Special chapter (ครึ่งแรก)Wan talk
.
.
.
“เฮ้ยกูขอโทษษษ ไอ้ว่านมึงอย่าทำหน้าโหดดิวะ แค่นี้กูก็กลัวหัวหดแล้วเนี่ย ...คนอะไรน่ากลัวชิบหาย”ประโยคท้ายไอ้แทนแอบบ่นเบาๆ ผมตวัดตาไปมองมันนิ่งๆเพราะได้ยินเต็มสองรูหู ส่วนไอ้ตัวต้นเหตุที่ทำผมต้องไปสร้างภาพพจน์ประหนึ่งคุณชายผู้แสนดี(หรือเอ๋อก็ไม่ทราบ)นั่นกลับส่งแค่ยิ้มแหยๆกลับมา
“สัดแทน มึงไม่ต้องมาขอโทษกูด้วยสีหน้าที่ไม่สำนึกผิดของมึงเลยนะ มาโกหกกูทั้งๆที่ก็รู้ว่ากูชอบช้งเนี่ย มันน่าไหม!”พูดแล้วขึ้นครับ ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นเพื่อนนะ.... หึหึ!
“โธ่ ก็เพราะรู้ว่ามึงชอบไอ้ช้งนั่นแหละ กูถึงแกล้ง เอ้ย! ถึงบอกมึงไปแบบนั้น”
“...หมายความว่าไง”ผมมองมันด้วยความไม่เข้าใจ
“ก็หมายความว่าที่กูทำไปทั้งหมดก็เพื่อมึงทั้งคู่นั่นแหละ ไอ้ช้งมันก็เพื่อนกูเหมือนกัน คนอย่างมึงมันน่าไว้ใจได้ที่ไหนล่ะไอ้ว่าน”
“ห้ะ...?”
“แหน่ะ ไม่ต้องมาทำงงเลยไอ้เสือ ลืมตอนอยู่อเมริกาไปแล้วหรือไง ก็มึงไม่ใช่เหรอที่หิ้วหญิงกลับห้องแทบทุกวัน พากูเที่ยวแทบทุกคืน ไม่ยอมผูกมัดกับใครสักคน แล้วจู่ๆจะมาบอกว่าชอบช้ง ช้งที่เป็นผู้ชาย ถึงจะเป็นผู้ชายที่เสน่ห์แรง น่ารักน่าเอามากก็เถอะ แต่กูก็งงดิห่า”
“กูเลิกหมดแล้วเว้ย!” ใช่ครับ.. เมื่อก่อนผมค่อนข้างเที่ยวเตร่ อาศัยว่าเป็นคนที่หัวดีอยู่แล้ว เลยไม่ค่อยสนใจไม่ค่อยตั้งใจเรียน แต่หันไปตั้งใจเที่ยวเสียมากกว่า ไอ้เรื่องผู้หญิงก็พอๆกับไอ้แทนนั่นแหละ ทำมาว่าผม จะแหม่มหัวดำหัวแดงก็ได้มาหมดแล้ว แต่พอผมมาเจอช้ง ตอนแรกอาจจะเป็นแค่เพียงความหลงไหล แล้วยิ่งพอได้ใกล้ชิด ช้งก็ได้ใจผมไปเต็มๆเลยครับ ไม่รู้สิ ...รักไปแล้วอ่ะ -///- หลังจากนั้นผมก็เลยพยายามปรับปรุงตัว
แต่แม่งเอ้ย.. มาบอกว่าช้งน่ารักน่าเอาอย่างหน้าตาเฉย กระผมนายว่านแฟนช้งนั่งอยู่ตรงนี้ทั้งคน หงุดหงิดครับ! ถึงจะรู้ว่าผู้ชายส่วนใหญ่จะคิดแบบนั้นกับช้งก็เถอะ (เพราะผมก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน) แต่มันก็อดหวงไม่ได้นี่เนอะ ไอ้ลับหลังน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ถ้ามาแสดงตนต่อหน้านี่ ยั้งมือไว้ไม่อยู่ทุกที
“เงียบไปเลยมึงอ่ะ อย่ามาทำหน้าโหดใส่กู กูยังพูดไม่จบ... เพราะแบบนี้แหละกูถึงต้องการลองใจมึง ว่าตกลงมึงชอบช้งจริงๆ หรือแค่เล่นๆแบบที่ผ่านมา กูไม่อยากให้ไอ้ช้งมันเสียใจเพราะมันเป็นเพื่อนกู แล้วถ้าคนที่ทำให้มันเสียใจคือมึง มึงที่เป็นเพื่อนรักกู กูว่ามันไม่โอเค กูเลยอยากจะรู้ว่ามึงจะทนได้ไหม หัดเทคแคร์เอาใจใส่ ทำตัวเป็นคนดี ไม่ชิงสุกก่อนห่าม หรือได้แล้วก็ทิ้งแบบเมื่อก่อนอีก...”
มันพูดยิ้มๆเหมือนพอใจผลงานตนเอง ...แต่ไม่อยากจะบอกว่ากูชิงไปเรียบร้อยโรงเรียนนายว่านสุดหล่อล่ะ ยิ่งเวลาช้งนอนหน้าแดงกล่ำ เพยอปากแดงๆร้องครวญครางอยู่ใต้ร่าง ร้องเรียกแต่ชื่อผมเพียงคนเดียว ก็ยิ่งอยากจะป่าวประกาศไปให้ทุกคนได้รับรู้เลยว่า ‘เมีย’ผมน่ะน่ารักแค่ไหน!!
“…แต่ไม่นึกว่ามึงจะอดทนได้นานขนาดนี้นี่หว่า ตอนแรกก็นึกว่าจะหลุดตัวตนที่แท้จริงให้ช้งเห็นตั้งแต่แรกๆเสียอีก นับถือเลยว่ะ นี่คบกันมากี่เดือนแล้วนะห้า... หก ?”
“เจ็ดเดือนแล้วไอ้สัด!”ผมกระแทกเสียงใส่มัน
ถึงตอนนี้อารมณ์ที่คุกรุ่นในตอนแรกจะเริ่มเบาบางลง แต่ก็ยังอดเคืองมันไม่ได้ ..เล่นกูแรงเหลือเกินนะหมาแทน ถึงจะรู้ว่าเพราะหวังดีก็เถอะนะ ...แต่อย่าให้ถึงทีกูบ้างละกัน!
“ถึงเมื่อก่อนกูจะเหี้ยแค่ไหนนะ แต่ตอนนี้กูรักช้งเขาจริงๆ ที่ผ่านมาคงพอจะพิสูจน์ได้แล้วใช่ไหม”
“โอเคกูให้สิบผ่าน แต่หลังจากนี้มันก็ขึ้นอยู่กับตัวพวกมึงเองแล้วนะเว้ย”ไอ้แทนตบบ่าแบบให้กำลังใจ แน่นอนว่าผมไม่มีทางปล่อยช้งไปเป็นอันขาด
“เออ งั้นกูไปรับช้งก่อนนะ” ผมใช้กำปั้นต่อยไหล่ไอ้แทนเบาๆไปทีนึงก่อนจะขอแยกตัวออกมา มันพยักหน้าพร้อมกับส่งยิ้มให้ผม ...ยิ้มนี้น่ะเหรอที่ช้งชอบมาชมให้ผมฟังบ่อยๆ ก็ไม่เห็นว่าไอ้แทนมันจะหล่อตรงไหนเลย เฮอะ ก็งั้นๆแหละ!
จริงๆแล้วผมกับไอ้แทนนี่รู้จักกันมานานพอดู ตั้งแต่สมัยที่ผมเรียนอยู่อเมริกานู้นแหละครับ ตอนนั้นมันมาเรียนซัมเมอร์ที่ที่ผมเรียนอยู่พอดี ด้วยความที่เป็นนักเรียนคนไทยทั้งคู่เลยทำให้ผมกับมันสนิทกันเร็วขึ้น และมันก็ชอบมาเรียนทุกๆซัมเมอร์ เลยทำให้ผมกับมันเจอกันบ่อยจนกลายเป็นเพื่อนสนิทกันจนถึงทุกวันนี้ และพอผมถูกเรียกตัวให้กลับมาอยู่ไทย ก็ดั๊นนมาเรียนที่โรงเรียนเดียวกับมันอีก จะว่าเบื่อขี้หน้าก็เบื่อ แต่จะว่าดีก็ดี เพราะมันเป็นเพียงเพื่อนคนเดียวของผมที่อยู่ในไทยนี่ล่ะครับ
และก็เป็นเพราะไอ้แทนนี่แหละ ที่ทำให้ผมได้เจอกับช้งเป็นครั้งแรก...
“เห้ยมึง กูพามึงมานี่ทำให้มึงเบื่อรึเปล่าวะ ผับที่นี่สู้ที่เมกาไม่ได้หรอกนะเว้ย”ไอ้แทนตะโกนแข่งกับเสียงเพลงดังในผับ ถึงบางประโยคจะได้ยินไม่ค่อยชัด แต่ก็พอจับใจความได้
ผมส่ายหัวให้มัน ทำนองว่าไม่เป็นไร เพราะอย่างน้อยก็ยังดีกว่าอยู่เฉยๆที่คอนโด หรือกลับไปนอนที่บ้านหลายเท่าตัว ผมตามไอ้แทนมาที่ผับนี้เพราะเห็นมันบอกว่ามีปิดผับเลี้ยงส่งเพื่อนคนนึงไปเรียนต่อไฮสคูลที่ต่างประเทศ เรื่องอายุไม่ถึงเกณฑ์เลยไม่ใช่ปัญหา
ไอ้แทนเดินเข้าไปทักทายกับเจ้าของงาน แล้วก็ทักทายคนนู้นคนนี้ไปทั่ว เมื่อเหล้าหมดแก้วทีมันถึงจะกลับมาเติมที่โต๊ะที ส่วนผมก็ได้แต่นั่งเฝ้าโต๊ะเพราะไม่รู้จะไปคุยกับใคร ผมเพิ่งมาไทยได้แค่สัปดาห์เดียวเอง คนอื่นๆก็ยังไม่ทันได้รู้จัก จะให้ไปคุยกับคนอื่นก่อนก็ไม่คุ้นชิน แต่จะให้คนอื่นเข้ามาทักผมก่อนก็ไม่มีใครกล้า ผมหน้าดุ ใครๆก็บอกแบบนั้น
การนั่งดื่มคนเดียวไม่มีใครมาชวนคุยนี่ทำให้ผมดื่มไปเยอะพอสมควร ที่จริงก็พอจะมีผู้หญิงมาละม้ายชายตามองบ้างเหมือนกันแหละ เพียงแต่ผมได้แต่ชูแก้วยิ้มรับไปเท่านั้น เพราะไม่รู้ว่าผู้หญิงในงานนี้เป็นแฟนใครในงานนี้รึเปล่า เพราะไม่งั้นก็ไม่น่าจะมางานเลี้ยงของเด็กโรงเรียนชายล้วนได้ ผมยังไม่อยากมีปัญหาตั้งแต่วันแรกๆหรอกครับ แต่พอนั่งดื่มไปเรื่อยๆสักพักก็ทำให้รู้สึกปวดฉี่ขึ้นมา
ผมเดินตรงมาเข้าห้องน้ำด้านในของผับ ขณะที่ผมกำลังทำธุระอยู่นั้น ก็มีเด็กผู้ชายคนนึงเดินตัวเอียงๆเซๆมายืนฉี่อยู่โถข้างๆกันกับผม ผมไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก จัดการรูดซิปกางเกงแล้วไปล้างมือ แต่ผมก็สังเกตได้ว่าชายคนนั้นยืนก้มหน้านิ่ง นิ่งมาก แถมโงนเงนไปมา เหมือนกับว่ากำลังหลับใน ผมแอบขำนิดๆ ...แต่ก็ต้องตกใจเมื่ออยู่ดีๆเขาก็เงยหน้าพรึ่บ หันมามองหน้าผม!
…!!!
...โอ้ มาย ก็อด!
พอได้เห็นหน้าชัดๆแบบนี้... คนตรงหน้าผมปล่อยฟีโรโมนพุ่งพล่านมากครับ! แก้มแดงเรื่อๆที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ตาปรือๆฉ่ำๆ ไหนจะปากอิ่มนั่นอีก ถึงโดยรวมแล้วจะไม่ได้ดูสวยหวานเหมือนผู้หญิง แถมออกไปทางหล่อแบบตี๋ๆเหมือนผู้ชายที่เป็นลูกคนจีนทั่วไป เพียงแต่มีบางอย่างที่ดึงดูดชวนหลงใหล น่าครอบครอง น่าทะนุถนอมในแบบที่ผู้ชายคนอื่นไม่มี และนั่นมันยิ่งทำให้เขาดูมีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด
ผมรีบหันหน้ากลับมาวักน้ำล้างตัวเองแบบลวกๆ ให้ตายเถอะผมไม่เคยรู้สึกใจเต้นแรงกับผู้ชายแบบนี้มาก่อนเลย ทั้งๆที่อเมริกาค่อนข้างจะเปิดรับทุกเพศทุกวัยอย่างเสรี แต่ผมกลับไม่เคยมองผู้ชายคนไหนแล้วรู้สึกพิศวาสมาก่อน แต่ถ้าถามว่ารังเกียจเกย์ไหม ตอบเลยว่าไม่ เพราะเรื่องแบบนี้มันห้ามกันไม่ได้ ขึ้นอยู่กับความรู้สึกของใครของมัน ...และตอนนี้มันก็เหมือนเป็นตาของผมบ้าง บอกตรงๆเลยว่ารู้สึกหลงไปเต็มๆ!
“ชี่ ชี่~~”
ในขณะที่ผมสะบัดหัวไล่ความคิดแปลกๆอยู่นั้น อยู่ดีๆคนคนนั้นก็เปล่งเสียงประหลาดๆขึ้นมา
....!!!!
ผมหันควับไปมอง เขาที่หลับพริ้ม...เอ็กซ์โคตรรรร พระเจ้า! แต่จู่ๆก็ทำหน้ายู่เหมือนกำลังเบ่งอะไรสักอย่าง พร้อมกับส่งเสียงชี่ๆไปด้วย นึกแล้วก็คุ้นๆเหมือนผมเคยทำแบบนี้ตอนเด็กๆ เด็กมาก น่าจะสมัยอนุบาลได้ บางทีคุณแม่ก็ชอบพูดชี่ๆแบบนี้ในขณะที่ลูก ...ปวดฉี่ ....นี่อย่าบอกนะว่า ...กำลังเบ่งฉี่อยู่ ???
ฮ่าๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆ โอ้ยยยยย ขำครับแต่ส่งเสียงดังมากไม่ได้ ได้แต่หัวเราะอยู่ในลำคอ คือแบบเด็กน้อยไปไหมล่ะ ฮ่าๆๆๆ
“ฮ้าาา~” แหน่ะ พอเสร็จธุระแล้วมีการทำหน้าสบายอารมณ์อีกนะ ..จะฮาไปไหนวะครับ
เอ้อออ... ว่าแต่ผมจะมายืนมองคนฉี่ทำไมเนี่ย โคตรโรคจิตเลยให้ตายเหอะ! สาบานได้ว่าผมไม่เคยทำอะไรบ้าๆแบบนี้มาก่อน บางทีผมควรรีบออกจาห้องน้ำได้แล้ว ..คิดได้ดังนั้นผมจึงหมุนตัวเดินออกมาทันที
หมับ!
แต่ยังไม่ทันจะก้าวพ้นออกไป ก็มีมือนิ่มที่ไหนไม่รู้มาคว้าแขนผมไว้เสียก่อน ซึ่งพอหันไปมองก็ไม่ใช่ใครที่ไหน.... คนที่มีฟีโรโมนแรงกล้าเมื่อกี้นี่แหละ แล้วนี่มาทำตาปรือๆ ปากแดงๆใส่ผมแบบนี้ เกิดผมหน้ามืดจับปล้ำขึ้นมาจะทำยังไง..
“ไปส่งง เอิ้ก..ส่งช้งที่โต๊ะหน่อยยยสิคร้าบบ”To be continued…
มาแล้วนะค่าาตอนพิเศษ หลังจากหายไปนาน
พอดีว่าคนแต่งพึ่งกลับมาจากปฏิบัติธรรม เอาบุญมาฝากทุกคนเลยน้า
ส่วนตอนพิเศษยังไม่จบเพียงแค่นี้ เดี๋ยวมาต่อให้แน่นอน อิอิ
ขอบคุณทุกๆคนที่ติดตามมากๆเลยนะคะ