' ► Choice รักที่ต้องเลือก UP! 9.8.58 {จบแล้ว/แจ้งข่าว ll อัพตอนพิเศษที่ 8} หน้า 44
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ' ► Choice รักที่ต้องเลือก UP! 9.8.58 {จบแล้ว/แจ้งข่าว ll อัพตอนพิเศษที่ 8} หน้า 44  (อ่าน 354928 ครั้ง)

ออฟไลน์ arale

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
จบแบบ งงๆอ่ะ คำพูดของตัวละครแต่ละตัวดูไม่ค่อยสมเหตุสมผล เอาเถอะยังไงก็แล้วแต่ เจ็บปวดกันถ้วนหน้า ปล่อยวางซะทุกคน แต่ก็ยังรักอินแบบเดิมอยู่ไม่รู้ทำไม เหมือนจะเข้าใจอินอ่ะ หนักแน่นกับใจตัวเองไว้อิน เค้าไม่รักเรา เราก็ปล่อยซะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
จบแบบนี้เลยเหรออ. เฮ้ออ.  ชีวิตจริงไม่มีแบบนี้เหรอกครับ. ที่จะถอยออกมาหมด.

ออฟไลน์ Theodore

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
เป็นตอนจบที่หวังไว้คับ แบบนี้แหละดีแล้ว

ออฟไลน์ primmi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
ชอบที่จบแบบนี้ค่ะ เหมือนจบที่อินคิดได้ในที่สุด แต่ตัดจบแอบห้วนไปหน่อย
น่าจะมีส่วนอธิบายความคิดของอินในตอนสุดท้ายให้มากขึ้น คนจะได้เห็นว่าอินหลุดพ้นแล้วจริงๆ กลายเป็นอินคนใหม่ที่จะมีค.สุขได้ด้วยตัวเองไม่ต้องร้องขอจากใคร

แต่คิดว่าถึงจบที่แบบนี้ แต่สุดท้ายพออินถอยออกมาจริงๆอินคงได้รู้ว่าใครกันแน่คือคนที่ใช่
ส่วนตัวแล้วเรานั่งยันนอนยันว่าอินไม่ได้รักไฟท์แน่ๆ หลังจากนี้พอไม่มีโรมแล้วอยากให้อินรู้สึกตัวซะทีนะว่ารักใคร
ส่วนไฟท์เตไม่รู้จะได้กลับมาคบกันหรือเปล่า แต่ยังไงก็ชอบคู่นี้มาก เข้าใจกันให้กำลังใจกันจนหยดสุดท้ายจริงๆ
ดูเป็นรักแบบผู้ใหญ่ที่เข้าใจชีวิต และรู้ลิมิตตัวเอง ไม่งมงายในความรักดี ชอบๆ

ออฟไลน์ May@love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 827
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
ในที่สุดอินก็ยอมถอย เป็นตอนจบที่คิดไว้ในใจ

รอติดตามตอนพิเศษนะคะ ว่าก้าวต่อไปของชีวิต

แต่ละคนจะมีหนทางเดินอย่างไร

ออฟไลน์ Tsubamae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
มันจบแบบสุดท้ายอินก็กลายเป็นคนเห็นแก่ตัวรักแร่ตัวเองซะงั้น
ก็ดีเหอะ โดนโยนความผิดกรอกใส่หัว
มาอย่างนั้นเป็นใครๆก็คงเข็ดกับความรัก
ไปอีกนาน ตัดไปเหอะไฟท์น่ะมันไม่ได้รักอินเลยสักนิด
หายไปจากชีวิตเลยยิ่งดีต่างคนต่างไป เชื่อว่าในสักวัน
อินต้องตัดใจได้ ล้างมันใหัหมด รอเปิดรับคนใหม่เขีามา

ออฟไลน์ naamsomm

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
ขอบคุณที่จบแบบนี้
คนแบบอินไม่สมควรจะเหลือใครจริงๆ
การทำแบบนี้มันเห็นแก่ตัวเกินไป
เพราะตัวเองเจ็บ  คนอื่นเลยต้องเจ็บไปด้วย
แบบนี้ไม่ไหวอ่ะ
รอตอนพิเศษนะคะ

ออฟไลน์ loyal_mook

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โคตรอึดอัดเลย แต่เราโอเคนะกับตอนนี้ เรารู้สึกว่าปมทุกคนมันคลายแล้วยกเว้นอิน ตั้งแต่อ่านมาไม่มีวี่แววเลยว่าอินจะเลือกได้ ถ้าอินยังดันทุรังต่อปมใหม่ก็จะเกิดขึ้น แต่เราก็เข้าใจอินนะที่มันเป็นแบบนี้ ที่มันโคตรเห็นแก่ตัวแบบนี้ ต้องเข้าใจว่ามันรักไฟท์มาตั้งนานแล้ว ละประเด็นคือไฟท์ไม่ได้รักอินแบบนั้นแต่ดันเอากันเฉย จะโทษแค่อินก็ไม่ได้ ถ้าคิดจะคบกันแบบ friend with benefit ใจมึงต้องตรงกัน ไม่งั้นแม่งต้องมีคนเจ็บแน่นอน ส่วนโรมมึงโคตรซวยเลย เตอีกคน สองคนนี้เราว่าชัดเจนนะ ตัดขาด แต่ดันมารักสองคนนี้ เราชอบมากที่อินพูดว่า ไม่เลือกไฟท์เพราะไฟท์ไม่ได้รักมัน ไม่เลือกโรมเพราะมันรักโรมไม่เท่าที่โรมรักมัน คือควรอยู่กับตัวเองอ้ะตอนนี้ อยากอ่านตอนพิเศษมาก อยากรู้ว่าอินจะเป็นยังไง อันนี้คือคิดภาพไม่ออกจริงๆ คนเขียนสู้ๆนะ เรารออ่านอยู่
 :กอด1:

ออฟไลน์ Ryu_Chise

  • You love me?
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
เราอ่านจนจบ แล้วเราเข้าใจอินนะเข้าใจไฟท์ เข้าใจโรม เข้าใจแอล เราเข้าใจคนแต่งด้วย  :mew6: :mew6:

เราจะรอตอนพิเศษของนิยายเรื่องนี้ จะเข้ามาดูบ่อยๆเลย เราเชื่อว่าคุณคนแต่งจะหา Happy End ให้แต่ละตัวละครได้เหมาะสม

มากกว่า Sad Eng ที่จบไป ใจจริงเราอยากให้ทุกตัวละครเข้าใจกันและปรับความเข้าใจกันนะ แยกกันเพื่อบอกกับตัวเอง

ถามตัวเองหรือพบกับคนใหม่เพื่อถามตัวเอง เราจะรอค่ะ อ่านมาตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนที่ 44 เนี่ย ไม่ค่อยคอมเม้นต์เพราะ

เราเศร้าเม้นต์ ไม่ค่อยได้   :a5: :a5: :a5:  อ่านแล้วอารมณ์เศร้า จะร้องไห้เลย

ออฟไลน์ milkshake✰

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ไม่ได้เม้นท์นานมากกกกกกกก (หายไปพักใจรอจบค่อยกลับมาอ่าน)
เราหยุดอ่านไปเพราะไม่ชอบแนวคิดของอิน เราเจ็บแทนคนรอบข้าง
กลับมา เราก็ยังไม่ชอบใจเท่าไรอยู่ดี
เราเข้าใจเรื่องไม่อยากปล่อยใครไปซักคน
แต่ทำไมตอนอยู่กับไฟท์ ก็พูดเหมือนไฟท์สำคัญกว่า อยู่กับโรมก็อีกอย่าง
เหมือนทำทุกอย่างเพื่อรั้งไว้ทรมานกันเล่นทั้ง 3 คน
ไม่ค่อยชอบใจอินเท่าไรเลย คนแบบนี้เหมือนไม่รู้จักความรักจริงๆ
ตอนสุดท้ายที่เสนอตัวให้ไฟท์ ทั้งๆ ที่มีร่องรอยของโรมอยู่ นี่เราโคตรไม่ชอบอินเลย
ให้ตายเถอะ น่าจับมาฟาดให้ก้นลาย

จบดีค่ะ เราเห็นด้วย
เพราะคนแบบอิน คงอีกนานกว่าจะคิดได้ว่าควรทำยังไงกับปัญหานี้
ตอนนี้อินเหมือนรักแต่ตัวเอง
ยังไม่พร้อมจะมีใครหรอกค่ะ
รอให้อินพร้อมก่อนดีกว่าเนอะ
ซึ่ง........ คนอีกนาน

สารภาพว่าอยากให้โรมเจอคนอื่นที่ดีกว่านี้ก่อนอินจะรักคนอื่นเป็น
ไฟท์ด้วย อย่าอยู่กับคนแบบนี้เลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ IöLIKE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-6

ออฟไลน์ hikkie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
จบแบบต้องเลือกแต่ก็ยังไม่หายอึดอัด
รอดูดีกว่าว่าถ้าอินและทุกคนถอยออกมาแล้วเดินเรื่องไปตามปกติแล้วตอนจบจริงๆมันจะยังไง

ออฟไลน์ patchybelle

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
อ่านรวดเดียวเลย บอกได้คำเดียวว่าหน่วงมาก มันคนละฟีลกะบีทีเอสเลยยยยยยยยยยยย

คนที่สงสารมากที่สุดคือไฟท์ ไฟท์ที่เหมือนตอนแรกดูเหมือนเห็นแก่ตัว แต่คือคนที่ไม่เหลืออะไรเลย น่าสงสารที่สุด :monkeysad: :monkeysad:

อินควรปล่อยไฟท์ไปอ่ะ ตอนแรกเหมือนจะเข้าใจความรู้สึกอินนะ มันเป็นความรักแหละ แต่มันคือความรักที่เห็นแก่ตัวดคตรๆเลย ความรักเพื่อนที่อยากเป็นที่หนึ่งตลอดไป สุดท้ายก็ไม่มีใครมีความสุข

เชียร์โรมมาตลอดเลย อยากให้คู่กัน หวังว่าตอนพิเศษจะมีความสุขจริงๆกันบ้างสักที ขอร้องนะคนเขียน อยากเห็นตัวละครมีความสุขจริงๆกันซะที  :mew6:

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
5555 ดีนะที่ตอนนั้นไหวตัวทัน

ออฟไลน์ pummy09

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
จบแล้วอะ

อ่านๆมา เหมือนละครโดนห้ามฉายแล้วตัดตอนจบเลย ฮ่าาาาา
แต่มองอีกมุม ก็เหมือนกับชีวิตคนเรานะคะ มีหลายแบบหลายอย่าง  คิดว่าเหตุการณ์เหล่านี้ เป็นช่วงหนึ่งของชีวิต เมื่อสุดท้ายไม่เลือกใคร อินเลือกตัวเอง ทุกคนถอยออกมาอยู่กับตัวเอง ก็ถึอได้ว่าจบเหตุการณ์ของช่วงนี้ได้เช่นกัน  ส่วนจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปในภายหลัง มันก็เป็นเรื่องของอนาคต ทั้ง 4 อาจกลับมารักกันใหม่ หรือไปมีใครคนอื่นไปเลยก็ได้ มันคือชีวิต

เป็นเรื่องที่อ่านแล้วหน่วงมากค่ะ แต่ก็ต้องอ่านให้จบ เพราะอ่านมาแล้วก็ต้องอ่านให้จบ ฮ่าาาาาาา  (เขียนเอง งงเองค่ะ)

ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ สำหรับเรื่องราวที่เขียนให้อ่านกัน จะรอตอนพิเศษนะคะ

ออฟไลน์ SuPeRDonGDanG

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ทั้งหมดทั้งมวลที่อ่านมานี้ บอกได้คำเดียวเลยว่าสงสารทุกคนยกเว้นอิน
อินเห็นแก่ตัวมากจริงๆ ยิ่งอ่านยิ่งไม่ชอบ ทำไมนิสัยแบบนี้
พี่โรมมมมมมมมมมมมมมมมมม  :ling3:

ออฟไลน์ IsoHeart

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
คือเรารู้สึกว่า ทำไมอินโดนคุณหนมกลั่นแกล้งจังคะ   ด้วยเหตุผลประการข้างล่าง  ช่วงหลังๆเราเลยไม่อินกับเนื้อเรื่องเลยอ้ะ  ตามนี้ๆ

ไม่มีใครรักอินจริงซักคน แม้แต่โรม ทุกคนรักแอล  แต่ทำผิดกะอิน  เลยต้องเลือกอิน  ทั้งที่รักแอล

>>>> ตอนที่แอลกลับมาอยู่กับโรม  ถ้าแอลเข้ากับอลิซได้ แล้วโรมจะเลือกอินเหรอ สิ่งที่โรมแสดงออกมามันบอกทุกอย่างแหละ
จริงๆอินต้องเป็นคนถามโรมว่า   ทำไมถึงเลือกอิน  เพราะแอลรับอลิซไม่ได้  หรือเพราะหาคนที่รักอลิซจริงอย่างอินไมได้กันแน่

2.ที่ตอนหลังไฟท์เลือกเพื่อความสุขของอิน  ไม่จริงหรอก  ไฟท์แค่รู้ว่าถ้าตัวเองไม่เลือกอิน  ตัวเองก็จะต้องรู้สึกผิดไปตลอดที่คบกับแอล  และมันก็จะไม่จบ  งั้นโยนบทบาทคนร้ายให้อินซะ  ตัวเองก็ไม่ต้องรู้สกผิด   ดูคนดีขึ้นมาเชียว  แล้วก็ทำตัวซังกะตายให้อินเห็นแล้วรู้สึกผิดมากๆ  ก็เพราะรู้ว่าอินรัก  เดี๋ยวอินก็ต้องยอมปล่อยตัวเองไปเพราะรักมากอยู่ดี 

ไฟท์เล่นกับความรักของอิน  รอให้อินทุกทรมานที่เห็นตัวเองจะเป็นจะตายที่ยอมทิ้งแอลเลือกอิน  ทำเป็นพูดว่าเลือก เพื่อความสุขของอิน 
>>>>สังเกตุจาก  ทุกครั้งที่อินเป็นห่วงไฟท์ ไฟท์มักจะพูดว่า  อินมีความสุขมั้ย?     
นั่นแหละเหมือนจะตอกย้ำอินว่า  มึงนั่นแหละที่ทำให้กูเป็นแบบนี้   รอจนกว่าอินจะทนไม่ไหว   ตัวเองก็ไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรแล้ว   

สิ่งที่แฝงอยู่
กูเจ็บมึงก็เจ็บไปกะกูละกัน  มึงไม่ปล่อยกูไปเองหนิ


ทำร้ายกินเกินไปแล้วววววว

ไฟท์ เห็นแก่ตัวมากสุด 

อิน ผู้ไม่มีใครรักจริง 

โรม ผู้ที่จริงรักแอล แต่ต้องเลือกอิน   

แอล คนที่ทุกคนรัก  แต่ไม่ได้รักโรมมากพอที่จะรักอลิซ  และไม่ได้ถูกไฟท์เลือก(ทั้งที่รักแอล) เพราะความผิดบาปของไฟท์เองที่ทำมากะอิน มั้นค้ำคอ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-06-2015 10:56:59 โดย IsoHeart »

ออฟไลน์ Baitaew

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 361
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
คนแบบโรมนี่อย่าให้เจอ แม่จะฟาดเข้าให้  :m16:

คนแบบนี้นี่ไม่สมควรจะมีใครเลย !!!
อยู่คนเดียวไปนั่นแหละดีแล้ว รักภาษาอะไร ดึงให้คนอื่นต่ำลง ชิ!! (อินมากกก)


เอาเป็นว่า ขอบคุณนะคะที่แต่งนิยายสนุกๆ ให้อ่าน :)

ออฟไลน์ akkharadech

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
คือเรารู้สึกว่า ทำไมอินโดนคุณหนมกลั่นแกล้งจังคะ   ด้วยเหตุผลประการข้างล่าง  ช่วงหลังๆเราเลยไม่อินกับเนื้อเรื่องเลยอ้ะ  ตามนี้ๆ

ไม่มีใครรักอินจริงซักคน แม้แต่โรม ทุกคนรักแอล  แต่ทำผิดกะอิน  เลยต้องเลือกอิน  ทั้งที่รักแอล

>>>> ตอนที่แอลกลับมาอยู่กับโรม  ถ้าแอลเข้ากับอลิซได้ แล้วโรมจะเลือกอินเหรอ สิ่งที่โรมแสดงออกมามันบอกทุกอย่างแหละ
จริงๆอินต้องเป็นคนถามโรมว่า   ทำไมถึงเลือกอิน  เพราะแอลรับอลิซไม่ได้  หรือเพราะหาคนที่รักอลิซจริงอย่างอินไมได้กันแน่

2.ที่ตอนหลังไฟท์เลือกเพื่อความสุขของอิน  ไม่จริงหรอก  ไฟท์แค่รู้ว่าถ้าตัวเองไม่เลือกอิน  ตัวเองก็จะต้องรู้สึกผิดไปตลอดที่คบกับแอล  และมันก็จะไม่จบ  งั้นโยนบทบาทคนร้ายให้อินซะ  ตัวเองก็ไม่ต้องรู้สกผิด   ดูคนดีขึ้นมาเชียว  แล้วก็ทำตัวซังกะตายให้อินเห็นแล้วรู้สึกผิดมากๆ  ก็เพราะรู้ว่าอินรัก  เดี๋ยวอินก็ต้องยอมปล่อยตัวเองไปเพราะรักมากอยู่ดี 

ไฟท์เล่นกับความรักของอิน  รอให้อินทุกทรมานที่เห็นตัวเองจะเป็นจะตายที่ยอมทิ้งแอลเลือกอิน  ทำเป็นพูดว่าเลือก เพื่อความสุขของอิน 
>>>>สังเกตุจาก  ทุกครั้งที่อินเป็นห่วงไฟท์ ไฟท์มักจะพูดว่า  อินมีความสุขมั้ย?     
นั่นแหละเหมือนจะตอกย้ำอินว่า  มึงนั่นแหละที่ทำให้กูเป็นแบบนี้   รอจนกว่าอินจะทนไม่ไหว   ตัวเองก็ไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรแล้ว   

สิ่งที่แฝงอยู่
กูเจ็บมึงก็เจ็บไปกะกูละกัน  มึงไม่ปล่อยกูไปเองหนิ


ทำร้ายกินเกินไปแล้วววววว

ไฟท์ เห็นแก่ตัวมากสุด 

อิน ผู้ไม่มีใครรักจริง 

โรม ผู้ที่จริงรักแอล แต่ต้องเลือกอิน   

แอล คนที่ทุกคนรัก  แต่ไม่ได้รักโรมมากพอที่จะรักอลิซ  และไม่ได้ถูกไฟท์เลือก(ทั้งที่รักแอล) เพราะความผิดบาปของไฟท์เองที่ทำมากะอิน มั้นค้ำคอ
เห็นด้วยครับ

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ตอนพิเศษที่ 1 

   4 ปีผ่านไปแล้วหลังจากวันนั้น ผมที่มองออกไปนอกหน้าต่างตอนที่ละสายตาออกจากหนังสือที่กำลังอ่านอยู่ในมือ ยังคงจดจำคราบน้ำตาของตัวเองตลอดเวลาที่ยืนอยู่ตรงนั้นได้ดี ตอนที่ต้องยอมแพ้กับทุกอย่างตรงหน้าในเรื่องของความรัก สายตาเจ็บปวดของคนรักทั้งสองที่จ้องมองมาทางผม ทั้งรัก ทั้งหลง และอยากครอบครอง ความรักที่คิดว่าถ้าเป็นแบบนั้นจะทำให้มีความสุข แต่ทว่าสุดท้ายมันก็ไม่ใช่

   ผมที่ต้องเป็นคนก้าวเดินออกมาทั้งน้ำตา ผมที่ต้องเลือกคนที่ตัวเองรักที่สุด แล้วมันก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย คนคนนั้นก็คือ ผมเอง แต่ตอนนี้พอมองย้อนไปการที่ตัดสินใจแบบนั้น นั่นมันก็ดีแล้ว ' อย่างน้อยก็ดีที่สุดสำหรับตัวผมเอง '  ดีที่ไม่ต้องทนอยู่กับความเจ็บปวดที่ต้องหลอกตัวเองว่ามีความสุขแบบนั้นอีกแล้ว  ดีแล้วที่ปล่อยพวกมันให้มีความสุข อย่างน้อยก็คงมีความสุขมากกว่าที่ต้องมาอยู่กับคนเห็นแก่ตัวที่ รักผู้ชายถึงสองคนอย่างผม

   ภูมิทัศน์ตรงหน้าต่างที่กำลังเปลี่ยนไป หัวใจของผมเต้นแรงตอนที่มองลงไปข้างล่างนั่น สี่ปีแล้วที่ไม่ได้กลับมาเมืองไทยเลย ตั้งแต่วันนั้นที่ตัดสินใจจบเรื่องราวทุกอย่างแล้วบินไปเรียนต่อสาขาเฉพาะทางที่เมืองนอก แม้จะดูเหมือนว่าการไปครั้งนี้ จะเป็นการพักใจมากกว่าการไปเรียน แต่ว่าการที่ได้ลืม ได้ลบล้าง อะไรบางอย่างออกจากใจไปบ้าง นั่นก็คงดีกว่าจะจมอยู่แบบนั้น

   ตรวจเช็คเอกสาร รับกระเป๋าเรียบร้อย ผมก็ลากกระเป๋าของตัวเองออกไปตามทางเดิน สายตาของผมสอดส่องไปตามทางมองหาคนที่บอกเอาไว้ว่าจะมารอรับ

“ อิน " ผมหันไปตามเสียง ป้ายสีขาวที่ยกขึ้นอยู่นั้นโบกไปมา ชื่อจริงพร้อมนามสกุลของผมที่ถูกเขียนลงบนป้าย ใบหน้าของครอบครัวที่ไม่เจอกันนาน ผมคลี่ยิ้มออกมาก่อนจะเร่งฝีเท้าเข้าไปใกล้ ผมยกมือขึ้นไหว้พ่อกับแม่แล้วก็ตินก่อนจะสวมกอดทุกคนเอาไว้

“ เป็นยังไงบ้างลูก  การเดินทางไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ย "

“ ไม่มีครับ " ผมตอบก่อนจะกอดแม่เอาไว้แน่น " คิดถึงอินมั้ยแม่ "

“ คิดถึงสิ " แม่ตอบ ตอนที่มองใบหน้าของเธอ น้ำตาของแม่ก็ไหลออกมา " คิดถึงมากๆเลย "

“ แกทำแม่ร้องไห้แล้วอิน " ตินบอกผมก็ยิ้มออกมา

“ ก็กลับมาแล้วไง ไม่ต้องคิดถึงแล้ว "

“ คราวนี้ไม่หนีไปไหนแล้วนะ " แม่ถาม ผมก็พยักหน้า

“ ไม่หนีไปไหนแล้ว " ผมบอกก่อนครอบครัวของเราจะกอดกันไว้แน่น

   มื้อเย็นของวันนี้เปลี่ยนมาเป็นงานเลี้ยงเล็กๆต้อนรับผม  อาหารมากมายที่เป็นของโปรดวางเรียงอยู่บนโต๊ะ ผมเดินเข้าไปใกล้ตอนที่กำลังจะหย่นตัวลงนั่ง เสียงนึงก็เรียกเอาไว้ก่อน

“ พี่อิน "

“ วาด " ใบหน้าหวานที่ผมเห็นตรงหน้าขาเล็กที่ก้าวเข้ามาพร้อมน้ำตา  ตรงเข้ามากอดผมไว้

“ พี่อิน พี่อินกลับมาแล้ว " คำพูดที่มาพร้อมน้ำตามากมายที่ไหลออกมาซึมลงมาบนเสื้อผม ตอนที่ผละอ้อมกอดจากอีกคนแล้วย่อตัวคนตรงหน้า ผมยิ้มกับท่าทางงอแงที่เหมือนเด็ก

“ รู้มั้ย คุณหมอเค้าไม่ร้องไห้งอแงแบบนี้หรอกนะ " ผมแซวอีกคนก็ส่ายหน้า

“ ถึงจะเป็นหมอยังไง แต่วาดก็เป็นน้องพี่อินนะ พี่อินใจร้าย จะไปก็ไม่บอก จะกลับมาก็ไม่บอกอีก "

“ ก็แบบนั้นจะเรียกว่า เซอร์ไฟส์เหรอ " ผมถาม แต่วาดก็ทำได้แค่ถอนหายใจออกมา

“ ไม่ตลกเลยครับพี่อิน "

“ ก็ไม่ได้บอกว่าให้ขำนี่ ฮ่าๆ  " บอกแบบนั้นก่อนจะหัวเราะกับท่าทางหงุดหงิดของอีกคน " โอเคไม่แกล้งละ แล้วเป็นยังไงบ้าง คุณหมอฟันป้ายแดง "

“ อย่าพูดแบบนั้นสิครับ เพิ่งเป็นได้แค่ปีเดียวเอง ยังต้องเรียนรู้อีกมาก " วาดบอกก่อนจะถอนหายใจ " ไม่พูดเรื่องผมสิ ให้ผมถามเรื่องพี่อินก่อน แล้วนี่จะกลับไปอีกมั้ย "

“ ดูเด็กเอาใจคนนี้สิแม่ เอาแต่ใจไม่เปลี่ยนเลย "  “ ผมบีบจมูกเล็กๆนั่นอีกคนก็ทำหน้างอ " แล้วอยากให้พี่กลับไปอีกมั้ยละ "

“ ไม่ครับ " เสียงดังฟังชัดทั้งบ้านก็หัวเราะขำ  " ไม่อยากให้พี่อินไปไหนอีกแล้ว "

“ ไม่ไปแล้ว ไม่ต้องห่วง " ผมบอกก่อนจะยิ้ม " แล้ววาดเป็นยังไงบ้าง "

“ สบายดีครับ "

“ หมายถึงทุกเรื่องนะ เรื่องความรัก เรื่องการงาน ชีวิตส่วนตัวด้วยนะ " อีกคนพยักหน้าลงผมก็ยิ้ม " งั้นก็ดีแล้วแหละ ยังคบกับหมอเซฟอยู่ใช่มั้ย "

“ ครับ "

“  บ่นว่าอยากเลิกตลอดเลยนิ ทำไมไม่บอกพี่อินไปแบบนั้นละ " ตินค้านอีกคนก็ยิ้มแห้งๆ

“ เปล่าสักหน่อย "

“ เมื่อวานยังบ่นกับพี่อยู่เลย "

“ ก็แค่บ่นนะครับ " วาดบอกก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ " กินข้าวกันเถอะครับ ผมหิวแล้ว ดูสิกับข้าวน่ากินไปหมดเลย "

“ ท่าทางจะไม่ได้สบายทุกเรื่องสินะ " ผมหันไปหาติน อีกคนก็หัวเราะ

“ แค่เด็กไม่ชอบโดนบ่นน่ะ ชินกับการตามใจก็เงี้ย " 

“ ไม่ใช่สักหน่อย " วาดค้านติน ผมหัวเราะกับหน้าตางอนๆของมันที่ไม่ค่อยได้เห็นเท่าไหร่  " คนนั้นก็บ่นมากเกิน บางทีก็บ่นอะไรมากมายไร้สาระ "

“ ท่าทางจะหนัก " ผมแซว แต่พ่อกับแม่กลับเห็นมันเป็นเรื่องขำขันและเพราะยิ่งเป็นแบบนั้นอีกคนก็ยิ่งหน้างอ

“ พ่อกับแม่เวลาหมอเซฟดุวาดทีไรก็เอาแต่ยิ้มแบบนี้ตลอดเลย "

“ ก็มันน่าดุจริงๆ นี่ บางเรื่องน่ะ " พ่อบอกก่อนแม่จะยื่นมือมาลูบหัวอีกคน

“ ดื้อ บางทีไม่มีเวรก็อยู่ซะดึกดื่น พักผ่อนก็น้อย ภารกิจเยอะแยะไปหมด ทำทั้งที่โรงพยาบาล ไหนจะไปรับงานที่คลีนิคอีก น่าตีมั้ยละ  "

“ ไหวเหรอ "

“ ไหวครับ " อีกคนตอบ " ก็ผมอยากจะมีประสบการณ์เยอะๆ ตอนนี้อยากไปเรียนเฉพาะทางด้วยครับ อยากเรียนทันตกรรมเกี่ยวกับเด็ก "

“ จะไม่หนักไปเหรอ " พ่อถามอีกคนก็ส่ายหน้า " พ่อว่าออกจากงานแล้วตั้งใจเรียนไปเลยดีกว่านะ "

“ งั้นขอคิดดูก่อนดีกว่านะครับ " วาดบอก ยังคงเป็นเด็กดื้อเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ " แล้วพี่อินจะกลับไปทำงานเมื่อไหร่เหรอครับ "

“ คงเร็วๆนี้แหละ "

“ พ่อบอกหัวหน้าแผนกให้แล้วล่ะนะ "  ผมหันไปหาพ่อตัวเองตอนที่ท่านพูดแบบนั้น

“ ผมจะไม่กลับไปทำงานที่เดิมหรอกครับ ผมจะไปทำงานโรงพยาบาลอื่น " ตอนที่พูดออกไป ทุกคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารก็เงียบลงหมด ทุกคนหันมามองหน้าผม ก่อนจะเป็นแม่ที่พูดขึ้น

“ ตัดสินใจดีแล้วเหรอ "

“ ครับ " ผมย้ำความต้องการของตัวเอง ทุกคนดูเหมือนมีคำถามออกมาจากสีหน้าแต่กลับไม่พูดอะไรออกมา ผมก้มหน้าลงกินอาหารที่ตั้งอยู่ตรงหน้า รสชาติที่คิดถึง และเมนูอาหารโปรดกำลังทยอยเข้าปากไปทีละอย่าง " อร่อยจังเลยครับ อยู่นู้นกินแต่ขนมปัง อาหารไทยที่มีขายก็ไม่อร่อยเท่าไหร่ ได้กลับบ้านมากินแบบนี้จะกินให้เต็มคราบเลย จะกินให้อ้วนเลย ก่อนจะลุยงานหนัก "

“  ยังลืมเค้าไม่ได้เหรอ " ตินตั้งคำถามขึ้นบนโต๊ะอาหารที่สงบเงียบนั้น มันคงเป็นคำถามที่ใครอยากรู้ ช้อนที่กำลังจะยื่นไปตักอาหารในจานหยุดชะงัก ผมเงยหน้ามองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า  " ทั้งสองคนนั้น ยังลืมไม่ได้เหรอ "

“ เปล่า ทำไมคิดแบบนั้นละครับ ผมลืมพวกมันไปหมดแล้ว ลืมไปตั้งแต่ก่อนไปอีก " ผมบอกแต่สายตาจ้องมองมาที่ผมของทุกคนกลับไม่ได้เชื่อแบบนั้น ผมรู้ มันมีแววตาที่น่าสงสารอยู่ในนั้น " อย่ามองผมแบบนั้นสิครับ "

“ อิน "

“ ผมไม่ได้น่าสมเพชขนาดนั้น " หันไปบอกกับทุกคนแบบนั้น " ผมลืมมันไปหมดแล้วแหละ เรื่องทั้งหมดนั่น แต่ที่ไม่อยากจะกลับไปทำงานที่เดิม ก็แค่ไม่อยากอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิมๆ อยากได้เพื่อนร่วมงานใหม่ สังคมใหม่ อยากจะเปลี่ยนบ้างมันก็เท่านั้นแหละครับ "

“ ตามใจแล้วกัน อินโตแล้ว อินย่อมมีเหตุผลเป็นของตัวเอง กินข้าวเถอะนะ  " พ่อพูดจบการสนทนาของเรา ก่อนที่วาดจะตั้งคำถามอีกมากมายเพื่อถามผม และแน่นอนว่ามันลดความตึงเครียดระหว่างมื้ออาหารไปได้เยอะ อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมลืมบางอย่างไปได้บ้าง  แม้จะเป็นช่วงสั้นๆก็เถอะ

“ แล้วจะนอนที่นี่รึเปล่า หรือใครมารับ " ผมถามวาดหลังจากที่เรากินอาหารหวานกันเสร็จแล้ว และดูเหมือนว่าอีกคนกำลังจะเตรียมตัวกลับ

“ หมอเซฟมารับครับ " อีกคนว่าพลางเชิดหน้าไปทางประตูบ้าน รถหรูสำดำสนิทที่จอดอยู่ ผมพยักหน้ารับ

“ มา เดี๋ยวพี่ไปส่ง " 

“ พี่อินไม่ต้องคิดมากนะ เรื่องวันนี้ที่พี่ตินพูดน่ะ " วาดหันมาบอกผม สองมือที่ยื่นมาจับไว้ " ยังไงพี่อินยังมีผมนะ ถ้ามีอะไรไม่สบายใจผมอยากให้พี่อินคิดถึงผมนะ "

“ อื้ม ขอบคุณนะ " บอกไปแบบนั้นทั้งๆที่ใจก็ไม่ได้คิดแบบนั้นเลย เพราะความเป็นจริงถ้าเกิดปัญหาขึ้นมาคนอย่างผมคงไม่กล้าที่จะไปพึ่งพาอะไรวาดหรอก ก็ยังคงจำเรื่องราวในวันนั้นได้ วันที่ผมพยายามผลักมันให้ออกไปให้พ้นไฟท์ ผลักให้ออกไปรักกับคนอื่น ผมรู้ว่า วาดรู้ว่าผมรู้สึกยังไง แต่ก็ไม่เคยพูดมาตลอด แม้ว่าหมอเซฟจะเป็นคนดี แม้วาดจะได้รักกับคนดีๆ แต่ในใจลึกๆก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดี  " สวัสดีครับ หมอเซฟเป็นยังไงบ้าง "

“ สวัสดีครับพี่อิน " คนที่กำลังหันหลังยืนสูบบุหรี่หันมาทักผมทันที ท่าทีตกใจเล็กน้อยนั่นเค้าทิ้งมวลบุหรี่ที่กำลังสูบลงบนพื้นทันทีปลายเท้าที่ขยี้มันด้วยความเร็วก่อนจะหันมาไหว้ผม

“ ทำไมต้องตกใจขนาดนั้น " ผมทักท่าทีของอีกคนที่ก็ได้แต่ยิ้มขำ

“ คนข้างๆ ไม่ให้สูบนะครับ เค้าบอกว่าสูบได้แต่อย่าให้เห็น แต่เมื่อกี้คงเห็นแล้วสินะ "

“ ใช่ " วาดบอกเสียงนิ่งๆ แต่ผมกลับหลุดขำ ก็ท่าทางจริงจังตอนพูดออกมาทำเอาหมอเซฟถึงกับหยุดยิ้มออกมา

“ ก็มาไม่ให้ซุ่มให้เสียงเองทำไมละ " ว่าแบบนั้นก่อนจะหันมาหาผม " ดุใช่ย่อยเลยละครับ น้องชายพี่น่ะ "

“ เลิกสิ เอาคืนมาเลยถ้าไม่ชอบน่ะ " ผมบอก อีกคนก็เลิกคิ้วก่อนจะกอดเอวอีกฝ่ายไว้

“ ไม่ให้ครับ ให้แล้วห้ามขอคืน "

“ เหม็นบุหรี่นะหมอ "

“ นิดๆหน่อยน่า " หมอเซฟว่าก่อนจะขยี้หัวอีกคน ท่าทางมีความสุขที่ทั้งคู่ยิ้มให้กัน ทำเอาผมยิ้มออกมา

   ชีวิตของวาด คงเป็นบทเรียนของคำว่า ' ถอยออกมาดีกว่า  ' ให้กับคนอย่างผมได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะต้องเสียใจกับการถอยออกมาคราวนั้นแต่มันคงดีกว่าการที่ยังคงดึงดันที่จะอยู่แบบผม ถ้าถอยออกมาตอนนั้นอาจจะยังเหลือใครสักคน แต่ถ้าไม่ถอยออกมาก็จะเป็นแบบผมตอนนี้  คือ ไม่เหลือใครอีกเลย

..................................................

   โรงพยาบาลเอกชนแห่งใหม่ที่ผมตัดสินใจเข้าทำงานมาได้ร่วมสามเดือน บรรยากาศร่มรื่นทั้งภายในและภายนอกอาคารตอนที่เดินออกจากห้องตรวจแล้วมองไป ผมสัมผัสได้ถึงความอุ่นของแสงแดดที่กระทบลงมาบนร่าง ขาที่ก้าวยาวเดินออกไปข้างหน้าผมหันไปยิ้มให้กับนางพยาบาลที่เดินผ่านไปมาอย่างเช่นปกติ 

“ คุณหมออินสวัสดีค่ะ "

“ สวัสดีครับ " ผมทัก เธอก็ยิ้ม

“ หมอจะไปไหนเหรอคะ "
“ ไปซื้อกาแฟสักหน่อยน่ะครับ "  ผมว่าพลางชี้ลงไปข้างล่างของชั้นที่กำลังยืนอยู่ " สักแก้วมั้ยครับ เดี๋ยวจะซื้อมาฝาก "

“ ไม่ละคะ ขอบคุณมากนะคะ " รอยยิ้มที่ส่งมาให้พลางส่ายหน้า ผมพยักหน้ารับก่อนจะเดินผ่านเธอไป

   ร้านกาแฟหรูในโรงพยาบาลผมที่กำลังจดจ้องกับเมนูที่ลังเลว่าจะกินแบบร้อนหรือแบบเย็นดี มือที่ล้วงกระเป๋าอยู่นั้นอยู่ๆ ใครบางคนก็มายืนอยู่ข้างๆ ผู้ชายในชุดเสื้อกาวน์ที่พอหันไปมองก็ต้องเผลอยิ้มออกมา

“ ไม่เข้าเวรเหรอครับหมอ "

“ เข้าครับ แต่พอดีเห็นหมออินมายืนอยู่ตรงนี้ จากที่อยากจะไปเข้าเวร ก็เลยอยากจะมาเข้าแถวตรงนี้มากกว่า "  ใบหน้าคมที่เอ่ยขึ้นมาแบบนั้น ผมก็หลุดยิ้มขำ

   หมอพจน์เป็นหมอแผนกศัลยศาสตร์ เป็นหมอที่อายุน้อยกว่าผมนิดหน่อย หน้าตาหล่อเหลา ตัวสูง แถมยังคมเข้ม เป็นขวัญใจของหมอและพยาบาลหลายๆคนของที่นี่ อาจจะเพราะคำพูดคำจาที่ดูเป็นกันเอง หรือเพราะยังโสดอันนี้ก็ไม่ทราบได้ แต่เท่าที่ผมรู้ คือ ผมกำลังโดนหมอคนนี้จีบอยู่ แล้วเรื่องนี้ก็ได้ถูกลือไปทั้งโรงพยาบาลเช่นกัน   " แล้วหมอออกเวรแล้วเหรอ "

“ เปล่าครับ แค่พักเฉยๆ เลยออกมา หาอะไรกินสักหน่อย "

“ แล้ววันนี้ออกเวรกี่โมงครับ " สายตาที่หันมามอง ผมที่ทำท่าคิดอีกคนก็ยิ้ม

“ ยิ้มอะไรหมอ "

“ ก็เปล่า " เค้าปฏิเสธ " แค่รู้สึกว่าหมอน่ารักจังนะ ขนาดยืนคิดเฉยๆ ยังน่ารักเลย "

“ ออกเวรเย็นนี้ครับ แล้วหมอมีอะไร "

“ ผมก็ออกเวรเย็นนี้ " อีกคนบอก " งั้นไปกินข้าวกันมั้ยครับ "

“ ไม่มีคิวผ่าตัดเหรอครับ เดี๋ยวก็มีเครสด่วนเข้ามาอีกหรอก " ผมบอกอีกคนก็หัวเราะ หลายครั้งแล้วที่เรานัดกินข้าวด้วยกัน แต่ทุกครั้งที่นัดก็ดูเหมือนว่าคนนัดจะเป็นคนที่ผิดนัดเสมอเพราะต้องเข้าผ่าตัดด่วน

“ วันนี้ไม่มีแล้วครับ ครั้งนี้มั่นใจได้เลย "

“ งั้นไว้เจอกันก็แล้วกันครับ " หันไปบอกอีกคนแบบนั้น ก่อนจะหันไปสั่งกาแฟกับพนักงาน " ไอซ์ คาเฟ่ ลาเต้ ครับ "

“ ขนาดไหนครับ "

“ ไซต์กลางครับ "

“ อเมริกาโน่ ด้วยครับ " อีกคนแทรกขึ้นมา ผมก่อนจะยื่นบัตรไปให้พนักงานก่อนผมจะยื่นไปให้เสียอีก  " ขอผมเลี้ยงกาแฟหมอสักแก้วนะ "

“ งั้นวันนี้ถ้าได้ไปกินข้าวด้วยกัน ผมขอเลี้ยงแล้วกัน "

“ แล้วเจอกันครับ " อีกคนบอกตอนที่พนักงานร้านบอกให้ผมไปรับกาแฟพอดี

“ ครับ แล้วเจอกัน "  หมอพจน์ตอบ ผมก็เดินออกมาจากร้านแต่ตอนที่ยังไม่ทันได้ก้าวผ่านหน้าร้านเสียงของพนักงานก็ถามหมอพจน์ขึ้น

“ หมอพจน์ยังจีบหมออินไม่ติดอีกเหรอ สามเดือนแล้วนะ ช้าจัง "

“ กำลังจีบอยู่ไง ของแบบนี้มันต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะ "

“ ก็นึกว่าจะจีบกับไส้ติ่งคนไข้ไปละ " เธอกล่าวขำอีกคนก็หัวเราะออกมา ส่วนผมก็ได้ยิ้มกับการสนทนานั้น ไม่ใช่ว่าไม่สนใจหรอก แต่ถ้าพูดให้ถูกคงต้องบอกว่า ตอนนี้ยังไม่อยากเปิดใจให้ใครมากกว่า

   ช่วงเย็นในเวลาออกเวร มือที่กำลังจัดของเตรียมตัวออกจากห้องตรวจ ผมยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูมันบอกเวลาห้าโมงเย็นแล้ว ถอนหายใจกับกองงานเอกสารที่ต้องแบกกลับไปทำที่บ้าน ผมรวบมันมาไว้กองเดียวกันตอนที่กำลังจะยกขึ้นมาถือไว้ในอ้อมกอดประตูหน้าห้องก็ถูกเปิดออก พยาบาลหน้าห้องที่เดินเข้ามาเธอยิ้มให้ผม

“ คุณหมออิน หมอพจน์มารอหน้าห้องแล้วค่ะ " พยาบาลที่เดินเข้ามาบอก ผมยิ้มก่อนจะพยักหน้าให้เธอ

“ ขอบคุณมากครับ "

“ วันนี้มีนัดทานข้าวกันเหรอคะ "

“ ครับผม " ผมตอบ เธอก็เอ่ยแซว

“ งั้นก็ใจอ่อนได้แล้วนะคะ คุณหมอ  หมอพจน์จีบมาสามเดือนแล้วนะ "

“ เรื่องนั้นไว้ก่อนเถอะครับ " ยิ้มให้เธอแบบนั้น ประตูที่เปิดกว้างออกให้ผมก้มหน้าขอบคุณ " เจอกันพรุ่งนี้ครับ "

“ ค่ะ คุณหมอเจอกันนะคะ "

 เอกสารในมือที่ผมกอดไว้แน่น แต่กระเป๋าที่สะพายก็กำลังจะหล่นลงมาท่าทีที่ดูทุลักทุเลนั่นทำเอาคนที่ยืนรออยู่ไกลๆถึงกับก้าวเท้ายาวออกมาช่วยประคองมันไว้

“ ถ้าบอกว่ามีเอกสารเยอะ ไปรับในห้องก็ได้ครับหมออิน "

“ ก็ตอนแรกคิดว่าขนไหวอยู่ " ผมตอบอีกคนก็ยิ้ม

“ มาครับ ผมถือให้ "

“ ขอบคุณครับผม "  เอกสารทั้งหมดถูกอีกคนถือไว้ให้ ผมยิ้มให้กับอีกคนที่ก็หันมายิ้มให้ผม แววตาที่สบกันเราหลบอัตโนมัติเหมือนไม่อยากจะจ้องกัน ท่าทางที่ชวนให้หลายคนยิ้ม แม้แต่พยาบาลหลายคนที่มองมาก็ต่างพากันยิ้มตามกับท่าทางอายๆของเรา


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27

   ร้านอาหารอิตาเลี่ยนแถวทองหล่อเป็นจุดหมายในการไปกินอาหารเย็นของวันนี้  ผมลงจากรถหรูตอนที่เดินเข้าไปในร้านที่ตกแต่งด้วยสีขาว เราเลือกที่นั่งที่ค่อนข้างจะส่วนตัว สั่งอาหารสองสามอย่างกับไวน์แดงที่รสชาติเข้ากันกับอาหาร

“ ถามหน่อยสิ หมอทำงานที่นี่ตั้งแต่เรียนจบเลยเหรอ "

“ ก็นะ ตอนที่ต้องไปใช้ทุน ทางโรงพยาบาลก็ดึงตัวมาที่นี่แล้วก็ จ่ายส่วนที่ต้องใช้ทุนให้ "

“ แสดงว่าเป็นคนเก่งงั้นสินะ " ผมบอกอีกคนก็ยิ้ม

“ เรียกว่าได้โอกาสที่ดีกว่าคนอื่นดีกว่า "

“ ถ่อมตัวจังนะหมอ " ผมแซวอีกคนก็ยิ้มก่อนจะตั้งคำถาม ถามผมบ้าง

“ แล้วทำไมหมออินถึงย้ายไปเรียนเฉพาะทางที่อเมริกาละครับ " คำถามที่ทำให้ผมหุบยิ้มลงช้าๆ ตอนที่มองหน้าอีกคนที่ตั้งคำถาม หมอพจน์ก็ขมวดคิ้วสงสัย " ถ้าไม่อยากตอบ ไม่ต้องตอบก็ได้นะครับ "

“ อกหักนะครับ เลยต้องหนีไปพักใจ " ผมยิ้มตอนที่ตอบคำถามแต่อีกคนที่ตอนนี้กลับนั่งนิ่งไปแล้ว

“ อำป่ะเนี้ย "

“ ไม่ได้อำ " ส่ายหน้าให้อีกคนที่คิดว่าผมโกหก " แต่จริงๆจะพูดว่าอกหักก็คงไม่ใช่ เพราะผมเองก็ไม่ได้โดนบอกเลิก จะว่าไงดีละ เมื่อก่อนคบผู้ชายคนในเวลาเดียวกันน่ะครับ แบบว่า คนนึงก็รัก อีกคนก็รัก อยากได้ทั้งคู่เลย ทั้งๆที่คนนึงมีแฟนอยู่แล้วเค้าก็ต้องเลิกกับแฟนเพื่อให้ผมมีความสุข แต่ว่าความรักแบบนั้น ไม่ว่าใครก็ไม่มีความสุขหรอก พอคิดได้ก็เลยถอยออกมาน่ะ "

“ เรื่องจริง " อีกคนถามผมก็พยักหน้า

“ เรื่องจริงสิ อีกอย่างที่ไม่ทำงานที่เก่าก็เพราะว่าไม่อยากเจอคนเก่าๆน่ะ " ผมยิ้ม แต่ทว่าอีกคนกลับหัวเราะออกมา

“ ไม่เชื่อหรอกหมอ ไม่ต้องมาอำกันเลย หมอจะเป็นคนแบบนั้นได้ยังไง ผมไม่เชื่อหรอก " อีกคนก็ยังยืนยันที่ไม่เชื่ออยู่แบบนั้นผมเองถอนหายใจออกมา

“ งั้นก็ตามใจแล้วกัน ไม่เชื่อก็ไม่ต้องเชื่อ แต่อย่ามาหาว่าไม่ได้บอกกันทีหลังไม่ได้นะหมอ "

“ จริงๆเหรอครับ " สายตาจริงจังที่มองมา ผมพยักหน้า

“ แล้วทำไม ผมต้องโกหกเรื่องราวแย่ๆนั้นด้วยละ "  ยิ้มให้อีกคน ที่ก็พยักหน้าเข้าใจ อาหารที่ถูกเสิร์ฟก่อนจะเริ่มกินอีกคนก็พูดขึ้น

“ แต่อดีตมันก็แค่อดีตนั่นแหละ อยู่กับปัจจุบันดีกว่า "

“ งั้นปัจจุบันตอนนี้ก็ต้องกินนะสิครับ " ผมว่าติดตลกแต่อีกคนก็แค่ยิ้ม ก่อนจะก้มลงกินอาหารตรงหน้า บทสนทนาระหว่างมื้ออาหารดำเนินต่อไปเรื่อย วีรกรรมสมัยเด็กถูกหยิบยกมาเล่าให้ฟังจนกลายเป็นความขำขันระหว่างมื้ออาหาร

“ ตอนเด็กๆ หมอไม่มีอะไรตลกๆบ้างเหรอ "

“ เคยถูกน้องชายเพื่อนสนิทคิดว่า เป็นผู้หญิงน่ะ " ผมบอก " เมื่อก่อนมีเพื่อนคนนึงที่สนิทกันมาก เค้ามีน้องชาย แล้วน้องชายก็คิดว่าผมเป็นผู้หญิง เอาลูกอมมาให้บ้าง เอาขนมมาให้บ้าง วันวาเลนไทน์ก็มีดอกไม้ "

“ ตอนนั้นอายุเท่าไหร่ละครับ "

“ น้องชายเพื่อนอยู่อนุบาล แต่ผมคงประมาณป.สอง ป.สามมั้ง จำไม่ได้แล้วละ  รู้แค่ว่าถูกชอบมากถึงขั้น อยากจะขอแต่งงานด้วยนะ " หมอพจน์หัวเราะออกมาตอนที่เล่าเรื่องเล่าอดีตของตัวเองให้ฟัง

“ ขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วตอนนี้ละ "

“ ตอนนี้คงไม่อยากแต่งงานด้วยแล้วละ เค้าก็มีคนพิเศษที่เค้าอยากจะแต่งงานด้วยแล้ว "

“ แล้วเค้ามารู้ความจริงว่าหมอเป็นผู้ชายตอนไหนละครับ "

“ ตอนที่ผมไปว่ายน้ำที่บ้านเค้านะ ตอนนั้นไปว่ายน้ำที่บ้านเค้า ใส่กางเกงว่ายน้ำตัวเดียว เค้าเลยรู้ว่าเป็นผู้ชาย ร้องไห้งอแงใหญ่เลย " คิดถึงตอนนั้นก็ได้แต่หัวเราะขำ ไอ้ไฟตอนนั้นน่ารักจริงๆ เด็กตัวเล็กแก้มกลมๆแดงๆ น่าฟัดที่สุด ผมที่อยากได้น้องชายยังชอบหอมแก้มมันบ่อยๆเลย

“ คงเพราะมีไอ้นั่นเหมือนกันใช่มั้ย "

“ คิดว่าคงเป็นแบบนั้นแหละ "  ผมยิ้มให้อีกคน ตอนที่บกไวน์ขึ้นมาจิบคนตรงหน้าก็ยิ้ม " ยิ้มอะไรครับ "

“ ไม่มีอะไรหรอก "

“ แปลกๆนะ หมอน่ะ "

“ ผมแปลกเหรอ " อีกคนชี้เข้าหาตัวเองก่อนจะยกไวน์ขึ้นจิบเช่นกัน " แปลกตรงไหนล่ะครับ "

“ ก็อยู่ๆยิ้มออกมาอย่างงั้น ไม่แปลกได้ไง ยังกับพวกโรคจิตเลย "

“ ก็คนตรงหน้าผมน่ารักนิ " สายตาที่จ้องมองผม แอบยิ้มนิดๆ อีกคนก็ดึงตัวเองมานั่งค้ำกับโต๊ะด้วยสองมือ " แค่เห็นหน้าหมอก็รู้สึกว่า ยิ้มได้ทั้งวันแล้วละ " เค้าก้มหน้าลงตอนที่พูดคำนั้นก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผม " ช่วยตรวจหน่อยได้ครับว่าผมเป็นอะไร "

“ ผมเป็นหมอเด็กนะ คงช่วยไม่ได้หรอก ตัวเองเป็นศัลยแพทย์แท้ๆ ไม่รู้หรอกเหรอว่าเป็นอะไร "

“ คงเป็นโรคตกหลุมรักมั้งครับ "

“ มุขประหลาด " บอกอีกคนแบบนั้น แต่ถึงอย่างงั้นก็หยุดยิ้มไม่ได้เลย

“ ก็เวลาเห็นหมอยิ้มแล้วผมต้องยิ้มตามทุกทีเลย "

“ งั้นก็ไม่ต้องดู " ยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง แต่อีกคนก็ยังมองมาด้วยรอยยิ้มอยู่ดี

“ ยังไงก็น่ารักวะ "

“ พูดมากจังหมอ " ผมบอกอีกคนก่อนจะหันไปทางอื่น " กลับบ้านได้แล้วครับ ผมมีงานที่ต้องทำอีกนะ  "

“ ยังอยากอยู่ด้วยกันต่ออีกหน่อย " หมอพจน์บอก

“ อยู่โรงพยาบาลเดียวกันจะมาหาเมื่อไหร่ก็ได้ ทำเหมือนอยู่ไกลกันนักล่ะ "

“ ก็มันไม่ว่างนี่ครับ อยู่โรงพยาบาลเดียวกันยังนานๆครั้งถึงจะเจอหมอเลย " หัวเราะกับท่าทางจริงจังนั้นผมพยักหน้ารับ

“ งั้นต่อไปจะเดินผ่านแผนกหมอบ่อยๆแล้วกัน หมอจะได้เห็นหน้า ดีมั้ย "

“ ไม่ใช่ว่าเดินผ่านบ่อยจนรุ่นน้องในแผนกเข้าไปจีบละ ผมมาก่อน ผมหวงนะหมอ "

“ เรื่องมากจังนะครับ " บอกแบบนั้นก่อนยิ้ม หมอพจน์เรียกเก็บโต๊ะถึงผมจะบอกว่าจะเลี้ยง แต่ก็ดูเหมือนว่ามื้อนี้จะเป็นอีกมื้อที่อิ่มจังตังค์อยู่ครบ

   บนรถที่เงียบสงบมาตลอดทาง ผมที่นั่งมองไปนอกหน้าต่างเพลินๆพอรู้สึกตัวอีกทีรถก็จอดลงที่ลานจอดรถแล้ว " ถึงแล้วครับ " เสียงคนขับบอกผมก็หันไปยิ้มให้

“ ขอบคุณสำหรับอาหารอร่อยๆ แล้วก็เรื่องเล่าตลกๆนะครับหมอ "

“ อิน " ผมหันไปจ้องอีกคนที่หันมามองผมเช่นกัน " ถ้าเรียกแบบนี้จะได้มั้ยครับ "

“ ได้สิ "

“ งั้นต่อไป อินก็เรียกผมว่า พจน์นะ " พยักหน้าไปให้ ใจผมก็เริ่มเต้นแรงบรรยากาศแบบนี้ไม่น่าจะแตกต่างจากที่คาดการณ์ไว้เท่าไหร่

“ อื้ม "

“ ถ้าขอพูดอะไรสักหน่อยจะเร็วไปมั้ย ถ้าอยากจะบอกว่าคบกับผมน่ะ อินจะตอบตกลงรึเปล่า " ก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ ผมยิ้มให้อีกคนที่กำลังมองผมอย่างจริงจัง ไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่มันยังไม่ใช่ มันไม่ได้ให้ความรู้สึกที่ว่าอยากจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยเหมือนอย่างใครคนนั้นที่เคยเข้ามา มันเป็นความรู้สึกที่แค่ว่า  คุยกันได้ แต่ก็แค่คุย ไม่ได้มีความรู้สึกที่อยากจะรัก ไม่ใช่ว่าไม่ดี แค่ไม่ใช่

“ พจน์ ขอบคุณสำหรับความรู้สึกดีๆนะ แต่ว่า มันจะดีกว่านะ ถ้าเราเป็นแบบนี้ไปก่อน มันเร็วไปสำหรับการขอคบกันนะ " ผมบอกอีกคนก็ยกยิ้ม

“ คิดไว้แล้วแหละ ว่าคงตอบแบบนี้ " อีกคนว่า " ยังลืมรักครั้งเก่าไม่ได้เหรอ "

“ ไม่ใช่นะ " ผมรีบปฎิเสธออกไป ถึงแม้จะปฎิเสธออกไปได้ไม่เต็มปากก็เถอะ ยอมรับความอดีตมันสอนให้ผมระวังกับปัจจุบัน แล้วบอกกับตัวเองเสมอว่า ถ้ายังไม่ใช่จะไม่ให้ใจใครเด็ดขาด จะไม่ให้ความหวังใครเอาไว้เผื่อเลือกอีกแล้ว " แค่อยากให้มันนานกว่านี้ ช่วงเวลาที่เรารู้จักกันมันอาจจะนาน แต่นี่แค่ครั้งแรกเองนะที่เราได้ไปกินข้าวด้วยกัน อินอยากให้พจน์รู้จักอินมากกว่านี้ก่อนจะขอคบกับอินนะ อย่างน้อย หาเวลามากินข้าวได้ได้ครบห้าครั้งก่อนเถอะ "

“ ถ้าขอทานข้าวครบห้าครั้งสำเร็จ มาขอเป็นแฟนอีกครั้ง อินจะรับพจน์ไว้พิจารณามั้ยละ "

“ ถ้าถึงตอนนั้น เดี๋ยวจะบอกเอง " ยิ้มให้กับอีกคนที่ก็พยักหน้ารับ

“ คงเร็วไปสินะ สำหรับคำขอเมื่อกี้นะ ขอโทษแล้วกัน "

“ ขอโทษทำไม เรื่องแค่นี้เอง ผมสิต้องขอโทษ ที่ไม่ได้ตอบตกลง "

“ ถ้าตอบตกลงเพราะความเกรงใจกัน ความรักมันก็ไม่มีค่าหรอกครับ " พูดออกมาแบบนั้นพร้อมกับมือที่ยื่นมาลูบหัวผม " ไม่เป็นไร ยังไงก็จะรอวันที่อินพร้อมนะ "

“ รอไหวรึไง "

“ ไหวสิ " ว่าแบบนั้นก่อนมือที่ลูบหัวจะตกลงมาที่ต้นคอของผม เราที่กำลังยิ้มให้กันไร้เสียงสนทนาใดต่อจากนั้นมีแค่มืออุ่นที่ลูบเบาๆที่ต้นคอ  สายตาที่สบกันบรรยากาศเงียบๆที่ชวนให้ใบหน้าเข้าใกล้กัน ใบหน้าคมที่เลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ผมผมก้มหน้าลง

“ ไหนบอกว่ารอไหวไงครับ " พจน์ยิ้มตอนที่ผมพูดพูดแยยนั้น เค้าปล่อยมือจากหลังคอของผม " งั้นไปก่อนนะ "

“ จะไปส่งที่รถนะ "

“ ไม่ต้องก็ได้ มันก็แค่ตรงนี้เอง กลับเองได้ครับ ขอบคุณมาก " ผมประตูเปิดออก แต่ยังไม่ทันจะก้าวขาออกไป มือหนาก็ดึงเข้าไปใกล้เสียก่อน จมูกคมที่ก้มลงหอมแก้มผมทำเอาทุกอย่างนิ่งไปหมด ตอนที่หันไปมองหน้าเค้า พจน์ยิ้มให้ผม

“ มัดจำไว้ก่อนนะ "

“ แต่ครั้งหน้าไม่ให้แล้วนะ " พูดแค่นั้นผมก็ก้าวออกจากรถ " เจอกันพรุ่งนี้ "

“ ครับผม "

   ปิดประตูลงตอนที่ได้ยินคำนั้น ผมที่กำลังจะเดินกลับไปที่รถตัวเองในช่วงเวลาที่เงียบสงบนั้นอยู่ๆก็มีเสียงรถฉุกเฉินวิ่งข้ามา รถพยาบาลที่จอดลงตรงหน้าโรงพยาบาล เตียงผู้ป่วยก็ถูกเข็นลงมาด้วยความรีบเร่ง

“ ผู้ป่วยเป็นเด็กอายุ 8 ขวบ เกิดอาการหอบอย่างหนักครับ " เสียงบุรษพยาบาลที่วิ่งมาด้วยความรีบร้อนกับผู้ป่วยเด็กที่กำลังใส่เครื่องช่วยหายใจ ร่างที่กระชับกระช่ายไปมานั้นทำให้ผมที่กำลังกลับบ้านเปลี่ยนใจวิ่งเข้าไปในโรงพยาบาลทันที

“ เรียกคุณหมออินมาทีนะ " พยาบาลห้องฉุกเฉินที่หันไปบอกกับพยาบาลอีกคนที่เอ่ยอย่างรีบร้อน

“ คุณหมออินออกเวรไปแล้วค่ะ "

“ ไม่มีคุณหมอแผนกเด็กเลยเหรอ "

“ ผมอยู่นี่ครับ " ขาที่วิ่งเข้าไปขัดการสนทนานั้น

“ คุณหมอ เด็กแปดขวบค่ะ เกิดอาการหอบอย่างรุนแรง "

“ รู้ประวัติการรักษาของเด็กรึเปล่า " ตอนที่มือไปจับกับเตียงของผู้ป่วยแล้วมองหน้าเด็กคนนั้น อยู่ๆร่างทั้งร่างของผมก็ชาไปหมด

“ ไม่ทราบค่ะ " พยาบาลตอบคำถามนั้น ก่อนจะหันมาเรียกผมที่เหมือนจะนิ่งไป " คุณหมอ คุณหมอค่ะ "

“ ครับ "

“ ไม่ทราบประวัติของคนไข้ค่ะ "

“ ฉีดยาขยายหลอด " ผมบอก เธอก็พยักหน้า " เด็กหญิงมิลาน ชื่อเล่นชื่อน้องอลิซ อายุแปดขวบ เป็นหอบหืดตั้งแต่กำเนิด ไม่มีประวัติแพ้ยา "

“ ค่ะ "

   การรักษาพยาบาลเป็นไปอย่างรวดเร็ว ผมทำทุกอย่างสุดความสามารถให้การรักษาให้เด็กผู้หญิงตรงหน้าคนนี้ปลอดภัย เครื่องช่วยหายใจที่ถูกใส่เอาไว้ผมยิ้มให้กับร่างตรงหน้าก่อนจะยื่นมือไปเกลี่ยแก้ม

“ เป็นเด็กลูกครึ่งที่น่ารักจังเลยนะคะ "

“ ลูกเสี้ยวน่ะครับ " ผมบอก " พ่อเป็นลูกครึ่งส่วนเด็กคนนี้น่ะ เป็นลูกเสี้ยวอิตาลี "

“ คุณหมอรู้จักผู้ป่วยด้วยเหรอค่ะ " พยาบาลที่ยืนข้างกันถาม

“ น้องเคยเป็นผู้ป่วยของผมที่โรงพยาบาลเก่านะครับ "

“ อ๋อ แบบนั้นนี่เอง แต่หน้าตาน่ารักมากเลยนะคะ คุณพ่อคุณแม่ต้องหล่อต้องสวยแน่ๆ " ผมถอนหายใจออกมาทันทีตอนที่ได้ยินคำนั้น มือที่เลื่อนขึ้นห่มผ้าให้อีกคนผมหันไปบอกนางพยาบาล

“ ย้ายไปห้องพิเศษได้เลยนะ "

“ ค่ะ คุณหมอ "

“ ไม่เจอกันนานเลยนะอลิซ " ผมก้มลงพูดกับเธอก่อนจะยิ้มออกมา มองรูปร่างที่เติบโตขึ้นภายในสี่ปี อยู่ๆน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ผมจับมือเธอ " ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะครับ คนสวยของอา " ลูบหัวเธอเบาๆ ยังคงคิดถึงคำพูดน่ารักที่แสนขี้อ้อนนั่นได้อยู่เลย เสียงใสๆที่คอยเรียกผมตลอดเวลา มันน่ารักเสียจนทำให้อดคิดถึงไม่ได้

“ คุณหมอค่ะ ขอย้ายเตียงเด็กนะคะ "

“ ครับ " ดึงตัวเองออกห่างจากเธอ พยาบาลก็ย้ายอลิซออกไปจากห้องฉุกเฉิน ประตูเลื่อนที่เปิดออก ผมมองตามเตียงที่เลื่อนออกไป ก่อนจะหยุดอยู่ที่ร่างสูงที่ตอนนั้นไม่ได้มองมาที่ผมเลยสักนิด แต่กลับรีบร้อนตรงเข้าไปหาลูกสาวตัวเองที่ถูกเข็นออกไป

“ โรม..”

   สี่ปีที่ผ่านไปไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยสำหรับใครคนนั้น หัวใจของผมเต้นแรงตอนที่มองดูมันก้มลงที่เตียงของอลิซแล้วลูบหัวเธอเบาๆ มือที่จับมือของลูกมัน ถอนหายใจออกมาครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความโล่งอก

“ ป๊า ขอโทษนะ อลิซ "

“ ยังเป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่องเหมือนเดิมเลยสินะ " ผมยิ้มออกมาทั้งน้ำตาตอนที่ประตูฉุกเฉินนั้นปิดลงช้าๆ ใบหน้าคมนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาพอดี แต่มันคงไม่เห็นผม " ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะมึง "

แล้วกูก็หวังว่า คงจะไม่ได้เจอกันอีกนะ

..................................................

ยังเป็นแค่ตอนพิเศษ ตอนแรกนะคะ
รอติดตามตอนต่อไปก่อนนะ
ฝากด้วยนะคะ
ใครมีทวิต ฝากแท็ก #Choiceต้องเลือก
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:

ออฟไลน์ wann

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
กรี๊ดดดดด เศร้าอ่าาาาา  :hao5:



กลัวอินโดนต่อว่า หรืออะไรซักอย่างงงงง อินไม่ผิดนะะะ

ไม่รุ เราอยู่ข้างอินน  :katai1:

ออฟไลน์ loyal_mook

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อยากรู้ว่าโรมเป็นยังไงบ้าง ฮื่อออ

ออฟไลน์ honey_noii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ tkaekaa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
รอตอนพิเศษมาแล้วววววววว
อินกลับมาแล้ววววววววว ไม่รู้จะเริ่มต้นใหม่กับใครเนอะ ใครก็ได้อย่าเป็นไฟท์ก็พอ5555

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
#ทีมโรมอิน ตั้งแต่วันแรก จนถึงวันนี้ ^^

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
โอ้ยยยยย ยังไม่จบบบต้องเลือกอีกแล้วหรอ
โถ่ๆๆๆ
4ปีแล้ว โรมยังไมมีคนใหม่เลยยย อยากรู้เรื่องไฟท์เตด้วย
ทำภาค2เลยดีกว่าา อยากอ่านยาวๆๆๆๆ

ออฟไลน์ เจ้าหญิงขี้ลืม

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
โรมอิน จะกลับมาคืนดีกันมั้ยอ่ะ

#ทีมโรมอิน

ออฟไลน์ bookie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
    • facebook
โอ๊ยย อดีตกลับมาแล้ว คราวนี้รักกันดีๆ นะ

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
เราเชียร์หมอพจน์-หมออินค่ะ    เริ่มต้นใหม่จาก 0  เรียนรู้ที่จะคบกันบนฐานของความจริงที่ไม่มีะพันธะจากเก่าก่อน

4ปีนี่น่าจะนานพอที่โรมจะมีคนอื่นแล้ว  อินก็ท่าจะตัดใจได้บ้าง  ขอเถอะอิไฟท์มันจะชื่นมื่นสุขสันต์อะไรกับแอลก็เชิญไปเถอะ  ไปดีมาดีนะไม่ต้องมาหลอกหลอนอินอีก   คำพูดที่มันพูดไว้กับแอลเรื่องอินยังฝังใจคนอ่านคนนี้อยู่ อย่ามาเจอหรือคบกันอีกเลย  กับโรมก็ขอให้จบดี หรือเริ่มต้นแบบดีๆ

ชอบบทสนทนาระหว่างหมอพจน์กับหมออินค่ะ   สุภาพเป็นผู้ใหญ่ดี   คนแมนๆไม่จำเป็นต้องขึ้นมึงกูตลอดนะ

อินที่โสดนี่น่าจะเนื้อหอมมากๆ เพราะว่าอินในอิมเมจเราเป็นคนที่หน้าตาดีมากๆ 

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด