----nekko มอร์นิ่ง
----tuckky หวัดดี
-------------------------------------
JIRA's JIRA
ตอน 37 ไม่อยากรอ
เรื่องเริ่มต้นจากไหนไม่ทราบ...
วันก่อนโน้นมีเซอร์ไพรส์รถจักรยานยนต์คันใหม่เอี่ยมหยอกแมวเยี่ยงจิระดีใจเล่น ทว่าสิงห์นักบิดตัวจริงชื่อโจ๊กยังคงนั่งซ้อนตำแหน่งสก๊อยตามเดิมไม่เปลี่ยน
โจ๊กอยากแว้น!!!
โจ๊กอยากซิ่งคร้าบ!!!
จอดมอเตอร์ไซค์ลูกรักไว้คณะวิศวกรรมศาสตร์ ณ มหาวิทยาลัย K ที่ประจำ ท่านแมคไนท์อัศวินรัตติกาลก็หันมาถอดหมวกกันน็อก หมวกกันลม แจ็กเกตตัวเก่งออกให้
บริการสุดติ่งเหมือนทุกวัน กระผมเองก็งอกง่อยรอให้มันกระทำครับ อยากเซอร์วิสเราย่อมยินยอมปล่อยให้บริการถึงจะเสมอกัน
"ถอดก่อน ดูทำหน้าเข้า หึหึ (...อยากจูบคุณจัง)"
"...บ้าซิ ใน ม. นะเจฟ" ผมมือยันหน้าอกกว้างแทบไม่ทัน "ก้มลง มัดผมให้"
"ขอบคุณครับ (...ก็ยังอยากจูบคุณอยู่ดี)
"มัดเองเลย"
"หึหึ"
ถ้าก้าวพ้นประตูบ้านของเราเมื่อไหร่ค้างคาวจะอัพสกิลหื่นมากขึ้น และมากขึ้นทุกทีไม่รู้ทำไม ขอให้อยู่ตามลำพังฝรั่งไม่เคยปล่อยโจ๊กหลุดรอดสักที
เอ...หรือเราเปิดโอกาสรอเจ้ายักษ์เองหว่า (>0<) บ่ใช่เน้อ โจ๊กมิใช่คนเยี่ยงนั้น
ก้มศีรษะปล่อยผมมัดเส้นผมสีแดงเพลิงให้ดังเคยๆ ข้อมือผมมีเส้นยืดผูกผมคล้องอย่างต่ำ 2 เส้น อาจเก็บไว้ใช้ตอนเที่ยงหรืออีกครั้งเวลาซ้อมบาสเกตบอลช่วงเย็น หมอนี่ชอบทำหาย บังคับให้คล้องใส่มือไว้เองก็ไม่ยอม บอกยุ่งยากจึงใช้ผม
โจ๊กหัวเกรียนผมสั้นทรงเดิมแต่มียางรัดผมสีดำเป็นพร็อพประกอบ เท่มากครับ
"เหยี่ยว เอาไปส่งที"
"Roger that, sir!" เหยี่ยวตะเบ๊ะเท้าคอยท่าอยู่กับกายตรงทางเดินเข้าคณะ
"ไปนะ เจอกัน"
"ครับผม" ผมมองตามร่างสูงก้าวเร็วๆ สวบๆ ขึ้นบันไดไปเรียนในเวลาใกล้ 8 โมงเช้า วิชาเฉพาะภาคคอมพิวเตอร์ครับ เหยี่ยวกับกายภาคโยธาเริ่มเรียน 9 โมง
เห็นจุกผมสีแดงสั้นจู๋แล้วอดยิ้มไม่ได้
...เจ้ายักษ์แดงของผม
...ของผมคนเดียว
"กินข้าวมายังโจ๊ก?" เหยี่ยว
"แล้ว" ผม
"นมล่ะ กูเลี้ยง"
"ของฟรี สามารถ"
"งั้นไป"
เหยี่ยว กาย ผม 3 คน พากันเดินทะลุไปทางโซนร้านอาหารใกล้ๆ
