(ต่อกันอีกนิดนะ)
รถสปอร์ตทรงสวยขับมาจอดนิ่งอยู่ที่หน้าบ้านชั้นเดียวหลังเล็กภายในไร่มนัญชัย คนที่นั่งอยู่ในรถทั้งคนขับและคนข้างๆ เปิดประตูลงมาแล้วเดินเข้ามาในตัวบ้านพร้อมกัน
บ้านหลังเล็กที่มีเพียงห้องโถงพื้นที่ไม่มากนัก แค่พอวางโทรทัศน์กับโต๊ะตัวเล็กและเก้าอี้เข้าชุดอีกสองตัวไว้
ที่มุมห้อง ติดกันเป็นประตูเข้าไปในห้องนอนที่ไม่ได้กว้างขวางนัก เจ้าของบ้านเดินนำเข้ามาก่อนที่จะทรุด
ตัวลงนั่งบนริมเตียงพลางยกมือลูบหน้าอย่างเหนื่อยล้า
“เลิกคิดมากได้แล้วน่า หลานมันก็ฟื้นแล้ว มัวแต่เครียดเดี๋ยวก็ไม่สบายเองซะหรอก”
คนที่เดินตามมาทรุดตัวลงนั่งข้างๆ คนที่นั่งอยู่ก่อนแล้วจึงคว้ามืออีกฝ่ายขึ้นมากดจูบไปที่กลางฝ่ามือ
“ขอบคุณนะครับคุณโอบที่อยู่ข้างๆผมตลอดเวลาที่เกิดเรื่อง”
“คนเรารักกันก็เห็นใจกันยามลำบากนี่แหละ ไม่รู้หรือไง… แล้วนี่ยิ้มอะไร”
“ก็แค่ดีใจที่ได้ยินคุณโอบบอกรัก”
โอบกิจดึงมือออกมาแล้วซัดเข้าที่สะบักจนคำปันร้องโอย ก่อนที่คำปันจะรวบตัวโอบกิจไว้ในอ้อมกอดพลาง
ผลักให้ล้มลงไปบนที่นอนแล้วจึงโน้มตัวไปกดริมฝีปากนิ่งอยู่ตรงขมับ
“อย่ารุนแรงนักสิครับ เดี๋ยวช้ำในตายคุณโอบก็เป็นม่ายผัวตายตั้งแต่ยังไม่ได้แต่ง”
“ดี ตายเร็วๆ ยิ่งดี เป็นม่ายผัวตายจะได้กลับไปมีเมีย พ่อคงดีใจ”
คำปันหน้าบึ้ง ค้อนขวับ
“อ้อ นี่คิดอย่างนี้ใช่ไหม อย่าได้ฝันไปเลย ถ้าผมตายผมจะเป็นผีมาหลอกเมียคุณโอบวันเข้าหอ
โอ๊ย คุณโอบ… อย่าหยิกซี ผัวนะครับไม่ใช่กระท้อน เดี๋ยวก็ทุบเดี๋ยวก็ตี”
“อยากปากเสียทำไมเล่า ชอบพูดนักไอ้เรื่องตายเนี่ย พูดมากนักจะบีบคอให้ตายไปเลย”
“โอย...แค่นี้ก็กลัวจะแย่แล้วครับ เฮ้อ..ไอ้คำปันเอ๊ย จะมีเมียทั้งทีนอกจากมีเมียเป็นผู้ชายแล้วยังฮาร์ทคอร์
อีกต่างหาก”
คำปันกลัวโอบกิจจนคอหด ซุกหน้าลงกับไหล่ของโอบกิจนิ่งอยู่พักใหญ่
“ขอบคุณนะครับที่รักผม คนที่ไม่มีอะไรเลยแม้แต่บ้านของตัวเอง ไม่มีอะไรที่คู่ควรกับคุณโอบสักอย่าง”
“แต่นายก็มีความรักให้ฉัน”
โอบกิจถอนหายใจ พลิกตัวนอนตะแคงเข้าหาสบตากับคำปัน
“เมื่อไหร่จะเลิกพูดเรื่องคู่ควร ไม่คู่ควรเสียที”
หากจะถามว่าทำไมโอบกิจถึงยอมหยุดอยู่ที่คำปัน ผู้ชายที่ไม่มีฐานะอะไรเลยเมื่อเทียบกับเขา แถมยังซื่อ
จนดูโง่ในสายตาคนอื่น แต่สิ่งที่โอบกิจยอมหยุดคือความซื่อสัตย์ที่คำปันมี ผู้ชายที่นอนตะแคงกอดก่ายเขา
อยู่ยอมทำทุกอย่างให้เขาโดยไม่มีข้อแม้ นี่คือสิ่งที่โอบกิจไม่เคยพบเจอไม่ว่าจะจากหญิงหรือชายที่มาห้อม
ล้อมรอบตัว
ไหนจะรวมถึงความนอบน้อมที่อยู่ในสันดาน จนพ่อและพี่ๆ ของโอบกิจทุกคนเทคะแนนให้ ตอนนี้คำปัน
เข้านอกออกในบ้านของเขาจนแทบจะกลายเป็นสมาชิกคนหนึ่งอยู่แล้ว พ่อของโอบกิจเองก็ไว้ใจคำปัน
มากกว่าจนเขาแอบนึกหมั่นไส้อยู่ก็บ่อยครั้ง
แล้วอย่างนี้จะให้โอบกิจไปจากคำปันได้อย่างไร
“ฉันเองก็มีแต่นายคนเดียวเท่านั้น ถ้านายไม่หนีไปจากชีวิตฉัน ฉันเองก็คงไม่มีใครเหลือให้รักอีกแล้ว”
“ไม่มีวันนั้นเด็ดขาด”
คำปันรั้งตัวโอบกิจเข้ามาแนบชิดกดริมฝีปากไปที่หน้าผากมนไล่ลงมาจนมาหยุดอยู่ที่เรียวปากแดงอิ่ม
โอบกิจเผยอรับอย่างเต็มใจแถมยังใช้ปลายนิ้วเขี่ยเล่นที่แผงอกแน่น แอบปลดกระดุมเสื้อคำปันออกที
ละเม็ด
“ยั่วจังเลยนะครับคุณโอบ”
คำปันหยอกเย้าเมื่อเลื่อนปากมาซุกไซ้อยู่แถวซอกคอ โอบกิจยิ้มกริ่มเมื่อใช้มือลูบไล้ไปตามลำตัวอีกฝ่าย
กระตุ้นให้คำปันดันร่างเขาให้หงายราบ ก่อนพลิกตัวเองขึ้นมาคร่อมอยู่บนร่างนุ่มมือ
“มีผัวซื่อบื้อถ้าไม่ขยันยั่ว ก็ไม่ส่งการบ้านหรอก”
คำปันสบตาโอบกิจด้วยสายตาวาววับ มือสากจากงานดึงเสื้อยืดราคาแพงผ่านหัวโอบกิจอย่างรวดเร็ว
ตามด้วยกางเกง ก่อนจัดการตัวเองจนเหลือแต่เนื้อตัวเปล่าเปลือยเบียดแนบจนร้อนระอุ
“การบ้านน่ะนานๆส่ง แต่ส่งเมื่อไหร่ถ้าไม่ฟ้าเหลืองเข่าอ่อนก็ไม่ยอมเลิกนะครับคุณโอบ”
“ทำเป็นคุย ใครจะเข่าอ่อนก่อนกันว้า...อ๊ะ!”
โอบกิจแอ่นตัวขึ้นมารับกับปลายลิ้นอีกฝ่ายที่ตรงเข้าครอบลานนมสีสวย แท่งเนื้องามถูกกำจนรอบ มือที่
กร้านจากงานหนักยิ่งทำให้สัมผัสเสียวซ่านเมื่อคำปันค่อยๆ รูดขึ้นลงเบาๆ จนมันพองฟูอยู่ในอุ้งมือ
โอบกิจเองคว้าแก่นกายอีกฝ่ายขึ้นมาใช้ปลายนิ้วกดบี้ไปที่ส่วนปลายจนได้ยินเสียงครางเบาๆ จากคำปัน
ต่างคนต่างช่วยกันรูดรั้งอีกฝ่าย โอบกิจเลื่อนตัวมาครอบครองโพรงปากหวานแลกลิ้นเสียงดังลั่น ก่อนที่
กล้ามเนื้อจะหดรั้งแล้วผลัดกันพ่นน้ำรักใส่มืออีกฝ่าย
“อย่าช้านะคำปัน ถ้าช้าฉันจะเป็นฝ่ายกดนายแทนแล้ว”
ดวงตาแวววาวฉ่ำไปด้วยแรงปรารถนาสบกัน คำปันหัวเราะออกมาจนได้
“เรื่องอะไรผมจะยอมถูกคุณโอบกดล่ะ ไม่มีทาง”
คำปันเลื่อนตัวลงล่างจับขาโอบกิจให้กว้าง ปลายลิ้นร้อนชื้นตรงเข้าสัมผัสช่องทางลับ นิ้วมือค่อยๆ สัมผัส
สอดเข้าไปช้าๆ เปิดทางให้กว้างขึ้น ในขณะที่ลิ้นก็แหย่เข้าไปในทางลับ
โอบกิจสะดุ้งเฮือก สองมือสอดเข้าไปในกลุ่มผมหนาแล้วกำจนแน่น ส่งเสียงครางกระเส่าไม่ขาดช่วงคำปันเลื่อนตัวขึ้นแท่งเนื้อร้อนสองแท่งถูไถปะทะกันอยู่ตรงท้องน้อย เขากัดฟันรับความกระสันที่พุ่งขึ้นมา
จนแทบทนไม่ไหว แท่งเนื้ออวบใหญ่จึงได้สอดแทรกเข้าไปในสะโพกที่ยกสูงรอรับ
เนื้อตัวเบียดแนบเกือบกลายเป็นเนื้อเดียว ในห้องนอนที่ปราศจากเครื่องปรับอากาศ สองร่างจึงเต็มไปด้วย
เหงื่อชื้นเมื่อคำปันค่อยๆ เร่งจังหวะตามอารมณ์ที่เร่งเร้าขึ้นทุกที
“อา...คำปัน ตรงนั้น แรงอีกได้ไหม อึก โอ..อย่างนั้นแหละ สุดยอดเลย”
มีเมียฮาร์ทคอร์ก็เป็นแบบนี้แหละนะ คำปันซ่อนยิ้มอยู่กับยอดอกที่ชูชัน สะโพกเคลื่อนที่เร็วรี่รู้สึกถึงการ
บีบรัดจากกล้ามเนื้อของโอบกิจจนแทบทนไม่ได้
“ไปพร้อมกันนะครับที่รัก”
เขากระซิบที่ข้างหู โอบกิจพยักหน้ารับพลางขยับสะโพกสอดรับกับการบุกของเขา
“อ๊ะ..”
โอบกิจตาค้างเมื่อกล้ามเนื้อบีบแน่น รู้สึกได้ถึงแรงอัดในช่องทางจากแท่งเนื้อร้อนที่แทรกตัวลึก
เวลาไม่นานแต่โอบกิจก็รู้ว่านี่คือสรวงสวรรค์ที่คำปันจูงมือพาเขาขึ้นมาเยือน สวรรค์ที่สร้างมาให้เขา
ทั้งกายและใจ โอบกิจกอดรัดเนื้อตัวที่เต็มไปด้วยเหงื่ออุ่นๆ แล้วซุกตัวอยู่กับแผงอกล่ำ
“ขอบคุณนะคำปัน ขอบคุณที่รักกัน”
---------------------------------------------------------------------------------------
ไม่ได้เขียนถึงคำปันกับโอบกิจนานแล้ว คิดถึงเนอะ
พี่คำปันนี่ก็ซื่อไป๊ .... ต้องให้น้องโอบเริ่มก่อนตลอดเลย
ถ้าคราวหน้ายังซื่อบื้ออยู่ จะให้โอบกิจเป็นฝ่ายกดจริงๆล่ะนะ คริคริ