ดวงใจถวิลรัก [ภาคสอง ตอนที่ 13 สิงห์ & จีน อวสาน P.30 (11/09/61)]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

คุณอยากให้วีร์คู่กับใครมากที่สุด (กรุณาบอกเหตุผลที่เลือกด้วย)

สิงห์
82 (44.6%)
เสือ
85 (46.2%)
จีน
17 (9.2%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 175

โพลล์

ตัวละครใดที่ท่านชอบมากที่สุดในเรื่อง

วีร์ กมล
73 (56.6%)
สิงห์ สีหราช
21 (16.3%)
จีน จารุกร
8 (6.2%)
วิน วินภัทร
1 (0.8%)
อิฐ อิฐภพ
1 (0.8%)
เสือ พยัคฆ์
18 (14%)
เฟย จิ้ง
2 (1.6%)
ไป่ เต๋า
1 (0.8%)
ราตรี ตระกูลหงส์
0 (0%)
กระต่าย
0 (0%)
แม่ข้าว (แม่ของวีร์)
0 (0%)
โทนี่ (พ่อของวีร์)
0 (0%)
บันนี่ (ลูกของกระต่ายกับเหยี่ยว)
0 (0%)
แรบบิท (ลูกของกระต่ายกับเหยี่ยว)
1 (0.8%)
เหยี่ยว
0 (0%)
ลีโอ
0 (0%)
กล้า
1 (0.8%)
คมกฤษ (หมอคม)
1 (0.8%)
Sneaker Lucas
1 (0.8%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 122

ผู้เขียน หัวข้อ: ดวงใจถวิลรัก [ภาคสอง ตอนที่ 13 สิงห์ & จีน อวสาน P.30 (11/09/61)]  (อ่าน 158908 ครั้ง)

ออฟไลน์ Noo_Patchy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1055
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-4
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[  น้องวีร์ยังไม่บรรลุนิติภาวะนะ 555

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
 :oo1: :oo1: ขนาดนี้ ไม่เด็กแล้ววว

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
 :mew1:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ไม่เด็กแล้วจร้า คิกๆๆๆ

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
“ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะที่พวกแกสองคนจะมาห้ามไม่ให้ฉันย้ายไปอยู่กับไฟ”

“ผมรู้ว่าคุณพ่อไม่ใช่เด็กแล้ว” วินแย้งทันควัน เมื่อคืนผมไม่ทันได้โต้เถียง สองคนนี้ก็เล่นชิ่งออกจากบ้าน ซึ่งผมไม่รู้ว่าทั้งคู่หนีไปไหน จึงได้แต่รอไปพบพวกเขาในตอนเช้าที่ทำงานแทน ส่วนไฟนั้นบอกว่าจะเคลียร์งานก่อน แล้วจะรีบมาตามช่วยพูดกับลูกชายผมให้ทีหลัง จึงทำให้ผมในตอนนี้ต้องมานั่งคุยกับวินและอิฐที่ห้องทำงาน “แต่นั่นมันอดีต เพราะตอนนี้คุณพ่อยังเป็นแค่เด็ก เด็กอายุสิบแปดที่ชื่อกมล เด็กที่เพิ่งจะเอนทรานซ์ฯ ยังเรียนไม่จบมหาวิทยาลัย และผมเองก็เป็นเจ้านายของคุณพ่อ อย่าลืมสิครับว่าคุณพ่อเป็นมือซ้ายของผม ผมไม่อนุญาตให้มือซ้ายของผมย้ายไปอยู่ที่ไหนถ้าไม่ใช่ที่บ้านตระกูลสิงห์ และผมก็ไม่ให้คุณพ่อลาออกจากที่นี่ไปจนกว่าคุณพ่อจะเรียนจบมหาวิทยาลัยด้วย!”

“ไอ้วิน!” ผมแทบลุกขึ้นยืนเลยครับ ทำเอาเก้าอี้โซฟาถึงกับหงายท้องลงไปนอนกับพื้น

“ผมเองก็ไม่อนุญาตให้คุณวีร์ย้ายไปอยู่กับคุณไฟด้วยเหมือนกันครับ” ผมแทบหันไปมองคนใจเย็นอย่างอิฐ ที่มักจะเชื่อฟังผมอยู่เสมอในยามเป็นวีรวัฒน์ แต่บัดนี้กลับทำหน้าบึ้งตึงไม่ใจเย็นเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว “ถ้าคุณวีร์คิดจะไปอยู่กับคุณไฟล่ะก็ ต้องข้ามศพผมไปก่อน”

ให้ตายสิไอ้เด็กสองคนนี้นี่!

“แล้วจะให้ฉันรอไปถึงอีกนานแค่ไหน” ผมกัดฟันพูดด้วยความใจเย็น พยายามข่มอารมณ์ไม่ให้ระเบิดออกมาเสียก่อน “พวกแกก็รู้ว่าฉันกับไฟรอเวลานี้มานานแล้ว รอวันที่จะได้อยู่ด้วยกัน”

“กะอีแค่สี่ปีคุณพ่อถึงกับรอไม่ได้เลยหรือครับ ไหนๆก็รอมาได้หลายปีแล้ว รออีกซักหน่อยก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรไปเลยนี่ครับคุณพ่อ”

ผมกำหมัดแน่นแทบตั๊นหน้าไอ้คนพูดทันที ซึ่งทำเอาบรรยากาศที่มาคุอยู่แล้ว ก็ยิ่งมาคุมากขึ้นกว่าเดิมอีก

“ฉันไม่คิดว่าแกจะพูดแบบนี้นะไอ้วิน” ผมกัดฟันพูดด้วยความเดือดดาล “โอเค คำว่าสี่ปีของแกดูมันสั้นก็จริง แต่สำหรับฉันแล้วต่อให้เป็นกี่วันกี่เดือนกี่ปีก็ถือว่านานอยู่ดี แกลองคิดดูว่าฉันต้องเจ็บมากแค่ไหนที่ไม่ได้อยู่กับเขา ฉันรอวันนี้มานานแล้ว รอวันที่ได้อยู่กับเขา กับคนที่ฉันรัก แต่พวกแกสองคนกลับมาห้ามไม่ให้ฉันไปอยู่กับเขา โอเคเหตุผลของพวกแกฉันเข้าใจและรู้ว่าแกสองคนหวังดี แต่พวกแกอย่าลืมว่าชีวิตของพวกเราเหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย พวกแกคิดหรือว่าสี่ปีนี้จะไม่มีเรื่องเกิดขึ้นกับฉันหรือไฟ อนาคตอาจมีคนอย่างไป่เต๋าเกิดขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้ การที่ฉันกับไฟลงเอยกัน แกไม่คิดรึว่ามันเป็นเรื่องดี เป็นสัญญาณที่ดีที่มือขวาของตระกูลสิงห์กับคนตระกูลเสือกำลังจะดองกัน ฐานอำนาจของเราก็จะมั่นคงขึ้น นอกจากเรื่องส่วนแล้วฉันยังอยากให้พวกแกเล็งถึงผลในอนาคตด้วย”

“คุณพ่อ/คุณวีร์” ทั้งวินทั้งอิฐต่างร้องเรียกชื่อผมเบาๆพร้อมกัน

“แต่ถ้าพวกแกอยากจะแยกฉันกับไฟออกจากกันก็เชิญ เพราะตอนนี้ฉันก็ไม่ใช่พ่อของพวกแกสองคนแล้วนี่นะ” ผมกัดฟันพูดก่อนจะหมุนตัวเดินหนีออกจากห้องทำงานไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ฟังเสียงคำทัดทานของพวกวินเลยแม้แต่น้อย

.........................

 :m17: :m17: :m17: :m17:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-03-2015 22:04:36 โดย dragon123 »

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
 :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ฮ่าๆๆๆๆ ตอนนี้อารมณ์กลับกัน หนุวีร์เป็นเด็กแล้ว ส่วนวินเป็นคุงพ่อห่วงลูกสาว

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
หลังเคลียร์งานเสร็จไฟรีบขับรถมาหาคนรักถึงที่ทำงาน พอมาถึงก็พบว่าคนรักนั้นหายตัวไป แถมพวกลูกหลานก็ไม่รู้ว่าวีร์หายตัวไปที่ใด ด้วยความโมโหจนเกือบจะชักปืนขึ้นมายิงก็ระงับยับยั้งชั่งใจได้ก่อนจะบอกให้ดูกล้องวงจรปิดแทน ซึ่งผลปรากฏว่าวีร์นั้นไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว แต่กลับออกไปข้างนอกคนเดียว

“ถ้าวีร์เป็นอะไรไป รับรองว่าตระกูลสิงห์เหลือแต่ชื่อแน่!” ไฟพูดขู่ด้วยความฉุนเฉียว และเพิ่งมารู้สาเหตุที่วีร์ออกไปจากปากของสิงห์ ซึ่งเขากะว่าจะลองให้ลูกน้องขับรถออกตามหาดูแต่ละจุดที่วีร์เคยไป กลับได้ยินเสียงมือถือเสียก่อน จึงหยิบขึ้นมาดูก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงท่ามกลางสายตาของพวกสิงห์ที่จับตามองตน แล้วรีบกดรับสายขึ้นมาทันที “ครับคุณพ่อคุณแม่ ว่ายังไงนะครับ ครับ ขอบคุณครับ จะรีบไปเดี๋ยวนี้แล้วครับ”

“ได้ข่าววีร์แล้วเหรอ” สิงห์เป็นคนถามเพราะดูท่าว่าคุณพ่อกับลุงอิฐคงไม่กล้าถามแน่

“ใช่” ไฟเงยหน้าขึ้นตอบ ก่อนจะหันไปมองวินกับอิฐอย่างเอาเรื่อง “ฉันรู้นะว่าพวกเธอสองคนห่วงคุณพ่อ แต่คำว่าห่วงของพวกเธอมันจะสร้างบาดแผลทางใจกับเขา เพราะขนาดเรื่องของพวกเธอสองคนวีร์ยังไม่ขอยุ่งเกี่ยวเลย แล้วนับประสาอะไรกับเรื่องของฉันกับวีร์…ฉันบอกได้แค่นี้ หวังว่าพวกเธอสองคนคงคิดเองได้หรอกนะ ก็ในเมื่อโตๆกันแล้วด้วย ขอบคุณที่ช่วยวีร์ทุกอย่าง หลังจากนี้เป็นหน้าที่ของฉัน ฉันจะขอวีร์ไปดูแลเอง ลาก่อน”

แล้วไฟก็เดินออกจากห้องทำงานไปอย่างรวดเร็วพร้อมบอดี้การ์ดชุดดำร่างยักษ์อีกห้าคนท่ามกลางพวกสิงห์ที่ยืนนิ่งพูดอะไรไม่ออกกันเลยซักคนเดียว


............................

 :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
โกรธซะแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ดวงใจถวิลรัก [ตอนที่ 26 up 100% P.26 (9/03/58)]
« ตอบ #759 เมื่อ: 09-03-2015 11:45:42 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ตอนที่ 27

.............................

“ไหนว่าโตแล้วไงไอ้ลูกหมา ทำไมถึงมาอ้อนเมียพ่อได้ล่ะนี่”

“เมียคุณก็แม่ของผม อย่ามายุ่งหน่อยเลยน่ะ จะไปไหนก็ไป เห็นหน้าแล้วรำคาญ”

“จนป่านนี้ยังไม่เรียกพ่อว่าพ่ออีกนะไอ้ลูกหมา จะทำปากแข็งไปถึงไหน”

“พอกันเลยทั้งคู่น่ะ” คนเป็นแม่พูดห้ามทัพศึก ระหว่างลูกชายกับสามีที่เจอหน้ากันก็กัดทันที ถึงแม้ลูกชายที่เป็นอดีตถึงหัวหน้ามาเฟียตระกูลสิงห์มาก่อน แต่ตอนนี้เป็นลูกชายของเธอ กลับอ้อนเธอราวกับเป็นเด็กน้อยขี้แยหาที่พึ่งไออุ่น ส่วนสามีของเธอก็หนีหายตัวไปหลายปี พอเห็นลูกชายสุดที่รักอ้อนเธอเข้าหน่อย ก็ทำเป็นหมาหวงก้างได้กระทั่งลูกชายของตัวเอง “ที่รักคะ ไหนว่าจะซักผ้ายังไงล่ะคะ รีบไปซักเลย เดี๋ยวแดดร่มก็ไม่ได้ตากผ้ากันพอดี”

คนเป็นสามีได้ยินถึงกับทำตาล่ะห้อย เดินคอตกออกไปจากห้องรับแขกเพื่อไปซักผ้าตามที่ตัวเองได้พูดไว้ก่อนหน้านี้ นี่ถ้าใครมาเห็นภาพอดีตมือขวาของตระกูลมังกรที่เดินคอตกไปซักผ้าคงจะขำน่าดู เมื่อสามีเดินออกไปแล้วเธอจึงหันมามองลูกชายที่นอนตะแคงกอดเธอโดยหันหน้าเข้าซบกับหน้าท้องของเธออย่างเงียบๆ

“เป็นอะไรครับคนเก่งของแม่ข้าว ไหนเล่าให้แม่ข้าวฟังหน่อยซิ” เธอถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลพลางลูบหัวลูกชายด้วยความอ่อนโยน ส่วนคนเป็นลูกแทนที่จะหันหน้ามาตอบคำถามเธอดีๆ กลับกอดรัดเธอแน่นขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเธอเห็นว่าลูกชายยังไม่พร้อมที่จะพูด เธอก็ไม่คิดจะบังคับ กลับลูบหัวลูกชายต่อพร้อมกับร้องเพลงงึมงำในลำคอเบาๆ ไปเรื่อยๆ ไม่รีบร้อนอะไร

“คุณแม่ชอบคุณเสือหรือเปล่าครับ” อยู่ๆลูกชายก็พูดขึ้นโพล่งออกมาเสียดื้อๆ ทำเอาเธอที่กำลังร้องเพลงในลำคอถึงกับหยุดชะงักลงทันที นับตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาหลังจากรู้เรื่องที่คุณพยัคฆ์หรือผู้นำตระกูลเสือว่าอดีตเป็นถึงคุณไฟ(คนรัก)กลับชาติมาเกิดเหมือนกับลูกชายเธอแล้ว เธอก็สอนลูกชายเธอว่าต่อหน้าเวลาพูดถึงไฟให้เรียกเขาว่าคุณเสือ “ลูกของผม วินกับอิฐเค้าไม่ชอบขี้หน้าคุณเสือ แถมยังบังคับผมไม่ให้ย้ายไปอยู่กับคุณเสือเพราะเห็นว่าผมยังไม่บรรลุนิติภาวะอีกด้วย”

เธอฉีกยิ้มมุมปากเล็กน้อยพลางลูบหัวลูกชายที่ยังคงกอดเธออยู่ ก่อนจะเอ่ยปากพูดในสิ่งที่ตัวเธอคิดออกไปด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า

“แม่ชอบเพราะลูกชอบเขา ลูกรักใครแม่ก็รักด้วย ต่อให้เขาเป็นใครก็ตาม ส่วนเรื่องที่คุณวินกับคุณอิฐนั้นแม่เข้าใจดี พวกเขาเป็นห่วงลูกในฐานะที่ลูกเคยเป็นพ่อของพวกเขามาก่อน ก็เหมือนกับแม่ที่เป็นห่วงลูก ไม่อยากให้ไปไหนไกลๆ แต่สำหรับแม่แล้ว แม่เห็นว่าคุณเสือสามารถปกป้องลูกได้ ทำทุกอย่างเพื่อลูก และรักลูกยิ่งกว่าชีวิตตัวเอง ดังนั้นแม่ก็เลยไม่ว่าอะไรที่ลูกจะไปอยู่กับเขา ซึ่งแม่ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพวกคุณวินถึงห้ามไม่ให้ลูกไปอยู่กับคุณเสือ นั่นก็เป็นเพราะพวกเขายังไม่ไว้ใจคนที่ลูกรักยังไงล่ะจ้ะ”

พอเธอพูดจบ ร่างที่กอดเธออยู่ถึงกับทอดถอนหายใจเฮือกแรงๆ แต่ก็ไม่พูดอะไรออกมาอีก ซึ่งเธอก็ไม่ว่าอะไร ได้แต่นั่งลูบหัวลูกชายด้วยความรักเต็มอก จนกระทั่งเสียงรถยนต์แล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน ก่อนจะตามด้วยเสียงเอะอะโวยวาย

“แห่มากันแบบนี้คิดจะทำอะไรกันแน่คุณเสือ คุณวิน คุณอิฐ ลูกชายฉันไม่ต้องการเจอหน้าใคร รีบไสหัวไปซะ” ฟังจากเสียงของสามีเธอ ไม่เพียงแค่คนรักของลูกชายเธอจะขับรถมาตามลูกชายเธอหลังจากที่เธอได้โทรไปบอกคุณเสือว่าวีร์อยู่ที่นี่แล้ว กลับมีพวกลูกของลูกชายเธอขับตามมาด้วย เธอจึงก้มหน้ามองลูกชายสุดที่รักซึ่งได้หลับไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ดูท่าพวกคุณวินคงจะมาตามขอโทษและมาตามง้อขอคืนดีด้วยแน่ๆ


............................................

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Noo_Patchy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1055
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-4
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ตอนพิเศษ 1 (วิน & อิฐ)

......................

อิฐภพ คือชื่อของผม ซึ่งคนให้ชื่อเต็มนี้แก่ผมก็คือคุณวีรวัฒน์ หรือคุณวีร์ ท่านประธานแห่งตระกูลสิงห์รุ่นที่สอง เป็นผู้ที่เปรียบเสมือนพ่อคนสองของผม เป็นผู้ที่อุปการะให้กับผมที่เป็นเด็กกำพร้า เด็กขอทานจนๆตามสี่แยกบนถนนหนทางที่ไม่มีใครเหลียวแล ส่วนเหตุผลที่ท่านรับผมเข้ามารับเลี้ยงที่บ้านก็เพราะมีอยู่วันหนึ่ง ณ สี่แยก ผมเดินเร่ขายพวงมาลัยอยู่ดีๆ เสียงรถยนต์เบรกแตกสลับกับเสียงปืนดังสนั่น ทำเอาทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างพาหลบหนีกันจ้าละหวั่นเพราะกลัวถูกลูกหลง ซึ่งตอนนั้นผมมัวแต่ดื่มน้ำหันหลังให้อยู่ ก็เลยไม่ได้ทันวิ่งหนีไปไหน พอผมหันกลับไปดู ก็เห็นรถยนต์คันสีดำเงางามคันหนึ่งวิ่งหงายท้องมาหยุดตรงข้างหลังผม แถมนอกจากนี้รถยนต์สีดำอีกคันที่แล่นตามมาติดๆหยุดดูเหตุการณ์ก่อนจะขับรถหนีหายไปอย่างรวดเร็ว

“โอย ใครก็ได้...ช่วยด้วย” เสียงขอความช่วยเหลือดังเล็ดลอดมาจากในรถยนต์ที่เกิดประสบอุบัติเหตุ แน่นอนว่าคนรอบข้างผมที่ได้ยินต่างพากันส่ายหน้าแล้วเดินหนีจากไปโดยไม่คิดจะช่วยเหลือแม้แต่น้อย ซึ่งทำเอาผมนึกแปลกใจว่าทำไมผู้ใหญ่ถึงไม่ยอมเข้ามาช่วยเหลือคนในรถยนต์เลยซักนิดเดียวทั้งๆที่ปกติต้องรีบเข้ามาช่วยเหลือกันอยู่แล้ว “ช่วยด้วย…อึก”

เสียงนั้นร้องเรียกอีกครั้งก่อนจะเงียบไป ด้วยความกลัวว่าที่เขาจะตายไปต่อหน้าต่อตา ผมจึงรีบปีนเข้ากระจกหน้าต่างที่แตกโดยไม่สนใจมือกับขาของตัวเองที่พลอยถูกกระจกบาดไปด้วย

“ผมมาช่วยแล้วฮะ…” ผมบอกพลางมองคนในรถยนต์ ก่อนจะแลเห็นผู้ชายอายุราวประมาณยี่สิบสามสิบโดยประมาณ สวมเสื้อสูทสีดำเนกไทสีเทายับยู่ยี่ บนหน้าผากมีเลือดไหลเต็มหน้าเต็มตา กำลังหลับตาร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด และนอกจากนี้ที่หัวไหล่ของอีกฝ่ายมีเลือดไหลออกเสียชุ่มอีกด้วย “…คุณลุง คุณลุงเจ็บมากไหมฮะ ผมจะได้โทรแจ้งตำรวจกับพยาบาลมาให้”
ถึงผมจะเป็นเด็กแค่สิบขวบ แต่ผมเคยช่วยคนเจ็บมาหลายครั้งต่อหลายครั้งแล้ว ดังนั้นเจอกะอีเรื่องแค่นี้ไม่ทำให้ผมได้รู้สึกกลัวเลยแม้แต่น้อย ส่วนคุณลุงที่ผมพูดด้วย กลับลืมตาขึ้นมามองผมด้วยสีหน้าอิดโรย

“อืมฉันยังไม่แก่ อย่าเรียกว่าลุง…อ้อ…ช่วยโทรให้…ทีนะ…ไอ้หนู” แล้วเขาก็สลบไป ซึ่งผมไม่รอช้า รีบค้นหามือถือของอีกฝ่ายที่คาดว่าอยู่ในกระเป๋าเสื้อหรือกางเกง ซึ่งพอเจอแล้วก็รีบโทรตามรถโรงพยาบาลให้ออกมาช่วยรับผู้ประสบเหตุทันที เมื่อรถโรงพยาบาลมารับ ผมก็รีบขึ้นรถตามไปด้วยเช่นกัน จนกระทั่งถึงโรงพยาบาล บุรุษพยาบาลก็เข็นผู้ชายที่นอนอยู่บนเตียงเข้าห้องไอซียูไป ส่วนผมเองก็ไม่รู้จะทำอะไรดี ได้แต่ยืนซ้ายแลขวาเพื่อรอเวลา แต่รอแล้วรอเล่า รอนานมากจนผมเผลอหลับไป มารู้ตัวอีกทีก็เห็นพวกชายชุดดำนับสิบยี่สิบกว่าคนมายืนรุมล้อมหน้าห้องไอซียูแล้ว

“เธอใช่ไหมที่เป็นคนช่วยบอสน่ะ” จู่ๆ ก็มีชายวัยเดียวกับลุงที่ผมช่วยเอาไว้ สวมเสื้อสูทแบบเดียวกันเดินเข้ามาถามด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม “ขอบคุณนะไอ้หนู ถ้าไม่ได้เธอแล้วล่ะก็ บอสของฉันคงจะต้องตายไปแล้วล่ะ”

ผมส่ายหน้าก่อนจะฉีกยิ้มตอบกลับไปว่า

“ไม่เป็นไรฮะ เรื่องแค่นี้เอง ว่าแต่พวกคุณลุงเป็นใครกันเหรอ แล้วผู้ชายคนนั้น…เอ่อ” ผมพูดพลางชะเง้อมองไปยังที่ประตูห้องไอซียู ก่อนจะวกสายตากลับมาคนเดิมที่ยืนตรงหน้า “…เป็นอะไรกับคุณลุงเหรอฮะ สรุปเขาชื่อบอสเหรอฮะเนี่ย แหม ชื่อเท่จัง ไม่เหมือนกับผม ผมน่ะไม่มีชื่อเป็นของตัวเองเลย”

พอผมพูดจบ ผู้ชายชุดดำตรงหน้ารวมถึงผู้ชายอีกหลายคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเขาต่างพากันหัวเราะทันที ซึ่งผมเองก็ได้แต่เอียงคอสงสัยพวกเขาว่าทำไมถึงต้องหัวเราะด้วย

“เขาน่ะไม่ได้ชื่อบอสหรอกนะไอ้หนู” ผู้ชายคนนั้นพูดไปยิ้มไปพลาง “บอสเป็นสรรพนามที่พวกเราใช้เรียกเขาน่ะ ส่วนชื่อจริงนั้นถ้าเธออยากรู้ ฉันจะบอกให้ก็ได้ เพราะยังไงเธอก็ต้องอยู่รอบอสของพวกเราฟื้นอยู่ดีนั่นแหละ อ้อ ต่อไปนี้ห้ามเธอเรียกพวกเราว่าลุงอีกนะจำเอาไว้ เพราะพวกเราไม่ได้แก่ถึงขนาดนั้นซักหน่อย จริงไหมพวกเรา”

“จริง!” ทุกคนขานตอบพร้อมกันเป็นเสียงเดียว

“แล้วบอสที่ว่าของพวกลุงชื่ออะไรเหรอฮะ?” ผมเอียงคอถามด้วยความสงสัย ซึ่งอีกฝ่ายยิ้มก่อนจะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงทุ้มแลดูลึกลับซับซ้อนว่า

“ชื่อวีรวัฒน์ หรือเธอจะเรียกว่าวีร์ก็ได้นะไอ้หนู”.

...........................

“อะไรนะฮะ? ให้ย้ายไปอยู่กับคุณลุงนะเหรอฮะ”

“ใช่แล้วไอ้หนู” คนป่วยยิ้มตอบในขณะที่กัดแอปเปิ้ลที่ผมเป็นคนปอกให้ “ฉันทำเรื่องให้เธอย้ายไปอยู่กับฉันที่บ้าน ต่อไปนี้เธอคือลูกชายบุญธรรมของฉัน ไม่ใช่เด็กข้างถนนอีกต่อไป ส่วนเหตุผลที่ฉันทำก็เพื่อตอบแทนบุญคุณเธอที่อุตส่าห์ช่วยชีวิตฉันเอาไว้ยังไงล่ะ หวังว่าเธอคงจะไม่ปฏิเสธหรอกนะ อ้อ แล้วก็เลิกเรียกฉันว่าคุณลุงได้แล้ว เพราะฉันยังไม่แก่ถึงขนาดนั้นนะไอ้หนู”
ผมส่ายหน้าทันที เรื่องพวกนี้ใครจะกล้าปฏิเสธกันล่ะ เพราะหลังจากที่ได้คุยกับพวกชายชุดดำของคุณลุงแล้ว ผมพอรู้คร่าวๆว่าลุงวีร์ เอ๊ย คุณวีร์เป็นนักธุรกิจไฟแรง เป็นทายาทของตระกูลสิงห์รุ่นที่สอง เบื้องหลังก็คือมาเฟียที่โด่งดัง ไม่ว่าใครต่างก็รู้จัก แถมเป็นมาเฟียตัวเป้งที่ไม่ว่าใครต่างก็พากันเกรงกลัว แต่ผมไม่กลัวหรอกครับ เพราะเขาใจดี คุยสนุก แถมยังดูหนุ่มแน่นหน้าหวานออกขนาดนี้ จะไปฆ่าใครได้จริงไหมล่ะครับ

“ผมยังไงก็ได้ฮะ แล้วแต่คุณวีร์” ผมยิ้มตอบ แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร เสียงประตูถูกเปิดอีกครั้ง ก่อนจะแลเห็นผู้ชายร่างสูงอีกคน ใบหน้าคมเข้ม ผมเผ้าสีแดงสั้นปะบ่าประกอบกับนัยน์ตากับชุดกี่เพ้าที่สวมใส่เป็นสีแดงนั่น ทำเอาผมเห็นแล้วรู้สึกร้อนแรงไปกับสีที่เห็นจนต้องขยับถอยหนีออกห่างจากเตียง

“ไม่ต้องขยับหรอกไอ้หนู นั่งที่เดิมนั่นแหละ” คุณวีร์บอกเสียงเรียบ แต่ตาจับจ้องมองไปยังผู้มาใหม่ด้วยสายตาเจ็บปวด คำพูดของคุณวีร์ทำให้ผมยอมนั่งที่เดิม แต่ก็อึดอัดน่าดูที่ต้องมาเห็นพวกเขาสองคนจ้องตากัน “ขอบคุณนะที่มาเยี่ยม วีร์ไม่ได้เป็นอะไรแล้วจริงๆ ก็อย่างที่เห็น แค่โดนยิงที่หัวไหล่กับหัวแตกเพราะกระแทกกับเพดานรถยนต์ตอนมันคว่ำก็แค่นั้นเอง”

อีกฝ่ายยืนนิ่งไม่ตอบ แลดูน่าอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก

จะพูดอะไรก็พูดไปสิครับคุณพี่ชายสีแดง…

ผมครุ่นคิดในใจอย่างเงียบๆ อยากจะออกไปข้างนอกเต็มแก่ แต่ติดตรงที่คนป่วยไม่ยอมให้ลุกไปไหน จึงได้แต่นั่งมองทั้งคู่อยู่อย่างนั้น แล้วพี่ชายสีแดงก็ย่างก้าวเดินมาหา ก่อนจะวนอ้อมไปยังอีกฟากเตียงที่ผมนั่งอยู่ ทีแรกผมก็คิดว่าเจ้าตัวคงอยากจะคุยกับคุณวีร์ใกล้ๆ แต่เจ้าตัวกลับดึงแขนคุณวีร์ขึ้นมาปะทะอกตัวเองก่อนจะสวมกอดอย่างแนบแน่นท่ามกลางความตกตะลึงของผม

ผู้ชายกอดผู้ชาย?!

“อย่าทำให้ต้องเป็นห่วงสิวีร์” อีกฝ่ายก้มหน้าพูดเสียงกระซิบแผ่วเบาแลสั่นเครือราวกับจะร้องไห้ได้ทุกเมื่อ “พอที่ได้รู้ข่าวจากมือขวาของวีร์ ก็ทำเอาฉันลืมหายใจไปเลยรู้ไหม”

ส่วนคุณวีร์ก็ทอดถอนหายใจก่อนจะกอดตอบพี่ชายสีแดงไปว่า

“ขอโทษนะที่ทำให้เป็นห่วง วีร์จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วล่ะไฟ”

หลังจากนั้นผมก็ได้รู้ในภายหลังจากพี่มือขวาของคุณวีร์บอกกับผมว่าไฟเป็นคนรักของคุณวีร์ แต่พวกเขาสองคนไม่ได้แต่งงานกันเพราะคุณวีร์ต้องแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นตามที่คุณพ่อคุณแม่คุณวีร์สั่ง ซึ่งคุณไฟเองก็ขัดไม่ได้ เพราะตามใจคุณวีร์ที่ต้องสืบทอดวงศ์ตระกูลอย่างที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

น่าสงสารคุณวีร์กับคุณไฟเสียจริง…

คุณวีร์อยู่โรงพยาบาลได้ไม่นานนักก็ต้องย้ายกลับไปพักรักษาตัวที่บ้าน ซึ่งผมก็ต้องตามไปด้วย แน่นอนพอเห็นบ้านหรือคฤหาสน์ของคุณวีร์เป็นครั้งแรก ทำเอาผมถึงกับอ้าปากหวอด้วยความตกตะลึง

“สวยใช่ไหมล่ะ” คุณวีร์ถามไปหัวเราะไปพลาง ซึ่งผมพยักหน้ารัวให้กับคำพูดนั้น “งั้นรอช้าทำไมล่ะไอ้หนู ฉันจะพาเธอไปแนะนำให้รู้จักกับลูกชายกับเมียของฉันด้วย”

“ฮะคุณวีร์” ผมยิ้มตอบก่อนจะเดินตามหลังคุณวีร์ไปพร้อมด้วยพี่มือขวากับบอดี้การ์ดนับสิบ

หวังว่าลูกชายกับเมียของคุณวีร์คงไม่ใจร้ายกับเด็กกำพร้าที่เขารับมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมหรอกนะ?

........................................

“นี่ภรรยาของฉันชื่อลินดา ส่วนคนนี้ลูกชายของฉันเอง วินภัทรหรือจะเรียกว่าวินก็ได้นะ”

คุณวีร์พูดแนะนำทั้งคู่ให้ผมได้รู้จัก ภรรยาของคุณวีร์ดูจากโดยรวมแล้วเป็นผู้หญิงที่สวยเปรี้ยวชนิดที่เห็นแล้วเข็ดฟัน เอาเป็นว่าเป็นผู้หญิงที่ดูมีความมั่นใจในตัวเองสูงแล้วกัน ส่วนอีกคนเป็นเด็กผู้ชายที่ดูอายุน้อยกว่าผมไม่กี่ปี แต่กลับทำหน้าเคร่งขรึมจนผมรู้สึกว่าจะเข้ากับเขาได้หรือเปล่าก็ไม่รู้

ไม่เป็นไร ของแบบนี้มันต้องใช้เวลาเดี๋ยวก็เข้าหน้ากันได้เอง…

ผมครุ่นคิดในใจก่อนจะยกมือขึ้นพนมไหว้ภรรยากับลูกชายของคุณวีร์อย่างรู้งาน

“สวัสดีครับคุณผู้หญิงคุณหนู”

“เฮ้ยไม่ต้องไหว้ลูกฉันก็ได้ เพราะยังไงเธอก็ได้เป็นพี่น้องกับวินแล้วล่ะ” คุณวีร์ร้องห้าม ซึ่งทำเอาผมเอียงคอมองด้วยความสงสัย “ฉันบอกเธอไปแล้วไงว่ารับเธอมาเป็นลูกบุญธรรม ฉะนั้นต่อไปนี้เธอเป็นพี่ชายของวิน เพราะวินอายุแค่หกขวบเอง”

หกขวบแต่รูปร่างท่าทางเป็นมากกว่าเด็กหกขวบ…

“คุณแน่ใจนะคะว่าจะรับเด็กข้างถนนคนนี้มาเป็นลูกบุญธรรมน่ะ” คุณผู้หญิงพูดพลางเหลือบตามองผมอย่างดูถูกดูแคลน ซึ่งผมเจอสายตาแบบนี้มาเยอะแล้วครับ จึงไม่รู้สึกรู้สาอะไร เพราะเป็นธรรมดาของสัจธรรมของชีวิตมนุษย์เราที่ต้องเผชิญกับโลกภายนอกที่เลวร้าย “ลูกเสือลูกตะเข้แท้ๆ มันจะหันมาแว้งเราวันไหนก็ไม่รู้”

คุณวีร์ได้ยินถึงกับส่ายหน้าทันที

“ไม่เอาน่ะลินดา อย่าไปตั้งแง่กับเด็กสิ อีกอย่างเด็กคนนี้ก็เป็นผู้มีพระคุณ ถ้าไม่ได้เขาฉันคงตายไปนานแล้ว เธอน่ะทำหน้าที่แม่ของเจ้าวินกับภรรยาของฉันให้ดีก็พอ ให้มันสมฐานะที่เป็นถึงนายหญิงของตระกูลสิงห์หน่อย อ้อ ส่วนเรื่องเที่ยวกับช็อปปิ้งก็ให้มันเพลาๆลงหน่อย เพราะฉันไม่อยากให้เงินที่ฉันหามาได้ไปถลุงกับของไร้สาระ”

“คุณวีร์!” คุณผู้หญิงถึงกับร้องอุทานด้วยความตกตะลึง แถมยังทำท่าจะกรีดร้องอีกด้วย

“อย่ากรี๊ดออกมาเชียวนะ ที่นี่ไม่ใช่วิกละครหลังข่าว เธอมาเป็นผู้หญิงของที่นี่แล้วก็ต้องทำตามกฎของที่นี่ ถ้ารับไม่ได้ก็หย่าแล้วออกไปจากที่นี่ซะ เพราะที่นี่ไม่ต้อนรับผู้หญิงที่มีดีแต่เปลือก”

อู้ววว แรงงงงง!!

“ไปกันเถอะอิฐ อ้อ วินด้วยนะลูก เพราะวันนี้พ่อจะพาเราทั้งคู่ไปลองฝึกยิงปืนดู”

“อิฐ?” ผมได้ยินจึงถามกลับไปด้วยความมึนงง ซึ่งคุณวีร์ยังไม่ตอบคำถามเดี๋ยวนั้น กลับคว้ามือของลูกชายตัวเองก่อนจะหันมาคว้ามือผม แล้วหันมายิ้มตอบให้กับผมว่า

“ต่อไปนี้ชื่อของเธอคืออิฐภพ หรือเรียกสั้นๆว่าอิฐได้นะ”

.................................

 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
“ดูท่าจะหลับสนิทเลยนะครับ”

“ใช่จ้ะ เห็นทำท่าว่าไม่เหนื่อยแต่ที่จริงเหนื่อยมาก” แม่ข้าวยิ้มตอบ หลังจากที่ขับรถมาถึงพวกผมก็เดินลงมากะหมายว่าจะขอโทษคุณพ่อ แต่กลับพบว่าท่านนอนหลับไปแล้ว ดังนั้นไฟจึงอุ้มคุณพ่อขึ้นไปนอนที่ห้องนอนก่อนจะพากันลงมานั่งคุยกันในห้องรับแขกแทน “ฉันไม่รู้ว่าพวกคุณไปมีเรื่องอะไรกับตาหนู แต่ฉันขอล่ะคุณวินคุณอิฐ ไม่ว่าเขาจะอยู่ในฐานะลูกชายของฉันหรือคุณพ่อของพวกคุณสองคนก็ตาม กรุณาปล่อยเขาไปใช้ชีวิตตามที่ใจตัวเองต้องการเถอะ เพราะขนาดฉันกับสามียังไม่ห้ามเลย”

“มันก็จริงอยู่ แต่ถ้าในฐานะวีร์ในตอนนี้ เขาเป็นแค่เด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แถมยังเรียนไม่…”

“ถ้าเธอถือเรื่องเกณฑ์อายุล่ะก็ แค่สิบแปดก็ถือว่าโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว” เสือหรือไฟพูดแย้งพลางเหลือบมองผมด้วยสายตาเย็นชา “ส่วนเรื่องที่ยังเรียนไม่จบนั้นก็ใช่ แต่แล้วยังไงล่ะ ฉันไม่ได้ทำให้วีร์เสียการเรียนซักหน่อย นี่ขนาดวีร์เจอเรื่องมรสุมแต่เขายังสามารถเอนทรานซ์ฯติดคณะบริหารได้เลยด้วยซ้ำไป”

ผมแทบพูดไม่ออกเมื่อเจออีกฝ่ายพูดสวนฮุกใส่ไม่ยั้ง

“ฉันว่าพวกเธอสองคนหวงวีร์มากเกินไปจนลืมว่าตัวเองก็เคยผ่านเรื่องนั้นมาก่อน ฉันพูดถูกใช่ไหม” คำพูดของเสือหรือไฟทำเอาผมกับอิฐถึงกับสะอึกไปเลยทันที ตอนผมกับอิฐยังเป็นวัยรุ่น ได้แอบมีอะไรกันโดยที่คุณพ่อไม่ได้รับรู้เรื่องนี้ด้วย

“คุณรู้ได้ยังไงว่าผมกับอิฐ…”

“แล้วเธอคิดหรือว่าวีร์ไม่รู้เรื่องนี้น่ะ” อีกฝ่ายพูดสวนขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งทำเอาผมกับอิฐถึงกับสะอึกเป็นรอบที่สอง “เธอคิดหรือว่าคุณพ่อเธอจะโง่ถึงขนาดไม่รู้เรื่องพวกนี้ เขาก็แค่แกล้งทำเป็นโง่ ทำเป็นไม่ได้ยินเรื่องที่พวกเธอทำอะไรกันลับหลังเขา อ้อ ไม่ต้องเป็นห่วงไป เรื่องนี้วีร์ไม่ได้เล่าให้ฉันฟังหรอก แต่ฉันเดาทางออกได้เอง ที่วีร์แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องก็เพราะเขาเชื่อใจพวกเธอสองคนตั้งหากล่ะ”

“เชื่อใจ?” ผมทวนคำพูดสลับกับมองหน้าอิฐที่หันมามองผมด้วยความแปลกใจ ก่อนจะหันกลับไปมองเสือหรือไฟอีกครั้ง แต่ทว่าอีกฝ่ายไม่ได้เป็นฝ่ายตอบคำถามพวกผม กลับเป็นแม่ข้าวพูดให้คำตอบเอง

“ใช่จ้ะ เชื่อใจในลูกตัวเอง ก็เหมือนฉันกับสามีที่เชื่อใจในตัววีร์ เชื่อมั่นในตัวลูกชายว่าเขาจะต้องไม่ทำให้พวกฉันผิดหวัง แค่นี้ก็คงมากพอที่ทำให้พวกคุณสองคนเข้าใจที่ฉันพูดนะคุณวินคุณอิฐ”

เชื่อใจคุณพ่องั้นหรือ?

“ไว้รอวีร์ตื่นก่อน ถึงตอนนั้นแล้วพวกคุณค่อยไปพูดขอโทษกับวีร์เอาเองนะ เพราะฉันจะไม่ช่วยพูดให้” แล้วแม่ข้าวกับสามีเธอที่ไม่ได้พูดอะไรซักคำต่างพากันขอตัวไปทำงานบ้าน ทิ้งให้ผมกับอิฐยกเว้นไฟที่เดินหนีขึ้นห้องวีร์ไปแล้วนั่งจมความคิดของตัวเองอยู่ในห้องนั่งเล่นอย่างเงียบๆ
 
......................................................

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-03-2015 08:01:47 โดย dragon123 »

ออฟไลน์ netthip viriya

  • รับจ้างวาดปกนิยาย ตัวอย่างดูโปรไฟล์ได้เลยhttps://www.facebook.com/ARTmeto
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
    • https://www.facebook.com/ARTmeto
ยังไงก็เชียคุณสิงห์อยู่ดีอะ 3P น้าาาาาาาาาาาาาาา

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เคยไหมครับ ลืมตาขึ้นมาก็พบกับดวงตาคมจ้องมองผมอย่างเงียบๆ ไม่เพียงแค่นั้นตัวผมยังนอนซบอกของอีกฝ่ายอย่างไม่รู้ตัวอีกด้วย ทีแรกผมคิดว่าตื่นมาจะพบกับแม่ข้าวเพราะก่อนหน้าที่จะหลับไปผมนอนซบตักท่านอยู่ แต่พอตื่นขึ้นมากลับพบว่าเป็นไฟซะได้

ฟอด!

“อรุณสวัสดิ์ครับที่รัก” ไฟหอมแก้มผมพลางพูดกล่าวอรุณสวัสดิ์ด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ และทำท่าจะจูบปากผมอีกด้วย ทำเอาให้ผมถึงกับรีบเอามือยกขึ้นมาปิดปากไฟทันที

“อย่าสิไฟ วีร์ยังไม่ได้แปรงฟันเลย เดี๋ยวก็เหม็นหรอก” ผมบอก แต่ตาคมที่จ้องมองมาอย่างตรงๆในระยะเผาขนนั้นทำเอาผมรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วหน้า ก่อนจะสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจเมื่อสัมผัสถึงความนุ่มร้อนบนฝ่ามือของตัวเอง

ไฟเลียมือ?!

ผมจะชักมือออกมาแต่โดนมือหนาคว้าเอาไว้เสียก่อน

“อย่าไฟ ไม่เอานะ วีร์จะ...” ไม่ทันแล้วครับ ริมฝีปากของไฟประกบริมฝีปากของผมเป็นที่เรียบร้อย “อึก อือออ อืมมม แฮ่กๆ อ๊ะ พอ อืมมมม”

บดจูบทั้งสอดลิ้นกวาดลิ้นแถมยังขบปากผมจนเลือดออกซิบๆ หัวขาวโพลนไปหมด ไม่นานนักไฟก็ถอนริมฝีปากออกมาส่งสายตาหวานเยิ้มก่อนจะพูดกระซิบข้างหูผมว่า

“ใครว่าเหม็น ออกจะหวานขนาดนี้จริงไหมครับที่รัก”

!!!!!!

“ถ้าที่รักไม่ว่าอะไร ไฟขอออกกำลังกายตอนเช้าซักยกนะครับ”

!!!!!!


................................

 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
“ขอโทษครับคุณพ่อ!”

เสียงทุ้มพูดพร้อมกันก่อนที่ทั้งคู่จะก้มลงกราบลงบนฝ่าเท้าของวีร์ แน่นอนว่าทำเอาผมเดินถอยหลังหนีทันทีเพราะถึงแม้ผมจะเคยเป็นพ่อของวินกับพ่อบุญธรรมของอิฐก็ตาม แต่ตอนนี้ไม่ใช่อีกแล้ว ดังนั้นภาพที่เห็นออกมาจึงดูไม่สวยนักในสายตาคุณแม่กับคุณพ่อคนใหม่ของผมที่อยู่ในห้องรับแขก ส่วนทั้งคู่เห็นว่าผมเดินหนีออกไป ถึงกับเงยหน้าขึ้นมาด้วยใบหน้าซีดเผือด

“พวกผมขอโทษที่พูดอะไรออกไปโดยไม่คิด” วินเป็นฝ่ายพูดก่อน “พวกแค่เป็นห่วงคุณพ่อ ก็เลยลืมนึกถึงจิตใจของคุณพ่อไป ไม่เชื่อมั่นในตัวคุณพ่อทั้งๆที่คุณพ่อเชื่อมั่นในตัวพวกผม”

“ถ้าคุณพ่อโกรธก็ลงโทษพวกผมได้นะครับ แต่ขอล่ะ อย่าทำเหินห่างได้ไหมครับ” อิฐพูดต่อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ซึ่งทำเอาผมหันไปมองไฟเพื่อขอความช่วยเหลือ ส่วนไฟก็ได้แต่พยักหน้าบอกประมาณโดยว่าให้ทำตามที่เคยพูดเอาไว้เมื่อเช้า

“ถ้าฉันยกโทษให้ พวกแกสองคนจะยอมให้ฉันย้ายไปอยู่กับไฟหรือยังไง” ผมพูดก่อนจะยกมือขึ้นกอดอกทำท่าเคร่งขรึมเพื่อข่มขู่อดีตลูกชายทั้งสองคนให้อยู่หมัด “ไม่สมกับเป็นผู้นำเลยนะวิน นึกอยากจะกลับคำก็กลับ ไม่นึกถึงใจของคนอื่นบ้างเลยนะ”

วินได้ยินที่ผมพูดถึงกับน้ำตาซึมคอเบ้า ก่อนจะก้มหน้าลงกับพื้นอีกครั้ง

“ขอโทษครับคุณพ่อ ผมยอมคุณพ่อแล้ว จะให้ทำอะไรผมก็ยอม”

“ผมด้วยครับคุณพ่อ” อิฐพูดพลางก้มหัวด้วยอีกคน “จะให้ทำอะไรผมก็ยอมทุกอย่าง”

“แน่นะว่ายอมทุกอย่างน่ะ?” ผมถามย้ำอีกรอบด้วยน้ำเสียงขึงขัง ยังดีที่ทั้งคู่ก้มหน้าอยู่ก็เลยไม่ทันเห็นสีหน้าเจ้าเล่ห์ของผม ส่วนไฟฉีกยิ้มอย่างพอใจกับการแสดงของผม แถมยังยกนิ้วโป้งให้ผมอีกด้วย

“แน่ใจครับคุณพ่อ!” ทั้งอิฐทั้งวินต่างพูดพร้อมกัน ซึ่งทำเอาผมกระแอมไอก่อนจะเอ่ยปากพูดสั่งว่า

“ถ้างั้น…”

...............................

 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
 

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
 :mew1: :mew1: :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ดวงใจถวิลรัก [ตอนที่ 27 up 70% P.26 (21/03/58)]
« ตอบ #769 เมื่อ: 21-03-2015 08:54:34 »





ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
“คุณน้าเห็นคุณพ่อกับลุงอิฐของผมบ้างหรือเปล่าครับ”

จีนเป็นตัวแทนในการเอ่ยปากถามแม่ข้าวหลังจากนั่งรถติดมากับพี่สิงห์ พี่ลีโอ พี่กระต่ายและพี่เหยี่ยวมาด้วย (บันนี่กับแรบบิทก็ตามมาด้วยเพราะขามาต้องแวะรับพวกเด็กๆจากโรงเรียนน่ะครับ) พวกเขาเห็นว่าคุณพ่อกับลุงอิฐมาหาวีร์ที่บ้านอยู่นานครึ่งค่อนวันจนเกือบเย็นไม่ยอมกลับ ก็เลยนึกเป็นห่วงพากันขับรถออกตามหาถึงบ้านวีร์ แต่กลับพบแค่คุณแม่กับคุณพ่อของวีร์เท่านั้น ส่วนแม่ข้าวนั้นเมื่อได้ยินที่พวกลูกของวีร์ถามก็พลันมองหน้าสามีของตัวเองก่อนจะหันมายิ้มตอบว่า

“เห็นจ้ะ”

“แล้วพวกเขาไปกับใครไปที่ไหนกันครับ” จีนถามต่ออย่างสงสัย

“ไปกับวีร์กับคุณเสือจ้ะ ส่วนสถานที่...” คุณแม่ยิ้มก่อนจะตอบกลับไปว่า “...สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าจ้ะ”

“ว่ายังไงนะสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า!”


เพราะด้วยเหตุนี้สี่หนุ่มหนึ่งสาวกับเด็กแฝดอีกสองมายืนอยู่ตรงที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ก่อนจะยืนมองวีร์กับไฟที่ยืนแจกอาหารให้กับพวกเด็กๆ แต่ที่น่าตกตะลึงไปยิ่งกว่านั้นก็คือ

ภาพของคุณพ่อกับลุงอิฐกำลังนั่งป้อนข้าวให้กับเด็กเล็ก!

“นี่เราฝันไปหรือเปล่า”

“นั่นสิ”

“ทำไมพวกเขาถึงทำแบบนี้ล่ะ”

“ถ้าอยากรู้ก็ต้องไปถามวีร์กับไฟแล้วล่ะ” สิงห์พูดให้คำตอบก่อนจะเป็นแกนนำเดินไปถามทันทีโดยมีพวกน้องเดินตามหลังสิงห์มาด้วย ซึ่งทำเอาทั้งคู่ที่กำลังยืนแจกอาหารให้กับพวกเด็กนั้นถึงกับเงยหน้าขึ้นมอง “กำลังทำอะไรอยู่”

“อาบน้ำอยู่มั้งครับ” คำตอบนี้ไม่ใช่วีร์เป็นคนตอบ แต่เป็นไฟที่ยังไม่เลิกเขม่นสิงห์

“ไฟก็ พูดกับเขาดีๆสิ” วีร์บอกก่อนจะเป็นฝ่ายให้คำตอบ “มาแจกอาหารให้กับพวกเด็กกำพร้าน่ะ อันที่จริงทำไปเพื่อจะลงโทษพ่อกับลุงของเธอน่ะสิงห์”

“ลงโทษ?!” คราวนี้ไม่ใช่สิงห์คนเดียวที่ตกใจ ทุกคนยกเว้นบันนี่กับแรบบิทถึงกับร้องอุทานพร้อมกัน

“ใช่ ลงโทษ” วีร์ย้ำคำตอบก่อนจะพูดต่อ “ก็อย่างที่พวกเธอรู้ ว่าสองคนนี้ไม่ยอมให้ฉันย้ายไปอยู่กับไฟ พอพวกเขาเข้าใจดีและมาขอโทษขอขมาฉัน บอกว่าเชิญลงโทษพวกเขายังไงก็ได้ ฉันกับไฟก็เลยพามาที่นี่น่ะ”

“แล้วทำไมต้องแจกอาหารกับเด็กกำพร้าด้วยล่ะคะ?” กระต่ายถามด้วยความสงสัย เพราะฟังดูไม่น่าจะเป็นเหตุเป็นผลของการลงโทษที่คุณพ่อกับลุงอิฐไม่ยอมให้คุณปู่ย้ายไปอยู่กับคุณไฟเลยด้วยซ้ำ

“ไม่รู้สิ มันก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องลงโทษด้วยการพามาแจกอาหารกับเด็กกำพร้าหรอกนะ” วีร์ยิ้มมุมปากตอบก่อนจะหันไปมองคุณพ่อกับลุงอิฐของพวกเขาด้วยสายตาเอ็นดู “เพียงแต่ฉันอยากให้พวกเขาได้เห็นได้รับรู้ถึงความรู้สึกของการเป็นผู้ให้ดูบ้างก็เท่านั้นเอง”

ได้เห็นได้รับรู้ถึงความรู้สึกของการเป็นผู้ให้ดูบ้าง...

แล้วพวกเขาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อเพราะถูกวีร์ชวนกึ่งบังคับให้มายืนแจกอาหารกับพวกเด็กๆ

...............................

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
 :L2: :L2:

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ตอนที่ 28

...............................

หลังจากวันที่ผมพาเจ้าวินกับเจ้าอิฐไปทำบุญด้วยการแจกอาหารให้กับพวกเด็กๆในสถานที่รับเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้ว สองคนนั้นก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ยอมให้ผมย้ายไปอยู่กับไฟอย่างไม่มีข้อขัดแย้ง แต่ทั้งคู่ขอให้ผมได้กลับมานอนค้างที่บ้านบ้างเดือนละครั้งก็ยังดี ซึ่งผมก็ยอมครับ เพราะถึงยังไงบ้านหลังนั้นก็เคยเป็นบ้านของผมมาก่อน ส่วนพวกสิงห์นั้นก็ยอมย้ายกลับมาอยู่บ้านตามที่วินสั่ง พอหมดห่วงกับภาระแล้วผมกับไฟก็พากันลงใต้เที่ยวทะเลที่กระบี่เพื่อพักผ่อนหย่อนใจซักหนึ่งเดือน

“ให้พวกผมไปด้วยคนสิครับคุณพ่อ” ดูเจ้าวินพูดสิครับ โตจนมีหลานแล้วยังจะตามดูแลผมอีก

“นั่นสิครับคุณ ผมเองก็อยากจะอยู่คอยรับใช้คุณพ่อเหมือนกัน” นี่ก็อีกคน โตจนหมา(เจ้าวิน)เลียก้นจนเสร็จไม่รู้จะเสร็จไปกี่พันครั้งแล้วยังจะตามตื้อคอยรับใช้ผมอีกอยู่ได้ ซึ่งผมก็ยื่นคำขาดไปว่าถ้าตามไปด้วยผมจะไม่กลับไปนอนที่บ้านอีก ทำเอาเด็กน้อยขี้แยในร่างผู้ใหญ่ถึงกับยอมแพ้ยกธงขาวแต่โดยดี

“ที่จริงสองคนนั้นก็น่าสงสารนะ อุตส่าห์ได้พ่อตัวเองกลับคืนมาแต่ก็ไม่ได้ดูแลอย่างเต็มที่” คำพูดของไฟทำเอาผมที่กำลังเงยหน้ามองดูดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืนในอ้อมกอดของไฟอยู่บนเปลไม้ริมชายหาดทะเลถึงกับเอียงหน้าหันไปมองคนรัก ก่อนจะใช้มือบีบปากหนาเบาๆด้วยความหมั่นไส้

“เหรอ ถ้าสงสารมากก็ไม่ต้องมาคุยกันเลย” แล้วผมก็ยันตัวลุกขึ้นนั่งเตรียมจะลงเดินหนี งอนแล้วครับ เล่นพูดแบบนี้ปวดใจมากขอบอกตามตรง แต่ยังไม่ทันได้ไปไหน อีกฝ่ายดึงผมให้กลับไปนอนซบอกตัวเองตามเดิม “ปล่อยเดี๋ยวนี้นะไฟ! ปล่อยสิ”

“ไม่ครับ เพราะที่รักต้องฟังไฟพูดให้จบเสียก่อน”

“พูดอะไร ไม่อยากฟังแล้ว” ผมบอกพลางทุบหน้าอกไฟไม่ยั้ง โมโหครับโมโห “คงเบื่อวีร์มากสินะถึงได้พูดแบบนี้ออกมา ฮึ ไอ้ไฟบ้า ฮึก ฮึก ฮือๆ อุตส่าห์ได้กลับมาใช้ชีวิตด้วยกันอีกครั้ง แต่ ฮึก แต่ไฟ ฮึก กลับไม่อยากอยู่กับวีร์ ฮึก แล้วแบบนี้จะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกทำไม ฮือๆ สู้กลับไปตายเหมือนเดิมโดยไม่ต้องฟื้นมาเพราะคำขอพรของพระเจ้าอีกจะดีกว่า ฮือๆ”

“ไม่เอาครับที่รัก อย่าร้องครับอย่าร้อง” ไฟบอกห้าม แต่ผมมีหรือจะฟัง ร้องไห้ไปทุบอกไปพลาง

“ไอ้บ้า! ฮึก นี่แน่ะ จะร้องให้มันตายกันไปข้างเลย ฮึก คนใจร้าย อื้ออออ!” ผมร้องครางในลำคอ เพราะปิดเสียงด้วยริมฝีปากของไฟ สัมผัสอันนุ่มนวลและเร่าร้อนของคนรักบวกกับรสชาติของน้ำตาตัวเองทำเอาผมถึงกับอ่อนระทวย ลืมแม้กระทั่งว่าตัวเองนั้นร้องไห้เพราะคำพูดของไฟอีกด้วย ซึ่งผมโดนจูบอยู่นานก่อนที่อีกฝ่ายจะผละริมฝีปากออกมา แล้วใช้นิ้วมือลูบไล้คราบน้ำตาให้กับผมอย่างแผ่วเบา

“ที่ไฟพูดเมื่อกี้นี้ ไม่ใช่เป็นเพราะไฟเบื่อที่รัก แต่เป็นเพราะไฟสงสารพวกเขาครับ”

“ไม่จริง ไฟโกหก”

“ไม่ได้โกหกครับที่รัก ไฟพูดความจริง” ไฟพูดเสียงเคร่งขรึม แลดูเป็นการเป็นงาน “พวกเขาดูน่าสงสารมาก เพราะอุตส่าห์ได้คุณพ่อของตัวเองกลับคืนมาทั้งที แต่กลับไม่สามารถมาดูแลคุณพ่อให้สมกับที่พวกเขาเป็นลูกชายของวีร์ได้เต็มที่อย่างที่ควรจะเป็น แต่ชีวิตนี้วีร์ได้ตัดสินใจเลือกเส้นทางเดินของตัวเองไปแล้ว ฉะนั้นพวกเขาควรจะยอมรับมันและเข้าใจในเส้นทางที่วีร์เลือก ก็เหมือนกับที่วีร์ยอมรับให้พวกเขาได้รักและอยู่ด้วยกันในฐานะคนรัก”

ผมนิ่งเงียบ เพราะเข้าใจในสิ่งที่ไฟพูดแล้วครับ

“ที่รักเองก็เลิกคิดมากได้แล้วนะครับ เพราะไฟจะไม่มีวันไล่ที่รักไปไหนเด็ดขาด จะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ไฟบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมกับโอบกอดผมด้วยความรักอย่างเต็มเปี่ยม ซึ่งทำเอาผมถึงกับซาบซึ้งจนต้องโอบกอดตอบกลับไปด้วยเช่นกัน

“อื้อ สัญญานะว่าจะไม่ทอดทิ้งวีร์น่ะ”

“ครับที่รัก ด้วยเกียรติ์ของผู้นำตระกูลเสือ ไฟสัญญา” แล้วผมกับไฟก็ให้คำสาบานด้วยการจูบกันท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มีแสงจากดวงจันทร์กับแสงดวงดาวที่ส่องสกาวสดใสและงดงาม...

อวสาน....

...................................................................

ปล.อวสานแล้วจ้า โปรดติดตามตอนพิเศษของวินกับอิฐต่อได้ในเร็วๆนี้

ส่วนของคู่สิงห์กับจีน รอไปก่อนนะจ้ะ


:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-03-2015 22:47:00 โดย dragon123 »

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ตอนพิเศษ 2 (วิน & อิฐ)

.........................................

หลังจากที่ผมได้ย้ายเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์ของคุณวีร์แล้ว ท่านก็ได้ให้ผมเรียนหนังสือเหมือนกับเด็กทั่วไป แต่ผมไม่ได้เรียนในโรงเรียนเหมือนคนอื่นหรอกนะครับ คุณวีร์จ้างครูพิเศษมาสอนหนังสือให้ผมถึงบ้านโดยเฉพาะ ซึ่งก็เหมือนกับคุณวินที่มีครูพิเศษมาสอนหนังสือที่บ้านด้วยเช่นกัน ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ผมกับคุณวินแล้ว นับว่าแย่ถึงขั้นขีดสุด เพราะอีกฝ่ายทำหน้าเมินเฉยราวกับไม่อยากรู้จักผม ฉะนั้นเรื่องที่จะคุยกันเหมือนพี่เหมือนน้องนั้นตัดมันไปได้เลย

“ไม่ต้องคิดมากหรอกอิฐ เจ้าวินมันเป็นเด็กขี้อายน่ะ” คุณวีร์พูดปลอบใจหลังจากที่ผมนำเรื่องนี้ไปเล่าให้อีกฝ่ายฟัง “ตอนนี้เขายังเห็นเธอเป็นคนแปลกหน้า ก็เลยยังไม่คุ้นเคยที่จะคุยด้วยอย่างสนิทใจ แต่ฉันเชื่อว่าซักวันเธอจะต้องทำได้ พยายามเข้านะอิฐ ฉันจะเอาใจช่วย”

ผมได้ยินที่คุณวีร์บอกแล้ว ก็รู้สึกเหมือนมีกำลังใจเพิ่มขึ้นอย่างบอกไม่ถูก

“ครับคุณวีร์” หลังจากวันนั้นผมก็เพียรพยายามเข้าหาคุณวินวันแล้ววันเล่า รวมทั้งหาของถูกใจให้อีกฝ่ายด้วย “สุขสันต์วันคล้ายวันเกิดครับคุณวิน ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ”

เพื่อให้อีกฝ่ายยอมรับไมตรีจากผม ผมจึงใช้โอกาสวันคล้ายวันเกิดของคุณวินที่จะมาถึงนี้ นำเงินค่าขนมที่ได้จากคุณวีร์มาซื้อของขวัญให้คุณวินโดยเฉพาะ แน่นอนว่าพออีกฝ่ายเห็นกล่องของขวัญผมแล้วถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนที่ใบหน้าจะเห่อแดงจนลามไปถึงใบหู

คุณวินน่ารักจัง...

“ขะ...ขอบใจ” อีกฝ่ายพูดด้วยน้ำเสียงเคอะเขิน ก่อนจะยื่นมือมารับของขวัญจากผมแต่โดยดี “ฉะ...ฉันชื่อวิน...ยินดีที่ได้รู้จัก”

ผมยิ้มกว้างทันทีที่อีกฝ่ายยอมเปิดปากพูดผมเป็นครั้งแรก

“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับคุณวิน ผมขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”

.................................

 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ชีวิตใหม่ของผมที่คฤหาสน์ตระกูลสิงห์ก็ไปอย่างราบรื่น ได้เรียนหนังสือ ได้เล่นสนุกกับคุณวิน รวมถึงทุกคนที่อยู่ในบ้านต่างพากันเอ็นดูผมราวกับญาติพี่น้อง (ยกเว้นคุณหญิงที่ไม่เคยคุยหรือแม้กระทั่งปรายตามองผมเสียด้วยซ้ำ) จนคุณวินโตพอจะเข้าโรงเรียนระดับไฮสคูล คุณวีร์ก็ได้ส่งคุณวินให้ไปเรียนที่ต่างประเทศ แน่นอนว่าผมเองก็ต้องไปด้วย เพราะต้องคอยดูแลคุณวินอยู่ตลอดเวลา

“นับจากนี้ไปฉันขอฝากลูกชายไว้ให้เธอดูแลนะอิฐ”

“ครับ”

“มีอะไรก็ช่วยเหลือเขาอย่าให้ขาด”

“ครับ”

“ที่สำคัญ” คุณวีร์เน้นย้ำพลางมองผมด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา “ถึงเธอจะไม่ใช่ลูกชายฉันในสายเลือด ถึงฉันจะให้เธอเป็นมือขวาของวิน แต่ฉันก็เห็นเธอเป็นลูกชายตัวเองเหมือนกัน ฉะนั้นจงดูแลตัวเองให้ดี ให้สมเป็นคนของตระกูลสิงห์ จำเอาไว้ให้ดีล่ะ”

“ครับคุณวีร์ ผมจะจดจำไปจนวันตาย”

“ดีมาก ต้องให้ได้อย่างนี้สิเด็กดี” คุณวีร์ยิ้มพลางดึงผมเข้าไปโอบกอด ซึ่งทำเอาผมรู้สึกถึงความอบอุ่นแปลกๆที่ผมไม่เคยได้รับมาก่อนในชีวิต “ไปถึงนั่นแล้วอย่าลืมโทรบอกฉันด้วยนะ”

“ครับคุณวีร์” แล้วผมกับคุณวินต่างพากันโบกมือลาท่านก่อนจะเดินขึ้นเครื่องไปพร้อมกับพวกบอดี้การ์ดที่คุณวีร์จัดหามาให้อีกนับยี่สิบกว่าชีวิต เพราะลำพังผมคนเดียวคงดูแลคุณวินไม่ได้หรอกครับ (ก็ผมยังเด็กอยู่ไง) ซึ่งการใช้ชีวิตที่ต่างประเทศเป็นอะไรที่มหาโหดมาก เพราะคุณวีร์ไม่ได้ส่งผมกับคุณวินเรียนหนังสือเพียงอย่างเดียว ยังบังคับเข้าคอร์สพิเศษที่จำเป็นต้องใช้ในตอนโตอีกมากมาย ยกเว้นผมที่หนักกว่าคุณวินหน่อยเพราะเป็นถึงว่าที่มือขวาของคุณวิน ต้องเรียนเป็นทุกอย่างตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ เรียกได้ว่าเป็นตัวแทนตัวตายของคุณวินเลยก็ว่าได้

“อ่านหนังสือหนักอย่างนี้ไม่ไปเรียนแพทย์ซะเลยล่ะอิฐ” เสียงทุ้มเอ่ยแซว ทำเอาผมเงยหน้าขึ้นมาจากกองหนังสือภาษาอังกฤษ ซึ่งว่าด้วยหลักวิชาการจัดการเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ ส่วนอีกกองที่อยู่ข้างขวามือผมเป็นหนังสือเกี่ยวกับวิธีการเล่นหุ้นอย่างไรไม่ให้ตกเป็นต้น “ดูสิ ขอบตาคล้ำอย่างกับหมีแพนด้าเชียว ไปนอนไป เดี๋ยวถึงเวลาทานข้าวฉันจะปลุกนายให้เอง”

เพราะผมไม่ได้มีหัวไบรท์อย่างคุณวินที่ไม่ต้องอ่านหนังสือก็เรียนได้เก่งถึงขั้นเกียรติ์นิยมอันดับสองของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของต่างประเทศ จึงจำเป็นต้องขยันอ่านขยันเรียนหนังสือตลอดเวลาไม่ว่างเว้น ก็เลยทำให้ผมมีสภาพไม่เป็นผู้เป็นคนอย่างทุกวันนี้

“ไม่ได้ครับคุณวิน ผมยังอ่านไม่...” ผมพูดยังไม่ทันขาดคำ อีกฝ่ายกลับแย่งหนังสือจากมือผมไป ก่อนจะโยนหนังสือเล่มนั้นรวมถึงหนังสือที่อยู่บนโต๊ะอีกนับสิบกว่าเล่มลงถังขยะทันที

ดีนะที่ถังขยะใบนั้นล้างสะอาดแล้ว ไม่งั้นหนังสือได้เปื้อนแน่...

“ไปนอน”

“ครับคุณวิน” ผมได้แต่จำใจตอบตกลงแต่โดยดี

อยากกลับไปตอนสมัยเด็กๆจัง เพราะตอนนั้นคุณวินน่ารักมากครับขอบอก

พอผมขึ้นไปนอนบนเตียง อีกฝ่ายก็ดันขึ้นมานอนตามผมก่อนจะถือวิสาสะกอดผมโดยไม่เอ่ยปากขอเลยแม้แต่ซักคำเดียว ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมชินแล้วครับ เพราะอีกฝ่ายเล่นนอนกอดผมมาตั้งแต่เด็กๆเลยก็ว่าได้ ทีแรกผมก็ตกใจอยู่เหมือนกันครับ แต่พอไปถามคุณวีร์ดู ก็ได้รับคำตอบจากอีกฝ่ายมาว่า

“อาจจะเป็นเพราะภรรยาฉันไม่เคยนอนกอดเจ้าวินน่ะ พอเจอเธอก็เลยกอดอย่างที่เห็น อย่าไปตกใจ ปล่อยเขาให้กอดต่อไปเถอะ ถือซะว่าน้องชายกอดพี่ชายแล้วกัน”

“ครับ”


“ไม่อึดอัดนะ” คุณวินพูดเสียงกระซิบแผ่วเบา

“ครับ”

ฟอด!

“ราตรีสวัสดิ์” แล้วอีกฝ่ายก็เงียบไปก่อนจะตามด้วยเสียงกรน ส่วนผมหรือ ก็ได้แต่นอนตัวแข็งค้าง เพราะไม่เคยได้รับสัมผัสด้วยการหอมแก้มมาก่อน

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับคุณวินกันแน่?!

...................................

 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-04-2015 08:46:58 โดย dragon123 »

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาคุณวินก็เริ่มทำตัวแปลกขึ้นทุกวัน จากที่เคยไม่เคยสนว่าวันๆผมจะทานอาหารอะไรลงไปบ้างก็ดันเข้าครัวลงมือทำอาหารให้ผมทานเองกับมือ เรื่องการเรียนอันไหนที่ผมไม่เข้าใจ ก็เข้ามาสอนผมจนลึกซึ้งถึงรสพระธรรม(?) ตอนเช้าหลังจากลืมตาตื่นก็โดนหอมแก้มบอกอรุณสวัสดิ์ไม่ต่างจากตอนก่อนนอนเลยด้วยซ้ำไป เนกไทที่ผมมักจะผูกเองก่อนไปเรียนก็หันมาเอาใจผมด้วยการช่วยผมผูกเสียยกใหญ่ วันไหนนอนดึกเพราะต้องอ่านหนังสือ คุณวินก็เข้าครัวชงนมอุ่นๆให้ผมได้ดื่มอีกด้วย รวมถึงบนหัวเตียงที่คุณวินไม่รู้ไปสรรหาดอกไม้มาจากที่ไหน คอยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเปลี่ยนดอกไม้ในแจกันในแต่ละวันแบบไม่ซ้ำกันอีกด้วย

“หมู่นี้คุณวินเอาใจมึงจังเลยนะไอ้อิฐ” พี่เรย์หนึ่งในทีมบอดี้การ์ดของคุณวินเป็นคนที่ผมสนิทด้วยมากที่สุดได้เข้ามาพูดคุยกับผมในขณะที่พวกเราจับตามองคุณวินกำลังว่ายน้ำอยู่ในสระว่ายน้ำของมหาวิทยาลัย (เมื่อวานนี้ผมสะดุดหกล้มจนได้แผลที่หัวเข่าก็เลยไม่ได้ลงเล่นน้ำด้วยน่ะครับ) “กูชักสงสัยแล้วสิว่าที่คุณวินเอาใจมึง อาจจะเป็นเพราะ...”

“เพราะ?”

“ชอบมึงยังไงล่ะอิฐ”

!!!!!!

“พูดบ้าๆน่าพี่เรย์ เป็นไปไม่ได้หรอกที่คุณวินจะมาชอบผม” ผมเถียงกลับไปอย่างหน้าดำหน้าแดง “ผมเป็นผู้ชายนะพี่ ผู้ชายน่ะได้ยินไหมว่าผู้ชาย คุณวินคงไม่วิปริตหันมาชอบเพศเดียวกันได้หรอก”

“มึงก็พูดเกินไปนะไอ้อิฐ อะไรที่ทำให้มึงคิดว่าการที่เพศเดียวกันหันมาชอบกันถึงเรียกว่าวิปริตน่ะ” พี่เรย์พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา จนผมได้ยินถึงกับขนลุกอย่างบอกไม่ถูก

“อ้าว ก็มันไม่ใช่รึไงครับ ผู้ชายกับผู้ชายมากินกันเองมันผิดธรรมชาติ ฟ้าก็ได้ผ่าเอาสิ” ผมนิ่วหน้าตอบ เพราะมันเป็นเรื่องผิดธรรมชาติจริงๆนี่ครับ ผู้ชายน่ะควรคู่กับผู้หญิงสิถึงจะถูก

“แล้วมึงรู้ได้ไงว่ามันผิดธรรมชาติน่ะไอ้อิฐ” อีกฝ่ายเถียงย้อนกลับมา “มึงรู้ได้ไงว่าฟ้าจะผ่าเอา กะอีแค่คำพูดของคนโบราณเพียงไม่กี่คำมึงถึงกับเชื่อเป็นจริงเป็นจังได้ถึงขนาดนี้น่ะ”

“อ้าว ก็มันจริงนี่ครับ ไม่ว่าใครๆก็รู้กันทั้งนั้น” ผมเถียงกลับไปอย่างมีเหตุมีผล แต่อีกฝ่ายกลับจ้องผมราวกับจะฆ่ากันให้ตายเสียให้ได้ แต่แล้วพี่เรย์กลับเปลี่ยนสีหน้าเป็นเอือมระอาก่อนจะทอดถอนหายใจออกมาแรงๆต่อหน้าต่อตาผม

“การมาเรียนที่นี่ไม่ได้ทำให้มึงโตขึ้นเลยจริงๆนะไอ้อิฐ”

“อ้าว? ไหงพูดแบบนั้นล่ะพี่เรย์” ผมถึงกับหน้าเหวอไปไม่เป็นเลยครับ “มีส่วนไหนที่พี่คิดว่าผมไม่โตได้ล่ะ โอเค ผมยอมรับว่าตอนนี้ผมยังเตี้ยกว่าพี่ แต่อีกหน่อยไม่แน่เพราะอายุอย่างผมยังยืดได้อีก เอ๊ะ อย่าบอกนะว่าพี่หมายถึงไอ้นั่นของผมน่ะ!”

โป๊ก!

“โอ๊ย! ผมเจ็บนะ พี่เรย์เขกหัวผมทำไม” ผมร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อโดนอีกฝ่ายเขกหัวแรงๆ

“ก็เขกให้มึงที่พูดไม่รู้จักกาลเทศะยังไงล่ะ” พี่เรย์พูดพลางถลึงตาใส่ผมทันที “ที่กูพูดว่าไม่โตนั่นไม่ใช่ไอ้จ้อนของมึง แต่เป็น...เฮ้อ ช่างมันเถอะ พูดไปมึงก็ไม่เข้าใจอยู่ดี เพราะมึงยังอินโนเซนท์อยู่นี่นะ”

“Innocent?” ผมมุ่นคิ้วทวนคำพูดของพี่เรย์ด้วยความสงสัย

“ใช่ อินโนเซนท์” พี่เรย์ย้ำอีกรอบก่อนจะลุกขึ้นยืน “กูขอเตือนมึงไว้ก่อนนะไอ้อิฐ ว่าอย่าได้พูดคำว่าวิปริตออกมาให้ใครได้ยิน โดยเฉพาะคุณวีร์ มึงห้ามพูดต่อหน้าบอสเด็ดขาด ย้ำ ห้ามพูดเด็ดขาด ถ้ามึงอยากมีชีวิตรอดบนโลกนี้อยู่น่ะนะไอ้อิฐ จำเอาไว้ให้ดีเชียวล่ะ”

แล้วอีกฝ่ายก็เดินจากไปทิ้งให้ผมได้แต่นั่งทบทวนคำพูดนั้นด้วยความสงสัยอย่างเงียบๆคนเดียว

........................

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
“ขึ้นครู?”

“ใช่ ขึ้นครู” ปลายสายตอบเน้นย้ำคำพูดของผม ก่อนจะพูดต่อไปด้วยน้ำเสียงขำขัน “ฉันเห็นว่าเธอกับวินโตจนบรรลุนิติภาวะเป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็เลยอยากจะให้ลองขึ้นครูดูซักครั้งเพื่อเป็นประสบการณ์การเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในภายภาคหน้า”

“แล้วทำไมการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีต้องขึ้นครูด้วยครับคุณวีร์” ผมถามกลับด้วยความสงสัย

“เธอนี่ช่าง...” อีกฝ่ายพูดพลางส่งเสียงถอนหายใจกลับมา “...ซื่อจริงๆ สมแล้วที่ไอ้เรย์โทรมาฟ้องฉันว่าเธอเป็นพวกอินโนเซนท์ แต่ก็เอาเถอะ เดี๋ยวไว้เธอได้ขึ้นครูเมื่อไหร่ก็จะรู้แจ้งเห็นจริงเอง ส่วนเรื่องขึ้นครูนั้นฉันจะบอกให้ไอ้เรย์จัดการให้เอง คืนพรุ่งนี้เธอก็รีบเตรียมตัวอาบน้ำอาบท่าให้พร้อม ต้องให้สะอาดด้วยนะรู้ไหม อ้อ แล้วก็ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าวินมันหรอกนะ เพราะฉันได้บอกเขาเมื่อวานนี้ไปเรียบร้อยแล้ว”

“ครับคุณวีร์”

“ถ้างั้นแค่...”

“เดี๋ยวครับคุณวีร์ อย่าเพิ่งวางสาย” ผมรีบบอกทันทีที่นึกขึ้นได้ “แล้วขึ้นครูที่ว่ามันคืออะไรหรือครับ”

พอผมพูดจบ ปลายสายถึงกับหัวเราะเสียงดังลั่นโทรศัพท์ก่อนจะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงระรื่นว่า

“มันก็คือ...SEX! ยังไงล่ะ”

!!!!!!

...........................

 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด