...The Timeless Tide...หากแม้นสายนธีร์จะย้อนกลับ...[แจ้งข่าว หน้า๒๒ ค่ะ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...The Timeless Tide...หากแม้นสายนธีร์จะย้อนกลับ...[แจ้งข่าว หน้า๒๒ ค่ะ]  (อ่าน 309646 ครั้ง)

ออฟไลน์ eye-lifestyle

  • พรุ่งนี้ไม่เคยมีจริง
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด จบแล้ว.... :o12:
แต่จบดีงาม เราชอบเราปลื้มเราหลง น้ำตาไหลพรากตอนฉากเจอกัน
อิอิ
ติดใจคู่พี่แช่มด้วย อยากอ่านต่อออออ ดีแล้วที่คุณพิกุลกลับชาติมาเป็นชาย โอ้ยยยปลื้ม5555  :mew4: :mew3:
 
ปล.ปลื้มนิยายเรื่องนี้มากฮร่ะะะ  o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
อยากรู้ค่ะ ว่าพี่แก้วจำธีร์ได้ยังไง  รอพี่แก้วมาเฉลยนะคะ   :กอด1:

รอคู่พี่แชมป์กับคุณพิกุลด้วย   :L2:   :pig4:

ออฟไลน์ nu-tarn

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-6
ให้พี่แก้วมาเฉลยเลยค่า อยากรู้ใจจะขาด

ส่วนแชมป์อยากรู้วิธีจีบผู้ชาย ก็ลองปรึกษาเพื่อนธีร์ดูสิ

อยากอ่านตอนพิเศษด้วยจังเลยค่า  :impress2:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ขอบคุณจริงๆค่ะ ปลื้มปริ่มอยู่ตอนนี้เขียนไม่ค่อยออก กำลังซาบซึ้งอยู่กลับต้องมาฮาแตกกับแชมป์

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ ploysure

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ขอบคุณนะคะสำหรับนิยายดีๆแบบนี้
เคยหยุดอ่านไปพักนึงค่ะ แต่ไม่ใช่เพราะไม่ชอบนะคะ ชอบมากๆๆ ..เป็นเด็กมอหกชีวิตต้องสู้น่ะค่ะ  :katai1:
แต่เห็นว่าอัพตอนจบแล้วก็เลยเข้ามาอ่านค่ะ

น้ำตาไหลไปหลายรอบเลยค่ะ ตั้งแต่ตอนที่จากกับคุณหลวงแล้ว จะขาดใจตามเลยค่ะ เศร้ามาก  :sad4:
ยิ่งพอตอนได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง เป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้จริงๆค่ะ มีความสุขมากๆๆๆเลย
แชมป์นี่ก็น่าสงสาร เพราะเหมือนว่าไม่ได้รักกับคุณพิกุลแบบเปิดเผยมาตั้งแต่แรก ใกล้ชิดกันมากก็ไม่ได้
แต่พอเห็นตอนปัจจุบันนี่รู้สึกเหมือนแชมป์เลยค่ะ คุณพิกุลคงจะโกรธมากจริงๆ 55

ขอบคุณสำหรับนิยายที่น่าประทับใจแบบนี้นะคะ เป็นคนชอบอ่านนิยายแนวนี้บ้างค่ะ
ยอมรับเลยว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่จะไม่ลืมเลยค่ะ รู้สึกทุกอย่างมันใช่หมด ตัวละครทุกตัวผูกพันกัน เราก็รู้สึกผูกพันด้วยค่ะ หลงตัวละครเรื่องนี้เลยจริงๆ
(โดยเฉพาะพี่แก้วของหนู  :o8: )

ปล.อยากรู้ว่าทำไมคุณหลวงถึงกลายเป็นพี่กันต์ไปได้ แล้วจำธีร์ได้ยังไง แล้วคุณหลวงกับคุณพิกุลในอดีตนี่เค้าต้องรอกันจนหมดลมหายใจเลยหรอคะ แล้วสรุปเรื่องหลวงเจษฎ์นี่เค้าตัดสินกันยังไง รู้สึกอยากรู้ไปหมดเลยค่ะ  :ling1:
ปล.2 จะมีเป็นหนังสือไหมคะ ชอบเรื่องนี้ค่ะ อยากได้เก็บไว้จังค่ะ นะคะๆๆ

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
คุณพิกุลเจ้าขา ถึงเกิดเป็นชายจะมิโดนบังคับให้หมั่นหมายกับผู้ใด หรือหากโดนจับไปดูตัวแล้วจะปฏิเสษได้ แต่คุณพิกุลลืมไปแล้วหรือเจ้าคะ อันผู้ชายกับผู้ชาย มิใช่ว่าผู้ใหญ่ท่านจะยอม มากไปกว่าหญิงชายที่ฐานะต่างกันนะเจ้าคะ  :hao4:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
พูดเรยว่าไม่หลับไม่นอน อ่านจนจบ เป้นอะไรที่ปลื้มปริ่มมากกกก!!

แร้วอยากรู้เรื่องราวตอนต่อไปอีก อยากให้มีมากกว่า ชอบภาษาของคนเขียน

มันทำให้คิดภาพออก มันทำให้รู้สึกแบบนั้นจิงๆ แต่งมาให้อ่านอีกน้า จะรอติดตามมม

ออฟไลน์ ohuii

  • Why I cannot upload profile picture?
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-4
ขอตอนพิเศษด่วนๆ อยากรู้เรื่องพี่กันต์?กับน้องธีร์อีก
จบดี๊ดีค่ะ พ่อแช่มคงได้จีบผู้ชายแน่ๆ 555555

ออฟไลน์ cocoaharry

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
    • cocoaharry_Demmy Chan_Otaku Y Girl
อยากรู้ค่ะ ว่าพี่แก้วจำพ่อธีร์ได้ยังไง เฉลยเถอะค่าาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ 111223

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-5
ในที่สุดทั้งคู่ก็ได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง คุณหลวงกับธีร์
แต่แอบขำแชมป์ตอนท้าย ทำไงดีล่ะแบบนี้
คุณพิกุลกลายเป็นผู้ชายไปซะแล้ว
เริ่มจีบใหม่โลด สู้เพื่อรัก 555

ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
อยากรู้ว่าทำไมคุณหลวงจำด้ายยยยย ขอตอนพิเศษหน่อยค่ะ #ทำตาปริบปริบ -..-*

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
ละทำไมคุณหลวงกลายมาเป็นพี่กันต์สะได้
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด
ทำภาคต่อได้มั้ยคะ รู้สึกว่ายังไม่พออออ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ไม่มีเพิ่มอีก จิงๆอ่อ

ออฟไลน์ Novemberist

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-0


...ประกาศจากผู้แต่ง...

สำหรับใครที่รอตอนพิเศษของพี่กันต์อยู่ พี่กันต์แอบฝากมากระซิบว่า...

มีให้อ่านแน่นอนค่า :) แต่ตอนนี้พี่กันต์ติดภารกิจ กว่าจะว่างก็เดือนหน้านู้น

เลยฝากเรามาอ้อนแม่ยกทั้งพี่แก้ว น้องธีร์ น้องแชมป์และพี่กันต์แถวๆนี้

ว่าให้รอกันหน่อยนะคร้าบ เอาไว้พี่แกจะรีบเคลียร์งานมาเล่านิทานให้ฟังแบบยาวๆ


สำหรับคนแต่งเองก็ต้องขอขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามและคิดถึงนิยายเรื่องนี้นะคะ
ช่วงนี้ติดภารกิจอาจจะไม่ค่อยได้เข้ามาในเล้าบ่อยนัก
ยังไงก็สามารถติดตามและพูดคุยกันได้จากเฟสบุคอีกหนึ่งช่องทางค่ะ
(น้องธีร์ชอบไปป่วนในนั้นบ่อยๆ XD)

สุดท้ายนี้อยากบอกว่า...รักผู้อ่านทุกท่านเหมือนเดิมนะค้า :)
[/color]

ออฟไลน์ PURE LOVE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
รอพี่กันต์น้องธีร์ ได้เสมอจ้า  :o8:

แหม่ แต่เอาจริง ๆ เราชินกับชื่อ พี่แก้วน้องธีร์ มากกว่านะเนี่ย แหะ ๆ

ขอบคุณคนเขียนมากจ้า  :กอด1:

ปล. ขอรอพี่แชมป์น้องตฤณ พ่วงไปด้วยเลยได้ไหมอ่ะ  :impress2:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ cocoaharry

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
    • cocoaharry_Demmy Chan_Otaku Y Girl

ออฟไลน์ kaokorn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
ขอบคุณมากนะฮะที่แต่งเรื่องดีๆ และสนุกมากๆให้ได้อ่าน
แม้จะทิ้งช่วงไปบ้างแต่ก็ได้อ่านจนจบ
สารภาพว่าบทหลังๆนี่ทำให้น้ำตาร่วงหน้าคอมพ์กันเลยทีเดียว รันทดไปกับคู่รักทั้งสองคู่
ที่ประทับใจมากๆคือความกตัญญูรู้คุณของพี่แก้วที่กล่าวแอบลากับท่านเจ้าคุณ น้ำตารื้นกันไปเลย
ประทับใจมากๆฮะ ขอบอก แลสงสารคุณเดือนเป็นที่สุด ขอเอาใจช่วยเธอให้ประสบความรักที่แท้จริงกับคนที่คู่ควรก็แล้วกันนะฮะ
เพราะคุณหลวงเธอมีพ่อธีร์ในหัวใจไปแล้ว
รออ่านตอนพิเศษนะฮะ ขอบคุณคร้าบบบบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เมื่อไหร่จะเมษานะ เห้ออออ!!

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ Netimefii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
เพิ่งอ่านจบ
ชอบมากกก
มีครบทุกรสเลย ทั้งสุขและเศร้า  :sad4: :sad4:
ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆ อย่างนี้มาให้อ่านจ้า   o13 o13
ปล. ขอตอนพิเศษบ้างเน้ออ :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Novemberist

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-0

The Timeless Tide...Side Storyที่ ๑...กันตวิชญ์




มีคนเคยบอกว่า...เรื่องบางเรื่อง เราไม่จำเป็นต้องใช้ความทรงจำเพื่อจดจำเรื่องราวต่างๆ หากแต่เป็นหัวใจที่ยึดมั่นเพียงเรื่่องใดเรื่องหนึ่ง หรือคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้กับใครบางคน...เท่านั้นก็พอ...




เด็กชายตัวเล็กกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่มุมหนึ่งของสวนสวยหน้าบ้านหลังใหญ่...ดวงตากลมโตส่องประกายวาววับยามจดจ่อตัวหนังสือตรงหน้า บางคราก็ขมวดคิ้วมุ่นด้วยศัพท์บางคำยังยากเกินกว่าความสามารถของเด็กวัย๕ขวบอย่างเขานัก ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ละความพยายามเพราะสิ่งที่กำลังทำอยู่คือสิ่งที่ตนรัก

"น้องกันต์ทำอะไรอยู่จ๊ะ"เสียงหวานของมารดาดังขัดจังหวะให้เด็กชายตัวน้อยละสายตาจากหนังสือสีสันสดใสขึ้นมอง ถาดขนมหวานจานใหญ่ถูกวางลงตรงหน้าพร้อมน้ำใบเตยกลิ่นหอมเตะจมูก และผู้เป็นมารดาที่นั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม

"หืม...อ่านหนังสืออีกแล้วหรือลูก"คนถูกถามเพียงยิ้มรับก่อนปิดหนังสืออ่านเล่นสำหรับเด็กลง โดยไม่ลืมคั่นหน้าที่อ่านถึงเอาไว้ ดวงตาคู่สวยวาววับยามจดจ้องขนมหวานสีฟ้าสดตรงหน้า ทั้งยังรอยยิ้มหวานประดับบนริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้ม

"อันนี้อะไรหรือครับ หน้าตาแปลกจัง"เสียงเล็กเจื้อยแจ้วถามพร้อมมือที่เอื้อมออกฉวยขนมหน้าตาสะสวยขึ้นมอง

"เขาเรียกบุหลันดั้นเมฆจ้ะ คุณยายทำเองเลยนะ"ไม่ทันขาดคำมารดา มือน้อยๆก็จัดการส่งขนมที่ว่าเข้าปากพลางเคี้ยวตุ้ย

"อร่อยจังเลยครับ...คุณยายชอบทำขนมอร่อยๆให้น้องกันต์กินตลอดเลย"เด็กชายตัวเล็กว่าทั้งที่ขนมยังเต็มปากเรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากผู้เป็นแม่...ไม่บ่อยนักที่เธอจะมีโอกาสใช้เวลาอยู่กับลูกชาย เพราะหน้าที่การงานของตนเองและสามีรัดตัวยิ่งนัก ทำให้เด็กชายตัวน้อยใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับผู้เป็นยายเสียมากกว่า ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็ไม่เคยบ่นหรือออกอาการน้อยใจแม้แต่น้อย เพราะวันหนึ่งๆกลับใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการอ่านหนังสือหรือรบเร้าให้คุณยายเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้ฟังอยู่บ่อยครั้ง

"อร่อยก็ทานเยอะๆนะลูก คุณยายจะได้ดีใจ"มือเรียวเอื้อมออกลูบผมเด็กน้อยอ่อนโยนพลางนึกไปถึงคำพูดของมารดาตนที่เป็นผู้เลี้ยงดูหลานชายเกือบทุกวัน...ท่านว่าท่านเอ็นดูหลานคนนี้นักเพราะว่านอนสอนง่าย ไม่ซุกซนเกินงามเหมือนเด็กวัยเดียวกันทั่วๆไป ทั้งยังขยันเรียนขยันอ่าน สมชื่อ'กันตวิชญ์'ที่ผู้เป็นยายตั้งให้เมื่อตอนเกิด อันมีความหมายว่า'ผู้มีความรู้เป็นที่น่าพอใจ'...ที่สำคัญยังสนอกสนใจเรื่องเล่าสมัยก่อนจากปากคนเฒ่าคนแก่อย่างท่าน หรือแม้แต่เรื่องอาหารการกินก็เช่นกัน...จะมีเด็กน้อยสักกี่คนในสมัยนี้ที่ชอบทานขนมไทยจนถึงกับส่ายหน้าให้ขนมฝรั่งหลายต่อหลายชนิดที่ทั้งพ่อและแม่เพียรซื้อมาฝาก หรือแม้แต่ของเล่นราคาแสนแพงก็ไม่สามารถดึงดูดความสนใจได้เท่ากับหนังสือเล่มหนาๆสักเล่มสองเล่มที่เจ้าตัวนั่งอ่านได้ทั้งวันก็ไม่เบื่อ

"คุณแม่...เมื่อวานน้องกันต์ฝันเห็นเพื่อนอีกแล้วครับ"เสียงแหลมเจื้อยแจ้วหลังยกน้ำใบเตยแก้วใหญ่ขึ้นจิบจนเกือบหมด

"เพื่อนคนไหนครับ...ใช่นนท์กับใหญ่รึเปล่า"หญิงสาวคาดเดา เท่าที่จำได้ลูกชายของเธอมีเพื่อนสนิทอยู่ไม่กี่คน ที่เจ้าตัวเคยพูดถึงบ่อยๆก็เห็นจะมีเพื่อนร่วมห้องอย่างนนท์กับใหญ่นี่ล่ะ



หากแต่เด็กชายกลับส่ายหน้า ทั้งยังดวงตาคมที่ส่องประกายวิบวับ

"ม่ายช่าย...เพื่อนในฝัน น้องกันต์ฝันเห็นทุกวันเลย"

"ทุกวันเลยหรือครับ...เอ๊ ผู้ชายหรือผู้หญิงกันนะ"ผู้เป็นมารดาหัวเราะเสียงเบาด้วยความเอ็นดู เด็กวัยนี้หากจะมีจินตนาการเกินจริงก็ไม่ใช่เรื่องแปลก สำหรับบางคนอาจถึงขั้นจินตนาการว่าตนมีเพื่อนเล่นในชีวิตจริงเสียด้วยซ้ำ

"ผู้ชายครับ...เขามาเล่นกับน้องกันต์ด้วย เขาบอกว่าคิดถึงน้องกันต์ทุกวันเลย"

"แล้วเพื่อนของน้องกันต์คนนี้เขาชื่ออะไรล่ะครับ"หญิงสาวถามอย่างใคร่รู้ แสดงท่าทีสนใจในเรื่องราวของลูกชายเต็มที

"เขาไม่ยอมบอกครับ..."เด็กน้อยทำแก้มป่องอย่างไม่สบอารมณ์นัก หากเพียงครู่ก็กลับยิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดี






"แต่เขาบอกว่า...ชื่อของเขาแปลว่าสายน้ำ"




...........................................................................................







"ไอ้กันต์!"เสียงโหวกเหวกของเพื่อนสนิทที่ป้องปากตะโกนเรียกจากอีกฟากของสนามฟุตบอลในมหาวิทยาลัยเรียกให้เจ้าของชื่อละสายตาจากเกมส์การแข่งขันตรงหน้ากลับไปมอง ใช้เวลาไม่นานชายหนุ่มผิวขาวตัวไม่สูงนักก็เดินปรี่เข้ามาหาแล้วทิ้งตัวนั่งลงข้างกายทันที

"เลิกเล่นแล้วหรือไง"เจ้าของชื่อส่ายหน้าน้อยๆแทนคำตอบให้ผู้มาใหม่...บอสเป็นเพื่อนสนิทร่วมคณะของเขาตั้งแต่ตอนปี๑ จนถึงตอนนี้ก็เกือบสี่ปีเข้าไปแล้ว

"ไม่ไหว...เล่นมาชั่วโมงนึงแล้ว"เจ้าตัวว่าพลางขยับเสื้อบอลชุ่มเหงื่อที่สวมอยู่เพื่อระบายความร้อน ใบหน้าคมพราวไปด้วยหยดน้ำจากขวดที่เขาเพิ่งหยิบมาล้างหน้าเมื่อครู่ ก่อนที่เจ้าตัวจะเอื้อมมือไปหยิบผ้าขนหนูที่วางอยู่ไม่ไกลขึ้นเช็ดหน้าเช็ดตาให้เรียบร้อย

"มึงมีอะไรรึเปล่า มาหากูถึงนี่"คนตัวสูงว่าพลางเหลือบมองเพื่อนสนิทในชุดนักศึกษาที่ยังจดจ่อสายตาไปที่ลูกบอลกลมๆในสนาม

"ไอ้ปั้นชวนแดกเหล้าเย็นนี้ ร้านหลังม. อ๊ะๆ! ห้ามเบี้ยวนะคร้าบ"ราวกับรู้ทันเมื่อบอสหันมาชี้หน้าคาดโทษก่อนที่อีกฝ่ายจะทันได้บอกปฏิเสธ เขารู้ดีว่าคนอย่างกันตวิชญ์ไม่ชอบงานสังสรรเท่าไหร่นักเพราะไม่ว่าจะชวนสักกี่ครั้งเจ้าตัวก็พาลหาเรื่องเบี้ยวได้แทบทุกครั้ง หากแต่ครั้งนี้พวกเขานัดรวมตัวกันเพราะใกล้ช่วงสอบปลายภาคเทอมสุดท้ายในชีวิตนักศึกษามหาวิทยาลัยเต็มที ถึงได้ถือโอกาสผ่อนคลายก่อนเข้าสู่ช่วงเครียดที่กินเวลานานเป็นอาทิตย์

"กินแต่เหล้าทุกวัน ไม่เบื่อกันบ้างหรือไง"คนถูกรบเร้าว่าพลางส่ายหน้าปลง จัดแจงพาดผ้าขนหนูผืนเล็กไว้บนบ่าก่อนเอื้อมมือหยิบกระเป๋าเป้ข้างตัวขึ้นสะพาย ตั้งใจจะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องชมรมสักหน่อยเพราะตอนนี้ทั้งตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อจนเหนียวเหนอะหนะ

"เออ พวกกูแดกทุกวัน มึงก็เบี้ยวได้ทุกวัน เพราะงั้นวันนี้ห้ามโว้ย! ไปๆ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า พวกไอ้ปั้นรออยู่หน้าตึกคณะ"บอสรีบรุนหลังอีกฝ่ายให้ออกเดินเสียทีเพราะเกรงว่าเจ้าตัวจะหาเรื่องชิ่งเหมือนทุกครั้ง...คนตัวสูงข้างหน้าจึงทำได้เพียงถอนหายใจปลงพลางเหลือบตามองไปยังคนรบเร้าไม่ขาดปาก



หากไม่ทันได้ระวัง ร่างสูงสมส่วนก็กระแทกเข้ากับใครบางคนที่เดินสวนมาดังพลั่กจนอีกคนเสียหลักเกือบล้ม...โชคยังดีที่มือหนาเอื้อมออกคว้าต้นแขนขาวของอีกฝ่ายเอาไว้ได้ทัน

"อ๊ะ! ขอโทษครับ"เสียงทุ้มนุ่มกล่าวขอโทษที่ไม่ระวังก่อนค่อยๆปล่อยมือที่เกาะกุมออก สายตาคมปราดมองคู่กรณีตรงหน้าแล้วก็ต้องขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัย



...เด็กมัธยม?...



เด็กชายตัวเล็กผิวขาวซีด ส่วนสูงก็เพียงเท่าหน้าอกของเขาเท่านั้น ดูอย่างไรก็ไม่น่าเกินม.๔หรือม.๕ ชุดนักเรียนที่สวมอยู่ปักตราโรงเรียนมัธยมชายล้วนชื่อดังซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่นัก...หากแต่ที่สะดุดตาคงเป็น ดวงตาคู่สวยที่ชำเลืองมองมา ตากลมโตส่องประกายวาววับแต่กลับเจือความเหงาและเศร้าโศกน่าประหลาด ทว่าคุ้นเคยยิ่งในความคิดของคนตัวโตกว่า เขาขมวดคิ้วมุ่นพลางเรียกความทรงจำที่มีว่าเคยเห็นเด็กตรงหน้านี้มาก่อนหรือไม่ แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก

"ไอ้กันต์! ไปจ้องน้องเขาแบบนั้น เขากลัวมึงจะแย่แล้วเห็นมั้ย"น้ำเสียงคุ้นหูของเพื่อนสนิทดังขึ้นจนเจ้าตัวสะดุ้งโหยงราวคนหลุดจากภวังค์ หากสายตายังจดจ้องร่างเล็กเบื้องหน้าที่ยืนกอดกระเป๋าหนังสีดำแนบอก ไหล่บางทว่าสมดุลค้อมลงเล็กน้อยยิ่งทำให้เด็กชายดูตัวเล็กลงกว่าเดิม

"พี่ขอโทษแทนเพื่อนด้วยนะที่มันซุ่มซ่าม...แล้วนี่น้องเจ็บตรงไหนรึเปล่า"บอสว่าพลางขยับตัวเข้าใกล้ แต่อีกฝ่ายเพียงแค่ส่ายหน้าตอบ

"มาหาใครรึเปล่า บอกพี่ได้นะ เผื่อพี่รู้จัก"เจ้าตัวยังคงทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดีถามเจื้อยแจ้วไม่หยุดหย่อน มหาวิทยาลัยนี้แม้ใหญ่โตและมีหลายคณะก็จริง แต่สำหรับคนกว้างขวางอย่างบอส เขารู้จักทั้งเพื่อนและรุ่นน้องอยู่หลายคณะ ยังไม่รวมแฟนสาวที่มีดีกรีเป็นถึงเดือนคณะมนุษยศาสตร์ ที่เมื่อเอ่ยชื่อสาวเจ้าก็ต้องพ่วงมาด้วยชื่อของบอสแทบทุกทีไป

"ผมมาหา..."เสียงแหบพร่าตอบกลับเบานัก แต่เพียงครู่ที่ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างเมื่อมองเลยไปด้านหลัง ก่อนที่เสียงเบาแผ่วเมื่อครู่กลับดังขึ้นชัดเจนจนคนข้างๆเหลือบมองตาม

"พี่อาร์ม!...เอ่อ ขอตัวก่อนนะครับ"ท้ายประโยคยังหันกลับมาค้อมตัวให้สองหนุ่มตรงหน้าตามประสาเด็กมารยาทดี ก่อนที่ร่างเล็กจะก้าวออกวิ่งไปหานักศึกษาหนุ่มอีกคนที่ชะงักฝีเท้ารอเมื่อได้ยินเสียงเรียก

"อ๋อ ไอ้อาร์ม"

"มึงรู้จักเหรอ"คนตัวสูงที่ปรายสายตาจดจ้องแผ่นหลังบางหันกลับมาถามเพื่อนสนิทที่พยักหน้ารับหงึกหงัก

"'ถาปัตย์ปีเดียวกับพวกเรานี่ล่ะ พ่อมันเป็นทูต คนก็เลยรู้จักกันหมด"

"กูไม่เห็นจะรู้จัก"

"ก็วันๆมึงทำอะไรบ้าง นอกจากเตะบอลกับเข้าห้องสมุด"บอสส่ายหน้าปลง เขายกมือขึ้นตบบ่าคนตัวสูงสองสามทีก่อนจะเร่งให้อีกฝ่ายรีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะตอนนี้เย็นมากแล้ว เกรงใจเพื่อนฝูงที่นั่งรออยู่หน้าตึกคณะ ป่านนี้ไม่รู้บ่นไปถึงไหนต่อไหน



ชั่วขณะที่สองขายาวก้าวออกเดินอีกครั้ง เป็นจังหวะเดียวกับที่สายตาคมกริบปรายมองไปยังแผ่นหลังบางเมื่อครู่ เด็กชายในชุดนักเรียนเดินเคียงกับหนุ่มในชุดนักศึกษาที่เพื่อนสนิทของเขาบอกว่าเป็นถึงลูกทูต ดวงตาเจือแววโศกตอนนี้กลับส่องประกายวิบวับ เช่นเดียวกับเรียวปากบางสีสดประดับรอยยิ้มน้อยๆยามพูดคุยกับคนตัวสูงกว่าข้างกาย


หากเพียงครู่ที่เด็กชายตัวเล็กหันกลับมาสบเข้ากับดวงตาคมกริบของคนที่ยังอยู่ในชุดเสื้อบอลเปียกชุ่ม ใบหน้าติดหวานทว่ายังอ่อนวัยนักฉายแววตระหนกเล็กน้อยคงเพราะรู้ตัวว่าตกเป็นเป้าสายตา...เพียงแค่นั้นที่ทำให้ชายหนุ่มนึกถามตัวเองในใจว่าเด็กคนนั้นมีอะไรน่าติดใจนักหนา เขาถึงไม่อยากละสายตาไปแม้วินาทีเดียว...แต่ให้ทำอย่างใจคิดก็ได้ไม่นานนักเมื่อเสียงเร่งเร้าของบอสยังคงดังไม่ขาด เจ้าตัวเลยได้แต่สะบัดศีรษะน้อยๆเพื่อไล่ความคิดฟุ้งซ่านแล้วเดินจากไปทันที


ตอนนั้นเขาไม่เคยรู้...ว่าวันหนึ่งเขาจะมีโอกาสได้รู้จักกับชายหนุ่มในชุดนักศึกษาที่เดินเคียงข้างเด็กชายคนนั้นจนถึงขั้นนับเป็นเพื่อนสนิท




เช่นเดียวกับดวงตาสวยปนโศกคู่นั้นที่ค่อยๆลางเลือนไปตามกาลเวลาจนเขาหลงลืมไปในที่สุด



...






กรุงเทพมหานครในตอนนี้เปลี่ยนไปจากภาพที่เขาเคยเห็นเมื่อครั้งอดีตไม่มากก็น้อย ตึกสูงใหญ่ขึ้นเรียงรายขนาบสองฝั่งสายตา รถราติดแน่นบนท้องถนนแทบทุกสาย ทั้งยังอากาศร้อนอบอ้าวจนน่าอึดอัดผิดกับที่ที่จากมาลิบลับ


เกือบ๖ปีที่เขาใช้ชีวิตอยู่ต่างแดนทั้งเพื่อศึกษาต่อและเข้าทำงานเป็นอาจารย์พิเศษของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง มีเพียงพ่อและแม่ที่เดินทางไปหาอยู่บ่อยครั้งในช่วงแรกๆแต่นั่นก็เพียงพอให้คลายความเหงาลงได้มาก...หากในตอนนี้คำว่า'เหงา'คงไม่มีผลต่อจิตใจเท่าไหร่นัก เมื่อเขาตัดสินใจกลับมาใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเกิดเป็นการถาวร เขาเพิ่งตอบรับคำเชิญจากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองหลวงให้ไปเป็นอาจารย์พิเศษของคณะรัฐศาสตร์ แม้ได้ค่าตอบแทนไม่มากเท่าตอนอยู่ต่างประเทศ หากแต่ความสุขและความสบายใจที่ได้กลับมาใช้ชีวิตในบ้านเกิดเมืองนอนย่อมดึงดูดใจได้มากกว่าจำนวนเงินในบัญชีที่ได้รับ


"อยากไปไหนก่อนรึเปล่า หรือว่าจะกลับคอนโดเลย"ชายหนุ่มหน้าคมทว่าผิวขาวจัดที่ตอนนี้รับหน้าที่เป็นสารถีขับรถมารับเขาถึงสนามบินถามขึ้น...อรรถนนท์กลับมาถึงเมืองไทยก่อนเขาได้ไม่นาน เพียงแต่เป็นการกลับมาในระยะเวลาอันแสนสั้นเมื่อเจ้าตัวยังคงยืนยันที่จะใช้ชีวิตในต่างแดน

"ไม่รู้จะไปไหนน่ะสิ ไม่ได้กลับมากี่ปีแล้วนะ ๒...ไม่สิ เกือบ๓ปี"คนตัวสูงว่าพลางทอดสายตามองหมู่ตึกสูงเรียงรายเต็มสองฟากถนน บรรยากาศแออัดคับคั่งมีให้เห็นโดยรอบจนบางครั้งทำให้เขานึกหงุดหงิด เขาไม่ชอบเมืองหลวง ตรงกันข้ามกลับชอบความเงียบสงบในแถบชานเมืองหรือต่างจังหวัดเสียมากกว่า ชอบบรรยากาศเย็นสบายของสายลมยามเช้าที่หอบเอาน้ำค้างยอดหญ้าพัดพาให้เย็นฉ่ำ วิถีชีวิตของชาวบ้านที่ยังคงความเป็นไทยให้เห็นอยู่บ้างไม่เหมือนเมืองหลวงที่เขากำลังติดแหง่กอยู่บนถนนแบบนี้

"ถ้างั้น...ไปเป็นเพื่อนหน่อย"หากคำชักชวนของคนที่นั่งประจำที่คนขับทำเอาเจ้าตัวขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัย

"ไปไหน?"

"พอดีมีธุระนิดหน่อย ตอนแรกคุณพ่อจะให้พี่อิงไปแต่พี่อิงไม่ว่าง...นี่ก็ใกล้เวลานัดแล้วล่ะ"ลูกชายคนเล็กของท่านทูตกิตติว่าพลางยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา บ่ายสามโมงแล้ว ใกล้เวลานัดของเขาเต็มทีและเมื่อดูจากสภาพการจราจรที่คับคั่งแบบนี้ เห็นทีหากย้อนไปส่งคนข้างๆก่อนคงไม่ทันเวลา ถึงได้ออกปากชวนให้ไปเสียด้วยกัน

"ธุระของแก จะเอาฉันไปด้วยทำไม"

"ไม่ใช่ธุระสำคัญอะไรหรอกน่า...แค่นัดผู้รับเหมาเข้าไปดูบ้าน คุณพ่อท่านอยากปรับปรุงอะไรนิดหน่อย"

"ไม่คิดว่าฉันจะเหนื่อยจากการเดินทางบ้างหรือ จากปารีสมากรุงเทพไม่ใช่แค่สองสามชั่วโมงนะ"คนตัวสูงส่ายหน้าปลง มีอย่างที่ไหนอาสามารับเขาถึงที่แล้วจะพาไปตะลอนที่อื่นต่อทั้งที่เขาเพิ่งนั่งเครื่องเป็นสิบชั่วโมงกลับมาแท้ๆ...เอาเข้าจริงเขาก็ไม่ได้เหนื่อยนักหรอกแต่เพราะเกรงใจคนข้างๆต่างหาก ถ้ารู้แต่แรกว่าหมอนี่มีธุระเขาก็คงบอกปฏิเสธไม่ให้มารับแล้วโบกแทกซี่กลับคอนโดเองไปแล้ว

"เออน่า! รับรองแกต้องชอบ ฉันเอาหัวเป็นประกันเลย"หากแต่น้ำเสียงดึงดันและดวงตาพราวระยับของอรรถนนท์เริ่มทำให้เขาลังเล...สำหรับเขา สิ่งที่เรียกได้ว่า'ชอบ'ในชีวิตนี้มีอยู่เพียงไม่กี่อย่าง และคนข้างๆก็รู้ดีเสียด้วยว่ามันคืออะไรบ้าง คิดได้แบบนั้นถึงได้ยอมตอบตกลงแม้ในใจยังสงสัยอยู่มากก็ตาม
.

.

.

.

.


ออฟไลน์ Novemberist

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-0


เรือนไม้เก่าแก่ทรงยุโรปตั้งโดดเด่นท่ามกลางความศิวิไลซ์ของริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาราวกับว่ามันอยู่ผิดที่ผิดทาง ตัวเรือนแต่เดิมคงเป็นสีฟ้าออกเทาทว่าเมื่อกาลเวลาผันผ่านทำให้สีสันจืดจางลงไปมาก หลังคาสีน้ำเงินเข้มนั่นก็ดูกระดำกระด่างจากแดด ลม และฝนฟ้า แต่เมื่อมองให้ถี่ถ้วนแล้วก็ให้นึกไปถึงเมื่อครั้งที่เรือนนี้เพิ่งสร้างเสร็จใหม่คงดูโดดเด่นงดงามยิ่งกว่าเรือนไหนในละแวกเดียวกันเป็นแน่


ร่างสูงโปร่งชะงักนิ่งทันทีที่ก้าวลงจากรถ เพื่อนสนิทของเขาพูดถูกว่าเขาจะต้องถูกใจมันไม่มากก็น้อย เขายืนพินิจตัวเรือนใหญ่โตตรงหน้าอยู่นานสองนาน ทั้งตกตะลึงในความงดงามตามแบบไทยแท้เจือความศิวิไลซ์จากชาติตะวันตก ทั้งตื่นเต้นระคนดีใจที่ความงดงามในอดีตยังคงหลงเหลือมาถึงปัจจุบันให้เขาได้ชื่นชม

แต่ที่แปลกที่สุดคงเป็น...จังหวะหัวใจที่กระตุกวูบเมื่อได้เห็นเรือนนี้ในครั้งแรก ทั้งที่ตัวเองก็ศึกษาเรื่องประวัติศาสตร์และเห็นเรือนเก่ามามากนัก แต่ไม่เคยมีที่ไหนที่ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นใจได้เท่าภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้าตอนนี้...สองขาก้าวยาวอย่างร้อนรนด้วยว่าอยากสำรวจด้านในเต็มแก่ แต่กลับไม่สามารถทำได้อย่างใจนึกเมื่อเจ้าของตัวจริงหยุดยืนพูดคุยกับผู้รับเหมาที่มารออยู่ก่อนหน้า จึงทำได้เพียงเดินวนไปเวียนมาคล้ายหนูติดจั่น ทั้งใจที่ร้อนรนกระสับกระส่ายอย่างที่ไม่เคยเป็นจนคนที่มาด้วยยังสังเกตเห็น

"ตกลงตามที่คุณพ่อว่าไว้นะครับ"อรรถนนท์กล่าวตัดบทหลังปรึกษาเรื่องการปรับปรุงซ่อมแซมตัวเรือนได้ไม่นาน เมื่อเห็นว่าคนข้างๆเริ่มออกอาการหงุดหงิดเต็มที

"ได้ครับคุณอาร์ม ผมจะรีบให้ช่างเข้ามาดำเนินการทันที เดือนหน้าก็คงเสร็จครับ"หัวหน้าผู้รับเหมารับคำก่อนขอตัวพาลูกน้องเดินสำรวจตามจุดที่ต้องซ่อมแซม


"เป็นยังไง...ถูกใจล่ะสิ"เจ้าของเรือนเดินปรี่เข้ามาหา เมื่อครู่ตอนยืนคุยงานเขาสังเกตเห็นอาการลุกลี้ลุกลนของคนที่พามาแล้วก็อดแซวขึ้นไม่ได้ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเพื่อนสนิทคนนี้ถูกใจพวกของเก่าของโบราณขนาดไหน ยิ่งเป็นเรือนเก่าอายุนับร้อยปีแบบนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง แค่เห็นอาการของคนตัวสูงก็พอจะเดาได้

"ไม่เห็นแกเคยบอกว่าเป็นเจ้าของเรือนเก่าแบบนี้"ดวงตาคมปรายมองรอบตัวเรื่อยไปจนถึงตัวเรือนชั้นบน หน้าต่างแบบบานพับเรียงรายเป็นแนวยาวหากแต่ปิดสนิทยิ่งกระตุ้นความอยากรู้ในใจผู้มาเยือนให้พุ่งสูง

"มรดกตกทอดจากฝั่งคุณพ่อน่ะ ท่านเคยจะยกให้ฉันกับพี่อิง แต่ก็อย่างที่แกเห็น...ไม่มีใครอยู่ไทยสักคน"สำหรับสถาปนิกหัวสมัยใหม่อย่างอรรถนนท์ เขามองเรือนหลังนี้เป็นเพียงมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษเท่านั้น หลายครั้งที่เขาเคยแนะนำให้ผู้เป็นพ่อขายมันเสียเพราะเห็นว่ามีคนติดต่อขอซื้อเข้ามาหลายรายด้วยมูลค่าที่สูงลิบ แต่กลับถูกปฏิเสธทุกทีไปด้วยว่าผู้เป็นพ่อยังนึกหวงแหนสมบัติอันงดงามที่ตกทอดมาจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน แม้ไม่ได้เข้ามาอยู่เองแต่ก็ยังให้คนเข้ามาดูแลความเรียบร้อย ทั้งยังปรับปรุงซ่อมแซมอยู่เนืองๆไม่ให้สภาพของมันทรุดโทรมไปมากกว่าที่ควรจะเป็น

"ขอเข้าไปดูข้างในได้ไหม"น้ำเสียงตื่นเต้นของคนตัวสูงทำเอาอีกฝ่ายพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มบาง อรรถนนท์รีบไขกุญแจประตูแบบสองบานพับด้านหน้าเรือนที่คล้องโซ่เอาไว้แน่นหนาออก ก่อนปัดป่ายมือหาสวิตช์ไฟที่ถูกวางระบบใหม่ทั้งหมดเมื่อไม่นานมานี้


ทันทีที่แสงไฟสีส้มนวลส่องสว่าง พลันความรู้สึกอุ่นซ่านก็แล่นลึกเข้าถึงหัวใจของชายหนุ่ม เขายกมือขึ้นลูบต้นแขนที่ตอนนี้ขนลุกซู่ด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด ทั้งอบอุ่นและคุ้นเคยในคราเดียวกัน สายตาคมกริบปราดมองรอบห้องนั่งเล่นกว้างขวางคล้ายนักสำรวจ เก้าอี้หวายจัดวางเรียงเป็นชุดใช้ต่างโซฟาดูแล้วก็รู้ว่าเป็นของเก่าแก่ มีเพียงเบาะนวมที่วางรองด้านบนเท่านั้นที่คลับคล้ายจะถูกเปลี่ยนเป็นของใหม่ที่สีสันและลวดลายดูร่วมสมัยมากกว่า...ถัดไปไม่ไกลนัก นาฬิกาลูกตุ้มแบบตั้งพื้นเรือนโตวางโดดเด่น เข็มของมันหยุดเดินไปนานแล้วทั้งยังมีคราบฝุ่นจับให้เห็นรางๆ

"เครื่องเรือนส่วนใหญ่เป็นของเดิม มีบางชิ้นที่คุณพ่อให้ช่างทำขึ้นมาใหม่เพราะของเดิมผุพังจนซ่อมไม่ได้"เจ้าของเรือนว่าขณะเดินนำหน้า เขาจดจำรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเรือนนี้ได้บ้าง เนื่องจากผู้เป็นพ่อมักมอบหมายหน้าที่ดูแลการซ่อมแซมอยู่เสมอเพราะเจ้าตัวเรียนด้านนี้มาย่อมรู้จักโครงสร้างภายในของตัวอาคารเป็นอย่างดี

"สภาพยังดีอยู่เลย...ตั้งแต่สมัยไหนนะ"คนตัวสูงหันมองรอบทิศอย่างสนอกสนใจ ทั้งจังหวะหัวใจที่เต้นระรัวผิดปกติยังทำให้เขารู้สึกแปลกไม่หาย

"ต้นรัชกาลที่๕ เป็นของเจ้าคุณ...เอ...เจ้าคุณอะไรนะ"อรรถนนท์ขมวดคิ้วมุ่นเมื่อนึกไปถึงชื่อเจ้าของเรือนที่แท้จริง หากแต่พยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก


"...เจ้าคุณไพศาล..."


"เออใช่! เจ้าคุณไพศาล......เดี๋ยวนะกันต์...แกรู้ได้ยังไงวะ?"คนตัวเล็กกว่าสะบัดสายตามองทันทีด้วยความประหลาดใจ เมื่ออยู่ดีๆชื่อของเจ้าคุณเจ้าของเรือนก็หลุดออกจากริมฝีปากหยักของคนข้างๆคล้ายเลื่อนลอย หากแต่ร่างสูงสมส่วนยังคงยืนนิ่ง มีเพียงนิ้วเรียวยาวที่ยื่นออกไปทางผนังด้านหลังชุดเก้าอี้หวายให้อีกฝ่ายมองตาม


ภาพถ่ายสีขาวดำขนาดไม่ใหญ่นักล้อมด้วยกรอบไม้อย่างดีแขวนโดดเด่นอยู่บนนั้น ปรากฎภาพของชายวัยกลางคนดูแล้วอายุน่าจะประมาณสัก๕๐ปี สวมเครื่องแบบราชการสมัยก่อนเต็มยศ ผมสีดอกเลาล้อมกรอบใบหน้าคมสัน ทว่าดวงตากลับอ่อนโยนคล้ายคนกำลังอมยิ้ม มุมขวาด้านล่างปรากฎลายมือตวัดปลายสวยงามบ่งบอกชื่อของคนในภาพเอาไว้ชัดเจน



...พระยาไพศาลราชวราการ...



"ภาพนี้...มีมาตั้งแต่แรกเลยหรือ"ชายหนุ่มยืนจดจ้องภาพถ่ายตรงหน้าไม่วางตา รอยยิ้มอ่อนโยนของคนในภาพช่างอบอุ่นนัก ดูท่าเจ้าคุณท่านนี้เมื่อยังมีชีวิตอยู่คงเป็นที่รักของลูกหลานและคนใกล้ชิดเป็นแน่

"รูปนี้คุณปู่ให้ร้านขยายจากรูปเดิมแล้วให้เอามาแขวนไว้ ท่านว่าจะได้ระลึกถึงเจ้าคุณท่าน"คนตัวสูงเพียงพยักหน้ารับทว่าไม่ยอมละสายตาจากภาพตรงหน้า หากเพียงครู่ก็ต้องเดินตามเจ้าของเรือนเมื่อถูกชักชวนให้สำรวจห้องอื่นๆต่อ


"ห้องนี้น่าจะเป็นห้องทำงาน...เครื่่องเรือนเก่ามีพวกโต๊ะกับตู้หนังสือ แต่ถูกย้ายออกไปหมดเพราะซ่อมไม่ได้แล้ว"อรรถนนท์ร่ายยาวหลังเปิดประตูแบบบานพับออกเผยให้เห็นห้องสี่เหลี่ยมโล่งตาขนาดไม่กว้างนัก ผนังทั้งสามด้านมีหน้าต่างแบบสองบานพับซึ่งหากเปิดออกทั้งหมดคงทำให้ทั้งห้องสว่างไสวโดยไม่ต้องพึ่งไฟฟ้า


แม้ทั้งห้องโล่งโจ้งไร้เครื่องเรือน แต่ในสายตาคนตัวสูงที่เพิ่งได้เห็นมันเป็นครั้งแรก เขากลับนึกภาพห้องทำงานในสภาพเดิมได้ราวกับเห็นภาพซ้อนทับ...ฝั่งนั้นเคยมีชั้นหนังสือวางเรียงเป็นแนวยาวแน่นขนัดด้วยหนังสือปกหนาสีสันต่างกัน ทั้งหนังสือเรื่องการบ้านการเมืองหรือแม้แต่นิยายบางเล่มที่เจ้าของห้องเดิมให้ความสนใจ ฝั่งตรงข้ามประตูเคยมีโต๊ะทำงานตัวโตตั้งโดดเด่นแถมยังมีเก้าอี้หวายปูเบาะนุ่มท่าทางนั่งสบายวางเคียงกัน...ยิ่งไปกว่านั้น...ราวกับได้ยินเสียงหัวเราะเบาจากที่ไหนสักแห่งดังคลออยู่ข้างหู เสียงทุ้มนุ่มฟังสบายกับเสียงหัวเราะคิกคักกังวานใส...รู้ตัวอีกทีเขาก็กำลังยืนยิ้มปรายอย่างอารมณ์ดีทั้งที่ความจริงตรงหน้ามันช่างว่างเปล่า



เจ้าของเรือนยังคงทำหน้าที่พาเดินชมทั่วเรือนอย่างไม่เร่งรีบ เช่นเดียวกับคนเดินตามหลังที่กำลังดื่มด่ำกับตัวเรือนงดงามเบื้องหน้า ทั้งห้องนอนของพระยาเจ้าของเรือนที่ยังคงสภาพเหมือนเมื่อร้อยกว่าปีก่อน ห้องทำงานของเจ้าคุณท่าน หรือแม้แต่ห้องรับรองแขกหลายต่อหลายห้องที่ผ่านตา

แต่ที่ทำให้หัวใจเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ คงเป็นเมื่อตอนมาหยุดยืนอยู่หน้าประตูแบบสองบานพับของห้องที่อยู่สุดโถงทางเดินบนชั้นสอง บานประตูสีฟ้าออกเทาปิดสนิทอยู่ตรงหน้ากลับเรียกความสนใจของคนที่จ้องมองมันได้มากกว่าห้องไหนๆ...มือหนาเอื้อมเปิดประตูห้องนั้นออกอย่างถือวิสาสะโดยไม่ถามเจ้าของตัวจริง แต่อรรถนนท์กลับไม่ติดใจอะไร ด้วยรู้ดีว่าเพื่อนสนิทของเขาหลงใหลในของเก่าของโบราณพวกนี้มากขนาดไหน

"นี่ห้องใคร?"เสียงทุ้มนุ่มถามเพียงสั้นๆเรียกให้อรรถนนท์ยืนขมวดคิ้วมุ่นใช้ความคิด ตอนนี้ทั้งเขาและคนตัวสูงก้าวเข้ามาหยุดยืนในห้องสี่เหลี่ยมกว้างขวาง เครื่องเรือนเก่าแก่บางชิ้นวางโดดเด่นเหมือนเมื่อตอนที่ยังถูกใช้งาน เตียงสี่เสาหลังใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้องใกล้ๆกับหน้าต่างที่หากเปิดออกจะสามารถมองเห็นภาพเจ้าพระยาสายใหญ่เบื้องล่างชัดเจน ผนังอีกฝั่งของห้องเรียงรายด้วยชั้นหนังสือถูกคลุมทับด้วยผ้าขาวผืนใหญ่ใช้กันฝุ่น

"ห้องนอนคนสนิทของเจ้าคุณ...จำชื่อไม่ได้แล้วแต่เป็นหลวงมั้ง คุณพ่อเคยเล่าให้ฟัง"คำตอบของเจ้าของเรือนไม่ได้ช่วยไขความกระจ่างมากนัก เมื่อสิ่งที่อรรถนนท์ได้ยินมาจากผู้เป็นพ่อเกี่ยวกับเจ้าของห้องเดิมมีไม่มากเท่าเรื่องราวของพระยาเจ้าของเรือนที่เขาเองก็เพียงฟังผ่านหูแล้วลืมเลือนไปบ้างตามกาลเวลาเช่นกัน

ดวงตาคมปราดมองรอบห้องทั้งที่หัวใจยังเต้นระส่ำ ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาดตีตื้นจนขนลุกชันไปทั้งตัว ทั้งเตียงสี่เสาหลังใหญ่ หน้าต่างแบบสองบานพับฝั่งหัวเตียง หรือแม้แต่ชั้นหนังสือวางเรียงราย...ราวกับเคยเห็นภาพตรงหน้ามาก่อนจากที่ไหนสักแห่งเมื่อนานมาแล้ว

ครู่หนึ่งที่สายตาสะดุดลงตรงพื้นที่ว่างฝั่งตรงข้ามกับประตู...ดวงตาคมสวยกลับเบิกกว้างอย่างตกตะลึงเมื่อเห็นภาพคล้ายซ้อนทับของภาพในอดีต ภาพของผู้ชายสองคนที่ยืนเคียงกัน แม้เลือนรางหากยังพอเห็นว่าคนหนึ่งตัวผอมบาง ผิวขาว ใบหน้าติดหวานดูคล้ายมีเชื้อจีนผสม ริมฝีปากบางยกยิ้มน้อยๆเช่นเดียวกับดวงตาคู่สวยที่ส่องประกายวิบวับยามจดจ้องคนตัวสูงกว่าที่อยู่ในชุดราชการแบบโบราณเต็มยศ หากแต่เขาเห็นเพียงแผ่นหลังกว้างสมดุลกับผมรองทรงที่ถูกเสยเรียบเท่านั้น...เบื้องหลังคนทั้งสอง...สิ่งของหนึ่งที่ตั้งโดดเด่นดึงดูดสายตา แต่เพียงชั่วครู่ที่กันตวิชญ์สะบัดศีรษะแรงๆราวกับพยายามไล่ความคิดฟุ้งซ่าน ภาพทั้งหมดก็พลันหายไป

"ตรงนั้น...เคยมีอะไรอยู่ใช่มั้ยอาร์ม"นิ้วเรียวยาวชี้ออกไปยังเบื้องหน้าเรียกให้คนข้างๆปรายสายตามองตาม พื้นที่่ว่างโล่งหน้าชั้นหนังสือที่ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ไม่น่าจะมีอะไรอยู่ตรงนั้น

"ไม่รู้สิ...ถ้ามีก็คงถูกย้ายออกตอนซ่อมเรือนครั้งก่อน...แต่คงไม่มีหรอกมั้ง"อรรถนนท์ตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก เมื่อนึกไปถึงเครื่องเรือนหลายต่อหลายชิ้นที่ถูกขนย้ายออกไปตอนปรับปรุงเรือนครั้งก่อนๆ บางชิ้นถูกยกกลับมาวางที่เดิม บางชิ้นที่ไม่สามารถซ่อมแซมให้ใช้งานได้ก็ถูกขายต่อหรือยกให้คนที่สนใจพวกของเก่าโดยไม่คิดราคา

"มีสิ...มันเคยอยู่ตรงนั้น"เสียงทุ้มนุ่มดังแผ่วคล้ายคนละเมอยามสายตาจดจ่อไปยังพื้นเรือนโล่งโจ้งตรงหน้า เขาไม่รู้หรอกว่าสิ่งนั้นคืออะไร...รู้แค่เพียงมันเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับเจ้าของห้อง...สิ่งสำคัญที่เรียกทั้งรอยยิ้มและความเจ็บปวดในคราวเดียว เหมือนกับความรู้สึกปวดหนึบถ่วงจิตใจของเขาในตอนนี้ มันวูบโหวงจนน่าใจหาย ขณะเดียวกันก็อบอุ่นเต็มตื้นจนรับรู้ถึงจังหวะหัวใจที่ดังระรัว





"อาร์ม...พรุ่งนี้พาฉันไปพบพ่อแกหน่อยได้ไหม...ฉันอยากได้เรือนหลังนี้"





ตอนนั้นเขาไม่รู้หรอกว่าทำไม...มันคล้ายความลุ่มหลง หลงใหล หรือผูกพัน เขาเองก็ตอบไม่ได้ รู้เพียงแต่เขาอยากได้เรือนหลังนี้...อยากเป็นเจ้าของ...อยากใช้ชีวิตอยู่ที่นี่...ที่ที่ความอบอุ่นแผ่ซ่านเพียงแค่ได้เหยียบย่างเข้ามาในก้าวแรก



เขาหลงรัก...โดยที่ไม่รู้ว่าความรู้สึกแปลกประหลาดนี้เกิดขึ้นจากอะไร


........................................................................................



หายหน้าไปนาน คิดถึงกัน(ต์)บ้างมั้ยน๊าาาาา  :hao7:
แต่คนแต่งยังคิดถึงทุกท่านเหมือนเดิมนะเจ้าคะ *ยิ้มหวานกลบเกลื่อนที่หายไปหลายเดือน*

ที่หายไปนานเพราะเป็นช่วงปรับเปลี่ยนอะไรในชีวิตหลายอย่างเลยค่ะ ทั้งงานใหม่ วงจรชีวิตใหม่ ทำให้ไม่มีเวลามาลงแรงกับนิยายเต็มตัวเหมือนเดิม แต่เพราะตั้งใจไว้แล้วว่ายังไงก็จะต้องมาลงตอนพิเศษนี้ให้ได้ก็เลยต้องมาตามสัญญา แต่อาจจะมาได้ไม่บ่อยเหมือนเมื่อก่อน ยังไงก็อดใจรอกันนิดนึงนะเจ้าคะ :hao5:

สำหรับตอนพิเศษนี้กะไว้คร่าวๆว่าแบ่งเป็น๓ตอน หรืออาจจะเพิ่มเป็น๔ถ้าไม่สามารถจบให้ลงภายในตอนที่๓ได้

ยังไงก็อยากให้ทุกท่านคอยติดตามและให้กำลังใจกันเหมือนเดิมนะคะ :call:

แล้วพบกันใหม่ตอนหน้าค่า
...Novemberist...

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ดีจัง อย่างน้อยก็ได้กลับมาพบกันในชาตินี้(ของกันต์) แม้ว่าจะน่าเศร้าอยู่บ้างเมื่อนึกถึงการรอคอยของคุณหลวง(เมื่อชาติก่อน)
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ Altasia

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
 :mew2:
มาช้าดีกว่าไม่มาค่ะ

ออฟไลน์ apisaraa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :hao3: เคยเจอตั้งแต่สมัยมหาลัยแล้ววว

รอpart2ค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด