[เรื่องสั้น] ลิขิตรัก **ตอนที่11 13/06/2557 p.4 01:11 น. จบแล้วค่าาาาา^^
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] ลิขิตรัก **ตอนที่11 13/06/2557 p.4 01:11 น. จบแล้วค่าาาาา^^  (อ่าน 19259 ครั้ง)

ออฟไลน์ THE KOP

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0
                                                          ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ด กรุณาอ่านทุกคน
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วย

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-06-2014 01:09:21 โดย THE KOP »

ออฟไลน์ THE KOP

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0
Re: [เรื่องสั้น] ลิขิตรัก **INTRO 1/05/2557
«ตอบ #1 เมื่อ01-05-2014 20:55:46 »

                                                                       INTRO

"ฮ๊า ฮา ฮึก ฮ่า”

เสียงหอบหายใจดังก้องทั่วห้อง ทั้งเสียงหายใจของผมเองแล้วก็อีกคนที่ทาบทับตัวผมอยู่โดยที่พึ่งผ่านบทรักบนเตียงไปหมาดๆ สดๆร้อนๆชนิดที่ว่าส่วนนั้นของใครบางคนยังเชื่อมอยู่ในตัวผมเลยล่ะ

“หนัก”

หลังจากที่หอบหายใจไปซักพักจนตอนนี้ผมกลับมาหายใจอย่างปกติคนที่อยู่ข้างบนก็ยังไม่ถอยออกไป ถึงจะไม่ได้ทาบทับผมมาทั้งตัวแต่ก็หนักไม่ใช่น้อยเลยนะครับ พอผมเอ่ยออกไปร่างสูงนั้นก็เคลื่อนตัวลงนอนข้างๆตวัดผ้าห่มที่กองอยู่ปลายเตียงมาคลุมร่างเปลือยเปล่าของเราทั้งสองคน แต่ก็ยังไม่วายที่จะดึงผมเข้าไปกอดซึ่งผมไม่ปฏิเสธอ้อมกอดอุ่นๆนี้แน่นอน

“ชื่ออะไร?...กูถามว่ามึงชื่ออะไร!”

เสียงผมตะคอกถามออกไป ทุกคนอ่านคำถามไม่ผิดหรอกครับ ผมถามว่ามันชื่ออะไรนั่นแหละ ก็อยู่ดีๆผมก็โดนมันลากเข้ามาที่ห้องๆนี้เนื่องจากผมจะเดินไปเข้าห้องน้ำที่ผับแห่งนี้ตอนซักประมาณตี2ได้ แล้วมันก็โผล่ห่ามาจากไหนก็ไม่รู้มาลากผม ผมก็ดิ้นก็โวยวายนะครับแต่มันแรงอย่างกับควายรู้ตัวอีกทีมันก็พาผมมาที่ห้องนี้ละ พอปิดล็อคประตูปุ๊บมันก็จู่โจมจูบผมปั๊บ ผมไม่ใช่คนไร้เดียงสาอะไรขนาดนั้นแต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าไอ้บ้านี่มันจูบโคตรของโคตรเก่งเลย ทำเอาผมเคลิ้มซะง่ายๆ หลังจากนั้นผมก็สติกระเจิงจนกู่ไม่กลับจากสัมผัสของมันจนได้แต่ยอมอ่อนระทวยตกเป็นของมันโดยที่ไม่ทันได้คิดได้ปฏิเสธอะไรซักคำ แต่อะไรบางอย่างก็ไม่รู้ที่ทำให้ผมยอมเป็นของมัน อาจจะด้วยสัมผัสที่เร่าร้อนจนยากจะปฏิเสธ ผมเห็นหน้ามันแค่เลือนรางเพราะตอนที่มันลากผมมาจากตรงนั้นมันค่อนข้างมืดแล้วตอนเข้ามามีอะไรกันในห้องนี้มันก็ไม่ได้เปิดไฟ แต่จากที่ผมสัมผัสมันน่าจะสูงมาก หุ่นก็ดีมากๆ ผมรู้ว่ามันมีซิกแพ็คเลย มันไว้ผมสั้นด้วยครับ แต่แม้จะมองไม่เห็นหน้าแต่ผมก็สัมผัสได้ตอนที่มีอะไรกันแล้วเห็นว่ามันมองหน้า สายตาที่ส่งมามันทำให้ผมบอกไม่ถูกแม้ว่าจะมองไม่เห็นก็ตาม ผมรู้สึกได้ถึงอำนาจของสายตาที่ส่งมาในความมืด รู้สึกเหมือนผมพึ่งพามันได้...

“คลิน”

กว่าจะตอบผมมาได้ เสียงมันก็ดูดีเลยครับ...เหมือนจะหล่อด้วย><

“คลิน...อ้อ กูชื่อแอลนะ!”

“อืม”

“อืมอะไร มึงได้กูขนาดนี้พูดแค่อืมหรอ ไม่คิดจะถามอะไรกูเลยรึไง ฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!”

ผมดิ้นจากอ้อมกอดมันก่อนจะกระหน่ำฟาดมือไปตามหน้าอกมัน ไม่ได้ได้แค่รอบเดียวนะครับตั้ง5-6รอบอ่ะ แต่แค่แป๊บเดียวมันก็รวบมือผมไว้ได้ทั้งสองข้างแล้วครับ จากนั้นผมกับมันก็จ้องหน้ากันผ่านความมืด ผมไม่ยอมปล่อยมันหรอกนะ ไม่ว่ามันจะเป็นใคร หน้าตา การศึกษา ฐานะอะไรก็ตาม มันได้ผมแล้วนะครับ พูดง่ายๆคือมันเป็นผัวผม ผมตกเป็นเมียมัน จะให้แบบน้ำแตกแล้วแยกทางนี่ผมไม่ยอมเด็ดขาด ผมไม่ใช่อีตัวนะ!
“แล้วจะให้กูถามอะไร จะให้ถามว่าทำไมกูถึงเป็นคนแรกของมึงรึไง”
“มึงรู้?!?”
ผมไม่นึกว่ามันจะรู้เรื่องนี้ โอเค..ผมไม่เคยมีอะไรกับใครมาก่อน แต่ผมก็ไม่ได้ซื่อ ไม่ได้ไร้เดียงสา ผมก็ไม่ได้คิดว่าการมีเซ็กส์มันเสียหายหรืออะไรแต่ผมก็ไม่ใช่คนที่ง่ายกับใครก็ได้ ที่ผ่านมาผมคิดว่ามันยังไม่ใช่ มันยังไม่มีคนที่ผมจะพร้อมให้ร่างกายไป จนมาเจอมัน...คนที่ผมไม่รู้จัก ไม่เห็นแม้แต่หน้า แต่ความรู้สึกของผมกลับบอกว่าคือมัน ความรู้สึกที่ว่าคนๆนี้แหละโดยที่ผมเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน

“หึหึ”

“ไอ้เหี้ย มึงรู้ได้ไง บอกกูมานะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”

“ก็จะไม่รู้ได้ไง มึงเล่นตัวสั่นขนาดนั้น บอกกูว่าเบาๆเป็นสิบๆรอบ แล้วตอนที่กูใส่เข้าไปก็ผวากอดกูซะแน่นเชียว...ไหนจะช่องทางที่คับแน่นจนกูแทบขยับไม่ได้นั่นอีก” เสียงทุ้มพูดขึ้นเรียบๆทำเอาผมอายเลย ไอ้เหี้ยเอ้ย! บรรยายซะเป็นฉากๆจนผมต้องรีบไล่ภาพที่ปรากฏขึ้นในสมองอย่างรวดเร็ว>/////<

“เออ รู้ว่าเป็นคนแรกของกูก็ดี..กูเป็นเมียมึงแล้วมึงก็ต้องรับผิดชอบกูด้วย เข้าใจไหม!”

มันคลายมือที่จับข้อมือผมออกแล้วขยับมากอดจนผมต้องกอดมันตอบ

“นอนได้แล้ว กูง่วง”

“ไม่ มึงต้องตอบกูก่อนว่าจะรับผิดชอบกู" เงียบบบบบบ

“ตอบกูสิ ตอบกูมาๆๆๆๆๆๆๆ”

“ถ้ามึงไม่หุบปากแล้วนอน กูจะไม่รับผิดชอบมึง แล้วมึงก็จะไม่ได้เห็นหน้ากูอีก”

“ไอ้เหี้ย!!!!!”

หลังจากนั้นผมก็เงียบสิครับ ไอ้เวรนี่ขู่ซะผมกลัวเลย คิดจะฟันผมแล้วทิ้งน่ะไม่มีทางหรอกนะครับ ผมไม่ยอมมันเด็ดขาด แต่ตอนนี้ผมรีบนอนก่อนดีกว่าเกิดมันหนีผมไปอย่างที่พูดนี่ไม่โอนะครับ

                   ---------------------------------------------------------------------------------------------------------

มาลงอินโทรไว้ก่อนนะคะ เดี๋ยวจะมาลงอีกตอนดึกๆ ชอบไม่ชอบยังไงก็บอกกันด้วยน้าาาาาาา~ มีอะไรติชมก็บอกมาได้เลย จะพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้นค่ะ...ขอบคุณสำหรับคนที่เข้ามาอ่าน แค่มีคนอ่านซักคนก็ดีใจจะแย่แล้ว><

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
Re: [เรื่องสั้น] ลิขิตรัก **INTRO 1/05/2557
«ตอบ #2 เมื่อ01-05-2014 21:02:10 »

 :hao6:

เจิมเรื่องใหม่ค่า

ernnnxx

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] ลิขิตรัก **INTRO 1/05/2557
«ตอบ #3 เมื่อ01-05-2014 21:09:27 »

/ลงยันต์รอบเรื่อง

เปิดมาได้ลุ้นระทึกมาก ฉันรักเธอตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้า  :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: [เรื่องสั้น] ลิขิตรัก **INTRO 1/05/2557
«ตอบ #4 เมื่อ01-05-2014 23:40:56 »

รออ่านตอนใหม่จ้า

ออฟไลน์ mtd

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
Re: [เรื่องสั้น] ลิขิตรัก **INTRO 1/05/2557
«ตอบ #5 เมื่อ01-05-2014 23:49:23 »

หุ่นก็ดี เสียงก็หล่อ หน้าต้องผ่าน!! #ตรรกะอะไร 555
ชอบที่น้องแอลเรียกร้องให้คลินรับผิดชอบ
ถูกแล้วลูกทำต่อไป  :katai2-1:

ออฟไลน์ THE KOP

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0
                                                                  ตอนที่ 1
ผมรับรู้ได้ถึงแสงแดดที่ลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาจึงปรือตาขึ้นจากการนอนอันแสนสุข แล้วสิ่งที่ผมเห็นคือแผ่นหลังกว้างที่มีกล้ามเนื้อเรียงตัวสวยงามและเรียบเนียนของคนที่นั่งอยู่ปลายเตียง ผมกอดผ้าห่มไว้กับอกแล้วค่อยๆคลานเข้าไปหามันด้วยร่างกายที่โคตรระบมช่วงล่างจนเห็นว่าคนที่นั่งหันหลังกำลังเล่นเกมส์แข่งรถอยู่

“นี่ๆ”

ผมสะกิดที่หลังมันเบาๆ เห็นมันหยุดเกมส์แล้วเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงยีนส์สีดำที่มันใส่อยู่ พอมันลุกขึ้นผมก็รู้เลยว่ามันสูง สูงมากๆอ่ะสำหรับผม ผมสูงแค่168เองแต่มันน่าจะสูงซัก185เห็นจะได้ หลังจากนั้นมันก็หันทั้งหน้าทั้งตัวมาหาผม แล้ววินาทีที่เราสบตากันบอกตรงๆว่าผมโคตรอึ้งเลย หล่อใช้ได้แฮะ!

“ตื่นแล้วก็ไปอาบน้ำ เสื้อผ้ากูเตรียมไว้ให้แล้ว”

อึ้ง ยังอึ้งอยู่ครับ มันหล่อจริงๆนะ ถึงจะไม่ได้หล่อมากลากไส้อะไรขนาดนั้น แต่แบบ...มันดูดีอ่ะ ใครที่เห็นก็ต้องหันกลับมามองอีก หน้าตามันจะออกไปทางคมๆมากกว่า ดวงตาเฉียบคมดูดุไม่น้อย จมูกโด่งเป็นสัน ไหนจะปากสีซีดๆนั่นอีก แล้วก็อาจจะเพราะใบหน้าเรียบๆที่ไม่ได้บ่งบอกอารมณ์ยิ่งทำให้ดูหน้าค้นหามากขึ้น และอีกหนึ่งความคิดที่เข้ามาในหัวคือมันลากผมมาทำไม หน้าตาขนาดนี้ไม่น่าจะขาดแคลนอะไรขนาดนั้นนะ==

“หรือว่าลุกไม่ไหว?”

“ห๊ะ เอ่อ...เปล่าๆ”

ผมตอบรับไปอย่างลืมตัว แต่พอพูดออกไปแล้วก็เลยต้องลุกขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ อื้อหือ...ขาสั่นเลยครับ ช่วงล่างปวดจนแทบกระดิกตัวไม่ได้ ผมเลยได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นโดยที่ไม่ได้ขยับไปไหน สองมือก็กอดกระชับผ้าห่มแน่น กำลังจะลองก้าวเท้าลงจากเตียงตัวผมก็ลอยวืดไปอยู่ในอ้อมกอดของมันซะก่อน ผมตกใจจนรีบเอามือนคล้องคอมันอย่างรวดเร็วเพราะกลัวตก แล้วมันก็พาผมเดินเข้ามาในห้องน้ำโดยที่ไม่ได้พูดอะไรก่อนที่จะวางผมลงตรงอ่างล้างหน้า

“ถ้าทำธุระเสร็จแล้วก็บอกกู”

“อะ อืม”

แล้วมันก็เดินออกไปให้ผมได้จัดการตัวเอง ดีนะที่อ่างล้างหน้าไม่ได้สูงมากนักไม่งั้นผมคงแย่แน่เลย พอผมยืนได้น้ำเหนียวๆของมันก็ไหลลงมาตามขามากขึ้นจนแฉะไปหมด
 
“เห้อ แล้วกูจะเอาออกยังไงวะเนี้ย”

ถึงทฤษฎีที่ผมรู้จะมากมายเต็มหัวแค่ไหนแต่ผมก็ไม่เคยปฏิบัติจริง แต่ยังไงผมก็ต้องเอาออกเองอยู่ดีเพราะถ้ามันจะมาเอาออกให้ผมก็ไม่ยอมหรอก แค่นี้ก็อายจะแย่แล้ว>< ผมใช้เวลาจัดการกับน้ำเหนียวๆนั่นนานพอควรเลยครับ เพราะแค่แตะๆไปที่ส่วนนั้นยังเจ็บเลยกว่าผมจะกลั้นใจล้วงเข้าไปทำความสะอาดได้นี่ถึงขั้นร้องไห้เลย ทั้งแสบทั้งเจ็บTT พอเสร็จผมก็จัดการอาบน้ำล้างตัวให้เรียบร้อย ดีที่ที่นี่มีให้ครบทุกอย่าง ดูเหมือนว่าจะเป็นของใหม่หมดเลยเพราะทุกย่างล้วนยังไม่ได้แกะใช้ด้วยซ้ำ แต่พอเดินส่องกระจกก็ต้องช็อค รอยจ้ำๆเต็มตัวผมเลยครับ หนักมากๆจะอยู่แถวๆหน้าอกที่คอก็มีบ้างแต่ไม่ได้เยอะมากมายเท่าไหร่มีสองสามรอย แต่ใต้ร่มผ้านี่อื้อเลยครับ แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี ไม่ได้โทษมันหรอกครับเพราะส่วนหนึ่งก็มาจากผมเองแหละ สำรวจตัวเสร็จก็ใส่ชุดคลุมอาบน้ำแล้วก็เดินไปเคาะประตูห้องน้ำฝั่งตัวเองเพื่อบอกคนข้างนอกว่าผมเสร็จแล้ว ซักพักมันก็เปิดประตูเข้ามา

“กูอาบน้ำเสร็จแล้ว”

แล้วมันก็เดินเข้ามาอุ้มผมเหมือนตอนพาเข้ามาก่อนจะวางผมลงปลายเตียง

“เสื้อผ้ากูเตรียมให้แล้ว แต่งตัวให้เรียบร้อยซะ กูเข้าไปอาบน้ำก่อน”

พูดเสร็จมันก็เดินเข้าห้องน้ำไป ผมมองมันจนเห็นประตูห้องน้ำปิดลงจึงหันมาจัดการตัวเอง มันวางเสื้อผ้าไว้ริมเตียงให้โดยที่ป้ายยังไม่ได้แกะแถมมีกางเกงในให้ด้วย เป็นชุดเสื้อแขนยาวสีเหลืองกับกางเกงขาสั้นสีขาวพอดีตัว พอได้อาบน้ำก็รู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมมากเลยครับ แต่งตัวเสร็จก็มานั่งพิงหัวเตียงรอมันจน พอถึงเตียงผมก็แทบจะหลับเลยครับ ทั้งรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวแล้วก็ง่วงมากๆด้วย

แก๊ก~

เสียงเปิดประตูดังขึ้นทำให้ผมปรือตาขึ้นมามองอย่างยากลำบาก มันอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำหัวก็เปียกจากการสระผม

“ถ้าง่วงก็หลับไปเลยเดี๋ยวเสร็จแล้วกูปลุก”

พอมันพูดอย่างนั้นผมก็เลยหลับตาลงอย่างรวดเร็วเลยครับรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มันวางผมลงในรถแล้ว

“บ้านมึงอยู่ไหน”

“หมู่บ้านXXX แถวๆ......ซอยYYY บ้านหลังที่5ฝั่งขวามือ หลังสีครีม มีหลังเดียวแหละ”

พอบอกมันเร็จผมก็นอนต่อทันที เพลียมากๆอ่ะครับไม่สนด้วยว่ามันจะไปถูกหรือไม่ถูก หลับไปนานแค่ไหนก็ไม่รู้จนได้ยินเสียงมันเรียกชื่อพร้อมกับเขย่าตัวเบาๆ ทำให้ผมต้องลืมตาขึ้น

“ใช่หลังนี้ไหม”

ผมหันไปตามมือมันแล้วก็เห็นว่าเป็นบ้านของตัวเองจึงพยักหน้ากลับไปเบาๆ ตายังตื่นไม่เต็มเลยครับ สติยังคงไม่เข้าที่เข้าทางเท่าไหร่ ผมก็ยังนั่งเบลอๆอยู่อย่างนั้น ลืมว่าถึงบ้านแล้วก็ต้องลง แต่ก็เห็นมันเอื้อมตัวไปที่เบาะหลังหยิบกระเป๋าเป้ภายข้างใบไม่เล็กไม่ใหญ่มาวางไว้ที่ตักผม ผมก็มองงงๆ

“นี่พวกเสื้อผ้าของมึง โทรศัพท์ กระเป๋าตังค์ก็อยู่ในนั้น เบอร์กูกูก็เมมให้แล้ว”

“อืม”

“ไหวไหม”

มันขยับเข้ามาเอามือวัดไข้ที่หน้าผากผมแล้วก็แตะไปตามซอกคอ เสียงที่ทอดส่งผ่านมาแล้วก็แววตาของมันดูอ่อนลงเล็กน้อย

“ไหว” ผมตอบออกไปเสียงเบา พอเป็นไข้สมองก็ดูตื้อไปหมด มันลูบหน้าลูบตาผมเบาๆ เอามือเสยผมที่ปรกหน้าผมขึ้นไป

“เดี๋ยวกูเข้าไปส่ง”

“อืม”

ผมตอบรับกลับไป ภายกระเป๋าเป้ที่มันให้ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถแล้วมันก็อ้อมมาทางผมหลังจากที่ผมได้ยินเสียงล็อครถเบาๆ

“เดินไหวไหม? หรือจะให้กูอุ้ม”

“หืม ไม่ๆ กูเดินไหว”

ผมรีบปฏิเสธอย่างรวดเร็ว ร่างกายผมยังไม่ได้แย่ขนาดนั้น ยังพอเดินไหวอยู่ครับ ผมค่อยๆเดินไปกดกริ่งหน้าบ้านให้คนข้างในมาเปิดให้ พ่อกับแม่ผมไม่อยู่หรอกครับไปดูงานที่สิงคโปร์ ผมเองก็เป็นลูกคนเดียวเลยไม่มีพี่น้องบ้านทั้งหลังเลยเหลือผมอยู่กับพวกแม่บ้านแล้วก็คนงานเท่านั้น

“อ้าวคุณแอล กลับมาแล้วหรอคะ ป้านึกว่าจะนอนที่คอนโดซะอีก”

ป้าสาเป็นคนเดินมาเปิดประตูให้ครับ เป็นคนเก่าคนแก่ของที่นี่แล้วก็เป็นคนเลี้ยงผมมาด้วยครับ ส่วนคอนโดที่พูดถึงคือคอนโดแถวๆมหาลัยครับ ผมมีเผื่อช่วงไหนเรียนหนักหรือมีเหตุสุดวิสัยก็จะไปนอนที่นั่น บางทีผมก็หายไปเฉยๆโดยไม่บอกใครเพราะฉะนั้นเมื่อคืนที่ผมไม่ได้กลับบ้านทุกคนคงคิดว่าผมค้างที่คอนโดตามปกติ

“เปล่าฮะป้าสา แอลไม่ได้จะค้างที่คอนโด”

“อ๋อค่ะ งั้นก็เข้าบ้านเถอะค่ะ คุณแอลดูหน้าซีดๆ แต่เอ๊ะ...นั่นใครหรอคะ”

ผมหันกลับไปมองคนที่ยืนซ้อนหลังอยู่เล็กน้อย

“รุ่นพี่ของแอลน่ะฮะ”

“สวัสดีครับ” มันยกมือขึ้นไหว้ป้าสา

“ไหว้พระเถอะค่ะคุณ เข้าบ้านกันดีกว่านะคะ มาค่ะคุณแอลเดี๋ยวป้าถือกระเป๋าให้”

“ไม่เป็นไรฮะป้า งั้นแอลเข้าบ้านก่อนนะ”

“ค่ะๆ”

ผมหันมาหาคนที่อยู่ข้างหลังแล้วก็บอกลามัน

“กูเข้าบ้านละ ขับรถดีๆล่ะ บายยยยย”

“กูบอกว่าจะเข้าไปส่ง”

“หืม?”

ผมนึกว่ามันจะแค่มาส่งหน้าบ้านซะอีก ผมยังไม่ทันจะได้พูดอะไรมันก็เอื้อมมือมาคว้ามือผมเดินเข้าบ้านโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง ป้าสาแยกไปทำงานของแกแล้วครับทำให้หน้าบ้านมีแค่ผมกับมัน มันลากผมจนเข้ามาในตัวบ้านแล้วเดินขึ้นชั้นสองโดยไม่ลังเลเลย

“ห้องมึงอยู่ตรงไหน”

“ขวามือ เดินตรงไปจนสุดอยู่ต่อหน้าเลย”

ไม่มีเหตุผลที่ผมจะปิดบังหนิครับ ขนาดนี้แล้ว แล้วผมก็เพลียมากด้วย อยากนอน อยากถึงห้องเร็วๆ พอมันมาถึงแล้วเปิดประตูเข้าไปผมก็รีบพุ่งลงเตียงทันที ได้ยินเสียงมันปิดประตูเบาๆ ก่อนที่มันจะเป็นคนตามมาเอากระเป๋าออกจากตัวผม ผมไม่ได้สนใจลืมตาขึ้นมามองด้วยซ้ำว่ามันวางไว้ตรงไหน ร่างกายผมปิดสวิตซ์ตัวเองอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น สัมผัสสุดท้ายที่ผมได้รับคือความรู้สึกอุ่นๆทาบทับลงบนหน้าผากพร้อมผ้าห่มที่ถูกดึงให้ถึงคอก่อนที่ผมจะไม่รับรู้อะไรอีกเลย


                             ------------------------------------------------------------------------------------



มาต่อแล้วนะคะ ขอบคุณมากๆสำหรับทุกคอมเม้นต์เลย แค่มีคนเข้ามาอ่านก็ดีใจมากๆแล้วค่ะ...คอมเม้นต์จะเป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่มากๆที่ทำให้คนแต่งมีแรงที่จะสร้างสรรค์ผลงานต่อไป มีความคิดเห็นยังไงก็ติชมมาได้เลยนะคะ รักคนอ่านทุกคนเลยยยยยยยยยย~

     ***จะพยายามมาต่อทุกวันนะคะ อาจมีเว้นไปว่างถ้ายุ่งจริงๆ แต่มาจนจบแน่นอน

     ***คนแต่งไม่ถนัดเรื่องดราม่า คงไม่มีเศร้าจนน้ำตาไหลบีบหัวใจอะไรขนาดนั้น อาจมีแค่เล็กๆน้อยเท่านั้นนะคะ ไปละค่ะ  :L1: :L1:


ออฟไลน์ KoBKaB

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
มาแจมเรื่องใหม่จ้า น่าสนุก น่าติดตาม

ออฟไลน์ mtd

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
คลินเอ้ยไหนๆก็ไหนๆละ
ดูแลดีขนาดนี้ ยังไงก็รับผิดชอบใช่มั้ย  :z1:
เนื้อเรื่องน่ารักดีค่ะ เป็นกำลังใจให้นะ   :กอด1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :z2: เต้นรอตอนต่อไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ernnnxx

  • บุคคลทั่วไป
คลินไม่ตามลงไปนอนด้วยเลยล่ะ ขนาดนี้และ จะได้ตื่นมาดูแลต่อ
เนื้อเรื่องอบอวลไปด้วยความอบอุ่นมากในความรู้สึก ไม่หวือหวาแต่ทำให้อยากอ่านเรื่อยๆ รอตอนต่อไป  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
มาตามกันต่อค่ะ
ไม่ดราม่านั่นแหละดีแล้ว
กินมาม่ากันจนอิ่ม มีเรื่องเบาๆให้อ่านบ้างจะได้เบาสมอง 5555

ขอบคุณคนแต่งนะคะ

ออฟไลน์ THE KOP

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0
                                                                     ตอนที่ 2
ผมตื่นขึ้นมาอีกทีท่ามกลางความมืดมิด ผมจำได้ว่าตอนที่มันมาส่งผมเป็นเวลาประมาณบ่ายสองได้ ควานหาสวิตซ์ไฟที่หัวเตียงได้ก็กดเปิดทันที ใช้เวลาปรับสายตาแป๊บนึงแล้วก็ค่อยๆลุกขึ้นไปปิดไฟกลางห้อง พอทั้งห้องสว่างก็ไม่เห็นใคร ผมเดินไปดูที่ห้องน้ำเผื่อมันจะอยู่แต่ก็ไม่มี บอกตรงๆว่าผมใจหายเลย หัวใจเหมือนโดนบีบอย่างรุนแรง ผมยังไม่ทันได้รู้อะไรเกี่ยวกับมันที่มากกว่าชื่อเลยเพราะร่างกายและสมองของผมยังไม่พร้อมทำให้ลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวมันเลยนอกจากชื่อ ไม่รู้ว่ามันเรียนอยู่ไหม ถ้าเรียนแล้วเรียนที่ไหนหรือว่ามันทำงานอะไร อายุเท่าไหร่ บ้านมันอยู่ไหน ผมไม่รู้เหี้ยอะไรซักอย่าง ลุกลี้ลุกลนหามันทั่วห้องทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีจนสายตาผมเหลือบไปเห็นเป้ใบหนึ่งที่จำได้ว่ามันเป็นคนให้มาวางอยู่บนโต๊ะคอม ผมพุ่งไปหาอย่างรวดเร็วแต่ก็ยังทันเห็นกระดาษแผ่นนึงที่กระเป๋าวางทับอยู่ ผมหยิบมาดูทันที เห็นตัวหนังสือที่เขียนด้วยความหนักแน่นมั่นคงว่า

กูมีเรื่องที่ต้องรีบไปจัดการเลยต้องกลับก่อน กินข้าวกินยาด้วยกูเตรียมไว้โต๊ะข้างเตียงมึงแล้ว...คลิน
LINE:XXXXXXXXXX
E-Mail:XXXXXXXXXXXXXอย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com
Facebook:XXXXXXXXX  XXXXXXXXX
IG:XXXXXXXXXX
*เบอร์กูอยู่ในเครื่องมึงแล้ว

เห้อ~
ผมถอนหายใจอย่างโล่งอกครับนึกว่าจะโดนฟันแล้วทิ้ง(ถึงผมจะแอบสมยอมก็เถอะ) อาการหายใจไม่ออกเมื่อกี๋ค่อยๆดีขึ้นจนกลับมาเป็นปกติ ผมลองมองไปที่โต๊ะข้างเตียงก็เห็นข้าวต้มกับยาพร้อมแก้วน้ำวางอยู่จริงๆ การกระทำเล็กๆน้อยๆที่ทำให้ผมรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก จะบอกว่าผมตกหลุมรักมันแล้วก็คงยังไม่ใช่ พึ่งเจอกันวันเดียวเอง แต่ไม่รู่สิ...ผมรู้สึกดีกับมันนะ รู้สึกดีมากๆ จากการกระทำหลายๆอย่างวันนี้ทำให้ผมเชื่อว่ามันดูแลผมได้ เพราะถ้ามันจะฟันแล้วทิ้งผมมันก็ย่อมทำได้อยู่แล้ว ไม่รอให้ผมตื่นแล้วมาส่งผมอย่างนี้หรอก(มั้ง) พอได้นอนพักร่างกายผมก็ดีขึ้นมาก ไข้ก็ลดลงบ้างแล้วไม่มึนมากอย่างเมื่อบ่ายๆนี้ ผมค้นหาโทรศัพท์ในกระเป๋านั่นซักพัก มีของของผมอยู่ครบเลยครับ พอเจอโทรศัพท์ก็สไลด์เปิดหน้าจอตอนนี้เวลา 02:51แล้ว อื้อหือ..มีเบอร์ที่ไม่ได้รับจากเพื่อนผมกว่า30สายเลยครับ ผมลืมไปเลยว่าพอผมบอกพวกมันว่ามาเข้าห้องน้ำผมก็หายมาเลย ไลน์กลุ่มเด้งมาอีกเพียบ ป่านนี้ไม่รู้ว่าพวกมันจะเป็นห่วงผมขนาดไหน แต่ว่าเดี๋ยวค่อยไลน์บอกมันดีกว่าว่าผมปลอดภัยดี สิ่งที่ผมตัดสินใจทำก่อนคือการเลื่อนหาชื่อที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่ และแล้วก็หาเจอครับมันเซฟเอาไว้ว่า ‘Klin’ ผมส่งข้อความหามันว่าผมตื่นแล้ว ไม่นานมันก็โทรกลับมา ผมก็เลยเดินกลับมานั่งคุยกับมันที่เตียง

“ฮัลโหล” ผมรับอย่างเร็วอ่ะ><

(ตื่นแล้วไง?) ได้ยินเสียงกุกๆกักๆมาจากมันด้วย

“อือ กูตื่นแล้ว”

(กินยากินข้าวยัง)

“ยัง พึ่งตื่นเมื่อกี๋เอง”

(งั้นก็กินข้าวแล้วก็กินยาซะ แล้วก็นอนพักเยอะๆ พรุ่งนี้วันอาทิตย์มึงไม่มีเรียนอยู่แล้วนี่)

“อือ แล้วมึงทำอะไรอยู่ทำไมยังไม่นอน” ผมถามอย่างอยากรู้

(งาน)

“งานอะไรอ่ะ”

(มึงไม่ต้องรู้หรอกน่า)

“อะไร! กูก็อยากรู้อะไรเกี่ยวกับมึงที่มากกว่าชื่อบ้างหนิ”

(เดี๋ยวกูก็บอกมึงเองน่า เดี๋ยววันหลังจะพามาด้วย มึงไม่ต้องห่วง มึงได้รู้อะไรเกี่ยวกับกูอีกเยอะแน่ๆ)

ผมก็ยังเงียบอยู่ดี นอยส์มัน ก็งานอะไรผมก็อยากรู้บ้างนี่นา ด้วยผมไม่ค่อยสบายเลยทำให้อารมณ์อ่อนไหวง่ายด้วยแหละ

(ไปกินข้าวกินยาแล้วนอนซะ)

“ไม่!!!!” ผมขัดมันขึ้นอย่างรวดเร็วเลย ยังโมโหอยู่ที่มันไม่ยอมบอกผมว่ามันทำงานอะไร

(อย่าดื้อน่า ไปกินยาแล้วก็นอน เดี๋ยวพรุ่งนี้กูไปรับ)

“มารับ! มารับไปไหนอ่ะ” ถามอย่างตื่นเต้นอ่ะ ไม่กงไม่โกรธมันละ

(พรุ่งนี้ก็รู้เองแหละ กูจะเข้าไปหามึงบ่ายๆนู้นแหละ แต่ตอนนี้มึงต้องไปกินข้าว กินยาแล้วก็นอนซะ)

“จริงๆนะ”

(อืม)

“ก็ได้” ผมตกลงในที่สุด แค่คิดว่าพรุ่งนี้ก็จะได้เจอมันผมก็อดตื่นเต้นไม่ได้ละ

(งั้นแค่นี้แหละ กูจะทำงานต่อแล้ว)

“อือ รีบนอนล่ะ บายยยยย~”

เสร็จแล้วผมก็กดตัดสายมันทันที เอามือจับหน้าตัวเองถึงรู้ปากผมฉีกยิ้มอยู่น้อยๆ ผมกำโทรศัพ์อยู่ซักพักจึงนึกได้ว่าต้องรายงานเพื่อนว่าผมยังปลอดภัยดีอยู่ ผมไลน์บอกพวกมันในกลุ่มว่ารู้สึกไม่ค่อยสบายเลยกลับมาก่อนแล้วก็ปิดการแจ้งเตือนทันทีปิดเสียงปิดสั่นด้วยเพื่อไม่ให้มีอะไรรบกวน ถ้าพวกมันได้อ่านก็น่าจะสบายใจแล้วก็โล่งอกขึ้นบ้าง ผมวางโทรศัพท์ไว้ในลิ้นชักข้างเตียง แล้วก็มองไปที่ถ้วยข้าวต้ม เอามือจับก็รู้ว่ามันเย็นแล้วผมเลยเอาไปอุ่นที่ไมโครเวฟตรงครัวเล็กๆในห้องผม รอไม่นานก็อุ่นเสร็จ จัดการทานข้าวทานยาตามที่มันสั่งแต่ผมรู้สึกเหนียวตัวจนทนไม่ไหวเลยตัดสินใจอาบน้ำ ผมใช้เวลาไม่นานครับถือว่าอาบเร็วมากเพราะกลัวจะเป็นหนักกว่าเดิม พอเสร็จก็รีบเข้านอนทันที

   ผมไม่ได้ตื่นเต้นอะไรเลยนะครับที่มันจะมารับ ไม่ได้ตื่นเต้นเล้ย แค่ตื่นมาตั้งแต่7โมงเช้าทั้งๆที่มันบอกว่ามันจะมารับตอนบ่ายแค่นั้นเอง>< อาการไข้ผมเกือบหายสนิทแล้วครับแต่อาจมีครั่นเนื้อครั่นตัวอยู่บ้างแต่ไม่หนักเหมือนเมื่อวาน ช่วงล่างที่โคตรเจ็บก็ดีขึ้นมากแล้ว ผมใช้เวลาเลือกเสื้อผ้าก็เป็นชั่วโมงๆแล้วกว่าจะใช้เวลาอาบน้ำที่ดูเหมือนว่าวันนี้ผมจะอาบนานกว่าปกติเพราะมัวแต่ขัดตัวพอกตัว กว่าจะออกมาทาครีมนู้นนี่นั่นผมเงยหน้ามองดูนาฬิกาอีกทีก็เกือบเที่ยงละครับ ผมมองตัวเองในกระจกอย่างพอใจ ทั้งๆที่ก็ไม่ได้แต่งอะไรพิเศษเลยผมเป็นคนชอบแต่งตัวเรียบๆมากกว่า วันนี้ผมใส่เสื้อเชิ้ตพับแขนสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีดำพร้อมกับรองเท้าผ้าใบหุ้มข้อสีเดียวกับเสื้อแล้วก็มีกำไลแขนอีกหน่อยครับ กำลังจะเดินไปเลือกกระเป๋าเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นก่อน

“ว่าไงฮะป้า” เป็นป้าสาครับที่ยืนอยู่หน้าห้อง

“ขอป้าเข้าไปได้ไหมคะ”

“ได้สิฮะ”

ผมเปิดประตูกว้างขึ้นให้ป้าแกเข้ามาแล้วก็ปิดเบาๆ เดินตามหลังป้าสาเข้ามา พอแกหันหน้ามาก็เห็นในมือมีหลอดยาติดมาด้วย

“ยาอะไรหรือฮะป้า” พอผมถามก็เห็นแกยิ้มน้อยๆ

“ยานวดแกฟกช้ำค่ะ”

“ห๊ะ?” ผมอุทานอย่างสงสัย

“เมื่อวานป้าเห็นรอยช้ำๆที่คอคุณแอลอยู่สองสามรอยน่ะค่ะ ก็เลยเอายาแกฟกช้ำมาให้”

พอได้ยินป้าสาพูดผมก็รีบปิดคอเสื้อด้วยความอายอย่างรวดเร็ว รู้สึกว่าเลือดสูบฉีดหน้าจนหน้าผมคงจะแดงไม่น้อย ผมลืมเรื่องนี้เสียสนิทเลย

“ไม่ต้องอายป้าหรอกค่ะ ป้าเข้าใจเรื่องของหนุ่มๆสาวๆ แต่ที่ป้าเอายานวดมาให้เพราะว่าเผื่อคุณแอลอยากหายเร็วๆ กลัวว่าเวลาใส่เสื้อผ้าจะลำบากน่ะค่ะ”

บ้านผมจะคอนข้างให้อิสระในการใช้ชีวิตน่ะครับ ก็เลยไม่ได้ว่าอะไรเรื่องพวกนี้ถ้ามันไม่มากเกินไปพ่อกับแม่ผมก็เหมือนกัน ถึงป้าสาจะเป็นแม่บ้านแต่ก็เป็นคนเก่าคนแก่ เป็นคนที่ผมเห็นเป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่ เวลาป้าแกสอนผมก็รับฟังแล้วเอามาใช้ในชีวิตเสมอ ที่ผมโตมาก็เพราะได้ป้าแกนี่แหละครับ

“อะ เอ่อ ขอบคุณนะฮะป้า”

ผมยื่นมือไปรับหลอดยาจากป้าสามาโดยที่ความอายยังไม่ได้ลดลงเลย

“คุณเขาก็ดูใจดี ดูแลเอาใจใส่คุณแอลของป้าดีนะคะ เมื่อวานก็มาขอใช้ครัวก่อนที่จะกลับไป เห็นบอกว่าจะทำอาหารให้คุณหนูแล้วก็ขอยาแก้ไข้จากป้าด้วย แถมยังกำชับกับป้าว่าให้ขึ้นไปดูอาการคุณหนูเรื่อยๆด้วย”

“จริงเหรอ แล้วมันกลับตอนไหนอ่ะ”

“น่าจะกลับซักเที่ยงคืนมั้งคะ คนนี้คงพิเศษมากใช่ไหมคะ ป้าไม่เคยเห็นคุณแอลพาใครมาบ้านมาก่อนเลย”

“เอ่อ...”

ผมไม่รู้ว่าจะตอบป้าสาว่ายังไง ทั้งเขินแล้วก็ไม่รู้ด้วย ไม่รู้ว่ามันพิเศษไหม มันเป็นอะไรที่อธิบายหรือพูดออกมายากน่ะครับเพราะเรื่องของผมกับมันเกิดขึ้นรวดเร็วมาก

“ไม่ต้องตอบป้าก็ได้ค่ะ ว่าแต่วันนี้ตื่นแต่เช้าจะไปไหนรึเปล่าคะ” ป้าสาพูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

“อ่อ วันนี้มันจะมารับแอลไปไหนก็ไม่รู้ฮะ แอลก็เลยตื่นแต่เช้าเพราะกลัวไม่ทัน” ผมตอบออกไปเสียงเบา

“ค่ะ งั้นป้าไม่รบกวนแล้วดีกว่า ป้าเตรียมอาหารเที่ยงกับยาไว้ให้แล้ว ทานก่อนไปนะคะจะได้ทานยาด้วย”

“ฮะ”

ป้าแกกำลังจะเดินออกจากห้องไปแต่พอเปิดประตูแล้วก็หันกลับมาซะก่อน

“อ่อ ป้าจะบอกว่าถ้าคุณท่านทั้งสองกลับมา อย่าลืมพาคุณเขามาทำความรู้จักกับคุณพ่อคุณแม่ของคุณแอลด้วยนะคะ คุณท่านคงอยากทำความรู้จัก”

“เอ่อ ฮะ”

ผมทรุดตัวลงนั่งที่เตียง ไม่ได้กังวลเรื่องของพ่อแม่หรอกครับกังวลเรื่องมันมากกว่า ผมไม่รู้ว่าระหว่างผมกับมันจะเป็นยังไงต่อไป มันจริงใจกับผมแค่ไหน อย่าว่าแต่ตัวมันเลยแม้แต่ตัวผมเองก็ยังไม่แน่ใจในตัวเองด้วยซ้ำ แต่ก็อย่างที่ผมบอกว่าผมรู้สึกดีกับมันแม้จะไม่เคยรู้จักกันก็ตาม ไม่ใช่เพราะหน้าตามันหรอกครับเพราะผมรู้สึกดีตั้งแต่เห็นมันในความมืดละ ผมพร้อมที่จะพัฒนานะครับถ้าเคมีเราเข้ากันได้ ไหนๆก็มาขนาดนี้แล้ว(เสียตัวให้มันแล้วนี่นา) แต่คิดตอนนี้ก็ยังทำอะไรไม่ได้อยู่ดีก็เลยสลัดความคิดออกแล้วเดินไปเลือกกระเป๋าดีกว่า ใช้เวลาไม่นานก็ได้กระเป๋าใบเล็กๆสีน้ำตาลเอาไว้เก็บแค่กระเป๋าตังค์กับโทรศัพท์ครับ ก่อนจะทายาที่ป้าสาให้ตามรอยที่คอ สำรวจตัวเองอีกรอบก่อนจะลงไปทานข้าวข้างล่างโดยที่ไม่ลืมหยิบเป้ของมันแล้วก็ผ้าพันคอลงมาด้วย ผมกำลังนั่งทานข้าวอยู่เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าก็ดังขึ้น เป็นไอ้มิวเพื่อนผมโทรมาครับ

“ฮัลโหล”

(โอ๊ยยยยย!! กว่าจะรับโทรศัพท์กว่าจะติดต่อได้ก็ทำเอากูใจหายนะมึง นี่ถ้าวันนี้มึงไม่รับโทรศัพท์กูจะบุกไปหามึงที่บ้านแล้วนะเนี้ย ทำเอาพวกกูใจหายแทบแย่)

เพื่อนผู้หญิงหนึ่งเดียวในกลุ่มแต่มันออกจะห้าวๆไปหน่อยน่ะครับ พวกเรามีทั้งหมดสี่คนเป็นเกย์รับหมดเลยสามคนรวมผมด้วย แล้วก็ไอ้มิวที่เป็นผู้หญิงอีกหนึ่ง

“โทษทีนะ แต่ตอนนี้กูสบายดี ปลอดภัย หายห่วง”

(เออๆ มึงปลอดภัยก็ดีละ แล้วที่ไลน์บอกพวกกูว่าเป็นไข้นี่ดีขึ้นยัง)

“ดีขึ้นมากแล้ว พรุ่งนี้กูไปเรียนได้ตามปกติแหละ”

(โอเคงั้นเดี๋ยวเจอกันพรุ่งนี้ กูโทรบอกอีพวกที่เหลือก่อน)

“โอเค เจอกันพรุ่งนี้”

พอมันวางสายไปผมก็นั่งทานข้าวต่อแล้วก็กินยาเพื่อที่จะให้ไข้หายสนิท เสร็จแล้วก็มานั่งรอมันที่ห้องรับแขก เล่นเฟสอะไรของผมไปด้วย จนนึกได้ว่ามันให้พวกไลน์ เฟส ไอจีมาก็เลยจัดการแอดให้หมดเลย ฮิฮิ แล้วมันก็โทรเข้ามาพอดี

“ฮัลโหล”

(กูจะถึงแล้ว มึงเสร็จยัง)

“เสร็จตั้งนานแล้วเหอะ ก็รอมึงอยู่เนี้ย”

(งั้นออกมารอที่หน้าบ้านเลย)

“ไม่เอา มึงขี่รถเข้ามาเลย กูบอกยามไว้แล้ว”

(เอางั้นก็ได้)

“โอเค”

ผมรอไม่นานก็ได้ยินเสียงรถมาจอดที่หน้าบ้าน เก็บโทรศัพท์แล้วก็ออกมาหามันเลย หือ...ดูท่าที่บ้านมันก็ไม่น่าจะธรรมดานะ ขี่พอร์ชมาด้วยแฮะ เมื่อวานผมไม่ได้สังเกตรถมันไงมัวแต่เบลอๆ

“ดีขึ้นยัง”

มันถามตอนที่ผมขึ้นมานั่งบนรถแล้ว วันนี้มันใส่เชิ้ตดำแต่พับแขนถึงศอกกางเกงยีนส์ก็สีดำเรียกว่าดำทั้งตัวเลยครับยันรองเท้าเลย

“ดีขึ้นมากแล้ว อ่ะ..นี่เป้มึง”

ผมยื่นเป้คืนให้มันหลังจากที่มันขับรถออกมาจากบ้านผมแล้ว มันหันมามองก่อนจะหันกลับไปมองถนนเหมือนเดิม

“เอาไว้นั้นแหละ”

“หือ”

“ก็เก็บไว้เผื่อใส่ของไปนอนกับกู”

“ใครบอกว่ากูจะไปนอนกับมึง!”

ผมตอบกลับอย่างรวดเร็ว มันพูดออกมาด้วยท่าทีเฉยๆนะครับแต่ผมโคตรอายเลย ถึงจะมากกว่านอนกับมันมาแล้วก็เถอะ>////<

“หึหึ เอาเก็บไว้นั่นแหละ”

ผมก็คร้านจะเถียงมันเลยเอาเก็บไว้ดีกว่า แต่เอาไปวางไว้หลังรถมันแทน

“แล้วมึงจะพากูไปไหนเนี้ย”

“มึงมีที่ที่อยากไปรึเปล่า?”

“อืมมมมมม...มี!!”

“ที่?”

“ที่มึงอยู่”

“หึหึ ไหนบอกว่าไม่นอนกับกูไง”

“ไอ้บ้า กูก็ไม่ได้บอกว่าจะไปนอนกับมึงซะหน่อย!” มันพูดให้ผมอายอีกละ

 “ก็กูอยากรู้จักมึงมากกว่านี้นี่นา ที่ที่มึงอยู่น่าจะบอกอะไรกูได้หลายอย่าง”

ผมพูดออกไปเบาๆพร้อมคิดภาพตาม ที่ที่มันอยู่น่าจะมีอะไรให้ค้น ให้ผมได้รู้เกี่ยวกับตัวมันมากที่สุดผมก็เลยอยากไป

“ยังไงกูก็จะพามึงแวะที่คอนโดกูก่อนอยู่แล้ว กูต้องเข้าไปเอาเอกสารแล้วก็ดูงานนิดหน่อย”

“งั้นก็ดีละ”

“หลังจากนั้นมึงอยากจะไปไหนก็แล้วแต่มึงละกัน”

“โอเค”

ผมตอบรับอย่างอารมณ์ดี ผมอยากไปดูหนังพอดีเพราะไม่ได้ไปดูหนังนานมากๆครับ เดทแรกของผมกับมันที่โรงหนังก็ไม่เลวนะครับสำหรับผม :)



                            ---------------------------------------------------------------------------------------



      ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ นี่เป็นนิยายวายเรื่องแรกเลยที่แต่ง..จะพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ :L2: :L2:

          ** ปล. แอบใบ้นิดนึงว่าทุกย่างมีเหตุผล มีที่มาที่ไปของมันนะคะ
          ** ที่บอกว่าเรื่องสั้นก็ไม่รู้ว่าจะยังไงนะคะ ขึ้นอยู่กับอารมณ์คนแต่ง อาจจะต่อไปเรื่อยๆก็เป็นได้ ขึ้นเรื่องสั้นไว้ก่อนเผื่อเกิดอะไรขึ้นมันจะได้จบง่ายๆ><
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-05-2014 00:04:57 โดย THE KOP »

ออฟไลน์ mtd

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
ชอบน้องแอลแบบพอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับตัวเอง
ก็ไม่ได้เอาแต่เสียใจ โวยวาย หรือว่าตั้งแง่ จงเกลียดจงชังพระเอก
แต่กลับพยายามที่จะทำความรู้จัก มองในอีกหลายๆมุมของคลิน
เผื่อเคมีตรงกันก็จะได้สานสัมพันธ์ต่อ คือชอบความคิดน้อง  :katai2-1:
แล้วก็ชอบบุคลิกของคลินด้วย มาแบบนิ่งๆแต่คือกระชากใจ :-[
จากทอล์คหวังว่าจะไม่มาม่านะคะ  :mew2:
ติดตามค่ะ จะเปลี่ยนเป็นเรื่องยาวเราก็ไม่ว่า ชอบบบบบ รอค่ะ  :กอด1:

ernnnxx

  • บุคคลทั่วไป
แอลความคิดน่ายกย่องมากลูก ซูฮก! คนเรามันก็ต้องเปิดใจศึกษากันบ้างไรบ้าง

ส่วนคลินมนุษย์นิ่งแต่การกระทำบาดลึกลงในใจ ทุกการกระทำมีเหตุผลเราก็อยากรู้โคตรโคตร

ปล. แต่งเป็นเรื่องยาวก็ได้น้า สั้นก็ไม่แบบเห้ยๆ จะยังไง แต่ยาวก็ติดตามได้นาน  :-[

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อะไรเป็นอะไร ยังไง รอตอนต่อไปอยู่จ้า

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
ที่ทำนี่คลินต้องเคยรู้จักแอลมาก่อนแน่ๆ
บางทีอาจจะแอบชอบอยู่ 555555

ขอบคุณคนแต่งค่ะ

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญใช่ป่ะคลิน กิกิ

ออฟไลน์ THE KOP

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0
                                                                       ตอนที่ 3

มันจอดรถที่ลานจอดรถของคอนโดที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวแล้วก็ปลอดภัยมากๆครับ ผมเดินตามหลังมันมาตั้งแต่ลงจากรถจนตอนนี้อยู่ในลิฟต์ มันกดที่ชั้น21 ซึ่งเป็นชั้นสูงสุด

“โหว อยู่บนสุดเลย”

“กูชอบที่สูง”

“อ่าฮะ”

ผมตอบรับเบาๆ เมมไว้ในสมองมันที มันชอบอยู่ที่สูง...ผมมัวแต่จำเรื่องของมันจนประตูลิฟต์เปิดออก มันเดินออกไปแล้วผมก็เดินตาม มันเดินไปทางฝั่งขวาของลิฟต์ ทางเดินค่อนข้างยาวมากเลยครับแต่ผมเห็นมีอยู่แค่2ห้องเอง เพราะผมเห็นประตูแค่2ประตูอยู่ซ้ายกับขวาโดยมีลิฟต์อยู่ตรงกลาง มันเสียบคีย์การ์ดแล้วกดรหัสลงไปแล้วก็หมุนลูกบิดประตูเปิดเข้าห้อง พอเข้าไปข้างในก็ต้องเปลี่ยนรองเท้าก่อนครับ เสร็จแล้วผมก็รีบสำรวจอย่างรวดเร็วเพื่อเก็บรายละเอียด ห้องมันจะเน้นไปทางสีขาวกับสีครีมครับ ทำให้ห้องดูสว่าง ตรงกลางเป็นโซฟากลางห้องขนาดใหญ่ ทางซ้ายเป็นบันไดขึ้นชั้น2 แล้วก็มีห้องครัวอยู่ทางขวามือ

“มึงอยากทำอะไรก็ตามสบาย กูขอขึ้นไปดูเอกสารบนห้องก่อน”

“กูขึ้นไปชั้น2ด้วยได้ป๊ะ?” ผมอยากไปสำรวจข้างบนด้วยอ่ะ ข้างล่างค่อยมาศึกษาอีกที

“ตามสบาย”

ผมเดินตามมันขึ้นไปชั้นสอง เหมือนบ้านเลยนะครับ กว้างมากๆมีอยู่3ห้อง ผมไม่รู้ว่าเป็นห้องอะไรบ้าง แต่ก็เดินตามมันเข้ามาห้องที่อยู่ขวามือสุด ตามมันเข้าในห้องนอนก็ไม่มีอะไรมากครับ ของทุกอย่างถูกจัดอย่างเป็นระเบียบ ดูโล่งๆ ไม่ได้ตกแต่งอะไรมากมาย โทนสีห้องก็ยังเป็นสีขาวกับสีครีมอยู่

“มึงชอบสีขาวกับสีครีมหรอ?”

“ก็ชอบปกติไม่ได้พิเศษอะไร ที่กูตกแต่งโทนสีนี้เพราะมันทำให้ห้องดูสว่าง ที่จริงกูชอบสีดำ...แต่ถ้าจะตกแต่งทั้งห้องด้วยสีดำคงไม่ดี”

ผมคิดถึงทุกอย่างทั้งห้องเป็นสีดำก็ไม่ไหวละครับ อึดอัด==

“มึงอยากค้นอะไรก็ค้นตามสบาย กูไม่ว่า ห้ามทำพังก็พอ...กูขอเข้าไปดูเอกสารก่อน”

“อือ”

แล้วมันก็เดินเข้าไปในห้องที่ผมคาดว่าจะเป็นห้องทำงานมันครับ อยู่มุมขวาสุดของห้องนอน ห้องนอนมันกว้างกว่าห้องผมอีก ปลายเตียงมีโซฟาแล้วก็โทรทัศน์ มีโต๊ะที่เอาไว้นั่งทานข้าวในห้องด้วย ห้องน้ำก็อยู่ฝั่งซ้ายมือ ถ้าเปิดประตูเข้ามาแล้วเดินตรงอย่างเดียวจนสุดจะเป็นห้องครัวเล็กๆที่เป็นประตูกระจกใส ก็จะมีพวกไมโครเวฟ ตู้เย็น ประมาณนี้ครับ
ตรงโต๊ะหัวเตียงมันก็มีแค่นาฬิกาตั้งโต๊ะกับโทรศัพท์บ้านเฉยๆแล้วก็ที่เสียบปากกาที่มีปากกาเสียบอยู่ นอกนั้นก็ไม่มีอะไรเลย มีโคมไฟติดอยู่ผนังเหนือหัวเตียงไปประมาณ1เมตร เตียงมันก็เรียบๆสีขาว แล้วก็ผ้าม่านสีครีมที่ผูกไว้กับเสาเตียงรอบด้าน ห้องมันมีแต่รูปวิวทั่วไปไม่มีรูปเจ้าของห้องหรือรูปครอบครัวเลยครับ ในลิ้นชักโต๊ะข้างเตียงก็มีแค่หนังสือเกี่ยวกับธุรกิจกับสมุดจดทั่วๆไป ผมนึกว่าจะมีอะไรมากกว่านี้ซะอีก อยากเข้าไปดูห้องทำงานมันอ่ะ แต่ตอนนี้มันกำลังทำงานอยู่ ผมก็เลยอยู่ไม่กล้าเข้าไปกวนมันหรอก อีกอย่างไม่รู้ว่ามันจะอนุญาตให้เข้าไปไหมเผื่อมีเอกสารที่สำคัญมากอยู่ในนั้น ผมเดินสำรวจจนทั่วก็ไม่มีอะไรมากกว่านั้นก็เลยไปสำรวจห้องน้ำ อื้อหือ...ในห้องน้ำมีห้องแต่งตัวอยู่ด้วยครับล้อมรอบด้วยกระจกใสอยู่ฝั่งซ้ายมือ ฝักบัวกับอ่างอาบน้ำก็อยู่ส่วนนึงมีกระจกใสกั้นกับชักโครก อ่างล้างหน้าอยู่ใกล้ๆประตู ผมเดินเข้าห้องแต่งตัวก่อนเลย เปิดตู้เสื้อผ้าออกก็มีเสื้อผ้ามันเต็มไปหมด6ตู้ครับ แยกเป็นสัดส่วน ตู้แรกเป็นเสื้อเชิ้ตมีทั้งแขนสั้น แขนยาว มีตั้งแต่โทนเข้มไปหาสีสันสดใส แต่สีที่มีเยอะสุดจะเป็นขาวกับดำ ตู้ที่2เป็นพวกเสื้อสูท เสื้อแขนยาว พวกเสื้อคลุมเสื้อกันหนาว ตู้ที่3เป็นกางเกงทำงาน ตู้ที่4เป็นกางเกงยีนส์กางเกงใส่เล่น ตู้ที่5เป็นเสื้อใส่ทั่วๆไป ตู้ที่6คือชุดนอนครับข้างล่างชุดนอนเป็นลิ้นชักเก็บชั้นใน ข้างบนสุดเอาไว้เก็บผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้ามันค่อนข้างเยอะเลยมากเลยทีเดียว ดูจากการสำรวจตู้เสื้อผ้ามันคงทำงานแล้วแหละ ผมสำรวจจนทั่วว่ามันใช้ครีมอาบน้ำ สบู่ ยาสีฟัน ยาสระผมยี่ห้อไหนแล้วก็จำรายละเอียดทุกอย่างให้ครบ เดินสำรวจจนไม่มีอะไรแล้วถึงออกมาจากห้องน้ำ แล้วก็เห็นมันเดินออกมาจากห้องทำงานพอดีครับ

“มึงทำงานเสร็จแล้วเหรอ?”

“อืม ลงไปข้างล่างยัง? หรือจะเข้าไปดูห้องทำงานกู”

“ได้เหรอ?!?”

“มึงค้นได้ทุกอย่าง ทุกๆที่ในคอนโดกู อยากจะทำอะไรก็แล้วแต่มึง”

“อืม แต่เอาไว้วันหลังดีกว่า ตอนนี้4โมงละ กูอยากไปดูหนัง มึงพากูไปนะ..นะๆๆๆๆ”

ที่จริงผมอยากเข้าไปดูห้องทำงานมันมากๆเลยนะครับ แต่ตอนนี้มัน4โมงเย็นแล้วอ่ะ กว่าจะดูหนังจะอะไรอีก พรุ่งนี้ผมมีเรียนเลยไม่อยากกลับบ้านค่ำมาก ยังมีเวลาค้นห้องมันอีกเยอะเดี๋ยวค่อยกลับมาค้นอีกก็ได้

“หึหึ กูบอกแล้วว่ามึงอยากไปไหนก็แล้วแต่มึง”

“เย้ๆ ขอบคุณนะ”

ผมรู้สึกว่าดีใจมากๆครับ ส่งยิ้มให้มันกว้างสุดๆ ผมกลัวว่าคนอย่างมันจะไม่ชอบไปโรงหนังอะไรพวกนี้ แต่ผมอยากใช้เวลากับมันให้มากขึ้นอยากเรียนรู้ตัวมันเองมากขึ้นเลย แล้วผมก็อยากดูหนังมากๆด้วย

“งั้นก็ลงไปข้างล่างได้แล้ว” ผมเดินตามมันออกจากห้อง แล้วก็ถามมันไปด้วย

“อีก2ห้องเป็นห้องอะไรอ่ะ”

“ห้องนอนแขกกับห้องเก็บของ”

“อ๋อ ตอนนี้มึงทำงานแล้วสินะ”

“อืม กูเรียนปริญญาโทจบมาเกือบปีแล้ว”

“ปริญญาโท!! ตอนนี้มึงอายุเท่าไหร่แล้วอ่ะ?”

ผมอึ้งมากนะครับที่รู้ว่ามันเรียนจบโทแล้ว หน้ามันนี่บอกว่าเรียนปีสามปีสี่ผมยังเชื่อเลย

“26จะ27”

“อายุมากกว่ากูตั้งหกเจ็ดปีแหนะ”

ผมพูดกับตัวเองเบาๆ ตอนนี้เดินลงมาจนถึงโซฟาข้างล่างแล้วครับ มันหันหน้ามาหาผมที่อยู่ข้างหลังมัน

“กูชื่อเล่นชื่อคลิน ชื่อจริงชื่อศิขรินทร์ มีพี่สาวชื่อครีม ผับที่มึงไปวันก่อนเป็นผับของกูเอง”

ไม่น่าล่ะ ลากผมเข้าห้องได้สบายเชียว ผมไม่เคยไปผับนั่นมาก่อนครับ เพื่อนผมชวนไปผมก็เลยไปเป็นครั้งแรกเลย

“อย่างนั้นสินะ คลิน...ศิขรินทร์ มีพี่สาวชื่อครีม อายุ26ปี มีผับเป็นของตัวเอง....”

ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆ มัวแต่จำจนไม่ได้สนใจมัน รู้ตัวอีกทีก็ตอนมันเดินเข้ามาใกล้มากๆแล้ว

“แล้วมึงล่ะ?”

“หืม?”

“กูบอกเรื่องกูให้มึงฟังแล้ว ไม่คิดจะบอกเรื่องของมึงให้กูฟังบ้างหรือไง”

ผมกับมันต่างฝ่ายต่างจ้องหน้ากันและกัน ผมสำรวจใบหน้ามันอย่างถี่ถ้วนแล้วก็รู้สึกอยากกอดมันขึ้นมาซะอย่างนั้น แล้วไม่ได้แค่คิดผมขยับตัวเข้าไปกอดมันทันที ตอนแรกมันนิ่งๆซักพักก็กอดผมตอบพร้อมกับลูบหลังเบาๆ ผมเบียดตัวเข้าหามันมากขึ้น ซึมซับความอบอุ่นจากกอดของมัน การกอดมันทำให้ผมรู้สึกดีมากๆเลย

“กูเป็นลูกคนเดียว ชื่อจริงชื่ออิสรากรณ์ เรียนอยู่มหาลัยMMM คณะบริหาร ปี2 อายุ20ปี”

“อืม เรายังมีเวลาที่จะศึกษาเรียนรู้กันอีกเยอะ ค่อยๆที่จะเรียนรู้กันไปไม่ต้องรีบ มึงจะได้รู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวกูแน่ๆ เช่นเดียวกับกูที่จะได้รู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับมึง”

“อื้ม”

“พรุ่งนี้มีเรียนกี่โมง”

“สิบโมง”   

“งั้นก็ไปดูหนังได้แล้ว เดี๋ยวมึงกลับบ้านดึก” ผมผละจากอ้อมกอดของมันแต่มือมันยังคล้องอยู่เอวผม เรายืนสบตากันอยู่ซักพัก

จุ๊บ

มันโน้มหน้าเข้ามาจูบหน้าผากผมเบาๆ ผมตกใจนิดหน่อยแต่ที่รู้สึกมากกว่านั้นคือหน้าร้อนมากๆ เหมือนหน้าผมจะไหม้เลย จนเป็นฝ่ายหลบสายตามัน เขินว่ะ>//////<

“ไปได้แล้ว”

“อือ”

มันเปลี่ยนมาจับมือผมแทน โดยที่ผมได้แต่เดินตามหลังมันออกจากห้องแล้วเอาแต่มองมือที่มันจับ รู้สึกอุ่นมากๆทั้งที่มือแล้วก็รู้สึกอุ่นๆที่ใจยังไงไม่รู้...



“มึงๆๆ เขาจะว่ากูแปลกไหมอ่ะ หน้าร้อนแต่ยังใส่ผ้าพันคออีกอ่ะ”

พอผมเดินเข้ามาในห้างก็รับรู้ว่ามีสายตาหลายคู่ที่มองมา เป็นผมผมก็มองนะ อากาศตอนนี้ร้อนมากๆแต่ผมก็ยังใส่ผ้าพันคอ==

“งั้นก็เอาออกสิ”

“ถ้าเอาออกได้กูก็เอาออกไปนานละ ยิ่งถอดคนยิ่งมองน่ะสิ”

“งั้นก็ไม่ต้องสนใจ เขาอยากมองก็มองไป”

พูดเสร็จมันก็ยกมือขึ้นกอดคอผมแล้วก็ดึงผมเข้าไปใกล้มันมากขึ้น แล้วจากที่มีคนมองอยู่แล้วยิ่งมีมากขึ้นไปอีก ผมก็เลยได้แต่ก้มหน้างุดๆแล้วเดินตามมันจนมาหยุดอยู่โปรแกรมหนังโดยที่มันกอดคอผมมาตลอดทาง

“จะดูเรื่องอะไร?”

“ตามใจกูอ่อ?”

“ก็มึงเป็นคนอยากมาหนิ”

“ได้ทุกเรื่องเลยนะ?”

“อืม” ผมกวาดตามองโปรแกรมหนังอีกทีก่อนจะชี้ไปหนังที่ผมอยากดู

“เอาเรื่องนี้”

เป็นหนังตลกของไทยนี่แหละครับ เป็นเรื่องเด็กๆเลย ผมเป็นคนไม่ชอบดูหนังซีเรียสอ่ะชอบดูอะไรที่มันเบาสมอง หนังผีหนังแนวฆาตกรรมนี่อย่ามาพูดด้วยนะผมไม่เอาเด็ดขาด หนังฝรั่งก็ดูได้นะครับ ชอบด้วย แต่วันนี้อยากดูเรื่องนี้มากกว่า

“อืม งั้นมึงรออยู่นี่แหละเดี๋ยวกูไปซื้อตั๋วเอง”

แล้วมันก็เดินไปซื้อตั๋วครับ ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างมันจะยอมดูหนังอะไรแบบนี้ ผมอดยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อคิดว่าหนังแนวนี้ดูขัดกับบุคลิกของมันอยู่ซักหน่อย ไม่นานมันก็กลับมา

“อีกประมาณชั่วโมงนึง มึงหิวยัง”

“หิววววววววววววววววววว” ผมตอบอย่างรวดเร็ว ผมเป็นคนกินเยอะนะ เยอะมากๆด้วย แป๊บเดียวก็หิวละ

“อยากกินอะไร?”

“อืมมมมมม อันนี้กูแล้วแต่มึง เพราะมึงตามใจกูเรื่องหนังละ”

“กูกินอาหารไทยนะ”

“อื้อ กูกินอะไรก็ได้” แล้วมันก็จับมือผมเดินไปที่ชั้นร้านอาหาร รู้สึกดีทุกครั้งที่มันจับมือจริงๆ ผมชอบความรู้สึกนี้มากๆเลย ^^

“รับอะไรดีคะ?”

มันพาเดินเข้ามาที่ร้านอาหารไทยครับ บรรยากาศดีเลยแหละ

“เอาต้มยำกุ้ง  พะแนงหมู แล้วก็ต้มข่าไก่ครับ มึงเอาไร?” มันหันมาถามผม

“เอาผัดวุ้นเส้นกับแกงจืดครับ”

พนักงานก็รับออร์เดอร์ไป พวกเรานั่งอยู่ริมกระจกครับ สามารถมองเห็นวิวข้างล่างได้หมดเลย ผมมองลงไปอย่างล่องลอย เพลินตาดีครับ

“แอล”

ผมสะดุ้งน้อยๆแล้วก็หันไปทางมัน

“มึงไม่กินเผ็ดหรอ?”

“อื้อ กินไม่ได้อ่ะ ทำไมเหรอ?”

“เห็นมึงสั่งแต่อาหารไม่เผ็ด หน้าอย่างมึงก็ดูท่าไม่น่าจะกินได้ด้วย”

“อ่อ แล้วมึงล่ะ ชอบกินเผ็ดไหม? ชอบกินอะไรเป็นพิเศษ?” ได้โอกาสก็ถามมันเลยครับ

“กูกินเผ็ด ชอบกินต้มยำกุ้ง”

“อ๋อ โอเคๆ”

ได้รู้เกี่ยวกับมันเพิ่มขึ้นอีกแล้ว^^ ยังไม่ทันจะพูดอะไรเสียงโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้นก่อน แม่ผมโทรมาครับ

“ฮัลโหล”

(แอลอยู่ไหนลูก?)

“แอลอยู่ร้านอาหารฮะแม่ กินข้าวรอดูหนัง”

(ไปกับเพื่อนเหรอเรา)

“แปล่าฮะ มากับรุ่นพี่” ผมไม่อยากโกหกแม่อ่ะครับ เดี๋ยวแม่ก็ต้องรู้อยู่ดี

(อั้นแหนะ รุ่นพี่คนไหนนะ)

ผมเหลือบตามองมันนิดหน่อยก็เห็นว่ามันมองหน้าผมอยู่พอดี ผมก็เลยหลบตามันอย่างรวดเร็ว

“เดี๋ยวกลับมาค่อยคุยกันดีกว่าฮะ” ผมพูดเสียงเบาๆอย่างเขินอาย

(หืมมมมมม ต้องมีอะไรแน่ๆเลยแม่ว่า แฟนหนูเหรอ)

“เดี๋ยวค่อยคุยกันตอนแม่กลับมานะฮะ ว่าแต่ตอนนี้แม่ทำอะไรอยู่?”

(เปลี่ยนเรื่องไวเชียว ฮ่าๆๆๆๆๆ เอาเถอะๆ แม่รอคุณพ่อเขาประชุมอยู่จ๊ะ ก็เลยโทรมาถามข่าวคราวลูกแม่ซะหน่อยว่าเป็นยังไงบ้าง)

“แอลสบายดีฮะ”

(จ้า อ๊ะ พ่อออกมาแล้ว แม่ต้องวางละจ้ะ คุณพ่อฝากความคิดถึงมาด้วยนะ พ่อกับแม่รักลูกนะ บายจ้ะ)

“แอลก็รักพ่อกับแม่ฮะ บายครับ” ผมกดวางสายแล้วก็เก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า

“คุยกับแม่?”

“อื้อ”

มันพยักหน้าเล็กน้อย พนักงานก็เอาอาหารมาเสิร์ฟพอดี ต่างคนก็ต่างทานครับ อาหารร้านนี้ถือว่าอร่อยเลย ใช้เวลาไม่นานมากก็กินเสร็จ มันเรียกพนักงานมาเช็คบิล ผมกำลังหยิบตังค์ออกมามันก็จ่ายไปแล้ว

“เลี้ยงกูอ่อ?”

“อืม”

“รวยจังเลยนะ” ผมถามมันกวนๆครับ

“ก็มีพอจะเลี้ยงมึงได้แล้วกัน ไปได้แล้ว ใกล้ได้เวลาแล้ว”

ผมแลบลิ้นใส่มันตอนมันหันหลัง แล้วเราก็เดินไปที่โรงหนัง ก่อนหนังฉาย10นาทีโดยที่เราไม่ได้ซื้ออะไรเข้าไปกินเลยครับเพราะอิ่มจากที่กินมาเมื่อกี๋มากๆเลย








                                -------------------------------------------------------------------------------------

            เห็นมีคนกลัวดราม่า บอกไปแล้วเนอะว่าไม่ถนัดแล้วก็ไม่ชอบด้วยนะคะ อาจมีบ้างแต่ก็น้อยนิดมากจริงๆ(นิดมากกกกกกกกกกกกก) แล้วก็เรื่องที่THE KOPแต่งจะจบแบบแฮปปี้ทุกเรื่องนะคะ ไม่ต้องห่วง...จะบอกว่าคนแต่งแต่งสดทุกตอน ไม่มีสต๊อกเก็บไว้นะเออ อารมณ์มาตอนไหนก็ตอนนั้น>< เดี๋ยวจะมีตอนที่พี่คลินมาเอง(ตามที่คิดไว้) แต่ไม่รู้ว่าตอนไหนนะ5555555555555 ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ทุกคนที่เข้ามาอ่านมากๆเลยนะคะ    :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ mtd

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
โอ้ยยยยยย ยิ่งอ่านยิ่งชอบคู่นี้
ชอบที่ทั้งสองคนพยายามที่จะศึกษาซึ่งกันและกัน
โดยเฉพาะน้องแอลนิสัยน่ารักมากกกก
ส่วนพี่คลินก็มาดูเป็นผู้ใหญ่ เท่ห์ๆ หล่อบาดใจน้องมากค่ะขุ่นพี่  :impress2:
หลงรักเรื่องนี้ซะแล้ว รอค่าาาา  :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ernnnxx

  • บุคคลทั่วไป
เหมือนเราเพิ่งลงคอร์สเรียนอ่ะ ศึกษาดูใจแนะนำตัวมาหมด ไม่ต้องรีบเร่งยังีอกยาวอย่างคลินว่า

แอลจะน่ารักน่าหยิกมากเลยนะถ้าเรียกคลินว่าพี่แบบทำให้รู้ว่ามีคนกินเด็ก (ผิดส์ :z6:)

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
สมาคมคนกินเด็กเพิ่มมาอีกคนแล้วสินะ 55555555555

ออฟไลน์ KoBKaB

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ดูอบอุ่นจัง  :o8:

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
พัฒนาความสัมพันธ์ไวมาก จนคิดว่าเหมือนแฟนกันมากกว่าศึกษาอีกนะเนี่ย  o22
 :m1: แสดงว่าทั้งคู่ต้องชอบกันแล้วแหละ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
คุณพ่อคุณแม่ท่าจะใจดีมากเลย ดูเป็นครอบครัวที่อบอุ่นและเข้าอกเข้าใจกันดี

ออฟไลน์ tomybsl

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
พระเอกดูอบอุ่นจังค่ะ รอตอนต่อไปน้า :hao7:  :hao7:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
รักเด็ก เพราะเด็กน่ารัก
ผู้ใหญ่ อย่ารังแกเด็กบ่อยนะ อิอิ

ออฟไลน์ MK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
ขอมาตามน้องแอลด้วยคนนนนนนนนน   :hao7:

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
น่ารัก

ออฟไลน์ THE KOP

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0
                                                                         ตอนที่ 4


ออกมาจากโรงหนังด้วยอาการขำค้าง ผมยังตลกกับมุขของหนังอยู่เลย ที่จริงหนังมันก็ไม่ได้ดีมากมายอะไรหรอกครับ แต่มันก็เบาสมองไม่เครียดแล้วก็เพราะผมเป็นคนเส้นตื้นด้วยแหละ ไม่เหมือนบางคนที่นั่งข้างกันครับคนอื่นหัวเราะกันมันนั่งนิ่งเชียว มันก็ดูจอตลอดนะครับแต่ไม่หัวเราะเลยจนผมเป็นกังวลว่ามันผิดปกติรึเปล่า==

“หนังไม่สนุกเหรอ กูไม่เห็นมึงหัวเราะเลยอ่ะ”   จนอารมณ์ผมกลับมาเป็นปกติจึงถามมัน เดินมาจนจะถึงรถละครับ

“ก็ดี”

“นี่คือก็ดีเหรอ อารมณ์มึงเหมือนมันแย่มากๆเลยอ่ะ”

“มันก็โอเค แต่มันก็ไม่ใช่แนวกูซักเท่าไหร่ไง”

“อืม งั้นคราวหลังกูให้มึงเลือกหนังดีกว่า”

“กูดูยังไงก็ได้ที่มึงอยากดู ให้มึงเลือกบ้างกูเลือกบ้าง สลับกันก็ได้”

“อืม งั้นคราวหลังมึงเลือกละกัน”

เดินคุยกันจนมาถึงรถครับ เปิดประตูเข้าไปนั่งเรียบร้อยมันก็ขับรถออกจากห้าง ผมเหลือบเห็นเวลาที่หน้ารถพอดี ตอนนี้สองทุ่มเศษๆแล้วครับ จู่ๆผมก็นึกอยากรู้วันเกิดมันขึ้นมา

“มึงเกิดวันที่เท่าไหร่เหรอ?”

“14 กันยา...”

“อ๋อ ยังอีกนานอยู่นี่นา”

“แล้วมึงล่ะ”

“กูเกิด 28 กุมภา...ดีนะปีที่กูเกิดไม่มีวันที่29 กูเกิดเกือบเที่ยงคืนแหนะ ถ้าแม่กูเบ่งช้าไปอีกนิดแล้วปีนั้นเดือนกุมภามี29วันนี้มีเฮเลย 4ปีฉลองกูคงลืมวันเกิดตัวเองพอดี ฮ่าๆๆๆๆๆ”

“ไม่เปลืองไง”

“กูยอมเปลืองดีกว่างั้น” ผมเถียงมันน้อยๆ

“เออ กูแอดเฟส แอดไลน์มึงละนะ รับแอดด้วย” ผมนึกเรื่องนี้ได้พอดี

“อือ ถ้ากูเล่น”

“กลับไปมึงก็เล่นสิๆ”

“ขี้เกียจ”

“ไม่เอาาาาาาาา เข้าไปเล่นแค่รับแอดกูก็ได้”

มันหันมามองหน้าผมแล้วก็ส่ายหน้าน้อยๆแต่ก็ตกลงในที่สุด ผมก็อารมณ์ดีไปเรื่อยเลยทีนี้  จนรถมันมาจอดสนิทที่หน้าบ้านผม

“ขับรถกลับดีๆนะ” ผมหันไปบอกมัน

“อืม”

“งั้นกูไปละ บาย”

ผมยิ้มให้มันก่อนจะหยิบผ้าพันคอที่ถอดไว้บนตักแล้วก็กระเป๋าเป้ของมัน กำลังจะเปิดประตูรถออกไปแต่มันเรียกผมไว้เอาก่อน

“พรุ่งนี้เลิกกี่โมง?”

“บ่ายสองอ่ะ”

“อืม งั้นเดี๋ยวกูไปรับ”

ผมงงนิดหน่อยที่มันบอกว่าจะไปรับแต่อีกความรู้สึกที่แทรกมาคือดีใจที่จะได้เจอกัน เพราะผมก็คิดเรื่องนี้อยู่ว่าจะได้เจอกันอีกวันไหน แต่จะให้ผมเป็นฝ่ายเรียกร้องก็ยังไงยังไงอยู่><

“มึงว่างรึไง?”

“เอาเป็นว่ากูจะไปรับก็แล้วกัน”

“ก็ตามใจมึง ดีซะอีก จะได้ไม่เปลืองน้ำมันรถกู”  ผมยักคิ้วให้มันอย่างกวนๆ แล้วก็เห็นมันส่ายหัวทำหน้าเอือมๆใส่ผม

“ลงไปได้แล้ว เดี๋ยวคนที่บ้านมึงเป็นห่วง”

“อื้ม งั้นกูไปละ”

พอมันพยักหน้าผมก็เปิดประตูลงจากรถแล้วก็ยืนรอให้มันออกรถ มันเลื่อนกระจกลงมามองผมก็เลยโบกมือบ๊ายบายให้มัน

“เข้าบ้านดิ” มันบอกผม

“กูรอให้มึงไปก่อน”

“มึงเข้าบ้านก่อนไป”

“อืมๆ ก็ได้”

แล้วผมก็โบกมือให้มันอีกทีก่อนจะเปิดประตูเล็กเข้าบ้าน มองกลับมาก็ยังเห็นรถมันอยู่ ผมเลยเดินไปเรื่อยๆจนเข้าบ้านไปในที่สุด

“ให้พี่ตั้งโต๊ะไหมคะคุณแอล”

พี่ส้มที่เป็นแม่บ้านอีกคนถามขึ้นหลังจากที่ผมเข้ามาในบ้าน

“ไม่ดีกว่าฮะ แอลกินข้าวจากข้างนอกมาแล้ว”

“ค่ะ”

ผมยังอิ่มจากตอนที่กินข้าวกับมันอยู่เลย แล้วก็รู้สึกขี้เกียจกินด้วยแหละเลยคิดว่าไมให้พี่ส้มตั้งโต๊ะดีกว่า ถ้าหิวเดี๋ยวผมค่อยลงมาหาอะไรกิน เปิดประตูเข้าห้องมาเก็บผ้าพันคอกับกระเป๋าที่มันให้มาให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะเข้าห้องน้ำเพื่อไปอาบน้ำ จัดหนังสือใส่กระเป๋าเตรียมตัวไปเรียนพรุ่งนี้แล้วก็เช็คพวกเฟส ไลน์ ไอจี มีการแจ้งเตือนว่ามันรับแอดผมแล้ว ผมก็ส่องๆๆๆๆ ส่องทุกอย่างแต่ก็ไม่เห็นอะไร เฟสมันก็ไม่ค่อยอัพอะไรหรอก ไอจีก็มีแต่ภาพวิว ภาพอาร์ตๆ ไลน์ก็เหมือนกัน ไม่มีอะไรหวือหวาเลย ผมก็เลยเก็บโทรศัพท์แล้วก็เข้านอนทันที




“โอ๊ย กว่าจะโผล่หัวมาได้นะมึง พวกกูเป็นห่วงมึงแทบแย่ อยู่เฉยๆก็เล่นหายไปแบบนั้น นี่ถ้าเกิดว่ามึงไม่ไลน์บอกกูวันนั้นนะ พวกกูกะจะไปแจ้งความแล้วนะเนี้ย กูนึกว่า...”

“พอๆๆๆ พวกมึงก็เห็นแล้วว่ากูปลอดภัยดี สบายหายห่วง”

พอมาถึงม้าหินอ่อนที่นัดกันเป็นประจำผมก็เห็นเพื่อนผมสามคนอยู่กันครบ เดินมาถึงโต๊ะก้นยังไม่ทันจะถึงเก้าอี้ไอ้เพ้นท์ก็รัวใส่แบบไม่ยั้ง ไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัวเลยซักนิดจนผมล่ะกลัวว่ามันขาดอากาศหายใจไปซะก่อน

“แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นแอลก็น่าจะบอกพวกเราก่อนนี่นา พวกเราเป็นห่วงแทบแย่”

ไอ้ตรีผู้เรียบร้อยมากเอ่ยขึ้น คิดดูสิครับว่าขนาดคำสมัยพ่อขุนมันยังไม่พูดเลย หงิมๆหนิมๆยอมทุกคนอ่ะมัน ไม่มีปากไม่มีเสียงจนผมยังสงสัยว่าชาตินี้มันเคยด่าใครรึยัง ไอ้ตรีนี่ตัวเล็กๆครับ เล็กกว่าผมอีกนะ มันสูงแค่163เอง น้ำหนักก็เบาแสนเบา วันนั้นที่มันไปผับกับพวกผมก็เพราะว่าโดนบังคับนะคับ ไม่งั้นคนอย่างมันไม่มีทางไปที่แบบนั้นหรอก มันไม่ชอบความวุ่นวาย ที่ๆคนเยอะเงี้ย ต่างจากไอ้เพ้นท์ รายนั้นนี่เสียงดัง วุ่นวายสุดๆ

“กูขอโทษจริงๆ กูจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว” ผมเอยออกไปอย่างรู้สึกผิด พวกมันคงเป็นห่วงผมมาก

“เออๆ ช่างมันเถอะ ไหนๆก็ผ่านมาแล้ว ขึ้นเรียนได้แล้วเว้ยๆ”

เสียงไอ้มิวดังขึ้นเตือนสติทุกคน ทำให้พวกเราต้องหยุดการสนทนากันไว้เท่านั้น ไม่งั้นเข้าเรียนสายแน่ๆ เรียกว่าวันนี้เรียนค่อนข้างหินครับ วิชาเดียวล่อไปสี่ชั่วโมงติดเลย มีเบรกแค่ครึ่งชั่วโมงตอนเที่ยงแค่นั้นเอง พอเลิกเรียนพวกผมสี่คนก็แทบเป็นลมเลย เหนื่อยมากๆ

“โอ๊ย กูจะอ้วกว่ะ” เสียงไอ้มิวพูด

“ไปหาไรกันกินก่อนป๊ะ กูหิวจนจะแดกช้างได้แล้ว”

“เราเห็นด้วยกับเพ้นท์มาก”

ไอ้ตรีนี่ดูมันเพลียมากเลยครับ แต่สภาพแต่ละคนนี่อนาจจริงๆ ผมเองก็ไม่ต่างกันเลย แค่เดินมาถึงโรงรถได้ก็ถือว่าดีมากแล้ว ผมอยากไปกับพวกมันนะแต่ติดที่ว่ามันจะมารับน่ะสิ คงไปกับพวกมันไม่ได้ ผมส่งข้อความหามันตั้งแต่ก่อนเลิกคลาสแล้ว ตอนนี้มันน่าจะใกล้มาถึงมหาลัยผมแล้วแหละ

“กูไปด้วยไม่ได้ว่ะ” ผมเอ่ยบอกพวกมันบอกไปเสียงเบา

“ทำไมวะ” ไอ้เพ้นท์ถามขึ้น

“มีคนจะมารับอ่ะ”

“ใครวะ?” อันนี้ไอ้มิว

ผมคิดว่ายังไงก็จะเล่าเรื่องผมกับคลินให้พวกมันฟังอยู่แล้วเพราะพวกเราไม่เคยมีความลับต่อกัน แล้วก็อยากปรึกษาพวกมันด้วย การได้คุยกับเพื่อนเป็นอะไรที่ดีมากๆนะครับ

“เอ่อ...”

ผมกำลังจะบอกพวกมันโดยการเล่าคร่าวๆให้มันฟังแต่เสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นก่อน ผมรับโทรศัพท์ท่ามกลางสายตาสามคู่ที่มองมาอย่างกดดัน

“มึงขี่รถเลยหน้าตึกมาแล้วก็เลี้ยวซ้ายมาเรื่อยๆเลย ตรงโรงรถนั่นแหละเดี๋ยวก็เห็นกู”

มันโทรมาบอกว่าถึงหน้าคณะผมแล้ว ถามว่าผมอยู่ไหนแค่นั้นครับ พอผมวางสายปุ๊ปพวกมันก็กระหน่ำถามทันที

“ใคร? ทั้งคนที่มารับมึงแล้วก็คนที่มึงคุยด้วยเมื่อกี๋” ไอ้มิวถามอย่างคาดคั้น

“เราว่าไม่ใช่คนที่บ้านแน่ๆอ่ะ” ไอ้ตรีพูดอีกคน

“รอยแดงจางๆที่คอมึงอย่าว่าพวกกูไม่เห็น”

ผมกะแล้วว่าสายตาเหยี่ยวของไอ้เพ้นท์ต้องเห็นเพราะมันเป็นคนที่ช่างสังเกต ช่างจับผิดมากครับ ขนาดรอยจางลงมากแล้วนะเนี้ยแล้วก็เนื่องจากผมไม่ได้ใส่อะไรมาปิดเลยเพราะยิ่งจะทำให้ยิ่งน่าสงสัยกว่าเดิม แล้วผมก็ไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังเรื่องนี้พวกมันอยู่แล้ว

“เห้อ กูไม่ได้ตั้งใจจะปิดพวกมึงอยู่แล้วแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง เอาไว้พรุ่งนี้กูจะเล่าให้พวกมึงฟังอย่างละเอียดเลย เรื่องมันเกิดวันที่กูหายไปจากผับแหละ”

“กูว่าและว่าที่มึงหายไปต้องไม่ใช่เพราะมึงเป็นไข้แน่ๆ”

เสียงไอ้มิวพูดยังไม่ทันจบดีก็มีรถมาจอดข้างๆพวกเราซะก่อน แน่นอนว่าทุกสายตาจับจ้องที่รถมัน ยิ่งกระจกรถฝั่งข้างคนขับลดลงทุกคนยิ่งสนใจ

“พี่คลิน!!!!”

เสียงไอ้มิวเรียกชื่อมันดังขึ้นอย่างคุ้นเคย เพื่อนผมกับไอ้คลินรู้จักกันหรอวะ?




                                     -----------------------------------------------------------------------


     มาดึกมาก คนแต่งจะเป็นลมละค่ะ ง่วงมากเลย :ling3: :ling3: ตอนนี้เรื่อยๆไม่ค่อยมีอะไรเลยเนาะ(สั้นด้วย :monkeysad:) เป็นตอนปูทางมากกว่านะคะ :mew2:  :mew2: ไปแล้วค่าาาาาาาาาาา~ (ทอร์คน้อยเพราะง่วงTT) ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ ทุกคนที่เข้ามาอ่านมากๆจริงๆค่ะ  :L2: :L2: :L2: :L2:




























 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด