ร้ายซ่อนรัก
บทที่ 21
มอเตอร์ไซค์คันเก่าถูกตั้งขาตั้งจอดไว้อย่างไม่ใยดีโดยเจ้าของมัน ก่อนที่ตัวคนขับขี่จะพุ่งตรงเข้าไปในตัว
บ้านของเจ้านายด้วยใบหน้าที่ย่ำแย่
คำปันตรงรี่มาหาพ่อเลี้ยงโมกข์ที่ยืนจุดบุหรี่สูบดับความเครียดอยู่ตรงเทอเรซ เมื่อเจ้านายกับลูกน้อง
สบตากัน คำปันก็รีบเอ่ยเสียงหนัก
“ผมรักคุณโอบ ถ้าพ่อเลี้ยงดูแลคุณโอบไม่ได้ ผมจะขอเป็นคนดูแลคุณโอบเอง”
โมกข์ยืดตัวตรงมองคำปันเต็มตา เสื้อเชิตลายสก็อตที่เต็มไปด้วยคาวเลือดทำให้โมกข์ใจหาย
“เกิดอะไรขึ้นกับโอบ”
คำปันนิ่งงันเมื่อนึกถึงสภาพของโอบกิจที่นอนจมกองเลือด โลหิตกลิ่นคาวยังพุ่งกระฉูดตามแรงอัดของ
ชีพจรทำให้คำปันต้องหันรีหันขวางมองหาผ้าผืนใหญ่ที่จะไปกดตรงปากแผลเพื่อห้ามเลือด พลางตะโกนให้
คนขับรถของบ้านนำรถยนต์พาโอบกิจไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดโดยที่มีเขาเป็นคนแบกโอบกิจขึ้นรถ
ตัวของโอบกิจก็พอ ๆ กับเขา แต่เมื่ออยู่ในวินาทีคับขัน คำปันกลับยกตัวโอบกิจลอยลิ่วเหมือนอุ้มตุ๊กตาตัว
หนึ่ง คนขับรถประจำบ้านก็เหมือนรู้ใจขับรถเร็วรี่จนมาถึงโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว
แต่ถึงกระนั้น คำปันก็ต้องยืนกระวนกระวายอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน จนกระทั่งนายอาทิตย์และบรรดาพี่ๆ ของ
โอบกิจตามมาถึงโรงพยาบาลอย่างตกใจ
คนเป็นบิดากล่าวขอบคุณเสียยกใหญ่ คำปันได้แต่ฝืนยิ้มรับ ก่อนที่ทุกคนจะเงียบลงเมื่อโอบกิจถูกเข็น
ออกมาจากห้องฉุกเฉิน ตามมาด้วยแพทย์ที่ทำการรักษา
ข้อมือที่ถูกกรีดด้วยมีดคัตเตอร์ได้รับการเย็บและพันด้วยผ้าพันแผลจนหนา ข้อมืออีกข้างมีสายน้ำเกลือ
ห้อยระโยงระยาง คำปันใจเสียเมื่อเห็นภาพนั้น แต่เมื่อแพทย์บอกกับนายอาทิตย์ว่าโอบกิจปลอดภัยแต่ต้อง
นอนรอให้เลือดที่โรงพยาบาลเพื่อทดแทนเลือดที่สูญเสียไป เขาก็เบาใจ
เขารอจนส่งโอบกิจเข้าพักในห้องพักของโรงพยาบาลเรียบร้อย อาทิตย์จึงบอกให้เขาไปอาบน้ำล้างตัวที่เต็ม
ไปด้วยเลือด นั่นแหละเขาจึงค่อยมีสติและเห็นว่าตนเองนั้นโทรมแค่ไหน
ตลอดทางที่คำปันขี่มอเตอร์โซค์กลับขึ้นเขา ชายหนุ่มถามความรู้สึกของตัวเองมาตลอดว่าแท้จริงแล้ว เขา
คิดอย่างไรกับโอบกิจ รุ่นน้องในมหาวิทยาลัยเดียวกัน จนมาพบเจอกันในอีกสัมพันธภาพ คำปันจึงได้ตอบ
ตัวเองอย่างไม่ลังเลว่า เขารักโอบกิจและอยากดูแลตลอดไป และแม้ว่าโอบกิจจะเคยมีความสัมพันธ์กับ
โมกข์มาก่อนคำปันก็ไม่สน ความคิดที่ตกผลึกนั้นทำให้เขาต้องก้าวมาหาผู้เป็นเจ้านายแล้วเล่าเรื่อง
ทั้งหมดให้ฟัง
โมกข์ใจหายเมื่อได้ฟังเรื่องทั้งหมดจากลูกน้อง แม้ว่าเขาจะไม่ได้รักโอบกิจ และความสัมพันธ์ทางกายที่
เกิดขึ้นจะเป็นเพราะความมัวเมาของตัวเองในอดีต แต่โมกข์ก็ต้องยอมรับว่าโอบกิจเป็นคนดี หากโอบกิจจะ
เป็นอะไรไปเพราะเขา โมกข์คงจะมีความรู้สึกผิดติดตัวไปตลอดชีวิต เขามองหน้าคำปันที่รอคำตอบ
“ดูแลโอบกิจให้ดีนะคำปัน รักเขาให้มากๆ ทดแทนที่ฉันให้ความรักกับโอบกิจไม่ได้”
“ด้วยความยินดีครับ พ่อเลี้ยง”
คำปันรับคำเสียงหนักแน่น แล้วก้าวจากไป ทิ้งให้โมกข์อยู่เพียงลำพังกับความโดดเดี่ยวอีกครั้ง เขาแหงน
หน้าขึ้นไปมองบนชั้นสอง ที่โมกข์รู้ว่ามีอีกหนึ่งชีวิตที่ยังมีลมหายใจอยู่ด้วยความรู้สึกที่ไม่ต่างจากเขา
เจ้าของไร่มนัญชัยทำได้แค่เพียงก้าวเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องแล้วเคาะเบาๆ
“ผมรู้ว่าคุณยังไม่หลับ ผมแค่จะมาบอกว่า ผมขอโทษ ผมสำนึกผิดแล้วจริงๆ”
ไม่มีคำตอบจากภายในห้อง โมกข์ได้แต่ทอดถอนใจกับบานประตู
“ฝันดีนะพัทธ์”
พัทธ์ยังข่มตาให้หลับไม่ลงแม้ว่าเวลาจะผ่านไปจนดึกสงัด เขาได้แต่พลิกตัวไปมานอนฟังเสียงแมลง
กลางคืนส่งเสียงร้องอยู่ภายนอก
“ผมขอโทษ ผมสำนึกผิดแล้วจริงๆ”
น้ำเสียงแหบโหยที่ดังขึ้นอยู่หน้าประตูเมื่อค่ำ ทำให้พัทธ์จินตนาการถึงใบหน้าคนพูดอย่างชัดเจนแม้จะมี
ประตูขวางไว้ และทำให้เขาต้องถามตัวเองอย่างจริงจังว่าเขาคิดอย่างไรกับโมกข์ มนัญชัย
ถ้าไม่ได้คิดอะไรกับโมกข์อย่างที่ใจหนึ่งบอกตัวเอง แล้วทำไมต้องรู้สึกเสียใจเมื่อมีคนมาทวงคนของเขาคืน
อย่างเมื่อตอนเย็นด้วยเล่า พัทธ์เพียรหาคำตอบมาปฏิเสธใจตัวเอง
ทั้งหมดเป็นสาเหตุที่ทำให้พัทธ์ต้องนอนกระสับกระส่ายเมื่ออีกใจหนึ่งบอกว่า เขากำลังหลงรักโมกข์เข้าเสีย
แล้ว
ยังไม่ทันที่ความคิดจะตกลงกันได้ พัทธ์ก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงร้องเอะอะอย่างเจ็บปวดดังขึ้นจากห้อง
ข้างๆ พัทธ์ผวาลุกขึ้นนั่งตั้งสติ ก่อนที่เขาจะก้าวยาวๆ ไปทุบประตูห้องของโมกข์
“โมกข์ คุณเป็นอะไร เปิดประตูให้ผมเข้าไปหน่อย”
ยิ่งอยู่หน้าห้องเสียงร้องก็ยิ่งดังขึ้นจนความห่วงใยแล่นล้นปรี่ พัทธ์คว้าลูกบิดขยับไปมาจึงรู้ว่าโมกข์ไม่ได้
ล็อคประตูเขาจึงรีบเปิดแล้วก้าวเข้าไปหยุดยืนหน้าเตียงกว้าง
พัทธ์มองภาพที่เห็น ชายร่างสูงใหญ่นอนตัวงอคุดคู้เหมือนเด็กทารกทั้งที่ยังหลับตาแน่น พลางร้องเอะอะไม่
เป็นภาษา เสียงนั้นโหยหวนบาดอารมณ์จนพัทธ์สงสาร เมื่อนึกถึงคำพูดของปราบที่เคยเล่าให้ฟังว่า โมกข์
มักจะนอนฝันร้ายอยู่บ่อยๆ เพิ่งจะมาดีขึ้นเมื่อตอนโต
พัทธ์เดินไปที่เตียงนั้น ทรุดนั่งลงโอบแขนไปกอดร่างที่สั่นเทาไว้อย่างปลอบประโลม
“โมกข์ ตื่นเถอะ”
เสียงร้องนั้นค่อยๆ เงียบลง โมกข์ค่อยๆ ลืมตา เมื่อเห็นว่ามีใครคนหนึ่งกำลังกอดเขาไว้อย่างอ่อนโยน เขาจึง
หลับตาลงอีกครั้ง พลางซุกตัวเข้าหาร่างอันอบอุ่นที่ใช้มือลูบแผ่นหลังของเขาเบาๆ
นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้ฝันร้าย นานแค่ไหนแล้วที่ภาพบิดายกปืนขึ้นจ่อขมับแล้วลั่นไกสังหารตัวเองต่อ
หน้าเด็กที่เพิ่งจะเริ่มโตเข้าสู่วัยรุ่นไม่ได้มาเยือนในฝัน โมกข์นึกว่าตัวเองปล่อยวางอดีตได้แล้ว แต่เปล่าเลย..
ทุกอย่างยังฝังอยู่ในลิ้นชักแห่งความทรงจำและมันพร้อมจะกลายเป็นตัวก่อกวนจิตใจได้ทุกครั้งที่เขา
อ่อนแอ แม้ว่าเขาจะทำตัวให้แข็งแกร่งปกปิดมันไว้
ความรู้สึกกลัวที่จะสูญเสียพัทธ์ รบกวนจิตใจจนรื้อฟื้นปมในอดีตขึ้นมา โมกข์ยกมือขึ้นป้ายน้ำตาที่เปียกชื้น
ก่อนที่จะลงไปคุกเข่ากับพื้นต่อหน้าพัทธ์ โอบกอดไปรอบเอวซุกหน้าลงไปบนตัก
“ผมรักคุณนะพัทธ์ อย่าปล่อยมือจากผม ได้โปรดเถอะ”
พัทธ์น้ำตาซึมตาม เมื่อมองแผ่นหลังของร่างใหญ่แต่ตัว แต่หัวใจเหมือนเด็กขาดความอบอุ่นที่ซุกตัวกอด
เอวเขาไว้ ความสงสารแล่นมาเป็นริ้วอยู่ในหัวใจ มือเรียววางไว้บนแผ่นหลังกว้างแผ่วเบา
แล้วนี่ เขาจะปล่อยมือจากโมกข์ได้อย่างไร พัทธ์ถามใจตัวเอง
คำปันไปที่โรงพยาบาลเมื่อรีบเคลียร์งานจนเสร็จตั้งแต่ตอนสาย โอบกิจยังหลับอยู่ตอนที่เขาก้าวเข้าไปใน
ห้อง เขายกมือไหว้พี่สาวคนหนึ่งของโอบกิจที่เฝ้าน้องชายอยู่ พี่สาวของโอบกิจเมื่อเห็นเขาเข้าไปจึงได้ขอตัว
กลับบ้านไปอาบน้ำและฝากให้เขาเฝ้าโอบกิจต่อ คำปันรับปากแข็งขัน
หน้าขาวเริ่มมีสีเลือดขึ้นบ้างเทียบจากเมื่อวานนี้ คำปันมองสภาพอันอ่อนแอของโอบกิจ เขาโน้มตัวลงไป
จูบเบาๆ ที่หน้าผากเกลี้ยง เอื้อมมือไปจัดสายน้ำเกลือที่ข้อมือให้เรียบร้อย แล้วคว้าเก้าอี้มานั่งอยู่ที่ข้าง
เตียง
เกือบแล้ว เขาเกือบสูญเสียโอบกิจไปหากช้ากว่านี้ไม่กี่ก้าว คำปันมองข้อมือตรงหน้าที่พันผ้าพันแผลไว้
โอบกิจยอมทำร้ายตัวเองเพียงเพื่อให้คนที่รักหันมามอง แต่สำหรับเขา คำปันจะทำทุกอย่างเพื่อให้คนที่
เขารักมีความสุขหากโอบกิจตื่นขึ้นมา
คำปันวางมือทับไปบนข้อมือที่มีผ้าพันแผลแผ่วเบา เขานั่งอยู่ในท่านั้นจนเผลอฟุบหลับไปข้างกายของ
โอบกิจ
ขนยายาวกระพริบช้าๆ เมื่อโอบกิจรู้สึกตัวขึ้นมา เขาขยับตัวเบาๆ รู้สึกเสียวแปลบที่ข้อมือ หน้าขาวซีดหันไป
มอง จึงได้เห็นคำปันที่ฟุบหลับอยู่ใกล้ๆ
เสียงคุ้นหูตะโกนเรียกชื่อของเขาแว่วอยู่ในโสตประสาทเมื่อสติใกล้จะดับวูบลง พร้อมกับร่างที่ผวาเข้ามา
กอด ลอยเข้ามาในหัวเมื่อโอบกิจทบทวนความทรงจำ คนที่ยื้อชีวิตของเขาไว้ได้คือ คำปัน ผู้ชายที่โอบกิจไม่
เคยเห็นค่า แต่เขากลับก้าวเข้ามาในวันที่โอบกิจไม่มีใคร
เพียงแค่โอบกิจขยับตัวคำปันก็สะดุ้งตื่น เขายืนพรวดพร้อมจ้องโอบกิจอย่างสำรวจก่อนที่ดวงตาจะอ่อนแสง
ลง กลับกลายเป็นโอบกิจที่ต้องเบือนสายตาหนีไปอีกทางอย่างคนที่ไม่พร้อมจะสู้หน้า จนคำปันต้องถอน
หายใจออกมา
“เป็นไงบ้าง หิวหรือเปล่า”
คำปันเป็นฝ่ายเอ่ยทำลายความเงียบแต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบเมื่อโอบกิจยังไม่ยอมตอบโต้ คำปันได้แต่จับมือ
ข้างที่มีบาดแผลมากุมไว้พลางถามอย่างใส่ใจ
“ยังเจ็บแผลอยู่ไหม ผมจะได้ไปขอยาแก้ปวดมาให้”
โอบกิจหันขวับมาในที่สุด มือข้างที่ถูกเกาะกุมดึงออกมาจากมือของคำปัน แล้วโอบกิจก็ลุกขึ้นนั่งห้อยขาอยู่
บนเตียงคนไข้
“ช่วยฉันไว้ทำไม ทำไมไม่ปล่อยให้ฉันตายๆ ไปซะ”
“คุณโอบ”
คำปันส่งเสียงอย่างเหลืออด
“ทำไมถึงคิดอะไรอย่างนั้น แค่ผิดหวังจากความรักคุณโอบก็คิดทำร้ายร่างกายตัวเอง ทำไมคุณโอบไม่คิดถึง
จิตใจคนที่เขารักคุณบ้าง รู้หรือเปล่าว่าพ่อคุณ พี่ๆ ของคุณเขาตกใจ เสียใจกันแค่ไหน”
“ก็เพราะฉันมันทำตัวเลวๆ แบบนี้ไง ฉันถึงอยากตายซะให้พ้นๆ คนอื่นเขาจะได้ไม่ต้องมาขายขี้หน้าเพราะ
ฉันอีก นายก็เหมือนกัน”
โอบกิจยกมือสั่นเทาชี้หน้าคำปัน
“จะไปไหนก็ไป ไม่ต้องมายุ่งกับคนไร้ค่าอย่างฉัน”
คำปันมองหน้าซีดขาวอย่างโมโห เขาใช้มือทั้งสองข้างจับที่ข้อมือของโอบกิจ แล้วใช้ลำตัวดันจนโอบกิจ
หงายหลังไปบนเตียงแล้วจึงก้มหน้าไปจูบที่ปากซีดเป็นการลงโทษ
ความรู้สึกทั้งรักทั้งเคืองถูกปลดปล่อยไปกับจูบนั้นจนโอบกิจน้ำตาไหล เขาไม่มีแรงที่จะผลักไสต้องปล่อยให้
คำปันทำตามอำเภอใจ ก่อนที่ทั้งคู่จะชะงักเมื่อได้ยินเสียงกุกกักนอกห้อง
คำปันปล่อยให้โอบกิจเป็นอิสระทันก่อนที่ประตูจะถูกเปิด แล้วนายอาทิตย์ผู้เป็นบิดาก้าวเข้ามาในห้อง เขา
มองทั้งคู่อย่างพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง
“คำปัน พ่อขอบใจมากที่ช่วยดูแลน้อง แต่พ่อขอคุยกับโอบก่อนนะ”
คำปันรับคำ เขามองโอบกิจด้วยสายตาตัดพ้อเป็นครั้งสุดท้าย แล้วเดินลิ่วออกไปนอกห้อง
อาทิตย์มองโอบกิจที่ก้มหน้างุดอยู่บนเตียง แล้วจึงเดินเข้าไปใกล้ เขาเอื้อมมือไปวางบนศีรษะลูกชายพลาง
ลูบเบาๆ อย่างอ่อนโยน
“ลูกหล้าของพ่อปลอดภัยแล้ว พ่อดีใจนะ”
โอบกิจได้ยินคำเรียกของบิดาที่หมายถึงลูกคนสุดท้อง ที่นายอาทิตย์มักจะใช้เรียกขานเขาตั้งแต่เด็ก เขาเงย
หน้ามาสบตากับบิดาแล้วก็ปล่อยโฮออกมา
“พ่อ โอบขอโทษ”
โอบกิจกอดผู้เป็นบิดาไว้เหมือนตอนเด็กๆ
“โอบมันทำตัวแย่ ไม่เคยเชื่อฟังพ่อ ก่อเรื่องให้พ่อเสียใจเรื่อยเลย”
อาทิตย์กอดบุตรชายกลับอย่างรักใคร่
“เรื่องที่ผ่านมาก็ปล่อยมันไปเถอะ พ่ออยากให้ลูกหล้าลืมมันไปให้หมดแล้วเริ่มต้นใหม่”
อาทิตย์ดันตัวโอบกิจออกจากตัวแล้วเช็ดน้ำตาให้
“สัญญากับพ่ออย่างเดียวว่าจะไม่คิดสั้นทำร้ายตัวเองอีก”
โอบกิจพยักหน้ารับ
“ส่วนเรื่องความรัก พ่อจะเตือนลูกหล้าอย่างหนึ่ง รักด้วยหัวใจอย่างเดียวไม่ได้ต้องใช้สมองช่วยคิดด้วย
ถ้าลูกหล้าจะชอบผู้ชายด้วยกันแล้วมีความสุขพ่อก็ไม่ห้ามแล้ว อะไรที่ลูกมีความสุขพ่อก็จะยอมรับมันให้
ได้”
“พ่อครับ”
โอบกิจเรียกอย่างตื้นตัน
“แต่คิดให้ดีว่าใครที่เหมาะสมกับลูก ใครที่รักและพร้อมจะดูแลลูกได้ตลอดไป เรื่องฐานะชาติตระกูลไม่ใช่
เรื่องสำคัญ เงินเราก็มีเยอะแล้วใช้จนตายก็ไม่หมด พ่อไม่สนใจเรื่องนั้น”
อาทิตย์ชี้ทางให้โอบกิจ
“พ่อสนแต่ความจริงใจที่เขามีให้ลูกหล้าของพ่อ”
โอบกิจซุกตัวร้องไห้กับบิดาอีกครั้ง แม้จะยินดีที่บิดาเข้าใจ แต่เขาจะบอกบิดาได้อย่างไรว่าเขาเพิ่งตัดรอน
คนที่บิดายอมรับไปเมื่อสักครู่นี้เอง
/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
คุยกับคนแต่ง
ใช้ฟอนต์แบบนี้เป็นไงบ้างจ๊ะ
แนะนำติชมกันด้วยนะ