ปล.ด้วยรักและคิดถึง#รักคงยังไม่พอ
“แค่เอากัน ถ้าอยากก็มา เสร็จแล้วก็จบ อย่าบอกนะว่ามึงมีใจ”
ถ้าสิ่งนี้เรียกว่าความเจ็บปวดสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้หลาย ๆ ครั้ง ที่หยกหาเหตุผลของการเปลี่ยนไปไม่เจอของคนที่อยู่ตรงหน้า คงเรียกว่าความเจ็บปวดที่ยิ่งกว่า
ทั้งที่รู้สึกถึงความรัก
ทั้งที่รู้ว่ารัก
แต่ทำไม ท่าทีของไอ้กัสถึงได้เปลี่ยนไปจนน่าตกใจขนาดนี้ หยกก็ตอบไม่ได้
มันคล้ายจะเป็นการเล่น แต่มันก็จริงจังเกินกว่าจะเล่น
ท่าทางที่แปลกไปขนาดนั้น หยกไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นจากอะไร
เหตุผลล่ะ
"พี่ทำอะไรผิดวะ มึงอยากได้อะไร มึงจะเอาอะไร อยากให้พี่ทำอะไรมึงพูดสิ ทำไมมึงทำแบบนี้ ทำไมมึงพูดกับพี่แบบนี้กัส"
พยายามทุกวิธีแล้ว หาทุกวิธีมาพูด ทำทุกอย่างเพื่อให้อีกฝ่ายรู้ ว่าไม่ว่าอะไรที่พอจะทำได้ ก็จะทำให้ ขอแค่บอก ขอแค่คุยกันด้วยเหตุผล ไม่ใช่คุยกันด้วยอารมณ์ที่สับสนว้าวุ่นขนาดนี้
ทำไมถึงทำตัวเปลี่ยนไป ทำไมทำเหมือนเย็นชา ทำไมถึงเกรี้ยวกราดโมโหใส่แบบไร้เหตุผล ทั้งที่มันไม่เคยเป็นแบบนี้
ใช่ที่กัสมันเป็นแบบนี้ในช่วงแรก แต่หลังจากนั้นไม่เคยมีอีกเลย
หยกพยายามแล้ว
พยายามทำหมดทุกอย่างแล้ว
พยายามหาคำตอบ พยายามหาเหตุผลของการเปลี่ยนไป แต่ถามเท่าไหร่ ไม่เคยได้คำตอบ
ปกติแล้ว มันจะไม่มาหาเด็ดขาด แต่พักหลังมันมาหาตลอด
มาหาอย่างสม่ำเสมอ การมีสัมพันธ์ทางกายกันเพื่อบอกรัก มันไม่ใช่เรื่องผิดอะไร
และหยกก็รู้ว่าเราเข้าใจกันมากขึ้น รักกันมากขึ้น
แต่หลังจากนั้นล่ะมันคืออะไร
เราทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร หยกก็ตอบไม่ได้
หยกไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเอาเรื่องอะไรมาทะเลาะกับหยกนักหนา
เหมือนมันหาเหตุให้เราต้องทะเลาะกัน หาเรื่องให้เราบาดหมางกัน
หยกหาคำตอบไม่เจอว่าทำไม
ทั้งที่เรารักกันแท้ ๆ และก็เข้าใจกันมากด้วย แต่ทำไมกัสถึงพยายามจะทำให้เกลียด
หยกไม่เข้าใจ
ไม่เข้าใจอะไรเลย
หยกเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่งที่มีขีดจำกัดของความอดทน
และในวันที่ผู้ชายใจเย็นหมดความอดทน ทุกอย่างก็พัง
“กูจะไปเมืองนอก พ่อกูได้งานที่นั่นไม่เกินสองสัปดาห์นี้กูคงต้องไป”
มันเป็นแค่คำขู่ ที่หวังผลเพียงแค่อยากให้อีกฝ่ายรู้สึกอะไรบ้าง
แค่อยากให้มันคิดให้มาก ๆ อยากให้คิดบ้าง ว่าถ้ายังไม่หยุดทำตัวไร้เหตุผล หยกก็โมโหเป็นเหมือนกัน
“แล้วมาบอกกูทำไม กูไม่ได้อยากรู้”
แล้วสิ่งที่หยกไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เป็นใครก็ต้องช็อค ได้ฟังแบบนั้น เป็นใครก็ต้องอึ้ง
นอกจากไม่สนใจแล้ว หยกยังรู้สึกว่าอีกฝ่าย ต้องการให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น
ทำไมวะ ทำไมถึงได้พูดขนาดนี้ ทำไมวะ ทำไม
หรือจะคิดไปเองคนเดียว หรือว่าที่ผ่านมา คิดไปเองคนเดียวจริง ๆ
“แค่เอากัน ถ้าอยากก็มา เสร็จแล้วก็จบ อย่าบอกนะว่ามึงมีใจ มึงมันทุเรศว่ะหยก มึงคิดจริง ๆ เหรอ มึงรักกูเหรอ เอากันแค่นี้ มึงคิดว่ากูจะรักมึงกลับเหรอ คิดง่ายไปหรือเปล่า”
หยกถึงกับเซในวันที่ได้ฟังคำพูดนั้น
ทำอะไรไม่ถูก
มือไม้เย็นเฉียบ เหมือนคนโดนตบจนหน้าชา
สายตาที่มองมา มีแต่ความเย้ยหยันเย็นชา
ต่อให้ความอดทนสูงขนาดไหน สุดท้ายหยกก็รู้ หยกเป็นแค่คนธรรมดาที่มีรัก โลภ โกรธ หลง
และวันนั้นคือวันสิ้นสุดความอดทน
หยกเพิ่งรู้ ว่าตัวเองโง่เง่าและบ้าบออยู่คนเดียว ที่ผ่านมากัสมันไม่เคยคิดอะไรด้วยเลยจริง ๆ หรือไง แค่มีอะไรกันแค่นั้น ความห่วงใย ความรู้สึกที่มีให้กันมาตลอดไม่เคยมีค่าและไม่เคยมีความสำคัญอะไรเลย
ความรู้สึกที่มีให้กัน เป็นแค่หยกคิดไปเองคนเดียว
บางทีในวันนั้นน่าจะเฉลียวใจสักนิด ว่าภายใต้ท่าทีแข็งกร้าว มันมีความรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวแฝงอยู่ในแววตาคู่นั้นเสมอ
แต่แปลกที่เมื่อความโง่งมเข้าบังตา ไม่ว่าอะไรก็มองไม่เห็น
ตีความเอาตามใจตัวเอง และไม่เคยรู้สักนิดว่าตัวเองเป็นคนโง่ที่สุดที่ปล่อยให้ไอ้กัสมันหลอกเอาได้
“เคยรักกันบ้างมั้ย”
เคยสงสัยและเคยคิดจะถาม แต่ในวันนี้หมดความสงสัยไปเรียบร้อยแล้ว
“หยก.....มึงรีบหายไปจากชีวิตกูซะทีเหอะ กูเบื่อ กูรำคาญ”
“หาผู้หญิงที่ถูกใจได้ก่อน แล้วจะเลิกใช้บริการ”
โง่ที่สุดที่ตอบออกไปแบบนั้น
โง่ที่สุด
โง่สุด ๆ ที่ทำตัวไม่สมกับที่โตกว่า
โง่ที่สุด ที่ใช้คำพูดประชดประชันโง่เง่าแบบไร้เหตุผล
โง่ที่สุดที่ไม่ยอมสังเกต โง่ที่สุดที่ใช้ความโกรธความโมโหบังตา
เราจบกันในวันนั้น
และกัสก็หายไปจากชีวิตหยกจริง ๆ
จากหนึ่งวันเป็นหนึ่งเดือน และกลายเป็นหลาย ๆ เดือน ที่หยกต้องปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความทุกข์ทรมานกับการรอคอย
แม้จะรู้ข่าว แม้จะรู้ความเป็นไปของอีกฝ่าย แม้จะรอคอย แต่กัสไม่เคยมาหาอีกเลย
ไม่เคยมา
แม้กระทั่งวันที่หยกฝากนิวไปบอก ว่าจะไม่อยู่แล้วจริง ๆ
กัสก็ไม่มา
ไม่ยอมมาหา
หยกรู้ว่าตัวเองพร้อมจะยกเลิกเที่ยวบินทันที แค่เพียงอีกฝ่ายเดินมาบอกว่าอย่าไปเลย
แต่ไม่มีวันนั้น
การรอคอยไม่มีผลอะไรกับความรู้สึกของกัสเลย
หยกกำลังจะไปในที่ ที่ไม่มีความรู้สึกเดิม ๆ จากคนที่ทำร้ายจิตใจหลงเหลืออยู่
แต่คนที่ยืนมองเงียบ ๆ ในวันที่หยกจากไปได้แต่ยืนร้องไห้และเก็บความรู้สึกเจ็บปวดอย่างถึงที่สุดของตัวเองไว้ในใจ
หยกไปแล้ว
หยกไปจริงๆ แล้ว
และหยกไม่กลับมาอีกแล้ว
มองภาพแผ่นหลังของคนที่เดินจากไป และกัสก็ได้แต่ยืนร้องไห้คนเดียวเงียบ ๆ
มันถึงจุดจบแล้ว
มันถึงที่สุดแล้ว
ที่ผ่านมาเป็นเพียงฝันดีที่กัสไม่อยากจะตื่น แต่เมื่อถึงเวลาก็ต้องตื่นขึ้นมาเพื่อพบกับความจริง
หยดน้ำตามากมายเอ่อล้นออกมาตลอดไม่ยอมหยุด และกัสก็กำคันเร่งรถมอร์เตอร์ไซด์เอาไว้แน่น บิดคันเร่งให้ถึงที่สุด และปล่อยให้รถมอเตอร์ไซด์พุ่งทะยานออกไปด้วยความเร็วสูงเท่าที่จะไปได้
ดีใจกับหยกที่จะได้ไปในที่ ที่สูงกว่านี้
แต่เสียใจที่ตัวเองเป็นได้แค่นี้
แค่รัก..........แม้จะมากขนาดไหน แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะเป็นไปอย่างที่หวัง
กัสยกหลังมือขึ้นเช็ดน้ำตา หัวใจเจ็บปวดจนรู้สึกว่ากำลังจะรับไม่ไหว และในชั่วเสี้ยววินาที แสงสว่างวาบจากท้ายรถบรรทุกก็ทำให้กัสตาพร่า
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
เร็วจนไม่ทันได้ตั้งตัว
วินาทีสุดท้ายก่อนที่ความรู้สึกทั้งหมดจะดับวูบลง มีเพียงความฝันที่ล่องลอย อบอวลในอากาส
พ่อครับ กัสรักพ่อ
อาครับ กัสรักอา
หยก.........กูรักมึงมากนะ รักมากที่สุด รักแบบไม่เคยรักใครมาก่อน รักจนไม่รู้จะพูดออกมายังไง แต่กูต้องไปแล้ว
แม่................รอกัสนะ กัสจะไปหาแล้ว
แม่........... กัสไม่ต้องทุกข์ใจอีกแล้ว กัสจะไปอยู่กับแม่ กัสจะไปนอนหนุนตักแม่
กัสรักแม่ที่สุดนะครับ
ดวงตาปิดลงแล้ว และความรู้สึกทั้งหมดก็ดับวูบลงเมื่อร่างกายร่วงหล่นลงกระแทกพื้นถนน
เสียงไซเรน เสียงพูดคุย เสียงตะโกน ท่ามกลางความสับสนอลหม่านที่เกิดขึ้น และผู้คนที่มุงดู ไม่ทำให้ร่างที่ไร้สติรู้สึกรู้สาอะไรอีก
"กลับมากัสลูก กลับมาหาพ่อ มึงอย่าทิ้งพ่อไปแบบนี้ กัส ลูก ฮือออออออ"
เสียงของพ่อไปไม่ถึง
เสียงของใคร ๆ ก็ไปไม่ถึง
ทุกอย่างสงบนิ่งไร้การตอบสนอง
หยกมองออกไปภายนอก เห็นเพียงความมืดมิดของท้องฟ้า และมีเพียงอาการเจ็บร้าวที่เกิดขึ้นภายในอกอย่างรุนแรงและหยกก็ได้แต่หลับตาลงอย่างช้า ๆ พร้อมกับความเจ็บปวดของหัวใจที่ยังเกิดขึ้นไม่ยอมหยุด
สิ่งที่หยกคิด มีเพียงเรื่องเดิม ๆ ของคนใจร้าย ที่ทำร้ายจิตใจกันได้ลงคอ
โชคดีกัส ขอให้มึงโชคดี
พี่คงไม่ได้เกิดมาเพื่อให้มึงรัก
เราคงไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นของกันและกัน เราคงไม่ได้เกิดมาเพื่อจะอยู่ด้วยกันตลอดไป
TBC.