ลิขิตรักเด็กขายน้ำ... [Ep.36 พี่ปัน] คือรัก.... [14/06/57] p.6
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ลิขิตรักเด็กขายน้ำ... [Ep.36 พี่ปัน] คือรัก.... [14/06/57] p.6  (อ่าน 40561 ครั้ง)

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
มีคู่เอิร์ทซ่าด้วย อิอิ

น้องแคทนี่ไร้เดียงสา หรือ เป็นสาววายกันนะ  :hao3:

ออฟไลน์ BaGgYsOdA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 87
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น่ารักก ก มาก ก มาต่อไว้ๆเนอร์  :mew1:

อโลลาน

  • บุคคลทั่วไป
ครบ100 %แล้วหนอ  :hao7:

ออฟไลน์ →Yakuza★

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1829
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-0
น้องเคทน่ารักจุง

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 o22 อ้าว คู่เอิร์ธซ่าเกิดอะไรขึ้นเนี่ย

คุณแกะมันค้างอ่ะ ขอคู่เอิร์ธซ่าให้เคลียร์ด้วยนะ ว่ามันยังไง  :ling1:
สรุปว่าคบกันลับๆเหรอ

อโลลาน

  • บุคคลทั่วไป


หลังจากกินข้าวกินปลากันเสร็จ ผมกับน้องหมอกก็ช่วยกันเจ็บจานชามกันไปล้างครับ วันนี้เวรของน้องเอิร์ธกับน้องซ่า จริงๆผมว่าเหมือนเป็นพี่น้องกันจริงๆนะครับ แม้ปากจะกัดกันไปกันมาก็เถอะ แต่พอถึงเวลาแล้วเอิร์ธจะเลือกเสียสละก่อนครับ อย่างเช่นตอนนี้....

"เอาชามมา"

ตอนนี้น้องซ่าถือชามในมือร่วมๆเกือบๆสิบชามได้ครับ

"ไม่กูถือเองได้"

"ถือเหรี้ยไร มันจะล้มทับหน้ามึงแล้ว"

น้องซ่าอ้าปากจะเถียงครับ แต่เอิร์ธชิงแย่งชามทั้งหมดมาไว้กับตัวเอง ก่อนจะเดินดุ้ยๆเข้าที่ล้างจานไป ผมกับน้องหมอกหันมามองหน้ากันก่อนจะหัวเราะเบาๆให้กับไอ้เด็กสองคนนี้ ยิ่งพอล้างจาน พวกมันก็แย่งกันจะล้างน้ำยาล้างจานครับ แต่สุดท้ายไอ้น้องเอิร์ธก็ชนะอยู่ดีซ่าก็เลยไปนั่งล้างน้ำเปล่าหน้างอๆ

หลังจากล้างจานเสร็จ ผมกับน้องๆก็ไปนั่งย่อยนั่งเล่นกันที่ห้องนั่งเล่น ตอนนี้เสียงเจี้ยวจ้าวเต็มไปหมดเลยครับ แต่ก็มีความสุขดีครับ อยู่กับเด็กพวกนี้แล้วสนุกครับ นั่งหัวเราะกันไปบ้าง

อ้อ สายไหมตื่นแล้วนะครับ

เจ้าตัวเล็กที่ตื่นแล้วก็มานั่งๆล้อมวงเล่นกับพวกผมและพี่ๆเนี้ยแหละครับ แต่ดูเหมือนน้องมันจะไม่ชอบเล่นเท่าไหร่เลยนั่งกระพริบตาปริบๆอยู่ข้างๆน้องหมอก ส่วนมากแล้วสายไหมจะชอบพูดอ้อแอ้ช่วงที่ดูหนังหรือการ์ตูนกันครับ

"พี่ปัน"

"ครับๆ? "

"เมื่อเช้าตอนขับรถมา พี่ไม่ได้ฟังหมอกพูดเลยเหรอ ?"

"คือ....พี่ง่วงๆนิดหน่อย"

ผมตอบน้องมันไปหลังจากเห็นสายตาน้องหมอกเจื่อปนอะไรบางอย่าง

"พี่ปัน"

"ครับ ?"

"ทำไม...พี่ต้องแกล้งยิ้มด้วยอ๊ะ"

"..............."

"พี่...คนเราเป็นมนุษย์นะ บางครั้งบางที่เราก็อดกั้นกับมันได้ไม่นานหรอก หมอกเห็นพี่ปันแบบนี้แล้วไม่สบายใจเลย พี่เป็นอะไรรึเปล่าครับ ?"

"เอาไว้พี่พร้อมแล้วพี่จะบอกนะ"

สุดท้ายผมก็เลิกฝืนยิ้มปั้นหน้า ก่อนจะทำหน้าปกติๆให้น้องหมอก มือเล็กๆเอื่อมมาจับผมไว้

"มีอะไรก็บอกหมอกได้นะพี่ปัน หมอกอาจจะช่วยอะไรไม่ได้ แต่หมอกรับฟังได้นะ"

รอยยิ้มจางๆจากคนข้างๆยิ้มมาให้ผม ผมยิ้มตอบแล้วบีบมือกลับเบาๆ

"ได้ครับ พี่สัญญา"

หลังจากนั้นน้องหมอกก็เล่าให้ผมฟังถึงกีฬาสีที่จะจัดให้น้องๆแข่งกัน โดยจะแบ่งเป็นสองสี ฝั่งหนึ่งมีน้องเอิร์ธกับน้องๆอีกสามคน ที่เหลือก็พวกน้องแคทที่อยู่ทีมน้องซ่า

เกมกีฬาสีเกมแรกคือต่อตัวครับ กติกาง่ายมาก แค่ทุกคนในทีมยืนอยู่บนแผ่นหนังสือพิมพ์ที่จะค่อยๆลดขนาดลง ผมมองดูรูปการณ์แล้วฝั่งน้องเอริธ์ได้เปรียบครับ ก็น้องมันเล่นอุ้มเด็กอีกสองคนพร้อมกันอ๊ะ บ้าพลังจริงๆ!!

"5 4 3 2 1 หมดเวลา!!! เกมนี้ทีมไอ้เอริธ์ชนะ"

เสียงน้องหมอกขานบอก ก่อนทีมน้องซ่าจะจุ๊ปากขัดใจ เพียงแต่เกมต่อไปดูเหมือนจะเข้าทางทีมน้องซ่านะครับ

เกมส์ที่ว่าคือเกม24ครับ เป็นเกมทางคณิตฯอย่างหนึ่ง คือเรากำหนดตัวเลขขึ้นมา4ตัวเป็นเลขอะไรก็ได้ แล้วจะบวกลบคูณหารก็แล้วแต่เลยครับ ขอแค่ต้องใช้เลขให้ครบทั้ง4ตัวและผลลัพธ์ที่ได้ต้องเท่ากับ24
โจทย์จะมีทั้งหมดสามชุด ผมกับหมอกจะเป็นคนกำหนดตัวเลขครับ

ตามคาด ทีมน้องซ่าเป็นฝ่ายชนะเนื่องจากหัวหน้าทีมโชว์สกิลโหดด้วยการตีโจทย์ภายในครึ่งนาที ชักสงสัยแล้วสิครับว่าเด็กนี้ไอคิวเท่าไหร่ แต่นั้นไม่ใช่ประเด็นตอนนี้ครับ

"เกมที่สอง ทีมไอ้ซ่าชนะ ตอนนี้เสมอกัน1-1 เหลือเกมนี้เกมสุดท้ายแล้วนะ"

พูดจบผมกับน้องก็ให้พวกมันพักเหนื่อยนั่งดูผมกับหมอกช่วยกันจัดของกินใส่จานอาหาร เกมสุดท้ายคือเกมกินวิบากครับ มีทั้งหมด7จาน จานแรกขาไก่ จานที่สองปีโป้ จานที่สามสาหร่ายเถ้าแก้น้อย จานที่สี่ขนมผิง จานที่ห้าไข่ต้มครับ(ของจากเมื่อเช้านั้นเอง) จานที่แป๊ปซีครับ และจานสุดท้ายคือ...

"แช่แฟ้บ ลูกโป่ง!!!"

เอริธสถบขึ้นมานิดๆหลังเห็นลูกโป่งวางในจาน

"ลูกโป่งนี้ ต้องให้หัวหน้าทีมเป่านะ ห้ามใช้เล็บจิกด้วย ส่วนของกินต้องกินจานแรกให้หมดก่อนถึงจะกันจานต่อไปได้"

เสียงน้องหมอกเหมือนฟ้าผ่ากลางหัวไอ้เอิร์ธ ถ้าให้ผมเดาน่ะ ไอ้เด็กนี้กลัวลูกโป่งแตกใส่หน้าชัวร์เลย พอเทียบกับสีหน้าทางฝั่งน้องซ่าแล้วบอกเลยว่าแตกต่างกันมาก ทางนั้นดูจะมีความมั่นใจมากว่าจะชนะ แต่ก็นั้นแหละครับ เห็นน้องซ่าแบบนั้นแล้วไอ้เอิร์ธมันจะยอมแพ้ได้ไง

"พี่จะนับ 1  2  3 นะถ้าพร้อมแล้ว...เริ่ม!!!"

ผมขานเวลาก่อนจะเริ่มเกม

เด็กๆทั้งสองทีมวิ่งแข่งกันไปกินของที่อยู่ในจาน ก่อนแต่ละคนจะช่วยกันกิน อย่างที่บอกครับ ถ้าจานแรกไม่หมดก็ไม่มีสิทธิ์ทานจานต่อไป ตอนนี้ทีมน้องเอิร์ธยังนำอยู่นิดหน่อยนะครับ แต่ซ่ากับน้องแคทเองก็ใช่ย่อย เขมือบเอาๆ จนตอนนี้ทั้งสองทีมสูสีกันมาก เวลาผ่านไปห้านาที่ ตอนนี้ทั้งสองทีมทานกันไปได้แล้ว 4จาน น้องเอิร์ธทานได้ดุเดือดมากครับ คุณท่านเล่นยัดไข่ทั้งฟองเข้าไปในปากก่อนจะเคี้ยวตุ้ยๆจนแก้มมันป้องออกมา ผมเห็นนะว่าไอ้ซ่าแอบมองแล้วอมยิ้มขำด้วยครับ แต่ไม่เอาครับไม่แซวน้อง หึหึ

หลังจากนี้สิครับ ของจริง

"พี่ซ่า เป่าเลยๆ"

น้องแคทยืนตะโกนเชียร์อยู่ข้างๆ ตอนนี้ทั้งสองทีมกินครบหมดทุกจานแล้วครับ เหลือแต่ลูกโป่งหนึ่งใบ จริงๆฝั่งน้องเอิร์ธกินเสร็จหมดแล้วนะครับ แต่ไอ้เอิร์ธยืนนิ่งไม่กล้าเป่า

"พี่ปัน"

น้องหมอกที่อุ้มสายไหมอยู่สะกิดผมเบาๆก่อนจะชี้นิ้วไปทางน้องซ่า

ภาพที่เห็นคือ น้องซ่าเองแม้จะเริ่มเป่าไปแล้วแต่ก็หยุดกลางคันดื้อๆ น้องแคทยืนอมยิ้มขำอยู่ข้างๆ ส่วนเด็กๆที่เหลือก็คงจะงงๆกันว่าหัวหน้าทีมของตรจะหยุดทำไมฟระ

"ทำไมไม่เป่าต่อล่ะ"

"ผมกลัวลูกโป่งแตก/ผมกลัวลูกโป่งแตก"

ประโยคที่พูดพร้อมกันขึ้นมาแบบไม่ได้นัดหมายก็ทำเอาพวกมันสองคนเลิกคิ้วมองกันครับ น้องเอิร์ธขยับปากด่าอะไรสักอย่างนั้นแหละ แต่น้องซ่าก็ตีหน้าตายครับ

"งั้นเกมนี้พี่ที่ว่าเสมอกัน ตกลงมั้ย ?"

"ไม่ได้พี่ จริงๆเกมนี้ทีมมันชนะอ๊ะ"

น้องเอิร์ธแย้งเบาๆ ซ่าหันมามองก่อนจะชี้ไปที่ลูกโป่ง

"ลูกโป่งแตกไหม ?"

"ก็...ก็ไม่"

"อื้ม ก็ไม่ไง ก็แปลว่ากูไม่ได้ชนะมึง....และก็คงไม่ได้ชนะตลอดไป..."

คำพูดราบเรียบแต่แฝงไว้ด้วยอะไรหลายๆอย่าง ปลายประโยคพูดเสียงเบาหวิว ผมหันไปมองหน้าน้องหมอกที่ยิ้มจางๆก่อนจะยื่นสายไหมมาให้ผมอุ้มบ้าง แล้วเดินไปตรงกลางระหว่างเด็กสองคนนี้

"พี่จัดเกมนี้ขึ้น เพราะอยากให้พวกเราได้สนุกกัน ทุกคนได้สนุกกัน พี่เคารพทุกๆการตัดสินใจของพวกเรา ของรางวัลที่ได้ มันเทียบไม่ได้กับความรู้สึกที่ได้รับ พี่ดีใจที่เราสองคนโตขึ้นมาก รู้จักความรับผิดชอบและการเสียสละ ขอให้พวกเราเป็นยังงี้ต่อไป ถึงพวกเราจะไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆ แต่พี่ก็รักพวกเรามากๆ"

จบประโยคเด็กๆก็กรู่กันเข้าไปกอดน้องหมอก ชุลมุนอยู่พักใหญ่ๆก่อนจะคลี่คลายได้ ที่สำคัญคือน้องสายไหมหัวเราะเอิ้กอ้ากชอบใจมากครับที่เห็นน้องหมอกโดนเด็กๆลุมกอด หลังจบเหตุการวุ่นๆช่วงแรก ผมกับน้องหมอกก็ช่วยกันแจกของให้เด็กๆ ตั้งแต่เสื่อผ้า ร้องเท้า และอุปกรณ์การเรียนอื่นๆที่ซื่อกันมา ผมชอบสายตาและสีหน้าของน้องๆตอนที่ยิ้มออกมาหลังจากได้รับของพวกนี้นะครับ พูดๆไปแล้วก็คงจะเหมือนที่น้องหมอกว่าเอาไว้

ของรางวัลที่ได้ มันเทียบไม่ได้กับความรู้สึกที่ได้รับ

ผมเป็นผู้ให้...ที่รู้สึกได้รับจนเต็มเปรียบ เป็นผู้ให้ .... ที่ได้รับรอยยิ้มบริสุทธิ์ของเด็กๆ

การมาทำบุญครั้งนี้ คิดถูกแล้วจริงๆนั้นแหละครับ...

หลังจากแจกจ่ายของเสร็จ ผมกับน้องๆก็ช่วยกันทำอาหารกลางวันต่อ เนื่องจากข้าวต้มเมื่อเช้าหมดหม้อไปเลย ยายอิ่มไล่ผมกับหมอกไปดูแลเจ้าสายไหมนะครับ แต่น้องมันไม่ยอม ก็อย่างว่าและครับนานๆมาที่ ตอนนี้ในครัวเลยวุ่นวายไปหมด ตั้งแต่ผมที่อุ้มน้องสายไหมคอยเชียร์หมอกทำอาหาร ไอ้เอิร์ธไอ้ซ่าที่หั่นผักไปกัดกันไป น้องๆที่เหลือที่ช่วยกันเช็ดจานบ้าง จัดจานบ้าง

เป็นการเข้าครัวที่โคตรอบอุ่น....

พอทำเสร็จเด็กๆก็เฮโหล กันกันอลหม่านเลยครับ กินเสร็จก็นั่งกันพุงกาง เพราะมื่อนี้ขนาดน้องซ่ายังฟาดไปสองจาน ส่วนไอ้น้องเอิร์ธอย่าถามนะครับ กระซิบเบาๆว่าเลขสามบวก

แต่ก็นั้นแหละครับ ด้วยความที่ทำกันเพลินกันจนเกินไป อาหารที่ทำออกมามันเลยเยอะเกินปริมาณที่เด็กๆรับประทานนั้นแหละครับ ขนาดยายอิ่มแกบอกว่าจะเอาไว้อุ่นมือเย็นกับมือของพรุ่งนี้เช้าก็ตาม ปริมาณที่เหลือมันก็ยังเยอะอยู่ดี


"ยายครับ บ้านเรามีถุงพลาสติกหรือถุงร้อนอะไรพวกนี้ไหมครับ ?"

น้องหมอกถามพลางมองอาหารที่เหลืออยู่ตรงหน้า

"ที่บ้านไม่มีนะ แต่รู้สึกร้านหน้าปากซอยน่าจะมีนะจ๊ะ"

"ไอ้เอิร์ธ ไอ้ซ่า ไปซื่อ6X9มาสามมัดเอาหนังยางสิบบาท"

น้องหมอกว่าก่อนจะยืนแบงค์ร้อยให้เด็กสองคนนี้ไปซื่อถุงร้อนมาไว้ ไม่นานทันคู่ก็กลับมา น้องหมอกจัดแจงค่อยๆรัดอาหารที่เหลือไปที่ละถุงๆจนมันหมดหม้อ ก่อนจะใส่อาหารและข้าวสวยพวกนั้นไว้ในถุงพลาสติกใบใหญ่ที่ใส่อุปกรณ์ให้พวกน้องๆมา

ผมกับน้องๆนั่งเล่นกันจนถึงประมาณสี่โมงเย็น น้องหมอกเองก็ขอตัวกลับ ผมยื่นซองทำบุญให้ยายอิ่มไป ที่แรกแกไม่รับครับเพราะแกบอกว่าแค่นี้ก็ดีสำหรับเด็กๆพวกนี้แล้ว แต่ผมเองแสดงเจตนาจริงๆว่าอยากช่วยแกถึงได้ยอมรับไป

"พีี่ฝากดูแลน้องๆด้วยนะ โตๆกันแล้ว มีอะไรก็พูดกันดีๆ"

"ครับ/ครับ"

ตอนนี้ผมกับน้องยืนกันอยู่หน้าบ้านครับ หมอกฝากฝั่งให้พี่ใหญ่ทั้งสองคนก่อนที่น้องๆสองคนจะรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ

"ถ้ามีโอกาส พี่จะกลับมาเยี่ยมบ่อยๆนะ..."

ไม่รู้ผมคิดไปเองรึเปล่า ทำไมน้ำเสียงของน้องมันถึงได้หม่นลงมากในตอนที่พูดประโยคนี้

"พี่ไปก่อนนะสายไหม"

น้องหมอกเข้าไปอุ้มเจ้าตัวเล็กที่ทำตาแป๋วก่อนจะงอแงหลังจากส่งคืนให้ยายอิ่ม

"โชคดีนะ หลานๆของยาย"

ยายอิ่มกอดส่งหมอกแน่นก่อนจะยอมปล่อย

"งั้นพวกผมไปก่อนนะครับ ยายครับ สวัสดีครับ เอิร์ธ ซ่า ดูแลน้องๆด้วยนะ"

น้องๆทุกคนยกมือกันไหว้ผมก่อนผมจะยกมือไหว้รับ แล้วหันไปไหว้ยายอิ่ม

"ไปก่อนนะครับยาย"

"จำเริญๆนะพ่อหนุ่ม"

"โชคดีนะครับพี่ๆ"

"แวะมาเยี่ยมหนูอีกนะพี่หมอก พี่ปัน หนูอยากเล่นพ่อแม่ลูกอีก"

"ไปดีมาดีนะพี่"

"บายๆครับ"

เด็กๆหลายคนอวยพรให้ผมกับน้อง ก่อนพวกเราจะขึ้นรถยนต์และค่อยๆขับไกลออกมา ภาพที่เห็นก็ทำให้ผมยิ้มได้อย่างเป็นสุขใจ

แต่ที่สงสัยคือ น้องหมอกจะนำกับข้าวพวกนี้ไปไหน ?

"แล้วนี้ เราจะไปไหนกันต่อครับ"

"ไปสนามหลวงครับพี่..."







ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 :hao5: อร๊าย
สรุปว่าเอิร์ตซ่า คู่นี้ดราม่าเหรอ
มีความนัยแฝงไว้ว่าเป็นแฟนกันไม่ได้ ฮือออออออ

ว่าแต่ไปสนามหลวงทำไมกันนะ

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
ง่าา ซ่า กับ เอิร์ตดูมีซัมติงนะ

แต่ทำไม ดันไปมีแฟนซะงั้นอ่ะ

ออฟไลน์ karatop

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 162
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อุส่าตามมาอ่านอีกรอบ แต่ไม่เป็นไร เคารพในการตัดสินใจคุณแกะนะ ^^  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
จะรอเวอร์ชันใหม่จ้า  :mew1:

แต่อย่าทิ้งสายฟ้าของเค้านะ ฮ่าฮ่าฮ่า  :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ever-never

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
เนื้อเรื่องสนุกดีนะครับ เป็นกำลังใจให้นะหมอก

อโลลาน

  • บุคคลทั่วไป

ผมขับรถเข้าสู้ถนนสายหลักจากนอกตัวเมืองก่อนจะใช้เส้นทางจรัญสนิทวงศ์ตีรถไปสนามหลวงตามที่น้องมันบอก จริงๆแล้วทางอื่นก็มีนะครับแต่ผมชำนาญทางแถวนี้มากกว่าแล้วทางมันสั้นกว่าด้วย แม้บางวันการจราจรแถวนี้จะแทบไม่ขยับก็เถอะ

น้องหมอกนั่งเงียบมาตลอดทางหลังจากตอบคำถามของผมเสร็จ ผมคิดว่าเจ้าตัวคงมีเรื่องให้คิดหนักเยอะแยะเต็มไปหมด ถึงได้ทำหน้ากลุ้มๆแล้วนั่งเงียบไป ตัวผมเองก็รู้ดีว่าน้องมันเครียดเรื่องอะไร

ไม่ได้อยากเห็นน้องมันเครียดนะครับ แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะชวนคุยเรื่องอะไรดี

"หมอก"

"ครับพี่ปัน"

"อีกสองอาทิตย์ก็เข้าค่ายแล้วนะ เก็บของบ้างรึยัง ?"

ผมทักขึ้นหลังนึกเรื่องนี้ออก

"ค่าย...อ้อ ยังเลยครับพี่"

น้องหมอกทำหน้าคิดก่อนจะตอบผมกลับมา

"แล้วต้องเตรียมอะไรไปบ้างล่ะครับ ?"

"เอาแค่ชุดใส่สามวันสองคืนก็พอแล้วครับ แล้วก็พวกของใช้ส่วนตัวนะน่ะ"

น้องหมอกพยักหน้ารับ ผมขับรถลงอุโมงค์ทะลุยาวก่อนจะเลี้ยวซ้ายไปทางสนามหลวง

ทางจะไกลขนาดไหนยังไงก็ต้องถึงสักวัน ในที่สุดผมก็ขับรถพาน้องมันมาถึงสนามหลวงจนได้

ผมขับรถวนหาที่จอดสักพักก็เจอ ก่อนเราทั้งคู่จะช่วยกันยกถุงกับข้าวและถุงข้าวสวยออกมาจากในรถ ผมเองก็บอกตรงๆว่ายังไม่รู้เหมิือนกันว่าน้องมันจะพาไปไหน

"เดี่ยวพี่ปันเดินตามผมมานะ"

น้องหมอกพูดก่อนจะยกถุงข้าวเดินนำไปข้างหน้า ผมเริ่มรู้แล้วล่ะครับว่าน้องมันจะไปไหน

สิ่งที่หมอกทำ อาจจะเป็นสิ่งที่ใครก็คิดได้และทำได้

สิ่งนั้นคือการให้...

น้องหมอกเดินแจกข้าวกับคนจรจัดที่อาศัยบริเวณสนามหลวงเป็นที่พักพิง น้องมันเดินไปพลาง แจกไปพลาง พูดคุยกับคนเหล่านั้นอย่างไม่ถือตัว ไม่สนใจสายตาของคนอื่นว่าจะมองมาด้วยสายตาแบบไหน สนใจแต่เพียงสิ่งที่ตัวเองกำลังกระทำ ผมเองก็ไม่คิดจะสนใจสายตาของใครที่ไหนเหมือนกัน

แค่สนใจเด็กตรงหน้าคนเดี่ยวก็พอแล้ว

รอยยิ้มพิมพ์ใจที่ไม่ได้เสเสร้งถูกประดับไว้บนใบหน้าหวานๆ มือเล็กๆสองข้างยื่นถุงข้าวเปล่าและกับข้าวให้ถึงมือโดยไม่ได้รังเกลียดหรือกลัวว่าคราบสกปรกใดๆจะโดนตัว ซ้ำบางที่ก็นั่งข้างๆคนๆนั้นเอาซะเลย

สิ่งที่ตอบแทนกลับมาคือรอยยิ้มแบบเดี่ยวกัน

อาจจะไม่มีคำพูดสวยหรูนอกจากคำว่า'ขอบคุณ'อาจจะไม่มีสิ่งใดจะตอบแทน และผู้ให้อย่างเราก็ไม่ได้ต้องการของตอบแทน เพียงแต่น้องมันบอกผมเอาไว้ว่า

"พวกเราไม่ได้เป็นแค่คนให้ พวกเราเป็นคนรับ เรารับรอยยิ้มมากจากเขา รอยยิ้มที่ไม่ได้ถูกประดิษฐ์หรือเสแสร้ง อะไรที่มากจากใจมันมีค่ามากนะครับพี่ปัน"

ผมตะเวณแจกข้าวแจกน้ำกับน้องหมอกจนเวลาผ่านไปเกือบๆชั่วโมงเห็นจะได้ เราสองคนเดินวนรอบสนามหลวงได้เกือบๆหนึ่งรอบครึ่ง สิ่งทีี่ผมเห็นคือผู้คนที่ไร้ที่อยู่อาศัยมากขึ้นกว่าสมัยก่อนมาก อีกทั้งปัญหาต่างๆที่ตามมา ผมเห็นเด็กจรจัดหลายคนมาต่อแถวรับข้าวน้ำจากพวกเราสองคนด้วยซ้ำ

ร่างเล็กๆที่เดินนำหน้าผมยังไม่เอ่ยคำบ่นออกมาแม้แต่ครึ่งคำ

เหงื่อที่ไหลเตํ็มใบหน้าเพราะความร้อนจากอากาศและมลพิษรอบๆตัว ไม่ได้ทำให้ความตั้งใจของน้องมันลดลงเลยแม้แต่น้อย

"พี่ปัน"

"ครับ"

"ขอบคุณครับ"

"......"

"ขอบคุณ...ที่พี่อยากจะทำบุญแบบนี้ ขอบคุณที่พี่ทำตามที่ผมขอ...ผม...ไม่รู้จะพูดยังไงดี วันเกิดพี่แท้ๆ...."

น้องมันหันหน้ามาหาผม ด้านหลังคือกำแพงวัดพระแก้วที่อยู๋ไกลๆ ดวงตาคู่สวยหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด

"ไม่หรอก..."

"......."

"พี่ต่างหาก ที่ต้องขอบคุณเรา ขอบคุณที่สอนให้พี่ เป็น'ผู้ให้'ที่แท้จริง...พี่ไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย วันเกิดทุกครั้งมากสุดก็แค่ใส่บาตรแล้วก็ฉลองเมามาย พี่ไม่เคยคิดจะช่วยเหลือคนที่ด้อยกว่าหรือมาทำบุญแบบนี้เลย"

คนตรงหน้าผมค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ผมถึงได้รู้จักว่าน้องมันเจิดจ้ามากกว่าตะวันที่กำลังรำไร่เตรียมจะตกลงพื่นดิน เจิดจ้าจนผมละสายตาไม่ได้ คนตรงหน้าผม แบกรับหลายๆสิ่งหลายๆอย่างไว้ในใจ แต่ไม่เคยบ่น ไม่เคยท้อ ไม่เคยสักครั้งทีี่จะปล่อยโฮออกมา แม้จะกลัวแต่ในสายตาก็ยังมี'ความหวัง'ซ่อนอยู่เต็มดวงตาทั้งสองข้าง

ไม่แปลกสินะที่ผมอยากจะเป็นผู้ให้อีกสักครั้ง

อยากให้รอยยิ้มนี้...คงอยู่ตลอดไป

ความสับสน ความวุ่นวายในใจของผม เหมือนๆค่อยๆทลายลงไปพร้อมๆกับแสงตะวัน ความชัดเจนหนึ่งเดี่ยวเกิดขึ้นในจิตใจ...

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมวิ่งหนีปัญหา วิ่งหนีความจริง วิ่งนี้ความรู้สึกของตัวเอง ด้วยการเอากรอบมาล้อมเอาไว้ ด้วยการบอกตัวเองว่าไม่ได้คิดอะไร ทุกสิ่งเป็นเพียงแค่ความรู้สึกชั่ววูบแล้วดับลงไป

เพียงแต่บางครั้ง พลุที่สว่างเพียงเสี้ยววินาที่ กับตราตรึ่งใจเราไปตลอดกาล....

ไม่เกี่ยวหรอกว่าเป็น'ผู้ชาย'ด้วยกันทั้งคู่หรืออะไร ไม่กลัวหรอกว่าสังคมจะมองแบบไหน

'รัก'ก็คือ'รัก'....

ผมแค่รู้สึกว่าอยู่กับคนๆนี้ ผมมีความสุข ผมยิ้มได้อย่างไม่มีเหตุผล ผมไม่จำเป็นต้องเข้มแข็ง ไม่จำเป็นต้องเป็นใครเพราะแค่ผมเป็นผม น้องมันเป็นน้องมัน

เท่านั้นมันก็เพียงพอแล้วไม่ใช่เหรอ ?

ผมรู้ สิ่งที่ผมเลือก มันไม่ได้ง่ายเลย เมื่อคนตรงหน้าผมยังไม่เคยแสดงท่าที่อะไรสักนิดว่าคิดยังไง มากสุดที่ผมรู้สึกว่าน้องหมอกคิดกับผมคือพี่ของแฟนเพื่อนและรุ่นพี่คณะที่ตัวเองกำลังจะไปเข้าค่าย น้องมันไม่เคยแสดงออกเลยว่าคิดเกินเลยกับผมไปมากกว่านั้น อีกทั้งคำถามที่ผมถามออกไป

น้องมันมีคนที่ชอบแล้ว....

นอกจากนั้นสังคมเองก็เป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ เพียงแต่ ผมคิดว่าเราควรจะมีวิธีจัดการที่ดีกว่าวิ่งหนีมัน จริงไหมครับ ?

พอคิดแบบนี้แล้ว ผมรู้สึกหนักอึ่งในใจขึ้นมาดื้อๆ โอเค ผมแน่นอนกับความรู้สึกของตัวเองแล้ว แล้วคนรอบตัวผม...

เขายังจะยอมรับผมอยู่ไหม ถ้าคนที่ผมรัก เป็นเด็กผู้ชายคนนี้....

"พี่ปันครับ คิดอะไรอยู่นิ่งไปเลย"

น้องหมอกสะกิดเรียกผมเบาๆ

หลังจากเราทั้งคู่แจกข้าวจนหมดผมกับน้องก็มานั่งพักเหนื่อยตรงบริเวณม้าหินตัวหนึ่ง วิวข้างหน้าคือศาลหลังเมือง เยื่องออกไปด้านขวาคือตัววัดพระแก้วที่กำลังเจิดจรัสพร้อมๆกับตะวันที่ลับขอบฟ้า

พี่กำลังคิดว่าจะทำยังไง เราถึงจะรักพี่นะสิครับ....

"หมอก"

"ครับ"

"ไปกินข้าวกันไหม ?"

"ก็ไปสิครับ"

"อ่า...อื้ม...."

เกือบถามไปแล้วว่าไอ้คนที่ชอบมันเป็นใคร แต่ไม่เอาครับ เดี่ยวน้องมันรู้ตัวเอาซะก่อน เกิดหนีไปแล้วผมจะทำยังไงล่ะครับ

หลังจากนั่งพักเหนื่อยกันเสร็จ ผมพาน้องหมอกไปจอดที่ห้างๆหนึ่ง แน่นอนว่าไอ้ตัวดีมันบ่นนิดๆว่าทำไมต้องกินของแพงๆ แต่เพราะผมอ้างว่าเป็นวันเกิิดคนเด็กกว่าเลยยอมแพ้แต่โดยดี

แล้วจะจีบเด็กนี้ต้องทำยังไงว่ะ ? ไม่เคยจีบใครนะเว้ย

"เออหมอก..."

"ครับ ?"

"คือ...เออ ... คนที่หมอกชอบนี้เขาเป็นคนยังไงเหรอ"

น้องมันชะงักไปนิดๆก่อนจะเสหน้าไปทางอื่นแล้วอ้อมแอ้มตอบกลับมา

"เอ๋อๆ"

"ห๊ะ ?"

"คือ เขาดูเอ๋อๆนิดหน่อย แต่จริงๆแล้วนิสัยดี เป็นผู้ใหญ่ เป็นผู้นำที่ดี จริงๆแล้วหมอกก็ยังไม่ค่อยรู้จักเขานักหรอก"

"เหรอ ? เออ...มีรูปเขามั้ยล่ะ"

อยากจะเห็นหน้าคู่ต่อสู้ตัวเองครับ ไม่คิดหรอกนะว่าชีวิตนี้จะต้องมาจีบเด็กผู้ชายแข่งกับผู้หญิง(ทำไงได้ ก็...ชอบเขาไปแล้วนิ)

"ไม่มีครับ เพิ่งเจอกันไม่มีกี่ครั้งเอง แต่หมอก...ผูกพันกับเขา รู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ใกล้เขาบ่อยๆทั้งที่จริงแล้วเจอกันไม่กี่ครั้ง"

"แล้วทำไมถึงชอบล่ะครับ"

"อื้ม...ไม่รู้สิพี่ปัน สำหรับหมอกแล้ว ชอบก็คือชอบ มันอาจจะดูไม่มีเหตุผล แต่เรื่องของความรู้สึก...มันไม่มีเหตุผลนิครับ"

เหมือนที่พี่ชอบเราใช่มั้ยครับ ?

อยากถามประโยคนี้แต่กลัวคนตรงหน้าลุกหนีไปเลยครับ

สุดท้ายแล้วผมจึงทำได้เพียงทานอาหารเงียบๆก่อนจะพาน้องหมอกไปส่งที่บ้าน น้องมันบอกกับผมว่าเจอกันวันเข้าค่าย แต่จริงๆแล้วพรุ่งนี้ก็ได้เจอกันแล้วครับ

ก็ผมเป็นพี่สินนี้หน่า...หึหึ

ผมสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆก่อนจะขับรถกลับไปบ้านของตัวเอง

รถเก๋งของพ่อที่ขับประจำจอดอยู่ในโรงรถ นั้นหมายถึงว่าท่านอยู่ในบ้าน

ผม...จริงจังกับความรู้สึกของตัวเอง

และผม อยากจะแสดงความจริงใจกับใจของตัวเองให้ชัดเจนสักครั้ง

ประวัติศาสตร์ มันสอนผมให้รู้จักการเตรียมการ

"พ่อครับ"

พ่อเรียกท่านเสียงเบา ใจยังเต้นแรง ผมไม่รู้ว่าควรจะเล่าให้ท่านฟังยังไงดี

ว่าลูกชายคนเดี่ยวของท่าน .... อาจจะทำให้ท่านเสียใจ

"อ้าวปัน กลับมาแล้วเหรอ ? เห็นลุงเอิ้นบอกว่าแกออกไปกับหนูหมอกแต่เช้าเลยนิ"

สายกรองข่าวของพ่อยังดีเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน ผมเดินลงไปนั่งสงบๆข้างๆท่าน

"พ่อครับ...คือ ผมมีเรื่องอยากจะบอก"

น้ำเสียงของผมดูสั่นและทุ้ม แต่ก็ทำให้ท่านได้เข้าใจว่า เรื่องที่ผมจะพูดนั้น มันสำคัญมากจริงๆ

พ่อกดปิดโทรทัศน์ที่กำลังดู ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ

"อะไรล่ะ ?"

ผมสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะพูดออกมาช้าๆชัดๆเหมือนท่องประโยคนี้มาสักร้อยสักพันครั้ง

"ผม....ผมรักคนๆหนึ่งครับ"

แววตาฉงนฉายออกมาจากท่าน

"เหรอ ? แล้วที่บอกนี้คือจะให้พ่อไปของั้นเราะ "

ท่านพูดติดตลกก่อนจะมองหน้าผม ผมเองก็ไม่คิดจะลบสายตา

"พ่อครับ..."

"............."

"ผม...ชอบน้องหมอกครับ"

พ่อของผมนิ่งเงียบไปพอๆกับหัวใจที่เต้นแรงของผมมากขึ้นเรื่อยๆ

"แกแน่ใจกับความรู้สึกของตัวเองแล้วงั้นเหรอ ?"

"ครับ"

"อื้ม งั้นก็ดี"

พ่อพูดเรียบๆสบายๆก่อนจะกดรีโมทเปิดทีวีดีต่อ

"คือ....พ่อจะไม่พูดอะไรหน่อย...เหรอครับ ?"

ผมเตรียมใจที่จะโดนตอบกลับแรงๆ หรืออะไรมาแล้วครับ แต่ไม่คิดว่าท่านจะสงบได้ขนาดนี้

"ปัน ตั้งแต่แกเกิดมา พ่อเคยบังคับให้แกทำอะไรไหม ?"

"ไม่ครับ"

"พ่อเคยชี้นิ้วเลือกเส้นทางให้ตัวแกเดินไหม ?"

"ไม่ครับ"

"แล้วทำไมถึงคิดว่าเรื่อง'ความรัก'ของแก มันจะทำให้พ่อต้องด่าแกด้วย"

"....................."

"ตลอดเวลาที่ผ่านมา ที่พ่อให้แกเลือกทางเดินชีวิตของตัวเอง เพราะมันเป็นชีวิตของแก พ่ออยากให้แกมีความสุขกับสิ่งที่เลือก"

"....................."

"จะมีแฟนเป็นผู้ชาย หรือใคร นั้นไม่ใช่สิ่งที่พ่อจะรับไม่ได้ พ่อแค่อยากให้แน่ใจในความรู้สึกของตัวเอง แน่ใจในสิ่งที่เลือก แต่ถ้าแกถึงขนาดกล้ามาบอกพ่อตรงๆพ่อก็คิดว่าแกคงแน่ใจแล้วจริงๆว่าชอบหนูหมอก เพราะถึงพ่อจะรับได้ แต่สิ่งที่ตามมามันจะหนักหนาขึ้นในอนาคต เมื่อหน้าที่การงานของแกมันใหญ่ขึ้น แกเตรียมใจพร้อมแล้วรึยังที่จะรับกระแสพวกนั้น ?"

"ผม...ผมพร้อมจะรับทุกอย่างครับ"

"งั้นก็ดี....ปัน... คนเป็นพ่อแม่นะ จะมีความสุขได้ก็เพราะลุกมีความสุข ลูกสุขพ่อแม่ก็สุข..."

"พ่อครับ..."

ผมพูดไม่ออก มันจุกไปทั้งอก

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่ผมเกิดยันกระทั้งตอนนี้ ผมมีความสุขที่ได้เกิดมาในครอบครัวนี้ มีพ่อกับแม่ที่ไม่เคยกักขังอิสระของผมไม่ว่าจะด้านใดๆ แม้กระทั้งความรัก ผมรู้ว่าพ่อรู้สึกแบบที่พูด แต่ผมก็เสียใจที่ผมไม่ทำหน้าที่ลูกที่ดีเหมือนคนอื่นๆ

"หึหึ ไอ้เสื่อ โตจนปานนี้แล้วยังจะร้องไห้แงอีกเหรอว่ะ ?"

พ่อดึงผมเข้าไปใกล้ๆก่อนจะขยี้หัวผมเบาๆเป็นการปลอบ

"แล้วหนูหมอกเข้ารู้เรื่องนี้รึยังห๊ะ ?"

ผมเช็ดน้ำหูน้ำตาที่ไหลก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ

"เหอะๆ จะแห้วรึเปล่าล่ะไอ้ตัวดี"

"หวั่นๆใจเหมือนกันครับพ่อ แต่ผมจะลองดู"

"ระวังน้องเขาจะไม่เล่นด้วยแล้วกัน"

พ่อเตือนผมเบาๆ เพราะท่านเองก็รู้ดีว่าหมอกเป็นผู้ชายขนาดแท้

"ผม...จะลองดูครับ"

มันอาจจะเป็นการจัดค่ายเปิดคณะ...ที่ผมมีความสุขมากที่สุดในโลกเลยก็ได้



                                            -----------------------------------------------------------------------


กลับมาต่อแล้วจ้าาาา ทิ้งน้องๆไปไม่ได้จริงๆ  :mew2: เราอาจจะรีไรท์แค่บางตอนนะครับ ขอบคุณทุกคน ทุกการติดตามครับ









ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
ปันกล้าๆหน่อย

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 :hao7: คุณพ่อไฟเขียว แสดงว่าดราม่าครอบครัวไม่มีแน่ๆ
เหลือแต่พี่ปันต้องช่วยหมอกมาจากแม่เลี้ยงให้ได้นะ

ออฟไลน์ SiLent_GRean

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 566
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
พี่ปันสู้ๆ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ MeganMP

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
กลับมา!!!!!!!!!!!!!!!

คิดถึงคู่นี้อ่ะ :ling1: :ling1:


คนแต่งทิ้งไปนานมากกกกกกกกกกก


ฮือออออออออออ รออยู่ :mew2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด