♥ หัวหน้าแก๊งค์ - เหตุเกิดจากความเข้าใจผิด จบแล้วค่ะ หน้า 5 (20.04.58)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♥ หัวหน้าแก๊งค์ - เหตุเกิดจากความเข้าใจผิด จบแล้วค่ะ หน้า 5 (20.04.58)  (อ่าน 88312 ครั้ง)

ออฟไลน์ Moose

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ทำไมน้องพายมันน่ารักอย่างนี้ว้า

ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
เราเป็นแฟนคลับพี่กิวนะคะ!!
*ชูสองมือ*

แต่.. แต่..
ตอนนี้ทำไมตัวเล็กกับตัวโตมุ้งมิ้งงงง แงงงงงงงงงงง  :hao5:
อย่ามาทำอินเซนท์แถวนี้ อิแม่ใจบ่ดี ยิ่งชอบอะไรที่มันผิดศีลธรรมอยู่ด้วย 555555
ตอนพี่พัพดึงกางเกงน้องนี่คิดไปแล้วนะ กร้ากกก อย่าทำแบบนี้อีกนะพี่พัพ เก็บไว้
ให้พี่กิวดึงเถอะ 55555555555

เป็นคู่พี่น้องที่น่ารักมากจริงๆ  :hao5:
ว่าแต่ช่วงนี้พี่พัพกับพี่รูทปิ้งกันหรือยังนะ? อ้อ! คู่พี่รูทกับน้องพายก็น่ารักนะคะ!!
กลิ่นยูริช่างหอมหวาน เราเองก็ชอบสิ่งมีชีวิตน่ารักๆ น่ะค่ะ 5555555555555555 *รูทตามมากระทืบ*

ชอบวิธีขอเบอร์พี่กิวจริงจัง  :-[
บ้ามากค่ะ อย่าว่าแต่น้องเขินเลย เรายังเขิน ชูป้ายไฟพี่กิวนะคะ
ขนาดตอนนี้โผล่มาแป๊บเดียวยังทำเราเขินได้เลย แงงง ผู้ชายอะไร >_<

รอตอนหน้าค่าาา

ออฟไลน์ ennewiis

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
♥ หัวหน้าแก๊งค์ (ภาคหลัก)
ตอน เรื่องราวดี ๆ




ในช่วงชีวิตของคน ๆ นึงย่อมต้องได้เจอทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายปะปนกันไป เราไม่สามารถเลือกได้ว่าอยากจะหลีกหนีเรื่องเลวร้ายรับเพียงแต่เรื่องที่ดีที่สร้างรอยยิ้มและกำลังใจ

แต่คงจะดีไม่น้อยเราสามารถเลือกได้ว่าอยากให้ใครมาอยู่เคียงข้างเพื่อจะผ่านเรื่องราวในแต่ละวันไปด้วยกัน





กลางดึกของคืนวันศุกร์สุดสัปดาห์ เส้นทางเลียบทางด่วนสายมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองไม่มีรถวิ่งผ่านมากเช่นปกติจึงเป็นโอกาสดีที่กองทัพรถมอเตอร์ไซค์ซิ่งจะมารวมตัวกันเพื่อท้าประลองความเร็ว บางกลุ่มก็มาเพียงเพื่อร่วมชมการแข่งขัน และมีไม่น้อยที่มารวมตัวกันเพื่อรับส่งสินค้าชั้นดีที่มีปล่อยออกมาไม่มากนักก่อนจะส่งทอดตลาดเพื่อทำการปรับเปลี่ยนโฉมก่อนนำไปขายต่อ ลำโพงตัวใหญ่ที่ถูกติดตั้งไว้กับหลังรถกระบะดังกระหึ่มด้วยเพลงสากลดนตรีสนุกไม่ขาดสาย พื้นที่ไม่ไกลจากนั้นก็เป็นสาวน้อยร่างบางหน้าตาระดับนางแบบนิตยสารวัยรุ่นยืนเต้นเรียกสีสันในการแข่งนัดนี้  แต่สิ่งเหล่านั้นกลับไม่น่าสนใจแม้แต่น้อยสำหรับคนที่นั่งเช็คตัวถังรถอยู่กับกลุ่มเพื่อนเพื่อเตรียมตัวลงแข่งในรอบต่อไปที่จะมาถึงในไม่กี่รอบที่จะถึงนี้

“ไม่น่าจะไหวว่ะกิว เมื่อวานมึงเอานินจาไปสีจนถังน้ำมันรั่วเลย มึงลงตอนนี้โคตรอันตราย”

รูทที่เช็คทั่วบิ๊กไบค์คันใหญ่ของเพื่อนส่ายหน้าไปมา ถ้าไม่นับรอยขีดข่วนจากการชนครั้งก่อนทุกชิ้นส่วนปกติดีทุกอย่างสามารถลงแข่งได้ แต่พอมาเช็คถังน้ำมันถึงได้รู้ว่ามีรูรั่วซึมเล็ก ๆ ที่มองข้ามไป ถ้ามันขับแล้วเกิดล้มหรือชนขึ้นมาด้วยแรงบิดขนาดรถแข่งกับแรงสีอาจจะทำให้ไฟลุกท่วมคันได้

“...เอาอะไรอุดไปก่อน รอบนี้เงินเยอะแบ่งกันคงหยุดขายได้สักพัก”

“กาวซีเมนต์คงพอได้ แต่มันต้องรอเป็นวันถึงแห้ง...”

“ช่างมัน มึงอุดไปเลย”

คนตัวเล็กในชุดนักศึกษาเบ้ปาก มันสั่งซะเหมือนจะอุดแป๊บเดียวได้มันต้องใช้เวลามึงเข้าใจไหมเนี่ย... แต่จะให้โต้ตอบก็คงไม่ฟังด้วยรู้นิสัยเพื่อนดี นายช่างจำเป็นเลยต้องตะโกนสั่งลูกน้องในกลุ่มให้ไปจัดเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นในทันที แต่ยังไม่ทันจะได้เริ่มลงมือร่างสูงของเพื่อนอีกคนก็เดินฝ่าวงล้อมเข้ามาด้วยท่วงท่าสบาย ๆ แบบไม่แคร์ใครแม้ว่าเมื่อครู่เกือบจะเอาขายาว ๆ พาดหัวเด็กในกลุ่มที่นั่งขวางทางอยู่

“คิดว่ามึงหล่อมากเลยดิถึงได้เดินแหวทางมาขนาดนั้น” รูทแขวะไปหนึ่งดอกด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะนึกถึงหน้าน้องชายของอีกฝ่ายที่ตนรู้สึกถูกชะตาด้วยเหลือเกิน “แล้วมากับใครเนี่ย น้องมึงมาป่ะ?”

“เปล่า วันนี้แม่กลับบ้านมันเลยระริกระรี้จะให้แม่สอนทำเค้ก..... ทำให้กูแดกไม่ต้องมองแบบนั้นเลย” รีบพูดขัดเมื่อเห็นดวงตาทอประกายอย่างมีความหวัง เห็นว่าช่วงนี้รูทโทรศัพท์คุยกับน้องบ่อยคงจะรู้แล้วว่างานอดิเรกของน้องชายคือการทำขนมหวาน ที่ทำหน้าแบบนั้นก็คงคาดหวังว่าตัวจะได้กินด้วย

“ขี้หวงว่ะ...” รูทเบ้ปาก เขยิบตัวหนีห่างจากพัพที่ทรุดตัวลงนั่งเคียงข้างด้วยความน้อยใจแบบไม่สมอายุ ฝ่ายพัพที่เห็นว่าเพื่อนเขยิบหนีก็เขยิบตามเหมือนจะแกล้ง จนเจอสายตาเขียวปั้ดที่เหมือนจะขู่ให้รู้ว่าถ้าเข้ามาใกล้อีกนิดไขควงในมือจะเหวี่ยงไปฟาดหัวโต ๆ นั่นแน่

กิวซึ่งกำลังยืนจุดบุหรี่เหล่มองเพื่อนทั้งสองคนที่นั่งแง่งอนกันเหมือนคู่แต่งงานใหม่แล้วส่ายหน้า รูทกับพัพทะเลาะกันด้วยเรื่องไร้สาระเสมอ จะเรียกทะเลาะก็ไม่ถูก เหมือนเจ้าตัวไปแหย่เขาแล้วพอโดนแหย่กลับก็ไม่พอใจเสียเอง นิสัยเหมือนเด็กประถมเกเรที่ชอบแกล้งคนอื่นไปทั่วแต่พอโดนแกล้งก็วิ่งไปฟ้องพ่อแม่ประมาณนั้น กิวส่ายหน้ากับการกระทำของเพื่อนทั้งสองคน อย่างไรเสียคู่นี้ดูแล้วเพลินตามากกว่าจะชวนหงุดหงิด จะว่าไปแล้วตอนที่รู้ว่าน้องชายของเพื่อนจะทำขนมตนก็คิดไม่ต่างกับรูทเท่าไหร่ คล้ายกับว่าหวังให้ตนได้กินขนมชิ้นที่น้องทำชิ้นนั้นล่ะมั้ง? ใครก็อยากจะชิมฝีมือของคนที่ตัวเองชอบทั้งนั้นแหละ

ใช่... กิวกำลังชอบน้อง น้องชายของเพื่อน น้องที่ชื่อพายที่บังเอิญเข้ามาช่วยเขาเอาไว้ในตอนที่เขากำลังตกที่นั่งลำบากอยู่พอดี

เขาเจอกับน้องครั้งแรกเมื่อประมาณเดือนที่แล้ว เช้าวันนั้นกิวอารมณ์เสียจากเรื่องเดิม ๆ ที่ต้องเจอเป็นประจำทุกเช้า ความห่างเหินในครอบครัว คำพูดที่เหมือนจะให้กำลังใจแต่ที่จริงแล้วเป็นการกดดันด้วยความหวังเพียงฝ่ายเดียว ทุกสิ่งรวมตัวกันจนทำให้เขาหงุดหงิดเสียจนเบี่ยงทิศทาง จากที่ตั้งใจจะไปโรงเรียนเพื่อพบเจอคนในกลุ่มเขากลับเลี้ยวรถไปตามซอกซอยที่รู้ว่าเป็นแหล่งขายสินค้าชั้นดี โก่งราคาให้มากเข้าไว้แม้ใจจะไม่ได้ใส่ใจด้วยซ้ำว่าจะขายมันได้ในราคาเท่าไหร่ แต่คงเพราะเขาใช้อารมณ์มากไปหน่อยจึงเกิดศึกปะทะกันในตรอก ความจริงจะสู้พวกขี้ยาแค่ 2-3 คนมันไม่ใช่เรื่องยาก หากความรู้สึกอยากสู้มันไม่มี เลยยอมเป็นผู้ถูกกระทำเอาง่าย ๆ นอนรับความเจ็บปวดที่โดนยัดเยียดให้แบบไม่ใส่ใจร่างกายตนเอง

แต่แล้วเสียงโวยวายรอบตัวก็เงียบไป เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกระทั่งรู้สึกถึงความนิ่มของสิ่งที่เขานอนทับอยู่และเสียงงึมงำเบา ๆ ว่าเขาตายแล้วหรือยัง ตอนนั้นแหละที่กิวลืมตามองแล้วจึงได้สบเข้ากับดวงตาคู่โตที่มองตอบกลับมา ตกใจเล็กน้อยจนเมื่อคน ๆ นั้นบอกว่าจะตามรถพยาบาลให้ตอนนั้นถึงได้รู้ตัว รีบบอกให้ผู้มีพระคุณโทรเรียกเพื่อนตัวเองแทน ระหว่างนั้นเขาก็เฝ้ามองใบหน้าที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามอารมณ์ของอีกฝ่าย คนตรงหน้าเป็นเด็กผู้ชาย หน้าตาเหมาะจะเรียกว่าน่ารักมากกว่าหล่อสมวัย ดูจากชุดแล้วคงจะเป็นเด็กนักเรียนที่เรียนอยู่บริเวณใกล้กับซอยนี้ และชั้นเรียนน่าจะเด็กกว่าเขาปีสองปี คำพูดคำจาฉะฉานไม่กลัวใคร คงจะใจนักเลงไม่น้อย แค่กล้ามาช่วยเขาที่โดนรุมอยู่ก็ถือเป็นข้อพิสูจน์ได้แล้ว

กิวไม่ละสายตาจากทุกการกระทำจนกระทั่งเด็กชายหันมาถลึงตาใส่แล้วจ้องตอบเขา ตากลมคู่สวยสีเข้มนั้นเหมือนจะดึงดูดกิวเข้าไปยังอีกโลกที่ตนไม่เคยก้าวเข้าถึง มองหน้าเขาได้สักพักน้องก็ยิ้มร่าเหมือนคิดอะไรได้ซึ่งนั่นทำให้กิวขนลุกวาบไม่น้อย พอถามไปเจ้าตัวก็ตอบมาว่า

“พยาบาลเบื้องต้นไงคุณ ไม่รู้จักเหรอ”

ไม่เคยรู้สึกตัวว่าตนโง่มาก่อนเลยจนมาเจอเด็กคนนี้ ระหว่างที่กำลังอึ้งน้องก็บรรจงแปะพลาสเตอร์ลายน่ารักที่ถ้าเป็นตนทำเองคงไม่มีวันหยิบขึ้นมาติดเด็ดขาดแปะให้อย่างดี ถ้าเขาจะเป็นบาดทะยักตาย หรือติดเชื้อตายก็คงเป็นเพราะการพยาบาลเบื้องต้นนี่แหละ แน่นอนว่าหลังจากนั้นเขาก็โดนรูทขำเรื่องสติ๊กเกอร์ไปเป็นอาทิตย์ และหลังจากจัดการทำแผลแบบที่เจ้าตัวบอกให้เขาเสร็จน้องสามารถทิ้งเขาไว้ในซอยแล้วไปเรียนต่อก็ได้โดยที่ไม่ต้องรู้สึกผิดเลยด้วยซ้ำ แต่น้องกลับเลือกจะนั่งรอ อยู่เป็นเพื่อนคุยด้วย ตอนนั้นเขาถึงได้รู้ว่าเด็กที่กล้ามาช่วยเขาคนนั้นชื่อพาย แล้วมารู้ทีหลังตอนทั้งสองมารับนั่นแหละว่าพายคือน้องของพัพ เพื่อนสนิทอีกคนของเขา และเหตุการณ์นั้นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้กิวพยายามเข้าไปมีส่วนร่วมในชีวิตน้อง

คิดถึงตรงนี้นิ้วที่คีบบุหรี่ไว้ก็ชะงัก กิวทิ้งบุหรี่ที่สูบไปไม่ถึงครึ่งลงพื้นแล้วดับมัน เขาลืมไปว่าพายไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ เวลาไปรับไปส่งน้องแต่ละทีถ้าได้กลิ่นบุหรี่คนตัวเล็กมักจะไอค่อกแค่กจนเขารู้สึกผิดอยู่เสมอ ช่วงหลังมานี้กิวจึงพยายามลดบุหรี่ลง ให้เลิกเลยมันคงไม่ได้แต่ลดลงก็ไม่เป็นปัญหาเท่าใดนัก

“ไง คุณชายกิว ลูกชายท่านประธานใหญ่ ได้ข่าวว่ารถพังไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ไหงมาโผล่หน้าให้เห็นแบบนี้ล่ะ”

 คิ้วเข้มกระตุกเมื่อได้ยินคำพูดไม่รื่นหูสักเท่าไหร่ ตาคมเหลือบมองเจ้าของประโยคจึงเห็นว่าเป็นคู่อริทั้งทางธุรกิจและการแข่งรถของตน ไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืดร่างสูงจากที่ยืนพิงกำแพงก็เดินเลี่ยงกลับไปหากลุ่มเพื่อนของตน หากการกระทำดังกล่าวคงเหมือนการหักหน้าอีกฝ่ายที่ตั้งใจจะมาหาเรื่องเต็มที่ไหล่กว้างจึงถูกรั้งไว้แล้วกระชากให้หันกลับไปมองหน้าอีกฝ่าย “เฮ้ย! มึงคิดว่าเคยชนะเข้าหน่อยจะหยิ่งไม่คุยกับกูหรือไงไอ้กิว!”

เสียงโวยวายเรียกความสนใจจากสมาชิกคนอื่น ๆ ในแก๊งค์ของกิวที่นั่งอยู่ไม่ไกล รูทกับพัพเป็นสองคนที่เดินเข้ามาหาก่อน “อะไรของมึงไอ้ดอม จะหาเรื่องกันก่อนแข่งหรือไงวะ?”

“เพื่อนมึงเสียมารยาทเอง คิดว่าเป็นลูกคนใหญ่คนโตแล้วจะมากร่างได้เหรอวะ ห๊ะ!?”

“กูก็ยังมีดีให้กร่าง ไม่ใช่เป็นหมาขี้แพ้แล้วมาหาเรื่องคนอื่น” คนหน้านิ่งพูดเสียงเรียบก่อนผลักอกของดอมเสียจนอีกฝ่ายแทบกระเด็น คำพูดไม่ไว้หน้าต่อธารกำนัลยิ่งทำให้คนเข้ามาหาเรื่องอับอายและโมโหหนักมากขึ้นอีก แต่ก่อนที่จะทันทำอะไรเสียงเรียกรวมตัวเพื่อรอสัญญาณแข่งรอบถัดไปก็ดังขึ้นเสียก่อน นั่นทำให้ดอมต้องละมือจากการหาเรื่องคู่แข่งไว้แต่เพียงเท่านี้ “แล้วมึงกับกูจะได้เห็นดีกันไอ้กิว!” ทิ้งประโยคอาฆาตหมาดร้ายไว้แล้วสะบัดตัวเดินกลับไปยังกลุ่มของตน

“กิว... กูว่าวันนี้มึงอย่าลงเลยดีกว่า ไว้อาทิตย์หน้าค่อยแก้มือก็ยังทัน”

รูทเดินมาตบบ่าเพื่อนซึ่งยังจ้องไปยังเส้นทางที่ดอมเดินกลับไป อารมณ์ตอนนี้ของกิวคงไม่ค่อยจะดีนักจากการยั่วโมโห และสภาพรถที่ไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่คงไม่มีทางเอาชนะแผนการณ์รวมไปถึงแผนโกงของคู่แข่งได้แน่ ๆ กิวชั่งใจกับสิ่งที่เพื่อนพูดและความต้องการของตนเอง เขาอยากจะได้เงินสำหรับผู้ชนะรอบนี้ไปแบ่งให้กับทุกคนในกลุ่มจะ คนที่มีปัญหาจะได้ไม่ต้องไปรับยาจากคนอื่นมาขายกลับไปเรียนไปทำงานของแต่ละคน แต่จากสภาพการณ์ที่เห็นแล้วทางออกที่ดีที่สุดคือการทำตามที่รูทว่า ชายหนุ่มพยักหน้าแกร่น ๆ ตอบรับไป

“เออ อย่าไปฟังมันมาก โทรไปหาน้องพายของกูฟังคำพูดน่ารัก ๆ ก็ได้ไป โอ้ย!”

“ใครน้องพายของมึง พูดให้มันถูก ๆ”

ฝ่ามืออรหันต์ของพัพฟาดลงกลางกระหม่อมเน้น ๆ ทำเอารูทต้องร้องโอ้ย คนตัวเล็กท่สุดในกลุ่มหันไปเหวี่ยงขาเตะคืนคนหวงน้องที่บังอาจประทุษร้ายเขา “มึงไม่หวงกับไอ้กิวมั้งวะ!? มันจีบน้องมึงแบบเห็น ๆ เลยนะคนนั้นอ่ะ” ไม่วายโบ้ยให้เพื่อนที่คิดจะต้อยเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปีต้องรับเคราะห์ไปด้วย

พัพมองหน้ากิวที่ยืนมองอยู่ก่อนแล้ว มองไปมองมาสักพักก็ยักไหล่ “มันไม่กะล่อนเหมือนมึง” คำตอบเจ็บแสบเรียกเสียงโอดโอยจากคนที่ได้ฉายาว่ากะล่อนแบบไม่ทันตั้งตัว คุยไปคุยมาสักพักพอให้อารมณ์ดีทั้งกลุ่มก็แยกย้ายกันไปตามเส้นทางของตน คนที่อยากจะลงแข่งก็ลงไป คนที่มาเพื่อให้กำลังใจลูกพี่ใหญ่โดยเฉพาะก็พากันกลับบ้านเมื่อรู้ว่ากิวไม่ได้ลงแข่งด้วย แต่ก็เป็นที่รู้กันว่าปกติของคืนสุดสัปดาห์จะต้องมาเจอกันเช่นเดิม





“กลับบ้านดี ๆ นะมึง ขอบใจมากที่มาส่ง”

กิวพยักหน้ารับคำรูทผู้วิ่งลันล้าเปิดประตูบ้านเข้าไปอย่างแสนสุขแล้วบิดเร่งเครื่องยนต์ออกตัวตรงสู่บ้านตัวเอง หลังเปลี่ยนโปรแกรมแข่งรถเป็นหมูกะทะชื่อดังก็เฮฮาลากยาวมากได้จนจะตีสองเข้าไปแล้ว ถือว่าดึกว่าปกติสักหน่อย แต่ก็เป็นเวลาดีที่ตนจะได้กลับบ้านเสียที ถ้ากลับไปตอนนี้คงจะได้เข้านอนเลย ไม่ต้องเสียเวลาทำอย่างอื่นที่ไม่เป็นชิ้นเป็นอันอีก

หากแต่เมื่อรถบิ๊กไบค์คันสวยเฉียดไปที่หน้าประตูบ้านหลังใหญ่ แสงไปที่ยังคงติดอยู่พอจะทำให้เดาได้ว่าผู้ที่ตนต้องการหลีกเลี่ยงมากที่สุดยังไม่ขึ้นนอน แต่จะให้ไปที่อื่นในช่วงเวลานี้ก็ดูจะเกรงใจเจ้าของบ้านที่เขาจะต้องไปรบกวนอีก ใช้เวลาทำใจอยู่ครู่ใหญ่ ๆ รีโมทอัตโนมัติก็ถูกกดเพื่อส่งคำสั่งให้ประตูบ้านเลื่อนเปิดและปิดเอง ส่วนคนสั่งก็ทำการเก็บรถคู่ใจคันโปรดเข้าโรงรถ คิดสะระตะว่าพรุ่งนี้คงจะต้องเอารถไปทำตัวถังใหม่และซ่อมรอยรั่วที่เกิดขึ้นจากการแข่งคราวก่อนดั่งที่ช่างประจำตัวอย่างรูทเป็นผู้แนะนำ

ประตูไม้สักเนื้อดีถูกเปิดด้วยแรงของกิว ทันทีที่ก้าวขาเข้าไปในตัวบ้านก็พบผู้เป็นบิดามารดานั่งหน้าตึงรออยู่ที่โซฟาหลังใหญ่ที่ดูก็รู้ว่าทำมาจากหนังชั้นดีราคาแพงระยับ ต่ำหรับกิวแล้วมันก็แค่โซฟา ที่ไม่มีความสามารถพิเศษอะไรนอกจากแค่ใช้ประดับบ้านและให้คนเป็นพ่อแม่ใช้นั่งเพื่อยกระดับฐานะตัวเองเท่านั้น

“กว่าจะกลับมาได้ แกไม่กลับเช้าเลยล่ะ”

คำพูดของผู้เป็นบิดาหยุดฝีเท้าที่ตั้งใจจะก้าวผ่านไปอย่างไม่สนใจ กิวเพียงเหลือบมองใบหน้าของพ่อที่อยู่ใต้กรอบแว่นแล้วมองเมินไปอีกทาง เลือกจะออกเดินอีกครั้งแต่คำพูดของพ่อก็เป็นฝ่ายหยุดเขาไว้อีกครั้งเช่นกัน “ฉันพูดกับแกอยู่นะเจ้ากิว”

“กะจะกลับเช้าเหมือนกัน แต่เปลี่ยนแผนกระทันหันเลยกลับก่อน ถ้าไม่มีอะไรผมขอตัว”

“แกจะต้องทำตัวเหลวแหลกแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่กันกิว ปีนี้แกต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว จะมาทำตัวเสเพลแบบนี้ต่อไปไม่ได้หรอกนะ” ผู้เป็นพ่อพูดด้วยสีหน้าสงบนิ่ง ฝ่ายกิวก็เพียงมองหน้าพ่อสลับกับหน้าของแม่ที่นั่งเป็นเหมือนไม้ประดับโดยที่ไม่เอ่ยอะไรแล้วถอนหายใจ

“อยากทำอะไรจะทำเอง ไม่ต้องสอน”

“เจ้ากิว! นี่พ่อกับแม่เป็นห่วงแกนะ คิดดูให้ดี ๆ ว่าสิ่งที่แกทำถ้าคนเขารู้มันจะเลวร้ายขนาดไหน พวกฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนถ้ามีคนรู้ว่าลูกชายประธานบริษัทชื่อดังเล่นยา ขายยา แล้วยังไปรวมตัวแข่งรถกับแก๊งค์อันธพาลข้างถนนนั่นอีก! แกตอบฉันสิว่าฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน!?”

คุณการุณย์ตะโกนด้วยความโมโห กิวมองหน้าผู้เป็นบิดาด้วยอารมณ์ที่ครุกรุ่นอยู่ภายใน พูดเหมือนจะเป็นห่วงลูกชายแต่สุดท้ายก็วกกลับมาที่เรื่องชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล เป็นเช่นนี้เสมอตั้งแต่กิวยังเป็นเด็ก ถูกสั่งสอนให้ใช้ชีวิตโดยยึกตระกูลของตนเองเอาไว้เป็นที่มั่น ทำอะไรต้องคิดคำนึงถึงอนาคตของบ้านที่ตนต้องดำเนินรอยตามต่อ ไม่มีชีวิต ไม่มีความคิดเป็นของตนเอง เป็นเพียงแค่หุ่นเชิดตัวนึงของครอบครัวเท่านั้น กิวทำตัวอยู่ในกรอบมานาน นานพอจะทำให้สงสัยว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่นั้นคืออะไร ความต้องการของตัวเองอยู่ที่ไหน จนวันนึงเมื่อเปลือกที่ห่อหุ้มมันปริออก กิวจึงเริ่มมองรอบตัวที่มีแต่การใส่หน้ากากเข้าหากัน ครอบครัวที่ดูเหมือนจะเป็นครอบครัวแต่แท้จริงแล้วเป็นเพียงแค่เปลือกกลวง ๆ ของสิ่งที่ห่อหุ้มคนสามคนเอาไว้รวมกันเท่านั้น ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ชีวิตที่มีเงินเป็นใหญ่ ชีวิตที่มีทุกอย่างเพรียบพร้อม ทั้งบ้าน เงิน รถ ของใช้ แต่กลับหาสิ่งที่เรียกว่าความรักและความสุขไม่ได้เลย

“แกจำไว้เลยนะกิว ถ้าแกต้องล่มจมเพราะแกกับเพื่อนและสิ่งแวดล้อมเลว ๆ ที่แกไปคลุกคลีอยู่ ฉันจะไม่ช่วยแกเลย ไม่มีวันจะไปช่วยแกเลย!!”

“คุณพูดจบแล้วหรือยัง ถ้าจบแล้วก็ขอตัว”

“เจ้ากิว! / ตากิว!”

กิวเดินลิ่วขึ้นบันไดมุ่งตรงสู่โซนส่วนตัวของตนเองโดยที่ไม่สนใจเสียงเรียกของบุพการีทั้งสองคนที่ดังตามมา เขาเบื่อ เขาเหนื่อย เขารังเกียจ อารมณ์ที่ครุกรุ่นมีมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้เขาต้องกำมือแน่นข่มอารมณ์ที่พร้อมจะอาละวาดไว้อย่างเต็มที่ ทันทีที่มาถึงห้องนอนซึ่งตกแต่งด้วยสีโมเดิร์นอย่างสีขาว ดำ และเทา ความอัดอั้นทั้งหมดก็ถูกทุ่มลงไปกับผนังที่อยู่ใกล้ตัวมากที่สุด

ปั่ก!!

เสียงอัดกระทบของกำปั้นและฝาผนังหนาเก็บเสียงส่งผลให้ข้อต่อนิ้วเห่อแดงขึ้นมาทันที เกิวเจ็บ แต่ความเจ็บที่ร่างกายมันไม่ช่วยให้ความเจ็บที่จิตใจลดลงเลยแม้แต่น้อย คำพูดของผู้เป็นพ่อที่ดูถูกและตอกย้ำประดังเข้ามาในหัวสมอง ใบหน้านิ่งเฉยของแม่ที่เพียงแค่มองเขากับพ่อด้วยไม่อาจจะพูดอะไรได้ มันทำให้เขาอึดอัดจนแทบอยากจะให้ทุกสิ่งมันหายไป ทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวรวมไปถึงตัวของเขาเอง

ร่างสูงคว้าผ้าเช็ดตัวในตู้เสื้อผ้าที่อยู่ใกล้ตัวมากที่สุดแล้วเดินเข้าห้องน้ำ เขาคาดหวังว่าสายน้ำจะช่วยให้อารมณ์รุนแรงของเขาเย็นลงได้ แต่ยังไม่ทันจะจัดการกับตัวเองดี เสียงเรียกเข้าของเครื่องมือสื่อสารในกระเป๋ากางเกงพร้อมแรงสั่นเบาไม่เบานักก็ดึงความสนใจของเขาเสียก่อน จากทีแรกที่ตั้งใจจะตัดสายทิ้งเพราะไม่อยากจะลงความหงุดหงิดของตนไว้กับคนที่โทรเข้ามา แต่เมื่อมองชื่อที่ปรากฏบนจอกว้างความคิดทุกอย่างพลันหยุดลง จากที่เคยหงุดหงิด โมโห กดดัน รวมถึงความรู้สึกด้านลบที่ประดังเข้ามาพลันเลือนหายไปทีละนิด ไม่หมดแต่ก็ไม่มากเท่าเดิม

“พาย...”

กิวกับน้องแลกเบอร์กันเมื่อประมาณสองอาทิตย์ก่อน หลังจากที่เจอคำขู่ไปพอเจอหน้ากันอีกครั้งตอนที่กิวไปรับน้องที่บ้าน เพียงแค่เอ่ยประโยคเดิมที่เคยบอกไปตอนได้คุยกันผ่านเบอร์ของพัพเจ้าตัวก็ฮึดฮัดเล่นตัวอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเป็นฝ่ายเอามือถือของเขาไปโทรหาตน เป็นการให้เบอร์และยึดเบอร์เขาไปในที พายอธิบายถึงเหตุผลว่า

“มันไม่ยุติธรรม ถ้าพี่กิวมีเบอร์พาย พายก็ต้องมีเบอร์พี่ โทรมาจะได้รู้แล้วไม่รับ”

ถึงจะว่าแบบนั้นแต่พอเขาโทรไปหาจริง ๆ ก็เห็นรับอยู่ตลอด เพียงแต่คุยมากหรือคุยน้อยอยู่ที่ความสามารถของกิวเองซึ่งโดยปกติจะคุยกันได้ไม่นานเท่าไหร่นักหรอก แต่ครั้งนี้นับว่าแปลกเพราะครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พายเล่นโทรหาก่อน และเป็นในช่วงเวลานี้ด้วย หรือจะเกิดอะไรกับพัพที่แยกตัวกลับไปถึงบ้านก่อนกัน? คิดดังนั้นก็รีบกดรับก่อนที่ปลายสายจะตัดไป

“ครับพาย”


“พี่กิว พี่พัพอยู่กับพี่กิวหรือเปล่าครับ? พายเห็นว่าดึกมากแล้วแต่พี่พัพยังไม่กลับบ้านเลยโทรถามพี่ดู”

เสียงจากปลายสายฟังดูร้อนใจแต่ก็ไม่ถึงกับตระหนกจนคุมสติไม่อยู่ เท่าที่ฟังจากพัพมา ที่บ้านของพัพมีกันอยู่แค่สามคนคือแม่ พัพ และพาย พี่น้องทั้งสองคนเลยสนิทกันมาก กิวจึงไม่แปลกใจที่เห็นน้องเป็นห่วงพี่ชายของตนขนาดนี้ ออกจะอิจฉาอยู่ลึก ๆ เสียด้วยที่ครอบครัวของเพื่อนดูจะรักกันดี ช่างแตกต่างกับของเขา

“ได้ลองโทรหาหรือยัง?”


“โทรแล้วครับ แต่พี่พัพไม่รับสายเลย โทรหาพี่รูทพี่รูทก็บอกว่ากลับมาแล้วเหมือนกัน”

“พี่แยกกันประมาณครึ่งชั่วโมงก่อน คงใกล้ถึงแล้ว พออีกหน่อยแล้วกัน”

เสียงน้องตอบว่าอืมกลับมาจากอีกฝั่งแล้วเงียบไป ฝ่ายกิวก็เงียบไป ปกติเขาไม่ใช่คนพูดมากอยู่แล้ว การจะต่อประโยคสนทนาก่อนจึ้งเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร “แล้ว... วันนี้เป็นไงบ้าง” สุดท้ายก็เอ่ยถามคำถามเบสิคตลก ๆ ออกมา


“พี่ถามถึงวันไหนล่ะ? หมายถึงวันนี้ของเมื่อวานหรือวันนี้ของวันนี้?”

ตอบเองน้องก็หัวเราะเอง ก็ยังดีวะที่คำถามปัญญาอ่อนมันทำให้นเองหัวเราะได้

“วันนี้ของเมื่อวาน”


“ก็ดีนะ ทำงานกลุ่มกัน เพื่อนโคตรกวนตีนพายเลยแบกกลับมาบ้านเอง ตั้งใจจะให้ตัวโตช่วย แต่แม่กลับมาไงเลยทำขนมก่อน”

กิวพยักหน้ากับตัวเองขณะฟังเรื่องที่น้องเล่า จากที่ตั้งใจจะเดินเข้าห้องน้ำพลันทรุดตัวลงนั่งเท้าแขนแทนหมอนบนเตียง ไม่ยอมปล่อยให้เวลาที่ได้คุยกับคนที่ตัวเองชอบอยู่ต้องสูญเปล่า พอฟังคำพูดของพายจบก็เอ่ยเย้า “ทำแล้วกินได้ดิ?”

“โหย... อย่ามาดูถูกนะ นี่พิศลย์ วิรุฬธนกิจนะครับคุณ ลูกคุณม๊าอรอนงค์ ไม่มีทางไม่อร่อย”

“พูดแบบนี้ต้องเอามาให้ชิมแล้ว ไม่อร่อยคิดค่าปรับ”

"อะไรอ่ะ งั้นถ้าอร่อยพายก็คิดค่าปรับจากพี่ได้ใช่ป่ะ?”

“ไม่ต้องปรับก็ให้ป่ะวะ?”

“ให้อะไร อย่ามาเล่นมุกว่าให้ใจ โคตรเสี่ยว โคตรแก่ เอามุกนี้ไปจีบสาวไม่ผ่านนะครับคุณ” พายว่าแล้วหัวเราะเอิ้กอ้ากกับคำพูดของตนเอง ดูท่าว่าการต่อปากต่อคำของน้องกับกิวจะเพิ่มสกิลมากขึ้นจากหลาย ๆ ครั้งที่เคยคุยกัน

“งั้นเอาไว้จีบพายได้มั้ยล่ะ?”


“.....นี่พี่ยังไม่เลิกล้อเล่นอีกเหรอเนี่ย บ้าไปละ พายเป็นผู้ชายนะผู้ชาย”

เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่เขาทิ้งมาดคนหน้านิ่งมายิงมุกใส่น้องผ่านทางโทรศัพท์ ไอ้ครั้นจะให้พูดตรง ๆ เขาพูดได้อยู่หรอก แต่ไอ้การมายิงมุกปัญญาอ่อนเสี่ยวโคตรแบบนี้ต่อหน้าเขาทำไม่ได้จริง ๆ  และทุกครั้งที่เขาตอบกลับไปแนวนี้น้องก็จะตอบกลับมาด้วยประโยคย้ำ ๆ ว่าตัวเองเป็นผู้ชาย

“ผู้หญิงคงไม่แบนขนาดนี้หรอก”


“รู้แล้วก็เลิกเล่นดิ๊ หยอดไปก็ไม่อายหรอกนะ ขนลุกซู่ ๆ แทน”

กิวหัวเราะกับถ้อยคำน่ารักสมวัยแล้วเงียบไป ต่างฝ่ายต่างเงียบ ไม่ทันรู้ตัวมุมปากก็มีรอยยิ้มจาง ๆ ยิ้มค้างไว้ เขารู้สึกมีความสุขแบบอธิบายไม่ได้ทุกครั้งเวลาที่ได้ทำอะไรสักอย่างร่วมกันกับคนคนนี้ ไม่นึกไม่ฝันว่าคนที่ทำให้ตนยิ้มได้แม้แค่การคุยโทรศัพท์จะเป็นเด็กผู้ชายที่เด็กกว่าตัวเองสองปีและยังมีศักดิ์เป็นน้องชายแท้ ๆ ของเพื่อนตัวเองด้วย แต่ก็อย่างว่า เรื่องแบบนี้มันไม่เข้าใครออกใคร บทจะมามันก็เข้ามาหาเองแบบไม่มีเหตุผล  

“อ้ะ! ได้ยินเสียงรถพี่พัพแล้ว คงกลับมาแล้วแหละ แค่นี้นะพี่กิว” เงียบกันได้สักพักน้องก็เอ่ยขึ้นมา เสียงมอเตอร์ไซค์ที่ได้ยินจากที่ไกล ๆ และเสียงหมาเห่าเบา ๆ ตามลมลอยเข้ามาในหูโทรศัพท์ กิวเออออให้กับคำพูดน้อง และรู้สึกอยากจะเย้าอีกสักรอบก่อนที่น้องจะวางสาย

“โทรมาเหมือนให้ความหวัง แต่พอพี่ชายกลับมาก็ทิ้งเหรอ? คนอะไรวะโคตรใจร้าย”

แต่ดูเหมือนคำที่พูดกรอกไปปลายสายจะไม่ได้ยินเพราะกิวได้ยินเสียงพายเรียกชื่อพี่ดังลั่นก่อนร่ายยาวคำบ่นมาอีกประมาณหนึ่งคัมภีร์ อดสงสารพัพไม่ได้ ไม่รู้ว่านี่มีน้องกับแม่อย่างละคนหรือมีแม่ทีเดียวสองคนแบบนี้ กิวกดวางสายด้วยตัวเอง ก่อนจะคว้าผ้าขนหนูตั้งใจจะชำระร่างกายอีกครั้งแล้วกลับมานอนพักผ่อน พลันเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกรอบ เมื่อเห็นเบอร์เป็นเบอร์เดิมกิวก็เลิกคิ้วด้วยความสงสัย ไม่รู้ว่ามีอะไรอีกน้องถึงได้โทรมา

“กดผิดหรือเปล่า?”


“เปล่า ๆ แค่โทรมาบอกไม่ให้เข้าใจผิด”

คำพูดกำกวมของน้องทำเอาเครื่องหมายคำถามลอยขึ้นมาในหัวเต็มไปหมด กิวตอบอืมไปด้วยความสงสัยว่าน้องพูดถึงเรื่องอะไร
   
“พายไม่ใช่พวกชอบให้ความหวังแต่พายชอบให้โอกาส”

“.....?”   

แล้วคำพูดสุดท้ายที่ได้ยินก่อนที่น้องจะชิงรีบวางสายไปทำให้กิวต้องอมยิ้มอีกครั้ง เป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ของวัน กิวรู้สึกว่าวันทั้งวันที่ผ่านมา แม้จะมีเรื่องร้าย ๆ เกิดขึ้นมากเท่าไหร่ก็ตาม แต่วันนี้ของกิวก็จบลงด้วยเรื่องราวดี ๆ และเริ่มต้นด้วยเรื่องราวดี ๆ เช่นกัน

   


“พายให้โอกาสพี่กิวชอบพายแล้ว พี่กิวเปลี่ยนใจพายให้ได้แล้วกัน แค่นี้แหละ!”



To be continue



-------------------------------------------------------------------





มาลงตอนต่อแล้วค่ะ!

ตอนนี้เอาใจแฟนคลับพี่กิวนะคะ ปนความมาม่าเบา ๆ เหมือนเล่าเรื่องราวของพี่กิวนั่นแหละค่ะ
ก่อนที่เราจะมีฉากที่อื่นมากกว่านี้ก็ปูพื้นฐานของทุกคนก่อนเนอะ  :mew1:
พี่กิวในความคิดส่วนตัวเราคือผู้ชายที่โตเกินตัวแต่ความจริงแล้วยังเด็กมากค่ะ ซึ่งพยายามจะให้ออกมาในคำพูดและความคิดนะ แต่ไม่รู้จะสัมผัสได้หรือเปล่า แฮ่  :hao5:

บอกตามตรงค่ะว่าเจอพี่น้องเขาจะอิ๊อ๊ะกันเองแล้วนี่ก็แอบหวั่น แกอย่าเพิ่งแต่งหักมุมนะ อย่า พี่กิวน้องพายเท่านั้น พี่น้องต้องแยกไปเป็นแฟนฟิค เอ๊ะ...?

สำหรับคนที่ถามมาว่าตอนนี้คู่พัพรูทเขาชอบกันหรือยัง... ตอนนี้ยังค่ะ แต่จะมีตอนของทั้งคู่แน่ๆ อาจจะแยกออกมาเลยหลังจากจบคู่ของพี่พิวกับน้องพายแล้ว ขอบคุณมากๆนะคะที่สอบถามกับเข้ามา ทั้งสองคนดีใจมากกกก เทเลพาธีถามมา  :hao3:

สำหรับตอนนี้... ตอนนี้น้องพายออกตัวแรงอ่ะ... แต่งเองยังคิดเอง ไม่ให้ความหวังเหรอ เอ๊าะเหรอๆ
แต่เพราะน้องเกรียนจัดมันเลยออกมาเป็นแบบนี้แหละค่ะ!  :katai2-1:

ขอบคุณทุกๆคนที่ติดตามนะคะ ขอบคุณทุกคอนเม้นด้วย อยากจะตอบแต่กลัวมันรันกระทู้ไปไวเลยจะมาตอบในทุกๆกระทู้ที่อัพนะคะ!
แล้วเจอกันใหม่ค่ะ
:pig4:

ออฟไลน์ black-egoistic

  • 尚之
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 314
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
อ้างถึง
“พายให้โอกาสพี่กิวชอบพายแล้ว พี่กิวเปลี่ยนใจพายให้ได้แล้วกัน แค่นี้แหละ!”

ชอบประโยคนี้จังเลย  o13
มายืนใบสมัครเป็น Fc พี่กิวน้องพายด้วยคนค่ะ
สองคนนี้คุยกันได้น่ารักมุ้งมิ้งมากมาย
อ่านแล้วหัวใจมันกระชุ่มกระชวย
 :L1: :L1: :L1:

ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
น้องงงงงงงงงงงงงงงงง  :hao5:
น้องพายคือสิ่งดีๆ ในชีวิตของพี่กิวจริงๆ
ปัญหาครอบครัวนี่เข้าใจหัวอกพี่กิวเลยค่ะ
แต่พอได้คุยกับน้องแล้วก็เหมือนว่าทำให้หัวใจที่กำลังอึดอัดอยู่ในตอนนี้โล่งมากขึ้นสินะ
ดีจังเลย.. TvT

ชอบที่น้องพายบอกว่าจะให้โอกาส ออกตัวแรงนะหนู แต่ไม่เป็นไรค่ะ เราชอบบบบ 5555

โมเม้นท์คุณพี่ชายหวงน้องก็ยังคงกรุบกริบอยู่ในหัวใจ
ถึงชีวิตพี่กิวช่วงนี้จะดราม่ามากมาย แต่ว่าเราก็ยังชูป้ายไฟให้พี่กิวต่อไปนะคะ!! >_<

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
พี่กิวลุยฮับบบบบ เชียร์และชอบ
55555555555555555
น้องพายน่ารักอ่ะ ไม่ได่ดูสาวละไม่ได้ดูแมนชาติชาย
ชอบแบบเน้ๆๆๆๆ555555555
มารอดูพี่กิวจีบน้องพายอีก

ออฟไลน์ ennewiis

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
♥ หัวหน้าแก๊งค์ (ภาคหลัก)
ตอน กระดึ้บ กระดึ้บ






การเติบโตของความสัมพันธ์ก็เปรียบเสมือนการเจริญเติบโตของผีเสื้อ เริ่มจากการเป็นไข่ ฟูมฟักให้เกิดเป็นตัวอ่อน ขยับขึ้นมาเป็นตัวหนอน เรื่อยไปจนเป็นดักแด้ ก่อนจะปริแตกเป็นผีเสื้อแสนสวยที่โผบินไปบนท้องฟ้า

หากถามถึงเสียงของการเจริญเติบโต ไม่แน่เสียงของมันอาจจะเป็นทำนองคล้าย “กระดึ้บ กระดึ้บ” ของตัวหนอนก็ได้





“พายบอกแล้วไงว่าไม่ต้องมารับก็ได้ กลับเองได้ รถเมล์ก็มี เพื่อนก็มียกฝูงเนี่ย”
 
พายในชุดนักเรียนของโรงเรียนชื่อดังเอ่ยกับเจ้าของใบหน้าคมเข้มที่เพิ่งเหวี่ยงขาลงมายืนข้างบิ๊กไบค์คันโปรด ไม่พูดเปล่าเจ้าตัวยังพยักเพยิกไปทางกลุ่มเพื่อนที่เดินแบกกระเป๋าจาร์คอปหนังสีดำแบน ๆ ตามสไตล์ของเด็กกำลังเฮี้ยวตามหลังมาด้วย กิวเบนสายตามองกลุ่มเด็กกางเกงน้ำเงินของโรงเรียนเอกชนชั้นนำครู่นึง เมื่อหนึ่งในนั้นหันมาเห็นก็รีบยกมือไหวกันยกใหญ่พร้อมทั้งปรี่พาร่างของตนมายืนข้างเพื่อนแบบไม่ต้องมีใครรับเชิญ
 
“สวัสดีครับเฮียกิว วันนี้มารับไอ้เตี้ยอีกแล้ว”
 
“ธีร์! มึงว่าใครเตี้ย”
 
เด็กหนุ่มชื่อธีร์ที่เป็นผู้นำกลุ่มให้ยกมือขึ้นไหว้หัวเราะเสียงดังประสานกับเพื่อนคนอื่นที่ยืนอยู่รอบ ๆ
 
“ก็มึงเตี้ย จะให้โกหกว่าสูงก็ไม่ใช่ป่ะวะ” พูดจบก็เดินมากดหัวหัวคนตัวเล็กแล้วยีเสียจนผมสีดำขลับที่เคยเป็นทรงยุ่งไม่เป็นท่า โดยที่พายก็ได้แต่ปัดมือไปมาพร้อมสะบัดหัวหนี จังหวะนั้น วิน เพื่อนอีกคนในกลุ่มที่ตัวเล็กพอกันกับพายแต่มีบุคลิกที่ดูเป็นผู้ใหญ่ที่สุดในกลุ่มก็เดินมาตบไหลธีร์เบา ๆ เรียกความสนใจ แต่เห็นว่าแม้จะเรียกแล้วไอ้คนที่เอาแต่แกล้งเพื่อนยังคงไม่ยอมหยุด มือเรียวจึงจัดการโบกเน้นเข้าที่กลุ่มผมสีอ่อนไปหนึ่งทีจนเรียกเสียงโอดโอยได้ไม่น้อย
 
“วิน! ตบเราทำไมเนี่ย มือก็หนักตบเข้ามาซะแรง”
 
“เรียกแล้วไม่หันเอง เดี๋ยวโดนเฮียกิวฆ่ายัดถังไม่รู้ตัว”
 
คราวนี้เป็นทีพายที่ได้หัวเราะกับหน้าหงอ ๆ ของธีร์ยามเจอสายตานิ่งเฉยของกิวเข้าไป ธีร์ผงกหัวน้อย ๆ ให้กิวที่ยืนมองอยู่ไม่ไกลเป็นการขอโทษแล้วหันกลับมายิ้มแยกเขี้ยวร้องแง่ง ๆ ใส่พายอีกครั้งก่อนจะเริ่มใช้คำพูดเชือดเฉือนกันต่อ ฝ่ายวินที่คอยคุมเชิงได้แต่สายหน้าไปมากับท่าทางเหมือนเด็กของทั้งคู่ ในห้องมันก็กัดกัน จะกลับบ้านมันยังไม่เลิกกัดกันอีก เหนื่อยใจจะพูดกับพวกมันจริง คิดแล้วก็ถอนหายใจยาวเลือกจะเดินแบกกระเป๋าออกไปทางประจำที่ตนใช้กลับบ้านพร้อมเรียกเพื่อนอีกสองคนที่ยืนหัวเราะอยู่ให้ไปด้วยกันกับตน “ไปเหอะตั้ม พี ปล่อยพวกมันไว้เนี่ยแหละ”
 
“โหยวิน ช่วยเราก่อนดิ เอาไอ้ธีร์ไปด้วย เอามันไป๊!”
 
พายดันอกเพื่อนตัวสูงพัลวัน แต่ไม่ต้องใช้ความพยายามเท่าไหร่นักเพราะอีกฝ่ายรีบปัดมือพายออกแล้วก้าวขายาวตามหลังเพื่อนสนิทอีกคนไปต้อย ๆ
 
“กูไม่อยู่กัดกับมึงต่อหรอก ไปแล้วเตี้ย เจอกันพรุ่งนี้ ไปนะครับเฮียฝากไอ้เตี้ยด้วย... วิน รอเราด้วยดิ เอากระเป๋ามาเดี๋ยวถือให้”
 
ธีร์รีบก้าวเท้ายาวไปดึงกระเป๋าของวินที่เดินนำไปก่อนแต่ก็ได้รับคำตอบปฏิเสธกลับมา “ไม่เป็นไรเราถือได้... ไปนะพาย เจอกันพรุ่งนี้ ไปนะครับเฮียกิว” ไม่ลืมหันไปบอกลาพายด้วยรอยยิ้มและไหว้พี่ชายหน้าหล่อที่ช่วงนี้เห็นมารับเพื่อนตัวเองอยู่บ่อย ๆ ถึงคนอื่นจะคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่เพื่อนพี่ชายจะมารับพายด้วยตัวเอง แต่สำหรับวิน เขาพอจะคาดเดาถึงสาเหตุได้แม้เพื่อนตัวน้อยจะยังไม่พูดออกมา แต่ตนก็ไม่คิดจะถามก่อนแต่อย่างไรด้วยไม่อยากจะให้พายต้องอึดอัด
 
ด้านกิวหลังพยักหน้ารับคำลาจึงเบนความไปสนใจไปยังพายที่ยืนหัวยุ่งหน้ามุ่ยมองตามหลังเพื่อนสนิทของตนที่ค่อย ๆ เดินห่างไป ฝ่ามือใหญ่วางปุลงบนกลุ่มไหมสีดำละเอียดแล้วยีอย่างเบามือเรียกให้น้องหันกลับมามองตน
 
“ไปกินข้าวกัน แล้วเดี๋ยวไปส่ง พี่บอกพัฟแล้ว”

"....วันนี้พายไม่เลือกนะ ให้พี่กิวเลือก ตกลงก่อนพายถึงจะไป"

พักหลังมานี้กิวจะมารับพายเสมอ แม้ว่าพายจะพูดอยู่ทุกครั้งว่าตนกลับเองได้ จริงอยู่ที่การมีกิวมารับนั้นย่อมสบายกว่าอยู่แล้ว แต่เขาก็เกรงใจเพราะโรงเรียนที่กิวเรียนอยู่หรือก็คือโรงเรียนเดียวกับพี่พัฟมันอยู่คนละฟากฝั่งกับโรงเรียนของเขาเลย แถมแถวนี้เรียกได้ว่าเป็นย่านใจกลางเมืองไม่มีปัญหาเรื่องการหารถกลับบ้านเท่าไหร่ แม้ว่าการกลับบ้านโดยรถโดยสารประจำทางจะยาวนานเพราะการจราจรเสมอก็ตาม

เดิมทีพายก็ไม่คิดหรอกว่าคนตัวโตตรงหน้านี้จะมารับกลับบ้านทุกวันอย่างที่ลั่นวาจาไว้ เพราะขนาดพี่พัฟยังขี้เกียจมารับเลยแค่มาส่งเพราะเป็นทางผ่าน จะนับประสาอะไรกับพี่กิวที่บ้านก็คนละฝั่ง แถมไม่มีความจำเป็นจะต้องมาทางนี้อีก แต่สุดท้ายตั้งแต่วันที่สองที่เจอกันยันวันนี้พี่กิวก็ยังมารับอยู่เสมอ ช่วงแรกก็ทิ้งให้ขับรถตามกลับไปเองพอหลัง ๆ พายก็ใจอ่อนยอมที่จะติดสอยห้อยท้ายกลับบ้านด้วย อาจจะเพราะคำพูดที่ตนก็เอ่ยบอกไปว่าจะให้โอกาสอีกฝ่ายได้ลองทำความรู้จัก แต่ยังไงก็ขอให้ได้บ่นสักนิดก็ยังดี

ดวงหน้าน่ารักเงยหน้ามองใบหน้าคมที่กำลังรอประสานสายตาอยู่ คนตัวเล็กกว่ายักคิ้วอย่างเป็นต่อหลังเอ่ยประโยคต่อรองแล้ว เนื่องจากทุกครั้งที่พี่กิวจะพาไปกินข้าวเขาจะต้องเป็นคนเลือกทุกครั้ง ซึ่งบางทีก็ขี้เกียจจะคิดไงว่าต้องไปไหน เพราะงั้นก็โยนให้คนตัวโตกว่านี่แหละ

".....ก็ได้ งั้นกินอาหารญี่ปุ่น"

"โหยของชอบเลย แต่ว่าแพง ไม่เอาดีกว่าตอนนี้พายไม่มีเงิน" ทำเสียงอิดออดอย่างเสียดาย เดือนนี้เงินที่ได้จากที่บ้านไม่พอใช้เพราะเอาไปซื้อของที่อยากได้หมดแล้ว แถมยังไม่อยากเบียดเบียนขอเงินคุณแม่เพิ่มอีก

"พี่เลี้ยง"

จบคำว่า 'พี่เลี้ยง' เท่านั้นคนตัวเล็กก็พยักหน้าหงึกหงักแล้วยิ้มตาหยีให้หนึ่งที เปลี่ยนจากฝ่ายงอแงเป็นเร่งให้กิวรีบสตาร์ทรถแล้วปีนไปคร่อมเบาะขนาดใหญ่เอาไว้พลางรับกระเป๋านักเรียนของอีกฝ่ายมากอดรอด้วย ความเกรงใจที่มีในตอนแรกหายไปหมดแล้วเมื่อรู้ว่าจะได้กินของชอบ ก็พี่เขาเป็นคนเสนอพายก็เป็นเด็กดีตามใจพี่เขาไง พายไม่ได้ขี้งกนะ เปล่าเล๊ย





"พี่กิวก็พามาหรูเกิน... จะได้เข้ามั้ยเนี่ย?"

คนตัวเล็กบ่นขณะก้าวขาลงจากรถอย่างระมัดระวังพร้อมส่งหมวกกันน๊อคใบใหญ่คืนให้เจ้าของรถ กิวพาพายซิ่งรถมาไม่นานนักจากโรงเรียนเอกชนชั้นนำถึงห้างหรูที่เพิ่งสร้างใหม่ย่านใจกลางกรุง ตอนแรกนึกว่าจะพาไปอีกที่ เล่นมาโผล่ที่นี่รปภ.จะให้เข้าไหมก็ไม่รู้

"พามาก็อยากให้มาที่ดี ๆ ยังบ่นอีก"

"อ้าว ก็ถ้าโดนไล่ออกมานี่หน้าแหกกันเลยนะครับคุ๊ณ เอ้อ... พี่กิวก้มมาหน่อยสิครับ หัวหรือรังนกนี่แทบจะแยกไม่ถูกเลย"

พายว่าพลางกวักมือเรียกหยอย ๆ  เห็นแบบนั้นคนตัวโตกว่าจึงย่อเข่าให้ความสูงของทั้งคู่เกือบใกล้เคียงกัน ปล่อยให้มือเล็กจัดเส้นผมสีดำตัดสั้นที่ชี้ฟูไม่เป็นทรงจากการถอดหมวกกันน๊อคของตนอย่างไม่ว่าอะไร ปล่อยน้องจัดแต่งผมไปก็ลอบมองใบหน้าจริงจังยามที่กำลังวุ่นวายกับหัวของตนไปด้วย กิวยิ้มมุมปาก รู้สึกดีกับการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้แม้จะรู้สึกเมื่อยขาอยู่บ้างก็ตามที

“มองอะไรครับ เสร็จแล้ว ไปกันเนอะ”

แขนเรียวกระชับประเป๋าสองใบที่ถือมาตลอดทางให้เข้าที่ คิดว่าจะถือให้แทนคำขอบคุณที่พามากินข้าว แต่กลับโดนแรงยื้อจากด้านหลังแรงเสียจนกระเป๋าของตนติดไปอยู่ที่มือของกิวด้วย คนตัวเล็กเลิกคิ้วมองอย่างสงสัย “เดี๋ยวถือให้” กิวตอบแล้วก็ตัดบทก่อนที่จะโดนท้วงด้วยการบอกว่าตนหิวให้รีบไปหาร้านกันดีกว่า





สองหนุ่มผ่านด่านรปภ.ที่พายกังวลหนักหนาเข้ามาได้ด้วยดี วันนี้ในห้างสรรพสินค้าคนไม่เยอะมากเท่าไหร่ อาจเนื่องจากเป็นเวลาเย็นของวันธรรมดา และระดับราคาสินค้ามันสูงจนมีเพียงแค่บุคคลเฉพาะกลุ่มที่เข้ามาใช้บริการ พายไม่เคยมาห้างนี้เหมือนกัน เพราะปกติตนกับเพื่อนจะเลือกไปอีกที่ซึ่งเป็นแหล่งใหญ่สำหรับวัยรุ่นโดยเฉพาะจึงออกจะตื่นตะลึงกับความสวยของการจัดแต่งร้านแต่ละแห่งไม่น้อย แล้วก็หวั่นไปด้วยว่าร้านอาหารญี่ปุ่นที่อีกคนจะพาไปมันจะหรูมากเกินจนกินไม่ลงหรือเปล่า เดินวนอยู่โซนชั้นอาหารไม่นานกิวก็พาดแขนลงบนบ่าเล็กแล้วออกแรงพาร่างเล็กให้เดินไปดูเมนูที่ถูกตั้งไว้หน้าร้านอาหารญี่ปุ่นแบรนด์ดังที่อยู่ไม่ไกลนัก พายเหล่มองเจ้าของมือใหญ่ที่เดินอยู่ข้างกันโดยสีหน้ายังนิ่งไม่เปลี่ยน เนียนนะพี่กิว เห็นหน้านิ่งแบบนี้ล่ะเนี่ยนัก

“พี่กิวคิดว่าพายหนักมั้ย?”

“ตัวเล็กขนาดนี้คงไม่หนักไปกว่าพี่หรอก”

แน่ะ... คนเขาไม่ได้หมายถึงน้ำหนักตัว รู้ทั้งรู้แท้ ๆ แต่ก็ยังจะตอบยั่วให้ต้องถลึงตาใส่เสียอีก

“พายหมายถึงแขนพี่เนี่ย วางแบบนี้คิดว่าหนักมั้ย?”

“ไม่หนักหรอก ขนาดใจพี่ยังรับได้แค่แขนคงไม่หนักเท่าไหร่”

พายหันควับไปมองเจ้าของประโยคโคตรเสี่ยวชนิดที่วินมอเตอร์ไซค์แถวบ้านคงยังไม่กล้าพูดแซวสาว สลับกับใบหน้าแดงก่ำของพี่บริกรสาวที่ยืนรอเพื่อต้อนรับลูกค้าผู้มาใหม่ทั้งสองที่น่าจะได้ยินประโยคเมื่อคู่นี้ชัดเต็มสองรู้หูแน่ ๆ เมื่อรู้อย่างนั้นดวงหน้าขาวก็เริ่มขึ้นสีทีละนิด ฝ่ามือเล็กฟาดอย่างแรงบนท่อนแขนที่วางพาดบ่าตนแล้วรีบชิ่งเดินเข้าร้านแบบไม่รอให้ตกเป็นเป้าสายตานานมากไปกว่านี้

โต๊ะด้านในสุดถูกเลือกเป็นที่นั่งของทั้งสอง หลังสั่งอาหารเซตใหญ่แบบจัดหนักกะจะให้คนที่เอ่ยปากว่าเลี้ยงต้องล่มจมสมใจอยาก พายก็นั่งมุ่ยหน้ามองท่าทีการสั่งอาหารแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวอย่างขัดใจ จนเมื่อบริกรสาวรับรายการอาหารเสร็จก็ปลีกตัวไป พายจึงได้เริ่มเปิดปากคุยด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“พี่กิว พายบอกแล้วไงว่ามุกเสี่ยว ๆ ทำพายขนลุกซู่ ๆ แล้วนี่คนอื่นเขาจะมองยังไงเนี่ย”

“ก็เรื่องของเขา”

กิวเท้าคางประสานสายตากับคนตรงหน้าแล้วตอบด้วยน้ำเสียงไม่ใครสนใจอะไร กลับเป็นพายที่ต้องถอนหายใจยาว ๆ ออกมา ก็พอจะรู้ว่าคนอย่างพี่กิวคงไม่สนใจเรื่องสายตาคนรอบข้างอยู่แล้ว แต่ถามพายมั้ยเนี่ยว่าพายสนใจมั้ย

“พี่กิว... มีเหตุผลดิ๊ พายไม่รังเกียจหรอกนะที่พี่จะทำตัวเสี่ยวผิดหน้าตาใส่พาย...” พูดแล้วหยุดไป เบนสายตาหลบไปมองที่วางตะเกียบด้านข้างแทน ฟันเล็ก ๆ ขบริมฝีปากอย่างชั่งใจ ก่อนจะพูดต่อออกมารัว ๆ “แต่โดนมาก ๆ คนมันก็อายเข้าใจป่ะวะ มันเสียเชิงชายที่ต้องมาโดนหยอดมุกเสี่ยวใส่ตลอดเวลาเนี่ย!”

เมื่อได้ฟังคำตอบที่แสนมีเหตุผลจากปากคนที่นั่งหน้าแดงทำเมินไปมองไปที่อื่นไม่ยอมสบตาตน กิวก็หลุดมาด ขำอยู่ในลำคอเสียนาน ฝ่ายพายพอได้ก็เขินหนักกว่าเดิม ความรู้สึกเขินอายยิ่งพุ่งขึ้นเสียจนหน้าเห่อร้อนไปหมด คนเขาเครียดนะเว้ย ยังจะมาหัวเราะอีก มันเพราะใครกัน เพราะใคร

“เออ หัวเราะไปนะ หัวเราะให้ขาดใจตายไปเลย”

“อนุญาตแล้วนะ... หึหึ”

“พี่กิว!”

ดวงตากลมโตถลึงจนมันโตหนักกว่าเดิม คงจะคิดว่าทำหน้าแบบนั้นแล้วคนที่ยังขำอยู่จะกลัวจนเลิกขำ ไม่ได้รู้เลยว่าหน้าแดง ๆ ปากกลมที่ยื่นเสียจนมันจะแบะแบบนั้นมันน่ารักเกินกว่าจะกลัวได้ ไม่เข้าใจเลยว่าไอ้พัฟมันเลี้ยงน้องมันมายังไงถึงได้เป็นเด็กน่ารักเสียขนาดนี้ คิดแล้วก็ยิ่งยิ้ม มองคนตรงหน้าที่ยังจ้องมาอย่างเอาเรื่องแล้วอดไม่ไหวต้องยื่นมือไปยีหัวกลม ๆ นั่นอีกครั้งอย่างเอ็นดู คงเป็นช่วงที่เขาเรียกว่าหลงเด็กหัวปักหัวปำซะล่ะมั้ง ถึงได้ทำอะไรมันก็ดูน่ารักน่าเอ็นดูไปเสียหมด เย้าเล่นไปสักครู่ตัวช่วยของกิวก็มาถึงเมื่อพนักงานค่อย ๆ นำอาหารที่สั่งมาเสิร์ฟเสียจนเต็มโต๊ะไปหมด เต็มเสียจนคนที่สั่งชักเริ่มหวั่นใจว่าจะกินกันหมดหรือเปล่า พายมองของโปรดที่วางอยู่รอบโต๊ะอย่างตื่นเต้นยินดี จากอารมณ์เขินเมื่อครู่กลายเป็นอารมณ์ตื่นเต้นไม่รู้ว่าจะเริ่มจากอะไรก่อนดี

ตะเกียบคู่เก่งในมือคีบปลาดิบคำโตมาจิ้มซอสแล้วส่งเข้าปาก ก่อนทำหน้ามีความสุขสุด ๆ แบบที่คนมองยังต้องสงสัยว่าอะไรมันจะสุขขนาดนั้น

“อร่อยขนาดนั้น?”

เมื่อได้ยินคำถามหัวกลมจึงพยักหน้าอย่างแรงเสียจนผมกระจายไปมา ก่อนตะเกียบคู่เดิมจะคีบเอาปลาแซลม่อนชิ้นสวยยื่นให้ พร้อมกับที่พายทำหน้าทำตาแบบที่แปลได้ว่าต้องลองชิมด้วยตัวเอง ตอนแรกกิวตั้งใจจะส่งชามแยกไปรับ แต่เมื่อคิดอีกทีเจ้าตัวก็จับมือเล็กไว้มั่นแล้วยื่นหน้าไปรับปลาแซลม่อนเข้าปากก่อนผละมาเคี้ยว มองเมินเจ้าของดวงตาที่เบิกกว้างกับการกระทำอุกอาจของตนแล้วเริ่มจัดการคีบอาหารเข้าปากสลับกับตักใส่จานของคนที่บอกว่าชอบกินอาหารญี่ปุ่นไปด้วย มีบางคราวพอสบโอกาสก็หาเศษหาเลย(?)จากน้องไปด้วย




เสียงเครื่องยนต์ของรถบิ๊กไบค์คันโตหยุดลงที่หน้าบ้านเดี่ยวประตูแสตนเลสหลังใหญ่ พายก้าวขาลงมายืนข้างตัวรถพร้อมถอดหมวกกันน๊อคคืนให้ และรับกระเป๋าของตนกลับมาถือ ไม่ลืมที่จะเอ่ยขอบคุณเจ้ามือที่พาไปเลี้ยงข้าวเย็นวันนี้ด้วยใบหน้ายิ้มแฉ่ง

“ขอบคุณนะครับพี่กิวที่เลี้ยง อร่อยมากอ่ะ แต่สงสัยสั่งมาเยอะไปเกือบกินไม่หมด”

“มากเหอะ กินเข้าไปได้ไงวะ ตัวก็แค่นี้”

“ก็ชอบไง อร่อยจะตายพี่กิวไม่ชอบเหรอ”

จบประโยคก็มองจ้องใบหน้าคมผ่านความมืด ตอนนี้ปาเข้าไปสองสองทุ่มแล้วยังดีที่ไฟหลวงติดไม่ไกลจากบ้านพายนักจึงทำให้แสงส่องถึงจุดที่ทั้งคู่ยืนอยู่ กิวเงียบไปเพื่อคิดสักครู่ก่อนส่ายหน้า

“ไม่ชอบอาหารญี่ปุ่น”

“อ้าว แล้วพี่พาพายไปกินทำไม ทำไมไม่ไปร้านอื่น”

พายเหวอจนไปต่อไม่ถูก สรุปที่ช่วยกันกินช่วยกันยัดเข้าไปนี่ไม่ได้ชอบหรอกเหรอ แต่เห็นตักอะไรให้ก็กินไม่บ่นอะไรเลยสักคำ แล้วทำไมต้องเสนอให้ไปร้านอาหารญี่ปุ่นถ้าหากว่าตัวเองไม่ได้ชอบกินด้วย แบบนี้มันเหมือนตัวเองไปหลอกกินฟรีอยู่ฝ่ายเดียว ไม่ได้ถามก่อนว่าคนที่จะเลี้ยงเสนอสิ่งที่ตัวเองชอบมาหรือเปล่าแต่กลับตอบรับไปเลย แถมมื้อนี้ก็ไม่ใช่ถูก แบงค์สีเทาสองใบถูกใช้ไปกับอาหารชุดใหญ่ที่อยู่ในกระเพาะ

“.....เพราะพายชอบเลยอยากพาไป”

เห็นหน้าซึม ๆ เหมือนคนรู้สึกผิดของน้องจึงยอมปริปากบอก “ถามพัฟมาว่าพายชอบอะไร พัฟบอกไม่อาหารอีสานก็อาหารญี่ปุ่น แต่อยากให้กินดีหน่อยเลยเลือกอาหารญี่ปุ่น”

คำตอบที่ได้รับทำเอาพายอึ้งไป เงยหน้ามองสบกับดวงตาสีดำเข้มที่เมื่อจ้องมองก็รู้สึกเหมือนจะโดนดูดเข้าไปได้ง่าย ๆ ในอกสั่นไหวเป็นจังหวะที่ผิดแปลกไป ความรู้สึกร้อนวูบวาบตีขึ้นมาจากช่องท้องจนถึงแก้มเนียนลามไปถึงใบหู ไม่คิดเลยว่าคำพูดและการกระทำที่เหมือนเรื่องปกติจะทำให้ตนรู้สึกแบบนี้ได้ พายยอมรับว่าช่วงเวลาไม่นานนักที่มีพี่กิวเข้ามาในชีวิตมันมีเรื่องที่ทำให้พายรู้สึกว่าตนแปลกไปอยู่บ่อยครั้ง จะว่าพายใจอ่อนไปชอบพี่กิวแล้วหรือเปล่า พายคิดว่ามันไม่ใช่ มันเป็นความรู้สึกดี ๆ ในแบบที่ยังไม่ถึงขั้นใช้คำว่าชอบ

พายนิ่งเงียบไม่เอ่ยอะไรออกไปเพียงแต่ยื่นประสานสายตาอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งเสียงมือถือในกระเป๋ากางเกงดังขึ้นดึงความสนใจให้ผละจากกิวได้ มือเล็กหยิบเครื่องมือสื่อสารมามองชื่อบนหน้าจอ เมื่อเห็นว่าเป็นพี่ชายตัวเองก็รับเลื่อนหน้าจอรับ

“ฮัลโหลพี่พัฟ อื้อ... พายอยู่หน้าบ้านแล้ว... กับพี่กิว... อือ ครับ เดี๋ยวพายรอ”

ตกลงกับปลายสายเสร็จก็เก็บโทรศัพท์เข้ากางเกงเหมือนเดิม พายสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ สบตากับคนที่มองตอบกลับมาอยู่เหมือนกัน พอเห็นว่าอีกฝ่ายยังไม่ผละสายตาไปจากหน้าตนคนตัวเล็กก็รู้สึกเขินขึ้นมาอีกครั้ง รีบเอ่ยปากไล่ให้อีกฝ่ายกลับบ้านเพราะพี่ชายจะลงมารับแล้ว

“ขอบคุณอีกรอบนะครับพี่กิว พี่กลับเลยก็ได้นะเดี๋ยวพี่พัฟก็ลงมาแล้ว”

“รอพัฟมาก่อน มีเรื่องเกี่ยวกับพายจะถามมัน”

น้องน้อยทำสีหน้างุนงง ถามเรื่องตัวเอง? อยู่ด้วยกันเป็นชั่วโมงไม่ถาม จะไปถามพี่พัฟเพื่ออะไรล่ะ จึงเอ่ยปากไปด้วยความสงสัยไม่น้อย “อ้าว... เรื่องพายก็ถามพายดิ ไปถามพี่พัฟทำไมล่ะ?”

ฝ่ายกิวพอได้ยินแบบนั้นก็เลิกคิ้วมอง ทำสีหน้าเหมือนจะถามกลับว่าถามได้เหรอ ยิ่งมองสีหน้านิ่งแต่การกระทำช่างกวนแสนกวนของเพื่อนสนิทพี่ชาย พายก็อดไม่ได้ต้องยื่นปากมุ่ยหน้าใส่อีกรอบ กวนตั้งแต่เจอหน้ากันยันจะหมดวัน พี่กิวต้องประสาท นิสัยถึงได้ไม่นิ่งเหมือนหน้า เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตลอด

“ที่พี่จะถามพัพ เพราะพี่อยากจะรู้ว่า......” ทิ้งปลายเสีนงให้อีกคนได้สงสัย

“ว่า... พี่กิวอย่ามากวนพายสิ”

เห็นสีหน้าไม่พอใจแบบเด็ก ๆ กิวก็ต้องยิ้มเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ของวัน ก่อนจะเลิกกวนน้องน้อยให้ขุ่นข้องใจ แต่ดูท่าพอฟังคำตอบแล้วพายอาจจะอยากให้กิวกับพัฟไปคุยกันเองสองคนมากกว่ามาถามจากเจ้าตัวเสียแล้ว เพราะพอได้ฟังวงหน้าใสที่เคยขึ้นสีระเรื่อเมื่อก่อนหน้านี้แล้วจางหายไปบัดนี้มันถึงขีดสุดขององศาที่ใบหน้าจะรับได้จนต้องระเบิดตู้มกลายเป็นสีแดงสดกระจายอยู่ทั่วหน้า พร้อมปากที่อ้าพะงาบ ๆ เหมือนปลากำลังจะขาดอากาศหายใจ



“พี่อยากจะรู้ว่าคนบ้านนี้เขาเลี้ยงลูกชายคนเล็กกันยังไงถึงได้ปล่อยให้ลอยหน้าลอยตาทำตัวน่ารักใส่พี่แบบนี้เนี่ย”



To be continue


-------------------------------------------------------------------



สวัสดีอีกครั้งหลังจากที่หายไปนานค่ะ

ความจริงตั้งใจจะมาต่อให้ได้อาทิตย์ละครั้งเช่นเคย แต่สองอาทิตย์ที่ผ่านมานั้นช่างหนักหน่วง ทั้งชีวิตส่วนตัวและชีวิตการเป็นติ่งค่ะ  :katai1:
แต่ได้แรงฮีลจิตใจกลับมาแล้ว จะมาต่อให้ได้เรื่อย ๆ ตามกำหนดเดิมอย่างที่เคยเป็นนะคะ

ตอนหน้าคาดว่าเนื้อหาจะเยอะกว่านี้ อยากเข้าจุดไคลแม๊กซ์เร็ว ๆ จังเลยน้อ หวาน ๆ อะไรน่าจะงดบ้างน้อ //โดนเตะ  :katai2-1:
ชีวิตรักของพี่กิวกับน้องพายจะดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ค่ะ แต่ตอนนี้ใจคิดไปยันตอนพิเศษแล้ว... 5555555555
ยังไงก็ฝากชีวิตรักของทั้งสองคนนี้ด้วยนะคะ (ของพวกพี่พัฟกับพี่รูทด้วย)

หากมีอะไรผิดพลาดต้องขออภัยด้วยค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามมาจนถึงตอนนี้ด้วยนะคะ  :pig4:


ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
โอ้ยยยยยยย น่ารักกกกกกกกกกก

 :hao5: :hao5: :hao5:

ก๊าวมากกก พี่กิวของเค้าาา แงงง (แย่งน้องพายแป๊บ)
ชอบตรงที่พี่กิวไม่ชอบอาหารญี่ปุ่น แต่ก็ยังอุตส่าพาน้องพายไปกิน
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ววันหลังพาน้องไปกินอาหารอีสานด้วยนะคะ จะได้ครบสูตร 5555

นี่ชอบมุกเสี่ยวของพี่กิวด้วย
ไม่คิดว่าผู้ชายคนนี้จะเสี่ยว โอ้ยยย แต่ทำไมมันดี (พี่กิวเป็นคนที่ใช่ ทำอะไรก็ถูก กร้ากกก)

ยิ่งประโยคสุดท้ายนะ.. อย่าว่าแต่น้องพายจะเขินเลย
เป็นเราก็เขินข่ะ จริงๆ แล้วพี่กิวควรร้องเพลงนี้ให้น้องพายฟังนะ..

