Chapter 4
.
.
.
“ช้ง! มึงไปเอาจูนเนอร์มาเทียบเสียงที กูว่ามันเพี้ยนๆว่ะ”
“ไอ้ช้ง! ช่วยกูยกกลองหน่อย”
“เห้ยช้ง มึงเห็นสายแจ็คกูป้ะ นี่กูเดินหานานแล้วเนี่ย”
และอีกหลายๆช้งตามมา วันนี้วุ่นวายมากครับ เพราะมีงานคริสมาสต์ของโรงเรียน ไม่เพียงแต่ผมเท่านั้นที่วุ่นวาย คนอื่นๆก็ไม่แพ้กัน วันนี้ผมต้องตื่นแต่เช้าเพื่อมาเตรียมของ พวกเครื่องดนตรีที่จะแสดงตอนบ่ายของวันนี้ ทุกคนเดินกันให้วุ่นไปหมด
หลังจากที่เจอเชี่ยนัทวันนั้น นี่ก็ผ่านมาสองอาทิตย์แล้วครับ และเป็นสองอาทิตย์ที่ผมไม่มีเวลามานั่งคิดมากเรื่องของว่านเลยเพราะต้องจัดเตรียมงานคริสมาสต์ หน้าที่ผมไม่มีอะไรมากเพราะเจ้าภาพงานคริสมาสต์เป็นหน้าที่ของมอหก แต่ผมต้องเตรียมเพลงแสดงบนเวที จึงต้องซ้อมหนักตลอดสองสัปดาห์ ทำให้ผมได้เจอว่านน้อยลง และก็ทำให้ลืมเรื่องที่ไอ้นัทพูดไว้ไปเลย
“ไงตัวแสบ มานั่งหลบมุมอยู่นี่นี่เอง” พอเงยหน้าไปเจอคนทัก ผมแอบชะงักนิดนึง
“เฮ้ยเจ้ มาไมเนี่ย แล้วไหงเดินมาด้วยกันได้?” เจ้ส้มเช้งของผมแต่งตัวมาเต็มมากครับ เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงดิสโก้แพ้นท์สีแดงเลือดหมู ใส่หมวกพร้อมกับเหน็บแว่นกันแดดอันโตมาด้วย เปรี้ยวเข็ดฟันไปอีก แถมเดินมาพร้อมกับไอ้ว่าน คนนึงก็สวยอีกคนก็หล่อ ดูเหมาะสมกันแบบแปลกๆ
“แหมมม เจ้จะมาดูน้องชายเจ้แสดงบ้างไม่ได้หรือไงยะ แล้วนี่เจ้บังเอิญเจอน้องว่านพอดีเลยบอกให้พามาหาแกหน่อย ไม่งั้นคงไม่เจอ โทรมาก็ไม่รับไอ้เด็กคนนี้หนิ!”
สงสัยโทรศัพท์ผมคงจะวางไว้ในกระเป๋าอยู่ในห้องชมรมนั่นแหละครับ เพราะกว่าจะจัดของเสร็จก็เกือบเที่ยงเข้าไปแล้ว ผมกับไอ้ฟลุ๊คเลยตัดสินใจไปซื้อข้าวมากินกันตรงข้างเวทีแทน เพิ่งกินเสร็จ เจ้ก็เข้ามาทักผมนั่นล่ะครับ
“เอาน่า เจ้อย่าบ่นเป็นคนแก่ดิ ดูดิ้หน้าเหี่ยวหมดละน่ะ” พูดจบก็โดนฝ่ามือพิฆาตของเจ้ ให้ได้เจ็บแปล้บๆ
นี่เป็นน้องเป็นนุ่งก็ไม่ยอมออมแรงให้เลยนะ!
ก่อนที่พี่สาวผมจะหันไปสนใจไอ้ฟลุ๊คที่นั่งอยู่ข้างๆผมแทน อีกคนที่เดินมาพร้อมกับพี่สาวผมก็หย่อนตัวนั่งลงที่ว่างข้างๆผม ....
“สู้ๆนะครับช้ง”
“อืม... แล้วนี่วันนี้มึงไม่ต้องทำอะไรเลยเหรอ?”
“...ไม่นี่ครับ”
“กูนึกว่าจะมารุ่นพี่มาทาบทามมึงไปแสดงละครเวทีเสียอีก”
“โธ่ ไม่มีหรอกครับ ใครเขาจะมาเลือกหน้าตาอย่างผมไปแสดงกัน”
หน้าตาอย่างมึงนั่นล่ะเวิร์ค! คงเรียกสาวๆจากโรงเรียนอื่นได้ตรึมเลย.... ติดอยู่ที่มึงมันไม่มีเสน่ห์นั่นแหละ มันถึงไม่เวิร์ค! ไอ้ช้งล่ะปวดเฮด
“ผมว่าช้งไปเตรียมตัวได้แล้วล่ะครับ แสดงบ่ายโมงไม่ใช่เหรอ?”
“เอ้อ! จริงด้วย ...ไอ้ฟลุ๊ค! มึงโทรตามพวกไอ้จามาสิ้ จะบ่ายโมงแล้วเนี่ย”
คนเริ่มทยอยมาจับจองพื้นที่หน้าเวทีกันแล้ว มีทั้งเด็กโรงเรียนผม รวมไปถึงศิษย์เก่า และคนอื่นๆจากนอกโรงเรียนมากหน้าหลายตาเต็มไปหมด จนผมอดตื่นเต้นไม่ได้ พิธีกรชายสองคนที่เป็นพี่มอหกขึ้นไปเกริ่นนำบนเวทีแล้ว วงแรกที่จะขึ้นไปเล่นเป็นเด็กมอต้นที่มีฝีมือใช้ได้ทีเดียว ต่อจากนั้นก็จะเป็นน้องมอสี่ที่แสดงร่วมกับวงดุรยางค์เป็นเพลงแนวสบายๆ แล้วหลังจากนั้นถึงจะเป็นคิวของวงผมซึ่งเป็นตัวแทนมอห้าขึ้นแสดง...
“และแล้วก็แสดงจบไปอีกวงนะครับผม ไม่น่าเชื่อว่าจะนำเอาเครื่องเป่ามาเล่นรวมกับเครื่องดนตรีแนวสตริงได้อย่างลงตัวขนาดนี้” พิธีกรประกาศ ...ในขณะที่ผมลองเทสเสียงเบส โอ้ยตื่นเต้นครับ คิวต่อไปแล้ววว
“คงต้องยกความดีให้กับหัวหน้าวงโยธวาทิตเขาละครับพี่กัน”
“จริงด้วยครับ ...เอ้า วงต่อไปขึ้นมาแสตนบายแล้ว แอบกระซิบว่านักร้องนำวงนี้หล่อมาก แต่น้อยกว่าผมนิดนึงนะ ฮ่าๆๆๆ”
“ฮ่าๆๆ กล้าพูดนะครับคุณ ...งั้นอย่าเสียเวลากันเลยดีกว่า ขอเชิญพบกับวงอดัมมม!!!”
พอสิ้นเสียงพิธีกร เสียงกรี้ดก็ดังกระหึ่มทันทีครับ แต่คงไม่ใช่เสียงเด็กโรงเรียนผมแน่นอน ย้ำอีกทีว่าโรงเรียนผมเป็นโรงเรียนชายล้วนครับ แต่ก็ไม่แปลกใจเพราะงานนี้เป็นงานเปิด ใครก็สามารถมาได้ จึงไม่แปลกที่มีผู้หญิงเยอะพอสมควร ...ก็ขนาดเจ้ส้มเช้งพี่สาวผมยังมาเลย - -
จริงๆแล้ววงผมนี่หน้าม้าค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว ฮ่าๆๆ ก็ไอ้นินจานอกจากจะเป็นหัวหน้าวงผมแล้ว มันยังเป็นหัวหน้าชมรมดนตรีอีกด้วย ทำให้พวกเด็กดุริยางค์ถือเครื่องดนตรีกระโดดย๋องแย๋งอยู่หน้าเวทีให้เพรียบ ไหนจะไอ้บอสมือกีต้าร์ที่รู้จักคนไปทั่วโรงเรียน จนลามไปถึงโรงเรียนหญิงล้วนละแวกนี้ด้วย แต่เด็ดสุดคงจะเป็นไอ้แทนนี่แหละ หล่อแย่งซีนสุดๆ แค่มันยืนยิ้มโยกตัวหน่อยๆก็เรียกเสียงกรี้ดได้แล้ว แต่พอตอนมันอ้าปากโชว์พลังเสียงเท่านั้นแหละหล่อปรอทแตกไปอีกก มีเสน่ห์ชวนหลงใหลสุดๆ!(อิจฉา) ....ส่วนผมกับไอ้ฟลุ๊ค ส่วนใหญ่มีแต่เพื่อนๆนั่นแหละที่มาดู แบบว่าแห่กันมาทั้งห้อง แต่ไม่มีอะไรน่าสนใจ ...ก็มีแต่ผู้ชายนี่ครับ เพราะงั้นกระผมขอข้ามการบรรยายจุดนี้.
ตกลงวงผมได้เล่นทั้งหมดแปดเพลงครับ หลังจากนั้นก็จะคืนเวลาทีให้กับพี่ๆมอหก ซึ่งแปดเพลงนั้นเป็นแนวร็อคทั้งหมด ทั้งเพลงไทยและสากล...
จนตอนนี้เล่นมาได้ถึงเพลงที่ห้าแล้วครับ ผมยังไม่รู้สึกเหนื่อยเลย อาจเป็นเพราะเวลามองลงไปข้างล่างเวทีจะเห็นคนที่มาดูคอนเสิร์ตหลายๆคนกระโดดไปพร้อมๆกับจังหวะเพลง ทำให้รู้ว่าพวกเขาสนุกไปพร้อมกับเรา ก็ทำให้ผมหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง มีแรงโยกต่ออีกเป็นสิบๆเพลงเลยเอ้า!
แล้วนั่น ...พี่สาวผมจะเต้นแรงไปไหม! หัวเหอฟูหมดละ.. แล้วดูทำ! มากอดคอไอ้ว่านเต้นอีก ใกล้ชิดเกินไปแล้วว ...ฮึ เห็นว่าเป็นพี่สาวผมหรอกนะถึงยอมหยวนให้อ่ะ ถ้าเป็นหญิงอื่นนี่ปรี้ดนะบอกเลย!.. แล้วนี่อีกคน ยืนเฉยไม่หวงเนื้อหวงตัวเลยยย ขนาดผมเป็นแฟนยังไม่เคยเลยนะ! ..นั่นๆ ยังไม่รู้ตัว มาส่งยิ้มหวานให้อีกนะ น่าหมั่นไส้ที่สุดเลยครับผม!
จนแล้วจนรอด ผมก็เล่นมาถึงเพลงสุดท้ายแล้วครับ พวกผมตกลงกันว่าจะเล่นเพลงมันๆตั้งแต่เพลงแรกยันเพลงสุดท้าย ไม่มีเพลงช้าคั่นสักเพลงเดียว สงสารก็แต่ไอ้แทน ไม่มีเวลาให้มันได้พักหายใจ สมน้ำหน้า! ฮ่าๆๆ และเพลงสุดท้ายที่เลือกมานี้ก็คือ เพลงจันทร์เจ้า ของSlot machine
“มาถึงเพลงสุดท้ายกันแล้วนะครับผมมม ไหน ขอเสียงชาวร็อคหน่อยย!”
“เฮ้!!!” ไอ้แทนยิ้มกว้างชูนิ้วโป้ง ก่อนจะขึ้นท่อนร้อง...
“
วันที่เรานั้นเคยเอ่ยคำร่ำลา เป็นคำสัญญาย้ำเตือนความทรงจำ
ว่าความเป็นจริงแม้ทุกสิ่งเวียนหมุนไป ข้างในหัวใจเหลือเพียงรักนิรันดร์
ก็เพราะเวลาไม่อาจจะคืนย้อนมา แค่ปล่อยให้ลมพัดพาไปฉากสุดท้าย
ในวันไหนที่ใจของเธออ่อนแรงล้า จันทร์เจ้าขาฉันวอนข้อความฝากบอกเธอ
ก่อนหลับฝันให้มองพระจันทร์ ดูดดื่มความสัมพันธ์ ที่ส่องกระทบเธอ
I say goodbye
อาจมีบางคราวแสงมาบดบังสายตา ทำคำสัญญาเหลือเพียงความมืดดำ
แต่ในราตรีนี้จะกลับมาเหมือนเดิม แววตาของเธอเติมให้รักงดงาม
ร้องบรรเลง เสียงเพลงเทาๆ ท่ามกลางหมู่ดาวร้อยเรื่องราวนับพัน
วันเดือนปีจะคอยมองดู จันทร์กระจ่างจะคอยเคียงคู่ ส่องลงมาเพื่อคอยเฝ้าดู ให้รักกลายเป็นศรัทธา
ในวันไหนที่ใจของเธออ่อนแรงล้า จันทร์เจ้าขาฉันวอนข้อความฝากบอกเธอ
ก่อนหลับฝันให้มองพระจันทร์ ดูดดื่มความสัมพันธ์ ที่ส่องกระทบเธอ
I say goodbye… “
เพลงนี้นอกจากจะมันส์แล้วยังพิเศษตรงที่ผมได้เล่นโซโล่เบสด้วยครับ ก็คือท่อนนี้นี่แหละ ถึงเป็นแค่ท่อนสั้นๆแต่ก็เรียกเสียงกรี้ดได้เหมือนกันนะครับ!! ขอพื้นที่อวดหน่อย! ฮ่าๆๆ
“ I say goodbye …I say goodbye …I say goodbye ……I say goodbye”****
หลังจากที่แสดงเสร็จแล้ว ก็ต้องส่งเวทีให้แก่วงของมอหกต่อ แล้วหลังจากนั้นก็จะเป็นคอนเสิร์ตของศิลปินที่ทางโรงเรียนผมได้จ้างมาขึ้นแสดง ซึ่งของแบบนี้ คนรักดนตรีแบบผมไม่มีทางพลาดอยู่แล้ว ...แต่เมื่อกี้นี้ผมยังปริ่มไม่หายเลยให้ตายสิ ไม่คิดว่าจะได้ความร่วมมือและเสียงตอบรับเกินคาดขนาดนี้ ><
“อร้ายย เมื่อกี้แกเจ๋งสุดๆไปเลยน้องชาย เจ้นี่กรี้ดจนเสียงแหบไปหมดละ ไม่คิดเลยนะว่าน้องเจ้จะมีมุมเท่ห์ๆแบบนี้ด้วย”มาถึงก็ขยี้หัวผมเลยครับ โอ้ยหมดหล่อพอดี!
“แน่สิเจ้เช้ง ให้มันรู้ซะมั่ง ฝีมือน่ะฝีมือ”ได้ทีก็ขออวดหน่อยเถอะ อย่ามาเบะปากใส่ช้งนะเจ้
“หืมม ได้โชว์หน่อยเดียวทำเป็นโม้”ขัดตลอดแบบนี้... เดาถูกครับ ไอ้ฟลุ๊คคนเดิม!
“ยุ่งน่า.. เอ้อเจ้ แล้วไอ้ว่านไปไหนแล้วล่ะ?”ผมมุ่ยหน้าใส่ไอ้ฟลุ้ค ก่อนจะหันไปถามเจ้
“อ๋ออ เห็นมีเพื่อนเดินมาทัก แล้วเขาก็ขอตัวไปคุยกับเพื่อนที่อื่นก่อน เพราะตรงนี้เสียงมันดัง”
...นอกจากไอ้แทนแล้ว ว่านมันมีเพื่อนคนอื่นด้วยเหรอ?...
“เพื่อนผู้ชายหรือผู้หญิงอ่ะเจ้?”
“ผู้ชายสิยะ ถ้าเป็นผู้หญิงเจ้ไม่ให้ไปคุยกันสองต่อสองในตอนที่น้องชายเจ้ไม่อยู่ด้วยหรอก...”
“^^”รักเจ้เช้งจัง
“แต่จะว่าไปเหมือนเจ้เคยเห็นหน้าที่ไหนมาก่อนนะ... รู้สึกว่าจะไม่ใช่โรงเรียนเรา”
ใครวะทีนี้ ยากละ...
“งั้นผมไปตามหามันก่อนดีกว่า มันไปทางไหนวะเจ้”
“เห็นเดินไปทางหน้าโรงเรียนอ่ะ น่าจะใช่นะ เจ้ไม่แน่ใจ”
“โอเคๆ ...ไอ้ฟลุ๊คฝากเจ้กูด้วยเดี๋ยวกูมา”
“เออๆ ไปตามหาผัวมึงเถอะ”ไอ้ฟลุ๊ค ไอ้กวนตีน ผมสะบัดนิ้วกลางใส่มันก่อนจะเดินตรงไปทางหน้าโรงเรียน
เอ... ไม่เห็นมีใครเลยนี่หว่า มีซุ้มขายอาหารอยู่ประปราย แต่คนก็ไม่ค่อยมีนะ เพราะส่วนใหญ่ไปออกันอยู่ที่เวทีคอนเสิร์ตกันหมด ...แล้วไหนไอ้ว่านวะ นี่กูจะเดินออกนอกโรงเรียนแล้วนะเนี่ย หายหัวไปไหน! …ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ลองแว้บออกไปนอกโรงเรียนหน่อยแล้วกัน เผื่อมันจะออกไปคุยกันในร้านกาแฟแถวนี้
ผมเดินชะโงกมองในร้านทุกร้านละแวกนี้ ตั้งแต่ร้านกาแฟจนร้านข้าวแกง ก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา ...ที่ผมมาเดินหามันนี่เพราะความเสือกล้วนๆเลย อยากรู้ว่าเพื่อนมันจะเป็นคนแบบไหน... แต่ตอนนี้ถอดใจแล้วครับ บางทีมันอาจจะไม่ได้ออกมาข้างนอก เผลอๆอาจจะยังอยู่ในโรงเรียนนั่นแหละ ผมว่าผมกลับไปหามันในโรงเรียนต่อดีกว่า บางทีเจ้อาจจะมั่ว สรุปมันเดินไปหลังโรงเรียนอะไรอย่างนี้
....แต่ขณะที่ผมกำลังเดินย้อนกลับไปโรงเรียน ก็ได้ยินเหมือนเสียงคนคุยกันมาจากซอกเล็กๆที่ผมเพิ่งเดินผ่าน เสียงแรกผมคลับคล้ายคลับครา คุ้นๆว่าเหมือนจะเป็นเสียงไอ้เชี่ยนัท โรงเรียนมันก็อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนผมเท่าไหร่ ถ้ามันจะมาแถวนี้ก็คงไม่แปลก และถ้าเป็นเสียงมันจริงๆ ผมคงต้องเร่งฝีเท้าแล้วล่ะ
“ยังไม่เข็ดอีกเหรอ”
กึก....
แต่เสียงที่สองทำเอาผมที่กำลังจะเร่งฝีเท้าต้องหยุดชะงักกึก เสียงมันเบามาก เพราะผมเดินออกมาห่างแล้ว แต่ถึงเบายังไงผมก็จำเสียงนี้ได้ ผมมั่นใจ ...ว่าเป็นเสียงแฟนผม!
ผมรีบถอยหลังกลับไปตรงซอกนั้นใหม่ และเกือบจะเดินอกผายไหล่ผึ่งเข้าไปแล้ว ถ้าไม่ติดที่ไอ้เชี่ยนัทมันพูดประโยคต่อไป บางทีผมควรแอบดูลาดเลาก่อน... ว่าแต่ แบบนี้มันไม่เรียกว่าเพื่อนกันแล้วเจ้!
“หึ กูฝากสุดที่รักกูมาบอกมึงแล้วไง ว่าวันนี้กูจะมาเอาคืนมึงน่ะไอ้ว่าน!”
ชิบหาย! ลืมเรื่องนี้ไปเลย ทั้งๆที่ตอนนั้นสงสัยแทบตาย!
ผมย่อตัวแอบดูพวกมันอยู่ตรงมุมอับ เห็นไอ้นัทยืนอยู่กับพวกมันอีกสองคนที่ยืนขนาบข้าง ส่วนไอ้ว่านยืนอยู่คนเดียว อย่างนี้มันหมาหมู่นี่หว่า แม่งไม่แฟร์.... ไอ้ว่านมันขมวดคิ้วนิดหน่อย สงสัยคงงงว่าผมกับไอ้นัทไปเจอกันตอนไหน แต่อย่าพึ่งไปโฟร์กัสจุดนั้น กูไม่นอกใจมึงโดยการไปคบชู้เป็นไอ้นัทแน่นอนนะว่าน แต่มึงช่วยแก้ข้อสงสัยกูก่อนดีกว่าว่าทำไมไอ้เชี่ยนัทมันถึงดูแค้นมึงขนาดนี้ ไอ้ช้งล่ะงง!
“มึงจะเอาไงก็ว่ามา”ไอ้ว่านทำหน้าเบื่อหน่าย ..แต่โอ้ก็อดดด ไม่เคยเห็นมุมนี้ของมันเลยครับ!
“ก็เอาคืนมึงจากคราวที่แล้ว ที่มึงเล่นกูซะน่วมเพราะกูไปมอมเหล้าช้งไงไอ้สัด!”
ห้ะ! เรื่องนั้นมันนานแล้วนี่หน่า ก่อนที่ผมจะคบกับไอ้ว่านด้วยซ้ำ ผมจำได้ว่าวันนั้นเป็นตอนที่เพิ่งขึ้นมอสี่ใหม่ๆ และผมก็ไปเลี้ยงฉลองส่งเพื่อนในห้องที่ไปเรียนต่อต่างประเทศกันที่ผับ ซึ่งตอนนั้นเพื่อนที่ไปผับก็ไม่ได้มีแค่ห้องผมเท่านั้น แต่ก็มีคนอื่นๆที่รู้จักกันไปเยอะพอสมควร และบังเอิญที่ไอ้นัทมันรู้จักกับเพื่อนผม มันเลยเนียนมานั่งโต๊ะเดียวกันกับผม และคอยชงเหล้าให้ ไอ้ตัวผมก็ไม่ได้เอะใจอะไร อาจจะเพราะวันนั้นมันไม่ค่อยมายุ่มย่ามผมด้วย วันนั้นเลยดื่มไปเยอะพอสมควร จนมาได้สติอีกทีก็ตอนเช้าผมนอนอยู่ที่บ้านไอ้ฟลุ๊ค มันเล่าให้ฟังว่าผมโดนเชี่ยนัทมอมเหล้า แต่ก็ไม่ได้เล่าอะไรต่อ... ถึงได้ไม่รู้ไง! ว่าวันนั้นว่านมันไปด้วย?! แถมไอ้ว่านเนี่ยนะที่เล่นไอ้นัทซะน่วม?!!!! ว้อททท...?
“...ไม่ใช่เพราะมอมเหล้าอย่างเดียว แต่เพราะมึงจะปล้ำช้งต่างหาก”ว่านมันพูดเสียงนิ่งๆ แต่หน้านี่โหดมากกกก โอ้วว! ใครจะปล้ำผม ผมไม่สนใจละตอนนี้ ...ผมสนใจแต่ว่าน แฟนผมแม่งโคตรเท่ห์เลยว่ะครับ! ทำไมนะทำไม ผมไม่เคยเห็นมุมนี้เลย!
“ยังไงก็เหอะ มึงมันมารผจญความรักกู! ตอนนี้กูไม่ได้อ่อนแอเหมือนครั้งแรกที่กูเจอมึงแล้ว วันนี้แหละกูจะกระทืบมึงให้สะใจ”ไอ้นัทมันกระชากคอเสื้อว่าน แล้วตะคอกใส่หน้า
“วิธีหมาหมู่แบบนี้น่ะเหรอ?”ว่านมันปรายตามองไอ้สองคนที่ขนาบข้างนัทอยู่
“ได้ ตัวต่อตัว กูมั่นใจว่ากูจะชนะมึง!”ไอ้นัทมันพยักหน้าเหมือนให้สองคนนั้นออกมาดูต้นทาง
ชิบหายละ! กูควรเดินหนีออกจากตรงนี้ไปก่อนรึเปล่า หรือว่าควรเข้าไปห้าม เอาไงดีล่ะ คิดสิคิดๆๆๆ ถ้าเข้าไปห้ามยังไงไอ้นัทก็คงไม่หยุด แต่ถ้าไม่เข้าไปช่วยแล้วไอ้ว่านมันจะสู้ไหวเหรอ โอ้ยยย ไอ้สองคนนั้นมันเดินออกมาแล้ววว... สรุปผมเลยรีบวิ่งไปตรงร้านน้ำที่อยู่ใกล้ๆ แกล้งทำเป็นสั่งชานมไข่มุก เหลือบไปเห็นมันยืนคุยกันอยู่ แต่ผมไม่กล้าหันไปมาก กลัวมันเกิดรู้จักผมขึ้นมาจะยุ่งเอา
จนผ่านไปแล้วสิบนาทีก็ยังไม่มีใครออกมา แต่สักพักไอ้สองคนนั้นก็เดินกลับเข้าไปในซอกใหม่ ผมเลยย่องตามไปดู...
...โอ้โห ไอ้นัทนอนเดี้ยงสภาพดูไม่ได้เลยครับ แต่ไอ้ว่านนี่ผมไม่เห็นว่าหน้ามันจะเละไปรึยังเพราะมันยืนหันหลังอยู่ แต่ดูไอ้สองลูกสมุนของไอ้นัทจะโกรธมากครับ ...เอ๊ะ หรือบางทีอาจจะเป็นเพื่อนไอ้นัท เพราะถ้ามีคนมาทำไอ้ฟลุ๊คจนเละเหมือนสภาพไอ้นัทตอนนี้ ผมก็คงไม่ยอมเหมือนกัน
“ไอ้เหี้ยมึงทำเพื่อนกู!!”....แต่เพื่อนมึงเริ่มก่อนนะ - -
ผลั้วะ!!
เห้ยสองรุมหนึ่งแบบนี้มันไม่แฟร์! ผมทนอยุ่เฉยไม่ได้แล้วครับตอนนี้ เอาก็เอาวะ! ถึงผมจะไม่เก่งเรื่องชกต่อย แต่ของแบบนี้คงต้องใช้สันตชาตญาณของลูกผู้ชายล้วนๆละ!
พลั่กก!
ผมกระโดดถีบไปที่กลางหลังของไอ้คนที่ล็อกแขนว่านของผมเอาไว้ ...เอาสิ ตีนกูก็หนักเหมือนกันนะเว้ยย
“ช้ง! มาได้ไงครับ” ในขณะที่ว่านหันมาสนใจผม ก็โดนพวกนั้นเล่นทีเผลอ โอ้ยยต่อยเข้ามุมเดิม ผมเห็นแล้วซี้ดแทน
“อย่าเพิ่งสนใจกูได้ไหมเล่า!”
ผมรีบไปกระชากหลังคอเสื้อไอ้คนนั้น แล้วที่เหลือว่านก็เป็นคนจัดการทั้งหมด... และก็เป็นเรื่องใหม่ที่ผมเพิ่งรู้เกี่ยวกับตัวว่านอีกอย่างนึง ก็คือมันต่อสู้เก่งมากกกก! เมื่อกี้นี้ผมแทบไม่ได้ทำอะไรเลย
…ตายละ ถ้าเกิดมันรู้ว่าผมคิดเบื่อมัน มันจะยำตีนผมเละไหมเนี่ยยย ...To be continued…
*****
หลายคนเดาทางน้องว่านออกนะคะ นางแอบแซ่บ
คนแต่งเลยขอแปะอิมเมจน้องว่านเรียกแม่ยกกันสักหน่อย
image ว่าน
อิมเมจน้องว่านที่คนเขียนตั้งไว้จะประมาณนี้อ่ะค่ะ TOP bigbang คือหล่อแล้วตาดุๆ
ไม่รู้จะถูกใจกันรึเปล่า คือพยายามให้ตัดกับคาแรกเตอร์ติ๋มๆที่ช้งบอกว่าขัด ในตอนแรกๆน่ะค่ะ
คุณ ให้ตายสิพับผ่า ,B52 ,snowboxs ,heroza ,nevergoodbye ,
GETIIZ ,MESAAAAA ,IsDeer ,yowyow ,mukmaoY ,Moose ,Satanza321
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