ครืน ครืน ครืน
สายโทรศัพท์ที่โทรเข้ามา ผมกดรับสายหลังจากสงสัยมันอยู่สักพัก " ฮัลโหล "
“ โทรมามีอะไรเหรอ " เสียงคุ้นเคยพูดแบบนั้น ผมเองก็ขมวดคิ้วอาจเพราะเมื่อเช้าที่มหาลัยโทรมาถามเพราะอยู่ๆอาจารย์สุดหล่อของคณะได้หายไปตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ผมจัดการลางานแล้วโทรไปบอกแฟนของเจ้าตัว เพราะไม่ว่ายังไงก็โทรหาใครคนนั้นไม่ติด ไม่ว่าจะเบอร์คอนโด หรือเบอร์ส่วนตัว
“ คุณอินยังไม่ได้บอกหรอกเหรอ " ผมถาม อีกคนก็เงียบ " ท่าทางจะบอกแล้วสินะ "
“ จะเดินทางวันไหนเหรอ "
“ ก็ใกล้แล้วแหละ " ตอนนี้เอกสารทุกอย่างผ่านแล้ว ที่พัก มหาลัยก็ถูกเตรียมไว้พร้อมหมดแล้ว ผมตัดสินใจไปอยู่ก่อนที่จะเริ่มเรียนเกือบห้าเดือนโดยอ้างไปแค่ว่า เพราะอยากจะใช้เวลาว่างๆลงเรียน ทบทวนภาษา และทำความคุ้นเคยกับสิ่งรอบข้าง ทั้งๆที่ความจริงแล้วการที่รีบไปขนาดนี้ก็เพียงเพราะแค่ ไม่อยากจะเจอหน้าใครบางคน สำหรับผม มันคงทรมานถ้าหากต้องมาตกอยู่ในความรู้สึกที่เหมือนเดิมอย่างทุกวัน แต่ความสัมพันธ์ของเรากลับไม่มีอะไรเหมือนเดิมแล้ว
“ แล้วจะไปนานแค่ไหน "
“ ก็จนกว่าจะเรียนจบ "
“ เรียนจบแล้วจะกลับมาเลยรึเปล่า "
“ ก็คงจะเป็นอย่างงั้นยังไงก็ต้องกลับมาทำงานใช้ทุนมหาลัยอยู่แล้ว " ผมตอบ แต่ทุกอย่างต่อจากนั้นก็เงียบลง ไฟท์ไม่ได้พูดอะไรออก ผมจึงเป็นฝ่ายทำลายความเงียบนั้น " แล้วเป็นยังไงบ้าง "
“ ก็ดี "
“ แค่ก็ดีเหรอ "
“ งั้นจะให้ตอบว่าอะไรดีละ " ผมหัวเราะกับคำพูดของอีกคน
“ ตอบว่าไงดีละ ตอบว่า ดีม๊ากมาก ได้มั้ย "
“ ไม่ถึงขนาดนั้นนะสิ "
“ แต่กูอยากให้มึงเป็นแบบนั้นนะ " จากใจของผม ถึงแม้จะรู้ว่ามันไม่ได้มีความสุขอะไรกับความสัมพันธ์แบบสามคนแบบนั้น แต่ก็หวังว่าอีกคนจะมีความสุขให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
“ พอว่างมั้ย ไปกินข้าวด้วยกันได้รึเปล่า "
“ เค้าจะไม่ว่าเหรอ " ผมถาม อีกคนก็ยกยิ้มลอดผ่านสายเข้ามา
“ ตอนนี้เค้าคงอยู่กับอีกคนน่ะ " มันพูดแค่นั้นผมก็พยักหน้า
“ ได้สิ "
“ งั้นเดี๋ยวจะไปรับ "
“ อื้ม "
ผมวางสายลงหลังจากจบประโยคนั้น น่าแปลกที่ตัวเองรู้สึกตื่นเต้นทันทีหลังจากได้รับคำชวน ดีดตัวเองขึ้นจากโซฟาที่กำลังนั่งหา เปิดตู้เสื้อผ้าหาชุดดูดีที่สุดของตัวเองแล้วใส่มันเพื่อรอใครอีกคนที่คิดว่าคงถึงในอีกไม่ช้า
' อยู่ข้างแล้ว ลงมาได้เลย ' ข้อความไลน์ถูกส่งมา ผมคว้ากระเป๋าของตัวเองก่อนจะเดินลงไปชั้นล่างของคอนโดทันที
ครั้งแรกที่เห็นหลังจากวันนั้น ผมยอมรับว่ามันเปลี่ยนไปนิดหน่อย ไฟท์ไมไ่ด้ดูอ้วนขึ้นแต่ดูโทรมจนน่าประหลาดใจ " ทำไมมึงหน้าตาเป็นแบบนั้นวะ "
“ แบบไหน " ไฟท์ถามก่อนจะหันมายิ้ม
“ ก็มึงดูโทรมมากเหมือนคนไม่ได้นอน "
“ ก็นอนไม่ค่อยหลับนะ " มันว่าแค่นั้น ก่อนจะขับรถออกไปท้องถนนที่ยังคงรถติดเหมือนเดิม ไฟท์ก็หันมาถามผม " แล้วมึงจะไปเมื่อไหร่ "
“ เมื่อกี้ก็ถามไปแล้วนะ "
“ อยากได้เวลาที่แน่นอน "
“ ก็อาทิตย์หน้า วันศุกร์ " ไฟท์พยักหน้า " แต่มึงมีสอน "
“ อื้ม รู้ละ ตั้งใจเลือกไฟท์ที่กูมีสอนใช่มั้ย "
“ ไม่เกี่ยวอะไรกันเลย " ผมเบี่ยงประเด็น จริงๆก็คิดว่ามันคงไม่มาส่งหรอกแต่ที่ตัดสินใจไปไฟท์นี้ก็เพราะว่าจะได้มีเหตุผลอ้างให้ตัวเองได้อีกข้อที่ว่า ไม่ใช่ว่ามันไม่มันไม่มาส่งแต่ติดวานเลยมาไม่ได้ ช่วงเวลาที่ต้องทำใจผมเองก้ต้องทำอะไรเพื่อหลอกใจตัวเองแบบนี้ไปสักพัก
“ มึงพากูมาที่ร้านแม่มึงนี่หว่า " ผมมองไปรอบๆก็จำได้ดี ร้านอาหาร ร้านแรกที่เรามากินข้าวด้วยกัน ร้านที่ผมเอ่ยเล่าเรื่องราวของตัวเองกับมัน จุดเริ่มต้นที่ทำให้เรากลายมาเป็นคนรู้จักกัน
“ ไม่ชอบเหรอ "
“ ก็เปล่าไม่ชอบ " ผมบอกตอนที่ลงจากรถ ไฟท์ก็พาผมไปนั่งที่โต๊ะ โต๊ะเดิมมองบรรยากาศโดยรอบที่ยังคงเหมือนเดิม ผมหันมายิ้มกับมัน " ถือว่ามึงพามาเลี้ยงส่งแล้วกัน "
“ อื้ม " เสียงไฟท์ที่ตอบออกมา แววตาที่หันมามองผม รู้สึกได้ถึงความรู้สึกที่ว่าอีกคนไม่ได้มีความสุขเลย ไฟท์ดูเหม่อลอยจนเหมือนจะกลายเป็นคนที่ใช้ชีวิตให้ผ่านไปวันๆ ผมยื่นมือออกไปจับที่ข้างแก้มของมันก่อนจะลูบเบาๆ
“ ทำไม ทำหน้าเศร้าแบบนั้น "
“ ไม่มีอะไรนิ "
“ ตัดสินใจแล้ว ก็ต้องมีความสุขกับมันสิ "
“ กำลังพยายามอยู่ "
“ งั้นก็พยายามเข้านะ " ผมบอก อีกคนก็พยักหน้า พนักงานเดินมาวางเมนูผมกับไฟท์สั่งอาหารแค่นิดหน่อยเหมือนเราทั้งคู่ตั้งใจมาคุยมากกว่าจะกิน
“ ความรักนี่ต้องพยายามด้วยเหรอ "
“ ก็เหมือนว่าความรักบางประเภทก็ต้องใช้มันนะ " ผมยิ้มอีกคนก็นิ่ง ไฟท์ดูเหม่ออกไปจนผมต้องเรียกเอาไว้ " นี่ ไฟท์ " สายตาเลื่อนลอยหันมาหา มันเศร้าเสียผมอยากจะร้องไห้ ไฟท์ดูเหมือนไม่ใช่คนที่ผมเคยรู้จักมันเหงาแล้วก็เศร้าจนน่าใจหาย " นี่.. “ เสียงที่กำลังจะเรียกมันอีกครั้งแต่ผมกลับดูดึงเข้าไปกอดไว้อย่างรวดเร็ว
“ จะกลับมาเมื่อไหร่เหรอ "
“ ไม่รู้เหมือนกัน "
“ ทำไมไม่รู้ มึงบอกกูได้มั้ย ว่ามึงจะกลับมาเมื่อไหร่ มึงจะไปนานแค่ไหนกัน "
“ ประมาณสองสามปี วันกลับเลยยังไม่แน่ใจนะ .. นี่ไฟท์ "
“ กูทรมานมากเลย ทรมานจนไม่อยากจะทำอะไรอีกแล้ว " มันว่าพลางกอดผมแน่น " อยากจะอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไร อยากจะแค่นั่งนิ่งๆ ไม่อยากทำงาน ไม่อยากกินข้าว ไม่อยากยิ้มหรือแม้แต่หัวเราะ ทุกอย่างที่กูทำไปทุกวันนี้เหมือนสิ่งที่กูต้องทำ ทั้งๆที่กูพยายามที่จะหาทางออกให้มัน แต่สุดท้าย มันก็ไม่ยอมรับ ทำไมวะ การเลือกใครสักคนมันยากมากนักเหรอ "
“ บางที เค้าอาจจะไม่อยากเสียใครไป ทั้งมึงทั้งโรมก็คงเป็นของสำคัญของเค้า " ผมปลอบมัน อีกคนก็ยิ่งกอดผมไว้
“ ความรักแบบนั้น กูไม่อยากได้วะ "
“ ลองบอกเค้าสิ บอกเค้ารึยัง "
“ มันไม่ได้ผลหรอก กูบอกเค้าแล้ว " ไม่รู้จะช่วยยังไง ผมอยากจะพูดคำพูดที่จะทำให้มันรู้สึกดีแต่ก็คิดว่าคงจะไม่มีคำพูดไหนที่จะทำให้รู้สึกแบบนั้น ' เดี๋ยวเค้าก็เลือกได้ต้องให้เวลาเค้า ' ' เดี๋ยวมึงก็ชิน ' ' เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้น ' ไม่มีคำปลอบไหนที่จะทำให้รู้สึกดีเลย ผมทำได้แค่ลูบหลังมัน " เรื่องที่มึงกำลังเครียดตอนนี้ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ก็เหมือนทุกครั้งที่มันผ่านมานั่นแหละ "
“ แล้วเมื่อไหร่ "
“ ไม่รู้สิ " ผมบอกแค่นั้น ทั้งที่ในใจอยากจะบอกว่า คงต้องรอให้ใครคนนั้นของมันคิดได้ว่ากากระทำที่ตัวเองกำลังมีความสุข ไม่ได้นำพาความสุขมาให้ใครเลย ทุกคนกำลังทุกข์ แล้วก็จะยิ่งทุกข์มากขึ้นไปอีก ไม่ใช่แค่เฉพาะคนที่เค้ารัก แต่จะเป็นตัวเค้าเองก็ด้วย
“ ขออนุญาติครับ " ผมผละตัวเองออกห่างจากอีกคน อาหารที่ถูกวางลงสองสามอย่าง ผมตักชิ้นปลาใส่ในจานของอีกคน
“ กินข้าวบ้างจะได้มีแรง มึงโทรมแบบนี้ระวังไม่ฮอตในหมู่นักศึกษานะ "
“ ช่างมันเถอะน่า " มันว่าแค่นั้นก่อนจะตักอาหารเข้าปาก เรากินอาหารกันสักพัก นั่งคุยกันถึงเรื่องราวที่ผ่านมาก่อนจะเช็คบิลแล้วกลับบ้าน ผมได้เห็นรอยยิ้มของไฟท์ในระหว่างมื้ออาหารรู้สึกดีที่ได้เห็นมันในมุมมองนั่นอีกครั้งจนอยากจะเก็บความทรงจำนี้ไว้ไปนานๆ
“ ขอบคุณที่มารับไปกินข้าวแล้วก็ยังมาส่งด้วยนะ " ผมหันไปบอกมันตอนที่รถจอดลงตรงลานจอดรถ ผมก้มหน้าลงสูดหายใจรวบรวมความกล้าก่อนจะหันไปหามันอีกครั้ง " ตลอดระยะเวลาที่ผ่าน ขอบคุณมึงนะไฟท์ที่เข้ามาให้ชีวิตกู กูเคยเป็นคนที่จมอยู่กับความทุกข์แล้วก็ไม่แคร์ความรู้สึกของใคร บางครั้งก็ชอบคิดว่าในโลกใบนี้คงมีกูที่ไม่มีความสุขอยู่คนเดียว กูถูกแย่งความรัก จนต้องกลายเป็นคนที่รักตัวเอง แต่พอมึงเข้ามา มึงดึงกูออกไปข้างนอก แล้วก็สอนให้รู้จักความรักอีกครั้ง ถึงแม้ว่ามันจะกลับมาเป็นรูปแบบเดิม คือกูต้องรักตัวเองอีกครั้ง แต่เพราะเป็นมึงครั้งนี้กูเลยไม่เป็นแบบนั้นแล้ว ไม่หลบ และไม่หนีอีกแล้ว ขอบคุณนะที่มอบชีวิตใหม่ให้กู ขอบคุณจริงๆ " ผมดึงมันเข้ามากอดไฟท์ที่นิ่งอยู่นั้น ใช้สองแขนกอดผมไว้แน่นเช่นกัน
“ ขอบคุณที่เดินเข้ามาในชีวิต ขอบคุณที่ยอมเปิดใจแล้วให้ความหวังใหม่กับกู ขอบคุณที่เข้าใจ ขอบคุณที่ถือโกรธคนเห็นแก่ตัวแบบกู มีความสุขให้มากๆนะ มีความสุขแทนกูด้วยนะ แอล "
“ กูจะมีความสุขให้มากๆ ให้มากพอที่จะเอามาแบ่งกับมึงจนทำให้มึงมีความสุขให้ได้เลย " ผมบอกแบบนั้น แล้วจู่ๆน้ำตามันก็ไหลออกมา ผมกอดมันแน่นขึ้น
“ ร้องไห้ทำไม "
“ อึก ฮือๆ กูอยากให้มึงมีความสุข ทำไมมึงไม่มีความสุขวะ ไฟท์ เลือกเค้าแล้วนะ มึงเลือกเค้าแล้วแต่ทำไมมึงดูไม่มีความสุขเลย " ไฟท์ไมไ่ด้ตอบอะไร มันเอาแต่เช็ดน้ำตาให้ผม
“ มีความสุขให้มากๆนะ แล้วก็โชคดี เดินทางปลอดภัยแล้วก็กลับมา อย่างปลอดภัยนะ "
“ อื้ม " ผมพยักหน้าให้มัน ไฟท์ประคองแก้มของผมอยู่สักพัก มันจ้องมองอยู่แบบนั้นก่อนจะปล่อยมือแล้วถอนหายใจออกมา
“ โชคดีนะ "
ผมเดินลงจากรถ ตอนที่หยุดนิ่งอยู่แบบนั้น สายตาก็เอาแต่มองรถที่ค่อยๆเคลื่อนออกไป เสียงที่ไปไม่ถึงของผมได้แต่เอ่ยอยู่คนเดียวเงียบๆอยู่ตรงนี้ " ขอให้มีความสุขนะไฟท์ "
.......................................................
ผมนั่งรออยู่ในคอนโดใหญ่โตที่เงียบเชียบ ไม่มีใครอยู่ที่นี่ เจ้าของห้องที่คิดว่าควรอยู่กลับไม่อยู่ ผมนั่งรอไฟท์อยู่นาน นานจนจมลงไปในความคิดตัวเอง ' ตัวเรากำลังมีความสุขอยู่เหรอ นี่คือสิ่งที่ต้องการจริงๆหรอกเหรอ ' บางทีก็เหมือนจะไม่ใช่เลย ทั้งๆที่ได้ทุกอย่างอย่างที่อยากได้แต่กลับกลายเป้นว่า ทุกอย่างที่ได้มา กลับไม่ใช่ความสุขเลย ทำไมกันนะ เพราะไม่มีใครยอมเป็นที่สอง หรือเพราะเราไม่ยอมปล่อยไปสักคน
แกร๊ก.. เสียงประตูที่เปิดออก ผมหันไปมองก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟาที่นั่ง ไฟท์กลับมาแล้ว ด้วยสีหน้าเรียบเฉยแบบเดิมๆของมัน สีหน้าที่ไม่ได้มีความสุข
“ ไปไหนมาวะ กูรอตั้งนาน "
ไปกินข้าวมา "
“ ที่บ้านเหรอ " ผมถามเพื่อนความแน่ใจ
“ เปล่า ที่ร้านแม่ " มันว่าก่อนจะเดินไปหยิบเบียร์ขึ้นมาเปิด
“ ไปกินคนเดียวเหรอวะ " ผมเดินเข้ามาใกล้มันตอนที่ดึงเบียร์ลงจากมือมันก็ขมวดคิ้ว " มึงแดกเยอะเกินไปแล้วนะ "
“ วันนี้ยังไม่ได้กินน่า " มันดึงกลับไปกินต่อ ตอนที่เดินมาที่โซฟาก่อนจะนั่งมันก็ตอบคำถามผม " ไปกินข้าวกับแอลมา "
“ ทำไมต้องไปด้วยวะ ไหนมึงบอกไม่ได้ติดต่อกับมันแล้ว "
“ ไปกินข้าวเลี้ยงส่งเค้า ก็แอลมันจะไปเมืองนอกอาทิตย์หน้า " เป็นเหตุผลที่ฟังดูไม่ขึ้นเท่าไหร่ ผมรู้สึกหงุดหงิดตอนที่ได้ฟังคำพูดนั้นของมันจนต้องเดินมานั่งลงใกล้ๆ
“ แล้วทำไมต้องไปกันสองต่อสองวะ เลี้ยงส่งไปเรียนเมืองนอกทำไมไปกันแค่สองคน มันต้องไปกันทั้งคณะสิ " ผมเงียบเสียงลงก่อนจะเอ่ยถามสิ่งที่สงสัย " หรือว่ามึงกลับไปคบกันมัน "
“ ไม่ใช่ "
“ มึงยังรักมันอยู่รึเปล่าวะ ทำไมมึงถึงไปกับมันทั้งๆที่มีกูอยู่ กูไม่อยากให้มึงไปไหนกับมันเลยวะ กูไม่ชอบ ไม่มีใครชอบให้คนของตัวเองไปยุ่งกับแฟนเก่าหรอกนะเว้ย " ผมพูดเอาแต่ใจออกไปกับมันอีกครั้ง ไฟท์หันมามองหน้าผม สีหน้าเรียบเฉยของมันทำให้ผมได้แต่นิ่ง
“ คราวหน้าจะไม่ไปแล้ว จะไม่มีครั้งหน้าอีกแล้ว เค้าไปเรียนเมืองนอกแล้ว ไม่ต้องห่วงหรอก นี่คงเป็นครั้งสุดท้าย ขอโทษทีนะ ที่ทำให้ไม่สบายใจ " เหมือนไม่ใช่คนที่เคยรู้จักเลยสักนิด สีหน้าเรียบเฉยที่ไร้อารมณ์ กับเสียงที่พูดออกมาแบบขอไปทีแบบนั้น เหมือนไม่ใช่ไฟท์คนที่ผมเคยรู้จักเลย เป็นแค่ใครอีกคนที่กำลังเบื่อหน่ายกับชีวิตของตัวเอง มันแย่เสียยิ่งกว่าตอนที่ยูเรียเสียซะอีก เพราะกูงั้นเหรอ เพราะกูบีบบังคับมึงใช่มั้ย มึงถึงต้องเป็นแบบนี้
“ ไฟท์ "
“ หื้ม "
“ มึงมีความสุขมั้ย "
“ ถามทำไม " มันหันมามองหน้าผม แต่ไฟท์ก็ยิ้มออกมาก่อนจะตอบ " มีความสุขสิ ก็มึงมีความสุขนิ กูก็ต้องมีความสุขอยู่แล้ว "
“ ไม่ใช่สิ! “ ผมตวาดใส่มัน " ไม่ต้องเอาความสุขของกูไปเกี่ยวด้วย กูอยากรู้แค่ว่า ตอนนี้มึงมีความสุขมั้ย ความสุขจริงๆ มึงมีมั้ย "
“ ก็มี ไม่ต้องคิดมากหรอก " คำพูดที่มาพร้อมมือที่จะคว้าจับผมให้เข้ามานั่งใกล้ๆแต่ผมก็สะบัดออก
“ ทำไมกูจะไม่ต้องคิดมากวะ ในเมื่อตอนนี้กูไม่มีความสุขเลย ไม่มีเลยไฟท์ ทั้งๆที่ทุกอย่างคือสิ่งที่กูต้องการแท้ๆ กูได้ผู้ชายสองคนที่กูรักมาไว้ในครอบครอง คนนึงที่ทำให้กูมีความสุข ทุกวันนี้ก็ยังทำให้กูมีความสุข ปิดหูปิดตาเชื่อกูมาตลอด ทำทุกอย่างเพื่อกู แต่กูก็หลอกเค้า มึงเองที่กูอยากจะเป็นที่หนึ่งมาตลอด พอได้มาเป็น ก็คิดว่าตัวเองจะมีความสุขแต่เปล่าเลย ทุกวันกูต้องมาเห็นมึงที่เหมือนคนเบื่อโลกและจะตายไปให้พ้นๆ ทุกคนที่คอยถามกูว่ากูมีความสุขมั้ย แล้วยอมทุกอย่างเพื่อกู กูพยายามบอกตัวเองว่ากูมีความสุข นี่คือสิ่งที่กูต้องการ แต่พอได้มาก็อยากจะได้มากกว่านี้ กูอยากให้ทุกคนมีความสุขไปด้วยกับกู ทุกคนดูเต็มใจนี่หว่า แต่ทำไมพวกมึงหรือกูถึงไม่มีความสุขเลยวะ ทำไมถึงไม่มีเลย ไม่มีเลย "
“ อิน " เสียงที่เรียกผม ไฟท์เดินมานั่งลงตรงหน้าก่อนจะคว้าผมไปกอดไว้
“ ทุกคนที่พยายามทำให้กูมีความสุขแต่ตัวกลับไม่เคยมีความสุขเลยสักครั้ง กูเองก็ไม่เคยพอเหมือนกัน อยากจะได้ความสุขที่มากขึ้นไปกว่านี้อีก อยากให้พวกมึงรักกัน อยากให้พวกมึงเข้าใจสถานะของแต่ละคน อยากให้มีความสุขในสถานะนั้นที่กูมอบให้ แต่ทำไมพวกมึงกลับไม่มีความสุขเลย ทำไมวะ ทั้งๆที่กุรักพวกมึงทั้งคู่ แต่ทำไม พวกมึงถึงไม่มีความสุขเลย " ผมหันไปถามมันที่กำลังเงียบ " มึงตอบกูสิไฟท์ ทำไมไม่ตอบ กูรักพวกมึงไม่เท่ากันเหรอ หรือรักไม่พอ ทำไมพวกมึงถึงไม่มีความสุข ทำไมถึงเรียกร้องที่อยากจะให้กูเลือกอยู่แบบนี้ เพราะอะไรกันวะ "
“ เพราะไม่ว่าใครก็ไม่อยากเป็นที่สองไง " มันตอบ " ไม่มีใครอยากเป็นที่สอง ไม่มีใครอยากให้แฟนตัวเองคบชู้กับอีกคนหรอก ไม่มีใครอยากฟังเวลาที่แฟนตัวเองบอกรักทั้งๆที่รู้ว่าเค้าก็ต้องบอกรักใครอีกคน ไม่มีใครอยากจะกอดคนที่รู้ว่าก่อนหน้านี้ก็เคยมีคนกอดเค้ามาหรอก ไม่มีใครอยากได้อะไรแบบนั้นหรอก แม้ขนาดตัวมึงเองก็เถอะ มึงไม่อยากเป็นที่สอง มึงไม่ยอมเป็น มึงบอกว่ามึงรักกู มึงรักโรม แล้วมึงทำกับคนที่มึงรักแบบนี้เหรอวะ แล้วทำไมมึงถึงไม่ยอมให้ตัวเองเป็นแบบนั้นบ้าง แบบที่เป็นที่สองนะ หรือเพราะว่าจริงๆ มึงรักตัวเอง มากกว่า รักพวกกูคนที่มึงบอกว่ารักกันแน่ " ผมที่ได้แต่ก้มหน้าลงต่ำ ต้องฟังมันอยู่แบบนั้นความจริงที่รู้สึกเจ็บปวดนั้น ทั้งๆที่อยากจะหนีมันไปให้ไกล " ถามตัวเองสิ ว่าจริงๆแล้ว รักตัวเองมากกว่าอะไรทั้งหมดใช่มั้ย ไม่ใช่ไม่รักพวกกูหรอก มึงรัก แต่ที่ไม่เลือกใครแบบนี้ เพราะมึงเองรักตัวเองมากกว่า มึงเลือกได้แล้วอิน รักคนอื่นบ้าง อย่ารักแต่ตัวเองเลย "
สุดท้ายก็ได้แต่ร้องไห้มันอยู่แบบนั้น ร้องไห้จนไม่รู้ว่าจะมีน้ำตาเหลืออยู่อีกมั้ย ไฟท์ที่กอดผมไว้ มันลูบหลังปลอบเบาๆ ผมไม่รู้จะเดินไปทางไหนไม่อยากเสียใครไป แต่ก็ไม่มีใครมีความสุข ความรักที่มากกว่าสอง ไม่ใช่ความรัก หรอก ยังไงก็ต้องเลือกอยู่ดี
“ ยอมรับความจริงเถอะ อิน มึงจะได้มีความสุข มันอาจจะทุกข์แต่พอมึงหายเจ็บ มึงจะต้องมีความสุขแน่ๆ อย่างน้อยก็สุขกว่าตอนนี้ " น้ำตาของผมไหลออกมาหนักขึ้นตอนที่มันพูดแบบนั้น หัวใจที่บีบรัดจนเจ็บไปหมด ไม่อยากเสียใครไปทั้งนั้น แต่ถ้าดึงไว้ก็ไม่มีใครมีความสุขเลย ทำไมทุกอย่างต้องเป็นแบบนี้วะ ทำไม
“ ไฟท์ กูไม่เลือกมึงนะ กูไม่เลือกมึง เพราะมึงไม่ได้รักกู แต่กูก็ไม่ได้รักมึง กูแค่อยากเป็นที่หนึ่งของมึงเท่านั้น อยากเป็นตลอดไป " ผละตัวเองออกจากอ้อมกอดของมัน ขาที่แทบจะทรุดลงฝืนลุกขึ้น " แล้วกูก็ไม่เลือกไอ้โรม เพราะกูไม่ได้รักมันมาก เท่าที่มันรักกู " ผมกัดปากของตัวเองแน่น มันเจ็บปวดแต่นี่คือวิธีที่ดีที่สุดแล้ว วิธีที่ดีที่สุดคือการปล่อยให้ทุกอย่างจากไป " กู จะเลือกแค่คนที่กูรักมากที่สุดเท่านั้น กูเลือกตัวเอง .. เพราะกูรักตัวเองมากที่สุด "
ผมจะยอมปล่อยทุกอย่างให้จากผมไป ไม่เอาอีกแล้ว ไม่อยากมีอีกแล้ว ความสุขแบบนั้น ความสุขจอมปลอมแบบนั้น ความสุขที่ทำให้ตัวเองต้องทรมาน ไม่ต้องการมันอีกแล้ว
โหยหาความรักก็เพื่อตัวเอง อยากได้ทุกอย่างมาครอบครองก็เพื่อตัวเอง ทำร้ายคนอื่นก็เพื่อตัวเอง อยากมีความสุขก็เพื่อตัวเอง เพราะฉะนั้น ถ้ากูรักแค่ตัวกูเอง กูก็ควรที่จะ เลือกตัวเอง
..................................................
สวัสดีค่ะ หนมเองนะ
สำหรับใครที่อ่านมาถึงตอนนี้ คงมีความรู้สึกหลากหลายแบบที่อยากจะพูดกับหนม
“ ทำไมจบแบบนี้เชียร์มาตั้งนาน " เรามองว่า การจบแบบนี้คือการจบที่จะลดความเจ็บปวดของทุกคนที่สุด
ความรักของคนทั้งสี่คนเหมือนความรักที่ถ้าเป็นเชือกคงพันกันยุ่งเหยิงจนแก้ไม่ออก การที่เรา ถอย หรือ ตัดมันซะ เรามองว่ามันคือทางออกที่ดีที่สุด ในเมื่อไม่ว่าทางไหนก็ต้องเสียใจ การที่เดินถอยออกมา คือสิ่งที่ดีที่สุด ที่ทุกคนควรทำ
แต่นิยายเรื่องนี้ไม่ได้จบแค่นี้หรอกนะคะ " มันยังมีตอนพิเศษอยู่ " ตอนพิเศษที่จะรองรับความสัมพันธ์ทั้งหมดนั้น ตอนพิเศษที่เมื่อทุกคนถอยออกมาแล้ว คราวนี้จะเลือกเดินเข้าไปอีก หรือ ออกไปเจอรักใหม่ แต่เราเชื่อว่า ถ้ากลับมาจะไม่เป็นแบบเดิมอีกแล้ว
อยากให้เรื่องราวทั้งหมด คือช่วงชีวิตหนึ่งที่จะค่าประสบการณ์แก่คนสี่คนนี้ให้มากๆ ไม่ใช่แค่เฉพาะตัวละครใดตัวละครหนึ่ง เพราะฉะนั้น กรุณาอย่าเพิ่งหนีหายไปไหน กลับมาอ่านตอนพิเศษกันก่อนนะคะ
“ ถ้าความรักมันเลือกยากนัก ก็ไม่เลือก เลือกตัวเองเถอะ เพราะถ้าความรักต้องถูกเลือก ถ้าต้องชั่งใจแล้วละก็ นั่นไม่ใช่ความรักแล้วแหละ เพราะความรักจริงๆจะมีแค่ตัวเลือกเดียว คือ คนที่เรารักเท่านั้น ถ้ามากกว่านั้น มันไม่ใช่รักคนอื่นแล้วแหละ เราเรียกมันว่า การรักตัวเอง "
ความรักไม่มีถูก ไม่มีผิด ทุกคนที่สิทธิเลือกสิ่งที่ดีที่สุดของตัวเอง มันอยู่ที่ว่า เราจะยอมรับผลลัพธ์ของมันได้มั้ย ฝากไว้แค่นี้นะคะ
ประกาศ
หลังจากที่ยังจะอัพนิยายเรื่องนี้ แต่เป็นตอนพิเศษเรื่อยๆ ( อย่าลืมเข้ามาอ่านกันนะจ้ะ ) รับรองว่าไม่ดราม่าละ
นิยายเรื่องนี้จะมีตีพิมพ์ ตอนนี้หนม กำลังตรวจคำผิด และวาดปกนิยายอยู่
ใครที่สนใจ นิยายเรื่องนี้ สามารถแจ้งความจำนงไว้ก่อนได้ ตามลิงค์นี้
https://docs.google.com/forms/d/13txTIi4agJtYZQgdIAm5cxRc--ILrypGZKQheYzezkQ/viewform?usp=send_formรักเสมอ และ ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตอนนี้ แม้มันจะดราม่า อัพช้า และกว่าจะอัพ ทุกคนเหนื่อยกับเรื่องนี้มามาก เพราะงั้นหลังจากนี้ หนมมี่จะตอบแทนทุกคนด้วยรอยยิ้ม ขอบคุณอีกครั้งที่ไม่ทิ้งกันไปไหน แล้วเรามาเจอกันอีกในนิยายเรื่องใหม่นะ
หนมมี่ผู้ใสซื่อ

ป.ล. เรื่องนี้ยังมีตอนพิเศษ และ เรื่องต่อไปที่จะเขียนคือ "เปิดท้ายขายน้ำ " นะคะ