{CH 26 harbinger }
ผมนอนตะแคงอยู่บนเตียงคนไข้ในโรงพยาบาลมองตาแก่โรคจิตที่นั่งอ่านหนังสือนวนิยายสืบสวนสอบสวนยากๆอยู่ที่โซฟา นี้มันห้องในโรงพยาบาลหรือโรงแรม 5 ดาวเนี้ย … เฮ้อ แฝดอยู่อีกห้องนึงเห็นจอมร้ายบอกให้เรกกี้ดูแล คิดแล้วก็อยากจะเขกหัวตัวเอง ดันเป็นลมซะได้ทั้งๆที่ตอนนั้นถ้าไอ้พวกนั้นทำอะไรแฝดแม้แต่นิดเดียวผมจะไฝว้แล้วแท้ๆ ไม่เท่เลย เฮ้อ … น่าเบื่อจังโรงพยาบาลเนี้ย ไม่เห็นมีอะไรทำเลย นี้ผมก็นอนมาทั้งวันแล้วนะ หายแย้ววววววว แข็งแรงพร้อมลุย แต่ว่า ถ้าผมกลับไปมันจะดีจริงๆหรือไง … เจ้าจอมควรมีชีวิตที่ดีกว่านี้สิ …
“คุณจอม”
“ว่าไง”
“ผมหายแล้ว”
“หึ อ้อนเอาอะไร” เค้าปิดหนังสือและเดินมาโน้มตัวลงจูบหน้าผากผม ก็อ้อนเอาแบบนี้แหละ ผมโกหกนะที่บอกผมไม่ได้รักไอ้แก่นี้ ความจริงอ่ะ สเป็คผมชอบคนแก่ ฮิฮิ เฮ้อ ผมเห็นแก่ตัวอีกแล้วนะ … เค้าควรจะแต่งงานตามที่พ่อเค้าบอกสิ … ผมไม่ควรจะ …
“เด็กหน้ามุ่ย”
“คุณจะแต่งงานนะ ผมบอกพ่อคุณว่าจะไม่ยุ่งกับคุณอีก เค้ายกหนีให้ผมทั้งหมดแล้ว”
“แล้ว ? ก็ทิ้งกันไปง่ายๆ”
“เปล่า … ผมไม่ได้ทิ้ง ผมแค่ทำสิ่งที่ถูก”
“แต่ก็ทิ้ง”
“ไอ้โรคจิตบ้า” ผมกระชากเสียงใส่ไอ้บ้าทันที แม่ง กูไม่ได้ทิ้ง กูไม่ได้ทิ้งนะ ฮึก ณ ตอนนั้นผมไม่มีทางเลือกเค้าเอาแฝดไป ผมเสียน้องไม่ได้
“ตอนนั้นฉันแทบบ้ารู้ไหม”
“ผมไม่ได้ตั้งใจ ฮึก เค้าเอาแฝดไป ฮึก”
“ต่อจากนี้ ไม่ว่ายังไง … ห้ามหายไปไหนอีก อยากได้อะไรฉันให้ทุกอย่าง ขออย่างเดียว อย่าทิ้งฉันไว้คนเดียวอีก เข้าใจไหม … ”
“รู้แล้วน๊า ก็ตอนนั้นเหตุการณ์มันบังคับ อีกอย่าง เราสองคนก็…” เจ้าจอมไม่สนใจผม เข้ามากอดเอาไว้แน่น …
“ขอโทษด้วยที่ดูแลไม่ดีพอ”
ทำไมไม่ฟังกันบ้าง!!!! ดราม่าคนเดียวน่าสงสารตายล่ะไอ้หมาตัวใหญ่ขี้ดุ แต่ตอนนี้เป็นหมาตัวใหญ่ขี้อ้อนแทน ฮึ้ย … ใครจะไม่รักล่ะแบบนี้ ผมไม่สนใจแล้วได้ไหม ไม่สนอะไรแล้ว ให้ชีวิตผมมีแค่ เจ้าจอม กับสองแฝดพอ … อยากจะหยุดเวลาไว้ตรงนี้ถ้าเป็นไปได้
“ผมควรทำยังไง ผมไม่รู้อะไรเลย สรุปแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
“รู้แค่ว่า ไม่นานมันก็จะจบ ในระหว่างที่รอให้มันจบ ไปเที่ยวที่ไหนดี”
“คุณจะเอาผมไปขังในป่าในเขาเหมือนพวกนั้นอีกหรือไง บอกไว้ก่อนเลยนะว่าผมจะหนีคุณ” ผมกระซิบข้างหูคนแก่ที่ทำตัวน่ารักมากในตอนนี้
ไม่ดุแบบนี้แหละน่ารักมากสำหรับผม จริงอยู่ถ้าไม่มีเค้าผมก็ไม่ต้องเจอเรื่องแบบนี้ ไม่ต้องให้แฝดได้รับอันตรายแบบนี้ อยู่แบบเดิมๆในห้องเช่าถูกๆ ใช้ชีวิตเป็นเด็กขายรักส่งน้องเรียน … แต่ในทางกลับกัน ผมมีเค้า ผมมีความสุข น้องมีความสุข … และไม่ว่ายังไงผมก็รู้สึกปลอดภัยทุกครั้งแต่หันกลับไปเจอตาแก่โรคจิตของผม
“หึ อยากไปไหนล่ะ ทะเลไหม”
“ผมอยากอยู่กับคุณ”
“เอาไว้จัดการเรื่องน่ารำคาญพวกนี้ได้ก่อน แล้วจะบอกทุกอย่าง”
“ถ้าโกหก ผมจะหนีไปจริงๆนะ”หยอกเล่นนะ เค้าให้ผมอยู่ผมก็จะอยู่ ..
“หึหึ หนียังไงก็ตามเจอ”
“จริงอ่ะ”
“หึหึ” เจ้าจอมหัวเราะในลำคอก่อนจะก้มลงมาหอมแก้มผม และจุ๊บผมเบาๆที่ริมฝีปากผม เดี๋ยวก็ติดไข้หรอก นะแหม ช่างเถอะ ภูมิต้านทานดีใช่ไหมล่ะ …
“อ๊ากกกกก ทัพจุ๊บด้วยยยยยยยยยยย” ผมผลักเจ้าจอมออกมองไปที่หน้าห้องเห็นไอ้ตัวแสบขุนทัพวิ่งกระโจนเข้ามาทำท่าจะปีนขึ้นมาบนเตียงให้ได้ ตายล่ะ เห็นพี่มันจูจุ๊บกับผู้ชายซะแล้ว อย่านะ อย่าเพิ่งแก่แดด ให้ฝ้ายแก่แดดคนเดียวพอ ฮ่าๆๆ ไม่สิต้องไม่ขำต้องจริงจัง
“ฝ้าย คุณลุง ผมของจูจุ๊บด้วยแล้วเดี๋ยวจะไปจูจุ๊บพลต่อ ฮิฮิ ทำแบบนี้แสดงว่ารักกัน ทัพก็รักฝ้ายกับคุณลุงมาม๊ะ จ๊วฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ” เอ่อ … พูดไม่ทันไอ้ขุนทัพจอมแสบที่ถูกจอมร้ายอุ้มขึ้นมาวางบนตัวผมก็ถูกไอ้ปากปลาหมึกจุ๊บเข้าที่ปากผมจุ๊บใหญ่ โอ้ยยยยยยยย เดี๋ยวก็ติดไข้กันหมดนี้แหละ
“มา ม๊ะ ต่อไปก็ลุงจอม อุ้ย … แฮะๆ ไม่จูจุ๊บกะได้ ฝ้ายเป็นไงบ้านหายอ่ะยางงงง พลหายแล้วนะ แต่ก็หลับไปแล้ว ทัพนอนไม่หลับพี่เรกกี้ก็พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง” เจ้าเด็กแสบเปลี่ยนเรื่องทันทีที่หันไปเจอหน้าโหดๆของจอมร้าย หึหึ นี้ตั้งแต่เข้ามาผมได้พูดสักคำรึยังเนี้ย
“เจ้าแสบ ใครสอนให้จูจุ๊บ ฮึ” ผมอุ้มเจ้าเด็กหัวทุยมานั่งตรงหน้าเหมือนทุกครั้งที่ทำความผิดและกำลังจะสั่งสอน ดูเหมือนแฝดจะรู้ดี รีบก้มหน้าแดงๆหลบตาผมทันที ฮ่าๆๆๆ จริงจังเชียวแหละรายนี้ยิ่งกว่าเจ้าพลเสียอีก
“พะ เพื่อนครับ คะ เค้าบอกว่าถ้าทำแบบนี้แสดงว่าเป็นแฟนกัน” อุบร๊ะ เด็กสมัยนี้ โตไวแท้ สมัยผมยังเอานมข้นมาจิ้มขนมปักและเอาไปนาบกับขี้เต่า และเอาไปให้เพื่อนกินอยู่เลย ฮ่าๆๆๆ (ไม่เคยนะฮิฮิ-คนเขียน)
“รู้หรือไงแฟนคืออะไร”
“เอ่อ … ทัพไม่รู้”
“ไหนคุณจอมตอบเด็กสิแฟนคืออะไร”
“แมว” ถุ้ยยยยยยยยย เดี๋ยวปั๊ดอ้วกใส่หน้าตอบมาได้คือแมว เจริญๆนะจ๊ะ แหม งั้นผมคงเป็นแมวที่หน้าเลิฟที่สุดในโลกใช่ปะ อิอิ
“แฟนเป็นแมวหรอครับ” ว่ะ ไอ้เด็กนี้ก็ซื่อเกิ๊น อันนี้ไม่รู้ซื่อหรือกวนนะ ดูทำหน้าตาใสแจ๋วเอียงคอ 90 องศาอย่างที่ผมชอบทำบ่อยๆเวลาอ่อยลูกค้าแต่ก่อน วิชาเค้าดีจริงๆ ฮ่าๆๆๆ
“แฟนคือคนที่พร้อมจะเข้าใจและรักเราโดยไม่หวังผลตอบแทน เนอะ ”
“งั้นทัพก็แฟนพลสิ ไม่เฉพาะพลนะ ฝ้ายกับคุณลุงด้วย อ่ะๆ คุณป้าแล้วก็คุณพ่อที่ไปเที่ยวด้วย ฮิฮิ” เอ๊าะๆ เยอะไปนะ ฮ่าๆๆๆ ผมมองหน้าจอมร้ายทันทีที่แฝดพูดจบ เค้าขมวดคิ้วนิดๆแต่ก็คลายออก คงสะกิดใจกับคำว่าพ่อของผมใช่ไหมล่ะ … เฮ้อ คนพันธุ์นั้นไปเที่ยวให้ใกล้ๆไม่ต้องกลับมาได้ยิ่งดี เชอะ ทิ้งผมกับน้องได้ยังไง คำถามนี้ยังดังก้องในใจผมตลอดเวลา
“เอาเป็นว่าจุ๊บได้เฉพาะคนที่พูดมาเมื่อกี้แล้วกันเนอะ ปะ ไปนอนได้แล้วเจ้าแสบ” ผมทำท่าจะก้าวลงเตียงและอุ้มน้องไปนอนอีกห้องนึงแต่ก็ถูกไอ้ยักษ์ปักษาตัวดีผลักให้นอนลงจนเจ้าแฝดไม่ทันทั้งตัวลงมาเกาะแหมะที่ท้องผม
“ว่าแต่น้อง ตัวเองก็นอนได้แล้ว” ว่าแล้วก็แบกน้องผมในอุ้มลูกหมาแนบเอวเดินออกไปทันที ไอ้เจ้าแฝดน้องก็ไม่ทักท้วงกลับหัวเราะคิกคัก บอกกู๊ทไนท์ผมก่อนที่จะลับตาออกไปนอกประตู เฮ้อ …ผมยังไม่ง่วงเลย
แก๊ก “ได้เวลาทานยาแล้วค่ะ” ผมยิ้มให้กับนางพยาบาลที่เดินเข้ามา แหม แม่คุณสูงยาวเข่าดีขาวดีแท้ ทำบุญมาด้วยอะไรจ๊ะ ฮิ้ววววววว
“ครับ” ผมขานรับก่อนจะรับยามากระดกเข้าปากอย่างไม่ใส่ใจ
“อ่อ นี้ค่ะ มีคนบอกมาให้” ผมที่ยังไม่ทันกินน้ำเสร็จก้มมามองกระดาษจดหมายที่นางพยาบาลยื่นมาให้ และยังไม่ทันทำอะไรเธอก็เดินออกไป เฮ้อ จะรีบไปไหนนะ แล้วนี้จดหมายใครอ่ะ ส่งผิดรึเปล่าใครจะส่งมาให้ผม
ผมเม้มปากก่อนจะพลิกซองจดหมายเปล่าๆนั้นไปมา และตัดสินใจกะดูเมื่อส่องไฟดูแล้วเห็นมีแค่กระดาษบางๆอยู่ด้านใน ก่อนจะคลีกระดาษสีครีมด้านในออกดู … ลายมือที่ผมเห็นเขียนในโพยหวยตั้งแต่เด็ก …
‘ช่วยพ่อด้วยฝ้าย ช่วยพ่อที’
ผมกระชากสายน้ำเกลือทิ้ง ลุกลงมาจากเตียงและต้องทรงฮวบลงกับพื้น ผมต้องหาพยาบาลคนนั้นให้เจอถาม… ถามว่าเธอได้จดหมายนี้มาจากไหน ลายมือพ่อผม … ไม่ผิดแน่ ไก่เขี่ยแบบนี้ไม่ผิดแน่ เกิดอะไรขึ้นตอนนี้พ่ออยู่ที่ไหน แล้วอะไร ทำไม ผมไม่เข้าใจสักอย่าง ฮึก ….
พอรวบรวมกำลังฮึกสุดท้ายได้ก็โซเซลุกขึ้นเดินไปที่ประตูแต่ยังไม่ทันเปิดออกไป เจ้าจอมก็เปิดประตูออก เค้าขมวดคิ้วมองผมอย่างแปลกใจ ผมเบะปากน้ำตาไหลลงข้างแก้มกระโจนเข้าไปกอดเจ้าจอมเอาไว้แน่น โอ๋ผมหน่อย ฮึก อะไรนักหนา ชีวิตผมมันอะไรนักหนา!!!
“เป็นอะไร แล้วนี้อะไร” เค้าหยิบจดหมายที่ผมถือไปเปิดดู ก่อนจะขยำปาลงไปกับพื้น ฮึก
“ผมต้องตามหาพยาบาลคนนั้น ฮึก” ผมสะอึกพูด ก่อนจะถูกอุ้มท่าเดียวกับแฝดเมื่อกี้นี้มาวางบนเตียงและเจ้าจอมก็กดกริ่งเรียกนางพยาบาลทันที ผมก้มมองมือตัวเองแล้วต้องร้องไห้หนักกว่าเดิมเมื่อเห็นเลือดที่ออกมาจากสายน้ำเกลือที่ผมกระชากออกมาเมื่อกี้นี้ไหลเต็มตัวไปไหม
“ไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น ฝ้าย มองพี่” เค้าเชยคางผมขึ้นไปสบตาคมนั้น ก่อนที่จะจูบลงมาที่เหม่งผมแรงๆ
“ผมก็ไม่อยากจะสน ไม่อยากสนกับคนพันธุ์นั้นที่ทิ้งกันไป แต่พอมาเจอแบบนี้ ฮึก ยังไงเค้าก็เป็นพ่อ”
“เชื่อใจพี่สิ” เค้ากอดผมเอาไว้และกระซิบข้างหูอย่างปลอบโยน ฮึก ก็ได้ … ไม่สนใจแล้ว ผมจะไม่สนใจอะไรแล้ว ฮึก ผมมีเจ้าจอมร้าย เจ้าจอมร้ายทำได้ทุกอย่าง เค้าเข้มแข็ง … เค้าจะช่วยผม เค้าจะช่วยเราได้ …
.
.
.
บ้านใหญ่ยามค่ำคืนเต็มไปด้วยความสงบและปลอดภัยด้วยจำนวนลูกน้องนับสิบที่เฝ้าอยู่ทุกจะภายในบ้านสลับสับเปลี่ยนกันตามกะเวลา และอีกนับครึ่งร้อยที่วนเวียนอยู่ภายในบริเวณรั้วบ้านใหญ่ เพื่อมอบความปลอดภัยให้แก่คุณหญิงรสกรที่เอนกายอยู่บนเตียงนอนใหญ่อย่างอ่อนล้าจากการเดินทางและเหน็ดเหนื่อยใจกับปัญหามากมายที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาติดๆกันแบบนี้
อเดลหนุ่มลูกครึ่งฝรั่งเศส เดินไปมารอบบ้านก่อนจะมาหยุดยืนที่ต้นลีลาวดีต้นใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางสวนหลังบ้าน ที่มืดสงัดโดยไฟจะถูกขนย้ายเพื่อมาเพิ่มความสว่างภายในวันพรุ่งนี้ ความรอบครอบของเจ้านายของตนที่สั่งการไว้ทุกอย่างอย่างรัดกุมนั้นทำให้อเดลหนุ่มกำพร้าพ่อแม่ นึกอิจฉาคุณหญิงและเด็กน้อยอย่างฝ้ายและแฝดไม่ได้ที่มีคนดีๆเป็นห่วงเป็นใยขนาดนี้
ถ้าเป็นไปได้ เค้าเองก็อยากจะเป็นห่วงใครสักคนแบบนี้เหมือนกัน แต่ด้วยหน้าที่การงานบังคับทำให้อเดลหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนนี้ยังคงครองโสดมาจนถึงปัจจุบัน
“โอ้ย!” เสียงผู้หญิงเอ็ดขึ้นมาเบาๆด้านหลัง ทำให้เค้าหันไปพร้อมฉายไฟฉายในมือหน้านิ่วคิ้วขมวด เมื่อเห็นสาวทรงโตอย่างน้อยในเสื้อผ้าน้องชิ้นเดินออกมาให้ยุงกัดขากัดแขนเล่นแถวนี้
“เอ่อ ขอโทษนะจ๊ะ พอดีฉันออกมาชมจันทร์น่ะ ไม่คิดว่าจะมีคนอยู่ตรงนี้”
“…”อเดล กลั้นหัวเราะเมื่อได้ยินข้ออ้างของแม่สาวร้อนรัก แน่นอนเค้าฟังภาษาไทยทุกคำออกแต่เลือกที่จะแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินเอาเสียนี้
“นายชื่ออเดลใช่ไหมจ๊ะ ฉันชื่อน้อยนะ เอ่อ ยู น็อต สปิค ทายยยยยส์” นอกจากผู้หญิงคนนี้จะซื่อบื้อแล้วยังมีความพยายามอีกแหะ อเดลคิดแบบนั้น
“…”
“เอ่อ … ไอ ไอ ไอเลิฟยูว” คราวนี้เค้าถึงกับทำหน้าเบื่อและเดินออกมา เพราะเห็นว่าอยู่ตรงนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรขึ้นมา และเค้าเองก็ยังได้ยินเสียงบ่นเป็นหมีกินผึ้งที่แสนหยาบคายออกมาจากปากสาวทรงโตคนนี้อีกด้วย ไม่น่าจริงๆหน้าตาก็พอไปวัดไปวาได้ แต่ทำตัวแบบนี้ก็ไม่ไหว
“เดี๋ยวๆ เฮยู!!!”
เค้าหยุดชะงักเมื่อเสียงเรียกจากข้างหลังดังขึ้น แต่พอหันไปก็ต้องผงะเมื่อผู้หญิงคนนี้ก้าวเข้ามาในระยะประชิดและกำลังทำสีหน้ายั่วยวนเค้าอยู่ เค้าถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะหันหลังเดินออกมาทันที ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นเสือร้ายอย่างเค้าคงไม่พลาด แต่กับยัยคนนี้เค้ากับสแลงผิดปกติ ไม่รู้ทำไม
พออเดลเดินจากไป น้อยก็เต้นเป็นเจ้าเข้าอย่างไม่ได้ดั่งใจ ตบยุงที่แขนขาเจ้าละหวั่นก่อนจะวิ่งกลับเข้ามาในห้องพักคนใช้ของตัวเองที่อยู่ข้างๆบ้านใหญ่ ทิ้งตัวลงนอนแผ่บนเตียงที่โสมมไปด้วยคราบไคลไม่ได้ซักมานานนับปี และเหมือนจะยังหงุดหงิดใจไม่หาย เด้นเร่าๆอยู่บนเตียงก่อนจะพลิกตัวกลับมาที่โทรศัพท์มือถือเครื่องหรูของตัวเองที่เพิ่งได้มาเมื่อเช้าจากสามีคนแรกของเธอที่แก่คราวพ่ออย่างราชาและกดโทรออกอย่างไม่สนใจเวลาแม้แต่น้อย
“ทำไมไม่รับว่ะ!” เธอผรุสวาทออกมาเมื่อปลายสายไม่รับสายของเธอไม่ว่าจะโทรไปสักกี่สายก็ตาม
“ฮัลโหลใครว่ะ!!!!!” แต่ในที่สุดความพยายามของแม่สาวทรงโตก็เป็นผล เมื่อปลายสายที่ 10 รับสายขึ้นในน้ำเสียงเมาแอ้ภาษาคนที่กำลังดึ่มด่ำกับสุรานารี
“คุณราชานี้น้อยเองคะ”
“งานที่ให้ไปเสร็จแล้วหรือไงถึงโทรมา”
“เอ่อ … ยังค่ะ ตอนนี้ที่บ้านมีคนอยู่เยอะมาก แถมอาหารที่ต้องเอาให้ยายคุณหญิงก็ปรุงด้วยมือของป้าน้อมเท่านั้น นะ น้อยเลย …”
“แล้วมึงโทรมาหากูทำไม!!!!!!” สาวเจ้าตกใจเมื่อเสียงผรุสวาทปลายสายดังขึ้นอย่างคนอารมณ์เสียงอย่างหนักและปลายสายก็วางไปทันที เธอหยิบหมอนขึ้นมาก่อนจะก้มลงไปกรี๊ดใส่หมอนอย่างหัวเสีย
นี้ชีวิตของเธอที่เอาความสดความสาวไปแลกมาต้องพังทลายลงงั้นหรอ ไม่ … เธอไม่ยอม เธอต้องจับคุณราชาให้ได้ ไม่ว่าด้วยวิธีไหน ชาตินี้เธอถึงจะสบายสักที!
