ผมยืนรอพี่ปันที่หน้าร้านหนังสือได้ไม่นานคนนัดก็เดินเข้ามาหาพร้อมรอยยิ้มกว้างๆ
"หวัดดีครับพี่"
พี่ปันเพียงพยักหน้ายิ้มรับก่อนเราทั้งคู่จะเงียบกันไป
ผมเงียบเพราะรอฟังว่าพี่มันนัดผมเรื่องอะไร ส่วนที่พี่มันเงียบเพราะอะไรผมไม่รู้
"เออ คือจะว่าไงดี วันนี้หมอกรีบกลับบ้านมั้ย? "
พี่ปันพูดหลังจากทำหน้าเก้อกังๆเหมือนคนเพิ่งนึกเรื่องจะพูดออก
ยังกะไม่ได้เตรียมเรื่องจะพูดมายังงั้นแหละ - -
"ก็ว่างๆอยู่ครับ"
"งั้น...ไปกินสเวนเซนกันก่อนมั้ย พี่มีหลายเรื่องอยากจะคุยกับเราพอดี"
ผมพยักหน้าตอบรับเพราะยังไงๆตัวเองก็ไม่ได้รีบกลับอยู่แล้ว
สุดท้ายเราทั้งคู่ก็เดินเงียบๆไปจนถึงสเวนฯพี่มันเลือกที่นั่งด้านริมติดกระจกก่อนจะสั่งไอติมมา2ถ้วยระหว่างรอพี่มันก็พูดเกริ่น
"งั้นพี่จะพูดเรื่องของเราก่อนนะ"
"ครับ"
"โอเค พี่ขอเป็นตัวแทนของค่าย ยุพราช ครั้งที่7 ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับน้องติดค่ายของเราแล้ว"
จบคำสมองผมก็ประมวลผลข้อมูลก่อนจะยิ้มกว้างดีใจออกมา
เอาจริงๆผมลืมไปแล้วว่าตัวเองสมัครค่ายไว้กับเขาด้วย!!! แต่พอรู้ว่าติดก็อดไม่ได้ที่จะดีใจ ค่ายนี้เป็นค่ายที่เด็กสมัครเยอะจริงๆครับ ตอนส่องเพจค่ายมีแต่คนโพสหน้าวอล ตัวเพจค่ายเองคนกดไลค์ก็ปาไปหมื่นกว่า
แต่ที่ผมสงสัยคือ... จริงๆพี่เขาจะต้องโทร.แจ้งไม่ใช่เหรอครับ อีกเรื่องคือพี่ปันเป็นพี่ค่ายด้วยเหรอ?
"พี่ปันเป็นพี่ค่ายเหรอครับ? "
"จะว่าเป็นก็ได้นะ จริงๆแม่งานคือน้องๆปีสามครับ พี่จบแล้วแค่มาช่วยน้องๆนะ"
"อ้อ เหรอครับ"
ผมพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเตรียมอ้าปากถามเรื่องที่สงสัยอีกเรื่องแต่พี่ๆบริกรเอาไอติมมาเสิร์ฟพอดี
"เดี่ยวอีกเรื่องค่อยพูดที่หลังตอนนี้ทานไอติมก่อนเนาะ"
พี่ปันพูดก่อนจะตักไอติมเข้าปากผมเองก็ไม่ขัดศรัทธาเริ่มกินของตัวเองบ้างพอกินกันไปคุยกันไปเรื่อยเปื่อยได้สักพักพี่ปันก็ว่างช้อนจะพูดต่อ
"ส่วนอีกเรื่องเป็นเรื่องของพี่เองครับ คือวันอาทิตย์นี้วันเกิดพี่เอง"
"สุขสันต์วันเกิดล่วงหน้าครับพี่"
ผมพูดตามมารยาทก่อนพี่ปันจะพูดต่อ
"พี่อยากทำบุญวันเกิดด้วยการทำอาหารเลี้ยงเด็กกำพร้านะ หมอกไปทำบุญกับพี่มั้ย"
"พี่เลือกที่จะไปรึยังครับ"
ผมตอบคำถามด้วยคำถามก่อนพี่มันจะส่ายหน้าเบาๆแทนคำปฏิเสธ
"งั้นหมอกไปด้วย แต่ขอเลือกบ้านเด็กกำพร้าที่จะทำได้มั้ยครับ? "
"ได้สิ"
"ตกลงครับ งั้นเสาร์นี้เราไปซื่อวัตถุดิบกัน หมอกขอเลือก
บ้านเด็กกำพร้าเดชาราชนะ"
ผมตาเป็นประกายหัวใจพ่องโตด้วยความสุขที่จะได้กลับไปสถานทีที่ครั้งหนึ่งผมกับพี่เทสเคยเรียกว่าบ้าน
ใช่ครับ...บ้านเด็กกำพร้าเดชาราชคือบ้านที่เด็กกำพร้าอย่างผมและพี่เทสเคยอยู่...
"งั้นเป็นอันว่าตกลงแล้วนะ"
"ครับพี่ พี่ปันครับ นอกจากเลี้ยงอาหารเด็กแล้วทำอย่างอื่นด้วยมั้ยครับ"
"ทำยังไงบ้างละ พี่ไม่ค่อยรู้ซะด้วย"
"คือ...มันต้องใช้งบด้วยนะครับ"
ผมอ้อมแอ้มบอก ถึงอีกฝ่ายจะรวยแต่ผมไม่รู้ว่าพี่มันจะสนรึป่าวหรือตั้งงบไว้แค่ไหน
"แสนหนึ่งพอมั้ย? "
"แสนหนึ่ง! !!"
ผมตาโตทวนคำพี่มันที่นั่งยิ้ม ก่อนจะพยักหน้าว่าโอเคกับงบหนึ่งแสน
"คือยังงี้ไง หมอกอยากซื่อของพวกสิ่งที่มันจำเป็นๆไปฝากน้องๆนะครับ แล้วก็อยากมอบทุนให้น้องๆด้วยแล้วก็อยากจัดกิจกรรมให้่น้องๆได้พักผ่อนกันแล้วก็....."
ผมหยุดพูดพอเห็นสีหน้ายิ้มของพี่ปัน ลืมตัวไปเลยว่างบหนึ่งแสนนั้นมันเงินของเขา แต่ผมดันไปพูดเหมือนเป็นเจ้าของซะเอง
"ไม่ต้องเงียบหรอก พูดต่อก็ได้ งบหนึ่งแสนนี้พี่ตั้งให้เราบริหารเลย เต็มที่ครับ เพราะพี่ก็ไม่รู้จริงๆนั้นแหละว่าต้องทำอะไรยังไงบ้างอีกอย่าง..."
พี่ปันพูดก่อนจะเว้นวรรคไป
"พี่ชอบเวลาที่หมอกยิ้มอย่างมีความสุข น่ารักดี รอยยิ้มของหมอก ใครเห็นก็สบายใจนะ "พอพี่ปันพูดจบผมก็รู้สึกหน้าร้อนผ่าวไปกับใจความบางอย่างที่แฝงอยู่ในประโยค
พี่ปันเป็นผู้ชายที่ทำคนอื่นเขินได้เก่งมาก ครั้งแรกที่เจอกันพี่มันทำผมเขิน(อาย)ที่ตัวเองเข้าใจผิดไปชกเขาหน้าตาเฉย
ต่อมาก็ตอนสอนทำอาหาร เล่นยื่นหน้ามาแบบนั้นใครก็เขินสิครับ
อีกครั้งที่โรง'บาล จริงๆพี่มันเข้าใจว่าแค่กุมมือผมไว้แต่จริงๆมีมากกว่านั้น
เป็นเรื่องที่ผมไม่คิดจะบอกใครแม้กระทั้งเจ้าตัวเอง
ในระหว่างที่ผมกำลังรอเต้กับแทน...
"ปะ...ปราย ..."
ผมได้ยินพี่ปันเรียกชื่อนี้ออกมา ตอนแรกผมคิดว่าพี่มันจะฟื่นแล้วเลยเดินเข้าไปใกล้ พอถึงระยะแล้วพี่มันก็ดึงแขนผมไป
ด้วยความที่ไม่ทันตั้งตัวผมจึงถลาไปทั้งตัวด้วยแรงของพี่มัน ...ปากของผมชนแก้มพี่ปัน...
'จุ๊บ'"เห้ย!!!"
ผมอุทานตกใจลั่นก่อนจะพยายามแกะมือเหนียวๆของพี่มันแต่นี้พูดเลย มือพี่มันยิ่งกว่าตุ๊กแกอีก
สุดท้ายเลยตามเลย ผมเอื่อมมือลากเก้าอี้เข้ามานั่งใกล้ก่อนจะฟุบตัวลงข้างๆพี่มัน
เพิ่งรู้เหมือนกันว่าฝามือคนเรา...
...มันจะ'อุ่น'ได้ขนาดนี้
"หมอก"
"ครั...เห้ย!!!"
ผมสะดุ้งตกใจกับใบหน้าของพี่มันที่อยู่ห่างจากผมแค่ไม่กี่เซ็นต์
นี้ยื่นหน้ามา(อีกแล้ว)ตอนไหนวะ! !!
"คิดไรอยู่ ใจลอยเชี่ยว"
พีมันพูดกึ่งขำผม
ไม่อยากบอกเลย ก็คิดถึงมึงไง....
บ้าเอ๊ย แล้วกูจี้คิดตามทำไมวะเนี้ย! !!
"งั้นตกลงตามนี้นะ เดี่ยวพี่โทร.ไปตอนวันเสาร์นะครับ"
"ครับพี่"
"งั้นกลับบ้านกันเดี่ยวพี่ไปส่ง"
ผมก้มหน้างุดๆรับคำก่อนพี่มันจะสั่งเช็กบิล
จากนั้นผมกันพี่มันก็เดินกันไปคุยกันไปจนถึงลานจอดรถ ผมเดินเก้ๆกังๆไปนั่งที่เบาะด้านข้างคนขับก่อนพี่มันจะขึ้นและขับรถออกไป
พอมาถึงที่หมาย ผมบอกให้พี่มันส่งแค่หน้าซอยพอครับเพราะข้างในมันแคบกลับรถลำบาก
"ขอบคุณนะพี่ปัน อุตส่าห์มาส่ง"
"ไม่เป็นไร"
"งั้นเจอกันเสาร์นี้นะครับ"
"เดี้ยวก่อนหมอก"
พี่มันขัดตอนผมกำลังจะลงรถพอดี
"พี่จะบอกเราว่า...นอนหลับฝันดีนะครับ..."
"เช่นกัน...ครับ"
ผมก้มหน้าพูดเสียงเบาหวิวก่อนจะรีบลงจากรถแล้วเดินเข้าซอยไป ไม่นานพี่ปันก็เคลื่อนรถออกไป
'นอนหลับฝันดีนะครับ....'
นี้มัน...
หมายถึง'เป็นห่วง'
รึเปล่านะ.....
'ตึกตึกๆ'เนื้อในกายที่หน้าอกด้านซ้ายเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
นี้ผม...
'เขิน'งั้นเหรอ! !!?
"อ้าวหมอกกลับมาแล้วเหรอ ?"
พี่เทสที่ถอดแว่นออกทักผมระหว่างทางขึ้นบรรไดพอดี
"ครับพี่"
"อื้ม...กินยาด้วยนะ หน้าแดงๆ ไม่สบายเหรอเรา ?"
"้เออ...ครับ"
จบคำผมรีบแทรกตัวเดินผ่านพี่เทสขึ้นไปห้องตัวเอง ก่อนจะกระโดดทั้งตัวลงไปนอนกับเตียง
ในวันที่ฟ้าหม่นๆก็ยังมีเรื่องดีๆผ่านเข้ามาให้เราพอชื่นใจ...
"พี่ชอบเวลาที่หมอกยิ้มอย่างมีความสุข น่ารักดี รอยยิ้มของหมอก ใครเห็นก็สบายใจนะ "ยิ่งคิด...ยิ่งฟุ้นซ่าน
"ไอ้บ้า"
ผมด่าตัวเองหน้ากระจกก่อนจะรีบเข้าห้องน้ำไป
นี้ผม...
..
..
..
..
.
.
.
.......รึเปล่านะ ?
..................................................................
มาอัพเช้าๆก่อนไปทำงาน
ไม่มีคนอ่าน คนเขียนก็คงไปไม่รอด
ขอบคุณครับ
แกะซ่า