ไม่เข้าใจ...อายุเท่ากันทว่าชอบเห็นผมเป็นเด็กเล็กๆ คอยดูแลไม่ให้คลาดสายตา กับกายพอเข้าใจจากนิสัยไนซ์กาย จะผู้ชายหรือผู้หญิงกายปฎิบัติตนอย่างสุภาพชนสม่ำเสมอไม่เปลี่ยน
แต่กับเหยี่ยวนี่สิ...ถ้าเห็นผมอยู่คนเดียวเดี่ยวๆ ไอ้นกกระจอกมักจะโฉบมาเป็นเพื่อนทุกที สับเปลี่ยนประจำการสองคนเจฟกับเหยี่ยวจนอดสงสัยไม่ได้ว่าแอบฝังเครื่องติดตามบนตัวกระผมหรือเปล่าหว่า
แต่แบบนี้ก็ดี พวกผมสนิทกันเพราะอย่างนี้
"ไง มายเฟรนด์ อยู่กันพร้อมหน้า!" เอเจยิ้มร่ามาแต่ไกล
นี่ก็อีกคน เอเจอัฟโฟร่ลูกครึ่งผิวดำจากคณะสถาปัตย์แห่งมหาวิทยาลัย K ตามจริงอาคารถาปัดอยู่ติดศิลปศาสตร์ของผม แต่เวลาเจอตัวเป็นๆ เรามักจ๊ะเอ๋กันที่วิศวกรรมทุกที
"มาทำไมแต่เช้าวะเอเจ?" เหยี่ยวทัก เวลาเข้ากะของเอเจคือพักเที่ยงมาทานข้าวกับแฟนสาว พี่ไข่มุกโยธาปี 3 เยี่ยมหน้าช่วงนี้จึงถือว่าแปลก
"แมสเซนเจอร์เดินเอกสาร เตร่แถวนั้นเลยถูกใช้มานี่ ชมรมโยธาคณะมึงอยู่ไหนเหยี่ยว แบบเวทีเฟรชชี่ไนท์" เอเจชูกระดาษขนาด A3 ไปมา ธุระงานสำคัญของพวกเรานั่นเอง
"เลี้ยวซ้ายตรงนี้ ห้องมีป้ายบอกอยู่ลองหาดู หรือให้เอาไปส่งให้ล่ะ" กายบอกทาง
"ไม่ต้องกายแค่นี้เองขอบใจมาก ไปสวัสดีพี่ๆ ไว้บ้างเผื่อได้รู้จักกัน อ้อ! สรุปเขาให้เป็นเดือนแห่งวิดวะเหรอเหยี่ยว หน้าที่ประจำเลยนี่หว่า" เอเจยิ้มกว้างทักทาย
"หึหึ อยู่แล้ว จะเป็นใครได้ล่ะ" เหยี่ยวเก๊กหล่อเต็มสตีม
"ทำไมว่าทุกทีล่ะเอเจ" ผมสงสัย
"อะไรที่พรีเซนต์เฟซเหยี่ยวขาวโดนใช้ทุกทีล่ะโจ๊ก ถือป้าย ถือธง ขี้เกียจแค่พิธีกรกับเดินดรัมเพราะไม่อยากโดนแดดเผาท่านั้นเอง"
"ก็นะ หล่อเทพเยี่ยงนี้" เหยี่ยวยักไหล่เบๆ
"หล่อตายล่ะมึง" ผมหมั่นไส้
"โจ๊กยังไม่ชินอีกเหรอ" กายเล่นด้วย
"อ้าว กาย!" โจ๊กเหวอ
"555" เอเจหัวเราะขำขัน
กิจกรรมหรรษาในอีกไม่กี่วันของ ม. K นั่นเอง
เฟรชชี่ไนท์ เย้!!!
นอกจากการพบปะสังสรรค์ ปาร์ตี้รื่นเริงของมวลหมู่ชาวเรานักศึกษาปี 1 แล้ว ไฮไลต์อยู่ที่การประกวดดาวเดือนมหาวิทยาลัยซึ่งโจ๊กตั้งหน้าตั้งตารออย่างใจจดใจจ่อ
...
เราถกประเด็นฮอตกันอย่างเมามัน...
"ถาปัดส่งใครเอเจ ข่าวเงียบมาก" เหยี่ยว
"ดาวหรือเดือน?" เอเจ
"ดาวซิวะ ถามเดือนทำแมวน้ำ" เหยี่ยว
"รอเซอร์ไพรส์" เอเจอุบไม่ตอบ
"ไม่ต้องเซอร์ไพรส์หรอก เดือนชื่อตู้ไอ้คนตัวสูงๆ ส่วนดาวก็ชื่อวิคนที่ผมหยิกๆ ที่กินข้าวสินสาดบ่อยๆ ไง" ผมปากโป้งอดใจไว้ไม่ไหว
"เฮ้ย! โจ๊กรู้จักเพื่อนเราด้วยเหรอเนี่ย ข่าวเร็วอีกต่างหาก"
"อ้าวนี่ใคร นี่โจ๊กสายสืบหัวเห็ดครับคุณเอเจรู้จักไว้ซะ ใครเป็นใครใน ม.K กรุณาถามโจ๊กครับ ขอร้อง"
ถูกพี่หยกกับพี่ในชมรมภาพถ่ายใช้หัวปั่นเนื่องจากแขนเจ็บร่วมเชียร์รวมไม่ได้จึงออกลาดตระเวณไปทั่ว ไม่มีใครหลุดรอดสายตาโดยเฉพาะดาวสาวๆ สวยๆ
"ต้องเห็นเหวินหวินวิดยา น่ารักมาก ใส่แว่นด้วย" เอเจเล่าถึงคณะข้างเคียง
"จะฟ้องพี่ไข่มุก"
"โถๆๆ คุณโจ๊กครับ ผมแค่ชอบเขาน่ารักเฉยๆ"
"แล้วไป"
"โจ๊กรู้จักคนเยอะนะ" กายชม
"เกือบลืม รู้จักดาวนิเทศก็ไม่บอกนะกาย" ผมเหล่กาย
"หือ ใคร?" กายสนใจ
"วันก่อนโน้นไปขอถ่ายรูปทำสกู๊ป เขาบอกพ่อแม่รู้จักกัน นามสกุล..." ผมบอกนามสกุลหญิงสาวตัวเต็งอันดับต้นๆ คะแนนในสังคมโซเชี่ยลพุ่งกระฉูด ผู้หญิงมั่นใจ มั่นหน้าตาตนเองเกินร้อย
"นามสกุลคุ้นๆ ว่ารู้จัก แต่ใคร?" กายครุ่นคิดยังไม่รู้จักอยู่ดี
"เมี่ยงคำ"
"ว่าแล้ว!" เหยี่ยวร้องตบไหล่เอเจฉาดใหญ่จนเพื่อนผิวหมึกร้องอูยตัวเซ "กูยังไม่รู้จักเลยโจ๊ก อย่างไอ้กายไม่ต้องห่วง..."
"ไม่รู้จักชัวร์" เอเจเติมคำ
"อ้าว เขาออกจะดัง เป็นพริตตี้ เห็นว่าเคยถ่ายแบบ ถ่ายละคร เคยแคสติ้งหนังอะไรด้วย แฟนเพจคนกดไลค์กระจาย" ผมอ้างข่าวตามได้ยิน
สาวเจ้ารู้จักแก๊งนายแบบทุกคนโดยเฉพาะกาย-กีรติ เมี่ยงคำคุยว่าสนิทชิดเชื้อ (ทางครอบครับ) เป็นอย่างดี ระบุเคยเจอกายตามงานเลี้ยงทางสังคมที่นั่นที่นี่หลายครั้ง
เหยี่ยวกะล่อนลื่นเป็นปลาไหลยังไม่รู้จักเมี่ยงคำ แปลกใจ
"เหรอ...!"
"อ้อ เหรอ...!"
เหยี่ยว เอเจยื่นหน้ามาถาม
"เออว่ะ กูก็เพิ่งรู้วันที่เขาบอกเหมือนกัน แหะๆ" ผมเกาหัวรับสารภาพแห้งๆ
"นมหวาน กินซะจะได้โตไวๆ นะครับคุณหนูโจ๊กเกอร์"
"เชี่ยเหยี่ยว!" ผมด่าแต่คว้านมกล่องมาดูดจ๊วบๆ
"555 ไปล่ะ เรียนแปดครึ่ง เจอกันโจ๊ก" เอเจหัวเราะ ยิ้มร่าอารมณ์ดีจากไป
ผมดูดนมหมดกล่องอยากยืดความสูงเร็ววัน คบกับใครไม่คบ เจฟ เหยี่ยว กาย เอเจล้วนคือเปรตหน้าตาดีกว่าตัวเองทั้งนั้น คิดแล้วช้ำ
เหยี่ยวกับกายพาเดินเรื่อยๆ เอื่อยๆ ปานประหนึ่งเช็กเรตติ้งนายแบบนำส่งผมที่ชมรมภาพถ่ายข้างๆ คณะศิลปศาสตร์ สถานที่เก็บหมวกกันน็อกและอุปกรณ์เด็กแว้นครับ
แรกๆ เขินไม่กล้าทว่าอาโปบังคับใช้เดินเข้าเดินออกถือขนม ดอกไม้ธูปเทียน โดยเฉพาะช็อกโกแลตเอ็มแอนด์เอ็มลักลอบหย่อนในล็อกเกอร์พี่หยกทุกเช้าบ่ายค่ำ จิระจึงหน้าด้านไปโดยปริยาย
"ตกลงฟ้าใสเป็นดาวศิลปศาสตร์เหรอโจ๊ก?" กายถามไถ่สุภาพ
"แหงอยู่แล้ว ทั้งคณะมีงามอยู่คนเดียว" ผมเชียร์
"โจ๊กเชียร์ฟ้าใสสุดๆ เลยนะ" กายยิ้มๆ
"...ระวังเถอะ" เหยี่ยวกวนโอ๊ยพูดเบาๆ ได้ยินแค่ผม
"มึงนี่มัน..." โจ๊กหน้าไหม้คึ่ก ดูดนมเสียงดังซอดๆๆ แก้อาการ
กลัวเพื่อนรู้หรือ...ไม่มีทาง
แค่เขิน...เท่านั้นเอง
ถ้าเจ้าหมาใหญ่จับได้ว่าผมปลื้มใคร คุณอย่ารู้เลยว่าผมโดนจัดหนักแค่ไหน แค่ไม่รู้เหนือรู้ใต้ ไม่ได้ออกจากห้องนอนตลอดเสาร์อาทิตย์แค่นั้นเองครับไม่มากไม่มาย
...
"โจ๊ก...รู้แล้วใช่ไหมกูกับเจฟฟรี่ต้องไปอิตาลีอีกรอบ" เหยี่ยวถามผม
"รู้แล้ว มันบอกแล้ว" ผมเลี่ยงไม่อยากพูดถึง
"งั้นก็ดี แป๊บเดียวกลับ วันศุกร์ค่ำเจอกัน"
"อือ..." ผมก้มหน้าก้มตาดูดนมเงียบๆ
เหยี่ยวคงจับน้ำเสียงจ๋องๆ ของผมออก เพื่อนนกสงบปากสงบคำไม่ต่อความยาวมากคำเหมือนทุกที
จ๊อบนายแบบโกอินเตอร์อีกแล้วครับท่าน เหยี่ยวเดินแบบ เจฟถ่ายภาพนิ่ง เราเพิ่งพูดหยกๆ ไม่กี่วันต่อมาเอเจนซี่ก็ติดต่อไปให้ถ่ายพอร์ทเทรตเสียได้ สมพรปากโดยแท้
หมาใหญ่บอกไม่ไปทว่าเหยี่ยวไม่มีเพื่อนเดินทาง ซ้ำเจอลูกยุเรื่องหาเงินต้นเล่นเกมไข่ห่านทองคำในอินเตอร์เน็ตเพื่อซื้อรถยนต์สปอร์ต เหยี่ยวมุ่งมั่นอยากได้ลัมโบร์กินีแบบเปิดปีกด้านข้างสมชื่อเหยี่ยวขาว (แต่เล็งสีดำ T^T) สองเพื่อนเล่นทีมเดียวกันจึงแตกคอคิดแข่งกันเองเอาคนละคัน
ส่วนหนึ่งเกิดจากผมคิดง่ายเป็นเด็กๆ ถ้าเจฟมีรถยนต์ใหม่ใช้แทนเจ้าแช็คกี้โฟลค์ตู้คันเก่าเสียจอดแช่อยู่ที่บ้านก็คงดี
หลุดปากเพราะไม่อยากเป็นสก๊อยมอเตอร์ไซค์ตัวเองเขาจึงเปลี่ยนใจรับงาน คิดได้ก็สาย จะไม่อยู่ตั้งกี่วัน คืนนี้กลับถึงบ้านก็ต้องออกเดินทางแล้ว อังคาร-พุธ -พฤหัสบดีกระทั่งวันศุกร์ทั้งวันอีก แค่คิดยังซึมเศร้าล่วงหน้า
ไม่ดีเลย (="=)
'เอาน่า เฟรชชี่ไนท์มันบอกจะกลับมาถึง ยังไงคงไม่ผิดสัญญาง่ายๆ หรอก' ผมปลอบใจตัวเอง
...
...
ถึงลานใต้ร่มชมพูพันธุ์ทิพย์ ย่านดงสารพัดชมรมกิจกรรมของเหล่านักศึกษา...
"ใครตีกลองแต่เช้าวะเนี่ย!" เหยี่ยวโวย
"ชั้น 2 เหนือภาพถ่ายคือดนตรีสากล ฝั่งโน้นดนตรีคลาสสิกแยกกัน น่าจะเล่นงานเฟรชชี่นะคิดว่า ทุกทีเงียบเป็นเป่าสาก เพิ่งได้ยินเร็วๆ นี้เอง" ผมชี้มืออธิบาย
"อ้อ มีงานถึงเพิ่งคึก" เหยี่ยวพยักหน้ารับทราบ
"ก็ดีนะ" กายพูดดีมองโลกในแง่ดี
"แต่ห่วยนะ ฟังแค่นี้ก็รู้" เหยี่ยวบรรลัยจักรตัวการทำโลกร้อน
"ไปว่าเขา"
"กูเจ๋งกว่านี้ล่ะกันน่า"
"ไปเรียนได้แล้ว โชคดี แทงกิ้ว!" ผมโบกมือตัดบทก่อนจรลีเข้าชมรม
...
...
เย็นนั้นผมจ๋อยสิ้นฤทธิ์ มองร่างสูงกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่แล้วห่อเหี่ยวหัวใจ
"เจฟ..."
"ครับ..." เงยมองผมก่อนตบต้นขาปุๆ เรียกแมวเข้าไปนั่งตัก "Come on..."
"เจฟ..." ผมเรียกซ้ำ นั่งตักวางมือพาดบ่าวางคางเกยไหล่ไม่อิดออด อยากสัมผัสอบอุ่นจากร่างกายอีกฝ่ายไว้นานๆ
"อยู่นี่คนดี ชู่..." เสียงเป่าลมปลอบโยนข้างหูยิ่งทำให้อยากมุดหน้าจมลงกับอกกว้างมากยิ่งขึ้น
"เดินทางดีๆ นะ"
"ครับผม อยู่นี่ห้ามขับรถเอง ไปเรียนก็ใช้แท็กซี่หรือให้ลุงที่เพ็ทชอปไปส่งก่อนเข้าใจไหม"
"ขับเองได้แล้ว แขนหายแล้ว" ผมดื้อเบาๆ
"ยังไม่หาย นะครับคนเก่ง อย่างที่น้าจอมบอกไว้ไง จิระของผมรับปากแล้ว"
"ก็ได้..." เสียงผมหายจากลำคอ ปลายนิ้วเชยคางผมพลางพรมจูบแก้มเบาๆ
"แป๊บเดียวก็กลับ"
"...ฟังเป็นสิบๆ รอบล่ะ"
ผมบ่นอุบอิบถอนหายใจเฮือกใหญ่ คำว่าแป๊บเดียวสำหรับคนรอคอยช่างยาวนาน
"พรุ่งนี้อย่าลืมพาเจสเตอร์ไปฉีดยาข้างหน้า อย่าให้หูโดนน้ำ ถึงคันก็ห้ามเกา ห้ามแกะห้ามทำอะไรทั้งนั้น"
"รู้แล้วน่า"
"ก็คุณมือบอน แมวคิตตี้ของผมมือบอน ฟอด...!" ประทุษร้ายแก้มโจ๊กฟอดใหญ่
"เจฟ..." ผมโผเข้ากอดหนักๆ แรงๆ กลืนร่างเป็นคนเดียวกันได้คือสิ่งที่อยากทำที่สุด ณ ขณะนี้
"ยกเลิกไม่ไปดีกว่า ขับบอสส์เท่พอแล้ว" ดูมันเปลี่ยนใจ
"ไม่เอาซิอยากนั่งรถใจแคบ เอาแบบสีจ๊าบๆ นะ สีส้มสดๆ จองไว้เลย หาเงินให้เยอะๆ แล้วรีบกลับบ้าน ไอ้เจสเตอร์รอพ่อมันอยู่" ผมยาวเป็นชุด รีบพูดรัวกลัวลิ้นพันกัน
"เจสเตอร์ตัวเดียว?"
"ทองดีด้วย"
"แค่ 2 เอง?"
"ตัวนี้ด้วย อึ๊บ!" ผมทุ่มสุดตัวกอดหมับเต็มแรง
"อุ๊บส์!" เสยคางฝรั่งเต็มๆ
"เจ็บเหรอ..."
"ไม่เลย ไม่เจ็บสักนิด"
"ดีมาก เพราะต้องเจออีกเยอะ"
"เยอะแค่ก็ยอม ผมรักคุณ...โจ๊ก"
"...รักเหมือนกัน รักมากด้วย" ผมอู้อี้กับอกแกร่ง
"หึหึ" รอยยิ้มการ์เดี้ยนของผมพิเศษสุดยอดครับนาทีนี้
"รีบไปรีบกลับ รีบปิดจ๊อบแล้วกลับมาหาโจ๊ก" ผมสั่ง
สบตาพร้อมประคองใบหน้าในอุ้งมือ ก่อนจูบปากเขา...ดูดดื่ม
*************
ซียู