ดวงใจถวิลรัก [ภาคสอง ตอนที่ 13 สิงห์ & จีน อวสาน P.30 (11/09/61)]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

คุณอยากให้วีร์คู่กับใครมากที่สุด (กรุณาบอกเหตุผลที่เลือกด้วย)

สิงห์
82 (44.6%)
เสือ
85 (46.2%)
จีน
17 (9.2%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 175

โพลล์

ตัวละครใดที่ท่านชอบมากที่สุดในเรื่อง

วีร์ กมล
73 (56.6%)
สิงห์ สีหราช
21 (16.3%)
จีน จารุกร
8 (6.2%)
วิน วินภัทร
1 (0.8%)
อิฐ อิฐภพ
1 (0.8%)
เสือ พยัคฆ์
18 (14%)
เฟย จิ้ง
2 (1.6%)
ไป่ เต๋า
1 (0.8%)
ราตรี ตระกูลหงส์
0 (0%)
กระต่าย
0 (0%)
แม่ข้าว (แม่ของวีร์)
0 (0%)
โทนี่ (พ่อของวีร์)
0 (0%)
บันนี่ (ลูกของกระต่ายกับเหยี่ยว)
0 (0%)
แรบบิท (ลูกของกระต่ายกับเหยี่ยว)
1 (0.8%)
เหยี่ยว
0 (0%)
ลีโอ
0 (0%)
กล้า
1 (0.8%)
คมกฤษ (หมอคม)
1 (0.8%)
Sneaker Lucas
1 (0.8%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 122

ผู้เขียน หัวข้อ: ดวงใจถวิลรัก [ภาคสอง ตอนที่ 13 สิงห์ & จีน อวสาน P.30 (11/09/61)]  (อ่าน 158899 ครั้ง)

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ตอนที่ 6 (สิงห์ & จีน)

.....................................

โครม! เพล้ง! กึก! กึก!

เสียงดังกึกก้องที่ชั้นสอง แต่ก็ไม่เท่ากับคนที่อยู่ชั้นล่างบางคนนั่งหน้าแดงกันเป็นแถว

“เอ่อ คุณปู่คะ...จะปล่อยให้พี่สิงห์ลงโทษน้องจีนอยู่อย่างนั้นจริงๆหรือคะ” กระต่ายเอ่ยปากถามเสียงกระท่อนกระแท่นด้วยความเขินอาย เพราะเธอเพิ่งกลับมาถึงบ้านพร้อมกับสามีและลูกของเธอหลังจากถูกคุณปู่เรียกตัวให้กลับบ้านด่วน ซึ่งทีแรกเธอไม่รู้หรอกว่ามันเกิดอะไรขึ้น พอคิดว่าจะไปดู กลับถูกพี่ลีโอที่เดินทางกลับมาถึงบ้านก่อนดึงห้ามเอาไว้ พร้อมกับคำตอบที่ทำเอาเธอกับสามีถึงกับหน้าแดงไปตามๆกัน

“ถ้าพวกเธอไม่อยากเห็นฉากสด ก็อย่าได้เข้าไปในห้องนั้นเชียวล่ะ”

“ใช่ ปล่อยไว้อย่างนั้นแหละ”

“คุณพ่อ!” วินถึงกับร้องอุทานเรียกชื่อคุณพ่อตัวเองออกมาทันที “ผมไม่นึกเลยว่าคุณพ่อจะสนับสนุนให้หลานชายของตัวเองกินกันเอง”

ปัง!

ทุกคนสะดุ้งตกใจพร้อมกัน ยกเว้นไฟที่ยังคงนั่งกอดเอววีร์ด้วยสีหน้าเฉยเมย

“พ่อ-ไม่-เคย-สนับ-สนุน-อย่าง-ที่-ลูก-กล่าว-หา”

“แต่...”

“ไม่มีแต่!” วีร์พูดตอกกลับเสียงเข้มแลดุดัน ซึ่งทำเอาไอ้กล้าที่เพิ่งจะได้มารับรู้ความจริงว่าวีร์เป็นใครในชาติก่อนถึงกับขนลุกขนพองจนไม่กล้าขยับตัวแม้แต่ปลายนิ้วก้อย “พ่อรู้ดีว่าอะไรผิดอะไรถูก อะไรควรอะไรไม่ควร แต่วินอย่าลืมสิว่าทั้งสองคนไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน พวกเขาสามารถหันมารักกันได้ถ้ามีใจที่ตรงกัน ก็เหมือนลูกกับอิฐที่ไม่ใช่พี่น้องสายเลือดเดียวกัน แต่ก็ยังมาเป็นคนรักกันได้จนถึงทุกวันนี้”

“มันก็ใช่...แต่ถึงยังไงผมก็รับไม่ได้อยู่ดี”

“ถ้าลูกรับเรื่องพวกนี้ไม่ได้ งั้นก็เท่ากับว่าลูกปฏิเสธความรักของตัวเองที่มีให้ต่ออิฐด้วยเช่นกัน”

!!!!!!

เพล้ง!


เสียงถ้วยกาแฟตกพื้นแตกกระจายเรี่ยราด ทำเอาทุกคนหันไปมองพร้อมกัน ก่อนจะเห็นคนคุ้นตากำลังยืนหน้าซีดอยู่หน้าประตูทางเข้าออกห้องรับแขกที่พวกเขากำลังนั่งอยู่พอดี

“มันไม่ใช่แบบที่เธอคิดนะอิฐ” วินรีบพูดแก้ตัว แต่อิฐกลับยืนส่ายหน้าไปมา น้ำตาไหลพรากอาบแก้ม “เชื่อฉันสิอิฐ ฉันรักเธอนะ...”

“โกหก! โกหก!! ผมไม่เชื่อ!!” อิฐแผดเสียงร้องออกมาก่อนจะหมุนตัววิ่งหนีออกจากห้องรับแขกไปอย่างรวดเร็ว

“มัวนั่งเซ่ออยู่ได้! รีบตามไปสิไอ้เจ้าลูกโง่!!” วีร์บอกลูกชายที่ยังคงนั่งอึ้งอยู่ ซึ่งทำเอาวินถึงกับกระเด้งออกจากเก้าอี้โซฟาแล้วรีบวิ่งตามคนรักไปอย่างรวดเร็ว “ให้ตายสิ แก่จนป่านนี้แล้วยังต้องให้พ่อมาจ้ำจี้จ้ำไชสอนอีก ไอ้เจ้าลูกบ้า”

วีร์บ่นพึมพำอย่างหัวเสีย ในขณะที่ไฟได้แต่ส่ายหน้าไปมาอย่างขำๆ

........................................

“อือ ไม่เอาแล้ว เจ็บ ฮึก จีนเจ็บ”

“ครับๆไม่ทำแล้วไม่ทำ” สิงห์พูดปลอบไปมือลูบหัวร่างบางในอ้อมกอดไปพลาง จนกระทั่งจีนหลับสนิทสิงห์จึงค่อยผละออกมาห่มผ้าให้กับเจ้าตัว ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำเพื่อจัดการอาบน้ำอาบท่า แล้วเดินออกมาอีกทีพร้อมกะละมังกับผ้าขนหนูสะอาดหนึ่งผืน

ก๊อก ก๊อก

เสียงประตูถูกเคาะดังขึ้นสองครั้ง ทำเอาสิงห์ที่กำลังจะเดินไปหาจีน กลับต้องวางของในมือลงบนหัวเตียงแล้วเดินออกไปเปิดประตู ซึ่งผู้เคาะนั้นไม่ใช่ใครนอกเสียจากวีร์

“มีอะไรครับ...” สิงห์กัดฟันพูดด้วยความหงุดหงิดใจ ถึงแม้ตอนนี้ความรู้สึกรักอีกฝ่ายได้จางลงไปมากแล้ว แต่ก็ไม่วายที่จะหงุดหงิดเมื่อเห็นใบหน้าของวีร์เข้าจนได้ “...คุณปู่”

“เรียกฉันว่าวีร์ตามเดิมก็ได้ ฉันไม่ถือ” วีร์ยิ้มตอบ

“ถ้าจะมาดุด่าก็ไว้คราวหน้าเถอะ เพราะผมต้องดูแล’เมีย’” พอสิงห์พูดจบ อีกฝ่ายถึงกับหุบยิ้มทันที

“ฉันมาหาก็เพราะจะเอาของมาให้” วีร์บอกก่อนจะยื่นถุงก็อบแก๊ปให้ ซึ่งเขาก้มมองดูก่อนจะเลิกคิ้วสูง เพราะสิ่งที่วีร์นำมาให้ก็คือยา “จัดการให้เรียบร้อยล่ะ อย่าให้ป่วยหนักจนถึงขั้นเรียกเจ้าคมมารักษาถึงบ้านอีก อ้อ แล้วเรื่องบทลงโทษ ก็ให้ลดความรุนแรงลงบ้างนะสิงห์ เพราะฉันไม่ชอบ”

“ครับ”

“ส่วนเรื่องงานแต่งนั้น...” วีร์พูดพลางเหลือบตามองไปยังคนป่วยที่นอนอยู่บนเตียง ก่อนจะวกสายตากลับมาที่เขาอีกครั้ง “...เธอไม่ต้องเป็นห่วง เพราะฉันจัดการพ่อของเธอเรียบร้อยแล้ว จะจัดที่นี่หรือโรงแรมหรูระดับห้าดาวก็เชิญตามสบายนะรู้ไหม”

“ครับ”

“วีร์ครับวีร์!” เสียงของไฟตะโกนเรียกจากชั้นล่างทำให้วีร์ที่กำลังจะพูดต่อถึงกับชะงัก

“โอเค ฉันต้องกลับบ้านแล้ว ถ้ายังไงก็ดูแลจีนให้ดีล่ะสิงห์ ส่วนเรื่องลูคัสไว้เราค่อยมาคุยกันอีกที”

“ครับ” พออีกฝ่ายจากไปแล้ว สิงห์จึงค่อยเดินกลับมาที่ห้องก่อนจัดการเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้คนรักพร้อมกับครุ่นคิดถึงบทสนทนาทางโทรศัพท์ของเขากับปู่วีร์ตอนที่เขายังอยู่ที่ต่างประเทศ

“ลูคัสเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงเข้ามายุ่งวุ่นวายกับจีน”

“เอ่อ ลูคัส...” ปลายสายพูดเสียงกระท่อนกระแท่น ราวกับลังเลที่จะพูด หากแต่อีกฝ่ายกลับใช้เวลาคิดไม่นาน จึงพูดเฉลยออกมาทันที “...ลูคัสเป็นเพื่อนสนิทของฉันเอง แต่ตายไปนานแล้วล่ะ”

“ตายไปแล้ว?” สิงห์มุ่นคิ้วพูดด้วยความสงสัย เพราะถ้าตายไปแล้วจริง เหตุไฉนตอนนี้ถึงยังมีชีวิตอยู่ได้

“ใช่ ตายไปแล้ว” อีกฝ่ายตอบย้ำอย่างหนักแน่น “ด้วยน้ำมือของฉันเอง แต่ลูคัสที่จีนเห็น ไม่น่าจะใช่คนเดียวกัน น่าจะเป็นลูกหลานของลูคัสที่คิดกลับมาล้างแค้นกับสิ่งที่ฉันเคยทำลงไปน่ะ”


สิงห์ส่ายหน้าไปมากับความคิดนั้น เพราะเขาคิดตรงกันข้ามกับปู่วีร์โดยสิ้นเชิง

ไม่แน่ว่าลูคัสที่จีนเห็นอาจจะเป็นลูคัสตัวจริงที่กลับชาติมาเกิดเหมือนวีร์กับไฟก็เป็นไปได้!

.......................................

 :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
“ไงไอ้กล้า ได้ข่าวว่าเอ็งถูกเจ้านายลงโทษให้ขัดส้วมทุกห้องเลยงั้นรึ”

“โธ่นายท่าน อย่าได้พูดเสียงดังไปเชียวขอรับ เดี๋ยวคุณสิงห์จะเดินลงได้ยินแล้วกระผมจะซวย” กล้าพูดเสียงกระปอดกระแปด มือไม้โบกไปมาทำให้คนถามเห็นมือเจ้าตัวพองแดงอย่างน่ากลัว

คงถูกลงโทษให้ขัดห้องน้ำหนักสิท่า มือพองแดงเชียว...

“ว่าแต่คนในบ้านหายไปไหนหมดล่ะไอ้กล้า วันนี้เป็นวันหยุดไม่ใช่เหรอ ทำไมดูเงียบเชียบขนาดนี้” โทนี่เอ่ยปากถามพลางเหลือบมองหาเจ้าของบ้านในคฤหาสน์ตระกูลสิงห์ ซึ่งก็ไร้วี่แววว่าจะมีคนเดินออกมาต้อนรับเขาแม้แต่น้อย “หรือว่าพวกเขาเปลี่ยนใจไปทำงานที่บริษัทกันน่ะ”

ไอ้กล้าได้ยินดังนั้นก็รีบพลันส่ายหน้าไปมาทันที

“เปล่าขอรับ”

“แล้วพวกเขาไปไหน?”

“ถ้าถามถึงคุณกระต่ายกับคุณเหยี่ยวและลูกๆ พวกเขาไปว่ายน้ำที่สวนหลังคฤหาสน์ขอรับ” ไอ้กล้าชี้ไปยังหลังคฤหาสน์ ก่อนจะชี้นิ้วไปยังชั้นสองของตึกที่อยู่หลังตัวเอง “คุณลีโอนั่งทำงานอยู่ในห้อง ส่วนคุณวินกับคุณอิฐ เอ่อ...”

“เอ่ออะไร รีบพูดมาไอ้กล้า ชักช้าเดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย” โทนี่พูดเสียงดุดัน วันนี้เขาไม่ได้มาคนเดียว เขาพาคนรักของตัวเอง คุณเฟยจิ้ง และคุณราตรีมาที่นี่เพื่อจะปรึกษาหารือเรื่องแก๊งงูโดยเฉพาะ ทีแรกเขาตั้งใจจะชวนลูกชายกับเสือมาด้วย แต่สองคนนั้นดันบอกว่ามีธุระ ก็เลยมาร่วมปรึกษาหารือด้วยไม่ได้

“ขอรับ กระผมจะรีบพูดเดี๋ยวนี้แหละ” ไอ้กล้ารีบตอบอย่างกล้าๆกลัวๆ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าแล้วพูดเสียงดังฟังชัดว่า “คุณวินกับคุณอิฐตอนนี้กำลังเล่นจ้ำจี้มะเขือเปาะแปะกันอยู่ในห้อง...โอ๊ย!!”

ไอ้กล้าพูดยังไม่ทันจบก็มีอันเป็นต้องล้มลงไปนอนกองกับพื้น ทำให้ทุกคนที่กำลังตกตะลึงในคำพูดของมันก็รีบตั้งสติ ก่อนจะก้มมองสิ่งของที่ทำให้กล้าลงไปนอนวัดกับพื้น

แปรงทองเหลือง?

“สงสัยโทษขัดห้องน้ำสำหรับแกคงยังไม่พอสินะไอ้กล้า ถึงได้กล้าพูดเรื่องเจ้านายออกมาให้คนอื่นฟังน่ะ” เสียงทุ้มดังมาแต่ไกล ทำให้ทุกคนหันไปมองก่อนจะเห็นสิงห์ในชุดธรรมดาแต่ไม่ธรรมดากำลังก้าวเท้าเดินออกมาจากตัวตึกเพื่อมาหาพวกเขา “ต้องขอโทษด้วยครับที่มันพูดจางี่เง่าออกไป”

“ไม่เป็นไรจ้ะพ่อสิงห์ ว่าแต่น้องจีนล่ะ ได้ข่าวว่าไม่สบายไม่ใช่รึ แล้วนี่ดีขึ้นรึยัง พอดีแม่ตุ๋นไก่ยาจีนมาด้วย พ่อสิงห์เอาไปให้น้องจีนทานด้วยนะ จะได้หายไวๆ” แม่ข้าวเอ่ยปากถามทันทีด้วยความเป็นห่วง เธอเองก็เห็นจีนเป็นเสมือนลูกชายตัวเองด้วยเช่นกัน จึงตุ๋นไก่ยาจีนมาฝากให้กับลูกชายคนเล็กของบ้านโดยเฉพาะ

“ดีขึ้นนิดหน่อยครับ แต่หมอสั่งให้น้องจีนพักผ่อนอยู่ที่ห้องก่อน” สิงห์กล่าวตอบคำถามแม่ข้าวพร้อมกับกล่าวขอบคุณเธอเบาๆ “ไอ้กล้า มาเอาแกงถุงนี้ไปอุ่นหน่อยซิ”

“ขอรับคุณสิงห์!” คนถูกเรียกขานรับ ก่อนจะผุดลุกขึ้นมารับถุงแกงจากแม่ข้าวอย่างรวดเร็วราวกับเรื่องเจ็บตัวเมื่อครู่นี้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมยังทำหน้าทะเล้นวิ่งเข้าบ้านไปโดยที่สิงห์ได้แต่ส่ายหน้าไปมาด้วยความเอือม

ตกลงมันเป็นนักฆ่ากันแน่หรือวะ ดูปัญญาอ่อนชะมัด!

“อย่าไปโทษมันเลยพ่อสิงห์ ลุงผิดเองที่ใช้งานมันหนัก สติก็เลยไม่เต็มเต็ง” โทนี่พูดขอโทษแทนลูกน้องเก่าของตัวเอง ซึ่งสิงห์ก็ไม่ได้ติดใจเอาความ เพราะกล้าเป็นนักฆ่าฝีมือที่จับหาตัวได้ยาก

“ช่างมันเถอะครับ ผมว่าตอนนี้ที่บ้านยังไม่พร้อม ขอเชิญพวกคุณไปนั่งพักที่สวนหลังบ้านกันก่อนดีไหมครับ เพราะน้องกระต่ายกับเหยี่ยวและเด็กๆกำลังเล่นว่ายน้ำกันอยู่ที่สระ” สิงห์บอกปัดก่อนจะเชิญพวกผู้ใหญ่ให้ไปนั่งเล่นริมสระน้ำฆ่าเวลาไปพลางๆก่อน ซึ่งทุกคนก็เห็นพ้องต้องกันก่อนจะเดินตามสิงห์ไปอย่างว่าง่าย

.............................

“วีร์ขอโทษด้วยนะไฟที่อุตส่าห์ได้หยุดพักผ่อนด้วยกันทั้งทีกลับต้องพามาที่นี่น่ะ”

“ไม่เป็นไรครับที่รัก เรื่องแค่นี้เอง” ไฟยิ้มตอบ หลังจากพวกเขาสองคนเดินลงจากรถแล้ว เขาก็มองป้ายข้างหน้าที่พวกเขายืนอยู่ ซึ่งมันเป็นสถานที่น้อยคนนักจะผ่านมา “ว่าแต่หลุมศพเขาอยู่ที่นี่แน่หรือครับวีร์”

ไฟถามด้วยความสงสัย เพราะเบื้องหน้าเป็นสุสานของพวกที่นับถือคริสต์

“แน่สิ เพราะวีร์ได้ใช้ให้กล้าไปตามสืบมาแล้วล่ะ” วีร์ยิ้มตอบอย่างมั่นใจ ซึ่งไฟได้ยินแล้วถึงกับถอนหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อน สงสารกล้ามัน เพราะหลังจากวีร์รู้ว่ากล้าเคยทำงานรับใช้พ่อของตัวเองมาก่อนแล้ว วีร์ก็หันมาใช้แรงงานมันหนักขึ้นทุกวี่ทุกวัน ซึ่งไม่เว้นกระทั่งคนในตระกูลสิงห์ ต่างหมั่นไส้ไอ้กล้าที่แสดงละครหลอกพวกเขามาหลายปี จึงเรียกใช้งานกล้าเป็นบ้าเป็นหลังจนมันล้มป่วยเข้าโรงพยาบาลไปหลายหนเลยทีเดียว

ไม่เป็นไร เดี๋ยวค่อยแอบให้เงินพิเศษกับกล้าเป็นการปลอบใจแทนก็แล้วกัน...

“วีร์ครับ”

“หืม?”

“วีร์พร้อมแล้วหรือที่จะไปหาเขาน่ะ”

“อืม วีร์พร้อมแล้ว” วีร์ตอบด้วยสีหน้ามั่นคง แต่ในใจไฟคิดว่าวีร์คงกำลังเจ็บปวดรวดร้าวที่ต้องมาเยี่ยมหลุมศพเพื่อนสนิทที่ตายด้วยฝีมือของตัวเอง “อย่าทำหน้าแบบนั้นสิไฟ วีร์บอกแล้วไงว่าวีร์พร้อม เชื่อวีร์สิ”

ไฟลอบมองหน้าวีร์ที่ฝืนยิ้มออกมาสลับกับมือบางที่กอบกุมมือหนาของตัวเองอย่างแนบแน่น แต่ไฟไม่อยากขัดความพยายามของคนรักตัวเอง จึงเหลือบมองคนรักก่อนจะยิ้มตอบกลับไปว่า

“โอเคที่รัก ไฟเชื่อ”

.........................................

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ตอนที่ 7 (สิงห์ & จีน)

......................................

ก๊อก ก๊อก

“ขออนุญาตเข้าห้องครับ” กล้าพูดหลังจากเคาะประตูสองครั้ง ก่อนจะถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปยังข้างในห้อง ซึ่งเป็นห้องนอนของคุณสิงห์ที่ดูหรูหราอยู่พอสมควร ชายหนุ่มกวาดสายตามองหาที่วางชามข้าวตามคำสั่งของคุณสิงห์ ก่อนจะพบแล้วจึงนำไปวาง และแน่นอนว่าตนเองก็ได้เห็นหัวไหล่อันกลมกลึงขาวเนียนโผล่ออกมาจากผ้าห่มบนเตียงอีกด้วย

อย่าบอกนะว่าจะเป็น...

ด้วยความอยากรู้อยากเห็น กล้าจึงชะเง้อหน้ามองคนในผ้าห่มและยื่นมือเตรียมจะดึงผ้าห่มแต่...

“คิดจะลองดีกูรึไงไอ้กล้า” เสียงทุ้มพูดดังขึ้นจากข้างหลัง ซึ่งทำเอากล้าถึงกับสะดุ้งตกใจ

“คุณสิงห์” กล้าหันไปเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย ซึ่งยืนกอดอกทำหน้าตาหน้ากลัวอยู่หน้าประตูทางเข้าห้องนอนของตัวเอง “ครับ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้...”

“อื้อ เสียงดัง” เสียงหวานร้องคราง ทำให้กล้าสะดุ้งตกใจอีกครั้งก่อนจะรีบเดินออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว เหลือแต่สิงห์ที่ยืนกอดอกอยู่หน้าห้อง ก่อนที่เจ้าตัวจะหันไปปิดประตูห้องให้สนิท แล้วจึงค่อยเดินกลับเข้ามาหาคนป่วยที่นอนหลับอยู่บนเตียง

“ได้เวลาทานข้าวทานยาแล้ว ลุกไหวไหมจีน” เขานั่งลงบนเตียงพูดพลางสะกิดคนป่วยไปด้วยพร้อมกัน “จีน ได้ยินที่พี่เรียกไหม”

“อื้อออ อะไรเล่า คนจะนอน” เจ้าตัวพูดด้วยความรำคาญ ก่อนจะดึงผ้าห่มให้แน่นขึ้นกว่าเดิม

“ถ้าจีนไม่ลุกขึ้นมากินข้าวกินยา พี่จะทำต่อรอบสองแล้วนะ”

พรึบ!

เท่านั้นแหละร่างบางถึงกับลุกขึ้นพรวดพราดขึ้นมาทันที ก่อนจะหันมามองเขาอย่างขัดใจ

“เอะอะไรก็จับกดท่าเดียว จีนเจ็บเป็นเหมือนกันนะพี่สิงห์”

“ถ้ารู้ว่ากลัวเจ็บก็หัดฟังที่พี่พูดซะบ้างสิ” สิงห์ถอนหายใจพูดด้วยความเหนื่อยอ่อน ก่อนจะหยิบชามที่วางอยู่ใกล้เตียงขึ้นมาถือ “วันนี้มีไก่ตุ๋นยาจีนด้วย ชอบหรือเปล่าล่ะ”

“ไม่” เถียงคำไม่ตกฟาก

“แต่เธอต้องกิน” เขาพูดเสียงแข็ง “เพราะนี่เป็นของฝากจากคุณแม่ข้าว กินแล้วก็อย่าลืมไปขอบคุณท่านเสียด้วยล่ะเด็กดื้อ”

“จีนไม่ได้ดื้อซักหน่อย แค่ไม่ชอบ” นั่นแหละที่เขาเรียกว่าดื้อ

“โอเคไม่ดื้อก็ไม่ดื้อ” สิงห์ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียง จึงพูดตัดบทก่อนจะตักน้ำซุปไก่ตุ๋นยาจีนขึ้นมาเป่า แล้วยื่นช้อนจ่อปากร่างบางทันที “อ้าปากสิ”

จีนได้ยินที่เขาพูดถึงกับเบ้ปากไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ร่างบางยอมอ้าปากให้เขาได้ป้อนแต่โดยดี ซึ่งพอเข้าปากเจ้าตัวก็เคี้ยวหงุบหงับด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนที่คิ้วจะคลายออก ใบหน้าหวานแลดูตกตะลึงกับในรสชาติของอาหารที่เพิ่งกลืนลงไป

“อร่อย!”

“ถ้าอร่อยก็กินให้หมดๆด้วยล่ะ” สิงห์สั่ง ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมกินจนหมดจริงๆ ก่อนจะตามด้วยยาที่ถูกป้อนตามลงไป “นอนพักซะ เดี๋ยวเย็นๆพี่จะขึ้นมาปลุกเรากินข้าวอีกที”

“อื้อ” ร่างบางครางตอบรับตาปรือเพราะฤทธิ์ยา ก่อนจะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง ส่วนเขาก็ช่วยห่มผ้าให้กับน้องจีน ก่อนจะหันมาก้มหน้าจุ๊บปากคนรักเบาๆ

“หลับฝันดีครับคนเก่งของพี่สิงห์”

................................................

ตอนนี้หวานมุ้งมิ้งนิดหน่อย  :-[ :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
เมีย เต็มปากเต็มคำเลยสิงห์ อิอิ
โดนลงโทษรอบนี้จีนจะดื้ออีกไหมเนี่ย
เรื่องปวดหัวใหม่จะมาแล้ว
จำและน่าสงสารที่สุดต้องเป็นกล้าโดนจัดตลอด ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
IN LOVING MEMORY
        LUCAS S.
          DIED
  1 TH APRIL 19…
          AGED
       ?? YEARS


“เขาเสียหลังจากไฟได้ไม่กี่ปี” วีร์บอกในขณะที่กุมมือเขาพร้อมกับมองแผ่นป้ายสลักหินสีเทาเบื้องหน้าอย่างโดดเดี่ยว “และเพื่อชดเชยต่อบาปที่วีร์ทำลงไปกับเพื่อนตัวเอง...ก็เลยเป็นคนลงมือแกะสลักชื่อให้เขา ไฟคงไม่ว่าวีร์หรอกใช่ไหม”

ประโยคสุดท้ายเจ้าตัวพูดเสียงแผ่วลงก่อนจะเงยหน้ามองเขาเพื่อรอคอยคำตอบ

“ไม่ว่าครับ” เขายิ้มมุมปากเล็กน้อย “วีร์ทำดีที่สุดแล้ว”

“และหลังจากนั้นวีร์ก็แวะมาเยี่ยมเยียนเขาปีละหนึ่งครั้ง” วีร์หันหน้าไปมองแผ่นป้ายหลุมศพแล้วพูดต่อ ซึ่งทำเอาเขาหันไปมองตาม ก่อนจะมุ่นคิ้วเมื่อสังเกตเห็นความผิดปกติอะไรบางอย่าง แต่ก็ช้ากว่าคนรักที่ยืนอยู่เคียงข้างไปหนึ่งก้าว “ดอกไม้สด? ทำไมถึงได้...”

วีร์หยุดพูดแค่นั้นก่อนจะสาวเท้าวิ่งอ้อมไปหลังป้ายอย่างรวดเร็ว ทำเอาไฟต้องรีบวิ่งตามไปทันที

เกิดอะไรขึ้นกันแน่?!

ไฟไม่รู้ว่าคนรักของตัวเองถึงจู่ๆก็วิ่งอ้อมไปด้านหลังสุสาน แต่ก็ยอมวิ่งตามแผ่นหลังคนรักไปด้วยความเป็นห่วง และแน่นอนว่าเขาได้ส่งสัญญาณทางมือถือให้กับพวกบอดี้การ์ดของตัวเองเตรียมพร้อมอีกด้วย ซึ่งในที่สุดความสงสัยของไฟได้ยุติลงเมื่อร่างบางหยุดวิ่งลง โดยเบื้องหน้าของพวกเขาเป็นป่าหลังสุสานที่น้อยคนนักจะเดินผ่านไปมา แม้ไฟจะไม่เห็นสิ่งที่วีร์วิ่งตามแต่ก็พอจะรับรู้ได้ว่ามีอะไรบางอย่างที่กำลังแอบซ่อนพวกเขาอยู่ในมุมมืด

“อย่าซ่อนตัวเป็นพวกกระต่ายตื่นตูมหน่อยเลย รีบโผล่หัวของแกออกมาจะดีกว่านะ”

เงียบเชียบ...

แม้วีร์จะพูดขู่แต่ก็ไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหวออกมาจากมุมมืดแม้แต่น้อย

“สาม”

เงียบ...

“สอง”

เงียบ...

“สะ...”

สวบ!

............................

“คุณพ่อกับคุณไฟไม่ได้มาด้วยหรอกหรือ”

“อ๋อ! ไฟกับวีร์ไปทำธุระที่ข้างนอกน่ะ เห็นว่าจะเข้ามาที่นี่ตอนช่วงหัวค่ำ” โทนี่หรือพ่อคนใหม่ของวีร์บอกวินกับอิฐที่เดินจูงมือกันมา ในขณะคนพูดถือแก้วไวน์ในมือขึ้นจิบ “ว่าแต่พวกคุณสองคน...ปรับความเข้าใจกันดีแล้วใช่ไหม”

อิฐถึงกับหน้าแดงขึ้นมาทันที ในขณะที่วินหัวเราะในลำคอเบาๆอย่างชอบใจ

“ใช่ครับ ปรับความเข้าใจกันดีแล้ว ขอบคุณที่เป็นห่วง”

ก็เล่นจัดไปตั้งเจ็ดยกเจ็ดกระบวนท่า พร้อมกับเอ่ยคำว่ารักตลอดเวลาไม่ให้เข้าใจกันดีก็บ้าแล้วล่ะ!

“คุณนี่ก็...พูดเรื่องใต้สะดือต่อหน้าเด็กอยู่ได้” แม่ข้าวพูดไปตบไหล่สามีเบาๆไปพลาง ซึ่งโทนี่ถึงกับหัวเราะชอบอกชอบใจที่ได้แกล้งคนรักของตัวเอง ผิดกับคนอื่นๆเช่น ราตรี กระต่าย และเหยี่ยวที่นั่งหน้าแดงเพราะได้ฟังเรื่องใต้สะดือ 

“ว่าแต่สิงห์กับจีนล่ะ ยังไม่ลงมาอีกหรือ” วินหันไปถามลูกชายคนที่สองกำลังนั่งจิบไวน์อย่างเงียบๆ

“น้องจีนยังไม่หายป่วยดีครับก็เลยยังไม่ลงมา ส่วนพี่สิงห์เพิ่งจะเข้าบ้านไปก่อนหน้าที่คุณพ่อกับลุงอิฐจะออกมาครับคุณพ่อ” ลีโอตอบยาวก่อนจะหยิบผักใส่จานให้หลานชายฝาแฝดของตัวเองอย่างเอ็นดู

“อืม ถ้างั้นก็ช่างเถอะ พวกเรามา...”

Trr…

“ขอโทษครับ เสียงมือถือของผมเอง” ลีโอพูดขอโทษทุกคนที่ขัดจังหวะการสนทนา ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู พอเห็นว่าเป็นใครจึงกดรับสายแต่โดยดี “มีอะไรก็ว่า...อะไรนะ?! ได้ ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้ล่ะ”

แล้วลีโอก็กดวางสายก่อนจะผุดลุกขึ้นยืนต่อหน้าทุกคนที่จ้องมองด้วยความสงสัย

“เกิดอะไรขึ้นหรือลีโอ รีบบอกพ่อมาสิ” วินถามด้วยความสงสัย ซึ่งลีโอมองหน้าทุกคนก่อนจะถอนหายใจเฮือกเบาๆตอบกลับไปว่า

“คุณปู่วีร์กับคุณไฟได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้ได้ถูกนำตัวส่งไปที่โรงพยาบาลxxxแล้วครับ”

“ว่ายังไงนะ!!”


..............................................

 :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-12-2015 00:15:00 โดย dragon123 »

ออฟไลน์ Allure-Q

  • Just the way you are
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
โอ้ยยย ลุ้น!!!

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
“ว่ายังไงนะ!!”

แกรก

“นายท่านไม่คิดจะฟังต่อหรือขอรับ” ร่างสูงในชุดสูทพ่อบ้านสีดำ ผมสั้นสีดำสไลด์ปะบ่า ผิวสีคล้ำกรำแดด ใบหน้าแสดงความเย็นชาไร้ความรู้สึกกล่าวพูดกับเจ้านายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้โซฟาสีดำมันปราดแลดูหรูเมื่อเทียบกับตัวห้องที่กำลังอยู่ด้วยเช่นกัน

“ไม่จำเป็น” นายท่านกล่าวเช่นนั้น แม้สีหน้าจะไม่แสดงออกความรู้สึกแต่ดวงตากลับมีแสดงความหม่นหมองเมื่อได้ยินข่าวจากที่ตนเองแอบฟังอยู่เมื่อครู่นี้ไม่ใช่น้อย “อะไรที่ฉันตัดสินใจไปแล้ว ก็ย่อมเป็นไปตามนั้น ว่าแต่งานที่ฉันสั่งไปนอกเหนือจากเข้าไปใส่เครื่องดักฟังกับคนตระกูลสิงห์แล้ว ได้ตัวคนที่ฉันสั่งไปมาหรือเปล่า”

ร่างสูงในชุดสูทพ่อบ้านสีดำก้มหน้าเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าตอบกลับมาว่า

“ต้องขออภัยนายท่านอย่างยิ่ง งานที่นายท่านสั่งไป...ล้มเหลวขอรับ”

เพล้ง!

เสียงแก้วไวน์ที่นายท่านถือเพื่อจะดื่มแสดงความยินดีกับข่าวถึงกับตกพื้นแตกทันทีที่ได้ยินข่าวจากพ่อบ้านของตัวเอง ก่อนจะมองหน้าพ่อบ้านหรือมือขวาผู้แสนเก่งกาจด้วยความเกรี้ยวกราด

“หมายความว่ายังไง...ที่ว่าล้มเหลว”

“ตอนที่ข้าน้อยไปที่สุสานเพื่อที่จะลักพาตัวเป้าหมายตามที่นายท่านสั่ง...” เจ้าตัวตอบพร้อมกับมองหน้านายท่านเป็นระยะ เมื่ออีกฝ่ายหาได้พูดอะไรออกมาไม่ ตนเองจึงพูดรายงานสิ่งที่ตนเองไปทำมาวันนี้ให้ฟังต่อทันที “...แต่กลับถูกเป้าหมายรู้ตัวเสียก่อน จึงมีเหตุการณ์ต่อสู้กัน”

“แล้วยังไงต่อ?” นายท่านหรี่ตามองคนรายงานอย่างเอาเรื่อง

“ข้าน้อยต้องขออภัยนายท่านอีกครั้ง เพราะเป้าหมายมีฝีมือที่เก่งพอสมควร ก็เลยทำให้ข้าน้อยต้องเอาจริง ก็เลยเป็นเหตุให้...”

“เหตุให้?”

“เป้าหมายบาดเจ็บสาหัสอาการเป็นตายเท่ากัน”

ปัง!

เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด ก่อนร่างพ่อบ้านจะเซถอยหลังตามแรงปืนที่ยิงมาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเลือดที่พุ่งกระฉูดออกมาตรงท้องแลดูน่ากลัวยิ่ง

“ฉันสั่งให้จับเป็นไม่ใช่ให้จับตาย!” นายท่านกล่าวด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด ในขณะที่พ่อบ้านที่เพิ่งถูกยิงแม้จะบาดเจ็บสาหัส แต่สีหน้าก็ยังคงแสดงอาการเฉยเมยราวกับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดเลยซักนิด “กลับไปซะ...กลับไปติดตามเป้าหมาย แล้วกลับมารายงานฉันเป็นระยะ”

“ขอรับนายท่าน” แล้วพ่อบ้านก็ก้มหน้าลานายท่านก่อนจะเดินออกจากห้องไปโดยทิ้งคราบเลือดของตัวเองไว้อยู่ที่พื้นห้องเจ้านายตรงนั้น ส่วนนายท่านหมุนเก้าอี้โซฟากลับหลังไป พลางทอดสายตามองท้องฟ้าสีแดงยามเย็นผ่านหน้าต่างด้วยสีหน้ายากเกินที่จะคาดเดา ก่อนจะพูดประโยคหนึ่งออกมาว่า...

“I come back…V”


.......................................................

 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ Tequila

  • I am a follower KiHae.
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 ประโยคสุดท้ายนี้มัน...:ruready :ruready

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ตอนที่ 8 (สิงห์ & จีน)

....................................

“ตอนนี้คนไข้ทั้งสองคนพ้นขีดอันตรายแล้วครับ”

คำพูดของคุณหมอที่เพิ่งจะเดินออกมาจากห้องไอซียู ทำเอาทุกคนที่ตั้งใจรอฟังข่าวอยู่หน้าห้องถึงกับถอนหายใจด้วยความโล่งอกไปตามๆกัน แต่ทว่าวินยังไม่ทันได้ถามคุณหมอก็ชิ่งพูดขึ้นมาก่อน

“แต่คนไข้ยังไม่ฟื้น แม้จะพ้นขีดอันตรายก็ตาม”

“เอ๊ะ? หมายความว่ายังไงครับคุณหมอ พ้นขีดอันตรายแต่ไม่ฟื้น” วินถามต่อด้วยความหงุดหงิด เพราะเขาเป็นห่วงคุณพ่อกับคุณไฟเอามากๆ ซึ่งคุณหมอรู้ดีว่าวินเป็นใคร จึงรีบตอบกลับไปว่า

“พวกเขาถูกยิงเฉียดที่ศีรษะทั้งคู่ ก็เลย...”

“เป็นเจ้าชายนิทรา คุณจะบอกแบบนั้นกับพวกผมใช่ไหมครับคุณหมอ” สิงห์พูดแทรกด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก ซึ่งทำเอาคุณหมอถึงกับสะดุ้งตกใจทันที

“ไม่เอาน่าสิงห์ อย่าไปดุคุณหมอแบบนั้นสิ” วินรีบพูดห้ามลูกชายคนโตเพราะไม่อยากจะให้มีเรื่อง และที่สำคัญเขาไม่อยากให้คนนอกเห็นว่าพวกเขาใช้อำนาจมาเฟียพูดจาข่มขู่คุณหมออีกด้วย “แล้วพวกเขาสองคนจะตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่ครับคุณหมอ”

คุณหมอได้ฟังที่วินถามก็กรอกสายตาไปมาก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่นว่า

“อันนี้ผมไม่ทราบครับ แต่อาการโดยรวมดีขึ้นมากตามลำดับ ถ้ากำลังใจดี ไม่แน่ว่าคนไข้อาจจะฟื้นขึ้นมาในเร็ววัน ถ้าพวกคุณจะเข้าไปเยี่ยม ผมอนุญาตให้เข้าไปทีละคน ส่วนคุณ...วิน...ผมขอเชิญคุณไปฟังอาการคนไข้ที่ห้องได้หรือไม่ครับ”

“ได้ครับคุณหมอ” แล้ววินก็เดินจากไปพร้อมกับคุณหมอ ทิ้งให้พวกสิงห์ เฟยจิ้ง ราตรี และพ่อแม่ของวีร์นั่งรออยู่หน้าห้องไอซียู

...............................

ผู้นำตระกูลพยัคฆ์ถูกโค่น?

ลือว่าเป็นฝีมือของคนในตระกูลงูที่หายสาบสูญไปเมื่อหลายปีก่อน (อ่านต่อได้หน้าที่...)


ข่าวอาการบาดเจ็บของไฟหรือพยัคฆ์ ผู้นำตระกูลเสือที่ยังไม่ฟื้นขึ้นมาจนถึงบัดนี้ได้ดังกระฉ่อนไปทั่ววงการมาเฟีย รวมถึงบุคคลทั่วไปที่ได้รับรู้ข่าวนี้ต่างพากันหวาดกลัวในอำนาจมืดที่กำลังจะกลับมาอีกครั้ง

“พวกนักข่าวมันรู้ได้ยังไงว่าเป็นฝีมือของพวกตระกูลงู ก็ในเมื่อพวกเราไม่ได้ปริปากบอกเลยซักคำเดียว” จีนเงยหน้าขึ้นพูดหลังจากก้มอ่านหนังสือพิมพ์ได้ซักพัก ตอนนี้ที่บ้านมีแค่เขากับพี่สิงห์ที่ยังอยู่ (เพราะเขายังไม่หายดี ก็เลยต้องอยู่บ้าน) ส่วนพี่ลีโอ พี่กระต่ายไปทำงานตามเดิม มีเพียงแค่คุณพ่อกับคุณลุงอิฐที่อยู่เฝ้าคุณไฟกับวีร์ที่โรงพยาบาล และเพื่อความปลอดภัยพวกเขาได้จัดเวรยามป้องกันอย่างแน่นหนา รวมถึงขออนุญาตทางโรงพยาบาลไม่ให้นักข่าวหรือคนนอกเข้าไปทำข่าวข้างในด้วย

“ไม่แปลกที่พวกนักข่าวจะรู้ พวกนี้จมูกมันไว” สิงห์กล่าวตอบก่อนจะดึงหนังสือพิมพ์ออกจากมือบาง “หยุดอ่านได้แล้วจีน รีบทานข้าวซะ เดี๋ยวมันจะเย็น”

จีนย่นจมูกเล็กน้อยอย่างไม่พอใจที่ถูกขัดจังหวะ แต่ก็ยอมลงมือทานข้าวต่อแต่โดยดี ทว่า...

Trr…

เสียงมือถือดังขึ้น ทำให้สิงห์ที่กำลังตักข้าวเข้าปากตัวเองก็ต้องหยุดชะงักลง ก่อนจะวางช้อนแล้วหันไปหยิบมือถือขึ้นมาดู และพอรู้ว่าปลายสายเป็นใครจึงกดรับสายทันที

“ครับคุณพ่อ...กำลังทานข้าวเช้าอยู่ครับ ได้ครับ ครับ ตกลงครับ อีกครึ่งชั่วโมงผมจะไป สวัสดีครับ” แล้วพี่สิงห์ก็กดวางสายลงพร้อมกับวางมือถือลงข้างจาน

“คุณพ่อโทรมาหรือพี่สิงห์” จีนถามด้วยความสงสัย

“ใช่” สิงห์ตอบก่อนจะถอนลมหายใจออกเบาๆ “เดี๋ยวพี่จะต้องออกไปหาคุณพ่อที่โรงพยาบาล พอดีท่านมีเรื่องจะให้พี่ทำ ระหว่างนี้เราก็อยู่บ้าน...”

“ไม่ จีนจะไปด้วย” เขาแย้งขึ้นมาทันที อยากจะไปเยี่ยมวีร์ใจจะขาด เพราะเมื่อวานยังไม่ทันได้เห็นหน้า ก็ถูกพี่สิงห์พากลับบ้านเสียก่อน

“ไม่ได้ พี่รีบไปรีบกลับ ไม่ต้องเถียง พี่จะให้ไอ้กล้าอยู่เป็นเพื่อนเราด้วย ถ้าพี่รู้ว่าเราแอบตามพี่ไป พี่จะลงโทษเราไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวัน แล้วอย่ามาหาว่าพี่รุนแรงกับเราเชียวล่ะจีน” แล้วร่างสูงก็ลุกจากเก้าอี้ก่อนจะเดินออกจากห้องรับประทานอาหารไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้จีนได้แต่กระทืบเท้าด้วยความเจ็บใจ

...................................

ผู้ไม่เกี่ยวข้องห้ามเข้า

ป้ายโชว์เด่นหราอยู่ทางเข้าชั้นหก ซึ่งไม่มีใครผ่านเข้าไปแม้แต่คนเดียว กระทั่งนักข่าวที่มาทำข่าวก็ไม่กล้าเข้าไป เพราะต่างคนต่างเกรงในอำนาจของตระกูลพยัคฆ์กับตระกูลสิงห์ แต่ทว่ากลับมีเงาดำคืบคลานเข้าไปอย่างเงียบๆโดยที่ไม่มีใครรู้จุดประสงค์ของการมาในครั้งนี้ ซึ่งทางเข้าชั้นหกมีบอดี้การ์ดเฝ้าอยู่แน่นหนา ดังนั้นหากมีใครเข้าไปบอดี้การ์ดต้องรู้กันทุกคน เว้นแต่ว่า...

ผลัก...โครม!

เสียงคนล้มระเนระนาดไปพร้อมๆกันราวกับนัดเอาไว้ ซึ่งเป็นใครไม่ได้นอกเสียจากพวกบอดี้การ์ด แถมล้มลงไปแล้วก็ไม่มีใครลุกขึ้นมาได้อีกเลย ก่อนที่เงานั่นจะเดินออกมาจากมุมมืด แลเห็นร่างสูงเพรียวชุดดำทั้งตัวเดินเนิบนาบเข้ามาอย่างใจเย็น จนกระทั่งร่างนั้นไปหยุดอยู่ตรงที่หน้าประตูห้องคนไข้พิเศษวีไอพีที่มีป้ายถูกเขียนชื่อไว้ว่า

นาย พยัคฆ์ / นาย กมล

ร่างปริศนามองชื่อนั้นก่อนจะยกมือที่สวมถุงมือสีดำขึ้นจับ แล้วจึงบิดลูกบิดอย่างเชื่องช้า เมื่อประตูถูกเปิดออกแล้ว เจ้าตัวก็แทรกเข้าไปยังข้างใน ก่อนแลเห็นสองเตียงที่มีคนป่วยนอนอยู่ท่ามกลางเครื่องช่วยหายใจ

ไม่ผิดตัวแน่...

แม้คนป่วยจะได้รับบาดเจ็บบนใบหน้าด้วย แต่เค้าเดิมก็ยังคงเหลืออยู่ ซึ่งมองดูก็รู้ว่าเป็นใคร แล้วบุคคลปริศนาหันไปมองอีกคนที่เป็นเด็กกว่าพยัคฆ์ ก่อนจะทอดถอนหายใจด้วยความสงสารแกมสมเพศ เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายเป็นคนรักของพยัคฆ์ แต่กลับต้องมายุ่งเกี่ยวกับมาเฟียที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน

“ฟังนะไอ้หนู ถ้าให้เลือกเกิดได้ คราวหน้าอย่าได้เลือกเกิดเป็นคนรักมาเฟียอีกเลย เพราะมันไม่คุ้มหรอกนะรู้ไหม” บุคคลปริศนาพูดบอกกับเด็กหนุ่มที่นอนหลับอยู่บนเตียง ก่อนจะหยิบหมอนขึ้นมาพร้อมกับปืนสีดำ “แต่ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะลุงจะส่งคนรักตามแกไปทีหลัง จะได้ไปรักกันในปรโลกให้หนำใจไปเลย”

แกรก

หมอนถูกวางบนใบหน้าเด็กหนุ่มก่อนจะตามด้วยปืนที่ขึ้นมาจ่อเตรียมพร้อมยิง

“Good bye baby.”

ปุ!

..........................

“เกิดอะไรขึ้นครับ?!”

สิงห์แทบจะถลาเข้ามาพร้อมกับคำถามที่ฟังดูตื่นตระหนกเมื่อเห็นคุณพ่อกับลุงอิฐยืนทำหน้าเคร่งเครียด รอบกายทั้งคู่ต่างมีบอดี้การ์ดฝีมือดีนับสิบยืนอยู่ ส่วนวินเมื่อได้ยินคำถามจากสิงห์จึงหันมาตอบกลับไปว่า

“มีคนร้ายแอบเข้ามาน่ะ แต่โชคยังดีที่พ่อกับอิฐกลับมาทัน ไม่งั้น...”

คุณพ่อวีร์กับคุณไฟได้ตายอีกครั้งแน่...

“แล้วพวกบอดี้การ์ดล่ะ” สิงห์กัดฟันพูดด้วยความหงุดหงิด “ได้ข่าวว่าคุณพ่อให้พวกฝีมือดีระดับต้นคอยอยู่เฝ้าไม่ใช่รึครับ ทำไมถึงปล่อยให้คนร้ายเดินเข้ามาได้ง่ายๆ ผมว่าพวกเราควรจะไล่ชุดนี้ออกไปแล้วหาจ้างใหม่ที่ดีกว่า”

“ไม่จำเป็น เพราะไม่มีดีกว่านี้อีกแล้ว”

“คุณพ่อ!” สิงห์ร้องอุทานออกมา แต่กลับต้องกลืนน้ำลายลงคอเมื่อเห็นคุณพ่อกระพริบตาให้สองสามครั้ง “ว่าแต่คุณพยัคฆ์กับวีร์ปลอดภัยไหมครับ”

“อืม ตอนนี้พ่อได้ย้ายทั้งคู่ไปไว้ที่อื่นแล้ว ฉะนั้นพ่อจะไม่บอกลูกว่าย้ายไปอยู่ที่ไหน ขืนรู้มากก็ยิ่งทำให้เปิดโอกาสให้คนร้ายเข้าหามากขึ้น” วินพยักหน้าตอบ ซึ่งสิงห์ก็พลอยเห็นดีเห็นงามด้วยตามนั้น

“แล้วเรื่องงานในตระกูลพยัคฆ์ล่ะครับจะว่ายังไง” สิงห์ถามต่อเพราะเห็นว่าตอนนี้ตระกูลพยัคฆ์กำลังขาดผู้นำอย่างเสือหรือไฟไป ทำให้คนในบริษัทเริ่มหวั่นวิตกเกี่ยวกับงานที่ตัวเองทำ
 
“เรื่องนั้นลูกไม่ต้องเป็นห่วงเขาไปหรอก แม้ตระกูลพยัคฆ์จะขาดผู้นำแต่ใช่ว่าจะจนตรอกเลยซะทีเดียว พ่อคิดว่าเขาเก่งมากเลยทีเดียว วางแผนการงานในบริษัททุกอย่างไว้ล่วงหน้าเป็นยี่สิบสามสิบปีจนไม่ต้องพึ่งเขาไปชั่วชีวิตเลยก็ว่าได้ เห็นเลขาบอกว่าคุณเสือได้ทิ้งพินัยกรรมไว้ให้กับเขา ซึ่งเป็นสิ่งยืนยันลายลักษณ์อักษรได้เป็นอย่างดีว่าถ้าเขาหายตัวหรือตายจากไปเกินสามสิบปี อนุญาตให้เลขาขึ้นเป็นหัวหน้าแทนได้เลย”

!!!!!!

................................................

 :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ตอนที่ 9 (สิงห์ & จีน)

.......................................

“เที่ยวทะเล?”

“ใช่ เที่ยวทะเล”

“ในเวลาหน้าสิวหน้าขวานเนี่ยนะ?”

“เวลาพูดกับผู้ใหญ่ต้องพูดมีหางเสียงด้วยสิครับน้องจีน”

“เออ!! ครับ!!” ผมพูดตะคอกเสียงใส่กลับไปด้วยความหงุดหงิดใจ ก่อนจะลอบหันไปมองอีกคนที่กำลังยืนยิ้มให้ผม ในมือถือกระเป๋าสัมภาระเตรียมไปเที่ยวตามที่พี่สิงห์ได้พูดเอาไว้อีกด้วย “อย่าบอกนะว่าพี่คมก็จะไปด้วยนะ”

“ถูกต้องแล้วครับน้องจีน” พี่คมพยักหน้าตอบ ซึ่งทำเอาผมนึกสงสัยไม่ใช่น้อย แต่ถามไปก็คงไม่ได้คำตอบกลับมา เพราะพี่สิงห์เป็นคนเก็บความลับเก่ง ถ้าเขาอยากจะบอกก็จะบอกมาเอง แต่ถ้าไม่ก็คือไม่

“สรุปมีไปกันแค่สามคนหรือครับ” ผมถามต่ออย่างสงสัย “คนอื่นล่ะฮะ”

คนอื่นที่ผมว่าก็มีคุณพ่อวิน ลุงอิฐ พี่ลีโอ พี่กระต่าย พี่เหยี่ยว...

“พวกเขามีงานมีการต้องทำ ดังนั้นมีแค่เราสามคนที่จะไป ไม่ต้องถาม ถึงเวลาพี่จะตอบคำถามเราเอง ไปขึ้นรถซะ ขืนชักช้ากว่าจะถึงภูเก็ตมันก็มืดเสียก่อน” พี่สิงห์ไม่พูดเปล่าเพียงอย่างเดียว ยังจูงมือผมเตรียมลากขึ้นรถ แต่ผมกลับฝืนตัวเองเอาไว้

“ภูเก็ต?!”

“มีอยู่กันแค่นี้จะพูดเสียงดังทำไม” พี่สิงห์นิ่วหน้าคิ้วขมวดอย่างไม่พอใจ พอเห็นผมไม่ยอมขึ้นรถเสียที จึงช้อนร่างผมอุ้มขึ้นในท่าอุ้มเจ้าหญิงทันที “ถ้ายังขืนพูดอีกคำ พี่จะปล้ำจูบเราต่อหน้าไอ้คมกับคนขับรถเลยดีไหม”

ผมได้ยินดังนั้นก็รีบส่ายหน้าไปมา

ใครจะไปอยากโชว์หนังสดให้คนอื่นดูกันเล่า!

“ดี ถ้างั้นก็หุบปากให้สนิท เพราะพี่ไม่ชอบ เข้าใจ?”

ไม่เข้าใจเว้ย!!

ผมได้แต่บ่นในใจ ก่อนจะปล่อยให้อีกฝ่ายอุ้มขึ้นรถอย่างเงียบๆ ซึ่งพอขึ้นรถตู้ปุ๊บ ผมก็หลับปั๊บทันที ที่หลับไม่ใช่เพราะอะไร ก็เพลียจากเมื่อวานที่พี่สิงห์เป็นบ้าอะไรไม่รู้ มาถึงห้องหลังจากกลับจากที่โรงพยาบาล ก็เดินเข้ามาผลักผมลงเตียงถอดเสื้อผ้าผมกับตัวเองด้วยสกิลขั้นเทพ ไอ้ผมก็ตกใจสิครับ รีบขัดขวางไม่ให้พี่สิงห์ได้ทำอะไรไปมากกว่านี้ แต่สุดท้ายก็สู้แรงเขาไม่ไหว โดนจนสลบไปรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ รู้แค่ว่าพอตื่นขึ้นมาก็โดนพี่สิงห์เอ่ยปากชวนไปเที่ยวทะเลอย่างที่เห็น

“จีนครับ จีน ตอนนี้อยู่ปั้มแล้ว จะแวะเข้าห้องน้ำห้องท่าไหม” เสียงพี่สิงห์ถาม ซึ่งผมได้ยินก็ลืมตาขึ้นมาอย่างงัวเงีย อยากจะหลับต่อแต่ก็ต้องลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำครับ เพราะก่อนออกมาจากบ้านผมยังไม่ได้เข้าห้องน้ำห้องท่าเลย 

“อืม” ผมลุกขึ้นนั่งขยี้ตาตัวเอง แต่ก็โดนมือหนาปัดออกเบาๆไม่ให้ขยี้ตาตัวเอง ซึ่งผมมุ่นคิ้วที่โดนขัดใจ แต่ก็ไม่ได้พูดต่อว่าอะไร จึงแบมือขวาออกมาก่อนจะถูนิ้วชี้กับนิ้วโป้งตัวเองเบาๆ “เอาเงินมาสิ จะไปซื้อขนมน้ำ อ้อ แปรงสีฟันยาสีฟันกับน้ำยาบ้วนปากด้วย เหม็นขี้ฟันตัวเอง”

ร่างสูงหรี่ตาลงมองผมอย่างเคร่งเครียด ก่อนจะใช้มือเคาะหัวผมเบาๆ

“เราน่ะ เวลาพูดกับผู้ใหญ่ควรมีหางเสียงด้วย” รู้อยู่ แต่คนมันง่วงเฟ้ย “ถ้าอยากได้แปรงสีฟันยาสีฟันกับน้ำยาบ้วนปากน่ะพี่มี อยู่หลังรถเดี๋ยวไปหยิบให้ ส่วนขนมกับน้ำไม่ต้อง พี่เตรียมไว้ให้หมดแล้ว”

นี่พี่ชายผมเปลี่ยนอาชีพจากมาเฟียเป็นพ่อบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย แหม เตรียมไว้พร้อมซะ...

ผมไม่อยากขัดใจพี่ชายจึงยอมเดินลงจากรถยืนรออีกฝ่ายจัดเตรียมข้าวของให้ผม ก่อนจะหันมาจับจูงมือผมเข้าไปในห้องน้ำราวกับเป็นลูกชายตัวเองมิปาน


.................................

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
น้องจีนเดินจูงมือไปเข้าห้องน้ำพร้อมกับสิงห์ ในขณะที่ผมที่เพิ่งจะตื่นขึ้นมาขยี้ตาอย่างง่วงเงีย เพราะเมื่อคืนผมอยู่เวรดึกจนถึงตีสอง เพิ่งจะได้นอนไม่กี่ชั่วโมงก็โดนสิงห์โทรปลุกเรียกให้จัดเสื้อผ้าเตรียมไปเที่ยวภูเก็ต ทีแรกผมถึงกับมึน เพราะไม่เข้าใจว่าไปทำไม แต่พอได้รับคำอธิบายจากมันก็ถึงบางอ้อ

“กูจะพาจีนไปฮันนีมูน”

“ฮันนีมูน?!” ผมตวาดเสียงกลับไป “ในช่วงหน้าสิวหน้าขวานเนี่ยนะ”

“ก็เออน่ะสิ ถ้าไม่ให้ไปตอนนี้แล้วจะให้ไปตอนไหน ไม่รู้ล่ะ ยังไงมึงก็ต้องไป เพราะกู...”


Trrr…

เสียงริงโทนมือถือดังขึ้นขัดจังหวะ ทำเอาผมที่กำลังนึกย้อนเหตุการณ์เมื่อคืนวานถึงกับชะงัก ก่อนจะหันไปคว้ามือถือในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาดู พลันยกยิ้มเมื่อเห็นรายชื่อคนที่โทรเข้ามา แล้วจึงค่อยกดปุ่มรับสายยกแนบหูเตรียมเซย์ฮัลโหล

“ถึงภูเก็ตหรือยัง”

“ยังครับ เพิ่งจะพ้นกทม.ไม่มาก” ผมยิ้มตอบกลับไปพร้อมกับยกข้อมือซ้ายตัวเองขึ้นเพื่อดูนาฬิกาข้อมือ “พอดีสิงห์แวะปั้มพาน้องจีนเข้าห้องน้ำไปน่ะ”

“แล้วเธอล่ะ...”

“ยังไม่ได้เข้าเลยครับ เพิ่งจะตื่นเมื่อกี้นี้ ว่าแต่คุณล่ะ ทานข้าวเช้าหรือยังครับ” ผมถามต่อด้วยความเป็นห่วงเพราะนี่จะเก้าโมงเช้าแล้ว

“ยัง...” ผมเกือบจะอ้าปากด่าปลายสายอยู่แล้วถ้าอีกฝ่ายไม่พูดต่อให้ได้ยิน “...พอดีอยากได้เสียงเธอก่อนทานข้าวเช้าน่ะ”

!!!!!!

นี่ถ้าแถวนี้มีตุ่มน้ำเย็นๆแถวนี้ล่ะก็ ผมคงเอาหัวจุ่มน้ำไปเรียบร้อยแล้ว...

“คม?”

“ครับ!!” ผมสะบัดหน้าเรียกสติตัวเองให้กลับคืนมาก่อนจะส่งเสียงขานตอบกลับไป

“ระวังตัวด้วยนะ”

“เอ๊ะ?” ผมมุ่นคิ้วร้องอุทานออกมาด้วยความสงสัย “ระวังตัวอะไรเหรอครับ”

ทว่าปลายสายหาได้ตอบคำถามของผมไม่ กลับเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะพูดอะไรออกมาอีก

“ไม่มีอะไร ฉันรักเธอนะคม”

“ผมก็รักคุณครับ” ผมยิ้มตอบกลับไป...


................................

กว่าจะถึงก็มืดแล้ว แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่สำหรับพี่สิงห์ เพราะทันทีที่ถึงภูเก็ต พี่สิงห์ก็พาผมกับพี่คม และลูกน้องหรือบอดี้การ์ดอีกสองคนไปพักที่กระท่อมของรีสอร์ทแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งพี่สิงห์ได้ให้บอดี้การ์ดนอนพักอีกกระท่อม ส่วนผม พี่สิงห์ และพี่คมนอนพักที่กระท่อมหลังเดียวกัน พอแบ่งเรียบร้อยดีแล้วก็พากันไปหาอะไรทาน ซึ่งพวกอาหารนั้นเป็นอาหารของทางรีสอร์ทจัดเตรียมไว้ให้อยู่ก่อนแล้ว

“ใครหิวก็ลงมือทานกันได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ...” พี่สิงห์หันไปบอกพวกบอดี้การ์ดอีกสองคนที่ยืนอยู่ห่างๆ ก่อนจะหันกลับไปหาพี่คมที่ยืนย่างกุ้งกับปลาหมึกอยู่บนเตา “...ส่วนมึงมานั่งได้แล้วไอ้คม ไม่ต้องยืนปิ้งย่างให้กูกับจีนหรอก แค่นี้ก็มากพออยู่แล้ว”

“แต่...”

“ไม่มีแต่” พี่สิงห์พูดเสียงดุ ทำเอาผมรีบจับมือห้ามพี่สิงห์ทันที

“พี่สิงห์อย่าดุพี่คมสิ” แต่พี่สิงห์มีหรือจะฟัง กลับคว้ามือถือขึ้นมากดเบอร์โทรออกอย่างรวดเร็ว

“นี่ฉันเอง...ใช่...เมียมึงกำลังดื้อ ใช่ ไม่ยอมกิน...ได้...” ผมอยากรู้จริงว่าพี่สิงห์โทรหาใคร ในขณะที่พี่คมยืนหน้าซีดจนผมรู้สึกเป็นห่วงเสียจับใจ “...ไอ้คม...มารับโทรศัพท์เดี๋ยวนี้ มีคนอยากจะคุยด้วย”

พี่คมกัดปากตัวเองก่อนจะเดินเข้ามารับโทรศัพท์จากพี่สิงห์ แล้วเดินออกไปคุยห่างๆ

“พี่สิงห์รู้จักกับแฟนของพี่คมด้วยหรือ” ผมหันไปถามด้วยความสงสัย

“อืม”

“แล้วเขาเป็น...”

“ไม่ใช่เรื่องของเด็ก” พี่สิงห์ดุพร้อมกับถลึงตาใส่ผม ก่อนจะตักกุ้งเผาที่แกะให้ผมเรียบร้อยแล้ววางบนจานตรงหน้าผมทันที “รีบกินซะ จะได้รีบกลับเข้าไปอาบน้ำนอน เพราะพรุ่งนี้พวกเราต้องขึ้นเรือแต่เช้าตรู่”

“ขึ้นเรือ? นี่พี่สิงห์จะพาจีนไปไหนอีกเนี่ย” ผมบ่นอย่างไม่พอใจ เพราะโดนบังคับให้ไปนู่นไปนี่เรื่อย

“ไม่ต้องพูดมาก เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าก็จะรู้เอง” พี่สิงห์พูดตัดบทก่อนจะตักอาหารเข้าปากตัวเอง ส่วนผมก็ได้แต่นั่งหน้ามุ่ยลงมือทานอาหารไปอย่างเซ็งจัด


..........................

“ทำไมถึงไม่ยอมกินข้าว?”

“ก็มัน...” กินไม่ลง...

“กินไม่ลง?” ทายแม่นอย่างกับตาเห็น...

“ก็...” ผมพูดลากเสียงยาว ก้มหน้าใช้เท้าเขี่ยทรายเล่นไปมาพร้อมกับนึกหาเหตุผลที่จะต้องตอบอีกฝ่ายกลับไป “...คุณเล่นไม่มาด้วย ผมก็กิน...ไม่ลง”

“หึๆ”

“อย่าหัวเราะเยาะผมสิ! เขินนะ!!” ผมแหวเสียงกลับไป รู้สึกร้อนผ่าวราวกับจับไข้ “ว่าแต่คุณล่ะ กินข้าวเย็นหรือยัง ไม่ใช่ว่าทำงานจนลืมกินข้าว”

“ทานแล้วครับที่รัก” ที่รักพ่อง!

“แค่นี้นะ จะรีบไปกินข้าว”

“ครับ”

“เออ เดี๋ยว!” ผมรีบท้วงเพราะกลัวอีกฝ่ายจะกดวางสาย

“ครับที่รัก?” นี่ก็ที่รักตลอดเลยให้ตายสิ!

“เอ่อ...” ผมขบปากตัวเองเบาๆ ก่อนจะตัดสินใจพูดออกไป “...นอนหลับฝันดีนะ”

“...” สายหลุดหรือเปล่าวะเนี่ย

“ฮัล...”

“เปลี่ยนจากฝันดีมาเป็นฝันเห็นเธอนอนแก้ผ้าร้องครางให้ฟังจะดีกว่าเยอะนะครับที่รัก”

ไอ้หื่น!!!


..........................

“จีนไปอาบน้ำได้แล้ว”

“เดี๋ยวพี่สิงห์ ขอจีนเล่นเกมตรงนี้ให้เสร็จก่อน”

สิบนาทีผ่านไป...

“จีนอย่าให้พี่ต้องพูดซ้ำ”

“อีกหน่อยนะพี่สิงห์ เนี่ย ใกล้จะผ่าน...ว้าก!” สิงห์ไม่รอฟังจนจบ เขาล้มตัวทับใส่ร่างบาง ก่อนคว้ามือถือของอีกฝ่ายขึ้นมากดปิดเครื่องแล้วโยนลงบนโต๊ะเครื่องแป้ง จากนั้นจึงค่อยหันมามองน้องจีนที่ทำหน้าเหยเกเพราะความอึดอัดที่ถูกเขานอนทับใส่ “พี่สิงห์...ทำไมพี่ถึงเป็นคนใจร้ายแบบนี้”

“พี่เป็นคนใจร้ายก็เพราะเรานั่นแหละ ดื้อ!”

“ไม่ดื้อ! จีนเด็กดี”

“ยังจะเถียงพี่อีก” สมแล้วที่คุณปู่เคยบอกเอาไว้ จีนนะดื้อหัวรั้นสุดๆ “เลือกเอา ระหว่างอาบน้ำกับโดนพี่กดบนเตียงห้ารอบ รับรองว่าพรุ่งนี้อดขึ้นเรือเฟอร์รารี่ชมปะการังแน่”

ตัวเล็กถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจทันทีที่เขาพูดจบ

“อาบน้ำ! จีนจะอาบน้ำ” ดูท่าจะกลัวโดนกดมาก ถึงได้บอกรัวจนลิ้นเกือบพันกัน

น่ารักจริงเชียว...

“เสียใจด้วย พี่ให้สิทธิ์นั้นกับเราไม่ได้...เพราะของพี่มันขึ้นตั้งแต่พี่นอนทับเราเมื่อกี้นี้แล้ว”

“ว่ายังไง...อื้อ!!” เขาไม่รอให้อีกฝ่ายได้พูดจบ กดจูบริมฝีปากบางลงไปอย่างแนบแน่น แรกเริ่มเจ้าตัวไม่ยอม ทั้งทุบทั้งดิ้นจนสิงห์ต้องขบริมฝีปากแรงๆและบดจูบนานๆเป็นการสั่งสอนแทน ซึ่งมันก็ได้ผล ทำให้อีกฝ่ายยอมหยุดดิ้นแต่โดยดี “แฮ่ก...แฮ่ก...แฮ่ก...พี่สิงห์....แฮ่ก...ไม่เอา...นะ...จีน...เหนื่อย...เดี๋ยว แฮ่ก...แฮ่ก...พรุ่งนี้ลุก...ไม่ไหวไป....แฮ่ก...แฮ่ก...ไม่ไหว แฮ่ก...แฮ่ก...น้าๆพี่สิงห์...จีน...แฮ่ก...แฮ่ก จีนจะไม่ดื้อ จะเชื่อฟังพี่สิงห์ตลอด”

“สัญญา?”

“อื้อ สัญญา” จีนพยักหน้ารัวทั้งๆที่ยังหอบอยู่ ซึ่งเขาก็ไม่คิดจะทำอะไรจีนอยู่แล้ว แค่จะสั่งสอนเมียให้อยู่ในโอวาทก็เท่านั้นเอง “นะพี่สิงห์ นะๆ จีนจะเป็นเด็กดี จะเชื่อฟัง จะไม่ขัดขืนพี่สิงห์เลยด้วย”

“แน่ใจว่าจะเชื่อฟัง จะไม่ขัดขืนพี่นะ?”

“แน่ใจสิ! ให้ฟ้าดินเป็นพยาน” จีนพูดพลางชูสองนิ้วขึ้นมา ซึ่งทำให้สิงห์ยิ้มมุมปากเล็กน้อย เขาลูบหัวจีนเบาๆ ก่อนจะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ว่า

“ดีมาก ถ้าเชื่อฟังไม่ขัดขืนพี่ งั้น...คืนนี้พี่ขอรักเราซักรอบแล้วกัน...นะ”

........................................

 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
พี่สิงห์มันหื่นเว้ยเฮ้ย ฮ่าๆๆๆๆๆ ทำไมรีบฮันนี่มูนจัง คมเป็นเมียใครอ่ะ

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ตอนที่ 10 (สิงห์ & จีน)

.................................................

“นี่ใจคอมึงจะไม่ให้น้องจีนได้พักผ่อนหรือยังไง”

“ก็ให้พักนะ ทำไมจะไม่ให้พัก”

“พักของมึงสิ ไข้ขึ้นตั้งสี่สิบองศา ไม่ช็อกก็บุญโขแล้ว!” ผมตวาดเสียงกลับไปพร้อมกับเขกหัวเพื่อนสนิทด้วยความเกรี้ยวกราด “หัดเพลาๆลงซะบ้าง ไอ้เรื่อง SEX กูจะไม่ว่ามึงเลยถ้าอยากทำกับคนที่ตัวเองรัก แต่นี่ทำจนน้องจีนถึงกับไข้ขึ้น แล้วแบบนี้จะให้กูหันหน้าไปบอกกับเขายังไง อุตส่าห์รับปากเป็นอย่างดีว่าจะช่วยดูแลน้องจีน”

“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวกูช่วยพูดกับมันให้เอง” ดูมันย้อนสิครับ!

“เฮ้อ! ไม่ต้องล่ะ ยิ่งพูดยิ่งปวดหัว” ผมบอกพลางยกมือขึ้นห้ามในขณะที่มืออีกข้างกุมขมับด้วยความกลัดกลุ้ม “ส่วนเรื่องกำหนดการขึ้นเรือไปบนเกาะอะไรของมึงนั่น งดนะเข้าใจไหม”

“อะไรนะ?!” มีหันมาตวาดใส่อีกครับ

“งดทุกกิจกรรม” ผมพูดย้ำอีกรอบ “จนกว่าน้องจีนจะหายดี พวกเราจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”

“แล้วกิจกรรมพรีฮันนีมูนกูกับน้องจีนล่ะ?!”

พรีฮันนีมูนพ่องมึงดิ! เกิดมาจากท้องแม่ก็เพิ่งจะมาเคยได้ยินเป็นครั้งแรก...

“ก็ต้องงดไปก่อน” ผมถอนหายใจตอบด้วยความเหนื่อยใจ “กูเป็นหมอ มึงก็ต้องเชื่อฟังที่หมอพูดสิ หรือมึงอยากให้น้องจีนป่วยหนักจนถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลเลยรึยังไงฮะไอ้สิงห์”

คนฟังยืนนิ่งเงียบไปพักใหญ่ ซึ่งผมไม่รู้มันกำลังคิดอะไรอยู่ เพราะเดาใจยากพอๆกับเขาคนนั้น

ก็ให้ทำยังไงได้ในเมื่อเป็น...ฝาแฝดกัน นิสัยย่อมเหมือนกันอยู่วันยังค่ำนี่นะ...

“ตกลง ทำตามที่มึงบอกแล้วกันไอ้คม แต่...” มีแต่อีกครับ ข้อเรียกร้องเยอะซะจริง “...มึงต้องรักษาน้องจีนให้หายภายในสามวันนี้ด้วย เพราะยังไงกูก็ต้องพาน้องจีนไปพรีฮันนีมูนให้จงได้”

นี่ยังจะคิดพรีฮันนีมูนอยู่อีกรึ!!

“เออๆ กูรักษาให้แน่ แต่มึงต้องช่วยกูด้วยล่ะไอ้สิงห์ เพราะกูทำคนเดียวคงไม่ไหว” ผมพูดไปส่ายหน้าไปพลาง ไม่ไหว อยู่กับคนประเภทนี้มีแต่จะเครียดกับเครียด เห็นทีกลับบ้านคงต้องไปทำบุญที่วัดล้างซวยซะแล้วมั้งเนี่ย ส่วนร่างสูงเมื่อได้ยินที่ผมพูด ก็รีบพยักหน้าตอบตกลงทันที

“เออ กูช่วยอยู่แล้วล่ะไม่ต้องเป็นห่วง”

.....................................

“ต้องกิน”

“ไม่กิน”

“ต้องกิน”

“บอกว่าไม่กิน!”

“พอเลยไอ้สิงห์ น้องจีนไม่ชอบก็ยังจะไปใช้ช้อนยัดปากน้องอยู่ได้นั่นแหละ” ผมพูดห้ามปรามเอาไว้เพราะสิงห์จะใช้ช้อนยัดปากน้องจีนเข้าจริงๆ ส่วนไอ้สิงห์เมื่อถูกผมขัดขวาง ก็เหวี่ยงช้อนลงกับพื้นก่อนจะลุกขึ้นเดินหนีออกจากห้องนอนไปเสียดื้อๆ แน่นอนว่าคนป่วยถึงกับหน้าซีดมองคนเดินหนีออกไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ “ไม่ต้องคิดมากไปครับน้องจีน พี่สิงห์ก็แค่หงุดหงิดที่ทำเราป่วยจนไม่ได้พาไปเที่ยวตามแผนที่วางเอาไว้ก็เท่านั้นเอง ว่าแต่น้องจีนอยากทานอะไร เดี๋ยวพี่เข้าครัวทำให้เอง”

“ข้าวแกงกะหรี่!” ร่างบางพูดตอบเสียงแหบแห้งแต่ตาลุกวาวเป็นประกาย เพราะตอนน้องจีนยังเล็ก ผมเคยไปที่บ้านตระกูลสิงห์พร้อมกับคุณพ่อออกบ่อย และได้เจอกับน้องจีนเสียแทบทุกครั้ง ก็เลยทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายชอบข้าวแกงกะหรี่เป็นที่สุด

“โอเคครับน้องจีน กรุณารอซักครู่ เดี๋ยวพี่ชายสุดหล่อคนนี้จัดให้เอง” แล้วผมก็เดินออกนอกห้องไปเพื่อที่จะทำอาหารให้น้องจีน เห็นผมเป็นหมอก็จริงอยู่ แต่เรื่องทำกับข้าวนั่นผมก็พอมีฝีมืออยู่บ้าง

“คิดจะทำอะไรกันแน่” ร่างสูงพูดเสียงเข้ม นัยน์ตาดุดันเอาเรื่องในขณะที่ผมหยุดชะงักเดินก่อนจะถึงห้องครัวเพียงไม่กี่ก้าว “เอาใจเมียกูเกินหน้าเกินตาไปแล้วนะไอ้คม”

“เกินหน้าเกินตามึงตรงไหนวะ กูก็แค่ทำหน้าที่คนเป็นหมอก็เท่านั้นเอง มึงนะเลิกซึนเลิกหึงแบบหน้ามืดตามัวได้แล้ว มีอะไรก็พูดออกมาตรงๆ เล่นไม่พูดไม่บอกน้องจีนคงจะรู้เองได้หรอกนะ กูบอกได้เท่านี้” ผมบอกรัว ก่อนจะเลิกสนใจคนปากแข็งแล้วเข้าห้องครัวไปอย่างไม่ใยดี

ถือว่ากูสอนมึงในฐานะเพื่อนคนเดียวของมึงแล้วนะไอ้สิงห์...

.....................................................

เลิกซึน

เลิกหึง

มีอะไรก็พูดออกมาตรงๆ เล่นไม่พูดไม่บอกน้องจีนคงจะรู้เองได้หรอกนะ


คำพูดของคมทำให้สิงห์ที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ข้างนอกบ้านครุ่นคิดอย่างหนักใจ เพราะนับตั้งแต่เกิดมาลืมตาดูโลกนั้น ชายหนุ่มไม่เคยคบหาดูใจกับผู้หญิงที่ไหนเลย จึงไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไรให้ถูกใจน้องจีนตามที่คมว่ากล่าวเอาไว้ได้ จะให้โทรถามลีโอ กระต่ายหรือกระทั่งเหยี่ยวก็เกรงจะโดนหัวเราะเยาะเอาได้

ให้ตายสิ ทำไมยุ่งยากอะไรแบบนี้นะ!

คิดได้ดังนั้นชายหนุ่มจึงเปิดโน้ตบุ๊กรีบต่ออินเทอร์เนตทันที ก่อนจะเปิดหาข้อมูลอะไรบางอย่างที่สงสัย ซึ่งคำตอบมีอยู่เยอะมาก จนสิงห์จึงตัดสินใจเลือกที่จะถามคนในเว็บโดยตั้งไอดีตัวเองขึ้นมาใหม่ ก่อนจะกรอกคำถามลงไปอย่างรวดเร็ว ทว่าคำตอบของตนคงไม่ได้มีคนตอบเดี๋ยวนั้น สิงห์จึงลุกขึ้นแล้วเดินกลับเข้าบ้านเพื่อไปดูคนป่วยที่คาดว่านอนหลับไปแล้ว แต่ก็เปล่าเลย...

“โตจนป่านนี้แล้วยังจะดูการ์ตูนอยู่อีกนะ” สิงห์บอกคนป่วยก่อนจะเดินเข้าไปปิดทีวี ซึ่งทำให้คนป่วยทำหน้าค้อนใส่ทันที “กินยาหรือยัง”

“กินแล้ว!”

“พี่ถามเราดีๆนะ หัดตอบให้มีหางเสียงด้วย” สิงห์หรี่ตาบอกก่อนจะเดินไปหาคนป่วยที่ยังคงนั่งเอนหลังพิงหัวเตียง “แล้วเสื้อผ้าที่พี่ใส่ให้ ทำไมไม่ใส่”

“มันร้อน!”

“ร้อนก็ต้องใส่เพราะเราป่วย” สิงห์บอกย้ำ ก่อนจะหมุนตัวเดินไปหยิบเสื้อผ้าจากในตู้โดยไม่สนใจสายตาอาฆาตจากร่างบางเลยแม้แต่น้อย เมื่อเลือกเสื้อผ้าได้แล้ว สิงห์จึงหมุนตัวกลับมาหาน้องจีนอีกครั้ง แต่คราวนี้กลับต้องชะงักเมื่อเห็นน้ำตาที่ไหนรินอาบแก้มของคนป่วย “ร้องไห้ทำไม?”

คนป่วยไม่ตอบ แต่กลับกัดปากตัวเองก่อนจะขว้างหมอนใส่เขาอย่างแรงทันที แน่นอนว่าสิงห์หลบไม่ทันจึงโดนเข้าที่ใบหน้าไปเต็มๆ

“ฮึก! ออกไปจากห้องเดี๋ยวนี้นะไอ้พี่บ้า!” แล้วน้องจีนก็ดึงผ้าห่มคลุมโปงฝังตัวเองกับเตียง ถึงแม้จะมีผ้าห่มแต่เสียงร้องไห้ของน้องจีนกลับดังเล็ดลอดออกมาให้ได้ยินอย่างแผ่วเบา

“ไอ้สิงห์” เสียงคมเรียกชื่อตน พอหันไปมองก็เห็นเพื่อนสนิทยืนกวักมือเรียกอยู่ที่หน้าประตู สิงห์ไม่มีทางเลือกจึงต้องเดินไปหามันอย่างช่วยไม่ได้ “กูให้เวลามึงไปคิด ไม่ใช่ให้มาทะเลาะกับน้องจีน”

“กูไม่ได้มาทะเลาะ แค่มาดูเฉยๆ” คำตอบของเขาทำให้อีกฝ่ายถึงกับถอนหายใจเฮือกออกมาแรงๆ

“ซึนตัวพ่อเลยนะมึง ช่างเถอะ ตอนนี้กูว่ามึงออกไปนอนห้องกูแทนแล้วกัน ไม่ต้องทำหน้าดุใส่กูเลยไอ้สิงห์ ที่กูทำไปก็เพื่อน้องจีนกับตัวมึงเองทั้งนั้น เอาเป็นว่าตอนนี้น้องจีนไม่พร้อมที่จะเห็นหน้ามึง ส่วนมึงก็กลับไปนอนพักซะ เพราะกูจะนอนแล้ว” แล้วอีกฝ่ายก็ดันหลังสิงห์ให้เดินออกจากห้องไปก่อนจะปิดประตูใส่เสียงดังโครม ซึ่งสิงห์ได้แต่ยืนงง เพราะนี่ยังเช้าตรู่อยู่เลยด้วยซ้ำไป ครั้นเดินกลับไปดูคำตอบจากคนในอินเทอร์เนต ก็ได้คำตอบกลับมาเพียบ ซึ่งพออ่านดูโดยรวมแล้ว ก็ยังไม่ได้คำตอบที่ดีนัก สิงห์จึงปิดเว็บไซต์นี้ทิ้งทันที โดยไม่ได้ดูคอมเมนต์สุดท้ายที่โพสต์ไว้เลยแม้แต่น้อย

ถึงคุณMr.S สาเหตุที่คุณไม่เข้าใจในตัวเมียก็เพราะคุณยังรู้จักความรักไม่ดีพอ และสิ่งที่คุณอธิบายมาทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นว่าคุณเห็นเขาเป็นแค่น้องชาย ไม่ใช่คนรักที่จะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต

..................................

 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ tae1234

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ปัง! ปัง! ปัง!

สามนัดยิงรวดเดียวพร้อมกัน ทำให้ร่างใหญ่ทั้งสามร่างในชุดสูทสีดำถึงกับร่วงหล่นพื้น

“ทำความสะอาดซะ ฉันไม่อยากให้พื้นในห้องเปื้อนเลือด มันโสโครก” เสียงเย็นชาพูดก่อนจะเดินออกจากห้องไป ทำให้อีกคนในชุดสูทสีดำรีบเดินตามหลังผู้เป็นนาย “เรื่องที่ฉันให้แกสืบ ได้ความคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว”

“ครับ ตอนนี้สืบมาว่าพวกเขายังไปทำงานตามปกติ ส่วนคนป่วย...เอ่อ ผมไม่ทราบว่าเขาย้ายคนป่วยไปไว้ที่ไหน” อีกฝ่ายก้มหน้าตอบเพราะกลัวสายตาเจ้านายที่เหลือบมองมา

“หึ พวกขี้ขลาด”

“เอ่อ นายครับ” ลูกน้องคนเดิมพูดอีกครั้ง ทำให้ร่างสูงหนาที่กำลังจะเตรียมเข้าห้องทำงานถึงกับชะงัก “ผมได้สืบอีกสองเรื่อง แต่ไม่รู้ว่านายจะต้องการรับฟัง...”

“ว่ามา” ร่างสูงตอบก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้อง ซึ่งเผยให้เห็นห้องสี่เหลี่ยมสีเขียวทึบ ใจกลางห้องเป็นโต๊ะทำงานธรรมดาทั่วไป แต่ผิดแปลกตรงที่ผนังห้องหลังโต๊ะทำงานเป็นลวดลายงูตัวใหญ่ที่มีดวงตาสีแดงเลือดแลดูน่ากลัวยิ่ง

“เรื่องแรกเห็นว่าทายาทคนโตกับทายาทคนสุดท้ายของตระกูลสิงห์ไปเที่ยวทะเล เอ่อ เพื่อพรีฮันนีมูนครับ” สิ้นคำตอบ ร่างสูงที่นั่งลงบนเก้าอี้นวมหรูถึงกับมุ่นคิ้วทันที แต่ก็เพียงแวบเดียวก่อนจะฉีกยิ้มมุมปากแค่นหัวเราะออกมาเสียงดังลั่นท่ามกลางความตกใจของเลขาส่วนตัวที่อยู่เบื้องหน้าตนเอง

นึกไว้แล้วว่าพวกมันต้องไม่พ้นเรื่องพวกนี้...

พ่อมันเคยเป็นยังไงลูกหลานมันก็ต้องเป็นแบบนั้น...


“แล้วไงต่อ”

“เอ่อ ส่วนเรื่องที่สองก็มีคุณหมอที่ชื่อคมกฤษ คนรักของ…ตามคุณสิงห์ไปด้วยครับนาย” คำตอบนี้ทำให้ร่างสูงยิ่งหัวเราะมากขึ้นกว่าเดิม “นายหัวเราะทำไมหรือครับ”

“หึ ก็หัวเราะที่พวกมันหันมากินกันเองนะสิถามมาได้!” เขาหัวเราะอย่างพึงพอใจ ก่อนจะไล่เลขาตนเองให้กลับไปทำงานต่อ ส่วนตัวเองก็หันเก้าอี้โซฟากลับหลังเพื่อดูรูปถ่ายที่ติดข้างฝาผนัง ซึ่งเป็นรูปถ่ายเก่ามาก บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าผ่านมานานพอสมควร และภาพนั้นเป็นภาพของพี่ชายเขาในชุดกี่เพ้าสีเขียวยืนฉีกยิ้มกอดคอกับใครบางคนที่ถูกกรีดด้วยของมีคมเสียยับเยิน

“ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับพี่ลูคัส ถึงพี่จะไม่ได้กลับชาติมาเกิดใหม่เหมือนผม แต่ผมจะตามล้างแค้นด้วยการโค่นตระกูลของมันให้พังพินาศเหมือนกับที่มันกล้าฆ่าพี่ที่เป็นเพื่อนสนิทได้ลงคอเลยคอยดูสิ”

............................................
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-09-2016 03:35:56 โดย dragon123 »

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ตอนที่ 11 (สิงห์ & จีน)

................................................

ผมตื่นอีกครั้งก็บ่ายคล้อยเริ่มเย็นแล้ว... ไข้ที่เคยสูงกลับลดลงจนเกือบหายเป็นปกติดี ส่วนอาการเจ็บบั้นท้ายก็ตรงส่วนนั้นก็ทุเลาลงจนสามารถเดินลงจากเตียงเข้าห้องน้ำได้ตามปกติ แต่พี่คมก็ยังไม่อนุญาตให้ผมเดินลุกออกไปนอกบ้านได้อยู่ดี

"มื้อเย็นพี่จะทำข้าวต้มกุ้งให้กินนะ" พี่คมบอก ซึ่งผมไม่เรื่องมาก รีบพยักหน้ารัวเพราะมื้อเย็นไม่อยากทานหนัก เดี๋ยวจะอ้วนลงพุงอีก "อ้อ ถ้าอยากจะดูหนังก็เปิดได้เลย พี่วางรีโมทไว้บนหัวเตียงแล้ว ว่าแต่จะเอาน้ำส้มหรือนมอุ่นดีล่ะครับ"

"นมอุ่น"

"โอเค งั้นรอซักครู่เดี๋ยวพี่มา" แล้วพี่คมก็เดินหายออกไปจากห้อง ทำให้ผมที่ไม่อยากจะดูทีวีซักเท่าไหร่ รีบคว้ามือถือขึ้นมากดเล่นเกม แต่ก็เล่นได้ไม่นานนัก อยู่ๆก็มีเสียงริงโทนดังขึ้นแทรกพร้อมกับเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่รู้จัก

123-xxx-xxx

ใครโทรมานะ?

ผมมองด้วยความลังเลใจ เพราะช่วงนี้สถานการณ์ไม่สู้ดีนัก แถมพวกพี่ก็กำชับมาว่าอย่าได้รับโทรศัพท์จากคนแปลกหน้าด้วย ผมจึงตัดสินใจกดปุ่มไม่รับสายทันที แต่ถึงกระนั้นอีกฝั่งก็ยังดันทุรังโทรเข้ามาอีก

หรือว่าจะเป็น...

ไม่รอช้าผมรีบกดรับสายทันที

"ฮัลโหล"

.........................................

"ครับคุณวิน ทางนี้ไม่ต้องเป็นห่วง น้องจีนตอนนี้หายไข้แล้วครับ ครับ สวัสดีครับ"

"คุณพ่อท่านว่ายังไงบ้าง" สิงห์เอ่ยปากถามพร้อมกับยื่นมือรอรับโทรศัพท์มือถือของตัวเองจากคมที่เพิ่งจะวางสายคุยกับคุณพ่อวินไปเมื่อครู่นี้ ส่วนคมถอนหายใจออกมาเบาๆ มองหน้าเพื่อนสนิทตอบกลับไปว่า

"ก็ไม่ได้ว่าอะไร ท่านแค่ถามเรื่องอาการของน้องจีน และก็ฝากข้อความมาถึงมึงด้วย"

"ข้อความ?" สิงห์หรี่ตาลงมองคมด้วยความสงสัย "ข้อความอะไร"

"ท่านบอกว่าอย่าคึกให้มากระวังกรรมจะตามสนอง"

ปึด!

ข้อความที่ถูกส่งผ่านมาทำเอาสิงห์นึกอยากกระทืบไอ้คมให้จมมิดเสียเดี๋ยวนั้น เพราะมันไม่ได้พูดเพียงอย่างเดียว แต่กลับทำหน้าเย้ยหยันใส่เขาอีกด้วย

ฝากไว้ก่อนเถอะ!

"ว่าแต่เย็นนี้จะทานอะไรดีล่ะ" คมรีบพูดเปลี่ยนเรื่องเพราะเห็นอีกฝ่ายเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาแล้ว "เดี๋ยวกูเข้าครัวลงมือทำให้มึงกับพวกบอดี้การ์ดให้เอง ไม่ต้องไปซื้อข้างนอกมากิน ส่วนของน้องจีนคงต้องเป็นข้าวต้มกุ้งเพราะมื้อเที่ยงเล่นของหนัก เดี๋ยวอาหารไม่ย่อยแล้วจะปวดท้องตอนดึกๆเอาได้"

"ก็แล้วแต่ที่มึงสะดวกแล้วกัน น้องสุดที่รักของมึงไม่ใช่หรือยังไงไอ้คม" ร่างสูงพูดตัดบทด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ก่อนจะเดินออกจากห้องรับแขกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้หมอคมยืนส่ายหน้าไปมาด้วยความเอือมระอากับเพื่อนสนิทที่ยังงอนไม่เลิก

เพราะแบบนี้ไง คุณวินถึงไม่วางใจยกตำแหน่งท่านประธานตระกูลสิงห์ให้กับมัน

................................

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
สิงห์ยังไม่รักน้องพอรอเนี่ย ลุ้นต่อ

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
"แน่ใจแล้วเหรอครับน้องจีน ว่าจะออกไปทานข้าวพร้อมกับพวกพี่นะ?"

"ฮะ" ร่างบางพยักหน้าตอบรัว "น้องจีนแน่ใจ"

คำว่าน้องจีนทำเอาผมที่เดินกลับเข้ามาถามน้องจีนว่าจะเอาของหวานเพิ่มหรือไม่ถึงกับชะงักทันที เพราะนับตั้งแต่ผมรู้จักกับน้องจีนมาตั้งแต่ยังแบเบาะ น้องจีนใช้คำนี้มาโดยตลอด และเพิ่งเลิกใช้ก็ตอนเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมต้น แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ผมนึกประหลาดใจเท่าที่ควร

หรือต้องการจะอ้อนเพื่อให้ผมเอาใจกันแน่?

"โอเค ถ้างั้นก็ลุกขึ้นล้างหน้าล้างตาเปลี่ยนเสื้อผ้าหน่อยนะ เพราะขืนเดินออกไปทั้งชุดนอนประเดี๋ยวสิงโตมันจะกัดน้องจีนเอาได้" ผมยิ้มตอบก่อนจะช่วยน้องจีนพยุงลุกขึ้นเดินจากเตียง จากนั้นจึงพาไปห้องน้ำพร้อมกับผ้าขนหนูผืนหนึ่ง "เดี๋ยวเสร็จแล้วก็ตะโกนเรียกพี่เอานะ พี่จะกลับไปดูของหวานในตู้เย็นห้องครัวเสียหน่อย รู้สึกว่าจะมีขนมลอดช่องสิงคโปร์อยู่ด้วย จะกินไหมล่ะครับคนเก่ง พี่จะได้แกะใส่ชามเตรียมรอไว้ให้"

"ฮะ อ๊ะ เดี๋ยวก่อนฮะพี่คม" น้องจีนตอบก่อนจะรีบเรียกชื่อผม ซึ่งทำเอาผมที่กำลังจะเดินออกไปข้างนอกห้องนอนถึงกับหยุดชะงักหันกลับมามองด้วยความสงสัย

"มีอะไรหรือน้องจีน อยากจะได้อะไรเพิ่มหรือ?"

"คือ..." น้องจีนก้มหน้าก้มตาพูดเสียงกระท่อนกระแท่นราวกับเขินอาย "...น้องจีนอยากจะได้"

"อยากจะได้? อะไรหรือครับน้องจีน พูดออกมาเลย ไม่ต้องอายพี่ พี่เป็นหมอ พี่รู้เรื่องและชินกับพวกนี้ดี" อาจจะเป็นเพราะน้องจีนอายเกินที่จะพูดออกมาตรงๆ ผมจึงรีบบอกเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายต้องเขินจนมากเกินไป "บอกมาเถอะครับ เป็นอะไรเจ็บตรงไหน พี่จะได้รักษาได้ทัน"

น้องจีนส่ายหน้าไปมา ก่อนจะปลายเสื้อตัวเองเงยหน้าเม้มปากพูดกับผมด้วยสีหน้าแดงระเรื่อ

"น้องจีน...ไม่ได้เป็นอะไร...และไม่ได้...เจ็บ...น้องจีนแค่อยากได้..."

"อยากได้?"

"น้องจีนอยากได้..." น้องจีนเม้มปากแน่นขึ้น ก่อนจะถอนหายใจตอบกลับมาว่า "...กางเกงใน พอดีไอ้พี่สิงห์บ้านั่น...เอ่อ ฉีก...จนขาดหมด และที่เหลือก็ยัง...ไม่ได้ซัก...กองอยู่ในตะกร้า"

เท่านั้นแหละผมถึงกับบางอ้อ

"ได้สิครับ เดี๋ยวพี่จะใช้พวกบอดี้การ์ดออกไป..."

"ไม่นะพี่คมไม่ได้เด็ดขาด!" น้องจีนสวนโพล่งกลับมาทันที "ต้องพี่คมคนเดียวเท่านั้น น้องจีนไม่อยากให้คนอื่นรู้...ไซส์กางเกงในน้องจีน"

"ครับพี่คมขอโทษ พี่จะออกไปซื้อให้เองก็ได้ ถ้างั้นน้องจีนออกมาแล้วก็รีบเช็ดตัวใส่เสื้อนอนห่มผ้ารอบนเตียงเลยนะครับ จะได้ไม่เป็นหวัดระหว่างรอพี่"

"ฮะพี่คม" อีกฝ่ายตอบ ส่วนผมไม่รอช้าก็รีบหมุนตัวเดินออกจากห้องนอนไป

นี่ถ้าผมเอะใจกับคำพูดของน้องจีนซักนิด เรื่องอันตรายทั้งหมดก็คงจะไม่เกิดขึ้น...

................................

 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
"ของครบพร้อม ส่วนกางเกงในซื้อแบบยกโหลไว้พร้อมดีกว่า เผื่อเหลือดีกว่าขาด"

Trr...

เสียงริงโทนมือถือดังขึ้นขณะที่ผมกำลังเดินเข็นรถไปเลือกสินค้าในโซนเสื้อผ้าหลังจากซื้อของกินครบพร้อมแล้ว ขาดแต่กางเกงในของน้องจีนกับเสื้อผ้าของผมที่คิดจะซื้อเพิ่มอีกซักชุดสองชุด

สงสัยน้องจีนอยากจะได้เพิ่มอะไรอีกกระมัง...

ผมครุ่นคิดในใจก่อนจะหยุดเดิน แล้วควานหามือถือในกระเป๋ากางเกงขึ้นออกมาดูหน้าจอ ทว่ารายชื่อบนหน้าจอกลับไม่ใช่น้องจีนตามที่ผมคาดคิดเอาไว้

"โทรหาผมในเวลาทำงานระวังจะโดนคุณพ่อคุณหักเงินเดือนเอาได้นะครับ" ผมพูดกรอกเสียงกระเซ้าเย้าแหย่ลงไป ซึ่งปลายสายถึงกับหัวเราะตอบกลับออกมาเบาๆ

"หึ...หึ คุณพ่อไม่หักเงินเดือนฉันหรอก เพราะเขาไม่ได้อยู่ที่นี่"

"เอ๊ะ?!"

"ฉันพูดเล่นนะ คุณพ่อออกไปดูงานกับคุณอาเดี๋ยวเดียวก็กลับ" คำพูดของอีกฝ่ายทำเอาผมถึงกับถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย เพราะอีกฝ่ายชอบล้อผมเล่นเสมอ "เดี๋ยวฉันต้องวางสายแล้ว รักษาตัวด้วย รักนะครับ"

แล้วเจ้าตัวก็วางสายไปอย่างรวดเร็วโดยที่ผมยังไม่ทันได้พูดตอบโต้กลับไป

ให้ตายสิ นึกอยากจะวางสายก็วาง...

แต่ก็บ่นอะไรมากไม่ได้ เพราะนานครั้งที่อีกฝ่ายจะเป็นเช่นนี้ ซึ่งผมก็เข้าใจดี อาชีพหมอก็เช่นกัน หลังจากเดินซื้อของอยู่ซักชั่วโมงก็ขนของขึ้นรถตีกลับไปยังบ้านพักบังกะโลที่อยู่ห่างจากห้างสรรพสินค้าไปสิบกิโลเมตร ครั้นพอมาถึงแล้วผมก็ลงจากรถตะโกนเรียกพวกบอดี้การ์ดให้ออกมาช่วยยกของ หากแต่สภาพที่พักที่อาศัยมันเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ

เกิดอะไรขึ้น?!!

ยังไม่ทันได้คว้าปืนที่เก็บไว้ในเกะลิ้นชักในรถยนต์ของตัวเอง เสียงปืนก็ดังขึ้นสองสามนัดท่ามกลางริมชายหาดทะเล ซึ่งเป็นความโชคร้ายของพวกผมที่ดันมาเที่ยวในสถานที่ๆไม่ค่อยมีใครเข้าพัก จึงเป็นเหตุให้ไม่มีนักท่องเที่ยวหรือผู้คนมาแตกตื่นเพราะเสียงปืนเมื่อครู่นี้

"ม่ายยยยยยยยย!!"

"น้องจีน!!!"

แม้ผมจะเป็นแค่หมอ ไม่ได้จับปืนเหมือนพวกคนในตระกูลสิงห์ก็ตาม แต่ทุกวันนี้ครอบครัวผมอยู่ได้เพราะคุณวีร์เคยช่วยเอาไว้ ดังนั้นผมจึงไม่คิดจะหลีกหนีเอาตัวรอดเป็นอันขาด พอวิ่งเข้าไปยังข้างในพร้อมกับปืนกระบอกหนึ่งแล้ว กลับพบว่าข้าวของภายในตกพื้นแตกกระจัดกระจาย แถมยังมีรอยคราบเลือดกับกระสุนตกอยู่กับพื้นเกลื่อนกราดเต็มไปหมด

นี่หรือ...สมรภูมิรบของพวกมาเฟีย

นรกชัดๆ!


แต่ผมไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้ จึงรีบวิ่งไปยังจุดต้นเสียงที่น้องจีนตะโกนออกมา ครั้นพอเข้าประตูห้องรับแขกเมื่อนั้น ผมถึงกับชะงักกับภาพที่เห็น เพราะภาพเหล่านั้นเป็นภาพของน้องวีร์และคุณพยัคฆ์ที่น่าจะนอนอยู่ห้องไอซียูกำลังยืนถือปืนสั้นจ่อหลังหัวชายลึกลับด้วยกันทั้งคู่ ในขณะที่ชายคนนั้นถือปืนค้างในมือซึ่งมีควันลอยครุกกรุ่น และที่น่าตกใจเสียยิ่งกว่านั้นก็คือ...

น้องจีนกำลังนั่งร้องไห้อาบแก้มกอดร่างของสิงห์ที่มีคราบเลือดไหลอยู่เต็มท้อง!

..............................

 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ตอนที่ 12 (สิงห์ & จีน)

.................................

ปัง!

เสียงปืนดังลั่นพร้อมกับเลือดที่พุ่งออกมาจากหน้าท้องของหลานชาย ก่อนที่ร่างสูงจะล้มลงต่อหน้าคนรักของตัวเอง ซึ่งเป็นใครไม่ได้นอกเสียจากจีน ร่างบางเห็นถึงกับกรีดร้องออกมาก่อนจะถลาร่างเข้าไปกอดคนรักทั้งน้ำตา ส่วนผมกับไฟที่แอบซุ่มอยู่ใต้ดินมานานหลายวันแล้วก็ได้ออกมาช่วยเหลือ แต่ก็ไม่ทันการ เพราะไม่คิดว่าแผนการที่ตัวเองวางเอาไว้จะผิดพลาดทั้งหมด

"วางปืนลงซะถ้าไม่อยากให้สมองของแกระเบิดออกมา" ผมพูดเสียงเย็นในขณะที่มือถือปืนจ่อหัวอีกฝ่ายที่มีใบหน้าละม้ายคล้ายกับคนที่ผมรู้จัก ในขณะที่ไฟเองก็ยืนถือปืนจ่อหัวมันอยู่ข้างกายผมด้วยเช่นกัน  "ฉันบอกว่าให้วางปืนลงยังไงล่ะไอ้หนุ่ม"

"ตั้งแต่เกิดมาไม่มีเด็กคนไหนเรียกฉันว่าไอ้หนุ่มเลยซักคน มีแต่เธอคนแรกนี่แหละที่กล้าพูดออกมา ไม่เสียแรงที่ได้ฉายาอดีตมือซ้ายของประธานตระกูลสิงห์รุ่นที่สาม ไม่สิ ตอนนี้น่าจะเปลี่ยนเป็นคนรักของท่านประธานตระกูลพยัคฆ์รุ่นที่สี่ ที่ฉันพูดมานั่นถูกใช่ไหม" อีกฝ่ายพูดสวนย้อนกลับมาโดยที่ไม่หันหน้ากลับและมือของมันก็ยังคงถือปืนอยู่เช่นเดิม

"สืบมาดีนี่" คราวนี้เป็นคนรักของผมที่พูดแทรกขึ้นมา น้ำเสียงแลดูเย็นชาไปจนถึงขั้วหัวใจ "แต่รู้ไปก็เปล่าประโยชน์ เพราะยังไงแกก็ต้องจบชีวิตเหมือนพ่อแกอยู่ดี Sneaker Lucas Junior อดีตทายาทแก๊งงูคนสุดท้ายที่เหลืออยู่"

"ว่ายังไงนะ! นี่แกรู้จักพ่อของฉันได้ยัง..."

ปัง!

เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัดโดยที่อีกฝ่ายพูดยังไม่ทันจบดี ก่อนร่างนั้นจะร่วงหล่นลงพื้นต่อหน้าต่อตาทุกคน นั่นซึ่งทำให้ผมได้เห็นหมอคม ลูกชายของนายแพทย์ฝีมือดีคนหนึ่งที่ผมเคยช่วยชีวิตเอาไว้กำลังยืนหน้าซีดเซียวมองมาที่พวกผมสองคนด้วยความตกตะลึง

"คุณพยัคฆ์...ฆ่า...คน"

"ไม่ใช่" คุณไฟแย้งทันที "แค่ทำให้สลบไปก็เท่านั้นเอง เอาล่ะ อย่ามัวพูดมากอยู่เลย เธอรีบนำตัวสิงห์ไปที่โรงพยาบาลซะ เดี๋ยวนี้ทางนี้พวกฉันจัดการกันเองได้"

หมอคมสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ รีบตกปากรับคำก่อนจะรีบอุ้มร่างสิงห์ไปพร้อมกับจีนอย่างทุลักทุเล เมื่อสามร่างหายไปแล้ว ผมกับไฟหันมามองหน้ากันอีกครั้งก่อนจะหันไปมองร่างที่นอนสลบอยู่กับพื้น ซึ่งแน่นอนว่าข้างกายของลูคัสจูเนียร์นั้นได้มีแหวนประจำตระกูลของจีนตกหล่นอยู่ที่พื้นด้วย

"วีร์ไม่นึกเลยว่าเขาจะกลับมาล้างแค้นเพื่อพ่อตัวเอง" ผมพูดเกริ่นขึ้นออกมาท่ามกลางความเงียบงัน ก่อนจะก้มลงหยิบแหวนของจีนขึ้นมาเก็บใส่กระเป๋า "ล้างแค้นกันไปล้างแค้นกันมาแบบนี้คงไม่มีที่สิ้นสุด"

"เรื่องนี้ไฟให้วีร์เป็นคนตัดสินใจเองครับว่าจะเอายังไง" ไฟหันมาพูดกับผมด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ซึ่งผมเดาออกได้อยู่แล้วว่าไฟจะต้องพูดประโยคนี้ออกมา

นั่นสิในเมื่อเรียนผูกต้องเรียนแก้เอง...

คิดได้ดังนั้นผมก็ก้มลงนั่งยองข้างกายลูคัสจูเนียร์ ก่อนจะกางมือขวาจ่อท้ายทอยของอีกฝ่ายทันที

"ขอโทษนะไอ้หนุ่ม ชีวิตของเธอมันพลาดเพราะฉันเอง จงลืมเรื่องทั้งหมดเสีย แล้วกลับไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเธอซะ ลาก่อนลูคัสจูเนียร์"

ผมพูดจบก็กดฝ่ามือของตัวเองลงไปท้ายทอยของลูคัสจูเนียร์อย่างแรง

ท่าดรรชนีเป็นตาย!

.............................

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
มีปมเรื่อยๆๆ รอๆๆๆๆ

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
"หมอคมพาเข้าห้องไอซียูไปแล้ว..." ไฟพูดต่อจากผม พร้อมกับเหลือบสายตามองลีโอที่ยืนทำหน้าเคร่งเครียด "...จงเชื่อในฝีมือคนรักของตัวเอง"

"ผมทราบ แต่สิงห์ก็คือส่วนหนึ่งของผม เรารู้ถึงกันด้วยจิตวิญญาณความสัมพันธ์ของฝาแฝด"

............................

สปอยล์ To be con....

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
สองเท้าเดินวุ่นไปมาอยู่หน้าห้องไอซียู ซึ่งผิดกับสองร่างที่นั่งมองคนเดินไปมาอยู่บนเก้าอี้อย่างใจเย็น แม้ทีท่าจะสบายแต่จิตใจของพวกเขากำลังเคร่งเครียดเช่นเดียวกัน

"คุณพ่อ!" เสียงคุ้นหูดังขึ้น ทำเอาผมได้ยินเสียงนั้นก็หันไปมอง ก่อนจะแลเห็นลูกชายของตน ลีโอ กระต่าย เฟยจิ้ง ราตรี เหยี่ยว และไอ้กล้าค่อยๆเดินตามกันมาทีหลัง "คุณ..."

"ที่นี่ห้องไอซียู อย่าส่งเสียงดัง" ผมพูดพลางส่งสายตาตำหนิไปยังลูกชาย ซึ่งอีกฝ่ายยอมสงบแต่โดยดี

"หมอคมพาเข้าห้องไอซียูไปแล้ว..." ไฟพูดต่อจากผม พร้อมกับเหลือบสายตามองลีโอที่ยืนทำหน้าเคร่งเครียด "...จงเชื่อในฝีมือคนรักของตัวเอง"

"ผมทราบครับ แต่สิงห์ก็คือส่วนหนึ่งของผม เรารู้ถึงกันด้วยจิตวิญญาณความสัมพันธ์ของฝาแฝด"

"หมายความว่ายังไงครับพี่..." จีนที่เดินไปมาในสภาพเปื้อนเลือดได้หยุดเดิน แล้วหันมาถามลีโอด้วยสีหน้าเคร่งเครียดปนสงสัย "...ลีโอ จีนเป็นห่วงพี่สิงห์"

ลีโอไม่ได้ตอบคำถามน้องชายเดี๋ยวนั้น กลับยกมือขวาขึ้นแตะบ่าร่างบอบบางเบาๆ

"พี่กับสิงห์แม้จะอยู่คนละร่างแต่ดวงจิตเชื่อมโยงหากันได้ ดังนั้นพี่รู้ดีว่าสิงห์กำลังต่อสู้กับความตาย เขาจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆและต้องกลับมาหาพวกเราแน่ เชื่อพี่สิ"

"จะให้จีนเชื่อเรื่องจิตวิญญาณความสัมพันธ์ของฝาแฝดได้ยังไง ก็มันออกจะ..." จีนพูดพลางทำหน้าไม่เชื่อกับเรื่องที่ยิน "...เพ้อเจ้อ นี่เป็นโลกแห่งความเป็นจริง ไม่ใช่นิยายที่มาพูดล้อเล่นได้หรอกนะฮะพี่ลีโอ"

"จะล้อเล่นหรือไม่ล้อเล่น หลักฐานก็โผล่ตำตาให้เธอเห็นอยู่ตรงหน้านี้ถึงสองชีวิต"

"วีร์ครับ" ไฟเข้ามาห้ามผม แต่ผมก็ได้แต่ปัดมือออกเบาๆให้อีกฝ่ายรู้ว่าผมจัดการเองได้

"จีน" ผมเรียกชื่อเด็กน้อยพร้อมกับลุกขึ้นเดินเข้าไปหา "จนป่านนี้เธอยังไม่เชื่อเรื่องพวกนี้อีกหรือ ทั้งที่ฉันกับไฟก็แสดงหลักฐานทุกอย่างให้เธอรู้จนหมดไส้หมดพุงแล้ว"

"เอ่อ มันก็ใช่ แต่..." จีนทำหน้าลังเล

"เธอคิดหรือว่าที่ฉันยิงปืนกับต่อสู้เป็นได้เพราะความเป็นอัจฉริยะโดยไม่ต้องให้มีใครสอนงั้นรึ"

"ปะ...เปล่า จีนไม่ได้คิด"

"เธอคิดหรือว่าไฟที่อายุยังน้อยแต่สามารถขึ้นเป็นหัวหน้ากลุ่มพยัคฆ์ได้นั้นเป็นเพราะโชคช่วย?"

"เอ่อ..."

"ทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่ได้เป็นมาตั้งแต่เกิดหรือเป็นสิ่งที่พระเจ้ามอบให้ แต่เป็นเพราะประสบการณ์ชีวิตที่ฉันกับไฟเคยผ่านมาแล้วตั้งหาก ส่วนเรื่องของลีโอกับสิงห์ ฉันคิดว่าน่าจะเป็นเพราะทั้งคู่เป็นฝาแฝดที่เกิดจากไข่ใบเดียวกัน ก็เลยมีพลังงานบางอย่างที่สามารถเชื่อมโยงถึงหากันได้ จะเหลือก็แต่เธอเท่านั้นจีน..." ผมชี้นิ้วไปยังจีนที่ยังคงยืนมองผมอยู่ "...ว่าเลือกที่จะเชื่อเรื่องนี้หรือเปล่า แต่ถ้าเธอเลือกที่จะไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ ก็เท่ากับว่าเธอไม่ไว้เนื้อเชื่อใจครอบครัวของตัวเอง"

ผมพูดจบก็ทิ้งตัวนั่งลงต่อ ปล่อยให้จีนยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น...

............................................

ถ้าเธอเลือกที่จะไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ ก็เท่ากับว่าเธอไม่ไว้เนื้อเชื่อใจครอบครัวของตัวเอง...

คำพูดของปู่วีร์ทำให้ผมลืมทุกอย่างแม้กระทั่งเวลาผ่าตัดจบลง เสียงประตูเปิดออกอ้า ทุกคนกรูเข้าไปหาพี่คมที่เพิ่งจะเดินออกมาจากห้องผ่าตัด เสียงของพี่คมไม่เข้าหูผมเลยแม้แต่น้อย รู้แต่เพียงว่าสีหน้าของพี่คมดูแย่กว่าที่คิด ซึ่งผมไม่กล้าที่จะเข้าไปถาม เพราะกลัวจะได้คำตอบที่ไม่ดีนัก ทว่าผมยังไม่ทันได้ก้าวเท้าไปจากจุดที่ยืนตัวเองอยู่ ก็ได้มีมือหนาเข้ามาจับต้นแขนผมเอาไว้ก่อน

"จะไปไหนหรือครับคุณจีน"

"ไอ้กล้า" ผมมุ่นคิ้วพูดชื่อคนจับต้นแขนผมอย่างไม่พอใจ "ฉันจะไปไหนก็เรื่องของฉัน"

"คิดจะหนีหรือยังไงครับ" อีกฝ่ายฉีกยิ้มกว้างอย่างเจ้าเล่ห์ ซึ่งทำเอาผมไม่พอใจอย่างยิ่ง

"เอ๊ะไอ้นี่ มันใช่ธุระของแกรึ"

"ธุระของผมไม่ใช่แน่นอนครับ แต่ถ้าเป็นธุระของเจ้านายผมอย่างคุณสิงห์ผมคงต้องขอเกี่ยวด้วย" กล้าพูดเสียงเคร่งเครียด ผิดจากที่เคยเห็นทุกที "คุณจีนจำได้ไหมครับว่าคุณสิงห์เคยใช้ให้ผมคอยตามดูแลคุณตลอดเวลาตอนที่คุณท่านไปประชุมงานที่ต่างประเทศ"

"จำได้สิ ว่าแต่แกจะถามทำไม"

"ผมก็แค่ถามให้แน่ใจ ถ้าคุณจำได้ก็ดี เพราะคำสั่งนั้นมันยังอยู่จนถึงตอนนี้"

"เอ๊ะ?"

"ก็ตอนที่คุณมาเที่ยวทะเลกับคุณสิงห์กับคุณหมออาคมนั้น ผมก็ได้แอบตามมาดูแลคุณอยู่ห่างๆ จนเห็นแทบทุกช็อตบนเตียงระหว่างคุณสองคนด้วยยังไงล่ะครับ" ผมถึงกับอ้าปากค้างมองคนพูดด้วยความตกใจ "ถ้าจะโทษก็ต้องโทษคุณสิงห์ที่อยากจะใช้ให้ผมคอยติดตามปกป้องคุณเอง แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นที่ผมจะพูดถึง คุณสิงห์รักคุณมากนะครับคุณจีน แต่เพียงแสดงออกมาไม่ถูกจุดเท่านั้นเอง"

"พี่สิงห์เนี่ยนะรักฉัน!"

"ใช่ครับ คุณสิงห์รักคุณ" อีกฝ่ายตอบย้ำ "เพราะงั้นผมถึงต้องออกมาบอกให้คุณทราบ แต่ถ้าคุณรู้เรื่องนี้แล้วยังคิดจะหนีอีก ผมคงต้องปล่อยคุณไป น่าเสียดายนะครับที่อุตส่าห์เป็นคนในตระกูลสิงห์แล้วแท้ๆ แต่กลับขี้-ขลาด-ตา-ขาว จริงไหมล่ะครับ"

"ไอ้กล้า!!" ผมถึงกับฉุนขาด ดึงคอเสื้อมันขึ้นด้วยความโมโห ส่วนมันก็ยังคงทำหน้าแสยะยิ้มอย่างไม่กลัวตาย

"เรียกทำไมล่ะครับคุณจีน กลัวลืมชื่อผมรึยังไง"

"มึง" ผมกัดฟันเสียงดังกรอด "จำเอาไว้ ถ้าพี่สิงห์ฟื้นขึ้นมาล่ะก็ ฉันจะฟ้องพี่สิงห์เลยคอยดู!"

"เชิญเลยครับเชิญ ผมไม่กลัวหรอก" ผมมองหน้ามันด้วยความหงุดหงิดใจ ก่อนจะวิ่งหันกลับไปห้องไอซียูโดยไม่รับรู้สีหน้าของไอ้กล้าที่ยืนมองส่งด้วยรอยยิ้มพึงพอใจกับการกระทำของตัวเอง

.............................

 o13 o13 o13 o13 o13 o13

ออฟไลน์ แมว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ตอนที่ 13 สิงห์&จีน(อัพ 20%)

...............

ปัง!

เสียงปืนดังสนั่นก้องหู เลือดสาดกระจายแลดูน่ากลัว พร้อมกับแผ่นหลังอันอบอุ่นที่ทรุดลงไปต่อหน้าต่อตา ทำให้จิตใจดวงอันน้อยนิดถึงกับแตกสลาย

ไม่นะ พี่สิงห์!!!!

ผมสะดุ้งตกใจลุกขึ้นนั่งหอบหายใจตัวโยน ก่อนจะตั้งสติมองซ้ายแลขวาเห็นพี่สิงห์ในชุดสีเขียวของโรงพยาบาลกำลังนอนหลับอยู่บนเตียงคนป่วย มีเพียงเข็มน้ำเกลือกับการเคลื่อนไหวของหน้าอกที่ขึ้นลงให้รู้ว่าเจ้าตัวยังมีชีวิตอยู่

ใช่ หลับอยู่ แต่ไม่ฟื้นมาเกือบหนึ่งเดือนเต็ม...

พี่คมบอกว่าบาดแผลที่ถูกยิงเข้าที่ท้องไม่สาหัสเท่าไหร่ แต่ที่หนักกว่าก็คือบาดแผลภายในที่เจ้าตัวล้มหัวฟาดพื้น ส่วนคนร้ายที่ยิงพี่สิงห์นั้นเห็นไอ้กล้ายอกว่าเป็นลูกชายของอดีตหัวหน้ากลุ่มงูมาก่อน แต่เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ที่ผมต้องสนใจในตอนนี้คือพี่สิงห์ เพราะเมื่อวานนี้คุณพ่อเพิ่งจัดงานพิธีอำลาวงการของตัวเอง และมอบตำแหน่งประธานกลุ่มให้กับพี่ลีโอไปหมาดๆ ถ้าถามถึงความคิดเห็นผม ผคิดว่าตำแหน่งนี้พี่ลีโอสมควรได้มากที่สุดแล้วครับ ส่วนพี่สิงห์นั้นผมคิดว่าเขายังไม่ดีพอสำหรับตำแหน่งนั้น

ก็อก ก็อก

"จีน คุณปู่วีร์ให้มาตามออกไปกินข้าว"

"พี่กระต่ายบอกเขาไปทีว่าจีนไม่หิว"

"ไม่หิวก็ต้องกิน" เสียงทุ้มอีกหนึ่งพูดแทรก แม้ฟังแลดูเย็นชาแต่ถ้าตั้งใจฟังจริงๆจะรู้ได้ทันทีว่าคนพูดนั้นเป็นห่วงมากแค่ไหน "เมื่อคิดเข้าวงการนี้แล้วก็อย่าได้ริทำตัวอ่อนแอ จะออกมาดีๆหรือจะให้ฉันเข้าไปลกออกมา เลือกเอา"

ปู่วีร์พูดไม่ผิด ผมได้ขอคุณพ่อเข้าวงการมาเฟียไปเมื่อวานนี้แล้ว ส่วนเหตผลก็คือ...

เพื่อมิให้ใครต้องมาปกป้องตัวเองจนเจ็บหนักอย่างพี่สิงห์อีก จึงต้องทำตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นให้สมกับเป็นคนของสิงห์!

.........

ปล.ขอโทษที่ให้คอยนานค่ะ พอดีเพิ่งว่างจากการดูแลคุณแม่ที่ป่วยหนัก เลยเพิ่งจะมาอัพเอาตอนนี้ และจากนี้ไปจะทยอยอัพนิยายไปเรื่ิอยๆค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2017 20:28:36 โดย dragon123 »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด