- 2 -“ผมเป็นลูกชายหม่อมเจ้าทองเกล้า มณีรมย์” เปลวดูเหมือนคนละเมอไปเสียแล้ว ตาสวยเหม่อลอยทวนถามซ้ำ ในสิ่งที่คุณชายเพิ่งบอกอย่างไม่เชื่อว่าเป็นความจริง
“ใช่ค่ะน้องเปลว..เปลวเป็นทายาทสายโลหิตของท่านอาทองเกล้า
ถ้าจะให้แน่ใจคงต้องตรวจ DNA ถึงจะยืนยันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์”
คุณหญิงมุกร่วมสนับสนุน เพื่อให้เปลวเกิดความมั่นใจ
“ตรวจ DNA หรือครับ” เปลวหันมองหน้าคุณหญิงมุก ย้ำถามเธอ
“ใช่ครับเรื่องนี้เราคงต้องทำกัน เพราะมีผลต่อพินัยกรรมโดยตรง” คุณชายชิงตอบเสียเอง
“พินัยกรรมอะไรอีกหรือครับ” เปลวไม่เข้าใจงุนงงสงสัยไปใหญ่
“พินัยกรรมวังมณีรมย์ ระบุชัดทายาทสายโลหิตท่านอาทองเกล้า มีส่วนแบ่งในกองมรดก 1 ใน 4
ทายาทคนนั้นคือเปลว ถึงเวลาที่พี่ในฐานะผู้ครอบครองกรรมสิทธิ์วังมณีรมย์คนปัจจุบัน
จะทำหน้าที่พาเปลวกลับวัง เพื่อรับสิทธิพึงมีพึงได้ตามพินัยกรรม ด้วยตัวพี่เองไงครับ”
คุณชายชี้แจงให้เปลวเข้าใจพอสังเขป แต่เปลวกับสนิมตาโตไปแล้วเรียบร้อย
เพียงชั่ววินาทีชีวิตพลิกผันตาลปัตรอย่างเหลือเชื่อสุดๆ
“เปลวมึงเป็นลูกหม่อมเจ้าหรือนี่” สนิมพลอยตื่นเต้นดีใจไปด้วย
“ไม่เท่านั้นนะคะ น้องเปลวยังต้องรับฐานันดรศักดิ์ให้ตัวเองด้วย คำนำหน้าชื่อของน้องเปลวต้องเป็นหม่อมราชวงศ์
ซึ่งพินัยกรรมได้ระบุเอาไว้เช่นกัน” คุณหญิงมุกรีบบอก เพิ่มรายละเอียดในส่วนที่ไม่ได้พูดถึงอีก
“หม่อมราชวงศ์ เหมือนคุณชายคุณหญิงหรือครับ” สนิมถาม
“ใช่จ๊ะสนิม น้องเปลวเป็นหม่อมราชวงศ์” คุณหญิงยืนยัน
“โอ้แม่เจ้า..หนิมมีเพื่อนเป็นราชนิกุล” สนิมทำตาเคลิ้มฝันไปแล้ว
“ไม่ใช่มีแค่เพื่อนเสียหน่อย ยังมีพี่ชายพี่สาวที่เป็นหม่อมราชวงศ์ด้วยไม่ใช่หรือน้องหนิม
ทิ้งพี่กับพี่ชายเพชรได้ยังไงตกลงเป็นพี่น้องกันแล้ว”
คุณหญิงมุกรีบทักท้วงสนิมทันที เกรงตกหล่นอดมีน้องชายอย่างสนิม
“จริงสิ..หนิมขอโทษพี่หญิงมุก อารามมัวแต่ตื่นเต้นเรื่องของเปลว
วันเดียวมีทั้งพี่ชายพี่สาวเพื่อนรักเป็นหม่อมราชวงศ์ ดวงกำลังรุ่ง ฮะฮ่าๆๆ”
เสียงหัวเราะของสนิม ทำทุกคนพลอยขำตาม บรรยากาศกลับสู่ความเฮฮาหรรษาอีกครั้ง
หลังความจริงที่เป็นปมในใจของเปลวถูกคลี่คลาย เปลวรู้จักชื่อสกุลของพ่อแล้ว
ที่เหลือคงต้องรอดูต่อไป..ว่าเปลวจะตัดสินใจยังไง
“เปลวขอเวลาได้ไหมครับ คือเปลวยังไม่พร้อมที่จะเข้าวังไปกับพี่ชายเพชรพี่หญิงมุกครับ
ถ้าต้องไปเปลวคงต้องเอาหนิมไปอยู่ด้วย” นี่คือความกังวลที่เปลวยังไม่รับปาก
ว่าจะเดินทางเข้าวังไปพร้อมสองพี่น้อง ซึ่งโน้มน้าวให้เข้าวังพร้อมกัน เพื่อจะได้ทำทุกอย่างให้ถูกต้อง
“เรื่องสนิมไม่ใช่ปัญหา เปลวไม่พาไปด้วยสิพี่หญิงมุกจะโกรธล่ะ
ประเด็นเปลวต้องใช้เวลานานแค่ไหน ถึงจะเข้าวังไปคลี่คลายเรื่องราวที่ยังค้างคาให้ถูกต้องแล้วเสร็จ
พี่ชายเองจะได้ทำภารกิจที่รับปากท่านย่าก่อนท่านจะชีพิตักษัย
โดยไม่ต้องรู้สึกค้างคาใจอะไรอีก” คุณหญิงมุกยิงคำถาม
“เปลวยังให้คำตอบไม่ได้ครับพี่หญิงมุก เปลวขอเคลียร์เรื่องงาน ถ้าจะเข้าวังก็ต้องจัดการเรื่องส่วนตัว
คาดว่าอย่างเร็วคงไม่เกินสองอาทิตย์ อย่างช้าไม่ถึงเดือน ขอจัดการเรื่องงานร้านขายเสื้อผ้าของสนิมอีกเล็กน้อย
เรื่องเข้าวังเป็นเรื่องใหญ่ ขอเวลาเปลวทำความเข้าใจหน่อยนะครับ” เปลวกลับอ้อนได้น่ารัก จนคุณหญิงมุกถึงกับใจอ่อน
“เอาเถอะ พี่เข้าใจน้องเปลวต้องใช้เวลาทำใจต่อการเปลี่ยนแปลง ที่เกิดขึ้นกะทันหัน
ที่เร่งเพราะยังมีภารกิจต้องพาน้องเปลวไปเข้าคอร์สการเข้าสังคมการวางตัวที่หนีไม่พ้น
เมื่อวังมณีรมย์เจอสายโลหิตของท่านอาก็ต้องเปิดตัวต้อนรับแถลงสื่อ
เพื่อให้เปลวมีจุดยืนในฐานะมณีรมย์คนหนึ่ง สิ่งเหล่านี้พี่ต้องเตรียมน้องเปลวให้พร้อม”
คุณหญิงมุกไม่ได้พูดเกินจริง หากพาเปลวซึ่งคุ้นเคยการใช้ชีวิตสามัญชนเข้าวังล่ะก็
ก่อนพบปะชนชั้นสูง ย่อมต้องผ่านการฝึกฝนเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย
“ตกลงครับ เปลวเข้าใจดี ถึงตอนนั้นเปลวยินดีให้พี่หญิงมุกเป็นที่ปรึกษาพี่เลี้ยงส่วนตัว ไม่บิดพลิ้วแน่นอน”
เปลวติดตลก เรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มพึงพอใจจากคุณหญิงมุกคุณชายเพชร
โดยสองพี่น้องราชนิกุลไม่เร่งรัดเปลวอีก เพราะเข้าใจปัญหาที่เปลวต้องสะสางด้วยดี
“พี่ชายเพชรค่ะ หญิงรู้สึกเหมือนโดนใครจ้องไม่รู้” คุณหญิงมุกบอกกับคุณชาย
หลังเบนซ์คันหรูเคลื่อนออกจากที่จอดได้ไม่นาน กำลังจะพาเปลวกับสนิมไปส่งที่คอนโด
หลังจากพูดคุยทำความตกลงเป็นที่เข้าใจตรงกันแล้ว
ทั้งสองพี่น้องแม้จะอยู่ในอารมณ์ดีใจ แต่ไม่ได้ทำตัวประมาท
“ระวังตัวด้วย พี่รู้สึกไม่ต่างกัน” คุณชายกระซิบบอกเบาๆ พี่น้องมณีรมย์เข้าใจตรงกัน
คุณหญิงมุกคลำใต้กระโปรงในชุดราตรี เพื่อให้อุ่นใจว่าปืนพกขนาดจิ๋ว
ที่เธอเสียบตรงขาอ่อนยังอยู่ดีไม่หายไปไหน จนแน่ใจทุกอย่างพร้อม..ก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
คุณชายเองไม่ต้องพูดถึง ในสูทสีดำเรียบหรูอาวุธปืนส่วนตัวกลับซุกซ่อนมิดชิดพร้อมใช้งาน
ทั้งสองพี่น้องไม่เคยประมาท ยิ่งพระญาติล้วนมีเหตุให้ชีพิตักษัยจนไม่เหลือใครยิ่งต้องระมัดระวัง
ไม่ต้องสงสัยทำไมทั้งสองพี่น้องถึงคุ้นเคยการพกพาอาวุธ ตอนเรียนอยู่ต่างประเทศได้รับการฝึกยุทธวิธี
ใช้อาวุธตลอดจนฝึกศิลปะป้องกันตัว ทั้งคุณชายคุณหญิงร่ำเรียนจนชำนาญ
เพราะเป็นพระประสงค์ของท่านพ่อเตรียมการให้แต่เนิ่นๆ ท่านทรงทราบถึงภยันตรายที่จะเกิดกับประมุขของวังมณีรมย์
ซึ่งยืนอยู่บนความเสี่ยง จึงรับสั่งให้คุณชายคุณหญิงเรียนยุทธวิธีป้องกันตัวไว้ตั้งแต่เด็ก
“ขอบคุณมากนะครับ ที่มาส่งเปลวกับหนิม” เปลวเป็นคนพูดขึ้น
หลังคุณชายเพชรพามาถึงหน้าคอนโดโดยสวัสดิภาพ
“ครับ..ดูแลตัวเองนะครับ” คุณชายจุดยิ้มหล่อส่งให้อย่างอ่อนโยน เปลวกลับเขินหน้าแดงหูแดง
ยิ่งรู้ตัวเองมีส่วนพัวพันเป็นเครือญาติคุณชายยิ่งรู้สึกตื้นตันใจ โลกนี้ยังหลงเหลือญาติพี่น้องไม่ได้ตัวคนเดียวอย่างที่คิด
โดยเฉพาะพี่น้องชายหญิงที่อยู่ใกล้แล้วรู้สึกอุ่นใจแบบนี้ด้วย
“ขอเบอร์โทรน้องเปลวให้พี่หญิงมุกด้วยสิคะ เผื่อพี่หญิงจะเอาไว้ติดต่อน้องเปลวได้สะดวก”
คุณหญิงมุกรอบคอบรีบขอเบอร์เปลว
“ได้ครับเบอร์เปลว 099xxxxx เปลวเล่นไลน์ด้วยครับ ไว้พี่หญิงคุยไลน์กับเปลวได้เลย”
เปลวยิ้มสวยจนคุณชายถึงกับจ้องไม่กะพริบ ยอมรับทั้งชีวิตพบเห็นผู้ชายผู้หญิงทุกเพศทุกวัยนับไม่ถ้วน
แต่เปลวคือคนแรกที่ทำให้รู้สึกทึ่ง ไม่ว่าจะอยู่ในลุคผู้หญิงหรือผู้ชาย
เปลวก็เต็มไปด้วยเสน่ห์ชวนมองได้ไม่เบื่อ แถมสบายตาอย่างบอกไม่ถูก
“โอเคเรียบร้อยแล้ว พี่ทักไลน์ไปแล้วนะรับแอดพี่ด้วยล่ะ” หญิงมุกบอกกับญาติผู้น้องที่เพิ่งพบกันหมาดๆ
รอยยิ้มงดงามของราชนิกุลคนสวยที่ส่งให้นั้น เต็มไปด้วยความสุขสดใสจริงใจไม่เสแสร้งแม้แต่น้อย
“ครับ..ถ้างั้นเปลวขอตัวนะครับ พี่ชายกับพี่หญิงจะได้รีบกลับไปพักผ่อน คืนนี้ก็ดึกแล้วหลับฝันดีนะครับ”
เปลวยกมือไหว้ลา สนิมเองก็รีบกระพุ่มมือไหว้ตามเช่นกัน
“ฝันดีเช่นกันค่ะ ถ้าจะให้พี่ชายฝันดีเปลวอย่าลืมฝันถึงพี่ชายนะ รับรองพี่ชายเพชรฝันดีทั้งคืนแน่”
คุณหญิงมุกกลับหยอดคำพูดทิ้งท้ายอย่างมีความหมาย ทำเอาคุณชายใบ้กินหน้าแดงเถือก
ไม่คิดว่าน้องสาวตัวดีจะพูดแบบนี้ สนิมเมื่อได้ฟังถึงกับยิ้มกรุ้มกริ่มส่งสายตาล้อเลียนเพื่อนอย่างไม่เก็บอาการ
เปลวเขินจนไม่กล้ามองหน้าคุณชาย กระทั่งไม่ตอบรับหรือปฏิเสธประโยคของหญิงมุก
ก้มงุดเปิดประตูลงรถในสภาพหูเหอแดงก่ำไปแล้วเช่นกัน ต้นเรื่องที่เป็นคนจุดระเบิดนั่งกลั้นหัวเราะชอบอกชอบใจยกใหญ่
เมื่อเห็นอาการของพี่ชายและน้องเปลว ใบ้กินเขินแดงอย่างที่เห็น นี่คือนิมิตหมายที่ดีเมื่อไม่ได้ยินคำตำหนิติเตียน
หรือการเอ่ยปรามจากปากคุณชายเพชร กระทั่งอาการปฏิเสธแสดงความไม่พอใจของเปลวก็ด้วย
ถ้าเกิดน้องเค้าไม่ชอบใจล่ะก็ ต้องส่งสัญญาณให้เธอรู้ไม่พอใจที่ล้อเลียน แต่เปลวกลับไม่ทำ
สนิมลงไปยืนตีคู่เปลวในสภาพอมยิ้มแก้มตุ่ย เพราะขำอาการเขินของเพื่อนที่ไม่เคยเกิดกับผู้ชายคนไหนมาหลายปีดีดัก
แต่กลับเริ่มออกอาการเพราะคุณชายสุดหล่อนามเพชรรัตน์ขึ้นมาอีกครั้ง แบบนี้จะให้คิดอะไรได้
นอกจากเปลวกำลังยอมเปิดใจให้ใครใหม่
จังหวะยืนรอให้รถคุณชายเคลื่อนออกจากบริเวณ สายตาสองคู่ที่เขินอายดันสบเข้าจังๆ แบบไม่มีใครตั้งใจ
เพียงความรู้สึกภายในเรียกร้องให้มองอีกฝ่ายในจังหวะเดียวกันพอดี ทั้งคุณชายและเปลวถึงกับชะงักจ้องกันค้างไปครู่
ก่อนเป็นเปลวที่เขินจนก้มมองปลายเท้ากลายเป็นหนุ่มขี้อายไปเสียแล้ว
คุณชายเห็นท่าทางของเปลวถึงกับเผยรอยยิ้มระบายทั่วใบหน้า ในความคิดพลันรู้สึก..น่ารักชะมัด!
คือสิ่งที่ผุดขึ้นในหัวคุณชายต่อปฏิกิริยาของเปลวที่แสดงออกอย่างไม่ตั้งใจ
เบนซ์หรูเคลื่อนออกจากบริเวณได้ไม่ถึงสิบเมตร ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด
ทำให้คุณชายคิ้วกระตุก ถอยรถกลับมาในเสี้ยววินาทีด้วยซ้ำ
“เปรี้ยง!..”
“โอ้ย!” เสียงร้องเจ็บปวดที่ได้ยิน คุณชายคุณหญิงใจหล่นตาตุ่ม
ก่อนเอารถเข้าบังร่างสองหนุ่มที่เพิ่งส่งไม่ถึงอึดใจ เสียงลั่นกระสุนดังสาดเข้ามาต่อเนื่อง
แต่โดนตัวถังรถซึ่งกระสุนไม่สามารถทะลุได้ เพราะเป็นรุ่นกันกระสุนล่าสุด
“เปรี้ยงๆๆๆ!!..” คุณหญิงลดกระจกตะโกนบอกเปลวทันที
“ขึ้นรถเร็วเข้า” เสียงตะโกนสั่งทำให้เปลวได้สติ ประคองสนิมซึ่งดูท่าจะถูกยิง
โดยยังมองไม่เห็นว่าเป็นส่วนไหน แต่ที่แน่ๆ สนิมหน้าซีดเผือด
มือกุมบริเวณสีข้างแถวชายโครง ออกอาการเจ็บปวดเห็นได้ชัด
“เปรี้ยงๆๆ!!” เหมือนสงครามกลางเมืองพัทยาก็ไม่ปาน คุณชายใช้ปืนพกส่วนตัว
ลั่นกระสุนไปยังทิศทางซึ่งเป็นที่มาของเสียงปืนตอบโต้ไม่ลดละ
ในขณะที่เปลวเปิดประตูรถประคองสนิมเข้ามาอย่างทุลักทุเล
“ไปเลยค่ะพี่ชาย” คุณหญิงมุกเตือน เมื่อเห็นว่าสองหนุ่มขึ้นรถได้เรียบร้อยแล้ว
คุณชายปิดกระจกเหยียบคันเร่งออกรถทันที โดยกระสุนปืนยังยิงตามหลัง
ก่อนจะเห็นรถไล่ตามมาติดๆ เป็นรถสองคันที่ขับไล่กันมา แต่แปลกตรงที่ไอ้รถสองคันมันดันยิงใส่กันนี่สิ
“ใครมันยิงนังเปลววะ ตายห่าเกิดนังเปลวมันเป็นอะไรไป เสี่ยเล่นงานพวกเราตาย จัดการพวกมันก่อน”
สี่ชายฉกรรจ์ไล่ประกบรถปริศนาโดยกราดกระสุนใส่ จนผู้คนที่มีอยู่ประปรายบนท้องถนน
รวมถึงรถราต่างหลบเข้าข้างทางชุลมุนไปแล้ว
เมื่อรู้ตอนนี้เกิดสงครามประหัตถ์ประหารบนท้องถนนไล่ล่าอย่างกับหนังมาเฟีย
“ใครมันยิงใส่พวกเราวะ ระยำจริง” สองชายฉกรรจ์เป็นผู้ลงมือลั่นไกใส่เปลว
โดยรอจังหวะให้เบนซ์หรูของคุณชายเคลื่อนออกจากรัศมีบดบัง แต่กลับโดนคนข้างๆ
ที่เข้ามาขวางในจังหวะเหนี่ยวไกพอดี ทำให้รู้ได้ทันทีว่าเป้าหมายไม่ถูกยิง เพราะคนที่ล้มลงไปไม่ใช่เด็กชื่อเปลว
“เกิดอะไรขึ้นมีคนสองกลุ่มไล่ตามเรามาค่ะพี่ชาย แต่พวกมันกลับหันไปเล่นงานกันเอง
เปลวพอมีทางลัดตรงไหนแนะนำบ้างไหม” หญิงมุกรายงานสถานการณ์
คุณชายชำเลืองกระจกข้างมองรถที่ขับตามมาทิ้งห่างอยู่พอสมควร
เพื่อประเมินสถานการณ์ไปด้วย แต่ก็ยังแยกประสาทฟังการสนทนาที่คุณหญิงมุกบอกกับเปลว
“สนิมโดนยิงครับพี่หญิงมุก เลือดออกเยอะมากช่วยหนิมมันก่อน”
เปลวเสียงสั่น ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนที่อยู่ในอ้อมกอดซึ่งหน้าซีดเผือด
“โอเค..ใจเย็น เราจะรีบพาสนิมไปโรงบาล เปลวเอาผ้ากดตรงแผลเพื่อห้ามเลือดเอาไว้
พยายามอย่าให้สนิมหลับเป็นอันขาด” หญิงมุกสั่งการ
“ครับๆ “ เปลวรับผ้าเช็ดหน้าจากหญิงมุกมากดปากแผล
ตรงชายโครงของสนิมอย่างกระวนกระวายใจ กดทับเพื่อไม่ให้เลือดไหลมากกว่านี้
“ทนนิดหนิม อย่าหลับเดี๋ยวก็ถึงโรงบาลแล้ว” พร้อมกับเรียกเพื่อนเขย่าไปด้วย
สนิมตาปรือกัดฟันกรอด ไม่รู้เกิดซวยอะไรถึงมีลูกปืนเจาะชายโครงเข้าให้ โดยไม่ทันตั้งตัวแบบนี้
“เลี้ยวข้างหน้าครับ ตัดออกอีกเส้นจะเร็วกว่า” เปลวยังคุมสติมองทางรีบบอกคุณชายให้เลี้ยวเข้าทางลัด
ซึ่งตอนนี้รถที่ขับไล่หลังได้หายไปจากระยะสายตา เพราะมัวพะวักพะวงยิงปะทะกับรถอีกคัน
ทำให้คุณชายสามารถหนีการติดตามมาได้ กระทั่งถึงโรงพยาบาลใจกลางเมืองพัทยา
โดยสนิมถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินถึงมือหมอเป็นที่เรียบร้อย
“ใจเย็นครับสนิมต้องปลอดภัย” คุณชายจับบ่าเปลวที่ยืนหน้าห้องฉุกเฉิน
สีหน้าดูแย่สุดๆ ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนที่หายเข้าไปกับหมอและพยาบาลก่อนหน้านี้
“ใครครับที่ยิงหนิม มันไม่เคยมีเรื่องกับใคร ทำไมต้องยิงมันด้วย”
เปลวตั้งคำถามเพราะไม่เข้าใจ ที่มีคนปองร้ายเพื่อนซึ่งวันๆ เอาแต่ค้าขาย
“อย่าเพิ่งคิดอะไรนะคะ พี่อยากให้น้องเปลวทำใจให้สบายไม่ต้องกังวลกับเหตุการณ์
เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นธุระพี่ชายเพชร เราคงรู้ตัวคนร้ายในอีกไม่ช้า” หญิงมุกเดินเข้ามาจับมือเปลว
แล้วปลอบประโลมไปด้วยอีกคน เปลวคงเสียขวัญไม่น้อยสนิมมาถูกยิงต่อหน้าต่อตา
เปลวไม่ได้พูดอะไรอีก ได้แต่พยักหน้าตอบรับคำแนะนำของคุณหญิงมุก
สองพี่น้องเลี่ยงออกมายืนปรึกษาหารือกัน ปล่อยเปลวรออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน โดยยังคงอยู่ในระยะสายตามองเห็นกันได้
“หน้าจะยิงพลาด พี่ชายคิดเหมือนมุกไหม” หญิงมุกเอ่ยขึ้นก่อน
“อืม..เป้าหมายไม่น่าใช่สนิม เป็นเปลวมากกว่า” คุณชายคิดไม่ต่างไปจากน้องสาว
“เป็นพวกไหนนะ มุกนึกไม่ออกจริงๆ” คุณหญิงตั้งคำถาม
“มากันสองกลุ่มพี่เองยังมืดแปดด้าน แต่มั่นใจเป้าหมายคือเปลวก็เพราะมีเหตุจูงใจ
พี่เคยช่วยเปลวหนีมาแล้วเมื่อช่วงบ่าย ที่ไม่ปักใจเชื่อว่าคนลงมือเป็นกลุ่มเดียวกับตอนกลางวัน
เพราะกลุ่มนั้นไม่ได้มีท่าทีลงมือหวังเอาชีวิต ถ้าเป็นแบบนั้นคงไม่วิ่งไล่จับเปลวให้ยุ่งยาก
ยิงเสียตรงนั้นก็คงจบไปแล้ว คงมีอีกกลุ่มที่ลงมือ ส่วนที่มันหันไปเล่นงานกันเองน่าจะมีจุดมุ่งหมายแตกต่างกัน
โดยรวมเปลวกำลังตกอยู่ในอันตราย พี่จะปล่อยให้เสี่ยงแบบนี้ไม่ได้แล้ว..หญิงมุก” คุณชายสรุปรวบรัด
“พี่ชายหมายความว่า..” คุณหญิงมุกพูดทิ้งท้ายแค่นั้น
“พี่ต้องพาเปลวกลับไปกับเรา ไม่อาจปล่อยให้อยู่นี่ ถึงขนาดหวังเอาชีวิตกันแบบนี้
แสดงว่ามีเบื้องลึกเบื้องหลัง บางทีน่าจะมีส่วนพัวพันที่เปลวเป็นลูกของท่านอาทองเกล้า
เรื่องนี้นอกจากเราคงมีใครตามสืบและกำลังลงมืออยู่แน่” คุณชายจ้องตาตอบน้องสาว
พร้อมกับวิเคราะห์ให้ฟังถึงความเป็นไปได้ที่กำลังครุ่นคิดถึงสาเหตุ ที่มีคนปองร้ายเปลว
“เปลวกำลังตกเป็นเป้าเล่นงาน ของคนที่กลัวจะเสียผลประโยชน์อย่างนั้นหรือคะพี่ชาย”
คุณหญิงมุกทำความเข้าใจได้ทันที
“อืม..อย่าลืมสิทายาทที่มีสิทธิในกองมรดก 1 ใน 4 ถ้าปรากฏตัวย่อมส่งผลต่อคนที่คาดหวังในส่วนนี้
เธอลองคิดดูน่าจะเป็นใครได้บ้างที่ไม่อยากให้เปลวเข้าวัง” คุณชายทิ้งปริศนาให้คุณหญิงขบคิด
“มุกพอจะเข้าใจแล้ว แบบนี้เปลวเสี่ยงมาก มุกเห็นด้วยที่พี่ชายจะพาเปลวเข้าวังไม่ต้องรอแล้ว
ในเมื่อเรื่องนี้ดูท่าจะมีคนชิงลงมือล่ะก็ พี่ชายต้องปกป้องน้องเปลวนะคะ” คุณหญิงมุกสีหน้าดูกังวลฉายชัด
“พี่จะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นเด็ดขาด ตราบใดที่พี่ยังเป็นประมุขของวังมณีรมย์
พี่จะทำทุกวิถีทางให้ทายาทของท่านอาทองเกล้าได้รับสิทธิที่เป็นของเขาโดยชอบธรรม
เรื่องนี้พี่ไม่รอคงต้องขอร้องกึ่งบังคับไม่ว่าเปลวจะเห็นด้วยหรือไม่
เราให้น้องอยู่ในสภาวะสุ่มเสี่ยงต่อไปไม่ได้ เธอเตรียมพาเปลวเข้าวังได้เลยหญิงมุก”
คือข้อสรุประหว่างสองพี่น้องมณีรมย์ ต่างมีความเห็นตรงกันว่า
จะไม่ปล่อยให้เปลวอยู่จัดการภารกิจอย่างที่บอกไม่ได้ ไม่เช่นนั้นคงเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น
วันนี้จะว่าโชคร้ายแต่ก็เป็นความโชคดี ทำให้รู้ตัวและวางแผนป้องกันได้ทัน เพียงแต่คนรับเคราะห์เป็นสนิมนี่สิ...
ขอโทษด้วยนะคะ ที่เมื่อวานผิดนัด ร่างพังคนใกล้ตัวสั่งห้ามเด็ดขาดให้พักผ่อนทานยา
วันนี้จึงได้มีโอกาสมาอัพให้แล้วนะคะ เจอกันอีกครั้งวันจันทร์ค่ะ
ขอบคุณทุกกำลังใจที่ติดตามน้องเปลว
