
กระผมมิได้บริโภคเครื่องดื่มชูกำลังแลยากระตุ้นอันใดดอกขอรับ
หากเสพเพียงคอมเม้นท์แลกำลังใจจากผู้อ่านขอรับ
จึ่งมีพละกำลังกายใจ มานั่งนอน...จิ้มๆๆๆๆ(คีย์บอร์ด)ขอรับ

********************************************
ทาสรัก....สมัครใจ....19
การร่วมรัก...
ที่เกิดความสุขสมร่วมกัน จนหลั่งสารแห่งความสุขออกมานั้น
ทำให้คนทั้งสองที่ร่วมรัก เกิดสายใยแห่งความผูกพันที่มิรู้ลืม
ซึ่งยากนักที่จะบอกรักกันด้วยคำพูดได้
แต่ย่อมจะแน่นอนว่า...
เมื่อต่างฝ่ายต่างพยายามมอบความสุขให้กันและกัน
จนเกิดความสุขสุดยอดแล้วย่อมจะเข้าใจ
ได้โดยไม่จำเป็นต้องบอกกันว่า...รัก
(“KAMASUTRA” หรือ กามสูตร ตำรับรักฉบับอินเดีย)
**************************************************
ไอ้ลูกทาสโอบอุ้มนายเงิน ที่บัดนี้หน้าแดงก้มงุดกับแผงอกกำยำของมัน
สีหน้ากระหยิ่มยิ้มย่องที่มิมีผู้ใดมองเห็น แตะแต้มอยู่บนใบหน้าคมสัน
เพลานี้ไอ้ลอยราวกับมิใช่ไอ้ทาสลอยคนซื่อ ที่ก้มหน้าร่ำไห้ หลังไหล่สั่นระริก
ไอ้ลอยนึกขันระคนเจ็บใจที่หลงคิดการไปล่วงหน้า
ด้วยมิได้รู้แจ้งความนัยของขุนจำเริญ
“รอสักประเดี๋ยวเถอะขอรับ ไอ้ลอยจักทำให้นายท่าน
ร่ำร้อง ครวญครางอยู่ใต้ร่างมัน
ไอ้ลอยจักมิออมมืออีกต่อไปขอรับ
ขุนจำเริญของไอ้ลอยเจ้าเล่ห์เพทุบายนักนะขอรับ”
ไอ้ลอยคาดโทษขุนจำเริญอยู่ภายในใจ มิแพร่งพรายออกไป
ขุนจำเริญบัดนี้นอนทอดกายระทวยอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงของไอ้ลอย
หากหัวใจเต้นระทึกตึกตัก คราคำนึงถึงสิ่งอันจักดำเนินต่อในเพลาอันใกล้
เสียงตุ๊บตุ๊บจากภายในแผ่นอกของไอ้ลอย ดังระรัวมิผิดแผกกัน
“ลอยเอ๋ย อีกเดี๋ยวข้าจักปลอบขวัญเจ้าให้กลับคืนมา
เจ้าจักได้รู้จักพานพบกับความรักอันมั่นคงแห่งข้า
ข้าจักป้อนหัวใจรักของข้าให้ จวบจนเจ้าสำลักในความสุข”
ขุนจำเริญยิ้มเจ้าเล่ห์ ครากระซิบกับอกกำยำของไอ้ลูกทาส
ไอ้ทาสลอยบรรจงวางร่างบางของขุนจำเริญอย่างทะนุถนอม
มันระแวดระวังราวกับนายท่านเป็นแก้วบางเนื้อใส เกรงจักแตกร้าว
ประคองลงบนที่นอนหนานุ่มบนเตียงไม้เนื้อดี
“ขุนจำเริญขอรับ ได้โปรดคอยไอ้ลอยชั่วอึดใจเดียวนะขอรับ
ไอ้ลอยจักสำรวจตรวจตราประตูหน้าต่าง ให้ปิดงับแน่นหนา
จักได้มิมีผู้ใดมากวนใจนายท่านขอรับ”
ไอ้ลูกทาสกระซิบติดริมหู น้ำเสียงทุ้มนุ่มนวล
หากสีหน้าของมันระริกระรื่น น่าหมั่นไส้นัก
“ไปเถิดลอย แล้วเจ้าจงเร่งกลับมาหาข้าให้ไวหล่ะ
หากเจ้าบังอาจทอดทิ้งข้าให้รอนานนัก
ข้าจักลงโทษเจ้าสถานหนัก มิต้องได้หลับได้นอนเลยนะ”
ขุนจำเริญเย้าหยอกมัน หากกล่าวแล้วท่านก็ก้มหน้าซบลงกับหมอน
“หึ หึ ขอรับดวงใจของไอ้ลอย”
ไอ้ลอยครึ้มใจนัก รับคำแล้วเร่งลงจากเรือนแพ
สำรวจความปลอดภัยทั่วบริเวณ
รอบรั้ว...ดอกแก้วบนต้นส่งกลิ่นหอมอบอวล
ไอ้ลอยเอื้อมเด็ดดอกแก้วดอกใหญ่ กลีบสวยแข็งแรงมาดอกหนึ่ง
มันเดินย่างก้าวกลับเข้าเรือนแพด้วยหัวใจพองฟู
ไอ้ลอยปิดงับลั่นดาลประตูห้องของขุนจำเริญ
แสงนวลอ่อนจากตะเกียงหรี่จาง ทว่าเรืองรองในความมืด
ร่างน้อยของนายเงินนอนตะแคงผินหลังมาทางประตูห้อง
ไอ้ลอยจรดปลายเท้ามายืนชิดอยู่ริมเตียง
ทรุดกายลงนั่งคุกเข่าลงกับพื้นกระดานขัดมัน
“ขุนจำเริญขอรับ หลับแล้วฤาขอรับ”
ไอ้ลอยชะโงกเงื้อมเหนือตัวท่าน กระซิบด้วยเกรงท่านจักหลับใหล
“อืมมม นอนเถิดลอย”
เสียงหวานของขุนจำเริญกล่าวตอบ แล้วขยับกายพลิกผันตะแคงมา
************************************
“ดอกแก้ว....งามเหลือเกินลอยจ๋า”
แววหวานเต้นระริกอยู่ภายในดวงตา
คราท่านเอื้อมมือรับดอกแก้วกลิ่นหอม
ไอ้ลอยที่คุกเข่าอยู่ข้างเตียง ยิ้มซื่อตาใส เป็นประกาย
“ขุนจำเริญงดงามกว่า ขอรับ”
ไอ้ลอยเอ่ยคำหวานจากปากหนา รอยยิ้มมุมปากยกแย้ม
“หอมเหลือเกิน”
ขุนจำเริญยกดอกแก้วในมือบางขึ้นมาสูดดม ด้วยขวยเขิน
“ขุนจำเริญหอมกว่า ขอรับ”
ไอ้ลอยมิหยุดป้อนคำหวาน
ยิ้มกรุ้มกริ่มที่ส่งมา
ทำผิวหน้านายท่านแดงซ่าน
“เจ้ารู้ได้เยี่ยงใด..ว่า...หอมกว่า”
ขุนจำเริญเม้มปากบาง กดข่มความอาย
หากมือน้อยที่จับดอกแก้วกลีบสวย
กลับเลื่อนวางดอกแก้วลงชิดแก้มนวล
สายตาเชิญชวนส่งมาบอกความนัย แอบแฝง
ไอ้ลอยลังเลด้วยมิแน่ใจในความหมาย
ขุนจำเริญพยักหน้าน้อยๆ แลมือว่างตบเบาลงข้างตัว
ไอ้ลอยมิรอช้า ลุกขึ้นแล้วนั่งลงริมเตียง
“ขอรับ ขุนจำเริญ”
ไอ้ลอยก้มลงชะโงกหน้าอยู่เหนือใบหน้านวล
ปลายจมูกจรดลงบนดอกแก้ว หากหมิ่นแหม่ แล้วไถลไปที่พวงแก้ม
“แก้มขุนจำเริญหอมยิ่งกว่าดอกแก้วขอรับ
หอมมากจนไอ้ลอยอยากสูดดมตลอดคืน”
ไอ้ลูกทาสสูดดมเนิ่นนานแล้วกระซิบชิดติดแก้มท่าน
“แล้วเพลานี้เจ้ามิได้ดอมดมแก้มข้าอยู่ฤาไร”
ใบหน้างามค้อนควักน้อยๆพองาม
ริมฝีปากบางทำยู่ยื่น
“ไอ้ลอยมันโลภมากนักขอรับ แก้มขุนจำเริญว่าหอมแล้ว
แต่ที่ตรงนี้หวานมากกว่าสิ่งใดขอรับ”
ไอ้ลอยทำใจกล้า ปากหนาแตะแผ่วเพียงผิวปากบาง แล้วผละออก
หากมิอาจจากออกไป ด้วยสองแขนเรียวคล้องคอหนาเอาไว้เสียก่อน
“จักไปไหนเล่าลอย อื้อ”
ขุนจำเริญกล่าวมิจบ
ไอ้ลอยหมดพลังจักห้ามใจ
มันทาบปากลงไปแนบชิดริมฝีปากท่าน อย่างแนบแน่น
จูบเม้มไปตามมุมปาก แล้วเลาะเล็ม
ปากบางเผยอขึ้นรับรสจูบ
หากไอ้ลอยกลับบดเบียดปากหนาของมัน
ลิ้นลูกทาสเลียไล้รอบ ตามขอบปาก แล้วรุกล้ำเบียดแทรกเข้าไป
ลิ้นร้อนกวาดสำรวจไปทั่ว ในโพรงปาก
ลัดเลาะตามไรฟัน จวบจนเจอะเจอกับลิ้นน้อย
ปลายลิ้นนายบ่าวโรมรันพันตู เนิ่นนาน
“แฮ่กๆ ดะ..ดะ..ดับตะ...อื้มมม..ดับตะ..ตะเกียง...อี้อมมมก่อน”
ขุนจำเริญระล่ำระลักบอก เมื่อมือใหญ่เลื้อยวาดไปทั่วอกบาง
ปลายนิ้วสะกิดยอดอกจนร่างน้อยผวา สะท้านวาบหวิว
ไอ้ลอยชะงักแล้วหันกายไปข้างเตียง
หากมันมิได้ดับตะเกียง เพียงหรี่แสงลงจนสลัวราง
“อย่าดับตะเกียงเลยนะขอรับ ไอ้ลอยมันใคร่เห็นเรือนกายงดงามของขุนจำเริญ
ขอขุนจำเริญท่านเมตตามันด้วยเถิดขอรับ
เวทนาไอ้ลอยต่ำต้อยให้สมกับที่มันขวัญหนีบินหายว่า
จักมิมีวาสนากกกอดอยู่แนบข้างท่านนะขอรับ ดวงใจของไอ้ลอย”
“เพี๊ยะ”
“ลอยเนี่ย น่าบัดสีเสียจริง”
ขุนจำเริญฟาดมือน้อยที่แผงอกเป็นมัดกล้าม
แรงน้อยนิดหาทำให้ไอ้ลอยสำนึกอันใดไม่
“หึ หึ ขุนจำเริญใจร้ายนักขอรับ
แกล้งไอ้ลอยมัน เจ็บจนจวนเจียนอกแตกตายเลยนะขอรับ”
ไอ้ลอยตัดพ้อขุนจำเริญที่ท่านมิได้บอกกล่าวมัน จนมันบังเกิดความน้อยใจ
สีหน้าเศร้าสร้อยของไอ้ลูกทาสช่างน่าเวทนานัก
หากแต่ขุนจำเริญมิทันเห็นมุมปากหนาที่ลอบยกยิ้ม
“ลอย..ลอยจ๋า ข้าผิดไปแล้ว เจ้าจักให้ข้าทำเยี่ยงใดเพื่อไถ่โทษ
จงแจงมาเถิด ข้าจักยินยอมทุกสิ่งอย่าง
หายน้อยใจแลตัดพ้อข้าเสียทีเถิด ข้าเองก็จักเสียใจมิใช่น้อย
ข้าทำให้เจ้าเศร้าโศกร่ำไห้ เจ้ารู้ฤาไม่ว่า
ข้ากลับกำสรวลครวญไปมิยิ่งหย่อน
ให้กับความมิยั้งคิด ติดอยู่ในอกข้าเช่นกัน”
“ขุนจำเริญพูดเยี่ยงนี้แล้วจักมิแปรเปลี่ยนเป็นอื่นนะขอรับ”
ไอ้ลอยแสร้งทำหน้าซื่อคราขอคำมั่นกับนายเงินของมัน
“บ๊ะ..เจ้าเห็นข้าเป็นคนกลับกลอกหรือไรกัน
พูดเยี่ยงนี้ เจ้าจักใคร่ได้หวายลงหลังฤาไม่เจ้าลอย”
ขุนจำเริญกล่าวด้วยเคืองนัก ในน้ำคำต่อขานของไอ้ทาสลอย
อนิจจา....
ขุนจำเริญ...ขุนนางหนุ่มน้อยผู้รอบรู้ร่ำเรียนมาจากเมืองฝรั่งมังค่า
หากมิทันเล่ห์เหลี่ยม
ไอ้ลอย..ลูกทาสต่ำต้อยในเรือน
ที่มีวาสนาเพียงเรียนอ่านเขียนกับพระคุณท่านที่วัดใกล้บ้าน
“ไอ้ลอยมันมิบังอาจกล่าวหาขุนจำเริญถึงเพียงนั้นดอกขอรับ
ขอขุนจำเริญอย่าได้ขุ่นเคืองไอ้ลอยคนโง่มันเลยนะขอรับ”
ไอ้ลอยสวมกอดขุนจำเริญ แล้วซบหน้าระรื่นที่ไหล่บาง
*************************************************
ง้องอนเจ้าชีวิตจนท่านหายขุ่นเคือง
ไอ้ลอยประคองขุนจำเริญให้เอนกายลงบนที่นอนนุ่ม
มือใหญ่ปลดเปลื้องผ้าโจงผืนชื้นออกจากกาย
ปาผลุงลงพื้นกระดานข้างเตียง จำเพาะตกลงทับดอกแก้วดอกใหญ่
แม้จะงดงานหวานหอม แต่หามีผู้ใดใยดีไม่
มิรอช้าไอ้ลูกทาสทาบทับกายกำยำลงแนบเหนือร่างนายเงิน
ประเคนกอดจูบ ปากคอคิ้วคาง แลแก้มนวล
มือใหญ่โลมลูบไปทั่วกายนุ่ม
ลากวนเน้นหนักที่ยอดอก จนเห่อแดง
หนำใจแล้วลากเลื่อนลงต่ำมากลางตัว ลูบคลำ กำกระชับ
มือหนึ่งรูดรั้ง ขึ้นลงเบามือ แล้วเร่งขึ้น
อีกมือไล้แผ่วผิวย่นหยุ่นนุ่ม
ขุนจำเริญพลันสะท้าน ถุงทองหดเกร็ง
ไอ้ลอยกรีดนิ้วใหญ่ลากผ่านลงใต้ อ้อมไปบั้นท้าย
ไล้ลูบรูร่องมิหยุดพัก หนักเบาสลับ ปลุกเร้า
“อ๊ะ....ลอย ลอยจ๋า”
มือน้อยจิกเส้นผมหนาของไอ้ลอยแน่น
คราไอ้ลอยเลื่อนตัวลงไปต่ำ
จำปีดอกน้อยไร้เสรี ถูกครอบดูดดุนจนครึ่งดอก
ปากหนาห่อรูด เก็บฟันคม ดูดดุนเน้นย้ำรอยหยักตรงปลายดอก
น้ำหวานเอ่อปริ่มให้ได้ชิม ไอ้ลอยเลียกินอย่างกระหายอยาก
ขาเล็กเรียวข้างหนึ่งถูกยกขึ้นพาดบ่าหนาของมัน
ขาอีกข้างวางตั้งบนที่นอนนุ่ม
เข่าสองข้างกางออก จนไอ้ลอยแทรกกายกำยำเข้าไปได้
“ละ..ละ..ลอย..อย่า...อื้มมมมม”
ขุนจำเริญยกบั้นท้ายลอยไม่ติดพื้น
ช่องทางจีบสีอ่อนลอยอยู่ตรงหน้าไอ้ลอย
แสงอ่อนจางจากตะเกียงทำให้ไอ้ลอยใจเต้นรัวเมื่อมองเห็นปากทางเข้า
กล้ามเนื้อมัดน้อยระริกยวนยั่ว
ลิ้นหนาแตะลงแผ่วเบาในคราแรก
เสียงหอบกระเส่าของขุนจำเริญ กระตุ้นให้ไอ้ลอยลงลิ้นหนาซ้ำอีก
ครานี้มันเลียรัว แล้วห่อลิ้นแหย่แยง
ทำซ้ำทำซากสลับ มิลืมรูดรั้งจำปีท่าน
หากจำปีใหญ่ของมันกลับตึงขมึงมิยิ่งหย่อน
ไอ้ลอยละมือจากขาเรียว แตะปลายนิ้วลงแทนที่ลิ้น
เลื่อนกายกำยำขึ้นทาบทับอีกครั้งแล้วประกบปาก
ปลายนิ้วค่อยเคลื่อนไล้ ขยับเซาะลงทีละเล็กทีละน้อยอย่างอดกลั้น
แม้ขุนจำเริญจะส่งเสียงห้าม
หากขยับสะโพกมน รับความอึดอัด
นิ้วใหญ่หยาบจากกรำงาน ให้สัมผัสวาบหวามนัก
ไอ้ลอยพยายามดันนิ้วชำแรกลงไปจนสุดโคน
คราแรกแน่นฝืด หากมันตะโบมฟอนเฟ้น เร่งอารมณ์
นิ้วที่สองรุกรานตามติดต่อมา
ดึงเข้าออกเชื่องช้าแล้วเร็วขึ้น
ขุนจำเริญหลับตา กัดริมฝีปากแน่น
หากคราไอ้ลอยถอนนิ้วออก
สะโพกกลมกลับตามติด
“หึ หึ พึงใจหรือไม่ขอรับขุนจำเริญ ยังมิถึงที่สุดดอกขอรับ”
ไอ้ลอยกระซิบเสียงกระเส่าข้างหูด้วยความกระสัน
จำปีใหญ่ของมันมีน้ำปริ่มอยู่ตรงปลายดอก
“อ๊ะ ลอย เจ้าจักทำอันใดกัน”
ขุนจำเริญสะดุ้งสุดตัว เมื่อไอ้ลอยถูไถจำปีใหญ่ที่จีบทบสีหวาน
ที่บัดนี้เต้นระริก รอรับ
หากสะโพกขยับออกห่างมิได้ ฝ่ามือใหญ่จับสองขาให้พาดบนไหล่ตน
จำปีใหญ่ไถลลึกลงปากทาง ขุนจำเริญอึดอัด ปวดแปลบ
“ลอย ลอย..อ๊ะ..ข้าเจ็บ”
ขุนจำเริญจิกเล็บที่ไหล่เปลือยของไอ้ลอย
กายช่วงล่างราวจักแยกแตกออก
“วางใจไอ้ลอยเถิดขอรับขุนจำเริญ”
ไอ้ลอยชะงักเพียงนิดแล้ว กระซิบข้างหู
“แต่..แต่ข้าเจ็บเหลือเกิน”
ขุนจำเริญเสียงเครือด้วยความเจ็บ
“ขุนจำเริญขอรับ ท่านมิอยากปลอบขวัญไอ้ลอยแล้วฤาขอรับ
แม้นท่านเวทนาเมตตามัน จักตามใจมันสักคราเถิดขอรับ”
เสียงกระเส่าด้วยกามตัณหาของไอ้ลอย ทำให้ขุนจำเริญหน้าร้อนผ่าว
ลังเลใจ สงสารสมเพชมันก็มิน้อย หวาดกลัวก็มากโข
หากไอ้ลอยเริ่มขยับตัว ดุนดันที่ปากทาง
จำปีใหญ่หลุดรอดเข้าไปจวนครึ่ง
สัมผัสตอดรัดรับสิ่งแปลกปลอม ก่อเกิดกำหนัดขึ้นมิยิ่งหย่อน
ขุนจำเริญพยักหน้าซบลงกับแผ่นอก
สองมือจิกเล็บแน่นลงกับบ่าหนาของไอ้ลอย
“พร้อมหรือยังขอรับ ไอ้ลอยจักห้ามใจมิได้แล้วขอรับ”
ไอ้ลอยเพลานี้ใคร่อยาก เข้าไปเยือนข้างในเต็มทีแล้วขอรับ
ขอไอ้ลอยเถิดนะขอรับ ไอ้ลอยมันจักขาดใจแล้วขอรับ”
ไอ้ลอยอยากหักหาญ เอาใจตัว
หากมันรักขุนจำเริญเกินกว่า จักดึงดันขัดใจท่าน
ขุนจำเริญมิเอ่ยคำใด หากเงยหน้าหวานชื้นเหงื่อที่ขมับขึ้นมายิ้ม
ริมฝีปากบางบรรจงแตะแต้มแผ่วเบาลงที่ปากหนา
“ละ..ละ...ลอย...ลอยจ๋า”
“ขุน....ขุนจำเริญ...ขะ..ขุน..ขุนจำเริญ..ขอ...ขอรับ”
ค่ำคืนนี้หากผู้ใดได้เฉียดกรายมาใกล้ ห้องหับบนเรือนแพริมน้ำแล้วไซร้
คนผู้นั้นจักได้ยินเสียงกระเส่าของสองนายบ่าว กระซิบเรียกขานกันมิหยุดหย่อน
จวบจนฟ้าเริ่มสาง นกกาจวนออกจากรังไปหากิน
ห้องน้อยบนเรือนแพจึ่งเงียบเสียงลง เข้าสู่นิทรา
************************************************
บนเตียงไม้เนื้อดี สลักลายเถาเครือโบราณ
ขุนจำเริญหลับตาพริ้ม หายใจสม่ำเสมอ แม้นเหนื่อยอ่อน
หากมุมปากยกยิ้มโดยมิรู้ตัว
ทว่า...ที่ว่างข้างกายท่านกลับว่างเปล่า
ริมหน้าต่างในห้องหับของขุนจำเริญ
ร่างกำยำของไอ้ลอยยืนพิงกรอบหน้าต่างนิ่งอยู่
สีหน้าไอ้ลูกทาสเคร่งเครียด คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน
หน้าคมสันก้มมอง เพ่งอ่านหนังสือในมือหยาบกร้าน
ไอ้ลอยเงยหน้าขึ้นมา มองไปที่เตียงไม้กลางห้อง
สายตารักใคร่เทิดทูนของมัน ทอดไปยังขุนจำเริญที่หลับไหล
มันถอนหายใจด้วยรู้สึกเห็นอกใจนายท่าน
“ขุนจำเริญขอรับ ยังอีกหลากหลายบทเรียนนักขอรับ
หากเพียงบทเรียนแรก ท่านกลับเหนื่อยอ่อนถึงเพียงนี้
อีกเมื่อใด กี่เพลาเล่าขอรับ ไอ้ลอยมันจึ่งเรียนจบครบทุกบท”
ไอ้ลูกทาสรำพึงรำพันคล้ายห่วงใยนายท่าน
จักเป็นการดีนัก หากมันมิได้ กระหยิ่มยิ้มย่อง
*****************************************************

ท่านผู้อ่านขอรับ ท่านจักใคร่ร่ำเรียนอีกสักบทเรียนฤาไม่ขอรับ
หากแม้นว่า ท่านหวานเลี่ยน เอียนไอ้ลอย
กระผมจักปรุง"ต้มยำ"รสเข้มข้น มาประเคนนะขอรับ

*****************************************************
ดอกแก้ว แล ดอกจำปี ขอรับ
[attachment deleted by admin]