พักเที่ยงหลังสอบภาคเช้าเสร็จ เสกกับเกมเดินกอดคอยิ้มร่าที่ทำข้อสอบได้ ส่วนผมก็เดินอมยิ้มตามหลังพวกมันมา เห็นพวกมันไม่เครียดเรื่องสอบแค่นั้นผมก็สบายใจแล้วครับ
จริงสิหลังสอบเสร็จเดี๋ยวชวนพวกมันไปกินอาหารญี่ปุ่นดีกว่า…ผมยิ้มให้กับความคิดของตัวเอง ในขณะที่ก้าวเท้าเดินตามหลังพวกเสกไปหาจีนเพื่อชวนทานข้าวกลางวันอยู่นั้น ภาพเบื้องหน้ากลับมืดลงอย่างฉับพลันอย่างน่าใจหาย
!!!!!!
แต่แค่เพียงเสี้ยววินาที ผมก็กลับมาเห็นเป็นปกติดังเดิม ก่อนจะเห็นพวกไอ้เสกวิ่งหันกลับมาทางผมพร้อมกับจีนที่วิ่งตามหลังมาด้วยความเป็นห่วง
“มึงเป็นอะไรไปไอ้วีร์ หน้างี้ซีดเชียว ไม่สบายหรือเปล่า”
“นั่นสิ ไม่สบายก็นั่งพักก่อน เดี๋ยวพวกกูไปซื้อข้าวมาให้ ไม่ต้องไปไหนแล้ว”
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องตื่นเต้น กูโอเคดี” ผมหันไปบอกพวกเสกที่จับแขนผมไว้ราวกับว่ากลัวผมจะทรุดลงไปนอนกับพื้น ก่อนจะหันไปบอกจีนที่ยืนมองผมด้วยสีหน้าเป็นกังวล “ผมไม่เป็นไรครับ คุณจีนไม่ต้อง…”
ผมพูดยังไม่ทันจบ อีกฝ่ายกลับช้อนตัวผมอุ้มในท่าเจ้าหญิงขึ้นมาได้อย่างหน้าตาเฉย ทำเอาผมถึงกับตกใจเล็กน้อย เพราะผมหนักกว่าสูงกว่าจีนมาก แต่ไฉนอีกฝ่ายกลับอุ้มผมเดินตัวปลิวราวกับตัวผมเบาเหมือนนุ่นมิปาน
“คุณจีน ปล่อยผมลงเถอะ ผมเดินเองได้” แต่อีกฝ่ายหาได้ตอบไม่ กลับอุ้มผมเดินไปยังใต้ต้นไม้ ก่อนจะวางผมลงกับพื้นอย่างเบาๆ “ขอบคุณครับคุณจีน ผมเกรงใจคุณแย่เลย”
“ไม่เป็นไรไม่ต้องเกรงใจ นั่งอยู่นี่แหละ เดี๋ยวฉันมา” แล้วจีนก็เดินกลับเข้าไปยังโรงอาหารที่อยู่ใกล้ๆ
“เห็นอ้อนแอ้นแบบนั้นแต่กลับอุ้มมึงได้นะวีร์” เสกเดินมานั่งลงคุยกับผมหลังจากยืนอึ้งไปพักใหญ่ ก่อนจะตามด้วยไอ้เกมที่เดินลงมานั่งข้างผมเกาหัวหยิกๆ
“นั่นสิ กูแทบไม่เชื่อสายตาเลยว่าเขาจะอุ้มมึงได้ คนเรานี่ดูกันภายนอกไม่ได้เลยจริงๆ”
“อืม กูก็ว่างั้นแหละ” ผมเองก็ไม่อยากเชื่อครับ แต่มันก็ต้องเชื่อ เพราะเขาอุ้มผมได้จริงๆ
ตกเย็นหลังจากสอบเสร็จ พวกเสกก็ขอตัวกลับบ้านเพื่อจะมาสอบพรุ่งนี้ต่ออีก ส่วนผมก็กลับบ้านพร้อมกับจีนที่บัดนี้ขับรถให้ผมอยู่อย่างเงียบๆ ซึ่งมันผิดแปลกไปต่างจากที่ผมเคยเห็น
จีนเปลี่ยนไป?“คุณจีนมีอะไรไม่สบายใจก็มาบอกกับผมได้นะครับ” ยังไงอีกฝ่ายก็เป็นคนในตระกูลสิงห์ ถึงแม้จะไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน แต่ยังไงก็อดเป็นห่วงมิได้อยู่ดี ซึ่งอีกฝ่ายเหลือบตามองผมแวบหนึ่งก่อนจะวกกลับไปมองถนนตามเดิม
“ไม่มีอะไร ฉันสบายดี”
“แน่นะครับว่าสบายดี” ผมถามย้ำอีกรอบ ซึ่งอีกฝ่ายหันมาถลึงตาใส่ผมทันที
“เออแน่ ฉันสบายดี แล้วก็เลิกถามเซ้าซี้ได้ซะที คนจะขับรถ มันไม่มีสมาธิ!”
แล้วผมก็นั่งเงียบไปจนกระทั่งถึงบ้าน อีกฝ่ายก็ลงจากรถแล้วเดินหายเข้าไปในบ้านทันที ทำเอาผมได้แต่ยืนมองด้วยความมึนงง จนไอ้กล้าที่เดินสวนกับคุณจีนต้องเดินมาถามผมอย่างสงสัย
“คุณจีนเป็นอะไรวะไอ้วีร์”
“ไม่รู้สิ สงสัยเมนส์มามั้ง” ผมเดาะลิ้นตอบอย่างกวนตีนมันเล่น “ล้อเล่นน่ะ กูไม่รู้ เขาเป็นแบบนั้นตั้งแต่เที่ยงแล้ว ถ้ามึงอยากรู้ มึงก็ลองเดินไปถามคุณจีนดูเอาเองสิ กูต้องขอตัวก่อนนะ พรุ่งนี้ยังมีสอบอยู่”
แล้วผมก็เดินเข้าไปในตึก ทิ้งให้ไอ้กล้ายืนทำหน้ามึนอยู่คนเดียว
......................