{CH 33 I warmly}
“ทัพ พล ถ้าไม่ตื่นฝ้ายจะตีนะ!” เจ้าเด็กอนุบาลอ้วนพีนอนอุตุอยู่บนเตียงนุ่มจนน่าหมั่นเขี้ยว
เราพี่น้องกลับมาอยู่ที่บ้านใหญ่ได้ครึ่งปีกว่าๆแล้ว งานศพของพ่อผ่านพ้นไปอย่างเรียบร้อย สองแฝดไม่รู้เรื่องว่าเค้าคือใครผมเองก็ไม่ได้บอกไม่อยากให้สองแฝดเสียใจกระทบกระเทือนจิตใจไปมากเลยจัดงานแบบเรียบง่าย โดยบอกสองแฝดว่าเป็นอาคนรู้จัก ผมบาปมาก … ปาบจริงๆผมยอมรับที่ไม่ให้น้องรู้เรื่องนี้แต่ที่ทำทั้งหมดก็เพื่อสองแฝดแก้วตาดวงใจของผมเพียงเท่านั้น
ส่วนราชา ตอนนี้ถูกส่งไปที่สถานกักกันพิเศษสำหรับคนไม่ปกติทางจิต พูดง่ายๆ ราชามีอาการทางจิตได้รับผลกรรมเหมือนตกนรกทั้งเป็นอยู่ในห้องแคบๆ ผนังรอบด้าน มีคนเฝ้าอยู่หน้าห้องตลอด 24 ชั่วโมง ไร้อิสรภาพชดใช้กรรมอยู่ในนรกบนดิน และผมก็อโหสิกรรมให้หมดแล้ว ขออย่าได้เจอะเจอกันอีกเลย
“พลลุกไปอาบก่อนสิ”
“ทัพนั้นแหละ”
“ทั้งคู่เลย ไปๆ ไปอาบน้ำพร้อมกันเลย เดี๋ยวฝ้ายไปเรียนสายนะ” ผมว่าและลุกขึ้นไปเอาเสื้อเด็กอนุบาลออกมาจากตู้ริมห้อง เจ้าสองแฝดบ่นกันหงุงหงิงแต่ก็ยอมลุกขึ้นมานั่ง หัวงี้ฟูเชียวละ หึหึ ผมหันไปมองก่อนจะอมยิ้มเดินไปหอมเหม่งเด็กน้อยคนละที ก่อนจะจูงมือเดินเข้าไปในห้องน้ำ
“ฝ้าย”
“ว่าไง” ผมหันไปมองเจ้าสองแฝดที่นั่งมองผมตาแป๋วอยู่ในอ่างน้ำ โธ่ๆ พ่อหนุ่มบ้านนี้มันหล่อจริงจริ๊งงงงงงงงงงงง
“ไม่อาบน้ำให้พวกเราหรอ” เจ้าพลถามขึ้นหน้านิ่ง แหมๆ ดูพี่ใหญ่เราสิ ตีขรึมแต่คำพูดนี้น่ารักน่าชังจริงๆ ทำแบบนี้แล้วเมื่อไหร่ ฝ้ายจะเลิกเห่อน้องละครับท่านผู้ชม
“โตเป็นหนุ่มแล้ว อาบเองสิ”
“บุยยยย เรายังเด็กน้อยแดงๆกันอยู่เลย”ผมพูดและทำท่าจะเดินออกนอกห้องน้ำไป ได้ยินเสียงบ่นน้อยๆของเจ้าสองแฝดและเผลอหัวเราะออกมาเสียไม่ได้ ใครสั่งใครสอนนักหนาเนี้ย
“อาบกันเองแล้วกันหนุ่มๆ” ว่าแล้วผมก็เดินออกมาจากห้องน้ำมาเตรียมเสื้อผ้าให้สองแฝดด้านนอก ในระหว่างที่กำลังหาเสื้อหาผ้าให้น้อง
หางตาเหลือบไปมองโต๊ะเครื่องแป้งที่อยู่ตรงข้ามก่อนจะหันไปมองตรงๆ เสื้อสีขาว … กางเกงยีนส์สีดำเข้ารูป เจ็คเกตยีนส์ที่ผมใส่อยู่ บ่งบอกสถานะได้ดีว่าตอนนี้ผมได้เข้ารับการศึกษาในระดับปริญญาตรีปีที่ 1 อยู่ในมหาลัยเอกชน ผมเข้าได้โดยการสอบเทียบวุฒิทำให้รู้ว่าในระหว่างที่ผมหยุดเรียนแต่ยังเพียรอ่านเพียรเรียนด้วยตัวเอง ทำให้ผมมีความรู้เทียบเท่ากันทุกคนได้ ปลื้มจริงๆคนอะไรไม่รู้น่ารักและยังเก่งอีก หึหึ
“ภูมิใจอะไรขนาดนั้น” ผมย่นจมูกให้กับเจ้าจอมร้ายที่ยืนกอดอกมองผมอยู่ที่หน้าประตู คิดว่าหล่อหรือไงเจ้าสองแฝดที่อยู่ในห้องน้ำหล่อกว่าตั้งเยอะ
ผมหันไปมองตรงๆ ก่อนจะเหลือบมองประตูห้องน้ำได้ยินเสียงเจ้าสองแฝดร้องเพลงเป็ดกันอยู่ ก็กางมือที่กอดอกหลวมๆอยู่ออก อมยิ้ม มองจอมร้ายอย่างรู้กันแต่จอมร้ายไม่ยอมเข้ามากอดผม กลับใช้นิ้วกระดิกเรียกผมเหมือนหมาอีก ก็ได้ๆ เห็นว่าวันนี้วันดีหรอกนะเลยยอมไปก่อน ฮิฮิ
“นี้แหนะ กอดเลย” ผมพุ่งเข้าไปกระแทกตาลุงอย่างแรงเอามือกอดหนับไว้ที่กลางลำตัวแข็งนั้น ซิกแพคล้วนๆไม่มีไขมันผสมเลยนะจะบอกให้
“เด็กเจ้าเล่ห์” แหมๆ ตาลุง ผมเอื้อมตัวไปจูบปลายคางเคราสวยของตาลุงสามีที่รักของผมที่กอดผมเอาไว้หลวมๆอย่างอ่อนโยน แหมๆ ทำตัวน่ารักจังเลยคุณสามีของผม
“เรียนวันแรกอย่าเที่ยวไปโปรยเสน่ห์ให้ใครละ จับได้พ่อจับโยนบ่อไอ้เข้แน่”
“รู้น่า … แต่ถ้ามีคนมาชอบเอง ทำไงอะ”
“ไม่อนุญาต”
“เอ๊า จะไปห้ามได้ไง”
“เดี๋ยวทำป้ายห้อยคอให้ เขียนว่าเด็กคนนี้มีสามีแล้ว” มือหนาจับปกคอเสื้อผมจัดระเบียบสังคมนิดหน่อย ก่อนจะเอามาวางไว้บนหัวผมขยี้เหมือนหมาน้อย ตาลุงๆ รักนะ ฮิฮิ
“จะบ้าหรือไง หึหึ” ผมหัวเราะ
ก่อนที่จะหันไปเห็นเจ้าตัวลื่นสองตัวที่พากันแก้ผ้าวิ่งออกมาจากห้องน้ำเป็นลูกลิง พอเห็นเจ้าจอมก็พากันพุ่งเข้าไปหา ดีที่เจ้าจอมหลักดีเลยไม่ล้มก้นจ้ำเบ้าให้เสียฟอร์มตัวร้าย เราช่วยกันปะแป้งแต่งตัวให้หนุ่มๆ ก่อนจะอุ้มเจ้าอ้วนสองคนลงมากินข้าวเช้าให้เรียบร้อย คุณหญิงตอนนี้จัดทริปเที่ยวรอบโลกอีกครั้งหนีจากปัญหาทุกอย่างไปอย่างสวยๆ
ผมพาสองแฝดไปส่งที่โรงเรียนอนุบาลก่อนที่สารถีที่รักของผมจะขับมาส่งที่มหาลัยพอจอดรถได้ ก็เกิดอาการตื่นเต้นเมื่อเห็นตึกสูงตรงหน้า ประตูรั้วที่เหมือนกั้นระหว่างโลกที่ผมเคยเป็นกับโลกที่ผมกำลังจะได้เข้าไป เฮ้อ … เอาจริงเหรอเนี้ย
“อ้าวไอ้หนุ่ม หมดกำลังใจแล้วเหรอไง”
“เปล่าสักหน่อย แค่ตื่นเต้น”
“หึหึ ดื้อๆแบบนี้เข้าไปโดนรับน้องซะให้เข็ด”
“ใจร้าย”
“เลิกและโทรหาฉันเดี๋ยวมาหาและไปรับแฝดด้วยกัน”
“ใครขอ” ผมเอียงคอถามและเนียนเอาหัวลงไปซบกับไหล่หนาเลย อ้อนหน่อยได้ไหม อ้อนหน่อยน๊า งื้อๆ
“แล้วแต่”
“เห็นง้อหรอกนะเลยไป ถ้าไม่ง้อไม่ไปหรอกนะ” ผมหน้างอใส่เจ้าจอมและก็โดนมะเหงกไปตามระเบียบ
ก่อนที่ผมจะทำโทษด้วยการขโมยหอมแก้มสากไปหนึ่งทีและวิ่งลงมาจากรถ ฮิฮิ เสียรู้เด็กตลอดเลตาลุง เอาละ … จากนี้ไป ผมจะเริ่มทำอนาคตของตัวเอง ตามที่ได้ตั้งใจเอาไว้ เพื่อนน้อง เพื่อครอบครัวใหม่ของผม เพื่อจอมร้าย ให้พวกเขาได้ภูมิใจ ว่าอย่างน้อยผมก็ทำได้
.
.
.
-จอมร้าย- ผมนั่งมองฝ้ายที่ยืนอยู่หน้ารั้วสักพักคล้ายกำลังคิดและทำใจอะไรสักอย่างในขณะที่ใครหลายคนต่างก้าวเข้าไปในนั้นอย่างไม่คิดอะไรก่อนที่เจ้าตัวแสบจะยอมเดินเข้าไปในมหาลัย ผมเข้าใจเด็กคนนี้นะ ในบางครั้งการเริ่มต้นอะไรใหม่ๆมันยากเสมอ เด็กที่เคยไม่เหลือ ไม่มี และต่อสู้ทุกอย่างมาเพียงลำพัง วันนึงต้องมาใช้ชีวิตตามปกติเหมือนเด็กทั่วไปแบบนี้ ต้องใช้เวลาในการปรับตัวกันเป็นธรรมดา และฝ้ายเมียรักของผม ก็เป็นคนเก่ง ผมเชื่อว่าสุดท้าย เด็กคนนี้เขาจะมีอนาคตที่ดีไม่แพ้ใคร จากที่เคยทำเพื่อคนที่รัก ตอนนี้มีคนที่รักทำเพื่อเด็กคนนั้นบ้าง … คงจะรู้สึกดีไม่น้อยสินะ หึหึ
ดีและละ ผมก็อยากให้มันเป็นแบบนั้น เพราะเจ้าเด็กตัวแสบคนนั้นก็คือแก้วตาดวงใจผมเช่นกัน แต่หวังนะ หวังว่าจะไม่มีหมาตัวไหน สเร่อเข้ามาเกาะแกะนะ ไม่งั้นพ่อฆ่าล้างโคตรจริงๆ จะหาว่าไม่เตือน
พอส่งเจ้าเด็กฝ้ายเสร็จก็หักพวงมาลัยตีรถกลับมาบริษัท โดยมีไอ้เรกกี้และอเดลยืนรออยู่ก่อนแล้วที่หน้าห้องทำงาน พอเห็นผมก็พากันยกมือไหว้อย่างพร้อมเพียง … ผมขมวดคิ้วและเดินผ่านเข้ามาในห้องโดยมือไอ้เรกกี้กระดิกหางร่าเริงเดินตามเข้ามาตามด้วยไอ้อเดลที่ดูเหมือนฝืนใจทำตามคู่หูเอาซะมากๆ มาแนวนี้พวกมันสองคนต้องมีอะไรแน่ ๆ
ณ ตอนนี้ ทุกอย่างกลับมาเป็นดั่งปกติ บริษัทในเครือ กฤตยชญ์เนตร หุ้นที่ผมเคยเททิ้งไปทั้งหมด ผมก็กว้านซื้อกลับมาแถมยังมังคั่งมากกว่าเดิม เพราะผมได้วางแผนเอาไว้ก่อนหน้านี้อย่างเต็มที่ จากที่เคยเป็นธุรกิจสีเทา เมื่อจบเรื่องผมก็ปรับเปลี่ยนทั้งรากและโคน ทำให้เป็นสีขาวถูกกฎหมายหมดสิ้นหมดพ้นอำนาจชั่วของไอ้ราชาเสียที ส่วนตัวมันน่ะ ตอนนี้ ก็ชดใช้เวรกรรมต่อไป เคยไปดูสภาพมันอยู่ครั้งนึง พอเห็นหน้าผมเท่านั้นแหละ ความเป็นสัตว์ในร่างคนของมันก็ปะทุขึ้นเข้ามาหวังจะตะครุบผม เพียงแค่ติดกระจกนิรภัยอยู่อย่างงั้น … ผมไม่รู้ว่าตัวของมันบ้าจริงหรือบ้าปลอมหรอกนะ แต่ที่รู้ๆ ตัวของมันหมดแล้วซึ่งอิสรภาพตลอดชีวิตอันไร้ค่าของมัน ผมเองก็ได้แต่สะใจอยู่ในอก และอโหสิกรรมให้หมดสิ้น ไม่มีความเห็นใจและเยื่อใยในความเป็นสายเลือด … พ่อไม่ฆ่าให้ตายก็บุญ ถ้ามาปล่อยให้ฆ่า ให้มันทำร้าย ให้มาทำลายสิ่งที่ผมเฝ้าปกป้อง แบบนั้น ละ จะบาปก็บาปเถอะปล่อยแม่ง
“มีอะไรว่ามา” ผมนั่งลงที่เก้าอี้ทำงานและคว้าเอาเอกสารที่เลขาเอามาวางไว้ตั้งแต่เช้าเปิดอ่าน ได้ยินเสียงไอ้เรกกี้เถียงอะไรกับคู่หูมันพอผมเหลือบตาขึ้นมองมันก็สะดุ้งและยิ้มแหยะๆให้ผม … พ่อชัดจะหงุดหงิดและ อ้ำๆอึ้งๆอยู่นั้นแหละ
“คือผมกับอเดล อยากจะขอลาพักร้อนน่ะครับ” ภาษาอิตตาลีดังออกมาจากปากไอ้เรกกี้ ผมขมวดคิ้วมองหน้ามันแบบตรงๆ ร้อยวันพันปีไม่เคยขอจะไปไหน วันนี้นึกคึกอะไรจะไปไหน
“ไปไหน”
“คือที่บ้านเด็กกำพร้า ของผมสองคน มีจัดงานศพของมิชชันนารีที่เลี้ยงพวกเรามา พอดีท่านเสียด้วยวัยชราน่ะครับ” ผมไม่ตอบอะไรแต่ถอนหายใจอย่างอ่อนใจ
ชีวิตคนเรา ที่สุดแล้วจุดจบของชีวิตก็ไม่ต่างกัน ผมจำไม่ค่อยได้แล้วว่าวันแรกที่เจอกับไอ้เด็กลูกครึ่งอิตตาลีกับไอ้เด็กลูกครึ่งฝรั่งเศสในดินแดนอันห่างไกลจากตอนนี้นั้น ที่ผมไปดูงานที่ประเทศแมคซิโก ในขณะที่ผมขับรถผ่านสลัมตาเจ้ากรรมก็เหลือบไปเห็นไอ้เด็กตาน้ำข้าวผิวขาวสองคนอายุพอๆกับเจ้าฝ้ายตอนนี้นั่งอยู่เคียงข้างกันท่ามกลางเด็กผิวสีที่คอยรังแก สภาพมันตอนนั้นไม่ต่างจากหมาข้างถนน อดโซและเลอะเทอะด้วยกันทั้งคู่ โทษใครไม่ได้เพราะความอ่อนแอของมันทั้งสองคน หลังจากที่กลับมาที่พัก ผมก็ออกคำสั่งให้คนไปรับตัวมันสองคนมาอย่างเสียไม่ได้
“เอาไปถือว่าฉันบริจาคให้กับมูลนิธินั้นแล้วกัน” ผมโยนเช็คเงินให้มันสองคน
ไอ้เรกกี้หัวเราะคิกก่อนจะคว้าเอาเช็คไปเก็บไว้ในกระเป๋าอย่างไวปานวอกของมัน ก่อนที่จะพูดขอบคุณผมรัวๆ 10 กว่าครั้ง จนไอ้อเดลต้องคว้าเอามือปิดปากมากของเพื่อนสนิทมันซะแน่น เดี๋ยวก็ตายห่า เปลืองข้าวสุกที่กูเลี้ยงมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยหมด
“ไปแค่อาทิตย์เดียวกับนาย เดี๋ยวเราสองคนจะรีบกลับมา ขอบคุณสำหรับเงินนะครับ” สำนวนแปร่งๆของไอ้อเดลพูดไทยขอบคุณผม มันยังพูดชัดกว่าไอ้เรกกี้นะอยู่ไทยมา 10 กว่าปีไม่ทำให้ภาษามันแข็งแรงไปมากกว่านี้เลยเหรอไง ผมเองก็สงสัยแต่ก็ขี้เกียจถามเพราะสำหรับผมจะภาษาอะไรก็ไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้ว
“นายครับ นี้ครับ” ผมเหลือบมองกระดาษบนโต๊ะที่ถูกวางไว้ตรงหน้า
“บัตรทัวร์กระบี่ฟรีครับ พอดีวันก่อนเจอนายโบ้ เลยไปปล้นมาได้ ไปเที่ยวกับนายหญิง เอ้ย กับคุณฝ้ายนะครับพักผ่อนๆ” พูดไปก็หัวเราะไป ก่อนจะถูกไอ้อเดลลากออกไปเพราะเริ่มพูดมากจนผมเริ่มรำคาญ เมื่อทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ ผมก็เอื้อมไปหยิบตั๋วทัวร์กระบี่มาดู … นานๆทีไปเที่ยวแบบคนธรรมดาบ้างก็คงดี
.
.
.
-ฝ้าย- “พลกินดีๆสิ เลอะเทอะหมดแล้ว” ผมเอ็ดไอ้เด็กน้อยที่กินไก่เลอะเทอะเต็มหน้าไปหมด เจ้าทัพเองก็หันมายิ้มล้อเลียนน้องในขณะตัวเองก็ไม่ต่างจากน้อง อะ เอาเต็มที่
ผมถอนหายใจและเหลือบมองโทรศัพท์ตัวเองที่ยังสงบนิ่ง พอมหาลัยเลิก ผมก็โทรหาพ่อคุณพ่อทูนหัว แต่เลขาก็รับบอกติดประชุมอยู่ เห็นว่าเวลาแฝดเลิกแล้ว เลยมารับแฝดรอจอมร้ายอยู่ที่นี้ รอให้จอมร้ายโทรมา แต่จะ 5 โมงแล้วก็ไม่เห็นโทรมาสักที น่าเบื่อจริงๆ ไม่ชอบแบบนี้เลย ไม่รู้ว่าป่านนี้เป็นยังไง เครียดไหม หรือเกิดอะไรขึ้นที่บริษัทหรือเปล่า แต่ผมจะไม่ทำอะไรผลีผลาม เพราะได้รับบทเรียนจากเหตุการณ์นรกจัญไรนั้นแล้ว ต้องอดทนรอ รอ รอ ต่อไป
“ฝ้าย เป็นไรอะ” ผมตกใจเมื่อมือมันๆมาจับเอาที่หน้า โว๊ววววว สิวเรียกหากูแล้ววววว
“กินเสร็จแล้วใช่ไหม ทัพพาน้องไปล้างมือ”
“เด็กน้อยมาล้างมือเร็ว โม๊ะๆๆๆ”
“ไม่อ๊าววววว วันนี้พลเป็นพี่นะ เราตกลงกันแล้วนี้ว่าสลับวันกันอะ!” ห๊ะ อะไรกันนะ มีสลับกันเป็นพี่เป็นน้องด้วย ผมเพิ่งรู้นะเนี้ย มองเจ้าสองแฝดตะแง้วๆกันไปล้างมือและก็อิจฉาเป็นเด็กเป็นเล็กนี้ไม่ต้องคิดอะไรมากเลยจริงๆนะ
วันนี้เป็นวันแรกที่ผมได้ก้าวเข้าไปในรั้วมหาลัยเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ดีงามมาก ผมรู้ว่าเอกชนไม่รับน้องเหมือนมหาลับรัฐบาล แต่ออกไปทางแนวโอ๋น้องหน่อยๆ ก็ดีนะ ผมไม่อยากจะไปถูกใครตะโกนใส่หน้าเหมือนกันชีวิตนี้ผมว่าผมเจอมาพอแล้วนะ ฮ่าๆๆๆๆ พรุ่งนี้ผมก็อยากไปอีกจังเรียนวันแรกด้วย ตื่นเต้นอยากเห็นห้องเรียนของมหาลัยจะเหมือนห้องเรียนเด็กวัดแบบผมไหม แต่ในหนังมันไม่เหมือนนะ อาจารย์จะสวยจะหล่อไหม เพื่อร่วมห้องจะน่ารักไหม อ่อ ผมลืมบอกไปว่าผมเรียนบริหารนะ เผื่อจบไปสามีจะรับผมเข้าไปช่วยทำงานบ้าง หึ ลองไม่รับสิ พ่อจะว๊ากให้ดู ไปนอนบ้านหมาหน้าบ้านเลยไป๊!!!!!!
“นั่งทำอะไร” ผมย่นจมูกก่อนจะหันไปมองตามเสียงที่จำได้ขึ้นใจ
จิตใจจะไม่โทรหาผมสักหน่อยใช่ไหม ถามกันหน่อยว่าวันนี้ผมทำอะไรบ้าง ให้ไปรับไหม หรือว่าอยู่ที่ไหนกินข้าวหรือยังเหมือนแฟนคนอื่นๆบ้าง เฮ้อ แต่ผมน่าจะรู้นะว่าจอมร้ายยังไงก็คงเป็นเสือร้ายวันยังค่ำ อ่อนโยนเป็นเสือเชืองกับน้องหน่อยไม่ได้หรือไงฟร๊ะ!!!!
“ทำไมไม่โทรมาง่ะ” ผมแว๊ดใส่ทันทีที่จอมร้ายลุคมาเฟียมานั่งข้างๆผมที่นั่งอยู่บนม้าหินข้างสนามหญ้า เห็นเจ้าแฝดล้างมืออยู่ลิบๆ จอมร้ายยักไหล่อย่างน่าหมั่นไส้ ก่อนจะคว้าเอากล้องข้าวที่สองแฝดกินเหลือไปเคี้ยวยับๆ ผมพยายามแย่งกลับเพราะไม่อยากให้จอมหยิ่งผยองกินของเหลือจากใคร
“อยากกินเหรอไง” จอมร้ายจิ้มไส้หรอกมายัดใส่ปากผม ก่อนที่ผมจะอ้าปากรับมากินเสียไม่ได้ จอมร้ายกับคนอื่นผมไม่รู้นะ แต่กับผมและน้อง เขาเปลี่ยนไปมาก และทำให้ผมรักเขาจากใจจริง โอ้ยยยย มาจุ๊บๆ หน่อยได้ไหม งื้ออออ อยากอ้อนนนนน หงุงหงิงๆ
“ทำหน้าแบบนี้เดี๋ยวพ่อก็จูบโชว์แฝดหรอก”
“ไม่เอาอายเด็ก”
“หึหึ” จอมร้ายหัวเราะก่อนที่สองแฝดจะวิ่งพุ่งเข้ามาซะก่อน เอ๊าๆ พอเจอลุงมึงก็ลืมพี่เลยนะ ไอ้แฝดตัวร้ายพอๆกับจอมร้ายนั้นแหละ
พองอแงกันเสร็จก็พากันกลับบ้านแต่ระหว่างทางเจ้าแฝดพุงป่องก็ร่ำร้องอยากจะกินข้าวนอกบ้าน ทั้งๆที่ตัวเองก็เพิ่งกินอิ่มไป งี้แหละล่าสุดไอ้ร้านไก่ทอดขวัญใจเด็กๆ แจกตุ๊กดุ่น ตุ๊กตา ซุปเปอร์เรส ฮีโร่ของสองแฝดนี้นะ จอมร้ายเลยรำคาญเลี้ยวเข้าห้างใหญ่ๆ และไอ้เด็กน้อยก็ได้นั่งกินไก่เล่นตุ๊กตาซูเปอร์เรสกันไป แต่ผมไม่ยอมให้กินแต่ไก่หรอกนะ ผมสั่งชุดผักมาบังคับไอ้เด็กน้อยให้กินเป็นกับแกล้มกันด้วยเดี๋ยวท้องผุไปจะลำบากตูด หึหึ
“กลับไปแปรงฟัน 5 นาทีเลยนะวันนี้” ผมเอ็ดขึ้นไอ้เด็กแฝดมัวแต่กินทำเป็นไม่ได้ยิน ฮึ้ย เดี๋ยวก็ฆ่าเด็กซะนี้
ผมน้องและจอมร้าย มักจะตัวติดกันอย่างนี้เสมอและมันเป็นอะไรที่ดีมากๆ ผมไม่ต้องการคนอยู่ข้างๆเยอะ แต่ต้องการคนที่จริงใจและพร้อมที่จะปกป้องพวกเราสามคนเท่านั้น แต่สำคัญไม่ใช่ใครก็ได้ แต่ต้องเป็นแค่จอมร้ายเท่านั้น ผมรักเขา ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ตอนนี้ผมรักเขาจริงๆ ผู้ชายจอมหยิ่งยโสคนนี้ หึหึ โชคดีจังเลยที่ได้เจอกับเขา ถึงแม้ว่าจะผ่านอะไรที่เจ็บปวดหลังจากนั้น แต่ตอนนี้ … ผมนั้นมีความสุขและอบอุ่นในอ้อมกอดเขา … เขาคนที่ดึงผมขึ้นมาจากโคลนตมอันเน่าเฟะ …
“ฝ้ายๆ ไก่ๆ กะต๊าก” ผมหัวเราะเมื่อไอ้เด็กแฝดพากันลุกขึ้นไปชูไม้ชูมือเต้นท่าไก่กะต๊ากๆ
ทำให้ผมหัวเราะ เด็กสองคนนี้ไม่ได้คิดจะทำก็ทำนะ มักจะประเมินอารมณ์ผมซะก่อน ถ้าผมซึมเมื่อไหร่ก็ชอบทำให้ผมยิ้มให้ผม
หัวเราะให้ได้ นั้นคือความสำเร็จสูงสุดแล้ว แล้วดูสิตอนนี้สองแฝดมีความสุขมากแค่ไหน ผมเอ็ดน้อยๆก่อนจะรวบสองแฝดมานั่งบนตักเพราะเริ่มที่จะเสียงดังรบกวนคนอื่นแล้ว ก่อนจะหันไปขอโทษโต๊ะข้างๆ จอมร้ายที่นั่งอยู่ข้างๆผมคว้าเอาเจ้าพลตัวอ้วนไปนั่งบนตักคนนึง เป็นการแบ่งเบาภาระจากผมไป ทำให้ผมรู้ว่า จากนี้ไม่ได้มีแค่ผมแล้วที่ต้องดูแลสองแฝด แต่ยังมีเขาอีกคนนึงที่จะช่วยผมโอบอุ้มเด็กสองคนนี้ ฟินจังเลยคุณสามีมี๊!!!
“จะไปไหนอะ” ขึ้นรถมาได้ผมก็ถามทันทีเพราะทางนี้ไม่ใช่ทางกลับบ้านใหญ่นี้หน่า สองแฝดเองพอขึ้นมาเจอเบาะนุ่มๆ เจอแอร์เย็นๆก็หลับปุ๋ยหัวชนกันไปตามระเบียบ
“จะพาไปเที่ยว”
“เวลานี้เนี้ยนะ พรุ่งนี้ผมมีเรียนเช้านะ”
“เอาน๊า หลับไปซะเดี๋ยวถึงละจะปลุก”
“อย่าทำอะไรตามใจได้ไหม”
“อย่าหน้างอได้ไหม ”
“จิ๊!” ผมจิ๊ปากมองตาขวาง
แต่ก็ถูกคนบ้า โฉบมาจูบปากเลยต้องหยุด ฮึ! จะทำอะไรก็ทำแต่ถ้าพรุ่งนี้ผมมาเรียนไม่ไหว จะโกรธๆๆๆๆๆๆ โกรธให้ตายเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!! ผมหงุดหงิดๆ จนหลับไปตามเจ้าแฝด ตื่นมาถ้าผมอยู่ไกลออกจากกรุงเทพไปนะ ผมจะกัดหูให้ โรแมนติดไม่รู้เรื่องต้องโดนแบบนี้แหละ แง่มๆๆ ลับฟันรอแปป
“อื้อ อย่ามายุ่งดิ๊!” ผมปัดมือไปมาอย่างรำคาญ เมื่อไอ้แมลงหวี่ตัวยักษ์พยายามเอามือเอาปากมากก่อกวนผมที่กำลังหลับอยู่ คนบ้าอะไรเนี้ยแกล้งผมได้ตลอดเวลาจริงๆ ยังไม่เคลียนะที่ไม่พาผมกลับบ้านกัน ต่อยสักทีจะดีไหม นิสัยแบบนี้ยังจะมาแกล้งผมแบบนี้อีก งื้ออออออออออออออออออออ รำคาญแล้วนะ!!!!!!
“นี้! จุ๊บ !” เจ็บปากแล้วไอ้ตัวร้ายยยยยยย
“ถึงแล้ว” ผมย่นจมูกแล้วเอาฟันงับจมูกโด่งเป็นสันที่ยื่นเข้ามาใกล้ไปเอาๆหนึ่งทีและจุ๊บปลอบๆ ยกมือขึ้นลูบหน้าสากที่ยิ้มให้ผมอยู่ตรงหน้า เฮ้อ อย่ายิ้มแบบนี้ดิ ผมใจอ่อนแล้วนะ งื้อออออออออออออ
“ที่ไหน” ผมกระซิบถามเบาๆ ก่อนจะวางคางลงบนไหล่หนา ปากชิ้นของงจอมร้ายไล่จูบใบหูแก้มและคอผมจนจั๊กกะจี้ หึหึ จะแกล้งกันให้ได้เลยใช่ไหม เดี๋ยวคืนนี้มีเสียว เอ้ย เจ็บตัวแน่ๆ
“หันไปดูสิ อย่าเสียงดังนะ เดี๋ยวแฝดตื่น” จอมร้ายกระซิบข้างหูผมเสียงแหบพร่าน พราวเสน่ห์สุดๆไปเลยพ่อคุณแค่นี้ไอ้ฝ้ายก็หลงจนโงหัวไม่ขึ้นแล้วงับ!!!
“ทะเลหรอ ”
“ทำไมคิดว่าเป็นทะเล”
“ก็นิยายไทยชอบทำแบบนั้น”
“หึหึ ไอ้แสบ อยากเป็นนางเอกนิยายหรือไง”
“งุยยยย จะเป็นพระเอก”
“งอแงง๊องแง๊ง อยู่นั้นแหละ หันไปดูเร็วๆ” ผมบ่นง๊องแง๊งอีกคำสองคำก็ต้องหยุดเพราะจอมร้ายเริ่มรำคาญ หึหึ งอแงหน่อยก็ไม่ได้ จะว่าไปผมก็ตื่นเต้นนะเนี้ยไม่รู้ตัวเองมาโผล่ที่ไหนรอบข้างก็มืดไปหมด เพราะกระจกข้างติดฟิมล์มืดด้วย
ผมกลั้นใจหันมามองผ่านกระจกหน้ารถ สิ่งที่ผมเห็นทำให้สมองผมช้าไป 2 วิ … บ้านผม … บ้านของผมที่ผมเคยอยู่กับแม่ บ้านที่แม่เคยหัวเราะกับผม เคยโอ๋ผม เคยร้องไห้กลับผม … บ้านที่เคยถูกพ่อขายเข้าจอมร้ายสร้างหนี้ก้อนใหญ่เอาไว้ มันตั้งอยู่ตรงหน้าของผมพร้อมกับแสงไฟจากหลอดเล็กๆที่ขึงดึงไปทั่วบ้านให้แสงสว่างเหมือนหิ่งห้อยเกาะอยู่เต็มไปหมด … ไม่ได้ถูกทุบไปแล้วงั้นเหรอ …
“ไม่ร้อง” เสียงแหบพร่านนั้นกระซิบข้างหูผมก่อนที่มือหนาจะเช็ดน้ำตาผมอย่างปลอบประโลม ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากกอดจอมร้ายเอาไว้แน่นๆ พึมพำขอบคุณจนไม่รู้จะทำอย่างไรให้สมกับที่เขาคืนทุกอย่างให้กับผม ฮึก ขอบคุณ ขอบคุณจริงๆ ผะ ผม …ฮึก
“ต่อจากนี้ ถ้านายอยากมาที่นี้เมือไหร่ก็ได้ ที่นี้คือของนาย”
“ฮึก ขะ ขอบคุณครับ ขอบคุณ” จอมร้ายโอบกอดผมอยู่อย่างงั้นไม่รู้นานเท่าไหร่ นานเท่าไหร่ที่ผมหลั่งน้ำตาที่ไม่ได้ไหลมานานแสนนาน … มันเป็นน้ำตาของความปลื้ม ปิติยินดีที่ได้กลับมาบ้านอีกครั้ง…
จนแล้วจนรอด จอมร้ายก็พาผมอุ้มสองแฝดลงมาจากรถ โดยมืออีกข้างก็ยังจับกันไว้ไม่ปล่อย บรรยากาศเก่าๆตลบอบอวนไปทั่ว ถึงจะไม่เหมือนเดิม 100 % เพราะด้านในถูกตกแต่งใหม่ทาสีใหม่ทั้งหมดสิ้น จากบ้านเก่าๆไม้ผุพังก็กลายเป็นบ้านหลังใหม่ที่ทั้งสวยและอบอุ่น ผมมาหยุดยืนตรงหน้าหิ้งโกศใส่กระดูกของแม่ ก่อนที่จะยิ้มออกมาทั้งน้ำตา … ผมคิดว่า เสียทุกอย่างไปพร้อมๆกันหมดแล้วแท้ๆ ฮึก แต่ทุกอย่างยังอยู่เหมือนเดิม …
“พาเด็กน้อยไปเช็ดตัวนอนก่อนและเราค่อยมาคุยกัน ตกลงไหม ?” จอมร้ายจูงมือผมเดินขึ้นไปบนชั้นสอง
ก่อนจะเปิดห้องที่ผมเคยอยู่ออก มันเป็นห้องเล็กๆที่เคยมีหมอนกับมุ้ง แต่ตอนนี้ถูกเปลี่ยนเป็นห้องเล็กๆที่สะอาด เตียงสองชั้นสีฟ้าของสองแฝดอยู่ริมห้อง โต๊ะเขียนหนังสือสองโต๊ะวางอยู่ข้างๆกันอย่างน่ารัก ผนังห้องถูกเพ้นท์ลายซุปเปอร์เรสที่สองแฝดชื่นชอบ อยู่อย่างสวยงาม พื้นห้องปูด้วยพรมลายฟุตบอล … น่ารักจังเลย ไม่ได้หมายถึงห้องนะ หมายถึงสามีผม
ผมไม่พูดอะไรแต่เอื้อมตัวไปจูบแก้มสากนั้นอย่างขอบคุณห่อนจะเดินพาเจ้าเด็กน้อยที่นอนไม่รู้ตื่นไปวางไว้บนเตียง จัดการเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ที่อยู่ในตู้หลายชุด และผมก็เลือกชุดนอนพี่หมีที่มีฮูดด้วย สีขาวกับสีดำ ใส่ให้น้อง โดยมีจอมร้ายเป็นลูกมือคอยช่วยหยิบโน้นหยิบนี้ ผมทำทุกอย่างเย่างเบามือและคุ้นชิน จนทุกอย่างเสร็จสรรพ ก็เดินไปปิดหน้าต่างที่มีบานกระจกถูกติดใหม่ ก่อนจะเปิดแอร์ที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่เหมือนกัน ในอุณหภูมิที่พอเหมาะ จัดการพาสองหนุ่มขึ้นเตียง แต่รอบนี้เอาสองหนุ่มนอนด้านล่างเผื่อตื่นมาจะได้ไม่ตกใจมาตกเตียงชั้นสอง ไม่ลืมที่จะห่มผ้านุ่มๆให้เมื่อ
เสร็จสิ้นภารกิจอันมีความสุขนั้น ผมก็เปิดไฟ และย่องออกมาจากห้องพร้อมๆกับจอมร้าย จูงมือกันเข้ามาอีกห้องที่อยู่ข้างๆ ห้องนี้เป็นห้องของแม่และพ่อของผม มันเคยมีสภาพไม่แต่งต่างจากห้องเดินของผม และตอนนี้ก็เช่นกัน ภายในห้องถูกตกแต่งไปในสีโทนขาวซึ่งเป็นสีที่ผมชื่นชอบเพราะมันสบายตา เตียงนุ่มๆตั้งเด่นอยู่ริมห้อง และเฟอนิเจอร์ต่างๆทำให้ความทรงจำอันโหดร้ายจากหายไป … ผมไม่รู้จะขอบคุณคนๆนี้ยังไง ไม่รู้เลยจริงๆ
“ฉันสร้างบ้านหลังนี้เลียนแบบบ้านของนายที่อยู่ในชุมชนแออัดนั้น ถึงจะไม่ใช่บ้านหลังนั้นในพื้นที่ดินตรงที่เดิม แต่ฉันก็ตั้งใจทำมันให้นาย ฉันไม่อยากให้สองแฝดและนายอยู่ในสังคมแบบเดิม แต่ก็ไม่อยากพรากทุกอย่างไปจากนายเหมือนกัน เฮ้อ … ไหนมากอดหน่อยสิ”
ผมพลิกตัวไปกอดอย่างไม่ลังเลซุกหน้าเข้ากับอกหนา นึกคิดในใจว่า ถึงจะไม่ใช่บ้านหลังเดิม แต่ที่นี้ก็มีแม่อยู่ มีความทรงจำอยู่ … แค่นี้ก็ถือว่าเป็นของขวัญที่ประเมินค่าไม่ได้แล้ว ขอบคุณ ขอบคุณมากเลย ฮึก
“ขอบคุณนะครับ”
“หึหึ ก็บอกแล้วว่าถ้าเป็นเด็กดีอยากได้อะไรก็จะให้ … แม้กระทั่งชีวิตก็ให้ได้” ผมสะอื้นเสียงดังก่อนจะปีนขึ้นไปอยู่บนหัวยักษ์หัวขาเกี่ยวรอบเอวและเอามือกอดหัวเอาไว้ ซุกหน้าลงกับผมนุ่มๆ งื้ออออออออ กอดมากกว่านี้ไมได้แล้วนะ เดี๋ยวผลีกายให้ก็ได้ แต่อย่าทำดีไปมากกว่านี้เดี๋ยวเค้าละลาย งื้อออออออ
“ถ้าดีใจกว่านี้จะปีนไปอยู่บนหัวเลยไหม” จอมร้ายหัวเราะอยู่ตรงพุงของผมผมก็หัวเราะเพราะตัวเองก็ทำอะไรที่เหมือนเด็กๆ ค่อยๆลงมายืนดีๆ ก่อนที่หน้าคมยิ้มเจ้าเล่ห์จะก้มลงมาใกล้ ใกล้จนผมเผยอปากไปจูบด้วย … อบอุ่น ขอบคุณ … ขอบคุณจากใจ
ผมรักสามีมี๊ของผมน่ารักที่สุดในโลก ฮิฮิ บอกไว้เผื่อใครยังไม่รู้
END (14/6/58)
==========================
มาแล้ววววววววววววววววววววววววว!
หายไปนานเลย ขอโทษนะคะ ฝึกงาน ฮ่าๆๆ เหนื่อยกลับมาก็หลับเลย
ใครดูบอลบ้าง ไทย-อินโด ชนะไป 5-0 นอนหลับสบาย เลย ฮ่าๆๆๆๆๆ
ตอนหลักจบแล้วนะคะ มีตอนพิเศษ
มีเรื่องของอเดลกับเรกกี้ที่ไปต่างประเทศ
เรื่องของสองแฝดและเรื่องจอมร้ายและฝ้ายไปกระบี่ๆ
เจอกันตอนหน้าแงบ จุ๊บๆ
ฝากเพจค่า
ห้องเก็บนิยาย pa_pa
