┤Sincere├ ตอนพิเศษ : Déjà Vu [หน้า 16]**คำเตือน - Twincest (แฝด x แฝด)*
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ┤Sincere├ ตอนพิเศษ : Déjà Vu [หน้า 16]**คำเตือน - Twincest (แฝด x แฝด)*  (อ่าน 213639 ครั้ง)

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
รอค่ะ :katai2-1:

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
-----| S i n c e r e |-----









ถึงอีกคนที่จ้องมองกลับมาจากในเงาสะท้อน

..ด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย และรอยยิ้มอ่อนหวาน

ฉันและนาย...เราสบตากันเงียบงัน ลึกลงไปผ่านผิวน้ำสงบนิ่ง

มือฉันยื่นออกไป

และมือนายยื่นเข้าหา

ปลายนิ้วเราสัมผัสกันแผ่วเบา

บนเส้นแบ่งอันเย็นเยียบ ณ สุดเขตแดนระหว่างผืนน้ำกับอากาศ

ที่ซึ่งความจริงหลอมรวมกับความฝัน


..โปรดจับมือฉัน...

...ได้โปรด...กอดฉันสิ...

เพียงสัมผัสแผ่วเบา ระลอกคลื่นบนผิวน้ำก็พรากนายจากไป

ภาพตรงหน้าคือนาย...หรือมีเพียงฉันที่ไขว่คว้าเงาสะท้อนไร้ตัวตน









01 : Reflection





“...”


“...ว..?”


“....”


“วี?”


“อ๊ะ!?”


“ฝันร้ายหรือ?”


ผมกะพริบตา เพิ่งรู้ตัวว่าอ้าปากค้างอยู่น้อย ๆ  แสงสลัวจากนอกหน้าต่างฉาบลงบนใบหน้าที่เหมือนกับของผมซึ่งโน้มเข้ามาใกล้

วินกำลังขมวดคิ้ว จ้องมองกลับมาด้วยแววตาแปลกประหลาด ผมสงสัยอยู่แวบหนึ่งว่าทำไมเขาจึงมาอยู่ตรงนี้ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเขาย้ายมานอนเตียงผมอย่างที่บอกเมื่อเย็นจริงด้วย

“โทษทีนะ เห็นนายทำหน้าไม่ค่อยดีเลยปลุก”

“ขอบใจนะ”

“นายฝันอะไรน่ะ?”

“...ฝันว่า..” ผมหรี่ตา เม้มปาก พยายามนึกถึงความฝันเมื่อครู่ ทว่าไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่ในความทรงจำสักนิด “..ฉัน..ลืมไปแล้ว”

“นายนี่น้า” วินลากคำสุดท้ายยาว โคลงศีรษะน้อย ๆ ยกมือปัดไรผมให้พ้นจากใบหน้าผม จากนั้นก็ส่งเสียงหัวเราะทุ้มต่ำ “เล่นเอาตกใจหมดเลย”

“ทำไมหรือ?”

“ก็นายดูหลับไม่ค่อยสบายเลย ท่าทางจะฝันร้ายแน่ ทำเสียงแปลก ๆ ด้วย แถมขมวดคิ้วแน่นเชียว” ว่าพลางยื่นนิ้วหัวแม่มือมากดตรงกลางหน้าผากผม “ตีนกาขึ้นกันพอดี”

“อ๋า!”

ถึงแม้จะเป็นฝาแฝดกัน และผมแก่กว่าหกนาที แต่บางครั้งเขาก็ทำเหมือนตัวเองเป็นพี่ชายเสียเอง

“..วิน” ผมกระซิบ เหลือบมองน้องชายที่ล้มลงไปนอนทำตัวลีบอยู่ข้าง ๆ 

“อื้อ?”

“ฉันทำนายตื่นรึเปล่าน่ะ”

“เปล่านี่”

“แต่นายก็ตื่นอยู่อะ”

“เป็นพวกตื่นง่ายอยู่แล้ว” วินยักไหล่ “ใครจะขี้เซาเหมือนนาย ฝันร้ายก็ไม่ยอมตื่นเอง ต้องให้ปลุกแต่เด็ก”

“มันบังคับได้ที่ไหนกันเล่า”

วินหัวเราะอีกครั้ง “เลยต้องตามปลุกตลอดนี่ไง”

“...แล้ว...จะคอยปลุกเวลาฝันร้ายไปถึงเมื่อไหร่?”

“หืม?”

ผมกัดลิ้นตัวเอง ปากนี่ช่างพูดอะไรไม่รู้จักคิด

“เปล่า..”

“วีถามอะไรพิลึก”

“บอกว่าเปล่าไง”

“ก็ต้องตลอดไปอยู่แล้วสิ”

“....”

“ไหงทำหน้างั้นล่ะ”

ผมนึกขอบคุณความมืดสลัว อย่างน้อยวินคงเห็นหน้าผมไม่ชัด ไม่เช่นนั้นเขาน่าจะสังเกตได้แน่ว่ามีความผิดปกติบางอย่างบนนั้น อะไรที่ไม่ควรมีอยู่บนสีหน้าของพี่ชาย

“ตลอดไปเลยหรือ”

“ใช่สิ ทำไมอะ?”

ผมยิ้มน้อย ๆ ผ่อนลมหายใจยาว

ดีใจ แต่รู้ว่ามันคงไม่ยั่งยืน

“....เปล่า....”

ตลอดไปของวิน...มันยาวนานแค่ไหนกันนะ

จะเท่ากับตลอดไปของผมหรือเปล่า?



คืนนั้นเป็นหนึ่งในไม่กี่คืนที่ดูเหมือนว่าวินจะนอนในเวลาใกล้เคียงกับผม ส่วนทั้งสัปดาห์ที่เหลือ ผมไม่เห็นเขาหลับเท่าไรเลย (ยกเว้นนั่งสัปหงกบ้างสักห้าถึงสิบนาทีแล้วก็สะดุ้งตื่น) ผมเผ้าเป็นกระเซิงไปหมด วินแทบย้ายตัวเองไปสิงอยู่อีกห้องหนึ่งซึ่งเอาไว้ทำงานโดยเฉพาะ ส่วนใหญ่มักจะเป็นงานเขานั่นเอง ผมไม่รู้คณะเขาสั่งงานเยอะอะไรนักหนา แต่มันก็เป็นเช่นนั้นมาตลอดเกือบสามปี

เราแบ่งพื้นที่ใช้สอยในอพาร์ตเมนต์นี้ค่อนข้างแปลก เกือบทุกคนที่เคยมาเยือนให้ความเห็นเช่นนั้น ทั้งที่ความจริงแล้วมันมีสองห้องนอน แบ่งกันคนละห้องได้สบาย แต่เราก็จัดห้องใหม่โดยย้ายมานอนห้องเดียวกัน อีกห้องไว้ทำงานอย่างเดียว ตอนมาดูที่นี่ครั้งแรก ทั้งพ่อ แม่ และผม คิดว่าจะให้เราแยกห้องกันอยู่ไปเลย แต่วินบ่นว่านอนคนเดียวแล้วไม่ชินเอาจริง ๆ และสุดท้ายมันก็กลายเป็นแบบนี้

ผมยังจำได้ถึงสมัยยังเด็ก เมื่อครั้งพ่อแม่เคยจะแยกห้องให้เรา ตกแต่งใหม่เป็นอย่างดี แต่พอแยกย้ายกันไปนอนคนละห้องได้แค่คืนที่สาม ฝนเม็ดโตกระหน่ำลงบนหลังคา ฟ้าคำรามลั่นและส่องแสงแวบวาบจนน่ากลัว หลังเสียงเปรี้ยงดังสนั่นสิ้นสุดลงไม่ถึงสามนาที วินก็หอบหมอนผ้าห่มมาเคาะประตูห้องผม พอประตูเปิดให้ก็รีบโผเข้าใส่ ตัวสั่นจนน่าสงสาร ต้องกอดปลอบกันทั้งคืน พ่อกับแม่หัวเราะและพากันส่ายหน้าเมื่อเห็นว่าพวกเราเดินออกมาจากห้องเดียวกันในเช้าวันรุ่งขึ้น วินตาบวมตุ่ย ไม่รู้ว่าแอบร้องไห้หรือแค่นอนไม่พอ

แล้วทั้งฤดูฝนนั้นและทุกฤดูที่เหลือ เขาก็ไม่กลับไปนอนห้องตัวเองอีกเลย

ผมจำความน่ารักของเขาเมื่อสมัยเด็กได้ วินกลัวฟ้าร้องและฟ้าแลบ กลัวมาตั้งแต่เคยเห็นสายฟ้าสว่างวาบฟาดลงกับยอดไม้จนหักร่วงลงมาต่อหน้าต่อตา เสียงกัมปนาทและภาพความน่ากลัวของธรรมชาติที่ว่าฝังใจเขานับแต่นั้น ได้ยินเสียงคำรามและเส้นแสงเดือดดาลบนฟ้าทีไรเป็นต้องเข้ามาเกาะหนึบ หากไม่มีคนคอยอยู่ใกล้ ๆ  วินเคยบ่นว่าเขาไม่สามารถหลับสนิทได้เลย

นั่นอาจเป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่เขาทำตัวสมกับเป็นน้องชายให้ผมดูแล ถ้าคนที่จะอยู่กับเขาตอนฟ้าร้องเป็นผมไปอีกนาน ๆ ก็คงดี

ผมเคาะประตูห้องก่อนเบา ๆ  แม้จะเห็นว่ามันแง้มอยู่แล้ว วินหันแผ่นหลังมาทางประตู ก้มหน้าก้มตากับโต๊ะเขียนแบบของเขา หน้าต่างทุกบานปิดไว้สนิท แต่ยังได้ยินเสียงเม็ดฝนเปาะแปะอยู่ด้านนอกหลังจากที่เพิ่งเริ่มซาลงบ้าง

เท้าผมเตะถูกกระป๋องกาแฟเปล่าบนพื้นโดยไม่ตั้งใจ มันกลิ้งกลุก ๆ ไปกระทบกับปั้นกระดาษที่ถูกขยำไว้เป็นก้อน ผมก้มลงไปเก็บมันมาใส่ถุงพลาสติกแล้ววางหลบมุมไว้ก่อน หลังกวาดตามองจนทั่ว ก็พบว่าสภาพห้องใกล้เคียงคำว่าดูไม่ได้เลยเชียว

ห้องนี้ไว้สำหรับทำงานเป็นหลัก ของผมบ้าง ของเขาบ้าง ในส่วนของผมเองนั้นไม่มากนัก ใช้พื้นที่ไม่ถึงหนึ่งในสี่ ของสำคัญมีแค่แลปท็อปกับกองหนังสือ แต่อุปกรณ์ของวินนั้นเกลื่อนไปหมด โต๊ะหนังสือ โต๊ะเขียนแบบ กระดานรองเขียน ไม้บรรทัด สเกล เคิร์ฟ อะไรต่อมิอะไรที่ผมเรียกเหมารวมไปว่าไม้บรรทัดทั้งหมดนั่นละ ถัดไปมีแฟ้มอันใหญ่ กล่องใส่เครื่องเขียน โมเดลครึ่ง ๆ กลาง ๆ  ซากอารยธรรมบางอย่างที่ไม่รู้ว่าใช้หรือทิ้ง และมุมห้องอีกฝั่งหนึ่งก็มีกระป๋องบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เส้นข้างในอืดบวมเหมือนใส่น้ำร้อนทิ้งไว้แล้วลืมกิน

ผมก้าวขาเงียบเชียบไปถึงเก้าอี้ที่วินนั่งหันหลังให้ ได้คำตอบแล้วว่าเหตุใดเขาจึงนิ่งนัก เสียง “...ฟี้...” แผ่วเบาช่วยยืนยันสถานะของวินตอนนี้

เสียเวลาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนผมจะลากเก้าอี้อีกตัวมานั่งใกล้ ๆ  ลองทำท่าเท้าคางตามเขา แล้วก็คิดว่าแบบนั้นไม่น่าจะหลับได้เลย มันดูไม่สบายเอามาก ๆ

“....วิน?”

ผมกระซิบ เบาเกินกว่าจะปลุกให้ใครตื่นได้

เปลือกตาเขาปิดสนิท ใต้ตามีรอยคล้ำน้อย ๆ อย่างคนอดหลับอดนอน ริมฝีปากแห้งผากไปหมด นอกจากกาแฟกระป๋องแล้วก็น่าสงสัยว่าเขาดื่มน้ำครั้งสุดท้ายตั้งกี่ชั่วโมงมาแล้ว
 
“...ไม่เมื่อยหรือ?”

มีเพียงเสียงลมหายใจแผ่วเบาและสม่ำเสมอตอบกลับมา

สายฝนข้างนอกเริ่มกระหน่ำอีกครั้ง หลังจากที่ซาไปได้สักระยะ จะตีสองเข้าไปแล้ว ผมควรปลุกวิน นั่งคอเอียงอย่างนั้นนาน ๆ เดี๋ยวคงได้มีเคล็ดกันบ้าง ตื่นมาค่อยแล้วแต่เขาว่าจะทำงานต่อหรือไปนอน และคิดว่าวินก็คงอยากให้ผมปลุก เพราะหางตาผมเหลือบไปเห็นโพสต์อิทแผ่นหนึ่งแปะอยู่บนผนังใกล้ ๆ  มีลายมือขยุกขยุยของเขาเขียนกำกับไว้ตัวโต

‘ถ้ามาเจอว่าหลับอยู่ ช่วยปลุกด้วย’

ผมอดยิ้มอ่อนใจออกมาไม่ได้ ข้อความสั้น ๆ นั้นดูทั้งน่าขำและน่าสงสารในเวลาเดียวกันเลย ผมเตรียมปลุกแล้ว แต่ยังไม่ทันจะได้อ้าปากเรียก คางของเขาที่พาดไว้บนฝ่ามือก็ค่อย ๆ ไถลต่ำลงเรื่อย ก่อนมันจะเลื่อนออกจากมือ อีกนิดเดียวจะกระแทกพื้นโต๊ะ

“...วิ—”

“อุ๊!”

วินเบิกตากว้าง ทำหน้าเหวอ ผมที่กระเซิงอยู่แล้วตกลงมาปรกเต็มหน้า คางวางอยู่บนมือผมซึ่งยื่นไปรองไว้พอดิบพอดี รู้ทั้งรู้ว่าคงไม่มีคนบ้าที่ไหนจะเท้าคางหลับแล้วเผลอทำคางตัวเองร่วงลงกระแทกโต๊ะ แต่มือผมก็ไปก่อนความคิดเรียบร้อยแล้ว

“วี..ทำอะไรน่ะ”

แล้วยังมีหน้ามาถามผมอีกแน่ะ

“...รองไว้..” ผมตอบนิ่ง ๆ

วินถึงกับอึ้งไปอึดใจหนึ่งก่อนจะหัวเราะลั่น ชวนให้ผมอายตัวเองอย่างไรพิกล

“จริงจังขนาดนั้นเลย”

“ก็ไม่งั้นคางนาย...” ผมเถียงข้าง ๆ คู ๆ  แต่แน่นอนว่ายังพยายามนิ่ง แม้รู้ตัวว่าทำอะไรพิลึก ทว่าเหมือนจะไม่มีที่ให้ถอยนอกจากทำฟอร์มไปก่อน

“ใครจะบื้อปล่อยคางตัวเองกระแทกโต๊ะล่ะ” วินแจงพร้อมยิ้มตาหยีจากใต้ปอยผม ท่าทางชอบใจ เลื่อนมือมากุมมือผมที่กำลังจะปล่อยจากคางเขาไว้ก่อน แล้วก็นั่นละ จริงอย่างเขาว่า วินไม่ได้ซุ่มซ่ามขนาดนั้น เป็นใครก็ต้องสะดุ้งตื่นก่อนตัวเองจะหน้ากระแทกอยู่แล้ว

“ไม่ยอมปลุกอีกต่างหาก ปล่อยฉันหลับเฉย” เขาบ่นต่อหงุงหงิง แทรกนิ้วมือตัวเองเข้ามาระหว่างนิ้วมือผม เอาจมูกถูเบา ๆ อย่างขี้อ้อน “วีใจร้ายอะ”

“กำลังจะปลุกแล้ว”

“จริงดิ”

“แต่นายตื่นพอดี”

“งั้นแสดงว่าเราใจตรงกันสินะ”

“หือ?”

เขายิ้มเผล่ ไม่ยอมตอบอะไร ปล่อยมือผมแล้วลุกจากเก้าอี้ เหยียดแขนบิดขี้เกียจ เดินโซเซไปอีกฝั่งหนึ่งของห้อง ทำเปลี่ยนประเด็นหน้าตาเฉย ซึ่งก็ดีแล้ว เพราะขืนพูดต่อ ผมคงเหนื่อยกับหัวใจที่เต้นไม่ค่อยเป็นปกติของตัวเองน่าดู

“มาม่าฉัน” เขาครวญ

“อืดหมดแล้ว” ผมช่วยต่อ

“หิวอะ”

“กินอย่างอื่นดีกว่ามั้ง”

“ฝนตก” เขาพึมพำ “ฟ้าก็ร้องด้วย”

ผมเงียบ ฟังเสียงฝนและฟ้าคำรามห่าง ๆ  ไม่ดังนัก “นมในตู้เย็นยังมี หรือไม่ก็นอนก่อน วันนี้ไปลงเตะบอลแทนเพื่อนมาด้วยไม่ใช่หรือ ไม่เหนื่อยรึไง”

“งานไม่เสร็จ” วินเริ่มงอแง

“พรุ่งนี้วันอาทิตย์”

“แต่ว่า—”

แล้วเสียงเปรี้ยงก็ดังสนั่นจากข้างนอก

วินสะดุ้ง หน้าซีดเผือดทันตาเห็น

“วิน?”

เขายืนห่อไหล่ เหมือนจะมีคำพูดลอยขึ้นมาจากสีหน้าว่า ‘เอาอีกแล้ว..’

ผมไม่ได้ตั้งใจจะขำเลย

“หึ ๆ”

แต่ก็ขำไปแล้ว

“นายหัวเราะทำไมน่ะ”

“เอ๋..” ผมเลิกคิ้ว ยกมือปิดปาก “ฉันน่ะหรือ? เปล่าเสียหน่อย”

“นายหัวเราะอยู่เมื่อกี้”

“เปล่านะ”

“แต่นาย—”

เปรี้ยง!

“หวา!”

ผมโคลงศีรษะน้อย ๆ  เดินเข้าไปใกล้เขา แต่ยังไม่ทันถึงตัว วินก็โผเข้ามากอดจนแน่นเสียก่อน บ่นออกมาอย่างน่าสงสาร

“...นี่มันไม่ใช่ฤดูฝนสักหน่อย”

วินสูงกว่าผมเล็กน้อย แต่พอซบลงมาก็ดูจะไม่ต่างกันเท่าไรนัก ผมรู้สึกได้จากแผ่นอกเราที่แนบกันอยู่ ว่าหัวใจเขากำลังเต้นตุบ...ตุบ...หนัก ๆ ความร้อนจากอุณหภูมิกายเราควรจะพอกัน แต่ผมกลับรู้สึกว่าเขาตัวอุ่นกว่าที่คิด

“..นอนเหอะ” วินแทบคราง

“ไหนบอกงานไม่เสร็จ”

“นอนนะ ขอนอนด้วยคน”

“ไม่หิวแล้วหรือ”

“วีอย่าแกล้งดิ”

ผมลอบยิ้มกับไหล่เขา ลูบหลังอีกฝ่ายเบา ๆ  เสียงฟ้าคำรามเงียบลงแล้วแต่วินยังซุกกับผมไม่เลิก ต่อให้ตัวโตขนาดไหน แต่ฟ้าร้องฟ้าแลบทีไรวินก็กลายเป็นเด็กน้อยทุกที

“วิน...” ผมกระซิบ เสียงเลื่อนลอยกว่าที่ตัวเองคาด “ถ้าไปค่าย..หรือไปค้างที่อื่น เกิดมีฟ้าร้องเสียงดัง...”

คำพูดเหล่านั้นผมไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน คล้ายว่าถามออกไปโดยไม่รู้ตัว

“หือ?”

“...แล้วฉันไม่ได้อยู่ด้วย...”
 
“....”

“แล้วนาย...”

วินเงียบ ไม่รู้ว่ารอฟังหรือว่ามัวแต่ระแวงเสียงฟ้าร้อง และผมมีสติยั้งปากตัวเองไว้ทันที่ตรงนั้น ทำเพียงแต่ลูบผมยุ่ง ๆ ของเขาแผ่วเบา ปล่อยคำถามที่เหลือถูกกลืนไปกับเสียงฝน คิดได้ว่าบางทีวินก็อาจไม่ได้อยากฟังหรืออยากตอบ ดีแล้วที่ผมไม่ได้พูดออกไป

เก็บความสงสัยนั้นไปเสีย.. เก็บความรักน่ารังเกียจนั้นไว้คนเดียวก็พอแล้ว...

แต่ถึงจะย้ำกับตัวเองอย่างไร คำถามที่ไม่ได้เอ่ยปากก็ยังสะท้อนก้องในหัวผมอยู่ดี

ถ้าผมไม่ได้อยู่ด้วย วินจะกอดใครก็ได้เหมือนที่กอดผมตอนนี้หรือเปล่า

แล้วถ้าสักวันหนึ่ง...เขามีคนที่จะกอดไว้แทนผมเวลาที่ฟ้าร้องอย่างคืนนี้..

...ถึงตอนนั้น..ผมจะปล่อยมือโดยไม่แสดงอาการเสียใจให้เขาเห็นได้ไหมนะ?






----------| S i n c e r e |----------






ผมเคยกลัวเสียงฟ้าร้องมาก ตอนนี้ก็ยังกลัว แม้ไม่มากเท่าเก่า..อาจเปลี่ยนเป็นเรียกว่าไม่ชอบดีกว่า แต่ก็เป็นเรื่องไม่เลวนักที่วีจะเข้าใจว่าผมยังกลัวมากเหมือนเมื่อสมัยเด็ก

มันทำให้อะไรง่ายขึ้น

ผมนึกอยากกอดเขาอย่างไรก็ได้ทุกครั้งที่ฟ้าลั่น โดยไม่ต้องระแวงว่าเขาจะรู้ตัวหรือเปล่า ระหว่างที่วงแขนเราเกี่ยวกระหวัด แผ่นอกเราแนบชิด และอุณหภูมิอุ่น ๆ จากตัวเขาส่งมาถึง ผมซึมซับตัวตนทั้งหมดของเขาไว้ พร้อมกับภาวนาให้ท้องฟ้าส่งเสียงคำรามเช่นนั้นตลอดไป

มันไม่ใช่การกระทำจากรักบริสุทธิ์ระหว่างพี่น้องเลยสำหรับผม

“แล้วนาย...”

วีกระซิบเสียงแผ่ว

จากนั้นเขาก็เงียบไป เหมือนประโยคก่อนหน้าที่ได้ยินเป็นแค่ความฝัน

วีมักพูดอะไรแปลก ๆ  แล้วไม่ยอมต่อให้จบ อันที่จริงเรียกแปลกก็ไม่เชิง เพียงแต่มันเป็นลักษณะการพูดที่ทำให้ผมคิดมาก คิดไปไกล คิดไม่หยุด จนบางทีเหมือนเป็นคนบ้าไปเลย

ครั้งนี้ก็เช่นกัน น้ำเสียงเขาเลื่อนลอยในตอนแรก แต่กลับกลายเป็นระมัดระวังในตอนท้าย ก่อนจะเงียบและถูกกลืนไปกับเสียงฝนในอากาศ จับใจความได้แค่คำเกริ่นว่าหากผมไปค่ายหรือไปที่อื่นที่เขาไม่อยู่ แล้วฟ้าร้องเสียงดัง...

ผมคาดหวังจะฟังต่อ อะไรก็ได้ที่วีอยากพูด

แต่บทสนทนาเราจบแค่ตรงนั้น

ผมพยายามเดาว่าเขาจะเล่าหรือถามอะไร ความคิดโลดแล่นไปไกลจนสุดกู่ แสงแห่งความหวังเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นโดยไม่อาจห้ามใจ เขาอาจอยากถามว่าผมทำอย่างนี้กับคนอื่นหรือเปล่า บางทีวีอาจคิดเหมือนกันว่าอยากเป็นคนเดียวที่กอดผมและถูกผมกอด...

แต่ปากกลับไม่กล้าถามต่อ ไม่สามารถก้าวขาผ่านเขตแดนซึ่งถูกขีดไว้ด้วยสายเลือด วีที่จิตใจอ่อนโยน พี่ชายคนดีของผม วงแขนเขายังโอบผมไว้แน่นเหมือนกลัวจะเป็นอะไรไปหากฟ้าร้องดังขึ้นอีกนิด แล้วผมซึ่งเอาแต่หาประโยชน์จากความใจดีของวี จะดึงเขามามีส่วนร่วมกับเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร

...เท่านี้ก็พอแล้ว...

ผมตอกย้ำความคิดนั้น อยากกรีดมันเป็นรอยลึกลงในจิตวิญญาณ

ยิ่งลึก..ยิ่งเจ็บ

และยิ่งเจ็บ...จะได้ยิ่งจำ...

ขอผมอยู่เคียงข้างวีอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ก็พอ


“เงียบลงแล้ว ดีขึ้นหรือยัง” เขาถาม เหลือบมองผมด้วยสายตาเป็นห่วงเจือขำขัน วีดูจะชอบใจทุกครั้งเมื่อได้ทำอะไรที่เขาคิดว่าเป็นหน้าที่ของพี่ชาย อย่างเช่นยืนปลอบผมที่กำลังทำเป็นกลัวเสียงฟ้าร้องเกินจริงนี่ก็ใช่

“ฮื่อ” ผมรับคำสั้น ๆ ตาจับจ้องมือเขาที่ยื่นเข้ามาใกล้ ปัดปอยผมยุ่ง ๆ ตรงแก้มผมไปเหน็บไว้ข้างหู พึมพำเสียงนุ่มพร้อมรอยยิ้มบางบนริมฝีปาก

“ดีแล้ว”

...มันต้องโง่ขนาดไหน จึงทำให้คนคนหนึ่งหลงรักรอยยิ้มบนใบหน้าที่เหมือนกับตัวเอง

“ไปนอน แปรงฟันก่อนด้วย ให้ไปยืนเป็นเพื่อนไหม”

...แล้วต้องบ้าขนาดไหน...จึงมากพอจะทำให้เจ้าของรอยยิ้มนั้นเป็นของผมเพียงผู้เดียว

เส้นแบ่งของความสัมพันธ์ที่ผมยึดมั่น และหวังว่ามันจะฝังลึกลงสมกับที่เฝ้าย้ำมาตลอด คงยังไม่หนักแน่นพอจะควบคุมการกระทำของผม จึงได้เผลอหลุดปากพูดสิ่งที่ไม่ควรกับพี่ชายฝาแฝดของตัวเอง

“...วี”

“หือ?”

“นาย...คบใครอยู่ไหม...ช่วงนี้”

“คบหรือ?”

“อย่างเช่นเพื่อนที่สนิท หรือผู้หญิงที่สนใจ”

เขาเลิกคิ้ว ส่งแววตาประหลาดใจกลับมาให้ผม จากนั้นก็ส่ายหน้าช้า ๆ 

“...ไม่นี่...เรื่อย ๆ เพื่อนฉันก็หน้าเดิม ๆ”

“แล้ว..คิดว่าฉันเป็นไงบ้าง อย่าง..ถ้าใช้นายเป็นเกณฑ์”

วีนิ่งไปครู่หนึ่ง ถอยหลังไปครึ่งก้าว เหมือนอยากเว้นระยะเพื่อจะได้มองหน้าผมชัด ๆ

“นาย...”

เขายิ้ม..อย่างทุกที ดูเหมือนงุนงง แต่ก็แฝงความเศร้าที่ผมไม่สามารถตีความได้

“...นายก็เป็นน้องชายฉันไง”

ผมส่ายหน้า ขยับตัวตามเขาที่เพิ่งถอยหลังไป “หมายถึงว่าเป็นยังไง...แบบ น่าสนใจในสายตาคนอื่น...หรือว่า...”

ผมกัดลิ้นตัวเอง พูดมากไม่เป็นเรื่องเอาเสียเลย

“ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงถามเรื่องนั้นล่ะ” เขาเอ่ยเสียงแผ่ว จากนั้นก็หลุบตาลงต่ำ “...พูดเหมือนนายมีคนที่สนใจอยู่ แต่รู้สึกว่าเขาไม่ค่อยสนนาย...อะไรอย่างนั้นเลย”

ผมกลั้นหายใจ จ้องมองวีที่กำลังก้มหน้ามองพื้นอีกทอด

“อาจจะประมาณนั้น”

“..ไปแอบชอบใครอยู่ละสิท่า”

ผมนิ่งไปอึดใจ ก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ

“...อา...งั้นหรือ” วียิ้ม แต่ผมดูแล้วรู้สึกเหมือนกำลังฝืน และนั่นทำผมปวดใจจนแทบพูดไม่ออก “ดีจังนะ....ผู้หญิงคนนั้น...”

“...?”

“หมายถึงว่า...นายเป็นคนร่าเริง เป็นที่รักของคนอื่น คนที่นายชอบก็ต้องโชคดีอยู่แล้ว”

“นี่...วี...ความจริงแล้วฉัน..”

บอกเขา...

ราวกับมีเสียงปีศาจกู่ร้องในกะโหลกผม

“ไม่เห็นแนะนำให้รู้จักบ้างเลย”

บอกเขาไป..

“..แต่จะว่าไปก็เรื่องส่วนตัวนายละนะ โต ๆ กันแล้วนี่นา” 

บอกสิ

“วี ฉันน่ะ..”

บอก!

โดยไม่ทันยั้งคิด ผมคว้าไหล่เขาไว้ในมือทั้งสอง ดันให้เจ้าตัวถอยหลังไปชนกำแพง แล้วตามไปกักไว้ในวงแขนตัวเอง

วีสะดุ้ง ส่งเสียงอุทานออกมาเบา ๆ  แต่ไม่ได้ขัดขืน แม้ขนาดร่างกายเราจะพอกัน หากดิ้นรนคงหลุดได้ไม่ยาก ทว่าหลังจากนั้น วีก็เพียงแต่ยืนนิ่ง เบิกตากว้าง มองเห็นเงาสะท้อนของผมปรากฏอยู่บนนัยน์ตาวาววับ...คล้ายกับว่ามีหยดน้ำเคลือบอยู่บนนั้น..

“วี..”

“...ดีจริง ๆ คราวนี้นายเจอคนที่ชอบแล้ว ไม่เหมือนแฟนคนก่อน ๆ ที่เขาชอบนายอยู่ฝ่ายเดียว”

“..ไม่ใช่ ความจริงแล้วฉัน...”

“เขาก็ต้องชอบนายเหมือนกันแน่ ๆ”

“...วี”

“...ฉัน...ก็ควรจะดีใจ...กับ...น....า......”

“...วี!?”

“.....อึ้ก...”

เขาก้มหน้าหนี หยดน้ำร่วงผล็อยจากขอบตา...ก่อนจะคู้ตัวลงไปอีกจนกลายเป็นทรุดนั่งกับพื้น และผมกลายเป็นไอ้โง่ที่ลืมกระทั่งวิธีออกเสียงพูด ย่อตัวลงตามเขาไป สองมือประคองข้างแก้มชุ่มน้ำตาของเขา ก้มหน้าลงไปใกล้ หน้าผากเราแตะกัน ตอนที่เขาเริ่มสะอื้นเบา ๆ

ผมจุกขึ้นมาในอก ความรู้สึกผิดเอ่อล้นที่คอจนราวกับจะไม่สามารถส่งเสียงอะไรได้อีก ผมอยากบอกเขาว่าอย่าร้องไห้ ผมขอโทษ ต่อให้ไม่รู้ว่าเขาร้องไห้เพราะอะไรก็ตาม


ทว่าสิ่งที่ผมทำ กลับเป็นแนบริมฝีปากลงไปบนเปลือกตาวีแผ่วเบา ซับรสเค็มปร่าของน้ำตา พรมจูบไล่มาที่ข้างแก้มเปียกชุ่ม...เชื่องช้า...อ่อนโยน....


กระทั่งมาหยุดอยู่บนริมฝีปากของวี







ถึงอีกคนที่จ้องมองกลับมาจากในเงาสะท้อน

ด้วยนัยน์ตาเศร้าสร้อย และรอยยิ้มขมขื่น

...ได้โปรดอย่าร้องไห้..

ให้จุมพิตของฉันซับน้ำตา

ให้ริมฝีปากเราแตะกันแผ่วเบา ดุจขนนกร่วงหล่น


ในคืนที่ฟ้าร่ำไห้

จูบอ่อนโยนถึงเพียงนั้น กลับทำผิวน้ำกระเพื่อม

และพรากเงาสะท้อนของนายจากฉันไป







----------| S i n c e r e |----------







ศีลธรรมมันค้ำคอร์ ;{};

ตอนแรกมาแล้ว แอบย่องมาอัพเวลาเด็กดีค่ะ


แอบแปะรูปจากเมื่อตอน intro ด้วย ชึ้บ




พิจารณาแล้ว เรื่องนี้คงไม่ยาวมาก อาจจะเข้าข่ายเรื่องสั้นก็เป็นได้ค่ะ (มั้ง)

พบกันตอนหน้านะคะ *กอดฟัดคนอ่าน*
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-02-2014 09:07:25 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อ่า วีวิน มาแล้ว

PoofuGirl

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ยยยยยยย !! ดีนะที่ยังไม่นอน ถึงได้พุ่งเข้ามาอ่าน
แล้วพรุ่งนี้จะตื่นไหวไหม  o22

เราชอบบทตอนที่ขึ้นต้นของตอนกับตอนจบของตอนมากเลย >w<
ให้ฟีลล์แบบบอกไม่ถูกแต่ว่าชอบบบบบบบบบ  :really2:

พี่วีดูทำตัวสมเป็นพี่ดีนะ :) น้องวินสมัยยังเป็นเด็กน้องร้องไห้งอแง
กลัวฟ้าร้องฟ้าผ่า วิ่งไปเคาะประตูนอนกับพี่วี เป็นบราค่อนตั้งแต่เด็ก
เป็นมุมที่น่ารักดีค่ะ ไม่คิดว่าจะมีมุมที่ดูน่ารักกุ๊บกิ๊บแบบนี้
แต่พอโตขึ้นมานี่ก็เจ้าเล่ห์ใช้ประโยชน์จากมุมนี้ ลวนลามพี่วีตลอดเวลา !!
เด็กคนนี้นี่มันช่างเจ้าเล่ห์ !!  :z3:

ตอนท้ายเราโฮมากเลยนะ... แบบคิดอะไรออกไป ถามอะไรออกไป
ดูพี่วีสิ น้ำตานอง เปาะแปะท่วมหน้าเลย TvT ฮือออออออ....
น้องวินคะ รีบ ๆ ปลอบใจพี่วีนะคะ แม่ยกไม่ไหวจะเคลียร์ปวดใจ

ออฟไลน์ blur

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ชอบบบบบมากกกกกกกก เจ็บปวดดี แล้วได้อ่านสองมุมมันก็ยิ่งตอกย้ำความเจ็บปวดไปอีก 5555555 รอต่อครับ

Amelishosis

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ยยยยชอบมากค่ะ!! บรรยายได้เห็นภาพมากเลย!!!!
ชอบที่เกริ่นตอนต้นกับตอนท้ายมากๆเลยค่ะ

ภาวนาให้กล้าพูดออกไปเร็วๆ จะได้มีความสุขกันซะทีนะทั้งสองคน!

peanut

  • บุคคลทั่วไป
รู้สึกแบบว่า อึนๆหน่วงๆ ลุ้นไปตลอดพาร์ท พี่วีเล่นบทพี่ชายที่แสนดี
คงต้องเชียร์ให้วินใส่เกียร์เดินหน้ารุกสุดๆไปเลย อยู่แบบนี้มันอึดอัดอะ :ling1:

ออฟไลน์ grimace

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0
มันจี๊ดใจมาก ความรู้สึกแบบนี้มันชวนกรีดร้องมาก
เหตุผลที่ชอบแฝดเพราะมันละเอียดอ่อนมากๆ
ทั้งสองคนต่างก็ไม่ยอมมีใครพูดออกมาสักที
คงจะอึดอัดและอัดอั้นมากๆอะ เป็นพี่น้องกันนี่เนอะ
สงสารวีเลย จริงๆก็ทั้งสองคนเลย
ตอนหน้าจะเป็นยังไงต่อนะ จะคืบหน้าไหม หรือจะถอยหลังมากกว่าเดิม
อดใจรอไม่ไหวแล้ว งื้ออๆๆๆ

ออฟไลน์ sujusaranghae

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ชอบเรื่องนี้มากอชอบแนวนี้อ่ะ ตามหามานาน อยากให้เป็นเรื่องยาว จะซื้อแน่นอน

ออฟไลน์ MK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
เป็นเรื่องสั้นที่จะสมหวังใช่ไหม? 

วินนี่เจ้ามารยาสุดๆ  :laugh:  พี่วีตามไม่ทันเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
 “ดีจังนะ....ผู้หญิงคนนั้น...” แค่ประโยคนี้ น้ำตาก็ซึม
สงสารวี หรือต้องสงสารทั้งคู่น่าาา
เส้นแบ่งพี่น้องมันช่างน่ากลัว สงสารแฝดที่มีใจให้กันแต่ไม่กล้าบอกออกมา

ปล. อย่าเป็นเรื่องสั้นเลยน่า เค้าอยากอ่านแฝดไปนานๆ เอาแบบคิมกับเฮียภพเลยยย :m17:

ออฟไลน์ lonesomeness

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
ตามหานิยายแนวนี้มากนานมากก แต่ไม่ค่อยมีคนแต่ง
ฟินกับฝาแฝดสุดๆ ><
รอตอนต่อไปค่ะ ♥

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
รีบๆพูดให้เคลียร์เลยค๊าาาา

ออฟไลน์ Ja-Jah Suwanun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
รู้สึกหน่วงๆ เพราะศีลธรรมค้ำคอจริงๆ

 :ling1:  :z3:  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
บรรยายได้ลึกซึ้งมากเลย อ่านแล้วน้ำตาจะไหลตามสองแฝด :mew6:

ศีลธรรมมันค้ำจริงๆ  :กอด1: วีวิน

ออฟไลน์ KARMI

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2

ออฟไลน์ snack

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-0
กลืนไม่เข้าคายไม่ออกทั้งคู่เลย..ไม่รู้จะบอกอีกฝ่ายยังไง :mew2:


ออฟไลน์ gumrai3

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-4
เรื่องนี้ๆๆๆๆๆๆๆๆ อ้ากฝาแฝดชอบๆ ของให้เเฮป์ปี้นะ วีวิน :m25:

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2683
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
เจ็บกันทั้งคู่ โฮๆๆๆๆๆๆ T^T

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ความรู้สึกของวีอัดแน่นเกินจะทนไหว
วินจะได้รู้เสียทีว่าทั้งคู่ใจตรงกัน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Raccoooon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-2
อู่ววว ว ว ..ว

ภาษาสวยขึ้นเยอะมากเลยค่ะ
แต่งเก่งขึ้นมากๆๆๆๆ (ตามมาแบบลับๆตั้งแต่รักติดดิน5555)

บรรยายซะเห็นภาพตาม และก็รู้สึกตามตัวละครเลยยย  :hao5:
สู้ๆนะคะ ติดตามๆๆๆๆ   :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ Evergreen

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
วีวินนนน บอกเขาไป ~~
เขาจุ้บๆกันแล้วอ้ะ กรี๊ดๆ
รอตอนต่อไป กิกิ อย่าดราม่านะ
ตอนต่อไปเอ็นซีก็ได้อยู่ 55555

kissazazel

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วอึดอัดแทนทั้งคู่

จะพูดก็ไม่พูดออกไป จะทำอะไรก็ไม่ทำ

ก็เข้าใจนะ ว่าศีลธรรมมันค้ำคอร์

คนอ่านอย่างเค้าอึดอัดดแต่ก็ชอบบบ 555


ออฟไลน์ GETIIZ

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-4
พี่วีอย่าร้องไห้ดิ
มันเป็นความรู้สึกที่น่าอึดอัดใจมาก กับการที่ต่างฝ่ายต่างรักกัน แต่บอกความรู้สึกออกมาไม่ได้

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ลุย ๆ อย่างเดียว 5555 เชียร์นะ

ออฟไลน์ SAFERNSAZAAAAA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
TWINNNNNNN  :hao7: :hao7:



รอติดตามนะคะ :mew1:

ออฟไลน์ SenzaAmore

  • Where troubles melt like lemon drops....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-0
ชอบบบบบ มันหวานอมขมกลืนยังไงไม่รู้(bittersweetจริงๆ) 
แอบชอบกันเองนี่มันฟินจริงๆ รอตอนที่หวานๆนะคะ

รอตอนต่อไปค่ะ+1 :mew1:

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
 :mew4: :mew4: :mew4: :mew4:รักแต่บอกไม่ได้ :mew4: :mew4: :mew4: :mew4:

ออฟไลน์ Shin Heeyoo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
เมื่อกี้อ่านในมือถือ แทบบีบมือถือแตก

นาทีนี้ ไม่รู้จักคำว่า ศีลธรรม ชั่วคราวค่ะ

วินสารภาพเถอะ สงสารวีจะแย่แล้ว

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: ┤S i n c e r e├ 01 - Reflection [หน้า 3] ***คำเตือ
«ตอบ #89 เมื่อ18-02-2014 15:15:17 »

รักที่พูดอะไรออกไปไม่ได้สักอย่าง...

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด