~InLaw~ (คดีที่ 11 ใต้น้ำ 100% ) 30/06/59 P.7
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ~InLaw~ (คดีที่ 11 ใต้น้ำ 100% ) 30/06/59 P.7  (อ่าน 53005 ครั้ง)

ออฟไลน์ Kissa_O

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



 :z2: :z2: :z2: :z2: :z2: :z2: :z2: :z2:


พูดคุยกันก่อน
1.เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับบุคคลและสถานที่จริงแต่ประการใด แต่โลเคชั่นในเรื่องอาจจะมีอยู่จริง แต่ตัวตนคนในเรื่องจริงๆ จ้างให้ก็ตามหาไม่เจอในโลกของความเป็นจริง
2.เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ คนที่เดินบนเส้นทางกฎหมายล้วน คุณอาจจะเบื่อสาขาวิชาอื่นๆ อยากให้ลองมาเสพสมนักกฎหมายดู ฮา~~
3.เรื่องนี้อาจจะเกิดขึ้นที่ไหนในโลกก็ได้ เพราะฉะนั้น ไม่จำเป็นต้องจิ้นว่าเกิดขึ้นที่ไทย แม้ชื่อตัวละครจะไทยก็ตาม
4.เรื่องนี้ได้แรงบัลดาลใจจากนักกฎหมายรอบๆตัว และคดีที่เกิดขึ้นในเรื่องบางคดีก็ได้รับแรงบัลดาลใจจากคดีที่เกิดขึ้นจริง
5.นิยายเรื่องนี้ จัดอยู่ในหมวดตลกขำขัน(?) อาจจะมีมุกแป๊กบ้างต้องขออภัย
6.หวังว่านิยายเรื่องนี้จะไม่โดนลบ เพราะมีเนื้อหาในบางตอนอาจจะเสียดสีสังคม พูดกันแบบตรง ตอกหน้าสังคมแบบแรงๆจนรับไม่ได้
7.สุดท้ายจริงๆ หวังว่านิยายเรื่องนี้จะตลอดรอดฝั่งจริงๆนะเออ
8.สุดท้ายจริงๆของจริงๆ เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะ

............................................





ขออนุญาตทำสารบัญให้นะ


บทนำ เขาว่ากันว่า กฎหมาย ไม่ใช่สิ่งสวยงาม
คดีที่ 1 วันแรกที่เราได้รู้จักกัน
คดีที่ 2 สาวพยาบาล (1)
คดีที่ 2 สาวพยาบาล (2)
คดีที่ 2 สาวพยาบาล (ปิดคดี)
คดีที่ 3 Ticket one way (1)
คดีที่ 3 Ticket one way (2)
คดีที่ 3 Ticket one way (ปิดคดี)
คดีที่ 4 เรื่องลับ...ระดับชาติ (1)
คดีที่ 4 เรื่องลับ...ระดับชาติ (2)
คดีที่ 4 เรื่องลับ...ระดับชาติ (3)
คดีที่ 4 เรื่องลับ...ระดับชาติ (ปิดคดี)
คดีที่ 4 เรื่องลับ...ระดับชาติ (ปิดคดี) [จบ]
คดีที่ 5 เต็มสิบ (Perfect X)
คดีที่ 6 เพชร (Diamond)
Special story
คดีที่ 7 เด็กสาว...เก้าศพ (1)
คดีที่ 7 เด็กสาว...เก้าศพ (2)
คดีที่ 8 เมทแอมเฟตามีน (1)
คดีที่ 8 เมทแอมเฟตามีน (2)
คดีที่ 8 เมทแอมเฟตามีน (ปิดคดี?)
คดีลับเฉพาะ...ตอนพิเศษ (วาเลนไทน์)
ตอนพิเศษ 13 กบฏ และดอกไอริส สีน้ำเงิน
คดีที่ 7 เด็กสาว...เก้าศพ (3)
ข้อชี้แจงจากผู้เขียน
คดีที่ 7 เด็กสาว...เก้าศพ (ปิดคดี)
คดีที่ 0.5 ธงคำตอบ
คดีที่ 9 ลมสงบ
คดีที่ 10 You got me smoking cigarettes.(1)
คดีที่ 10 You got me smoking cigarettes.(2)
คดีที่ 10 I’m in stress.(50%)
คดีที่ 10 I’m in stress.(100%)
คดีที่...Special side หนึ่งวันกับหนึ่งฟ้า


To be continued...


ขอบคุณสำหรับสารบัญนะครับผม :mew1:
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-06-2016 23:16:03 โดย Kissa_O »

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
Re: ~InLaw~ผมรัก...อัยการ (อัพ บทนำ 13/07/57)
«ตอบ #1 เมื่อ13-07-2014 04:40:47 »

เข้ามารอค่ะ ^^

ออฟไลน์ Kissa_O

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
Re: ~InLaw~ผมรัก...อัยการ (อัพ บทนำ 13/07/57)
«ตอบ #2 เมื่อ13-07-2014 04:49:13 »

~InLaw~ผมรัก...อัยการ


บทนำ
   เขาว่ากันว่า กฎหมาย ไม่ใช่สิ่งสวยงาม

   “คิดจะเล่นตลก หรือไงไอ้เด็กบ้า!”เสียงตะคอกดังขึ้น พร้อมกับร่างเล็กๆ ของผมลอยขึ้นเหนือจากพื้น เอาเป็นว่าผมก็ไม่ได้ ตัวเล็กสักเท่าไหร่ แต่ไอ้หมอนี่ที่กำลังกำคอเสื้อของผมขึ้น ร่างกายมันตัวสูงใหญ่มากกว่าผมหลายเท่า เท่านั้นเอง

   “ไม่ได้เล่น ตลก แต่ ผมมาตามคุณ ในฐานะ ที่คุณคือผู้ต้องหา ในคดีเสพเมทแอมเฟตามีน” ให้ตายเหอะ ตำรวจที่มากับผม หายไปไหนกันหมดนะ แล้วทำไม ผมต้องมาเผชิญหน้ากับ ไอ้หมอนี่ ตามลำพังด้วย ผมไม่น่าตาไว เห็นมันก่อนเลย

   “แก คิดว่าฉันเป็นใคร คิดเรอะว่าจะมาจับคนอย่างฉันไปง่ายๆ แถมมาคนเดียวอย่างนี้ อ่อนไปแล้วไอ้หนู” ไม่ได้มาคนเดียว แค่ผมหลงกับพรรคพวกของตัวเอง เว้ย! ครับ

   “แต่คุณคือผู้ต้องหา คุณจะต้องไปเข้าพบอัยการ และ พนักงานสืบสวนสอบสวนนะครับ ทางเรามีหมายจับพร้อม แต่เอ่อ...หมายจับไม่ได้อยู่ที่ผมหรอก แต่ ในเมื่อผมเห็นคุณแล้ว ผมก็ต้องเอาตัวคุณไปให้ได้ตามหน้าที่”ไอ้ผู้ชายร่างยักษ์มองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าที่เอ่อ ...เท้าไม่ติดพื้นของผม ก่อนที่จะยิ้มเหยียด

   “แก ยังเป็นนักเรียน อยู่เลยนี่หว่า” เอ่อ แท้จริง ผมเป็น นักศึกษาครับ “ทำไม เขาให้เด็กอย่างแกมาทำงานอย่างนี้วะ ไม่เสี่ยงไปหน่อยรึไง” เสี่ยง อะ เสี่ยงแน่นอนครับ แต่ทำไงได้เลือกเรียนด้านนี้แล้ว แถมยัง เลือกมาฝึกงานที่สำนักงานอัยการสูงสุดของประเทศด้วย ซึ่ง ไม่ใช่นักศึกษาจะเข้ามาฝึก และ ประกบตัวทำงานกับอัยการง่ายๆ แต่สำหรับผม คงเป็นกรณีพิเศษ ที่ถูกสั่งให้ประกบตัวเป็นคู่หู กับอัยการท่านหนึ่ง

   ...ที่ไม่ได้สนใจผมเลย

    ให้ตายเถอะโรบิ้น พิน๊อคคิโอ แฮรี่ หรืออะไรก็แล้วแต่ ตอนนี้เริ่มหายใจไม่ออก

   “หยุด การกระทำของแก แล้วปล่อยตัวเด็กซะ!”โอ้! เหมือนกับมีเสียงสวรรค์ พร้อมกับปืนอีกหลายกระบอก ที่หันมาทางผมและผู้ต้องหาร่างยักษ์

    “ไม่งั้น ฉัน ยิง!” เสียงเข้มกังวาน ติดเรียบนิ่งเอ่ยขึ้น นัยน์ตาสีดำสนิทคมเฉี่ยวดูดุนั่น มองมาทางผมและผู้ต้องหา ใบหน้าหล่อเหลาราวรูปสลักดูนิ่งเฉย แต่คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันนิดหน่อย ริมฝีปาก อมชมพูรับกับใบหน้าขาวๆเม้มเป็นเส้นตรง มือเรียวยาว เข้ากับรูปร่างสูงใหญ่ราวกับนายแบบ ทั้งสองข้างกำปืนแน่น ในมาดของพระเอกฮอลลีวูด ที่เห็นได้ตามหนังในโรงภาพยนตร์ แต่ให้ตายเหอะ อันนี้หล่อกว่าในหนังแน่นอน ผมขอคอนเฟิร์ม เขาแค่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ทสีขาวธรรมดาแต่ เข้ากับรูปร่าง มันยิ่งทำให้เขาดูโดดเด่น จนทำให้ตำรวจชุดสีกากี รอบข้าง หมองลงไปเลย

   “ปล่อยผม และมอบตัวซะเถอะ ชีวิตของผม ไม่มีค่าพอที่จะให้คุณเสี่ยงด้วย”ผมพูดกับผู้ต้องหา พยายามว่านล้อม ก่อนที่อะไรมันจะยากเกินควบคุมมากกว่านี้ ผู้ต้องหา หลักฐานที่ส่งฟ้องมาทางสำนักงานอัยการเป็นเพียงแค่ผู้เสพ ยังไม่ใช่ผู้ขาย อะไรที่ผมพอจะช่วยได้ ผมก็จะช่วย

   “ถ้าแก ทำอะไรฉัน ไอ้เด็กนี่ ตาย!”เจ้าตัวเขาประกาศกร้าวว่างั้นอะ T^T พร้อมกับเอามีดที่พกติดตัวมาจ่อที่คอของผม อืม...รู้สึกอยากร้องไห้ ก็คราวนี้ละ

   “ฉันจะเตือนแกเป็นครั้งสุดท้าย...ปล่อยเด็กซะ” โอ้ ม่ายยยยยยย คมมีดมันยิ่งจรดลงมาที่คอของผม ลึกกว่าเดิม พ่อแก้ว แม่แก้ว ช่วยผมด้วย


   ปั้ง!


   เสียงเดียวเหมือนกับหยุดการกระทำทุกอย่าง พร้อมกับเลือดสีแดงๆ สาดกระเซ็น มายังใบหน้าของผม นัยน์ตาผู้ต้องหาร่างยักษ์ เบิกกว้าง ก่อนที่มือ และมีดที่จ่อคอผมอยู่จะร่วงล่นลงไป นั่นหมายถึงร่างของผมที่ร่วงลงไปด้วย
ช๊อค กับสิ่งที่เกิดขึ้นนิดหน่อย ก่อนที่จะมีมือเรียวมากระชากร่างของผมขึ้น แล้วพาเดินออกไป จากตรงนั้น ก่อนที่จะสั่งให้คนอื่นๆ เคลียร์พื้นที่

   “คดีนี้จะถือซะว่าฉันเป็นคนยิง”ชายในชุดสีกากี คนหนึ่งเอ่ย ดูจากชุด และเครื่องประดับบนบ่า ยศไม่ใช่เล็กๆแน่นอน อีกทั้ง หน้าตายังหล่อเหลาเอาการ  ร่างสูงโปร่งพอๆกับ คนที่ไปกระชากผมออกมาจากตรงนั้น

   “ขอบคุณครับหมวด”ชายหนุ่มในชุดเชิ้ท สีขาวเอ่ยตอบกลับ ด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

   “สารวัตรเว้ย! บอกกี่รอบละไม่เคยจำ ไอ้เพื่อนคนนี้นิ” ผม อมยิ้มให้ท่าทางหัวเสียของท่านสารวัตรนิดหน่อย อันที่จริง เท่าที่ได้ข่าว ก็พึ่งได้เลื่อนยศไม่นาน แถมเพื่อนสนิทของเขา ที่ไม่ค่อยจะจำยศของเพื่อนตัวเอง ทั้งที่วันเลื่อนยศ เจ้าตัวเป็นคน ถือช่อดอกไม้ไปยินดี ให้ขายหน้าประชาชีแท้ๆ แต่พอถามว่าเพื่อนตัวเองมียศอะไร คุณชายหน้าตายในเสื้อเชิ้ทสีขาวคนนี้ ก็จะตอบกลับออกมาอย่างมั่นใจว่า ‘หมวด’

   ออ คุณชายหน้าตายในเสื้อเชิ้ทสีขาวที่ว่า ก็คือ อัยการ ที่ผมได้ไปประกบเป็นคู่หูของเขานั่นเอง

   ตกใจใช่ไหมละ?...โอเค ไม่ …

   เอาเป็นว่า เขาก็คงเป็นคนที่ลั่นไก ปืน สังหาร ผู้ต้องหาคนนั้น ...

   จะเรียกว่าเขา ทำงานเกินหน้าที่ตัวเองดีไหมนะ



   แต่เรื่องของเรื่อง ระหว่าง ผม กับ เขา มันเริ่มขึ้นที่ตรงไหนกันละ



   คงจะต้องย้อนเวลากลับไป...นิดหน่อย


......................................................................



ฝากนิยายเรื่องใหม่ด้วยนะคะ อยู่ดีๆ พล๊อตมันก็แล่นเข้ามาอยู่ในหัว
มันเลยต้องระบายออกมา เป็นตัวหนังสืออย่างช่วยไม่ได้
อยากให้ลองเสพสมนักกฎหมายดู พวกเขาอาจจะมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่
เอาบทนำไปลองประเดิมก่อน ถ้าโอเค จะอัพถี่ๆเรื่อยๆ อิอิ

หวังว่าจะชอบกันนะคะ ถ้าชอบ ให้กำลังใจด้วย...
 :katai4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-10-2014 05:05:58 โดย Kissa_O »

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
Re: ~InLaw~ผมรัก...อัยการ (อัพ บทนำ 13/07/57)
«ตอบ #3 เมื่อ13-07-2014 06:10:40 »

โว้ๆๆๆ ชอบๆ รออ่านค่ะ เฮียเท่ได้ใจอ่ะ

ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: ~InLaw~ผมรัก...อัยการ (อัพ บทนำ 13/07/57)
«ตอบ #4 เมื่อ13-07-2014 14:50:40 »

อุ๊ย ผู้ชายในเครื่องแบบ(อัยการ)  :hao6:

ออฟไลน์ Kissa_O

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
คดีที่ 1
วันแรกที่เราได้รู้จักกัน

เรื่องมันเริ่ม ขึ้นที่

   “เฮ้ออออ...การหาที่ฝึกงานนี่มันลำบากชะมัด จะมีใครที่ไหน มาสนใจนักศึกษาอย่างเราให้ไปช่วยทำงานบ้างวะ”ฟรัง เพื่อนชายขายาวของผมบ่นขึ้น “พ่อ กูจะฝากงานให้ที่กรมตำรวจวะ แต่ ไม่อยากทำเลย ให้ตายเหอะ”

   “เคยได้ยินไหมครับ ไม่เลือกงาน ไม่ยากจนนะ”เสียงพาย เพื่อนอีกคนของผมเอ่ยขัดขึ้น

   “เรียนสาขานี้ ฝึกงานที่ไหนก็จนทั้งนั้นแหละ ไม่ได้เงิน!” ก็จริงอย่างที่ ฟรัง มันว่า เรียนกฎหมาย ไปฝึกงานที่ไหน ส่วนมากก็ไม่ได้เงินทั้งนั้น แถมยังต้องลงแรงเยอะอีก ได้ยินรุ่นพี่เขาว่ากันมา ว่างั้นนะ

    “แล้วมึง ละ ไอ้สิบ หมายตาที่ไหนไว้บ้างวะ” ฟรังมันหันมาถามผมครับ เอ่อ ชื่อ จริงๆ ของผมชื่อ เต็มสิบ แต่เพื่อนชอบเรียกว่าสิบ ครับ ผมก็ไม่เข้าใจ แท้จริง ผมว่า  เรียกว่า เต็มดูจะง่ายกว่า ว่างั้นไหม? แต่เพื่อนผมมันก็ชอบเรียกว่าสิบกัน ก็ตามใจพวกมันไป

   “กู ยังไม่ได้คิดเลยวะ”ผมตอบออกไปตามความเป็นจริง ผมยังไม่ได้คิดเลยว่าจะฝึกงานที่ไหนดี อีกอย่างสาขาวิชาที่ผมเรียน ในมหาวิทยาลัยนี้ ก็ไม่บังคับให้ต้องฝึกงานด้วย บางที ผมอาจจะยังไม่ฝึก...

      “เฮ้ย! คิดไว้ได้แล้วนะเว้ย ถึงจะไม่บังคับให้ต้องฝึกก็เถอะนะมึง แต่พอจบออกไป ก็ถามหา ประสบการณ์การทำงานทั้งนั้น จะได้เอาไปอ้างได้ว่า เคยผ่านการฝึกงานทางด้านนี้มาแล้ว” ไอ้ ฟรังมันว่า

   “งั้นหรอครับ”ชายพาย เปรยขึ้นบ้าง “ผม อยากไปฝึกงานที่ได้ทำงานจริงๆ ไม่ใช่แค่เป็นเด็กเดินเอกสาร ตามสำนักงานต่างๆนะครับ พี่ชายผมก็ติดต่อ สำนักงานทนายความแห่งหนึ่งไว้ให้ ก็คงต้องไปฝึกที่นั่นละ”

   “งั้นกู ก็ที่กรมตำรวจ สินะ พ่อกู อุตส่า ออกปากไว้แล้วนิ เฮ้อออ...”ไอ้ฟรัง มันว่า แล้วหันมามองทางผม “งั้นก็เหลือแต่มึง คุณสิบครับ สนใจ ตำรวจไหมครับ หรือจะสนใจสำนักงานทนายความ กับไอ้พายมัน”



 นั่นสิ ที่ไหน ดีนะ...



ในที่สุด ผมก็ยังไม่ได้ให้คำตอบกับพวกมัน แต่...ผมก็ควรจะคิดเผื่อในสิ่งที่อยากทำได้แล้ว



ผมอยากเป็นอะไร?...ใช่นั่นคือคำถามแรกๆตั้งแต่สมัยมัธยม ที่ผมยังหาคำตอบที่แท้จริงให้กับตัวเองไม่ได้
ทำไมถึงเลือกมาเรียนกฎหมาย...? เป็นคำถามที่อาจารย์สอบสัมภาษณ์ ถามผมในตอนที่ยังเป็นนักเรียนชายขาสั้นสีน้ำเงินอยู่
อืม...นั่นสินะ ผมอยากเป็นอะไรกันแน่ แล้วในตอนนั้น ทำไมผมถึงเลือกมาเรียนกฎหมาย  จำความรู้สึกตอนนั้น ไม่ได้เลย

เลือกมาเรียน เพราะพ่อแม่ อืม...อาจจะใช่

แต่...

ตัดไปได้เลย พ่อแม่ ไม่ใช่แรงจูงใจให้ผมเลือกเรียนแน่นอน พ่อผมเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง แม่เป็นแม่บ้าน แถมทั้งสองคน ไม่ได้บังคับให้ผมเลือกเรียนกฎหมายหรอก

เพราะ...พี่ชาย ยิ่งแล้วใหญ่ หมอนี่เรียนวิศวะโยธา จบไป ก็เจริญรอยตาม พ่อ

เอ๋ !!!! แล้วสรุปผม มาเลือกเรียนกฎหมาย ทำไมละ ผมอยากเป็นอะไรละ คิดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



อืม...ยังไงก็คิดไม่ออก จนกระทั่ง รถเมล์สายที่รออยู่ ขับมาเทียบจอดที่ป้าย


ผมเดินไปนั่งที่ว่างที่หนึ่ง ในที่นั่งข้างกระจกมีชาย สวมหมวกและเสื้อกันหนาวมีฮูทสีดำนั่งอยู่ ผมของเขาสีดำสนิท ยาวระต้นคอนิดหน่อย แต่เจ้าตัวเขาหันข้างมองออกไปนอกกระจก ผมจึงไม่เห็นหน้าตาของเขาว่าเป็นยังไง เขาตัวใหญ่กว่าผมพอประมาณ และท่าทางจะสูงมากด้วย อืม...ขนาดยังไม่เห็นหน้า มองจากข้างหลัง ผมยังคิดว่าเท่ เลย

   แต่ เอ๋...! สิ่งที่เขาถืออยู่นั่น

   “คุณ เรียนกฎหมายเหรอครับ?”ผมถามขึ้น เพราะสังเกตว่าเขาถือหนังสือเล่มใหญ่และหนามาก อันที่จริงก็ไม่อยากเสือกเรื่องชาวบ้านหรอกนะ แต่เผอิญ เห็นคนที่เหมือนกำลังเดินในเส้นทางเดียวกัน เลยอดถามไม่ได้ อีกทั้ง ผมยังสับสนอะไรบางอย่างอยู่  ร่างสูงขยับตัวนิดหน่อย

   “อืม...”เขาพูด ทั้งที่ไม่ได้หันกลับมามองทางผมเลย “ที่จริง ก็เรียนจบมาตั้งนานแล้ว”

   “เหรอครับ...ผมก็เรียนกฎหมายเหมือนกัน อืม อยู่ ปีสาม แต่ตอนนี้ ผมกลับไม่รู้เลยว่าผมมาเรียนด้านนี้เพราะอะไรและเพื่ออะไร”ผมพูดพรางถอนหายใจ “อันที่จริงผมยังแทบไม่มีคำตอบให้ตัวเองเลยว่าอยากเป็นอะไร?” เขาที่ฟังอยู่หัวเราะในลำคอนิดหน่อย

   “ตอนที่ฉันเลือกเรียนกฎหมาย ที่เลือกเรียน เพราะฉันคิดว่าอยากที่จะเป็นฮีโร่ แสวงหาความยุติธรรม และอยากที่จะปกป้อง หรือรักษามันไว้”เสียงเข้ม ติดจะนิ่งสงบราบเรียบของเขาเอ่ยออกมา “อันที่จริง มันก็เป็น แค่ ความคิด...ในตอนเป็นวัยรุ่น” ที่พูดอย่างนี้ เขาคงอายุเยอะมากแล้วสินะ อืม...สงสัยจะเป็นตาแก่นี่เอง แต่บุคลิกและรูปร่างมันไม่ใช่เลยแหะ

   “นายเลือกมาเรียนด้านนี้แล้ว นายอาจจะเป็นนักกฎหมายที่ดีก็ได้นะ” เขาพูดกับผมโดยที่ไม่หันมามองหน้าผมสักนิด

   “คงงั้นมั้งครับ”ผมเอ่ยออกมาเรียบๆ “เอ่อ ไม่ทราบว่าคุณอายุเท่าไหร่แล้วครับ?” จะเป็นการเสียมารยาทหรือเปล่านะ ถามเรื่องอายุเนี่ย

   “อายุเหรอ...”เขาหยุดคิดไปสักพัก “ปีนี้ ก็ 29 จะ 30 แล้วมั้ง” เอ๋! ยังไม่แก่เท่าไหร่นิ

   “แล้ว คุณทำงานเป็นทนายเหรอครับ...” โอ้! ไอ้เต็มสิบเอ้ย ! เสือกเรื่องชาวบ้านเขาจริงจังเลย
   
“จะว่างั้นก็ใช่...” เขาตอบ พร้อมกับค่อยๆ หันมามองหน้าผม นัยน์ตาสีดำสนิทคมกริบ นั่นหรี่ลงนิดหน่อย พร้อมกับริมฝีปากที่ยกยิ้มขึ้นน้อยๆ ก่อนที่จะเอ่ย ออกมาด้วยน้ำเสียงเข้มอย่างน่าหลงใหล

   “แต่เป็นทนายของแผ่นดิน...”

    ทนายของแผ่นดิน ? ฟังดูเท่...จัง

   “ฉันไปก่อนละ”เขาเอ่ย ผมขยับตัวหลีกทางให้เขาเดินออกจากที่นั่งด้านใน

   “ขอบคุณครับ”ผมตะโกนไล่หลังเขาไป ก่อนที่เขาจะลงจากรถเมล์ เขาหันกลับมายิ้มให้ผมนิดหน่อย

   เป็นรอยยิ้มที่...ใจดี แหะ

   ก่อนที่เขาจะเดินลงไป ผมขยับตัวไปนั่งใกล้บริเวณหน้าต่างก่อนที่จะมองไปยังสถานี ที่เขาลง

   ‘สำนักงานอัยการสูงสุด’

   ป้ายขนาดใหญ่ด้านหน้าและมองเข้าไปเป็นตึกสีขาวสูงตั้งตระง่าน เห็นเจ้าของแผ่นหลังในชุดกันหนาวสีดำเดินเข้าไป

   “ทนายของแผ่นดินงั้นเหรอ?...”ผมพูดกับตัวเองเบาๆ


   บางที นี่อาจจะเป็นสิ่งที่ผมอยากจะทำ ก็เป็นได้




   ไม่กี่วันต่อมา โอเค ไม่อยากจะบอกว่า ไม่ถึงสามวันหรอก หลังจากวันนั้น ผมก็ไปขอใบอนุญาตส่งตัวฝึกงานจากทางมหาวิทยาลัย เมื่อได้แล้วผมก็ตรงดิ่งมาที่นี่เลย   

   “เอิ่ม...น้องมาทำไมเหรอคะ?”พี่พนักงานผู้หญิงคนหนึ่งถามผม ผมไม่รู้หรอกว่าเธอทำงานแผนกอะไรยังไง

   “ผมมาสมัครงานครับ...เป็นนักศึกษาฝึกงานน่ะครับ”ผมตอบกลับไปพร้อมกับยิ้มน้อยๆอย่างจริงใจที่สุดไปให้

   “งั้นนั่งรอพี่ตรงนั้นสักครู่นะคะ...”พี่เขายิ้มตอบให้ผมน้อยๆ ก่อน จะเดินไปหาพนักงานด้วยกันอีกคนที่ดูอาวุโสกว่า อยู่ พูดคุยกันอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเดินกลับมาหาผม ขอเอกสารจากทางมหาวิทยาลัย ไปทำเรื่องให้ ก่อนจะเดินกลับมาอีกรอบยิ้มอย่างใจดี

   “แท้จริง ทางสำนักงาน ยังไม่เปิดรับนักศึกษาฝึกงาน แต่ไหนๆน้องก็มาแล้ว พี่จะให้เข้าพบอัยการผู้ช่วยท่านหนึ่งแล้วกัน ก็แล้วแต่ว่าท่านจะรับน้องไปดูแลไหม  แต่พี่ก็เห็นท่านบ่นๆอยู่นะว่า อยากได้คนมาช่วยเคลียร์งาน แต่หาคนไปช่วยท่านสักกี่คน ก็ไม่ทนไม้ทนมือท่าน ทำงานไม่ถูกใจท่าน ท่านต้องไล่ตะเพิดทุกที... ” เอ่อค่อนข้างน่ากลัวนะครับ “เอาเป็นว่า ถ้าไม่ผ่านเกณฑ์ ท่าน แล้วโดนไล่ออกมา น้องคงได้มาช่วยงานพวกพี่แทน  แต่พี่ว่าน้องคงไม่สนใจทำงานกับพวกพี่หรอก เอาเป็นว่าขอให้โชคดีละกันนะ หุ...หุ” ทำไมต้องหัวเราะทิ้งท้ายอย่างนั้นด้วยละครับ

   “เออ ลืมแนะนำตัวไป พี่ชื่อว่าพี่น้ำนิ่ง ทำงานเป็นนิติกร ที่นี่ เห็นน้องพอดี ก็เลยแอบไปลากน้องมา ไม่งั้นมีหวังพวกฝ่ายธุรการขโมยตัวไปแน่ ไม่ไหว ไม่ไหว ว่าแต่ น้องชื่ออะไรจ๊ะ”

   “เต็มสิบครับ”

   “ว๊ายยย ชื่อไพเราะ หน้าตาน่ารัก หล่อเหลา ผิวขาวเป็นยองใย ถูกใจ๊ ถูกใจ >//<”

   “เอ่อ...ครับ” พี่น้ำนิ่ง พาขึ้นลิฟท์มาไม่กี่ชั้น ก่อนจะพาเดินลัดเลาะ ไปทางเดิน ที่มีห้องต่างๆ มากมาย ด้านหน้าห้องต่างๆ ก็สลักชื่อพร้อมกับตำแหน่งไว้

   รู้สึกกดดันนิดหน่อยแหะ...

   “ถึงแล้วจ๊ะ”พี่แกว่า ก่อนจะเคาะประตูสามครั้ง จนได้ยินเสียงจากด้านในเชิญให้เข้าไปดังออกมาเบา “รอพี่อยู่ตรงนี้ก่อนนะจ๊ะ” พี่น้ำนิ่ง หันมาบอกผมนิดหน่อยก่อนจะเดินเข้าไป แล้วปิดประตู

ผมอ่านป้ายชื่อที่หน้าประตู

‘อัยการผู้ช่วย สิ้นฟ้า เนติธรณินทร์’

สิ้นฟ้า ชื่อคนเหรอนั่น ? ไม่เป็นมงคลเลย...

“น้องเต็มสิบ เชิญเลยจ๊ะ”พี่น้ำนิ่งเปิดประตูออกมาเรียกผม ก่อนที่จะหลบทางให้ผมเดินเข้าไป “ท่านไม่สบายอยู่นะ ฝากด้วยละ งานแรกของน้องเต็มสิบเลย แล้วอย่าให้ใครหรือผู้หญิงหน้าไหนเข้ามาในห้องของท่านเด็ดขาดนอกจากพี่ ไม่งั้นท่านแย่ๆแน่ๆเข้าใจนะจ๊ะ...พี่ขอตัวก่อนนะ”

“เอ่อ... พี่ครับ ปะ ปะ ไปซะแล้ว”ผมแอบถอนหายใจ ก่อนจะเดินเข้าไป ร่างสูงดูคุ้นตา เหยียดยาวอยู่เต็มโซฟา เสื้อเชิ้ทสีขาวถูกปลดกระดุมออกสองเม็ด ดูยับยู่ยี่  ใบหน้ามีผ้าผืนเล็ก ปิดอยู่

ภาพที่ผมเห็นอยู่ตรงหน้า มันทำให้ผมยกยิ้มขึ้นมาได้

รูปร่างแบบนี้...จะใช่ไหมนะ

“เอ่อสวัสดีครับ”ผมกล่าวทักทายออกไป ก่อนที่สายตา พลันมองไปเห็นอะไรบางอย่าง 
ท่านอัยการนอนบนโซฟา โดยไม่ถอดรองเท้าครับ...

“ขออนุญาตนะครับ”ผมเอ่ยขออนุญาตก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ร่างนั้น ย่อตัวลงนั่งนิดหน่อย ก่อนจะค่อยๆถอดรองเท้าหนังสีดำออกให้ทั้งสองข้าง

เอารองเท้าแอบไปปล่อยขายในอีเบย์ คงได้ราคาดี...

ผมกระเถิบตัว มานั่งขัดสมาธิบนพื้นหน้าโซฟามองคนหลับ อย่างไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี ก็นั่งมองอยู่อย่างนี้ละ
จนผ่านไปกว่าชั่วโมงขาผมเริ่มเมื่อย เลยเริ่มเหยียดแข้งเหยียดขานิดหน่อย

“อืม...”เสียงครางดังขึ้นเบาๆ ทำให้ผมรีบเก็บขามานั่งขัดสมาธิเหมือนเดิม เขาขยับตัวนิดหน่อยจนผ้าขนหนูผืนเล็กที่ปิดบังใบหน้า ค่อยๆเลื่อนหล่น

เยส!!!! ...ใช่เขาจริงด้วยๆ

อยากจุดพลุฉลอง

ไม่นึกว่าจะได้เจอตัวเร็วขนาดนี้
ผมเอื้อมมือไปหยิบผ้าที่หล่นลงมา ก่อนที่จะเอาไปซักและชุบน้ำมาใหม่

“ขอโทษนะครับ”ผมเอ่ยเบาๆ ก่อนที่จะค่อยๆเอาผ้า เช็ดไปตามใบหน้าขาวๆที่ขึ้นสีชมพูระเรื่อติดไปทางแดงๆอย่างกับมะเขือเทศบ่งบอกถึงว่ากำลังมีไข้

วันก่อนนี่ก็ยังดูสบายดีอยู่เลยนี่นะ...

ริมฝีปากที่แดงอยู่แล้ว ยิ่งแดง อาจจะเป็นเพราะไอร้อนจากพิษไข้ ผมว่าผมลากเขาไปหาหมอดีไหมนะ เสมือนจะเป็นหนักเอาการ

เมื่อคิดได้อย่างนั้น ผมจึงจับที่ไหล่เขาอย่างถือวิสาสะ พร้อมกับเขย่านิดหน่อย

“คุณครับ คุณ...”ผมเอ่ยเรียกเบาๆ

“อืม...”เสียงตอบกลับมาแค่นั้น

“ไปหาหมอดีไหมครับ?”ผมเอ่ยถามออกไป

“อืม...”

“งั้นก็ลุกนะครับ”

“อืม...”โอเค สงสัยคุยกันไม่รู้เรื่องละ

“งั้นผมจะเรียกรถพยาบาล”ผมพูดออกไป เห็นคิ้วเขากระตุกนิดหน่อย ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้น แล้วมองมาทางผม

“ฉันเกลียดรถพยาบาล...”เสียงเข้มเอ่ยนิ่งๆ “แล้วนาย?...เป็นใคร?”คิ้วผมกระตุกนิดหน่อย...ลืมผมแล้วสินะ
“นายบนรถเมล์?”อยู่ดีๆก็เอ่ยออกมาเบาๆ “นักศึกษา...ฝึกงาน?”

“ครับ...”ผมตอบรับพร้อมยิ้มให้

“โอเค...งั้นฉันขอนอนต่อละกัน” เอ๋!!!! เจ้าตัวเขาพูดพร้อมกับทำท่าจะนอนลงอีก

“ลุกก่อนสิครับ ไปหาหมอกันก่อน คุณมีไข้สูงนะครับ ควรที่จะไปหาหมอ”ผมพูดพร้อมกับเผลอไปดึงต้นแขนเขาไว้ไม่ให้ล้มตัวลงนอนไปอีก

“คิดที่จะทำงานกับฉัน อย่างหนึ่งที่นายควรรู้ไว้ก็คือ...ฉันเกลียดโรงพยาบาล”พูดปุ๊ปทิ้งตัวลงปั๊บทันที

“โอเค งั้นผมเรียกรถพยาบาลละ” พูดพร้อมกับควักมือถือมาทำท่าจะกด ท่านชายร่างสูงกระเด้งตัวขึ้นนั่งทันที

“ฉันจะไล่นายออก”

“เอาสิ”อย่างน้อยก็แค่ได้ไปทำงานกับพวกพี่น้ำนิ่งที่เป็นนิติกร

“งั้นออกไปเลย ออกไปจากห้องฉันเลย”เสียงเข้มๆเอ่ยไล่

“ผมจะไปก็ต่อเมื่อลากคุณไปโรงพยาบาลได้”ผมยื่นคำขาด

“...”

“ไม่ตอบถือว่าตกลง งั้นไปโรงพยาบาลกัน!”พูดพร้อมกับลากท่านอัยการตัวใหญ่ออกมาจากโซฟา
งานแรกของผมคือการดูแลท่านอัยการ ผมว่า ผมทำได้ดีนะ



“ฉันจะไล่ ฉันจะไล่นายออกแน่ๆ”


...........................................


เอาคดี ที่ 1 ไป ยังไม่มีอะไรมาก มารู้จักที่ไปที่มาของทั้งสองคนก่อน
อัยการของผมไม่น่ารักขนาดนั้นหรอก 5555
พยายามเขียนให้มุ้งมิ้งเข้าไว้ แต่ปกติคนเขียนไม่ค่อยจะมีอารมณ์มุ้งมิ้ง
ฟรุ้งฟริ้ง แบบนี้เลยยากหน่อย

เป็นกำลังใจให้ด้วยนะ :katai4:



ออฟไลน์ mana_ai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เนื้อเรื่องน่าสนใจมากค่ะ รอตอนต่อไปค่ะ

meili run

  • บุคคลทั่วไป
เนื้อคู่มาแล้ว กล้าไล่หรอออออออออออออออออ :hao6:  :laugh:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
น่ารักจัง  :mew1:
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้า

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Kissa_O

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
คดีที่ 2
สาวพยาบาล (1)

“แค่เป็นหวัดนิดหน่อยครับ เดี๋ยวหมอสั่งยาให้ไปกิน พักผ่อนเยอะๆ ดื่มน้ำอุ่นๆ อีกแค่ไม่กี่วันก็คงจะหายแล้วครับ”เสียงนุ่มๆของหมอหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาเอ่ยขึ้น "เดี๋ยวไปรอรับยาได้เลยนะครับ”

“ครับ”ผมตอบรับ อย่างกับคนไม่สบายซะเอง พอหันไปมองข้างๆก็เห็นร่างสูงในเชิ้ทสีขาว ทำหน้าตาเบื่อหน่ายอยู่ “ปะไปรอรับยากัน” ผมเอ่ยชวน

“นายนี่มันวุ่นวายชะมัด”เขาบ่นเบาๆ แต่ผมได้ยินนะ ผมสีดำที่ยาวระต้นคอเป็นทรงรากไทรของเขา ยุ่งเหยิง ดูตลกชะมัด แต่เมื่อเดินออกมาจากห้องตรวจมันกลับเรียกสายตาจากคนรอบข้างได้ดี โดยเฉพาะสาวๆพยาบาลสวยๆที่มองมาทางนี้ แล้วก็หันไปซุบซิบ หัวร่อต่อกระซิกกัน (ผมว่าผมใช้สำนวนโบราณดีแหะ) แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือคนข้างๆผม แม้จะอยู่ในสภาพเสื้อยับ ผมยุ่งเหยิงแค่ไหน มันก็ไม่ได้ลดความหล่อและดูดีของเขาลงไปได้เลย แม้แต่คุณยายที่มานั่งรอรับยาข้างๆ ยังมอง และแอบหันกลับไปอายม้วนต่อหน้าคุณตาสามีแกเลย

กลับบ้านไป แล้ว ทะเลาะกัน ถือเป็นความผิดของยายเองนะ ไม่เกี่ยวกับเขา ผมจะเป็นพยานให้เอง

ครืดดดดด~ ครืด~

เสียงสั่นของโทรศัพท์ในกางเกงแสล็คสีดำของเขาดังขึ้น ก่อนที่เจ้าตัวจะล้วงหยิบออกมาด้วยท่าทางเอื่อยเฉื่อย

“ฮัลโหล ตอนนี้ท่านอัยการสิ้นฟ้าไม่ว่าง หาเห็บหมัดให้หมาที่บ้านอยู่ มีอะไรติด....”

(แล้วหมาตัวไหนมันรับโทรศัพท์กูวะ!)เสียงโวยจากโทรศัพท์ ดังมาจนผมได้ยิน และเหมือนคุณยายคนข้างๆจะได้ยินเช่นกัน ผมเห็นแกทำหน้าตกใจเลย

“อย่าทำเสียงดังในโรงพยาบาลน่าหมวด”ผมเผลอหลุดยิ้มออกมา เมื่อได้ยินคนข้างๆว่า

(สารวัตรเว้ย!)

“กูจะไม่ยอมเรียกคนที่ได้เลื่อนขั้นไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์ แล้วบังคับให้เพื่อนซื้อดอกไม้ไปยินดีให้ อย่างมึงว่าสารวัตรหรอก...มึงไม่ใช่เพื่อนกู มึงได้เลื่อนขั้นก่อนกู มึงไอ้สารวัตรตัวปลอม” เออ เว้ยเฮ้ย...คนอย่างนี้ก็มีด้วย

(ไอ้...อัยการอย่างมึงเขามีเลื่อนขั้นด้วยเหรอวะ)

“เออ นั่นสิ กูก็สงสัยอย่างมึงนี่ละ ทำงานมาตั้งนาน กูยังไม่รู้เรื่องเลย”

(เชี่ยฟ้า!) สมควรโดนด่า (เออ ว่าแต่มึงไปทำอะไรที่โรงพยาบาลวะ มีใครเป็นอะไร?)

“ไม่มี๊”พูดด้วยเสียงสูง

(แสดงว่ามึงไม่สบาย...ชัวร์) สงสัยคนที่คุยอยู่ด้วย จะเป็นเพื่อนสนิทกันมากๆแน่เลย

“บอกว่าไม่มีไง ว่าแต่มีอะไรโทรหากู”

(มีคดีวะ ทีแรกกูจะทำสำนวนส่งไปให้มึงสั่งฟ้อง แต่หลักฐานนี่ยังเก็บไม่ครบเลย มีแววอีกนาน ก็เลยคิดว่าเผื่อมึงสนใจที่จะลงมาสืบ หาหลักฐานด้วยตัวเอง ก็เลยโทรมาหา)

“หลักฐาน ไม่ครบ?”เขาว่าพรางยกคิ้วเข้มๆขึ้นข้างหนึ่ง “อย่างมึงมีภาวะ แบบนี้ด้วยเหรอวะ?”

(ก็เออ...มันพูดยากวะ...แต่อีกทางหนึ่งกูก็โทรเรียกไอ้หมอมันแล้ว มันก็กำลังจะมาช่วย)

“ไอ้หมอ...มาช่วย?”

(เออ...มาช่วย เก็บชิ้นส่วนมนุษย์ อะนะ ว่าแต่...มึงสนใจลงมาเก็บเองหรือเปล่าละ?)

“ไม่ใช่เรื่อง...”

“แต่ผมสน”ผมสวนกลับขึ้นไปทันที

“ไม่ใช่เรื่องของนาย!”

(เสียงใครวะฟ้า?)

“เสียงหมา!”

“ผมไม่ใช่หมานะ”

“อย่าเอะอะ โวยวายในโรงพยาบาลนะคะ”นางพยาบาล สุดสวยเดินเข้ามาเตือน

“นะ คุณนะ พาผมไปดูหน่อย ว่าพวกคุณทำงานกันยังไง แล้วคุณจะให้ผมทำอะไรผมยอมทุกอย่างเลย”

(เสียงใครแว้!!!!!)

“นายพูดเองนะ”

“ครับ”

(เฮ้ยยยยย! ให้กูเสือกด้วยสนใจกูหน่อย)

“โอเค ไอ้หมวด เดี๋ยวกูไปหามึง”

(ย้ำๆ ชัดๆ อีกครั้ง กูสารวัตร ไม่ใช่หมวด!!!!!)





ที่นี่ที่ไหนกัน รอบข้างมันมืด และกลิ่นเหม็นที่สุดจะทนไปหมด แม้จะสวมอุปกรณ์ป้องกันต่างๆ แต่กลิ่นนี่ ทะลุทะลวง ยันอณูของชุดอุปกรณ์ที่สวมใส่ไว้อยู่

“น้องเต็มสิบ สู้ๆนะ พี่สารวัตรสุดหล่อเป็นกำลังใจให้”เสียงเย้วๆ ดังมาจากด้านบน “ไอ้ฟ้า มึงส่งเสียงเชียร์น้องมันหน่อยสิวะ”

“เอาไว้ถ้ารอดกลับมาจะทำป้ายไฟให้”เสียงนิ่งๆเย็นๆตะโกนบอกมา

เอิ่ม...ขอบคุณครับ

“เอาน่า ไม่ต้องตื่นเต้นไป มีพี่อยู่ด้วยทั้งคน”เสียงนุ่มติดหวานๆของพี่หมอเอ่ยออกมา พร้อมกับเอามือจับไหล่ผ่านชุดป้องกันเชื้อโรคอย่างดี ส่งมาเป็นกำลังใจให้

“ไอ้หมอ อย่าแอบแตะอั๋งน้องเต็มสิบนะเว้ย!”เสียงตะโกนของพี่หมวด เอ้ย! ท่านสารวัตรตะโกนสั่งมา พร้อมกับส่องไฟสปอร์ตไลท์มาทางผม พี่หมอ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่นิติเวช ท่านอื่นๆ ส่วนพวกเขาทั้งสองคน ทำหน้าที่ในการควบคุมไฟส่องสปอร์ตไลท์ ให้ส่องไปทั่วบริเวณ อย่างมีประสิทธิภาพ

โอเค สงสัยใช่ไหมครับ ว่าผมอยู่ที่ไหนตอนนี้

ผมอยู่ภายในท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ใจกลางเมืองครับ

แบบว่าไม่น่ารนหาที่เลยกู

นอกจากจะมีไฟจากสปอร์ตไลท์ที่ส่องลงมา บนหัวผมก็มีไฟฉายอยู่ครับ ส่วนที่มือของผมมีตระแกรงตะข่าย ที่ตอนนี้ ใช้เพื่อ ตักหาเศษชิ้นส่วนบางอย่างภายในท่อระบายน้ำที่ไหลเอื่อยๆ มีกลิ่นเหม็นมากๆ

ตักไปก็เจอเศษอะไรต่ออะไรไป จะต้องใช้ทักษะในการสังเกตดีๆ
ว่าอันไหนคือชิ้นส่วนของเศษผิวหนังมนุษย์ ส่วนอันไหน ไม่ใช่

“ตั้งใจทำงานนะเด็กๆ เสร็จงานนี้ เดี๋ยวพี่พาไปกินเนื้อย่าง”

อืม...แทบอวก

เตะ สารวัตร ที่ยืนแหกปากอยู่ด้านบน จะมีความผิดโทษฐานทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานไหมครับ?



ผมตักไปเรื่อยๆ และแยกเศษชิ้นส่วนไปเรื่อยๆ จนตอนนี้ตะวันเริ่มลับขอบฟ้าแล้ว พวกเราก็ยังไม่เลิกทำงานในการหาชิ้นส่วนเศษเนื้อของมนุษย์ที่ว่ากัน พี่หมอบอกว่ายังไมรู้หรอกว่าเป็นเศษชิ้นส่วนของใคร คือเขาต้องเอากลับไปหาเจ้าของอีกที
ทีแรกเริ่มของคดีนี้ ชาวบ้านเห็นเป็นเศษชิ้นส่วนของกระดูกเป็นชิ้น ลอยมาตามน้ำในคลองย่านสลัมย่านหนึ่งครับ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ พอค้นหาหลักฐานไปมา กลับเจอชิ้นส่วน ชิ้นอื่นๆตามมาเรื่อยๆจนมาจบ ที่ต้องมาหา เศษชิ้นส่วนจากท่อระบายน้ำ ที่เป็นท่อระบายน้ำหลักที่จะไหลลงสู่แม่น้ำในคลองนั่น ยิ่งหา...ยิ่งเจอ

“เอาละ พอแค่นี้ ก่อน กลับขึ้นไปบนพื้นผิวของโลกมนุษย์ได้ละ”พี่หมอพูดติดตลก แต่หลายๆคน ถอนหายใจอย่างโล่งอก ที่พี่หมอแกพอใจกับหลักฐานที่ได้ซะที

เมื่อขึ้นมาจากท่อระบายน้ำ ก็ถูกฉีดฆ่าเชื้อทันที ถึงจะถอดชุดอุปกรณ์ และไปอาบน้ำฆ่าเชื้อตัวเองอีกทีได้

“เป็นไง สนุกไหม” สารวัตรสุดหล่อเดินมาถามผม หลังจากอาบน้ำแต่งตัวภายในโรงพยาบาลที่พี่หมอทำงานอยู่เสร็จ

“ก็เป็นประสบการณ์ทีดีครับ”ผมตอบกลับไป

“ปะงั้นพี่พาไปเลี้ยงเนื้อย่างเห็นเราตั้งใจทำงานดี”ท่านสารวัตรพูดอย่างร่าเริง

“เองจริงดิ?”

“จริงเซ่! ไอ้ฟ้า มันจะช่วยออกเงินให้ด้วยนะ แพงแค่ไหน กินเยอะขนาดไหน กินได้ไม่อั้น”


ร้ายกาจ ร้ายกาจมากคนพวกนี้...


“ไปกันยัง กูหิวละ” หน้าหล่อๆ พร้อมเสียงนิ่ง โผล่ออกมา เจ้าตัวเขาก็เข้าไปเปลี่ยนเสื้อนิดหน่อยครับ เพราะ เห็นบ่นว่าเสื้อตัวเองยับ ก็นะ...

“โอเค พร้อมแล้ววววววว”เสียงใส พร้อมกับร่างเล็กๆของพี่หมอ วิ่งตามมาอีกคน



“เนื้อย่าง! เนื้อย่าง! เนื้อย่าง! เนื้อย่าง!”

แล้วเพื่อนซี้ทั้งสามคน ก็ร้องเป็นเพลงอย่างสนุกสนาน โดยไม่หันมามองทางลูกน้องที่เหลือเลย

ให้ตายเหอะ....!




“เป็นยังไงวะ ทำงานที่สำนักงานอัยการ?”เสียงไอ้ฟรังมันถามขึ้น

“เฮ้อ...”ผมถอนหายใจยาวๆ

“มันลำบากขนาดนั้นเลยเหรอครับ?”ชายพายถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง

“ไม่ลำบากอะไรหรอก...แต่...”

“แต่?”

“แกคิดว่าอัยการนี่เขามีหน้าที่ไปสืบคดีเองด้วยหรือเปล่าวะ?”ผมถามขึ้น

“ก็ แล้วแต่กรณี บางกรณีอาจอยากลงไปสืบเองก็ได้”ฟรังพูดอย่างผู้รู้ “แต่โดยปกติ นั่งทำหน้าหล่อๆสวยๆในห้องทำงาน คอยรับสำนวนคดีจากพนักงานสืบสวน ที่สืบมาก็พอแล้ว ไม่จำเป็นจะต้องลงไปสืบเองเลย”

งั้นเหรอ?...ถ้างั้นทำไมคนๆนั้นถึง?



หลังจากวันนั้น คนๆนั้น ก็ติดตามการสืบสวนสอบสวนอย่างใกล้ชิด พี่หมอ ก็มาที่สำนักงานอัยการบ่อยๆ เพื่อมาคุยเกี่ยวกับคดีนี้ ท่านสารวัตร ก็ด้วย ทั้งสองคนชอบมาหา พร้อมกับเอาพยานหลักฐานมากองไว้ในห้องทำงาน ของอัยการผู้ช่วยสิ้นฟ้าบ่อยๆ จนผมต้องแยกสำนวนคดี อันเก่า หนีไปไว้ยังอีกมุมหนึ่งของห้องและจัดให้อีกมุมหนึ่งของห้องเป็นพื้นที่ของทั้งสามคนไป
และทั้งสามคนก็ชอบ...สุมหัวกัน

ออ รวมทั้งผมด้วย

อันที่จริงผมก็ไม่ค่อยรู้อะไรกับเขาหรอก แต่ก็มีหน้าที่คอยเช็คหลักฐาน ให้ ซ้ำอีกครั้ง ว่าขาดหายอะไรไปบ้าง

พอมีคดีเข้ามา คนๆนั้น ก็เหมือนกับจะหายไข้เป็นปลิดทิ้ง แต่ก็มิวายที่ต้องให้บังคับให้กินยาบ่อยๆ เพราะผมมั่นใจว่าเขายังไม่หายดีหรอก


“อืม...อืม...อืม...”เสียงคนบางคนพรึมพรำกับตัวเอง ยกกระดาษอีกแผ่นหนึ่ง เทียบกับอีกแผ่น ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก

“ให้ผมช่วยดูไหมครับ?”ผมถามขึ้น

“บอกฉันหน่อยว่ามันตรงกัน”เขายื่นกระดาษสองแผ่นมาให้ผม เป็นผลตรวจ ดีเอ็นเอ จากเศษเนื้อและกระดูกที่เก็บได้แผ่นหนึ่ง ส่วนอีกแผ่น ที่มีโครงสร้างของดีเอ็นเอ ที่คล้ายกัน ผมไม่รู้ว่าเป็นดีเอ็นเอของใคร

“ครับ ทั้งสองแผ่น ตรงกัน”ผมพูดพร้อมกับยื่นให้เขาคืน

“อันหนึ่งจากเศษเนื้อที่เก็บได้ อีกอันหนึ่ง เก็บตัวอย่างจากคนที่ยังมีชีวิตอยู่...”เขาพูดลอยๆ

“เอ๋...หมายความว่าไงครับ?”ผมถามกลับไป
“แผ่นนี้...”เขาว่า พรางชี้ไปยังกระดาษแผ่นที่หนึ่ง ที่บอกว่าเก็บตัวอย่างมาจากคนที่ยังมีชีวิตอยู่ “ไอ้หมอบอกว่าได้มาจากการตรวจเลือดนักศึกษาในมหา’ลัย จากการตรวจสุขภาพประจำปีของนักศึกษา”

“ตรวจสุขภาพประจำปีของนักศึกษามีการตรวจไปถึง DNA เลยเหรอครับ?”

“ตรวจหาโรคด้วยวิธี PCR เพื่อป้องกันไข้หวัดที่กำลังระบาด ซึ่งสามารถตรวจได้ละเอียดจนไปถึงระดับ DNA พอตรวจเสร็จไอ้หมอเลยสะกิดอะไรบางอย่างนิดหน่อย อันที่จริงก็ตรวจ DNA ทุกคนเพื่อเอาเข้าสู่ฐานข้อมูล เพื่อป้องกันการก่ออาชญากรรมระดับชาติ เป็นโครงการของรัฐ...”เขาอธิบาย พร้อมกับทำหน้าหนักใจนิดหน่อย

“ออ...ถ้านักศึกษาพวกนั้น รู้คงแย่แน่” ผมเปรยเรียบๆ “งั้นแสดงว่า เราหาคนที่ใกล้ตัวของเจ้าของเศษชิ้นเนื้อได้แล้วสินะครับ”

“อืม...”เขาตอบรับ “ถ้า DNA ของทั้งสองแผ่นตรงกันขนาดนี้ คงจะเป็น...ฝาแฝดสินะ”












“ว่าแต่ว่า พี่หมอเขาเป็นแพทย์ประจำแผนกนิติเวชไม่ใช่เหรอครับ? ทำไม ถึงได้ไปตรวจสุขภาพนักศึกษาละ”

“ไอ้หมอมันก็หาเรื่อง เสือก ไปเรื่อยอะแหละ”

...เข้าใจแล้วครับ...




........................................................

แถมให้อีกตอนสำหรับวันนี้
วันต่อๆไปจะขอลงเป็นวันละตอน หรือถ้าไม่ทันอาจจะเป็นสองวันต่อตอน
กลัวของในสต๊อก มันหมดเสียก่อน 5555+
ใจเย็นๆ และค่อยๆ ทำความรู้จักกับพวกเขาต่อไปนะคะ
 :katai4:


ออฟไลน์ KhunToOk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-4
 :mc4: :mc4:น่าติดตามมากค่าาาา  รอนะคะ อิอิ

ออฟไลน์ dimth

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
คุณสิ้นฟ้าซึนมาก  :ruready :ruready

ฉากสุมหัว..ให้อารมณ์เหมือนอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นเลย  :katai2-1:

อ่านสนุกน่าตามติดค่ะ ^^

meili run

  • บุคคลทั่วไป
เอิ่มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม :z2:

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
น่าสนใจทุกคนเลย ยกเว้นเพื่อนนายเอก ตัวประกอบมาก ยกเว้นว่าในนั้นจะมีฝาแฝด
จะตามอ่านค่ะ :seng2ped:

ออฟไลน์ ceylon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อัยการตัวร้ายกับนายนักศึกษาสินะคะ  :hao6:
ดูเหมือนจะมีแนวสืบสวนสอบสวนเข้ามาด้วย น่าสนใจๆ
ออกแนวเชอร์ล็อค โฮล์มส์หรือเปล่าคะเนี่ย

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
อะไรกันนั่น

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
อัยการสิ้นฟ้า จะอึนมึนอ้วกไปไหม เฉื่อยดีจริงๆ น่ารักมุ้งมิ้งดี

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
แค่ 2 ตอนก็สนุกแล้ว

ติดตามต่อค่ะ


 :L2: :L2:

feather7074

  • บุคคลทั่วไป
ติดตาม ม มาต่อบ่อยๆน่ะ  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Kissa_O

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
คดีที่ 2
สาวพยาบาล (2)


“จะดีเหรอครับที่ทำแบบนี้”ผมถามออกมาด้วยความไม่มั่นใจ


“ดีสิ...เหยื่อจะได้ไม่ไหวตัวทัน”

“เราจำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอครับ?”ผมถามขึ้น

“อิอิ”เสียงหัวเราะ ดังจากอีกคนหนึ่งผ่านเข้ามา

นี่นักศึกษาฝึกงาน อัยการ และสารวัตรตำรวจ จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอครับ!

ไอ้ผมอะไม่เท่าไหร่ แต่การเอาคนที่อายุเกือบจะสามสิบทั้งสองคนมา แฝงตัวเข้ามาอยู่ในหมู่นักศึกษาของคณะพยาบาล นี่มัน ไม่ค่อยจะเข้าท่าเท่าไหร่นะครับ

‘เอาน่า น้องเต็มสิบ เคยได้ยินคำว่า ไม่มีใครแก่เกินเรียน ใช่มะ หุ...หุ มันก็ประมาณนั้น...’ เสียงใสๆของพี่หมอยังก้องอยู่ในหูผม


เออ เอาก็เอาวะ ไหนไหนก็ไหนไหนแล้ว



พวกเราทั้งสามคนเข้ามานั่งเรียนในคลาสของนักศึกษาพยาบาลได้ประมาณสองชั่วโมงก่อนอาจารย์จะปล่อย หลายๆคน มองมาทางพวกผมอย่างสงสัย

แต่สายตาของเราทั้งสามคนนั้น มองไปยังผู้หญิงคนหนึ่ง ที่คาดการณ์ว่า หน้าตาอาจจะเหมือนกับเจ้าของชิ้นเนื้อและกระดูกที่เราได้พบเจอ

“สวยเนอะ”

“หน้าอกเล็กไปหน่อย...”

“กูก็ว่างั้น”

เสียงซุบซิบเบาๆคุยกันของคนทั้งสองคน เอิ่ม...พี่ครับ! พี่คร๊าบบบบบ! มีอัยการกับตำรวจลามกสองคนอยู่ตรงนี้คร๊าบบบบบบ!

 เอะ...แล้วนี่ผมตะโกนในใจเพื่อบอกใคร

พวกเราสะกดตามรอยมาเรื่อยๆ ซึ่งผมก็เดินตามผู้หญิงคนนั้นแบบปกติ ที่มีหลายๆคนเดินสวนกันไปสวนกันมา

แต่...สองคนนั่น แยกกันแอบตามมุมเสา และมุม กำแพงต่างๆ



พวกพี่แก...ทำเป็นเล่น



ผมส่ายหัว แล้วเดินเข้าไปสะกิดไหล่ของผู้หญิงคนนั้น เธอหันกลับมาพร้อมทำหน้าสงสัยนิดหน่อย

“เอ่อ ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณครับ พอจะมีเวลาให้ผมหน่อยได้ไหม?”เสียงเพื่อนที่อยู่ข้างๆผู้หญิงคนนี้กรี๊ดเบาๆ

“เอ่อ ได้คะ”เธอตอบพร้อมกับยิ้มกลับมา

“งั้นเชิญทางด้านนี้ครับ”ผมพาเธอเดินมาหลบมุม ออกห่างจากความวุ่นวายนิดหน่อย โดยนำเธอมานั่งที่โต๊ะไม้หินอ่อนใต้ต้นไม้ไม่ไกลจากตัวอาคารเรียนของคณะพยาบาลสักเท่าไหร่

“มีเรื่องอะไร คะ?”เธอถามด้วยความสงสัย

“คือ ที่บ้านของคุณมีคนหาย หรือพี่สาว หรือน้องสาว หายตัวไป บ้างไหมครับ?”ผมรู้สึกว่าเรียบเรียงคำพูดของตัวเองไม่ค่อยจะถูก ก็นะ เรื่องแบบนี้มันพูดยากนิ แต่ คำถามของผมก็ทำให้เธอทำหน้าตกใจนิดหน่อย ก่อนเธอจะหยุดคิดไปสักพักหนึ่ง แล้วตอบกลับมา

“ไม่มีคะ”เธอว่าด้วยน้ำเสียงขุ่นมัว “ฉันขอตัวก่อนนะคะ”เธอพูดพร้อมกับทำท่าจะลุกขึ้น

“ทำตัวมีพิรุธนะครับสาวน้อย”เสียงสารวัตรหนุ่มในชุดนักศึกษาเอ่ยขึ้น พร้อมกับขยับแว่นทรงโต ที่ไม่รู้ว่าไปหามาใส่จากไหน

“อะไร พวกคุณเป็นใคร?”เธอถามด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน ปนตกใจ

“ผมเชอร์ล๊อค โฮล์ม เป็นนักสืบ และนี่คุณหมอวัตสัน คู่หูของผมเอง”เสียงเข้มนิ่งเอ่ย พร้อมกับทำท่าทางส่องแว่นขยายอันใหญ่


เอ่อ...อย่าไปบอกใครให้โลกรู้นะ ว่านั่น คือผู้ที่มีตำแหน่งเป็นถึง...อัยการ


“ส่วนเด็กนั่น...”เขาว่าพรางชำเลืองสายตามองมาทางผม “หมาน้อยของฉันเอง” ขอบใจอย่างสุดซึ้ง...ที่ให้เป็นได้แค่ หมา!

“ไปกับพวกเราซะดีๆ”สารวัตรหนุ่มว่า พร้อมกับเอาผ้าเช็ดหน้าโป๊ะยาสลบเข้าไปที่หญิงสาวคนนั้นทันที



“หลีกทางหน่อยคร๊าบบบบ คนเป็นลมคร๊าบบบบบบ! ต้องไปโรงพยาบาลนะครับ!”เสียงอัยการสุดหล่อแหกปากร้อง ก่อนที่สารวัตรหนุ่มจะอุ้มหญิงสาวออกไปขึ้นรถที่มาจอดรอรับอยู่ อย่างรวดเร็ว



“เอ่อ...อย่างนี้ มันเรียกว่าลักพาตัวใช่ไหมครับ?”






“ตื่นแล้ว”ผมเผลอร้องออกมาด้วยความดีใจ เมื่อเห็นหญิงสาวค่อยๆขยับตัว

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด! พวกแก ทำอะไรฉัน! ที่นี่ที่ไหน! ปล่อยฉันไปนะ! ไอ้พวกสารเลว!”

“กูเตือนพวกมึงแล้วว่าให้เอาสำลีอุดหูไว้”เสียงนิ่งเอ่ยขึ้น พรางค่อยๆดึงสำลีออกมาจากหู ซึ่งพี่หมอ กับท่านสารวัตร ทำหน้าหน่าย แต่มือก็เผลอแคะหูไปอย่างอัตโนมัติ

“ใจเย็นๆครับ ที่นี่คือโรงพยาบาล แผนกนิติเวช แล้วนี่ก็คือห้องทำงานของคุณหมอ...เอ่อ...”เออ นั่นสิ ตั้งแต่รู้จักกันมา ไปกินข้าวด้วยกันผมยังไม่รู้จักชื่อพี่หมอเลย เพราะเห็นแต่ใครๆเรียกแต่พี่หมอ หรือไม่ก็ไอ้หมอ

“ผมหมอ ชื่อ หมอ ครับ เรียกว่า หมอ หรือ พี่หมอ ก็ได้ครับ” เชี่ย! ...

“แล้วนี่ก็สารวัตร...”ผมพยายามจะแนะนำชื่ออีกคน แต่ เออ เราก็ยังไม่รู้จักชื่อพี่เขานี่หว่า...

“เรียกผมว่าสารวัตรครับ ไม่ใช่หมวดนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ” เฮ้ ! พวกเรา ไปเปิดคาเฟ่ กันเถอะ !


อ้าว...ไม่ขำ


“ส่วนนี่ อัยการผู้ช่วย สิ้นฟ้า ครับ” อันนี้ผมแนะนำอย่างมั่นใจเลยละ

“แต่ชื่อนี่ค่อนข้างสิ้นคิดนะคะ” แต่เธอสวนกลับมาว่างั้นแหละ =.,=

“ส่วนผมเต็มสิบ เป็นนักศึกษาฝึกงานที่สำนักงานอัยการครับ”สุดท้ายก็ต้องแนะนำตัวเอง

“ดูค่อยเป็นผู้เป็นคนมากกว่าคนอื่นหน่อย”เงิบ....”ฉัน เฟืองคะ ยินดีที่ได้รู้จัก ว่าแต่พวกคุณเล่นโป๊ะยาสลบ แล้วจับฉันมาทำไม...”เฟืองเธอว่าด้วยอารมณ์ค่อนข้างโมโห

“คุณมีฝาแฝดใช่ไหมครับ?”เป็นคำถามที่ตรงไปตรงมาที่สุดจากท่านอัยการ

“คะ”เธอตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนๆ

“งั้นคุณน่าจะรู้ว่าแฝดของคุณหายไปไหน?”

 “ฉันไม่รู้ว่าพี่สาวของฉันหายไปไหน”พี่สาวงั้นเหรอ...ตรงกับประวัติที่ท่านอัยการสิ้นฟ้า ให้ไปสืบหามา

“ทั้งที่คุณเป็นฝาแฝดกันแท้ๆ สายเลือดเดียวกัน เกิดจากไข่ใบเดียวกัน แต่คุณกลับไม่รู้ ว่าพี่สาว หรือแฝดของคุณได้หายไป...”อัยการซักถามต่อ

“หายไป ...นี่พี่ฉันหายไปจริงเหรอ?”เธอว่าด้วยอารมณ์ตกใจอย่างเห็นได้ชัด “หายไป หายไปที่ไหน หายไปได้ยังไง”

“พี่สาวของคุณถูกฆ่าหั่นศพ พร้อมกับแร่เนื้อเป็นชิ้นๆเพื่อทำลายหลักฐาน”

อัยการเปิดภาพใบหนึ่งที่เรียงอยู่บนโต๊ะขึ้น เป็นภาพกะโหลกศรีษะ ที่มีรอยร้าวและแตกอย่างเห็นได้ชัด เฟืองเริ่มหน้าซีด ก่อนที่ทำท่าจะเป็นลมล้มพับไป พี่หมอ...หมอ เข้ามาประครองพร้อมกับยื่นยาดมให้

“ไม่จริง ไม่จริงใช่ไหม? ใครเป็นคนทำพี่สาวฉัน”

“ผมไม่รู้...”อัยการเป็นคนตอบ

“หาตัวคนทำมาสิ ใครที่ทำอย่างนี้คุณจะต้องเอาผิดมันให้ได้ ใครเป็นคนยิงพี่สาวฉันจนตาย คุณเป็นอัยการคุณต้องบอกได้สิ”

 “แต่นี่ไม่ใช่รูปกะโหลกศรีษะของพี่สาวคุณ”

“เอ๋!!!!”ทั้งผมและเธอ ร้องออกมาพร้อมกันเสียงดัง

“แต่เป็นนี้” อัยการสิ้นฟ้า เปิดภาพกะโหลกศรีษะอีกศรีษะหนึ่งขึ้นมา ที่กะโหลกศรีษะ ไม่มีรอยร้าวใดๆ

“หมายความว่าไง...”เธอถามเสียงเย็น

“จากผลชันสูตร พี่สาวคุณถูกอะไรบางอย่างกระทบที่ศรีษะก็จริง แต่ไม่ได้รุนแรงถึงกะโหลกศรีษะจนเป็นสาเหตุการตาย สาเหตุการตายที่แท้จริง คือถูกแทง จากการสันนิษฐาน พี่สาวของคุณอาจจะสลบไป แล้วคนร้าย คิดว่า เธอได้ตายลงไปแล้วจากการถูกทำอะไรบางอย่างที่ศรีษะ จึงเอามีดแทงเพื่อแร่เนื้อของเธอออกเป็นชิ้นๆ”อัยการ อธิบายช้าๆ

“ออ งั้นเหรอ...”เธอตอบรับเสียงเบา

“ผมพูดอะไรผิดไปไหมครับ...”

“ไม่ ไม่ผิด”

“โอเค เมื่อกี้ผมโกหก”

“อะไรนะ!”

“แท้จริงภาพแรก เป็นภาพกะโหลกศรีษะของพี่สาวคุณจริงๆ”พูดพร้อมกับ หยิบภาพกะโหลกศรีษะชุดแรกมาให้ดูอีกครั้ง

“ถูกยิงตายจริงๆสินะ”เธอว่า

“เปล่า ภาพนี้เป็นกะโหลกศรีษะของคนที่ถูกอะไรบางอย่างมากระทบที่ศรีษะอย่างแรงจนทำให้เกิดรอยแตกร้าวเป็นวงกว้าง อาจจะเหมือนรอยของกระสุน แต่ถ้าดูดีๆแล้วมันไม่ใช่...ว่าแต่...ทำไม นักศึกษาพยาบาลปีสูงๆอย่างคุณถึงไม่รู้...”อัยการสิ้นฟ้ายกยิ้มที่มุมปากกดเสียงต่ำ

 “ฉันไม่ได้มองดีๆ ฉันอาจจะดูพลาดไป”เธอรีบปฏิเสธ”งั้นกะโหลกนี่ก็ไม่ใช่ กะโหลก ศรีษะของพี่สาวฉันอีกละสิ”

“คุณมั่นใจได้ยังไงว่ามันไม่ใช่...”

“ก็มันไม่ใช่กะโหลกศรีษะที่เกิดจากรอยกระสุนนี่...!”


“เอ๋!”ผมร้องออกมาเสียงหลง


“อะไรที่ทำให้คุณมั่นใจ ว่าพี่สาวของคุณถูกสังหาร...ด้วยปืน”

“กะกะ ก็ฉัน...”เธอเริ่มพูดตะกุกตะกัก

“นอกเสียจากว่าคุณเป็นคนสังหารเธอเอง”อัยการสิ้นฟ้า พูดด้วยน้ำเสียงเข้มนิ่ง

“ขอค้านครับ เป็นคำถามชักนำ”เสียงสารวัตรโผล่งขึ้น “เอ่อ ฉันล้อเล่น อินไปหน่อย นึกว่าอยู่ในชั้นศาล เชิญต่อได้เลยครับ...”
เธอเงียบไปสักพักหนึ่ง ก่อนจะยกยิ้มเย็น

“หลักฐานแค่นี้เอาผิดฉันไม่ได้หรอก”

“แท่แด๊!!!”สารวัตรร้องขึ้นมา ก่อนที่จะเอาถุงเก็บหลักฐานที่มีปืนอยู่ข้างในมาวางไว้บนโต๊ะ “ปืนจากคอนโดในห้องของคุณบังเอิญจังเลยนะครับ ที่มันมีลูกกระสุนขนาดเดียวกันกับ ลูกกระสุนที่เจาะกะโหลกพี่สาวของคุณ”

“ฉะฉันทิ้งมันไปแล้วนี่!”เธอร้องขึ้นมาอย่างตกใจ

“ออ อีกอย่าง กะโหลกศรีษะในภาพนี้ เป็นของพี่สาวคุณจริงๆ ถ้าดูดีๆ นี่มันรอยกระสุน”อัยการสิ้นฟ้าพูดออกมา ก่อนจะเลื่อนภาพนั้นให้หญิงสาวเห็นแบบชัดเจน

“ฉัน ฉัน ฉัน...”


“ทางเราจะกันตัวเธอไว้เป็นผู้ต้องหาแล้วกัน”สารวัตรเอ่ย ออกมาอย่างเรียบๆ






........................................................



คดีนี้ยังไม่จบนะ หุ...หุ

พวกเขาเล่นอะไรกัน=.,=

ปล.เพื่อนนายเอก สองคนนั้น เป็นแค่ตัวประกอบจริงๆคะ
แต่ช่วงหลังอาจมีเพิ่มบทให้ 5555

สั้นไปไหม? ถ้าสั้นไป เดี๋ยวตอนดึกๆ อาจจะเอามาลงอีก...


 :katai4:

feather7074

  • บุคคลทั่วไป
 :katai2-1:  มาต่ออีกน่ะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เฮ้อ แต่ละคน รั่วได้อีก 55
เป็นกำลังใจให้คนแต่งจ้า มาอัพบ่อยๆนะ  :mew2:
ว่าแต่อัยการสิ้นฟ้า(อยากรู้ความหมายของชื่อนี้จัง) ==> นายเอก(??)

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
สามหนุ่มเนื้อทอง กวนดีค่ะ พี่หมอหมอ สารวัตรสารวัตร อัยการสิ้น... :z3:
สงสารนายเอก อยู่ในสิ่งแวดล้อมหล่อต๊อง

ออฟไลน์ Kissa_O

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
คดีที่ 2
สาวพยาบาล (ปิดคดี)




เช้าวันต่อมา


“นี่มัน...”ผมครางกับตัวเองเบาๆ เมื่อ ดูพาดหัวข่าวหน้าหนึ่งตามหน้าหนังสือพิมพ์ต่างๆ “มันกลายไปเป็นคดีดังได้ยังไง?”ผมเอ่ยออกมาอย่างสงสัย

“เขาคงคิดว่าเราจับตัวผู้ร้ายได้แล้ว เลยปล่อยข่าวออกไป...มั้ง”ชายหนุ่มในเชิ้ทสีขาว กางเกงแสล็คเข้ารูปสีดำเอ่ยออกมา พร้อมกับเอาเท้าที่สวมรองเท้าหนังราคาแพงพาดไปที่โต๊ะ!

“แล้วผู้หญิงคนนั้น ไม่ใช่คนร้ายเหรอครับ?”

“เธอ คิดว่าหลักฐานที่เรามีแน่นพอหรือยังไง?”นัยน์ตาคมกริบสีดำมองมาทางผม “เจ้าตัวเขายังไม่ได้ยอมรับสักคำว่าตัวเองเป็นคนลงมือทำ มีแต่ทาง เราที่ทึกทักไปกันเอง”

“แล้วปืนนั่นละ”

“เธอคิดว่า มันเป็นปืนที่ใช้ก่อเหตุจริงๆ?”ผมทำหน้าสงสัย “ปืนนั่น เป็นของไอ้หมวดมัน ก็แค่เทียบเอากับรอยกระสุนที่อยู่บนกะโหลกศรีษะ แล้วเอามาขู่เด็กนั่นเท่านั้นเอง ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุจริงๆป่านนี้คงไปไหนต่อไหนแล้ว”

“มันดู ซับซ้อน ซับซ้อนเกินไปแล้วครับ”ผมบ่นออกมา พรางเอาร่างของตัวเองทิ้งลงบนโซฟา “แล้วเราต้องทำยังไงต่อ?” ถามออกไปอย่างคนที่จนปัญญาจริงๆ

“เธอก็ต้องหาอาวุธสังหารจริงๆให้เจอ...”เขาเอ่ย พร้อมกับเผยรอยยิ้มที่มุมปากดูเจ้าเล่ห์

“แล้วมันต้องเริ่มจากตรงไหนกันครับ?...ผมคิดไม่ออกจริงๆ”



โว้ยยยยยย! งานนี้มันยุ่งยากกว่าที่คิดซะอีก
ที่เคยบอกว่าจะไล่ออก อนุมัติหรือยังครับ?




ตึกสูงที่ตั้งตระง่านอยู่ตรงหน้า ทำให้ผมต้องถอนหายใจเป็นหลายร้อยรอบ ก่อนที่จะเห็นร่างๆหนึ่งเดินออกมาพร้อมเพื่อนของเธอ

“คุณเฟืองครับ”ผมเดินเข้าไปทัก เธอหันมามองนิดหน่อย ก่อนจะบอกให้เพื่อนของเธอเดินไปก่อน

“มีอะไรกับฉันอีก?”

“ผมมาชวนไปทานข้าวครับ”

“ห๊า!”เธอทำท่าทางตกใจไปพักหนึ่ง ก่อนที่จะพยักหน้าตกลง ผมจึงเดินนำให้เธอเดินตามผมมาที่รถ ก่อนที่จะขับพาเธอออกไปจากมหาวิทยาลัย เพื่อไปยังร้านอาหารแห่งหนึ่ง

“นี่คงไม่ใช่การลักพาตัวฉันไปอีกรอบใช่ไหม?” เธอถามขึ้นมาระหว่างอยู่บนรถ

“ไม่หรอกครับ”

“ฉันเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่าคนตายนะ นายไม่กลัวฉันหรือไง”

“คุณมีเพื่อนที่ดีนะครับ...”ผมเปลี่ยนไปเป็นเรื่องอื่น “ข่าวของคุณถูกประโคมตั้งมากมายแต่เท่าที่เห็น เพื่อนของคุณก็ยังอยู่เคียงข้างคุณ เพื่อนแบบนี้ คบให้ได้นานๆนะครับ” ผมพูดถึงเพื่อนของเธอ ที่ยังคงเห็นอยู่ด้วยกันวันนี้ เธออมยิ้มนิดหน่อย

“ที่คุณบอกว่า ทิ้งปืนไปแล้วในวันนั้น”ผมเว้นวรรคคำพูดนิดหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยต่อ “คุณกำลังโกหกอยู่รึเปล่า?”

“มันเป็นเรื่องจริง”เธอยืนยัน “ฉันเป็นคนที่ทิ้งปืนนั่นไปเอง”

“อย่างงั้นเหรอ...”ผมเว้นวรรคคำพูด จนเหมือนเธอทำท่าจะอึดอัด ผมเลยเอ่ยต่อ

“ถ้าอย่างนั้น...คุณกำลังปกป้องใครอยู่รึเปล่า...”

“ตลก...คนอย่างฉันจำเป็นที่จะต้องไปปกป้องใคร น้ำหน้าอย่างฉัน เหมือนจะปกป้องใครได้หรือยังไง...”เธอพูดขึ้นเสียง  แต่กลับเริ่มมีน้ำตาไหล อาบลงมายังแก้ม

“แต่ตอนนี้คุณกำลัง...ร้องไห้”ผมเอ่ยบอกเธอ เจ้าตัวรีบเอามือมาเช็ดน้ำตา

“ขออนุญาต รับโทรศัพท์นะครับ”ผมว่า พร้อมตีไฟเลี้ยว เพื่อจอดรถ รับโทรศัพท์


“ครับ ว่าไงครับ?”ผมฟังสิ่งที่ปลายสายพูดอยู่สักพัก ก่อนที่ปลายสายจะตัดสายไป


“เมื่อกี้เราคุยกันถึงไหนแล้วนะครับ?”ผมหันไปยิ้มให้เธอ “ออ...เรื่องที่คุณกำลังปกป้องใครอยู่”

“ฉันไม่ได้ปกป้องใคร”

“คนนี้หรือปล่าครับ”ผมหยิบรูปใบหนึ่งออกมา ก่อนจะยื่นให้เธอ เป็นรูปผู้ชายคนหนึ่ง

“ไปเอามาได้ยังไง?”

“ผมเป็นเด็กมหาวิทยาลัยเดียวกันกับคุณ เรื่องที่จะสืบหาเรื่องส่วนตัวของพวกคุณมันก็ไม่หนักหนาสำหรับผมเท่าไหร่...ความสัมพันธ์ค่อนข้างแปลกนะครับ”

“ถ้านายจะจับฉันในฐานะ ฆาตกรก็จับไป แต่เขาไม่เกี่ยว!”

“คุณยังเป็นแค่ผู้ต้องหาครับ...ยังไม่ใช่ฆาตกร”เธอหันมาสบตากับผม

“คุณกำลังปกป้องผู้ชายที่ เป็นที่น่าสงสัยว่าจะเป็นคนฆ่าพี่สาวคุณงั้นเหรอครับ?”ผมถาม “คุณหลงรัก แฟนของพี่สาวคุณอยู่โดยพี่สาวของคุณไม่รู้อย่างนั้นเหรอครับ คุณเห็นผู้ชายดีกว่าพี่สาวในสายเลือดของคุณงั้นเหรอครับ...?”



เพลี๊ยะ!
หน้าผมหันสะบัดไปตามแรงตบของเธอ



“นายมันจะไปเข้าใจ อะไร!”เธอตะคอก “นี่เป็นโอกาสของฉัน...ที่ฉันจะดูดีในสายตาเขาบ้าง เขาอาจจะรักฉันขึ้นมาบ้างก็ได้..”เธอบอกพร้อมกับร้องไห้ ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่


“คุณคิดว่าการกระทำของคุณจะทำให้เขาหันมารักคุณจริงๆอย่างงั้นเหรอครับ...”
.
.
.
“มันไม่ดูโง่ ไปหน่อยเหรอครับ?”
.
.
.
“ผมได้สถานที่ ที่คุณเฟืองเอาปืนไปทิ้งแล้วครับ”ตอนนี้ ผมออกมาคุยโทรศัพท์ข้างนอกตัวรถ ส่วนในรถนั่น ผมปล่อยให้หญิงสาวร้องไห้อยู่คนเดียวไป คงอีกสักพักใหญ่ๆ ที่เธอจะทำใจในเรื่องบางอย่างได้

(งั้นเหรอ?)

“จะไม่ชมผมว่าเก่งหน่อยหรือยังไง?”

(เอาไว้ฉันจะเลี้ยงเนื้อย่างละกัน)

“ผมไม่ใช่คนเห็นแก่กินซะหน่อย”

(งั้นเหรอ?...)เขาเงียบไปสักพักหนึ่ง  ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดูอบอุ่นขึ้น


(เรื่องที่เคยคิดจะไล่นายออก...ฉันจะลองพิจารณาดูใหม่...ก็แล้วกัน)


ทำให้ผมนึกถึงรอยยิ้มของเขา ในวันที่เจอกันวันแรกเลย




เคร้ง!

“ยะฮู้ แด่ความสำเร็จไปอีกหนึ่งคดี”เสียงชนแก้ว ตามมาด้วยเสียงเฮฮาของท่าสารวัตรที่สามารถ ส่งคดีขึ้นฟ้องสู่ศาลได้สำเร็จ แต่คดีนี้ยังไม่ถึงที่สุดหรอก

แต่เป็นที่น่าเสียดาย ที่เราพยายามหาหลักฐานกันแทบตาย สุดท้าย อัยการที่ได้สั่งฟ้อง กลับเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ท่านอัยการของเรา

ท่านอัยการของเรางั้นเหรอ ?...เข้าท่าแหะ

แต่ดูท่าทาง ท่านจะเฟล พอควร ที่ไม่ได้สั่งฟ้องด้วยตัวเอง
ผมแอบเห็นท่าน ทำตุ๊กตา วูดู สาปแช่งคนที่ได้คดีนี้ไปด้วยแหละ =.,=


“แล้วหลังจากนี้จะเป็นยังไงเหรอครับ”ผมถามออกมาด้วยความสงสัย

“ทางอัยการที่สั่งฟ้องคงจะต้องกันตัวเฟืองไว้เป็นพยานไปก่อนน่ะ เพราะเจ้าตัวเป็นคนเห็นศพพี่สาวเป็นคนแรก อีกทั้งยังเอาปืนไปทิ้งเอง และเด็ดสุด คุณเธอเป็นคนหั่นศพ ของพี่สาวตัวเองกับมือ”พี่หมออธิบาย

“แล้ว คนร้ายในคดีนี้...?”

“เฟือง ไม่ได้เห็นกับตานิ ว่าแฟนของพี่สาวของเธอเป็นคนฆ่า เพียงแต่เธอคิดไปเองทั้งนั้น”อัยการหนุ่มหล่อที่นั่งเงียบมานานเริ่มอธิบายบ้าง “อีกทั้งรอยนิ้วมือบนปืน ก็เหมือนจะถูกเช็ดออกไป ก่อนที่เฟืองจะเก็บเอาไปทิ้งเสียอีก”

“งั้น ไอ้ที่อุตส่า หาปืนมาได้ ก็...”

“ไม่ใช่ไม่มีประโยชน์ หรอกครับน้องเต็มสิบ คนร้ายที่ว่าก็คงตกใจพอดู จึงทิ้งหลักฐานเอาไว้ ที่เหลือก็ต้องไปดูว่า เจ้าของปืนนั้นเป็นของใคร โชคดีหน่อยที่ปืนมันเป็นปืนที่ขึ้นทะเบียนไว้ เป็นปืนของพ่อ ของแฟนพี่สาวของคุณเฟืองสุดสวยยังไงละ”ท่านสารวัตรอธิบาย “เหตุจูงใจของผู้ชาย ก็อาจจะเป็นเพราะหึงหวง เพราะตัวหญิงสาวเอง ก็คบผู้ชายมากหน้าหลายตาเหมือนกัน เจ้าหล่อนเป็นนักล่าแต้มดีๆนี่เอง”

“หลักฐานมันก็โยงมาเกี่ยวพันที่แฟนของพี่สาวของคุณเฟืองเขาอยู่ดี...”พี่หมอสำทับอีก

“งั้นก็หมายความว่าคนร้ายคือ...”

“จะเป็นใครก็ได้ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปืนนั่น ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของปืน ลูกของเจ้าของปืน แฟนของเจ้าของปืน หรือน้องสาวของแฟนของลูกของเจ้าของปืน”ท่านอัยการอธิบาย

“โอ้ย! ผม งง”

“แก อะแกล้งน้อง ไอ้ฟ้า”สารวัตรโวย “เอาเป็นว่า นะครับน้องเต็มสิบครับ หน้าที่ของเราก็หมดแล้ว เพราะเราก็ได้รวบรวมหลักฐานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว ส่วนข้อเท็จจริงจะเป็นเช่นไร ก็ต้องให้อัยการที่มีหน้าที่รับผิดชอบไปพิสูจน์ในชั้นศาลเอา”

“แล้วตกลง ความจริง มันเป็นยังไงกันแน่เนี่ย...”ผมบ่น



“ความจริงก็คือ จงมีความสุขกับเหล้าที่อยู่ตรงหน้านะครับน้อง! ฮะฮ่า”



....................................................

เห็นว่ามันสั้น เลยเอามาลงต่อ ...
ปิดคดี ! แต่ สาวพยาบาลอาจมีรีเทิร์น เอะ ยังไง?

ทีแรกเราว่าจะเฉลยตัวคนร้ายแหละ แต่ก็ลบทิ้ง
เพื่ออะไร ? เพื่อ...เน้นย้ำให้รู้ว่า นิยายเรื่องนี้ ไม่ใช่นิยายสืบสวนนะคะ
แต่เป็นนิยายตลกขำขัน ที่มันไม่ตลก
กร๊ากกกกกกกกกกกก+ :laugh: แค๊ก แค๊ก (ขำมากไปหน่อย)
เพราะอย่างนั้น อย่าหวังว่า เราจะหาตัวคนร้ายให้เลย 5555


สิ้นฟ้า : ไหนๆๆๆๆๆๆๆ ใครว่าผมเป็นนายเอก ? ผมหล่อ และแมนมากนะครับ...


สุดท้ายนี้ ใครอยากเตะ กระทืบคนเขียน ตามสะดวกเลยคะ
แต่ก็อย่าลืมเป็นกำลังใจให้นะ เผื่อคดีหน้า มันจะฮาร์ดคอ ขึ้น?
แต่ยังไงก็ขอบคุณที่ติดตามอ่านคะ
 :katai4:

see u >>>>

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
สนุกมว๊ากกกกกกกก เราชอบแนวนี้แหละ
มาบ่อยๆนะค้า รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
เต็มสิบ หลงรักพี่สิ้นแล้วสิ  เท่ห์แบบแปลกๆเนอะ

meili run

  • บุคคลทั่วไป
นั่นซิ พระเอกคือผู้ใด  :ling1:

ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
รออ่านตอนต่อไปจ่ะ  นางเฟืองนี่ใจเด็ดจิง  กล้าหั่นศพพี่ตัวเแงง :katai1:

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
ชอบๆสืบสวนสอบสวน



สนุกๆพี่สิ้นฟ้าเท่ห์มาก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด