
สวัสดีขอรับนายท่าน วันหยุดราชการว่างเว้นการงานช่างแสนสั้นเหลือเกินนะขอรับ
เพื่อเป็นแรงกายแลแรงใจขับเคลื่อนนายท่าน สู่วันทำงานอันยุ่งเหยิงในเพลารุ่งพรุ่งนี้
กระผมจักประเคนอาหารขบเคี้ยว อันพอจักเรียกเลือดให้นายท่านพลุ่งพล่านสักเล็กน้อยนะขอรับ

***********************************************
ทาสรัก....สมัครใจ....22
กายเพรียวบางขยับเขยื้อนเนื้อตัวอย่างอ่อนล้า
ด้วยร้าวระบมแลเมื่อยขบ ทั่วทั้งสรรพางค์กาย
ขุนจำเริญนึกปลงตกผลแห่งการเสแสร้งแกล้งกระทำ
กี่หนกี่คราท่านยังมิรู้สำนึกตน ว่าจักต้องเพลี่ยงพล้ำในบั้นปลาย
เพลาใด...ไอ้ลูกทาสคนซื่อ....มันพ่ายแพ้ต่อความอดทนอดกลั้นของมัน
เพลานั้น...ท่านจักต้องตกเป็นเบี้ยล่าง....ทาสในเรือนตน
“หึ หึ”
ขุนจำเริญนึกขัน คราคำนึงถึงหน้าซื่อๆตาใสๆของไอ้ลอย
ช่างน่าหมั่นไส้แลน่าเอ็นดูเยี่ยงนี้ ใครเล่าจักอดใจไหว
ขุนจำเริญใคร่กลั่นแกล้ง หยอกเย้าไอ้ลอยให้หัวปั่นนัก
รสรักอิ่มเอม หากหนักหน่วงรุนแรงนัก ด้วยแรงกายกำยำกรำงานหนัก
ไอ้ทาสลอยมักมิคิดคำนึง พักสักอึดใจให้ท่านหายเหนื่อยสักเล็กสักน้อย
ไอ้ลอยมันห้อตะบึงถาโถมเต็มเหยียด แรงดีเสมอต้นปลาย
สุขสมกามาพาอารมณ์เพริศแพร้ว
“ลอย หายไปทางใดกัน ใยเจ้ามิอยู่ข้างกายข้า”
วันนี้มิมีราชการงานกระทรวง ด้วยเป็นวันหยุดพักผ่อน
ไอ้ลูกทาสจึ่งมิมารบกวน เพลานายท่านพักผ่อนกายา
ขุนจำเริญพลิกตะแคงกายหันมา
นายเงินทอดสายตา มองผ่านบานประตูห้องที่แง้มไว้
นึกตำหนิไอ้ลอยที่มิงับปิดเสียให้เรียบร้อย เป็นสัดส่วนมิดชิด
หากขุนจำเริญมองรอดผ่านช่องประตู....
หน้าคมสันเจนตาของไอ้ลูกทาส กำลังก้มลงขีดเขียนเอกสารอย่างตั้งใจ
ไอ้ลอยนั่งผินหน้ามาทางประตูห้องท่าน
มันลอบชำเลืองมองมาทางช่องประตูอยู่หลายครา
ราวเตรียมพร้อมหากนายท่านบังเอิญตื่นขึ้นมา
คราไอ้ลอยชำเลืองมา ขุนจำเริญรีบหลุบตาลงต่ำจนแทบปิด
กลิ่นหอมอ่อนๆของดอกแก้วบนหมอนข้างกาย ระรวยรื่นกรุ่นกลิ่นมาให้ชื่นใจ
หมอนใบที่ไอ้ลูกทาสล้มตัวลงนอน กกกอดนายท่านตลอดคืน
ขุนจำเริญเอื้อมมือน้อย หยิบดอกแก้วดอกใหญ่กลีบสวยมาสูดดม
นายท่านหลับตาพริ้ม ซึมซาบกลิ่นแก้วหอมจรุง
“ขุนจำเริญขอรับ ตื่นแล้วหรือขอรับ”
ไอ้ลูกทาสคนซื่อ นั่งสำรวมคุกเข่าอยู่ข้างเตียง
หากส่งมอบยิ้มหวานกรุ้มกริ่มมากำนัลนายเงิน
“อืมมม”
ขุนจำเริญเบนหน้าหนี เจ้าคนหน้าซื่อตาใสเป็นประกายวิบวับ
“ขุนจำเริญขอรับ จักรับอาหารก่อนฤาจักอาบน้ำให้สดชื่นก่อนขอรับ”
เสียงทุ้มนุ่มนวลถามไถ่นายท่านอย่างเอาใจ
“ลอยหล่ะ เจ้ากินข้าวหรือยัง”
ขุนจำเริญชันกายขึ้นมา นั่งพิงพนักไม้ลวดลายแกะสลักด้านหัวเตียง
ไอ้ลอยปราดเข้ามาประคองท่าน
“ยังขอรับ ไอ้ลอยมันจักรอขุนจำเริญท่านรับอาหารก่อนมันขอรับ”
“แล้วเจ้ารอข้าอาบน้ำก่อนเจ้าด้วยหรือไม่เล่า”
ขุนจำเริญค้อนควัก ยามได้กลิ่นเนื้อตัวสะอาดสะอ้านของไอ้ลอย
“ไอ้ลอยอาบน้ำก่อนท่าน ด้วยมันมิอยากทำให้
ขุนจำเริญรังเกียจเนื้อตัวสกปรกของไอ้ลูกทาสเยี่ยงมันดอกขอรับ
หากแต่ไอ้ลอยมันยังรอรับใช้ท่าน คราอาบน้ำขัดถูเนื้อตัวอยู่นะขอรับ”
วาจาประสาซื่อของไอ้ลูกทาส จับใจแลจาบจ้วงนัก
ความนัยก่อให้เกิดความกระดากอาย แก่ขุนจำเริญยิ่งนัก
“บัดสี ใครจักให้เจ้ารับใช้เยี่ยงนั้นกัน”
หน้างามของนายเงินแดงก่ำ คราหวนคำนึงถึงวัยเยาว์เก่าก่อน
ท่านขี่หลังม้าทาสตระเวนรอบรั้วทั่วอาณาบริเวณ
ขุนจำเริญสั่งไอ้ทาสลอยคนซื่อ พาท่านลงเล่นที่ชายน้ำ
นายท่านลวงล่อด้วยเล่ห์เพทุบาย หลอกมันทำเรื่องบัดสี
“อ๊ะ”
ขุนจำเริญสะบัดตัวออกจากอ้อมแขนของไอ้ลอย อย่างกระเง้ากระงอด
หากเพียงลงน้ำหนักจักลุกยืนขึ้น กายน้อยเซถลาราวลูกนกปีกหัก
ไอ้ลอยระวังระไวไหวทัน รวบกายขุนจำเริญเข้าหาตัว
ขุนจำเริญไร้เรี่ยวแรง จำต้องซบหน้านิ่งอยู่กับแผงอกกำยำ
“ไอ้ลอยอุ้มขุนจำเริญไปนะขอรับ”
มันมิรั้งรอให้ขุนจำเริญตอบรับ ไอ้ลอยอุ้มนายท่านขึ้นมาแนบอกอุ่น
“อาบน้ำก่อนไหมขอรับขุนจำเริญ จักได้สดชื่น”
ขุนจำเริญพยักหน้าลงแนบชิด ติดอกไอ้ลอย
***********************************************
“อื้อ...”
ขุนจำเริญครวญครางเสียงหวานสั่นพร่า
ยามที่ปากหนาร้อนผ่าวของไอ้ทาสลอย บดจูบไปทั่วลำคอด้านหลัง
ละเรื่อยลงมาจนถึงแผ่นหลังเนียนขาวบอบบาง
ลมหายใจร้อนถี่กระชั้นชิด รินรดจนวูบวาบไปทั่วกายของนายท่าน
เล็บใสเจียนสั้นจิกลงกับผนังห้องน้ำ
ใบหน้าหวานแหงนเงย ยามเมื่อปลายลิ้นสากร้อนลากไล้ลงจนถึงสะโพกกลมมน
ในคราเดียวกันกับมือหนาหยาบกร้าน คลึงเคล้นหยอกล้อยอดอก
“ละ...ลอย จูบข้าที อาาาา”
ไอ้ลอยมิรอช้า มันเร่งทำตามคำสั่งของนายท่านทันที
ปากหนาได้รูปกดจูบลงบนริมฝีปากสีระเรื่อ ที่เผยอหอบเพราะแรงอารมณ์
ลิ้นร้อนของนายบ่าว คลุกเคล้าเกาะเกี่ยวกันอย่างมิมีผู้ใดยอมแพ้
จนน้ำใสไหลรินออกมาจากมุมปาก
มือกร้านหนาอีกข้างเลื่อนลงไป กอบกุมจำปีสีหวาน ก่อนจะเริ่มรูดรั้งแผ่วเบา
มือสากอีกข้างเลื่อนลูบไล้ เรือนกายเนียนนุ่มของขุนจำเริญ
“อื้อออ...”
เสียงครางแว่วหวาน ดังสะท้อนก้องอยู่ภายในห้องน้ำ
ไอ้ลอยโอบขุนจำเริญ พลิกผันกายท่านให้หันหน้าเข้าหากัน
กายเนื้อต่างวรรณะเปลือยเปล่าเสียดสีกัน
ราวสุมฟืนสุมขอนไม้ ให้ไฟอารมณ์ลุกโชน โชติช่วงยิ่งกว่าเดิม
ขุนจำเริญขยุ้มผมดกดำของไอ้ลูกทาส ระบายความอัดอั้นเสียวซ่าน
ไอ้ลอยก้มหน้าลงครอบครองจำปีสีหวาน ด้วยปากหนาของมัน
ปลายลิ้นสากร้อนตวัดไล้เลีย ปลายยอดดอกจำปีที่ฉ่ำเยิ้ม
มือหนาของไอ้ลอย ลูบไล้ทั่วกายนวลเนียน
หากคราแวะเวียนมาถึงเบื้องล่าง
มันกลับคลึงเคล้นก้นกลมของนายเงิน ด้วยแรงย้ำหนักมือ
ไอ้ลูกทาสคนซื่อถอนปากหนาของมัน ออกจากจำปีดอกน้อยที่ยังมิทันปลดปล่อย
ขุนจำเริญทอดสายตาหวานหยด เว้าวอนแลยั่วยวน
ไอ้ลอยอุ้มร่างบางขึ้นมา ประกบลำตัวเปียกชื้นแนบชิดสนิทแน่น
มือไม้หยาบกร้านเกาะกุม ยกใต้สะโพกกลมมนขึ้นให้กระชับ
ขุนจำเริญกระหวัดรัดไอ้ลอยทั้งแขนแลขา
ราวกับลูกลิงกอดรัดกับอกแม่
“ละ...ลอย...ดูด..ดูดแรงๆ”
ขุนจำเริญร้องสั่งไอ้ลอย ก่อนจะครวญครางเสียงสั่นพร่า
คราเมื่อปากร้อนดูดดึงยอดอกแรงๆ สลับกันไปมาทั้งสองข้าง
ขาเรียวยิ่งยกสูงแลแยกออกกว้าง เมื่อมือหนาลูบไล้รอยแยกด้านล่าง
ขุนจำเริญเกาะเกี่ยวไหล่กำยำแข็งแรง ที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม
ลูบไล้กล้ามเนื้อหนาแน่นไปมาราวระบายอารมณ์
ทว่าขุนจำเริญหารู้ไม่ว่า
จักกลับกลายแปรเปลี่ยนเป็นการปลุกเร้าไอ้ลูกทาสมากขึ้น
จำปีดอกใหญ่ถูไถช่องทางสีหวาน เร่งเร้าจังหวะบดเบียด
ทำให้ขุนจำเริญเสียวซ่าน ด้วยแรงปรารถนาที่ทบทวีขึ้นมา
ไอ้ทาสลอยเพียรพยายามกดส่วนหัว ล่วงล้ำเข้ามาทีละนิด
แต่ก็มิใช่ว่าจักทำได้ดั่งใจโดยง่ายดายนัก
ด้วยธรรมชาติมิได้เสกสรรปั้นแต่งมาเพื่อการนี้
“ขุน..ขุนจำเริญ...ขอ...รับ”
ไอ้ลอยมันมิกล้ากระทำรุนแรง ตามใจอยาก
“ละ...ลอย...ข้าเจ็บ..แต่...แต่เข้ามาเถิดลอย ข้าทรมาน อ๊า”
“ขะ ขอโทษขอรับ ไอ้ลอยห้ามใจมิได้แล้วขอรับ
อาาา...มันคับแน่นเหลือเกินขอรับ ซี๊ดดดด”
ขุนจำเริญแหงนเงยใบหน้าขึ้นครางสุดเสียง
คราจำปีร้อนดอกใหญ่กดเข้ามาในคราวเดียว
แล้วกระแทกเข้าออกทันที โดยมิพักให้ท่านได้หายใจ
ไอ้ลอยขบฟันแน่น ยามที่ขยับเข้าออก มือหนารวบสะโพกมนไว้มั่น
ก่อนจะกระแทกกระทั้นเข้าออกแรงๆ อย่างทนไม่ไหว
จักมีอะไรกันสักกี่ครั้ง ไอ้ลอยก็มิอาจฉุดรั้งแลหยุดยั้งตัวเองไว้ได้สักครา
ขุนจำเริญเกาะบ่าหนา ด้วยมือน้อยเพียงข้างเดียว
มืออีกข้างท่านเลื่อนมากอบกุมจำปีดอกน้อยของตน
รูดขึ้นลง ตามจังหวะสอดใส่ของไอ้ลูกทาส
มินานขุนจำเริญก็ขยับกายเบื้องล่างทั้งมือแลสะโพกกลม
จับจังหวะรับส่งได้สอดประสานกัน
จมูกโด่งคมของไอ้ลอย ซุกไซร้ซอกคอขุนจำเริญ
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้องน้ำ
กลับยิ่งเร่งเร้าประทุอารมณ์ของสองนายบ่าว ให้พัดโหมยิ่งกว่าเดิม
เพียงกระแทกกายเข้าหากัน มิช้านานนัก
ทั้งนายแลบ่าว ต่างปลดปล่อยอารมณ์ออกมาพร้อมเพรียงไล่เลี่ยกัน
ไอ้ทาสลอยซุกหน้าของมันลงกับแผ่นอกบาง ลมหายใจรินรดต้องผิวเนียนถี่กระชั้น
ขุนจำเริญซบหน้าลง กับเรือนผมสีดำสนิทของไอ้ลอย
นายเงินหอบหายใจเร็วแรงถี่ยิบ ราวกับไปวิ่งมาเสียอย่างนั้น
“หึ หึ ขุนจำเริญขอรับ อาบน้ำกันเถิดนะขอรับ”
ไอ้ลูกทาสหัวเราะในลำคอ
ริมฝีปากร้อนผ่าวของมันกดจูบที่ขมับบางอย่างรักใคร่
************************************************
ขุนจำเริญสั่งความไอ้ทาสลอย
ให้มันสวมใส่เสื้อราชปะแตน อีกทั้งผ้าม่วงโจงสีกรัก รองเท้าสานแลหมวกปีก
“ลอย เจ้าบังคับม้าลากได้ฤาไม่”
“ได้ขอรับขุนจำเริญ ไอ้ลอยมีโอกาสฝึกฝนบังคับรถเทียมม้าไว้เผื่อขาดเหลือ
จวบจนมันเคยได้รับใช้พระยาศรีพิพัฒน์ ก็หลายคราแล้วขอรับ”
“นับเนื่องต่อไปจากนี้ วันใดข้าสั่งให้เจ้าติดตามข้าเข้ากระทรวง
มิต้องให้ไอ้จาบมันมารับใช้ขับรถม้าให้ข้าอีก
หน้าที่ของมันเจ้าจงรับไปเสีย”
วันเว้นสักสองสามวัน ไอ้ลอยจึงได้ติดตามขุนจำเริญท่านเข้ากระทรวงสักครา
ในกาลก่อนคราไอ้จาบ มันมิได้เข้าไปภายในที่ทำงานท่าน
มันนั่งนอนรอท่านอยู่บริเวณโรงม้าตลอดวัน
หากคราไอ้ลอย ขุนจำเริญกลับสั่งมันให้ติดตามท่านเข้าไปถึงห้องทำงาน
ไอ้ลูกทาสมันจักได้นั่งขีดเขียนงานเอกสารที่โต๊ะตัวเก่า ใกล้หูใกล้ตาขุนจำเริญท่าน
ไอ้ลูกทาสเนื้อตัวสะอ้านคมคาย เป็นที่สนใจของเสมียนตราสาวใหญ่สาวน้อย
ต่างพากันซุบซิบ ชม้ายชายตาทอดสะพานให้ไอ้ลอยคนซื่อ
หากไอ้ลอยมันหารับรู้เท่าทัน แลหาใส่ใจผู้ใดไม่
สองตาของไอ้ลอย มีเพียงขุนจำเริญท่านแต่เพียงผู้เดียว
ขุนจำเริญหงุดหงิดใจนัก
จึงสั่งเปลี่ยนเสมียนตราหน้าห้องท่าน เป็นชายวัยกลางคนเสียสิ้น
“วันนี้ให้ไอ้จาบบังคับรถม้า ไปกระทรวงกับข้า
ลอย...เจ้าจงอยู่เฝ้าเรือนแพ คัดลอกเอกสารเหล่านี้ให้แล้วเสร็จ
เพลาเย็น เจ้าจงกลับไปกินนอนที่กระท่อมทาสกับนางน้อมแม่เจ้า
ราตรีนี้....มิต้องอยู่รอรับใช้ข้า”
ขุนจำเริญสั่งความไอ้ลอยโดยมิได้เหลือบแลมัน
ใบหน้านวลแลอารมณ์มิใคร่ดีนัก
ไอ้ทาสลอยใคร่ไถ่ถามนายท่านว่า
ด้วยเหตุอันใด ท่านจึงมิให้มันรอรั้ง เพื่อรับใช้ท่านอยู่เรือนแพ
ฤาท่านหน่ายแหนงมันเสียแล้วกระมัง
“ขอรับขุนจำเริญ”
ไอ้ลอยยืนก้มหน้า แลดูเหงาหงอยมิมีจิตใจใคร่ทำอันใด
มันประสานมือ ค้อมตัวอยู่เบื้องหน้าขุนจำเริญ
หลังจากที่ มันยื่นส่งกระเป๋าเอกสารของนายเงินให้ไอ้จาบเรียบร้อย
คราไอ้จาบคล้อยหลัง ขุนจำเริญท่านจึงถอนหายใจยาว แล้วกล่าวกับมันว่า
“ลอยเอ๋ย ไอ้ลอยคนซื่อของข้า เจ้าอย่าตีตนไปก่อนไข้
เพลาเสร็จงานราชการ ข้าจำต้องไปเยือนเรือนพระยาแม้นมนตรี ด้วยคำสั่งของพ่อข้า
หากใจข้า มันใคร่ติดปีกกลับเรือนแพเสีย ตั้งแต่คล้อยหลังลงเรือนทีเดียวเจ้ามิรู้ฤา
ครั้นให้อยู่รอข้าจนดึกดื่นเจ้าจักฟุ้งซ่าน
ดังนั้นเจ้าจงกลับไปเยี่ยมเยือน นอนเรือนนางน้อม
ให้แม่เจ้าปลาบปลื้มชื่นใจเสียเถิด ข้าจักได้มิต้องเป็นกังวล”
**************************************************
ไอ้ลูกทาสฟังคำนายเงินแล้วให้หายน้อยอกน้อยใจ
ความแคลงใจมลายหายไป จนหมดจนสิ้น
ไอ้ลอยปัดกวาดเช็ดถู พรวนดิน รดน้ำดอกไม้ใบหญ้าแล้วเสร็จ
มันจึงนั่งขีดเขียน คัดลอกข้อกฎหมายตามท่านสั่งไว้
ไอ้ลูกทาสคนซื่อเขียนไปท่องจำไป ในคราเดียวกัน
เพลานี้ไอ้ลอยแตกฉาน จวนเท่าเสมียนตราหน้าห้อง
ปีหน้าคราเป็นไท ขุนจำเริญท่านตั้งมั่นจักขับเคี่ยวไอ้ลอย
ให้ได้เข้าร่ำเรียนในโรงเรียนกฎหมาย
ภายหลังจากนั้นมิเกินครึ่งปี
ขุนจำเริญท่านจักให้ไอ้ลอยสอบเข้ารับราชการ เป็นเสมียนตราหน้าห้องท่าน
ขุนจำเริญย้ำเตือนไอ้ลอย ให้มั่นใจในการวาดหวังอยู่เป็นนิจ
“ลอยเอ๋ย ข้าอยู่มิได้โดยมิมีเจ้าอยู่ข้างกาย”
“ขุนจำเริญขอรับ น้ำคำของขุนจำเริญเสมอเหมือนน้ำทิพย์เย็นฉ่ำใจ
พร่างพรมตกต้องตัวแลหัวใจของไอ้ลอย
ให้ชุ่มเย็นเสียเหลือเกินขอรับ ยอดรักของไอ้ลอย”
ไอ้ลอยยิ้มกว้างคราคิดคำนึงถึง คำตอบรับของมัน
*******************************************
นางน้อมยินดียิ่ง เมื่อไอ้ลอยลูกชายกลับมาร่วมสำรับ
“วันนี้ข้าจักนอนที่เรือนนี้กับแม่นะจ๊ะ”
ไอ้ลอยใจหนึ่งอยากอยู่ดูแลพูดคุยเป็นเพื่อนแม่ ให้นางน้อมคลายเหงา
หากอีกใจ มันละห้อยหาร่างงามในอ้อมแขน ที่ซุกซบอกมันอยู่ทุกราตรี
เพลาคืนนี้ มันจักหลับตาลงได้หรือไร
แลขุนจำเริญท่านจักซุบซบสิ่งใดอันใดกันเล่า
ไอ้ทาสลอยถอนหายใจยาว
หากมันหักห้ามใจ ฝืนกล้ำกลืนข้าวปลาตรงหน้า
“พี่ลอยจ๋า อีอุ่นคิดถึงพี่ลอยเสียจริง”
อีทาสอุ่นถลามากอดแขนไอ้ลอย โดยมิเกรงใจนางน้อมแม่มัน
หน้าอกหน้าใจครัดเคร่งตามวัยกำดัด เบียดชิดติดต้นแขนกำยำ
“พี่ก็คิดถึงเอ็งนะลอย มัวหมกตัวอยู่แต่เรือนแพเสียมิเห็นหน้าค่าตา
จนมิคิดว่าผู้ใดจักถวิลหาเลยหรือพ่อ”
อีบัวทาสรุ่นพี่ถลาตามมานั่งเบียดอีกข้าง
สะโพกหนั่นเนื้อแน่น เสียดสีต้นขาแข็งแรงด้วยมัดกล้ามเนื้อ
ไอ้ลอยขยับตัวอย่างอึดอัด กระเถิบกายออกห่าง
“วันนี้ข้ามาอยู่เป็นเพื่อนแม่ข้า นังอุ่น พี่บัว ขอบใจที่ช่วยเหลือดูแลแม่แทนข้า”
ไอ้ลอยฝืนยิ้มให้นางทาสสาวทั้งสองคน
“มิเป็นไรดอกพี่ลอยจ๋า ว่าแต่วันนี้
พี่มิต้องไปรับใช้นั่งนอนบนเรือนแพหรือจ๊ะ”
อีอุ่นเงยหน้าฉะอ้อนถามไอ้ลอย
“เอ็งมิรู้เรื่องราวหรือไรกันอีอุ่น
วันนี้ขุนจำเริญท่านคงกลับเรือนมืดค่ำดึกโขอยู่
ข้าแอบฟังพวกบนเรือนใหญ่มันพูดคุยกัน”
สีหน้าอีบัวติเตียนอีอุ่นว่าโง่เง่านัก
“อีบัวเอ็งมิควรเอาเรื่องราวบนเรือนท่านมาพูดสนุกปาก
ระวังถึงหูท่าน เอ็งจักโดนหวายลงหลัง”
นางน้อมมินิยมเรื่องติฉินนินทา มาแต่ไหนแต่ไร
“ข้ามิกลัวดอกป้าน้อม ข้าพูดความจริง”
อีบัวเสียหน้า หากมิลดละ
“ทำไมท่านกลับมืดค่ำด้วยเล่าพี่บัว”
อีอุ่นถามตามวิสัยหญิงทั่วไป ที่มักสอดรู้มากบ้าง น้อยบ้างมิต่างกัน
“พวกทาสรับใช้บนเรือนใหญ่มันลอบฟังนายท่านพูดคุยกัน ได้ความว่า
พระยาศรีพิพัฒน์ท่านจักไปเจรจาเรื่องสินสอดทองหมั้น ฤกษ์ยามตบแต่ง
ที่เรือนพระยาแม้นมนตรีในเพลาเย็นของวันนี้น่ะสิ”
คราไอ้ลอยได้ฟังความ มิทันครบถ้วนดีนัก......
หัวมันคล้ายโดนไม้ฟืนดุ้นใหญ่ฟาดเข้าให้อย่างแรง
มือไม้อ่อนแรง จานข้าวในมือร่วงหล่น
หลุดพลัดตกกระจัดกระจาย บนแคร่ไม้ที่มันนั่งอยู่
พลันชาวาบแปลบปลาบ
คล้ายโดนคมมีดกรีดเฉือนไปทั่วทั้งกายา
ปากหนาของมันแห้งผาก ลำคอตีบตันขึ้นมาทันควัน
ไอ้ลอยคนซื่อ...มันร่ำร้องหวนไห้คร่ำครวญอยู่ภายในใจ
"เพลานี้ ขุนจำเริญท่าน"
"จักรับรู้ฤาไม่ ขอรับ"
"ว่าหัวใจของไอ้ลอย"
"มันตกแตกแยกออกเป็นหลายเสี่ยงเสียแล้ว ขอรับ"

**************************************************
ต้มยำชามใหญ่...น้ำแกงเริ่มเดือดพล่านจวนได้ที่แล้วขอรับ

***********************************************
จากภาพ
1. ไอ้ลอยตั้งใจขีดเขียนร่ำเรียนอยู่ขอรับ
2. อีกมิกี่เพลาไอ้ลอยจักสำเร็จวิชา เป็นเสมียนตราในใจขุนจำเริญขอรับ
3. ขอไอ้ลอยพักจิบกาแฟร้านเฮียหน่อยสักอึดใจนะขอรับ นายท่าน
4. ราตรีนี้ไอ้ลอยจักขับกล่อมขุนจำเริญ โปรดนอนพักกายใจกับอกอุ่นของมันเถิดขอรับ
5. ลอยจ๋า...บัดสีนัก ข้าอับอายชาวเล้าเสียเหลือเกิน จำข้าต้องไปรอเจ้าในห้องหับเสียแล้ว
6. อยู่ที่ใดขอรับ คุณแป้งร่ำมารหัวใจ ไอ้ลอยจักประเคนท่านสักแผลสองแผลขอรับ
7. ขอขอบคุณที่ติดตาม(ไอ้หน่อยเพ้อเจ้อ)ขอรับ และขอขอบคุณเจ้าของภาพน่ารักๆด้วยขอรับ
ภาพนี้น้องแอนฟีลด์กับดุ๊กดิ๊ก ขอเข้าร่วมเฟรมด้วยนะขอรับ

[attachment deleted by admin]