ดราม่าควีนกับคิงซื่อบื้อ The story after that. # ตอนพิเศษ 6
พี่ต้น น้องเตอร์
ตอนที่ผมกำลังนั่งอ่านหนังสือ อยู่ๆ เตอร์ก็เปิดประตูห้องวิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น
ดึกมากแล้ว แต่เพราะผมยังเพลินกับการพิสูจน์สมการทางฟิสิกส์อยู่ผมก็เลยยังไม่นอน ความจริงผมก็รู้นะว่าเตอร์เองก็คงยังไม่ยอมนอนง่ายๆ เช่นกัน แต่เพราะเป็นปิดเทอมผมก็เลยหยวนๆ ให้ แต่การที่เตอร์วิ่งหน้าซีดมาหาผมถึงในห้องนอนกลางดึกโดยไม่เคาะประตูก่อนแบบนี้มันทำให้ผมแปลกใจพอสมควร
“พี่ต้นๆ แย่แล้ว!”
“อะไร?”
เตอร์ยืนจังก้าอยู่ตรงประตูที่เปิดค้างไว้ มือขวาของเตอร์กำอยู่ตรงเป้าเกางเกงส่วนอีกมือยังจับลูกบิดประตูอยู่เลยครับ ผมเพิ่งเคยเห็นท่าทางแบบนี้ของเตอร์เป็นครั้งแรก อะไรทำให้หลานผมออกอาการหน้าซีดได้ถึงขั้นนี้ทั้งๆ ที่ผมไม่เคยเห็นเตอร์กลัวอะไร
“เลือดออก”
“เลือด? เป็นแผลเหรอเตอร์?”
“ผม....”
“เป็นอะไรล่ะ? เจ็บตรงไหน?”
เพราะเห็นเตอร์นิ่งไปไม่ยอมพูดอะไร ผมเลยขยับตัวลุกออกจากเตียงตรงไปหาเตอร์ แต่เพิ่งจะสะบัดผ้าห่มออกได้เท่านั้นแหละ เตอร์ก็พูดขึ้นด้วยเสียงสั่นๆ เบาราวกับกระซิบ
“ไอ้นั่นผมเลือดออก”
.....
ผมจนปัญญาถึงขั้นนึกคำอุทานไม่ออกเลยครับ
“ไอ้นั่น” ของเตอร์คงไม่ใช่... เพื่อความชัวร์ ผมตัดสินใจถามย้ำไปชัดๆ
“เตอร์มีแผลเลือดออกตรงไหนนะ?”
“ตรงนั้นพี่ ไอ้นั่นผมเลือดออก”
“อย่าล้อพี่เล่นน่า ตรงน้ะ-”
“ก็ค.วยแหละพี่! ช่วยผมก่อนเลือดมันไม่ยอมหยุดไหลเลย มันจะอันตรายมั้ยพี่ ผมกลัว”
เตอร์พูดด้วยสีหน้าคล้ายคนจะร้องไห้ หน้าก็ซีดเผือด คงกลัวมากจริงๆ แต่ผมสิ อยากเป็นลม!
“โอเค! แล้ว... เตอร์จะให้พี่ช่วยอะไร”
“ทำยังไงก็ได้ให้เลือดมันหยุดไหลอ่ะพี่! ผมกลัว”
“งั้นไปหาหมอมั้ย เดี๋ยวพี่พาไปเอง”
“ไม่เอาพี่! ผมอาย”
ผมตั้งใจว่าจะพาเตอร์ไปหาหมอแต่เตอร์กลับรีบขัดผมซะก่อน ผมก็เข้าใจความรู้สึกเตอร์นะ ตอนนั้นผมก็กลัวเหมือนกัน แต่ยังไงซะความอายก็ชนะความกลัว ผมก็เลยไม่กล้าบอกใคร ถ้าตอนนั้นไม่ได้เมษช่วยเอาไว้ผมคงแย่แน่ๆ
เตอร์ทำท่าอย่างกับคนจะร้องไห้ ไม่รู้ว่าเจ็บมากรึเปล่า แต่ผมเกลียดเลือด แถมเลือดยังออกตรงนั้นอีก... ผม...
“พี่ต้น...”
โอเค! ผมตัดสินใจแล้ว หวังว่าเลือดมันคงไม่เยอะเท่าไหร่นะครับ ยังไงผมก็เกลียดเลือดอยู่ดี
“โอเค งั้นให้พี่ดูแผลหน่อย ถอดกางเกงแล้วไปนั่งที่เตียงไป”
ผมสั่งเตอร์แล้วก็เดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลที่พี่ชัชเก็บไว้ตรงตู้เสื้อผ้า เตอร์ทำตามที่ผมสั่งอย่างว่าง่าย ถลกพรืดเดียวก็มานั่งล่อนจ้อนโชว์... เอ่อ ... โชว์บาดแผลชี้หน้าผม เอ้ยไม่สิ!
ให้ตายสิ! ชอบไม่ใส่กางเกงในตอนอยู่บ้านเหมือนกันทั้งอาหลาน แต่ของพี่ชัชใหญ่กว่า อ๊ะ! แล้วผมจะคิดบ้าอะไรเนี่ย นี่เป็นอันที่สามที่ผมเห็น ให้ตายเหอะ! ผมจะบ้าตาย! สติครับสติ! ของผมก็มีผมไม่ควรตื่นเต้นกับของคนอื่น!
ผมคุกเข่าลงหน้าเตอร์แล้วก็พยายามดุเตอร์เพื่อเปลี่ยนเรื่อง
“แล้วทำยังไงถึงได้มีแผลจนเลือดออกฮึ๊?”
“มันจะอันตรายมั้ยพี่ต้น มันจะยังใช้ได้เหมือนเดิมรึเปล่า? ผมกลัว”
“บ้า! คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกมั้ง”
ผมพยายามให้กำลังใจเตอร์ ก็เข้าใจนะครับ เรื่องนี้มันเรื่องใหญ่สำหรับผู้ชายนี่นา แต่ความจริงแล้วผมเองก็ไม่รู้หรอกครับ
โชคดีที่แผลไม่น่ากลัวเท่าไหร่ แถมเลือดไม่ได้เยอะมากเหมือนคราวที่เตอร์โดนมีดบาด ผมเลยไม่ค่อยกลัว
ผมค่อยๆ จับอวัยวะที่เกิดบาดแผลอย่างเบามือ เพราะจุดเกิดเหตุมันอยู่ด้านล่างตรงเส้นสองสลึง ผมเลยต้องดันมันขึ้นให้เห็นบาดแผลได้ชัดๆ
“อู้ย! พี่ต้นเบาๆ ผมเจ็บ”
“เลือดออกมากเลยนะเตอร์”
ผมมองซากทิชชู่ที่เตอร์เอากดห้ามเลือดไว้ก่อนจะเปิดแผลให้ผมดู สีแดงเข้มกระจายเป็นหย่อมๆ ทั้วแผ่นเลยครับ แล้วพอเอาทิชชู่ออกเลือดก็เริ่มปริ่มๆ ไหลออกมาอีกแล้ว
คงเพราะอยู่ใกล้กัน แล้วผมก็ต้องคุกเข่าก้มมาดูแผลให้ชัดๆ ผมถึงได้รู้สึกถึงกลิ่นเลือดแล้วก็กลิ่นอะไรบางอย่าง ผมใจคอไม่ดีเลยครับ สีแดงสดแบบนี้ ทั้งสีทั้งกลิ่น อยากเป็นลมเป็นบ้าเลย!
ผมกดผ้าก็อซลงบนบาดแผลอย่างเบามือแล้วขอความเห็นเตอร์
“เอาน้ำแข็งประคบดีมั้ย?”
“จะดีเหรอพี่?”
“แต่เค้าว่ากันว่าเวลาเลือดไหลก็ให้หาอะไรเย็นๆ ประคบนี่ เลือดจะได้หยุดเร็วๆ ไง เพราะเอ่อ... ตรงนี้คงรัดแผลไม่ได้ด้วย”
“แต่มันเย็นนะพี่ต้น”
“แต่นี่เราก็กดแผลตั้งนานแล้วนะ มันยังไม่ยอมหยุดเลย ถ้าไม่อยากเลือดไหลทั้งคืนก็น่าจะ...”
“พี่ต้น
ฮึกๆ ผมกลัวอ่ะพี่”
เตอร์ร้องไห้! เตอร์น้ำตาไหลต่อหน้าผม แถมยังเสียงสั่นเครือใหญ่เลย เตอร์สะอื้นเหมือนเด็กเลยครับ
“ไม่เป็นไรนะเตอร์ อย่าร้องน่า รอพี่อยู่นี่นะ กดไว้ก่อน เดี๋ยวพี่ไปเอาน้ำแข็งมาประคบให้ แป็บเดียว”
ผมสั่งเตอร์แบบนั้นแล้วก็รีบเดินออกมาเอาน้ำแข็ง พอกลับเข้าไปในห้องผมก็เอาผ้าขนหนูผืนเล็กๆ มาห่อน้ำแข็งไว้แล้วประคบลงไปแถวๆ นั้น
“โอ้ยเย็นอ่ะพี่!”
“น้ำแข็งก็ต้องเย็นสิ”
เตอร์เงียบไปพักนึง เราสองคนไม่ได้พูดอะไรกัน ผมก็มีสมาธิกับการทำหน้าที่ปฐมพยาบาลเต็มที่โดยไม่วอกแว่ก แต่แล้วจู่ๆ เตอร์ก็เรียกผมอีกครั้ง
“พี่ต้นๆ”
“อะไร?”
“มัน... มันจะยังใช้งานได้อยู่ใช่มั้ยพี่”
“ไม่รู้สิ ให้เลือดหยุดไหลก่อนเถอะ”
“แต่ผมกลัวนี่พี่ต้น ถ้า... ถ้ามันเป็นไรไปอีกหน่อยผมไม่มีใช้แล้วจะทำยังไง”
“สมน้ำหน้า ทำอะไรไม่คิด”
“ผมเปล่านะพี่! ผมแค่... ผมก็แค่ชักตามปกตินั่นแหละ”
“ปกติอะไรจะขาดแบบนี้ หื่นไม่บันยะบันยังน่ะสิ”
“ทำเบาๆ ก็ไม่มันดิพี่”
“แล้วทำแรงๆ ทำเอามัน แต่เจ็บตัวเลือดอาบแบบนี้มันคุ้มมั้ย?”
“ก็มัน... ก็มันเพลินไปหน่อยอ่ะ เลยเผลอ แล้วก็เป็นงี้อ่า”
“อะไรจะเพลินขนาดนั้น แอบเปิดเว็บโป๊อีกแล้วล่ะสิ”
“เปล่านะพี่! ผมเจอดีวีดีที่ซ่อนไว้ในตู้หนังสือต่างหาก เลยเอามาเปิดดูเล่น ของอาชัชมีแต่แจ่มๆ ทั้งนั้น อาชัชชอบแต่แบบแรงๆ ทั้งนั้นเลย สามรุมหนึ-”
“พอแล้ว! ไม่เจ็บแล้วหรือไง”
ให้ตายเถอะ! เจ็บอยู่แท้ๆ จากเดิมที่มันออกอาการคอพับคออ่อนเพราะถูกกดไว้ ตอนนี้มันดันตื่นมาชูคอหน้าสลอนให้ผมซะงั้น มีแต่เรื่องหื่นๆ ในสมองทั้งอาทั้งหลาน!
“ขอโทษครับ ผมเล่าเพลินไปหน่อย”
“ช่างมันเถอะ แล้วหายเจ็บรึยังล่ะ?”
“อืม ก็ค่อยยังชั่วแล้วครับ ตะกี้โคตรเจ็บเลย แต่ตอนนี้ไม่มากแล้วอ่ะ มันชาๆ”
“แหงสิ เจอน้ำแข็งเข้าไปนี่ เหมือนเลือดจะหยุดไหลแล้วนะ”
ผมลองแง้มผ้าออกดู เลือดหยุดไหลแล้วจริงๆ ด้วยครับ
“ทายามั้ยเตอร์?”
“ยาอะไรพี่? มันจะดีเหรอ แล้วอันตรายป่าว?”
“แล้วไม่งั้นให้พี่ทำไงล่ะ ว่าแต่จะไม่ไปให้หมอดูซักหน่อยเหรอ?
“แต่ผมอายอ่ะ”
“อายกับไม่มีใช้จะเอาอย่างไหน?”
“
วะไว้พรุ่งนี้นะพี่ต้น คืนนี้ดึกแล้ว รอดูก่อนเหอะ”
“งั้นก็ทายาไว้หน่อยมั้ย?”
“อืม เอางั้นก็ได้ครับ”
สุดท้ายเตอร์ก็ยอมตามใจผม สารภาพว่าความจริงผมก็ไม่รู้หรอกครับว่าทายาแล้วจะหายรึเปล่า ตอนนั้นที่ผมเอ่อ... นั่นแหละ เอาเป็นว่าตอนครั้งแรกของผมที่ได้เลือดเหมือนกัน ผมก็หายเองตามธรรมชาติครับ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหายได้ยังไง เพราะวันต่อมาผมก็รถคว่ำไปนอนอยู่โรงพยาบาลแล้ว กว่าจะออกจากโรงพยาบาลก็เป็นเดือน แต่ว่าแผลของเตอร์มันก็ไม่ใช่เล็กๆ นี่ครับ ผมก็เป็นห่วงเตอร์นะ ถึงเลือดจะหยุดไหลแล้วก็เถอะ ผมเองก็กังวลเหมือนกันแหละ เคยเจอเรื่องแบบนี้ซะทีไหน
“งั้นเดี๋ยวพี่ทายาแล้วจะพันแผลไว้ เตอร์ก็... ก็อย่าไปยุ่งกับมันซักพักล่ะ”
“แต่...”
เตอร์ดูอึกอักไม่กล้าพูด ทำท่าเหมือนมีอะไรบางอย่าง
“อะไรเหรอ?”
“แล้วพี่จะพันแผลยังไง มัน.. มันจะไม่หลุดเหรอพี่? ขนาดตอนนี้กับตอนปกติมันไม่เหมือนกันซักหน่อย พี่จะเปิดหัวมันไว้ตลอดเหรอ แล้วผมจะ... จะฉี่ได้ไง”
“.....”
ผมอึ้งนะครับ บอกตามตรงผมเองก็ลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปเลยเหมือนกัน
“ไม่รู้แหละ ก็ทำให้มันหลับสิ”
“มันทำได้ที่ไหนเล่าพี่ คนยิ่งค้างๆ อยู่”
“นั่งสมาธิมั้ย?”
“ไม่เอาอ่ะพี่ พี่ต้นช่วยผมหน่อยดิ”
“บ้า! จะให้พี่ช่วยยังไงฮึ๊ เรื่องแบบนี้!”
เด็กบ้า! ให้ตายเถอะ อยู่ๆ เตอร์ก็พูดอะไรน่าเกลียด ผมรู้สึกว่าตัวเองต้องกำลังหน้าแดงทั้งหน้าแน่ๆ
“ด่าไรก็ได้หน่อย ฟังเสียงพี่ต้นบ่นแว้ดๆ เดี๋ยวผมก็สงบเองแหละ”
ถ้าเมื่อกี้ผมกำลังหน้าแดงเพราะเขิน ตอนนี้ผมกำลังหน้าแดงเพราะโมโหครับ ใช้ได้ที่ไหนเด็กคนนี้! เรื่องอะไรมาว่าผม!
“ใจร้าย พี่ไม่ได้แย่ขนาดนั้นนะ ว่าพี่ขี้บ่นเหรอ นิสัยไม่ดี ทีหลังเป็นไรไม่ต้องมาให้พี่ช่วยเลยนะ”
“โห พี่ต้นอ่ะ สุดยยอด เอาอีกๆ กำลังเซ็งเลยพี่ เริ่มละๆ”
เด็กบ้า! เตอร์แกล้งผม! เจ้าเด็กนี่กำลังหาเรื่องแกล้งผมอยู่!
“งี่เง่าน่ะ! โน่นเลย ห้องน้ำ ไปจัดการให้เรียบร้อยเลย ไปสงบสติอารมณ์ในโน้นเลยไป๊ สงบแล้วค่อยออกมาให้พี่ทำแผล เดี๋ยวพี่ไปเอากางเกงตัวใหม่มาให้”
ผมพูดพร้อมกับดันเตอร์ไปทางห้องน้ำ ให้ตายสิ! ยังมีหน้ามาหัวเราะผมอีกครับ เด็กอะไร! แต่ก็ดีครับ เห็นเตอร์หัวเราะก็ดีกว่าตอนนั่งร้องไห้แบบเมื่อกี้เยอะเลย คงหายเจ็บแล้วมั้ง เพราะเตอร์คงต้องใช้เวลาพักใหญ่ในห้องน้ำ ผมเลยกะจะเดินไปหยิบกางเกงที่ห้องของเตอร์ให้ แต่ขอคว้าโทรศัพท์ซะหน่อย ยังไงก็คงต้องโทรสินะครับ เรื่องแบบนี้ถามหมอดีที่สุด แล้วระหว่างรื้อกองเสื้อผ้าของเตอร์หากางเกงให้ ผมก็กดโทรศัพท์หาหมอเอกไปด้วย
“เอกดนัยรับสายครับ”
พอปลายสายรับ ผมก็แนะนำตัวก่อน เพราะปกติเราไม่ค่อยได้คุยกันมากนัก ยกเว้นเวลาผมติดสอยห้อยตามพี่ชัชไปไหนนั่นแหละครับ ถึงจะได้เจอแก
“หมอเอกเหรอครับ ผมต้นน้ำนะครับ”
“อ้าวต้นเหรอ มีอะไรรึเปล่า? โทรมาดึกเชียว”
“ขอโทษที่โทรมารบกวนตอนดึกนะครับ คือ.. พอดีผมมีเรื่องจะปรึกษาหมอนิดหน่อยครับ”
“โรคเหงาใจรึไง นายชัชไม่อยู่บ่อยๆ กังวลล่ะสิ”
เพราะเป็นคนประเภทเดียวกันสินะครับ ถึงได้คบกันได้...
เบอร์สายด่วนในโทรศัพท์ของผมที่พี่ชัชบอกให้เมมเบอร์ไว้เผื่อเวลาฉุกเฉินที่พี่ชัชไม่อยู่แล้วผมต้องการความช่วยเหลือมีอยู่สองเบอร์ครับ เบอร์แรกเป็นเบอร์หมอเอกเพื่อนสนิทของพี่ชัช ส่วนอีกเบอร์เป็นเบอร์พี่ฟ่าง ความจริงแล้วผมกับพี่ฟ่างก็ยังติดต่อกันอยู่เรื่อยๆ นะครับ เราส่งข้อความทักกันบ้างนิดๆ หน่อยๆ หรือบางครั้งเวลาที่มีเรื่องอะไรที่ผมไม่อยากให้ใครรู้ ผมก็มักจะไปขอความช่วยเหลือจากพี่ฟ่าง โดยเฉพาะเรื่องพี่ชัชนี่แหละครับ มันแปลกรึเปล่านะที่แฟนใหม่กับแฟนเก่าของผู้ชายคนนึงจะคุยกัน แต่ถ้าผมไม่ได้พี่ฟ่างคอยส่งข่าวให้ผมก็ไม่สบายใจหรอกครับ ก็พี่ชัชน่ะ... ไม่สิ ตอนนี้ผมควรจะตั้งสมาธิเรื่องของเตอร์
“หมอแซวเล่นนิดหน่อย งอนเลยเหรอ หึๆ”
“เปล่าครับ ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะพูดยังไงดี”
“เอาๆ มีไรก็ว่ามา มีไรจะถามหมอ จะถามเรื่องกิ๊กไอ้ชัชมันรึไง”
ผมพูดอะไรไม่ออกนอกจากถอนหายใจ พอหมอเอกได้ยินเสียงผมถอนหายใจยาวเหยียดก็หัวเราะลั่น ผมเลยต้องพยายามสุดชีวิตที่จะทำน้ำเสียงจริงจัง อยากรู้จริงๆ เลย คนๆ นี้เป็นหมอได้ยังไงนะ!
“พอดีเพื่อนผมมีแผลน่ะครับ แต่บริเวณเกิดเหตุมัน... มันอยู่ใกล้ตรงนั้น ตอนนี้เลือดหยุดแล้ว แต่เพื่อนผมเขากังวลมาก... เอ่อ เราจะทำยังไงได้บ้างครับ”
ผมพยายามจริงจังแล้วนะ แต่... พอพูดไปแล้วมันก็... ให้ตายเถอะ! ยังไงผมก็ไม่กล้าพูดอยู่ดีครับ มันน่าอายจะตาย
“เอาใหม่ดีๆ ซิต้น หมอฟังไม่เข้าใจ”
“เอ่อ... เพื่อนผมเป็นแผลตรงนั้น”
“ตรงนั้นมันตรงไหนล่ะ ต้นพูดแบบนี้หมอจะรู้เรื่องมั้ย”
“เอ่อ...”
“เอ้า มัวแต่อ้ำอึ้งอยู่นั่นล่ะ อายหมอไม่หายนะต้น เพื่อนรึเรากันแน่เนี่ย ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น”
“ไม่ใช่นะครับ เพื่อนจริงๆ!”
“แล้วเพื่อนเราน่ะเป็นอะไร”
“เพื่อน... เพื่อนผม”
เอาล่ะ ตายเป็นตายครับ!
“เพื่อนผมช่วยตัวเองแรงไปจนเส้นสองสลึงขาดครับ ตอนนี้เลือดหยุดไหลแล้ว แต่เพื่อนผมเขากลัวมาก จะทำยังไงดีครับ คือ... เขาโทรมาถามผมน่ะครับ”
“เพื่อนแน่เหรอต้น”
“ครับ เพื่อนครับ”
“เอาเถอะ หมอก็ว่าไม่ใช่เราหรอก ไอ้ชัชมันบ่นประจำว่าสะกิดยากสะกิดเย็น หึๆ”
“คุณหมอ!”
“เอาล่ะๆ หมอไม่กวนแล้ว ก็ไม่ต้องทำอะไร เลือดหยุดก็ปลอดภัยแล้ว ทายาหน่อย จะพันแผลด้วยก็ได้ถ้าไม่รำคาญ แต่ต้องรักษาเรื่องความสะอาดแล้วก็ระวังอย่าให้อับชื้น เออ! แล้วก็บอกเพื่อนเราให้พักการใช้งานสักระยะด้วยนะ”
“แล้วแผลแบบนี้ต้องไปให้หมอดูมั้ยครับ”
“อยากให้หมอดูเพื่อความแน่ใจก็ไปได้ แต่เท่าที่ฟังเลือดหยุดแล้วก็แปลว่าแผลไม่น่าจะแย่มาก ถ้านิดเดียวแล้วอายหมอก็ไม่ต้องมาหรอก แต่ถ้าเลือดไหลไม่หยุดหรือแผลเหวอะหวะมากก็รีบไปหาหมอเถอะ อาจจะต้องเย็บ”
“ถึงขั้นเย็บเลยเหรอครับ!”
“ใช่ แล้วแผลมันเป็นยังไงบ้างล่ะ?”
“ก็ไม่ลึกมากนะครับ ขาดนิดหน่อย แต่ไม่ได้เหวอะหวะอะไร”
“พูดเหมือนเห็นเลยนะต้น หึๆ”
“
มะไม่ใช่นะครับ! ก็... ก็ผมฟังเพื่อนผมเล่ามา”
“เพื่อนคนไหนล่ะเนี่ย คุยเรื่องแบบนี้กันด้วย แล้วนี่ไอ้ชัชมันรู้รึเปล่า?”
“ผมผู้ชายนะครับหมอ จะคุยเรื่องแบบนี้กับเพื่อนก็ไม่แปลกอะไร”
“ฮ่าๆ ช่ายๆ ไม่แปลก หึๆ
อุ๊บ ... ขอให้เพื่อนหายเร็วๆ ละกันต้น อ้อ! ถ้าคืนนี้เพื่อนเรานอนไม่หลับก็เอายาแก้ปวดให้เพื่อนเรากินด้วยล่ะ ซีลีเบรกซ์น่ะ รู้จักใช่มั้ย? ไอ้ชัชมันน่าจะมีติดบ้านไว้อยู่”
ผมพูดอะไรไม่ออกแล้วครับ!
“ขอบคุณหมอเอกมากนะครับ ผมรบกวนแค่นี้แล้วกันครับ ราตรีสวัสดิ์ครับ”
พอผมพูดจบก็กดตัดสายทันทีครับ ก็รู้นะครับว่าทำแบบนี้มันไม่ดีเท่าไหร่ แต่... ให้ตายเถอะ! ผมพยายามสูดหายใจลึกๆ ก่อนจะคลายมือออกจากการขยำกางเกงของเตอร์ที่หยิบติดมือมา ยับหมดเลย แต่เตอร์คงไม่สังเกตหรอกมั้งครับ?
ตอนที่ผมเปิดประตูเข้าไป เตอร์ยังไม่ออกจากห้องน้ำเลยครับ ผมก็เลยหยิบโน่นหยิบนี้มารอทำแผลให้เตอร์ แล้วก็เตรียมยากับน้ำไว้ให้ด้วย แต่พอเตอร์ออกจากห้องน้ำมา ได้เลือดอีกแล้ว ผมส่ายหัวแบบปลงๆ แล้วนิ่วหน้าให้เตอร์ ส่วนเตอร์ก็ยิ้มแหยๆ ให้ผม แล้วก็มานั่งประจำที่เดิมให้ผมทำแผลแต่โดยดี โชคดีนะครับ ที่รอบนี้มันสลบเหมือดหมอบราบคาบจริงๆ
ผมทำความสะอาดแผลใหม่ก่อนจะป้ายยาให้เตอร์อย่างเบามือที่สุดครับ แต่ระหว่างนั้นจู่ๆ เตอร์ก็ขอโทษผม
“ขอโทษนะครับพี่ต้น ต้องมาทำอะไรแบบนี้ให้ผม”
คงเพราะเห็นสีหน้าเซ็งๆ ของผม เตอร์ก็เลยอ้อนผมใหญ่ ผมเลยเงยหน้ามองสบตาเตอร์นิดนึงก่อนจะตอบ
“ช่างเถอะ ผู้ชายเหมือนกัน พี่ไม่คิดมากหรอก”
“อื้อ พี่ต้นใจดีที่หนึ่งอยู่แล้ว แต่ว่าพี่ต้นอย่าบอกอาชัชนะ”
“อืม พี่ไม่บอกหรอก”
ให้ผมบอกว่าผมจับไอ้นั่นของผู้ชายคนอื่นเหรอครับ! อี๊ ไม่เอาหรอก ขืนพูดไปมีหวังพี่ชัชอาละวาดบ้านแตก เรื่องบางเรื่องพี่ชัชก็ไร้สาระมากๆ ผมไม่กล้าเสี่ยงหรอกครับ ผมไม่อยากให้เตอร์มีปัญหากับพี่ชัชด้วย
“ค่อยยังชั่วหน่อย นึกว่าพี่ต้นจะฟ้องอาชัชซะแล้ว”
“พี่จะฟ้องทำไม?”
“ก็ผมแอบเอาหนังโป๊อาชัชมาดูไง กลัวอาชัชเตะอ่ะ”
“แล้วที่เอาคอมลงเกมจนเต็มเครื่องนั่นล่ะ ไม่กลัวเหรอ”
“ม่ายอ่ะ เดี๋ยวพอผมจะกลับก็ลบออก เกลี้ยง เรียบร้อย!”
“อย่าไปเผลอลบงานพี่ชัชเข้าล่ะ”
ผมพูดพร้อมกับยิ้มให้เตอร์ เด็กคนนี้นี่ เจ้าเล่ห์จริงๆ เลย
“เอาล่ะ เสร็จแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาดูแผลอีกทีแล้วกัน แต่ไม่น่าจะมีอะไรแล้ว”
“มันจะโอเคจริงๆ เหรอพี่ต้น?”
“อืม ไม่เป็นไรหรอก เลือดก็หยุดแล้ว รอบหลังก็ออกนิดเดียว ทายาแบบนี้ซักสองสามวันก็คงหาย แต่เตอร์ต้องดใช้งานซักระยะนะ”
“แล้วผมจะฉี่ยังไงอ่ะ?”
“ไม่เกี่ยวกันนี่ ก็ทำธุระของเราไปสิ แต่ระวังอย่าให้แผลเปียกก็พอ”
“แต่พี่ต้นบอกงดใช้งาน”
“บ้า! พี่หมายถึง...”
“อ๋อ ห้ามชักว่าว ฮ่าๆ”
“นั่นแหละๆ เข้าใจแล้วก็ใส่กางเกงแล้วไปนอนได้แล้ว”
“ไม่ถอกแล้วผมจะฉี่ได้ไง พี่ก็เห็น”
เออจริงด้วย! ผมลืมไปซะสนิทเลยว่าของเตอร์ไม่เหมือนของผม เตอร์ไม่ได้ขลิบครับ ทุกอย่างยังอยู่ครบ
“ก็... ไม่รู้สิ ดึงเบาๆ มั้ง”
“แล้วถ้าเลือดมันออกล่ะ”
“โอ้ยพี่ไม่รู้แล้ว! งั้นพรุ่งนี้ก็กินน้ำน้อยๆ ละกันจะไม่ได้ต้องเข้าห้องน้ำบ่อยๆ นอนเหอะเตอร์ ดึกแล้ว”
“แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่! พี่ง่วง!”
ผมก็รู้นะว่าตัดบทเตอร์แบบนี้มันไม่ดี แต่... ไม่ไหวแล้วครับ มาถามอะไรผมแบบนั้นล่ะ ผมจนปัญญาแล้วครับ ก็ช่วยเท่าที่จะช่วยได้แล้ว ที่เหลือผมไม่รู้แล้ว
“พี่ต้นใจร้ายอ่ะ ผมกลุ้มจริงๆ นะพี่”
“พี่ก็รู้ แต่เตอร์จะให้พี่ทำยังไงล่ะ ก็พี่ไม่รู้นี่ ของเตอร์ไม่เหมือนของพี่นี่นา พี่จะไปรู้ไงได้”
“ไม่เหมือนได้ไง ผู้ชายเหมือนกัน”
“ก็... ก็...”
“ไม่เหมือนยังไง?”
“พี่ พี่ ... พี่ไม่มี... แม่พี่ให้หมอเอาออกให้ตั้งแต่เกิดแล้ว!”
เตอร์เงียบไปพักหนึ่งก่อนจะทำหน้ากระจ่าง แต่รอยยิ้มของเตอร์นี่สิ ผมหวั่นๆ ใจยังไงไม่รู้แฮะ
“อ๋อ! พี่ต้นขลิบ งั้นขอผมดูหน่อย”
“บ้า! มาดูอะ
ระ-”
ตอนที่ผมพูดได้แค่นั้นก็โดนเตอร์ผลักลงกับเตียงซะแล้ว แรงเตอร์เยอะใช่เล่น เพราะไม่ทันตั้งตัวผมเลยเสียหลักล้มลง พอตั้งหลักได้ กำลังจะลุกเตอร์ก็ดึงกางเกงนอนผมลงไปกองที่ต้นขาแล้ว
“พี่ต้นไม่ใช่อิสลามแท้ๆ ขลิบด้วยเหรอพี่ อ้าว? พี่จะใส่กางเกงในนอนทำไมเนี่ยไม่อึดอัดเหรอ”
เตอร์พูดแบบนั้นแล้วก็ดึงกางเกงในผมออก
ผมกำลังถูกเตอร์ลวนลาม ไม่สิเตอร์ไม่ได้ลวนลามผมหรอก แต่สิ่งที่เตอร์ทำมันก็ไม่ควร ผม...
ฮึก “โอ้โห! จริงด้วยแฮะ เอาออกหมดเลยจริงๆ ด้วย แบบนี้ไม่เจ็บเหรอพี่ต้น มันไม่สีกับกางเกงในเหรอ อ้าวพี่ต้น?”
ตอนที่เตอร์เงยหน้าหันมามองผมน้ำตาผมก็ไหลแล้ว ผมอายนะครับ รู้สึกไม่ดีด้วยที่เตอร์ทำแบบนี้กับผม ผมรู้... ถึงเตอร์จะไม่ได้คิดอะไร แต่ว่า... แต่ว่า
เพี๊ยะ! เพราะเตอร์ดูไม่แคร์ความรู้สึกผมซักนิด ผมก็เลยเผลอตบเตอร์ไป ผมเองก็ช็อก เตอร์ก็ตกใจ พอมาถึงขั้นนี้ผมเลยเผลอร้องไห้ออกมา
“พี่ต้น ผมขอโทษ ผมแค่จะดู”
“อย่ามายุ่งกับพี่! กลับไปห้องโน้นแล้วไปนอนซะ”
“โหพี่ต้นอ่ะ อย่าโกรธน้องดิ น้องไม่ได้ตั้งใจอ่ะ”
ผมรู้ครับว่าเตอร์ไม่ได้ตั้งใจ แต่เพราะความที่เตอร์ไม่คิดอะไรนั่นแหละ เรื่องแบบนี้กับคนอื่นอาจเฉยๆ แต่ผมไม่ชอบนะครับ ถึงสนิทกันแค่ไหนแต่ก็ควรมีขอบเขตบ้าง ผมได้แต่นั่งด่าเตอร์อยู่ในใจเพราะยังกลั้นสะอื้นไม่ได้ น่าอายสุดๆ ไปเลย ผมต้องไปช่วยทำอะไรแบบนั้นให้เตอร์ และก็ถูกเตอร์ทำแบบนี้กับผมอีก ผมทั้งโกรธทั้งอาย แล้วก็เสียใจด้วย
“โอ๋ๆ อย่างอนนะ”
เตอร์พูดแบบนั้นแล้วก็เข้ามากอดผม เตอร์ปลอบผมเหมือนปลอบเด็ก แถมยังเอามือมาเช็ดน้ำตาให้ผมอีก แต่ผมเบี่ยงตัวออกหันหน้าหนี
“สกปรก!”
“สกปรกไร ก็จับของพี่ต้นแหละ ทีพี่ต้นเอามือมาตบหน้าผมๆ ยังไม่ถือเลย”
“บ้า!”
“แน่ะๆ อมยิ้มแล้ว หายโกรธน้องแล้วใช่ม๊า ผมขอโทษนะพี่ต้น ไม่ได้ตั้งใจอ่ะ ไม่รู้ว่าพี่ต้นจะคิดมาก”
“ช่างเถอะ ดึกแล้ว ไปนอนได้แล้ว”
ผมขืนตัวแล้วก็ผลักเตอร์ออกไปเบาๆ วันนี้ผมเหนื่อยเหลือเกินครับ ไม่ไหวแล้ว อยากนอน
“งั้นนอนด้วยคนนะ ยังไม่ได้นอนกอดพี่ต้นซักคืนเลย”
“จะมากอดพี่ทำไม”
“น่า ขอนอนด้วยคนนะ ผมนอนไม่ดิ้นเหมือนอาชัชหรอก พี่ต้นก็รู้ ว่าแต่พี่ต้นใจร้ายจังอ่ะ ไม่ยอมบอกซักคำว่าอาชัชนอนโคตรดิ้น พี่ทนได้ไงอ่ะ”
เตอร์พูดแบบนั้นแล้วก็เอนตัวลงเอกขเนกบนหมอนแล้วก็ตลบผ้านวมขึ้นมาห่มซะแล้ว ดูท่าคงปักหลักนอนห้องนี้กับผมจริงๆ ผมก็เลยได้แต่ทำใจแล้วเดินไปปิดไฟพลางตอบเตอร์
“แฟนเก่าพี่ชัชถึงได้ซื้อเตียงคิงไซส์ไง แต่ถ้าวันไหนพี่ชัชงี่เง่ามากๆ ก็โดนไล่ไปนอนห้องทำงาน”
“โห พี่ต้นใจร้ายจัง”
“บ้า ไม่ใช่พี่! แฟนเก่าพี่ชัชโน่น พี่ไม่เคยไล่พี่ชัชไปนอนห้องโน้นนะ”
“แต่ก็นอนซะสุดขอบเตียง มานี่ เขยิบมาใกล้ๆ ผมนี่ ผมนอนไม่ดิ้นหรอก”
“ไม่เอา จะนอนก็นอนไปสิ หลับได้แล้ว”
“น่านะ ขอน้องกอดหน่อย วันนี้ถ้าผมไม่ได้พี่ต้นช่วยไว้ผมตายแน่ๆ”
เตอร์พูดแบบนั้นแล้วก็กลิ้งมานอนชิดผมแทน แถมยังเอาแขนมาพาดกอดผมไว้อีก แต่ที่ผมนึกไม่ถึงคือเตอร์หอมแก้มผมด้วย!
“แล้วยังทำแบบนั้นกับพี่อีกนะ”
“ก็มันอยากรู้นี่ ของพ่อก็ไม่ได้ขลิบ เพื่อนๆ ผมก็ไม่มีใครขลิบ ผมเลยอยากเห็นว่าขลิบแล้วเป็นไง ใครจะไปรู้ว่าพี่ต้นถือล่ะ แค่ขอดูเฉยๆ นี่ เวลาเข้าห้องน้ำกับเพื่อนผมก็ไม่ถือ ยังคุยกันเลยว่าของใครหัวเปิดแล้วบ้าง บางทีก็รูดหนังแข่งกันว่าของใครรูดได้สุดกว่า ผมชนะตลอดแหละ”
“เล่นบ้าอะไรกัน”
“อ้าว พี่ต้นไม่เคยแข่งกับเพื่อนเหรอ?”
“ไม่รู้สิ พี่ไม่ค่อยมีเพื่อนมั้ง เลยไม่เคยเจออะไรแบบนั้น”
ต่อให้ผมมีเพื่อนผมก็ไม่เล่นอะไรบ้าๆ แบบนี้หรอกครับ!
“อื้ม ผมก็พอรู้อยู่ ขอโทษน้า พี่ต้น”
“อืม พี่ไม่โกรธแล้ว แต่ทีหลังอย่าทำแบบนี้กับพี่อีกนะ”
“คร้าบ ไม่ทำแล้ว”
เพราะว่าเตอร์รับคำเสียงใสท่าทางสำนึกผิดเต็มที่ผมก็เลยใจอ่อน หลานผมถึงจะแปลกๆ ไปบ้างชอบเล่นอะไรแผลงๆ แต่ก็ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี ผมเลยหันไปยิ้มให้เตอร์แล้วก็ขยี้หัวโตๆ นั่นนิดหน่อย เตอร์เลยเอาหัวมาไถอ้อนผมแรงกว่าปกติก่อนจะเอาหัวมาหนุนที่หน้าอกผมซะงั้น ผมโดนเตอร์กอดล็อคอย่างกับลูกหมีโคอาล่าเลยครับ
“ราตรีสวัสดิ์นะพี่ต้น ฝันดีครับ”
“อื้ม ฝันดี”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
มองซ้าย มองขวา คนอ่านคงไม่บอกว่าคนแต่งโรคจิตใช่มั้ย ตอนพิเศษบ้าอะไร หื่นแบบแปลกๆ
ไม่คิดว่ามันมุ้งมิ้งดีหรอกเหรอ คุณพี่ทำแผลดูเอ็นน้อง เอ้ย! เอ็นดูคุณน้อง ฮ่าๆ
สำหรับตอนนี้สาระที่แฝงอยู่คือ
การขลิบ ขออันเชิญคนอ่านที่สนใจเรื่องเกี่ยวกับการขลิบอวัยวะเพศชายเปิดสกิลวาบไปที่
บล็อกคุณหมอสาลิกาโบยบิน สาระนะจ้ะไม่หื่นนะอันนี้
ถ้าให้อธิบายก็คือของน้องต้นขลิบตั้งแต่เกิด โดนเจี๋ยนออกหมด ไม่มีอะไรเหลือ แต่ของเตอร์ทุกอย่างยังอยู่ครบ พอมันมีหนังมันก็เลยต้องมีพิธีกรรมเบิกหัว ไม่งั้นหัวไม่เปิดทรมานนะ สกปรกซกมกด้วย คราบขี้เปียกอ่ะ มีกระทู้ฮาๆ เกี่ยวกับพิธีกรรมเปิดหัวในพันติ๊บเยอะเชียว
พวกเด็กทะโมนมันชอบคุยอวดกันว่าของใครเปิดแล้วบ้าง รูดหนังแข่งกันบ้าง บางทีคนธรรมดาอย่างเราก็อย่าไปเข้าใจผู้ชายพวกนี้เลย บทจะปั่นแล้ววัดขนาดบลัพกันยังมี ไม่เกย์ด้วยนะ ชายแท้ทั้งแท่งนี่แหละ อะไรจะภูมิใจแท่งตัวเองขนาดน๊าน
ในบทนี้พอต้นบอกว่าไม่มีของที่มีมันไม่เหมือนเตอร์เลยงงจับกดซะ ฮ่าๆ เด็กมันก็อยากรู้อยากเห็นอะนะต้นน้า ยอมๆ เด็กมันซ้า!
คนอ่านอย่าถามว่าแล้วคนแต่งไปรู้ข้อมูลมาได้ไง แบบว่า ถ้าโกหกว่ามโนแล้วตะเองจะเชื่อมั้ย?