ที่บ้านเธอมีอีกไหม มีอีกไหม มีอีกไหม มีอีกคนไหมเธอ
มีอีกไหม มีอีกไหม ที่น่ารักเหมือนเธอ


แอร๊ยยยยย  :-[

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
น่ารักอ่ะ ตามคนข้างบนมาอ่าน
ชอบพี่กิวมากอ่ะ ชอบหนุ่มขรึม  คริ คริ

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
พี่กิววววววววววววววววววววววววววว
พายไม่เขินก็บ้าแล้วววววววว
จะบอกว่าต่อให้มุขเสี่ยวแค่ไหน
ถ้าพี่กิวเล่นพายก็เขินไปหมดป้ะ
นี่ธีร์คู่กะวินรึเปล่า อิอิอิ
นี่ขนาดยังจีบกันไม่ติดนะถ้าติดแล้วจะขนาดไหน
ผชที่ยอมไปกินอะไรที่ตัวเองไม่ชอบเนี่ยหายากกก
แต่ดีที่อ่านตอนรักกันแล้วยังหว๊านหวาน
ไม่งั้นจะคิดว่าพี่กิวทำแค่เพราะช่วงโปรโมชั่นกร๊าก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
อื้ม...... เรื่อง่น่ารักไปไหมมม กริ้ดดดด

ออฟไลน์ chisarachi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1019
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-1
เป้นพวกที่ชอบพระเอกเท่ๆ
แต่มีจุดอ่อนของหัวใสจ
พี่กิวของศรี พ่อเจ้าพระคุณคะน่ารักมากกกกกกกกกกกก
แบบชอบพี่กิวมาก สมที่คนเขียนบอกว่ารักมุ้งมิ้งมาก5555555555555
อ่านแล้วนีึกถึงสมัยก่อนเลยค่ะ
ที่เราอ่านฟิคนักร้อง
ทำไมอ่านเรื่องนี้ฟิลเราคล้ายๆแบบนั้นเลย
บอกไม่ถุกเหมือนกัน

ออฟไลน์ ennewiis

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
♥ หัวหน้าแก๊งค์ (ภาคหลัก)
ตอน ติวสอบ






หากพูดถึงช่วงชีวิตวัยเรียน

บางคนอาจจะคิดถึงเรื่องเพื่อน อาจารย์ แฟนที่เคยคบ กิจกรรมที่เคยทำ หรือแม้แต่เกรดเฉลี่ยที่เคยได้ แต่แน่นอนว่าหากคิดถึงสิ่งที่ลืมไม่ได้ในช่วงวัยเรียน ความยากลำบากในช่วงนึงของชีวิต ไม่น้อยกว่า 50% ย่อมต้องคิดถึงเรื่องการสอบ





“พายป้อนหน่อย”

“โหย อิจฉาอะ น้องพายป้อนพี่รูทบ้างสิ”

“มีมือก็กินเองสิวะ มาใช้น้องคนอื่นทำไม เดี๋ยวกูป้อนเองก็ได้มา”

เสียงง้องแง้งของพี่ชายและเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ด้านข้างดังสลับกันไปมาเป็นระลอก ดวงตากลมเหลือบมองไปด้านซ้ายที ด้านขวาทีแล้วคว้าคุกกี้ฝีมือตัวเองมาใส่ปาก ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าแต่บรรยากาศของสองคนนี้มันมีอะไรแปลก ๆ แบบที่พายก็อธิบายไม่ถูก แต่ดูอีหรอบนี้แล้วการติวหนังสือสอบคงต้องเลื่อนไปอีกสักพักใหญ่ ๆ ซะแล้วล่ะมั้ง?

วันนี้เป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ที่ทุกคนรอคอย แต่อาทิตย์หน้าทั้งโรงเรียนที่พายเรียนและที่พวกพี่พัฟเรียนต่างก็มีสอบกัน ดังนั้นแทนที่จะได้ออกไปเที่ยวข้างนอก รูทก็จัดการชวนทุกคนมาติวสอบกันที่บ้านแทน แถมยังบอกให้พายอยู่บ้าน ทำขนมให้กินแล้วจะช่วยติวให้ พอโดนไซโคมาก ๆ เข้าพายก็ยอมแพ้ บอกลาตารางนัดติวกับเพื่อนแล้วลงทุนตื่นมาทำคุกกี้อบตั้งแต่เช้า แต่ตั้งแต่ที่ย่างเท้าเข้าบ้านยันตอนนี้พายก็ไม่เห็นว่าพี่ ๆ จะติวอะไรกัน จนกำลังคิดว่าตัวเองคิดผิดซะแล้วมั้งที่ยอมตามน้ำตอบตกลงไปแบบนี้

“สอบวิชาไหนก่อน”

จู่ ๆ คนที่นั่งกินขนมเงียบ ๆ เหมือนตัวเองไม่มีตัวตนเสียนานก็เอ่ยถาม พายมองคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยดวงตาสีเข้ม อีกฝ่ายก็มองตอบกลับมา เลิกคิ้วคล้ายจะย้ำคำถามแล้วพยักเพยิกไปทางหนังสือตั้งเล็กที่วางอยู่ไม่ไกลจากจานใส่คุกกี้

“คณิตตอนเช้าวันจันทร์เลย พี่กิวจะติวให้เหรอ?”

“ไม่อ่ะ โง่ นอกจากอังกฤษก็ไม่ได้อะไรเลย”

ฟังคำตอบแล้วพายก็ถลึงตาใส่ น้องเล็กสุดในกลุ่มคว้าจานคุกกี้ที่พร่องไปค่อนข้างเยอะส่งให้ กิวรับมาทั้งสีหน้าสงสัย และน้องก็อุตส่าห์ใจดี เฉลยคำตอบให้เสียกระจ่างด้วยคำพูดคำจาที่ช่างขัดกับใบหน้ายิ้ม ๆ ไร้พิษภัย

“พี่กิวกินไปเงียบ ๆ ดีที่สุด เชื่อพายนะ” หรือความหมายอีกอย่างว่า

"อย่ากวนตีน"


“.....”

“ฮะ ๆ ๆ ไอ้กิวมึงโดนละ มึงโดนนน กวนตีนใครไม่กวนมากวนน้อง สมน้ำหน้ามึง อุ๊บ!”

“กินต่อไปเหอะมึงน่ะ บอกจะมาติวแต่ไม่เริ่มอะไรเลย ไอ้กิวยังหวังดีมากกว่าอีก”

รูททำเสียงอู้อี้เพราะโดนพัฟยัดคุกกี้เข้าปาก หน้าเล็ก ๆ แต่ปากเต็มไปด้วยคุกกี้ทำให้ดูเป็นรูปทรงแปลกประหลาดนั้นดูตลกซะจนต้องหัวเราะตามไปด้วย ทั้งสองเริ่มแกล้งกันเองจนพื้นที่บนโซฟาฝั่งพายโดนรุกล้ำไปด้วย น้องโดนรูทเบีดซะจนตัวแบนแนบกับที่เท้าแขนแต่ก็ยังหัวเราะไม่หยุด ก็หน้าของทั้งคู่ที่เปื้อนไปด้วยคุกกี้และในปากที่พ่นคำพูดอู้อี้ไม่รู้เรื่องใส่กันมันตลกมากจนพายเกือบจะขาดอากาศหายใจเพราะการหัวเราะ

นอนแบบหัวเราะอยู่สักพักก็มีมือยื่นมาจับแขนพายแล้วช่วยแงะออกมาจากที่เท้าแขนก่อนจะฟาดหนังสือตีเข้าไปที่หัวของสองเพื่อนซี้ที่ยังไม่เลิกเล่นกันให้ร้องโอดโอยกันไป

“โหย ไอ้เฮียกิวฟาดโคตรแรง แล้วนั่นมึงจะทำอะไร”

 “ให้น้องมานั่งนี่ พวกมึงก็ติวได้แล้ว ไม่งั้นก็เข้าห้องนอนไปเลยไป”

คนตัวเล็กคลำหัวป้อย ๆ บริเวณที่โดนตี คุกกี้ในปากร่วงลงพื้นไปจนหมดแล้วตอนที่โดนตีเมื่อกี้ ตาเรียวหรี่มองเมื่อเห็นว่าเพื่อนกำลังจูงแขนน้องให้ไปนั่งข้างตัวเองแทน คำตอบของกิวเล่นเอารูทต้องเบ้ปากบ่นหงุบหงิบเสียเบา ขาเรียวยันเข้าที่ท้องพัฟให้ลุกออกไปจากร่างของตนเสียที รูทชันตัวนั่ง กระแอมเบา ๆ ปัดเศษคุกกี้ออกจากเสื้อของตน ก่อนคว้าแว่นที่ถูกถอดคาอยู่บนโต๊ะมาใส่ มาดช่างดูดีมีสไตล์สมกับที่เรียนสายวิทย์-คณิต แต่ติดที่เศษคุกกี้ตรงมุมปากมันดันดรอปความน่าเชื่อถือลง

“อะแฮ่ม... เอาล่ะเลิกเล่น พี่จะติวให้น้องพายเป็นการตอบแทนเอง สภาพที่เห็นเมื่อกี้ลืมมันไปนะครับ นั่นร่างแยก จริงจังแบบนี้สิร่างจริง”

“บุพการีเป็นนารูโตะหรือไงถึงมีร่างแยกร่างจริง”

 “กวนตีนอีก  พวกมึงก็อ่านวิชาแรกรอไปเลย โดยเฉพาะมึงกิว เก่งอยู่วิชาเดียวมันไม่รอดนะเว้ย ยัดเข้าไปเยอะ ๆ"

ไม่วายโดนแขวะจากพัฟที่นั่งปัดเสื้ออยู่ข้าง ๆ รูทไม่สนใจที่จะต่อความจึงตัดบทสั่งให้แต่ละคนอ่านหนังสือเรียน ในขณะที่ตนเองก็เริ่มลงมือติววิชาคณิตศาสตร์ที่น้องบอกว่าจะสอบวิชาแรกให้อย่างค่อยเป็นค่อยไป

เสียงอธิบายสูตรดังสลับกับเสียงขีดเขียนและเสียงถามของน้อง พายเป็นคนหัวดีคนนึง แต่วิชาเลขเป็นอะไรที่เจ้าตัวไม่ชอบเอาเสียงเลย เพราะไม่สามารถจำสูตรและวิธีการแก้โจทย์ได้เหมือนคนอื่นเขา ตอนเห็นว่าสอบวันแรกแถมวิชาแรกก็แทบจะกระอักเลือด พวกวินก็ไม่ต่างกัน แม้จะเก่งกันไปคนละวิชาแต่เรื่องเลขเท่านั้นที่ทั้งกลุ่มไม่สามารถติวให้กันได้ ขนาดตอนสอบเก็บคะแนนในห้องแต่ละคนยังต้องปล่อยไปตามมีตามเกิด

“งั้นตรงนี้พายก็เอาค่ามาแทนได้เลย แล้วค่อยเอามารวมกันอีกที”

“ใช่ ๆ เก่งเหมือนกันนี่เรา ไหนลองสูตรนี้สิ”

“ข้อนี้ต้องแก้สมการแรกก่อน โอ้ย... พี่กิวหนักนะทับมาทำไมเนี่ย”

สมาธิที่อยู่กับตัวเลขตรงหน้ากระเด็นหายไปทันทีที่หัวหนัก ๆ ทับลงมาบนไหล่ พายหยักไหล่ข้างที่โดนพิงเป็นการไล่แต่กิวก็ไม่มีทีท่าว่าจะยกหัวออกแต่อย่างใด ทำเพียงแค่นอนพิงแล้วเหลือบมองตัวเลขทั้งหลายแหล่ที่อยู่บนสมุดน้อง ส่วนของตัวเองวางคั่นหน้าทิ้งไว้ที่ข้างตัวแทน

“ง่วง นอนก่อน”

“ก็นอนดี ๆ ดิวะ มาพิงพายทำไมเนี่ย”

“งั้นนอนตัก”

“เออ ๆ จะพิงก็พิงไปป่ะ หลับไปเลยนะ ไม่ต้องตื่นมาเลย”

พายกลอกตาไปมาแล้วก้มหน้าทำโจทย์ที่อยู่ในสมุดไม่สนใจสายตาที่จ้องมาด้วยความอยากรู้อยากเห็นของพี่ชายตัวเองและครูพิเศษจำเป็น แต่ถึงไม่มองก็พอจะรู้ว่าทั้งสองคนกำลังคิดอะไรอยู่ แม้ว่าทั้งพายจะย้ำอยู่เสมอว่ายังไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่เวลาที่อยู่ด้วยกันแล้วพี่กิวมาอ้อนแบบนี้ ก็มีบ้างที่จะเจอสายตาล้อ ๆ ของพี่ชายทั้งสองคน

“อยากนอนพิงน้องพายบ้างอะ...”

รูทกระพริบตาใต้กรอบแว่นปริบ ๆ อย่างน่าเห็นใจ พายเงยหน้ามายิ้มให้แต่เลือกที่จะไม่ตอบ ด้วยรู้ดีจากประสบการณ์ที่เคยผ่านมาว่ารูทเพียงแค่พูดด้วยความอิจฉาไปแบบนั้น ไม่ได้จริงจังอะไร ถ้าเจ้าตัวจะทำจริงนี่สิ ต่อให้ไม่พูดก็จะเดินปรี่มาทำก่อนแล้ว เรียกว่าเป็นพวกมือไวก็ว่าได้

“ยุ่งจังกับน้องกูเนี่ย รีบ ๆ ติวให้น้องแล้วมาติวให้เพื่อนบ้าง”

“ไอ้นี่ก็ดักทางจัง นี่กูเริ่มคิดแล้วนะว่ามึงหวงน้องหรือว่าหวงกู”

พายก็คิดแบบนั้นเหมือนกันแหละ,,, อยากจะตอบพี่รูทกลับไปแบบนี้เหมือนกันแต่เห็นสายตาพี่ชายแท้ ๆ ชิงมองกลับมาก่อนเลยไม่ค่อยกล้าเท่าไหร่ พายเลยทำเพียงแค่อมยิ้มแล้วตั้งหน้าตั้งตาทำโจทย์ให้เสร็จ ๆ ไปเพื่อที่จะได้ถึงเวลาของพี่ ๆ ได้ติวกันเองเสียที ไม่งั้นจะกลายเป็นว่าวันเสาร์ทั้งวันนี้หมดไปกับการติวให้พายคนเดียวทั้งที่พี่คนอื่น ๆ ก็หวังจะสลับกันติวเหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากว่าติวเสร็จแล้ว สถานภาพการเป็นหมอนพิงของเขาก็จะจบลงด้วย เพราะงั้นรีบทำให้เสร็จคือหนทางที่ดีที่สุด



“พายเข้าใจวิธีการทำหมดแล้วล่ะ ขอบคุณมากนะครับพี่รูท”

“ไม่เป็นไรครับผม น้องพายนี่น่ารักจริง ๆ เลย ไม่เห็นเหมือนพี่ชายสักนิด เปลี่ยนมาเป็นน้องพี่มั้ย?”

 “เอ๋ ได้เหรอครับ งั้นไปตอนนี้เลย บ๊ายบายนะพี่พัฟ” ว่าแล้วก็โบกมือไปมาให้พัฟ เย้าแหย่พี่ชายตนเองขนาดที่รูทผู้เป็นต้นเรื่องยังต้องหัวเราะ ฝ่ายพัฟก็จัดการดีดเหม่งน้องชายตัวเองเบา ๆ อย่างหมั่นเขี้ยว

“เออ... มึงไปเลยนะ กูไม่มีละน้อง กูเป็นลูกคนเดียว”

“โอ๋ ๆ ตัวโตอย่างอนนะ พายล้อเล่น”

พายกวาดปากกาลงกระเป๋าแล้วปิดหนังสือ ปากก็ง้อพี่ชายตัวเองไปด้วย ตากลมเหลือบมองคนที่ยังหลับพิงตัวเองอย่างไม่มีท่าทีว่าจะตื่นหรือสะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อยก็อดสงสัยไม่ได้ว่าพี่กิวเป็นลูกครึ่งตุ๊กแกหรือเปล่า ทำไมหัวพี่แกถึงได้ไม่ไหลตกลงมาจากบ่าของเขาเลยสักครั้งเดียว แถมเวลาที่ขยับไม้ขยับมือก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมามองเรื่องราวรอบตัวเลยด้วยซ้ำ

ไหล่เล็กขยับเบา ๆ หมายจะปลุกให้คนที่หลับอยู่ลุกมานั่งดี ๆ เสียทีเพราะถึงตาที่ตนต้องเป็นฝ่ายติวบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเจ้าของหัวโต ๆ นี่หลับลึกหรือตายกันแน่ถึงได้ไม่สนใจแรงขยับเขยื้อนของเขาเลย เมื่อเจอสถานการณ์แบบนั้นวิธีเดียวที่พายคิดได้คือการใช้นิ้วของตนเขี่ยที่ข้างแก้ม แต่ก็ยังไม่ได้ผล มีเพียงแค่คิ้วเข้มที่ขมวดเล็กน้อยเท่านั้น เห็นแบบนั้นพายเลยเปลี่ยนพื้นที่ มาสะกิดตรงจมูกที่เป็นส่วนอ่อนไหวของร่างกายแทน พัฟกับรูทที่เห็นว่ามันน่าจะสนุกดีก็นั่งมองวิธีปลุกของน้องไปด้วย ปกติมีใครที่ไหนจะกล้ามาทำกับคนหน้าเถื่อนแบบเด็กคนนี้ เพราะงั้นการได้ดูปฏิกิริยาของกิวถือเป็นเรื่องสนุกไม่น้อย

นิ้วเล็กเขี่ยเบา ๆ ตรงบริเวณใต้จมูก คนตัวโตที่ยังหลับตาอยู่สูดจมูกฟึดฟัดแต่ยังไม่คิดจะลุก พายเลยจัดอีกทีสะกิดต่อไปเรื่อย ๆ จนคนที่หลับอยู่ทนไม่ไหวต้องคว้าหมับเข้าที่ข้อมือเล็กให้หยุดการกระทำอุกอาจแล้วยอกที่จะลืมตาตื่นขึ้นมามอง คิ้วเข้มขมวดแทบจะชนกันบอกให้รู้ว่าคนถูกปลุกไม่ได้อารมณ์ดีมากนัก

“ทำเหี้ยอะไร...ครับ”

ด่าไปก่อนจนเมื่อเห็นว่าใครกันที่เป็นผู้ปลุกตนให้ตื่นจากหลับใหลก็เอ่ยเสียงเบาแล้วรีบเติมคำสุภาพลงท้าย ฝ่ายหมอนหนุนจำเป็นที่ได้ยินแบบนั้นก็หน้างออย่างไม่พอใจ มานอนทับเขาแล้วด่าเขานี่คืออะไร จะหาเรื่องพายหรือไงกัน ส่วนผู้ร่วมสังเกตการณ์ทั้งสองสติหลุดไปแล้ว รูทหัวเราะเสียงดังทำลายบรรยากาศเมื่อครู่ไปเสียสนิท พัฟก็ปิดปากหันหน้าไปหัวเราะอีกฝั่งแทนแบบเงียบ ๆ แต่กลับสั่นไหวเพราะเสียงหัวเราะไปทั่วร่าง

“มายืมไหล่เขาแล้วไม่ยอมตื่น พอปลุกตื่นก็มาด่ามันใช่เหรอครับพี่กิว?”

“..... ขอโทษ นึกว่าพวกไอ้รูท” ตอบตามที่ใจคิดแล้วเหลือบมองเพื่อนทั้งสองที่นั่งหัวเราะแบบไม่ไว้หน้า คนเพิ่งตื่นกำลังงง ๆ ไม่คิดว่าจะเผลอด่าน้องที่หวังดีไปเสียได้

“จะใครก็ไม่ควรด่าสิ คราวหลังไม่ทำโอเคเปล่า?”

“ถ้าไม่ลืม”

เลือกจะไม่ตอบรับเพราะรู้ว่าตัวเองทำไม่ได้แน่ ๆ ฝ่ายน้องก็พอรู้เลยพยักหน้าหงึก ๆ ให้ พร้อมยื่นหนังสือสอบที่กิววางทิ้งไว้มาส่งให้ เตือนด้วยการกระทำว่าถึงเวลาที่พวกรุ่นพี่จะต้องติวกันแล้ว พายที่จัดการเก็บของของตนเองลงกระเป๋าอย่างเรียบร้อยลุกจากโซฟาที่นั่ง ตั้งใจจะเอ่ยลาพี่ ๆ แล้วขึ้นไปอ่านหนังสือข้างบนแทนแต่มือที่ยังจับข้อแขนไว้ไม่ยอมปล่อยเสียที

“พี่กิว พายจะไปอ่านหนังสือข้างบนแล้ว”

เอ่ยดูเชิงแล้วมองไปที่แขนของตนเอง ตาสีเข้มมองตามแล้วก็เงยหน้ามองน้องอีกรอบ มือที่กำไว้ก็ยังไม่คิดจะคลายแม้แต่น้อย “นั่งอยู่แถวนี้ไม่ได้เหรอ?” ถามออกมาตรง ๆ แม้หน้าตาจะไม่แสดงออก แค่มองนิ่ง ๆ แต่พายกลับเห็นภาพสุนัขหมาป่าตัวใหญ่กำลังจ้องมองตนเหมือนรอให้ลูบหัวอยู่อย่างมีความหวัง

“นั่งอยู่แถวนี้พวกพี่ติวกันพายอ่านไม่รู้เรื่องสิ”

“ไอ้รูทมันพูดเบา ๆ ก็ได้”

ลงกูอีกละ หน้าหนุ่มตี๋คล้ายจะบอกแบบนั้น “มึงจะให้น้องพายเขามานั่งแกร่วกับพวกเราทำไมวะ ติวให้พวกมึงเหมือนสีซอเข้าหูหมา น้องต้องมานั่งฟังด้วยน่าเบื่อตาย” พูดเหตุผลให้เพื่อนรักฟัง เผื่อว่าจะทำให้มันยอมปล่อยไปตามทางของน้อง ไม่ต้องมาคลุกอยู่กับพวกเขาตรงนี้

กิวหันมามองเจ้าของคำพูด แล้วเหลือบมองพัฟที่นั่งข้าง ๆ กัน พี่ชายน้องก็พยักหน้าแบบเห็นด้วยกับคำพูดของรูทก็ยอมที่จะปล่อยมือที่จับเอาไว้แล้วนั่งนิ่งโดยไม่พูดอะไรอีก พายได้ยินเสียงครางเบา ๆ จากพี่รูทว่า
“ชิบหายแล้ว มันก่อม๊อบเงียบ” หรืออะไรสักอย่างนี่แหละ แต่ก็พอจะแปลความหมายได้ว่าพี่กิวกำลังเริ่มงอแงด้วยวิธีการเงียบใส่เหมือนยอมรับแต่ก็เป็นการต่อต้านกลาย ๆ

เห็นพวกพี่ชายตกอยู่ในที่นั่งลำบากแบบนั้นจะให้พายทิ้งแล้วไปลันล้าอยู่ในห้องของตัวเองก็ไม่ใช่เรื่องเท่าไหร่นัก พี่รูทอุตส่าห์มาติวให้ พี่พัฟก็ยอมอยู่เงียบ ๆ นั่งอ่านหนังสือแบบไม่กวนตลอดเวลาที่พายติว (ถ้าไม่โดนกวนก่อนนะ) นึกได้แบบนั้นคนตัวเล็กจึงทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ แกนนำม๊อบเงียบแล้วเริ่มเปิดหนังสืออ่าน ผ่านไปสักพักคนตัวเล็กก็รู้สึกว่าตนเองกำลังโดนมองเหมือนรอคำตอบอยู่ครู่นึงจึงต้องยอมแพ้ วางหนังสือในมือลงแล้วถอนหายใจใส่เหมือนระอาเต็มที



“ก็ถ้าไม่อยู่คนบางคนเขาจะไม่มีกระจิตกระใจติวนี่หน่า จะนั่งเป็นกำลังใจสักหน่อยก็คงไม่เป็นอะไร เนอะ?”



To be continue


-------------------------------------------------------------------



สวัสดีกลางเดือนตุลาคมค่ะ

หายไปนานเพราะงานหลวงที่เข้ากระชั้น ตารางเรียนและวันสอบที่ถาโถมค่ะ (แต่ยังมีเวลาเล่นทวิตทั้งวัน) ตอนนี้เลยมาแบบสั้น ๆ เช่นเคยค่ะ คือคิดอะไรได้ก็ใส่เลย เหมือนฟิลลิ่งตัวเองช่วงสอบล้วน ๆ :mew4:

ตอนนี้มีบล็อคใหม่แล้วล่ะค่ะ ไว้สำหรับลงผลงานฟิคชั่นและนิยายโดยเฉพาะ คิดว่าใช้ง่ายกว่าบล็อคก่อนนะ บล็อคใหม่
ค่ะ แล้วก็สามารถเปลี่ยนทวิตเตอร์ใหม่ด้วย อัพเดททางลายเซนต์นะคะ ถ้าจะคุยกันก็เมนชั่นมาได้ตลอดเลยค่ะ หรือจะ #หัวหน้าแก๊งค์ ก็จะเข้าไปส่องเช่นเคยค่ะ

ขอบคุณสำหรับทุกคอนเม้นนะคะ แม่ยกพี่กิวทำไมเยอะแบบนี้! เฮียเกิดมาเพื่อเป็นขวัญใจคนสินะคะ ส่วนน้องพายก็หวานใจนายหน้าเถื่อน  :hao7: :hao7: :hao7:

แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ จะพยายามเข็นออกมาไว ๆ โน๊ะ
ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดค่ะ  :pig4:
   

ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
พี่กิวนี่มันพี่กิวจริงๆ 5555555555
โอ้ย ชอบ อยากได้ ขอได้มั้ยผู้ชายคนนี้  :o8:

คือแบบไม่เกรงใจพี่ชายน้องเลยเน้อออออ
นี่มาติวสอบหรือมาจีบน้องหรืออะไร? 55555

แต่ตอนนี้พัฟรูทมุ้งมิ้งน่ารักมากเลยค่ะะะะะะ >_<
อะไรกันเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อคู่นี้ กัดกันตลอด แต่ทำไมรู้สึกว่าน่ารัก 5555

รอตอนหน้าาา  :katai5:

ออฟไลน์ tuckky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
ตามมาจากนิยายแนะนำ อ่านแล้วก๊าวใจจริงๆ
พี่กิวจะน่ารักไปไหน ชอบๆ..มาลงชื่อติดตามค่ะ

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
โอ้ยยยยยยยยยยย ความน่ารักมันพุ่งมากระแทกเข้าตาคนอ่านจังเลยยย พี่กิวน้องพายสวีทดีจัง เอาใจใส่กันด้วย กริ๊ดค่าาา ชอบๆ

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
น้งพายมันน่ารัก น่าฟัดจริงๆ เป็นเสน่ห์ของน้อง
พี่กิวถึงได้หลงรักแต่แรก

ออฟไลน์ ssipra

  • นักอ่านมืออาชีพ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
อ๋อยยยย ทำไมน่ารักแบบบนี้  :o8: :o8: :o8:

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
พี่กิวเอาแต่ใจฟะะะะ แต่น่าร้ากกก
ดูดิ๊น้องพายก็ตามใจ
แต่แบบจะติวรู้เรื่องปะนายยยย5555

ออฟไลน์ chisarachi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1019
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-1
ชอบผูชายแบบพี่กิวววววววววววววววววววว
มนกิ๊วก๊าวหัวใจ
พี่กิวน่ารักอ่า าา า
ยิ่งอยู่กะน้องพายก็น่ารัก
แม้จะยอมน้อง แต่ไม่ได้สยเสียความเป็นตัวเองเลย
ที่น้องบอกไม่ควรด่าใคร
ตอนแรกคือเราคิดถ้าพี่กิวรัีบปากนี่ แสดงว่านางงต้องเกรงนน้องมากแน่ๆ  และัคิดว่านางรับปากแต่ทำไม่ได้แน่ๆ
แต่พี่กิวไม่รับปากกก แต่กลับบอกว่าจะพยายามบลาๆ รู้สึกว่าพี่กิวนางยังมีความเป็นตัวของตัวเองอยู่
ตอนเอาแต่ใจงอแงนี่น่ารักมากก 
ชอบตอนน้องพายสะกิดแก้ว
เขี่ยจมูก อ่านละเขินแทนรูทกะพัฟเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
หายไปไหนน้อออออ อยากอ่านแล้วค้าบบ

ออฟไลน์ ennewiis

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
♥ หัวหน้าแก๊งค์ (ภาคหลัก)
ตอน อันตราย






สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต่างก็มีสัญชาตญาณในการเอาตัวรอด

ก่อนเกิดแผ่นดินไหว 24 ชั่วโมง ฝูงนกพิราบป่าจะบินหนีจากศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหว สุนัขและแมวจะกระวนกระวายอย่างที่มันไม่เคยเป็นมาก่อน สัตว์ป่าจะแตกตื่นและเริ่มอพยพออกจากถิ่นที่อยู่อาศัย เพื่อป้องกันตนเอง ป้องกันสิ่งที่รัก และต่อสู้เพื่อเอาตัวรอด แน่นอนว่ามนุษย์เราก็เช่นกัน






วันนี้กิวอารมณ์ไม่ดีแบบไม่ทราบสาเหตุ

ตั้งแต่ตื่นนอนมาร่างกายพลันรู้สึกร้อนรุ่ม กระสับกระส่าย ไม่สบายตัวเหมือนที่เคยเป็น เขาคิดว่าตัวเองคงเริ่มจะเป็นหวัดหลังจากที่ตากฝนหลงฤดูขณะขับรถมอเตอร์ไซค์กลับบ้านเมื่อคืนวาน แต่เมื่อจัดการอาหารเช้าง่าย ๆ และกินยาแก้หวัด พร้อมนอนพักผ่อนเต็มตาอีกหนึ่งตื่นความรู้สึกว้าวุ่นนั้นกลับไปจางหายไป เพราะอะไรเข้าก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ยังดีที่ตอนนี้อยู่ในช่วงปิดเทอมกลางภาคจึงไม่ต้องกังวลเรื่องวันลาหยุดหรือเสียงโทรศัพท์น่ารำคาญจากอาจารย์ฝ่ายปกครองที่โทรมาฟ้องพ่อกับแม่


แต่โทรมาทุกครั้งสองคนนั้นก็ไม่อยู่บ้านรับฟังหรอก


กิวก้าวเท้าลงจากเตียง รีบอาบน้ำชำระร่างกายเพื่อเรียกสดชื่นกลับมาและจัดการตัวเองให้พร้อม หลังจากนี้เขาจะแวะไปบ้านพัฟ รับน้องออกไปดูหนัง ทานข้าวและซื้อหนังสือที่เจ้าตัวอยากได้ คาดว่างานนี้รูทกับพัฟคงจะตามไปเป็นก้างด้วย แต่มีหรือที่กิวจะหวั่นไหว อยากจะตามมาก็ตามไป ยังไงเขาก็ไม่ได้สนใจที่จะแสดงออกต่อหน้าคนทั้งคู่ – คนทั้งโลกอยู่แล้วว่าเขาคิดอะไรและอยากจะทำอะไร มันเป็นสิทธิ์ของคนเราไม่ใช่หรือยังไง

แต่ทันทีที่ก้าวเท้าลงจากบันไดหินอ่อนขั้นสุดท้าย ตาคมก็เห็นคนที่ตนไม่คิดว่าจะได้พบในช่วงเวลาแบบนี้ กิวพรูลมหายใจขณะเดินไปทางห้องครัว “สวัสดี” เอ่ยทักทายเพียงเท่านั้นแล้วเดินผ่านทั้งสองคนไปเปิดตู้เย็น คว้านมสดที่ตนซื้อมากระดก วันนี้คนรับใช้เหมือนจะต้องไปทำเรื่องอื่นกันหมดจึงไม่มีใครสักคนขึ้นไปตามเขาลงมาทานข้าว แต่กลางวันนี้เขาไม่ตั้งใจจะร่วมโต๊ะอาหารกับที่บ้านอยู่แล้ว ถือว่าดีเพราะเขาจะได้หลีกเลี่ยงบรรยากาศแย่ ๆ ที่ลอยวนอยู่ภายในครัวได้ กิวยักไหล่ขณะคิดถึงเรื่องนี้

“จะทำอะไรก็หัดมีมารยาทซะบ้าง” เสียงของพ่อดังลอดหนังสือพิมพ์ฉบับกลางวันออกมา กิวกลอกตาไปมา เริ่มแล้ว รู้ตัวดีว่าสิ่งที่ตามมาคงไม่พ้นคำพูดสั่งสอนปนแดกดันที่เขาไม่เคยชอบฟังเลย

“ตื่นตอนนี้มันจะไปตามทันคนอื่นเขาได้ยังไง คิดว่าปิดเทอมแล้วจะทำอะไรก็ได้งั้นหรือเจ้ากิว ยังไงซะอนาคตแกต้องไปทำหน้าที่แทนฉัน หัดรู้จักวางตัวให้มันดี ๆ ซะบ้าง”

กิวคิ้วกระตุกเมื่อได้ยินคำพูดกึ่งบังคับจากปากผู้เป็นพ่อ เขาไม่เคยคิดจะดำเนินรอยตามตำแหน่งท่านประธานแบบคนเป็นพ่อเสียด้วยซ้ำ ถ้าจะว่ากันตามตรงเขายังเลือกทางเดินของตัวเองไม่ได้ ไม่รู้ว่าควรจะก้าวต่อไปตรงไหน อยากจะทำอะไรต่อไปในอนาคต เรียกว่าใช้ชีวิตแหลกเหลวไปวัน ๆ ก็ว่าได้ ดังนั้นพอมาเจอคำพูดแบบนี้ อารมณ์ที่ครุกรุ่นมาตั้งแต่ช่วงเช้าจึงแย่หนักเข้าไปอีก แต่เขาไม่ได้ตอบอะไรไป ไม่อยากจะสาวความยาวด้วยรู้ดีว่าหลังจากนั้นมันจะเกิดอะไรขึ้น

“หัดสนใจใฝ่รู้เรื่องรอบตัวซะบ้าง ฉันไม่ได้ส่งเสียให้แกไปทำตัวเกกมะเหรกเกเรไปวัน ๆ หรือไปรวมแก๊งค์กับไอ้พวกขี้ยาพวกนั้นนะกิว อย่าคิดว่าฉันไม่รู้เรื่องที่แกทำ... แล้วนั่นแกไปทำบ้าอะไรกับหูมา”

ผู้เป็นพ่อวางหนังสือพิมพ์ที่ถืออยู่ในมือลงเมื่อเห็นต่างหูสีดำขนาดใหญ่ติดอยู่ตรงใบหูแล้วมองหน้าลูกชายคนเดียวของบ้าน เขาจำไม่ได้เลยว่าไปสอนลูกให้ทำตัวเหมือนกุ๊ยข้างถนนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทั้งรถที่แต่งเสียไม่เหลือเค้าเดิม เสื้อผ้าหน้าผมที่ขัดหูขัดตาผู้เป็นพ่อแม่ และนี่จะยังทำตัวเลียนแบบแฟชั่นที่ดูแล้วไม่เจริญตาเสียเลยนั่นอีก คุณการุณย์ขมวดคิ้วหนักกว่าเดิมเมื่อคนที่เขากำลังพูดด้วยทำเหมือนไม่สนใจ ปล่อยให้คำพูดของเขาเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา แถมสายตาที่มองไปทางอื่นนั้นมันเหมือนกับว่าเขาไม่มีตัวตน ความโกรธแผ่กระจายภายในอกของผู้เป็นพ่อจนต้องขึ้นเสียงดัง

“ใครสั่งใครสอนให้แกทำตัวแบบนี้กิว! เพราะเพื่อนเลว ๆ พวกนั้นของแกใช่มั้ย!?”

“ผมเป็นแบบนี้เพราะผมเลือกเอง อย่าไปว่าคนอื่น” กิวสวนกลับทันควัน เขาไม่พูดใช่ว่าเขาจะปล่อยให้ผู้เป็นพ่อลากคนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามายุ่งได้ แต่เหมือนคำพูดของเขาจะไปจุดชนวนระเบิดเข้าเสียแล้ว

“เลือกเองงั้นเหรอ!? เลือกที่จะขลุกอยู่กับพวกสวะข้างทางแล้วทำตัวเหลวแหลกแบบนี้งั้นเหรอ!? ฉันจำไม่ได้ว่าฉันสั่งสอนให้แกเป็นแบบนี้เลยนะกิว! เราอยู่บนที่สูง อยู่ในระดับผู้นำ ไม่จำเป็นต้องทำตัวต่ำเหมือนคนพวกนั้น!!”

“พ่อก็ดีแต่พูดเปรียบเทียบ ไม่เคยสอนเรื่องอื่นให้ผมเลย แล้วจะมาพูดอะไรเอาตอนนี้?”

“ว่าไงนะ!?”

“กิว พอเถอะลูก...” ผู้เป็นแม่ที่เห็นท่าจะไม่ดีรีบเอ่ยขัด กิวเพียงเหลือบไปมองแล้วกลับมามองหน้าพ่อของตนเองที่โกรธจนหน้าแดงควันออกหู กิวถอนหายใจเขาไม่อยากจะโต้เถียงอะไรมากไปกว่านี้จึงเลือกที่จะผละตัวออกจากห้องครัวทิ้งสถานการณ์แย่ ๆ ที่เพิ่งประสบไว้เบื้องหลัง

“เจ้ากิว! กลับมานี่นะ แกยังคุยกับฉันไม่รู้เรื่อง!”

เสียงของพ่อไล่ตามหลังมา แต่กิวไม่คิดจะหยุดเดินแล้วหันกลับไปแน่นอน ความโกรธที่ยังครุกรุ่นอยู่ในจิตใจเป็นแรงผลักดันให้ร่างสูงเดินตรงไปทางโรงจอดรถและรีบพาบิ๊กไบค์คันโปรดออกให้พ้นตัวบ้านในเวลาอันรวดเร็ว

กิวไม่สนิทกับพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก เขาเติบโตมากับการเลี้ยงดูโดยมองเพียงแผ่นหลังของพ่อและแม่ที่มักจะหันหลังให้เขาและหันหน้าให้งานของตนเอง เจอหน้ากันทำเพียงมอบเงินให้ เวลาจะไปเรียนก็ให้พี่เลี้ยงขับรถพาไปส่ง กลับมาเจอแม่นมคอยดูแลเรื่องอาหารและส่งเขาเข้านอนตลอด พอโตขึ้นมาเมื่อไม่มีใครคอยรับฟังและพูดคุยเขาจึงหันหน้าเข้าหากลุ่มเพื่อนที่พร้อมจะรับฟังเขามากกว่า ออกทำกิจกรรมที่พ่อเรียกมันว่า “การรวมแก๊งค์กับคนขี้ยา” อยู่บ่อยครั้ง กิวรู้ดีว่ามันเป็นสิ่งที่สมควร เหมือนเด็กมีปัญหาเรียกร้องความสนใจแต่เขารู้ดีว่าเขาไม่ได้ทำเพื่อเรียกร้องความสนใจ เขาทำเพราะเขาเลือกที่จะทำก็เท่านั้น

หลังขับรถมอเตอร์ไซค์คันโปรดด้วยความเร็วน่าหวาดเสียวไปสักพัก ความรู้สึกแย่ ๆ ก็เหมือนจะหายไปตามสายลม กิวทำใจให้เย็นลง ลดความเร็วของตัวเครื่องทีละนิดให้อยู่ในระดับที่ปกติต่อความปลอดภัยบนท้องถนน ลอบมองนาฬิกาข้อมือผ่านทางหมวกกันน็อคสีดำ เกือบจะเที่ยงแล้ว และเวลาที่เขานัดกับพวกน้องไว้คือเที่ยงครึ่งกับระยะทางที่ค่อนข้างไกล กิวคิดคำนวณเวลาและเส้นทางลัดที่จะพาให้ตัวเองถึงที่หมายในเวลาที่ตั้งใจไว้และเร่งเครื่องยนต์ให้เร็วขึ้นกว่าเดิมเพียงเล็กน้อย





กิวชะลอรถมอเตอร์ไซค์ของตนเมื่อเห็นประตู้รั้วอันคุ้นเคยอยู่ไม่ไกล ล้อรถชะลอและค่อย ๆ หยุดลงที่หน้าบ้านหลังใหญ่ กิวจอดรถและถอดหมวกกันน็อคออก เที่ยงกับอีกยี่สิบห้านาที เขามาทันเวลาที่นัดไว้ มองเวลาแล้วจึงหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงขาเดฟตัวเก่งออกมากดเบอร์ที่คุ้นเคยเหมือนเป็นเบอร์โทรของตัวเอง


“ครับผม พี่กิวรอแป๊บนึงนะ เดี๋ยวให้พี่พัฟไปเปิดประตูให้”

ปลายสายบอกกับเขาแบบนั้น และไม่ทันให้เขาเอ่ยตอบอีกฝ่ายก็กดวางสายไป เหมือนเขาจะได้ยินเสียงโวยวายของเพื่อนสนิทด้วย คงจะทะเลาะกันเหมือนเดิมนั่นแหละ

เขายอมรับว่ามีบางครั้งที่เขาอิจฉาพัฟ เขารู้มาว่าครอบครัวของเพื่อนไม่สมบูรณ์เพราะผู้นำครอบครัวด่วนจากไปตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นเด็ก และเพราะตอนนั้นพายยังเด็กมาก พัฟจึงต้องทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อและพี่ชายให้น้อง ส่วนคุณแม่ที่กิวก็ยังไม่เคยเห็นหน้า ต้องเป็นคนจัดการกับเรื่องธุรกิจทั้งหมดและเลี้ยงดูลูกทั้งสองคนไปด้วย แต่ถึงอย่างนั้นความอบอุ่นที่บ้านนี้มีให้กันกลับเติมเต็มความเข้าใจได้มากกว่าครอบครัวของเขา ที่มีพร้อมทุกอย่างแต่หาความสุขไม่ได้เลย เพราะงั้นกิวจึงอดอิจฉาเพื่อนไม่ได้...

“โทษทีกิว พอดีเถียงกับตัวเล็กอยู่”

ระหว่างที่คิดพัฟก็มาเปิดประตูให้แล้ว กิวพยักหน้าให้กับเพื่อนและเข็น นินจา บิ๊กไบค์คันโปรดของตนเข้ามาจอดบริเวณลานจอดรถในบ้าน

“เห็นเถียงกันตลอด”

“ก็มันกวนตีนนี่หว่า ยิ่งอยู่กับไอ้รูทยิ่งโดนให้ทาย” พัฟว่าแล้วหัวเราะ “มีแต่คนแปลก ๆ แบบมึงเท่านั้นแหละถึงมองว่ามันน่ารักได้” ว่าแล้วก็เย้าเพื่อนไปหนึงดอก

ตั้งแต่ที่รู้ว่าเขารู้สึกดี ๆ กับน้องชายของตัวเองพัฟก็ล้อเขาเรื่องนี้ตลอดแต่กลับไม่ห้ามปราม ไม่ขัดขวาง เพียงแค่มองอยู่ไกล ๆ ตามนิสัยคนไม่ชอบยุ่งกับเรื่องวุ่นวายของเจ้าตัว เขาเคยถามพัฟเหมือนกันว่าไม่คิดรังเกียจหรือจะขวางเขาเลยหรือทั้งที่เขาทั้งคู่ต่างก็เป็นผู้ชายด้วยกัน แต่เพื่อนตัวโตเพียงแค่ทำหน้าประหลาดใส่เขาแล้วบอกว่า


“เรื่องของพวกมึงทำไมกูต้องเสือกวะ? กูไม่ใช่เพื่อนพระเอกในละครนะที่จะบอกว่า “ดูแลน้องฉันให้ดี ๆ ถ้าน้องร้องไห้ฉันจะฆ่านาย” ยังไงซะนี่มันเรื่องของพวกมึง ผู้ชายแล้วไง? จะคบก็ไม่ต้องสนใจ  แค่อย่าพามันไปทำเรื่องแย่ ๆ ก็พอ กูขอแค่นี้”

คำพูดสมกับเป็นพี่ชายที่เลี้ยงดูน้องมาตั้งแต่เด็ก ๆ กิวรับรู้ว่าน้องได้ความคิดแบบพัฟมาไม่น้อยจากคำพูด ความคิด และการแสดงออก มันหลอมรวมกันจนทำให้น้องเป็นตัวของตัวเอง คิดอะไรก็กลั่นกรองแล้วพูด ไม่ชอบอะไรก็แสดงออกว่าไม่ชอบ ไม่ฝืนทน อาจจะดูเหมือนแรงและเอาแต่ใจ แต่ทุกการกระทำคือสิ่งที่คิดเอาไว้แล้วทั้งนั้น และนั่นก็ทำให้กิวมองว่ามันน่ารักและน่าสนใจ ยิ่งรู้จักกันมากขึ้น กิวก็ยิ่งมั่นใจว่าเขาคิดไม่ผิดแน่นอน
   




“นี่ ๆ พี่รูทเสื้อตัวนี้สวยมั้ย”

“ไหน ๆ เอ้ยยย ลายสวยอ่ะ ไปสอยมาจากไหนเนี่ย”

 “พายออกแบบแล้วทำเองกับพวกเพื่อน ๆ กะว่าจะทำขายหาเงินเอง พี่ว่าดีมั้ย?”

ระหว่างที่เดินเข้ามาในตัวบ้านพัฟและกิวก็ได้ยินเสียงสองแสบกำลังคุยกัน เมื่อเดินเข้ามาถึงห้องนั่งเล่นกิวจึงเห็นน้องถือเสื้อที่เจ้าตัวพูดถึงอยู่ มันเป็นเสื้อพื้นขาวลายตัวการ์ตูนนำสมัยสีสันน่ารัก

“ฝีมือระดับนี้เกินกว่าดีแล้ว แต่ผ้ามันไม่ค่อยโอเคนะ พี่ว่าเปลี่ยนผ้าจะดีกว่านี้” จับเสื้อแล้วก็วิจารณ์ออกมาอย่างตรงไปตรงมา ฝ่ายน้องก็พยักหน้าหงึกหงักรับฟังความเห็นไปด้วย

“เหรอครับ... งั้นเดี๋ยวไปบอกพวกวิน ขอบคุณนะพี่รูท ตัวนี้พายให้เลย”

ท่าทางรูทจะดีใจมากถึงได้คว้าน้องเข้ามากอดแล้วยีหัวอย่างเอ็นดูจนผมเสียทรงแบบนั้น ฝ่ายน้องก็ปล่อยให้คนเป็นพี่ทำตามใจชอบแล้วหัวเราะเอิ้กอ้ากเหมือนเด็กน้อยได้ของเล่น กิวมองภาพตรงหน้าแล้วส่ายหัวไปมา สองคนนี้อยู่ด้วยกันทีไรเหมือนกลับไปเป็นเด็กกันทั้งคู่ ไม่รู้ว่าสองคนนี้ไปสนิทกันตอนไหน แต่หลัง ๆ เห็นคุยโทรศัพท์ด้วยกันบ่อยมาก แถมบางครั้งก็ไปเที่ยวด้วยกันอีก ถ้าไม่ติดว่ารูทกับกิวเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กเขาคงเข้าใจผิดว่าอีกฝ่ายเป็นคู่แข่งไปแล้ว

“อ้ะ พี่กิวเห็นยัง ลายสวยมั้ย วิจารณ์หน่อยครับ”

ทันทีที่พายหันมาเห็นเขา คนตัวเล็กก็กวักมือเรียกแล้วโชว์เสื้ออีกตัวที่กองอยู่ไม่ไกลบนโซฟาให้เขาดู กิวเดินมานั่งบนโซฟาหนังเนื้อดีแล้วรับเสื้อสกรีนลายมาดู ตัวการ์ตูนลวดลายน่ารักไม่เหมือนกับตัวที่น้องให้รูท แต่สีเน้นโทนสว่างที่เหมาะกับวัยรุ่นเหมือนกัน

“ลายกับสีสวยดี แต่เนื้อผ้าไม่ดีเหมือนที่รูทบอก... ชอบวาดรูปเหรอเรา?” กิวตอบเช่นเดียวกับรูท เขาคิดว่าลายและสีมันลงตัวและดึงดูดความสนใจแล้ว แต่เนื้อผ้าน่าจะร้อนเกินไปสำหรับที่จะใส่ในฤดูแบบนี้ น้องก็พยักหน้าตอบรับ นิ้วก็พิมพ์ข้อมูลลงมือถือไปด้วย

“อื้อ พายตั้งใจจะเรียนด้านออกแบบด้วยแหละเลยต้องฝึกวาดเยอะ ๆ อะ ตัวนี้ให้พี่กิว มันฟรีไซส์ใส่ได้อยู่แล้ว”

“ขอบคุณครับ... เก่งนี่เรา พี่ทำไม่ได้หรอกแบบนี้” กิวว่าแล้วจัดการปอยผมที่งยุ่งเหยิงของน้องให้เข้าที่ คนตัวเล็กได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งยิ้มกว้างโชว์ฟันขาวรับคำชม ไม่ได้จะยอตัวเองหรอกนะ แต่เวลามีคนชมสิ่งที่เราตั้งใจจะทำแล้วมันชวนให้รู้สึกเหมือนตัวจะลอยยังไงก็ไม่รู้สิ

“แต่พี่กิวเก่งภาษาอังกฤษจะตาย ขนาดพายที่เรียนสายภาษายังสู้ไม่ได้เลย” น้องอมยิ้ม ครั้งก่อนภาษาอังกฤษที่คนตัวโตติวให้ออกเกินครึ่งเลยช่วยเขาได้เยอะ เห็นพายเรียนสายโดยตรงแบบนี้แต่ก็ไม่ได้เก่งเลยสักอย่าง มีแค่เรื่องวาดภาพนี่แหละที่เขามั่นใจว่าตัวเองไม่แพ้ใครแน่นอน

คำพูดเปรียบเทียบธรรมดาของน้องทำให้คนฟังหัวใจพองโต กิวรู้สึกดีไม่น้อยจนต้องเผยรอยยิ้มที่นาน ๆ ครั้งจะมีใครได้เห็น มือใหญ่ไม่หยุดลูบเส้นไหมละเอียดที่คลุมหัวกลม ๆ อย่างเอ็นดู นานวันเข้าเขายิ่งได้รับอะไรที่คาดไม่ถึงจากเด็กคนนี้ ทั้งจากคำพูดและการกระทำ มันทำให้สิ่งที่เคยเป็นในตัวเขาเริ่มเปลี่ยนไป กิวรู้ตัวว่าตัวเองใจเย็นมากขึ้น ยอมคนมากขึ้น และยิ้มมากขึ้น ถึงแม้จะเป็นแค่กับตอนที่อยู่กับพายแต่กิวก็คิดว่ามันคือความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี

“อะแฮ่ม... ก็ไม่อยากจะขัดจังหวะหรอกนะครับอาเฮีย แต่มดแม่งจะขึ้นเสื้อละ ใกล้ถึงเวลาหนังเข้าแล้วด้วย รีบไปก่อนจะดีมั้ย?”

เสียงกระแอมของรูทขัดบรรยากาศหวาน ๆ ที่ห้อมล้อมอยู่ข้างตัว ถึงจะหายากที่จะได้ดูไอ้กิวยิ้มก็เถอะ แต่ขอหน่อยเหอะว่ะ เห็นแล้วรูทล่ะหมั่นไส้จนต้องขอแทรก

“รูทมึงนี่นะ คนเขาจะจีบกันไปยุ่งกับเขาอีก ออกไปเตรียมรถกับกูเลยไป คู่นั้นก็หวานกันให้พอแล้วรีบตามมา ตัวเล็กอย่าลืมปิดไฟปิดพัดลมด้วย”

“ก็ได้ ไปครับพัฟ ไปช่วยกันทำรถเนอะ มดขึ้นตัวรูทมั้ยก็ไม่รู้ ดูให้หน่อยสิ” รูทแกล้งทำเสียงออดอ้อนใส่คนที่เดินอยู่ข้าง ๆ พัฟก็เหมือนจะเข้าใจ หยอดคำหวานกลับไปไม่แพ้กัน แต่มันหวานขนาดที่รูทฟังแล้วต้องยกนิ้วกลางมามอบให้แบบเน้น ๆ

“...มีแต่เห็บน่ะสิครับรูท บอกให้อาบน้ำไม่อาบ ไว้เดี๋ยวกลับมาพี่พัฟจะอาบให้เนอะ”

“ไอ้พี่พัฟกวนตีนจังนะครับ โหะ ๆ ๆ “

คล้อยหลังเสียงหัวเราะและคำหยอกเย้าประหนึ่งคู่รักกำลังจะหย่ากันของพี่ชายทั้งสองพายก็มองกิวที่ทำสีหน้าพะอืดพะอมมองตามแผ่นหลังสองคนนั้นไป คนตัวเล็กยิ้มก่อนจะผลุดตัวจากโซฟาแล้วยื่นมือไปตรงหน้ากิว

“ไปกันเถอะพี่กิว เดี๋ยวไปทันหนังฉาย พายไม่อยากไปช้าจนอดซื้อป๊อบคอร์นนะ”

กิวยิ้มแล้วคว้ามือน้องพร้อมลุกขึ้นยื่น ช่วยปิดไฟและพัดลมทุกตัวตามที่พัฟสั่งไว้จนเรียบร้อย  จึงได้เวลาพาน้องไปเที่ยวเสียให้สมใจ





“หนังสนุกสุดยอด! รู้งี้มาดูตั้งแต่ที่เข้าฉายแล้ว”

“ตอนมันฉายเราสอบกันอยู่... สติหน่อยรูท” ทันทีที่ตัดมุกเพื่อนกิวก็ได้รับสายตาเขียวปั้ดที่ส่งมาให้ เหมือนจะโดนด่ากลาย ๆ ว่าอย่าเสือก แต่กิวก็หาได้สนใจ ช่วงนี้เขาโดนด่าทางสายตาจนไม่รู้สึกอะไรแล้ว

หนังที่ทั้งสี่คนมาดูวันนี้คือเรื่อง Transformer 4 ที่เข้าโรงมาได้สักพักหนึ่งแล้ว กิวไม่ได้ดูภาคก่อนหน้า หรือเป็นแฟนหนังเรื่องนี้หรอก แต่เพื่อนทั้งสองคนและพายบอกว่าอยากจะดูกันเขาเลยตามน้ำไปด้วยโดยไม่คิดอะไร แต่พอดู ๆ ไปเขาก็ชักอยากจะหาภาคแรก ๆ มาดูซะแล้ว ถึงแม้น้องจะบอกว่าไม่ต้องดูต่อกันก็ได้เพราะเปลี่ยนทุกอย่างกระทั่งตัวละครก็เถอะ

“พายว่าบับเบิ้ลบีภาคนี้เจ๋งดีอะตัวโต เท่โคตร!”

“ก็ตัวเล็กเป็นแฟนบับเบิ้ลบีนี่หน่า พี่ว่าออฟติมัสเท่กว่าอีก”

“โหยยย คนชอบเยอะแล้ว ไม่เอาหรอก บับเบิ้ลบีอ่ะเจ๋งสุด”

ปล่อยให้หยอกกันไปมาตามประสาพี่น้องแล้วทั้งวี่จึงได้เวลาตกลงกันว่าจะกินอะไร เพราะกว่าจะมาถึงทีนี้ก็ก่อนหนังเข้าสิบนาที ทำให้แผนกินข้าวกลางวันที่ตั้งใจไว้ต้องล้มเลิกไปเหลือแต่ป๊อบคอร์นที่น้องอยากกินแค่อย่างเดียว ถกเถียงเรื่องร้านกันสักครู่จึงจบลงที่ร้านบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างสไตล์เกาหลีที่รูทอยากจะลองกิน

“อ้ะ พายลืมเลย พวกพี่ไปกินแล้วกัน พายขอไปดูหนังสือก่อน”

“อ้าว เอางั้นเหรอพาย พี่รอก็ได้นะ” แม้ท้องจะหิวแต่ถ้าเพื่อน้องพี่รูททนได้ สีหน้าของรูทบอกแบบนั้น แต่พายกลับหัวเราะแล้วโบกมือไปมา ยืนยันว่าให้พวก ๆ ไปกันก่อน เพราะพี่รูทกับพี่กิวไม่ได้กินข้าวแถมไม่กินป๊อบคอร์นด้วย เขาเลยไม่อยากให้พี่ ๆ ต้องมาทนหิวระหว่างรอ

“พี่ไปด้วย”

“หือ พี่กิวไปกับพวกพี่พัฟก็ได้นะ”

“ไม่ พี่ไปด้วย”

จู่ ๆ ความรู้สึกไม่ค่อยดีก็ตีตื้นขึ้นมาในอกของกิว ความรู้สึกแบบเดียวกับที่เขารู้สึกเมื่อเช้า เขาคิดว่ามันเหมือนลางสังหรณ์อะไรบางอย่างจึงไม่อยากให้น้องเดินไปไหนมาไหนคนเดียว ฝ่ายพายเมื่อเห็นว่ากิวยืนยันที่จะไปด้วยกันให้ได้ แถมสีหน้ายังจริงจังซะจนน่ากลัวก็ได้แต่พยักหน้าเออออให้ ยอมตามใจไม่งั้นคนตัวโตงอแงขึ้นมาเหมือนครั้งก่อนแล้วจะรับมือไม่ถูก ทั้งสีคนนัดแนะสถานที่กันเรียบร้อยก็ตั้งท่าจะแยกกันถ้าไม่มีใครคนนึงทักขึ้นมาซะก่อน

“เฮ้... ดูสิฉันเจอใคร ไม่คิดว่าจะได้มาเจอกันในที่แบบนี้เลยแหะ”

เสียงที่ทักขึ้นทำให้ทั้งกลุ่มหยุดชะงัก เมื่อเห็นว่าคนที่ทักออกมาคือใครกิวก็เข้าใจถึงความรู้สึกแย่ ๆ ที่เมื่อครู่ตนสามารถสัมผัสได้

“ไอ้ดอม” เอ่ยชื่อคู่แข่งที่ไม่คิดว่าจะมาบังเอิญเจอกันที่นี่ได้

กิวมองสำรวจรอบ ๆ อีกฝ่ายก็มากับเพื่อนร่วมแก๊งค์ประมาณ 4-5 คนเหมือนกัน และคิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญจริง ๆ ที่มาเจอกันทีนี่เพราะดอมแต่งชุดสบาย ๆ เหมือนมาเดินเที่ยวมากกว่าจะมาทำเรื่องอื่น กิวไม่ลืมที่จะลอบมองสำรวจพื้นที่รอบบริเวณไว้ก่อน เขารู้ว่าคงไม่มีใครคิดสั้นจะมามีเรื่องกันในห้างดังที่มีคนพลุกพล่านขนาดนี้เพราะทั้งคู่ต่างก็เป็นที่รู้จักของคนในวงการธุรกิจ แต่ยังไงซะกันไว้ก่อนเพื่อความไม่ประมาท

“ไงกิว รูท พัฟ และ... น้องคนนั้นไม่เคยเห็นหน้านิ เด็กใหม่ในแก๊งค์มึงเหรอกิว?”

ทันทีที่รู้ว่าดอมเห็นน้องแล้ว คนตัวโตก็รีบดังตัวพายให้ไปยืนกับพัฟทันที ไม่ลืมที่จะยืนบังเพื่อเบนสายตาที่ดูจะสนใจใคร่รู้นั่น “เขาจะเป็นใครก็ไม่เกี่ยวกับมึง” ตอกกลับไปอย่างรู้สึกไม่พอใจที่มีคนมาจ้องน้องด้วยสายตาเฃ่นนี้

“อ่อ... อย่าบอกนะว่าเป็นคนที่มึงไปรับไปส่งบ่อย ๆ ช่วงนี้ กูก็นึกว่าเป็นผู้หญิง ที่แท้มึงจะสอยเด็กผู้ชายเหรอวะกิว!” ดอมเอ่ยพร้อมส่งสายตาเหยียดหยามไปทางน้องที่ยืนมองอยู่ด้านหลังก่อนจะหัวเราะเสียงดังให้คนในกลุ่มตัวเองต้องหัวเราะตาม กิวกำมือแน่น คิ้วเข้มขมวดอย่างไม่ชอบใจในคำพูดของอีกฝ่าย ถึงมันจะเป็นเรื่องจริงแต่การใช้คำต่ำ ๆ แบบนั้นมันจะหยามกันมาเกินไปหน่อยในความรู้คิดเขา

“น้องชายกูเอง กูฝากให้กิวมันดูแล...”

“รู้แบบนี้คงไม่ต้องเสือกมากไปกว่านี้แล้วมั้ง?” รูทเอ่ยต่อจากพัฟทันทีเพื่อหมายจะให้จบเรื่องและไม่ต้องการให้พัฟบอกข้อมูลของตนเองและน้องไปมากกว่านี้

“โฮ่... กูเพิ่งรู้ว่าคุณชายพัฟมีน้องชายกับเขาด้วย แบบนี้ก็ดองกันได้เลยสิ มีน้องเป็นผู้ชายแถมได้น้องเขยเป็นผู้ชายอีก ว่าแต่สนุกมั้ยวะกิว ถ้าเบื่อก็ส่งมาให้กูบ้างก็ได้นะ”
 
ว่าแล้วก็ทำเสียงหึขึ้นจมูก คำพูดเหยียดหยามศักดิ์ศรีเหมือนน้องเป็นเพียงสิ่งของ และดูถูกเพื่อนเขาไปในทีทำให้กิวฉุนขาด ใบหน้านิ่งตึงเครียดด้วยความเกรี้ยวกราด จากที่ยับยั้งสติได้ในตอนนี้มันกลับพังทลาย แม้ปกติตนจะมีคติว่าใช้กำลังก่อนคือแพ้ แต่ครั้งนี้เขายอมเป็นผู้แพ้ แลกกับการได้เลือดจากปากเน่า ๆ นั่นมาลบคำสบประมาททั้งหมดที่ได้ยิน

หากเมื่อเขากำลังจะง้างมือฟาดปากอีกฝ่าย ก็มีฝ่ามือเล็กมาตบเบา ๆ ลงบนแผ่นหลังเขา ทำให้เขาต้องหันหน้าที่เต็มไปด้วยร่องรอยความโกรธไปมอง จึงเห็นว่าเป็นน้องที่ส่ายหน้าให้เขาด้วยสีหน้านิ่งเฉยเหมือนไม่ได้ยินเรื่องราวเมื่อกี้ แต่กิวกลับรับรู้ได้ว่าน้องกำลังโมโห... โมโหมากพอ ๆ กับเขานั่นแหละ

“อะไรวะกิวเดี๋ยวนี้มึงกลัวเมียแล้วเหรอ? ไงครับน้อง”



มีต่อด้านล่างค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-10-2014 23:04:23 โดย ennewiis »

ออฟไลน์ ennewiis

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
ต่อนะคะ



ดอมหยามใจเมื่อเห็นว่ากิวไม่ทำอะไรตน จึงเอียงใบหน้ายิ้มแย้มไปมองคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ด้านหลังกิว หากแต่น้องน้อยในกลุ่มไม่ตอบคำถามใด ๆ เพียงแค่เหลือบมองหน้าดอมแล้วหันไปพูดกับกิวและพี่ ๆ ในกลุ่มของตัวเองด้วยคำพูดคำจาของน้องทำให้คนที่ได้ยินแทบจะตาเหลือก

“อย่าไปตีเวลาที่หมาเห่าสิครับพี่กิว ถ้ามันเห่าดังกว่านี้จะระคายหูคนอื่นเขา” พูดจบน้องก็เดินไปยืนข้าง ๆ กิวก่อนจะสอดมือเข้าไปในอุ้งมือใหญ่ที่เผลอคลายออกเมื่อได้ฟังคำพูดที่คาดไม่ถึง แล้วประสานนิ้วทั้งห้าของทั้งคู่ไว้ด้วยกัน “แล้วก็นะถึงพวกผมจะคบกัน ดองกัน หรือได้กันมันก็เรื่องของพวกผม คุณไม่ต้องเข้ามาสู่รู้ก็ได้ครับ... ไปเหอะพี่กิว รำคาญ”

จบประโยคพายก็เดินลากคนที่ตนจับมืออยู่ผ่ากลางกลุ่มคนที่ยังยืนอึ้งเมื่อได้ฟังคำพูดทั้งหมดนั้น รูทเหมือนจะได้สติคนแรก หนุ่มตี๋หัวเราะออกมาเสียงดังจนทำให้พัฟสะดุ้งรู้สึกตัวตามไปด้วย ทั้งสองจึงเดินผ่ากลางตามน้องและกิวไป ไม่วายยังหันมาโบกมือให้ดอมพร้อมทำสีหน้าสงสารให้อีก

กว่าดอมจะรู้ตัวว่าโดนเหยียบหน้าพวกกิวก็เดินจากไปไกลแล้ว เขาจึงทำได้เพียงส่งอาฆาตแค้นมองไปยังทางที่กลุ่มของกิวเดินจากไป ดอมรู้สึกเสียหน้ามาก เขาไม่คิดว่าคำพูดตัวเองจะโดนคนรักของกิวตอกกลับมาแบบนั้น อยากจะเอาคืนมันซะทั้งคู่ พลันความคิดก็ผุดขึ้นมาในสมอง คนรักอย่างนั้นสินะไอ้กิว...

“แล้วมึงกับกูจะได้เห็นดีกัน”





“พวกมึงไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวกูตามไป”

กิวบอกกับรูทและพัฟที่เดินอยู่ไม่ไกลแล้วมองไปทางน้อง ตอนนี้พายยังไม่ปล่อยมือที่จับไว้กับเขา และยังไม่หยุดเดินแม้จะเลยจุดหมายปลายทางแล้วก็ตาม พัฟกับรูทมองหน้าเขาก่อนจะพยักหน้า เข้าใจถึงสถานการณ์ในยามนี้ ทั้งสองคนจึงปลักตัวไปก่อน พัฟพยักหน้าให้เขาเล็กน้อยเหมือนต้องการจะบอกว่าฝากน้องชายไว้กับเขาด้วย กิวจึงพยักหน้าตอบ และปล่อยให้น้องลากตัวเองไปตามที่ตนพอใจ เขารู้ว่าตอนนี้น้องกำลังโมโหมาก มากจนขาดสติและพูดเรื่องแบบนั้นออกไป กิวเพิ่งรู้สึกก็วันนี้ว่าความโกรธมันช่างน่ากลัวจริง ๆ

น้องลากเข้ามาจนออกจากห้าง มาหยุดบริเวณลิฟต์ตรงลานจอดรถ หอบหายใจด้วยความเนื้อจากการเดินเร็วและลากผู้ชายตัวโตอย่างเขามาด้วย น้องปล่อยมือเขาแล้วในตอนนี้ แต่เป็นกิวเองที่ยื้อจะจับมือน้องไว้

“พายครับ... เรามาคุยกันหน่อยไหม?”

กิวถามไปแต่กลับได้ความเงียบเป็นคำตอบว่าน้องยังไม่พร้อม กิวจึงไม่เอ่ยอะไร เพียงยืนรอเวลาเท่านั้น

“.....พายไม่ชอบที่เขาพูดจาแบบนั้น”

ผ่านไปราวห้านาทีคนตัวเล็กก็เอ่ยออกมาเบา ๆ ตากลมโตที่ก้มมองพื้นถึงเมื่อครู่เหลือบมามองสบตากิว คิ้วเล็กขมวดเข้าหากันและมุมปากที่บิดลงเป็นสัญญาณว่าน้องยังคงโกรธอยู่ แต่เริ่มจะตั้งสติได้ดีมากกว่าเมื่อครู่แล้ว “เขาพูดจาดูถูกพี่กิว พูดจาดูถูกพี่รูทกับพี่พัฟ และเขาดูถูกพาย พายไม่ชอบ” ว่าแล้วน้องก็ทำเสียงฮึดฮัดแบบไม่พอใจ

“.....พี่ขอโทษ”

“พี่กิวขอโทษทำไม พี่กิวไม่ได้เป็นคนพูดเรื่องแย่ ๆ แบบนั้น คนที่ต้องขอโทษคือผู้ชายคนนั้นต่างหาก” น้องทำหน้างงใส่กิว ความโกรธในอกหายไปชั่วครู่แทนที่ด้วยความสงสัย

“แต่พี่ทำให้พายต้องเจอเรื่องแบบนี้ พี่ขอโทษ”

กิวสบตาน้อง เอ่ยขอโทษด้วยความรู้สึกนั้นจริง ๆ ตอนนี้ความโกรในตัวดอมมันลดน้อยลงไปแล้ว เหลือเพียงแค่ความโกรธในตัวเอง โกรธที่ทำให้น้องต้องมาเจอเรื่องแบบนี้

“พี่กิว... พี่กิวฟังพายนะ”

พายยื่นมือข้างที่ว่างมาแตะใบหน้าคมเข้มที่มีแววเคร่งเครียดและสำนึกผิด สบตากับเจ้าของตาคมอย่างไม่หวาดหวั่น ถ่ายทอดความรู้สึกที่อยู่ข้างในออกมาให้อีกฝ่ายได้รับรู้ว่าตนกำลังจริงจังในคำพูดนี้มาขนาดไหน

“เรื่องในวันนี้ทำให้พายดีใจที่พายได้มาเจอพี่กิว ถึงก่อนหน้านี้จะดีใจอยู่แล้วนิด ๆ ก็เถอะนะ”

“..........”

“พี่กิวโกรธแทนพี่พัฟกับพี่รูท นั่นทำให้พายดีใจมากแล้วเพราะมันทำให้พายรู้ว่าพี่กิวแคร์ความรู้สึกของคนที่พายรัก แต่พี่รู้มั้ย พอพายเห็นพี่กิวสติแตกเพราะเขามาพูดจาดูถูกพายแบบนั้นพายยิ่งดีใจมากกว่าอีก...”

พายหยุดคำพูดของตนเองไว้เพียงเท่านั้นพลางขบริมฝีปากบางของตนเองเหมือนกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง และน้องก็ทำในเรื่องที่กิวคาดไม่ถึง มันเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงยิ่งกว่าประโยคที่น้องตอกหน้าดอมหรือเดินการจับมือเขาฝ่าวงล้อมของคนทั้งกลุ่มออกมา เพราะน้องหอมแก้มเขา น้องพายน้องชายพัฟน้องรักของรูทและคนที่กิวกำลังให้ใจไปหมดทั้งใจกำลังหอมแก้มกิวอยู่ และเมื่อน้องผละริมฝีปากออกจากแก้มกร้านของเขา เจ้าตัวก็เสตาหลบแล้วเอ่ยคำพูดงึมงำ ๆ ที่ทำให้ความรู้สึกแย่ ๆ ทั้งหมดทั้งมวลของกิวหายไป แทนที่ด้วยความสุขซึ่งถาโถมเข้ามา



“พายดีใจที่โอกาสที่พายเคยให้พี่กิวมันไม่สูญเปล่า พี่กิวเปลี่ยนใจพายได้แล้วนะครับ”



To be continue


-------------------------------------------------------------------



สวัสดีตอนดึก ๆ ของวันศุกร์ค่ะ
ตอนนี้ยาวอยู่พอสมควร ยาวที่สุดที่เคยแต่งมาค่ะ สถิติแตกแล้ว! 555555555555

ไม่ได้มาสักพักใหญ่ ๆ เลย จนคุณ cattydoggy ต้องมาตามอีกรอบ ขอโทษด้วยค่า  :mew6:
เห็นจากคุณ tuckky ว่าได้ลงในนิยายแนะนำด้วย คุณพระ ตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูกเลยค่ะ ต้องขอขอบคุณมาก ๆ นะคะ
คุณ aiLime13 คุณ maemix คุณ ssipra คุณ  quiicheh. คุณ chisarachi ติดตามกันมาตลอดเลย ต้องขอบคุณมากจริง ๆ ค่ะ และทุก ๆ คนที่เข้ามาอ่านทั้งขาจรและขาประจำที่อาจจะตกหล่นไป ทุกคนคือกำลังใจจริง ๆ เวลาแต่งไม่ออกก็มาตามอ่านคอนเม้น มันจะฮึกเหิมอย่างประหลาดค่ะ 55555 ขอบคุณจริงๆค่ะ  :L1:

ช่วงนี้หาย ๆ ไปเพราะโดนย้ายตำแหน่งงานใหม่เลยวุ่น ๆค่ะ ขนาดในทวิตยังนาน ๆ มาที นี่สินะชีวิตพนักงานกินเงินเดือนที่แท้จริง แต่เราจะสู้ต่อไปค่ะ!

แล้วจะรีบเอาตอนต่อไปมาเสิร์ฟนะคะ ขอวางพล็อตให้รัดกุมก่อน เพราะตอนนี้พล็อตหมดสต๊อก  :hao5:

แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ!  :pig4:

ออฟไลน์ chisarachi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1019
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-1
น้องพายจุ๊บแก้มพี่กิวก่อนแบบนี้
พี่กิวมันไม่เป้นลมไปแล้วหรอ 5 5 55
คิดว่าคนที่หยุดอารมณ์ร้อนของพี่กิวได้คือน้องนี่แหละ
น้องม่ันคือหยาดน้ำฝนที่คอยชโลมใจให้พี่กิว
ฮิ้ว วว
มาต่อเรื่อยๆนะคะ  สู้ๆกับงานค่ะ

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
น้องพาย นิ่งมากลูก ตอกกลับได้สะใจ
น้องหอมแก้มพี่กิวก่อนด้วย ฟิน ฟิน

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
น้องคือที่สุดของหัวใจพี่กิวจริงๆนะเนี่ย อ่านไปอมยิ้มไป จิกหมอนไปอีก555555 น่ารักจังง

ออฟไลน์ tuckky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
อิดอม ต้องทำอะไรชั่วๆอีกแน่ คาดว่าเรื่องพี่กิวคบเด็กผู้ชายคงไปถึงครอบครัวแน่ๆ

ปล. ชีวิตมนุษย์เงินเดือนเป็นอะไรที่...... :ling2:

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
ฟินแทนพี่กิวอ่ะน้องมันอ้อนขนาดนั้น

ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
อ่านจบแล้วยิ้มแก้มแตกกกกกกกกกกกกกกก

 :-[ :-[ :-[

น้องพายน่ารักกกกกกกกกกก
จะว่ายังไงดีละ? น้องเหมือนเป็นเทวดาประจำตัวของพี่กิวเลยนะ 55555
คือให้ความรู้สึกว่าดีจริงๆ ที่พี่กิวได้มาเจอน้องพาย เหมือนได้ผ้าห่มตอนฤดูหนาว
เหมือนได้ร่มตอนฤดูฝน เหมือนได้พัดลมตอนฤดูร้อน คือน้องเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตพี่กิวมากอ่ะ
อ่านแล้วขุ่นแม่(?)ปลื้มปลิ่มน้ำตาซึม  :hao5:

ท้ายตอนนี่แบบ.. ฮืออออออ อ่านแล้วยิ้มออกมาจริงๆ
มันแบบ อร๊างงงงงงงง เราเป็นพี่กิวจะเต้นบัลเล่ย์รอบห้าง พี่กิวเปลี่ยนใจน้องได้แย้ววว >,<

แต่ดอมนี่ มันต้องกลับมาหาเรื่องพี่กิวกับน้องอีกแน่ๆ *แม่ยกเตรียมไม้หน้าสามไว้ในมือให้มั่น*

ตอนนี้พัฟรูทน่ารักมากค่ะ ! >_<
รู้สึกได้ว่าพัฟนี่ชอบหาเรื่องเพื่อนเนอะ แบบเรียกร้องความสนใจ เด็กผู้ชายมักแกล้งคนที่ชอบก็เงี้ย กร้ากกก

รอตอนหน้าค่ะ  o13
สู้ๆ ทั้งเรื่องงานทั้งนิยายเลยน้าาาา ฮู้ววววววววว ^^

ออฟไลน์ thyme812

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 313
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด