53. คุณปู่ฟง
พีทขี่บิ๊กไบค์กลับถึงบ้านก็พบลุงฉีกำลังเดินวนไปมาหน้าบ้านเหมือนเสือติดจั่น เมื่อได้ยินเสียงบิ๊กไบค์ดังกระหึ่มเข้ามาลุงฉีก็หยุดชะงักแล้วก้าวเท้าอย่างรวดเร็วตรงมาหาเขาทันทีโดยไม่รอให้เขาลงจากรถ ใบหน้าเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย
“คุณชายครับ เร็วเถอะครับ คุณฟงอาการทรุดครับ”
ราวกับฟ้าผ่ากลางวันแสก ๆ พีทชะงักค้าง ลุงฉีเข้ามาจับแขนเขาไว้ เขย่าพร้อมกับเรียกจนเขาได้สติ พีทปิดหน้ากากหมวกกันน็อกลงอีกครั้ง บิดบิ๊กไบค์ออกจากบ้านไปด้วยความร้อนใจ
คุณปู่ฟงเครียดหนักจนเส้นเลือดในสมองแตก หมอกำลังช่วยชีวิตอยู่ในห้องผ่าตัด
วันนี้เป็นวันประกาศแต่งตั้งผู้ว่าการรัฐอย่างเป็นทางการ พ่อเขาชนะคะแนนเสียงอย่างท่วมท้น ได้รับเลือกตามที่หลายฝ่ายคาดไว้ คืนนี้จึงเป็นคืนเลี้ยงฉลองของผู้ว่าการรัฐคนใหม่ และตอนนี้พ่อและคุณโรสกำลังอยู่ในงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จของพรรค เจเจไม่กล้าโทรหาพ่อและคุณโรสเพื่อบอกข่าวร้าย จึงโทรหาลุงฉีแทน
พีททรุดตัวนั่งที่เก้าอี้หน้าห้องผ่าตัดอย่างเหนื่อยล้า ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว แต่การช่วยชีวิตยังไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จสิ้น
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเขา คืนนี้เขาจะผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายนี่ไปได้ยังไงกัน
“คุณชายเช็ดหน้าเช็ดตาก่อนเถอะครับ” เจเจยื่นผ้าขนหนูเย็น ๆ ให้
พีทรับผ้าเย็นผืนนั้นขึ้นมาเช็ดหน้าตัวเอง เจเจทรุดนั่งลงห่างไปเล็กน้อย พีทมองหน้าคนสนิทของคุณปู่แล้วก็รู้สึกเสียใจ
“ผมขอโทษนะที่ยิงคุณ” เขาเอ่ยอย่างเสียใจ ตอนนั้นเขาโกรธมาก มากจนลืมตัว เขาลืมไปว่าเจเจมีครอบครัว มีลูก
“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณชาย ผมก็ผิดจริง ๆ ที่ทำแบบนั้น โดนเท่านี้ยังน้อยไป”
เจเจก็รู้สึกผิดเช่นเดียวกัน เขาคิดถึงแต่บุญคุณที่ต้องตอบแทนคุณฟง โดยลืมไปว่าคนที่เขาลอบทำร้ายก็เป็นลูกชายของคุณโรสและคุณคริสเช่นกัน ถ้ามีใครมาทำอะไรลูกของเขา เขาก็คงไม่ยกโทษให้เช่นกัน
พวกเขาเงียบกันไปครู่ใหญ่
“คุณปู่จะเป็นอะไรมากไหม” พีทเปลี่ยนมาถามเรื่องอาการคุณปู่แทน
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ” เสียงเจเจเศร้าสร้อย ดวงตาชั้นเดียวหลุบมองพื้น
พีทรู้ว่าเจเจคงไม่อยากให้เขาเห็นความอ่อนแอของตน เขารู้ว่าเจเจรักและเทิดทูนคุณปู่มากเพราะคุณปู่เคยช่วยชีวิตเจเจไว้ก่อนจะรับเจเจมาอยู่ที่บ้าน
“ขอให้ท่านปลอดภัย” พีทหลับตาพิงศีรษะกับกำแพงด้านหลังอย่างอ่อนแรง
เจเจนั่งมองหลานชายผู้สืบทอดของคุณฟงอย่างพิจารณาอยู่เงียบ ๆ ความคิดในหัวเขากำลังต่อสู้กันอย่างรุนแรง
ในที่สุดเจเจก็ตัดสินใจได้
“คุณชายครับ”
พีทลืมตาขึ้นมามองตามเสียงเรียกของเจเจ เขาเห็นเจเจยื่นอะไรบางอย่างมาให้ เขารับกรอบรูปเล็ก ๆ นั้นมา
“พี่ฮั่น?”
ชายหนุ่มในรูปนั้นคล้ายพี่ฮั่นมาก ไม่ว่าจะเป็นรูปหน้าเหลี่ยมนิด ๆ ดวงตาเรียว จมูกโด่งจัด ริมฝีปากบาง แต่รูปนี้ดูเก่ามาก เป็นรูปขาวดำที่เก่าจนกระดาษเริ่มเหลือง ไม่น่าจะต่ำกว่าสามสิบปี
“นี่คุณหลิวครับ คุณตาของคุณฮั่น”
‘อะไรกันเนี่ย! ทำไมเหมือนกันขนาดนี้ นี่มันพี่ฮั่นชัด ๆ’ พีทเงยหน้าขึ้นมองเจเจอย่างต้องการคำยืนยันว่าสิ่งที่เขาเห็นเป็นความจริง
“รูปนี้เก่ามากแล้วนะครับ เป็นรูปที่คุณฟงสอดไว้ใต้หมอนและหยิบมาดูก่อนนอนทุกคืน”
‘เอ๊ะ คุณปู่เกลียดคุณตากับคุณยายของพี่ฮั่นนี่’“คุณฟงเคยบอกผมว่า พวกตระกูลหยางนี่นิสัยเหมือน ๆ กันทั้งนั้นเลยนะครับ” เจเจหันหน้าไปทางสวนที่ติดกับห้องผ่าตัด ดวงตาเหม่อราวกับกำลังนึกทบทวนเรื่องราว
“คุณชายคงไม่รู้ตัวว่า คุณชายเหมือนคุณฟงมากกว่าที่ใครคิด”
เจเจหันกลับมามองหน้าหลานของคุณฟง ดวงตาชั้นเดียวของเขามองตรงเข้าไปในดวงตาของพีท แววตาที่คล้ายกับคุณฟง
“ยังไงเหรอเจเจ” หนุ่มน้อยเลิกคิ้ว หันไปมองชายวัยกลางคนอย่างสงสัย เพราะรู้ดีว่าหน้าตาเขากับคุณปู่ฟงไม่ค่อยเหมือนกันเท่าไร เขาเหมือนคุณปู่ของเขาเองมากกว่า ส่วนคุณปู่ฟงนั้นเหมือนแม่หรือย่าทวดของเขา
“คุณทั้งคู่เจ้าคิดเจ้าแค้นเหมือนกัน โกรธนาน แต่รักใครรักจริง รักแล้วไม่เคยเปลี่ยนใจ เรื่องนี้คุณคริสก็เป็นเหมือนกัน แล้วที่ประหลาดมากคือคนตระกูลหยางรักคนในครอบครัวนั้นมาตลอด ตั้งแต่คุณฟง คุณคริสแล้วก็คุณชาย”
เจเจหมายความว่าอย่างไร? เจเจรู้หรือว่าเขารู้สึกอย่างไรกับพี่ฮั่น? เขาได้แต่นิ่งงันกับเรื่องราวใหม่ที่ได้รับรู้ จึงปล่อยให้เจเจได้อธิบาย
“คุณชายกับคุณฟงรักคนที่คล้าย ๆ กัน”
“อะไรนะ เจเจ?”
‘หมายความว่าไง เขากับคุณปู่??’“คุณฟงไม่มีความลับอะไรกับผมหรอกครับ”
เจเจมองจับใบหน้าหลานชายคนเดียวของคุณฟง ยังจำได้ดีถึงแววตาแสดงความเจ็บปวดของคุณฟงเมื่อเล่าเรื่องนี้ให้เขาฟัง
คนที่รักและเทิดทูนคุณฟงเช่นเขาตกใจไม่น้อยที่ได้รู้เรื่องจากปากคุณฟงด้วยตัวเอง คุณฟงคงอยากระบายบางสิ่งที่อัดแน่นอยู่ในใจมานานให้ใครสักคนฟัง ขณะเดียวกันเขาก็สัมผัสได้ถึงความรักที่คุณฟงมีเสมอมา แม้จะโกรธ เกลียด แต่ก็ยังรักไม่เคยเสื่อมคลาย
“คนที่คุณฟงรักมาตลอดไม่ใช่คุณลิลลี่ตามที่ใคร ๆ คิด”
“แล้วคุณปู่รักใคร?” พีทเอ่ยถาม แต่คำตอบก็โผล่ติดตามมาอย่างรวดเร็ว
รูปคุณตาหลิวในมือเขา!!
“คุณปู่รักคุณตาของพี่ฮั่น?” พีทพูดแทบกระซิบ ไม่น่าเชื่อ
“ครับ คุณฟงเคยบอกกับผมบ่อย ๆ ว่า คุณฟงเห็นคุณชายแล้วก็เหมือนเห็นตัวเองนั่นแหละครับ”
“คุณรู้ใช่ไหมเจเจ ว่าผม เอ่อ” เขาพูดไม่ออก
“คุณชายรักคุณฮั่น ถูกไหมครับ ผมได้แต่คิดว่าคุณฟงอาจจะคิดไปเอง แต่สิ่งที่ทำให้ผมมั่นใจก็คือ วันที่คุณชายยิงผมนั่นแหละครับ....”
“ถ้าไม่รักขนาดนั้น คุณชายคงไม่จับปืนอีกแน่”
คุณปู่รักคุณตาของพี่ฮั่นเหรอเนี่ย เขาไม่อยากเชื่อหูตัวเอง มิน่าคุณปู่ถึงรู้ คุณปู่คงเห็นมานานแล้วถึงได้เตือนเขา
พีทก้มไปมองรูปในมืออีกครั้ง
“คุณปู่ถึงได้พยายามแยกผมจากพี่ฮั่นใช่ไหม”
เขาถามโดยไม่เงยหน้ามองเจเจ เขารู้แล้วว่าคุณปู่ต้องเจ็บปวดมากขนาดไหนที่ผิดหวังในความรัก คุณปู่ไม่อยากให้เขาเจ็บปวดเหมือนท่านจึงได้พยายามเตือนเขา แต่มันก็สายเกินไป
“ตั้งแต่เด็ก ๆ เลยครับ”
“แล้วคุณตาหลิวรู้รึเปล่าครับว่าคุณปู่รักเขาน่ะ”
“รู้ครับ พวกท่าน..."
"รักกัน”“อะไรนะ!!!”
---------------------------------------
เจเจยังนั่งอยู่หน้าห้องผ่าตัดที่เดิม แต่พีทเดินออกมาที่สวนหย่อมเล็กบริเวณนั้น ในมือเขามีหลายจดหมายฉบับที่เก่าจนเหลือง บางฉบับยังไม่เคยเปิดอ่าน เจเจเล่าว่าเจอจดหมายพวกนี้เก็บใส่กล่องอย่างดีอยู่ที่โต๊ะทำงานของคุณฟง เป็นจดหมายที่คุณตาหลิวเขียนมาหลังจากที่คุณตาหลิวแต่งงานไปแล้วหลายปี เนื้อหาในนั้นเต็มไปด้วยคำขอโทษ คำอธิบายและคำบอกรัก
เขาต้องการอากาศบริสุทธิ์เพื่อระบายความรู้สึกหลากหลายในจิตใจเขาตอนนี้ คืนนี้ช่างพิสดาร เรื่องราวทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนรอเวลาที่จะเกิดขึ้นภายในคืนนี้ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เขาตั้งรับไม่ทัน เหมือนถูกรุมชกซ้ายขวายังไม่ทันหายเมาหมัดก็ถูกอัปเปอร์คัทเข้าปลายคางจนตาลาย ไม่มีเวลาตั้งตัว
เรื่องที่พี่ฮั่นไม่รักเขาช่างเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเรื่องที่เขาได้รู้จากเจเจ
คุณปู่ฟงของเขารักคุณตาของพี่ฮั่นมาก่อน พวกเขารักกัน แต่สุดท้ายคุณตาหลิวเลือกที่จะแต่งงานกับคุณลิลลี่
เพราะมันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครยอมรับสินะ
พีทเข้าใจดีว่าเรื่องนี้มันยากขนาดไหน เขารู้อยู่เต็มอก รู้ซึ้งเข้าไปถึงกระดูกทีเดียวล่ะ
คุณตาหลิวเลือกที่จะรักษาหน้าตา ชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล ทำเพื่อสืบทอดกิจการของครอบครัวทั้งฝ่ายของคุณตาหลิวเองและของคุณปู่ฟงด้วย
คุณปู่โกรธแค้นทั้งสองคนมาก ไม่ยอมยกโทษให้จนกระทั่งเดี๋ยวนี้
พีทถอนหายใจ เขาก็เคยโกรธพี่ฮั่น
สิบปี...
เขารู้ดีว่ามันทรมานมากขนาดไหนที่จมอยู่กับความโกรธนี้ แต่อย่างน้อยตอนนี้เขาได้รู้แล้ว เขาเลิกโกรธพี่ฮั่นแล้ว พี่ฮั่นไม่เคยทำอะไรผิดเลย พี่ฮั่นทำทุกสิ่งทุกอย่างถูกต้องเหมือนที่คุณตาหลิวทำ พี่ฮั่นถูกทำร้ายมามากเกินพอแล้ว พี่ฮั่นจะต้องไม่ทุกข์ใจกับเรื่องอะไรอีกแล้ว
เขาและคุณปู่ต่างหากที่ควรจะต้องเป็นฝ่ายขอโทษและทำความเข้าใจ
โชคชะตาช่างเล่นตลกกับพวกเขาจริง ๆ คุณปู่ฟงรักคุณตาหลิว พ่อเขาก็รักคุณโรสซึ่งเป็นลูกสาวของคุณตาหลิว แล้วเขาเองก็รักพี่ฮั่นที่เป็นหลานของคุณตา
แต่เขาไม่ได้โชคดีเหมือนพ่อ เขาแค่มีพี่ชายที่รักเขาเป็นน้องชาย
แต่เท่านี้ก็ดีเพียงพอแล้วนี่นา
“มีความสุขกับความรัก” เสียงเล็ก ๆ ของริทดังขึ้น
พีทนึกถึงฝันประหลาดของตัวเอง ประโยคนั้นที่คอยหล่อเลี้ยงหัวใจเขา
เขาจะยอมรับกับโชคชะตาของตัวเอง พีทเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่สว่างด้วยแสงไฟ ไร้แสงดาว
ยิ้มให้กับท้องฟ้าไร้ดาวนั้น....ยิ้มอย่างยินดี
------------------------------------------------
คุณปู่ฟงยังอยู่ในห้องไอซียู หมอผ่าตัดเรียบร้อยแล้วแต่ไม่รับรองความปลอดภัยเพราะเส้นเลือดสำคัญแตก คุณปู่อาจจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีก ถ้าโชคดีคุณปู่อาจจะฟื้น แต่หมอไม่อาจรับรองได้ว่าคุณปู่จะตื่นขึ้นมาในสภาพใด
เจเจทรุดตัวลงกับพื้นร้องไห้อย่างหนัก ส่วนเขาก็พูดไม่ออก พวกเขาได้แต่นั่งอยู่ตรงนั้นไม่รับรู้วันเวลาที่ผ่านเข้ามา
พีทนั่งเฝ้าคุณปู่มาสองวันแล้ว คุณปู่ตื่นขึ้นมาในที่สุด แต่ดวงตาว่างเปล่าไม่ตอบสนอง ขยับตัวไม่ได้แม้แต่นิดเดียว หมดความรู้สึกตั้งแต่คอลงไป หมอส่ายหน้าอย่างหมดหวังเมื่อจำใจต้องตอบว่า ‘รอเวลา’
เจเจเอาแต่นั่งเศร้า เขาไม่ทำสิ่งใดเลยได้แต่นั่งเฝ้าคุณปู่ฟงอยู่ตลอดเวลา พีทก็เช่นกัน
“ทะ ทะ ละ...”
พีทกับเจเจหันหน้ามามองกันเหมือนเห็นผี เมื่อกี้คุณปู่พูด?
“คุณปู่พูดว่าอะไรครับ” พีทถลาเข้าหาเตียงผู้ป่วย
“ทะ ทะ” เสียงแหบแห้งพยายามจะเอ่ย ดวงตาของคุณปู่จ้องมาที่เขาเขม็งราวกับต้องการสื่อสาร
“ทะเลหรือเปล่าครับคุณชาย คุณฟงชอบที่นั่น ที่โรงแรมติดทะเล ติดกับหาดส่วนตัวของคุณชายไงครับ” เจเจหันมาทางเขา ดวงตามีความหวัง
“ปู่อยากไปทะเลหรือครับ”
พีทเห็นแววตารับรู้ของคุณปู่ที่จ้องกลับมา
“ถ้างั้นพีทจะพาคุณปู่ไป!”
หมออนุญาตให้ถอดเครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์ช่วยชีวิตออกได้ พีทกับเจเจร้องไห้รับสภาพนั้น การถอดเครื่องช่วยพวกนี้หมายความว่าเวลาสุดท้ายของคุณปู่เหลืออีกไม่นานแล้ว
พีทใจเต้นตอนที่กดโทรศัพท์ไปหาพี่ฮั่น แต่กลับติดต่อไม่ได้จึงโทรไปบอกพ่อและคุณโรสว่าคุณปู่ต้องการอากาศบริสุทธิ์ เขาก็เลยจะไปอยู่เป็นเพื่อนและขอให้พ่อจัดการเรื่องการฝึกงานของเขา
พ่อรับปากจะจัดการให้และบอกว่าพี่ฮั่นบินด่วนไปญี่ปุ่นหลายวันแล้วตั้งแต่เช้ามืดก่อนที่พีทจะกลับจากทะเล
เขากับเจเจเห็นพ้องกันที่จะพาคุณปู่มาที่นี่เป็นที่สุดท้าย ตามความปรารถนาของท่าน เจเจยื่นสมุดบันทึกเล่มหนาให้เขาและบอกให้ดูหน้าสุดท้าย มันบันทึกไว้เมื่อหลายปีก่อน
“ฉันขอตายที่หาดของเรา ที่ที่เราเจอกันครั้งแรก ขออยู่เป็นที่สุดท้าย”
ตั้งแต่มาถึงโรงแรม พีทเอาแต่นั่งอยู่ข้างคุณปู่ฟงที่นั่งเก้าอี้ล้อเข็นตรงระเบียงห้องพักของโรงแรมเป็นเวลานาน พวกเขาเอาแต่เหม่อมองไปที่ทะเล มองคลื่นสีขาวม้วนตัวกระแทกหาดทราย เขาหัวเราะเยาะกับตัวเองเมื่อตระหนักอีกอย่างหนึ่งว่าเขากับคุณปู่เหมือนกันมากเพียงใด
พวกเขารักทะเลเหมือนกัน ใช้เวลาร่วมกันครั้งละหลายชั่วโมง ทำเพียงแค่นั่งมองน้ำซัดเข้าหาฝั่งอย่างไม่รู้จักเบื่อหน่าย
คุณปู่ดูเหมือนอาการดีขึ้นเมื่อได้อากาศบริสุทธิ์ พยาบาลส่วนตัวที่ช่วยดูแลคอยหาเรื่องโน้นเรื่องนี้มาเล่าให้คุณปู่ฟัง เธอบอกว่าจะช่วยกระตุ้นการรับรู้ได้บ้าง
เกือบสัปดาห์แล้วที่พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ อาการของคุณปู่ยังคงทรงตัว ไม่ทรุดหนักแต่ก็ไม่ดีขึ้น คุณปู่มีไข้ขึ้นสูงติดกันหลายคืน เขา เจเจ และพยาบาลผลัดกันคอยดูแลและเช็ดตัวให้คุณปู่ พวกเขาหลับ ๆ ตื่น ๆ ทั้งคืนเพราะคุณปู่เพ้อหนักแต่เสียงร้องนั้นไม่เป็นคำชัดเจนนัก พยาบาลต้องคอยดูแลใกล้ชิดตลอดเวลา เธอบอกว่าคุณปู่อาจจะช็อกขึ้นมาในวินาทีใดวินาทีหนึ่งก็ได้
พวกเขาสบตากันอย่างเข้าใจเงียบ ๆ โดยที่ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาอีก
คืนนี้เป็นคืนที่คุณปู่อาการทรุดลง ร่างกายไม่รับอาหารใดแม้แต่น้ำ พวกเขาได้แต่คอยเช็ดตัวและผลัดกันเฝ้าไข้
ความรู้สึกดำทะมึนดั่งยมทูตกำลังคืบคลานเข้ามาที่ห้องพัก ใกล้เข้ามาทุกขณะประหนึ่งคืนนี้เป็นคืนสุดท้าย
ใกล้รุ่งแล้วเมื่อพีทเห็นแสงสีส้มชำแรกออกจากขอบฟ้า เขาอ่อนเพลียแทบลืมตาไม่ไหวเพราะอดนอนติดต่อกันหลายคืน
พยาบาลซบหลับกับเก้าอี้นวมข้างเตียง มีเพียงเจเจที่ยังฮึดสู้
แสงอาทิตย์สว่างขึ้นทุกขณะแต่ดวงตาเขากลับค่อย ๆ ปิดลงเพราะความเหนื่อยอ่อน ในที่สุดเขาก็หลับไปบนโซฟาใหญ่ในห้องนั้นพร้อมกับที่ประตูห้องพักเปิดออก
เจเจเป็นเพียงคนเดียวที่ตื่นอยู่ เขาเบิกตามองคนที่เข้ามาในห้องนั้นอย่างไม่เชื่อสายตา
คุณฟงก็เช่นกัน ดวงตาที่เหม่อลอยตลอดเวลาของคุณฟงมองจับใบหน้านั้นเขม็งเหมือนกลับมารับรู้อีกครั้งหนึ่งอย่างมหัศจรรย์
“หลิว”
เสียงแหบแห้งของชายชราเอ่ยขึ้น
เจเจทั้งดีใจและตกใจที่ได้ยินคุณฟงพูด หลายวันที่ผ่านมาคุณฟงไม่มีแรงแม้แต่จะกลืนอาหาร แต่ตอนนี้คุณฟงกลับมาพูดเหมือนปกติ
“นายมารับชั้นแล้วใช่ไหม” คุณฟงยังพูดต่อไป ดวงตาจ้องตรงไปยังใบหน้าที่อยู่ในความทรงจำของตนตลอดสี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา
“ผมไม่ใช่คุณตา” ผู้มาเยือนเอ่ยตอบ
“หลิว ชั้นไม่ขอโทษหรอกนะ ที่ทำลงไปทั้งหมด เป็นเพราะนาย”
คุณฟงยังจ้องไปที่ดวงตาคู่นั้นอย่างดื้อดึงไม่เคยเปลี่ยน ภาพความหลังครั้งเก่าไหลผ่านดวงตาของชายชราช้า ๆ
ครั้งแรกที่พวกเขาเจอกันที่นี่ ทะเลาะกันเพราะไม่ชอบหน้ากันตั้งแต่แรก แต่เหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นทำให้พวกเขากลายมาเป็นเพื่อนรักกัน พวกเขาผูกพันและมีความรู้สึกลึกซึ้งต่อกัน
ภาพเจ้าของดวงตาเรียวที่จากไปเพื่อทำหน้าที่ของลูกชายผู้สืบสกุลเป็นภาพสุดท้ายที่อยู่ในความทรงจำของคุณฟง
“แต่ผมยกโทษให้”
ดวงตาที่จ้องกลับมาไม่มีความโกรธเกลียดอีกต่อไป กลับมีแต่ความสงสารเมื่อเห็นสภาพของคนที่เคยทำร้ายเขา คนที่ทำร้ายคุณฟงไม่ใช่คุณตาแต่เป็นความเคียดแค้นภายในจิตใจของคุณฟงเองต่างหากที่กัดกินความสุขของชีวิตที่เหลือ คงไว้แต่ความทุกข์ใจแม้ใกล้วาระสุดท้ายของชีวิต
“นายทำกับชั้นแล้ว นายยังทำร้ายหลานของชั้นด้วย” เสียงแหบแห้งนั้นยังเอ่ยต่อเหมือนระบายความรู้สึกคับแค้นใจออกมา
“ผมไม่เคยคิดทำร้ายพีท”
สายตาคนพูดเปลี่ยนไปจับอยู่ที่คนที่นอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลียบนโซฟาตัวใหญ่ พีทยังคงหลับไม่รับรู้เรื่องราวใด
“ไม่ทำร้ายเหรอ หลิว นายเห็นสภาพของชั้นไหม ตลอดเวลาที่ผ่านมาสี่สิบกว่าปีชั้นไม่เคยมีความสุขเลย พีทก็กำลังจะเป็นเหมือนกัน”
“ไม่!”
เขาหันกลับมาอีกครั้ง กล่าวปฏิเสธเสียงแข็ง เขาจะไม่ปล่อยให้พีทตกอยู่ในสภาพเดียวกับชายชราตรงหน้าเขาเช่นนี้
“นี่คือความรักของนายสินะ ความหวังดีลม ๆ แล้ง ๆ ที่นายอ้างมาตลอด หน้าที่ความรับผิดชอบของตระกูล หน้าตาทางสังคม หึ ข้ออ้างทั้งนั้น” ดวงตาขาวขุ่นที่มองตรงมายังไม่ลดความโกรธแค้น
“ไม่ใช่” ไม่อีกแล้ว พีทจะไม่ต้องเสียใจอีกแล้ว
“นายไม่เคยรักชั้นเลย นายรักแต่ตัวเอง รักหน้าตา ศักดิ์ศรีของวงศ์ตระกูล สิ่งจอมปลอมพวกนั้น”
“แต่ผมรักพีท” คำตอบนั้นมั่นคงยิ่งนัก
แต่คุณฟงนั้นไม่เชื่อสักนิด เขาเคยได้ยินคำพูดพวกนี้ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว
‘คราวนี้นายยังพูดเหมือนเดิมอีกเหรอ หลิว นายไม่เคยเปลี่ยนไปเลย แต่คราวนี้ชั้นไม่เชื่อนายอีกแล้ว’ “หึ แค่ลมปากเท่านั้น หลิว สุดท้ายแล้วนายก็เลือกลิลลี่”
“ดูให้ดี ดูวาระสุดท้ายของชั้นให้ดี เป็นเพราะนาย หลิว....”
“คนทรยศ”
นั่นคือคำสุดท้ายที่คุณฟงมีโอกาสพูด
เสียงร้องไห้โหยหวนของเจเจปลุกพีทและพยาบาล
พยาบาลตรงเข้าตรวจชีพจรอย่างรวดเร็ว เปิดเปลือกตา ฟังเสียงเต้นของหัวใจและเริ่มต้นปั๊มหัวใจ เธอทำแบบนั้นซ้ำไปซ้ำมา จนในที่สุดเธอก็ส่ายหน้าอย่างอ่อนแรง
พีททำอะไรไม่ถูก ได้แต่ผวาเข้าไปจับมือของคุณปู่ฟงไว้
เขาจับมือที่ยังอุ่นจนกระทั่งมันเย็นเฉียบ จนกระทั่งมีมือใครบางคนเข้ามาดึงตัวเขาออกไป
ไม่มีคำพูดใด มีเพียงอ้อมแขนที่กอดเขาไว้ มืออบอุ่นที่ลูบหลังเขาตลอดเวลา พีทแทบจะไม่รับรู้สิ่งใดอีก เอาแต่ร้องไห้สะอึกสะอื้นหนัก
และทิ้งตัวเองไว้ในอ้อมแขนของ....พี่ชาย....
----------------------------------------