“จูบเลย! จูบเลย! จูบเลย!” เสียงเชียร์จากคนที่มาร่วมงานเลี้ยงฉลองของพี่โนพี่ยิมดังไปทั่วชายหาด ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ร่วมเชียร์ไปด้วยเมื่อคู่บ่าวสาวข้าวใหม่ปลามันได้กล่าวความรู้สึกต่อกันและขอบคุณแขกแต่ละคนเรียบร้อยแล้วก็มาถึงฉากที่ต้องทำตามทำเนียมก็คือจูบโชว์
พี่ยิมในชุดเดรสสบายๆ ยืนยิ้มอายๆ อยู่ข้างๆ พี่โนที่ผมคิดว่าได้กลายเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลกอีกคนหนึ่งไปแล้ว เพราะเมื่อวานพี่ยิมในชุดเจ้าสาวน่ะสวยมาก สวยจนผมนึกอยากแต่งงานขึ้นมาทันที แต่ไม่ได้จินตนาการว่าได้ใส่ชุดเจ้าสาวหรอกครับ ให้พี่ทองใส่แทน แต่ว่าพอนึกแล้วก็แทบเป็นลมเลยล้มเลิกความคิดบ้าๆ นี้ไป
“อยากแต่งไหม” จู่ๆ คนข้างๆ ที่นั่งอยู่ด้วยกันมาตลอดงานก็ถามขึ้น
“ถ้าเฮียยอมใส่ชุดเจ้าสาวให้ก็โอเค”
“ชงโคสิต้องใส่”
“ผมใส่จะสวยเหรอ ไหล่ก็กว้าง คงตุ๊ดน่าดู”
“ไม่หรอกน่า ต้องสวยสุดๆ แน่ๆ”
“ฮ่าๆ พูดเล่นป่ะเนี่ย”
“พูดจริง”
พี่ทองทำหน้าจริงจัง ผมก็เลยยื่นมือไปกุมมือเขาไว้ “ถ้าผมเป็นผู้หญิง จะดีกว่านี้ไหม”
“ไม่รู้ แต่ถ้าเป็นชงโคคนนี้ เฮียก็ว่าดีหมดแหละ จะผู้ชายผู้หญิงก็ไม่เห็นเกี่ยวเลย”
“อื้ม”
ผมกระชับมือที่จับกับมือพี่ทองเอาไว้ให้แน่นขึ้น เขาบีบตอบกลับมาแล้วส่งยิ้มมาให้ ไม่ว่าเมื่อไหร่รอยยิ้มของพี่ทองก็ทำให้ผมรู้สึกสบายใจเสมอ
“ทองคำเอกคร้าบบบบบบ ช่วยมากล่าวอะไรบนเวทีให้เพื่อนคนนี้ฟังหน่อยยยยย” พี่โนพูดใส่ไมค์ด้วยเสียงที่ค่อนข้างดัง พี่ทองสบถเบาๆ แต่ก็ยอมลุกขึ้นแล้วเดินไปที่หน้าเวที เขารับไมค์ต่อจากพี่โนที่ยิ้มจนตาหยี เอาจริงๆ คือพี่โนยิ้มเหมือนคนบ้ามาตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะ
“อ่า...สวัสดีครับ ผมเป็นเพื่อนกับชายโนมาตอนนี้ก็ยี่สิบกว่าปีแล้ว ดีใจจริงๆ ครับที่ในที่สุดคุณยิมเขาก็ยอมตกลงฝากชีวิตไว้กับคนบ้าๆ อย่างมันสักที เรื่องที่อยากพูดก็ได้พูดไปหมดตั้งแต่งานเมื่อวานแล้ว เลยงงๆ ว่าไอ้โนมันอยากจะฟังอะไรจากผมอีก แต่ก็เอาเป็นว่า ถ้านกเขาไม่ขันก็มาถามสูตรฟิตปั๋งจากกูละกันนะ”
“เฮ้ยยยยยยยย ชายโน มึงอ่อนเหรอวะ ฮ่าๆๆๆๆ”
พี่โนโดนเพื่อนๆ พี่ๆ แซวยกใหญ่ ในขณะที่พี่ทองกับพี่ยิมหัวเราะสะใจที่เห็นพี่โนโวยวายไปพลางปฏิเสธไปพลาง
“ของมึงก็อ่อนไอ้ทอง มุกสี่เม็ดของมึงน่ะได้ใช้รึยังวะ!!” เสียงพี่หมอโปรดตะโกนถามกลบเสียงคนอื่นๆ ที่ตอนนี้เปลี่ยนมาแซวพี่ทองแทน
“ไอ้เหี้ยโปรดดดดดดด มึงงงงงงงงงง!!”
“ไอ้ทอง มึงทำงานเลี้ยงหวานแหววของกูเป็นงานหื่นเลยนะไอ้สัด ยิมจ๋า โนยังฟิตอยู่นะจ้ะ อย่าไปเชื่อมันนน”
เสียงพี่ทองกับเสียงพี่โนดังแข่งกันอยู่สักพัก ทุกอย่างก็กลับเข้าสู่โหมดปกติ หลังจากพี่ทองพูดเสร็จแล้วพี่โนก็ขอให้พี่ทองร้องเพลงเปิดงานให้หนึ่งเพลง ตอนนี้เขาเลยมีกีต้าร์อยู่ในอ้อมแขน แต่ก็ไม่เริ่มร้องสักที ผมมองอย่างสงสัยก่อนจะเห็นเขากวักมือเรียกให้ไปหา แล้วผมจะไม่ไปก็ไม่ได้เพราะทุกสายตาดันจ้องมากันหมด
“ช่วยร้องหน่อยได้ไหม”
“ทำไมต้องเป็นผม พี่หมอก็อยู่ เรียกพี่หมอสิครับเฮีย”
“ไม่อยากร้องกับมันนี่ นะชงโค ถือว่าเป็นของขวัญให้กับยิม”
“ก็ได้ แต่ถ้าผมร้องเพี้ยนอย่ามาว่านะ”
“ไม่ว่าหรอกน่า”
“แล้วจะร้องเพลงอะไร บอกไว้ก่อนนะว่าผมไม่ถนัดแนวเพื่อชีวิต แล้วก็เพลงสมัยนี้ก็ไม่ค่อยรู้จักด้วย”
“เฮียรู้ว่าชงโคฟังแนวไหน เพลงนี้ร้องได้ไหมล่ะ”
ผมมองชื่อเพลงก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองพี่ทอง
“ก็...โอเค”
มันเป็นเพลงที่ผมฟังบ่อยๆ เพราะพี่ทองส่งลิ้งเพลงนี้มาให้ตอนที่เรางอนกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง
“งั้นมานั่งตรงนี้”
ผมเดินขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ข้างๆ พี่ทอง มีคนเดินเอาไมค์มาให้ พี่ปลื้มที่นั่งอยู่กับพี่หมอส่งยิ้มเป็นกำลังใจมาให้ด้วย
“ขอโทษที่ให้รอนะครับทุกคน ผมได้นักร้องจำเป็นมาร้องด้วยแล้ว เขาเป็นน้องรักของคุณยิมแล้วก็เป็นคนรักของผมด้วย เพราะฉะนั้นผมคิดว่าเราร้องด้วยกันคงดีที่สุด ชงโคพูดอะไรหน่อยไหมครับ”
ผมสะดุ้งเล็กน้อย รู้สึกตื่นเวทีเพราะไม่เคยต้องมาอยู่ต่อหน้าคนเยอะอย่างนี้ แต่พอมองไปที่พี่สาวที่ผมรักแล้ว มันก็ทำให้รู้สึกสบายใจ
“ผม...ดีใจด้วยจริงๆ นะครับ ขอบคุณที่พี่ดูแลผมเป็นอย่างดีมาตลอด แต่ตอนนี้พี่มีคนที่จะดูแลพี่ไปตลอดชีวิตแล้วนะ เพราะฉะนั้นมีความสุขให้มากๆ นะครับ”
พี่ยิมยิ้มทั้งน้ำตา เป็นครั้งที่สองแล้วที่ได้เห็นผู้หญิงเข้มแข็งอย่างเธอร้องไห้ ครั้งแรกก็เมื่อวานนี้ตอนที่พี่โนสวมแหวนให้ และตอนนี้เธอก็ร้องไห้แล้วกอดผมไว้อีก
“ขอบคุณมากชงโค ขอบคุณจริงๆ”
ผมไม่เคยคิดว่าจะได้สนิทกับพี่ยิม แต่รู้ตัวอีกทีก็ถูกพี่เขาดูแลเป็นอย่างดีมาตลอด เป็นผมต่างหากที่ต้องขอบคุณ
พี่ยิมผละออกไป มีพี่โนเช็ดน้ำตาให้พร้อมกับพูดว่า “ขี้แยจังเลย”
ผมกับพี่ทองหันมองหน้ากันแล้วต่างคนก็ต่างยิ้ม มันรู้สึกอย่างนี้เองนะเวลาได้เห็นเพื่อนหรือพี่มีความสุข ผมมองไปทางแมวน้อยที่นั่งกรี๊ดกร๊าดกับเจ้ยิ้มอยู่ที่โต๊ะแล้วก็ต้องหัวเราะออกมา อ่า...มันกำลังจะดีขึ้นแล้วสินะ
พี่ทองเริ่มต้นเพลงด้วยเสียงนุ่มๆ ของเขา เรามองสบตากันอย่างรู้ว่าเพลงนี้ไม่ได้ร้องเพื่อเจ้าบ่าวในงานที่อยากมอบเพลงให้เจ้าสาวเพียงอย่างเดียว เพราะเรา...ต่างก็อยากมอบเพลงนี้ให้กัน
‘หยุดหัวใจ...ฉันขอหยุดหัวใจ
เพื่อเธอที่เป็นวันนี้ และวันจากนี้ไป
มีเพียงคำพูดเดียว ที่อยากให้เธอได้จำเอาไว้
ว่าเพราะเธอ ว่าเพราะเธอ...’
เสียงของพี่ทองหยุดลง กีต้าร์เริ่มขึ้นทำนองเพลง ผมยิ้มกว้างให้เขาแล้วเริ่มร้องในท่อนของตัวเอง
‘วันเวลาที่ตัวฉันมี และวันดีๆ ที่เธอนั้นให้
เป็นความทรงจำ ทำฉันให้เข้าใจ
อะไรมันคือความหมายที่ต้องการ
วันเวลาที่วัดใจกันมา เธอยังยืนข้างฉันไม่ทิ้งไป
ยังคงเป็นเหตุผลให้หายใจ เธอคือสิ่งสุดท้ายต่อจากนี้
หยุด หยุดแล้วใจที่มี
จบสุดท้ายตรงนี้เพื่อเธอได้ไหม
จะเดินผ่านข้ามคืนนี้ไป ไม่ว่ามันต้องเจออะไร
เส้นทางจะเป็นอย่างไรให้เธอรู้’
มันคงดีถ้าได้มองพี่ทองต่อไปอย่างนี้...ได้เห็นรอยยิ้มของเขาไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ของผม
‘หยุดหัวใจ...ฉันขอหยุดหัวใจ
เพื่อเธอที่เป็นวันนี้ และวันจากนี้ไป
มีเพียงคำพูดเดียว ที่อยากให้เธอได้จำเอาไว้
ว่าเพราะเธอ ว่าเพราะเธอ...ที่ฉันขอหยุดใจ
หยุดเอาไว้ ให้กับเธออยู่ตรงนี้’
ผมลดไมค์ลง ปล่อยให้พี่ทองถ่ายทอดเสียงนุ่มๆ ของเขาต่อไป
‘และวันเวลาต่อจากนี้ไป ให้เธอมั่นใจในฉันเหมือนสัญญา
อะไรจะดีจะร้ายที่เข้ามา ก็ไม่มีทางที่ฉันลังเลใจ
เธอคนเดียวที่ฉันจะคงอยู่ ไม่ว่ามันจะนานสักเท่าไร
ยังคงเป็นเหตุผลให้หายใจ เธอคือสิ่งสุดท้ายต่อจากนี้...’
“กรี๊ดดดดดดดพี่ทองงงง น้องชงโค อิจฉา เจ้อิจฉา!!!!!” เจ้ยิ้มที่ได้แอลกอฮอล์ไปหลายแก้วตะโกนขึ้นอย่างบ้าคลั่ง แมวน้อยก็คลั่งไม่แพ้กัน ผมลุกขึ้นท่ามกลางเสียงปรบมือของทุกคน พี่ทองจับมือผมไว้แล้วเดินลงจากเวที
“เสียงเพราะจัง ต่อไปร้องเพลงให้เฮียฟังทุกคืนเลยนะ” พี่ทองกระซิบเบาๆ ที่ข้างหู ผมเงยหน้าขึ้นมองเขาแล้วยิ้มให้
“ก็ร้องทุกคืนเลยนะ”
“จริงด้วย ร้องจนไมค์เฮียแตกไปหลายรอบเลย เฮ้ย อย่าพานอกเรื่องดิ”
“ฮ่าๆๆ หลงกล”
“กับชงโคนี่เฮียหลงตลอด หลงจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว”
“ผมเก่งเนอะ”
“มากกก”
“แล้วระหว่างผมกับเดซี่ เฮียหลงใครมากกว่ากัน”
“เลือกไม่ถูกเลย”
ผมตีไหล่พี่ทองไปสองทีอย่างหมั่นไส้เพราะหน้ายิ้มๆ ของเขา ทำมาเลือกไม่ถูก ทั้งๆ ที่ต้องเป็นผมอยู่แล้วที่เขาหลงมากกว่า โธ่เอ้ยไอ้พี่ทอง
“ชอบให้งอนมากนักรึไง ถึงได้ไม่เคยตอบอะไรให้ถูกใจเลย”
“อื้อ ก็เวลาชงโคงอน มันน่ารักนี่หว่า”
“ตอบไม่ระวังมันจะมากกว่างอน แล้วเฮียอย่ามาร้องไห้เพราะผมไม่ให้นอนด้วยนะ”
“ร้ายแรงอ่ะ แต่เฮียรู้ว่าชงโคไม่ทำงั้นหรอก”
“ทำมารู้ดี”
“ถ้าไม่รู้แล้วจะทำให้เพลียทุกคืนได้ยังไง”
“เฮียทะลึ่ง”
“ว่าเฮียแต่มนุษย์เมียก็ใช่ย่อยนะครับ”
“ฮ่าๆ ไม่เถียงแล้วครับ เจ้ยิ้ม อย่ากินเยอะนะ รั่วมากๆ ผู้ชายที่หมายตาโดนหมาคาบไปแดกไม่รู้ด้วย” ผมนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเจ้ยิ้มที่กำลังควงแขนแมวน้อยซัดเบียร์แก้วใหญ่อยู่
“แรงค่ะลูกแรง แต่หมาไม่ได้แอ้มค่ะงานนี้ เจ้ได้เบอร์ห้องมาแล้วเฟ้ยยย” เจ้ยิ้มตอบพลางยิ้มพรายสมชื่อ
“อย่าเฟ้ยจ่ะเจ้จ๋า มันไม่งามจ้า” แมวที่หน้าแดงเถือกพูดเตือนเสียงอ้อแอ้ มีพี่ปลื้มคอยดึงแขนไม่ให้ตกเก้าอี้
“ขาค่ะลูกขา เจ้ลืมตัวไปค่ะ แต่ยังไงก็ตาม วันนี้สุขใจมาก ตายไปคงตายตาหลับแล้วที่ได้นั่งโต๊ะเดียวกับเสี่ยโปรดในตำนานและเฮียทองคนบ้า”
“น้องยิ้ม ทำไมพี่เป็นคนบ้าล่ะครับ” พี่ทองถามพลางเก๊กหน้าหล่อ “ต้องเฮียทองคนหล่อสิครับ ส่วนไอ้โปรดน่ะคนบ้า”
“ถ้ากูบ้ามึงก็ติ๊งต๊องว่ะไอ้ทอง มีมนุษย์หน้าไหนมันจะใส่เสื้อยืดสกรีนหน้าตัวเองที่ถ่ายแนบกับหน้าวัวมางานเลี้ยงบ้างวะ”
“ก็กูนี่ไง กูเป็นมนุษย์ธรรมดานี่แหละเว้ย ไม่เหมือนมนุษย์อย่างมึงที่แค่มาทะเลแต่แม่งค่าเสื้อผ้าเป็นแสน นี่มึงไม่ใส่โอเวอร์โค้ดมาเลยล่ะ เผื่อลมทะเลจะทำให้มึงหนาว รองเท้านี่ก็เหยียบตีนทีหัวแม่ตีนแตกอ่ะ โธ่เอ้ยมาโปรด มาทะเลต้องแต่งตัวชิวๆ ดิวะ ไม่รู้เรื่องเลยมึงเนี่ย”
“กูหล่อกูทำอะไรก็ไม่ผิด มึงจบไหม”
“ไอ้คนหลงตัวเอง”
“โอ้ยยย พอแล้วค่า พอแล้ว เฮียทองก็หล่อ เสี่ยโปรดก็หล่อมากค่า” เจ้ยิ้มเอ่ยห้ามศึกแล้วทำหน้าประหนึ่งว่าผู้ชายสองคนกำลังแย่งชิงตำแหน่งความหล่อเพื่อเจ้กันอยู่
“พี่โปรด เถียงกันเป็นเด็กๆ ไปได้” พี่ปลื้มช่วยห้ามอีกคน
“มันว่าพี่ก่อนนะ ปลื้มก็ได้ยิน”
“แบร่!” พี่ทองแลบลิ้นใส่พี่หมอ จนผมต้องตีแขนเขาให้หยุด
“เฮียหยุดเลยนะ เป็นเด็กอนุบาลรึไงถึงได้แลบลิ้นใส่คนอื่นเขา”
“ทีชงโคยังทำเลย”
“ผมทำให้เฮียดูด ไม่ได้ไปกวนตีนใคร”
“เอื้อกกกกกก น้องฉันแรงอีกแล้วค่า” เจ้ยิ้มกรี๊ดกร๊าดขึ้นมาทันที ทำเอาคนอื่นๆ ในโต๊ะหัวเราะกันขึ้นมา หลินกับเล้งที่เพิ่งมาถึงเลยทำหน้างงกันใหญ่ว่าคนอื่นๆ เขาหัวเราะอะไรกัน สองคนนี้เพิ่งลงมาจากห้องพักครับ ไม่รู้ว่าหายไปทำอะไรกันมา แต่ท่าทางนิ่งๆ นั่นก็ไม่ได้ช่วยให้เดาอะไรได้เลย หลินสนิทกับพี่โนพอสมควรก็เลยถูกเชิญมาด้วย ส่วนเล้งก็รู้จักพี่โนเหมือนกัน แต่เอาจริงๆ ก็คือตามหลินมานั่นแหละครับ อยู่กันเกือบพร้อมหน้า คงขาดแต่บิ้วที่ต้องไปเข้าอบรมของทางมหาวิทยาลัยเลยมาไม่ได้
“ชงโค”
ผมหันไปตามเสียงเรียกของพี่ทอง
“ครับ?”
“ไปดูพระอาทิตย์ตกน้ำไหม”
“อืม”
ผมกับพี่ทองเลยขอตัวแยกออกมา นานๆ ทีได้มาทะเลก็คือสร้างความทรงจำดีๆ ร่วมกันหน่อยครับ เราถือเครื่องดื่มมากันคนละขวด เดินเลียบชายหาดกันมาเรื่อยๆ โชคดีหน่อยที่ผมใส่กางเกงขาสั้นเลยไม่ต้องเสียเวลาพับขากางเกงขึ้นเพื่อไม่ให้เปียกเวลามีคลื่นซัดมาโดนเท้า งานวันนี้จัดแบบเป็นกันเอง การแต่งตัวก็เลยเป็นกันเองไปด้วย ผมใส่กางเกงขาสั้นก็จริง แต่ก็สั้นตามความพอใจของพี่ทองคือเหนือเข่าขึ้นมานิดเดียว กับเสื้อยืดตัวบางสบายๆ ในขณะที่พี่ทองก็แต่งตัวธรรมดา ไม่สะดุดตาแต่ว่าสะดุดใจ เดี๋ยวๆ ไปกันใหญ่แล้ว
“อากาศดีเนอะ” คนที่เดินอยู่ข้างๆ พูดขึ้นมา
“อืม”
“ชงโค”
“ว่า?”
“เฮียอยากเป็นมากกว่าแฟน”
“หืม” ผมหยุดเดินแล้วหันไปมองเขา “แล้วทุกวันนี้ไม่ใช่เหรอ หรือมันต้องมากขนาดไหนล่ะ”
“ก็...อยากทำให้เป็นเรื่องเป็นราว”
“จะขอผมแต่งงานเหรอ”
“อืม ได้ไหม”
“ผมเป็นผู้ชายนะเฮีย ใส่ชุดเจ้าสาวคงไม่เวิร์คหรอก” ผมตอบพลางนึกขำ แต่สีหน้าที่จริงจังของพี่ทองก็ทำให้ความขำมันหายไป เหลือเพียงแต่หัวใจที่กำลังเต้นโครมครามอย่างห้ามไม่อยู่
“ผมจริงจังนะครับคุณ ไม่เล่นแล้วนะตอนนี้”
อ่า...สถานการณ์แบบนี้ผมควรทำตัวยังไงดี ควรวางมือไว้ตรงไหน
“ตามใจเฮีย ผมโอเคอยู่แล้วล่ะ” พี่ทองยิ้มกว้าง พร้อมกับยื่นมือมาตรงหน้า
“ขอมือ”
“ผมไม่ใช่หมานะ”
“บอกแล้วไงว่าไม่เล่น”
“โอเค” นานๆ ทีเขาถึงจะดุ ผมถึงได้ยกมือไปวางบนมือเขาอย่างว่าง่าย พี่ทองล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงก่อนจะหยิบแหวนที่ทำมาจากทองคำสวมเข้าที่นิ้วนางข้างซ้ายของผม
“ขโมยมาอีกรึเปล่า”
“เปล่า ม๊าให้มาฟรีๆ แค่บอกว่าจะเอาไปขอลูกสะใภ้ ม๊าก็รีบไปหยิบจากในร้านมาให้แทบไม่ทัน”
“ฮ่าๆ เว่อแล้ว”
“จริงๆ นะ”
“ครับ” ผมมองหน้าพี่ทอง ก่อนจะยกนิ้วขึ้นมาพิจารณา “มันหนักไปไหมครับเฮีย คงหลายบาทด้วย กลัวหาย”
“ก็คิดซะว่าเป็นหัวใจของเฮียสิ ชงโคจะได้ไม่กล้าทำหาย”
“อ่า...เฮียทำให้ผมเขินนะรู้ไหม”
“อยากให้เขินไง เลยทำ หึหึ”
รอยยิ้มกับเสียงหัวเราะของพี่ทองนี่เป็นอะไรที่ผมชอบจริงๆ
“เฮีย”
“ครับ”
“ไม่ต้องจัดพิธีอะไรหรอกนะ ผมไม่อยากให้วุ่นวาย แค่กินข้าวกันภายในครอบครัวก็ได้แล้วก็เชิญเพื่อนๆ แค่นั้นพอ”
“อื้ม ตามใจ แค่ชงโคโอเค อะไรก็ได้ทั้งนั้น งั้นเดี๋ยวเฮียโทรบอกม๊าเลยนะ ให้ม๊าเตรียมไปคุยกับลุงพิภพให้”
“โอ้ย ไม่ต้องเร็วขนาดนั้นก็ได้”
“ทำไมล่ะ เฮียอยากให้ม๊ารู้เรื่องเร็วๆ นี่นา” ทำหน้ามุ่ยก็ยังน่ารัก เป็นอย่างนี้ผมคงไปไหนไม่รอดแล้วล่ะ
“อยู่ดูพระอาทิตย์ตกกับผมก่อน ดึกๆ ค่อยโทรก็ได้”
“แฮ่ ตื่นเต้นไปหน่อย โทษทีครับ”
ผมส่ายหน้ายิ้มๆ ก่อนจะจับมือพี่ทองไว้ เขาหันมายิ้มให้ ก่อนจะมองภาพพระอาทิตย์ตกไปพร้อมๆ กับผม และตอนนี้มันก็เป็นภาพที่ดีที่สุดในความทรงจำ
พ่อครับ แม่ครับ วันนี้ผมมีความสุขมากจริงๆ ขอบคุณที่ให้ชีวิตกับผม ขอบคุณที่ให้ผมได้เกิดมา แล้วก็ได้พบกับผู้ชายที่อบอุ่นคนนี้ แม้เขาจะไม่ได้สมบูรณ์แบบและติ๊งต๊องไปบ้าง แต่เขาก็เป็นผู้ชายที่ทำให้ชีวิตของผมไม่รู้สึกขาดอะไร เขายังรักษาสัญญาที่ให้กับพ่อไว้ สัญญาที่จะดูแลผม...ถึงผมจะไม่รู้ว่ามันจะตลอดไปไหม แต่ผมก็เชื่อว่าเขาจะไม่ทิ้งผมไปไหนแน่นอน
“เฮีย”
“หืม”
“พรุ่งนี้มาดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกันนะ”
“จะตื่นไหวเหรอ ที่เฮียคิดไว้นี่คือจัดหนักถึง... โอ้ยยยย!”
ถ้าไม่หยิกแรงๆ คงไม่ใช่ผมแล้วล่ะครับ จะตอบให้มันโรแมนติกหน่อยไม่ได้รึไงเล่า!
“ตอบใหม่!”
“จ่ะที่รัก พรุ่งนี้เช้าๆ มาด้วยกันนะ แฮ่ๆ”
“ก็แค่นี้”
“ดุจังเลย แต่ก็รักนะครับ ขอกอดหน่อยเร็ว”
ผมกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่ ก่อนจะยอมซุกตัวในอ้อมกอดของเขาอย่างเต็มใจ
“รักเหมือนกัน”
พูดก็บ่อยแต่ไม่เคยเบื่อ ผมแปลกใจจริงๆ นะ แล้วถ้าหากในอีกสิบปีหรือยี่สิบปีข้างหน้า...ผมจะเบื่อรึเปล่า จะยังคงอยากฟังอยู่ไหม ...ก็คงไม่มีใครรู้ได้ คงต้องลองดูกันไปเรื่อยๆ
แต่ถึงอย่างนั้นในวันนี้ผมก็แน่ใจแล้วว่า นอกจากพี่ทองแล้ว...ผมไม่ต้องการใครอีก
The endhttp://ask.fm/TCHONG_K < ask

จบแล้วค่ะะะะะะะ จบแล้ววววววววววววววววว

มาถึงตอนนี้คงต้องบอกได้คำเดียวว่า ขอบคุณมากๆ เลยค่าาาาาา ที่ตามอ่านกันมาตลอดระยะเวลาสองเดือนกับอีกเก้าวัน ทั้งคำติชม ทั้งความรักที่มีต่อตัวละคร มันทำให้คนเขียนอย่างเรามีความสุขทุกครั้งที่ได้อ่านความคิดเห็น
สุดโต่ง << แรงบันดาลใจคงมาจากการได้นั่งดูชินจังแล้วเกิดนึกขึ้นมาว่าถ้าเด็กแบบนี้โตขึ้นจะเป็นคนยังไงวะ แล้วก็กลายเป็นจากพี่ทองคนบ้า มาเป็นผู้ชายอบอุ่นที่พร้อมจะแบกรับทุกความเจ็บปวดของชงโค
สุดท้ายแล้วอยากถามแค่ว่า ในเรื่องนี้ใครที่สุดโต่ง ขาดความพอดีคะ?

ปล. ตอนพิเศษนี่ให้เป็นคู่ๆ เลยค่ะ เลือกอ่านหรือไม่อ่านก็ได้
แล้วพบกันใหม่ค่ะ
