หัวหน้าแก๊งค์
ตอน เหตุเกิดจากความเข้าใจผิด
ตั้งแต่เด็กจนโตพายเคยเจอสถานการณ์ชวนอึดอัดมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ทั้งสถานการณ์ที่ตนเองเป็นผู้ก่อ และการเป็นตัวกลางให้คนที่ก่อเหตุต้องเข้ามาขอความช่วยเหลือ แต่ไม่เคยเลยที่จะต้องมาอยู่ในเหตุการณ์หน้าอึกอัดแล้วมีสถานะที่ว่าทั้งสองอย่างพร้อมกันจนกระทั่งวันนี้
ตาเรียวรีช้อนมองร่างสูงใหญ่ที่ยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้าก่อนจะรีบผลุบสายตาลงต่ำเมื่อเห็นสายตาคมปลาบมองกลับมา ก้มมองพื้นชั่วอึดใจแล้วเหลือบมองคนด้านข้างที่ตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเหมือนกัน รูทคงจะรู้สึกถึงสายตาของเขาได้จึงลอบมองตอบกลับมาแล้วยิ้มแห้งใส่ทั้งที่สีหน้าก็ไม่ได้ดีไปมากกว่ากันนัก
“ยังจะมีอารมณ์ยิ้ม”
เสียงเข้มของพัฟทำให้ทั้งพายและรูทสะดุ้งเฮือก รีบก้มหน้ามองพื้นเช่นเคย รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นรุ่นน้องที่กำลังโดนรุ่นพี่ว้ากใส่ยังไงก็ไม่รู้ แต่ถ้าพูดไปคงจะโดนมะเหงกของพี่ชายตัวเองเขกลงมา แถมอาจจะโดนคนรักดีดหน้าผากชนิดไม่ออกแรงให้เป็นแน่ คิดได้แบบนั้นพายก็เลือกนั่งเงียบ ไม่กล้าเสี่ยงพูดในสิ่งที่ตนคิดออกไป
ส่วนสาเหตุที่พวกเขาสองคนต้องมานั่งทำตัวเหมือนเด็กเฟรชชี่แบบนี้คงต้องย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน...
วันนี้เป็นวันว่างอีกวันของเหล่านักศึกษาที่อาจารย์แจ้งยกเลิกคลาสเนื่องจากติดภารกิจดูงานต่างประเทศ พายจึงได้โอกาสตื่นสายกว่าทุกวันเล็กน้อย หลังจัดการตัวเองเสร็จเมื่อลงมาข้างล่างเขาก็พบรูทที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่ห้องนั่งเล่นแล้ว ถามหาพี่ชายตนเองและแฟนหนุ่มที่คาดว่าคงตามมาด้วยอย่างไม่ต้องสงสัยจึงได้รู้ว่าทั้งคู่อาสาออกไปซื้ออาหารสดที่ตลาด เห็นว่าจะทำอาหารง่ายๆ กินกันหรืออย่างไรนี่แหละ พายพยักหน้ารับรู้และทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาไม่ไกลจากพี่ชายคนโปรดเท่าใดนัก
ระหว่างนั่งดูโทรทัศน์เขาก็พูดสัพเพเหระไปเรื่อย แต่เหมือนรูทจะแปลกไป ไม่คุยเล่นเหมือนยามปกติ แถมยังเหม่อๆ ยังไงชอบกลจนพายต้องเอ่ยถามหาสาเหตุ
“พี่รูทไม่สบายหรือเปล่าครับ? วันนี้ดูไม่ค่อยร่าเริงเลย”
“หะ... อ๋อ เปล่าหรอก ไม่มีอะไรครับ พี่แค่คิดอะไรไปเรื่อย”
พอโดนเขาทักร่างสูงไล่เลี่ยกับเขาก็หลุดจากภวังค์ เจ้าตัวหันมาทำหน้าเลิกลั่กใส่ พี่รูทแปลกไปจริงๆ ด้วย
“ถ้ามีอะไรที่พายช่วยได้บอกได้เลยนะครับ เอ๊ะ... หรือว่าทะเลาะกับพี่พัฟ พี่บ้านั่นแกล้งอะไรพี่รูทหรือเปล่า? ให้พายไปจัดการได้นะครับ”
เขารู้เรื่องของทั้งสองคนแทบทุกเรื่อง เรียกว่ารู้ตั้งแต่ช่วงที่ยังไม่คบกันจนตอนนี้คบกันได้เกือบสองเดือนแล้ว พายชอบพี่รูท คนรักคนแรกและคนเดียวของพี่ชายตน เพราะอีกฝ่ายทั้งน่ารัก คุยสนุก ให้ความเอ็นดูเขาและยังดูแลพี่พัฟให้อยู่เสมอ แม้ช่วงแรกๆ ที่เจอจะยังรับมือกับความร่าเริงเกินพอดีไม่ถูก แต่พอสนิทกันแล้วอะไรๆ ก็ดูจะง่ายไปหมดสำหรับทั้งคู่ เรียกได้ว่าคุยกันเกือบทุกเรื่องก็ได้ ดังนั้นเมื่อเห็นแฟนพี่ชายทำท่าเหมือนมีเรื่องในใจตนจึงอยากจะช่วยรับฟังเผื่อจะช่วยอะไรได้ ยิ่งถ้าสาเหตุมาจากพี่ชายตัวดีเขายิ่งจะรีบจัดการให้เลยทันทีด้วยอยากให้ทั้งสองคนได้คบกันนานๆ
คนที่จะเข้าใจพี่พัฟได้ดีพอๆ กับแม่และพายก็มีแค่พี่รูทคนเดียวเท่านั้นแหละ แต่ก่อนอาจจะนับพี่กิวด้วย แต่ตอนนี้พี่กิวสนใจแต่พายคนเดียวเลยน่าจะเข้าใจพายได้ดีมากกว่าเข้าใจที่พี่พัฟแล้ว
“ฮะๆๆ เปล่าหรอกครับ พัฟไม่ได้แกล้งอะไรหรอก เพียงแต่... พี่คงกังวลมากไปน่ะ” รูทหัวเราะ แต่สีหน้าก็ไม่ได้คลายความกังวลใจลงเลย “แต่... ถ้าถามพายได้ก็น่าจะดีนะ.....”
“เรื่องอะไรเหรอครับ? ลองถามมาก่อนก็ได้ ถ้าตอบได้พายตอบแน่นอน”
รูททำหน้าครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่หนึ่ง ดูท่าคงจะกังวลกับเรื่องนี้มากเพราะหนุ่มตี๋ทำหน้าเหมือนตัดสินใจได้แล้วก็ส่ายหน้า ก่อนจะทำหน้าซีดสลับเขียวแล้วเปลี่ยนเป็นแดง เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนพายต้องกระตุ้นอีกครั้ง
“พี่รูทครับ ถามมาเถอะนะ สงสัยอะไรเก็บไว้ไม่ดีหรอกคร...”
“ตอนมีอะไรกับไอ้กิวมันเจ็บมากไหม!?”
เมื่อได้ยินคำถามที่ทั้งตรงและเร็วชนิดรวดเดียวจบพายก็นิ่งไป จนเมื่อสมองประมวลผลได้แก้มทั้งสองข้างก็เริ่มเห่อร้อน คราวนี้กลายเป็นทั้งรูททั้งพายที่นั่งหน้าแดง ก้มหน้ามองพื้นกันทั้งคู่
พายพอจะรู้อยู่หรอกว่าพี่ๆ ในกลุ่มต้องรู้เรื่องนี้กันอยู่แล้ว เพราะวันถัดจากที่... เอ่อ... มีอะไรกับพี่กิวแล้ว พายก็ได้เจอพี่ๆ ในแก๊งค์คนรักแทบทุกคน และยอมรับเลยว่าท่าทางการเดินของเขามันตลกมาก จึงไม่แปลกใจหากใครจะจับสังเกตได้ แถมพี่กิวก็ดูแลซะดี ดีมากเกินไปจนพี่คนอื่นมองเขาด้วยรอยยิ้มหยอกล้อรู้ทันจนเขาอายม้วนต้วนไปหมด โดยเฉพาะไอ้พี่ชายตัวดีที่ตะโกนกลางปล้องว่า “ถ้าน้องกูท้องรับผิดชอบด้วยนะไอ้กิว” และสุดที่รักตัวดีก็ไม่วายไปเล่นกับเขาด้วยการบอกว่าจะรีบพาพ่อแม่มาคุยกับที่บ้านให้เร็วที่สุด เรียกเสียงฮาครืนและค้อนวงโตจากเขาไปเต็มๆ
แต่ถึงแม้จะรับรู้กันโดยทั่วแล้วพอมาโดนถามตรงๆ แบบนี้มันก็... เขินเหมือนกันแหะ
“ถะ... ถ้าไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไรนะ พี่เข้าใจ...”
ผู้เป็นพี่เห็นน้องน้อยอึ้งแบบนั้นก็รู้สึกผิดอยู่ในใจ กลัวว่าตัวเองจะไปสะกิดต่อมอะไรเข้า แต่พายก็เพียงอมยิ้มด้วยท่าทีขัดเขิน
“ไม่ใช่ครับไม่ใช่ อ... เอ่อ... พี่รูทถามแบบนี้... พี่กับพี่พัฟ...”
ยังไม่ได้ทำกันเหรอครับ คือคำถามที่พายอยากจะถามแต่ก็ไม่กล้าหลุดมันออกมา เขานึกว่าพี่ชายจะกินหัวกินหางกินกลางตลอดตัวหนุ่มตี๋ตรงหน้านี่ไปตั้งแต่วันแรกที่คบกันแล้วด้วยซ้ำ เพราะเห็นว่าพัฟรอมานาน ได้โอกาสคงไม่พลาด
“คือ... พี่ก็แค่ถามไว้ก่อนน่ะ ยังไม่ได้คิดจะทำอะไรอย่างนั้นตอนนี้หรอกนะ แบบว่า... เอ่อ... คือมันก็คงเป็นพี่ที่ต้องรับหน้าที่ใช่ไหมล่ะ เลยถามไว้ก่อนก็เท่านั้นแหละ...”
ก็จริงของพี่รูท เพราะถ้าให้พัฟเป็นคนรับหน้าที่อยู่ข้างล่าง... แค่คิพายก็อยากจะร้องไห้แล้ว ยังไงก็ไม่ใช่ มันไม่เหมาะเลยสักนิด คนตัวเล็กพยักหน้าว่าเข้าใจในคำตอบของอีกฝ่ายแล้วยิ้ม
“ถ้าให้ตอบจริงๆ มันก็เจ็บอยู่แหละครับ... แต่มันก็รู้สึกดีด้วย... เหมือนกัน”
“ละ... แล้วมันจะไม่ฉีกใช่ไหม...”
“ไม่นะครับ แต่ก็ต้องทำความสะอาดดีๆ...”
มีคำถามแรกก็ต้องมีคำถามที่สองสามสี่ตามมา แม้จะถามตอบอย่างตะกุกตะกักหรือเขินอายในสิ่งที่ตนพูดออกไปแต่พายก็ยินดีตอบคำถามที่รูทยิงถามมา และไม่นานหลังจากนั้นรูทก็เป็นฝ่ายถอนหายใจด้วยความโล่งอกจากสิ่งที่คั่งค้างอยู่ในหัว คิดไม่ผิดจริงๆ ที่ถามคนมีประสบการณ์ตรง ดีกว่าเสียเวลาหาข้อมูลเองตั้งเยอะ
“ได้ยินแบบนี้พี่ก็ค่อยสบายใจ อ้ะ แต่พี่ไม่ได้อยากมีอะไรกับเจ้ายักษ์นั่นหรอกนะ พายอย่าเข้าใจผิดล่ะ ห้ามบอกไอ้พัฟด้วย สัญญามาก่อน”
รีบช่วงชิงคำสัญญาจากปากน้องชายที่หัวเราะเอิ้กอ้ากเพราะคำพูดของเขา พายพยักหน้าแรงๆ แล้วเกี่ยวนิ้วก้อยของตนเข้ากับนิ้วก้อยของอีกฝ่าย ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“ความจริงแล้ว เพื่อนสนิทพายเขาให้ยืมของมาศึกษาด้วยนะครับ ถ้าพี่รูทสนล่ะก็...”
และเพราะคำชักชวนของพายจึงทำให้ทั้งสองย้ายจากห้องนั่งเล่นมาเป็นห้องนอนห้องเล็กสุดของบ้าน ของที่พายได้รับมาจากเพื่อนเพื่อมาศึกษาเรื่องนี้โดยเฉพาะนั้นเป็นแฟลชไดร์ฟตัวเล็กแบบที่นักศึกษาทั่วไปใช้กัน แม้จะวางกองรวมกับสิ่งของอื่นก็ไม่มีใครนึกสงสัย ขนาดมองผ่านๆ ครั้งแรกรูทยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าอุปกรณ์อันจิ๋วนั้นภายในถูกยัดไว้ด้วยหนังโป๊ระหว่างชายกับชายนับสิบๆ เรื่อง
“ไอ้นี่มัน... เพื่อนคนไหนให้เรายืมมาเนี่ย...”
“แหะๆ ธีร์น่ะครับ เห็นว่าจะศึกษาไว้ใช้ยามจำเป็น แต่พายก็เพิ่งได้เปิดดูเหมือนกัน พี่รูทถามเลยนึกขึ้นมาได้ว่ามี”
พายเสียบแฟลชไดร์ฟที่ตนไม่เคยคิดจะใส่ใจเข้าเครื่อง ก่อนจะเลือกมั่วๆ ขึ้นมาเปิดดูหนึ่งไฟล์ แต่ดูท่าเขาจะเลือกผิดอัน เพราะมันดันเป็นเวอร์ชั่นจับมัดขึงโยง เพียงแค่ดูไปไม่ถึงห้านาทีรูทก็เอื้อมมือมาปิดด้วยสีหน้าปั้นยาก
“พี่ว่าเพื่อนพายคนนี้ชักจะน่ากลัวเกินไปแล้ว ขออะไรที่มันเบากว่านี้หน่อยเถอะ”
พานเห็นด้วยจึงขอให้รูทเป็นคนเลือกแทน และก็ไม่ผิดหวัง เรื่องที่รูทสุ่มมาได้เป็นเรื่องราวความรักของวัยรุ่นสองคน เรื่องเริ่มจากการพูดคุยเรื่องทั่วไปเป็นภาษาญี่ปุ่นที่รูทไม่เข้าใจ และพายก็คืนอาจารย์ที่สั่งสอนเมื่อสมัยม.ปลายไปหมดแล้ว ต่อจากนั้นก็เป็นขั้นเริ่มต้นคือการจับมือ ลูบไล้ และเริ่มเคลื่อนใบหน้าเข้าหากัน
อาจเพราะทั้งคู่กำลังให้ความสนใจกับสิ่งที่ปรากฏอยู่บนจอเบื้องหน้าจึงไม่ได้ยินเสียงรถบิ๊กไบค์และเสียงเลื่อนเปิดประตูก็ได้ กว่าจะรู้ตัวอีกที คู่รักในจอก็เริ่มบรรเลงเพลงรักด้วยการลูบคลำส่วนต่างๆ บนเรือนร่างของกันและกันแล้ว และพอถึงจุดสำคัญของเรื่องก็เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่สองหนุ่มขึ้นมาตามคนรักที่เดินหารอบชั้นล่างเท่าไหร่ก็ไม่เจอ ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาโดยไม่คิดแม้แต่จะเคาะประตูก็เจอกับภาพคนตัวเล็กสองคนกำลังนั่งดูหนังโป๊กัน ต่างฝ่ายต่างมองกันไปมาด้วยความตกใจ มีเสียงประกอบฉากเป็นเสียงครางด้วยความสุขสม
หลังจากนั้นก็เป็นอย่างที่เห็นเมื่อตอนต้น ทั้งรูทและพายโดนเรียกให้ลงมาข้างล่างก่อนจะโดยซักไซ้ว่าทำไมจึงต้องดูอะไรแบบนั้น พอไม่ตอบก็โดนเข้าใจผิดคิดว่าทั้งคู่ตั้งใจจะทำอะไรๆ กันในระหว่างที่สองหนุ่มไม่อยู่แทน และหลังจากนั้นแหละที่ยาก เมื่อเชื่อไปแล้วต่อให้พูดอะไรก็ไม่ยอมรับฟัง ขนาดพี่กิวที่ปกติจะเชื่อใจพายตลอดยังยืนเงียบไม่เอ่ยวาจาใดใดเลยแม้สักคำ เอาแต่มองเขาสลับกับพี่รูทและมองรูทสลับกับพัฟก่อนหันมาสบตาเขาแล้วขมวดคิ้ว สลับกันอยู่อย่างนั้น
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้คิดจะมีอะไรกัน เชื่อใจกันหน่อยดิวะ... จะโกรธอะไรมากมายเนี่ย”
“ต้องให้พวกมึงมีอะไรกันก่อนกูถึงจะโกรธว่างั้นสิ?”
“กูไม่ได้หมายความว่ายังงั้น โหย... มีเหตุผลหน่อยดิวะพัฟ”
เขาไม่เข้าใจว่าพัฟจะโกรธอะไรหนักหนา ถ้าจะว่ากันตรงๆ มันก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือไงที่ผู้ชายจะดูหนังโป๊กัน ถึงมันจะเป็นชายกับชายก็เถอะ แล้วนี่อะไรคิดไปได้ว่าเขาจะมีอะไรกับน้องมัน ประสาทชัดๆ
“พี่กิว... พายไม่ได้คิดจะมีอะไรกับพี่รูทจริงๆ นะครับ”
เมื่อเห็นว่าฝั่งพี่โน้มน้าวไม่ไดผลพายจึงลองดูบ้าง เขามองสบตาคนรักที่ยืนอยู่ตรงหน้า ใช้สายตาออดอ้อนให้อีกคนเลิกทำหน้าเหมือนกำลังดมข้าวแมวที่บูดได้ที่เสียที เขาไม่เคยเจอกิวในสภาพอารมณ์เช่นนี้กับตัวโดนตรงมาก่อน นิ่งเงียบ ไม่พูดอะไรแบบนี้ สู้ให้ว้ากใส่หรือแสดงสีหน้าโมโหตรงๆ แบบพี่พัฟเลยยังดีกว่า
“.....แล้วไปเอาหนังพวกนั้นมาจากไหน?”
“จากเพื่อน... งือ...”
ตอบอ้อมแอ้มไม่ยอมบอกชื่อของเพื่อนที่เป็นคนส่งต่อไฟล์มาเพราะรู้ว่าหลังจากนี้เจ้าเพื่อนรักต้องซวยแน่
พัฟถอนหายใจ เสยผมที่ตอนนี้ถูกเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มขึ้นอย่างหงุดหงิดก่อนจะเดินมาคว้าแขนรูทให้ยืมขึ้นแล้วลากให้คนตัวเล็กเดินตามตนไป พอโดนโวยวายก็หันมาถลึงตาดุๆ มอง เล่นเอารูทยอมหงอเดินตามต้อยๆ ไปอย่างยอมจำนน ทิ้งให้พายกับกิวยืนมองหน้ากันอยู่ที่เดิม แล้วสุดท้ายก็เป็นคนตัวโตที่ทนไม่ได้กับบรยากาศชวนอึดอัดระหว่างคนทั้งสอง จนต้องเอ่ยขึ้นมาก่อน
“เรามีเรื่องต้องคุยกันหน่อยแล้วพาย”
แน่ล่ะว่าเวลานี้พายทำได้เพียงแค่พยักหน้าแล้วทำตามคำพูดของคนรักโดยไม่หือไม่อื้อไม่คิดจะดื้ออะไรทั้งสิ้น
“มึงจะเบาๆ ไม่ได้หรือไงวะพัฟ กูเจ็บแขนไปหมดแล้วนะ”
เมื่อมาถึงห้องพัฟถึงได้ยอมปล่อยแขนให้รูทเป็นอิสระ แม้จะออกแรงไม่มากแต่ผิวขาวๆ ก็ขึ้นปื้นแดงให้เห็นชัดจนรูทต้องบ่นถึงการใช้ความรุนแรงอันไม่เหมาะสม
“กูมันไม่ใช่พายนี่ถึงจะได้ถูกใจมึง”
คำพูดราวกับเด็กน้อยใจพ่อแม่รักลูกไม่เท่ากันทำให้รูทต้องชะงัก ละสายตาจากรอยแดงบนข้อมือมามองใบหน้าบูดบึ้งของคนรักหมาดๆ ด้วยข้องใจในคำพูดเช่นนั้น ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงพูดจาตัดพ้อเอาตัวเองไปเทียบกับน้องชายสุดรักสุดหวงของตนเช่นนั้น
ตาเรียวมองจ้องใบหน้าคมที่ฉายความไม่พอใจให้เห็นชัด พออีกฝ่ายสบตากับเขาก็เบือนหน้าหนีไปอีกทาง แถมยังยกมือขึ้นกอดอกตัวเอง ทำท่าทางอย่างกับเป็นพระเอกในละครหลังข่าวเวลาไม่พอใจอะไร แม้ความจริงควรจะโกรธหรือสับสนกับท่าทีเช่นนั้น แต่รูทกลับยกยิ้ม ถ้าหากเดาไม่ผิดสิ่งที่คนหน้านิ่งไม่ค่อยแสดงออกอย่างพัฟกำลังทำอยู่คืออาการแบบที่ใครๆ เรียกว่าหึงชัดๆ
“ใช่ มึงไม่ใช่พาย”
พอตอบไปแบบนั้นหัวคิ้วที่ขมวดอยู่ก็แทบจะชนกัน พัฟหันมามองเขา ทำสีหน้าชนิดที่ถ้าเอาไปหล่อรูปปั้นคงออกมาเป็นยักษ์เฝ้าวัดได้อีกหนึ่งหน้า รูทจึงต้องเอาใจด้วยการเดินเข้าไปโอบเอวสอบไว้แล้วเกยหน้าบนบ่ากว้างของคนสูงกว่า
“แต่กูถูกใจมึงมากกว่าพาย... เลิกงอนได้แล้วหน่า ไม่ได้น่ารักเลยแล้วก็ก็เมื่อยนะเนี่ย มึงแม่งสูงเกินไปละ”
“ไม่ต้องมาตลก ถ้ากูไม่เปิดเข้าไปก่อนมึงกับตัวเล็กคงทำตามในคลิปไปแล้วมั้ง”
“ทำเหี้ยอะไรล่ะ” ด่าเน้นๆ เข้าไปเสียหนึ่งที “กูดูไว้ศึกษา ไม่ได้ดูเพราะจะทำกับน้องมึง แม่งยังไม่ทันแข็งด้วยซ้ำแล้วจะทำไปได้ไง”
“แต่มึงชอบพาย ถ้ามีโอกาสมึงก็ทำ มึงเคยบอกกู”
ก็จริงที่เขาเคยพูดเอาไว้ หลังจากวันนั้นที่เห็นพายเดินด้วยท่าทางแปลกๆ และกิวก็ประคบประหงมน้องมากกว่าปกติเขาก็พอรู้ว่าเพื่อนจัดการน้องนุชสุดที่รักของเขาเรียบร้อยแล้ว วันนั้นด้วยความอยากแกล้งจึงบอกไปว่าถ้ามีโอกาสแล้วคนๆ นั้นเป็นพายเขาก็อยากจะลองเหมือนกัน ไม่คิดว่าเพราะคำพูดนั้นจะฝังใจอีกฝ่ายมาจนถึงตอนนี้ รูทคิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ
“กูไม่ได้ใจง่ายขนาดนั้นนะพัฟ...”
“แล้วมึงคิดยังไงถึงได้ดูอะไรแบบนั้น เกิดเฮี้ยนอะไรขึ้นมา”
“กูบอกว่าดูไว้ศึกษาไง...”
“ศึกษาทำไม? จะทำกับใคร?”
เจอคำถามนี้เข้าไปรูทก็อ้ำอึ้ง ไม่อยากจะตอบความจริงออกไปสักเท่าไหร่ แต่พอเจอสายตาจากคนหน้าดุที่ยังมองมารบเร้าไม่เลิกก็ต้องกลั้นใจตอบไป รู้ได้เลยทันทีว่าหน้าตัวเองมันต้องแดงแน่ๆ หูก็เริ่มร้อนแล้ว อีกไม่นานคงจะกลายเป็นปลาหัววุ้นตัวแดงเหมือนที่ยายเลี้ยงไว้ในตู้ปลาที่บ้าน
“ก็กับมึงนั่นแหละ โอ้ย! เลิกถามได้ยังวะ เลิกหึงด้วย แม่งเอ้ย”
โวยวายตอบไปเสียงไม่ดังนักพร้อมคำบ่นแต่ก็เพราะอยู่ในห้องนอนกันสองคนและไม่มีเสียงใดๆ รบกวนคำตอบนั้นจึงชัดเต็มสองรูหูของคนขี้หึงที่ตอนนี้เริ่มมีรอยยิ้มประดับใบหน้าแล้ว แต่ดันเป็นรอยยิ้มที่ชวนให้รูทไม่สบายใจเอาเสียเลย รู้สึกเหมือนมันยิ้มพร้อมจะให้เขาเสียตัวยังไงก็ไม่รู้ ยิ่งคำพูดที่มันก้มลงมากระซิบข้างหูยิ่งตอกย้ำให้เขามั่นใจว่าเขาคิดผิดจริงๆ ที่อยากรู้อยากเห็นเอง
“มึงไม่รู้เหรอว่าของแบบนี้มันต้องลองกับตัวเอง ศึกษากันคลิปมันไม่ช่วยให้มึงเรียนรู้ได้หรอก.....”
“จะบอกหรือยังว่าได้ไฟล์มาจากใคร”
นั่งเงียบกันอยู่บนโซฟาได้ไม่นานกิวก็เป็นคนเอ่ยปากพูดก่อน ดูเหมือนว่าจะอยากรู้ให้ได้ว่าเขาได้ไฟล์พวกนี้มาจากใคร และพายก็รู้ว่าคนอย่างพี่กิวไม่มีวันยอมให้เขาเงียบไปเฉยๆ โดยไม่ยอมตอบเด็กขาด พายคิดหาผลดีผลเสียจากการตอบในครั้งนี้รวมทั้งทางหนีทีไล่ต่อเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับเพื่อนรักในอนาคต และในที่สุดก็ยอมเปิดปากตอบไป
“ธีร์ครับ... พายได้มาจากธีร์สักพักนึงแล้ว แต่เพิ่งได้เปิดดูวันนี้...”
ตอบเสร็จพายก็ได้แต่ขอโทษเพื่อนรักอยู่ในใจเมื่อเห็นสายตาคมปลาบฉายแววอะไรบางอย่างอยู่ในนั้น เห็นทีเจอกันอีกรอบธีร์คงจะโดนตักเตือนไม่ก็โดนลงโทษไม่ใช่น้อยข้อหาเอาแฟลชไดร์ฟที่มีหนังลามกมาส่งต่อให้เขาดู
“แต่พายไม่ได้คิดจะดูแล้วทำอะไรกับพี่รูทจริงๆ นะครับ แค่ให้พี่รูทศึกษาเฉยๆ...”
“แล้วถ้ามันอยากศึกษาแล้วปฏิบัติด้วยขึ้นมาเราจะทำยังไง?”
“ไม่มีทาง! พี่รูทไม่ทำแบบนั้นหรอกครับ แล้วถึงขอพายก็ไม่ให้... พายมีป๊าคนเดียวจริงๆ นะ ไม่เชื่อใจพายเหรอ?”
สรรพนามที่เอาไว้ใช้ยามเอาใจถูกยกมาเรียกอีกครั้งเพื่อประสิทธิภาพในการเอาใจที่เพิ่มมากขึ้น ว่าแล้วก็เขยิบไปใกล้ก่อนจะซบหน้าลงกับไหล่กว้างอย่างที่พายชอบทำเวลาออดอ้อนเอาใจ เขาไม่ได้คิดว่าทำวิธีนี้เพื่อให้กิวหายโกรธเพียงอย่างเดียว แต่ทำเพราะอยากส่งผ่านความเชื่อมั่น ว่าตนพูดเพราะตั้งใจแบบนั้นจริงๆ และดูเหมือนวิธีนี้จะได้ผล เขารู้สึกได้ว่าคนตัวโตถอนหายใจ อาจจะยังไม่พอใจอยู่บ้างแต่ก็ไม่มากเท่ากับตอนแรกแล้ว
“เชื่อ แต่เราต้องดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้ ไม่ใช่ไว้ใจเขาไปหมด”
“ก็... ก็พี่รูทเขากังวลเรื่อง... ทำกับพี่พัฟนี่หน่า พายก็อยากช่วย...”
พอพูดแบบนั้นก็โดนอีกฝ่ายเอานิ้วดีดหน้าผากหนึ่งทีแรงๆ จนต้องร้องโอ้ย
“ถ้าคนที่มาถามไม่ใช่รูทแล้วอยู่กันสองคนแบบนี้ไม่คิดหรือไงว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น คราวหลังห้ามทำแบบนี้อีก กับรูทก็ห้าม ลบไอ้ไฟล์พวกนั้นไปด้วย” เมื่อไม่ได้ยินคำตอบก็ถามย้ำอีกครั้ง “เข้าใจหรือเปล่า?”
“ครับป๊า... หายโกรธพายแล้วเนอะ?”
“ก็ไม่ได้โกรธ”
ได้ฟังคำตอบของคนที่ไม่ได้โกรธแล้วก็อมยิ้ม ไม่อยากขุดประเด็นขึ้นมาล้อให้เกิดเรื่องอีกจึงยกประเด็นเรื่องใหม่มาคุยแทน
“แล้วนี่ไปซื้ออะไรกับพี่พัฟมาบ้างครับ เดี๋ยวพายเอาไปทำกับข้าวง่ายๆ ไว้ให้ดีไหม? แล้วเดี๋ยวมาทานด้วยกัน”
ว่าพลางเปิดถุงของสดที่ว่างอยู่บนโต๊ะหมายจะเอาไปทำอาหารมื้อเที่ยงไว้ให้ เผื่อให้คนที่ขึ้นไปเคลียร์กันข้างบนหากเสร็จแล้วจะได้ลงมาทานได้ทันที แต่ยังไม่ทันได้ทำอย่างที่ใจต้องการก็โดนรั้งให้กลับมานั่งบนตักเสียก่อน
“ยังไม่ต้องทำหรอก คู่นั้นคงยังอีกนาน”
ประโยคกำกวมจนพายต้องเลิกคิ้ว แต่เมื่อโดนกระซิบให้เงียบแล้วฟังเสียงดีๆ ก็เข้าใจว่ากิวต้องการจะบอกอะไร เพราะเสียงเบาๆ ที่ลอยมาให้ได้ยินนั้นชัดเจนอยู่แล้วว่าพี่ชายกับคนรักกำลังทำอะไรกันอยู่ แม้จะยินดีที่ลงเอ่ยด้วยดี แต่ก็เขาก็ยังอดไม่ได้ ขัดเขินที่บังเอิญได้ยินเสียงนั้นอยู่ดี
“พี่กิวลามก... ไปฟังอะไรเขาเนี่ย”
“ได้ยินเอง เรานั่นแหละไปฟังอะไรเขา หน้าแดงใหญ่แล้ว”
ก็พอใครล่ะ ส่งสายตาไม่พอใจใส่คนด้านหลังที่เป็นคนเปิดประเด็นแต่กลับกล่าวหาเหมือนเขาเป็นคนลามกไปลอบฟังคนอื่นเสียได้
หยอกกันไปหยอกกันมาจากบึ้งตึงก็เปลี่ยนเป็นหัวเราะ จนกระทั่งเสียงจากชั้นบนมันดังขึ้นนั้นแหละ กิวถึงได้กระซิบเสียงเบา เป็นคำพูดที่ทำให้พายตีแขนแกร่งเบาๆ ข้อหาพูดจาชวนให้เขาเขินแล้วต้องหน้าแดงอีกรอบทั้งที่มันอุตส่าห์ดีขึ้นแล้วแท้ๆ
“เบื่อเสียงพวกมันแล้ว อยากได้ยินเสียงพายมากกว่า มันลงมาเมื่อไหร่เราขึ้นต่อเลยนะ”
เหตุเกิดจากความเข้าใจผิด จบ
-------------------------------------------------------------------
Talk : สวัสดีค่ะ นักอ่านที่ติดตามเรื่องหัวหน้าแก๊งค์มาตลอด ในที่สุดวันนี้ก็ต้องพิมพ์ประโยคนี้แล้วเนอะ
“หัวหน้าแก๊งค์จบบริบูรณ์แล้วค่ะ!”
นิยายเรื่องแรกที่เอามาลงเล้า และเป็นเรื่องแรกที่มีตัวละครออริเป็นของตัวเอง ไม่ใช่แฟนฟิคชั่น ในที่สุดก็ดำเนินมาจนถึงตอนจบค่ะ เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้ลงนิยายและแต่งนิยายอย่างจริงจังเลยทำให้ไทม์ไลน์เหตุการณ์แปลกประหลาดไปหมด เดี๋ยวอันนี้เด้งมาอันนั้น อันนั้นมาอันนี้ แถมคำผิดยังเยอะอีก ต้องขออภัยด้วยนะคะ *โค้ง* น้อมรับคำผิดพลาดค่ะ
สำหรับคนที่เชียร์คู่พี่พัฟกับพี่รูทมาตลอด ในที่สุดเขาก็แฮปปี้เอนด์กันนะคะ ถึงจะไม่บรรยายฉากรักของคู่นี้ก็เถอะ แต่ให้คู่หลักเราฟังเสียงแทนให้แล้วนะ อิอิ ที่ไม่ลงฉากก็อย่างที่แจ้งไปค่ะ ไม่มั่นใจในการแต่งฉากเลยจริงๆ อยากให้ออกมาสวยๆ ก็กลัวจะเรทไป บรรยายไม่ค่อยถูก ตัดตอนอาจจะงงๆ เหมือนตอนก่อน เลยตั้งใจว่าให้ไปจิ้นกันเองดีกว่า (เวลาเจอฉากรักไม่โดนใจเราจะอ่านข้ามแล้วไปจิ้นเองค่ะ จิ้นเก่งเหลือเกิน)
หลังจากนี้จะหายตัวไปรีไรต์เนื้อหาใหม่แล้วจะลองส่งต้นฉบับดู ถ้าโชคดีเราคงได้เจอกันค่ะ (แถมตอนพิเศษอีกสองตอนด้วย เป็นนิยายที่ตอนพิเศษแทบจะเท่ากับหรืออาจจะมากกว่าตอนหลักอีก 5555555555555555) และที่สำคัญต้องขอขอบคุณทุกๆ คนที่ตามอ่าน ตามให้กำลังใจทั้งในเล้าและในเพจด้วย ขอบคุณมากๆ นะคะ
แล้วเจอกันเรื่องหน้า ถ้ามีโอกาสค่ะ
ด้วยรัก♥