สาวเจ้าเดินๆไปเปิดลิ้นชักหยิบขวดยาเล็กๆใสๆที่บรรจุน้ำใสๆอยู่ด้านใน ก่อนจะเหลือบมองนาฬิกาและถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเห็นว่าตอนนี้เที่ยงคืนกว่าๆแล้วสายไปที่จะทำการอะไรได้ จึงเก็บมันลงที่เดิมและคลานขึ้นมาบนเตียงอย่างขี้คร้านจะทำอะไรทั้งสิ้น ก่อนที่ในหัวจะเต็มไปด้วยแผลแปลกๆที่จ้องทำร้ายศัตรูก้างขวางคออันใหญ่ที่ขัดความสะดวกสบายของตน
‘ทำยังไงก็ได้ให้มันตาย’ คำๆนั้นที่เธอรับปากมาอย่างอึกอักและไม่สบายใจดังก้องอยู่ในสมองของเธอ แต่ยังไงก็ตามความโลภจากวัตถุนิยมที่เธอไม่เคยได้ไม่เคยมีมาก่อนก็ยังมีค่าเสียมากกว่าชีวิตของคนที่ชุบเลี้ยงเธอ … ไม่สนใจ ฉันจะรวย พอไอ้ราชาแก่นี้ตาย สมบัติทั้งหมดก็ต้องเป็นของฉัน ลูกไม่ได้ ก็เอาพ่อมันนี้แหละว่ะ!!!!
.
.
.
ในตอนเช้าตรู ของบ้านใหญ่ น้อยเดินโฉบฉายเข้ามาในห้องครัวที่บ้าน้อมกำลังปรุงอาหารให้คุณหญิงรสกรที่ดูเหมือนจะมีไข้อ่อนๆอยู่เพียงลำพัง และร้องทักป้าของเธอขึ้นอย่างชินปากโดยไม่สนใจอายุอานาม
“เดี๋ยวช่วยทำ”
“อ้าวอีน้อย ข้าว่าจะไปหาเอ็งอยู่พอดี” ป้าน้อมตอบไม่ตรงคำถามและไม่เปิดโอกาสให้น้อยแตะต้องกับโจ๊กหมูทรงเครื่องของคุณหญิงแม้แต่ปลายเล็บ
“มีอะไรล่ะ มาเดี๋ยวฉันช่วยทำ”
“ว่ะ เอ็งจะมาขยันอะไรตอนนี้ ออกไปก่อนเดี๋ยวคุณอเดลมาจะโดนดุ แล้วข้าจะตามไปคุยที่หลัง” น้อยหงุดหงิดใจทันทีที่ได้ยินแบบนั้น จะมาด่าอะไรเธอ พูดยังพูดไม่รู้เรื่อง โว๊ะ ไอ้ฝรั่งไม่มีรสนิยม!!!
“ป้าเดี๋ยวฉันทำเองไปพักผ่อนเถอะ”
“เอะอีน้อยนี้!” ป้าน้อมชูกระบวยตักโจ๊กขึ้นมาทันทีที่น้อยเกาะแกะแกมากๆ
“ป้าคุณหญิงมา” ไม่แปลกเลยที่คนใช้ที่ซื่อสัตว์อย่างป้าน้อยจะหันขวับไปมองทันทีที่ได้ยินชื่อของนาย แต่แล้วโอกาสนั้นเองน้อยก็รีบเทยาในขวดใสที่แอบยัดไว้ในเสื้อใสของตัวเองลงไปจนหมดขวด
“ไม่เห็นมีเลยนางนี้ อะไรของเอ็งนักหนานางน้อย!!!”
“โอ้ย ฉันไม่คุยกับป้าแล้วไปดีกว่า” น้อยเปลี่ยนเรื่องก่อนจะรีบออกมาจากครัวพอลับตาคนแววตาเจ้าเล่ห์ที่แสนงี่เง่าก็บังเกิดขึ้น
อาหารเช้าถูกตั่งโต๊ะก่อนที่คุณหญิงรสกรจะเดินลงมาจากบนบันไดในชุดเรียบร้อยสีชมพูอ่อนทำให้ลูกน้องของเจ้าจอมต่างพากันชื่นชมในใจว่าผู้หญิงกลางคนคนนี้ช่างสวยสะพรั่งราวกับแม่สาวแรกแย้มเสียจริงๆ ริมฝีปากสีชมพูของเธอยิ้มให้กับทุกคนที่เจอ ก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะอาหารเพียงลำพัง
“ตาจอมจะกลับมาเมื่อไหร่หรือ?” เธอไถ่ถามอเดลที่ยืนอยู่ไม่ไกลนักในท่าทีสำรวม ก่อนจะเหลือบมองน้อยสาวใช้ที่ทำท่าทางประหลาดๆไม่เป็นธรรมชาติเอาซะเลย แต่คุณหญิงก็ไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก
“ทันทีที่ส่งคุณฝ้ายกับน้องไปอยู่ที่ปลอดภัยครับ” น้อยที่ยืนแอบอยู่อ้าปากค้างเมื่อได้ยินอเดลพูดไทยคล่องปรือ คุณหญิงพยักหน้าก่อนจะกุมขมับและโจ๊กหมูทรงเครื่องและกระปุกใส่ยาเล็กๆก็พร้อมเสริฟอยู่ตรงหน้าเธอ
“ป้าน้อม ทำอาหารให้พวกหนุ่มๆพวกนี้ทานแล้วใช่ไหมค่ะ”
“คะ คุณหญิง ป้าทำข้าวต้มให้ทานกันหมดแล้ว คุณหญิงทานให้สบายใจเถอะนะค่ะ” คุณหญิงพยักหน้าก่อนจะหยิบช้อนจะตักโจ๊กเข้าปาก พร้อมๆกับสายตาของน้อยที่ลุ้นจนตัวโก่ง
“ฮุก … ” เสียงสำรองในลำคอของคุณหญิงทำให้ป้าน้อมและสาวใช้คนอื่นต้องรีบช่วยพยุงคุณหญิงไปเข้าห้องน้ำทันที
เพล้ง! “นางบัว! เอ็งชนชามตกแตกได้ยังไง!!!” น้อยตะหวาดลั่นวิ่งมาดูซากจานที่บัวสาวใช้รุ่นน้องของเธอเผลอตื่นเต้นจนไม่ทันระวังปัดชามข้าวต้มของคุณหญิงลงพื้น
“ขอโทษจ๊ะ เดี๋ยวหนูจะเก็บให้”
“อะ… ฮึ้ย!” เธอจะเข้าไปทำร้ายบัวที่ก้มลงเก็บเศษชามกระเบื้องที่พื้นแต่ก็เหลือบไปเห็นอเดลที่ยืนหน้าง้ำมองอยู่ก็สะบัดหน้าเดินออกมาทันที
“แม่งจะมาอ้วกห่าอะไรตอนนี้ว่ะ โอ้ย ยากูก็หมดแล้วจะเอาที่ไหนมาฆ่าอีแก่นี้ว่ะ”น้อยพึมพำอย่างหัวเสียหลบเข้าไปหลังบ้านทันที เธอไม่ยอมหรอก ไม่ยอมจบแค่นี้แน่ๆ !!!!
=====================
มาอัพซะดึกเชียว ฮ่าๆๆๆๆ 
แอบขำนางน้อยตอนนี้ให้อารมณ์นางร้ายสติหลุด ฮิฮิ
เจอกันตอนหน้าค่ะ 
ฝากเพจนะค่ะ
ห้องเก็บนิยาย pa_pa
