่มีคนตัวใหญ่มานอนอยู่ข้างๆ … แต่ทุกอย่างมันกลับอบอุ่นและมีความสุขกับเวลาไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมา … และพรุ่งนี้ทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติ คือผมเปิดเทอมขึ้นปีสอง และพี่ใหญ่เองก็ฝึกงานเสร็จกลับมาเรียนปีสี่ ก่อนจะจบ ผม ตัวเล็ก และพี่ใหญ่ เลยต้องกลับมาอยู่หอ โดยไม่ลืมที่จะให้พ่อดูแลตัวเองและกราบลาคุณหญิงจูบเหม่งเจ้าหมาแมวทั้งหลายและสัญญาว่าจะหาเวลากลับมาเยี่ยมบ่อยๆ
ทันทีที่ออกจากบ้านตัวเล็กขอแยกไปเพราะนัดเสาร์เอาไว้ ซึ่งโดนพี่ใหญ่เขม็งไปตามระเบียบ แต่เค้าไม่ค่อยห่วงน้องเท่าไหร่เพราะตัวเล็กดูแลตัวเองได้ แต่กับผมนี้ไม่ได้เลยนะ ขยับตัวหน่อยเดียวก็โดนดุแล้ว เฮ้อ ทั้งๆที่ผมออกจะขี้เหร่ขนาดนี้เค้ายังจะเป็นห่วงอีกแต่ผมก็ชินแล้วละ เพราะผมเองก็มีความสุขดี และเข้าใจดีว่านิสัยพี่ใหญ่เป็นยังไง … หวังว่า พี่กาจพลจะเลิกยุ่งกับผมแล้วนะ ผมไม่อยากให้เกิดปัญหาต่อจากนี้เลย … ความรู้สึกของผมยังไงมันก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว เพราะตอนนี้ … ผมมีพี่ใหญ่ที่ผมรักและรักผมแล้ว
“มีอะไรที่ไม่ได้บอกกันไหม”
“ทะ ทะ ทำไมถามผมแบบนี้ละ” ผมที่กำลังคีบผักไปวางในจานเขาที่นั่งกินแต่เนื้อมาตลอด ชะงัก ปากคอสั่น หน้าของพี่กาจพลตอนร้องเพลงและตอนหอมแก้มผม พุ่งจู่โจมเข้ามาในสมอง จนรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งหน้า
“ก็เวลาหน้าตาแบบนี้ทีไร ต้องมีเรื่องที่ไม่ได้บอกทุกที” เขายักไหล่และคีบปลาดิบเข้าปากอย่างไม่สนใจผมมากนัก ก่อนจะคีบผักที่ผมใส่จานเขาตามไป
ผมค่อยๆหดมือเข้ามาและเอาตะเกียบมาอมไว้ในปาก รู้สึกผิดอยู่สักพักก็ถูกพี่ใหญ่เรียกเตือนสติ แต่มันไม่ได้ด้วยเสียงนุ่มนวลอย่างที่คิดกันหรอกนะ คืนนี้ผมค่อยบอกพี่ใหญ่แล้วกัน ดีกว่าพี่ใหญ่มารู้ที่หลังและผมจะโดนเชือดอีก พี่ใหญ่ยิ่งฉลาดอยู่ด้วย อย่างน้อยเค้าเป็นเพื่อนกัน คงจะคุยกันได้แหละเนอะ บางที พี่กาจพลอาจจะไม่รู้ว่าผมเป็นแฟนกันพี่ใหญ่ก็ได้ เลยทำแบบนั้นลงไป ถ้าเขารู้ บางทีอาจจะไม่ทำแบบนี้ และผ่านมานานขนาดนี้แล้ว เค้าคงไม่ได้จริงจังอะไรกับผมหรอก
.
.
.
ผมนั่งกอดหมอนเท้าคางมองพี่ใหญ่กับนายเสาร์ปากหมาที่นั่งกินเหล้ากับพี่โย่งที่เมาแล้วร้องไห้อยู่บนพื้นที่วางของห้อง … เฮ้อ พี่โย่งจะมาอกหักวันที่ผมจะสารภาพผิดทำไมนะ แล้วดูร้องไห้สิ น่าสงสารจนกลายเป็นน่าขำเลยขี้มูขน้ำหูน้ำตาไหลหมดสภาพที่โย่งจอมโหดที่ว๊ากน้องเป็นบ้าเป็นหลังจนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างเสาร์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปได้เป็นหมื่นรูปแล้วมั้ง
“กูแม่งไม่เข้าใจ ผู้หญิง พอกูง้อก็บอกกูไม่จริงใจ พอกูไม่ง้อแม่งก็ไปมีคนคนอื่น เหี้ยยยยยยยยยยยยย สรุปแล้ว ฮึก ฮึก แม่งเอ้ย !”
เคร้ง! โครม! ผั๊วะ!!!!
“โอ้ย ไอ้ห่าใหญ่ ถีบกูหาพ่อวววววว ยะ อย่า อย่าถีบกูเลยกูเสียใจอยู่”
ผมกลั้นหัวเราะ เมื่อพี่โย่งฟูมฟายถีบกระติกน้ำแข็งจนล้มระเนระนาด เลยถูกพี่ใหญ่ถีบคืนดังผลั๊กเต็มหลัง พอจะหันไปหาเรื่องก็โดนตีใหญ่ง้างหมัดใส่เลยต้องสงบเสงี่ยมนั่งกินเหล้าเคล้าน้ำตาเงียบๆอยู่ท่ามกลางวงเหล้าที่มีตัวเล็กหัวเสียเพราะตัวเองต้องเป็นคนเก็บซากน้ำแข็งที่พี่โย่งทำหก ผมอดสงสารตัวเล็กที่คลานอยู่ที่พื้นไม่ได้ เลยต้องลงไปช่วยกันเก็บ พอเข้าใกล้พี่ใหญ่เข้าหน่อย ก็ถูกคว้าเอาตัวไปนั่งข้างๆ … หัวผมเกือบทิ่มเลยนะคนบ้า!
“ปล่อยผม อายเพื่อน” ผมกระซิบบอกเบาๆตีที่แขนแกร่งที่โอบรอบเอวผมอยู่ เอาใหญ่แล้วนะ ดูดิทุกคนมองอยู่ก็ไม่สนใจ ฮืออออ ตัวเล็กถ่ายรูปไปแล้วด้วย อีกสักพักต้องสะพรึงคนใน ไอจีกับเฟชบุ๊กแน่ๆ งั้น … คืนนี้ผมจะงดสื่อออนไลน์ทุกชนิด ไม่งั้นผมต้องเขินจนนอนไม่หลับชัวร์!
“นั่งเฉยๆ” พี่ใหญ่กระซิบข้างหู จนผมต้องย่นคอหนีลมหายใจ แกล้งกันชัดๆ !!!!
“น้องปังนี้ดีเนอะ” พี่โย่งพูดเสียงอ้อแอ้ มองผมสลับกับพี่ใหญ่ ตางี้เยิ้มเพราะเหล้าโดยแท้ พี่ใหญ่เลยได้ใจหนัก คว้าผมไปหอมแก้มฟอดใหญ่อะ เอาให้พี่โยงกระอักเลือดเพราะอิจฉาไปเลยไหมครับคุณแฟนที่เคารพ
“อ๊ากกกกกกกกกกกก เล็กฟินนนนนนนนนนนนนนน”
“เบาๆ เดี๋ยวก็เหล้าหกเลอะเทอะ” เสาร์หัวเราะไปโดนตัวเล็กกอดคอเขย่าตัวถ่ายรูปผมไปพร้อมๆกัน มือก็ประคองเหล้าปานดวงใจอีกดวง อยากรู้จริงๆระหว่างตัวเล็กกับเหล้าเนี้ยไอ้หมาเสาร์เลือกอะไร ดูและเดาไม่ออกจริงๆ
“โอ้ยยยยยยยย กูอิจฉา จะรักห่าเหวอะไรกันวะ ผู้ชายด้วยกันเนี้ย!!!! แต่ก็นะ น้องเล็กก็น่ารัก น้องปังก็เต็มไม้เต็มมือ … กูมีเมียเป็นผู้ชายบ้างดีกว่าเผื่อแม่งจะไม่งี่เง่าบ้าง!!!”
“โอ้ย คิดผิดแล้วพี่ ไอ้ห่าเนี้ยนะไม่งี่เง่า แม่งงี่เง่าเต่าตุ่นควายเผือกมาก โอ้ย กัดกูอีกแล้ว ไอ้แมวผี!!!”
“เดี๋ยวกูจะถีบด้วย ออกหน้าออกตา”ผมหัวเราะออกมาคิก เมื่อพี่ใหญ่ขู่ฟ่อใหญ่ จนเสาร์กับตัวเล็กต้องผละออกห่างจากกัน ตอนนี้เล็กกับเสาร์เปิดตัวแล้วว่าเป็นแฟนกัน แต่ออกหน้าออกตามากไม่ได้ เพราะพี่ใหญ่ไม่ชอบ… แต่ตัวเองทำได้
“ปล่อยผมก่อนครับ”
“นิ่งๆ จะป่วนทำไมนักหนา”
“ผมเปล่าป่วน แต่ผมอายพี่เค้า ดูพี่โย่งเขามองสิ”
ผมกระซิบเบาๆ ให้พี่ใหญ่ดูพี่โย่งที่ตอนนี้กระดกเหล้าไปมองผมกับพี่ใหญ่สลับกัน ตานี้เยิ้มเหมือนคิดอะไรอยู่ หวังว่าพี่โย่งจะไม่ไปไล่จีบผู้ชายเข้านะ ถ้าเขาไม่เล่นด้วยพี่โย่งอาจจะโดนกระทืบกลับมาตาเขียวช้ำนั่งกินเหล้าซดน้ำตาอีก ผมสงสาร คิก สงสารจริงๆนะ …
“มึงนี้นะ เมาแล้วก็ไปนอน เมียกูง่วงแล้วไอ้สัด มึงด้วยไอ้เล็กกลับห้องไปอย่าให้กูรู้ว่าเสือกเข้าห้องน้องกูนะไอ้ห่าเสาร์”
“เมียเหรอ จริงอะ ปังปังเป็นเมียพี่ใหญ่เหรอ อ๊ากกกกกกกกกก เล็กจะได้อุ้มหลานแล้ว คิกๆ ว่าแต่กี่เดือนแล้วเนี้ย” ตัวเล็กยังคงอารมณ์ดีไม่เลิก คลานเข้ามาคล่ำพุงที่ป่องออกมาหน่อยๆของผม จนผมต้องแขม่วต้องเพราะจั๊กกะจี้ หยอกแบบนี้ผมเขินนะเนี้ย …
“ยังสักหน่อย พี่ใหญ่ก็พูดอะไรออกมาแบบนั้น” ผมเถียงคอเป็นเอ็นกลบความเขินของตัวเอง เมื่อนึกถึงจูบล่าสุดในวันที่ผมออกจากงาน … มันร้อนแรงชะมัด…
“แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วย มันต้องมีอะไรแน่ๆ พี่ใหญ่!!!!!! … ทำดีมาก คิกๆ” ตัวเล็กยังไม่เลิกแกล้งผม จะหนีก็หนีไม่ได้เพราะโดนพี่ใหญ่หนีบไว้ไม่ห่าง นี้ก็ภูมิใจจังนะแหมมมมมมมมม
“ง่วงๆๆๆๆๆ หวานกันอยู่นั้นละไอ้ห่า นอนแม่งตรงนี้แหละ!” อยู่ๆคนอกหักก็โวยวายขึ้นและล้มตัวนอนที่พื้นเย็นๆทันที จนผมที่กำลังจะก้มลงไปเก็บแก้วเหล้าตกใจ เกือบทำหลุดมือ อย่าเสียงดังได้ไหม ผมยิ่งเป็นคนขวัญอ่อนอยู่ถึงตัวมันจะไม่ให้ก็เถอะนะ
“เฮ้ย กลับไปนอนห้องมึงสิวะ”
“ไม่!” ชัดเจน … สุดท้ายพี่โย่งก็นอนกรนเป็นเครื่องบดหมู นอนอยู่ข้างล่างเตียง
โดยที่ผมไม่ใจร้ายพอจะให้นอนพื้นเย็นๆ ต้องหาผ้ามาปูให้และสละผ้าห่มของผมไปให้ห่มด้วย นอกนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพี่ใหญ่จัดการพี่โย่งด้วยลำแข้ง ให้เข้าที่เข้าทาง กว่าจะจัดการได้ก็เกือบตีสอง ผมผลัดกันอาบน้ำ และก็หลับไปด้วยความเพลียกันทั้งคู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันผมอุ่นเป็นสองเท่าเพราะมีแขนของเขาให้ความอบอุ่นไปอีกชั้น โดยมีเสียงกรนของพี่โย่งเป็นเพลงกล่อม ลืมไปเลยว่าควรที่จะบอกอะไรกับพี่ใหญ่ซะก่อนที่จะถึงวันพรุ่งนี้
.
.
.
“ปังช่วยเราหน่อยนะ นะ นะ น๊า!!!!”
“อะ โอเค โอเค ไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้” คอผมย่นอัตโนมัติเมื่อน้ำเพื่อนสาวในคณะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมจนแทบชนจมูกกันเป็นการบังคับผมไปในตัวและผมก็ทนทานต่อสายตาประกายวิ้งๆกันหน้าตาน่าสงสารของน้ำไม่ได้เลยต้องจำใจรับปาก
“เย้ ขอบคุณนะ แต่งเสร็จแล้วออกมานะ น้ำรอข้างนอก”ผมยืนถือชุดคอสเพลย์หมีแพนด้าตัวใหญ่มองตามน้ำที่โบกมือให้ผมเดินเข้าไปในห้องแต่งตัว จนแล้วจนรอด ผมก็ต้องมาอยู่ในชุดร้อนๆ ใส่หัวหมีหนักๆแบบนี้จนได้ ฮือออออออ เวรกรรมอะไรของผมนะ …
วันนี้เป็นวันแรกที่รุ่นน้องปีหนึ่งที่เข้าใหม่จะเข้าฐานฟังรุ่นพี่ในคณะ เหมือนที่ผมเคยมาแล้วเมื่อปีก่อนนี้ จำได้ไหม ไอ้เด็กอ้วนดำที่เดินเข้ามาในมหาลัยสภาพเฉิ่ม ๆ มีเรื่องทะเลาะกับเสาร์ และเจอพี่ใหญ่กับตัวเล็กวันแรก หลังจากนั้นเรื่องมากมายก็ตามมา จนป่านนี้ผ่านมา หนึ่งปีแล้ว มันไวเหมือนกับเพิ่งเกิดเมื่อวานเองเนอะ เฮ้อ ตอนนี้ถึงอะไรจะเปลี่ยนไปเยอะ แต่ผมก็ไม่ได้เปลี่ยนไปสักนิด ยังคงเป็นไอ้ปังจอมเฉิ่มอยู่แบบนี้ละ ถึงแม้จะมีพี่ใหญ่ที่ไม่คาดคิดว่าจะมีก็เถอะ
พอชุดพร้อม น้ำก็ส่งกระดาษโบรชัวร์พร้อม ผมก็ทำตามหน้าที่ พอน้องเข้าคณะมา ก็แจกใบปลิวแนะนำฟรุ้งฟริ้งให้ มีน้องผู้หญิงบางคนเดินมาขอถ่ายรูปบ้าง กลายว่าคณะโหดๆไม่ต่างจากวิศวะอย่างศิลปกรรม อย่างพวกเรากลายเป็นคณะน่ารักไปเลย ยังก่อนครับน้อง ตอนน้องเข้ามาทำงานจริงๆ น้องก็จะขอบตาดำเป็นหมีแพนด้าแบบนี้แหละ อย่าวางใจไป หึหึ
“ไอ้ปัง”
ผมที่อยู่ในชุด กำลังร้อนตับหลุด ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดีดังมาจากด้านหลัง พอหันไป ไอ้หางจุกเล็กๆของชุด ก็กระแทกเข้ากับขาของพี่ใหญ่ ผมตกใจเลยก้มลงไปลูบๆคลำ จนหมวกที่ผมใส่อยู่ถูกดึงออกหน้า และก็ถูกฉุดให้ขึ้นไปยืนดีๆ พอได้มองหน้าพี่ใหญ่ชัดๆแล้วก็เห็นว่า … เค้าหล่อมากๆเลย -///- ไม่ได้เห็นเขาใส่ชุด นักศึกษามาตั้งหลายเดือนแหนะ พอมาใส่อีก ทำให้ผมนึกถึงความหลังที่เขายังโหดอยู่ … และสมัยนี้ก็ยังโหดอยู่เหมือนเดิม
“ทำไมมาเป็นหมีแพนด้าได้” มือใหญ่เช็ดตามหน้าผากที่เต็มไปด้วยเหงื่อให้ผม แต่ก็ไม่วายหยิกแก้มผมจนแดงเห่อขึ้นมาอีก ฮึ้ย!คนยิ่งร้อนๆอยู่เดี๋ยวกระโดดทับเลย!
“ก็น้ำมาขอร้องน่ะสิครับ ฮึ” ผมกอดอกหน้าหงุดหงิดและหันไปอีกทาง แต่ก็โดนเสื้อร้ายตะครุบแก้มให้หันกลับมามองหน้าเขา โอ้ย ถ้าคอหลุดได้มันคงหลุดไปแล้วละ
“เดี๋ยวโดนเตะ” ผมย่นจมูกแลบลิ้นใส่คนบ้าอำนาจจนต้องร้องโอ้ยเมื่อพี่ใหญ่ซัดตุบเข้าที่ตูดผมจริงๆ นี้แฟนนะไม่ใช่กระสอบทราย มาเตะผมแบบนี้ได้ยังไง ผมไม่ตอบอะไรอีก แต่หน้างอคอหัก คว้าเอาหัวแพนด้ามาใส่ และเดินออกมาจากคนใจร้าย มาหาตัวเล็กที่วิ่งเข้ามาพร้อมแก้วน้ำเย็นๆพอดิบพอดี ต้องแบบนี้สิ คนร้อนๆไม่เคยเอาใจกันเลย เอาแต่จะแกล้งกันอย่างเดียว เชอะๆ
“ขอโทษนะครับ รู้จักน้องปังไหมครับ” ผมชะงักจากการกินน้ำ
เมื่อได้ยินเสียงของคนที่ไม่อยากเจอมากที่สุด ตัวเล็กเองก็เหมือนกันเงยหน้ามองผม ก่อนจะเอี้ยวตัวมองไปด้านหลังของผม ส่วนตัวผมนี้แข็งทื่อเลย พี่กาจพลมาที่นี้ได้ยังไง แถมถามหาผมแบบนั้นอีก พี่ใหญ่ละ พี่ใหญ่อยู่แถวนี้เหรอเปล่า … ฮืออออออออออออออออ
“นั้นพี่คนที่ปังปังเคยชอบนี้” ผมไม่ตอบแต่ขานี้ก้าวอัตโนมัติไปอยู่ด้านหลังเต็นท์ฝ่ายสวัสดิ์การแล้วเรียบร้อย
“ปังปัง พี่เขาเดินมาตรงนี้แล้ว นี้มันเรื่องอะไรกัน มีอะไรที่ปังไม่ได้บอกเล็กไหม นี้ถอดหัวหมีมาคุยกันก่อน!” ผมยื้อหัวหมีของตัวเองเอาไว้ ไม่ยอมให้เล็กถอดออก ฮืออออออออออ อย่าแกล้งป๊างงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
“ปัง เล็กบอกให้มาคุย! อะ … เอ่อ … มีอะไรเหรอครับ” ผมกับตัวเล็กชะงัก ต่างพากันนิ่งเมื่อเห็นพี่กาจพลเดินมาชะเง้อมองเราจากทางหน้าเต็นท์ … ซะ ซวยแล้ว
“คนในชุดนี้ชื่อปังเหรอครับ ใช่น้องปังเหรอเปล่า” ผมรีบส่ายหัวไปมาทันทีเล็กเงยหน้าขึ้นมามองผม ก่อนจะถอนหายใจและพูดตอบกลับไป
“ครับ นี้ชื่อปัง แต่ไม่ใช่ปังที่พี่ถามหาหรอก เพราะหมอนี้ทั้งอ้วน ดำ สิวเขลอะ นิสัยไม่ดี ดื้อ แถมยังงี่เง่าอีกด้วย” นี้เด็กไม่ได้โกรธผมใช่ไหม … โดนทุกดอกกระแทกกระทั้นเหลือเกิน … แต่ก็หวังว่าพี่กาจพลจะเชื่อนะ
“อ่า ….ครับงั้นคงไม่ใช่ แล้วน้องเห็นน้องปังคนที่น่ารักๆบ้างไหมครับ”
“ถ้าจะมีก็มีแต่แฟนพี่ใหญ่พี่ชายเค้าเองแหละ แต่พี่อย่าไปชมแฟนพี่เค้าแบบนี้ต่อหน้าแฟนพี่เค้า พี่อาจจะโดนกระทืบได้นะครับ” ผมแอบสะกิดหลังตัวเล็กจึ๊กๆ ทันที … พูดอะไรออกไปแบบนั้น แต่ตัวเล็กก็มือไว ฟาดป๊าบเขาให้ที่แขนผม ดีนะที่ชุดหนาไม่งั้นผมว่าผมต้องเจ็บแน่ที่โดนแมวตะปบเข้าให้แบบนี้
“อ่อ นี้น้องไอ้ใหญ่เหรอ หึหึ ไม่ต้องห่วง ไอ้ใหญ่น่ะเพื่อนพี่”
“คร้าบๆ” ตัวเล็กทำเสียงกวนๆ ก่อนที่พี่กาจพลจะเดินจากไปแบบไม่ได้สนใจอะไรมากนัก … เฮ้อ ไปสักที อันตรายชะมัด
“ไปแล้ว โผล่หน้าออกมาคุยกันได้แล้ว” ผมจำใจค่อยๆถอดหัวหมีออก ก่อนจะโดนตัวเล็กหยิกแก้มจนต้องร้องเสียงหลง ฮือออออออ ทำไมมีแต่คนหยิกแก้มผมนัก!!!!!
“เล่ามาให้หมดเลย เดี๋ยวนี้เล็กต้องการจะรู้!”
“กะ กะ ก็ได้ อย่าโหดนักเลย” ผมบ่นอ้อมแอ้ม ก้มหน้า
พาตัวเล็กไปนั่งที่โต๊ะม้าหินใกล้ๆให้ตัวเล็กเบาดาเมจรังสีอำมหิตลงบ้าง พี่น้องนี้จะเหมือนกันเกินไปแล้วนะ ก่อนจะเล่าเรื่องคืนนั้นให้ตัวเล็กฟังเท่าๆที่ผมเจอมา เพราะนอกเหนือจากนั้นผมก็ยังงงๆอยู่ ไม่ว่าพี่กาจพลกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่และทำไมรอบนี้อยู่ๆเขาถึงมาจู่โจมผมนัก ….
.
.
.
“ร้าย”
“ปังไม่ได้นอกใจพี่ใหญ่นะ คะ คือตอนนั้นพี่พลเขามา หอมแก้มปังเอง”
ผมรีบแก้ตัวทันทีที่เล็กทำท่าไม่พอใจออกมาแบบนั้น ผมไม่ได้คิดจะกลับไปหาพี่กาจพลนะ ทุกอย่างมันเป็นไปแบบนี้แล้ว ผมไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ ตะ แต่ว่า พี่กาจพลดูเขาจะไม่คิดแบบนั้น เขาต้องการอะไรผมก็ไม่แน่ใจ … ผมก็เดาทางเขาไม่ถูกเหมือนๆกัน
“ไม่ได้หมายถึงปัง หมายถึงไอ้พี่พลของปัง เดี๋ยวเถอะ เดี๋ยวเล็กจะเฉดหัวมันกลับอังกฤษไปเอง หึ คิดจะมาใช้ไม้นี้เอาตัวปังไปจากพี่ใหญ่งั้นเหรอ เห็นแก่ตัว บ้าบอ หึ!!!!!”
คอหักไหม เชิดขนาดนั้น แต่ไม่แซวดีกว่าเดี๋ยวโดนตะปบอีก หลังจากที่เล่าเรื่องให้ตัวเล็กฟัง ตัวเล็กก็ให้ผมไปทำงานตามปกติ โดยกำชับว่าให้ผมหาทางบอกเรื่องนี้กับพี่ใหญ่ให้ไวที่สุด ก่อนที่พี่กาจพลจะเจอกัน เฮ้อ … มีแต่เรื่องแต่ราว แล้วนี้พี่ใหญ่อยู่ไหนละพี่กาจพลก็อยู่แถวๆนี้ด้วย อีกไม่นานคงเจอกันแน่ … งานก็ต้องทำ เรื่องยุ่งๆก็มี … เกิดเป็นปังนี้มันไม่ง่ายจริงๆ
.
.
.
-ใหญ่- หลังจากที่แกล้งไอ้หมูแดงในชุดหมีแพนด้าหน้าตาประหลาดๆเสร็จพอให้ชื่นใจ ผมก็เดินมาตรวจงานรอบคณะ ในงานครั้งนี้ ปี 4 ไม่ได้มีส่วนร่วมแต่อย่างใด เพราะหมดหน้าที่ ส่งต่อไปให้ปี 3 กับ ปี 2 รับหน้าที่ไป แต่ประธานภาคที่ยังไม่สละตำแหน่งอย่างผมก็ยังต้องคอยดูๆเตือนๆให้อยู่ในขอบเขตกันต่อไป เพราะไอ้เด็กพวกนี้เวลาเล่นมักจะเล่นกันจนเสียงานเสียการ รุ่นน้องจะไม่เคารพกันซะเปล่า แต่เอาจริงๆก็ไม่ได้อยากให้มาเคารพอะไรกันนักหนาหรอกอยากให้อยู่กันแบบพี่น้องมากกว่า เพราะเป็นภาคเล็กๆที่ทุกปีมีเด็กเข้ามาไม่เคยถึงร้อยตลอด ถึงอย่างงั้นก็ต้องยำเกรงกันบ้างอย่าให้มันเป็นหมาเลียปากอย่างไอ้ห่าเสาร์ ที่คาบน้องผมไปแดกเรียบร้อย
“ไอ้โย่งละ”
“แฮงค์อยู่ห้องกู” ผมหันไปตอบไอ้ซิ่งตาก็มองดูปี 3 รับน้องปี1 อยู่ แต่ไม่ยักเห็นไอ้หมีแพนด้าป่านนี้คงไปวิ่งเล่นอยู่ป่าไหนละมั้ง
“ไอ้ห่านี้ท่าจะเป็นหนัก เดี๋ยวกูไปดูมันหน่อยแล้วกัน เอ๊า ยืนนิ่งไอ้ห่า กุญแจห้องละ!” ผมโยนกุญแจห้องให้ไอ้ซิ่งคาบไปหาเพื่อนมันที่นอนตายอยู่ในห้องผม มาก่อกวนห้องกูคนเดียวไม่พอ ไอ้ห่าซิ่งยังจะไปสมบทอีก ดีๆ กลับไปห้องกูคงรกอย่างไม่ต้องสงสัย
“เข้าไปเจอถุงยางก็ฝากทิ้งด้วยนะมึง”
“เหี้ย!” มันตอบกลับมาก่อนจะหันหลังเดินกอดคอไปแน็คออกไป ปล่อยให้ผมยืนคุมน้องคอยมองหาไอ้หมีตัวดีต่อไป หายไปไหนของมันวะ ไม่มีใครให้แกล้งและมันคันไม้คันมือฉิบ
.
.
.
ต่อด้านล่าง