pandaba นั่นแหละครับไม่งั้นโลกเราจะมีปัญหาวุ่นวายได้ไม่รู้จบได้ไง จะมีสักคนที่มีรักแท้จริง โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน

mokung ความรักในฝันของหลายๆคน ยินดีต้อนรับเข้าบาสแฟนคลับ คิกคิก

moopai ยิ่งเก็บมันไว้เท่าไหร่ ความรู้สึกยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น

Coacher ถ้ามัวแต่เป็นนางเอกในนิยาย สู้รบปรบมือไม่เป็น ชีวิตนี้เรียกว่าทำเพื่อคนที่รักได้หรือครับ

meemewkewkaw ต้องไปบนแถวเวิลด์เทรดแล้วม้างเนี่ย พักนี้มีสวนเบียร์ด้วย น่ารักๆตรึม ลองไปนะเพื่อเจอบาส เอิ้กๆ

TonG_x_Zhi ถ้าสองคนรู้จักไว้ใจกัน ใครจะทำร้ายความสัมพันธ์นี้ได้

Tantalum ชื่อน่ากัวทีเดียว คงไม่ต้องถึงขนาดนั้นม้างครับ เพราะเรื่องราวความรักก็ท่าจะไปได้สวยงาม

(ตะแน๋วกิ๋วกิ้ว) ถ้าเป็นเรา เราจะเก็บหลักฐานมัดตัวให้ดิ้นไม่หลุดเสียก่อน แล้วค่อยถามถึงเหตุผลต่างๆจนแน่ใจแล้วว่าเป็นเพราะอะไร

shell ชมรมรักบาสเราท่าทางจะเหนียวแน่นยิ่งขึ้นด้วยความรักของบาสที่แสนจะบริสุทธิ์
][GobGab][ บางครั้งสิ่งที่ตัวเองทำ นึกว่าทำเพื่อเขาหารู้ไม่เป็นการฆ่าเขาทางอ้อม แต่โทษไม่ได้หรอก เพราะความรักบางครั้งก็ทำให้เราทำอะไรผิดๆลงไป
pim กร๊าก มันก็ต้องเดินหนทางสายกลางอ่ะครับ ดั่งพระพุทธองค์เคยตรัสไว้ บัวมีสี่เหล่า บัวเหล่าแรกคือบัวในโคลนตม ต่อให้โปรดเท่าไหร่ ดีกับเขาเท่าไหร่ ก็อาจไม่ได้ประโยชน์อะไรหน่ะครับ
หมูพูห์ ใครน้าอยู่ม.ศิลปากรนึกๆ นึกไม่ออก

konaun ถ้าเรามั่นคงพร้อมที่จะก้าวต่อไปไม่ย้อท้อสักวันต้องถึงจุดหมาย แม้จะไม่ถึงจุดหมายที่วาดไว้แต่แรก ก็คงถึงจุดหมายที่เราต้องการ

kirati69 อยากบอกนะว่าถ้าไปรักใครจะทำแบบอาร์ต ถ้ารักเขาจริงๆ ลองนึกไปถึงว่าถ้าเราเป็นบาสหล่ะ มีความสุขไหมที่อาร์ตทำตัวแบบนี้

beaches เป็นคำตอบที่นายคงได้รู้แล้ว และโลกแห่งความเป็นจริงก็มีอยู่ที่หัวใจดันเล่นตลก ให้รักคนถึงสองคนในเวลาเดียวกัน แม้ถูกตราหน้าว่าเป็นนางวันทอง
แต่ถ้าคุณเคยผ่านมันมาก็จะได้รู้ ว่าไม่สามารถห้ามหัวใจตัวเองได้ เพียงแต่การจะทำให้ความรักมันเดินอย่างมีความสุขเราต้องฝืนใจเลือกคนที่คิดว่าเราขาดเขาไม่ได้ก่อน เหมือนเรื่อง sorry,i love you แม้จะแอบรักกับยุนมาถึง 20 กว่าปี แต่หากหัวใจได้มอบให้กับมูยัคไปหมดแล้ว แม้ความคิดจะเลือกยุน แต่หัวใจไม่อาจห้ามสมองให้เห็นภาพแต่มูยัคได้

มูมู่น้อย แม้ไม่มีโอกาสจะได้เห็นหน้า เขาก็ยังอยู่ในความทรงจำตลอดไป นึกถึงพี่ชายในเรื่อง autumn in my heart เลย
ว่าจิตรกรจะไม่สามารถวาดรูปผู้หญิงจากความทรงจำได้ นอกจากคนที่ตนรัก
คงเป็นอย่างที่มูมู่ว่า ตลอดเวลาเขาเดินมาพร้อมกัน เพียงแต่บาสเขาช้าไปกว่าทีมทุกๆก้าว
*****************************************************************************************************************
กุมภาพันธ์ ของปีเตอร์ คอป
[wma=300,50]http://f1.podcast.blog.webs-tv.net/upload2/new/e/e/a/eead8016b7c106b9153ec8acc1bbecfb.mp3[/wma]
*************************************************************
.............ขอให้รักเรานั้น....นิรันดร ภาค 2….....( 14 )
ความรักของผมเกิดขึ้นเพียง 2 ครั้งในชีวิต
รักครั้งแรกของผมมาเร็วเกินไป….แต่รักครั้งสุดท้าย กลับมาสายเกินกว่าผมจะรู้ตัว
---------------------------------------
หลังจากที่เรื่องของอาร์ตผ่านพ้นไป ผมกับบาสก็ได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างสุขสงบอีกครั้ง ความสุขสงบนี้
ส่งผลให้ความสัมพันธ์ของผมกับบาสเริ่มก้าวหน้าขึ้นไปเรื่อยๆ จนบางทีผมก็อดคิดไม่ได้ว่าเราชักจะ
เหมือนเป็น “คู่ชีวิต” มากขึ้นไปทุกที
ชีวิตในแต่ละวันของผมจะเริ่มต้นด้วยการตื่นแต่รุ่งสางมาเตรียมอาหารให้บาสทาน หลังจากนั้นเราก็จะ
มานั่งทานมื้อเช้าพร้อมๆกันท่ามกลางแสงแดดอ่อนของวันใหม่ที่ส่องผ่านช่องหน้าต่างไม้ภายในครัวที่
แม้จะดูทรุดโทรมไปตามกาลเวลาแต่มันก็ยังทรงคุณค่าจากลวดลายโบราณที่ถูกแกะสลักไว้อย่างประณีต
จนเมื่ออิ่มจากมื้อเช้าแล้วผมก็จะพาบาสไปออกกายภาพบำบัดที่โรงพยาบาล
ส่วนวันไหนที่บาสไม่มีนัดที่จะต้องไปออกกายภาพบำบัด เราทั้งคู่ก็จะออกมานั่งดูทีวีด้วยกัน หรือไม่ก็
ออกไปสระผมกันที่ลานซักล้างหลังบ้านซึ่งระยะหลัง ๆ บาสก็ไม่เคยสระผมด้วยตัวเองอีก เขามักจะมา
บ่นว่าคันศีรษะ แล้วก็ทำเสียงออดอ้อนให้ผมช่วยสระผมให้เขาทุกครั้ง
จนกระทั่งช่วงก่อนเที่ยง บาสก็จะกลับเข้าไปนอนในห้องอีกครั้ง ส่วนผมก็มักจะออกมาจัดแจงธุระส่วนตัว
อาทิเช่น การซักผ้าซึ่งจริงๆ แล้วบาสก็เคยแนะนำให้ผมส่งซักกับร้านซักแห้งเจ้าประจำที่บาสกับแม่ใช้
บริการอยู่ โดยเขายินดีจะออกค่าใช้จ่ายให้ ซึ่งแน่นอนว่าผมย่อมปฏิเสธข้อเสนอนี้ในทันทีเพราะผมคิด
อยู่เสมอว่าแค่ผมมากินอยู่ที่นี่โดยไม่ได้ช่วยค่าใช้จ่ายอะไร ผมก็รบกวนคุณแม่ของบาสมากแล้ว ที่
สำคัญค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายที่คุณแม่ของบาสมอบไว้ให้กับผมนั้น มันก็มากมายเกินกว่าหน้าที่ใน
การดูแลบาสของผมมากนัก
และด้วยความรู้สึกเช่นนี้เองผมจึงพยายามทำทุกอย่างที่ผมพอจะทำได้ให้ท่าน ไม่ว่าจะเป็นการรดน้ำ
ต้นไม้ ดูแลสวน ดูแลทำความสะอาดบ้านเป็นประจำทุกวัน ทั้งๆที่ท่านก็จ้างแม่บ้านและคนสวนมาดูแล
อยู่แล้วเดือนละ 2 ครั้ง
หลังจากทำภารกิจในช่วงเช้าเสร็จสิ้น ผมก็จะมาเตรียมอาหารเที่ยงแล้วก็จะทานมื้อเที่ยงด้วยกันกับบา
สอีกครั้งซึ่งระยะหลังๆ เรามักจะไปทานกันที่ศาลาริมน้ำ หรือไม่ก็มาปูเสื่อทานกันในสวนซึ่งมีร่มเงา
จากไม้ยืนต้นนานาชนิดที่ปลูกไว้อย่างหนาทึบ
ส่วนช่วงบ่ายผมกับบาสก็อาจจะไปนั่งคุยกันที่ศาลาริมน้ำ หรือไม่ก็เอาเกมง่ายๆ อาทิ เกมเศรษฐี หมาก
ฮอท หรือ ไพ่ชนิดต่างๆ มาเล่นกันอย่างสนุกสนาน
พอตึกกลางคืนหลังจากทานมื้อเย็นแล้ว เราก็มักจะมานั่งดูข่าว ดูละครด้วยกัน ก่อนที่จะแยกย้ายกันเข้า
นอน แต่ช่วงหลังๆ เราเริ่มมีกิจกรรมใหม่ที่บาสมักจะชวนผมทำบ่อยๆ นั่นก็คือการเอาเสื่อมานอนดูดาว
กันที่สวนหลังบ้าน
โดยบางทีขณะที่ผมกำลังนอนดูดาวอย่างเพลิดเพลินนั้น บาสก็จะนั่งเล่นกีตาร์ขับกล่อมเพลงรักเพราะๆ
ให้ผมฟังไปด้วยซึ่งแน่นอนว่าเขามักจะเริ่มต้นด้วยเพลง Can’t help falling in love เสมอ
ขณะเดียวกันบางครั้ง บาสก็เป็นฝ่ายขอนอนหนุนตักผม เพื่อนอนดูดาวบนท้องฟ้าอย่างชื่นอารมณ์ ใน
ขณะที่ผมก็เอาหนังสือมาอ่านให้เขาฟังโดยใช้แสงจากตะเกียงจนทำให้เขาถึงกับเผลอหลับไปอย่างมี
ความสุขอยู่เสมอ
ช่วงเวลาที่ผมและบาสได้ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้ มันเต็มไปด้วยช่วงเวลาที่มีทั้งความสุขและความทรง
จำดีๆ จนบาสเคยพูดออกมาเสมอว่าเขาแอบฝันที่จะเห็นผมอยู่กับเขาอย่างมีความสุขเช่นนี้ตลอดไป
และถ้าหากเขาจะหยุดเวลาได้ เขาก็จะขอหยุดมันไว้แค่นี้
ในตอนนั้นเองที่ผมเริ่มบอกกับตัวเองว่าเป็นเวลานานทีเดียวที่ผมเอาแต่ปิดขังตัวเองอยู่ในความทุกข์
ระทมกับผู้ชายที่เลิกรักผมแล้วอย่างทีม
ทั้งๆที่ความจริง ความสุขมันอยู่ใกล้ผมแค่เอื้อมเท่านั้นเอง ขอเพียงแต่แค่ผมได้เปิดใจที่จะให้ตัวเองได้
มีความสุขบ้าง ผมก็จะสัมผัสมันได้อย่างไม่อยากเย็น โดยเฉพาะจากผู้ชายที่รักผมมากคนนี้
ดังนั้นผมจึงพยายามเสมอมาที่จะได้ทำอะไรเล็กๆน้อยๆเพื่อเขาบ้าง อาทิ ผมไม่รังเกียจที่จะนำเสื้อผ้า
ของบาสบางอย่างที่เขาไม่ได้ส่งร้านซักแห้งมาช่วยซักทำความสะอาดให้ซึ่งดูเหมือนบาสจะโวยวายกับ
เรื่องนี้มาก
“บี เมื่อเช้าแม่บ้านเขาเข้าไปทำความสะอาดห้องบาสหรือเปล่า”
บาสรีบถามผมด้วยสีหน้าตื่นตกใจอย่างมากหลังจากที่เขาตื่นขึ้นมาในช่วงก่อนเที่ยง
“ใช่ ทำไมเหรอ”
“ของบาสหายอ่ะ โดนเขาขโมยหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“จริงเหรอ ไม่น่านะบาส ลองไปถามป้าแกสิ เพราะป้าแกยังทำความสะอาดห้องข้างบนอยู่เลย ถ้าแก
ขโมยไปจริงก็คงยังไม่เอาไปไหนหรอก ว่าแต่แม่บาสเคยบอกว่าแกไว้ใจได้ไม่ใช่เหรอ แถมยังบอกว่า
ตั้งแต่ป้าแกมาทำ ยังไม่เคยมีอะไรหายเลยนี่”
“ก็ใช่น่ะสิ เนี้ยเป็นครั้งแรกเลย เพิ่งมาออกลายหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“เหรอ ว่าแต่อะไรหายล่ะ แพงมากหรือเปล่า”
“มันก็ไม่แพงหรอก”
“แต่มันคงสำคัญมากใช่มั้ย ?”
ผมเดาเมื่อเห็นสีหน้าเป็นกังวลอย่างมากของบาส
“จริงๆแล้วมันก็ไม่สำคัญหรอก แต่คิดอีกทีมันก็สำคัญเหมือนกันนะ”
“ตกลงมันยังไงกันแน่บาส มันเป็นอะไรเหรอ บอกบีมาซิ เผื่อบีจะได้ช่วยหา”
“อืม...เอ่อ...มันคือกางเกงในของบาสเองแหละ”
“อะไรนะ.... กางเกงใน”
พูดจบผมก็หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้
“นี่ มันไม่ตลกนะบี”
“ก็จะไม่ให้บีขำได้ไงละ ป้าแกจะเอากางเกงในของบาสไปทำไมกัน”
“ใครจะไปรู้ล่ะ ป้าแกอาจจะเป็นโรคจิต ชอบดมกางเกงในหนุ่มๆ”
“เพ้อเจ้อไปใหญ่แล้ว ป้าแกไม่ได้เอาไปหรอก”
“อ้าว แล้วมันหายไปได้ไงล่ะ”
“บีเอาไปเองแหละ”
หลังคำตอบของผม บาสก็หันมาจ้องผมอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
“อะไรนะ...อย่าบอกนะว่าบีก็ชอบดมมม.......”
“ไอ้บ้า ไอ้ทุเรศ คิดอะไรสกปรกที่สุด”
ผมตอบกลับไปอย่างโมโหเมื่อรู้ว่าบาสกำลังคิดอะไรอยู่
“อ้าว งั้นบีเอากางเกงในของบาสไปทำไมล่ะ”
“อ้าว ก็เอาไปซักให้น่ะสิ ปกติบาสได้ซักกางเกงในบ้างป่าว ทำไมบีไม่เคยเห็นบาสเอาไปตากเลยนี่”
“ก็ตากในห้องน้ำสิ บาสจะเอาปัญญาที่ไหนเดินถ่อไปตากถึงหลังบ้านได้ล่ะ”
“นั่นไง ตากแบบนั้นมันจะโดนแดดได้ไง บีถึงเอามาซักไงให้ไงล่ะ ทำไมเหรอ หรือว่ารังเกียจ”
“ไม่หรอก แต่บีไม่ต้องทำให้บาสขนาดนั้นหรอก”
“ไม่เป็นไรนี่ มันไม่ได้ยากลำบากอะไรสักหน่อย ทีบาสยังทำอะไรเพื่อบีตั้งเยอะ กะอีแค่ซักกางเกงใน
ให้แค่เนี้ย ทำไมบีจะทำให้บาสไม่ได้”
ผมจำได้ว่าหลังคำพูดนี้ของผมบาสก็ยืนนิ่งด้วยความตื้นตันและดีอกดีใจอย่างที่สุด แล้วเขาก็พูดออกมา
ว่า
“บี...บาสไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี บีถึงจะรู้ว่าบาสมีความสุขแค่ไหนที่มีบีมาอยู่ที่นี่ จะให้บาสทำยังไงดี บีถึง
จะรู้ว่าบาส.....รักบีมากแค่ไหน.... ขอบคุณนะบี...ขอบคุณจริงๆ”
“บาสไม่ต้องทำอะไรหรอก บาสไม่ต้องทำอะไรอีกแล้วทั้งนั้น แค่ที่บาสทำเพื่อบีทุกวันนี้ บีก็ไม่รู้จะทำยัง
ไงถึงจะทดแทนความรักนั้นได้สาสม ถ้ามีใครสักคนที่ต้องบอกว่าขอบคุณ คนๆนั้นควรจะเป็นบีต่าง
หากล่ะ”
ผมตอบไปด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจต่อความรักอันมากมายของบาสด้วยใจจริง จนในจังหวะนั้นเองที่
เราต่างจ้องตากันด้วยความรักจนอารมณ์ได้นำพาให้บาสค่อยๆเดินเข้ามาหาผม แล้วก็ก้มตัวลงเพื่อจะ
ประทับจูบลงบนฝีปาก แต่ผมเองกลับเป็นฝ่ายที่รีบเบือนหน้าหนี
“ขอโทษนะบี บาสไม่ตั้งใจ”
บาสรีบขอโทษขอโพยผมเป็นการใหญ่
“ไม่เป็นไรหรอกบาส บีต่างหากที่ต้องขอโทษ บี...บี...บียังไม่พร้อมจริงๆ”
ผมตอบบาสไปตามตรงในขณะที่พยายามหลบตาเขาอย่างเจ็บปวด
ช่วงเกือบเดือนที่ผมมาอยู่กับบาส ผมยอมรับว่าผมเริ่มเทให้ให้ผู้ชายคนนี้มากขึ้นทุกทีจนหลายครั้งที่ผม
อดคิดไม่ได้ว่าผมอาจจะหลงรักเขาเข้าแล้ว แต่เมื่อครู่นี้เอง ในจังหวะที่ริมฝีปากของบาสกำลังจะประกบ
เข้ากับริมฝีปากของผม อยู่ดีๆ ผมก็อดคิดถึงหน้าทีมขึ้นมาไม่ได้
ผมรู้สึกราวกับว่าผมยังสัมผัสได้ถึงริมฝีปากอุ่นละมุนของทีมในตอนที่เขาจูบผมด้วยความรักอยู่ และแม้
เวลาจะผ่านมาถึง 5 ปีแล้วแต่ผมก็อดรู้สึกไม่ได้ว่า...
คนที่เป็นเจ้าของริมฝีปากนี้....
คนที่เป็นเจ้าของทั้งตัวและหัวใจของผม...ยังคงเป็นทีม
“บาส บีขอโทษจริงๆ บี.........”
พูดถึงตรงนี้น้ำตาของผมก็เริ่มจะไหลลงมาด้วยความเจ็บปวด
มันเป็นความเจ็บปวดเพราะความรู้สึกโกรธเกลียดตัวเองที่ผมได้ทำร้ายจิตใจของผู้ชายที่รักผมมากเหลือ
เกินคนนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า
ในตอนนั้นเองที่บาสค่อยๆ เดินเข้ามาแล้วเอามือปาดน้ำตาของผมอย่างแผ่วเบา ก่อนที่จะมองผมด้วย
สายตามุ่งมั่นแล้วก็บอกกับผมว่า
“ไม่เป็นไรหรอกบี บาสเข้าใจ แต่บาสจะไม่ยอมแพ้ จะให้บาสต้องลองอีกกี่ครั้ง บาสก็จะไม่ยอมแพ้ บา
สจะต้องทำให้บีลืมไอ้ทีมมันให้ได้”
------------------------------------------------------
8 สิงหาคม 2541
วันนี้เป็นวันที่ผม ทีม และบี ต่างมาเลี้ยงฉลองกันที่พวกเราสอบเสร็จ รวมทั้งพวกเราได้ใช้โอกาสนี้ใน
การเลี้ยงส่งตัวเองที่กำลังจะไปเรียนพิเศษกันที่กรุงเทพฯ
สำหรับคนอื่น งานเลี้ยงของพวกเราในวันนี้ค่อนข้างจะเป็นไปอย่างสนุกสนาน แต่ผมกลับรู้สึกหดหู่
อย่างบอกไม่ถูกเมื่อเห็นภาพของทีมและบีที่คอยดูแลเอาใจใส่และแสดงความรักต่อกันตลอดเวลา
เมื่อก่อนผมเคยคิดว่าผมจะสามารถทนแอบรักบีต่อไปอย่างนี้โดยไม่ต้องให้บีได้รับรู้เลย แต่นับวันเมื่อ
เห็นบีอยู่ใกล้ๆ ความรักที่ผมมีต่อบีมันก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นจนเหมือนอกผมจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ
ดังนั้นในวันนี้เมื่อทีมมันฝากฝังผมให้ไปส่งบีที่บ้านอาซึ่งบีจะไปค้างอยู่ด้วย ผมก็เลยตัดสินใจที่จะเปิด
เผยความจริงทั้งหมดให้บีได้รับรู้
ผมแอบพาบีเลี้ยวเข้าไปในสวนสาธารณะ แล้วก็สารภาพความจริงทั้งหมดออกไปว่าผมแอบหลงรักบี
ผมแอบหลงรักเขามานานแล้ว
แน่นอนคำตอบที่ผมได้รับก็ไม่ทำให้ผมแปลกใจนักเมื่อบีได้ปฏิเสธความรักของผมอย่างไร้เยื่อใย
แต่กระนั้นผมก็ยังไม่ละความพยายาม ด้วยการขอเป็นกิ๊กกับบีอย่างลับๆโดยไม่ให้ทีมรู้
ผมพูดประโยคนั้นออกไปด้วยความจริงใจ ไม่ได้มีสิ่งใดแอบแฝง และไม่ได้มีเจตตนาจะดูถูกบี
เพราะผมไม่หวังจะให้บียอมรับผมเป็นแฟนอย่างออกหน้าออกตาหรือต้องให้บีมาทุ่มเทความรักให้ผม
อย่างหมดหัวใจ
ผมขอแค่เศษเสี้ยวของความรักที่บีจะยอมแบ่งให้คนอย่างผมบ้าง
ผมขอแค่โอกาสที่บีจะยอมให้ผมได้โทรศัพท์ไปพูดคุยเพื่อระบายให้บีได้รู้ว่าผมรักเขาแค่ไหน
ผมขอแค่โอกาสที่บีจะยอมให้ผมได้บอกรัก ได้บอกว่าผมคิดถึงเขาด้วยความทุกข์ทนทรมานแค่ไหนใน
แต่ละคืนวันที่ผ่านไป
ผมขอแค่โอกาสที่บีจะยอมให้ผมได้พาบีไปทานข้าว ไปดูหนัง หรือได้จับมือกับบีบ้างในเวลาที่เราไป
เที่ยวด้วยกันสองต่อสอง
ผมขอเพียงแค่นี้ ชีวิตของผมก็คงมีความสุขมากแล้ว
แต่น่าเสียดายที่คำขอของผม มันคงจะมากเกินไป เพราะบีได้ปฏิเสธคำขอนี้กลับมาอย่างเกลียดชัง
มันทำให้ผมอดรู้สึกไม่ได้ว่าในสายตาของบี.....ถ้าเอาผมไปเปรียบเทียบกับทีมแล้ว
ผมมันก็ไม่ต่างอะไรไปจาก.....เศษธุลีดิน
-------------------------------------------