...The Timeless Tide...หากแม้นสายนธีร์จะย้อนกลับ...[แจ้งข่าว หน้า๒๒ ค่ะ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...The Timeless Tide...หากแม้นสายนธีร์จะย้อนกลับ...[แจ้งข่าว หน้า๒๒ ค่ะ]  (อ่าน 309673 ครั้ง)

ออฟไลน์ minnin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
เเบบว่าขอเป็นภาคต่อเลยได้ไหมอ่ะค่ะ คึคึ #โลภมาก

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
ิรอตอนหน้าครับ 


ดีใจมากที่ได้อ่านต่อ
 


ออฟไลน์ ohuii

  • Why I cannot upload profile picture?
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-4
คิดถึงมากค่า รอพาร์ทต่อค่ะ ^^

ออฟไลน์ kaokorn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
ขอบคุณฮะที่ยังมาอัพเรื่องนี้ รอๆตอนพิเศษอยู่เหมือนกัน
อ่านตอนนี้แล้วขนลุกเลยอ่ะ ตอนเห็นรูปเจ้าคุณไพศาล นึกถึงความใจดีของท่าน
รออ่านตอนพิเศษต่อๆไปนะฮะ

ออฟไลน์ Netimefii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
รอรอรอ    :katai5:
ขอบคุณตอนพิเศษจ้าา  :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ pharam8

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกมาก รอตอนต่อไปอย่างใจจดจ่อ

ออฟไลน์ PURE LOVE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
ขอบคุณมาก ๆๆๆ สำหรับตอนของพี่กัน ยิ่งอ่านยิ่งชอบเรื่องนี้จริง ๆ
อ่าน ๆ ไป ชักอยากให้เป็นภาค 2 ยาว ๆ ของพี่กันน้องธีร์ ในยุคปัจจุบันเลย
ถึงจะเป็นพี่กัน แต่ก็ยังรู้สึกถึงความเป็นตัวตนของพี่แก้วอยู่ดี
ผู้ชายที่แสนอบอุ่น อ่อนโยน ผู้มีความรักแท้มั่นคงต่อน้องธีร์ :o8:
อ่านตอนพี่กันกลับไปที่เรือนเจ้าคุณไพศาลแล้วแบบ ซึ้งจัง
เหมือนพี่แก้วได้กลับมาบ้านอบอวลไปด้วยความสุขของตนจริง ๆ
ยิ่งตอนพี่กันน้องธีร์ เคยได้เจอกันมาก่อนด้วยนี่แบบ พรหมลิขิตชัด ๆ
คือ คนเป็นเนื้อคู่กันแล้วไม่แคล้วกันอ่ะ ไม่ว่าภพชาติไหน โรแมนติคเหลือเกิน  :m1:
ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ รอพี่กันน้องธีร์ ได้เสมอจ้า  :L1:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ดีใจจังที่ได้อ่านอีกครั้ง รออีกน้า อย่าหายไปอีกน้อว

ออฟไลน์ iiizo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
รอตอนพิเศษอยู่น้า
มาต่อไวไวนะจ้ะ :call: :call: :call:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Tikking7

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :call: :hao3: :hao3: :hao3:มาปูเสื่อรออิเจ้มาต่อ ...

ออฟไลน์ ploysure

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อยากอ่านต่อแล้ว

 :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ wipcream09

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อ่านรวดเดียวแบบไม่ได้นอนเลยค่ะ
เพ้อมากๆ ตอนนี้ เพ้อหาพี่แก้ววว กร๊ากกกกกก
ทำไมเราเพิ่งเจอนิยายเรื่องนี้ ฮือออออ
ซึ้งมากเลยค่า ชอบช่วงที่อยู่พระนครมาก
บรรยากาศสมัยนั้นน่าหลงใหลมากๆ
เรือนไทยริมแม่น้ำโรแมนติกไปอีกแบบนะคะ  :o8:

ชอบความผูกพันของธีร์กับคุณสร้อย เจ้าคุณจิตรา
ชอบทุกอย่างเลยค่ะ ไม่รู้จะบรรยายยังไงTT
พี่แก้วละมุนมากๆ พูดออกมาแต่ละคำ อ่านไปเขินไป
จะบ้าแทนน้องธีร์ค่ะ ผู้ชายอะไรหวานขนาดนี้ ฮือ อยากด้ายยยยยยยยยยยย

ช่วงตอนจบน้ำตาไหลทุกตอนเลยค่ะ ยิ่งตอนธีร์เห็นภาพวาดของแชมป์นี่พรากรัวๆๆๆ คิดถึงพี่แก้วววววววว
ตอบจบปริ่มมาก โฮรวววว ทำไมอบอุ่นแบบนี้ /ทึ้งหัว

คิดถึงเหลือเกินพ่อธีร์ของพี่  << ประโยคนี้อ่านกี่ครั้งก็จะละลายตายอ่ะค่ะ อยากจะสไลด์ลงเจ้าพระยาจริงๆ  :o12: :o12: :sad4: :hao5:
จริงๆก็แอบสงสารพี่แก้วนะคะ น้องธีร์รอสี่ปี แต่พี่แก้วต้องรอจนถึงอีกชาตินึง โอยยย แค่คิดก็ปวดหัวใจแทน เขาจะคิดถึงน้องธีร์มากขนาดไหน  :hao5:
แต่ยังไงก็เจอกันแล้วนะค้า ฮืออออออออ รู้สึกชีวิตคอมพลีท

ชอบตอนพิเศษพี่กันมากค่ะ แอบเจอน้องธีร์สมัยเอ๊าะๆมาก่อนนะเนี่ย กรี๊ดดดดดดด เด็กม.ปลาย วัยกำลังน่าเคี้ยว  :hao6: พี่กันนี่แย่จริง ลืมน้องได้ไงคะ :ruready

ขำพ่อแช่มมากค่ะ คุณพิกุลคงโมโห นี่แหน่ะ อวตารมาเป็นเด็กหนุ่มเสีย เด็ดมาก  :hao6: สู้นะคะแช่มคุง เอาใจช่วยค่ะ 5555555555

อีกอย่างที่ชอบคือบรรยากาศตอนมาดูเรือนไม้กับอาร์ม อ่านแล้วรู้สึกจะขนลุกตามพี่กันค่ะ แต่ถ้าเป็นอาร์ม เดินเข้าไปแล้วเพื่อนตาลอยๆ พูดพึมพัมแบบนี้คงน่ากลัวแน่ๆ555555 ซื้อเร็วๆนะคะพี่กัน จะได้พาน้องธีร?มาแต่งเข้าหอซะที รอมาทั้งชาติแล้ว  :-[

ขอบคุณผู้เขียนมากนะค้าที่แต่งนิยายดีๆแบบนี้มาให้อ่าน เป็นเรื่องหนึ่งที่จะยกขึ้นหิ้งเลยค่ะ  o13
คือภาษาดีมากๆ แง มันดูไท๊ยไทย นึกว่าคนโบราณมาเอง อ่านแล้วบางทีก็เริ่มมึนๆ เกรงว่าจักนำคำโบราณไปพูดกับเพื้อนฝูง ชักจะติดแล้วค่ะ  :z3:

อยากให้มีรวมเล่มจังค่ะ  :mew6: จะรอตอนพิเศษต่อไปนะค้าาา สู้ๆค่ะ :mew1:

ออฟไลน์ Novemberist

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-0


The Timeless Tide...Side Story ๒...กันตวิชญ์





คืนนั้นกันตวิชญ์ฝัน...จะว่าเป็นฝันดีเขาก็เรียกได้ไม่เต็มปาก หรือจะเป็นฝันร้ายก็ไม่ใช่เสียทีเดียว...เขาฝันเห็นเรือนริมน้ำทรงยุโรปหลังนั้นเมื่อครั้งยังโดดเด่นงดงาม ตัวเรือนภายนอกสีฟ้าหม่นออกเทาทว่าสดใส เบื้องหลังคือเจ้าพระยาสายใหญ่เงียบสงบอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน...ตรงหน้าของเขาคือบานประตูแบบสองบานพับของตัวเรือนชั้นล่างที่เขาเคยเดินผ่านเมื่อตอนกลางวัน หากแต่ตอนนี้ทั้งเรือนกลับเปิดโล่ง แสงแดดอ่อนๆส่องลอดบานหน้าต่างยังความสว่างไสวให้ทั้งตัวเรือนโดยไม่ต้องพึ่งแสงไฟจากหลอดนีออน


สองขายาวก้าวเดินผ่านห้องนั่งเล่นกว้างขวาง เหลือบไปเห็นนาฬิกาโบราณแบบตั้งพื้นที่ตอนนี้ลูกตุ้มของมันแกว่งไกวเป็นจังหวะ ทั้งตัวนาฬิกาก็กลับเหมือนของใหม่ อีกด้านของห้อง พัดลมทองเหลืองตัวโตกำลังส่ายไปมาส่งเสียงครางหึ่งๆ แว่วเสียงพูดคุยจอแจดังอยู่ไกลละลิบจากท้ายเรือน หากแต่เจ้าตัวไม่ใส่ใจนัก ยังคงออกเดินตามทางที่ตนเคยเดินผ่านก่อนหน้าราวกับภาพฉายซ้ำ...ผ่านห้องทำงานชั้นล่าง ตู้ โต๊ะยังวางเรียงรายเหมือนใหม่ เรื่อยขึ้นไปจนถึงชั้นบน โถงทางเดินทอดยาวจนสุดทางและประตูไม้แบบสองบานพับสีฟ้าหม่นยังคงโดดเด่น


ชายหนุ่มเร่งฝีเท้าจนมาหยุดยืนหน้าประตูบานเดิม ริมฝีปากหยักเม้มแน่นจนกลายเป็นเส้นตรงคล้ายคนกำลังชั่งใจ มือหนาเอื้อมออกไปเบื้องหน้าแตะสัมผัสบานประตูค้างไว้เช่นนั้น ก่อนตัดสินใจผลักมันให้เปิดออกเพียงแผ่วเบา ทว่าประตูไม้กลับเปิดออกกว้างสาดแสงสว่างจ้าจากด้านในจนเขาต้องหลับตาลง


เพียงครู่เดียวที่แสงสว่างบาดตาหม่นลง ดวงตาคมก็กระพริบถี่อีกครั้ง...ภาพแรกที่เห็น คือเตียงสี่เสาที่ดูราวกับของใหม่ ฟูกนอนปูทับด้านบนคลุมด้วยผ้าแพรเพลาะสีน้ำเงินเข้มเงาวับ ชั้นหนังสือที่เคยถูกคลุมทับด้วยผ้าขาวตอนนี้กลับตั้งโดดเด่นเรียงรายด้วยหนังสือเล่มหนาจนแน่นขนัด ด้านข้างหน้าต่างฝั่งหัวเตียงมีกระจกเงาบานสูงกรอบด้วยไม้สลักลวดลายงดงามส่องสะท้อนเงาของชายหนุ่มที่ยืนตกตะลึงอยู่เบื้องหน้า


แต่ที่ทำให้ลมหายใจขาดห้วงคงเป็นสิ่งที่วางโดดเด่นอยู่ข้างกระจกเงาบานนั้น...โต๊ะไม้สักตัวงามตั้งเด่นอวดลวดลายสลักปราณีตบรรจงบนขาทั้งสี่ พื้นไม้เงาเรียบบ่งบอกถึงฝีมือของช่างผู้สร้างสรร ด้านบนมีกองเอกสารวางเกลื่อนและปากกาขนนกด้ามยาว หากแต่สิ่งที่สะดุดตาที่สุดเห็นทีจะเป็น...ที่ทับกระดาษทรงสี่เหลี่ยมหน้าตาธรรมดาแต่กลับดึงดูดความสนใจคนมองได้มากกว่าเครื่องเรือนเก่าแก่ชิ้นอื่นๆ


มือหนาเอื้อมออกหมายหยิบวัตถุทรงเหลี่ยมขึ้นดู เป็นจังหวะเดียวกับมือขาวเรียวของใครบางคนฉวยของสิ่งนั้นไว้ได้ก่อน...ชายหนุ่มไล่สายตาตามท่อนแขนขาวไปจนถึงไหล่กว้างสมดุลภายใต้เสื้อคอตั้งแบบโบราณ กรอบหน้าเรียวรีได้รูป ริมฝีปากบางยกยิ้มน้อยๆ จมูกโด่งรั้นกั้นกลางดวงตาคู่สวยและผมยาวละต้นคอสีนกกาเคลียใบหน้า ยิ่งทำให้กันตวิชญ์เบิกตากว้างเมื่อนึกได้ว่าคนๆนี้คือคนเดียวกับที่เขาเห็นภาพซ้อนเมื่อตอนกลางวัน...เด็กหนุ่มหน้าติดหวานเจ้าของเสียงหัวเราะกังวานใสราวแก้วกำลังยืนห่างเขาออกไปเพียงแค่เอื้อมทว่าอีกฝ่ายกลับไม่รับรู้ถึงตัวตนของเขาแม้แต่น้อย...ดวงตาคู่สวยจดจ้องเพียงวัตถุในมือที่เจ้าตัวกำลังหมุนมันไปมา แต่เพียงครู่ก็ชะงักมือแล้วเบือนหน้ากลับไปมองฝั่งประตู...ริมฝีปากบางฉีกยิ้มกว้างพลางส่งเสียงนุ่มน่าฟัง



'คุณหลวง'



กันตวิชญ์ไล่สายตามองตามคนที่ถูกเรียกแล้วก็ยิ่งเบิกตาโพลงด้วยความตกตะลึง เมื่อผู้มาใหม่ที่ยืนอยู่ตรงประตูห้องนั้นราวกับภาพสะท้อนของตัวเองในกระจกไม่ผิดเพี้ยน ต่างเพียงเครื่องแต่งกายของอีกฝ่ายเป็นชุดราชการสมัยก่อน เสื้อราชประแตนสีขาวสะอาดตา ผ้าม่วงนุ่งโจงสีเข้ม ทั้งทรงผมเสยเรียบไปด้านหลังเผยให้เห็นกรอบหน้าเด่นชัดที่ไม่ว่าจะมองอย่างไร...นั่นก็คือตัวเขา...


'ธีร์คิดถึงคุณหลวงนะครับ'


เสียงนุ่มดังแผ่วบอกกับคนตัวสูงที่ยืนยิ้มปรายตรงหน้า มือหนาเอื้อมออกแนบแก้มขาว ทั้งสายตาที่ทอดมองยิ่งอ่อนโยนนัก


'แต่ธีร์กลับไปหาคุณหลวงไม่ได้แล้ว...กลับไปหาพี่แก้วไม่ได้อีกแล้ว'


สิ้นเสียงกังวานใส ภาพเด็กหนุ่มตรงหน้ากลับเลือนหาย เหลือเพียงคนตัวสูงในชุดราชการที่ยกมือค้างราวแตะลงบนอากาศ ดวงตาคมฉายแววหม่น ทั้งใบหน้ายังเศร้าหมองผิดกับเมื่อครู่ เขาขยับเข้าใกล้โต๊ะไม้สักก่อนทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าราวคนหมดเรี่ยวแรง



'พ่อธีร์...พ่อธีร์ของพี่'



กันตวิชญ์ได้แต่ยืนตัวสั่นมองภาพตรงหน้า ท่อนแขนแกร่งดูอ่อนแรงยามพาดลงกับโต๊ะตัวใหญ่ ใบหน้าคมฟุบลงทาบทับนิ่งค้างอยู่เช่นนั้นเนิ่นนาน มีเพียงแผ่นหลังกว้างไหวระริกให้พอรับรู้ว่าเจ้าของร่างสูงกำลังร่ำไห้

เท่านั้นก็พอให้คนที่ยืนมองรู้สึกอึดอัดคล้ายหายใจไม่ออก ความรู้สึกหนักหน่วงถ่วงหน้าอกข้างซ้ายเจ็บแปลบเป็นระลอกจนต้องยกมือขึ้นเกาะกุม...เจ็บจนเผลอนึกไปว่ากำลังมองภาพตัวเองในตอนนี้...เจ็บจนดวงตาร้อนผะผ่าวกลั่นตัวเป็นหยดน้ำตาไหลลงอาบสองแก้ม...เจ็บจนแทบพยุงตัวให้ยืนต่อไม่ไหว

ทำไมภาพตรงหน้าทำให้เขาเจ็บเหลือเกิน...ทำไมเขาถึงทรมานเพียงได้เห็นการจากลาของคนสองคนที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน...เพราะหนึ่งในนั้นมีใบหน้าคล้ายคลึงกับเขาอย่างนั้นหรือ...เพียงแค่ความเหมือนภายนอกสามารถทำให้หัวใจเจ็บเจียนขาดใจได้เหมือนกันด้วยหรือ



ชั่วขณะที่เขาเอื้อมมือออกหมายแตะปลอบโยนอีกฝ่าย พลันใบหน้าคมเข้มเหมือนกันราวส่องกระจกกลับหันมา สบดวงตาหม่นแสงเข้ากับดวงตาที่ตกตะลึง ริมฝีปากหยักของคนตรงหน้าขยับน้อยๆคล้ายพึมพำแต่ยังพอให้จับใจความได้



'เหตุใดจึงไม่กลับไปหาเขา...จะให้เรารอไปถึงเมื่อใด'



เสียงทุ้มนุ่มแฝงแววดุดัน แม้ได้ยินไม่ถนัดนักแต่กันตวิชญ์ยังพอจับกระแสความขุ่นเคืองในน้ำเสียงนั้นได้


หากเพียงแค่คิดจะเอ่ยปากถาม พลันแสงสว่างจ้าแสบตาก็สาดเข้าจนเขาต้องหลับตาลง ภาพในหัวหมุนคว้างบิดเบี้ยวกินเวลายาวนาน...ก่อนจะลืมตาขึ้นมาเพื่อพบว่า...เขากำลังนอนอยู่บนเตียงนุ่มในคอนโดของตัวเอง...ใบหน้าคมเหลียวมองรอบตัว ห้องนอนมืดมิดเห็นเพียงเค้าโครงของเฟอนิเจอร์ลางๆจากแสงจันทร์ด้านนอก มือหนายกขึ้นลูบหน้าตัวเองสองสามครั้งราวเรียกสติ


...ฝัน...



...ก็แค่ฝัน...



แต่ทำไมเหมือนจริงจนความรู้สึกปวดหนึบที่อกด้านซ้ายยังคงอยู่ หัวใจเต้นรัวแรงอย่างที่ไม่เคยเป็น ทั้งดวงตายังร้อนผ่าวแสบพร่าเหมือนคนเพิ่งผ่านการร้องไห้อย่างหนัก


ชายหนุ่มทิ้งตัวลงบนเตียงกว้างพลางสูดหายใจลึก...หลายสิ่งถาโถมเข้ามาโดยที่เขาไม่สามารถหาคำตอบได้...ผู้ชายสองคนนั้นเป็นใคร มีตัวตนอยู่จริงหรือเป็นเพียงจินตนาการที่เขาสร้างขึ้นมา...แล้วทำไมคนๆนั้นถึงให้ความรู้สึกเหมือนกับตัวเขาไม่ผิดเพี้ยน


'เหตุใดจึงไม่กลับไปหาเขา...จะให้เรารอไปถึงเมื่อใด'


เสียงแผดกร้าวยังก้องอยู่ในหู...'เขา'ที่ว่าคือใครกัน? ใช่เด็กหนุ่มตัวผอมบางคนนั้นหรือไม่? แล้วจะให้กลับไป...กลับไปที่ไหนกันล่ะ?...แล้วผู้ชายคนนั้นกำลังรอ...เขารออะไรอยู่?



"บ้าชิบ!"



เสียงสบถกับตัวเองเมื่อในหัวมีแต่คำถามคำแล้วคำเล่า...เห็นทีต้องเริ่มจากต้นเหตุของเรื่องแล้วล่ะมั้ง...



...................................................................................




ท่านทูตกิตติยังดูแข็งแรงนักแม้อายุเลยผ่านเลข๕มาได้หลายปีแล้ว ใบหน้าของท่านอ่อนโยนเจือรอยยิ้มบางเกือบตลอดเวลา ยิ่งเมื่อได้อยู่ต่อหน้าผู้มาเยือนที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวเดี่ยวด้านข้างในห้องนั่งเล่นกว้างขวางของบ้าน

"เป็นเพื่อนเจ้าอาร์มหรือเรา"เจ้าของบ้านถามขึ้นหลังกล่าวทักทายกันพอเป็นพิธี

"ใช่ครับ แต่เรียนคนละคณะ"ท่าทีนอบน้อมผิดจากนักเรียนนอกหัวสมัยใหม่หลายคนที่เคยได้พบทำให้ท่านทูตนึกถูกชะตาชายหนุ่มตรงหน้าอยู่มากนัก ทั้งมารยาทในการเข้าหาผู้ใหญ่ก็ดีเยี่ยม ดูท่าคงถูกสั่งสอนมาเป็นอย่างดี

"เห็นอาร์มบอกว่าเราอยากได้เรือนริมน้ำหลังนั้นหรือ" ไม่รอช้าเมื่อผู้อาวุโสกว่าเข้าประเด็นสำคัญทันที จริงอยู่ที่ท่านเป็นคนใจเย็น แต่ก็ไม่ใช่คนอ้อมค้อมยืดยาดให้มากความ

"ครับ...ผมศึกษาเรื่องเรือนเก่ามาบ้าง เห็นเรือนของคุณลุงหลังนั้นแล้วถูกใจเลยอยากขอซื้อต่อ"

"พ่อหนุ่ม...เรือนหลังนั้นน่ะเป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษของลุง พ่อหนุ่มคงไม่คิดว่าลุงจะขายมันให้กับพวกนักสะสมของเก่าเพียงเพื่อให้เขาเอาไปอวดชาวบ้านว่ามีของดีอยู่กับตัวหรอกนะ" ท่านทูตกิตติส่ายหน้าน้อยๆพลางถอนหายใจเบา นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ท่านถูกทาบทามขอซื้อต่อเรือนริมน้ำหลังนั้นเพียงเพราะว่ามันเป็น'ของเก่า'ที่มีคุณค่าคู่ควรแก่การเก็บสะสม แต่กลับไม่มีใครมองเห็นความงามที่แท้จริงที่ผ่านกาลเวลานับร้อยๆปีของมันได้อย่างถ่องแท้สักราย แม้แต่คนตรงหน้าที่ท่านนึกถูกชะตาไม่น้อยเมื่อตอนพบกันก็เถอะ ฟังจากคำพูดแล้วก็คงไม่ต่างจากนักสะสมของเก่าพวกนั้นสักเท่าไหร่


หากแต่คำตอบของคนตัวสูงกลับทำเอาผู้อาวุโสประหลาดใจไม่น้อย

"ผมทราบดีครับว่าเรือนหลังนั้นมีความสำคัญต่อคุณลุงมาก ผมเองก็ไม่เห็นด้วยกับพวกที่หลงใหลของเก่าบางประเภทที่ขนซื้อเพียงเพราะอยากเก็บสะสม...ผมชอบเรือนหลังนั้นจริงๆครับ ถ้าคุณลุงจะกรุณาขายให้ ผมตั้งใจว่าจะย้ายเข้าไปอยู่ทันที"ทั้งยังแววตามุ่งมั่นจริงจังยามตอบคำถามนั่นอีก

"ที่ว่าอยากได้...เพราะจะซื้อไว้อยู่เองอย่างนั้นหรือ"นัยน์ตาอ่อนโยนภายใต้ริ้วรอยจางๆส่องประกายบางอย่างที่แม้แต่คนถูกมองก็ไม่อาจเข้าใจ

"ใช่ครับ...คุณลุงอาจจะมองว่าผมแปลกถ้าผมจะบอกว่าผมรู้สึก'คุ้นเคย'กับเรือนหลังนั้น...ผมหลงรัก...ไม่ใช่เพียงเพราะว่าเป็นของเก่า แต่เป็นเพราะความรู้สึกอบอุ่นสบายใจเมื่อผมได้เห็นมัน"ท่านทูตกิตติเพียงยิ้มบางกับสิ่งที่ได้ยิน ท่านผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายสิบปีย่อมมองออกว่าสิ่งที่คนตรงหน้าพูดล้วนออกมาจากใจทั้งสิ้น แต่จะให้ตอบตกลงในทันทีก็เห็นว่าเป็นการด่วนตัดสินใจไปเสียหน่อย เพราะอย่างไรเสียเรือนหลังนั้นก็ได้ชื่อว่าเป็นมรดกชิ้นสำคัญที่บรรพบุุรุษของท่านเหลือไว้ให้ลูกหลาน

"เอาเป็นว่าลุงจะรับเรื่องนี้ไว้พิจารณาก็แล้วกัน...แต่ตอนนี้เราไปทานข้าวกันก่อนเถอะ คุณหญิงแกให้คนตั้งโต๊ะรอไว้นานแล้ว"ผู้อาวุโสกว่าชิงเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นว่าผู้เป็นภรรยาให้เด็กในบ้านเข้ามาตามไปร่วมโต๊ะอาหาร แต่ดูท่าว่าความสนใจในตัวเรือนริมน้ำของชายหนุ่มยังไม่จบลงแค่นั้น เพราะเมื่อท่านนั่งลงบนเก้าอี้หัวโต๊ะที่ประจำเขาก็ถามคำถามต่อทันที

"คุณลุงครับ...เห็นอาร์มบอกว่าเจ้าคุณเจ้าของเดิมท่านอยู่กับคนสนิท คุณลุงพอจะทราบประวัติท่านบ้างไหมครับ"คำถามที่ทำให้ท่านทูตกิตติคิ้วมุ่นอย่างนึกสงสัย ไม่ต่างจากคุณหญิงอรและลูกชายอีกสองคนที่นั่งร่วมโต๊ะอาหาร

"แปลกนะ...ปกติเขามีแต่คนอยากรู้ประวัติเจ้าของเรือน มีแต่เรานี่ล่ะที่อยากรู้เรื่่องของคนอาศัย...เอ ไม่สิ...ยังมีอีกคน...รายนั้นแทบสอบประวัติกันเลยล่ะ"ผู้อาวุโสกว่าหัวเราะเบาเมื่อนึกไปถึงใครอีกคนที่เคยถามคำถามเดียวกันเมื่อหลายปีก่อน คำถามที่ท่านเองก็เกือบลืมไปเสียแล้วหากไม่ถูกเรียกความจำขึ้นมาอีกครั้งในวันนี้

"ใครหรือครับ"ดวงตาคมส่องประกายวาววับ นึกสงสัยไม่น้อยที่ยังมีใครอีกคนอยากรู้ในเรื่องเดียวกันกับเขา

"ลูกชายเพื่อนสนิทของลุงเอง เคยมาถามเรื่องนี้เมื่อหลายปีก่อน ลุงก็ไม่ค่อยรู้อะไรมาก ก็ตอบเท่าที่ได้ยินมา"ดวงหน้าอ่อนโยนของท่านทูตอมยิ้มน้อยๆยามนึกถึงใครบางคนที่ว่า แต่เพียงครู่กลับเหมือนนึกอะไรได้บางอย่าง

"อ้อ! อาร์ม...วันเกิดปีนี้พ่อว่าจะจัดงานที่บ้าน ฝากเราไปชวนธีร์ด้วยล่ะ คุณนิดเขาว่าช่วงนี้น้องงานยุ่ง ได้เรากับเจ้าอิงช่วยรบเร้าอีกแรงเดี๋ยวก็ใจอ่อน"



เพียงได้ยินชื่อของบุคคลที่สาม มือที่จับช้อนอยู่กลับชะงักค้างกลางอากาศ ชื่อคุ้นหูที่ติดใจเจ้าตัวตั้งแต่ในฝันคราวก่อนถูกเอ่ยออกจากปากคนใกล้ตัวของเขาอีกครั้ง หากเพียงเขาไม่รู้เลยว่าเจ้าของชื่อนั้นกับคนในฝันมีความเกี่ยวข้องกันบ้างหรือเปล่า แน่ล่ะ คนชื่อซ้ำกันมีเป็นร้อยเป็นพันคน แต่ถ้าเกิดเป็นคนเดียวกันขึ้นมาล่ะก็ เห็นทีจะเป็นเรื่องตลกร้ายเรื่องหนึ่งในชีวิตของเขาเลยทีเดียว



...ธีร์...



ชื่อธรรมดาที่ติดหูไม่รู้ลืม...เขาต้องรู้ให้ได้ว่าเรื่องบ้าบอที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี่เกี่ยวข้องอะไรกับคนชื่อนี้...ยิ่งไปกว่านั้น...


...มันเกี่ยวข้องอะไรกับเขาบ้างหรือไม่...



...




น่าแปลกที่ความฝันของกันตวิชญ์ไม่ได้จบลงเพียงแค่วันแรกที่เขาก้าวเข้าไปเหยียบเรือนริมน้ำหลังงาม หากแต่ยังคงตามวนเวียนในความคิดของชายหนุ่มแทบทุกค่ำคืน...ต่างกันก็ตรงที่เขาไม่ได้เป็นเพียงบุคคลที่สามอีกต่อไปในความฝันนั้น ภาพที่เห็นราวกับถูกถ่ายทอดผ่านสายตาของใครคนหนึ่ง ใครบางคนซึ่งใช้ชีวิตอยู่ที่เรือนไม้ทรงฝรั่งริมน้ำที่เขานึกอยากได้

ภาพเหตุการณ์ฉายสลับไปมาขาดความต่อเนื่องยิ่งทำให้ชายหนุ่มสับสน เขาได้เห็นพระยาเจ้าของเรือนเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ ใบหน้าอ่อนโยนภายใต้ริ้วรอยจางๆมักส่งยิ้มมาทางนี้เสมอ ทั้งยังน้ำเสียงเรียบเรื่อยยามเอ่ยเรียกเจ้าของดวงตาคู่สวยที่ถ่ายทอดภาพตรงหน้าอย่างเด่นชัดราวกับมองมันด้วยตาของตัวเอง...ชื่อคุ้นหูอีกหนึ่งที่ติดอยู่ในความคิดไม่รู้ลืม


...พ่อแก้ว...


หากเพียงครู่ที่ภาพเจ้าคุณตรงหน้าแปรเปลี่ยนเป็นภาพของศาลาริมน้ำทรงแปดเหลี่ยม พร้อมมือหนาของเจ้าตัวที่กำลังบรรจงขีดเขียนตัวหนังสือด้วยปากกาขนนก ลายมือเรียงร้อยเป็นระเบียบสวยงามเช่นเดียวกับเอกสารแผ่นอื่นๆที่กองอยู่ด้านข้าง ก่อนที่เจ้าตัวจะถูกขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงกังวานใสของใครบางคน

'ผิดแล้วครับ...คำนี้แปลว่าการจัดการบริหารต่างหาก'
สายตาคมปราดมองเจ้าของนิ้วชี้เรียวยาวที่ยื่นออกมาขัดจังหวะของปลายปากกาขนนก ไล่ตามข้อมือขาวเรื่อยขึ้นมาจนถึงไหล่กว้างสมดุลภายใต้เสื้อผ้าป่านตัวบาง ลำคอเคลียด้วยผมยาวสีนกกาพลิ้วตามแรงลมเอื่อย ปลายคางเรียวรี ริมฝีปากบางยกมุมยิ้มน้อยๆ จมูกโด่งรั้น จนมาหยุดอยู่ที่ดวงตาคมสวยส่องประกายวิบวับ


'พักก่อนมั้ยครับ นั่งทำมาตั้งแต่เช้าแล้ว'เสียงนุ่มน่าฟังยังคงเอ่ยต่อ เพียงแค่นั้นมือหนาที่จับปากกาขนนกก็ค่อยคลายออกแล้ววางลง ทั้งยังฉวยโอกาสทิ้งตัวลงหนุนนอนอิงตักอุ่นของคนตัวเล็กกว่าจนแว่วเสียงท้วงทักขึ้นมาไม่เบา

'ที่บอกว่าให้พัก ไม่ได้หมายความแบบนี้นะครับ...คุณหลวง...'ปากคอยบ่นทว่านิ้วเรียวกลับกดลงข้างขมับของคนบนตัก นวดคลึงเบาๆหมายช่วยให้ผ่อนคลาย เรียกรอยยิ้มปรายอย่างอารมณ์ดีของอีกฝ่ายได้ไม่น้อย


แต่เพียงครู่ที่มือหนาเอื้อมออกคว้าข้อมือของอีกคนมากุมเอาไว้แนบอกจนรับรู้แม้จังหวะหัวใจของคนที่กำลังนอนหลับตาพริ้ม

'รักพี่บ้างหรือไม่คนดี'น้ำเสียงติดจะอ้อนเอ่ยถาม สัมผัสได้ว่ามือเรียวที่เกาะกุมอยู่กระตุกน้อยๆ

'จ...จะมาถามอะไรตอนนี้เล่า!'ดวงตาคมเปิดกว้างจดจ้องพร้อมรอยยิ้มยั่วเมื่อเห็นอาการลนลานของอีกฝ่าย ใบหน้าขาวเบือนหนีไปอีกทางไม่ยอมสบตาทั้งยังพยายามดึงมือหนาที่เกาะกุมออก

'บอกให้พี่ชื่นใจหน่อยซี' ยิ่งได้เห็นเรียวปากบางเม้มแน่นเป็นเส้นตรงยิ่งอยากแกล้งให้ได้อายมากกว่าเดิม แต่จนแล้วจนรอดคนปากแข็งก็ยังไม่ยอมตอบคำถามเสียที

'ปล่อยได้แล้วครับ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า'ทั้งยังพยายามบ่ายเบี่ยงหันมองซ้ายทีขวาทีด้วยความหวาดระแวง คนนอนหนุนตักยิ่งได้ใจเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายออกอาการ เอื้อมมือโน้มคอคนที่นั่งอยู่ให้ก้มลงจนใบหน้าติดหวานอยู่ห่างเพียงคืบ ปลายผมยาวเคลียแก้มใสถูกปัดขึ้นทัดหูให้ได้เห็นดวงตาคู่สวยชัดเจนกว่าเคย

'อยากให้ปล่อยก็ตอบพี่มาก่อนซี' รอยยิ้มยั่วยิ่งส่งให้หน้าขาวๆขึ้นสีระเรื่อ จะหันหนีไปทางอื่นก็ทำไม่ได้เพราะน้ำหนักมือที่โน้มลงจนแทบชิด

'ทำไมชอบแกล้งครับ'

'มิได้แกล้งเสียหน่อย ก็พ่อธีร์ไม่ตอบพี่เสียที ไม่สงสารคนรอฟังบ้างรึ' น้ำเสียงทุ้มนุ่มคาดคั้นจริงจังขัดกับแววตาส่องประกายซุกซนจนคนถูกแกล้งทำได้เพียงระบายลมหายใจอ่อน

'ป่านนี้แล้วยังไม่รู้อีกหรือไง'

'รู้ว่ารักหรือไม่รักเล่า'

'ก็ถ้าไม่รักจะยอมให้ทำแบบนี้มั้ยล่ะครับ' คนตัวเล็กกว่าหน้ามุ่ยเรียกเสียงหัวเราะพึงใจจากคนที่จดจ้องอยู่ เพียงชั่วครู่ที่ริมฝีปากหยักได้รูปโฉบเข้าแตะสัมผัสเรียวปากบางที่อยู่ห่างแค่คืบให้คนด้านบนสะดุ้งสุดตัว พยายามขืนตัวออกอีกครั้งแต่กลับไม่เป็นผล สุดท้ายเลยได้แต่นั่งนิ่งปล่อยให้อีกฝ่ายฉกชิมความหวานจากริมฝีปากบางจนพอใจแล้วจึงละออก

'พี่ก็รัก' หากเป็นคำพูดสั้นๆนั่นต่างหากที่ทำเอาใบหน้าขาวแดงซ่านอีกครั้ง

'ป...ปล่อยได้แล้วน่า' คนขี้แกล้งยอมปล่อยมือแต่โดยดีทั้งที่เสียงหัวเราะเบายังลอยมาให้ได้ยิน



เขากำลังยิ้ม...ยิ้มกับภาพความสุขตรงหน้า...เช่นเดียวกับร่างสูงสมส่วนที่กำลังหลับสนิทอยู่บนเตียง ใบหน้าคมเผยรอยยิ้มปรายทั้งที่เจ้าของร่างไม่รู้สึกตัว เพราะความฝันประหลาดนั้นเรียกเอารอยยิ้มและความอุ่นซ่านในหัวใจของชายหนุ่มทั้งที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดจากอะไร...รู้เพียงแต่ว่าคนในฝันนั้นกำลังมีความสุขและถูกส่งผ่านมาถึงตัวเขายามลืมตาตื่นขึ้นมา


หลายวันที่รอยยิ้มปรายประดับบนใบหน้าคมในยามเช้ากลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของวันทั้งวัน...หลายครั้งที่เขาเผลอนึกไปถึงใบหน้าของใครหลายคนที่ปรากฎในความฝันซ้ำแล้วซ้ำเล่า และทุกครั้งต้องมีใบหน้าติดหวานของใครคนหนึ่งรวมอยู่ด้วยเสมอ...เจ้าของดวงตาคู่สวยส่องประกายวาววับยามจดจ้อง ริมฝีปากบางขยับเพียงนิดยามเอื้อนเอ่ยคำพูดให้ได้ยิน หรือแม้แต่ท่าทางน่าเอ็นดูยามถูกกระเซ้าเย้าแหย่...หากจะบอกว่าเขาเริ่มเกิดความรู้สึกบางอย่างกับคนในฝันคนนั้นทั้งที่ไม่เคยได้พบกันมาก่อนก็คงจะไม่ผิดนัก


แต่ก็มีอีกหลายครั้ง...ที่เขาตื่นขึ้นมาพร้อมความรู้สึกปวดหนึบในหน้าอกข้างซ้าย เมื่อภาพในความฝันนั้นคือการจากลาของคนสองคน...ความอบอุ่นของคนตัวเล็กกว่าในอ้อมกอดยังคงเด่นชัด ทั้งยังสายน้ำตาที่ร่วงหล่นจนเปียกชุ่มบ่ากว้างของตน สองมือที่เกาะกุมค่อยละออกเพียงช้าๆราวกับต้องการประวิงเวลาให้นานขึ้นอีกหน่อย แต่ก็ไม่สามารถทำได้ดั่งใจนึกเมื่อท้ายที่สุดภาพความฝันนั้นก็หลงเหลือเพียงตัวเขาที่ยืนโดดเดี่ยวกลางห้องนอนกับมือที่เอื้อมออกคว้าได้เพียงความว่างเปล่า...ร่างสูงทรุดฮวบลงกับพื้นไร้เรี่ยวแรง อ้อมกอดอบอุ่นของคนที่ติดอยู่ในความคิดกลับถูกแทนที่ด้วยความเย็นเยียบ ทำได้เพียงประคองสองแขนเข้าโอบรอบตัวพลางสะอื้นจนตัวโยน...น่าแปลกที่คนเข้มแข็งอย่างเขา หรือแม้แต่เจ้าของสายตาคมกริบที่ถ่ายทอดภาพความฝันนั้น กลับกลายเป็นอ่อนแอเพียงเพราะการจากไปของใครคนหนึ่ง


ทั้งยังคำพูดที่เจ้าตัวเฝ้าย้ำกับตัวเองวันแล้ววันเล่า จนแม้แต่คนที่ได้เห็นจากในความฝันยังจำได้ทุกถ้อยคำไม่ผิดเพี้ยน


'ชาตินี้พี่คงไม่มีวาสนา หากเกิดชาติหน้าขอให้พี่ได้พบเจ้าอีกครา...เมื่อถึงเพลานั้นพี่จะไม่ยอมปล่อยเจ้าห่างจากอกพี่อีกเป็นอันขาด'


'คิดถึงเหลือเกิน'


'พ่อธีร์ของพี่'



......................................โปรดติดตามตอนต่อไป..................................................



แต่งไปน้ำตาซึมไป สงสารพี่แก้วเหลือเกินเจ้าค่ะ (เอ๊ะ! ได้ยินเสียงใครบ่นใจร้ายหรืออะไรเทือกนั้น)
ตอนหน้ารออีกสักพักนะเจ้าคะ กำลังพยายามบิ้วอยู่ อีกไม่นานเกินรอค่า

รักผู้อ่านทุกท่านเหมือนเดิม แล้วพบกันใหม่ตอนหน้า(ที่คาดว่ายังจบไม่ลง)ค่ะ  :bye2:


ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
รอค่า

ชอบเรื่องแนวย้อนยุคมาก

แต่งได้สนุกมาค่ะ

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
สงสารพี่แก้ว  :hao5: ได้แต่คิดถึงข้ามภพข้ามชาติเลยนะนั่น

รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
อยากอ่านตอนเจอกันแล้วอ่ะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6

ออฟไลน์ wipcream09

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
ยิ่งอ่านตอนพิเศษยิ่งสงสารพี่แก้ว จริงๆแล้วพี่กันต์กับนธีร์โชคดีนะคะ
พี่กันต์เกิดมาก็เหมือนค่อยๆทำความรู้จักกับอดีตของตัวเองอีกครั้ง
ส่วนน้องธีร์ รอมาสี่ปี แต่พี่แก้วรอมาเป็นชาติเลย โฮรววววววววววววว เจ็บปรวดดดดดดดด
อยากจะเข้าไปกอดพี่แก้ววว ไม่เป็นไรนะค้าาาา  :hao5: :hao5:

พาร์ทฝันถึงฉากสวีทนี่อยากเข้าไปสิงร่างพี่แก้วแทนพี่กันต์จริงๆ โฮรววว
อยากจิฟัดน้องธีร์  :hao7: :hao7: :hao7:

ขอบคุณสำหรับนิยายค่าาาาาา  :mew1:

ออฟไลน์ Netimefii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Dezzerr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
เพิ่งได้มีโอกาสมาตามอ่าน สนุกมากเลยค่ะ
ปกติไม่ชอบอ่านพีเรียด เพราะเชื่อแน่ว่ายังไงก็ต้องมีเศร้า
แต่เรื่องนี้ถึงเศร้าก็ยอมทน เพราะสนุก และน่ารักจริงๆ ค่ะ
พี่แก้วช่างเป็นผู้ชายที่อบอุ่น พ่อธีร์ก็น่ารักเสียเหลือเกิน
ตอนจากกัน คนอ่านใจจะขาดเสียให้ได้ สงสารสุดๆ
รอตอนต่อไปนะคะ อย่าทำร้ายพี่แก้วนักเลย 55555
ท่านเห็นน้ำตาในเลขห้าของเราหรือไม่  :hao5:
ปล.ชอบภาษามากเลยค่ะ นุ่มนวล อยากให้คนไทยกลับมาใช้ภาษาแบบนี้เสียเหลือเกิน  :pig4:

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
รออีกนิดน่ะจะได้เจอกันแล้ว

ออฟไลน์ nam151238

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้ำตาซึมได้ทั้งตอน 
รอ รอ รอ รีบมาต่อเร็วๆ  :call: :call: :call:

ออฟไลน์ apisaraa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
หน่วงแทนพี่กันต์จริงๆ  :sad4:

ออฟไลน์ iiizo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :hao5: :hao5: :hao5:
มาต่อเสียทีเถอะแม่เอ้ย ใจพี่นี่จิขาดแล้วเอ๊ยยยยยยยยยยยย :o12: :sad4: :o12:

ออฟไลน์ d_ploy_d

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอออออ คิดถึงพี่แก้ว

ออฟไลน์ nam151238

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เมื่อไรจะมาจ๊ะพ่อแก้ว  :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:

ออฟไลน์ wipcream09

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
แวะมาทักท้ายพี่แก้วค่าาา
คิดถึงงงงง แง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด