9

เช้าวันนี้ผมตื่นมาด้วยอาการปวดเนื้อเมื่อยตัวราวกับร่างจะพัง ดีที่คณะผมหมดสอบแล้วเหลือแต่คณะอื่นที่ต้องใช้สถานที่สอบอยู่ พวกผมเลยได้หยุดฟรีๆไปสองสามวัน รวมเสาร์อาทิตย์ไปแล้วก็หยุดเกือบอาทิตย์อ่ะ
มือควานหาคนข้างตัวแต่ไม่เจอแม้แต่ตัวเหี้ย ได้กูแล้วทิ้งมึงจะมีเฮนะไอ้พี่พอร์ช!! ผมพาสารร่างตัวเองเข้าห้องน้ำอย่างทุลักทุเล ต้องเดินขย่องแขย่งเนี้ยมันอุบาทว์ดีจริงๆ ดีที่มีเสื้อผ้าของผม(คาดว่าจะเป็นของผมนะเพราะไซส์พอดีเป๊ะ)พับวางอยู่บนเคาท์เตอร์ครบชุด
พอสำรวจตัวเองหน้ากระจกก็ตบหน้าผากดังแปะเพราะยุงกัด เอ้ยไม่ใช่สิ! เพราะรอยแดงจ้ำๆกระจายอยู่ทั่วตัวผมนี่ต่างหากล่ะ คิดอยู่แล้วว่าต้องมีเยอะเพราะพี่พอร์ชมันนัวผมไม่ยั้งแต่แบบว่า... ขอที่หลบๆหน่อยได้มั้ยเนี้ย ลามมาถึงคางอย่างกะคนเป็นเอดส์เลยกู = =
อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ออกมาจากห้อง ที่นี่เป็นห้องพักชั้นบนของร้านเหล้าที่มาเมื่อคืน มองนาฬิกามุมทางเดินก็เห็นเข็มสั้นชี้เลขหนึ่ง เปล่า ไม่ใช่ตีหนึ่ง แต่เป็นบ่ายโมงต่างหากล่ะ
“ผมโดนมันต่อยมาเต็มๆเลย”
“ฮ่าๆๆ สมน้ำหน้า มึงมันบ่อมีไก๋”
“อย่างน้อยก็ได้มันละกันน่า”
“กูก็ได้ แบบสมยอม กูควรจะชนะนะไอ้น้องงงงงง”
“เออๆ ตามนั้นก็ได้วะ บลูสามขวดนะ”
“ฮ่าๆๆ ขี้แพ้ก็เงี้ย”
“ไอ้จัสนะไอ้จัส รับน้องกูน่าจะซ่อมมันหนักๆ มาทำกูแพ้พนันซะได้ เวรรรรรรรร”
“อย่าด่าเมียกูดิ ฮ่าๆๆๆ”
...
คืออะไร?
ผมตัวชาวาบตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า...
มึงเอากูไปพนันเหรอ
เรื่องนี้ไม่ได้มีแค่ในนิยายหรอกเหรอ
ที่บอกว่ารักกู... ไม่สิ... มึงไม่เคยบอกว่ารักด้วยซ้ำ
ไอ้เหี้ยพี่พอร์ช!!!
หลอกกู! มึ๊งงงงงง!!!
ปัง!
“จัส!” ไอ้พอร์ชหันมาเห็นผมก็ตกใจตาโต
“ไอ้เหี้ย! พลั่ก!”
ผมคว้าเก้าอี้ที่อยู่แถวนั้นมาถือไว้หลังจากที่ถีบมันล้มไปกองที่พื้น บอกแล้วไง ก่อนจะเสียมึงไปมึงต้องลิ้มรสชาตส้นตีนกูก่อน
“ไอ้จัส อย่า!” พี่บอสจะเข้ามาดึง ผมเลยขว้างเก้าอี้ที่ถือไว้ใส่มันสุดแรง
ตุ๊บ!
แต่พี่พอร์ชยกแขนมาบังไว้เลยไม่ได้เป็นอะไรมาก ผมหอบหายใจด้วยความโมโหยืนจ้องตากับมัน สายตามันมองผมอย่างรู้สึกผิด ใช่ มึงอาจจะรู้สึกผิดแต่มึงก็ทำผิดไปแล้วนี่! พี่พอร์ชพยุงตัวเองขึ้นมาอย่างโงนเงนจะเข้ามาจับตัวผมแต่ผมเบี่ยงหลบแล้วเดินหนีออกมาอย่างเร็ว
“จัส! ฟังกูก่อนเถอะ นะ กูขอโทษ จัส... ขอโทษๆ”
ผมไม่สนใจเดินมาเรื่อยๆจนแทบจะเป็นวิ่ง แต่พี่พอร์ชมันก็ตามมารั้งแขนผมไว้ได้ ผมเลยคว้าของแถวนั้นซึ่งก็เป็นที่ทับใบเสร็จมาฟาดหัวไอ้เหี้ยนี่ไปทีจนหัวแตกทรุดลงไปเลยล่ะ
ความโกรธตอนนี้มันมีมากเกินกว่าที่ความรู้สึกผิดจะมี จุดๆนี้ผมกลับรู้สึกว่ามันน้อยไปด้วยซ้ำ!
ตั้งแต่วันนั้นผมก็ไม่ติดต่อกับไอ้เหี้ยพี่พอร์ชอีกเลย โทรศัพท์ไม่เคยรับ มาหาก็ไม่เคยออกไปพบ ตอนแรกผมบอกยามให้ห้ามคนๆนี้ขึ้นมาแต่ลมปากคงสู้อำนาจเงินของพี่มันไม่ได้ ถึงได้มานั่งเฝ้านอนเฝ้าอยู่หน้าห้องผมอยู่บ่อยๆ
“มาอีกแล้วเหรอ”
“เออ” ผมคุยโทรศัพท์กับพี่เฟี๊ยตด้วยความเซ็ง
เรื่องมันมีอยู่ว่ามันแข่งกันพนันกับพี่บอสครับ ว่าผมกับพี่เฟี๊ยตใครจะเสียตัวให้พวกมันก่อนกัน อันที่จริงก็พร้อมๆกันแหละเพราะระหว่างที่ผมนัวอยู่กับพี่พอร์ช พี่เฟี๊ยตมันก็ถูกพี่บอสตะล่อมๆอยู่ แต่ที่พี่พอร์ชชนะไปเพราะว่าพี่เฟี๊ยตมันเมาไม่รู้เรื่องไม่ใจง่ายสมยอมเหมือนผมไง
สุดท้ายผมก็ให้พี่เฟี๊ยตช่วยโดยการที่ให้รุ่นพี่สักคนในคณะโทรมาเรียกตัวพี่พอร์ชไปทำกิจกรรมหรือไปให้ติวให้พี่มันถึงยอมออกไปให้พ้นๆที่หน้าห้องผม
“แล้ววันนี้จะมานอนห้องกูป่าว”
“ไปดิ”
เนื่องจากโดนหักหลังเหมือนกัน เราสองคนเลยแท๊คทีมกันต่อต้านพวกพี่พอร์ชกับพี่บอส วันพรุ่งนี้ก็ต้องกลับไปเรียนตามปกติแล้ว ผมก็ต้องเจอกับพี่ทั้งสองคนอยู่แล้ว เป็นอะไรที่หลีกเลี่ยงยากแต่ผมจะหลีกไปให้ไกลที่สุด!
ตอนเช้าผมซ้อนมอเตอร์ไซค์มากับพี่เฟี๊ยต คือพี่มันมีรถเก๋งนะแต่อยู่ๆก็อยากแว๊นซ์ขึ้นมาซะไม่มีเหตุผล แถมยังขับบ้าขับบออะไรให้รถล้มอีก ดีที่มันขับมาช้า T_T ไม่งั้นได้ขี่คอกันไปนอนโรงพยาบาล
“ไปโรงบาลก่อนมั้ยวะ”
“ไม่เป็นไรหรอก แค่แขนถลอกนิดหน่อย”
สำรวจแขนขาระหว่างเดินเข้าตึกเรียนมา ขาไม่เป็นไรเพราะใส่กางเกงขายาวแต่เสื้อดันแขนสั้นเลยครูดกับพื้นจนถลอกเลือดซิบๆอย่างนี้ ส่วนไอ้พี่เฟี๊ยตเสื้อแขนยาวพับมาถึงศอกเลยไม่เป็นอะไรมาจะเจ็บก็ตรงกระแทกพื้นนั่นแหละ
“จัส!!” เงยหน้ามองตามเสียงเรียกก็พบว่าเป็นไอ้เหี้ยพี่พอร์ช มันเดินตรงมาหาผมดวงตาคมจับจ้องอยู่ตรงแผลที่แขน
“ไปโดนอะไรมา”
แขนกูถลอกได้เลือดเป็นทางนี่ยุงกัดมามั้งไอ้ห่า - -
“ไม่ต้องมายุ่ง!”
“ไปห้องพยาบาล”
“ปล่อย ไม่ต้องมาจับ”
ผมสะบัดแขนออกเมื่อพี่มันจะดึงผมให้เดินตามให้ได้
“ขอร้องเหอะ มึงไม่เจ็บเหรอ”
ผมไม่ตอบ เดินหนีมาเลย
“มึงก็รู้ ว่ามึงเจ็บ กูเจ็บกว่า”
“ผิดละพี่พอร์ช กูต่างหากที่เจ็บกว่า”
ผมมองมันด้วยสายตาเจ็บปวด ซึ่งสีหน้าพี่พอร์ชมันก็ดูเจ็บปวดไม่แพ้กัน
“เอ่อพี่ ไม่มีเรียนเหรอ”
ผมเดินเข้าคลาสเรียนมาซึ่งได้พี่เฟี๊ยตนั่นแหละช่วยกันพี่พอร์ชไว้ เข้าไปก็เจอไอ้ค๊อกกับอิก้องจองที่นั่งไว้ให้แล้ว พวกมันกลับบ้านที่ต่างจังหวัดกันน่ะ เลยไม่ค่อยรับรู้เรื่องของผมเท่าไหร่ และเท่าที่ได้คุยกันผ่านเฟซหรือโทรศัพท์ผมก็ไม่ได้เล่าให้มันฟังด้วย
“พี่พอร์ชเหมือนมานั่งรอมึงหน้าห้องนะได้เจอกันป้ะ หายไปไหนแล้วไม่รู้ กูว่าพี่เขาหน้าหมองๆเหมือนโดนของอ่ะ แก้มตอบไปเลยสงสัยกินอะไรไม่ค่อยอิ่ม” อิก้องผู้ซึ่งไม่รู้เรื่องรู้ราวพูดขึ้นพร้อมกับชะเง้อออกไปมองด้านนอก
“อย่าพูดชื่อมันให้กูได้ยิน”
“อะไรวะ ทะเลาะกันเหรอ นึกว่าจะไปด้วยดีซะอีกเห็นหิ้วกันไปคืนนั้น”
“ชะ - ไม!”
“ชื่อแม่กูไอ้สัส!” ไอ้ค๊อกที่นั่งฟังอยู่แหวขึ้นแล้วผลักหัวผม นี่กูเบลอจำชื่อพ่อชื่อแม่เพื่อนผิดเลยเหรอเนี้ย
“พ่อกูชื่อเกียรติ์”
“เออ เกียรติ์!”
“อิจัสสสส ล้อชื่อพ่อกู อิเลววววววว”
ก็มึงมาบอกกูทำไมว่าพ่อมึงชื่อเกียรติ์น่ะไอ้ฟาย > <
“ผ้าก๊อชบนหัวพี่เขาก็อย่าบอกว่าฝีมือมึง อ้ออออออ อย่างนี้นี่เอง กูนึกว่าพี่เขาไปตีกับใครมา”
ผมส่งสายตาจิกกัดไปให้อิก้อง แค่หัวแตกน้อยไปด้วยซ้ำ! มาเร่งเร้าจะเอากูอย่างกะรักนักรักหนาที่แท้ก็พนันกับพี่บอสไว้ มันน่ามั้ยล่ะ
“มึง เย็นนี้ไปร้านเหล้ากัน พอดีกลับบ้านต้องอดทนอดกลั้นทำตัวให้เรียบร้อยอ่ะ นี่เสี้ยนมากบอกเลอ”
“ไป!!/ดี!!” ผมกับอิก้องตอบพร้อมกัน
คือผมเศร้าอยู่กับพี่เฟี๊ยตพี่มันห้ามผมเกี่ยวข้องกับอบายมุขอ่ะได้แต่ร้องไห้ ร้องๆๆ จนน้ำตาหมดเลย แต่มันก็สบายใจขึ้นมากกกกก วันนี้ผมขอปล่อยให้สุดเหวี่ยงเลยแล้วกันนะ
สองทุ่มพวกผมสามคนแว๊นซ์กันไปร้านประจำของคณะทันที มาถึงผมก็ซัดๆๆเหล้าเข้าปากแบบไม่ลืมหูลืมตาเลย ผมเล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนทั้งสองคนของผมฟังละ พวกมันก็เอาแต่บอกให้ผมไปคุยไปเคลียร์กับพี่พอร์ชให้รู้เรื่อง จิ๊ ไม่ได้ดั่งใจเลย มันเหี้ยกับผมขนาดนี้ผมยังต้องไปคุยกับมันให้เสียปากทำไมวะ!
“เมามากไปไม่สนุกนะมึง เบาหน่อยๆ”
“นั่นดิ มาถึงมึงชิงเมาคนแรกนี่ใครจะเก็บศพวะ”
“มึงเก็บกูสองคนนะไอ้ค๊อก”
“เอิ๊กกกก กูเมาแล้ววว” ไอ้ค๊อกกระดกรวดเดียวหมดแก้วแล้วทำท่าเมาทันที เอ้อออออ...
“ไอ้เชี้ยนี่ แทนที่กูจะได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย = =”
“แดกๆไปเหอะน่า กูยังไม่เมา”
ผมตัดรำคาญอิก้องกับไอ้ค๊อกที่เกี่ยงกันเป็นคนเก็บศพ คือพวกผมตกลงกันว่าจะต้องมีคนสติดีคอยเก็บเพื่อนไว้คนหนึ่งอ่ะหลังจากที่เราไปเมาด้วยกันครั้งแรกแล้วหัวราน้ำไม่สติกันสักราย
“โอ๊ะโอ น้องจัสนี่นา...”
ผมเงยหน้ามองก็พบว่าเป็น... ไอ้ที่ราบสูง เผื่อใครจำไม่ได้มันคือคนที่ด่าผมตอนกิจกรรมอบรมบ่มนิสัยด้วยการพูดเสียงดังๆไง
“เหอๆๆ”
“เมาเละ เผื่อไม่รู้นะ สภาพน้องเหมือนพี่ตอนถูกพอร์ชเอาแล้วทิ้งเลยว่ะ ฮ่าๆๆ”
“ฮ่าๆๆๆ ถูกเขาเอาแล้วทิ้งยังหัวเราะได้เนอะ หรือว่าชินแล้ว โดนบ่อยอ่อ?”
“ไอ้จัส!” อิก้องกัดฟันเรียกชื่อผมปรามๆ ส่วนไอ้ค๊อกก็ดึงเสื้อผมไว้ไม่ให้พุ่งไปซัดเขา เมาแล้วอารมณ์ขึ้นง่ายนะ ยิ่งเมาด้วยอารมณ์เฮิร์ทแบบนี้คือได้มีเรื่องแน่ว่ะ
“ทำไม ก็กูเพิ่งโดนนี่ กูใสไม่ได้กร้านเหมือน...”
อั๊ก!
มึน...
รู้ตัวตอนถูกกระชากคอเสื้อขึ้น อ่า... เค เก็ท กูโดนไอ้ที่ราบสูงต่อย!
พลั่ก!
ผมผลักอกมันออกแล้วต่อยมันกลับไปจนมันจะล้มแต่มือมันจับคอเสื้อผมอยู่ไง เลยกระชากผมซึ่งเริ่มกรึ่มๆแข้งขาอ่อนให้ล้มตามไป ก่อนที่จะได้ทำอะไรมากกว่านี้ทั้งเพื่อนมันและเพื่อนผมก็เข้ามาแยก
“อะไรวะ มึงทำอะไรวะไอ้แบงค์ บอกแล้วว่าห้ามยุ่งกับจัสไง!”
“พอร์ช!”
พี่พอร์ชมาจากไหนไม่รู้เข้ามากันผมไว้ด้านหลังมัน
“ถ้ามึงพูดไม่รู้เรื่องแม้แต่เพื่อนกูก็คงให้มึงไม่ได้”
“ไอ้พอร์ช! มึงรู้เรื่องอะไรมั้ย มึงมาจากไหนหะ มาถึงมึงก็เข้าข้างมัน!”
ไอ้ที่ราบสูงตัดพ้อมองพี่พอร์ชด้วยสายตาเจ็บปวด กูเข้าใจมึงว่ะไอ้ที่ราบสูง กูก็เจ็บปวดเพราะมันเหมือนกัน ผมดันไอ้พี่พอร์ชไปไกลๆ แล้วออกมาเผชิญหน้ากับไอ้ที่ราบสูง
“ไม่ใช่เรื่องของมึงไอ้เหี้ย” ผมหันไปด่าพี่พอร์ชซ้ำ
“จัส! มึงเมาแล้วนะ” พี่พอร์ชฉุดแขนผมไว้
“รักกันมาก ห่วงกันมาก... แล้วมึงมายุ่งกับกูทำไมไอ้พอร์ช!”
ไอ้แบงค์เริ่มสติแตกเมื่อเห็นไอ้พี่พอร์ชห่วงผมออกนอกหน้า
เพล้ง!
ไอ้แบงค์คว้าขวดเบียร์ที่วางอยู่โต๊ะใกล้ๆ(ซึ่งเจ้าของโต๊ะคงวิ่งไปหลบหลังจากเกิดการทะเลาะวิวาทแล้วล่ะ)มาฟาดกับขอบโต๊ะให้แตก เสียดายแอลกอฮอลลลลลลลลลลล์ T_T เดี๋ยวนะ ไม่ใช่เรื่องนั้น เรื่องมันอยู่ที่ปากฉลามนั่นต่างหากล่ะ มันพร้อมจะเอามาแทงผมได้ทุกเมื่อ กูไม่น่าเสร่อผลักไอ้พี่พอร์ชที่บังผมอยู่ออกไปเลย เรื่องอะไรผมจะต้องมาถูกเมียมันแทงวะ!
“แบงค์ มึงก็รู้ว่ากูเมานะตอนนั้น อะไรคว้าได้กูก็เอาหมด”
ไอ้พอร์ช ทำไมมึงเหี้ยยย =[]=
“แต่จัสไม่ใช่ กูรักจัส กูจงใจและเต็มใจที่จะรับผิดชอบทุกสิ่งที่กูทำกับเขา มึงเข้าใจกูใช่มั้ย”
พี่แบงค์น้ำตาไหลเลยล่ะ จากภาพยนต์บู๊ล้างผลาญกลายมาเป็นดราม่าน้ำตาซึมได้ไงวะ
“มึงมันเลว! มึงไม่รักกูแต่มึงก็ดีกับกู มึงให้ความหวังกู”
“กูก็ทำอย่างนั้นกับเพื่อนทุกคน”
“ไม่! ขอให้กูได้แก้แค้นบ้าง! มึงเป็นคนแรกของกู เพราะมึงทำให้กูเปลี่ยนไป แล้วมึงก็ไม่รับผิดชอบ ไอ้เหี้ย!”
จังหวะที่ไอ้ที่ราบสูงจะพุ่งเข้ามาจ้วงปลายปากฉลามเข้าที่ท้องผมไอ้พี่พอร์ชก็เข้ามาขวางไว้ทำให้พี่มันโดนแทงเข้าไปกลางท้องเต็มๆสร้างเสียงฮือฮาให้คนรอบข้าง ไอ้พี่แบงค์และผมต่างก็อึ้งอย่างสุดขีด ตาสว่างจากความมึนเมาทันที
“พะ พอร์ช...”
“พี่พอร์ช!”
“จัส บอกแบบไม่ต้องมีฟอร์มเลยนะ... กูเจ็บ”
“มึงเจ็บก็บอกเจ็บดิไม่ต้องพูดยาวก็ได้ไอ้คนโง่!”
“เออ เจ็บ”
“ปะ ไปโรงบาล พวกมึงพามันไปโรงบาล!”
อิก้องกับไอ้ค๊อกแบกพี่มันออกไปขึ้นมอเตอร์ไซค์อย่างทุลักทุเล พี่พอร์ชเอารถมานะ แต่ไม่มีใครกล้าขับรถราคาสิบๆล้านของมันหรอกครับแล้วมอเตอร์ไซค์ก็เร็วกว่าด้วยในสภาพรถติดอย่างนี้
“มึงเร็วดิวะไอ้ค๊อก”
ผมเร่ง ตอนนี้เราอัดสามไอ้ค๊อกขี่พี่พอร์ชอยู่ตรงกลางส่วนผมนั่งท้ายเพราะจะได้ช่วยกันไม่ให้พี่มันหงายหลังตกรถเจ็บซ้ำเจ็บซ้อนไปอีก ส่วนอิก้องก็ขี่มอไซค์อีกคันตามมา
“จัส...”
“มึงไม่ต้องมาเรียกกู มึงต้องไม่เป็นอะไรนะ”
เลือดมันออกเยอะมาก มากจนผมกลัว...
ผมวิ่งตามรถเข็นพยาบาลจนมันเข้าห้องฉุกเฉินไป กูเข้าใจอารมณ์พระเอกละครไทยก็ตอนนี้ละว้า... กลัว... กลัวคนข้างในเป็นอะไรไป กลัวไม่ได้พูดกับมึงอีก พี่พอร์ช...
ไม่นานเพื่อนๆของพี่มันก็ตามมา ผมเพิ่งรู้ว่ามันไปที่นั่นเพราะจะไปหาผมนั่นแหละ(มันถามจากอิก้องอิเพื่อนสาระแนที่พร้อมจะเข้าข้างผู้ทุกเมื่อ = =) พี่มันอยากจะอธิบายทุกอย่างให้ผมฟัง...
“ทุกอย่างก็เหมือนอย่างที่มึงได้ยินนั่นแหละ กูพนันกับพี่พอร์ชจริงๆ”
พี่บอสก็มากับเขาด้วยนะ
“กูไม่รู้ว่าพี่พอร์ชมันนึกสนุกหรืออะไร แต่กูเชื่อว่าสำหรับพี่พอร์ชบลูเลเบลสามขวดนั่นมันไม่ได้มีค่าเท่ามึงเลย”
“แต่มีค่าสำหรับพี่ใช่มั้ย” แค้นแทนพี่เฟี๊ยตเบาๆ
“เหอๆๆ แล้วแต่มึง และแล้วแต่ไอ้เฟี๊ยตจะคิด”
ผมนั่งเอาศอกเท้ากับเข่ากุมขมับไว้ส่วนสายตาก็เอาแต่จ้องที่พื้นอย่างเดียว เห็นน้ำใสๆหยดลงกระทบพื้นแหมะๆนั่นคือน้ำตาผมเอง อ่า... อยากเปลี่ยนใจแล้ว เปลี่ยนให้ผมเป็นคนโดนเองได้มั้ย
พวกเพื่อนๆพี่พอร์ชเริ่มทยอยเข้ามาปลอบผมทีละคนๆ จนแพทย์ออกมาบอกว่าพี่มันปลอดภัยแล้วเท่านั้นแหละพวกเขาถึงได้กลับและมอบหมายหน้าที่การเฝ้าพี่พอร์ชให้ผม = =;
อ้อ ผมได้เจอพ่อกับแม่พี่พอร์ชแล้วด้วย แอบแปลกใจนิดๆที่เขารู้ทันทีว่าผมเป็นแฟนพี่พอร์ชแต่แม่เขาก็ไขความกระจ่างให้ผมรู้ก่อนว่าเคยเห็นรูปผมในกระเป๋าตังค์พี่พอร์ชแล้วพี่มันก็เล่าเรื่องผมให้ท่านฟังบ่อยๆ ดูท่านไม่ค่อยซีที่ลูกจะมีแฟนเป็นผู้ชาย ถ้าเป็นพ่อแม่ผมคงลำบากหน่อยล่ะที่จะยอมรับ
“แค่มาเจ็บตัวแทนกู กูต้องให้อภัยมึงมั้ย”
ผมพูดกับพี่พอร์ชที่ยังนอนหลับอยู่ พี่มันซูบลงไปจริงๆด้วย แผลหัวแตกยังไม่ทันถอดไหมเลยดันมาโดนแทงอีก เป็นสามีที่มีชีวิตดีจริงๆเลย เอ่อ เดี๋ยวนะ เมื่อกี้เพิ่งบอกว่าสามีเหรอ... = =
“ตื่นช้ากูจะโกรธยิ่งกว่าเดิมนะบอกเลย”
“งั้นก็หายโกรธกูได้แล้วครับ”
O.O ผมที่ฟุบที่กับเตียงผุดลุกหันขวับไปมองหน้ามันทันที อ่า... ทำไมฟื้นไว มึงน่าจะให้กูคร่ำครวญสักสามสี่วันเหมือนในละครหน่อยนนะเว้ยยยยยยยย
“ว่าไง ดีกันนะ”
“ขอบคุณที่ช่วยกูไว้”
“จัส...” จากที่ยิ้มๆมันกลับลงไปหน้าหมองเหมือนเดิมที่ผมไม่ยอมบอกว่าจะคืนดีกับมัน
“หิวน้ำมั้ย”
“...”
“ข้าวอ่ะ?”
“...”
“เข้าห้องน้ำ?”
“...”
“ดีก็ได้”
“...”
“เออ ไม่ดีใช่มะ” ถามเสียงเหวี่ยงใส่เบาๆ
“ดีๆๆๆ ดีซิวะ โหยไรเนี้ย แทนที่จะพูดตั้งแต่แรก”
“เรื่องมากนัก”
“ขอโทษจริงๆนะ แต่กูไม่เคยเห็นมึงเป็นตัวตลก กูอยากเอามึงจริงๆ”
“ไอ้ พี่ พอร์ช = =”
ผมเรียกมันเอือมๆ เรื่องหื่นอะไรนี่ต้องยอมพี่เขาจริงๆ
“มึงเป็นความต้องการโดยตรงแต่บลูอ่ะเป็นผลพลอยได้”
“เออ! กูเคืองจริงๆเลย”
“อย่าเคืองกูเลย กูทำไปเพราะรักมึงนะ”
เดี๋ยวนะๆ แว๊บๆ เหมือนได้ยินคำว่ารัก โอเค ถึงคำนี้มันจะไม่ค่อยสำคัญสำหรับผมเท่าไหร่ แต่พอได้ยินแล้วความมั่นใจมันกลับมีมากขึ้นเป็นเท่าตัว
“ทำไปเพราะอะไรนะ”
“...-////-“
“ไม่พูดใช่มะ” ผมถามมันกวนๆ
พี่พอร์ชพยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งก่อนจะเบ้หน้าด้วยความเจ็บผมเลยเข้าไปช่วยพยุงแต่พี่พอร์ชกลับกอดผมเอาไว้แทน ใบหน้าคมซุกเข้าสูดเอาความหอมจากซอกคอผมไปเต็มปอด
“รัก... ได้ยินหรือยัง?”
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
หายไปนานเหตุผลเดิม คอมยังซ่อมไม่เสร็จงับบบบบบ
มีอะไรอยากบอก บอก!!
มีอะไรอยากให้ปรับปรุง บอก!!!
ตอนหน้าตอนสุดท้ายก็จบแล้วจ้าาาาาาาาา
ยังมีเรื่องราวอีกนะอย่าเพิ่งทิ้งช้านปายยยยยยยยยยยยย~~~
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านฮ๊าฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