มาแล้ว......ขอรับ
เล็ทสะโกกันเถิด......ขอรับ
ทาสรัก...สมัครใจ.....6
พระยาศรีพิพัฒน์แลคุณหญิงของท่านเพลานี้ ปิติอิ่มเอมใจยิ่งนัก
ด้วยเหล่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่เสมอท่าน ต่างพากันริษยา
ในสำนึกกตัญญูแห่งลูกชายท่าน
แม้นว่าบัดนี้ได้ข้ามน้ำข้ามทะเลไปเล่าเรียนถึงเมืองฝรั่ง
เฉกเช่นเดียวกับเหล่าลูกหลานท่านทั้งปวง
แต่คุณจำเริญนั้นหนา หาได้ประพฤติตนห่างเหิน ร้างลาห่างไป
เฝ้าเวียนส่งหนังสือจากเมืองฝรั่ง แดนดินตะวันตก มากำนัลผู้บิดามารดา
ทั้งว่าจ้างฝากวาน เรือกลไฟบ้าง เรือสำเภาสินค้าบ้าง
ทำราวลูกแหง่ที่ยังไม่ยอมห่างไกลนมมารดา
พระยาศรีพิพัฒน์อารมณ์แจ่มใสยิ่งนัก สีหน้าผ่องใส
หาหุบรอยยิ้มได้ไม่ ด้วยหนังสือฉบับที่สามจากเมืองฝรั่ง เพลานี้อยู่ในมือท่าน
แม่แดงลูกพ่อเอ๋ย เจ้าจงเป็นธุระอ่านถ้อยความของพี่เจ้าทีเถิด
บัดนี้ขุนนางใหญ่น้อยอันลูกหลานข้ามทะเลไปฉันท์เดียวกับพี่เจ้า
พวกท่านริษยาพ่อกับแม่เจ้านักหนา
ด้วยบางท่านมิได้รับหนังสือจากลูกท่านแม้นเพียงฉบับเดียว
อันเป็นเหตุให้ หน้าพ่อนี้มันขยายใหญ่โตจนรับรู้ได้
พระยาศรีพิพัฒน์กล่าวด้วยน้ำเสียงสำราญนัก
แล้วยื่นหนังสือจากเมืองฝรั่งของลูกชาย มาตรงหน้าคุณแดง
เจ้าค่ะคุณพ่อของลูก
คุณแดงน้อมรับมาด้วยกริยานอบน้อม บรรจงคลี่กระดาษออกอย่างเบามือ
แล้วเจื้อยแจ้วเสียงหวานใส อ่านความจากแดนไกล
คุณจำเริญนั้นได้บรรยาย วิสัยกินอยู่นอนหลับณ.ต่างแดนเพียงเล็กน้อย
ครานี้ข้อความมากกว่ากึ่งในกระดาษ
คุณจำเริญ ได้บอกเล่าความประมาทของเหล่าลูกหลานผู้มีอันจะกิน
ซึ่งล้วนมาเพื่อนเล่าเรียนที่เมืองฝรั่ง ทั้งหมดทั้งสิ้นร่วมหลายสิบคน
ใจความตอนหนึ่งมีว่า...
คุณพ่อคุณแม่ขอรับ โจรผู้ร้ายฉกชิงวิ่งราวมิได้มีแค่เพียง ในประเทศบ้านเรา
ที่เมืองฝรั่งนี้นั้น เหตุร้ายมีไม่เว้นแต่ละวัน อันตรายไม่น้อยเลยขอรับ
ด้วยลูกท่านหลานเธอ จำเพาะอย่างยิ่งประดาผู้มีสตางค์มาก
ต่างพากันประดับประดาอาภรณ์ เครื่องแต่งตัวกันเหลือเกิน
สร้อยสนิมพิมพาภรณ์ ราคาแพง หอบหิ้วจากประเทศไท
แต่งกายไปเรียนราวกับจะไปงานราตรีสันนิบาตใหญ่โต
หาพ้นภัย ตกเป็นเหยื่อเหล่ามิจฉาชีพชั้นต่ำ
จี้ปล้น ฉุดกระชาก แย่งชิง เจ็บเนื้อเจ็บตัวเป็นทิวแถว
เป็นที่น่าสมเพชนักด้วยยังมิเข็ดหลาบ บ้างว่าฟาดเคราะห์ไป หาเสียดายไม่
กลับประโคมขันแข่งแต่งกายไม่มีสติ ทำให้สูญทรัพย์สินบุพการีไม่น้อย
ตัวลูกเองนั้น เพลาก่อนจากบ้านมา
ได้มอบแก้วแหวน แลเครื่องประดับเชิดชูตนทั้งหมดทั้งสิ้นแห่งลูก
มอบหมายให้น้องแดง เป็นธุระเก็บงำเป็นที่เรียบร้อย
ลูกมิได้นำสิ่งใดติดตัวไปด้วย
เว้นแต่สายสร้อยผ้าร่มสีดำ อีกทั้งองค์พระประทับในกรอบพลาสติกราคาถูก
สิ่งเดียวนี้เท่านั้นขอรับ สิ่งของด้อยราคา แต่ทรงคุณค่า เปี่ยมด้วยมงคลแก่ลูก
สายสร้อยเส้นนี้ลูกสวมใส่ติดคอ ไม่ว่ายามหลับหรือยามตื่น
ลูกเชื่อมั่นแลศรัทธานักว่า
คุณพระคุณเจ้าท่านจะปกปักรักษาลูกให้เล่าเรียนได้ตลอดจนถึงฝั่ง
ยามลูกท้อใจ เศร้าหมองคะนึงถึงผู้คนแลผืนดินไท
ลูกมักลูบคลำสายสร้อยแล้วให้บังเกิดความตื้นตัน
แรงใจมาจากของที่ติดตัวมา สงเคราะห์ความอดทนให้บังเกิดแก่ลูก
คุณพ่อคุณแม่ขอรับ ลูกคนนี้อยู่แดนไกลนัก ไม่อาจพบปะบุคคลอันเป็นที่รัก
ให้ห่วงหาอาลัยเหลือคณานับ
ลูกขอให้คำมั่นต่อหน้าองค์พระที่ลูกสวมใส่ ลูกจะเร่งศึกษา กลับมา
แลนำความรู้มารับใช้บ้านเกิดเมืองนอน ผืนดินไท
หากแม้นลูกล่วงรู้ว่า
บรรดาลูกทาสไอ้อีที่คุณพ่อคุณแม่ของลูก ให้ทานความรู้แก่มัน
มิตั้งตาไขว่คว้า เล่าเรียนเฉกเช่นเดียวกัน
ลูกนี้คงคับข้อง เคืองใจ แลสิ้นหวังในตัวมัน
ขอให้น้องแดงของลูกเป็นธุระ กำชับ เคี่ยวเข็ญพวกมันด้วยเถิด
ท้ายความนั้นเล่าคุณจำเริญคัดลอกกลอนแปด
บทประพันธ์ในพระสุนทรโวหาร(ภู่)
บทที่ว่า...
“โอ้จากเรือนเหมือนนกที่จากรัง
อยู่ข้างหลังก็จะแลชะแง้คอย
ถึงยามค่ำย่ำฆ้องจะร้องไห้
ร่ำพิไรรัญจวนหวลละห้อย
โอ้ยามดึกดาวเคลื่อนเดือนก็คล้อย
น้ำค้างย้อยเย็นฉ่ำที่อัมพร
หนาวอารมณ์ลมเรื่อยเฉื่อยเฉื่อยชื่น
ระรวยรื่นรินรินกลิ่นเกสร
แสนสงสารบ้านเรือนเพื่อนที่นอน
จะอาวรณ์อ้างว้างอยู่วังเวง”
กลอนสุนทรภู่ บางตอนจาก "พระอภัยมณี"
(ตอน พระอภัยมณีเป่าปี่ ช่วยศรีสุวรรณ สินสมุทร และพราหมณ์ทั้งสาม)
---------------------------------------------------------------
คุณแดงอ่านสิ้นถ้อยความจากคุณจำเริญ
เสียงข้าทาสต่างสรรเสริญคุณจำเริญในอันที่ว่า
เป็นบุญหัวไอ้อีข้าทาสแห่งเรือนพระยาศรีพิพัฒน์ยิ่งนัก
ท่านแลลูกเมียท่านต่างมีเมตตาแก่พวกมันจนชั่วลูกหลาน
เป็นที่ริษยาแก่บรรดาทาสจากเรือนอื่น
ด้วยนายเงินนั้นหนา หามีท่านใดได้ใส่ใจความเป็นอยู่ของขี้ข้าในเรือน
กินรึก็ไม่อิ่ม นอนหนาวนอนร้อน ท่านมิได้อาทร
อาหาร ผ้าผ่อนขัดสนยิ่งนัก
พระยาศรีพิพัฒน์หัวเราะร่า เบือนหน้าไปกล่าวกับภรรยาท่าน
ดูเถิดคุณหญิง ลูกชายคุณหญิงเจ้าคารมนัก
ช่างสรรหาถ้อยคำ ฉอเลาะราวกับเกี้ยวหญิง
กลับมาครานี้คงได้เพลาออกเรือนเสียที
คราแรกนั้น ไอ้ลอยมันหลงใหลยิ้มกว้าง หน้าร้อนรับกับความนัย
แม้นโง่เง่าด้วยก่อนหน้ามิมีวาสนาร่ำเรียน
มันกลับได้คิดตรองเองตามเนื้อสมองแห่งมันว่า
คุณจำเริญนั้นหนามีใจอนาทรต่อมันไม่น้อย สอนสั่งกำชับมันให้อดทน หมั่นเพียร
ไหนจะสายสร้อยด้อยค่าของมัน
ท่านมิรังเกียจรังงอน สวมใส่ห้อยไว้กับอก
อีกทั้งบทกลอนที่แม้นมันเข้าใจได้ไม่ถ้วนทั่วทุกถ้อยความ
มันคิดด้วยเข้าข้างตน คิดแปรความหมายเองว่า
คุณจำเริญท่านอาลัยห่วงใยมันไม่น้อย
มันนี้แสนลำพองในใจนัก อิ่มเอมเปรมใจ ดั่งน้ำทิพย์โชลมรดลงมาที่หัวใจ
ตราบจนไอ้ลอยได้สดับคำ ท่านพระยาปรารภกับคุณหญิงท่าน
ในถ้อย อันว่า สมควรแก่เพลาจัดแจงให้ลูกชายท่านออกเรือน
คราหน้าเมื่อคุณจำเริญ กลับบ้านเกิดเมืองนอนผืนดินไท
สติราวฟั่นเฟือน เปลี่ยนจากหน้าเป็นหลังมือในทันใด
ทุกข์ใจนั้นหนักหนาสาหัส ราวมีมือไม้นับร้อยนับพัน มาขยำแลขยี้
จนใจของมันนั้นแหลกละเอียด มันกล้ำกลืนฝืนข่มหยาดน้ำตามิให้ผู้ใดล่วงรู้
แต่ไอ้ลอยเอ๋ย น้ำตาเหล่านั้นกลับย้อนมาท่วมท้นในหัวอก
บังเกิดความอึดอัด ทุกข์ทนในใจยิ่งนัก
คุณแดงเองมิได้เฉลียวใจด้วยหาได้ยินดั่งไอ้ลอยไม่
ด้วยมัวแต่คิดขำคุณพี่เธออยู่ในใจ
คุณพี่จำเริญของน้องนี้ ช่างเจ้าอุบายแลคารมเหลือเกิน
หากน้องนี้มิมีเหตุให้ได้บังเอิญรู้ความนัยเสียก่อน
น้องคงมิอาจคำนึงถึงเจตจำนงแฝงเร้นของคุณพี่เป็นแน่แท้
แล้วคุณหนูแดงในวัยสิบสามย่างสิบสี่ ฤดูร้อนหนาว
รำพันด้วยตนผู้เดียวว่า
“อดอะไรจะเหมือนอดที่รสรัก อกจะหักเสียด้วยใจอาลัยหา
ไม่เห็นรักหนักสิ้นในวิญญา จะเป็นบ้าเสียเพราะรักสลักทรวง”
------------------------------------------------
ไอ้อีลูกทาสผลัดแรก ได้ทานความรู้จากนายเงินจำนวนนับแปดคน
เพลาล่วงไปไม่กี่วันคืน…
ต่างคร่ำครวญ ด้วยผิดวิสัยทาส พวกมันนั้นแรงกายมากมายก่ายกอง
ทำงานอาบเหงื่อ หาทุกข์เข็ญไม่
แต่แรงใจ แลแรงใฝ่เรียนหามีได้ เพียงน้อยนิด
อีกด้วยมิตระหนักว่าจะมีคุณอันใดแก่มัน มิได้ให้เบี้ยมันแม้แต่ไพเดียว
(“ไพ” เป็นสกุลเงินต่ำสุด “4ไพ เป็น1เฟื้อง” “2เฟื้องเป็น1สลึง”)
หลงเหลือเพียงไอ้ลูกทาสลอยแลไอ้ลูกทาสเข้ม ที่มิยอมถอดใจ
มันสองคนมีความมุ่งหมายผิดแผกกัน
ไอ้ลูกทาสลอยนั้น ในเพลาแรกทุ่มเทแรงกายแลใจของมัน
เก็บเกี่ยว ฝึกปรือ เล่าเรียน อย่างสุดหัวใจ ด้วยหวังประจบเอาหน้าคุณจำเริญ
แลอยากทำตัวให้ท่านโปรดปราน
ต่อเมื่อได้สดับฟังถ้อยคำหมายมาดของพระยาศรีพิพัฒน์ผู้นายเงิน
ตระเตรียมเพียงลูกชายกลับมา จึงเร่งให้ออกเรือน
ไอ้ลอยฝืนกล้ำกลืน ความผิดหวัง
สลัดความท้อแลน้อยใจออกยากเข็ญนัก
มันดับความเสียใจ โดยร่ำเรียนกอบโกยตำราวิชาเบื้องต้นจากพระคุณท่านพระผู้ใหญ่
อย่างมุมานะ มิให้มีสมองแลเวลาคร่ำครวญ
ข้างฝ่ายไอ้ทาสเข้มนั้นเล่า มันแสนเกียจคร้านการงาน
เป็นจังหวะโอกาสหลีกลี้งานหนัก
นั่งโงกนั่งงุด เรียนบ้าง งีบบ้าง หาได้ตักตวงดังเช่นเพื่อนทาส
ไอ้ทาสลอยมุ่งมั่นศึกษาก้าวรุด รวดเร็ว
สงบอกใจ ข่มความคิดนอกลู่ หวังให้คุณจำเริญพึงใจ
พระอำพลให้ฉงนในความเฉลียวของมันยิ่งนัก
ท่านหรี่ตาเพ่งมองลักษณะไอ้ทาสลอยอย่างพินิจพิเคราะห์
ท่านคำนึงอยู่ภายในใจว่า
ไอ้ลูกทาสคนนี้ หน่วยก้านมันองอาจ ผึ่งผาย แม้นจะนอบน้อม
มันมีลักษณะของผู้มีอำนาจวาสนา
พระอำพลบังเกิดแรงศรัทธากล้า ใคร่ล่วงรู้ชะตาแลวาสนาของมัน
ท่านจึงกล่าวกับไอ้ลอยว่า
โยมลอย เจ้าจงบอกวันเดือนตกฟากของเจ้ามา อาตมาจักลองผูกดวงเจ้าดู
พระอำพลท่านนี้ เป็นพระผู้ใหญ่มากพรรษา
บวชเรียนตั้งแต่ครั้งบวชทดแทนพระคุณพ่อแม่
บัดนี้ล่วงไปไม่น้อยกว่าสามสิบพรรษา
ท่านผูกดวง ทำนายชะตาแม่นยำนัก
แต่น้อยคนนักที่ท่านจะผูกดวงให้ ด้วยการทำนายเป็นศาสตร์ทางไสย
มิควรข้องเกี่ยวพร่ำเพรื่อ
บรรดาขุนนางแลคหบดีในพระนคร ต่างเวียนกันมากราบขอท่านผูกทำนายดวงชะตา
แต่น้อยคนนักที่ท่านจะเมตตา
ขอรับพระคุณท่าน
ไอ้ลอยรับคำแล้วขีดเขียน วันเวลาตกฟากของมัน
นอบน้อมถวายพระอำพลท่าน
แล้วมันนั่งนิ่ง จิตใจจรดจ่อเฝ้ารอคำทำนายจากท่าน
พระอำพลขีดเขียนกระดานไม่นานนัก
ไอ้ลอยหายใจไม่ทั่วท้อง หวั่นคำทำนายอันเลื่องลือว่าแม่นยำ
ไอ้เข้มตื่นเต้นยิ่งกว่า มันใคร่รู้ดวงชะตาไอ้ลอยนัก
ค่าที่ไอ้ลอยนั้นมันแตกต่างแปลกแยกจากพวกตน ทั้งหน้าตาแลนิสัย
ประเหมาะเคราะห์ดีหวังฝากตัวพึ่งพา
ไอ้เข้มเจ้าจงออกไปก่อนเถิด อาตมาใคร่บอกกล่าวเพียงเจ้าของชะตา
หานับรวมผู้อื่นไม่ หากเจ้าใคร่รู้จงไต่ถามจากเจ้าตัวในเพลาอื่น
ไอ้เข้มคลานเข่าออกไป ไม่ใคร่เต็มใจนัก แต่มิกล้าขัดพระท่าน
พระอำพลจับจ้องมองเจ้าของดวงชะตาในมือท่าน แล้วเอ่ยทำนายว่า
หากวันเดือนตกฟากของเจ้าไม่คลาดเคลื่อน
ดวงชะตาของเจ้านั้น
แรกอาภัพนักด้วยกำเนิดมาในชาติภพต่ำต้อย
เจ้าจงปกปักษ์รักษาตัวให้ดี ด้วยกาลภายหน้าเจ้าจะมีวาสนาเกินกว่าใครคาดคิด
หากเจ้าฝักใฝ่ทางพุทธธรรม บวชเรียน ต่ำสุดเจ้าไม่น้อยกว่าเจ้าอาวาสวัด
แต่หากเจ้าใฝ่ทางโลก ยศศักดิ์เจ้าไม่ด้อยกว่าผู้ใด
จงจำคำอาตมาเอาไว้ให้ดี
----------------------------------------------------------
ยังไม่ได้ตรวจคำผิดนะครับ
เอามาลงให้ก่อนนอน
พรุ่งนี้ไม่มานะครับ...มีเดท คริ คริ
ไอ้ทาสลอย แล คุณจำเริญ
ฝากภาพถ่ายมาขอรับ
[attachment deleted by admin]