ร้ายซ่อนรัก
บทที่ 29
สลิลลากลับไปแล้วหลังจากที่ทนคำทักทายจากโอบกิจไม่ไหว เจ้าหล่อนมองโอบกิจอย่างเคียดแค้นพลาง
กระฟัดกระเฟียดกลับไป ส่วนตัวต้นเรื่องอย่างโอบกิจได้แต่แค่นยิ้มตามหลังก่อนที่จะหันมามองโมกข์แล้ว
เอ่ยถามด้วยเสียงขึ้นจมูกอย่างคนไม่ชอบใจ
“ยัยลิลลี่เหี่ยวมาที่นี่ทำไมพี่โมกข์”
“เขามาชวนไปกินข้าว”
“โอ๊ย”
“คุณโอบเป็นอะไร”
คำปันสะดุ้งเมื่ออยู่ๆ โอบกิจก็ร้องเสียงดัง คิ้วโก่งขมวดแทบเป็นปมเมื่อได้ยินคำตอบจากโมกข์
“ไม่ได้เป็นอะไร แค่หมั่นไส้เพื่อนเก่า”
โอบกิจหันมาตอบคนรักพลางหันไปมองหน้าโมกข์
“อย่าได้หลงกลเชียวนะพี่โมกข์ ระวังจะถูกรวบหัวรวบหางกินกลางตลอดตัว แล้วนี่พี่พัทธ์ไปไหน ทำไมไม่
มานั่งเป็นก้างขวางคอ”
หลังจากที่ตกลงปลงใจคบกับคำปันก็กลายเป็นว่าโอบกิจสนิทสนมกับพัทธ์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ยิ่งเมื่อเห็น
สลิลลาโผล่มาที่ไร่มนัญชัย โอบกิจยิ่งเดือดร้อนแทน
เจ้าตัวที่กำลังเป็นที่กล่าวถึงยกถาดอาหารที่ทำอย่างง่ายๆ พร้อมขวดเบียร์และแก้วเหล้ามาวางบนโต๊ะ
อย่างไม่รู้สึกรู้สา พัทธ์เทเบียร์ลงแก้วเสริฟทั่วหน้าพลางหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นท่าทีของโอบกิจ
“พี่พัทธ์นะพี่พัทธ์ ยังจะมีอารมณ์มาหัวเราะ เดี๋ยวพี่โมกข์จะถูกยัยลิลลี่เหี่ยวคว้าไปเคี้ยวไม่รู้ตัว”
“ใครจะกล้า”
โมกข์คลี่ยิ้มพลางใช้วงแขนคล้องคอพัทธ์มาหอมแก้มต่อหน้าโอบกิจและคำปัน พลางมองพัทธ์ด้วยดวงตา
เป็นประกาย
“โมกข์ ทำอะไรอย่างนี้ อายน้องเขาบ้าง”
พัทธ์ใช้มือผลักหน้าโมกข์ออกห่าง ผิวขาวเปลี่ยนสีเป็นแดงก่ำเมื่อโมกข์แสดงอาการจนออกนอกหน้า
“นั่นแน่ะ”
คำปันอมยิ้มพลางยักคิ้วหลิ่วตากับเจ้านาย
“แบบนี้แสดงว่าตกร่องปล่องชิ้นกันไปแล้วใช่ไหมครับเนี่ย เจ้านายที่รัก มิน่าล่ะอาจารย์พัทธ์ถึงได้ยกเบียร์
มาให้ฉลอง ฮะๆ มาเลยเจ้านายแก้วแรก กระดกแก้วเปิดงาน”
คำปันยกแก้วเบียร์ขึ้น โมกข์เองก็อารมณ์ดีขึ้นจนยอมเล่นกับลูกน้องด้วยการยกแก้วเบียร์มาชนกับคำปัน
ก่อนที่จะดื่มจนไม่เหลือ โอบกิจเองก็หันมายิ้มให้พัทธ์อย่างจริงใจ
“ยินดีด้วยนะครับพี่พัทธ์ ในที่สุดพี่กับพี่โมกข์ก็ลงเอยกันได้เสียที”
พัทธ์ยิ้มเขิน ก้มหน้าลงมองจานอาหารพลางชักชวนให้ทุกคนเริ่มรับประทาน รวมทั้งเรียกหลานชายของ
คำปันให้มาร่วมวงอาหารด้วย
“ลูกใครล่ะคนนี้”
โมกข์เอ่ยถามคำปันเมื่อมองเด็กชายที่กำลังตักอาหารเข้าปากอย่างเอ็นดู
“ลูกพี่สาวคนโตของผมไงครับพ่อเลี้ยง ชื่อคณิต แต่ผมเรียกมันว่าไอ้นิด กำลังจะจบประถมไอ้นิดมันเรียน
เก่ง นี่มันสอบเข้ามัธยมโรงเรียนในเมืองได้ ผมเพิ่งพาไปมอบตัววันนี้แหละ”
คำปันเล่าประวัติหลานอยากภูมิใจ พอเล่าจบเขาก็นึกอะไรบางอย่างได้
“ผมเจอท่านดนัยด้วยนะพ่อเลี้ยง เลยถามถึงเรื่องไอ้คนที่มันยิงกับเราที่ท้ายไร่วันก่อนโน้น ตอนนี้เริ่ม
คืบหน้าแล้ว มันเป็นพวกต่างด้าวที่เดินทางเป็นกองทัพมดไปตามลำธารเพื่อไปโผล่ที่พื้นราบ แล้วจะมี
นายหน้าพาพวกมันไปขายแรงงานเถื่อน บางคนก็ลักลอบในไทย บางคนก็ส่งออกไปประเทศที่สาม”
โมกข์หน้าเครียดลงเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ไม่ผิดจากที่ผู้กำกับดนัยเคยเกริ่นให้เขาฟังเรื่องค้ามนุษย์ที่ดูจะเข้าเค้า
ไปทุกมุมสำหรับผู้ต้องสงสัยอย่างพ่อเลี้ยงสุชัย มิหนำซ้ำที่ไซโลของเขาไฟไหม้จนสูญเสียทรัพย์สินไปเป็น
ล้านก็น่าจะเป็นฝีมือคนเดียวกันเพราะเขาไม่ยอมร่วมมือ
“ท่านดนัยยังฝากมาบอกอีกว่า คนที่น่าสงสัยมีกลุ่มทุนหนาชักใยอยู่เบื้องหลัง ช่วงนี้ถึงได้ลงจากดอยกัน
มาถี่ยิบ แหล่งข่าวบอกว่าเป็นคนต่างชาติที่มีชื่อสมมติว่าแดน หรือไงนี่แหละครับ”
ชื่อสมมตินั่นสะดุดหูโมกข์จนมือที่เตรียมจะยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่มชะงัก คิ้วเข้มขมวดจนแทบจะชนกัน ดวงตา
คมครุ่นคิดความเป็นไปได้ก่อนที่จะตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรออกหาเบอร์ที่คุ้นเคย
“ว่าไงไอ้ยักษ์”
เพื่อนสนิทรับสาย โมกข์จึงเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ปราบฟังแล้วถามความเห็น
“มิสเตอร์แดนในโลกนี้มันมีสักกี่ร้อยล้านคนวะปราบ แต่จะมีมิสเตอร์แดนสักกี่คนที่เข้ามาข้องเกี่ยวกับชีวิต
กู”
ปลายทางเงียบลงเหมือนใช้ความคิด ก่อนที่ปราบจะเอ่ยเตือนเสียงเครียด
“โมกข์ มึงต้องระวังตัว ถ้าใช่…มันคงกัดมึงไม่ยอมปล่อยแน่ๆ”
โมกข์กระตุกยิ้ม ดวงตาเหี้ยมเกรียม
“กูคงไม่ยอมให้มันกัดฝ่ายเดียวหรอก ซัดกันมาตั้งแต่เด็กจะเอากันให้ตายก็ลองดู”
“พรุ่งนี้ต้องไปประชุมที่ห้างนะ ทำไมไม่ไปส่งที่บ้าน”
โอบกิจบ่นเสียงดังเมื่อคำปันขี่มอเตอร์ไซค์พามาที่บ้านพักของเขาที่แยกเป็นสัดส่วนจากคนอื่น เพราะโมกข์
จัดให้เป็นพิเศษในฐานะที่คำปันทำงานหลายหน้าที่ คณิตหลับคอพับไปนานแล้วจนเขาต้องแบกขึ้นบ่าพา
ไปนอนที่โซฟา แล้วจึงหันมารวบโอบกิจไปกอดไว้
“จะไปได้ไง ผมกินเบียร์ไปตั้งหลายแก้ว ขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ได้หรอกมันอันตราย คืนนี้คุณโอบก็ค้างที่นี่แหละ
นะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไปส่งแต่เช้ามืดเลย”
“มารยา”
โอบกิจมองหน้าแดงเรื่อของคำปันอย่างรู้ทัน คนมารยาเลยหัวเราะออกมาพลางซุกหน้าลงไปที่ซอกคออีก
ฝ่ายแล้วสูดลมหายใจแรงๆ
“ยอมรับก็ได้ ก็อยากกอดคุณโอบอย่างนี้นี่ครับ เราไม่ได้จู๋จี๋กันนานแล้วนะ”
คำปันส่งเสียงออดอ้อน โอบกิจเลยผลักตัวออกอย่างหมั่นไส้
“ก็เอาเวลาที่จู๋จี๋กันไปให้พ่อหมดเองนี่หว่า แล้วก็ขนเอาไปให้เข้าสิไอ้กล้วยไม้น่ะ จนมันจะเต็มบ้านไป
หมดแล้ว”
“ก็จีบลูกชายท่านอยู่นี่ครับ ถ้าไม่ให้เข้าทางพ่อ ท่านจะยกลูกชายให้หรือเปล่าล่ะ”
“โอ๊ย แทบจะประเคนให้แล้วมั้ง ตั้งแต่มีไอ้ดงกล้วยไม้นี่ก็ไม่เคยสนใจอย่างอื่นเลย นายนี่นะทำพ่อฉันเสีย
คน”
โอบกิจยกมือฟาดที่ต้นแขน คำปันแสร้งร้องโอดโอยก่อนที่จะรวบตัวโอบกิจมากอดไว้อีกรอบ
“งั้นผมต้องจัดการให้คุ้มกับค่ากล้วยไม้ใช่ไหมครับคุณโอบ”
คนเจ้าเล่ห์ยิ้มกรุ้มกริ่มพลางลากโอบกิจเข้ามาให้ห้องนอนแล้วผลักให้ล้มลงบนเตียง ก่อนที่จะกระโจนไป
ทาบทับ มือหนาจับล็อคปลายคางนุ่มให้อยู่นิ่งแล้วกดริมฝีปากลงไปบังคับให้อีกฝ่ายเผยอรับ ปลายลิ้นร้อน
ฉกวูบแล้วโลมเลียไปทั่วช่องปาก ในขณะที่มือก็ปลดกระดุมเสื้อเชิตเนื้อดีออกทีละเม็ดจนหมด เผยให้เห็น
เนื้อตัวขาวผ่องอย่างคนที่ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี
โอบกิจเองเมื่อถูกกระตุ้นเนื้อตัวก็สั่นเทาไปด้วยความต้องการ มือนุ่มอย่างคนที่ไม่เคยทำงานหนักสอดเข้า
ไปในเสื้อยืดตัวหนาของอีกฝ่ายพลางดึงมันผ่านพ้นหัวอย่างรวดเร็ว เขาดึงกางเกงยืนส์ตัวเก่งของคำปันออก
จนพ้นตัวในขณะที่กางเกงผ้าเนื้อนุ่มของเขาก็ถูกคำปันกำจัดออกไปเช่นกัน
เวลาไม่นานทั้งคู่จึงได้กอดรัดแนบแน่นด้วยเนื้อแนบเนื้อทั่วเรือนร่าง มือสากของคำปันลูบไล้ไปทั่วตัวของ
โอบกิจพลางก้มลงขบเม้มอย่างหิวกระหาย โอบกิจเองก็ร้อนวูบวาบไปทุกจุดที่ถูกสัมผัสจนแทบขาดใจ
“คิดถึงผมไหมคุณโอบ”
คำปันถามเสียงสั่นพร่า
“จะคิดถึงทำไม ก็เจอหน้ากันทุกวัน”
โอบกิจตอบเสียงค่อนขอดทั้งที่ดวงตาหวานไปด้วยน้ำหล่อเลี้ยงเมื่อมองคำปัน
“ผมไม่ได้หมายถึงหน้า ผมหมายถึงตรงนี้”
คำปันคว้ามือโอบกิจไปเกาะกุมแก่นกายของเขา แล้วควบคุมให้โอบกิจบีบคลึงจนมันขยายตัวเต็มฝ่ามือ
“ไอ้บ้าคำปัน”
โอบกิจหน้าแดงแต่ก็ยอมนวดเฟ้นขึ้นลงจนคำปันหอบหายใจกระเส่า เขากลืนน้ำลายลงคอก่อนที่จะก้มตัว
ลงไปดูดดุนที่ยอดอกสีสวยของโอบกิจที่แข็งตัวชูช่อล่อหลอกให้เขาชิมไม่รู้เบื่อ ลำตัวเบื้องล่างกดทับถูไถอยู่
กับแก่นกายของโอบกิจ จนหนุ่มน้อยเผลอครางลั่นแถมยังแอ่นตัวให้คำปันเชยชมอย่างเผลอไผล
สะโพกหนาของคำปันเบียดลงที่หว่างขาจนโอบกิจต้องแยกกว้าง คำปันใช้ปลายนิ้วมาแตะกับน้ำลายตัวเอง
แล้วค่อยๆ สอดเข้าไปในช่องทางทีละนิ้วพลางหมุนวนจนโอบกิจแทบทะยานขึ้นฟ้า คำปันค่อยๆ ชักนิ้วกลับ
เมื่อเห็นว่าร่างกายของโอบกิจพร้อมแล้ว
คำปันจับโอบกิจให้นอนตะแคงข้างโดยที่มีเขานอนตะแคงซ้อนอยู่เบื้องหลัง
“ท่านี้แล้วกันนะ ผมจะได้กอดคุณโอบให้หายคิดถึง”
คำปันกระซิบเสียงแผ่วอยู่ที่หลังหูพลางงับลงไปเบาๆเมื่อพูดจบแล้วลากเลื้อยริมฝีปากมาที่หลังคอ เขาจับ
ขาที่อยู่ข้างบนของโอบกิจให้ยกสูง วางพาดอยู่บนต้นขาของเขาก่อนที่จะสอดแท่งเนื้อร้อนที่พร้อมรบเข้าไป
ในช่องทางที่เปิดรอ มืออุ่นโอบกระชับเอวเหนี่ยวจนแผ่นหลังของโอบกิจแนบกระชับมาที่ร่างของเขา แล้วจึง
ดันสะโพกสอดใส่เข้าไปทีละน้อย
“อา… คำปัน อื้ม มันเสียวมาก”
โอบกิจกัดฟันรับความเสียวซ่านที่แผ่ออกมา เขาช่วยขยับสะโพกรับส่วนที่อัดแน่นเข้ามาจนเต็มพื้นที่
ร่างกายสั่นสะท้านจนต้องหอบหายใจถี่ยิบไม่ต่างอะไรกับคำปันที่กัดฟันรับความตอดรัดไปรอบแท่งร้อนจน
เขาปวดหนึบไปทั่วท้องน้อย
“ไม่ต่างกันหรอกครับคุณโอบ ตอนนี้คุณโอบก็เล่นงานจนผมขยับแทบไม่ไหว”
คำปันหัวเราะหึหึ พลางเอื้อมมือไปกอบกุมแก่นกายของโอบกิจที่ขยายตัวพุ่งชันแนบท้องน้อยไว้ในมือ
ปลายนิ้วสากลูบไล้สลับกับนวดคลึงจนโอบกิจร้องลั่น
“จะฆ่ากันหรือไง”
โอบกิจหันมาดุเสียงสั่น คำปันเลยได้ทีเอียงหน้าไปประกบปากแลกลิ้นจนโอบกิจเตลิดไปกับรสหวาน
ในขณะที่คำปันค่อยๆ เคลื่อนสะโพกขยับหมุนวนในช่องทางช้าๆ
“อื้มมมม”
โอบกิจจะร้องก็ร้องไม่ออกเมื่อปากถูกปิดไว้เหลือแต่เสียงพึมพำ เนื้อตัวเกร็งไปหมดเมื่อคำปันควงสว่านไป
ชนกับจุดกระสันซ้ำๆ ย้ำๆ แถมจุดสงวนที่ตกอยู่ในมืออีกฝ่ายก็ถูกดึงรั้งไปมา หนุ่มน้อยพยายามส่ายหน้า
เมื่อกล้ามเนื้อบีบรัดถี่ยิบจนหยาดรักสีขาวพุ่งพรวดมาอยู่ในมือของคำปันจนฉ่ำเยิ้ม
“โอ.. คุณโอบ”
แม้จะยังพัวพันอยู่กับปลายลิ้นที่แสนหวาน คำปันก็ยังอดคร่ำครวญไม่ได้ เมื่อกล้ามเนื้อของโอบกิจบีบรัด
จนท่อนเนื้อเขม็งเกรียว เขาย้ายมือเปียกชื้นมากดจับที่เอวของโอบกิจแล้วบังคับสะโพกแน่นยักย้ายรับกับ
สะโพกของเขาที่ขยับแทงลึกเข้าไปสลับกับถอนตัวออกมาจนหมิ่นเหม่แล้วดันเข้าไปใหม่ ต้นขาของเขา
บังคับให้ท่อนขาของโอบกิจยิ่งอ้ากว้างให้เขาสอดลึกเร็วและแรง
“อ๊า…. คำปัน”
โอบกิจแผดเสียงครางดังลั่นมือนุ่มเกี่ยวมาที่ท่อนแขนของโอบกิจจิกจนปลายเล็บฝังเข้าไปในเนื้อ ส่วนอีก
ข้างที่วางแนบไปบนที่นอนกำผ้าปูที่นอนจนแทบขาดเมื่อคำปันบุกรุนแรงจนเขาหัวสั่นหัวคลอน
“อ๊ะ คุณโอบ ผมไม่ไหวแล้ว”
คำปันส่งเสียงครางลึกเมื่อกล้ามเนื้อตอดรักหนักหน่วง เขาขยับตัวเฮือกสุดท้ายก่อนที่กล้ามเนื้อหน้าท้อง
ของเขาจะฉีดพ่นอัดอยู่ในช่องทางรัก ในขณะที่โอบกิจเองก็พ่นลาวาออกมาเป็นรอบที่สองจนไหลเปรอะ
เปื้อนที่นอน
ร่างที่กอดรัดกันจนแน่นนิ่งงันตาค้างไปด้วยกันทั้งคู่ ก่อนที่แข่งกันหอบหายใจถี่ยิบในวินาทีต่อมาที่คำปัน
ซบหน้าลงกับแผ่นหลังที่เปียกชื้นของโอบกิจพลางเอ่ยรำพันคำบอกรักไม่ขาดปาก
----------------------------------------- TBC ---------------------------------------------
ผู้อ่านที่สงสัยความสัมพันธ์ระหว่าง โมกข์ ปราบและ แดเนียล
กรุณาก็บความสงสัยไว้ก่อนนะคะ
คนแต่งจะมาเฉลยในเรื่องถัดไปที่ปราบเป็นพระเอกค่ะ