คดีที่ 10
I’m in stress.(1)
“เข้ม?”ร่างหนาของเข้มถอนหายใจนิดหน่อย เมื่อมองไปยังร่างที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ที่ตอนนี้สภาพใบหน้าเริ่มแสดงออกอาการบวมช้ำและมีเลือดแห้งเกรอะกรังที่มุมปาก สภาพโดยรวมดูไม่ได้ แต่คนอย่างเข้มก็ไม่เข้าใจว่าจะปล่อยเด็กนี่ไว้ทำไม? เห็นคุณอิฐบอกแค่ว่าเด็กนี่บังเอิญไปเจอเข้าตอนลักลอบตัดต้นไม้ แค่ฆ่าทิ้งก็น่าจะจบๆไปแล้ว การทำให้คนๆหนึ่งหายสาบสูญไปในป่า ไม่น่าจะใช่เรื่องยากสำหรับคุณอิฐ
แต่ก็เอาเถอะไม่ได้เปลืองข้าวปลาอะไรเพราะคุณอิฐไม่ได้สั่งให้เอาข้าวมาให้เด็กนี่กิน นอกเสียจากน้ำที่คุณอิฐสั่งให้เอามาให้มันกินทุกๆสามชั่วโมง ซึ่งไอ้พวกลูกน้องของคุณอิฐก็ดูท่าจะชอบใจ กลั่นแกล้งมันดีจริงๆไม่เอาน้ำที่ให้กินราดหัวมั่งก็กระชากหัวจับกรอกปาก ดีที่มันไม่ปริปรากบ่นปวดฉี่หรือถึงขั้นกลัวจนฉี่รดกางเกง ไม่งั้นสภาพมันคงดูไม่ได้ยิ่งกว่านี้
“คนที่หมู่บ้านตามหามึงกันใหญ่ที่บนเขา...แต่แม่งโคตรโง่เลย ไม่มีใครรู้ว่ามึงถูกจับตัวมา”ลูกชายผู้ใหญ่บ้านว่าด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย “กูก็อยากช่วยมึงนะ แต่มึงแส่หาเรื่องเอง กูไม่อยากเป็นศรัตรูกับคุณอิฐ”
“พูดมากน่า”สิ้นฟ้าตอบกลับไปนัยน์ตาพลันจะหลับ เขาถูกจับมาที่นี่นับเป็นวันที่สามแล้ว เขาไม่ได้อ่อนแรงจนทำอะไรไม่ได้หรือไม่รู้สึกตัว
อิฐไม่ได้เข้ามาในห้องนี้อีกเลย จะมีก็แต่เข้มที่เข้ามาคุยด้วยบ่อยๆ มันยังเข้าใจว่าสิ้นฟ้าเป็นเด็กนักศึกษา ดูเสมือนว่าอิฐจะไม่ได้บอกใครมากมายว่าเขาเป็นใคร
เข้มเป็นพวกเดียวกันกับอิฐนั่นคือสิ่งที่เขารู้แต่คิดว่าคงไม่ใช่ในฐานะลูกน้องอาจจะเป็นในฐานะที่ไอ้เข้มมันต้องให้ความร่วมมือแก่อิฐ
“ถ้ามึงอยากให้กูช่วย ลองพูด ลองขอร้องกับกูก็ได้นะ”เข้มว่าพลางยกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งนัยน์ตาหรี่ลงมองไอ้เด็กตรงหน้า
“กูอยากคุยกับไอ้อิฐ”เสียงแหบแห้งของสิ้นฟ้าเอ่ยขึ้น หน้าตามันก็น่ารักหล่อเหลาดีอยู่หรอกแต่คำพูดหยิ่งๆพร้อมนัยน์ตาดื้อรั้นแบบไม่ยอมคนนั่นมันคืออะไร?
เข้มถอนหายใจก่อนจะมองไปยังกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ในห้อง พร้อมกับยิ้มมุมปาก เดินเข้ามาลูบหัวพร้อมกับก้มลงมองหน้าสิ้นฟ้า คนที่ถูกผูกมัดติดกับเก้าอี้ตวัดสายตามอง
“ไว้พรุ่งนี้ละกัน”
ว่าพร้อมตบที่แก้มเบาๆแล้วผลักหัวด้วยความหมั่นไส้ หันหลังเดินออกไปจากห้อง
ชานหนุ่มร่างสูงวางสายโทรศัพท์มือถือพร้อมขมวดคิ้วเข้ม สายตายังคงจ้องไปยังภาพบนจอโทรทัศน์ที่แสดงให้เห็นภาพจากกล้องวงจรปิดภายในห้องของนักโทษที่จับตัวมา
“ไม่ฆ่าเด็กนั่นซะล่ะ”เข้มที่เดินเข้ามาภายในห้องเอ่ยถามขึ้น ร่างสูงของอิฐหันมามอง
“ฆ่าได้ฉันฆ่าไปแล้ว”
เจ้าของร่างหน้าผิวเข้ม ยกคิ้วขึ้น แสดงความสงสัย
...........
ทนายเพชรโยนโทรศัพท์มือถือด้วยความหงุดหงิด แต่เหมือนเจ้าตัวจะคิดขึ้นได้ว่ามันยังจำเป็นต้องใช้งานในตอนนี้อยู่จึงเดินไปเก็บกลับมาคืน
ผมมองอาการบ้าๆของทนายเพชรแล้วอยากจะขำแต่ก็ขำไม่ออก
รู้ รู้ว่าเจ้าตัวเขาหงุดหงิดใจแค่ไหน เพราะผมก็เป็น
เมื่อไม่ได้รับข่าวว่าท่านอัยการหายตัวไปไหน
“ผมจำเป็นจะต้องเตือนให้ทนายเพชร คนที่อายุมากกว่าผม ให้ใจเย็นลงไหม?”ผมถามขึ้น ทนายเพชรหันมามองผมนิดหน่อย
“ถ้าทนายเพชรแทรกแซงอำนาจไว้ในประเทศนี้บ้างก็คงดีเนอะ”นั่นหมายความว่าเขาไม่มีอำนาจที่จะเคลื่อนไหวในประเทศนี้ นอกจากการร้องขอให้ช่วยทำให้ เหมือนตอนที่ขอความร่วมมือแบบกึ่งบังคับท่านอัยการสิ้นฟ้า หรือขอให้หน่วยงานหนึ่งเปลี่ยนประวัติของน้องสาวท่านอัยการ และฝ่ายที่ถูกร้องขอให้ช่วยก็เต็มใจที่จะช่วยเพราะท่านอัยการสิ้นฟ้า
เสียแต่ตอนนี้ทั้งทางตำรวจและทางสำนักงานอัยการสูงสุดก็หัวเสียพอดูเหมือนกันที่คนของตัวเองหายไป
ทนายเพชรนิ่งเงียบเหมือนกำลังขบคิดอะไรบางอย่าง
“ฉันจะไปหาผู้หญิงคนนั้น”เขาพูดกับตัวเองเบาๆพร้อมกับเดินออกไปจากห้องทำงาน ซึ่งผมก็ตามออกไปด้วย
“สวัสดีครับ ที่นี่สำนักงานทนายความของทนายเพชรหรือเปล่าครับ?”ยังไม่ทันได้ขยับตัวไปไหนก็มีเสียงเอ่ยเรียกออกมาพร้อมกับค่อยดันประตูหน้าของสำนักงานทนายความปิด พร้อมกับส่งรอยยิ้มน้อยๆมองคนที่ยืนนิ่งข้างๆผม
“ครับ ผมทนายเพชร”ทนายเพชรตอบรับเรียบๆ
“สวัสดีครับอาจารย์”เขากล่าวพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้ “ผมจะมาขอให้อาจารย์ช่วยเรื่องคดีของผมน่ะครับ”
“...”
“คดีที่ผมตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าคนตาย”เจ้าของใบหน้าน่ารักเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้ม
“เธอไม่ได้ผลักผู้หญิงคนนั้นให้ตกลงไปจริงๆใช่ไหม?”ทนายเพชรถามย้ำ ดินเงยหน้าขึ้นมาสบตากับทนายเพชรก่อนจะตอบอย่างมั่นใจ
“ผมไม่ได้ผลัก ไม่ได้แตะต้องตัวเธอด้วยซ้ำ อาจารย์ก็น่าจะรู้อยู่แล้ว”
“เล่ารายละเอียดมา”น้ำเสียงเรียบๆแต่ดูกดดันคนฟังนิดหน่อย “ทั้งหมด ทุกเรื่อง...เธอก็น่าจะรู้ว่าการเป็นลูกความที่ดี จะต้องไม่โกหกทนาย”
“ทั้งหมดและไม่โกหกเหรอครับ?”ดินทำท่าทางหนักใจ “ผมก็ไม่ได้รู้เรื่องทั้งหมดน่ะสิ แถมบางเรื่องคุณและคนที่อยู่กับคุณก็ไม่น่าจะเกี่ยวข้องอะไรด้วย”ดินว่าพลางมองทนายเพชรและผม
“...”
“ผมรู้ว่าความกระหายอยากรู้มันมีมากแค่ไหน โดยเฉพาะคนทำงานด้านนี้ ความกระหายจะมีมากเป็นพิเศษ เอาเป็นว่าผมจะเล่าเกี่ยวแค่เฉพาะในส่วนที่ผมเล่าได้ก็แล้วกัน ส่วนเรื่องของเขาคนนั้นในส่วนที่ผมไม่ทราบ คุณคงต้องหาคำตอบจากเจ้าตัวเขาเอง”ดินเอ่ย เหมือนทีเล่นทีจริงแต่มันเป็นประโยคปฏิเสธแบบสมบูรณ์ว่าเขาจะไม่พูดเกี่ยวกับท่านอัยการสิ้นฟ้าสักเท่าไหร่ นั่นเป็นเรื่องที่ทนายเพชรอยากรู้มากที่สุดทนายเพชรเงียบไปสักพักก่อนจะหลับตาลงพร้อมกับถอนหายใจอย่างหน่ายๆแล้วลืมตาขึ้นมาใหม่ จ้องคนตรงหน้า เหมือนพยายามมองหาความจริงที่ซ่อนเอาไว้ภายใต้นัยน์ตาสีดำสนิทของดิน
“ผมทำงานให้กับสภาทนาย อัยการและศาล แต่ผมคงบอกไม่ได้ว่าผมทำงานอะไร มันเป็นเรื่องของการเปลี่ยนขั้วอำนาจทางการเมือง หลักพื้นฐานของอำนาจอธิปไตยคือแบ่งเป็นสามขั้วอำนาจถ่วงดุลกัน นั่นคือนิติบัญญัติ ตุลาการ และบริหาร ซึ่งผมคงไม่ต้องอธิบายในเรื่องนี้เพราะเป็นทฤษฎีที่นักกฎหมายได้เรียนมาทุกคน” ดินพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบอย่างไม่แสดงอารมณ์ สิ่งที่ดินกำลังพูดเป็นสิ่งที่พวกเรารู้ดีว่าคืออะไร หลักการถ่วงดุลอำนาจ สามขั้วอำนาจใหญ่ที่ใช้ในการปกครองประเทศ ที่แบ่งออกเป็นสามฝ่าย คือนิติบัญญัติ ทำหน้าที่ออกกฎหมาย แต่ไม่สามารถตัดสินคดี หรือบริหารประเทศได้ ฝ่ายตุลาการ ทำหน้าที่ตัดสินคดี ไม่มีอำนาจในการออกกฎหมาย ไม่มีอำนาจในการบริหารประเทศ ฝ่ายบริหาร มีอำนาจบริหารประเทศ แต่ไม่มีอำนาจออกกฎหมาย และตัดสินคดี แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้?
“เรื่องตลกมันเริ่มขึ้น เมื่อฝ่ายบริหารเริ่มแทรกแซงอำนาจตุลาการ และฝ่ายตุลาการเริ่มลงมาเกลือกกลั้วกับการเมือง”
“13 นักปฏิวัติ”ผมเอ่ยออกมาเบาๆ เมื่อเริ่มนึกอะไรบางอย่างออก
“ใช่ อำนาจในฉากหน้ายังทำหน้าที่เหมือนๆเดิม แต่ฉากหลังจับมือกัน เมื่อมีฝ่ายตรงข้ามที่เห็นต่างทางการเมืองโผล่ขึ้นมา 13 นักปฏิวัติเป็นแค่ส่วนหนึ่ง ยังมีคนอีกหลายคนในองค์กรต่างๆที่แบ่งเป็นฝ่าย แต่ทุกคนมีสิทธิที่จะเห็นต่างถ้าไม่ล้ำเส้นของกันและกัน และสู้กันอย่างแฟร์ๆตามระบอบ แต่เราก็รู้กันอยู่ว่ามักมีพวกเล่นนอกเกมกันอยู่เสมอ มีคนพยายามที่จะกำจัด 13 นักปฏิวัติที่ครองอำนาจส่วนใหญ่ในตอนนี้อยู่ พวกเขาใช้แผนการเดียวกันกับที่ 13 นักปฏิวัติเคยใช้ กำจัดทิ้งให้ลงจากอำนาจทีละคน ตัวอย่างเช่น อดีตอัยการสูงสุด”
“พ่อของสิ้นฟ้า”
“ถ้าคิดจะถอนต้นก็ต้องถอนรากด้วย เสียแต่ว่ารากมันหยั่งลึกค่อนข้างแข็งแกร่ง เมื่ออดีตอัยการสูงสุดหายตัวไป องค์กรก็ขยับทันที โดยเอาคนใหม่ขึ้นมาแทน อัยการสูงสุดคนปัจจุบัน เป็นข้อพิสูจน์ได้ว่ากำแพงอำนาจเก่าทั้งหนาและแน่น ยากที่จะทำลาย”ดินยิ้มน้อยๆ “ในตอนนี้ผมคงจะบอกคุณได้ว่า ท่านอัยการสิ้นฟ้า ค่อนข้างที่จะปลอดภัยในระดับหนึ่ง คุณไม่ต้องห่วงในเรื่องนี้ถึงแม้เขาจะเป็นอัยการแต่คอนเนคชั่นเป็นสิ่งสำคัญ และเขาก็เป็นคนที่วางตัวเองไว้ดี มีคนพร้อมช่วยเหลือเขา”
“จะให้วางใจได้ไง กับคนที่อยู่ดีๆก็หายตัวไปโดยที่ยังตามหาไม่เจอ”
“อย่าดูถูกอำนาจของอัยการสิครับ อาจารย์”ดินพูดยิ้มๆ “เรามาฟังบทละครฉากนี้กันต่อดีกว่า”
“ผู้หญิงที่กระโดดลงไป เป็นอีกคนที่เข้ามาในวงเวียนของอำนาจทางการเมือง เสียแต่เธอเป็นฝ่ายตรงข้ามกับเรา ผมยังยืนยันคำพูดเดิมว่าผมไม่ได้ผลักเธอลงไป...”
“ดิน เธออยู่ฝ่ายไหนบอกฉันได้ไหม?”ดินมองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะเอ่ย
“ทำไมจะต้องเลือกข้าง?”
“คนเก่งๆมักจะถูกดึงไปหมด และเธอ...ก็ไม่น่าจะรอด”หญิงสาวว่า “ฉันสืบหาข้อมูลของเธอ เธอเป็นบุตรบุญธรรมของท่านอัยการวารีรินทร์ เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไม่ถูกดึงไปอยู่ข้างเขา นั่นหมายความว่า เราเป็นศรัตรูกัน”หญิงสาวพูดนัยน์ตาหวั่นไหวนิดหน่อย ก่อนจะกลับมาเรียบสนิทตามเดิม
“เธอมาตีสนิทกับฉัน เพราะผลประโยชน์นี่เอง”
“ไม่หรอกที่จริงผม...”ดินนัยน์ตาวูบไหว อย่างคนกำลังสับสน ทำให้หญิงสาวมีแววแห่งความหวัง
“ดิน...”
“ผมชอบเธอนะ”ดินเอ่ยออกมาเบาๆ “แต่ผมไม่รู้จะต้องทำยังไง...ถ้าเราอยู่ข้างเดียวกันก็คงจะดี”เจ้าตัวส่งยิ้มอ่อนโยนและจริงใจไปให้หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงข้ามตน
“จริงเหรอ?”
“ความรู้สึก สิ่งที่ผมทำให้เธอตลอดมาไม่เคยโกหก”
“...”
“แล้วเธอละ รู้สึกยังไงกับผม”หญิงสาวยิ้มออกมา ผู้ชายตรงหน้ารู้สึกดีๆกับเธอแค่นี้เธอก็ดีใจแล้ว ดินเป็นบุคคลที่อยู่สูงเกินไปที่ไขว่คว้าด้วยซ้ำ ทั้งหน้าตา ฐานะที่ได้ชื่อว่าเป็นบุตรบุญธรรมของท่านอัยการวารีรินทร์ หลายคนอยากได้และหมายปองผู้ชายคนนี้ รวมทั้งเธอ ที่ถึงแม้เธอจะมั่นใจว่าสถานะของเธอก็มีอะไรที่ไม่แพ้ผู้ชายตรงหน้า แต่เพราะความเป็นดิน ที่ถึงแม้จะชื่อว่าดินแต่กลับดูสูงจนเอื้อมไม่ถึง อาจจะเป็นเพราะการวางตัวที่ทำให้ไม่มีใครอาจละสายตา ตลอดเวลาที่ดินเข้ามาหาเธอมันเหมือนความฝัน ดินเป็นคนเอาใจเก่ง ดูแลเก่ง คิดถึงเธอก่อนเสมอ ถ้าผู้ชายคนนี้ไม่ได้อยู่ตรงข้ามกับเธอ อะไรๆมันคงง่ายขึ้น
“ฉันชอบเธอ”หญิงสาวเอ่ย ดินยิ้มอย่างอ่อนโยนแต่เจ้าตัวยังคงยืนนิ่ง
“ขอบคุณนะ”หญิงสาวจะขยับเข้าไปหาดิน แต่ต้องสะดุดไม่แม้แต่จะก้าวออกเดิน เมื่อมีเสียงข้อความเข้าในมือถือของเธอ ทีแรกเธอจะไม่สนใจ แต่ดูจากสายตาของดินเหมือนอยากให้เธอเปิดดูก่อน เพราะเจ้าตัวทำท่าทางเสมือนลุ้นไปด้วย
นัยน์ตาของหญิงสาวเบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อได้เห็นคลิปที่กำลังเล่นในโทรศัพท์
“ถ้าคลิปนี้ถึงมือนักข่าวและพ่อของเธอจะเกิดอะไรขึ้นกันนะ”เสียงเรียบนิ่งของชายหนุ่มพูดขึ้นทั้งที่ยังยิ้มอ่อนโยน “เสพยา มั่วเซ็ก อืม...”
“มา มาได้ยังไง?”หญิงสาวทำท่าทางตื่นๆ “เธอส่งมาเหรอ?”ดินทำท่ายักไหล่แบบไม่รู้ไม่ชี้ “แต่เธอรู้ว่ามันคือคลิปอะไร”
“ตอนนี้มันเผยแพร่ไปทั่วโซเชี่ยลแล้วล่ะ”
“ไม่จริงๆ”
“ถ้าไม่จริงแล้วผมจะรู้ได้ไง?”ดินทำหน้าเศร้า “ผมชอบเธอนะ แต่ผมไม่นึกว่าเธอจะเป็นคนแบบนี้”
.
.
.
“ผมผิดหวังในตัวเธอ”
“ไม่ดิน ไม่นะๆ”หญิงสาวเริ่มทึ้งหัวตัวเอง เมื่อคำพูดนั่นเหมือนฟ้าผ่าลงท่ามกลางจิตใจของหญิงสาว
“จะทำยังไงต่อไปล่ะ คลิปมันถูกส่งต่อไปตามโลกโซเชี่ยลแล้วนะ พ่อเธอก็น่าจะรู้ นักข่าวจะเล่นข่าวนี้ไม่หยุด ชื่อเสียงของเธอ ชื่อเสียงของครอบครัวเธอ ไม่มีใครรับเรื่องนี้ได้ เธอจะทำยังไงต่อไป”
“ฉันจะทำยังไงดี”
“นั่นสิ จะทำยังไงดี?...ไม่มีใครรับเรื่องนี้ได้ เธอจะถูกตราหน้าจากสังคม ชื่อเสียงของพ่อเธอ ครอบครัวเธอจะป่นปี่ นั่นเพราะตัวเธอเอง เธอจะทำยังไงดี”เสียงราบเรียบยังคงเอ่ยไปเรื่อยๆ
“ฮึก...ฮือ ฮือ”
“เพราะเธอทำตัวเธอเอง...”
“ไม่ๆฮึก...”หญิงสาวหันมามองดิน เพื่อนลหวังเป็นที่พึ่ง แต่เห็นดินมองไปยังเก้าอีกตัวหนึ่ง
“เป็นเพราะเธอ...”
“เป็นเพราะเธอ...”
“เป็นเพราะเธอ...”
“เป็นเพราะเธอ...”
“เป็นเพราะเธอ…”
“ที่ทำให้ทุกอย่างมันพัง...”
เพล้ง!
กรี้ด!
รอยยิ้มถูกจุดขึ้นมาบนมุมริมฝีปากแดงบางระเรื่อ ก่อนจะเดินออกไป
ผมเม้มปากแน่นกับสิ่งที่ดินเล่า ผู้ชายคนนี้มันเลือดเย็นชัดๆ ทนายเพชรหลับตาลงสักพัก เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง
“ฉันจะไม่รับคดีนี้”ทนายเพชรบอก ดินยิ้ม
“ผมกะไว้อยู่แล้วล่ะ ว่าคำตอบจะต้องออกมาเป็นอย่างนี้ คุณอาจจะคิดว่าผมมีส่วนทำให้เธอตาย แต่ผมคิดว่าผมไม่ใช่ ผมไม่ได้จับตัวเธอ ไม่ได้แตะต้องตัวเธอ ไม่ได้ขยับตัวจากตรงที่ผมยืนอยู่สักนิด ไม่ได้ใช้คำพูดในเชิงข่มขู่หรือสะกดจิตให้เธอไปฆ่าตัวตายหรือโดดลงไป ผมแค่ใช้คำพูดชี้ให้เธอเห็นข้อเท็จจริง ผลกระทบของสิ่งที่เธอได้ทำลงไป”
“นั่นก็จริงแต่...”
“ผมแค่ต้องการให้คุณติดตามผลการตรวจของกองพิสูจน์หลักฐานและนิติเวช แน่นอนลายนิ้วมือบนเก้าอี้ที่ใช้ทุบกระจก หรือร่องรอยจากศพไม่มีอะไรบ่งชี้ถึงผม อีกทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดก็จะแสดงให้เห็นโดยชัดแจ้งว่าผมไม่ได้ทำอะไรเธอ หลักฐานมีพร้อมให้ ก็แค่ต้องการทนายความที่ไว้ใจได้ ไปแสดงโชว์ทำให้คดีไม่ถูกฟ้องขึ้นชั้นศาลเท่านั้นเอง”
“ทำไมต้องเป็นฉัน?อย่างฉันไม่น่าจะเรียกว่าไว้ใจได้”
“เพื่อท่านอัยการสิ้นฟ้า...แค่นี้พอจะตอบตกลงได้ไหมครับ”
“...”
“ออ...อีกอย่าง เพราะคุณเอาตัวกระโดดเข้ามาเอง ถ้าผมไม่ใช้โอกาสนี้ดึงคุณเข้ามาเป็นพวกไว้ เกรงว่าอีกฝ่ายก็คงไม่ปล่อยคุณไว้เหมือนกัน ถือว่าช่วยๆกันนะครับ”
............50%............
ตัดที่50%เพื่อความตื่นเต้น (ผิดๆ) มันถึงจุดที่ต้องตัดก็ต้องตัดครับ
หลังสอบและเคลียร์งานเสร็จแล้วผมจะมาต่อให้นะครับ(นั่งพับเพรียบก้มลงกราบขออภัย)
มาพูดถึงตอนนี้ เฮ้ยมันเฉลยหมดแล้วนี่หว่า มันไม่มีอะไรให้เฉลยแล้ว?(เหรอ)
พูดถึงตัวละคร ดิน ดินคือลูกรักของผม เพราะงั้นไม่ว่าเจ้าตัวจะทำอะไรก็ไม่ผิด
ดินเป็นตัวช่วยที่ดีของสิ้นฟ้า เป็นตัวประกอบอันเลอค่าของเรา
ดินเป็นบุคคลที่อยู่นอกเหนือตรรกะทั้งมวล 555+
ไม่ขอพูดถึงคนที่ถูกจับอยู่ ทั้งนี้มีอะไรสงสัยสามารถถามได้ครับ
ผมอาจไม่ใช่นักเขียนที่ดีมาไม่เป็นเวลาเพราะหน้าที่การงานหลายๆอย่าง
ขอบคุณที่ติดตามครับ ^_^
ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ด้วยครับ