6

พี่พอร์ชช้อนตัวผมขึ้น ผมก้มหน้าซุกไหล่พี่มันหลบสายตาคนนับสิบที่วิ่งมาดูเหตุการณ์ ทีกูตะโกนเรียกให้ช่วยตั้งแต่ทีแรกก็เสือกไม่มานะพวกมึง ไอ้ค๊อกกับอิก้องจะตามมาด้วยแต่พี่เติร์กที่มาพร้อมกับพี่พอร์ชห้ามไว้ก่อนที่เขาทั้งสองจะพาผมไปที่คอนโดของพี่พอร์ช
เหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาไม่นานทำให้ผมขวัญเสียไม่น้อย แต่พอได้เห็นหน้าไอ้คนเหี้ยที่มาช่วยผมแล้วกลับรู้สึกปลอดภัยขึ้นมา หัวใจที่เต้นรัวด้วยความกลัวกลับมาเต้นเนิบช้าเป็นปกติ แต่จะเต้นแรงขึ้นเพราะพี่มันคอยกอดคอยประคองไว้ไม่ห่างเนี้ยแหละ T///T
“ไหนๆๆ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
“พี่เพรท...? หวัดดีครับ”
“ครับๆ”
“น้องมันโดนซัดมา ต้องผ่าตัดดูหรือเปล่า”
“ผ่าตงผ่าตัดอะไร นี่พึ่งจะปีสาม = =”
“มีแฟนเป็นหมอแล้วประสาท ขี้อวด” พี่พอร์ชว่าพี่เติร์กเข้าให้
แต่พี่เพรทกับพี่เติร์กเขาเป็นแฟนกันตั้งแต่เมื่อไหร่ เท่าที่ผมจำความได้พวกเขาเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอครับ แล้วพี่เติร์กใส่เสื้อช๊อปคืออะไร พี่มันเรียนวิศวะแต่ทำไมผมไม่เคยเห็นหน้าอ่ะ
“ทำหน้าเป็นหมางงคือไร”
“พี่เติร์ก...?”
“มันเรียนวิศวะแหละ แต่คนละภาคกับเรา โอเคป้ะ ส่วนที่ไม่ค่อยเห็นหน้ามันเพราะวันๆแม่งเอาแต่เฝ้าเมียจนเขาคิดว่ามันเรียนแพทย์กันหมดละ ไม่เคยหรอกกับเพื่อนกับฝูงเนี้ย โอ๊ย ไอ้สัสสสสส”
พี่พอร์ชยกขาหลบกล่องทิชชู่ที่พี่เติร์กปามาใส่ ส่วนพี่เพรทก็แกะกล่องปฐมพยาบาลมาจัดการแผลที่มุมปากแล้วทายาที่ท้องให้ด้วย โดยมีไอ้พี่พอร์ชประกบอยู่ไม่ห่าง = =;;
ตอนแรกพี่มันไม่ยอมให้พี่เพรททาให้เพราะมันจะทาเองแต่ผมกลัวว่ามันจะทำให้ผมช้ำกว่าเดิมอ่ะดิ พี่มันเลยยอมให้แกะกระดุมเสื้อตรงพุงออกเม็ดเดียวเพื่อทายา = = ส่วนสภาพพี่พอร์ชไม่มีบาดแผลอะไรเลย เลือดที่ติดตามตัวมันก็เป็นของไอ้พวกสวะนั่น
“ปล่อยก่อนดิ ร้อนนะ”
ผมดิ้นอย่างอึดอัด ก็มันกอดเอวแล้วเอาคางมาเกยอยู่ที่ไหล่บ่นอะไรงึมงำของพี่มันอยู่ได้
“มึงเงียบเลย มึงไม่รู้หรอกกูรู้สึกยังไง...”
อะไร รู้สึกอะไรของมึ๊งงงงงงง
พี่พอร์ชจับมือผมไปวางแหมะอยู่ที่หน้าอกมัน อะไรของมันว่ะ นมไม่นุ่มกูไม่ปลื้มนะเฮ้ย โอเค ผมเป็นเกย์... แต่ผมยังชอบผู้หญิงน่า ของสวยๆงามๆ ได้ครอบครองแล้วมีความสุขจะตาย คิดแล้วเกลียดไอ้พี่พอร์ชว่ะ แม่งทำผมเป็นงี้ ไม่สงสารพ่อแม่กูเลย = =
“มึงไม่รู้หรอกว่ากูกลัวแค่ไหน ใจกูเต้นแรงอย่างกับจะตายตอนที่เห็นว่าเป็นมึงที่กำลังถูกไอ้พวกนั้นลากน่ะ”
“พอร์ช เราคิดว่าคนจะตายหัวใจต้องเต้นอ่อนๆจนถึงหยุดเต้นนะ ลองไปวัด EKG ดูมั้ยเผื่อเป็นอะไรไป” พี่เพรทตะโกนออกมาจากในครัวที่อยู่ไม่ไกลจากโซนนั่งเล่นมากนัก
“เงียบไปเลยหมอ = =”
“ง่ะ ก็มันจริงนี่ คนเขาเป็นห่วงนะนี่...”
“เพรท เราขอ จบคลาสเรื่องหัวใจแต่เพียงเท่านี้ นี่ก็หัวเราะจั๊งงงง เออดี หมดซึ้งเลย หมด!”
ไอ้พี่พอร์ชโวยวายอย่างหงุดหงิด ก็ที่ผมจับหัวใจมันอยู่มันก็ยังเต้นปกตินี่หว่า มันเต้นเร็วตรงไหนวะ ถ้ามึงอยากจะสวีททำไมมึงไม่พูดกับกูตอนอยู่ในเหตุการณ์อ่ะ เพิ่งรอดตายมาหยกๆตอนนั้นผมอาจจะมีอารมณ์ร่วมด้วยก็ได้นะ ฮ่าๆๆ
แต่ก็น่าแปลกที่ผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมาไม่ถึงชั่วโมงแต่พวกพี่เขาทำให้ผมหัวเราะได้...
“กินข้าวก่อนแล้วจะได้กินยาครับ”
“ขอบคุณครับพี่เพรท”
ความรู้สึกตอนนี้กับเมื่อกี้มันช่างต่างกันมากเลย ผมรู้สึกปลอดภัยท่ามกลางเหล่าพี่ๆผู้ใจดี พวกเขาเคยดีกับผมยังไงก็ดียังงั้น ตอนแรกผมไม่อยากเจอใครเลยเพราะผมเลิกกับไอ้พี่พอร์ชไงกลัวพี่เขาจะไม่ชอบหน้าอย่างงี้
“ไม่เอา”
“เร็วๆดิวะจัส”
“ไม่...”
“อ้าปาก”
อบอุ่นมากกกกก อบอุ่นจนร้อนเลยยยยยยยย
“พี่พอร์ช กูโดยตุ่ยท้องครับ ไม่ได้โดนรถทับแขน กูกินเองได้ครับ = =”
“จะป้อน!”
“จะกินเอง!”
“เออ!”
โยนช้อนส้อมใส่จานเสียงดังเคร้งเลย คนพาลว่ะ!
ผมเลยหยิบมาโซ้ยเองเลย ถึงจะเป็นข้าวผัดง่ายๆแต่อร่อยมาเลยครับ พี่เพรททำกับข้าวอร่อยจัง ผมกินจนเกลี้ยงจานไม่ให้เหลือข้าวสักเม็ด โดยมีไอ้ตัวจุ้นนั่งดูทีวีอยู่ข้างๆมือนึงของพี่มันคล้องเอวผมไว้ไม่ปล่อย
“จะไปไหน”
“เอาจานไปเก็บ”
พี่มันก็ลุกตามมาทั้งๆที่ยังกอดเอวผมอย่างนั้นแหละ
“อะไรวะ กูคิดว่ากูชักจะไม่ปลอดภัยขึ้นมาละ”
“กูไม่ได้จะทำไรมึงเลยจัส”
จิ๊! พี่เพรทต้มข้าวต้มเป็นอาหารเช้าให้พี่เติร์กส่วนตัวเองก็นั่งกินข้าวผัดคุยกันงุ้งงิ้งอยู่ในห้องครัว พอพี่เพรทเห็นผมเดินถือจานเข้ามาเขาก็รีบมารับไปล้างเองเลยแหละ ผมก็เกรงใจแต่พี่เขายืนยันจะทำให้ผมก็เลยต้องยอม
“ไอ้พอร์ช มึงนี่เยอะนะ”
พี่เขาคงหมั่นไส้ไอ้พี่พอร์ชที่เกาะผมไม่ปล่อยเนี้ยแหละ
“ลองเป็นเพรทมั้ย ให้เพรทไปโดนไอ้พวกนั้นรุมมั้ย”
“ไอ้พอร์ช!”
“มึงยังทนไม่ได้แล้วกูล่ะ...”
ผมอึ้งไปเลย ผมว่าผมควรจะเป็นคนที่กลัวเรื่องนี้มากที่สุดแต่ทำไมกลายเป็นพี่พอร์ชไปได้ล่ะ T_T พี่พอร์ชรัดเอวผมแน่นขึ้นจนผมต้องท้วงด้วยความเจ็บ มือมึงโดยรอยช้ำที่ท้องกู!
“พอๆๆ พอร์ชพาน้องไปอาบน้ำแล้วทายานี่...” พี่เพรทชี้ไปทางกล่องยา “...ให้น้อง แล้วให้น้องนอนพัก เราจะทำข้าวกลางวันไว้ให้ตื่นกันมาแล้วก็อุ่นกิน โอเค๊? เติร์ก...”
“ยังไม่อิ่ม”
“ยกไปกินที่ห้องเรา”
“ขี้เกียจเดิน”
“เติร์ก!”
พี่เพรทเรียกเสียงเข้ม ดูก็รู้ว่าพี่เติร์กอยากแกล้งไอ้พี่พอร์ช ผมก็อยากให้พี่เขาอยู่ด้วยนะ ดูเอาเหอะ อยู่กันสองต่อสองอีกแล้ว ก็คงไม่พ้นต้องเปลืองตัว...
“ก็ได้ๆๆ ถือไปให้ด้วย”
“เด็กไม่รู้จักโต”
พี่เพรทบ่นพึมพำแต่ก็ยอมถือถ้วยข้าวต้มไปให้พี่เติร์ก ส่วนคนตัวสูงก็พาดแขนไว้ที่ไหล่เล็กเดินออกห้องไปสบายๆ อยากได้พี่เพรทจะผิดมั้ย *3*
ผมเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวในห้องนอนแล้วใส่ชุดเสื้อยืดย้วยๆที่ไอ้พี่พอร์ชบอกว่าตัวเล็กที่สุดในห้องของมันกับกางเกงบ๊อกเซอร์ของมันที่ผมโคตรยี้เลย = = ไม่ใช่ว่ามันขาดหรือสกปรก แต่มันคือกางเกงของคนอื่นอ่ะ...
“กินข้าวมาเกือบ...” ออกห้องมาเจอพี่มันนอนรออยู่บนเตียง ร่างสูงยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา “...เกือบครึ่งชั่วโมงตามที่เพรทบอกละ มากินยาได้”
“วางไว้นั่นแหละ เดี๋ยวกินเอง”
“มากินให้เห็นต่อหน้า”
“จะสั่งอีกนานมั้ย ถอดวิญญาณพี่ว๊ากออกก่อนได้ป้ะ”
“ไม่ได้ว้าก แต่เป็นห่วง ช่วยทำให้กูสบายใจก่อนไปเรียนได้ป้ะ”
-////- ผมเลยเดินไปกินให้มันเห็นทุกขั้นตอนซะเลย พอกินเสร็จมันก็ดึงผมไปนอนกอดซะงั้นแต่ที่น่ากลัวคือผมยอมนอนนิ่งๆให้มันกอดเนี้ยแหละ ก็ไม่รู้สิ... ตอนภาวะฉุกเฉินนั่นผมคิดว่าผมจะขอมันคืนดี คิดสารพัด พอเอาเข้าจริงๆใครมันจะไปกล้าทำเล่า เลยได้แต่เก้ๆกังๆเนี้ย
“ให้กูดูแลตลอดได้มั้ยจัส”
....
“ไม่อยากให้เป็นแบบนี้อีก ไม่อยากเสียไปอีกแล้ว หลายปีที่ผ่านมากูคิดถึงมึงตลอด กูเสียใจเสมอที่จะต้องคิดว่าชาตินี้อาจจะไม่ต้องเจอมึงอีก”
“ก็มึงไม่ง้อกูนี่” ผมพูดเสียงอ้อมแอ้มแต่ใจนี่อ่อนยวบ
“ช่วงนั้นกูยุ่ง กูเตรียมตัวสอบเข้า มึงก็รู้ว่ามันยากแค่ไหน ครั้งเดียวในชีวิตกูก็อยากจะทุ่มเท กูพลาดโควต้าเลยต้องรอสอบอีกรอบ กว่าจะสอบติดมึงก็หายไปแล้ว”
ผมอึ้งไปที่มันพลาดโควตา มหาวิทยาลัยนี้จะให้โควต้าเฉพาะสี่โรงเรียนละแวกใกล้ๆถ้าพลาดไปก็ต้องไปแข่งกับคนทั้งประเทศ คือนักเรียนโรงเรียนผมร้อยละเจ็ดสิบสอบติดมหาลัยนี้ด้วยโควตา ใครพลาดคือสิ้นหวังเลยล่ะ แล้วอีกอย่างถ้าติดโควตาแล้วก็แค่ไปหายใจทิ้งเล่นๆที่โรงเรียนเกือบครึ่งเทอมเลยครับ แต่พี่พอร์ช...
“ขอโทษ เป็นเพราะกูหรือเปล่า”
“กูยอมรับว่ากูก็ไม่เป็นคนเหมือนกันตอนที่เลิกกับมึง แต่กูไม่ได้โทษมึงเลยและมึงก็อย่าโทษตัวเอง”
“...”
“กลับมาได้มั้ย”
“...”
“กลับมารักกันได้มั้ย”
“สองปีที่ผ่านมา กูคิดว่ากูจะไม่ได้เจอมึงแล้วพี่พอร์ช กูเลยทิ้งทุกอย่าง ความรู้สึกมันเลือนรางเกินไป พอมาเจอกันอีกทีมึงก็ปี้ผู้หญิง เยดผู้ชายคนอื่น จะให้กูทำไง”
“ก็กูจะรู้มั้ยว่ากูจะเจอมึงอีก ถ้ากูไม่ได้เจอมึงกูต้องถือพรหมจรรย์ตลอดชีวิตเหรอ”
“กะ... ก็ไม่ได้ขนาดนั้นสักหน่อย อ้อ ไอ้พวกเหี้ยมันบอกว่าไอ้แบงค์เมียมึงเป็นคนบอกพวกมันว่ามึงมาชอบกู แล้วก็บอกว่ามึงไปแย่งเมียพวกมัน”
“กูจะไปรู้เหรอว่าเขามีผัวแล้ว ส่วนเรื่องไอ้แบงค์ ไม่จำเป็นต้องเป็นมันใครๆก็รู้ว่ามึงอ่ะเด็กกู”
“เห้ย รู้ได้ไง”
“ระดับนี้แล้ว”
“จิ๊”
“มึงเคยตะโกนกลางร้านเหล้าว่ามึงชอบผู้ชาย...”
“เห้ย!OoO”
“...กูก็เลยต้องจัด”
“เห้ย!”
ผมไปตะโกนว่าชอบผู้ชายเหรอ ไม่จริ๊งงงงงงงงงงงงงงงง > < ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย แต่ผมชอบไอ้พี่พอร์ชต่างหากเล่า!! อุ๊บบ!!
“ตกลงว่าไง คบกับกูนะ กูอยากลองคีบตุ๊กตาอีกครั้ง”
พี่มันชี้ไปที่มุมห้องนอนซึ่งมีเหมือนตู้อะไรสักอย่างถูกผ้าคลุมไว้อย่างหมิ่นเหม่ อย่าบอกนะว่า... นั่นตู้คีบตุ๊กตาน่ะ มึงเอาจริงดิ๊ มึงซื้อมาได้ไงงงงง มีขายที่พารากอนเรอะ!
“ความรู้สึกกูมันจางแล้ว กูคิดว่ามึงก็น่าจะเหมือนกัน เราดูๆกันไปก่อนดีมั้ย”
“ไม่ดี!”
“ไม่ดียังไง กูจะมีมึงคนเดียว และมึงก็ต้องมีกูคนเดียว แค่นี้ก็เหมือนเป็นแฟนกันไปครึ่งหนึ่งแล้วนะ”
“แล้ว... คือ... แล้วเรื่อง... จิ๊!”
“อะไร = =”
“มึงต้องเป็นแฟนกูวันนี้และเดี๋ยวนี้เลย!”
มันผลักผมราบกับเตียงแล้วขึ้นคร่อมอย่างรวดเร็ว เดี๋ยวๆๆๆ เมื่อกี้เรายังโรแมนติกกันอยู่เลย แล้วจู่ๆมึงจะมาอีโรติกกับกูไม่ให้สุ่มให้เสียงได้ยังงายยยยยยย T_T
“พี่พอร์ช อย่า!”
พี่มันซุกไซร้ซอกคอผมอย่างบ้าคลั่งไปแล้ว มึงจ้องจะเอากูเหมือนไอ้พวกมันใช่มั้ย กูนี่มันตัวอะไรวะมีแต่ผู้ชายจ้องจะลาก จะมีผู้หญิงที่ไหนมาลากผมอย่างนี้บ้าง ขอร้องเลย
“ไอ้เหี้ยพี่พอร์ช! กูว่าแล้วว่าอยู่กับมึงมันไม่ปลอดภัย ไม่ต่างจากตอนถูกไอ้พวกสัสนั่นข่มขืนเลย”
“กูละลบรอยพวกมันออกไปให้เอง ยอมพี่นะจัส”
ผมกะจะดราม่าใส่ แต่ดูมันขอดิ... = =
“มันยังไม่ทันได้ทำอะไรกูโว้ยยยยยยยย และมึงก็หยุด!”
“ไอ้!-จัส!”
พี่พอร์ชกัดฟันเรียกชื่อผมอย่างโมโหแต่ก็ยังไม่ยอมโผล่หัวออกมาจากซอกคอผม ทีจะเอาล่ะเรียกกูซะดิบดี แต่พอไม่ได้มันเรียกไอ้เลยว่ะ
“มึงเป็นอะไร มึงอยากเป็นแฟนกูเพราะมึงจะเอากูใช่มั้ย”
“เออดิ!!”
ยอมรับมาตรงๆได้ เหี้ย มาก!
“แค่กูยอมคืนดีกับมึง kมึงก็เข้ามาครึ่งลำละ มึงรออีกสักหน่อยมึงจะตายไง๊ไอ้พี่พอร์ช”
“แต่...”
ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากโซเดมาคอมกับมันนะครับ ผมก็แค่ผู้ชายคนหนึ่ง สะกิดนิดอารมณ์กูก็กระเจิงละ แต่ผมตงิดใจแปลกๆและก็อย่างที่บอกว่าเราเพิ่งกลับมาเจอกันไม่นาน ทุกอย่างเลือนราง แค่รอให้เรากลับมาสนิทกันมากขึ้นเหมือนเดิมแค่เนี้ย จะยากตรงไหนวะ!
“ทำไมมึงต้องเร่งกูด้วย... มึงเร่งรัดกูเกินไป กูก็รู้สึกเหมือนกันกับมึงแหละ”
“จัส...”
“หืม...” ผมลูบแก้มมันปลอบๆ ผมว่าพี่มันเข้าใจ
“...มึงก็รู้สึกเงี่ยนเหมือนกูเหรอ”
“ไอ้เหี้ย!!!”
กูหมายถึงว่ากูก็รู้สึกชอบมันงี้ป่าววะ! หมายถึงว่ารู้สึกรักมันงี้ป่าว!
ผมแกล้งหลับตาลง ทำเป็นหลับ ไม่อยากจะคุยกับคนขี้เงี่ยนขี้หื่น
“จัส มึงมาคุยกับกูก่อน”
“จิ๊! อะไรวะพี่พอร์ช นี่ถ้าถามกูว่าแฟนเก่ากูหน้าเหมือนสัตว์อะไรกูตอบได้เลยนะว่าเหี้ย!”
“โถ่ เหี้ยไรจะหล่อขนาดนี้”
“...”
“จัสสสสส” มันเรียกผมด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน
“...”
“งั้นกูก็ฝากบอกแฟนเก่ากูเหมือนกัน...”
“ว่า?”
“เสียดายที่ตอนนั้นเราไม่ทันได้กัน ไม่งั้นตอนนี้กูจับกระแทกแม่งแล้ว”
เหี้ยจริงป่าหล่ะแฟนเก่ากู = =;;
----------------------------------------------------
