[เรื่องสั้น] รักคืออะไร (ตอนพิเศษ ปอดิน) [ย้ายได้เลยค่ะ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] รักคืออะไร (ตอนพิเศษ ปอดิน) [ย้ายได้เลยค่ะ]  (อ่าน 20097 ครั้ง)

ออฟไลน์ เงาใต้น้ำ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +116/-3
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)




รวมผลงานค่ะ :
รักคืออะไร
พอเพียงรัก
อสรพิษที่รัก,เธอที่รัก,พลังอธิษฐาน
ยุคไหนวะ?
รักข้ามสายพันธุ์ (เมื่อสามีไม่ใช่คน)
เจ้าชาย&อสูร



Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-07-2014 00:42:50 โดย OIL1982 »

ออฟไลน์ เงาใต้น้ำ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +116/-3
Re: [เรื่องสั้น] รักคืออะไร 1 ก.พ. 57
«ตอบ #1 เมื่อ01-02-2014 01:42:57 »

รักคืออะไร?

คำๆ นี้  มีความหมาย  มากมายเกินใครจะรู้
อยากจะเห็น  อยากลองดู  แม้เดิมพันด้วยชีวิต
รักคืออะไร  ไม่มีคำตอบ  รู้เพียงว่ารัก  คำนี้ที่เราต้องการทุกคน
รักคืออะไร  ไม่มีใครตอบ  รู้เพียงว่ารัก  นำฉันให้มาพบเธอ

กี่รอยช้ำ  กี่รอยแผล  ก็ยอมเพื่อคำๆ นี้
อาจจะร้าย  อาจจะดี  ขอลองพิสูจน์กับมัน
รักคืออะไร  ไม่มีคำตอบ รู้เพียงว่ารัก  คำนี้ที่เราต้องการทุกคน
รักคืออะไร  ไม่มีใครตอบ  รู้เพียงว่ารัก  นำฉันให้มาพบเธอ

จะวันนี้วันไหนความรักไม่มีวันจากโลกไป
จะกลายเป็นตำนาน  บันทึกเรื่องราวดีๆ มากมาย
อานุภาพแห่งรัก  นั้นแสนจะยิ่งใหญ่  กว่าใดๆ
อยากจะรู้ความหมาย  ต้องค้นกันไปอีกนาน



เรื่องสั้นฆ่าเวลา  ไม่มีสาระ  ไม่มีความหมายอะไร...






“คืนนี้ไปไหนกันดีวะ”  น้ำเสียงร่าเริงเอ่ยถามเพื่อนที่เดินมาด้วยกัน 

“ที่เดิมแล้วกัน  ไปแก้เซ็งก็ดี  หนักมาทั้งอาทิตย์เลยมึง  กูเหนื่อยโคตรๆ” 
คนพูดที่ตัวสูงกว่ายกมือขึ้นกอดรอบคอเพื่อนเดินออกจากตึกเรียน 
แต่อีกคนหยุดฝีเท้าหันกลับไปด้านหลัง 
ดวงตาโตจ้องมองใครบางคนที่นั่งซบหน้าอยู่กับกระเป๋าเป้ตรงโต๊ะม้าหินอ่อน

“ปอ  เราชวนมันไปด้วยดีมั้ยวะ  กูไม่เห็นมันพูดกับใครเลย  มันอาจจะอยากมีเพื่อน”

คนตัวสูงกว่าหันไปมองเพื่อนร่วมโลกแล้วส่ายหน้า 
“อย่าเลยว่ะ  มันทำตัวเองนี่หว่า  หยิ่งเองก็ช่วยไม่ได้  อย่าไปยุ่งกับมันเลย  ต่างคนต่างอยู่ก็ดีอยู่แล้ว”

“มึง...ใจร้ายว่ะ”  สิ้นเสียงสุดท้าย  คนพูดก็ถูกดึงออกไปพร้อมกับเสียงหัวเราะ
และเสียงตะโกนเรียกจากเพื่อนกลุ่มใหญ่ที่ยืนรออยู่ตรงลานจอดรถ 
ไม่นานต่างก็แยกย้ายกันออกเดินทางไปยังจุดนัดพบที่ได้คุยกันไว้ล่วงหน้า

เสียงพูดคุยเลือนหายไป  ทั่วทั้งบริเวณเงียบสงบไร้ผู้คน 
ทำให้คนที่ฟุบอยู่กับกระเป๋าเงยหน้าขึ้นมองไปรอบๆ ดวงหน้าหม่นหมองก้มลงมองฝ่ามือ 
มองอยู่อย่างนั้นเนิ่นนานจมลืมเวลา  ไม่ทันสังเกตว่าใครอีกคนเดินเข้ามาใกล้ 
แล้ววางมือบนไหล่คล้ายต้องการปลอบใจ

“ดิน  กลับบ้านกัน”  เสียงเรียกทำให้ต้องเงยหน้ายิ้มให้กับคนเรียก 
เขาพยักหน้าแล้วลุกตามไป  ทำเหมือนที่เคยทำทุกวัน



“วันนี้พี่ลมไปไหนรึเปล่า”  คนน้องเอ่ยถามพี่ชายเมื่อรถจอดในตัวบ้านสองชั้นหลังกะทัดรัด

“คงออกไปไม่นานหรอก  ถามทำไม?”  พี่ชายปิดประตูรถ  มองตามน้องชายที่ไม่ตอบอะไร 
แต่หันหลังเดินนำเข้าด้านในไปก่อน  เห็นแบบนั้นก็เลยเดินออกไปปิดประตูรั้วหน้าบ้าน 

ฟ้าครึ้มทำให้ดูเหมือนจะมืดเร็วกว่าปกติ  อีกไม่นานฝนคงจะตก 
ดวงตาหม่นแสงมองไร้จุดหมายไปยังก้อนเมฆบนฟ้า  นึกถึงความสุขที่อยู่แสนไกลเกินจะเอื้อมถึง 
ชีวิตเพียงใช้ไปวันต่อวัน  หวังให้ความทุกข์ที่มีเลือนหายไปในสักวันหนึ่ง 
ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรทั้งหมดที่มี  ก็อยากให้ถึงวันที่มีความสุขจริงๆ เสียที



ดินกินข้าวเสร็จก็อาบน้ำ  แล้วนอนดูละครอยู่บนเตียง  สายตาเหลือบมองพี่ชายที่เดินเข้ามาในห้อง 
นั่งลงข้างๆ แล้วยื่นหน้ามาหอมแก้มเขาเหมือนที่เคยทำ 
“อย่ากลับดึก  ขับรถดีๆ ด้วย”  เอ่ยบอกพี่ชายพร้อมขยับเข้าไปกอดไว้ครู่หนึ่ง

“เราก็อย่านอนดึกนะ  พี่ให้ดูได้แค่สี่ทุ่ม  ไม่อย่างนั้นเอาไปทิ้งแน่ๆ” 
คนพูดหันไปคาดโทษเอากับทีวี  แล้วลุกออกจากห้องไป  ทิ้งน้องชายไว้ตามลำพัง







“ปล่อยนะ  พากูมาทำไม  มึงคิดจะทำอะไร” 

ลมมองคนที่ขยับตัวหนีเขาไปถึงหัวเตียงด้วยสายตาไม่บ่งบอกอารมณ์ 
เขาลักพาตัวมันมาเมื่อสักครู่  ตัวมันเตี้ยกว่าเขาแล้วก็ผอม  ไม่ได้ยากในการฉุดขึ้นรถ 
หรือกระทั่งลากเข้ามาในห้องนอน

“ตะโกนไปก็ไม่มีคนมาช่วยได้หรอก  รู้อย่างนี้แล้วจะเสียงดังให้เหนื่อยอีกมั้ย”

“มึงพากูมาที่นี่ทำไม”  เป็นคำถามที่แสดงความกังวล  สีหน้าของคนพูดดูหวาดกลัว
แน่ล่ะเขาสู้แรงมันไม่ได้ก็เห็นๆ กันอยู่  แล้วจะไม่กลัวได้อย่างไร

“คงไม่ได้พามานอนเล่นหรอกมั้ง”  คนพูดก้าวขึ้นเตียง 
ดึงคนที่พยายามขยับหนีเข้าสู่อ้อมกอด “ไม่รุนแรงหรอก...”





บางครั้งความเจ็บปวดก็ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะสัมผัสที่ได้รับ 
แต่ขึ้นอยู่กับความรู้สึกต่อเรื่องที่เกิดขึ้นต่างหาก 
เสียงสะอื้นดังมาจากคนข้างตัวทำให้ลมเพิ่มแรงกอด  แม้จะไม่ช่วยบรรเทาเบาบางอะไรได้ 
แต่อย่างน้อยก็เป็นการปลอบโยนจากความตั้งใจของเขา  แม้แต่การทำร้ายก็มาจากความตั้งใจไม่ต่างกัน


ความรู้สึกปวดตัวทำให้ออมร้องออกมา  เวลาเท่าไหร่ไม่รู้  รู้แค่ว่าปวดหัวตัวร้อนไปหมด 
ได้ยินเสียงคุยกันดังเข้ามาใกล้  ความทรงจำบางอย่างไหลเวียนกลับมา 
ทำให้ต้องหลับตานิ่ง  อย่างน้อยก็ยังไม่อยากพูดคุยอะไรกับใครตอนนี้

“พี่ลม  ทำยังไงดี  ดูเหมือนจะตัวร้อนล่ะ”  เสียงไม่คุ้นเคยดังขึ้น 
หลังจากฝ่ายนั้นยื่นมือมาอังหน้าผากของออม 
“เดี๋ยวดินไปต้มโจ๊กดีกว่า  พี่ลมเช็ดตัวให้ออมนะ  ไว้ให้ดีขึ้นก่อนค่อยพาไปส่งดีกว่า”

คนแกล้งหลับอยากจะบอกเหลือเกินว่า  ช่วยพาเขากลับไปส่งที 
ไม่ต้องมาคอยดูแลให้ลำบากหรอก  แต่พอคิดอีกทีถ้าต้องกลับไปในสภาพนี้ก็ลำบากไม่น้อย 
ว่าไปแล้วก็ลำบากใจทั้งสองทางเลือก  ยังไม่ได้ทันได้ว้าวุ่นต่อ 
ก็รับรู้ถึงสัมผัสอุ่นที่ไล้เช็ดไปตามหน้าและลำตัวเปล่าเปลือย 
ผ้าอุ่นๆ นั้นลากผ่านไปทุกจุดอย่างแผ่วเบาอ่อนโยน  ขัดกับความรู้สึกที่มีต่อกันเสียเหลือเกิน

“รู้สึกยังไงบ้าง”  เสียงนั้นเอ่ยถามเมื่อออมลืมตาขึ้นมา  ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงมาหา 
ริมฝีปากทิ้งสัมผัสไว้บนหน้าผากเนิ่นนาน  ก่อนจะเอ่ยถามต่อ  “หิวมั้ย”

“อย่ามายุ่ง...”  เป็นคำตอบเดียวที่ออมอยากจะตอบ

“ถ้าไม่หายป่วย  ก็ไม่ต้องกลับนะ”  คนพูดลุกขึ้นยืน  เซไปเล็กน้อย 
แต่ก็เดินถือกะละมังเข้าห้องน้ำหายไป

“ตื่นแล้วเหรอ  กินโจ๊กก่อนนะ  จะได้กินยา”  ดินกลับเข้ามาพร้อมชามโจ๊ก  กลิ่นหอมไปทั่วห้อง

ออมจ้องมองเพื่อนร่วมห้องตาแทบถลน  เขาไม่เคยได้ยินเสียงอีกฝ่ายพูดกับใครด้วยซ้ำ 
ทั้งที่เรียนร่วมห้องกันมาเกือบสองปี  “มึงรู้เห็นเป็นใจกับพี่มึงเหรอ”  สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไป

“เปล่า  เพิ่งรู้”  ดินตอบแค่นั้น  เป่าโจ๊กในมือก่อนจะป้อนให้ออม 
ช่างดูอ่อนโยนเหมาะสมกับหน้าหวานๆ ของมัน  ออมเลยต้องยอมกินดีๆ กลัวมันเสียน้ำใจ

ลมเดินกลับออกมาจากห้องน้ำ  สีหน้าดูเหนื่อย  มันเหลือบมองออมนิดหนึ่ง   
ก่อนจะเดินไปล้มตัวลงนอนอีกฝั่ง  ดินวางมือจากชามโจ๊กเดินเข้าไปหาพี่ชาย 
ทรุดตัวลงข้างเตียง  เลื่อนมือลูบหน้าพี่ชายที่หลับตานิ่ง

“พี่ลม  ปวดหัวเหรอ”   คนถูกถามพยักหน้านิดหน่อย  “งั้น  นอนพักสักหน่อยนะ  ไม่ได้นอนเลยนี่”   
ดินแสดงแววตาเป็นห่วงให้ออมเห็นชั่วครู่  ก่อนจะลุกมาป้อนโจ๊กให้ออมต่อ

“พี่มึงออกแรงมากเลยเป็นลมหรือไง”  ออมประชด  ทำหน้าเบ้ใส่คนนอนหลับ

ดินมองคนพูดหน้าเสีย  เขารู้ว่าออมคงโกรธพี่ชายเขามาก  แต่ก็คงแก้ตัวแทนไม่ได้  “อดนอนน่ะ...”

“น่าจะตายไปซะเลยนะ...”  คนพูดไม่สนใจสีหน้าของคนฟังแม้แต่น้อย  ยังคงลอยหน้าลอยตายิ้มอย่างสะใจ

“อือ...ขอโทษนะ”ดินพูดเสียงแผ่ว  ทำให้ออมเกิดสงสารจึงสงบปากสงบคำทันที 
คนผิดไม่ใช่เพื่อนร่วมห้องเขาเสียหน่อย




สองวันที่ต้องอยู่บ้านคนที่แทบจะไม่รู้จัก  โชคดีที่เป็นวันเสาร์อาทิตย์ 
อาการไข้ดีขึ้นมากแล้ว  สองพี่น้องดูแลออมอย่างดี 
ถ้าไม่อคติเกินไปออมก็ยอมรับว่าพวกมันเป็นคนอ่อนโยน 
แม้คนพี่จะติดฉวยโอกาสกับเขาตลอดเวลา 
เพราะแทบนับไม่ได้เลยว่ามันกอด  หอม หรือจูบเขาไปกี่รอบ 
เรียกได้ว่าทุกครั้งที่อยู่ใกล้นั่นแหละ  แล้วมันก็ช่างหาเวลามาอยู่ใกล้เขาทั้งวันทั้งคืนด้วย


“พรุ่งนี้มีเรียนมั้ย”

ออมละสายตาจากทีวีมามองคนพูดที่นอนอยู่ข้างๆ 
สงสัยว่ามันไม่รู้ตารางเรียนของน้องมันบ้างหรือไร 
“มีแต่ไม่เรียน  พาไปส่งที่คอนโดแล้วกัน” 
เขาไม่ได้บอกมันต่อว่าเป็นคอนโดของปอเพื่อนสนิทแต่ทำไมจะต้องบอก

“อือ...”  เสียงนั้นตอบรับ  ขยับตัวขึ้นมาจูบหน้าผากเขาเป็นรอบที่ร้อย 
แถมยังหอมแก้มไปอีกหลายรอบ  เคยดิ้นจนเหนื่อยก็ไม่เคยพ้นก็เลยปล่อยให้มันทำไป
 
“อย่านอนดึกนะ  เสียสุขภาพ”  เสียงลมบอก  ก่อนจะนอนกอดออมหลับไปก่อน 

“อะไรของมึงเนี่ย...”  ออมสบถอยู่คนเดียว  อ้อมกอดรัดเขาจนแน่น 
จึงต้องขยับตัวเข้าไปหามันจะได้ไม่ถูกรัดไปมากกว่านี้  เดี๋ยวหายใจไม่ออกตาย 
กดปิดรีโมทในมือแล้วก็ใช้อีกมือเขี่ยตกเตียงไป  ก่อนจะหลับตามเจ้าของห้องในที่สุด







“ออม  มึงเป็นอะไร” 
เมื่อเปิดประตูห้องออกมาเห็นเพื่อนยืนตาแดงอยู่ปอก็รีบเอ่ยถาม 
ตั้งรับแทบไม่ทันเมื่อออมเข้ามากอดเขาแน่น  เสียงสะอื้นดังขึ้นอย่างไม่ปิดบัง 
ทั้งที่เพื่อนเขาใจแข็งยิ่งกว่าใคร  ตั้งแต่คบกันมามันไม่เคยร้องไห้ให้เห็นแม้แต่ครั้งเดียว 
แล้ววันนี้มันเรื่องอะไรกัน 


“มัน....”  เสียงนั้นเงียบหายไปเหลือเพียงเสียงสะอื้นไห้ที่ยังคงดังอยู่ภายในห้อง
ก่อนหน้านี้ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะร้องไห้  ไม่ได้รู้สึกว่าเสียอะไรไปมากมาย 
แต่พอเห็นหน้าเพื่อนสนิทเท่านั้น  บ่อน้ำตาก็เหมือนแตกละเอียดไปแล้ว


เกือบชั่วโมงกว่าเสียงสะอื้นจะเงียบหาย 
กว่าคนฟังจะรับรู้เรื่องราวกระท่อนแท่นจากเสียงที่สั่นตลอดเวลา 
เรื่องมันเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว  ไอ้เลวนั่นโผล่เข้ามาแบบไม่ให้ตั้งตัว 
แล้วสุดท้ายมันก็ได้ทุกอย่างไป  ยกเว้นเพียงอย่างเดียว...หัวใจ

“มันต้องไม่ได้อยู่อย่างมีความสุขแน่...”

ปอลูบผมคนที่หลับอยู่บนเตียงของเขา  ส่งผ่านความรู้สึกห่วงใยไปให้ 
ความรู้สึกที่เฝ้าทะนุถนอมมาตลอด  รักษาความเป็นเพื่อนไว้อย่างหวงแหน
ทำให้ไม่กล้าบอกความรู้สึกที่แท้จริง  สุดท้ายก็ถูกมือมารทำลายทุกอย่างลง 
ทุกอย่างมันพังทลายไปหมดรวมทั้งหัวใจของเขาด้วย

   




“มึงมานี่เลย” 
สิ้นเสียงดินก็ถูกลากขึ้นมาบนรถ  เขาไม่ได้ขัดขืนหรือพยายามดิ้นรนหนีไปไหน 
คิดว่าสักวันเรื่องนี้ก็คงต้องเกิดขึ้น  บางทีถ้าได้พูดจากันให้เข้าใจ 
เรื่องที่ค้างคาใจคงจบลงได้ในที่สุด  เขาไม่ได้มองโลกในแง่ดี 
เพราะรู้ว่าคนบนโลกทำให้โลกนี้ดูเลวร้ายแค่ไหน 
เพียงแต่ไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่จะต่อต้านสิ่งที่เกิดขึ้น 
ถึงจะต้องหนี...แต่ก็คงไม่ใช่ตอนนี้


“พี่มึงข่มเหงเพื่อนกู  ถ้าจะโทษกูมึงก็โทษที่พี่มึงเลวก่อนแล้วกัน”

ถึงที่หมายซึ่งก็คือคอนโดของตัวเอง  ปอก็ผลักดินลงกับพื้นห้อง 
ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเจ็บปวดแค่ไหน  เขารู้ว่าเพื่อนของเขาเจ็บปวด 
รอยยิ้มของมันหายไปจนเขารู้สึกปวดใจ 
คนทำมันก็ต้องได้รู้สึกไม่ต่างกัน...มันต้องเจ็บปวดเหมือนกัน  จะได้สาสมกับสิ่งที่มันทำลงไป

“คิดว่าแบบนี้มันดีแล้วเหรอ?”  ดินเงยหน้าถามคนกำลังโมโห 
เสียงมือของฝ่ายนั้นกระทบกับแก้มเขาดังขึ้น  ความเจ็บแล่นริ้วไปทั่วใบหน้า  ทั้งๆ ที่ไม่ได้ตั้งใจยั่วยุปอเลย

“มันดีแน่...”

คำตอบสุดท้าย...สัมผัสรุนแรงก็บังเกิด  เพราะความโกรธแค้นทำให้การกระทำไร้ความปราณี 

เนิ่นนานจนเห็นแสงสว่าง  ดินขยับตัวลุกขึ้นอย่างทรมาน  เขาไม่เห็นใครใกล้ตัว 
รู้แค่ว่าตัวเองอยู่กลางห้องที่เดิมจากเมื่อคืนวาน 
พยายามเหยียดกายลุกขึ้นอย่างยากลำบากเพราะความเจ็บปวด 
สวมใส่เสื้อผ้าแล้วรีบพาตัวเองออกจากห้องนั้นมาด้วยความกลัว 
แม้จะเจ็บปวดแค่ไหนสุดท้ายเขาก็ออกมาจนถึงป้ายรถเมล์แถวนั้นได้ 

มือสั่นเมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาพี่ชาย  บอกจุดให้มารับกลับ 
ในใจหวาดระแวงว่าอีกคนอาจจะมาพากลับไป  แล้วต้องรับมือกับความเจ็บปวดซ้ำๆ 
แต่เพียงไม่นานรถของพี่ชายก็จอดตรงหน้า  ลมลงมาอุ้มน้องชายขึ้นรถไม่สนใจสายตาใคร 
ก่อนที่รถจะแล่นออกจากบริเวณนั้น...เพื่อกลับบ้าน





“ไหวมั้ย”  ลมเอ่ยถามขณะเช็ดตัวให้ดินไปด้วย 
“ไม่คิดว่ามันจะทำขนาดนี้  ถ้าไม่ไหวจะหยุดเรียนไปเลยก็ได้นะ  มันไม่ได้มีความหมายอะไรกับเราอยู่แล้ว”

ดินหัวเราะ  ยกมือกุมมือพี่ชายแนบไว้กับหน้า 
“ดินกลัวนะ  คงไม่ไปเรียนแล้วล่ะ  อยู่บ้านเฉยๆ ดีกว่า  พี่ลมระวังตัวนะ  ดินกลัวเค้าจะมาทำร้ายพี่ลม”

“อือ  ถ้าเราไม่ไหว   เราไปเลยนะ  อย่าอยู่ที่นี่อีกเลย” 

“ครับ...”  ดินตอบรับพี่ชายด้วยรอยยิ้ม  จึงถูกดึงไปกอดไว้แนบอก 
กลัวอีกคนกังวลจึงต้องพูดปลอบใจ  “ไม่เป็นไรน่า  เจ็บก็แค่ทนนั่นแหละ  เดี๋ยวก็ชิน”

“ถ้าเราไม่เข้าไปยุ่งกับพวกนั้นจะดีกว่ามั้ยนะ”  คนพูดมองเหม่อไร้จุดหมาย 
แม้จะรู้ว่าย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว 
“รอดูเหตุการณ์ก่อน  ถ้าพวกนั้นไม่สนใจเราแล้ว  พี่จะหยุดทันที”


“อือ...แล้วเราก็ไปจากที่นี่กัน” 

“ใช่...ตามนั้นแหละ”  ลมก้มลงหอมแก้มน้องชาย 
โยกตัวไปมาคล้ายจะปลอบโยนบรรเทาความเจ็บปวดที่ได้รับมา 
สาเหตุหนึ่งก็มาจากเขานี่แหละ  แต่เขาก็ไม่ใช่สาเหตุทั้งหมดที่ทำให้ดินต้องเจ็บปวดหรอก


ความรัก...ช่างไกลเหลือเกิน











“ออม  มึงกลัวมั้ย?”  ปอเอ่ยถามเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ใกล้ๆ
มันทำหน้างงเพราะมัวแต่กินขนมตายังคงจับจ้องรายการสารคดีเกี่ยวกับนกอินทรี

“กลัวอะไรวะ”

“กลัวไอ้ลมไง”  ปอหันไปมองเพื่อนที่เพียงแค่ส่ายหน้า 
ทั้งที่ดวงตายังคงจ้องมองภาพในจอสี่เหลี่ยม  “ก็ดี  พวกเรามาทำเรื่องดีๆ หน่อยเป็นไง”

ออมละสายตาจากหน้าจอหันมามองหน้าเพื่อน 
“มึงจะทำอะไรวะ?  พวกนั้นมันมืดมนจะตาย  อย่าไปยุ่งกับมันเลย  ชีวิตเราจะตกต่ำไปด้วยเปล่าๆ”

“กูผิดตรงไหน  ที่อยากให้มันมีความสุขก่อนตาย”

“มึงจะเอาถึงตายเลยเหรอวะ?”  ออมคาดคั้น  ดูเพื่อนมันจริงจังเกินไป

“มึงคิดว่าจะมีคนตายเพราะอกหักมั้ยวะ  ในเมื่อตอนนี้มึงก็ยังนั่งอยู่ตรงนี้ 
ไม่ได้ตายไปไหน  กูจะเพลาๆ ให้มันบ้างแล้วกัน   
แต่พวกมันควรได้รับผลกรรมบ้าง  กูคิดแบบที่พูดจริงๆ”

“ก็ได้วะ  ถ้ามึงไปหลงรักมันขึ้นมา  มึงนั้นแหละจะได้รับผลกรรมแทน”

ปอหัวเราะ  ยื่นมือไปผลักหัวคนข้างๆ  “กูมีมึงทั้งคน  ยังจะมีใจไปหลงรักใครอีกวะ”

“...”  คนฟังอมยิ้มอยู่กับหน้าจอ  ไม่พูดอะไรอีก








“มีอะไรรึเปล่า...”

ลมเอ่ยถามเมื่อเห็นผู้มาเยือน  เพิ่งกลับมาถึงบ้านก็แปลกใจที่เห็นรถอีกคันจอดอยู่หน้าบ้าน 
พอเข้ามาก็เจอทั้งปอและออม  นั่งอยู่กับดินในห้องรับแขก 
เขาไม่รู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของทั้งสองคน  ไม่แน่ใจว่าจะทำอะไร 
หรือมีเหตุผลอะไรให้มาถึงที่นี่  ทั้งที่ในความเป็นจริงสองคนนี้น่าจะเกลียดพวกเขาเข้าไส้

“ก็ไม่อะไรมาก  มารอคุยกับมึง”  ปอเริ่มพูดก่อน  ออมจึงเดินไปดึงแขนลมให้มานั่งข้างกัน

“ขอโทษ”  ปอหันไปพูดกับดินที่นั่งหน้าซีด 
“ที่ทำลงไปทั้งหมด  กูขอโทษด้วย  มันคงดีกว่านี้ถ้ากูจะรับผิดชอบในความผิดที่ทำลงไป 
มึงก็จะทำเหมือนกันใช่มั้ย”  ตอนหลังปอหันไปถามลม


ลมพยักหน้า  หันมองออมแล้วดึงมากอดไว้  “ขอโทษนะ...”

“อือ...”  ออมยกมือลูบหลังอีกคน  “ไม่เป็นไร  เราเริ่มกันใหม่ทั้งหมดนี่แหละ...”


ความรู้สึกที่ต่อไม่ติด  แม้จะนั่งอยู่ภายในห้องเดียวกัน 
แต่สมองและหัวใจก็เป็นของใครของมัน 
ไม่มีทางที่ใครจะรู้ความรู้สึกใคร  หากอีกคนไม่เอื้อนเอ่ยออกมา 
และในเวลานี้ความรู้สึกต่างๆ ถูกเก็บไว้ให้เป็นความลับที่อยู่ลึกสุดใจ 
จะปล่อยให้อีกฝ่ายล่วงรู้ไม่ได้เป็นอันขาด


ความรักต่อให้จอมปลอมแค่ไหน  แต่สิ่งที่แสดงออกก็คือความรัก 
มือที่เกาะกุมกัน  อ้อมกอดที่คล้ายจะคอยปกป้อง  สัมผัสคล้ายปลอบประโลม 
การแสดงสมจริงที่เจือไปทั้งความรักและความหลอกลวง 
อยู่ที่ว่าจะถามความรู้สึกจากฝ่ายไหน  ฝ่ายรัก...หรือฝ่ายถูกรัก



ทุกอย่าง...มีจุดเริ่มต้นเสมอ











เป็นเรื่องที่ลงไปงั้น ๆ ไม่มีอะไรมาก  แค่อยากแต่งก็แต่ง
เนื้อเรื่องนี่วันเดียวเกือบจบ  ขาดตอนสุดท้าย
(ตอนนี้ยังคิดไม่ออกว่าจบประมาณไหน)
ลงไม่กี่รอบก็น่าจะหมดค่ะ...ลงทีเดียว  เดี๋ยวจะงงน้อยเกินไป 555
อยากให้งง  ลุ้น  หรือคาดเดาอะไรบ้างนิดหน่อย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-02-2014 22:14:23 โดย OIL1982 »

ออฟไลน์ Moose

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
Re: [เรื่องสั้น] รักคืออะไร 1 ก.พ. 57
«ตอบ #2 เมื่อ01-02-2014 02:44:07 »

สงสารดินจัง รอติดตามตอนต่อไปค่า

ออฟไลน์ เงาใต้น้ำ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +116/-3
Re: [เรื่องสั้น] รักคืออะไร 1 ก.พ. 57
«ตอบ #3 เมื่อ01-02-2014 20:01:27 »

“ไม่มีที่ไหนที่อยากไปบ้างหรือไง”

ปอเอ่ยถามคนที่นั่งกอดหมอนอยู่บนโซฟ้าหน้าจอทีวี 
ชวนมันไปกินข้าว  เดินเล่น  ดูหนัง  ก็หลายครั้ง  แต่ดินก็ปฏิเสธทุกครั้ง 
ไม่เข้าใจมันเหมือนกันว่าห้องของเขามีอะไรดี  มันถึงได้ชอบมาบ่อยๆ 
มาถึงก็ไม่ทำอะไรนอกจากนั่งกอดหมอนอยู่หน้าจอทีวีที่ไม่แม้แต่จะคิดเปิดดู

“ดินอยากมาที่นี่แหละ...”  เสียงนั้นตอบแผ่วเบา  แต่ปอก็ได้ยิน

“หรือว่าช่วงนี้จน  เลยอยากขโมยของห้องปอไปขาย  ไรว้า...มันไม่มีอะไรมีค่าหรอกนะ” 
ปอนั่งลงข้างๆ อีกคนแล้วเอ่ยล้อ

“อย่างกับจะแบกไปขายไหว”  คนพูดทำหน้ามุ่ย  แล้วก็หัวเราะออกมา 
ท่าทางแบบนี้ปอไม่เคยบอกมันเลยว่าน่ารักแค่ไหน

“รักปอมั้ย”  มือใหญ่ประคองหน้าหวานมาหอมแก้มซ้ายขวา  จบด้วยริมฝีปากอิ่มนุ่มนั่น

ดินขยับเข้ากอดคนพูด  เอ่ยบอกเสียงเบา  “รักสิ...รักมาก”  ท้ายเสียงนั้นยังคงแผ่วลงอีก 

เพราะหน้าซบอยู่กับอกจึงไม่ได้เห็นรอยยิ้มแสนกล  ดวงตานั้นฉายแววสมใจ 
ความรู้สึกที่ต้องการเขากำลังจะได้มันมาทั้งหมด  และในไม่ช้ามันคงจะพังทลายลงไป 
ทุกอย่างกำลังจะถึงจุดสิ้นสุด  ถามว่าสงสารไหม  แน่นอนว่าจะต้องสงสาร 
แต่คนเรามีทางเลือกไม่มากนักหรอก  ปอรู้...ว่าเขาเองก็มีคนที่รักมากอยู่อีกคน

ดินเอื้อมแขนกอดอีกคนเอาไว้แน่น  นึกถึงที่ที่อยากไปแล้วได้แต่เหนื่อยหัวใจ 
ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถเอ่ยบอกออกไปได้  ที่แห่งนั้นเขาคงไม่มีโอกาสได้พาปอไปด้วย 
และคนที่จะพาเขาไปได้ก็คงมีแค่พี่ชายคนเดียว 
ถ้าเหนื่อยจนสุดกำลังมันก็เป็นสถานที่พักผ่อนที่ดีที่สุด  พวกเขาจะมีความสุขมากที่สุด...


ความรัก...ใกล้ถึงจุดจบแล้ว





“อยากพาไปเที่ยวไกลๆ แต่คงไม่มีเวลา” 

ลมเอ่ยบอกเจ้าของตักที่เขานอนหนุนอยู่  ออมละสายตาจากทีวีก้มมองคนพูด 
ยกมือขึ้นลูบผมสีดำสนิท  ความรู้สึกเขาเหมือนกำลังลูบหัวหมาที่บ้าน 
เพราะมันชอบนอนอ้อนแบบนี้เหมือนกัน  ไม่รู้หรอกว่าคนพูดอยากจะพาไปไหน 
แต่หากถามว่าอยากจะไปด้วยไหม  เอาแบบไม่โกหกเลยก็คือ...ไม่อยากไป

“เอาไว้ปิดเทอมสิ...”  บอกไปแบบนั้น  ทั้งที่ไม่แน่ใจว่าเวลาของเขากับมันจะเหลืออีกนานแค่ไหน

“อาจจะไม่มีเวลาถึงขนาดนั้นหรอก”  ลมดึงมือออมเข้ามาจูบไล่ไปตามนิ้วมือทุกนิ้ว 
เวลาอันน้อยนิด  แค่จะทำให้ใจคนเปลี่ยนก็ยังน้อยเกินไป

“พี่ลมจะไปไหนอะ  ไปเรียนเมืองนอกหรือไง  ถึงบอกว่าไม่มีเวลา”  ออมถามอย่างสงสัย 
มันเป็นอะไรมากไหมกับเวลา  ทั้งพี่ทั้งน้อง  ทำอะไรเหมือนรีบทำตลอด

ลมเงยหน้ามองสบตาคนพูดแล้วยิ้ม  รอยยิ้มที่หายาก 
“ไปไกลกว่านั้นอีกนะ  อีกไม่นานก็จะได้ไปไกลกว่านั้นอีก”

“ไปด้วยดิ  ไปคนเดียวเหงาน้า...”  พูดเหมือนอ้อน  ถ้ายอมรับกันตามตรงก็เสแสร้งนั่นแหละ

“ไม่เหงาหรอก  ไปกับดินน่ะ  ส่วนออมก็อยู่นี่ก็ดีแล้ว  ไปด้วยก็ไม่สนุกหรอกจะคิดถึงเพื่อนเปล่าๆ” 

คำพูดของลมบางทีก็ทำให้ออมสงสัย  เหมือนมันจะรู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ 
แต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา  เล่นเกมเหมือนยื้อกันไปเรื่อยๆ  จนกว่าอีกคนจะเหนื่อยและเลิกไปก่อน 
เห็นทีปอคงจะต้องรีบเร่งแล้ว  ทุกอย่างจะได้จบเสียที  ขืนปล่อยให้อะไรค้างคาต่อไป 
เกิดเวลาเปลี่ยน  ใจคนเปลี่ยน  ทุกอย่างที่ทำมาคงล้มเหลวไม่เป็นท่า


ปลายทางกำลังใกล้เข้ามาอีกนิด...





“ปล่อยไปแล้วเหรอวะ  สงสารมัน”

ปอลูบผมคนพูด  ดวงตาเหม่อมองไปไกล 
“กูลงแค่ในบล็อกกู  ไม่มีใครเซฟได้หรอก  เชื่อกู...ขอเวลาอีกนิด 
เดี๋ยวกูลบออก  กูส่งไปให้พ่อมันทางเมลด้วย”

“ปอ  มึงลบเถอะ”  ออมยังคงขอร้อง  และเหมือนได้ผลเมื่ออีกคนลุกไปที่จอคอมพิวเตอร์ 
สักพักจึงเดินกลับมานั่งที่เดิม

“บล็อกกูเพื่อนเยอะ  เรื่องคงไปไกล  มึงอย่าซึมมาก 
ไม่ได้น่าเกลียดขนาดให้มันอับอายจนทนอยู่ไม่ได้หรอก”

“เราไม่น่าทำแบบนี้  กูรู้สึกแย่...”  ออมเอนตัวซบปอ  น้ำตาไหลด้วยสงสารใครบางคน

“ไอ้ลมก็ไม่ควรทำแบบนั้น...มันสมควรแล้ว  มันรักน้องมัน  กูก็รักมึงเหมือนกัน”

จบด้วยการเปิดเผยความจริงว่าคือการหลอกลวงไม่พอ 
ภาพลับที่เคยถ่ายเก็บไว้ถูกเผยแพร่ให้คนอื่นได้รับรู้  คงทำให้มันอับอาย 
ใจสลายเหมือนเขาในวันนั้น  ไม่ได้สะใจอะไรหรอก  รู้สึกเจ็บปวดด้วยซ้ำ 
แต่ก็ยังยืนยันที่จะทำ  แม้จะรู้ว่ามันผิด  แต่อย่างน้อยก็เพราะมีคนที่ทำในสิ่งที่ผิดมาก่อน


ความผิด...ที่ทำให้ไม่กล้านึกถึงอนาคตอีก


ทุกอย่างจบแล้ว...









“พี่ลม  เรื่องมันจบแล้ว...”

เสียงของน้องชายทำให้ลมได้แต่พยักหน้า  เรืองที่เตรียมตัวเอาไว้  มาถึงเวลาของมันแล้ว 
“สองคนนั้นรักกันจริงเหรอ”  เขารู้ว่าถามไปอย่างเลื่อนลอย  เพราะบางทีหัวใจมันก็หวังในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

“จริงสิ...”  ดินยืนยันตามที่เห็นมา  “รักกัน...จริง”

“คราวนี้พวกเราก็ต้องไปแล้ว  พรุ่งนี้ไม่เป็นไรแน่นะดิน” 
คนน้องเดินเข้ามาหาพี่ชาย  นั่งลงบนตักแล้วยกมือกอดรอบคอ  เกยคางไว้บนไหล่กว้าง

“มันไม่มีอะไรเป็นของเราจริงๆ แม้แต่หัวใจก็เถอะ  พี่ลมก็รู้นี่นา”

ดินเป็นคนเข้มแข็ง  ลมรู้จักน้องชายตัวเองดี  ต่อให้ร้องไห้แค่ไหนก็ยืนหยัดได้ 
เขาหอมแก้มอีกฝ่ายหลายที  เรียกเสียงหัวเราะสดใสจากคนบนตักได้ไม่หยุด 
ทำให้อดหัวเราะไปด้วยไม่ได้  เรื่องมันอาจจะเศร้า 
แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะไม่มีความสุขเลย 


เรื่องที่ทำแม้ผิด...แต่ก็ทำให้มีความสุข  มากเหลือเกิน







ลมยังคงนั่งอยู่บนรถ  สายตามองผ่านกระจก  จับจ้องคนสองคนที่เดินมาด้วยกัน 
ความใกล้ชิดสนิทสนมและบรรยากาศของความสุขแบบนั้น 
ถึงรู้สึกอิจฉามากเท่าไร  แต่ก็รู้ว่าไม่มีวันได้มาครอบครอง  ไม่มีวันสัมผัสถึง 
แม้จะเป็นสิ่งที่โหยหายมากที่สุดก็ตาม 


รู้อยู่แก่ใจว่าอะไรคือคำจำกัดความของสิ่งที่เกิดขึ้น  แต่เขาก็ยังคงก้าวเดินลงจากรถ 
ก้าวไปหาคำตอบที่รู้ดีอยู่แก่ใจ  ทั้งปอและออมหันมามองที่เขา
ด้วยสายตาที่ไม่อยากจะอธิบายออกมาเป็นคำพูด  ก็คงจะรังเกียจนั่นแหละ 
อยากจะบอกออกไปว่าทนอีกเพียงไม่นานเท่านั้น  มันกำลังจะจบลงแล้ว 

แม้ว่าสุดท้ายจะคงเหลือความรู้สึกมากมายหลากหลายในใจของใครหลายคน 
ความรู้สึกที่ไม่มีวันลบเลือนไป  จนกว่าจะหมดลมหายใจ

“ออมรักมันใช่มั้ย?”  คำถามถูกเอ่ยถามออกไป 
ขอเพียงคำตอบที่รอคอยเท่านั้น  สัญญาณสุดท้ายของจุดจบ

“ใช่แล้วจะทำไมวะ  มึงเกี่ยวอะไรด้วย”

“ขอกูฟังจากออมเถอะ  แค่ครั้งเดียวกูก็เข้าใจ”  ดวงตาไร้แสง  จ้องมองคนของหัวใจ 

“แค่ความจริงครั้งสุดท้าย  ว่าออมมีคนที่รักแล้วจริงๆ”

“กูรักปอ”  น้ำเสียงนั้นยืนยันหนักแน่น  ไม่ต้องพูดถึงภาพประกอบที่ทั้งสองคนยื่นมือมาจับกันไว้ 
ความอบอุ่นที่รู้สึกได้เพียงคนสองคน  ทิ้งให้คนบางคนได้แต่รู้สึกหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจ

ลมพยักหน้า  ยอมรับกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น 
“เข้าใจแล้ว  ขอโทษด้วยที่เข้ามาในชีวิตของทั้งสองคน 
แต่ต่อไปคงไม่ทำอีก  แล้วก็ปอ...กูแค่อยากบอกว่ามึงไม่น่าทำแบบนั้นเลย 
แค่มึงรออีกนิดเดียวเท่านั้น  พวกกูก็คงหายไปจากชีวิตมึงแท้ๆ 
แต่ก็นะ  มึงคงไม่รู้หรอกว่าพวกกูคิดอะไรยังไง  ไม่อย่างนั้นเราคงไม่มาถึงจุดนี้...”


ลมหันไปมองน้องชายที่กำลังเดินเข้ามาหา  เวลาเริ่มเคลื่อนผ่านอย่างเชื่องช้าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน 
รู้สึกว่านานมากเหลือเกินกว่าดินจะเดินมาถึง 
สีหน้าปราศจากรอยยิ้มที่คุ้นชินมองเพื่อนร่วมห้องแล้วหันกลับมาที่พี่ชาย

“กลับกันเถอะพี่ลม”  มือของน้องเอื้อมมาดึงแขนพี่ชาย  ทำท่าจะเดินออกไปจริงๆ 
แต่ก็ยังคงหันกลับไปหาคนที่อยู่ด้านหลัง  “ลาก่อน...มีความสุขมากๆ นะ”


คำบอกลาเพียงง่ายๆ แต่ฟังดูมั่นคงจริงจัง 
ทำให้คนที่ยืนอยู่รู้สึกได้ว่าสองคนนั้นคงจะไปที่ไหนสักแห่ง  แล้วก็คงจะไม่กลับมาอีก 
มันฟังดูเหมือนแบบนั้น  มันน่าจะทำให้รู้สึกดี  แต่ความรู้สึกบางอย่างก็ยังคงค้างคาใจ 
สุดท้ายพวกเขาก็ไม่เคยเข้าใจอะไรสักอย่าง



ความรัก...ยากเหลือเกิน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-02-2014 21:13:46 โดย OIL1982 »

ออฟไลน์ Moose

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
Re: [เรื่องสั้น] รักคืออะไร 1 ก.พ. 57
«ตอบ #4 เมื่อ01-02-2014 20:31:49 »

โอ้ยยยยยยยย หน่วงมากกกกกกก รู้สึกเหมือนว่าเรื่องนี้จะจบแบบไม่แฮปปี้แฮะ หรือว่าแฮปปี้ โอ้ยยยยยย อยากอ่านตอนต่อไปแล้วค่า

ออฟไลน์ zelesz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
Re: [เรื่องสั้น] รักคืออะไร 1 ก.พ. 57
«ตอบ #5 เมื่อ01-02-2014 22:32:37 »

อธิบายความรู้สึกตัวเองตอนนี้ไม่ถูกเลย

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
Re: [เรื่องสั้น] รักคืออะไร 1 ก.พ. 57
«ตอบ #6 เมื่อ02-02-2014 01:48:11 »

2 พี่น้องป่วยกำลังจะตาย? หรืออย่างไร ลมผิดนะที่ไปฉุดออมก่อนดินซวยเลย

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
Re: [เรื่องสั้น] รักคืออะไร 1 ก.พ. 57
«ตอบ #7 เมื่อ02-02-2014 09:06:34 »

มันหน่วงจิต
รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ เงาใต้น้ำ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +116/-3
Re: [เรื่องสั้น] รักคืออะไร 1 ก.พ. 57
«ตอบ #8 เมื่อ02-02-2014 22:11:35 »


“โทรหาพ่อนะ...”  ดินเอ่ยบอกพี่ชาย  ที่เพียงพยักหน้าให้ทั้งที่ตายังคงจ้องมองถนนที่ทอดยาว 
เส้นทางแสนไกลพวกเขาไม่ได้กลับบ้านแต่กำลังออกจากสถานที่ที่ยุ่งเหยิงแห่งนั้น

“พ่อครับ...”  เสียงน้องชายกระซิบกับโทรศัพท์  หากบนรถไม่เงียบกริบก็คงไม่ได้ยิน  “ขอโทษครับพ่อ”

ลมไม่รู้ว่าพ่อพูดว่าอะไรบ้าง  แต่ก็รู้ว่าดินคงถูกดุอยู่  ไม่รู้ว่าเรื่องมันร้ายแรงแค่ไหน 
โชคดีแค่ไหนกันนะที่ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาเป็นลูกของพ่อ 
เวลาแบบนี้พ่ออาจจะเจ็บปวดแต่ก็คงไม่มีใครมาเยาะเย้ยถากถางพ่อได้ 
เพราะอย่างนั้นแหละพ่อถึงได้ไม่รู้ว่าดินมันเจ็บปวดแค่ไหน  และพวกเขาไม่โทษว่าเป็นความผิดของพ่ออีกแล้ว

“พวกเราจะไปแล้วครับพ่อ  ไม่ต้องห่วงนะครับ  เราจะไม่ทำให้เป็นทุกข์อีกแล้ว  พ่อคุยกับพี่ลมด้วยนะครับ”

“พ่อ...”  ลมจอดรถข้างทาง แล้วรับโทรศัพท์มาจากน้อง 
อันตรายเกินไปที่จะขับไปคุยไปบนถนนสี่เลนแบบนี้  แถวนี้รถสิบล้อเยอะเสียด้วย 
“ขอโทษครับ”

ดินมองพี่ชายแล้วยิ้มออกมาทั้งน้ำตา  ก็คงโดนเหมือนๆ กันนั่นแหละ
ลูกที่เกิดมาเพื่อเป็นภาระ  ลูกสองคนที่พ่อไม่คิดจะใส่ใจ 
พวกเขาออกจากบ้านมาตั้งแต่ลมเพิ่งขึ้นมัธยม  อยู่มาได้ด้วยทรัพย์สมบัติของแม่ที่ทิ้งไว้ให้ 
ไร้คนดูแล  ไร้ความรัก  น่าแปลกที่ต่างคนก็ต่างโหยหา  เด็กเกินกว่าจะคิดได้ว่าแค่เรารักกันก็คงเพียงพอ 
ไม่ควรจะต้องเสาะแสวงหาอีกเลย


“เราไม่กลับไปแล้วครับ  อย่ากังวลอีกเลย  ขอโทษครับพ่อ...ที่เกิดมา”


สิ้นประโยคนั้นลมก็ปิดโทรศัพท์โยนไปไว้เบาะด้านหลัง  คำพูดที่อยากพูดมาตลอด 
ในที่สุดเขาก็เอ่ยออกไปแล้ว  น่าแปลกที่ไม่มีแม้แต่น้ำตาสักหยด 
ส่วนหัวใจก็คงด้านชาไปแล้ว  ให้เจ็บปวดอีกสักแค่ไหนก็คงไม่กรีดร้องอยู่ภายในอีกต่อไป

“พี่หูชาเลยว่ะ  พ่อก็คงห่วงแหละ  แต่ไม่กล้าพูด  เราก็รู้ไว้ก็แล้วกันนะ  หวังว่าพ่อจะไม่เสียใจมากนะถ้าเราไม่อยู่” 
ลมเริ่มออกรถอีกครั้ง 

“พี่ลม  เราโทรไปหาปอกับออมอีกมั้ย  ครั้งสุดท้ายไง”

“พี่ปิดโทรศัพท์แล้ว...จะโทรไปเหรอ”  ลมเอื้อมจับมือดิน  ที่บีบมือเขาไว้แน่น

“ไม่ต้องก็ได้  ไม่มีประโยชน์อีกต่อไปแล้ว”

ลมจอดรถกับไหล่ทาง  ด้านหน้าเป็นทางโค้งขึ้นเขา  น่าแปลกที่มันไม่มีอะไรกั้น 
ช่างเป็นอันตรายต่อการขับขี่เสียจริง  ดินถูกพี่ชายดึงมากอดไว้แน่น  อ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุดของสองพี่น้อง 
เสียงสะอื้นดังขึ้นในรถ  เพราะทุกอย่างที่มีมันไม่เคยพอ  อ้อมกอดที่อบอุ่น  ความรักที่ล้นฟ้า 
ถ้ามันเพียงพอสำหรับพวกเขา  เรื่องก็คงไม่เลวร้ายแบบนี้


เพราะรักใครไปสักคน  เพราะชีวิตมันไม่มีจุดหมาย  และเพราะอยากได้เศษเสี้ยวของความยินดีนั้น 
ถึงได้ยอมแลกกับทุกอย่าง  รู้ว่ามันจอมปลอมแต่ก็ยังคงรักษามันเอาไว้จนถึงวันสุดท้าย 
รู้ว่าตัวเองไร้ค่าและไม่มีวันจะถูกรัก   แม้จะเคยมีความหวังว่าหากตื่นขึ้นมาในสักวัน 
คนที่รักจะเปลี่ยนใจมารักพวกเขาได้บ้าง  สุดท้ายความฝันก็ไม่เคยเป็นจริง

ความจริงในวันสุดท้าย  สิ่งที่พยายามหลีกหนีและปฏิเสธมาตลอด 
อย่าถามถึงความเจ็บปวดเลย  ในเมื่อพวกเขาก็ทำให้คนที่รักต้องเจ็บปวดไม่ต่างกัน 
มันก็สมควรแล้วกับสิ่งที่ได้รับ  และแม้จะต้องย้อนเวลากลับไปอีกครั้ง  ทุกอย่างก็คงจะไม่ต่างจากที่เป็นอยู่

ในที่สุดก็มาถึง...จุดจบ


“พร้อมนะ...”  ลมก้มลงแตะริมฝีปากบนหน้าผากน้องชาย  ที่ส่งรอยยิ้มหวานมาให้  เขาจึงยิ้มตอบกลับไป 



“พี่รักดิน”



“ดินก็รักพี่ลมเหมือนกัน”


รอยยิ้มสุดท้าย...นั่นคงเป็นรอยยิ้มที่มีความสุขที่สุด

เส้นทางที่เลือกมาตั้งแต่แรก...


รถออกตัวอีกครั้งแล่นไปตามเส้นทางด้านหน้า 
เพียงแค่ไม่โค้งไปตามเส้นทางที่ทอดยาวไกล 
มันตรงออกไปสู่หน้าผาไร้สิ่งขวางกั้นไร้แม้แต่ใครสักคนจะฉุดรั้ง 

เพียงลมหายใจเข้าออกทุกสิ่งทุกอย่างก็เลือนหายไป...


โลกยังคงหมุนต่อไป  มีวงโคจรเป็นของตัวมันเอง






“สวัสดีครับ  คุณพ่อของคุณจิรกานต์และคุณธีรกานต์ใช่มั้ยครับ”

เสียงที่ดังจากฝั่งตรงข้ามทำให้เขาต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัย  แต่ก็ส่งเสียงตอบออกไป 
ก็คงเรื่องของลูกชายของเขานั่นแหละ  เมื่อหลายวันก่อนมันโทรมาพูดแปลกๆ ยอมรับว่าห่วง 
เกิดเรื่องหนักหนาขนานนั้นมันก็คงจะเจ็บปวดอยู่มากเหมือนกัน  คงหลบไปไหนสักพักนั่นแหละ


“เอ่อ...ผมเสียใจด้วยนะครับ  รถตกเหว...เสียชีวิตทั้งคู่....” 
เสียงนั้นยังคงดังต่อไป  แต่คนเป็นพ่อกลับฟังไม่รู้เรื่องอีกแล้ว 



‘เราไม่กลับไปแล้วครับ  อย่ากังวลอีกเลย  ขอโทษครับพ่อ...ที่เกิดมา’



เสียงนั้นสะท้อนอยู่ในหู  เรื่องราวมันหนักหนาเกินรับไหวตั้งแต่เมื่อไหร่ 
เขาไม่เคยเอ่ยถาม  ไม่รู้แม้กระทั่งนิสัยที่แท้จริงของเด็กสองคน 
เกือบสิบปีที่ผ่านมานี่เป็นครั้งแรกที่ลูกโทรมาหา 
คิดว่าคงหมดความอดทนที่จะยืนด้วยขาของตัวเองแล้ว  และอีกไม่นานสองคนนั้นคงจะกลับบ้าน


บ้านที่เด็กสองคนไม่เคยคิดว่ามีอยู่  เพราะพ่อไม่เคยทำให้มันเป็นบ้านในความรู้สึก   
ครอบครัวแตกแยกพ่อแม่เลิกกัน  แต่ทั้งสองต้องออกจากบ้านไปตามลำพัง 
แม่แต่งงานใหม่และเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทิ้งไว้เพียงทรัพย์สมบัติที่จะทำอยู่อย่างสุขสบายกาย 
ไม่ได้นึกถึงสภาพจิตใจกันตั้งแต่แรก

จิรกานต์และธีรกานต์  ไม่ใช่ชื่อเดิมที่พ่อตั้งให้  ทั้งสองเปลี่ยนชื่อและนามสกุลตั้งแต่อายุสิบแปดปี 
ไม่ต้องถามเลยว่าต้องการความรักมากแค่ไหน  หากดูจากชื่อที่เปลี่ยน

ผู้เป็นที่รัก...กานต์ที่ตามหลังบอกแบบนั้น

พ่อรู้...แต่ก็ไม่เคยแสดงออก  ไม่เคยพูด  ไม่เคยเอ่ยถาม...ก็เลยจบลงแบบนี้

ทุกอย่างไม่ใช่แบบที่คิด...ห่างไกลจากสิ่งที่คิดไปไกลเหลือเกิน 
ไกลจนแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว  คำพูดที่อยากพูดมากมายแต่กลับถูกทิฐิกดลึกเอาไว้ 
วันนี้แม้พูดออกไป  ก็ไร้ซึ่งคนรับฟัง



‘ผู้เป็นที่รัก’  จากไปแล้ว






“มึงเห็นข่าวมั้ยปอ”  เสียงที่ถามทำให้ต้องหันไปมอง  ไอ้พวกนั้นนั่งหน้าสลดไม่ต่างกัน 
“มันคงทนไม่ไหวว่ะ  ถึงทำแบบนั้น”  แต่ได้ยินมาว่าลมมันก็อยู่ได้อีกไม่นานนี่หว่า
มันก็คงคิดไว้แล้วแหละว่าจะทำแบบนี้  พ่อมันก็บอกอยู่ว่าพวกนั้นมันออกจากบ้านมาเกือบสิบปีแล้ว 
ก็เลยไม่มีใครรู้อะไรเกี่ยวกับพวกมันเลย” 


“มันน่าจะเล่าให้เราฟังบ้าง  กูก็ว่าทำไมมันเหมือนไม่มีความสุขเลย  มันเคย...รู้จักบ้างมั้ยวะ” 
ออมพูดเสียงสั่น  ดวงตากลมโตแดงก่ำ

“มันไม่เคยพูดเหรอว่ามีความสุขน่ะ  ดินมันพูดบ่อยนะ 
หึ...มันตั้งใจให้เป็นแบบนี้น่ะสิ  พวกมันก็แค่กลัวว่าจะต้องเจ็บปวด 
ถึงได้ทำอะไรบ้าบอที่คนอื่นเขาไม่ทำกัน  แต่ก็นะ  ถ้าไม่ทำแบบนี้...มันก็เข้าใกล้พวกเราไม่ได้เลย”


ปอพูดจบก็หยิบกระเป๋ามาเปิด  ซองจดหมายถูกหยิบขึ้นมา 
เขาเพิ่งได้รับเมื่อเช้าก่อนออกจากคอนโด  หลังได้ข่าวการตายของสองคนนั้นไม่นาน 
มือที่เปิดจดหมายสั่น  จำลายมือบนหน้าซองได้ดี  แม้จะเห็นไม่บ่อย 
แต่ชื่อของเขาก็เคยอยู่บนห่อของขวัญ  การ์ดที่ได้รับ  รวมถึงในหนังสือเรียนของดินด้วย

“รูป...”  ปอดึงรูปถ่ายออกจากซองจดหมาย  ออมขยับเข้าไปดูด้วย 
ออกจะแปลกใจตรงที่เป็นรูปของพวกเขาเอง

ภาพแอบถ่ายตอนพวกเขากำลังหัวเราะ  เหตุการณ์ที่จำไม่ได้ 
น่าจะเป็นตั้งแต่เริ่มรู้จักกันใหม่ๆ ตอนอยู่ปีหนึ่ง 
ไม่เคยคิดเลยว่าจะตกอยู่ในสายตาของสองคนนั้นมานานกว่าที่คิด  ข้างหลังภาพมีข้อความสั้นๆ


‘ไม่เคยบอกสินะ...รักมานานแค่ไหน’  ลายมือของดิน   แล้วก็คำว่า 

‘รัก’  ลายมือของลม

‘รัก’  ลายมือของดิน

ถ้ามันจะสั้นขนาดนี้...ทำไมไม่พาไปดูให้เห็นเหตุการณ์ในวันนั้นเลย 
ให้พวกเขาเห็นพวกมันตายไปต่อหน้าต่อตา  จะได้เข้าใจอะไรได้ง่ายกว่านี้   
พวกมันคงไม่รู้หรอกว่าคนยังอยู่มีคำถามมากมายแค่ไหน  และทั้งที่คิดว่าในจดหมายจะตอบทุกอย่าง

แต่...มันไม่ใช่เลย

“มันคงได้อยากได้ความรักสินะ  แต่ก็กลัวจะต้องเสียไปอีกในตอนสุดท้าย 
ถึงได้ทำแบบนี้  กูรู้พวกมันไม่ฉลาด  แต่ก็ไม่โง่เลย” 
ออมยกมือปาดน้ำตาออก  ความรู้สึกมากมายก่อตัวในจิตใจ

ปอวางมือบนไหล่คนข้างตัว  แล้วไม่พูดอะไรออกมาอีก 
นอกจากความรู้สึกแล้ว  ยังคงเหลืออะไรอยู่บ้างนะ  ภาพตอนที่มันยิ้มก็ไม่เคยถ่ายรูปเอาไว้เลย 
ต่อไปมันจะเลือนหายไปจากความทรงจำหรือเปล่า 
เหลือแต่เรื่องเลวๆ ที่ทำกับมันเอาไว้   คงจะจำได้ไม่มีวันลืมเลือน

เคยสงสัยว่าทำไมมันไม่โกรธ  ทำไมถึงได้แต่พูดคำว่าขอโทษ 
ทำไมถึงยังกล้าสู้หน้าคนมากมายโดยไม่หวาดกลัว 
เพราะสุดท้ายแล้วเมื่อตายไป...ก็จะทิ้งความรู้สึกทั้งหมดไว้บนโลกนี้


คนที่ยังมีชีวิตอยู่ต่างหากที่จะมีความรู้สึก  เพราะเป็นแบบนี้พวกมันถึงเลือกจะจบทุกเรื่องด้วยความตาย

“อย่าโทษมันเลยที่ทำแบบนี้  คนเรามันเจ็บแทนกันไม่ได้หรอก  จุดที่มันยืนพวกเราไม่มีวันเข้าใจ...” 
เพื่อนคนหนึ่งพูดขึ้นมาก่อนจะเดินออกไป  พาให้คนอื่นแยกย้ายกันไปด้วย


“ไปเถอะ  ในซองมีกุญแจบ้านด้วย  บางทีเราอาจจะได้รูปเก็บไว้สักรูปก็ได้” 
ปอสะกิดบอกออม  ที่ลุกขึ้นเดินตามเขามา





“ฝนตก...เหงามั้ย?”

คนพูดเกยคางอยู่กับไหล่  หันหน้ามาหอมแก้มอีกแล้ว  อยากจะถามเหมือนกันว่าเบื่อบ้างไหม 
ทำแบบนี้ทุกจะวินาทีที่ผ่านไป  มันไม่ได้เจ็บอะไรนักหรอก  ก็ลมมันเป็นคนอ่อนโยน 
แต่ว่าบางครั้งก็อยากรู้ขึ้นมาอย่างจริงจัง  ว่าจะไม่เบื่อบ้างหรือไรกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำอยู่

“พี่ลมชอบนั่งดูฝนนะ...”  เป็นอีกเรื่องที่ออมสงสัย 
แค่นั่งดูไม่เท่าไรแต่มันจะเหม่อมองไร้จุดหมายเสมอ  แม้เขาจะคอยอยู่ใกล้ๆ ก็เถอะ

“มีความหลังมั้ง...”  เสียงตอบนั้นแผ่วเบา  เต็มไปด้วยความรู้สึกซ่อนเร้น  แต่รู้สึกถึงความเจ็บปวดชัดเจน

“เล่าสิ  อยากรู้บ้าง” 

น้ำเสียงคะยั้นคะยอทำให้ลมหัวเราะ  “ก็เป็นวันที่ออมทิ้งพี่ไปไง...”  คนฟังขมวดคิ้ว  เรื่องมันยังไม่เกิดแท้ๆ




“บ้าสิ...วันที่ออมทิ้งพี่  ฝนมันไม่ได้ตกซักหน่อย”  เสียงนั้นพึมพำ 
มือหยิบอัลบั้มภาพถ่ายขึ้นเปิด  มีภาพตั้งแต่เด็กจนถึงก่อนวันนั้น...วันที่ทั้งสองจากไป 
ลมชอบถ่ายรูปและที่ยอมอัดไว้  คงเพื่อพ่อ

“ฝน...คงตกในใจมันนั่นแหละ”  เสียงปอบอกอยู่ใกล้ๆ  สายตาจับจ้องอยู่กับภาพถ่ายอีกอัลบั้ม

ไม่เคยคิดว่าคำพูดนั้น...จะซ่อนความหมายไว้มากมาย  ถ้ารู้ก่อนหน้า  จะฉุดรั้งไว้ได้ทันหรือเปล่า?





“ชอบมั้ยนาฬิกาทราย?”

“ทำไมล่ะ?”  ปอหันไปถามคนพูดด้วยความแปลกใจ  ถามอะไรให้สงสัยตลอด 

“ให้วันเกิด...”

แปลกใจได้อีก  “เกือบครึ่งปีโน่น  จะรีบถามทำไมกัน”

ดินขยับเข้าไปหาคนพูด  พาตัวบางๆ ขึ้นไปนั่งตักอีกคนจนได้ 
“เผื่อว่าตอนนั้นไม่ได้คบกันแล้ว  กลัวไม่ได้ให้  เอาใส่ไว้ในลิ้นชักหัวเตียงนะ 
วันเกิดค่อยเปิดดู  แต่ก็บอกแล้วนะว่านาฬิกาทราย”

“ชอบเหรอ?”  แอบคิดในใจ เพราะอีกคนจะได้ไม่รู้...มันบ้าแน่ๆ

“นิดหน่อย  อยากเป็นทราย  มันไหลกลับไปกลับมาได้  ถึงสองฝั่งไม่เท่ากันก็ไม่เป็นไร 
ยังไงทรายก็ยังอยู่ใช่มั้ย  อีกอย่างดินกับทรายมันก็ไม่ต่างกันหรอก 
คุณค่าและความหมายมันเท่าเทียมกันบนโลกใบนี้นะ”




“ชอบทำตัวไร้ค่าอยู่เรื่อย...”  ปอรู้สึกว่าน่าจะบอกมันไปสักครั้งตอนมีโอกาส 
เผื่อจะทำให้มันไม่จบชีวิตตัวเองไปแบบนี้  แต่นึกย้อนไปเขาก็ทำเหมือนมันไร้ค่าเหลือเกิน




“ถ้าไม่มีอุปสรรค  ขวากหนาม  ก็อยากจะอยู่เพื่อออมไปนานๆ นะ”

“นานแค่ไหน”  ออมเอ่ยถามเจ้าของอ้อมกอด 
ขยับตัวขึ้นไปจูบฝ่ายนั้นส่งผ่านความรู้สึกกันด้วยลิ้นอุ่นๆ ที่เกี่ยวกระหวัดรัดพันกันยุ่งเหยิง 
คล้ายความสัมพันธ์ในตอนนี้  ครั้งแรกที่เริ่มต้นก่อน 
บางครั้งเขาก็ทนกับคำพูดแสนหวานแบบนั้นไม่ได้  ก็เลยต้องมีรางวัลบ้าง

“ก็คงได้แค่ทั้งชีวิตนั่นแหละ  แต่ว่าความรักคงอยู่ตลอดไป  เกิดอีกกี่ชาติก็คงรักคนๆ นี้แหละ”

“พอเถอะ  ไม่มีอะไรจะให้แล้ว  ร่างกายก็ไม่อยากได้เองนี่”  คนพูดทำแง่งอน  ซบหน้าอยู่กับอกเจ้าของอ้อมกอด

“พอแล้ว  เกิดซักวันออมไปรักคนอื่น  จะได้ลืมสัมผัสนั้นเร็วๆ ไง 
จะทำให้ลืมตั้งแต่ตอนนี้แหละ  แต่แค่เรื่องแบบนั้นนะ 
อย่างน้อยตอนนี้ขอกอดแบบนี้  หอมแก้มแบบนี้ก็พอแล้ว” 
พูดจบลมก็หอมแก้มนุ่มไปหลายครั้ง  แถมให้ด้วยอ้อมกอดอุ่น


“ว่ากันว่าคนบาปต้องชดใช้กรรมนานหน่อย  กว่าจะเจอกันอีกครั้ง 
ก็คงลืมกันไปแล้วเหมือนกัน  แต่คิดว่าถึงตอนนั้นก็จะไม่ลืมออมหรอกนะ”

“เป็นคนบาปหรอกเหรอ  ชวนคุยเรื่องแบบไหนเนี่ย  พอที...” 
ออมบ่นแล้วซุกหน้าหาความอบอุ่น  ง่วงจนอยากหลับ

“ออมอย่าลืมนะ  ว่าพี่รักออมมาก”

“อือ...”  ออมเงยหน้ามองคนพูด  สบสายตานั้นจริงจัง  “รู้แล้ว  จำได้แล้ว  จะไม่ลืมด้วย”

“รักนะ...”

“ครับ  รักพี่ลมครับ”

“ไม่ต้องรักหรอก...ลืมซะที่พูด  แค่นี้พี่ก็มีความสุขมากแล้วล่ะ”





“รักพี่ลมครับ...”  ลูบไล้ไปบนเตียง  ในห้องที่กรุ่นกลิ่นคุ้นเคย 
ขวดยาที่เคยอยู่ในลิ้นชักถูกหยิบมาดู  ทั้งที่ไม่เคยสนใจ
เหตุผลทั้งหมดของเรื่องราว  หากวาระสุดท้ายไม่ใกล้มาถึง 
สองพี่น้องก็คงทำตัวเหมือนอยู่กันคนละโลก  เฝ้ามองกันต่อไปเหมือนที่เคยทำมาก่อน 
ไม่ว่าเรื่องราวจะเริ่มต้นแบบไหน  สองคนนั้นก็เลือกจะอยู่เพียงแต่ในโลกของตัวเอง 
อยากได้ความรักมาก  แต่ก็กลัวจะผิดหวังมากไม่ต่างกัน 


ฝนตก...ออมหันออกไปทางระเบียง  พวกเขาเคยนั่งมองสายฝนด้วยกัน 
อีกคนมองเหม่อไร้จุดหมายทุกครั้งที่เห็นฝน  ความรู้สึกที่เคยอยากรู้ว่าเพราะอะไร 
หรือว่าชอบสายฝนหนักหนา  วันนี้เริ่มเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว 
เมื่อรับรู้ได้ถึงความรู้สึกนั้น  สิ่งที่ใครบางคนเคยพูด  แต่ลืมตั้งใจฟัง



‘ฝนตก...เหงามั้ย?’

“เหงา...เพราะไม่มีคนอยู่ข้างๆ  นี่แหละ”






“รู้มั้ย  ทำไมห้องดินน่านอน?”

ปอเอ่ยถามคำถามที่ดินต้องทำหน้างง  คิ้วขมวดขณะคิดหาคำตอบไปด้วย 
แต่ก็ส่ายหน้าอย่างจนปัญญา  “ทำไมล่ะ?”

“เพราะกลิ่นหอมๆ นี่ไง”  คนพูดขยับเข้าไปใกล้ 
ก้มหน้าสูดกลิ่นที่ซอกคอเจ้าของห้องเข้าเต็มปอด  “มันอบอวลอยู่ทั่วห้องเลยกลิ่นแบบนี้”

ดินก้มหน้ามองคนพูดที่กอดเอวซบหน้าอยู่กับอกเขา  “ก็มานอนจนกว่าจะเบื่อสิ...”

“พูดแล้วนะ” 

“อือ  บางทีอยู่ด้วยกันบ่อยๆ จะได้เบื่อกันเร็วขึ้นไง”  พูดจบก็โดนมือของปอวางแปะลงบนปาก

“ชอบพูดทำลายบรรยากาศตลอด  นิสัยไม่ดี”

“ขอโทษ  นิสัยแย่น่ะ”  ดินหัวเราะสดใส  สีหน้าต่างจากเดิมลิบลับ 
แก้มแดงเรื่อเมื่ออีกคนปลดกระดุม  แยกสาบเสื้อออกเพื่อก้มลงจูบที่ตำแหน่งหัวใจ   
ริมฝีปากอิ่มจูบลงบนหน้าผากปอแล้วสบตากันนิ่ง

“อย่าทำถึงขนาดนี้เลย...”  น้ำเสียงแผ่วเบาดังกระซิบไม่ให้ได้ยิน 
เมื่อก้มลงกอดอีกคนซุกหน้าอยู่กับซอกคอ  เอ่ยอีกคำให้อีกคนได้ยินชัดเจน  “รักปอ...” 

“รัก...เหมือนกัน”  ระยะห่างของประโยค  คล้ายเว้นที่ว่างให้ใครอีกคน


ดินร้องไห้ด้วยความยินดี...ที่ไม่ใช่ตัวเอง





“กว่าจะเข้าใจ  ก็สายเกินไปสินะ”  ปอทิ้งตัวลงบนเตียงอันแสนคุ้นเคย   
ความทรงจำงดงามแต่ก็หลอกหลอนหัวใจ 
เป็นภาพเคลื่อนไหวที่ไหลเวียนอยู่ในหัวใจ  ไล่เรียงกันมาไม่หยุด 
ตอกย้ำความเจ็บปวดที่เคยสร้างไว้กับใครอีกคน
จมจ่อมอยู่กับความรักและคิดถึง  แต่ก็ยังขอให้มันคงอยู่...ตลอดไป


ความรักที่เคยได้รับ...จากใครคนนั้น




“ออมไปด้วยมั้ย?”  ปอตะโกนถามเพื่อนที่ยังไม่ออกมาจากห้องของลม 
ไร้เสียงตอบรับใดๆ “งั้นอยู่นี่แล้วกัน  เดี๋ยวปอมา  จะเอาเสื้อผ้ามาให้”


อัลบั้มภาพถูกเก็บใส่กล่องใหญ่  ก่อนยกไปที่รถ  ตั้งใจจะเอาไปให้พ่อของสองคนนั้น 
แม้จะไม่มีคำสั่งเสียในจดหมาย  นอกจากคำว่า ‘รัก’  แต่ก็พอจะเข้าใจสิ่งที่สองคนนั้นต้องการ 
ดินกับลมไม่ใช่คนที่เข้าใจยาก  แสดงความรู้สึกเก่งมากด้วยซ้ำ 
เพียงแต่เพราะแผนการที่วางไว้แต่แรกก็เลยปิดบังบางข้อความไว้ในสิ่งที่ตัวเองแสดงออกมา...ก็แค่นั้น


แค่นั้น...แต่ซ่อนความหมายอันยิ่งใหญ่  ซ่อนความลับไว้มากมายเหลือเกิน 
หากมีโอกาสย้อนเวลากลับไปได้  อย่าว่าแต่จะฉุดรั้งและรักษาเอาไว้เลย 
สองคนนั้นต้องโดนลงโทษอย่างหนักกับสิ่งที่คิดจะทำ  เอาให้ไม่กล้าคิดอะไรแบบนั้นอีก 
ไม่กล้าแม้แต่จะทอดทิ้งพวกเขาไปไหนอีก...เป็นครั้งที่สอง



แค่ความฝัน...ว่าจะย้อนเวลากลับไป





“กินข้าวซะ  อย่าทำตัวแบบนี้  มันจะเสียใจ”

ปอเอ่ยบอก  เลื่อนจานไปให้ตรงหน้า  ออกมาจากห้องลม  ออมก็กลายเป็นคนซึมเศร้าไม่ยอมพูดยอมจา 
เขารู้ว่าเสียใจ  แต่เพราะทุกอย่างต้องเดินหน้าต่อไป  ความหวังของสองคนนั้นก็คงอยากให้พวกเขามีความสุข 
แล้วก็ไม่อยากให้พวกนั้นรู้สึกว่าเป็นคนขโมยความสุขของพวกเขาไป...แม้มันจะทำจริงก็เถอะ


“ขอโทษนะ  ออมรักพี่ลม”  คนพูดก้มหน้าลงมองจานข้าว  แล้วอ้อมแอ้มบอก

“เออ  อย่างกับมองปอไม่ออก  ปอก็รักดิน...กินข้าวเถอะ 
จะได้กลับไปนอนฝันถึงพวกนั้น  เผื่อมันคิดถึงอยากมาเข้าฝันเรา”

“ก็ดีสิ...”


รู้กันดีว่าความเป็นเพื่อนหวนกลับคืนมาอีกครั้ง  สุดท้ายก็ไม่สามารถหลอกตัวเองได้อีกต่อไป 
ถ้าจะรู้สึกได้เร็วกว่านี้  จะรักษาความรักนั้นไว้ได้หรือเปล่า  แต่ว่า...ความรักนั้นก็ไม่เคยหายไป 
พวกเขารู้สึกได้ว่ามันยังคงอยู่ในหัวใจนี่แหละ  พวกมันไม่เคยปกปิด 
กลับกันพวกมันแสดงให้เห็นถึงความรักตลอดเวลา


จากไป...ก็เพราะรัก


กุญแจดอกสุดท้าย...ไขเปิดทุกอย่าง  กระทั่ง  ‘หัวใจ’



จะรู้หรือเปล่า?  สุดท้ายก็ได้ไป...ทั้ง  ‘ความรัก’  และ  ‘หัวใจ’





จบ...


ไม่ใช่คนชอบดราม่า  เพราะปกติถ้าอ่านเจอ  ก็เลิกอ่าน...5555 
ดังนั้น  ขอตามด้วยตอนพิเศษค่ะ  กระทู้ล่างอีกนะคะ



ออฟไลน์ เงาใต้น้ำ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +116/-3
Re: [เรื่องสั้น] รักคืออะไร (จบ)
«ตอบ #9 เมื่อ02-02-2014 22:12:36 »


ตอนพิเศษ...



“พวกมึงแน่ใจนะ  ว่าอยู่กลุ่มเดียวกับมันได้”   ปอกับออมเพียงแค่หันไปยิ้มให้กันเมื่อเพื่อนคนหนึ่งถามขึ้นมา 
“พวกมึงก็รู้ว่ามันเงียบเป็นเป่าสาก  เคยคุยกับใครที่ไหน 
เออ...มันเรียนเก่ง  แล้วไงวะ  สุดท้ายพวกมึงจะไม่ลำบากใจหรือไง”

ปอยักไหล่ไม่แคร์กับสิ่งที่เพื่อนห่วง  รีบเก็บของใส่เป้แต่ก็ไม่ลืมเอ่ยเตือน 
“ไอ้เอสมึงไม่ต้องห่วงพวกกูหรอกน่า  มันเก่ง  พวกกูก็เก่งพอกัน 
ยังไงพวกกูก็เอาตัวรอดได้อยู่แล้ว  มึงนั่นแหละเอาไอ้นุ่นกับไอ้คีมให้รอดก่อน 
อย่าให้ถึงมือพวกกูนะ  ไปออม...เดี๋ยวจะดึก”

เอสเพียงแค่มองตามหลังเพื่อนสนิทที่ดูท่าทางรีบร้อน  พวกมันคงรีบไปไหนสักที่ 
“ถ้าอึดอัด  อย่ามาโวยวายนะมึง"



“วันนี้มันขาดเรียน  ไม่เห็นจำได้วะ  ว่ามันขาดเรียนช่วงนี้ด้วย”  ออมมองเส้นทางที่คุ้นชิน 
ดวงตาโตเปล่งประกายเมื่อทั้งหน้าอาบไปด้วยรอยยิ้ม

“อย่างกับเราสนใจมันนักนี่  แต่ถ้าปอจำไม่ผิดนะ  ช่วงนี้มันจะขาดเรียนถึงวันพุธหน้า”

ออมหันมองคนพูดที่ยังคงตั้งใจขับรถต่อ  “สรุปว่ามีแต่กูต่างหากที่ไม่สนใจมัน  ใช่มั้ย?”

“อย่าพูดกูมึง  เดี๋ยวก็โดนบ่นอีก  ไอ้ที่ฝึกมาหลายเดือนนี่ไม่ชินบ้างหรือไงวะออม” 
ปอดุเพื่อนแต่ใบหน้ายังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม  วันนี้เขาอารมณ์ดีมากจริงๆ 
“กระเป๋าเสื้อผ้าก็ขนมาแล้ว  ของสดก็ซื้อมาแล้ว  เสาร์อาทิตย์นี้เราไม่ต้องออกไปไหนกันหรอก  เบื่อมนุษย์ว่ะ”


ไร้เสียงตอบรับใด  แต่ออมก็พยักหน้าเห็นด้วย  ก่อนจะจมอยู่ในความคิดของตัวเอง




เคยไหม?  ตื่นมาในเช้าวันใหม่  แล้วโลกมันเปลี่ยนไป...




รถจดตรงหน้าบ้านหลังกะทัดรัด   ประตูไม้อันแสนคุ้นเคยอยู่ตรงหน้า 
ปอกับออมมองเข้าไปในบ้าน  เกือบหกโมงเย็น   ฤดูหนาวทำให้มืดเร็วกว่าเคย   
แต่ไฟในบ้านก็เปิดสว่าง  มันไม่เงียบเหงาเหมือนที่เคยได้เห็น 


เคยไหม?  แค่เห็นแสงไฟนีออน  แต่แสงแห่งใจกับส่องสว่างไปด้วยความหวังร้อยพัน



“ออมลงไปเปิดเอง”  พูดจบก็รีบร้อนลงไปเปิดประตูเหมือนเคยชิน 
เหมือนเป็นบ้านตัวเอง  แต่คนขับก็ไม่รอช้ารีบขับรถเข้าไปจอดในบ้าน  เคียงข้างกับรถอีกคันที่จอดอยู่ก่อนแล้ว


ปอเปิดประตูลงจากรถขณะที่ออมเดินกลับเข้ามา  ทั้งสองหันไปมองใครอีกคน 
‘เจ้าของบ้าน’  เรียกแบบนี้จะถูกที่สุด  ใครคนนั้นกำลังยืนมองพวกเขานิ่ง  ไร้คำถาม 
แต่แววตาที่แสดงความสงสัยจนปิดไม่มิด  ทำให้ผู้บุกรุกถึงกับหัวเราะออกมา


“ดินไม่ไปเรียน  วันนี้อาจารย์แบ่งกลุ่มงาน  พวกเราสองคนอยู่กลุ่มเดียวกับดิน  ก็เลยถือโอกาสมาที่นี่เลย” 
ปอบอกในตอนที่เขาเปิดประตูหยิบกระเป๋าใบใหญ่ของตัวเองกับออมออกมา 
“คงต้องค้างที่นี่จนกว่างานจะเสร็จนะพี่”


“หนักว่ะ...”   ออมบ่นตอนจะลากกระเป๋าตัวเองเข้าบ้าน 
แอบยิ้มกับคำพูดของเพื่อนที่ว่าจะค้างจนกว่างานจะเสร็จ  นั่นไม่ใช่เป้าหมายของพวกเขาเสียหน่อย 

แค่ไม่กล้าบอกว่า...จะมาอยู่ถาวร


“พี่ช่วยครับ...”  เป็นเสียงแรกจากเจ้าของบ้านที่มาช่วยออมขนกระเป๋า 
แต่ทั้งที่เข้ามาช่วยก็ไม่เงยหน้าขึ้นมาสบตาสักนิด

“ฝากออมมันนอนห้องพี่ได้มั้ยครับ”  ปอเอ่ยถามขึ้นมาเมื่อขนกระเป๋ามาไว้ในบ้านแล้ว 
บ้านนี้เขาสำรวจมาทุกซอกทุกมุมแล้ว  ห้องนอนมีแค่สองห้องพี่น้องเท่านั้น 
“ผมเดาว่าดินคงป่วย  ออมมันเป็นหวัดง่าย  กลัวมันติดหวัด”



ลมหันมองคนติดหวัดง่ายเพียงนิด  แล้วรีบหลบตา 
“ได้...สนิทกันหรอกเหรอ  ไม่เห็นดินเคยเล่า”

“โอ้ยพี่...เพื่อนกัน  ไม่สนิทเดี๋ยวก็สนิทเองแหละ”  ปอขึ้นเสียงสูง  กลัวอีกฝ่ายจับได้ว่าพวกเขามัดมือชก 
จึงรีบถือกระเป๋าขึ้นไปด้านบนไม่รอให้อีกฝ่ายบอก 
ก่อนไปยังไม่ลืมส่งสายตาให้เพื่อนถ่วงเวลาอีกคนไว้ไม่ให้มายุ่งกับเขาอีก



“หิวข้าวอะ...”  ออมนั่งลงกับโซฟาหน้าทีวี  มองไปรอบๆ เหมือนจะหามื้อเย็นให้ตัวเอง 
“จริงๆ ออมกินมาแล้วนะพี่  แต่ว่าหิวอีก  เด็กกำลังโตอะ”

“คือ...”  ลมทำตัวไม่ถูก  ยิ่งเมื่อโดนอีกคนจ้องไม่วางตา  “คือ...วันนี้มีแค่แกงจืดกับไข่เจียวเอง  พี่ทำเพิ่มให้นะ”

“ไม่ต้องๆ กินได้ครับ”  แล้วออมก็ดึงแขนลมไปที่ห้องครัวทันที   “ถ้ากินแล้วนั่งเป็นเพื่อนด้วยนะ”


“ครับ”  เป็นเสียงตอบรับขณะกำลังเตรียมสำรับให้คนกำลังหิว  ที่นั่งเท้าคางรออยู่กับโต๊ะอาหาร

"อร่อย..."  ลมแอบหันไปยิ้ม  เมื่ออีกคนเอ่ยชม 
หารู้ไม่ว่าเขาอยู่ในสายตาอีกฝ่ายตลอดเวลา



ห้องถูกเปิดอย่างระมัดระวังไม่ให้เกิดเสียง  อาการไข้ทำให้เจ้าของห้องนอนหลับไม่รู้ตัว 
ปอทิ้งกระเป๋าไว้ข้างตู้แล้วย่องไปที่เตียงคนป่วย  แสงเลือนรางทำให้มองเห็นแค่เงาตะคุ่ม 
เขานั่งลงข้างคนหลับยื่นมือลูบผมนุ่มชื้นเหงื่อ  แล้วก้มลงจูบบนหน้าผากมนแผ่วเบา

“อย่างกับฝัน...”  เสียงนั้นพึมพำกับตัวเอง  ก่อนจะเอนตัวลงนอนกอดรัดคนหลับใหลเอาไว้



ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ  และไม่ใช่ความฝัน  เมื่อตื่นเข้าขึ้นมาในวันหนึ่ง 
วันเวลาของพวกเขา  ถอยหลังกลับไปเกือบเก้าเดือน 
มันทำให้คนที่เกือบจะตายทั้งเป็นมีโอกาสเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง


ตอนนี้ทั้งปอและออมกลับเป็นฝ่ายเริ่มต้นทุกอย่างเสียเอง   
พวกเขาไม่แม้แต่จะเสียเวลาสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น  ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงเกิดขึ้น 
หรือว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร  เพราะเมื่อเวลานำพาคนรักของพวกเขากลับมาได้ 
พวกเขาก็พร้อมที่จะใช้ชีวิตเคียงข้างกับคนรัก 
และจะไม่มีวันทำให้ทุกอย่างเดินทางกลับไปเหมือนกับที่มันเคยเกิดขึ้น





ความรัก...กำลังเริ่มต้น






รักคือรัก   อ่านว่า...รัก   แปลว่า  ‘รัก’






เธอคนเดียวที่ห่วงใยถึงกัน
เธอคนเดียวที่เปลี่ยนแปลงฉันให้เข้าใจ
ว่ารักจริงๆ ที่แท้เป็นไง ให้รู้ว่ามันคือสิ่งที่สวยงาม
เป็นดวงตาให้กันยามมืดมน
เป็นดังลมคอยโบกเวลาที่ร้อนใจ เหมือนเสียงดนตรี
ที่ก้องในใจ รู้ไหมว่าเธอคือสิ่งที่สวยงาม

ยิ่งทำให้รัก รักเธอมากขึ้นทุกวัน ยิ่งนับวัน ก็มีแต่ยิ่งซึ้งใจ
ขอรักจริงๆเท่าที่ฉันมี ให้ถึงความดีที่เธอให้มา ยิ่งนานยิ่งรักเธอ ...

ในเวลาที่ห่างกันแสนไกล ยังมีเธอปรากฏในใจใกล้ๆกัน ให้รู้สึกอุ่น
ทุกๆคืนวัน เหมือนฉันนั้นมีเธออยู่เคียงข้างกาย

ยิ่งทำให้รัก รักเธอมากขึ้นทุกวัน ยิ่งนับวัน ก็มีแต่ยิ่งซึ้งใจ
ขอรักจริงๆเท่าที่ฉันมี ให้ถึงความดีที่เธอให้มา ยิ่งนานยิ่งรักเธอ ...

ถึงแม้ให้เธอเป็นดังลมหายใจ ฉันรู้ว่าเธอคงไม่ต้องการ
เพราะรู้ว่าเธอเองไม่เคยเรียกร้อง ให้รักเธอ

ยิ่งทำให้รัก รักเธอมากขึ้นทุกวัน ยิ่งนับวัน ก็มีแต่ยิ่งซึ้งใจ
ขอรักจริงๆเท่าที่ฉันมี ให้ถึงความดีที่เธอให้มา ยิ่งนานยิ่งรักเธอ ...





จบด้วยเพลงเก่าที่แว้บมาในสมอง  เรื่องอาจจะไม่อธิบายอะไรมาก
รีบเปิดรีบจบ  แต่ทยอยลงเพราะติดตอนพิเศษที่ว่า  แก้หลายรอบ 
สุดท้ายจบแบบนี้น่าจะโอเคแล้วอะค่ะ  เดาต่อเอง...อิอิ


ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ
[/color]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-02-2014 21:09:54 โดย OIL1982 »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [เรื่องสั้น] รักคืออะไร (จบ)
« ตอบ #9 เมื่อ: 02-02-2014 22:12:36 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Moose

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
Re: [เรื่องสั้น] รักคืออะไร (จบ)
«ตอบ #10 เมื่อ02-02-2014 22:54:38 »

T__T เหมือนจะจบเศร้า แต่ก็ไม่ บอกไม่ถูก เอาเป็นว่าร้องไห้ตลอดทั้งตอน ขอบคุณที่แต่งมาให้อ่านค่ะ


ออฟไลน์ Mancha KHIRI

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
Re: [เรื่องสั้น] รักคืออะไร (จบ)
«ตอบ #11 เมื่อ02-02-2014 23:06:23 »

เรื่องนี้ทำเราน้ำตาซึมจริงๆ นะ เมื่อคราวยังมีเวลากลับไม่พยายามรักษาสิ่งดีๆ ไว้เลย กว่าจะเข้าใจอะไรบางอย่าง เวลามันก็ผ่านเลยไปแล้ว สูญเสียบางสิ่งไปแล้ว ถึงเวลานี้คงจะเหลือก็แต่ความทรงจำที่ไม่รู้ว่าจะอยู่ไปได้นานเท่าไหร่เท่านั้นเอง...

สรุป...เรื่องนี้มันหน่วงมากค่ะ :m15:

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
Re: [เรื่องสั้น] รักคืออะไร (จบ)
«ตอบ #12 เมื่อ03-02-2014 00:24:29 »

ดีที่จบแบบสมหวังค่ะ เกือบร้องไห้เลย

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
Re: [เรื่องสั้น] รักคืออะไร (จบ)
«ตอบ #13 เมื่อ06-02-2014 11:28:54 »

โอ๊ยยยยย อ่านไปปาดน้ำตาไป
 :mew4:
แต่สุดท้ายก็ยังมีโอกาสย้อนกลับไป เริ่มต้นใหม่ได้
รักษามันไว้ให้ดีที่สุด เพื่อรัก

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
Re: [เรื่องสั้น] รักคืออะไร (จบ)
«ตอบ #14 เมื่อ06-02-2014 15:16:17 »

สรุปว่าทั้งคู่ไม่ตายใช่ไหม
 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
Re: [เรื่องสั้น] รักคืออะไร (จบ)
«ตอบ #15 เมื่อ27-02-2014 00:20:07 »

 :sad4: :sad4: แง อ่านเรื่องนี้ ทั้งซึ้งและหน่วง
คนเขียนบิวด์อารมณ์ได้สุดยอดมาก แค่อักษรไม่กี่ตัวเอง

ยังดีที่มีตอนพิเศษ ไม่งั้น ไม่ไหวอ่ะ จุกอก
ตอนนี้ยังอยากได้ตอนพิเศษตอนสองต่อ
ยังอยากเห็นทั้งสองคู่ในเวอร์ชันมีความสุขบ้าง
คนเขียนจะรับไว้พิจารณามั้ย
อยากอ่านจริงๆนะ  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ เงาใต้น้ำ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +116/-3
Re: [เรื่องสั้น] รักคืออะไร (จบ)
«ตอบ #16 เมื่อ27-02-2014 20:58:05 »

^
^
ตอนหวานๆ เดี๋ยวจะลองดูค่ะ หวานน้ำเน่านี่ถนัดอยู่ 555
ลองอ่านดู เจอจุดผิด จะแก้อีกทีค่ะ

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
Re: [เรื่องสั้น] รักคืออะไร (จบ)
«ตอบ #17 เมื่อ27-02-2014 22:38:36 »

^
^
ตอนหวานๆ เดี๋ยวจะลองดูค่ะ หวานน้ำเน่านี่ถนัดอยู่ 555
ลองอ่านดู เจอจุดผิด จะแก้อีกทีค่ะ

 :m18: ขอบคุณคนเขียนมากจ้า ที่รับไว้พิจารณา
ได้เห็น ดิน กับ ลม สมหวังก็ตายตาหลับแล้ว

ไม่ใช่ว่ากลับมาพลิกล็อคดราม่านะคนเขียน ช๊อคตายพอดี

ออฟไลน์ Moose

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
Re: [เรื่องสั้น] รักคืออะไร (จบ)
«ตอบ #18 เมื่อ28-02-2014 02:50:41 »

เข้ามาอ่านอีกรอบ ยังเรียกน้ำตาได้เหมือนเดิม ชอบมากค่ะ ได้อะไรหลายๆ อย่างจากเรื่องนี้เยอะเลย ขอบคุณมากๆ นะคะ

เข้ามารอตอนพิเศษด้วยคนค่ะ อยากเห็นพี่ลมกับน้องดินมีความสุขกับคำว่ารักให้มากกว่านี้ ให้ทั้งสองคน.. ได้สัมผัสกับคำว่ารักจากคนที่รักอย่างแท้จริง แอบสงสารพ่อของทั้งสองคนมากๆ คิดได้.. เมื่อทุกอย่างมันสายไป   

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
Re: [เรื่องสั้น] รักคืออะไร (จบ)
«ตอบ #19 เมื่อ28-02-2014 15:15:09 »

เรื่องนี้ทำให้เค้าร้องไห้เลย
สงสารดินและลม


ีดีนะที่ได้ตอนพิเศษมาช่วยไว้

 :mew2: :mew2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [เรื่องสั้น] รักคืออะไร (จบ)
« ตอบ #19 เมื่อ: 28-02-2014 15:15:09 »





ออฟไลน์ ปมด้อย MTC73

  • ชอบนะเวลามีคนนินทา มันทำให้รู้สึกว่า ตัวเรามีความสำคัญกับชีวิตมันดี
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: [เรื่องสั้น] รักคืออะไร (จบ)
«ตอบ #20 เมื่อ01-03-2014 10:50:56 »

     

 
      อ่านไปเจ็บไป น้ำตาไหลเป็นทาง :sad11: :hao5: :hao5:  :hao5:
 
         สงสาร ทั้งพี่ลม และดิน จิรกานต์และธีรกานต์... ผู้เป็นที่รัก :mew4: :mew4:




            อยากให้มีตอนพิเศษเยอะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :call: >> เว่อร์ไป


ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
Re: [เรื่องสั้น] รักคืออะไร (จบ)
«ตอบ #21 เมื่อ01-03-2014 15:16:02 »

อ่านไปน้ำตาคลอไปเลย

ออฟไลน์ MK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
Re: [เรื่องสั้น] รักคืออะไร (จบ)
«ตอบ #22 เมื่อ01-03-2014 18:43:34 »

ไม่ใช่คนชอบดราม่า  เพราะปกติถ้าอ่านเจอ  ก็เลิกอ่าน...5555   <<<<<<<<<<< เหมือนกันนนนนน   :katai1:

เกือบเลิกอ่านแล้ว ตอนเจอฉากรถตกเหว  แต่ก็กัดฟันอ่านจนได้ แล้วเห็นว่าสมหวัง  ดีใจที่ได้อ่านต่อ  :m2:

ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ  o13

ออฟไลน์ เงาใต้น้ำ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +116/-3
เงาใต้น้ำ : โผล่มาคุยก่อนค่ะ  เพราะไม่รู้จะหวานพอมั้ย  แต่มันไม่มีอะไรมากนะ
คิดไม่ออก  คงเพราะเป็นหวัดอยู่ด้วย  ก็เลยมึนๆ  แต่การนอนเฉยๆ ก็พอให้มีเวลา อิอิ
หวังว่าคงชอบนะคะ  เอาตอนของปอดินไปก่อน   น่าจะเห็นนิสัยกันชัดขึ้น
ส่วนลมออม  รอสักพักค่ะ  อาจจะได้เลยใกล้ๆ นี้  หรือรอหลังหายป่วยก่อน  เหอๆๆ
ไม่จัดหน้านะคะ  เดี๋ยวนาน  คือง่วงด้วยอ่า....



ตอนพิเศษ : รักคือ...เธอ




“แน่ใจนะว่าจะมานอนเล่นที่นี่  ไม่ไปเดินเล่นที่ไหน”

ปอตะโกนออกไปถามคนรักที่นั่งมองรีโมทในมือไม่มีทีท่าว่าจะเปิดดูทีวีจอดำสนิทตรงหน้า  หลังจากรับดินออกมาจากบ้านก็พากันไปเดินตลาดหาซื้อทั้งของสดและอาหารสำเร็จรูปเต็มไม้เต็มมือ  มาถึงไอ้ตัวดีมันก็นอนแผ่หมดแรงบนพื้นหน้าโซฟา  ปอเลยต้องทำหน้าที่เอาของที่ซื้อมาจัดใส่ตู้เย็น  เหมือนทุกทีที่เคยทำ

“จะนอนเล่นแถวนี้แหละ  ไม่อยากไปไหน  ร้อนจะตาย”  ดินบ่น  ขยับจากพื้นมากลิ้งตัวบนโซฟานุ่ม  นอนคว่ำซบหน้าอยู่กับแขน  ท่าทางซึมเพราะมีเรื่องให้คิดจนหัวแทบระเบิด

“เป็นอะไร”   ปอเดินเข้ามาเห็นอาการคนรัก  ก็นั่งลงบนพื้นใกล้ๆ  ยื่นมือลูบผมนุ่มที่เขาเพิ่งสระให้เมื่อวาน  ทอดเสียงอบอุ่นถามอีกเมื่อไม่ได้รับคำตอบ  “ว่าไงครับ...เป็นอะไรเอ่ย?”

“หงุดหงิด”  เสียงที่ตอบสั้นและห้วนอย่างไม่เคยเป็น  ทำให้คนฟังขมวดคิ้ว  ไม้อ่อนคงใช้ไม่ได้ผล

“ตามสบายนะ  เผื่อจะสนุก”  ปอหยิบรีโมทบนพื้นมากดเปิดทีวี  หาช่องรายการโปรด  ไม่สนใจสายตาจิกกัดที่จ้องมองอยู่ด้านหลัง  กระทั่งมีสองแขนโอบมารอบคอ  กับน้ำหนักที่ทิ้งลงบนไหล่ซ้าย

“รักดินรึเปล่า?”

น้ำเสียงที่ถามไม่มั่นคง  เบาจนแทบโดนเสียงสารคดีกลบ  แต่เพราะกระซิบถามที่ข้างหู  ทำให้ปอได้ยินชัดเจน  เขาดึงมือหนึ่งมาจูบลงไปหนักๆ  เนิ่นนาน  แล้วหันหน้าไปหาจนปลายจมูกแทบชนกับแก้มนวล  “รักมาก...”

“แล้วทำไม...”  ยังถามต่อ  เอียงแก้มตัวเองชนปลายจมูกอีกคนหลายครั้ง  “ทำไมต้องไปทำดีกับยัยพวกนั้นด้วย”

“อ๋อ...”  ปอเพิ่งเข้าใจสาเหตุที่ทำให้ใครบางคนหงุดหงิด  พูดน้อยลงทั้งที่ปกติก็แทบไม่พูดอยู่แล้ว  แต่อาการที่เยอะกว่าปกตินี่สิ  เรียกได้ว่า...น่าสนใจ

“ทำไม?”  เสียงถามยังดังอยู่ข้างหู  เห็นอีกคนทำท่าคิดหนัก  หรือจะคิดแก้ตัว

“อาจจะทำมากกว่านี้”  ปอยอมรับว่าตัวเองเป็นคนกวนประสาท  แล้วเขาก็ไม่เคยเปลี่ยนนิสัยเสียด้วย 

“ทำไม?”

“ถ้ามันทำให้ใครบางคนน่ารักได้ขนาดนี้  ก็น่าจะทำอีกหลายๆ ครั้ง  ให้แสดงความรู้สึกเยอะๆ  เอาแบบว่า  ขว้างปาข้าวของ  แล้วก็จับเจ้าของห้องกดไปกับเตียงเลยได้ยิ่งดี”  ปอหัวเราะขำกับความคิดของตัวเอง  ยิ่งเหลือบเห็นดวงตาโตเบิกกว้างเขายิ่งนึกสนุก

“ทำไม...?”  ปออยากจะถามมันว่าพูดได้คำเดียวเหรอวะ?

“บอกสิ  ว่าต้องทำแค่ไหน  ถึงจะแสดงอารมณ์ออกมาได้มากที่สุด  แบบที่เก็บเอาไว้คนเดียวไม่ไหวน่ะ”

ดินซบหน้าอยู่กับซอกคอคนถาม  บอกเสียงอู้อี้  “ไม่บอก  ไม่อยากอกหัก”

ปอพยักหน้า  เหมือนจะพอเข้าใจ  ก่อนจะเอียงตัวเข้าหาโซฟา   ดึงตัวดินเข้ามาหา  “อากาศร้อนอบอ้าว  อาบน้ำกันเหอะนะ”  พูดจบก็อุ้มอีกคนไปยังจุดหมายทันที






“ยังไม่ตอบเลยนะ...”  ดินยังไม่ยอม  ยื้อมือที่กำลังจะถอดเสื้อเขาเอาไว้  แต่ก็ไม่ได้ผล  ใช้เวลาไม่นานก็ถูกลอกคราบสำเร็จ  ผิวนวลสว่างตาเมื่อต้องแสงไฟ  ตอนที่ปอกำลังเปิดน้ำใส่อ่างแล้วหันมาถอดเสื้อผ้าขว้างทิ้งอย่างใจเย็น

“มานี่...”  กวักมือเรียกคนที่ยืนเปลือยอยู่กลางห้อง  สองแขนโอบกอดร่างที่โถมเข้าหาก่อนจะพาลงไปแช่น้ำด้วยกัน  หยิบครีมอาบน้ำกลิ่นหอมมาเทใส่มือแล้วลูบไล้ไปตามผิวเนียนด้วยรอยยิ้มพอใจ

ดินเอนตัวซบคนรักตอนที่มือใหญ่ลูบไล้ไปมาบนท้อง  เงยหน้ามองคนที่จ้องมองไปตามร่างกายเขาแล้วก็หน้างอ  คำถามไม่ได้รับคำตอบ  แล้วยังมาทำตัวใกล้ชิดสนิทสนม  ช่างเป็นคนที่นิสัยแย่จริงๆ  แต่เขาก็รัก....รักมากด้วย

“จะไม่เชื่ออะไรอีกแล้ว...คนแบบนี้”

“ตามใจนะ  มีผัวคนเดียวแล้วจะดื้อ   จะไม่เชื่อก็ตามใจคุณสิ”  ปอไม่แยแส  เขาไม่ใช่ไอ้พี่ลมจะได้ตามใจเมียมันทุกอย่าง  รองเท้ายังแทบจะหมอบคลานไปใส่ให้  ดูแลเมียมันอย่างกับเทวดา

ดินขยับตัวเข้าไปกอด  ซบหน้าอยู่แผ่นอกกว้าง  จงใจบอกให้อีกคนรู้ว่าเขาโกรธ  และจะไม่ยอมลงให้อีกแม้แต่ปลายนิ้วเดียว  ฟันคมที่เคยคิดจะขบกัดริมฝีปากตัวเอง  งับไปบนกล้ามเนื้อบนหน้าอกปอ  อย่างไม่กลัวอีกฝ่ายจะเจ็บ  แม้จะร้องโอดโอย  ก็จะไม่ยอมปราณี

“โทรศัพท์ไปไหนวะ...”  ปอเหลือบซ้ายแลขวา  ขยับตัวไปหยิบโทรศัพท์ที่วางไม่ห่างมือมากนักมาปลดล็อก   เลือกมุมที่มองเห็นเพียงฟันคมกับผิวเนื้อแล้วกดถ่ายรูป  แชร์ลงโลกโซเบอร์อย่างรวดเร็วกับสถานะ  ‘เมียกู...โหดข้ามขั้น’

ดินเหลียวมองหน้าจอโทรศัพท์ของปอที่ยื่นเข้ามาใกล้  แก้มแดงก่ำพองลมดูน่ารักในสายตาอีกคน  ที่พยายามจะสบตาด้วยแต่ดินก็พลิกตัวหลบจนต้องกอดเอาไว้ให้มั่น  ก่อนก้มลงหอมแก้มนุ่มน่าฟัดหลายๆ รอบ  จนอีกคนตัวสั่นเพราะความเชินอายนั่นแหละถึงได้หยุด

“ใครก็อิจฉาปอทั้งนั้น  มีเมียโคตรน่ารักเหอะ  โดนไอ้พวกนั้นบอกทุกวัน...เมียมึงน่ารักมากกกกก  แล้วแบบนี้ยังจะเอาเวลาไปยุ่งไปสนิทกับคนอื่นได้เหรอ”  ปอพูดทั้งที่ยังจ้องแก้มแดงๆ ไม่วางตา  “แล้วเรื่องที่เห็นนั่นมโนมานานหรือยัง”

“เปล่านะ...”  ดินพยายามหันหน้าหนี  แต่ก็ติดมือที่ยื้อประคองไว้

“นานหรือยัง?” 

ถ้าถามถึงขนาดนี้แล้วไม่ตอบ  ดินรู้ว่าเขาต้องแย่แน่ๆ  ก็เลยพยักหน้า  พยายามจะหาคำแก้ตัวไปด้วย  แต่ก็คิดไม่ออก  จึงต้องตอบความจริงไป  “ก็เดือนกว่าแล้ว...”

“ยังนานได้มากกว่านี้มั้ยครับเมีย?”

คราวนี้ดินส่ายหน้า   รู้แก่ใจว่าเพียงผ่านพ้นวันนี้ไปถ้าไม่ได้คำตอบ  อกแตกตายแน่นอน  “ไม่ไหวแล้วอ่า  จะบ้าตายแล้ว”

“คราวหน้าก็ถามเลย  ไม่ใช่ต้องไปเจออยู่บนเตียงกับใครสักคนแล้วค่อยมาถาม  มันจะสายเกินแกง...”  ปอหัวเราะเมื่อโดนกำปั้นทุบลงมาบนอก  เจ็บนะแต่โคตรขำหน้าคนที่กำลังงอนก็เลยอดไม่ไหว  “ถูตัวให้หน่อยสิ  รางวัลที่ไม่เคยนอกใจไง”

“บ้าสิ...”  ถึงจะว่าแบบนั้น  แต่ดินก็ตั้งใจอาบน้ำสระผมให้ปอจนเสร็จ  แม้จะโดนขโมยจูบหรือหอมแก้มไปหลายครั้งจนตัวเปื่อยแต่คราวนี้ก็ยอมๆ กันไป  เพราะอย่างน้อยเขาก็ได้รับคำตอบที่น่าพอใจ








“วันนี้ไม่อยากจะรังแกบางคนหรอกนะ...”  ปอเอ่ยบอกตอนที่เช็ดผมให้ดินอยู่  “ช่วงนี้ไม่ค่อยได้หยุดให้เลย  เดี๋ยวจะช้ำใน  ปอเป็นห่วงดินนะเนี่ย”

ดินเงยหน้ามองคนพูด  ชกไปที่ท้องปอแรงๆ  “ฟังเสียงเหมือนเป็นห่วงเลยนะ”  นี่ก็จงใจประชด

“ฟังดูเหมือนเสแสร้งเหรอ...”  ปอไม่ได้หยุดมือที่ซับไปบนเส้นผมที่เริ่มหมาด  แต่ก้มลงมาจ้องมองดินด้วยสีหน้าเครียด  “ถ้าอย่างนั้นคงต้องบอกความจริง  ว่าปอคงปล่อยดินให้พ้นคืนนี้ไม่ได้หรอก”

“อะไรเล่า  ก็เมื่อกี้ยังบอกว่าเป็นห่วงอยู่เลย”  ดินพยายามจะผลักปอที่เปลี่ยนมากอดรัดเขาเอาไว้  แต่ไม่ว่าดิ้นรนเท่าไหร่ก็ไม่พ้นออกจากอ้อมกอดแกร่งไปได้  ก็ไม่ได้จงจงใจออกแรงสักเท่าไร

“รู้ว่าอยากให้ทำ  แต่ว่าก็ต้องพักผ่อนกันบ้างล่ะนะ”  ปอยังลอยหน้าลอยตาพูด  เมื่อเห็นดินหยุดดิ้น  และคำพูดเขาก็ทำให้อีกคนดิ้นรนรุนแรงขึ้น  ก็คงไม่ใช่เพราะอะไรหรอก...น้อยใจ








ปอนั่งมองคนที่นั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงแล้วได้แต่ยิ้ม  ให้มองกี่ทีมันก็น่ารักแบบนี้เสมอ  ไม่ว่าจะอยู่ในอารมณ์ไหนเขาก็สามารถยิ้มได้ตลอด  ถ้ายังคงมองเห็นมันอยู่ในสายตา  เรียกว่าไม่ทุกข์ร้อนกับอารมณ์ร้อยแปดของมัน  แล้วก็ยังอุ่นใจด้วยที่มันไม่ได้หนีเขาไปไหน  ที่สำคัญการง้อมันก็เป็นเรื่องที่น่ารื่นรมย์สำหรับคนอย่างเขา

เลือกมุมภาพสวยได้  ปอก็ถ่ายภาพลงในโทรศัพท์แล้วแชร์สถานะผ่านโลกกว้างใหญ่อีกครั้ง  ปกติเขาจะถ่ายรูปมันอัพเดทสถานะไม่เกินวันละครั้ง  กลัวไอ้เพื่อนพวกนั้นมันอิจฉาที่มีเมียน่ารัก  แต่คราวนี้ขอนิดหนึ่ง  กับบรรยากาศขมุกขมัวภายในห้อง  กับอารมณ์เย็นชาจากใครบางคน

‘กูทำให้น้อยใจแล้วไง...สุดท้ายกูก็รักของกู’

อดรู้สึกรำคาญไม่ได้ที่ไอ้พวกเพื่อนของเขาต้องคอยกดดิสไลค์สถานะเขาอยู่ทุกวัน  แต่ยิ่งพวกมันไม่ชอบเท่าไหร่ปอยิ่งพอใจ  เพราะยิ่งพวกมันไม่ชอบก็ยิ่งหมายถึงอิจฉาเขา  บ่นให้ได้ยินไม่พอ  ยังมีหลักฐานมาให้เห็นอีก  นี่พวกมันไม่ชินเลยหรือที่เขามีเมียน่ารักแบบนี้

“ดินมานี่มา”  ปอกวักมือเรียก  อ้าสองแขนออกกว้าง  ก่อนจะรับร่างที่วิ่งเข้ามาหา  ไม่ต้องเรียกอีกเป็นครั้งที่สอง  “เป็นไง  น้อยใจพอหรือยังครับ  อยากไปนั่งน้อยใจอีกมั้ย”

“ยังไม่พอ...”  ดินเริ่มร้องไห้โฮ  เสียงดังแต่ไม่น่ารำคาญหรอก  ยิ่งมันสะอื้นสิยิ่งดี  ปกติดินไม่ได้ร้องไห้บ่อยๆ  หรอก  มันเข้มแข็งกว่าพี่ลมเยอะ   รายนั้นบ่อน้ำตาตื้น  อ่อนไหวจนเปราะบาง   นี่แหละปอถึงได้อิจฉาไอ้ออม  มันได้โอ๋พี่ลมมันตลอด

“โอ๋ๆ  ร้องไห้เลยคนเก่ง”  ปอจูบซับน้ำตาให้ดินอยู่ตลอด  ดวงตาคู่สวยเริ่มแดงก่ำ  หยดน้ำตาก็ดูท่าจะไม่หมดลงง่ายๆ  สงสัยจะอัดอั้นตันใจ  ก็มีแฟนกวนประสาทแบบนี้ไง

“ปอไม่เคยสนใจ ...”  เสียงตะโกนนั้นสั่น  ตาโตก็ตัดพ้อ  สองมือยังพยายามจะทำร้ายอีก  แต่ปอก็ปล่อยมันทำให้พอใจ  ชักไม่พอใจขึ้นมาตงิดๆ  สงสัยว่าเขายังทุ่มเทให้มันไม่พอหรือ  ถึงได้ว่าไม่สนใจ

“แล้วไงอีก...”

“ปอนิสัยไม่ดี...”

“อย่างกับไม่เคยรู้นะ”  อันนี้ปองงจริง  เพราะนิสัยเขานี่ทุกคนรู้กันทั่ว  ผู้หญิงยังขยาดเลยเหอะ

“ปอบ้า...”

เริ่มไม่ใช่แล้ว  ปอเริ่มสับสนกับคนร้องไห้  มันอยากว่าอะไรมันก็ตะโกนออกมา  สรุปคือเขาดีหมดแหละสำหรับมัน  แต่เพราะกำลังโมโหก็เลยพาลไปหมด  เออ...อารมณ์แบบนี้ก็มี  นึกสงสัยว่าเพื่อนมันจะเบื่อหรือยังถ้าเขาจะแชร์สถานะตอนนี้  ป่าวประกาศอีกสักรอบ

โทรศัพท์จับมุมภาพสวยได้อีกรอบ  น้ำตาที่ร่วงบนแก้มนวลส่องประกายล้อแสง  ดวงตาโตจ้องมองกล้องกำลังพอดี  เป็นมุมที่สวยแบบไม่ตั้งใจ  สถานะถูกแชร์เป็นรอบที่สามของวัน 

‘น่ารัก...นอกจากคำนี้  กูไม่สามารถอธิบายได้อีกแล้ว  นอกจาก...รักมาก’

ดินคว้าโทรศัพท์ออกจากมือคนรัก  ไม่ได้คิดจะปาทิ้ง  ขืนทำแบบนั้นเขาอาจจะตายไร้ที่ฝัง  ในเครื่องมีรูปเขาเยอะ  แล้วปอมันหวงรูปพวกนั้นมาก  ขืนให้มันต้องไปเอาจากคอมพิวเตอร์มาลงใหม่มันคงหงุดหงิดน่าดู  มันอาจจะไม่ยอมคุยกับเขาหลายวันเพราะเรื่องนี้ก็ได้

มือเลื่อนดูสถานะล่าสุดไปเรื่อยๆ  หน้าตาแดงก่ำจากการร้องไห้คงไม่สามารถแดงไปได้มากกว่านี้  ดินไม่เคยมีอะไรพวกนี้  เขาไม่เข้าใจหรอกว่ามันสนุกตรงไหนที่ต้องมาคอยอัพเดทสถานการณ์ปัจจุบันให้คนอื่นรู้  แต่ปอมันชอบทำ  และส่วนใหญ่ก็เต็มไปด้วยรูปของเขา  แม้จะเห็นเพียงเสี้ยวหนึ่ง  ระบุไม่ได้ว่าเป็นใครมากจากไหน   ทุกภาพจะมองออกแค่ว่าคนๆ นี้ผิวสวย  และผู้หญิงหลายคนก็มองว่าเป็นผู้หญิงเหมือนกัน  จะมีก็แต่เพื่อนสนิทปอที่รู้ว่าคนในภาพคือดิน

หลายภาพถูกเอาไปจัดอันดับว่าอีโรติค  พวกภาพบนเตียงที่เห็นเพียงแก้มกับหัวเตียง  รวมถึงภาพกัดในอ่างน้ำอาบน้ำที่เห็นแค่ฟันขบบนผิวกับคลื่นน้ำนั่นแหละ  ถ่ายไปไม่ถึงสองชั่วโมง  เพื่อนมันจัดขึ้นอันดับหนึ่งไปแล้ว  ชนะภาพหยดน้ำตาที่เห็นเพียงลูกตากับนิ้วที่จิกหมอนไปได้แบบเนียนๆ

“หายโมโหหรือยัง?  ยิ้มได้แล้วนี่”  ปอเอ่ยถาม   ก้มลงซุกจมูกอยู่กับซอกคอหอมกรุ่น

“ไม่ได้โมโห  แค่รอปอง้อเอง”  ดินวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ  เอื้อมไปเกือบสุดมือกว่าจะถึง  วางได้แล้วก็โอบแขนกอดอีกคนเอาไว้หลวมๆ  “ง้อได้แล้วเหรอ...”

“ง้อได้ทั้งวันแหละ  แต่อยากเห็นสีหน้าใครบางคน”  ปอขบเม้มไปบนลาดไหล่ขณะตอบ  คอเสื้อเคยถูกดึงจนย้วยเพื่อให้สะดวกสบายกับสิ่งที่เขากำลังทำ  ก็เลยแทบจะไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรเพียงแค่ดึงมันลงเบาๆ

ปอหัวเราะกับตัวเองเมื่อนึกถึงครั้งหนึ่ง  ที่เขาใช้นิ้วเกี่ยวคอเสื้อยืดของดินออกเพื่องับไหล่เล็ก  แต่เพราะคอเสื้อไม่กว้างพอ  ผ้าก็เลยบาดคออีกด้านของคนรักจนแดงเถือก  หลังจากนั้นมาถ้าไม่ใช่เสื้อคอกว้าง  เขาก็จะเอาเสื้อของดินมานั่งฉีกคอให้ย้วยก่อน  จะได้ไม่ทำให้คนรักต้องเจ็บตัวอีก

“สนุกเหรอ...”  ดินผลักปอออก  หน้ามุ่ยนั้นจ้องมองอย่างเอาเรื่อง

“วันนี้อารมณ์เสียทั้งวันเลย”  ปอพึมพำ  ส่ายหน้าไปมา  ดูเหมือนเรื่องที่ดินมโนจะส่งผลกระทบเยอะกว่าที่คิดเอาไว้  “เอาล่ะ  มาคุยกันให้รู้เรื่องดีกว่า  จะได้จบๆ ไป”

“เรื่องอะไร?”

“ก็เรื่องที่ปอพลาด  ทำให้ดินเข้าใจผิดไง  ถ้าไม่เคลียร์ให้จบคงอยู่กันดีๆ ไม่ได้  นี่เราหาเรื่องทะเลาะกันไม่หยุดเลยนะ  ตั้งแต่มาถึงห้องปอเนี่ย”  ปอเริ่มเครียด  แต่ที่พูดก็ไม่ได้พูดด้วยอารมณ์แต่อย่างใด  “จะให้ปอทำยังไงดินถึงจะพอใจครับ  พูดมาเลย”

“ปอเพื่อนเยอะ  ถ้าให้ทำโน่นนี่  ไม่คบคนนั้นคนนี้  ก็เหมือนไม่สนใจความรู้สึก”  คนพูดก้มหน้า  ไม่กล้ามองสบตา

“ไม่เป็นไร  จะให้ทำอะไรก็บอก  ปอสนใจความรู้สึกดินมากกว่า”  ปอใช้นิ้วแตะคางให้ดินเงยหน้ามองตน  แล้วก้มลงไปจูบบนริมฝีปากอิ่มนั่นเบาๆ   “จะให้ทำยังไง...”

“จูบ...”  ดินขยับเข้าไปกอดคอปอแล้วส่งยิ้มหวาน   “อีกสิ...”

“ง่ายมากเลย...”  ปอเลื่อนหน้าเข้าหาคนที่รอ  ประกบริมฝีปากจนแนบชิด  ปล่อยให้ลิ้นของเขาทำหน้าที่แทนเสียงที่ต้องคอยเอ่ยถาม 

จะให้ทำอย่างไร...ก็รักหมดใจ













“ปอวันนี้รีบกลับเหรอ”  สามสาวที่เดินเข้ามาใกล้เอ่ยถาม  พวกเธอเหลือบมองดินที่เดินไปยืนรอที่รถอย่างสงสัย  “จะไปไหนกันเหรอ  เดี๋ยวนี้ปอสนิทกับจิรกานต์มากกว่าแต่ก่อนอีกนะ”

ปอหันไปหาเจ้าของชื่อที่ถูกพูดถึง  ทางนั้นหันหน้าหลบเมื่อเห็นเขาหันไปมอง  ทำให้อดหัวเราะไม่ได้  แต่พอนึกอะไรบางอย่างได้ก็เลยเดินเข้าไปหา  ดึงแขนของคนที่กำลังจะหนีขึ้นรถเอาไว้  เห็นสายตาของสามสาวยังจ้องมองมาก็ยิ่งพอใจ

“รอนะ  เดี๋ยวจะรีบคุย”  ปอขยับเข้าไปหาดินที่มีสีหน้าสงสัย  ริมฝีปากเคลื่อนแตะลงบนริมฝีปากอีกฝ่ายแล้วยิ้ม  “ทำแบบนี้ใช่มั้ย  ถึงจะไว้ใจ”

“บ้าสิ...”  หน้าที่เคยซีดเพราะอากาศร้อนเปลี่ยนสีรวดเร็ว  ก่อนที่เจ้าตัวจะเปิดประตูรถเข้าไปซ่อนตัวอย่างเงียบเชียบ

ปอเดินกลับไปหาสามสาวที่เบิกตาค้าง  อ้าปากพะงาบๆ  คงตกใจมมากจนทำอะไรไม่ถูก  “รีบกลับ  ไปก่อนนะ  อยู่นานไม่ได้  เห็นเงียบแบบนั้นแต่โคตรดุเลยเหอะ”

ทิ้งสามสาวไว้กับความตกใจและสะเทือนใจ  ปอเดินกลับมาขึ้นรถ  ขณะรัดเข็มขัดก็เหลียวมองอีกคนที่เบนหน้าหนีมองไปนอกหน้าต่าง  แก้มยังมีสีเรื่อน่ามอง  จึงเอื้อมมือแตะเพียงแผ่วเบา  ให้อีกคนหันกลับมาหา  แล้วยึดมือเขามาจูบไล่ไปทีละนิ้ว  แสดงออกถึงความรักที่มีเสียจนล้นใจ

“ก็บอกแล้วว่ารักแค่คนนี้คนเดียว  สนใจแค่คนๆ เดียว  เชื่อหรือยังครับ”

“หวาน...”  ดินกดริมฝีปากลงฝ่ามือแล้วยิ้ม  “ไม่ใช่มือนะ  ที่พูดน่ะ”

“แล้วต้องทำยังไงอีก  ถึงจะเชื่อใจไปตลอด...”  ปอขยับเข้าไปใกล้เพื่อให้คำถามนั้นกระซิบที่ข้างหูคนรัก

ดินยิ้มหวาน  จูบลงบนจมูกคนถาม  แล้วคลอเคลียอยู่กับริมฝีปาก  แตะจูบไปหลายครั้ง  “มันเป็นเรื่องที่ลึกซึ้งมากเลยนะ”

“แค่ไหน...”

“อือ...”  ดินทำท่าคิดใหญ่โต  เอนตัวพิงประตูรถ  ปล่อยให้ปอขยับเข้ามาคร่อมไว้ทั้งตัว  แล้วก้มลงฟัดแก้มเขาไม่หยุดจนต้องดิ้นรนหนีเพราะจักจี้จนทรมาน   แต่ก็หวามในความรู้สึก

“ลึกซึ้งแค่ไหน....ถึงจะพอใจดิน”

“มากอยู่นะ...”

“มากเท่าไร...”  ปอดึงเกี่ยวกระดุมเม็ดเสื้อเม็ดที่สองออกจากรังดุม  ดวงตาจับจ้องคนรักไม่วางตา

“มากเท่าไร?”  คิ้วขมวด  เหมือนเครียด  แต่กระดุมเม็ดที่สามหลุดออกแล้ว

ดินหัวเราะ  ตอนที่ปอก้มลงแหวกสาปเสื้อเขาออก  แล้วบรรจงจูบลงตรงตำแหน่งหัวใจ  ตรงที่ปอเคยบอกเขาว่ารักมันมากที่สุดในบรรดาอวัยวะทั้งหมดบนตัวของดิน  และรักมากที่สุดเมื่อรู้สึกว่ามันยังคงเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา

“มากเท่ารัก...”

“แล้วรักเท่าไหน?”  ปอยังคงถามต่อ  กดจูบซ้ำๆ ลงบนหน้าอกดิน  สัมผัสการเต้นของหัวใจที่ถี่เร็วขึ้น

“รักเท่าชีวิต...”

ปอเงยหน้ามองคนพูด  วางทาบมือบนอกจับจังหวะหัวใจอีกคนไว้ตลอด  รอยยิ้มพรายบนใบหน้าของคนรักทำให้เขายิ้มออกมาเช่นกัน  อีกครั้งที่มอบรอยจูบอ่อนหวานให้อย่างเต็มใจ  ให้มันติดแน่นและตราตรึงยิ่งกว่าเดิม  ให้มันแทนที่ทุกสิ่งเหลือเพียงความรู้สึกว่างเปล่าขาวโพลน  แล้วใช้ตัวเขาเติมเต็มลงในทุกความทรงจำของคนรัก

“ตลอดเวลา  ปอทำเพื่อรักษาสิ่งนี้เอาไว้มาตลอด  ‘ขีวิตของดิน’  เพื่อให้ดินยังคงมีชีวิตอยู่  เพื่อรักปอต่อไป  อย่าทำให้ปอผิดหวัง  หรือเสียใจ  อย่าทิ้งชีวิตนี้ไปนะ”

ดินโถมตัวเข้าหาคนรัก  ปล่อยให้น้ำตาไหลรินลงบนเสื้อปอจนเปียก  “ดินจะอยู่กับปอ  จนกว่าปอจะไม่ต้องการเลย”

“ปอต้องการดิน...บอกสิว่ารักปอแค่ไหน”

“มากที่สุดในโลกเลย  รักปอมากที่สุด”
 



ภาพริมฝีปากที่จรดอยู่บนผิวเนียน  จะมีใครบ้างที่รู้ว่ามันรับรู้ถึงหัวใจที่ยังคงเคลื่อนไหว...ไม่มีใครรู้ 

ภาพอัพเดทสถานะของวันนี้  ขึ้นอันดับอีโรติคที่สุดเท่าที่เคยมีมา  เพียงเพราะถ่ายติดสาปเสื้อสีขาว  ไม่ว่าจะเป็นเนื้อนวลบริเวณไหน  ภาพนี้ก็บาดใจเพื่อนฝูงเหลือเกิน  มันน่าอิจฉา...

‘ปอ...เมียมึงโคตรน่ารักเหอะ’




จนกูต้อง  DisLike
 




ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
โอ๊ยยยยย  ปุ่มดิสไลค์อยู่ไหนนนนนนน
อยากกดบ้าง  :ling1:

น่ารักไม่ทนอ่ะ

ออฟไลน์ Phut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
อากาศร้อนน่าจะทำให้แก้มแดงมากกว่าซีดนะ
แอบซึ้งน้ำตามซึม(อีกแล้ว) ชอบมากๆ
ปออัพรูปแบบนั้นระวังต้องใจใครเข้า เดี๋ยวดินก็โดนลากหรอก :angry2: :angry2:รอตอนของลม
หายป่วยเร็วๆนะเป็นกำลังใจให้ o13 o13

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 :mew1: ยังไงก็ชอบเรื่องนี้มากจริงๆนั่นแหละ
ได้อารมณ์มากกกกกกกกกกก
ดีใจที่ได้เห็นตอนที่ทั้งสองมีความสุข

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
มาอ่านเรื่องนี้

รู้สึกชอบ ตอนแรกเศร้ามากๆๆ

แต่ตอนนี้หวานเว่อร์อ่ะ

ออฟไลน์ mm03

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
ชอบมากค่ะ
ช่วงแรกหน่วงมากจริงๆ บีบหัวใจสุดๆ
พอบทจะหวานก็หวานซะ >.<

ออฟไลน์ AMINOKOONG

  • ฝากติดตามนิยายด้วยนะคราฟฟฟฟ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-12
อ่านยังไงก็ไม่ชอบปออยู่ดี ไม่รู้สิถ้าคนแบบปอเข้ามาจีบเราก็ไม่เอาอ่ะ
เหนื่อยที่จะคบ เหนื่อยที่จะเชื่อใจ มันบอกไม่ถูก
อาจจะเพราะปอมันชอบทำอะไรเหลาะแหละ ทำเป็นเล่นไปซะทุกอย่าง
มันเลยยากที่จะเชื่อว่าอันไนจริงจังอันไหนเล่น เราเลยไม่ชอบคนแบบนี้
ยิ่งชอบแกล้งดิน โดยเฉพาะตอนพิเศษเนี่ยถ้าเป็นเรานะจะเอาโทรศัพท์ปาหัวมัันให้
ไม่รู้สิเราอาจเห็นต่างจากคนอื่นที่ไม่ชอบปออ่ะนะ อิๆๆๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด