
ขอขอบคุณทุกคอมเม้นท์ครับผม
ในขณะที่ขุนจำเริญตั้งหน้าแก้ปัญหาคลุมถุงชน ของพระยาศรีพิพัฒน์
ท่านผู้อ่านกลับตั้งตารอ ภาคปฎิบัติจากตำรา"กามสูตร"ของไอ้ลอย
ตอนหน้าครับผม...ทุกท่านจะสมหวังดังปรารถนาครับ...คริคริ

**************************************
ทาสรัก...สมัครใจ....17
ค่ำคืนนี้ผิดแผกแตกต่างกับหลายราตรีที่ผันผ่าน
สองนายบ่าวกอดกระหวัดรัดรึง พร่ำกอดจูบลูบไล้มิสร่างซา
สวรรค์น้อยในเรือนแพ อบอวลอุ่นไอแห่งความรัก
“ลอย...ลอยเอ๋ย หากต่อไปภายภาคหน้าข้ากับเอ็งมิได้อยู่ร่วมหอห้อง
ข้าจักใช้ชีวิตที่เหลือเยี่ยงไรกัน เอ็งทำให้ข้าเคยคุ้นอิงแอบทุกคืนวัน
เอ็งมิรู้ดอกว่า ค่ำคืนทุกข์ยากที่ผ่านมาข้าฝืนข่มหลับตา
หากใจของข้ามันมิยอมหลับใหล สับสนกระวนกระวาย วุ่นวายใจนัก
เตียงของข้าที่เคยนอนทุกเมื่อเชื่อวัน แลแปลกไป
ใยกว้างไพศาล สุดสายตา
หนอนหนุนแข็งกระด้าง หยาบระคายนัก
ยามเมื่อถวิลหาต้นแขนแข็งแรง แน่นหนักของเอ็ง ที่มีไว้ให้หนุนนอนกอดซบ
พลิกกายซ้ายขวา ช่างอ้างว้างแลโดดเดี่ยวนัก”
ขุนจำเริญกอดรัด ออดอ้อนตัดพ้อไอ้ลอย
เพลานี้ท่านหลงลืมมิคิดวางศักดิ์ หากกลับลดตัว
อันความรักมิมีอันใดจักแบ่งแยกได้
ชนชั้นหาใช่เงื่อนไขสิ่งสำคัญ ฤาจำเป็น
หากคราหัวใจตรงกัน ปัจจัยอื่นใดกลับมองข้ามผ่านเลย
“ขุนจำเริญขอรับ ขุนจำเริญโปรดรับรู้ด้วยเถิด
ไอ้ลอยมันทุกข์ตรม ระทมใจ มิยิ่งหย่อนกว่าท่านเลยขอรับ
มันสู้ทนอดกลั้นข่มจิต ทำได้เพียงเฝ้ามองจ้องอยู่ มิทิ้งร้างห่างไป
ใจไอ้ลอยมันคอยแต่จักหมกมุ่น
หัวไอ้ลอยพลอยครุ่นคิดตลอดทุกโมงยาม
คราใดหนอ ประตูหอห้องของท่านจักเปิดรับมัน
ทั้งห่วงแลคะนึงหาเจ้าชีวิตของไอ้ลอย ทั้งยามหลับแลยามตื่น”
ไอ้ลูกทาสก้มลงบรรจงจุมพิตริมฝีปากบางของนายเงิน
อย่างอ่อนหวานอยู่นานโขแล้วละปากหนาออก
กล่าวเสียงทุ้มนุ่มอ่อนโยน ทว่าน้ำเสียงหนักแน่นนัก
“แม้นภายหน้าไอ้ลอยมันถึงเพลาหลุดพ้น จากทาสเป็นไท
ขุนจำเริญโปรดวางใจเถิดขอรับ
กายมันเป็นไท ทว่าใจมันจักเป็นทาสชั่วนิรันดร์
มันมิอาจจากยอดดวงใจของมันได้แน่ขอรับ
กายไอ้ลอยมันจักอยู่ได้เยี่ยงไร หากหัวใจมันมิอยู่เคียงกัน
ไอ้ลอยขอให้คำมั่น
เพลาใดขุนจำเริญขับไล่ มันก็จักมิยอมจากไปไหน
เว้นเพียงแต่คราท่านหมดรักแลเมตตา
มันจักลาจากแผ่นดินนี้ไป
แลจักไปรอคอยขุนจำเริญในชาติภพที่มันเสมอท่านด้วยยศศักดิ์
เพลานั้นภพนั้น ไอ้ลอยมันจักมิยอมให้ท่านจากไปไหน
มันจักผูกรัดท่านด้วยกายแลใจที่จงรักของมัน
สมบัติพัสถาน แก้วแหวน นอกกาย มันเห็นเป็นเพียงทางผ่าน
สิ่งของมิใช่สิ่งอันที่ไอ้ลอยปรารถนาไม่
มันต้องการเพียงดวงใจของมันมาอยู่คู่เคียงกายขอรับ”
คำหวานจากไอ้ลูกทาสคนซื่อ ราวยาหม้อชั้นดี มิมีผิด
ความหม่นหมองภายในใจขุนจำเริญ
แม้นมิมลายหายจากใจไปจนสิ้น
หากก็หลงเหลือเพียงน้อยนิด ราวเถ้าธุลี
*******************************
วันรุ่งขึ้น ไอ้จาบสารถีรถม้าแลไอ้ลอย พร้อมด้วยเครื่องบูชาพระครบครัน
อีกปิ่นโตสองเถาใหญ่ กระจาดส้มสุกลูกไม้คัดสรรเพื่อถวายพระมากมาย
ตระเตรียมพร้อมรอเพียงขุนจำเริญท่าน
“ไปได้แล้วไอ้จาบ เอ็งขับขี่รถม้าไปให้ระวัง
ข้าวของบูชาพระข้าจักเสียหาย”
ขุนจำเริญสำรวจตรวจดูข้าวของ สัมภาระอย่างถ้วนถี่ตามวิสัย
“ไอ้ลอยเอ็งจงนั่งรับใช้ข้าอยู่ด้านในรถม้า
คราใดข้าใคร่อยากหมาก เอ็งจักได้เจียนหมากจีบพลูให้ข้า”
ว่าแล้วขุนจำเริญก็ก้าวขึ้นนั่งด้านในรถม้า
ไอ้ลอยก้าวตามยอบกายนั่งลง ที่ฝั่งตรงข้าม
ผิดธรรมเนียมนายบ่าวจักมิควรนั่งร่วมในรถม้า
หากไอ้จาบเป็นทาสที่ภักดี มันมิใส่ใจเรื่องนายเงิน
รู้เห็นอันใดมิปริปาก
สองนายบ่าวยิ้มแย้ม ชี้ชวนดูนกชมไม้
***************************
พระอำพลขีดเขียน คำนวณดวงชะตาขุนจำเริญ
เป็นนานกว่าจะเงยหน้า ละจากแผ่นกระดานชนวนในมือท่าน
พระอำพลเพ่งสายตามองพินิจนายทีบ่าวที อย่างคลางแคลง
ตำราของท่านมิเคยผิดเพี้ยน
พระอำพลผู้ขึ้นชื่อว่าแม่นยำ ทางชะตาโหราศาสตร์ ถอนใจยาว
เอี้ยวตัวหันกลับไปคว้าแผ่นชนวนใต้ตั่งข้างตัว
มิใช่ของผู้ใดอื่นไกล กระดานชะตาไอ้ลอยเมื่อคราก่อน
ท่านก้มลงมองกระดานชะตาสองแผ่นในมือ
แล้วให้ประหลาดใจนัก
หากเมื่อดวงชะตาวาสนากำหนดมา หลีกเลี่ยงเยี่ยงใดย่อมมิได้แน่
พระอำพลเงยหน้ามากล่าวกับไอ้ลูกทาสด้วยสีหน้าแห่งเมตตา
“ไอ้ลอย เอ็งจงอย่าลืมคำทำนายของข้าในคราก่อน
หมั่นเพียรเขียนอ่านอย่าละทิ้ง หมั่นฝึกปรือ
ภายหน้าชะตาเอ็งจักได้รับราชการก้าวหน้ามิด้อยกว่าผู้ใด”
พระอำพลย้ำคำทำนายชะตาไอ้ลอยดังเดิม เช่นคราก่อน
“ขอรับ พระคุณท่าน ไอ้ลอยจักจดจำให้แม่นมั่นขอรับ”
ไอ้ลอยกราบพื้นกระดานหน้าตั่งพระอำพล
“หากเพลานี้เอ็งจงออกไปรอนายเอ็งนอกกุฏิ
ข้าจักทำนายทายทักดวงชะตาของนายเอ็ง”
พระอำพลรูปนี้ท่านได้เรียนรู้ แตกฉานทางโหราศาสตร์
มีชื่อเสียงเลื่องลือ ว่าทำนายดวงชะตาแม่นยำแลเถรตรง
มิยอมพูดถนอม ทำนายคลาดเคลื่อน
เพียงเพื่อเอาใจเจ้าของดวงชะตา
ท่านจึงมิอยากให้ผู้อื่นล่วงรู้
เว้นแต่เจ้าของดวงชะตา จักตัดสินใจเล่าสู่กันเองในภายหลัง
“ขอรับพระคุณท่าน”
ไอ้ลูกทาสก้มกราบพระอำพลอีกครา
แล้วคลานเข่าถอยหลังออกไป
“พระคุณท่านขอรับ กระผมร้อนใจนัก
ด้วยพระยาศรีพิพัฒน์ผู้บิดา
จักหมั้นหมายบุตรีสหายท่านให้กับกระผมขอรับ”
เมื่อแรก ครามาถึงวัด
ขุนจำเริญสู้อดทนรอจนพระอำพลฉันเพลแลทำกิจของสงฆ์จนแล้วเสร็จ
หากยังมิมีโอกาสได้เจรจา เข้าสู่เจตนาอันแท้จริงในการมาถวายเพล
มาบัดนี้สุดข่มกลั้นอยากรู้ชะตาตน
“หากกระผมใคร่บวชเรียน หวังพึ่งใบบุญพระศาสนา จักควรฤาไม่ขอรับ”
ขุนจำเริญกลั้นใจกล่าวความตั้งใจของตน ออกปรึกษาพระท่าน
มิต้องการหักด้ามพร้าด้วยเข่าตน จำต้องหลีกลี้หนีห่าง
“โยมเอ๋ย ศาสนามีให้เพียงผู้มีใจบริสุทธิ์
มีจิตศรัทธาฝักใฝ่ทางธรรมอย่างแท้จริง
หากใคร่เรียนรู้รสพระธรรม โดยมิมีสิ่งใดเคลือบแฝงเท่านั้น
ศาสนามิได้มีไว้พื่อให้โยม
หวังพึ่งพาบวชเรียนหนีปัญหาชะตาชีวิต”
กล่าวแล้ว พระอำพลได้คิดปลงอยู่ภายในใจ
อันเด็กหนุ่มตรงหน้าท่านผู้นี้มีความรู้ท่วมหัว ท่วมตัว
เล่าเรียนเขียนอ่าน จนรั้งตำแหน่งขุนนาง
ทว่าท่านขุนหนุ่มน้อย กลับคิดหาทางออกได้ไม่ ดังคำกล่าวที่ว่า
“ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด”
“พระคุณเจ้าช่วยชี้ทางสว่างให้กระผมด้วยเถิดขอรับ
เพลานี้กระผมทุกข์ใจมองมิเห็นทางออก
ด้วยกระผมยังมิพร้อม มิมีใจอยากมีคู่ครอง
แลมิอยากได้ชื่อลูกทรพี มิรู้คุณบุพการีขอรับ”
ขุนจำเริญร้อนใจ
หากการเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ดังคาดหวังไว้ ในคราแรก
มิใช่ทางแก้ปัญหา ก็มองมิเห็นทางออกอื่นใด
พระอำพลเพลานั้นหนักอกหนักใจ
กระดานสองแผ่นในมือท่านไฉนผูกโยง ข้องเกี่ยวกัน
หากเจ้าของดวงชะตาแตกต่างกัน เป็นชายแลหญิง
ท่านจักทำนายทายทักตามตำราได้ว่า เป็นคู่สร้างแต่ปางก่อน
ด้วยเป็นวาจาผู้ทรงศีล มิควรชี้ช่องอันผิดต่อจารีตประเพณีอันดีงาม
พระอำพลท่านจึงกล่าวแก่ขุนจำเริญว่า
“อย่าเพิ่งอนาทรร้อนใจไปเลยขุนจำเริญ
ดวงชะตาของโยมมิมีเกณฑ์ได้ตบแต่งเป็นฝั่งฝา
หากจักต้องครองชีวิตโสด ราวเพศบรรพชิต
โยมจงอดทนหนักแน่น ประคองกายใจ ให้โชคชะตาพาไปเถิด
อาตมาเชื่อมั่นว่า จักมีเหตุให้ได้ยกเลิกงานมงคล”
“ขอรับ พระคุณท่าน”
ขุนจำเริญนิ่งฟัง แล้วรับคำพระท่าน
พลันลอบยิ้ม แลถอนหายใจ โปร่งโล่ง
หากแต่คำทำนายที่ว่า
“จักต้องครองชีวิตโสด”
เช่นนี้แล้วขุนจำเริญกับไอ้ลอย
จักพลัดพรากจากกันฤาอย่างไร
ขุนจำเริญกราบลาพระอำพล
พระท่านกลับกล่าวทิ้งท้ายว่า
“ดวงชะตานายบ่าวต้องกัน ประหลาดนัก
จักเกื้อหนุน นำพาต่อกันในภายหน้า
โยมจงส่งเสริมสนับสนุนโยมลอย ให้ก้าวหน้า
แลโยมทั้งสองจงหมั่นทำบุญทำทาน
เหตุร้ายจักผ่อนหนัก ให้เป็นเบา
ทางข้างหน้ายากนัก หากมิใช่ทางตัน
จงฟันฝ่าด้วยสติแลปัญญาของโยมเถิด”
**************************
“สำรับมื้อนี้รสชาดดีนักฤาเจ้าคะ
คุณพี่ถึงรับทานได้มากว่าทุกคราเจ้าคะ”
คุณหญิงศรีพิพัฒน์หยอกเย้าพระยาผู้สามี
บรรยากาศบนเรือนใหญ่เพลานี้ กลับคืนสู่ปกติสุข
ด้วยขุนจำเริญบุตรชายมาร่วมสำรับบนเรือนใหญ่
ตั้งแต่คราพระยาศรีพิพัฒน์ลุแก่โทสะ ตบหน้าท่าน
ขุนจำเริญมิเคยย่างกรายมาทางเรือนใหญ่อีกเลย
หลบลี้หนีหน้า มิเสวนากับผู้ใด
“ขุนจำเริญคุณพี่ของลูกก็รับข้าวได้มาก เฉกเช่นเดียวกันกับคุณพ่อด้วยเจ้าค่ะ
ลูกเกรงว่าข้าวจักหมดหม้อ มิเหลือพอเผื่อแผ่ไปเรือนทาสนะเจ้าคะ”
คุณหนูแดงหัวเราะกิ๊ก คราพูดจบ
เสียงหัวร่อของพระยาศรีพิพัฒน์ดังกังวานทั่วเรือน
เป็นเพลาเดียวกันกับ...
รอยยิ้มของคุณหญิงแลขุนจำเริญ บังเกิดขึ้นบนใบหน้า
************************************
ครั้นมาถึงเพลาสำรับขนมแลผลไม้
ขุนจำเริญสูดหายใจเข้าแล้วกล่าว นบนอบ
“คุณพ่อคุณแม่ขอรับ ลูกมีเรื่องสำคัญจักปรึกษาขอรับ”
“เจ้ามีเรื่องอันใดจงเร่งพูดเถิด พ่อแลแม่เจ้ารอฟังอยู่”
คุณหญิงศรีพิพัฒน์รีบกล่าวแทนพระยาสามี
ด้วยเพลานี้บุตรชายเป็นฝ่ายอ่อนข้อ เข้าหา
แลบิดาก็แย้มยิ้ม คลายเคร่งเครียดไปมากโข
“ลูกใคร่กราบเรียนปรึกษา อันเรื่องที่คุณพ่อจักให้ลูกหมั้นหมาย
ตบแต่งกับบุตรีพระยาแม้นมนตรีขอรับ”
พระยาศรีพิพัฒน์รับฟังแล้วใจชื้น
ด้วยขุนจำเริญแลสุขุมมิใช้อารมณ์
ท่านจึงกล่าวด้วยเสียงมีเมตตาว่า
“เจ้าจักมีความเห็นเยี่ยงไร ขุนจำเริญ
จงบอกกล่าวเล่าความด้วยเหตุผล
อย่าได้หุนหันพลันเล่นเช่นคราก่อน”
ขุนจำเริญก้มกราบพระยาศรีพิพัฒน์แลคุณหญิง อย่างสำนึกผิด
“ลูกกราบขออภัยในความใจร้อนวู่วามของลูก
แลกริยามิเหมาะควรในครานั้นขอรับ
มาบัดนี้ลูกได้ครุ่นคิด แลไตร่ตรองรอบคอบแล้วขอรับ
อันความเมตตาปรารถนาดีของคุณพ่อคุณแม่นั้น
ลูกขอน้อมรับด้วยความเคารพอย่างแท้จริงขอรับ”
พระยาศรีพิพัฒน์ดีใจอย่างที่สุด ยิ้มของท่านกว้างนัก
“หากแต่เพลานี้ลูกขอคบหาศึกษาดูใจ ก่อนครองคู่
วันเวลาจักช่วยให้รักแลผูกพัน
ลูกจักได้คุ้นเคยกับคู่หมายให้ถ่องแท้
เปรียบผลไม้ยามสุกงอมจักหวานหอม กว่าผลห่ามนะขอรับ”
ขุนจำเริญกล่าวเสียงหนักแน่น
หากคราชายตาไปยังหมู่ทาสที่นั่งหมอบก้มหน้าคอยรับใช้
พลันสะท้านใจ ด้วยแลเห็นไอ้ลูกทาสผู้หนึ่ง
หลังไหล่ของมันสั่นระริก
มือใหญ่กำหมัดระงับข่ม
หยาดน้ำตกต้องหลังมือของมัน

"รถม้าคันใดหนอ ที่สองนายบ่าว...นั่งชี้นกชมไม้"
[attachment deleted by admin]