Part 8“เหนื่อยไหมครับคุณมรกต” เสี่ยวิกรมถามหม่อมหลวงมรกตด้วยความเอาใจใส่ สายตากรุ้มกริ่มจงใจส่งให้ตามประสาพวกชอบผู้หญิงสวย
หลังจากพาคุณมรกตออกจากฟลอร์เต้นรำ เพลงเพิ่งจบลงหมาดๆ เริ่มจะเปลี่ยนจังหวะจากวอลซ์เป็นบีกินแล้ว
ชายหญิงจับคู่พากันออกไปอยู่ในฟลอร์เต้นรำด้วยสีหน้าชื่นมื่น
“นิดหน่อยค่ะ” คุณมรกตตอบอย่างระวังท่าที หันมองโดยรอบเพื่อมองหาคุณชายเพชร กลับไม่เห็นเงาร่างสูงในห้องจัดงาน
เธอมั่นใจถ้าหากคุณชายอยู่ในนี้ไม่น่าคลาดสายตา ด้วยรูปลักษณ์ซึ่งดูโดดเด่นสง่างามของคุณชายแล้ว
ต่อให้ไปยืนอยู่ตรงมุมอับก็ย่อมสะดุดตาได้ง่ายดาย
“ต้องการเครื่องดื่มให้ชื่นใจไหมครับ เดี๋ยวผมให้เด็กยกมาบริการ” เสี่ยวิกรมยังคงแสดงความเป็นสุภาพบุรุษ
ทำหน้าที่ดูแลเทคแคร์คุณมรกต ทั้งคู่เต้นรำกันได้เกิดจากเสี่ยวิกรมกำลังหาผู้หญิงสวยภายในงาน
ที่คู่ควรเข้าไปขอเต้นรำด้วย ประจวบเหมาะสบสายตาคุณมรกตซึ่งกำลังหงุดหงิดใจอยู่พอดี
หลังไม่มีหนุ่มมาโค้งเธอออกไปเต้นรำ พอเสี่ยวิกรมตรงเข้าหาโดยมีจุดประสงค์ขอเธอเป็นคู่เต้นรำจึงไม่ปฏิเสธ
ก่อนจะได้พูดคุยทำความเข้าใจในความต้องการของอีกฝ่าย ต่างประสงค์แยกคู่เต้นเปิดฟลอร์คู่แรก
สุดท้ายแผนการขอเปลี่ยนคู่เต้นก็ไม่ได้ผล ตอนนี้ไม่เห็นวี่แววคู่เปิดฟลอร์ ไม่รู้พากันหายไปอยู่มุมไหนไม่มีแม้แต่เงา
คุณมรกตเธอเริ่มกระวนกระวายร้อนใจไปแล้วเรียบร้อย
“มองหาอะไรอยู่หรือครับ” เสี่ยวิกรมถาม หลังสังเกตุได้ว่าคู่เต้นรำเฉพาะกิจของตน
สนใจแต่เหลียวซ้ายแลขวาเหมือนกำลังมองหาใครอยู่
“ไม่รู้คุณชายเพชรรัตน์กับนางโชว์ที่เป็นคู่เต้น หายตัวไปไหนแล้ว”
คำตอบของคุณมรกต สะกิดเสี่ยวิกรมให้สำรวจทั่วบริเวณในทันทีเช่นกัน
“สงสัยคงไปพักเหนื่อย เดี๋ยวผมสั่งให้คนของผมไปเดินหาดูก่อน”
พูดไม่รอฟังการตอบรับ ล้วงโทรศัพท์ส่งไลน์ใช้ให้ลูกน้องที่อยู่ภายในงานไปจัดการทำธุระให้ทันที
“รอสักครู่ครับ” รอยยิ้มหวังผล คุณมรกตแค่พยักหน้าโดยไม่ถามให้มากความ ในเมื่อเธอคงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้
หากเสี่ยวิกรมซึ่งเธอพอจะรู้เบื้องลึกเบื้องหลังอยู่บ้าง เป็นคนมีอำนาจในพื้นที่พัทยา แถมยังมีอิทธิพลชนิดไม่มีใครไม่รู้จัก
ก็คงต้องรอดูอีกฝ่ายจะจัดการเคลียร์ยังไงต่อ ที่แน่ๆ เป้าหมายของเสี่ยวิกรมไม่ใช่ใคร แต่เป็นนางโชว์เพศที่สามต่างหาก
แค่เธอได้ตัวคุณชายเพชรมาควงต่อจากนี้ ก็บรรลุเป้าหมายของตนเองแล้ว ส่วนใครจะพากันไปตกนรกหกเหวที่ไหน
ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะต้องแคร์เลย..
“ขอบคุณครับคุณหญิงมุก ที่ให้เกียรติผม”
ท่านผู้ว่าส่งหญิงมุกที่เก้าอี้ ในฐานะที่คุณหญิงมุกดาให้เกียรติเปิดฟลอร์เป็นคู่เต้นของท่าน
“เช่นกันค่ะ มุกได้รับเกียรติจากคุณอาต่างหาก อย่าพูดจาเกรงใจกันเลยนะคะ
คุณหญิงตัวจริงรอคุณอาพาออกไปยืดเส้นยืดสายแล้วล่ะค่ะ” หญิงมุกติดตลกตอนท้าย
เรียกเสียงหัวเราะจากสองผู้อาวุโสเจ้าภาพใหญ่ในงานคืนนี้ขึ้นในทันที
“ฮะฮ่าๆๆ..อาคงต้องรีบปฏิบัติตามคำแนะนำ ขืนชักช้าเดี๋ยวคืนนี้ไม่ได้นอนในห้องแล้วจะยุ่ง..ฮะฮ่าๆ”
ผู้สูงวัยอารมณ์ดีเป็นพิเศษ หยอกเย้าภริยาต่อหน้าต่อตา ทำเอาคุณหญิงภริยาผู้ว่าถึงกับค้อนปะหลับปะเหลือก ก่อนจะลุกขึ้นคล้องแขนท่านผู้ว่า เคียงคู่กันออกไปเต้นรำท่ามกลางรอยยิ้มและเสียงหัวเราะขันของแขกวีไอพี ที่ร่วมรับฟังการสนทนาในครั้งนี้ไปด้วย เสียงไลน์โทรศัพท์ร้องเตือนหญิงมุก จนต้องรีบค้นกระเป๋าหยิบขึ้นมาอ่าน
[พี่รอที่ล็อบบี้ รีบปลีกตัวมาด่วน อย่าให้มรกตรู้เด็ดขาด] หญิงมุกอ่านจบถึงกับอมยิ้มเกือบกลั้นหัวเราะไม่อยู่
ไม่คิดว่าพี่ชายจะหลบหน้าคนวังเดียวกัน กะแอบหนีกลับดื้อๆ นี่คงรำคาญแต่ไม่กล้าเสียมารยาท
ตามสไตล์นิสัยประจำตัวอีกตามเคย
‘ตกลงค่ะ มุกกำลังไป’ เธอส่งไลน์ตอบสั้นๆ เป็นอันเข้าใจตรงกัน
“จะไปไหนยัยมุก” คุณมรกตเดินมาถึงในจังหวะที่คุณหญิงมุกดา กำลังสะพายกระเป๋ากล่าวลาผู้หลักผู้ใหญ่เสร็จพอดี
“ไปห้องน้ำ” ไหวพริบหญิงมุกยอดเยี่ยมสุดๆ ชิงออกตัวชนิดไม่มีลังเลให้เห็นเลยแม้แต่น้อย
“ฉันเห็นเธอล่ำลาผู้หลักผู้ใหญ่ นึกว่าจะรีบกลับเสียอีก” คุณมรกตหรี่ตาสวยจ้องเธออย่างจับพิรุธ
“จะจับผิดมุกเพื่ออะไรคะพี่มรกต” หญิงมุกเฉไฉทำไม่ตอบคำถาม แต่กลับย้อนถามคุณมรกตกลับหน้าตาเฉย
“ฉันเปล่าทำอย่างที่เธอพูด แล้วนี่เธอเห็นพี่ชายเพชรบ้างไหมล่ะ”
สุดท้ายเป็นคุณมรกตที่เปลี่ยนประเด็น เจาะจงถามถึงคุณชายเพชรอย่างคาดหวังคำตอบจากหญิงมุกดาว่าเธอน่าจะรู้
“มุกไม่เห็นหรอก แปลกจริงพี่ชายเพชรเล็ดลอดสายตาพี่มรกตได้ ช่างเป็นเรื่องเหลือเชื่อสร้างความประหลาดใจสุดๆ
ยิ่งกว่าไฮไลท์ของงานที่นำนางโชว์แสนสวยมาประมูลเปิดฟลอร์เสียอีก” นอกจากคุณหญิงมุกจะไม่มีคำตอบให้เธอแล้ว
ยังแอบเหน็บแนมคุณมรกตได้อย่างแยบคายด้วย
“เธอหมายความว่ายังไงกัน..หญิงมุก”
คุณมรกตหน้านิ่วดูไม่สบอารมณ์อย่างเห็นได้ชัด กับประโยคคำพูดเหมือนโดนถากถางเข้าเต็มๆ
“ไม่มีอะไรนี่คะมุกวิเคราะห์ตามความจริง ที่ผ่านมามีแต่มุกที่เป็นฝ่ายถามพี่มรกต คนในวังมีใครไม่รู้บ้างคะ
พี่ชายอยู่ในสายตาของพี่มรกตทุกลมหายใจ ไม่ว่าจะอยู่ซอกมุมไหนพี่มรกตรู้เห็นไปเสียทุกก้าว มุกพูดผิดตรงไหนหรือเปล่าคะ”
คำย้อนของหญิงมุกทำเอาคุณมรกตหาคำมาปะทะด้วยไม่ได้ ประโยคนี้แม้จะแฝงคำพูดแดกดันไว้ แต่กลับหยิบยกมากล่าว
ในลักษณะที่ผู้พูดชื่นชมในตัวคุณมรกต ที่ล่วงรู้ความเคลื่อนไหวคุณชายเพชรเสียแทบทุกฝีก้าว
ประเด็นนี้มากกว่าทำให้คุณมรกตเธอเถียงไม่ออก
“ช่างเถอะ..เธอพอจะติดต่อพี่ชายเพชรได้ไหม ฉันลองโทรหาแล้วพี่ชายไม่รับโทรศัพท์ ไม่รู้ไปไหนของเค้า
หรือว่ายัยผิดเพศนั่นล่อลวงไปทำมิดีมิร้ายแล้ว คนประเภทนี้ยิ่งไว้ใจไม่ได้อยู่” โชคดีการสนทนาของสองสาวแห่งวังมณีรมย์
มีความเป็นส่วนตัวพอสมควร ไม่เช่นนั้นไม่รู้เหมือนกันว่าจะถูกผู้คนคิดเห็นยังไง กับคำพูดในลักษณะนี้ของคุณมรกต
“พี่มรกตอย่าพูดจาให้คนอื่นเค้าเสียหายได้ไหมขอร้องเถอะ ไม่ว่าคุณเปลวฟ้าเขาจะเป็นเพศไหน
อย่างน้อยศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเขาเท่าเทียมกับพวกเราทุกคน อีกอย่างพี่ชายเพชรไม่ได้มีนิสัยมักง่าย
เท่ากับพี่มรกตกำลังดูถูกพี่ชายเพชรพไปด้วยนะคะ” คุณมรกตเจอสวนหน้าเสีย หลังไม่ทันระวังคำพูด
เกิดพลั้งเผลอหมิ่นเกียรติคุณชายไปอีกคน โดยไม่มีเจตนาที่จะลบหลู่เกียรติผู้ชายที่เธอผูกใจรักแม้แต่น้อย
“ย่ะ!..แม่นักอนุรักษ์สิทธิมนุษยชน ฉันก็แค่คาดเดาไม่ได้คิดจริงจังในทางที่เธอตีความเสียหน่อย
คนอย่างพี่ชายฉันรู้นิสัยหรอกน่า คงไม่เก็บก้อนกรวดก้อนดินเปื้อนมลทิน มาประดับให้เสียบารมีแน่”
ถึงจะรู้ตัวพูดจาผิดพลาดไม่สมควร แต่กลับไม่ยอมรับความจริง ยังคงมีอีโก้สูงแถให้คำพูดก่อนหน้าเป็นเรื่องคาดเดาไปเฉย
ซ้ำยังเหน็บแหนมคุณหญิงมุกดาเมื่อรู้สึกหมั่นไส้ที่ปกป้องนางโชว์ผิดเพศอย่างออกนอกหน้า
“เอาเถอะ..มุกไม่คุยด้วยแล้ว ขอตัวนะคะ” พูดจบไม่รอคุณมรกตเธอต่อความยาวสาวความยืดด้วยอีก
คุณหญิงมุกดารีบเดินหนีเสียดื้อๆ ปล่อยคู่สนทนาคนในวังเดียวกันมองตามหลังตาเขียว
ส่วนทางเสี่ยวิกรมกำลังสอบถามข้อเท็จจริงกับลูกน้อง ท่าทางดูสีหน้าเคร่งเครียดพอสมควร
“ตกลงพวกมึงไม่เจอทั้งคู่” เสี่ยหัวล้านดูภูมิฐานชักสีหน้าหงุดหงิดใส่ลูกน้องทั้งสี่
หลังมอบหมายภารกิจให้ไปทำแต่ไม่มีผลคืบหน้าให้พอใจ
“ครับเสี่ย..พวกผมเดินหาจนทั่วภายในห้องจัดเลี้ยงรวมทั้งบริเวณใกล้เคียง
แต่ไม่เห็นคุณชายเพชรแล้วก็นังเปลวเลยครับ” มือขวาลูกน้องคนสนิทคู่ใจรีบรายงานให้ฟัง ก่อนจะถูกตำหนิไปกว่านี้
“ทำงานประสาอะไรพวกมึงวะ คนตั้งสองคนกลับบอกกูหาไม่เจอ เอาอย่างนี้มึงไปบอกคนดูแล
ให้ไปพาเปลวมาเป็นคู่เต้นรำของกูเดี๋ยวนี้เลย บอกไปกูยินดีบริจาคช่วยมูลนิธิล้านหนึ่ง
กูจะรออยู่ที่โต๊ะรีบไปจัดการอย่าให้พลาดอีกล่ะ เข้าใจใช่ไหม” เสี่ยวิกรมกำชับลูกน้องหนักแน่น
“ครับเสี่ย” มือขวาขานรับก่อนพากันสลายตัวไปอีกครั้ง พวกเขารู้คนอย่างเสี่ยวิกรมลองหมายตาใครเป็นพิเศษล่ะก็
หากยังไม่ได้ครอบครอง ไม่มีทางรามือง่ายๆ เปลวเป็นนางโชว์คนแรกในเมืองพัทยาที่เสี่ยแกอยากกำหราบความหยิ่งผยอง
ให้ตกอยู่ใต้ร่างไม่ว่าจะยินยอมพร้อมใจหรือไม่ ต่อให้ใช้กำลังแกก็ไม่สน หลังส่งคนไปเจรจายื่นข้อเสนอแต่กลับถูกปฏิเสธ
ทำให้แกรู้สึกเสียหน้าจากสาวประเภทสองคนแรก ซึ่งแกมีความต้องการเลี้ยงดูอย่างที่ไม่เคยคิดกับคนประเภทนี้มาก่อน
ตลอดมาแกใช้บริการเฉพาะสาวๆ รับอุปการะไว้มาก มีแต่คนวิ่งเข้าหาหวังให้แกรับเลี้ยงเป็นพรวน แต่เปลวกลับทำแกฟิวส์ขาด
ถึงขั้นต้องสั่งลูกน้องดักจับนำตัวไปเก็บไว้ที่เซฟเฮ้าส์ แผนการกลับล้มเหลวทำให้แกหงุดหงิดงุ่นง่านเข้าไปใหญ่
ยิ่งเห็นเปลวในคืนนี้สวยหยาดฟ้ามาดินสมเป็นราชินีคลีโอพัตราผู้เลอโฉม แกหวังจัดการเบ็ดเสร็จให้รู้แล้วรู้รอด
แต่กลับแพ้ประมูลให้คุณหญิงมุกดา จะให้แข่งประมูลก็ดูไม่เหมาะผู้คนจะพากันมองว่าเสี่ยรังแกผู้หญิง
วงเงินก็มีส่วนสำคัญไม่น้อย ว่ากันเป็นสิบล้านสู้แกให้ลูกน้องดักฉุดไม่ต้องเสียเยอะถึงขั้นนั้นเลย
ต่อให้ต้องการมากแค่ไหนแต่ต้องควักกระเป๋าจ่ายสิบล้าน ไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ นี่คือความคิดแก
“เรียบร้อยแล้วหนิม กูรับเงินค่าตัวที่เจ๊เจสซี่ก่อนนะ มึงรอกูแป๊บ” เปลวซึ่งกลับมาอยู่ในลุคหนุ่มหน้าสวย
เสื้อผ้าหน้าผมไม่ต่างตอนขามาเลย เครื่องสำอางถูกขจัดออกจากใบหน้าจนเกลี้ยงเกลา ก็ถึงเวลาปลีกตัวกลับ
ตามที่ได้นัดหมายคุณชายเพชรรัตน์ไว้ตรงล็อบบี้ เปลวต้องการกระเป๋าคืนเพราะมีของสำคัญที่แม่ให้ไว้
“อืมรีบไปสิ” สนิมบอกกับเพื่อนรัก ทั้งคู่ยังไม่ได้คุยรายละเอียดอะไรกันมากนัก
คงไม่สะดวกเท่าไหร่ที่จะซักถามข้อสงสัย ในขณะยังคงอยู่ภายในห้องแต่งตัว ซึ่งมีนางโชว์อีกหลายนางรวมอยู่ในนี้
“วันนี่ทำดีมากเลยเปลว เจ๊ขอบใจสุดๆ ไม่คิดไม่ฝันเด็กในสังกัด
จะเรียกเงินประมูลได้ถึงสิบล้าน..อกแป้นจะแตก..คุณพระช่วย”
เจ๊แกจับบ่าเปลวลูบอย่างทะนุถนอม พร้อมกับชมไม่ขาดปาก
“ไม่ต้องขอบใจเปลวหรอกเจ๊ เปลวเต็มใจทำเพื่อการกุศล แต่ขอกลับก่อนนะเจ๊
เปลวอยากพัก รบกวนเบิกค่าแรงงานนี้ให้เปลวด้วยสิครับ"
“ได้เลยจ๊ะเจ๊จัดการรับมาให้เรียบร้อยแล้ว เอานี่ของเธออยู่ในซองนับดูให้ดีก่อน ครบถ้วนตามข้อตกลงไหม”
เจ๊เจสซี่ล้วงซองขาวจากกระเป๋าสะพายส่วนตัว ยื่นให้นางโชว์คนโปรดทันทีอย่างไม่มีอิดออด
“โอเคครบครับ ถ้างั้นเปลวขอตัวเลยนะ..เจอกันวันมะรืนนี้ครับเจ๊ พรุ่งนี้เปลวไม่มีคิวโชว์ หวัดดีครับ”
เปลวไม่ลืมยกมือไหว้ลาผู้จัดการคนเก่ง ค่อยหันไปพยักหน้าเรียกสนิมให้เข้ามาลาเจ๊ให้เรียบร้อย
สองหนุ่มจึงพากันออกจากห้องทางด้านหลังอาศัยประตูที่เข้ามาครั้งแรก
โดยมีสายตาชื่นชมปนเอ็นดูของผู้จัดการคณะโชว์..มองตามจนลับสายตา
“น้องเปลวฟ้าครับ” หัวหน้าทีมออร์แกไนซ์ผู้รับผิดชอบจัดงานในคืนนี้โผล่หน้าถามหาเปลว
คล้อยหลังสองหนุ่มซึ่งออกไปยังไม่ถึงห้านาที
“มีอะไรคะคุณนนท์” เจ๊เจสซี่รีบปรี่เข้าไปถามพวกเดียวกันอย่างรู้จักมักจี่ ดูคุ้นเคยสนิทกันเป็นอย่างดี
“พี่เจสซี่ครับ นนท์ขอรบกวนน้องเปลวให้ไปเป็นคู่เต้นรำเสี่ยวิกรม แกหน่อยสิครับ
พ่อเลี้ยงดังเมืองพัทยาพี่คงคุ้นชื่อแกอยู่” คุณนนท์รีบชี้แจงจุดประสงค์ให้สาวประเภทสองรุ่นพี่ฟังทันที
“อ้อรู้ค่ะ พี่รู้จักดีเชียวล่ะ ติดขัดตรงที่น้องเปลวแกกลับไปแล้วสิคะ ก่อนหน้าคุณนนท์ได้ไม่ถึงห้านาที
อีกอย่างน้องเค้าทิ้งคราบคลีโอพัตราได้เปลื้องชุดล้างเครื่องสำอางจนหมดแล้ว คงไม่เหมาะออกไปวาดลวดลาย
เป็นคู่เต้นให้เสี่ยวิกรมแกหรอก หรือเสี่ยแกรีเควสจะเต้นกับน้องเปลวไม่สนใจคนอื่นเลยเหรอค่ะ” เจ๊เจสซี่พูดอย่างใจเย็น
“คนของแกระบุเป็นน้องเปลวครับพี่ แค่เป็นคู่เต้นรำไม่น่าปฏิเสธคนอื่นมั้งครับ ในเมื่อน้องเปลวไม่อยู่แล้ว
คือเสี่ยแกร่วมบริจาคเงินให้กับมูลนิธิด้วยหนึ่งล้าน มีเงื่อนไขต้องให้น้องเปลวออกไปเป็นคู่เต้นรำแกครับ”
“อย่างนั้นเอาแบบนี้สิ เจ๊เสนอยัยกิ่งตัวเด่นคนที่โชว์ชุดแรกไปแทนเปลวก็แล้วกัน
ถึงเสี่ยแกจะลดเงินบริจาคลงก็ไม่เป็นไรเนอะ ยัยกิ่งมันก็สวยเลิศอยู่นะคุณนนท์
อาจจะด้อยกว่าเปลวมันบ้างก็เถอะ แต่ก็เป็นเบอร์ต้นในคณะพี่เชียวน๊า”
เจ๊เจสซี่แนะนำเปลี่ยนตัวเป็นน้องกิ่งคนที่โชว์ชุดแรก
“ถ้าอย่างนั้นให้น้องกิ่งตามนนท์มาเลยครับ”
“ได้เลยจ๊ะ..ยัยกิ่งๆ มานี่เลยหล่อน..บลาๆๆ” สรุปกิ่งแก้วนางโชว์ในคณะที่แปลงเป็นหญิงทั้งข้างบนข้างล่าง
ยกเว้นซุ่มเสียงที่ยังคงฟังแข็งๆ แหบห้าวติดอยู่บ้าง ให้เดาได้ไม่ยากว่าเธอเป็นสาวประเภทสอง
ก็รับหน้าที่ไปพบกับเสี่ยวิกรมแทนเปลว หลังฟังรายละเอียดจากเจ๊เจสซี่จนเข้าใจแล้ว
“ไม่ได้ เสี่ยระบุต้องเป็นเปลวฟ้าคนเดียวเท่านั้น คุณไปพาใครมา”
มือขวาเสี่ยวิกรมเสียงขุ่นอย่างไม่สบอารมณ์ หลังออร์แกไนซ์พาน้องกิ่งเข้ามาพบแล้วแจ้งจุดประสงค์ให้รับรู้
“แต่เปลวกลับไปแล้วนะครับ” คุณนนท์หน้าซีดเผือด
ชักหวาดกลัวต่อพฤติกรรมข่มขู่ของสี่ชายฉกรรจ์ ซึ่งดูเหมือนพวกมาเฟียยังไงยังงั้น
“กลับตั้งแต่เมื่อไหร่วะ เสี่ยเล่นงานตายโหง” หนึ่งในสี่สบถหัวเสีย
“รายงานเสี่ยสิวะ ยืนรอห่าไรของมึงอีก” คนเดิมแหวเพื่อนให้โทรบอกเสี่ยวิกรม
ก่อนที่มันจะรีบกดเบอร์เจ้านายเพื่อรายงานสถานการณ์
[อะไรของพวกมึงวะ รีบไปตามตัวมาให้ได้ กูไม่เอาใครทั้งนั้น]
“ครับๆ..พวกผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้ครับ” ลูกน้องคนที่รับหน้าที่โทรไม่รีรอ
ขานรับคำสั่งอย่างกระตือรือร้น พร้อมกับสบตาพลพรรคให้เข้าใจด้วย
“คำสั่งด่วน ตามตัวให้เจอ” หลังวางหูก็หันบอกเพื่อน
โดยไม่มีใครสนใจนนท์กับกิ่งที่ยืนบื้อไม่เข้าใจสี่หนุ่มลูกน้องเสี่ยพูดถึงเรื่องอะไรกัน
“ตกลงจะเอายังไงครับคุณ” นนท์อดใจรอไม่ไหว ถึงจะหวาดกลัวแต่ก็ยอมเอ่ยปากถาม
“ไม่มีอะไรแล้ว กลับไปได้เลย” เป็นอันสรุป ก่อนทั้งสี่จะก้าวยาวเดินออกจากตรงนี้
ไม่มีใครให้ความกระจ่างกับนนท์และกิ่งแต่อย่างใด
“ไอ้พวกบ้านึกจะไปก็ไปจะมาก็มา ไม่ติดกลัวมันยิงไส้แตกคงได้ด่าล้างน้ำไปแล้ว..เสียเวลาชะมัด”
ออร์แกไนซ์หนุ่มบ่นอย่างหงุดหงิด ก่อนหันมาขอโทษขอโพยกิ่งแก้วที่ยืนข้างๆ เป็นอันจบภารกิจทั้งที่ยังไม่ได้เริ่ม
“พี่ชายเพชรรอใครอยู่คะ” คุณหญิงมุกถามคุณชายเพชรหลังจากเธอมาพบคุณชาย
แต่ท่าทีของคุณชายดูไม่รีบร้อนจะกลับอย่างที่แจ้งมาในไลน์ นัดให้เธอมาเจอตรงล็อบบี้
“พี่รอคุณทองเปลวอยู่ครับ” คุณชายตอบตามความเป็นจริง
“คุณทองเปลว..คนที่ทำกระเป๋าตังค์หล่นในรถหรือคะ”
“อืม..ใช่แล้วล่ะ”
“พี่ชายไปนัดหมายคุณทองเปลวตอนไหน ได้เบอร์เขามาหรือไง”
“เปล่าหรอก..พี่เจอตัวเขาโดยตรงต่างหาก” คุณหญิงมุกถึงกับสงสัยหนักเข้าไปใหญ่
ในเมื่อคุณชายมางานเลี้ยงพร้อมเธอ คลาดสายตากันก็แค่ช่วงเต้นรำ
ซึ่งคุณชายเป็นคู่เปิดฟลอร์ แล้วทำไมถึงมีเวลาไปเจอกับคุณทองเปลวได้
“ไม่ต้องทำหน้าแปลกใจขนาดนั้น คุณทองเปลวเขามางานนี้ด้วย
คนที่เป็นคู่เต้นรำของพี่ไง หญิงมุกจำเธอไม่ได้สิ” คุณชายเฉลย
“ห๊ะ!..ว่ายังไงนะพี่ชาย ราชินีคลีโอพัตราแสนสวยนั่นนะเหรอคือคุณทองเปลว”
คุณหญิงมุกเผลออุทานอย่างไม่เชื่อหู ในสิ่งที่คุณชายพูดถึงการพบหน้าคุณทองเปลวเจ้าของกระเป๋าตังค์
และอาจจะเป็นทายาทของท่านอาทองเกล้า เครือญาติที่มีส่วนในกองมรดกของวังมณีรมย์อีกด้วย
“ใช่แล้วหญิงมุกราชินีคลีโอพัตราคือคุณทองเปลว คนเดียวกันกับผู้หญิงที่เซอร์ไพรส์พี่กับหญิงมุกในร้านกุชชี่
ตอนแรกพี่ก็จำเธอไม่ได้กระทั่งได้สบตาด้วย พี่จึงเริ่มจับโครงหน้าก่อนจะแน่ใจเป็นเธอ
ก็ตอนที่ได้เต้นรำอยู่ใกล้เธอแล้ว เราจึงมีโอกาสคุยกัน..พี่อาสาพาคุณทองเปลวไปส่งคอนโดตั้งใจคืนกระเป๋าตังค์ให้
และจะถือโอกาสนี้สอบถามประวัติความสัมพันธ์ของคุณทองเปลวกับคุณมัลลิกาให้แน่ชัด
เพื่อจะได้มีข้อมูลโยงไปถึงท่านอาทองเกล้า หากเขาเป็นสายเลือดของท่านอาจริงล่ะก็
พี่คงต้องดำเนินการพาเขาเข้าวังมณีรมย์ รับสิทธิที่เขาพึงมีพึงได้ให้ถูกต้อง”
“เป็นอย่างนี้นี่เอง ตายจริง..มุกไม่คิดมาก่อนว่าคุณทองเปลวเธอจะสวยชนิดดารานางแบบแถวหน้ายังต้องหลบ
แบบนี้มุกได้น้องสาวแล้วสิพี่ชายเพชร เธอดูไม่มีส่วนไหนเป็นผู้ชายอีกแล้ว ตายๆ..สวยจนมุกอายล่ะ”
คุณหญิงมุกดาพอทราบความจริง ไม่เก็บอาการตื่นเต้นเอาไว้อีกต่อไป
“อย่าเพิ่งด่วนสรุป ก่อนพี่ที่จะแยกกับคุณทองเปลว เขาบอกพี่ว่า เดี๋ยวพี่อาจจะตกใจที่เห็นเขาในรูปลักษณ์ผู้ชาย
เขาย้ำอีกว่าปกติถ้าไม่ใช่เป็นเวลาทำงานเขาจะเป็นผู้ชายธรรมดาทั่วไป พี่เองก็อยากรู้ว่าเขาจะเป็นผู้ชายในสภาพไหน
ยังนึกภาพไม่ออกเช่นกัน” คุณชายเพชรปรามคุณหญิงมุกดาก่อนที่จะจินตนาการไปไกล
หลังผู้ที่ตกเป็นหัวข้อสนทนาทิ้งท้ายให้รู้ว่า ตัวตนแท้จริงของเปลวฟ้าหรือคุณทองเปลวยังคงเป็นผู้ชายปกติ
ที่ยอมรับว่าตัวเองเป็นเกย์ ซึ่งในส่วนนี้คุณชายไม่ได้พูดออกไป เพราะยังคงรักษาเกียรติของเปลวเอาไว้
ไม่มีเจตนาพูดจาให้เป็นภาพลบในทุกด้าน
“ตายจริง ยิ่งฟังพี่ชายบอกมุกยิ่งคิดว่า คุณทองเปลวเขาน่าสนใจมีมุมให้ค้นหาเยอะแยะมากมาย
คนอะไรเป็นผู้หญิงออกขนาดนั้นยังบอกว่าปกติเป็นผู้ชายธรรมดาทั่วไป ตกลงนี่มุกชักอย่างเห็นแล้วสิคะ
ตอนเขาเป็นผู้ชายจะมีหน้าตาออกมายังไง” คุณหญิงมุกดาพูดได้ไม่ทันจบคำ
สองหนุ่มที่กำลังถูกกล่าวถึงก็เดินตรงมายังราชนิกุลพี่น้องที่นั่งรอโชนรับรองลูกค้าในส่วนล็อบบี้
ซึ่งทางโรงแรมจัดไว้ให้พักผ่อน คิ้วเข้มคุณชายเกิดอาการขมวดมุ่นในทันที
เมื่อเห็นหนุ่มร่างเพรียวสูงสมส่วนมัดผมยาวรวบไว้กลางหลัง ใส่เชิ้ตขาวปล่อยชายออกนอกกางเกงเดฟสีดำ
สวมแว่นสีชาปกปิดลูกตาเอาไว้ กลับเน้นโครงหน้าเรียวสวยให้ดูน่ามองหนักกว่าเดิม
โดยเฉพาะจมูกโด่งเล็กเรียวรับกับรูปหน้าอย่างเป็นเอกลักษณ์
“ขอโทษด้วยครับที่ทำให้คุณชายรอนาน” ประโยคแรกหลุดจากปากได้รูปสีหวาน
ทั้งคุณชายเพชรและคุณหญิงมุกถึงกับลุกจากโซฟาขึ้นยืนโดยยังไม่ใครหลุดคำพูดออกมา
ยิ่งคุณชายด้วยแล้วถึงกับอึ้งชะงักงันไปแล้วตอนนี้ ลูกตาคมจ้องใบหน้าหล่อออกสวยของชายหนุ่มตรงหน้า
ที่ดิ่งเข้ามาทักจนลืมกะพริบ
“พี่ชายเพชรคะ นี่ใช่ไหมคุณทองเปลว”
“ห๊ะ..อืม..ใช่ๆ คุณทองเปลวนี่หญิงมุกน้องสาวผม คุณเคยเจอเธอแล้วตอนที่เราพบกันครั้งแรก”
คุณชายได้สติหลังคุณหญิงมุกเป็นคนป้อนคำถามดึงอาการนิ่งค้างพี่ชายกลับคืนมา
คุณหญิงเองอดยอมรับไม่ได้ว่าหนุ่มหน้าสวยตรงหน้าดูมีเสน่ห์จนไม่อาจละสายตาได้จริงๆ
“ยินดีที่พบกันอีกครั้งครับคุณหญิงมุก” เปลวทักทายพร้อมส่งยิ้มไมตรีจิตไปให้อย่างจริงใจ
เห็นใกล้ๆ จึงจะจำได้ว่านี่คือคนเดียวกับผู้หญิงสวยที่พบกันในร้านกุชชี่ ซึ่งเปลวได้สร้างวีรกรรมหน้าแตกเอาไว้
“ยินดีเช่นกันค่ะ ที่เจอคุณทองเปลว” คุณหญิงมุกยิ้มตอบเช่นกัน
“เรียกผมเปลวก็พอครับ ผมขอแนะนำเพื่อนให้คุณชายคุณหญิงได้รู้จักไว้ด้วย
เพื่อนรักผมครับชื่อสนิมเรียกสั้นๆ ว่าหนิมครับ” เปลวแนะนำสนิมให้คุณชายเพชรกับคุณหญิงมุกรู้จัก
“หวัดดีครับ ผมหนิมครับ” สนิมยกมือไหว้อย่างให้เกียรติด้านฐานันดรศักดิ์
ถึงจะไม่แน่ใจว่าคุณหญิงมุกความจริงแล้วจะแก่หรืออ่อนวัยกว่าก็ตามเถอะ
ส่วนคุณชายแม้จะหน้าใสจนคาดเดาอายุลำบาก แต่ก็พอจะมั่นใจได้ว่า น่าจะแก่กว่าสักสองสามปี
“ไม่ต้องไหว้มุกหรอกค่ะคุณหนิม เอาเป็นว่าพวกเรารีบออกไปก่อนดีกว่าไหม
ค่อยหาที่พูดคุยทำความรู้จักมักจี่กันให้มากกว่านี่ดีกว่า คือที่นี่ไม่สะดวกสักเท่าไหร่”
คุณหญิงมุกออกความเห็นเพื่อจะเปลี่ยนสถานที่ให้พ้นไปจากโรงแรมนี้ก่อนเป็นดีที่สุด
ขืนชักช้าอาจทำให้คุณมรกตเธอเอ๊ะใจ พานจะยุ่งวุ่นวายกันไปเปล่าๆ
“แล้วแต่คุณชายคุณหญิงสะดวกเถอะครับ ผมกับหนิมเราไม่มีธุระที่ไหนกันแล้ว
อีกอย่างตอนนี้ผมรู้สึกหิวพอสมควร” เปลวบอกไปตรงๆ เวลานี้กระเพาะอาหารเริ่มเรียกร้องการดูแล
ก่อนหน้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องก็เพราะไม่ต้องการให้มีปัญหาในการใส่ชุดหากทานอะไรมา
“ถ้างั้นตกลงตามนี้ หญิงมุกพาคุณเปลวกับคุณหนิมไปรอพี่ที่หน้าประตู
เดี๋ยวพี่เอารถวนมารับ” คุณชายบอกกับน้องสาว
“เดินไปพร้อมกันเถอะครับ จะได้ไม่ต้องเสียเวลา” เปลวรีบชิงบอกเสียเอง
ไม่อยากให้คุณชายลำบากวนรถมารับ ทำเอาหญิงมุกกลั้นขำไว้แทบไม่อยู่
ถึงกลับกลั้นหัวเราะหน้าแดงก่ำ เปลวคงไม่รู้ธรรมเนียมคุณชายถือเรื่องการบริการสุภาพสตรี
ที่ให้รอเพราะคุณหญิงมุกคือสตรีที่ไม่สะดวก หากต้องเดินไปยังลานจอดด้วยชุดราตรีออกงาน
สีหน้าคุณชายถึงได้ดูอิหลักอิเหลื่อเหมือนตัดสินใจลำบาก
“ไปด้วยกันนี่แหละค่ะพี่ชาย มุกว่าข้อเสนอของคุณเปลวดีออก” คุณหญิงมุกพูดกลั้วขำ
ในขณะคุณชายหันมองหน้าเปลวกลับไม่เห็นถึงความผิดปกติแต่อย่างใด เหมือนคนพูดไม่ได้คิดอะไรด้วยซ้ำ
ท่าทางดูเป็นคนเรียบง่ายสบายๆ พอคุณหญิงมุกย้ำแบบนี้คุณชายจึงไม่ปฏิเสธ
ทั้งหมดพากันเดินออกจากล็อบบี้มุ่งหน้าไปที่รถคุณชายจอด
ในจังหวะชายฉกรรจ์ทั้งสี่คนโผล่ออกมาทันเห็นหลังไวๆ แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นใครเพราะเห็นไกลๆ
“มึงว่านั่นคุณชายเพชรรัตน์หรือเปล่าวะ” อีกคนถามเพื่อนในกลุ่ม
“กูว่าใช่นะ บุคลิกลักษณะอย่างนี้เป็นใครไม่ได้หรอก” มีคนร่วมสนับสนุนแนวคิด
“กูว่าถ้าเป็นคุณชายเพชรจริงล่ะก็ มีสิทธิ์อีเปลวอยู่ในกลุ่มนั่นด้วย เรารีบตามไปดีกว่า
มีโอกาสเป็นไปได้สูงไม่อย่างนั้นจะรีบกลับทำไมงานยังไม่เลิกเสียหน่อย”
ความเห็นของเพื่อนมีน้ำหนัก ทั้งหมดรีบตามไปในทันทีอย่างไม่รอให้เสียเวลา
งานนี้คำสั่งเสี่ยต้องให้ได้ตัวเปลวมา ไม่อาจพลาดให้โดนตำหนิซ้ำอีก หลังจากทำงานพลาดกันมาหลายหนแล้ว..
มาอัพให้ก่อน 50% นะคะ คือเร่งไม่ทันจริงๆค่ะ
ผิดพลาดต้องขออภัยกันด้วยนะคะ ครึ่งที่เหลือเป็นบทบู๊
ขอเวลาแก้ไขให้มันได้ดั่งใจอีกสักหน่อย พรุ่งนี้จะมาอัพให้ค่ะ
คงเป็นประมาณสองทุ่มครึ่งนะคะ ขอบคุณที่รอคอยกันค่ะ
