ผมยืนกลอกตาอย่างเบื่อหน่าย ถึงแม้การเดินทางมาถึงโรงแรมจะผ่านไปโดยสวัสดิภาพ และผมก็ได้รับท่าทีที่เป็นมิตรขึ้น จนพอจะพูดคุยอย่างขอไปทีได้ แต่ในเมื่อยังมีคนน่ารำคาญอยู่ด้วย เรื่องน่ารำคาญก็คงจะไม่หายไปไหน
"ทำไมต้องให้โออยู่ห้องเดียวกับพี่นัทด้วย โออยากอยู่กับพี่แทม!"
"แบบนี้ดีแล้ว จะให้พี่เอาใจโอคนเดียวได้ยังไง"
"ฉันก็ไม่ได้อยากอยู่กับนายเหมือนกัน!"
"ถ้าอยู่ด้วยกันไม่ได้ ก็ไปหาที่พักกันเองแล้วกัน"
ผมยืนมองผู้ชายสามคนที่กำลังเจรจาเรื่องการเข้าพัก แต่ไม่ใช่แค่พี่โอกับพี่นัทที่ไม่พอใจเรื่องห้องพัก ผมเองก็ไม่พอใจเช่นเดียวกัน
แล้วทำไมผมต้องมานอนห้องเดียวกับไอ้แทมด้วย! บางทีผมน่าจะไปหาห้องพักอื่นอย่างที่มันว่า เพราะผมเองก็ไม่อยากอยู่กับมันเหมือนกัน
"พี่แทมอ่ะ!" พี่โอเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
"หึ! ถ้าจะให้นอนหัองเดียวกับนาย ฉันอยู่ห้องเดียวกับเตยดีกว่่า" พี่นัทพูดขึ้น ก่อนจะหันมาทางผม "ตกลงไหม"
ฮะ?!
"ดีเลย! แบบนี้พี่แทมก็มาอยู่ห้องเดียวกับโอนะฮะ" พี่โอพูดขึ้นเสียงใส พร้อมกับกอดแขนของไอ้แทมเอาไว้
"เอาอย่างที่แทมบอกนั่นแหละ อย่าเอาแต่ใจกันสิ" ไอ้แทมว่า แล้วหันมาทางผม "เตยไปกันเถอะ อยากไปพักแล้ว"
"เดี๋ยวสิพี่แทม!" พี่โอร้องเรียก ก่อนจะรียเดินตามไอ้แทมที่มุ่งหน้าเข้าห้องพักอย่างไม่สนใจใคร
"นี่มันบ้าชัดๆ!" พี่นัทบ่นขึ้น พลางมองไอ้แทมกับพี้โอที่วิ่งตามอย่างไม่พอใจ
ผมได้แต่นึกปลงตกกับตัวเอง สุดท้ายคนที่เอาแต่ใจที่สุดก็คือไอ้แทมนั่นแหละ
++++++++
"เหนื่อยจัง" ไอ้แทมพูดขึ้น แล้วนอนลงบนเตียง
ผมไม่ได้สนใจ แล้วมองรอบหัองอย่างสำรวจ ยังดีที่เป็นเตียงเดี่ยว ถึงอย่างนั้นการที่ต้องอยู่ตามลำพังในห้องนอนกับมันก็ยังอันตรายชวนให้ไม่น่าไว้ใจอยู่ดี
"เตยมานวดให้พี่หน่อย ปวดหลัง" ไอ้แทมพูดขึ้นอีกครั้ง พร้อมขยับท่าทางของตัวเองไปมา
"น่ารำคาญ ไปเรียกคนของมึงนู้น" ผมว่า แต่มันดันยิ้มกลับมา
"เตยก็เป็นคนของพี่ไม่ใช่หรือไง" ไอ้แทมบอก ก่อนจะนอนเท้าหัวกับหมอนที่อยู่บนเตียง "คืนนี้มาเล่นอะไรกันหน่อยไหม"
"หึ... ถ้าอยากนัก ก็ไปหาสองคนนั้นไป!" ผมบอกเสียงแข็ง แต่ก็คงไม่ทำให้ตนโดนว่ารู้สึกอะไรได้
"แต่พี่อยากเล่นกับเตยมากกว่า" ไอ้แทมตอบด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ พร้อมกับส่งสายตาเจ้าเล่ห์ ก่อนที่ผมจะถอนหายใจออกมา
"ถ้ามึงไม่สนใจ แล้วจะพามาทำไมวะ" ผมถามขึ้นด้วยความข้องใจ
"ก็พี่กลัวเหงา ถ้าเตยมัวแต่สนใจติน พี่ก็โดนทิ้งสิ" ไอ้แทมตอบ แล้วล้มตัวลงนอนเต็มที่
ผมไม่ได้ตอบรับอะไร พลางมองคนปากดีอย่างไม่ค่อยสนใจนัก เมื่อจัดการสัมภาระของตัวเองเสร็จ ผมก็หันไปมองคนที่นอนหลับตาอยู่ แต่ผมว่ามันไม่ได้หลับหรอก เพราะระหว่างที่เดินทางมา ผมเห็นมันดื่มกาแฟไปสองแก้วแล้ว
"แล้วตินพักที่นี่หรือเปล่า" ผมถามขึ้น และก็เป้็นอย่างที่คิดเอาไว้ เพราะทันทีที่ผมถาม อีกฝ่ายก็ลืมตาขึ้น
"อืม" ไอ้แทมตอบ แล้วมองผมอย่างอารมณ์ดี "แต่ถ้าคิดจะไปหามันตอนนี้คงไม่ได้หรอก มันทำงานอยู่ เอาไวัตอนเย็นนั่นแหละ"
ผมแค่มองมันเป็นการรับรู้ แล้วเดินเข้าห้องน้ำ บางทีคืนนี้ผมน่าจะย้ายไปนอนกับตินแทนดีกว่า
++++++++++
ผมเดินมาทางล็อบบี้ของโรงแรม แล้วเดินเลี้ยวไปยังสวนด้านข้าง เพื่อมุ่งตรงไปยังชายหาดที่อยู่อีกด้าน ตอนนี้ผมกำลังหนีพวกน่ารำคาญอยู่ครับ
หลังจากเก็บของอยู่ในห้องได้ครึ่งชั่วโมง คนที่ไอ้แทมพามาด้วย ก็พากันมาเคาะประตู ก่อนจะพยายามดึงไอ้แทมที่ทำเป็นเล่นตัวให้ออกไปเดินเล่นด้วยกัน ผมเลยอาศัยความชุลมุนปลีกตัวออกมา พร้อมกับกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือ
ผมนั่งลงบนกำแพงหินที่สร้างขึ้นเพือกั้นระดับพื้นที่ของโรงแรมและหาดทราย ก่อนจะหยิบขวดน้ำเปล่าที่เพิ่งซื้อจากมินิมาร์ทก่อนหน้านี้ขึ้นดื่ม พลางมองเส้นขอบฟ้าที่อยู่ไกลสายตา
ท้องฟ้าผืนกว้างเปลี่ยนเฉดสีตามดวงอาทิตย์ที่คล้อยต่ำลง เสียงคลื่นที่ซัดซาดมาพร้อมกับสายลมเอื่อยที่พัดจากทะเลมาเป็นระยะ ความเรียบง่ายที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นตรงหน้า ทำให้ผมรู้สึกปลอดโปร่งอย่างที่ไม่ค่อยได้เป็นนัก ผมจำไม่ได้แล้วว่าได้นั่งมองทะเลด้วยความสงบใจครั้งสุดท้ายเมื่อไร
ผมปล่อยความคิดและอารมณ์ให้ลอยห่างออกไปยังทะเลกว้างจนเวลาล่วงเลยมาได้พักใหญ่ ก่อนเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือจะดังขึ้น และผมคงจะไม่สนใจมันเมื่อหสายที่ติดต่อมาก่อนหน้านี้ ถ้าหากไม่ใช่เสียงพิเศษที่ผมตั้งเอาไว้โดยเฉพาะ
"ติน!"
[ว่าไง ตอนนี้อยู่ที่ไหน]
น้ำเสียงอ่อนโยนที่ดังตอบกลับมา ทำให้ผมต้องอมยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
“แล้วตินอยู่ที่ไหน รู้หรือเปล่าว่าผมอยู่ที่ไหน”
[ฮ่าๆ รู้หรอกน่า เพิ่งคุยกับไอ้แทมเมื่อกี้เอง]
“’งั้นหรือ แล้วทำไมกลับมาไม่บอก”
[ตอนแรกไม่ได้จะมาหรอก แต่โดนบังคับให้มา ว่าแต่ตอนนี้เตยอยู่ไหน]
“นั่งอยู่ที่ริมหาดอีกด้านของโรงแรม ตินจะมาหาหรือ”
[พูดแบบนี้ หมายความว่าไม่อยากให้ไปหาหรือไง]
“เปล่า ถ้าตินไม่มา ผมก็จะไปหาเอง”
[พี่ไปหาดีกว่า เดี๋ยวเจอกัน]
ผมมองโทรศัพท์มือถือที่ถูกตัดสายไปด้วยรอยยิ้ม แล้วสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะปล่อยออกอย่างอ้อนอิ่ง ลมเย็นที่หอบไอของทะเล ถึงแม้จะรู้สึกเหนียวตัว แต่ผมกลับรู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก
ผมนั่งอยู่ตามลำพังได้เพียงไม่นาน ก่อนจะได้ยินเสียงฝีเท้าที่ดังขึ้น และเมื่อผมหันไปมอง ก็ได้พบกับใบหน้าอ่อนวัยและรอยยิ้มที่แสนคิดถึง ผมไม่รีรอที่จะลุกขึ้น แล้วเดินไปกอดผู้ชายตรงหน้าอย่างที่ใจต้องการ
“แล้วมานั่งทำอะไรอยู่คนเดียว ไอ้แทมตามหาอยู่น่ะ” ตินถามขึ้น แล้วยกแขนกอดตอบผม สัมผัสของเขา ทำให้ผมอบอุ่นเสมอ
“มานั่งเล่นแก้เบื่อน่ะ” ผมตอบ แล้วคลายอ้อมแขนของตัวเองลง “ว่าแต่ตินมาทำอะไรที่นี่หรือ”
“มาเป็นวิทยากรในงานสัมมนา” ตินตอบ แล้วหัวเราะเบาๆ ก่อนจะมองไปยังทะเลเบื้องหน้า “งั้นนั่งคุยกันแถวนี้แล้วกัน”
“อืม” ผมตอบรับ แล้วนั่งลงที่เดิม พร้อมกับยิ้มมองใบหน้าของตินที่กำลังถูกย้อมด้วยเสงตะวันสีส้ม “ติน...คืนนี้ไปนอนด้วยได้หรือเปล่า”
“ทำไมหรือ แต่ยังไงก็ไม่สะดวกหรอก เพราะพี่นอนอยู่กับเพื่อน” ตินบอก แล้วมองผมด้วยความสงสัย และเมื่อเห็นสีหน้าผิดหวังของผม เขาก็กอดไหล่ของผมเอาไว้ “อย่าทำท่าอย่างนั้นสิ ไม่ดีเลยนะ ถอนหายใจมากๆ จะตายเร็ว”
“แต่คงไม่ตายก่อนตินหรอก” ผมตอบกลับ ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะตอบกลับมา
ผมมองใบหน้าที่เปื้อนยิ้มของติน แล้วอดที่จะยิ้มตามออกมาไม่ได้ ผมไม่อยากให้เวลาเดินผ่าน แต่ก็รู้ดีว่าคงทำแบบนั้นไม่ได้ ก็เหมือนกับวคามรู้สึกของผมที่ไม่สามารถหยุดได้
อยากอยู่กับคนๆ นี้....
“เตย... คิดว่าพี่เป็นยังไง”
คำพูดของติน ทำให้ผมต้องหันไปมองด้วยความสงสัย ก่อนจะเห็นตินระบายยิ้มมาให้ แล้วยืดแขนของตัวเองไปมาอย่างบิดขี้เกียจ ผมมองท่าทางของคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ
“ทำไมหรือ”
“อืม... พี่อยากรู้ความรู้สึกขอเตย”
ผมมองตินอย่างพูดไม่ออก เพราะไม่สามารถกลั่นความรู้สึกที่มีต่อเขาออกมาเป็นคำพูดได้
รัก...ห่วงหา...ต้องการ...อบอุ่นใจ...
ถึงจะรู้สึกใจเต้นแรงขึ้นด้วยความประหม่ามากแค่ไหน แต่ผมก็อดที่จะรู้สึกสงสัยขึนมาไม่ได้ และคงเพราะผมเอาแต่เงียบ เขาเลยป็เนฝ่ายทำลายความเงียบเอง
“งั้นพี่จะเป็นคนบอกความรู้สึกในใจของพี่เองดีกว่า” ตินพูดขึ้น แล้วมองไปข้างหน้า “พี่รักเตยเหมือนกับรักไอ้แทมเลย”
ผมได้แต่ฟังโดยไม่ได้โต้ตอบอะไร ทำไมผมจะไม่รู้ว่าเขาคิดอย่างไรกับผม ก็แต่น้องชาย... แต่ถึงอย่างนั้นผมก็อยากให้เขาเก็บหัวใจของผมเอาไว้ ไม่ต้องดูแล ไม่ต้องใส่ใจ แค่เก็บมันเอาไว้ก็พอ แค่...
“ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ความรู้สึกของพี่ก็จะไม่เปลี่ยนแปลง” ตินพูดขึ้นต่อ แล้วมองผมด้วยรอยยิ้มบาง “ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม แต่มันจะมีคุณค่าก็ต่อเมื่อได้มอบให้คนที่เหมาะสม”
หึ...
“เฮ้อ ไม่ถนัดพูดเรื่องแบบนี้เลยแฮะ” ตินพูดแกมบ่นชวนให้ผ่อนคลาย แต่ผมกลับหายใจไม่ออก
“รังเกียจหรือไง” ผมถามเสียงแผ่ว ก่อนจะแค่นยิ้มออกมา
ผมไม่ได้ตื่นตกใจที่เขารับรู้ความรูสึกของผมเสียที เพราะที่ผ่านมาผมก็ไม่ได้ปิดบังอะไรนัก เพียงแต่ผมยังไม่ได้เตรียมใจเผชิญหน้ากับเรื่องนี้
“ไม่ใช่แบบนั้น” ตินบอก แล้วถอนหายใจออกมา “พี่ไม่ได้รังเกียจอะไร แค่ไม่อยากให้เตยเสียเวลากับพี่”
“นั่นมันเรื่องของผม!” ผมตอบเสียงแข็ง แล้วลุกขึ้นยืน "ตินไม่ต้องสนใจเรื่องนั้นหรอก แค่เป็นอย่างที่ผ่านมาก็พอ"
“ไม่ได้หรอก” ตินตอบ แล้วลุกขึ้นยืนตาม พร้อมกับมองผมนิ่ง “พี่ไม่ยอมทำร้ายเตยแบบนั้นเด็ดขาด”
“แล้วจะทำอะไรได้! จะห้ามไม่ให้ผมรักตินหรือไง? ถ้าทำได้ ผมคงทำไปนานแล้ว!” ผมว่ากลับเสียงดัง แล้วเดินหนีมา แต่ตินก็ดึงแขนของผมเอาไว้
“พี่รู้ว่าความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้ แต่ความรู้สึกแบบนั้น...ทรมานเกินไป” ตินบอก พร้อมกับมองผมอย่างจริงจัง ผมก็แค่หัวเราะเสียงแห้งรับ
“ไม่ต้องห่วงความรู้สึกของผมหรอก หัวใจที่มันตายไป มันไม่รู้สึกอะไรอยู่แล้ว” ผมตอบเสียงเรียบ แล้วดึงแขนของตัวเองออก หัวใจของผมเต้นได้ เพราะความอบอุ่นและความอ่อนโยนที่ตินมีให้ แต่ถ้าเขาจะโยนทิ้งไป ก็ช่างมันเถอะ!
“จะบ้าหรือไง! ความรู้สึกที่พี่ตอบรับไม่ได้ จะต้องมีคนที่เหมาะสมรอดูแลอยู่แน่” ตินบอกด้วยสีหน้ามุ่งมั่น ผมก็แค่ถอนหายใจ แล้วเดินจากมาอย่างไม่สนใจ
ทั้งที่เพิ่งถูกหักอกแบบไม่ทันได้สารภาพไปแท้ๆ แต่น่าแปลกที่ผมกลับร้องไห้ไม่ออก น้ำตาก็ไม่ไหลออกมาสักหยด มีแต่ความอึดอัดที่อัดแน่นจนชาไปทั้งหัวใจ
ชา... จนไร้ความรู้สึก
นั่นสินะ...
ก็มันตายไปแล้วนี่...
TBC ++++++++++
Marionetta ::: 
สวัสดีค่ะ ^^ ยังสายดีกันอยู่นะคะ
ตอนนี้พี่แทมก็พาเด็กๆ มาเที่ยวค่ะ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการหักอกน้องเตย ฮ่าๆ
เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อ ก็ต้องติดตามกันต่อไปนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามกันจนถึงตอนนี้ สามารถแนะนำและติชมมาได้จ้า
ขอบคุณค่ะ ^^